ในยุคที่การเล่นเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจกว้างขวางขึ้น รวมถึงเข้าถึงได้ง่ายไม่ว่าใครก็สามารถเล่นเกมได้ ก็ได้ทำให้การพัฒนาอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็น หูฟัง จอย หรือทีวี ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าเกมเมอร์กันมากขึ้น โดยเฉพาะหูฟัง ที่หลังมีรุ่นที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโดยใช้สายอีกต่อไป ส่งผลให้ผู้เล่นมีอิสระในการเล่นเกมที่มากขึ้น
ในปัจจุบันมีหูฟังหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตการใช้งานกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลแบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นของ Sony เองหรือของแบรนด์ดังต่างไม่ว่าจะเป็น Razer, SteelSeries และ HyperX บ้างก็มีราคาถูกไม่กี่พัน บ้างรุ่นก็มีราคาถูกสามารถจับต้องได้โดยง่าย ซึ่งนับเป็นโชคดีของเราที่มีโอกาสได้ทดลองใช้เจ้า HyperX Cloud Stinger Core Wireless ที่ต้องบอกเลยว่าน่าจะถูกใจเพื่อนๆ สายคอนโซลอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้จะมีรีวิวเจ้าหูฟังไร้สายนี้ให้เพื่อนๆ ได้ใช้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจซื้อต่อไปครับ
แบตเตอรี่ 17 ชั่วโมง ใช้งานแบบต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ในเมื่อเป็นหูฟังแบบไร้สายแล้วเชื่อว่าเรื่องแรกที่หลายคนน่าจะเป็นห่วงกันคือเรื่องอายุการใช้งานของแบต ต่อหนึ่งรอบการใช้งาน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าหายห่วงครับ เพราะทาง HyperX ได้ออกแบบมาให้แบตเตอรี่ของหูฟังตัวนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้มากกว่า 17 ชั่วโมง แถมยังใช้วิธีการชาร์จแบตผ่านสาย USB Type-C ทำให้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่มาพร้อมกับหูฟังรุ่นนี้คือระบบเสียงแบบ 7.1 ที่ทำให้ได้ยินทิศทางกำเนิดของเสียงภายในเกมได้ดียิ่งขึ้น ลองจินตนาการว่า เพื่อนๆ กำลังเล่น Watch Dogs Legion สำรวจเมือง London อยู่ เมื่อมีรถกำลังจะขับผ่านเราไป หูฟังตัวนี้จะแสดงผลเสียงได้อย่างถูกต้องชนิดที่ หลับตาอยู่ก็รู้ได้เลยว่ารถกำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านเราไปทางซ้าย จนสุดท้ายก็เหลือเสียงทิ้งไว้บริเวณด้านหลังหูด้านซ้าย เพราะว่ารถดังกล่าวเคลื่อนตัวผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประสบการณ์แบบนี้ยังได้รับจากเสียงสะท้อนที่เกิดจากวัตถุกระทบกันภายในเกม เสียงของน้ำที่ไหลผ่าน หรือแม้กระทั่งทิศทางของเสียงเม็ดฝนที่กระทบพื้น คือเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์เกมมิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ แน่นอนว่ามันช่วยให้สามารถเล่นเกม FPS แบบที่ต้องแข่งขันกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
