GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "วิดีโอ"
Cyberpunk 2077 โชว์โหมดถ่ายรูปแบบ Full Option ในวิดีโอใหม่!
มันคงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าหากว่าเกมฟอร์มยักษ์จะมาพร้อมกับโหมดถ่ายรูปให้ผู้เล่นได้แคปภาพกันอย่างสนุกสนาน พร้อมเอาไปอวดในโลก Social Media ซึ่ง Cyberpunk 2077 ที่พัฒนามานานกว่า 8 ปี เองก็เช่นกัน โดยโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ต้องบอกเลยว่า เปิดให้เราสามารถปรับแต่งพร้อมใส่ Filter ได้มากมายหลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ! CD Projekt Red ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์โหมดถ่ายรูปของเกมนี้ออกมา จุดที่น่าสนใจก็คือโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ จะมี Option ให้เราปรับเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast, Filtter, ท่าโพสต์ของ V, องศาที่ยืน ฯลฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากวิดีโอแล้ว คิดว่าการถ่ายรูปมาอวดกันในเกมนี้จะต้องสนุกมากๆ อย่างแน่นอนครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
03 Dec 2020
Cyberpunk 2077 โชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro กับ PS5 แล้ว
หลังจากที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ที่ Cyberpunk 2077 ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นครั้งที่ 3 เพราะเกมเพลย์ยังไม่เป็นที่น่าพอใจบนเครื่อง PS4 กับ Xbox One ซึ่งจากวิดีโอที่ปล่อยออกมาวันนี้ คิดว่าปัญหาดังกล่าวน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว เนื่องจากมันเป็นการโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro กับ PS5 ครับ! วิดีโอตัวใหม่ที่ปล่อยออกมานี้ เป็นการโชว์เกมเพลย์ช่วงแรกของ Life Path: Nomad ซึ่ง 4 นาทีแรก จะเป็นเกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro และหลังจากนั้นจะเป็นเกมเพลย์บนเครื่อง PS5 ซึ่งต้องบอกเลยว่า ภาพ / กราฟิก ที่ได้แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ชนิดที่ใครก็คงไม่อยากเล่นเกมนี้บนเครื่อง PS4 Pro เลย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
25 Nov 2020
Cyberpunk 2077 จะมี Streamer Mode ที่ปิดเพลงติดลิขสิทธิ์ให้เราอัตโนมัติ!
Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มีดนตรีประกอบยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากวิดีโอที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ได้บอกเราแล้วว่า ผู้พัฒนาใส่ใจรายละเอียดเรื่องเสียงของเกมนี้มากขนาดไหน ซึ่งมันจึงหมายความว่าหลายๆ เพลงในเกมจะมีลิขสิทธิ์ด้วย ดังนั้นหลายคนอาจกลัวว่าการสตรีมเล่นเกมนี้ อาจเป็นการทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว แต่เหมือนเราจะไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นมากเกินไป เพราะผู้พัฒนาเขาก็ได้คิดเพื่อในส่วนนี้มาให้แล้วเช่นกัน! Hollie Bennett หนึ่งในทีมพัฒนาเกมนี้ ได้ยืนยันว่าตัวเกมจะมีโหมดที่ชื่อว่า Streamer Mode ซึ่งจะทำการปิดเพลงที่มีลิขสิทธิ์ทั้งหมดในเกมให้อัตโนมัติ เพื่อให้เหล่า Streamer หรือ Youtube สามารถอัด Footage ในเกมไปสร้างคอนเทนต์ของตัวเองได้อย่างสบายใจ นับเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำงานด่านนี้ไปครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บน PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: Polygon
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการ Mocap ของคุณ Keanu Reeves
Johnny Silverhand คือชื่อของตัวละครที่คุณ Keanu Reeves นักแสดงหนังชื่อดังมารับบทให้ในเกม Cyberpunk 2077 ซึ่งจากประวัติของเขาที่เราได้ทำออกมาก่อนหน้านี้ Johnny จะเป็นตัวละครสำคัญในเนื้อเรื่องเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และวันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังการทำ Motion-Capture ของตัวละครนี้ออกมาด้วยครับ! ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาจากทาง CD Projekt Red หนึ่งเป็นวิดีโอเกี่ยวกับ Johnny Silverhand ในเกม และอีกหนึ่งเป็นเบื่องหลังการ Motion-Capture ของคุณ Keanu Reeves โดยจากวิดีโอดูเหมือนเขาจะสนุกไปกับการรับบทเป็น Johnny ไม่น้อยเลยทีเดียว รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer 
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 โชว์เกมเพลย์ 5 นาที พร้อมการพบกับ Johnny ครั้งแรก
หลังจากที่ปล่อยให้รออยู่นาน ในที่สุดทาง CD Projekt Red ก็ปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ของตัวเองแล้ว ซึ่งวิดีโอที่ปล่อยออกมาในครั้งนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่คือ เราจะได้เห็นการพบกันครั้งแรกของ V กับ Johnny Silverhand ด้วย ในช่วงแรกจะเป็นการกล่าวถึงเมือง Night City ก่อน จากนั้นเป็นหน้าสร้างตัวละครที่ถูกโชว์ตามมาด้วย หลังจากนั้นเราจะได้เห็นระบบต่างๆ ในการพัฒนาตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดชิ้นส่วนของร่างกาย, หน้า Skill Tree กับ Perk โดยช่วงประมาณ 1 นาทีก่อนจบจะมีการพูดถึง Johnny Silverhand พร้อมอธิบายการพบกันครั้งแรกของ V กับหนุ่มแขนเงินดังกล่าว ปิดท้ายด้วยการโชว์สิ่งต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ในเกมอีกเล็กน้อย งานนี้บอกเลยว่าเพิ่มความอยากเล่นถึงขีดสุดจริงครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
20 Nov 2020
ตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 จะขยับหน้า และปากตามเสียงพากย์ที่ผู้เล่นใช้!
ผู้พัฒนาได้เคยบอกแล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 นั้นจะมีเสียงพากย์ของตัวละครภายในเกมให้ผู้เลือกใช้กว่า 10 ภาษา แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า นอกจากเสียงพากย์แล้ว การขยับของใบหน้ารวมไปจนถึง ลักษณะของการขยับปากตัวละคร ก็มีการทำให้ตรงกับจังหวะการพูดของแต่ละภาษาด้วย! มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากๆ เพราะหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นเวลา เกมหนึ่งเกมมีเสียงพากย์หลายภาษา คือการที่ปากหรือท่าทางของตัวไม่ตรงกับประโยคที่กำลังพูดอยู่ ทาง CD Projekt Red ก็ดูเหมือนจะเข้าใจในส่วนนี้ดี จึงได้มีการใช้เทคโนโลยีของ JALI Research. จนสามารถทำให้การขยับของปากกับหน้าตัวละคร ตรงกำประโยคที่กำลังพูดอยู่ได้ ถ้าเกิดใครไม่เห็นภาพว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน สามารถดูได้ผ่านวิดีโอข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
21 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์แฟชั่นของชาว Night City ในวิดีโอตัวใหม่
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเราได้ดูทั้ง Trailer และรูปภาพโปรโมทเกม Cyberpunk 2077 ไปแล้วมากมาย ซึ่งคิดว่าหลายคนน่าจะพอสังเกตเห็นแล้วว่า รูปแบบการแต่งตัวของชาวเมือง Night City นั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก มันทำให้คิดได้ว่าการแต่งตัวให้กับ V ภายในเกมน่าจะเป็นอะไรที่สนุกไม่แพ้ การเล่นเนื้อเรื่องของเกมเลย แต่จะมีสักกี่คนที่สังเกตเห็นว่าแฟชั่นของชาว Night City จริงๆ แล้วมีแค่เพียง 4 รูปแบบเท่านั้น! "Cyberpunk 2077 — 2077 in Style" ได้บอกให้เรารู้ว่าแฟชั่นของชาว Night City สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ Kitch, Entropism, Neomilitarism, และ Neokitsch โดยแต่ละสไตล์จะแตกต่างกันอยู่พอสมควร มันคงสนุกไม่น้อยเลยที่เราจะได้แต่งตัว V ให้ออกมาในสไตล์ต่างๆ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X, Xbox One และ PC Credit: VG247
16 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ยานพาหนะสุดเจ๋งในวิดีโอตัวใหม่
Night City เป็นเมื่องที่ใหญ่มากในโลก Cyberpunk 2077 และมันคงจะเป็นไปไม่ได้หากเราจะเดินทางในเมืองนี้โดยไม่ใช้ยานพาหนะ และถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่ารถยนต์ที่เราจะได้เห็น และขับในเมืองนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง? ผมบอกเลยว่าวิดีโอตัวใหม่ที่ปล่อยออกมาจะช่วยตอบคำถามเหล่านั้นได้ครบถ้วนครับ ในวิดีโอตัวใหม่นี้จะโชว์ตั้งแต่รถกระป๋องที่น่าจะราคาถูก สามารถหาซื้อได้ตามร้ายมือสองทั่วไป ไปจนถึงรถสุดหรูที่น่าจะราคาโคตรแพงชนิดทำงานทั้งชีวิตก็ยังซื้อไม่ได้ แน่นอนว่ารถหุ้มเกราะ, รถแข่ง, มอไซค์เท่ๆ เองก็มีให้ดูในวิดีโอตัวนี้เช่นกัน และถ้ากลัวว่าจะหาซื้อรถเท่ๆ เหล่านี้ไม่ได้ หายห่วงได้เลยครับ เพราะเราสามารถไปขโมยจากคนที่ขับรถอยู่ตามท้องถนนได้ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจหลังจากได้ดูวิดีโอตัวนี้แล้ว คงจะเป็นในเรื่องของเสียงของเครื่องยนต์ที่ดูจะสมจริงเกินกว่าจะสร้างขึ้นมากๆ โดยเหตุผลที่ทำให้เสียงรถยนต์ในเกมสมจริงได้ขนาดนี้ เป็นเพราะว่าทางทีมพัฒนาได้ทำการอัดเสียงเครื่องยนต์ ต่างๆ จากรถของจริงครับ การอัดเสียงจากรถยนต์ของจริงในครั้งนี้ไม่ได้อัดเฉพาะตอนที่รถวิ่งอยู่เท่านั้น แต่มีการเก็บรายละเอียดตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์, เร่งความเร็ว ไปจนถึงการดริฟท์ ซึ่งได้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการเก็บเสียงเหล่านี้ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลย Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X, Xbox One และ PC
16 Oct 2020
ป๋ามาเอง!! Keanu Reeves ปรากฏตัวในโฆษณาใหม่สุดเท่ของ Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ออกมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นวิดีโอสั้นๆ 30 วินาที ในตัวอย่างดังกล่าวมี Keanu Reeves เป็นตัวหลักในการบรรยายถึงโลกของ Cyberpunk 2077 ซึ่ง Keanu ในวิดีโอนั้นคือคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวละครในเกมอย่าง Johnny Silverhand ครับ ในตัวอย่างนี้นอกจากจะมี Keanu แล้ว เพลงประกอบวิดีโอยังเป็นเพลง Bad Guy ของ Billie Eilish ซึ่งมันเข้ากับโลกของ Cyberpunk 2077 มากทีเดียว โดยตอนเริ่มวิดีโอ Keanu ได้ถามกับคนดูว่า "ในปี 2077 อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนบางคนกลายเป็นอาชญากร" แล้วเขาก็เฉลยว่า "ถูกจับไง" จากนั้นวิดีโอก็ตัดไปที่ Footage ของเกมที่เราเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว ซึ่งวิดีโอนี้ไม่ได้มีการโชว์อะไรให้เราเห็นมากครับ มันจะเน้นไปที่โทนของเกมเป็นหลัก สามารถดูตัวอย่างดังกล่าวได้ด้านล่างครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้สำหรับเครื่อง PC, PlayStation 4 และ Xbox One ส่วนเวอร์ชั่น PlayStation 5, Xbox Series X และ Xbox Series S จะมาในภายหลัง Credit: GameSpot
01 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ความสวยงามของ Night City ในโหมด RTX On!
เพิ่งจะมีการเปิดตัวราคาการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia ไปไม่นาน เหมือนเป็นการช่วยกันโฆษณา เมื่อทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอ Footage ตัวใหม่ของเกม Cyberpunk 2077 ในโหมด RTX On โชว์ความสวยงามของเมือง Night City ที่ไม่เคยหลับไหลด้วยแสงสีตระการตา! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวเพียงแค่ 47 วินาที แต่ใน ช่วงเวลาดังกล่าว เรียกได้ว่าโชว์ความสวยงามของเมือง Night City ให้เราเห็นแบบเต็มอิ่มจริงๆ ครับ นอกจากการสะท้อนของแสงที่สมจริง ซึ่งเป็ดจุดขายของ RTX แล้ว ยังมีการโชว์ความสวยงามของ Diffuse Illumination ด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนการ์ดจอ RTX รุ่นใหม่จะเริ่มวางขายปลายเดือนนี้ครับ Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มี DLC ฟรีเช่นเดียวกับ The Witcher 3
ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และไม่มีการประกาศจะเลื่อนวันวางจำหน่ายอีกครั้งกับเกม Cyberpunk 2077 ถึงแม้ว่าตัวเกมจะไม่ได้วางจำหน่ายในอีก 1 - 2 เดือนหลังจากนี้ แต่ล่าสุดก็มีอีกหนึ่งข่าวดีที่แฟนๆ จะต้องอมยิ่มถูกประกาศออกมาครับ เพราะเหมือนว่า เกมนี้จะมี DLC ฟรีหลายตัวเหมือนกับเกม The Witcher 3 ด้วย! หลังจากที่ The Withcer 3 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 ทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการออก DLC ฟรีให้กับเกมอีก 16 ตัว ภายใน 3 เดือนหลังจากนั้น โดยประกอบไปด้วยเควสใหม่, ชุดเกราะใหม่, อาวุธใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มีจำนวน DLC เทียบเท่ากับ The Witcher 3 ดังนั้นเราน่าจะได้ DLC ฟรีในเกมนี้ประมาณ 16 ตัวเช่นกันครับ Cyberpunk 2077 ขจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC pic.twitter.com/y5PNLf3nIR — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) August 22, 2020 Credit: PCGamer
24 Aug 2020
Cyberpunk 2077: เผาเมือง Night City ให้ราบ กับอาวุธใหม่จากวิดีโอ Tools of Destruction
กลับมาอีกครั้งกับรายการไลฟ์สตรีม Night City Wire ตอนที่สองของเกม Cyberpunk 2077 โดยหนึ่งในประเด็นหลักที่ถูกนำมาแสดงในงานครั้งนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอกันอยู่แล้ว นั่นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราจะได้ใช้ในเกมนั่นเอง! จากข้อมูลที่เห็นในเทรลเลอร์ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถแยกประเภทอาวุธในเกมได้ดังนี้: Melee Weapon: อาวุธระยะประชิด เช่นดาบซามูไร Smart Weapon: อาวุธปืนชนิดพิเศษที่มีกระสุนนำวิถี สามารถติดตามศัตรูได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเล็ง Tech Weapon: อาวุธปืนชนิดกระสุนพลังงาน สามารถยิงทะลุกำแพงหรือสิ่งกำบังได้ Power Weapon: อาวุธประเภทกระสุนโลหะธรรมดา แต่คงไว้ซึ่งพลังทำลายล้าง Cyberware: อาวุธประเภทอวัยวะจักรกล เช่นปืนจรวดหรือดาบ Mantis Blade ที่พับเก็บไว้ในแขน Throwables: อาวุธประเภทขว้างปา (ไม่ได้แสดงในตัวอย่าง แต่น่าจะเป็นทำนองมีดบินหรือดาวกระจาย) นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถตกแต่งอาวุธด้วย Mod ชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย โดยผู้พัฒนาได้อธิบายในรายการไลฟ์สตรีมว่าจะสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ Attachment หรือชิ้นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ (เช่นกล้องสไนเปอร์) หรือ Software Mod ที่ทำให้คุณสมบัติของปืนเปลี่ยนไป เช่นทำให้ยิงกระสุนไฟฟ้า หรือทำให้ยิงกระสุนยาสลบเป็นต้น ด้วยความเป็น RPG ของเกม ใน Cyberpunk 2077 จะมีการแบ่งระดับความหายากของอาวุธด้วย ตั้งแต่ Common ไปจนถึง Legendary โดยแน่นอนว่าปืนระดับ Legendary จะเป็นปืนหายากที่มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ผู้พัฒนาก็เตือนว่าใครอยากได้มาครองอาจต้องคิดหนัก เพราะเราอาจจะต้องฆ่า NPC ที่เราชอบก่อนถึงจะเอาอาวุธของพวกเขามาได้ สุดท้ายนี้ ผู้พัฒนาบอกด้วยว่าเกมจะมีระบบความชำนาญอาวุธ ที่จะทำให้ยิ่งใช้อาวุธประเภทไหน ตัวละครก็จะยิ่งใช้อาวุธประเภทนั้นคล่องมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในด้านเกมเพลย์ แต่จะทำให้อนิเมชั่นของตัวละครในระหว่างการใช้อาวุธเปลี่ยนไปอีกด้วย เช่นวิธีการเติมกระสุน หรือวิธีการชักปืนออกมาเป็นต้น นับว่าให้ความสำคัญกับระบบ RPG ในเกมมากๆ ภายในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงระบบ Life Path ของเกม ที่จะกำหนดภูมิหลังของตัวละคร V ของผู้เล่นแต่ละคน และทำให้ประสบการณ์ต่างๆ ในเมือง Night City ของทุกคนแตกต่างกันไปอีกด้วย Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยเกมจะสามารถเล่นบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5, Xbox Series X ได้ทันทีเมื่อวางจำหน่าย และจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่โดยเฉพาะให้ผู้เล่นที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีๆ อีกด้วย สั่งซื้อเกมล่วงหน้าจากตัวแทนจำหน่าย คลิ๊ก
10 Aug 2020
ว่าด้วยเรื่องของ เกม และ การเมือง : มิติใหม่ หรือเชื้อไฟที่ไม่ควรยุ่ง?
เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ปราชญ์ชาวกรีกอย่าง อริสโตเติล ได้กล่าวถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาไว้ข้อหนึ่งว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ อันหมายถึง มนุษย์จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ได้ ก็ต่อเมื่อรวมตัวกันเป็นสังคม เป็นเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ นั่นทำให้กฎระเบียบ ความคิด และความเชื่อ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำกับควบคุม และคำว่า ‘การเมือง’ ของอริสโตเติล จึงไม่ใช่แค่ระบอบใดระบอบหนึ่ง แต่ครอบคลุมถึงการกระทำและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในสังคม ภายใต้กติกาและเงื่อนไขเดียวกัน     มาในปัจจุบัน สังคมทวีความหลากหลายในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น และสื่อบันเทิงอย่างวิดีโอเกม ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญภายในครัวเรือน และมีพลังมากพอในการที่จะฉายภาพแห่งจินตนาการต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง และนั่น ก่อให้เกิดคำถามหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ว่าโดยธรรมชาติของวิดีโอเกมนั้น ควรหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่นานมานี้ กับประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างมากในชิ้นงานล่าสุดของ Naughty Dog อย่าง The Last of Us Part II ที่ก่อให้เกิดกระแสต่างๆ ทั้งทางบวกและทางลบอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้     บทความชิ้นนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำว่าคุณผู้อ่านควรจะคิดเห็นอย่างไร มากไปกว่าความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อนิยามของคำว่า ‘การเมือง’ ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในชิ้นงานวิดีโอเกมยุคปัจจุบัน ว่ามันเป็นไปในลักษณะใด และจะช่วยให้แวดวงได้ก้าวเดินอย่างมีวุฒิภาวะอย่างไรในอนาคตภายภาคหน้า     จุดเริ่มต้นของวิดีโอเกมกับ ‘การเมือง’     ถ้าหากจะนับวิวัฒนาการของวิดีโอเกมตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แล้วนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีบริบทอื่นใดที่สลับซับซ้อน เป็นเพียงความสนุกเนื้อๆ ด้วยกฎและกติกาอย่างง่ายๆ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้หลายความคิดและจินตนาการไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างที่ใจคิด     แต่เมื่อก้าวล่วงเข้ามาถึงทศวรรษที่ 90 การพัฒนาวิดีโอเกมอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านภาพ เสียง เนื้อหา ทำให้การรังสรรค์ชิ้นงานต่างๆ เริ่มทวีความหลากหลาย และนั่น ทำให้มันฉายภาพที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงขึ้นมากกว่าจุดเริ่มต้นของมัน และ ‘การเมือง’ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแวดวงในเวลานั้น     แน่นอนว่าการเมืองที่ว่า คือความห่วงกังวลที่มีต่อ ‘ความรุนแรง’ ที่เกิดขึ้นในชิ้นงานวิดีโอเกม ไม่ว่าจะด้วยผลงานอย่าง Doom ในปี 1993 หรือ Mortal Kombat ในปีเดียวกัน ความสมจริงที่กลายสภาพมาเป็นความรุนแรง ก่อให้เกิดความกังขาและความกังวลในระดับการเมืองเป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น (เช่น เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Columbine Highschool ในปี 1999) และเป็นก้าวสำคัญ ที่แวดวงวิดีโอเกม ที่เคยแยกขาดออกจากกัน ได้รวมตัวกันภายใต้ธงของ Entertainment Software Association (ESA) ในปี 1994 เพื่อให้อุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้มีปากมีเสียงในพื้นที่ทางสังคมมากขึ้น (และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดเรทเกมด้วยระบบ ESRB จนถึงการจัดมหกรรม Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ขึ้นมาในภายหลัง)     และมันคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ‘การเมือง’ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมวิดีโอเกมอย่างไม่อาจแยกขาดนับจากเวลานั้นเป็นต้นมา และมักจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือความพยายามของวุฒิสมาชิก Jack Thompson ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับค่ายอย่าง Rockstar North และซีรีส์ Grand Theft Auto หรือ GTA ที่พยายามจะผลักดันให้เกิดกฎหมายการควบคุมขึ้นมาอย่างจริงจัง (แต่แน่นอนว่า ผลการวิจัย และอุตสาหกรรมวิดีโอเกมที่เติบโตขึ้นเป็นระดับหลักพันล้าน ก็ทำให้การตีฆ้องร้องป่าวของท่านวุฒิสมาชิกต้องเงียบหายและร้างลาจากเวทีไปโดยปริยาย)     ความซับซ้อนที่ทวีมากยิ่งขึ้น     แต่แม้ว่า ‘การเมือง’ จะสอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิดีโอเกม (ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะฐานคิดของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่รวมถึงค่านิยมทางสังคมต่างๆ ที่เคลื่อนตัวไปในปัจจุบัน) แต่ดูเหมือนว่า ‘การเมือง’ จะยังเป็นของแสลงสำหรับกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย หลายต่อหลายครั้ง พวกเขามักออกตัวปฏิเสธกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าผลงานต่างๆ นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือขั้วความคิดข้างใดข้างหนึ่งเป็นสำคัญ     แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?     ภายใต้ความซับซ้อนของชิ้นงานวิดีโอเกมหนึ่งๆ ที่ผ่านการพัฒนาด้านความสมจริงจนถึงขีดสุด เราคงไม่อาจมองข้ามได้เลยว่า ภาพที่ปรากฏ ระบบที่มี กติกาที่กำหนด ต่างซุกซ่อนนัยยะทางการเมืองเอาไว้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยเกมแนวสงครามอย่างซีรีส์ Call of Duty ก็ดี ซีรีส์ผจญภัยข้ามโลกข้ามยุคอย่าง Assassin’s Creed ก็ดี ซีรีส์แฮ็คเกอร์ผจญภัย Watchdogs เกม JRPG อย่าง Persona 5 ไปจนถึงเกมแนว Shooter-Looter ชื่อดังอย่างซีรีส์ Tom Clancy’s The Division เหล่านี้ ต่างมี ‘ข้อความ’ ที่ชวนให้เราฉุกใจคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ภายใต้ความเป็นไปได้ทาง ‘การเมือง’ ด้วยกันแทบทั้งสิ้น เรารับบทเป็นทหารสัมพันธมิตรในสงครามโลก เราสู้เพื่ออุดมการณ์บางอย่าง หรือใบอนุญาตสั่งฆ่าในยามที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ ‘การเมือง’ แล้ว จะเรียกว่าอะไร     เหล่านี้ ยังไม่นับเกมอินดี้อีกหลายต่อหลายชิ้นงาน ที่ไม่ปิดบังนัยยะทาง ‘การเมือง’ ของตนเอง เกมอย่าง Paper, Please หรือ Riot : Civil Unrest ก็ถูกสร้างขึ้นโดยผู้พัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องและความเชื่อทางการเมืองของตนเองอย่างเหนียวแน่น (โดยเฉพาะ Riot : Civil Unrest ที่ผู้พัฒนาไปเดินขบวนประท้วงและลิ้มรสแก๊สน้ำตาติดขอบสนามมาแล้ว…) และยิ่งแวดวงวิดีโอเกมเติบโตขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ความสลับซับซ้อนและความสามารถในการสร้างเรื่องราวผสมผสานกับความสมจริงทางภาพ เสียง และการเล่น ก็ยิ่งทำให้มันเข้าใกล้กับ ‘การเมือง’ มากยิ่งขึ้น     แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปโดยธรรมชาติของมัน ถ้าหากวิดีโอเกมคือเครื่องมือหนึ่งทาง ‘การเมือง’ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว อะไรคือปัญหาที่เรากำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้? อะไรที่ทำให้การเมืองเป็นของ ‘แสลง’ สำหรับทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย?     บางที มันอาจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายกว่าที่เราคิดเอาไว้มากก็เป็นได้     อะไรคือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ ‘การเมือง’ มาเกี่ยวข้องกับ ‘วิดีโอเกม’     จากหัวข้อที่แล้ว ที่กล่าวว่า ทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย มักจะหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยตรง และออกตัวกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วย ‘ความสนุก’ เป็นที่ตั้งนั้น บางที ปัญหาที่ทำให้การเมืองเป็นของแสลงสำหรับแวดวงวิดีโอเกม ก็อาจจะอยู่ที่คำว่า ‘ความสนุก’ ที่ว่านั้นก็เป็นได้     ไม่ได้หมายความว่าวิดีโอเกมควรจะเป็นอุปกรณ์โฆษณาชวนเชื่อหรือเผยแพร่ Propaganda อย่างตรงไปตรงมา แต่การปฏิเสธถึงความเกี่ยวพันของ ‘การเมือง’ ที่มีในชิ้นงานวิดีโอเกม มันเป็นความลักลั่นที่เริ่มจะเผยตัวให้เห็นมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ เพราะในทางหนึ่ง วิดีโอเกมเดินหน้าไปสู่ขอบเขตของความสมจริง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันก็วางตัวเองให้ออกห่างจากผลลัพธ์ของการนำเสนอจากความสมจริงนั้นๆ     ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็อาจจะหนีไม่พ้นซีรีส์อย่าง Call of Duty และซีรีส์ Grand Theft Auto ที่ที่มันได้นำเสนอประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์สงครามสุดสมจริง หรือการยั่วล้อวัฒนธรรมยุคโมเดิร์นอย่างเจ็บแสบ และนั่นทำให้ประโยคที่บอกว่าวิดีโอเกมไม่เกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ นั้น ฟังดูไม่มีน้ำหนักมากขึ้นไปทุกทีๆ เพราะแค่สองตัวอย่าง มันก็อิงแอบอยู่กับการเมืองไปแล้วโดยนัย     หรืออย่างในกรณีที่เป็นปัญหาล่าสุดอย่าง The Last of Us Part II ที่ถูกกลุ่มนักเล่นบางส่วนต่อต้านอย่างรุนแรงจากการสอดแทรกประเด็นทางความเชื่อที่แตกต่างจากชิ้นงานวิดีโอเกมอื่นอย่างสุดสเปคตรัม (จนถึงขั้นมีข้อความและจดหมายขู่ฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชนิดที่เท่าเทียมและทั่วถึง) มันก็คือผลลัพธ์จากการวางตำแหน่งของวิดีโอเกมเอาไว้ว่า จะต้องดำเนินไปเพื่อความ ‘สนุก’ เป็นที่ตั้ง ออกให้ห่างจากการแตะประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุด และต้องมีรูปแบบและแนวทางที่ผู้เล่นคุ้นเคย แบ่งชัดเจนขาวดำ จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าเศร้าใจอย่างในปัจจุบันขณะ ณ ตอนนี้     แต่เราต้องอย่าลืมว่า วิดีโอเกมนั้น เป็นสื่อความบันเทิงที่มีอายุถึงสี่ทศวรรษ และอัตราการเติบโตของมันก็ทวีมากยิ่งกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จะเทียบได้ ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องถึงจุดที่มันจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ ในฐานะที่มันเป็นสื่อที่จำลองและสะท้อนโลกแห่งความเป็นไปได้ของความเป็น ‘มนุษย์’ อย่างถึงที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ     มันอาจจะถึงเวลาที่เราต้องทบทวนท่าทีที่เรามีต่อวิดีโอเกมครั้งใหญ่ ที่ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องเดินทางมาถึง     ก้าวต่อไปของวิดีโอเกม เมื่อ ‘การเมือง’ อยู่ใกล้กว่าที่เราคิด     อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น บทความชิ้นนี้ของผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะชี้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด แต่เป็นการฉายภาพของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งวิดีโอเกม ที่ที่ความเป็น ‘การเมือง’ อาจจะไม่ใช่สิ่งไกลตัว และเมื่อถึงเวลา มันจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสื่อบันเทิงที่เรารักชิ้นนี้อย่างช่วยไม่ได้     ‘คุณพูดถึงการเมืองในชิ้นงานได้ แต่ไม่ใช่การสั่งสอนชี้นำ’ Mike Pondsmith ผู้สร้างซีรีส์ Cyberpunk 2020 และโปรดิวเซอร์ร่วมของ Cyberpunk 2077 กล่าวเมื่อถูกถามถึงการมีส่วนร่วมของการเมืองในชิ้นงานวิดีโอเกม นั่นก็เป็นสิ่งที่เข้าใจกันได้ เพราะถ้าการเมืองเป็นเรื่อง ‘ละเอียดอ่อน’ แล้ว คงไม่มีใครชื่นชอบ ที่จะถูกชี้หน้าแล้วบอกว่าความคิดและความเชื่อของตนเองนั้นผิด ไม่ถูกต้อง     แต่ผู้เขียนขออนุญาตเสริมในจุดนี้สักนิดหนึ่งว่า บางที มันอาจจะไม่เสียหาย ถ้าชิ้นงานวิดีโอเกม จะนำเสนอแนวคิดทางการเมืองและความเชื่อของทีมสร้าง (เช่นที่เกิดขึ้นกับ The Last of Us Part II) มันเป็นสิทธิ์ที่ทีมพัฒนาจะสามารถพึงกระทำได้ และเราในฐานะผู้เล่น ก็มีสิทธิ์อีกเช่นกัน ที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ไปจนถึงอาจจะไม่ชื่นชอบสารที่สื่อออกมา (และดูเหมือนว่า ทีมพัฒนาจะคิดไปไกล และลึกกว่าที่เราคาดเอาไว้มากนัก)     แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า วิดีโอเกมคือความหลากหลาย และมันสมควรที่จะเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ และไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนหลบหลีกคำว่า ‘การเมือง’ ทั้งที่มันเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการสร้างมานับสิบกว่าปี และต้องมีพื้นที่ให้กับการส่งเสียงทางความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างเสรี  (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่แนวคิดและอุดมการณ์ต่างๆ เช่นความเท่าเทียมทางเพศ, LGBTQ+ และความโปร่งใสในกระบวนการทำงานเริ่มมีบทบาทและส่งเสียงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมากขึ้นทุกขณะ)     สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเห็น (แม้มันจะยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าที่จะไปถึง) คือการถกเถียงพูดคุยกันอย่าง Constructive ว่าชอบ หรือไม่ชอบ เพราะเหตุใด ไม่มีการชี้หน้าด่าทอ ใครที่ชอบก็ออกมาบอกว่าชอบเพราะอะไร ใครที่ไม่ชอบ ก็โต้แย้งว่าไม่ชอบที่ตรงไหน ต่อยอดไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ (แน่นอน เหตุการณ์ที่ทีมงาน Gamespot ด่า Angry Joe ที่ให้คะแนน The Last of Us Part II ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ เป็นพวกเหยียดเพศนั้นก็จัดว่าเป็นอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เลยแม้แต่น้อย…)     และผู้พัฒนา สมควรที่จะสร้างสรรค์ชิ้นงานได้โดยปราศจากความกลัว ให้โลกของวิดีโอเกมมีความหลากหลาย ไม่แตกต่างอะไรกับแวดวงภาพยนตร์ ที่มีทั้งชิ้นงานป็อบคอร์น Blockbuster จนถึงงานระดับเชิงศิลป์สุดโต่ง ความหลากหลายเหล่านี้ จะทำให้แวดวงวิดีโอเกมเติบโต และมีงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจออกมาอีกมากมายในอนาคต มันอาจจะถึงเวลาแล้ว ที่มันจะต้องก้าวต่อไป เรียนรู้จากมัน อันนำไปสู่การเติบโตทางความคิดที่เปิดกว้างของตัวผู้เล่นในอีกทางหนึ่งด้วย     ดังที่อริสโตเติลกล่าวเอาไว้ ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ และผลลัพธ์ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คน ผ่านสื่ออย่างวิดีโอเกมนั้น ก็ยากที่จะออกห่างจาก ‘การเมือง’ ไปได้ในอนาคต เราอาจจะสมควรที่จะต้องติดอาวุธทางความคิด พร้อมรับกับวุฒิภาวะที่มากขึ้น เพื่อให้แวดวงวิดีโอเกมก้าวต่อไป และถ้าการเมืองเป็นเหมือน ‘ไฟ’ ที่พร้อมสร้างอันตรายได้ในทางหนึ่งแล้วนั้น… ‘มันก็มีคุณประโยชน์ที่จะนำพาไปสู่การพัฒนาต่อยอด ถ้าหากใช้มันได้อย่างถูกวิธี และมีแนวทางที่เหมาะสมชัดเจนในการเข้าหามันเช่นนั้นเอง…’
24 Jul 2020
Cyberpunk 2077: ชมเทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดจากงาน Night City Wire!
หลังจากปล่อยให้เกมเมอร์รอแล้วรอเล่ากันมานานนม ในที่สุดทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ก็ได้ออกมาเปิดเผยตัวอย่างและเกมเพลย์ใหม่ของ Cyberpunk 2077 ในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire แล้ว! สำหรับตัวอย่างใหม่นี้ จะมีชื่อว่า "The Gig" ที่มีทั้งเกมเพลย์เก่าและใหม่ตัดผสมกัน แต่ก็มีอะไรให้เราได้ดูและวิเคราะห์กันมากมายเลยทีเดียว ที่สำคัญคือผู้พัฒนาบอกว่าทั้งหมดที่เราเห็นในเทรลเลอร์นี้เป็นแค่เกมเพลย์จากส่วน Prologue (อารัมภบทหรือช่วงต้น) ของเกมเท่านั้น! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PlayStation 4, Xbox One, และ PC โดยผู้พัฒนายืนยันแล้วว่าเกมจะสามารถเล่นกับคอนโซล Next-Gen อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ได้อีกด้วย แถมยังจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับคอนโซลใหม่ให้คนที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีอีกต่างหาก
25 Jun 2020
เมื่อไม่มีคนให้ไปหา วิดีโอเกม คือเครื่องเยียวยาจิตใจในวิกฤติ COVID-19
วันนี้ เป็นเวลาครบสองสัปดาห์แล้ว ที่ผู้เขียนได้ทำการ ‘กักตัว’ อยู่ภายในบ้าน… ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้พบเจอหน้าใคร และแทบไม่อยู่ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พีซีของตัวเองสักเท่าไร ถ้าในสภาวะปกติแล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ในภาวะวิกฤติ COVID-19 เชื้อร้ายที่กำลังแพร่ระบาดและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ นี้ ดูเหมือนสองสัปดาห์อาจจะน้อยไป และยังคงเป็นการเดินทางที่ไม่รู้ว่าจะจบลงที่ไหน (และไม่อาจแน่ใจว่า เมื่อครบกำหนดตามภาครัฐว่าไว้ในวันที่ 30 เมษายนนั้น ทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะที่มันพึงจะเป็นหรือไม่…) และถ้าจะมีสิ่งใดที่ช่วยเยียวยาจิตใจในสภาวะเหล่านี้ไม่ให้แตกสลายหรือกลายเป็นบ้าไปเสียก่อน ก็คงจะมีแต่ ‘วิดีโอเกม’ อีกหนึ่งสื่อความบันเทิงที่ช่วยพาให้หลบหนีจากความเป็นจริงได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดอะไร เมื่อพิจารณาว่า ผู้คนอยู่บ้านกันมากขึ้น ความบันเทิงเริงใจคือสิ่งจำเป็นในการประคองสติและเป็นช่องทางหนึ่งในการผูกสัมพันธ์ผู้คนให้เข้าหากัน ท่ามกลางสภาพที่แทบจะกลายเป็นเรื่องยั่วล้อตลกร้ายที่เราเคยหัวเราะกันจนหงายในเกมอย่าง Death Stranding ที่กลับกลายมาเป็นความจริงที่จำต้องทน และไม่ใช่แค่ที่เมืองไทย หากแต่ในต่างประเทศที่สภาวการณ์ COVID-19 นั้นร้ายแรงกว่าหลายเท่า มีรายงานว่ายอดขายของเครื่องเล่นเกมและชิ้นงานเกมสูงขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ (รวมถึงในตลาดซื้อขายมือสองของไทย ที่ Nintendo Switch กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ถูกโก่งราคาถีบให้พุ่งไปจนน่าตกใจอย่างยิ่ง…) ใช่แล้ว ในภาวะที่ทุกอย่างดูมืดมนและไม่รู้ว่าทางออกอยู่ไหนและจะมาถึงเมื่อใด การหนีออกจากเรื่องราวรอบตัวที่สุดแสนจะเฮงซวยก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย… ในการศึกษาทางจิตศาสตร์นั้น เรียกสภาพดังกล่าวด้วยสิ่งเร้าจากปัจจัยภายนอกว่า สภาวะการหนีจากความจริง (Escapism) ไม่ใช่การหนีให้พ้นจากโลกด้วยการชิงฆ่าตัวตายไปให้พ้นความทรมาน แต่เป็นการเบือนสายตาออกจากปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันชั่วคราว เป็นการตั้งเป้าหมายที่สามารถจับต้องได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะมีความสุขกับการรับชมซีรีส์, การเพลิดเพลินจากการฟังดนตรี, การหนีสภาวะทุกข์ใจบนลู่วิ่ง หรือแม้แต่การมีเซ็กส์ เหล่านี้ จัดได้ว่าเป็นกิจกรรมชั่วคราวที่ใช้สำหรับหนีความจริงด้วยกันแทบทั้งสิ้น (โดยเฉพาะกิจกรรมหลังสุด ถ้ามีจำนวนเด็กเกิดมาอย่างมากในอีกเก้าเดือนถัดจากนี้ เราคงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร…) และ ‘วิดีโอเกม’ ก็คือเครื่องมือสำหรับการหนีไปจากโลกที่มีประสิทธิภาพชิ้นหนึ่งเท่าที่มนุษยชาติได้เคยสร้างมา… เมื่อศาสตร์และศิลป์ถูกนำมาผสมรวมกัน นำเสนอผ่านเทคโนโลยีด้านกราฟิก เกมการเล่น เพลงประกอบ มอบความสุขให้กับผู้ที่เข้าหามัน สนุกสนานติดพันในบทบาทที่หลากหลายกันไป เราสามารถเป็นใครก็ได้ ในสถานการณ์ใดก็ได้ จะเป็นอัศวินผู้กล้า เป็นเจ้าชายผู้ตามหาสมบัติในตำนาน เป็นกัปตันยานอวกาศ หรือแม้แต่สะท้อนสภาวะอันโหดร้ายของสังคมผ่านชิ้นงานที่อินดี้ที่มุ่งหมายจะใช้เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวและตระหนักรู้ เหล่านี้ เป็นคุณสมบัติที่เรานักเล่นต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นภาพจำที่มีในชิ้นงานและอุตสาหกรรมวิดีโอเกมตลอดระยะเวลากว่าสี่ทศวรรษที่มันดำรงตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ และในครั้งนี้ มันทวีความสำคัญขึ้นอย่างมีนัย เมื่อพิจารณาว่า สภาวะที่เกิดขึ้นคือสถานการณ์ระดับหายนะที่ห่างหายไปนานนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปนเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี แม้ว่าการหนีความจริงตามวิถี Escapism จะเป็นสิ่งที่จำเป็นในการประคองสภาพจิตใจไม่ให้แตกสลายไปกับสภาพอันเลวร้ายของสิ่งที่ประดังเข้ามารอบตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆ นั้นไม่ได้หายไปไหน มันยังคงอยู่ ณ จุดนั้น ยังคงดำเนินไปในแบบนั้น และจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปราวกับจะไม่มีหนทางใดไปถึงตอนจบ (ซ้ำร้าย มันยังสะเทือนถึงการดำรงอยู่ของแวดวงอย่างมีนัยสำคัญอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน) การแพร่ระบาดของโรคร้าย สภาพสังคมที่แตกสลาย สภาพเศรษฐกิจที่เกือบจะเข้าใกล้การพังทลาย ไปจนถึงการดำเนินการของภาครัฐที่เลวร้ายและไร้ประสิทธิภาพ นี่คือความจริงที่ในท้ายที่สุด เราก็ต้องอยู่กับมัน และหาทางผ่านพ้นไปให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่ก็ต้องยอมรับกันโดยดุษณี ว่าสิ่งเหล่านี้ ทำได้เพียงแค่ ‘หนี’ ไปเพียงชั่วครั้งคราวเท่านั้น … และในทางกลับกัน ยังมีอีกหลายภาคส่วนของสังคม ที่ไม่แม้แต่จะมีความสามารถในการ ‘หนี’ ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า แม้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาเป็นครั้งคราว เพราะสำหรับพวกเขาเหล่านั้น มันคือสภาวะที่ต้องเผชิญ มันคือปากท้อง และมันคือความอยู่รอด ที่วิกฤติโรคร้าย กำลังสั่นคลอนสภาพการกินอยู่และการมีตัวตนของพวกเขาอย่างจริงแท้ ยากจะมองข้ามหรือปฏิเสธไปได้ บางที สำหรับพวกเรา อาจจะจัดได้ว่าเป็นผู้โชค ที่ยังมีโอกาสที่จะหนีด้วยวิธีการที่ค่อนข้าง Luxury อย่างเช่นการเล่นวิดีโอเกมก็เป็นได้… อนึ่ง ผู้เขียนไม่ได้ต้องการออกมาประณามการหนีความจริงว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย และบีบบังคับให้ต้องหันกลับไปมองสภาพของความบรรลัยที่มีหลายปัจจัยช่วยขับเน้นมันให้เข้มข้นขึ้น (เพราะผู้เขียนเองก็ใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องมือในการหนีสภาวะจำทนมาหลายต่อหลายครั้ง…) แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เราต้องอยู่กับการทิ้งระยะห่างทางสังคม กักตัวอยู่ในบ้าน และอาศัยชิ้นงานเกมเป็นเครื่องปลอบประโลมใจ ผู้เขียนก็ยังอยากให้เราพึงระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นนั้น มีอยู่จริง ไม่เบือนหน้าหนี หรือทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าทุกอย่างยังคงเป็นปกติดีไม่มีอะไรบุบสลาย และอาจจะมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป และเรานั้นโชคดีแค่ไหน ที่ยังสามารถที่จะหนีได้ แม้เป็นระยะชั่วคราวก็ตาม ซึ่งวิดีโอเกมเองก็มีพลังและศักยภาพที่จะสามารถทำได้ ในเป้าหมายของการตระหนักรู้ถึงสภาวการณ์ดังกล่าว เรามีหลายชิ้นงานที่พูดถึงปัญหาทางสังคม มีหลายเกมที่มีนัยแฝงว่าด้วยความเหลื่อมล้ำ มีอยู่ไม่น้อยที่ทำให้เราได้เข้าใจและเข้าไปอยู่ในบทบาทของตัวละครอื่นๆ ที่สะท้อนโลกแห่งความเป็นจริง นี่คือพลังของวิดีโอเกม ที่แม้จะเป็นความบันเทิงแขนงหนึ่ง แต่ก็มีส่วนสำคัญหากเราจะเปิดใจและน้อมรับในสารที่ชิ้นงานต้องการจะสื่อออกมา โดยเฉพาะกับช่วงเวลานี้ ที่วิกฤติโรคระบาด ทำให้เรามีเวลามากพอที่จะหันกลับมาทบทวนตนเอง ด้วยอุปกรณ์สำคัญอย่างเช่นวิดีโอเกม ท้ายที่สุดนี้ สำหรับผู้เขียน การกักตัวและทำงานอยู่กับบ้านแบบ Work from Home เป็นเวลาสองสัปดาห์นั้น จากที่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องง่ายและสามารถรับมือได้ (ด้วยความเคยชินกับการอยู่กับตัวเองบ่อยครั้ง) และใช้เวลาช่วงว่างในการเล่นเกม ก็กลายมาเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะทน และแม้จะใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องปลอบประโลมในยามที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับใครในแบบปกติ แต่ก็ระลึกเอาไว้เสมอ ว่าท้ายที่สุดนี้ ทุกสิ่งจะต้องมีปลายทาง และทุกอย่าง ‘ควร’ จะต้องดำเนินต่อไป เรา ‘หนี’ เพื่อเติมพลังใจ ก่อนกลับไป เพื่อ ‘ชน’ กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา… เพราะการหนีนั้นต้องมีวันที่สิ้นสุด และการหยุด จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดกาล โดยเฉพาะการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และบทบาทในสังคม ก็คือ ‘ชีวิต’ อันแท้จริง ที่คงจะไม่มีวิดีโอเกมชิ้นไหนมาทดแทนได้ เฉกเช่นนั้นเอง
14 Apr 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ Gameplay Deepdive ยาว 15 นาที
ปล่อยตัวอย่างออกมาแบบจัดเต็ม สำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ภายในงาน PAX West 2019 ได้เผยรายละเอียดเกมเพลย์ต่างๆ ของเกมที่เคยโม้ไว้ก่อนหน้าให้เห็นภาพจริงๆ โดยตัวอย่างนี้ได้นำเสนอ Pacifica เขตหนึ่งของเมือง Night City มีการนำเสนอกลุ่มคนหรือแก็งค์ต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเมือง รวมถึงระบบตัวละครที่เราจะสามารถเลือก Playstyle ได้สองแบบคือ Netrunner ที่จะเน้นการ Hack และใช้กลยุทธต่างๆ ที่จะไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง หรือจะเป็นสาย Strong Solo ที่จะเน้นการต่อสู้แบบประจันหน้ามีพละกำลังมากมายเป็นต้น รวมถึงเรายังได้เห็นอะไรใหมๆ อย่างเช่นการขับขี่มอเตอร์ไซต์ หรือระบบการเลือกต้นกำเนิดของตัวละครที่จะกำหนดได้ว่าเรามาจากชนพวกไหนเป็นต้น https://www.youtube.com/watch?v=QgoYwP4RHoQ โดยเกม Cyberpunk 2077 เป็นเกมแนว Action RPG Openworld จากผู้สร้าง The Witcher 3 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงเกมนี้ยังมีซับไตเติลภาษาไทยให้พวกเราเล่นอีกด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
30 Aug 2019
มาตามคาด! ชมเดโมเกมเพลย์ Cyberpunk 2077 เต็มๆ เกือบ 50 นาที
จากที่มีการบอกใบ้กันทาง Twitch ไปเมื่อคืนนี้ ในที่สุดผู้พัฒนาจาก CD Projekt Red ก็เปิดเผยเกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ออกมาให้ยลกันซะที! ด้วยเดโมความยาวเกือบ 50 นาที ตัวเดียวกกับที่สื่อต่างชาติหลายสำนักได้รับชมจากงาน E3 2018 ที่ผ่านมา ภายในเดโมจะแสดงให้เห็นถึงหน้าเมนูการสร้างตัวละคร การต่อสู้ การอัพเกรดตัวละครผ่านการฝังเครื่องจักรไว้ในร่างกาย และอื่นๆ อีกเพียบ เรียกว่าจัดมาให้ชมกันแบบไม่มีกั๊กเลยจ้า! https://www.youtube.com/watch?v=vjF9GgrY9c0 จำได้ว่าผู้พัฒนาเคยบอกว่าส่วนที่นำมาแสดงในเดโมเป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงส่วนเดียวของเกม และจะแสดงให้ผู้เล่นได้ดูเมื่อพร้อมเท่านั้น แต่ล่าสุดผู้พัฒนาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไปว่าเกมพัฒนาถึงจุดที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว หรือว่าจริงๆ เราจะได้เล่นเกมนี้กันเร็วกว่าที่คิดล่ะ... Cyberpunk 2077 ยังคงไม่มีกำหนดว่าจะวางจำหน่ายเมื่อใหร่ แต่จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4, Xbox One, PC อ่านข่าวคราวเกม รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมจากเกม RPG กระดาษดั้งเดิมได้ ที่นี่
28 Aug 2018
CD Projekt Red เปิดไลฟ์สตรีมปริศนา แฟนๆ เชื่อเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077
แม้ว่าจะเป็นเกมที่มีคนรอมากที่สุดเกมหนึ่งในขณะนี้ แต่ Cyberpunk 2077 จากค่ายผู้สร้าง The Witcher อย่าง CD Projekt Red ก็ยังมีข่าวคราวออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันน้อยมาก ยังไม่มีแม้แต่วีดีโอเกมเพลย์ออกมาให้ดูด้วยซ้ำ (มีแต่สกรีนช๊อตชุดใหม่จากงาน Gamescom คลิ๊กเพื่อดูรูป) ทำให้แฟนๆ เกมต้องสืบความลับกันเองจากภาพต่างๆ ที่ผู้พัฒนาปล่อยออกมา ล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาจะกำลังบอกใบ้อะไรบางอย่างกับผู้เล่นหรือเปล่า เมื่อจู่ๆ ค่ายก็เปิดไลฟ์สตรีมคลิปวีดีโอปริศนาผ่านทางช่อง Twitch ของค่าย (ชมสตรีมด้านล่าง) Watch live video from CD PROJEKT RED on www.twitch.tv อย่างที่เห็นด้านบน ไลฟ์สตรีมดังกล่าวมีเพียงตัวอักษรและตัวเลขขึ้นมาแบบแรนด้อมวนไปเรื่อยๆ จนทำให้ตอนนี้มีผู้เล่นที่ดูวีดีโอนี้เพื่อไขปริศนาพร้อมกันถึงกว่า 30000 คน! แต่สุดท้ายปริศนาดังกล่าวจะนำไปสู่อะไร จะเป็นวีดีโอเกมเพลย์ใหม่หรือเปล่า? ไว้ถ้าเฉลยแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีนะจ๊ะ! Cyberpunk 2077 ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย แต่จะปล่อยสำหรับเครื่อง PS4, Xbox One, PC
27 Aug 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "วิดีโอ"
Cyberpunk 2077 โชว์โหมดถ่ายรูปแบบ Full Option ในวิดีโอใหม่!
มันคงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าหากว่าเกมฟอร์มยักษ์จะมาพร้อมกับโหมดถ่ายรูปให้ผู้เล่นได้แคปภาพกันอย่างสนุกสนาน พร้อมเอาไปอวดในโลก Social Media ซึ่ง Cyberpunk 2077 ที่พัฒนามานานกว่า 8 ปี เองก็เช่นกัน โดยโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ต้องบอกเลยว่า เปิดให้เราสามารถปรับแต่งพร้อมใส่ Filter ได้มากมายหลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ! CD Projekt Red ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์โหมดถ่ายรูปของเกมนี้ออกมา จุดที่น่าสนใจก็คือโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ จะมี Option ให้เราปรับเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast, Filtter, ท่าโพสต์ของ V, องศาที่ยืน ฯลฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากวิดีโอแล้ว คิดว่าการถ่ายรูปมาอวดกันในเกมนี้จะต้องสนุกมากๆ อย่างแน่นอนครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
03 Dec 2020
Cyberpunk 2077 โชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro กับ PS5 แล้ว
หลังจากที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ที่ Cyberpunk 2077 ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายเป็นครั้งที่ 3 เพราะเกมเพลย์ยังไม่เป็นที่น่าพอใจบนเครื่อง PS4 กับ Xbox One ซึ่งจากวิดีโอที่ปล่อยออกมาวันนี้ คิดว่าปัญหาดังกล่าวน่าจะได้รับการแก้ไขแล้ว เนื่องจากมันเป็นการโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro กับ PS5 ครับ! วิดีโอตัวใหม่ที่ปล่อยออกมานี้ เป็นการโชว์เกมเพลย์ช่วงแรกของ Life Path: Nomad ซึ่ง 4 นาทีแรก จะเป็นเกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro และหลังจากนั้นจะเป็นเกมเพลย์บนเครื่อง PS5 ซึ่งต้องบอกเลยว่า ภาพ / กราฟิก ที่ได้แตกต่างกันเป็นอย่างมาก ชนิดที่ใครก็คงไม่อยากเล่นเกมนี้บนเครื่อง PS4 Pro เลย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
25 Nov 2020
Cyberpunk 2077 จะมี Streamer Mode ที่ปิดเพลงติดลิขสิทธิ์ให้เราอัตโนมัติ!
Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มีดนตรีประกอบยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากวิดีโอที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ได้บอกเราแล้วว่า ผู้พัฒนาใส่ใจรายละเอียดเรื่องเสียงของเกมนี้มากขนาดไหน ซึ่งมันจึงหมายความว่าหลายๆ เพลงในเกมจะมีลิขสิทธิ์ด้วย ดังนั้นหลายคนอาจกลัวว่าการสตรีมเล่นเกมนี้ อาจเป็นการทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว แต่เหมือนเราจะไม่ต้องกลัวเรื่องนั้นมากเกินไป เพราะผู้พัฒนาเขาก็ได้คิดเพื่อในส่วนนี้มาให้แล้วเช่นกัน! Hollie Bennett หนึ่งในทีมพัฒนาเกมนี้ ได้ยืนยันว่าตัวเกมจะมีโหมดที่ชื่อว่า Streamer Mode ซึ่งจะทำการปิดเพลงที่มีลิขสิทธิ์ทั้งหมดในเกมให้อัตโนมัติ เพื่อให้เหล่า Streamer หรือ Youtube สามารถอัด Footage ในเกมไปสร้างคอนเทนต์ของตัวเองได้อย่างสบายใจ นับเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ที่ทำงานด่านนี้ไปครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บน PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: Polygon
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการ Mocap ของคุณ Keanu Reeves
Johnny Silverhand คือชื่อของตัวละครที่คุณ Keanu Reeves นักแสดงหนังชื่อดังมารับบทให้ในเกม Cyberpunk 2077 ซึ่งจากประวัติของเขาที่เราได้ทำออกมาก่อนหน้านี้ Johnny จะเป็นตัวละครสำคัญในเนื้อเรื่องเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และวันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังการทำ Motion-Capture ของตัวละครนี้ออกมาด้วยครับ! ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาจากทาง CD Projekt Red หนึ่งเป็นวิดีโอเกี่ยวกับ Johnny Silverhand ในเกม และอีกหนึ่งเป็นเบื่องหลังการ Motion-Capture ของคุณ Keanu Reeves โดยจากวิดีโอดูเหมือนเขาจะสนุกไปกับการรับบทเป็น Johnny ไม่น้อยเลยทีเดียว รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer 
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 โชว์เกมเพลย์ 5 นาที พร้อมการพบกับ Johnny ครั้งแรก
หลังจากที่ปล่อยให้รออยู่นาน ในที่สุดทาง CD Projekt Red ก็ปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ของตัวเองแล้ว ซึ่งวิดีโอที่ปล่อยออกมาในครั้งนี้มีจุดที่น่าสนใจอยู่คือ เราจะได้เห็นการพบกันครั้งแรกของ V กับ Johnny Silverhand ด้วย ในช่วงแรกจะเป็นการกล่าวถึงเมือง Night City ก่อน จากนั้นเป็นหน้าสร้างตัวละครที่ถูกโชว์ตามมาด้วย หลังจากนั้นเราจะได้เห็นระบบต่างๆ ในการพัฒนาตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดชิ้นส่วนของร่างกาย, หน้า Skill Tree กับ Perk โดยช่วงประมาณ 1 นาทีก่อนจบจะมีการพูดถึง Johnny Silverhand พร้อมอธิบายการพบกันครั้งแรกของ V กับหนุ่มแขนเงินดังกล่าว ปิดท้ายด้วยการโชว์สิ่งต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ในเกมอีกเล็กน้อย งานนี้บอกเลยว่าเพิ่มความอยากเล่นถึงขีดสุดจริงครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt 
20 Nov 2020
ตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 จะขยับหน้า และปากตามเสียงพากย์ที่ผู้เล่นใช้!
ผู้พัฒนาได้เคยบอกแล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 นั้นจะมีเสียงพากย์ของตัวละครภายในเกมให้ผู้เลือกใช้กว่า 10 ภาษา แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า นอกจากเสียงพากย์แล้ว การขยับของใบหน้ารวมไปจนถึง ลักษณะของการขยับปากตัวละคร ก็มีการทำให้ตรงกับจังหวะการพูดของแต่ละภาษาด้วย! มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากๆ เพราะหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นเวลา เกมหนึ่งเกมมีเสียงพากย์หลายภาษา คือการที่ปากหรือท่าทางของตัวไม่ตรงกับประโยคที่กำลังพูดอยู่ ทาง CD Projekt Red ก็ดูเหมือนจะเข้าใจในส่วนนี้ดี จึงได้มีการใช้เทคโนโลยีของ JALI Research. จนสามารถทำให้การขยับของปากกับหน้าตัวละคร ตรงกำประโยคที่กำลังพูดอยู่ได้ ถ้าเกิดใครไม่เห็นภาพว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน สามารถดูได้ผ่านวิดีโอข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
21 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์แฟชั่นของชาว Night City ในวิดีโอตัวใหม่
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา พวกเราได้ดูทั้ง Trailer และรูปภาพโปรโมทเกม Cyberpunk 2077 ไปแล้วมากมาย ซึ่งคิดว่าหลายคนน่าจะพอสังเกตเห็นแล้วว่า รูปแบบการแต่งตัวของชาวเมือง Night City นั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก มันทำให้คิดได้ว่าการแต่งตัวให้กับ V ภายในเกมน่าจะเป็นอะไรที่สนุกไม่แพ้ การเล่นเนื้อเรื่องของเกมเลย แต่จะมีสักกี่คนที่สังเกตเห็นว่าแฟชั่นของชาว Night City จริงๆ แล้วมีแค่เพียง 4 รูปแบบเท่านั้น! "Cyberpunk 2077 — 2077 in Style" ได้บอกให้เรารู้ว่าแฟชั่นของชาว Night City สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ Kitch, Entropism, Neomilitarism, และ Neokitsch โดยแต่ละสไตล์จะแตกต่างกันอยู่พอสมควร มันคงสนุกไม่น้อยเลยที่เราจะได้แต่งตัว V ให้ออกมาในสไตล์ต่างๆ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X, Xbox One และ PC Credit: VG247
16 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ยานพาหนะสุดเจ๋งในวิดีโอตัวใหม่
Night City เป็นเมื่องที่ใหญ่มากในโลก Cyberpunk 2077 และมันคงจะเป็นไปไม่ได้หากเราจะเดินทางในเมืองนี้โดยไม่ใช้ยานพาหนะ และถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่ารถยนต์ที่เราจะได้เห็น และขับในเมืองนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง? ผมบอกเลยว่าวิดีโอตัวใหม่ที่ปล่อยออกมาจะช่วยตอบคำถามเหล่านั้นได้ครบถ้วนครับ ในวิดีโอตัวใหม่นี้จะโชว์ตั้งแต่รถกระป๋องที่น่าจะราคาถูก สามารถหาซื้อได้ตามร้ายมือสองทั่วไป ไปจนถึงรถสุดหรูที่น่าจะราคาโคตรแพงชนิดทำงานทั้งชีวิตก็ยังซื้อไม่ได้ แน่นอนว่ารถหุ้มเกราะ, รถแข่ง, มอไซค์เท่ๆ เองก็มีให้ดูในวิดีโอตัวนี้เช่นกัน และถ้ากลัวว่าจะหาซื้อรถเท่ๆ เหล่านี้ไม่ได้ หายห่วงได้เลยครับ เพราะเราสามารถไปขโมยจากคนที่ขับรถอยู่ตามท้องถนนได้ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจหลังจากได้ดูวิดีโอตัวนี้แล้ว คงจะเป็นในเรื่องของเสียงของเครื่องยนต์ที่ดูจะสมจริงเกินกว่าจะสร้างขึ้นมากๆ โดยเหตุผลที่ทำให้เสียงรถยนต์ในเกมสมจริงได้ขนาดนี้ เป็นเพราะว่าทางทีมพัฒนาได้ทำการอัดเสียงเครื่องยนต์ ต่างๆ จากรถของจริงครับ การอัดเสียงจากรถยนต์ของจริงในครั้งนี้ไม่ได้อัดเฉพาะตอนที่รถวิ่งอยู่เท่านั้น แต่มีการเก็บรายละเอียดตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์, เร่งความเร็ว ไปจนถึงการดริฟท์ ซึ่งได้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการเก็บเสียงเหล่านี้ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลย Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X, Xbox One และ PC
16 Oct 2020
ป๋ามาเอง!! Keanu Reeves ปรากฏตัวในโฆษณาใหม่สุดเท่ของ Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ออกมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นวิดีโอสั้นๆ 30 วินาที ในตัวอย่างดังกล่าวมี Keanu Reeves เป็นตัวหลักในการบรรยายถึงโลกของ Cyberpunk 2077 ซึ่ง Keanu ในวิดีโอนั้นคือคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวละครในเกมอย่าง Johnny Silverhand ครับ ในตัวอย่างนี้นอกจากจะมี Keanu แล้ว เพลงประกอบวิดีโอยังเป็นเพลง Bad Guy ของ Billie Eilish ซึ่งมันเข้ากับโลกของ Cyberpunk 2077 มากทีเดียว โดยตอนเริ่มวิดีโอ Keanu ได้ถามกับคนดูว่า "ในปี 2077 อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนบางคนกลายเป็นอาชญากร" แล้วเขาก็เฉลยว่า "ถูกจับไง" จากนั้นวิดีโอก็ตัดไปที่ Footage ของเกมที่เราเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว ซึ่งวิดีโอนี้ไม่ได้มีการโชว์อะไรให้เราเห็นมากครับ มันจะเน้นไปที่โทนของเกมเป็นหลัก สามารถดูตัวอย่างดังกล่าวได้ด้านล่างครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้สำหรับเครื่อง PC, PlayStation 4 และ Xbox One ส่วนเวอร์ชั่น PlayStation 5, Xbox Series X และ Xbox Series S จะมาในภายหลัง Credit: GameSpot
01 Oct 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ความสวยงามของ Night City ในโหมด RTX On!
เพิ่งจะมีการเปิดตัวราคาการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia ไปไม่นาน เหมือนเป็นการช่วยกันโฆษณา เมื่อทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอ Footage ตัวใหม่ของเกม Cyberpunk 2077 ในโหมด RTX On โชว์ความสวยงามของเมือง Night City ที่ไม่เคยหลับไหลด้วยแสงสีตระการตา! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวเพียงแค่ 47 วินาที แต่ใน ช่วงเวลาดังกล่าว เรียกได้ว่าโชว์ความสวยงามของเมือง Night City ให้เราเห็นแบบเต็มอิ่มจริงๆ ครับ นอกจากการสะท้อนของแสงที่สมจริง ซึ่งเป็ดจุดขายของ RTX แล้ว ยังมีการโชว์ความสวยงามของ Diffuse Illumination ด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนการ์ดจอ RTX รุ่นใหม่จะเริ่มวางขายปลายเดือนนี้ครับ Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มี DLC ฟรีเช่นเดียวกับ The Witcher 3
ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และไม่มีการประกาศจะเลื่อนวันวางจำหน่ายอีกครั้งกับเกม Cyberpunk 2077 ถึงแม้ว่าตัวเกมจะไม่ได้วางจำหน่ายในอีก 1 - 2 เดือนหลังจากนี้ แต่ล่าสุดก็มีอีกหนึ่งข่าวดีที่แฟนๆ จะต้องอมยิ่มถูกประกาศออกมาครับ เพราะเหมือนว่า เกมนี้จะมี DLC ฟรีหลายตัวเหมือนกับเกม The Witcher 3 ด้วย! หลังจากที่ The Withcer 3 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 ทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการออก DLC ฟรีให้กับเกมอีก 16 ตัว ภายใน 3 เดือนหลังจากนั้น โดยประกอบไปด้วยเควสใหม่, ชุดเกราะใหม่, อาวุธใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มีจำนวน DLC เทียบเท่ากับ The Witcher 3 ดังนั้นเราน่าจะได้ DLC ฟรีในเกมนี้ประมาณ 16 ตัวเช่นกันครับ Cyberpunk 2077 ขจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC pic.twitter.com/y5PNLf3nIR — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) August 22, 2020 Credit: PCGamer
24 Aug 2020
Cyberpunk 2077: เผาเมือง Night City ให้ราบ กับอาวุธใหม่จากวิดีโอ Tools of Destruction
กลับมาอีกครั้งกับรายการไลฟ์สตรีม Night City Wire ตอนที่สองของเกม Cyberpunk 2077 โดยหนึ่งในประเด็นหลักที่ถูกนำมาแสดงในงานครั้งนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอกันอยู่แล้ว นั่นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราจะได้ใช้ในเกมนั่นเอง! จากข้อมูลที่เห็นในเทรลเลอร์ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถแยกประเภทอาวุธในเกมได้ดังนี้: Melee Weapon: อาวุธระยะประชิด เช่นดาบซามูไร Smart Weapon: อาวุธปืนชนิดพิเศษที่มีกระสุนนำวิถี สามารถติดตามศัตรูได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเล็ง Tech Weapon: อาวุธปืนชนิดกระสุนพลังงาน สามารถยิงทะลุกำแพงหรือสิ่งกำบังได้ Power Weapon: อาวุธประเภทกระสุนโลหะธรรมดา แต่คงไว้ซึ่งพลังทำลายล้าง Cyberware: อาวุธประเภทอวัยวะจักรกล เช่นปืนจรวดหรือดาบ Mantis Blade ที่พับเก็บไว้ในแขน Throwables: อาวุธประเภทขว้างปา (ไม่ได้แสดงในตัวอย่าง แต่น่าจะเป็นทำนองมีดบินหรือดาวกระจาย) นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถตกแต่งอาวุธด้วย Mod ชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย โดยผู้พัฒนาได้อธิบายในรายการไลฟ์สตรีมว่าจะสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ Attachment หรือชิ้นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ (เช่นกล้องสไนเปอร์) หรือ Software Mod ที่ทำให้คุณสมบัติของปืนเปลี่ยนไป เช่นทำให้ยิงกระสุนไฟฟ้า หรือทำให้ยิงกระสุนยาสลบเป็นต้น ด้วยความเป็น RPG ของเกม ใน Cyberpunk 2077 จะมีการแบ่งระดับความหายากของอาวุธด้วย ตั้งแต่ Common ไปจนถึง Legendary โดยแน่นอนว่าปืนระดับ Legendary จะเป็นปืนหายากที่มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ผู้พัฒนาก็เตือนว่าใครอยากได้มาครองอาจต้องคิดหนัก เพราะเราอาจจะต้องฆ่า NPC ที่เราชอบก่อนถึงจะเอาอาวุธของพวกเขามาได้ สุดท้ายนี้ ผู้พัฒนาบอกด้วยว่าเกมจะมีระบบความชำนาญอาวุธ ที่จะทำให้ยิ่งใช้อาวุธประเภทไหน ตัวละครก็จะยิ่งใช้อาวุธประเภทนั้นคล่องมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในด้านเกมเพลย์ แต่จะทำให้อนิเมชั่นของตัวละครในระหว่างการใช้อาวุธเปลี่ยนไปอีกด้วย เช่นวิธีการเติมกระสุน หรือวิธีการชักปืนออกมาเป็นต้น นับว่าให้ความสำคัญกับระบบ RPG ในเกมมากๆ ภายในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงระบบ Life Path ของเกม ที่จะกำหนดภูมิหลังของตัวละคร V ของผู้เล่นแต่ละคน และทำให้ประสบการณ์ต่างๆ ในเมือง Night City ของทุกคนแตกต่างกันไปอีกด้วย Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยเกมจะสามารถเล่นบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5, Xbox Series X ได้ทันทีเมื่อวางจำหน่าย และจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่โดยเฉพาะให้ผู้เล่นที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีๆ อีกด้วย สั่งซื้อเกมล่วงหน้าจากตัวแทนจำหน่าย คลิ๊ก
10 Aug 2020
ว่าด้วยเรื่องของ เกม และ การเมือง : มิติใหม่ หรือเชื้อไฟที่ไม่ควรยุ่ง?
เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ปราชญ์ชาวกรีกอย่าง อริสโตเติล ได้กล่าวถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาไว้ข้อหนึ่งว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ อันหมายถึง มนุษย์จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ได้ ก็ต่อเมื่อรวมตัวกันเป็นสังคม เป็นเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ นั่นทำให้กฎระเบียบ ความคิด และความเชื่อ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำกับควบคุม และคำว่า ‘การเมือง’ ของอริสโตเติล จึงไม่ใช่แค่ระบอบใดระบอบหนึ่ง แต่ครอบคลุมถึงการกระทำและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในสังคม ภายใต้กติกาและเงื่อนไขเดียวกัน     มาในปัจจุบัน สังคมทวีความหลากหลายในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น และสื่อบันเทิงอย่างวิดีโอเกม ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญภายในครัวเรือน และมีพลังมากพอในการที่จะฉายภาพแห่งจินตนาการต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง และนั่น ก่อให้เกิดคำถามหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ว่าโดยธรรมชาติของวิดีโอเกมนั้น ควรหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่นานมานี้ กับประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างมากในชิ้นงานล่าสุดของ Naughty Dog อย่าง The Last of Us Part II ที่ก่อให้เกิดกระแสต่างๆ ทั้งทางบวกและทางลบอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้     บทความชิ้นนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำว่าคุณผู้อ่านควรจะคิดเห็นอย่างไร มากไปกว่าความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อนิยามของคำว่า ‘การเมือง’ ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในชิ้นงานวิดีโอเกมยุคปัจจุบัน ว่ามันเป็นไปในลักษณะใด และจะช่วยให้แวดวงได้ก้าวเดินอย่างมีวุฒิภาวะอย่างไรในอนาคตภายภาคหน้า     จุดเริ่มต้นของวิดีโอเกมกับ ‘การเมือง’     ถ้าหากจะนับวิวัฒนาการของวิดีโอเกมตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แล้วนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีบริบทอื่นใดที่สลับซับซ้อน เป็นเพียงความสนุกเนื้อๆ ด้วยกฎและกติกาอย่างง่ายๆ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้หลายความคิดและจินตนาการไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างที่ใจคิด     แต่เมื่อก้าวล่วงเข้ามาถึงทศวรรษที่ 90 การพัฒนาวิดีโอเกมอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านภาพ เสียง เนื้อหา ทำให้การรังสรรค์ชิ้นงานต่างๆ เริ่มทวีความหลากหลาย และนั่น ทำให้มันฉายภาพที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงขึ้นมากกว่าจุดเริ่มต้นของมัน และ ‘การเมือง’ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแวดวงในเวลานั้น     แน่นอนว่าการเมืองที่ว่า คือความห่วงกังวลที่มีต่อ ‘ความรุนแรง’ ที่เกิดขึ้นในชิ้นงานวิดีโอเกม ไม่ว่าจะด้วยผลงานอย่าง Doom ในปี 1993 หรือ Mortal Kombat ในปีเดียวกัน ความสมจริงที่กลายสภาพมาเป็นความรุนแรง ก่อให้เกิดความกังขาและความกังวลในระดับการเมืองเป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น (เช่น เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Columbine Highschool ในปี 1999) และเป็นก้าวสำคัญ ที่แวดวงวิดีโอเกม ที่เคยแยกขาดออกจากกัน ได้รวมตัวกันภายใต้ธงของ Entertainment Software Association (ESA) ในปี 1994 เพื่อให้อุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้มีปากมีเสียงในพื้นที่ทางสังคมมากขึ้น (และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดเรทเกมด้วยระบบ ESRB จนถึงการจัดมหกรรม Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ขึ้นมาในภายหลัง)     และมันคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ‘การเมือง’ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมวิดีโอเกมอย่างไม่อาจแยกขาดนับจากเวลานั้นเป็นต้นมา และมักจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือความพยายามของวุฒิสมาชิก Jack Thompson ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับค่ายอย่าง Rockstar North และซีรีส์ Grand Theft Auto หรือ GTA ที่พยายามจะผลักดันให้เกิดกฎหมายการควบคุมขึ้นมาอย่างจริงจัง (แต่แน่นอนว่า ผลการวิจัย และอุตสาหกรรมวิดีโอเกมที่เติบโตขึ้นเป็นระดับหลักพันล้าน ก็ทำให้การตีฆ้องร้องป่าวของท่านวุฒิสมาชิกต้องเงียบหายและร้างลาจากเวทีไปโดยปริยาย)     ความซับซ้อนที่ทวีมากยิ่งขึ้น     แต่แม้ว่า ‘การเมือง’ จะสอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิดีโอเกม (ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะฐานคิดของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่รวมถึงค่านิยมทางสังคมต่างๆ ที่เคลื่อนตัวไปในปัจจุบัน) แต่ดูเหมือนว่า ‘การเมือง’ จะยังเป็นของแสลงสำหรับกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย หลายต่อหลายครั้ง พวกเขามักออกตัวปฏิเสธกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าผลงานต่างๆ นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือขั้วความคิดข้างใดข้างหนึ่งเป็นสำคัญ     แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?     ภายใต้ความซับซ้อนของชิ้นงานวิดีโอเกมหนึ่งๆ ที่ผ่านการพัฒนาด้านความสมจริงจนถึงขีดสุด เราคงไม่อาจมองข้ามได้เลยว่า ภาพที่ปรากฏ ระบบที่มี กติกาที่กำหนด ต่างซุกซ่อนนัยยะทางการเมืองเอาไว้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยเกมแนวสงครามอย่างซีรีส์ Call of Duty ก็ดี ซีรีส์ผจญภัยข้ามโลกข้ามยุคอย่าง Assassin’s Creed ก็ดี ซีรีส์แฮ็คเกอร์ผจญภัย Watchdogs เกม JRPG อย่าง Persona 5 ไปจนถึงเกมแนว Shooter-Looter ชื่อดังอย่างซีรีส์ Tom Clancy’s The Division เหล่านี้ ต่างมี ‘ข้อความ’ ที่ชวนให้เราฉุกใจคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ภายใต้ความเป็นไปได้ทาง ‘การเมือง’ ด้วยกันแทบทั้งสิ้น เรารับบทเป็นทหารสัมพันธมิตรในสงครามโลก เราสู้เพื่ออุดมการณ์บางอย่าง หรือใบอนุญาตสั่งฆ่าในยามที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ ‘การเมือง’ แล้ว จะเรียกว่าอะไร     เหล่านี้ ยังไม่นับเกมอินดี้อีกหลายต่อหลายชิ้นงาน ที่ไม่ปิดบังนัยยะทาง ‘การเมือง’ ของตนเอง เกมอย่าง Paper, Please หรือ Riot : Civil Unrest ก็ถูกสร้างขึ้นโดยผู้พัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องและความเชื่อทางการเมืองของตนเองอย่างเหนียวแน่น (โดยเฉพาะ Riot : Civil Unrest ที่ผู้พัฒนาไปเดินขบวนประท้วงและลิ้มรสแก๊สน้ำตาติดขอบสนามมาแล้ว…) และยิ่งแวดวงวิดีโอเกมเติบโตขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ความสลับซับซ้อนและความสามารถในการสร้างเรื่องราวผสมผสานกับความสมจริงทางภาพ เสียง และการเล่น ก็ยิ่งทำให้มันเข้าใกล้กับ ‘การเมือง’ มากยิ่งขึ้น     แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปโดยธรรมชาติของมัน ถ้าหากวิดีโอเกมคือเครื่องมือหนึ่งทาง ‘การเมือง’ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว อะไรคือปัญหาที่เรากำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้? อะไรที่ทำให้การเมืองเป็นของ ‘แสลง’ สำหรับทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย?     บางที มันอาจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายกว่าที่เราคิดเอาไว้มากก็เป็นได้     อะไรคือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ ‘การเมือง’ มาเกี่ยวข้องกับ ‘วิดีโอเกม’     จากหัวข้อที่แล้ว ที่กล่าวว่า ทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย มักจะหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยตรง และออกตัวกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วย ‘ความสนุก’ เป็นที่ตั้งนั้น บางที ปัญหาที่ทำให้การเมืองเป็นของแสลงสำหรับแวดวงวิดีโอเกม ก็อาจจะอยู่ที่คำว่า ‘ความสนุก’ ที่ว่านั้นก็เป็นได้     ไม่ได้หมายความว่าวิดีโอเกมควรจะเป็นอุปกรณ์โฆษณาชวนเชื่อหรือเผยแพร่ Propaganda อย่างตรงไปตรงมา แต่การปฏิเสธถึงความเกี่ยวพันของ ‘การเมือง’ ที่มีในชิ้นงานวิดีโอเกม มันเป็นความลักลั่นที่เริ่มจะเผยตัวให้เห็นมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ เพราะในทางหนึ่ง วิดีโอเกมเดินหน้าไปสู่ขอบเขตของความสมจริง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันก็วางตัวเองให้ออกห่างจากผลลัพธ์ของการนำเสนอจากความสมจริงนั้นๆ     ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็อาจจะหนีไม่พ้นซีรีส์อย่าง Call of Duty และซีรีส์ Grand Theft Auto ที่ที่มันได้นำเสนอประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์สงครามสุดสมจริง หรือการยั่วล้อวัฒนธรรมยุคโมเดิร์นอย่างเจ็บแสบ และนั่นทำให้ประโยคที่บอกว่าวิดีโอเกมไม่เกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ นั้น ฟังดูไม่มีน้ำหนักมากขึ้นไปทุกทีๆ เพราะแค่สองตัวอย่าง มันก็อิงแอบอยู่กับการเมืองไปแล้วโดยนัย     หรืออย่างในกรณีที่เป็นปัญหาล่าสุดอย่าง The Last of Us Part II ที่ถูกกลุ่มนักเล่นบางส่วนต่อต้านอย่างรุนแรงจากการสอดแทรกประเด็นทางความเชื่อที่แตกต่างจากชิ้นงานวิดีโอเกมอื่นอย่างสุดสเปคตรัม (จนถึงขั้นมีข้อความและจดหมายขู่ฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชนิดที่เท่าเทียมและทั่วถึง) มันก็คือผลลัพธ์จากการวางตำแหน่งของวิดีโอเกมเอาไว้ว่า จะต้องดำเนินไปเพื่อความ ‘สนุก’ เป็นที่ตั้ง ออกให้ห่างจากการแตะประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุด และต้องมีรูปแบบและแนวทางที่ผู้เล่นคุ้นเคย แบ่งชัดเจนขาวดำ จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าเศร้าใจอย่างในปัจจุบันขณะ ณ ตอนนี้     แต่เราต้องอย่าลืมว่า วิดีโอเกมนั้น เป็นสื่อความบันเทิงที่มีอายุถึงสี่ทศวรรษ และอัตราการเติบโตของมันก็ทวีมากยิ่งกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จะเทียบได้ ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องถึงจุดที่มันจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ ในฐานะที่มันเป็นสื่อที่จำลองและสะท้อนโลกแห่งความเป็นไปได้ของความเป็น ‘มนุษย์’ อย่างถึงที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ     มันอาจจะถึงเวลาที่เราต้องทบทวนท่าทีที่เรามีต่อวิดีโอเกมครั้งใหญ่ ที่ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องเดินทางมาถึง     ก้าวต่อไปของวิดีโอเกม เมื่อ ‘การเมือง’ อยู่ใกล้กว่าที่เราคิด     อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น บทความชิ้นนี้ของผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะชี้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด แต่เป็นการฉายภาพของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งวิดีโอเกม ที่ที่ความเป็น ‘การเมือง’ อาจจะไม่ใช่สิ่งไกลตัว และเมื่อถึงเวลา มันจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสื่อบันเทิงที่เรารักชิ้นนี้อย่างช่วยไม่ได้     ‘คุณพูดถึงการเมืองในชิ้นงานได้ แต่ไม่ใช่การสั่งสอนชี้นำ’ Mike Pondsmith ผู้สร้างซีรีส์ Cyberpunk 2020 และโปรดิวเซอร์ร่วมของ Cyberpunk 2077 กล่าวเมื่อถูกถามถึงการมีส่วนร่วมของการเมืองในชิ้นงานวิดีโอเกม นั่นก็เป็นสิ่งที่เข้าใจกันได้ เพราะถ้าการเมืองเป็นเรื่อง ‘ละเอียดอ่อน’ แล้ว คงไม่มีใครชื่นชอบ ที่จะถูกชี้หน้าแล้วบอกว่าความคิดและความเชื่อของตนเองนั้นผิด ไม่ถูกต้อง     แต่ผู้เขียนขออนุญาตเสริมในจุดนี้สักนิดหนึ่งว่า บางที มันอาจจะไม่เสียหาย ถ้าชิ้นงานวิดีโอเกม จะนำเสนอแนวคิดทางการเมืองและความเชื่อของทีมสร้าง (เช่นที่เกิดขึ้นกับ The Last of Us Part II) มันเป็นสิทธิ์ที่ทีมพัฒนาจะสามารถพึงกระทำได้ และเราในฐานะผู้เล่น ก็มีสิทธิ์อีกเช่นกัน ที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ไปจนถึงอาจจะไม่ชื่นชอบสารที่สื่อออกมา (และดูเหมือนว่า ทีมพัฒนาจะคิดไปไกล และลึกกว่าที่เราคาดเอาไว้มากนัก)     แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า วิดีโอเกมคือความหลากหลาย และมันสมควรที่จะเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ และไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนหลบหลีกคำว่า ‘การเมือง’ ทั้งที่มันเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการสร้างมานับสิบกว่าปี และต้องมีพื้นที่ให้กับการส่งเสียงทางความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างเสรี  (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่แนวคิดและอุดมการณ์ต่างๆ เช่นความเท่าเทียมทางเพศ, LGBTQ+ และความโปร่งใสในกระบวนการทำงานเริ่มมีบทบาทและส่งเสียงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมากขึ้นทุกขณะ)     สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเห็น (แม้มันจะยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าที่จะไปถึง) คือการถกเถียงพูดคุยกันอย่าง Constructive ว่าชอบ หรือไม่ชอบ เพราะเหตุใด ไม่มีการชี้หน้าด่าทอ ใครที่ชอบก็ออกมาบอกว่าชอบเพราะอะไร ใครที่ไม่ชอบ ก็โต้แย้งว่าไม่ชอบที่ตรงไหน ต่อยอดไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ (แน่นอน เหตุการณ์ที่ทีมงาน Gamespot ด่า Angry Joe ที่ให้คะแนน The Last of Us Part II ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ เป็นพวกเหยียดเพศนั้นก็จัดว่าเป็นอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เลยแม้แต่น้อย…)     และผู้พัฒนา สมควรที่จะสร้างสรรค์ชิ้นงานได้โดยปราศจากความกลัว ให้โลกของวิดีโอเกมมีความหลากหลาย ไม่แตกต่างอะไรกับแวดวงภาพยนตร์ ที่มีทั้งชิ้นงานป็อบคอร์น Blockbuster จนถึงงานระดับเชิงศิลป์สุดโต่ง ความหลากหลายเหล่านี้ จะทำให้แวดวงวิดีโอเกมเติบโต และมีงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจออกมาอีกมากมายในอนาคต มันอาจจะถึงเวลาแล้ว ที่มันจะต้องก้าวต่อไป เรียนรู้จากมัน อันนำไปสู่การเติบโตทางความคิดที่เปิดกว้างของตัวผู้เล่นในอีกทางหนึ่งด้วย     ดังที่อริสโตเติลกล่าวเอาไว้ ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ และผลลัพธ์ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คน ผ่านสื่ออย่างวิดีโอเกมนั้น ก็ยากที่จะออกห่างจาก ‘การเมือง’ ไปได้ในอนาคต เราอาจจะสมควรที่จะต้องติดอาวุธทางความคิด พร้อมรับกับวุฒิภาวะที่มากขึ้น เพื่อให้แวดวงวิดีโอเกมก้าวต่อไป และถ้าการเมืองเป็นเหมือน ‘ไฟ’ ที่พร้อมสร้างอันตรายได้ในทางหนึ่งแล้วนั้น… ‘มันก็มีคุณประโยชน์ที่จะนำพาไปสู่การพัฒนาต่อยอด ถ้าหากใช้มันได้อย่างถูกวิธี และมีแนวทางที่เหมาะสมชัดเจนในการเข้าหามันเช่นนั้นเอง…’
24 Jul 2020
Cyberpunk 2077: ชมเทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดจากงาน Night City Wire!
หลังจากปล่อยให้เกมเมอร์รอแล้วรอเล่ากันมานานนม ในที่สุดทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ก็ได้ออกมาเปิดเผยตัวอย่างและเกมเพลย์ใหม่ของ Cyberpunk 2077 ในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire แล้ว! สำหรับตัวอย่างใหม่นี้ จะมีชื่อว่า "The Gig" ที่มีทั้งเกมเพลย์เก่าและใหม่ตัดผสมกัน แต่ก็มีอะไรให้เราได้ดูและวิเคราะห์กันมากมายเลยทีเดียว ที่สำคัญคือผู้พัฒนาบอกว่าทั้งหมดที่เราเห็นในเทรลเลอร์นี้เป็นแค่เกมเพลย์จากส่วน Prologue (อารัมภบทหรือช่วงต้น) ของเกมเท่านั้น! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PlayStation 4, Xbox One, และ PC โดยผู้พัฒนายืนยันแล้วว่าเกมจะสามารถเล่นกับคอนโซล Next-Gen อย่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X ได้อีกด้วย แถมยังจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับคอนโซลใหม่ให้คนที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีอีกต่างหาก
25 Jun 2020
เมื่อไม่มีคนให้ไปหา วิดีโอเกม คือเครื่องเยียวยาจิตใจในวิกฤติ COVID-19
วันนี้ เป็นเวลาครบสองสัปดาห์แล้ว ที่ผู้เขียนได้ทำการ ‘กักตัว’ อยู่ภายในบ้าน… ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้พบเจอหน้าใคร และแทบไม่อยู่ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พีซีของตัวเองสักเท่าไร ถ้าในสภาวะปกติแล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพมากนัก แต่ในภาวะวิกฤติ COVID-19 เชื้อร้ายที่กำลังแพร่ระบาดและยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ นี้ ดูเหมือนสองสัปดาห์อาจจะน้อยไป และยังคงเป็นการเดินทางที่ไม่รู้ว่าจะจบลงที่ไหน (และไม่อาจแน่ใจว่า เมื่อครบกำหนดตามภาครัฐว่าไว้ในวันที่ 30 เมษายนนั้น ทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะที่มันพึงจะเป็นหรือไม่…) และถ้าจะมีสิ่งใดที่ช่วยเยียวยาจิตใจในสภาวะเหล่านี้ไม่ให้แตกสลายหรือกลายเป็นบ้าไปเสียก่อน ก็คงจะมีแต่ ‘วิดีโอเกม’ อีกหนึ่งสื่อความบันเทิงที่ช่วยพาให้หลบหนีจากความเป็นจริงได้บ้าง ไม่มากก็น้อย แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดอะไร เมื่อพิจารณาว่า ผู้คนอยู่บ้านกันมากขึ้น ความบันเทิงเริงใจคือสิ่งจำเป็นในการประคองสติและเป็นช่องทางหนึ่งในการผูกสัมพันธ์ผู้คนให้เข้าหากัน ท่ามกลางสภาพที่แทบจะกลายเป็นเรื่องยั่วล้อตลกร้ายที่เราเคยหัวเราะกันจนหงายในเกมอย่าง Death Stranding ที่กลับกลายมาเป็นความจริงที่จำต้องทน และไม่ใช่แค่ที่เมืองไทย หากแต่ในต่างประเทศที่สภาวการณ์ COVID-19 นั้นร้ายแรงกว่าหลายเท่า มีรายงานว่ายอดขายของเครื่องเล่นเกมและชิ้นงานเกมสูงขึ้นอย่างเป็นประวัติการณ์ (รวมถึงในตลาดซื้อขายมือสองของไทย ที่ Nintendo Switch กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ถูกโก่งราคาถีบให้พุ่งไปจนน่าตกใจอย่างยิ่ง…) ใช่แล้ว ในภาวะที่ทุกอย่างดูมืดมนและไม่รู้ว่าทางออกอยู่ไหนและจะมาถึงเมื่อใด การหนีออกจากเรื่องราวรอบตัวที่สุดแสนจะเฮงซวยก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย… ในการศึกษาทางจิตศาสตร์นั้น เรียกสภาพดังกล่าวด้วยสิ่งเร้าจากปัจจัยภายนอกว่า สภาวะการหนีจากความจริง (Escapism) ไม่ใช่การหนีให้พ้นจากโลกด้วยการชิงฆ่าตัวตายไปให้พ้นความทรมาน แต่เป็นการเบือนสายตาออกจากปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันชั่วคราว เป็นการตั้งเป้าหมายที่สามารถจับต้องได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ว่าจะมีความสุขกับการรับชมซีรีส์, การเพลิดเพลินจากการฟังดนตรี, การหนีสภาวะทุกข์ใจบนลู่วิ่ง หรือแม้แต่การมีเซ็กส์ เหล่านี้ จัดได้ว่าเป็นกิจกรรมชั่วคราวที่ใช้สำหรับหนีความจริงด้วยกันแทบทั้งสิ้น (โดยเฉพาะกิจกรรมหลังสุด ถ้ามีจำนวนเด็กเกิดมาอย่างมากในอีกเก้าเดือนถัดจากนี้ เราคงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร…) และ ‘วิดีโอเกม’ ก็คือเครื่องมือสำหรับการหนีไปจากโลกที่มีประสิทธิภาพชิ้นหนึ่งเท่าที่มนุษยชาติได้เคยสร้างมา… เมื่อศาสตร์และศิลป์ถูกนำมาผสมรวมกัน นำเสนอผ่านเทคโนโลยีด้านกราฟิก เกมการเล่น เพลงประกอบ มอบความสุขให้กับผู้ที่เข้าหามัน สนุกสนานติดพันในบทบาทที่หลากหลายกันไป เราสามารถเป็นใครก็ได้ ในสถานการณ์ใดก็ได้ จะเป็นอัศวินผู้กล้า เป็นเจ้าชายผู้ตามหาสมบัติในตำนาน เป็นกัปตันยานอวกาศ หรือแม้แต่สะท้อนสภาวะอันโหดร้ายของสังคมผ่านชิ้นงานที่อินดี้ที่มุ่งหมายจะใช้เพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวและตระหนักรู้ เหล่านี้ เป็นคุณสมบัติที่เรานักเล่นต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เป็นภาพจำที่มีในชิ้นงานและอุตสาหกรรมวิดีโอเกมตลอดระยะเวลากว่าสี่ทศวรรษที่มันดำรงตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ และในครั้งนี้ มันทวีความสำคัญขึ้นอย่างมีนัย เมื่อพิจารณาว่า สภาวะที่เกิดขึ้นคือสถานการณ์ระดับหายนะที่ห่างหายไปนานนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปนเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี แม้ว่าการหนีความจริงตามวิถี Escapism จะเป็นสิ่งที่จำเป็นในการประคองสภาพจิตใจไม่ให้แตกสลายไปกับสภาพอันเลวร้ายของสิ่งที่ประดังเข้ามารอบตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆ นั้นไม่ได้หายไปไหน มันยังคงอยู่ ณ จุดนั้น ยังคงดำเนินไปในแบบนั้น และจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไปราวกับจะไม่มีหนทางใดไปถึงตอนจบ (ซ้ำร้าย มันยังสะเทือนถึงการดำรงอยู่ของแวดวงอย่างมีนัยสำคัญอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน) การแพร่ระบาดของโรคร้าย สภาพสังคมที่แตกสลาย สภาพเศรษฐกิจที่เกือบจะเข้าใกล้การพังทลาย ไปจนถึงการดำเนินการของภาครัฐที่เลวร้ายและไร้ประสิทธิภาพ นี่คือความจริงที่ในท้ายที่สุด เราก็ต้องอยู่กับมัน และหาทางผ่านพ้นไปให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด แต่ก็ต้องยอมรับกันโดยดุษณี ว่าสิ่งเหล่านี้ ทำได้เพียงแค่ ‘หนี’ ไปเพียงชั่วครั้งคราวเท่านั้น … และในทางกลับกัน ยังมีอีกหลายภาคส่วนของสังคม ที่ไม่แม้แต่จะมีความสามารถในการ ‘หนี’ ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า แม้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาเป็นครั้งคราว เพราะสำหรับพวกเขาเหล่านั้น มันคือสภาวะที่ต้องเผชิญ มันคือปากท้อง และมันคือความอยู่รอด ที่วิกฤติโรคร้าย กำลังสั่นคลอนสภาพการกินอยู่และการมีตัวตนของพวกเขาอย่างจริงแท้ ยากจะมองข้ามหรือปฏิเสธไปได้ บางที สำหรับพวกเรา อาจจะจัดได้ว่าเป็นผู้โชค ที่ยังมีโอกาสที่จะหนีด้วยวิธีการที่ค่อนข้าง Luxury อย่างเช่นการเล่นวิดีโอเกมก็เป็นได้… อนึ่ง ผู้เขียนไม่ได้ต้องการออกมาประณามการหนีความจริงว่าเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย และบีบบังคับให้ต้องหันกลับไปมองสภาพของความบรรลัยที่มีหลายปัจจัยช่วยขับเน้นมันให้เข้มข้นขึ้น (เพราะผู้เขียนเองก็ใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องมือในการหนีสภาวะจำทนมาหลายต่อหลายครั้ง…) แต่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เราต้องอยู่กับการทิ้งระยะห่างทางสังคม กักตัวอยู่ในบ้าน และอาศัยชิ้นงานเกมเป็นเครื่องปลอบประโลมใจ ผู้เขียนก็ยังอยากให้เราพึงระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นนั้น มีอยู่จริง ไม่เบือนหน้าหนี หรือทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าทุกอย่างยังคงเป็นปกติดีไม่มีอะไรบุบสลาย และอาจจะมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป และเรานั้นโชคดีแค่ไหน ที่ยังสามารถที่จะหนีได้ แม้เป็นระยะชั่วคราวก็ตาม ซึ่งวิดีโอเกมเองก็มีพลังและศักยภาพที่จะสามารถทำได้ ในเป้าหมายของการตระหนักรู้ถึงสภาวการณ์ดังกล่าว เรามีหลายชิ้นงานที่พูดถึงปัญหาทางสังคม มีหลายเกมที่มีนัยแฝงว่าด้วยความเหลื่อมล้ำ มีอยู่ไม่น้อยที่ทำให้เราได้เข้าใจและเข้าไปอยู่ในบทบาทของตัวละครอื่นๆ ที่สะท้อนโลกแห่งความเป็นจริง นี่คือพลังของวิดีโอเกม ที่แม้จะเป็นความบันเทิงแขนงหนึ่ง แต่ก็มีส่วนสำคัญหากเราจะเปิดใจและน้อมรับในสารที่ชิ้นงานต้องการจะสื่อออกมา โดยเฉพาะกับช่วงเวลานี้ ที่วิกฤติโรคระบาด ทำให้เรามีเวลามากพอที่จะหันกลับมาทบทวนตนเอง ด้วยอุปกรณ์สำคัญอย่างเช่นวิดีโอเกม ท้ายที่สุดนี้ สำหรับผู้เขียน การกักตัวและทำงานอยู่กับบ้านแบบ Work from Home เป็นเวลาสองสัปดาห์นั้น จากที่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องง่ายและสามารถรับมือได้ (ด้วยความเคยชินกับการอยู่กับตัวเองบ่อยครั้ง) และใช้เวลาช่วงว่างในการเล่นเกม ก็กลายมาเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะทน และแม้จะใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องปลอบประโลมในยามที่ไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับใครในแบบปกติ แต่ก็ระลึกเอาไว้เสมอ ว่าท้ายที่สุดนี้ ทุกสิ่งจะต้องมีปลายทาง และทุกอย่าง ‘ควร’ จะต้องดำเนินต่อไป เรา ‘หนี’ เพื่อเติมพลังใจ ก่อนกลับไป เพื่อ ‘ชน’ กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา… เพราะการหนีนั้นต้องมีวันที่สิ้นสุด และการหยุด จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดกาล โดยเฉพาะการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และบทบาทในสังคม ก็คือ ‘ชีวิต’ อันแท้จริง ที่คงจะไม่มีวิดีโอเกมชิ้นไหนมาทดแทนได้ เฉกเช่นนั้นเอง
14 Apr 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ Gameplay Deepdive ยาว 15 นาที
ปล่อยตัวอย่างออกมาแบบจัดเต็ม สำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ภายในงาน PAX West 2019 ได้เผยรายละเอียดเกมเพลย์ต่างๆ ของเกมที่เคยโม้ไว้ก่อนหน้าให้เห็นภาพจริงๆ โดยตัวอย่างนี้ได้นำเสนอ Pacifica เขตหนึ่งของเมือง Night City มีการนำเสนอกลุ่มคนหรือแก็งค์ต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเมือง รวมถึงระบบตัวละครที่เราจะสามารถเลือก Playstyle ได้สองแบบคือ Netrunner ที่จะเน้นการ Hack และใช้กลยุทธต่างๆ ที่จะไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง หรือจะเป็นสาย Strong Solo ที่จะเน้นการต่อสู้แบบประจันหน้ามีพละกำลังมากมายเป็นต้น รวมถึงเรายังได้เห็นอะไรใหมๆ อย่างเช่นการขับขี่มอเตอร์ไซต์ หรือระบบการเลือกต้นกำเนิดของตัวละครที่จะกำหนดได้ว่าเรามาจากชนพวกไหนเป็นต้น https://www.youtube.com/watch?v=QgoYwP4RHoQ โดยเกม Cyberpunk 2077 เป็นเกมแนว Action RPG Openworld จากผู้สร้าง The Witcher 3 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงเกมนี้ยังมีซับไตเติลภาษาไทยให้พวกเราเล่นอีกด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
30 Aug 2019
มาตามคาด! ชมเดโมเกมเพลย์ Cyberpunk 2077 เต็มๆ เกือบ 50 นาที
จากที่มีการบอกใบ้กันทาง Twitch ไปเมื่อคืนนี้ ในที่สุดผู้พัฒนาจาก CD Projekt Red ก็เปิดเผยเกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ออกมาให้ยลกันซะที! ด้วยเดโมความยาวเกือบ 50 นาที ตัวเดียวกกับที่สื่อต่างชาติหลายสำนักได้รับชมจากงาน E3 2018 ที่ผ่านมา ภายในเดโมจะแสดงให้เห็นถึงหน้าเมนูการสร้างตัวละคร การต่อสู้ การอัพเกรดตัวละครผ่านการฝังเครื่องจักรไว้ในร่างกาย และอื่นๆ อีกเพียบ เรียกว่าจัดมาให้ชมกันแบบไม่มีกั๊กเลยจ้า! https://www.youtube.com/watch?v=vjF9GgrY9c0 จำได้ว่าผู้พัฒนาเคยบอกว่าส่วนที่นำมาแสดงในเดโมเป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงส่วนเดียวของเกม และจะแสดงให้ผู้เล่นได้ดูเมื่อพร้อมเท่านั้น แต่ล่าสุดผู้พัฒนาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไปว่าเกมพัฒนาถึงจุดที่สามารถเล่นได้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว หรือว่าจริงๆ เราจะได้เล่นเกมนี้กันเร็วกว่าที่คิดล่ะ... Cyberpunk 2077 ยังคงไม่มีกำหนดว่าจะวางจำหน่ายเมื่อใหร่ แต่จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4, Xbox One, PC อ่านข่าวคราวเกม รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมจากเกม RPG กระดาษดั้งเดิมได้ ที่นี่
28 Aug 2018
CD Projekt Red เปิดไลฟ์สตรีมปริศนา แฟนๆ เชื่อเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077
แม้ว่าจะเป็นเกมที่มีคนรอมากที่สุดเกมหนึ่งในขณะนี้ แต่ Cyberpunk 2077 จากค่ายผู้สร้าง The Witcher อย่าง CD Projekt Red ก็ยังมีข่าวคราวออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันน้อยมาก ยังไม่มีแม้แต่วีดีโอเกมเพลย์ออกมาให้ดูด้วยซ้ำ (มีแต่สกรีนช๊อตชุดใหม่จากงาน Gamescom คลิ๊กเพื่อดูรูป) ทำให้แฟนๆ เกมต้องสืบความลับกันเองจากภาพต่างๆ ที่ผู้พัฒนาปล่อยออกมา ล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาจะกำลังบอกใบ้อะไรบางอย่างกับผู้เล่นหรือเปล่า เมื่อจู่ๆ ค่ายก็เปิดไลฟ์สตรีมคลิปวีดีโอปริศนาผ่านทางช่อง Twitch ของค่าย (ชมสตรีมด้านล่าง) Watch live video from CD PROJEKT RED on www.twitch.tv อย่างที่เห็นด้านบน ไลฟ์สตรีมดังกล่าวมีเพียงตัวอักษรและตัวเลขขึ้นมาแบบแรนด้อมวนไปเรื่อยๆ จนทำให้ตอนนี้มีผู้เล่นที่ดูวีดีโอนี้เพื่อไขปริศนาพร้อมกันถึงกว่า 30000 คน! แต่สุดท้ายปริศนาดังกล่าวจะนำไปสู่อะไร จะเป็นวีดีโอเกมเพลย์ใหม่หรือเปล่า? ไว้ถ้าเฉลยแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังอีกทีนะจ๊ะ! Cyberpunk 2077 ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย แต่จะปล่อยสำหรับเครื่อง PS4, Xbox One, PC
27 Aug 2018