แน่นอนว่าปกติเมื่อเรากำลังสนุกไปกับเกมหนึ่งเกม ผู้เล่นส่วนใหญ่มักใช้เวลาหลายชั่วโมงติดๆ กันสนุกไปกับการออกผจญภัย หรือสำรวจโลกใบนั้น เพื่อให้ตอบสนองต่อประสบการณ์เล่นเกมต่อเนื่องดีที่สุด HyperX ได้ออกแบบหูฟังตัวนี้มาให้มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 215 กรัมเท่านั้น ทำให้ใส่ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานได้โดยไม่รู้สึกหนัก นอกจากนี้ยังมีการใช้ฟองน้ำหุ้มตาข่ายอย่างดีใส่มาบริเวณที่ครอบหู และส่วนบนของหูฟัง ทำให้รู้สึกสบาย และระคายเคืองเลยแม้แต่น้อย
เมื่อทราบว่าหูฟังมีน้ำหนักเบามาก หลายคนอาจกังวลเรื่องอายุการใช้งานที่อาจจะไม่นานเท่าไหร่เนื่องจากเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งแม้ว่าดูจากภายนอกแล้วจะเหมือนว่าหูฟังนี้เป็นพลาสติกแข็งทั้งอัน แต่โครงภายในของหูฟังจริงๆ แล้วเป็นเหล็กน้ำหนักเบาคุณภาพดี ตรงส่วนของการปรับขนาดเอง ก็มีการใช้โครงสร้างที่เป็นโลหะด้วยเช่นกัน ถ้าหากทั้งหมดนี้ยังไม่พอ HyperX Cloud Stinger Core Wireless ยังมาพร้อมกับการรับประกัน 2 ปีอีกด้วย
ในการเล่นเกม Co-Op หรือ Competitive ขาดไม่ได้เลยสำหรับไมค์ที่ใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม และเพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างคมชัด ไม่มีเสียงรบกวน ทาง HyperX ได้ใส่ไมค์แบบ Noise Cancellation มาเลยกับรุ่นนี้ ตลอดระยะเวลาที่ได้ทดลองใช้เจ้าหูฟังตัวนี้ พบว่าไม่มีเสียงแทรกหลุดรอดเข้าไปในไมค์เลย ส่งผลให้การสื่อสารทุกอย่างคมชัด ถูกต้อง หมดกังวลเรื่องสื่อสารไม่รู้เรื่องในนาทีสำคัญของเกม
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "ในเมื่อหูฟังเป็นแบบ 7.1 แถมเชื่อมต่อผ่าน USB ด้วย จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรยุ่งยากรึเปล่าถึงจะใช้งานกับ PS5 ได้" คำตอบคือ "ไม่เลย" เพียงแค่ชาร์จแบตให้เต็ม นำ USB เสียบกับช่องด้านหน้าหรือด้านหลังของเครื่อง PS5 ก็ได้ พร้อมกับกดปุ่มเปิดที่ตัวหูฟัง เพียงเท่านี้ก็สามารถสัมผัสกับระบบเสียงแบบ 7.1 ได้เลย
อย่างที่บอกไปแล้วว่าทาง HyperX ได้ใส่ใจการออกแบบให้เหมาะสมจะใช้งานเป็นเวลานานๆ ได้ ตัวผู้เขียนได้ทดลองใช้งานหูฟังนี้ในการเล่นเกม Watch Dogs Legion ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ชั่วโมงติดกันมาแล้ว พบว่าใส่สบายมาก เสียงที่ได้ก็ครบถ้วน แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นความอิสระในการขยับร่างกายลุกไปไหนมาไหนได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะดึงสายของหูฟังขาด เนื่องจากเป็นหูฟังแบบไร้สาย จะลุกไปยืดเส้นยืดสายเมื่อเมื่อย หรือไปเข้าห้องน้ำก็สามารถทำได้ทันที (จะใส่หูฟังไปด้วยก็ได้เนื่องจากระยะเชื่อมต่อไกลมากๆ) เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว
ในการใช้งานกับเครื่อง PC ก็ไม่ได้แตกต่างจาก PS5 เท่าไหร่นัก สามารถเสียบ USB แล้วเปิดใช้งานได้เลย แต่จะดีกว่าหน่อยคือสามารถโหลดแอปจากเว็บไซต์ของ HyperX มาดูได้ว่าตอนนี้แบตเตอรี่ของหูฟังเราเหลืออยู่เท่าไหร่ จำเป็นต้องถอดไปชาร์จเร็วๆ นี้รึเปล่า (โดยปกติเวลาแบตใกล้หมดจะมีเสียงแจ้งเตือนอยู่แล้ว) ซึ่งก็จะช่วยให้การใช้งานลื่นไหลกว่าเล็กน้อยครับ
สุดท้ายคือในเรื่องของราคาที่น่าจะเป็นคำถามซึ่งเพื่อนๆ อยากได้คำตอบเป็นอย่างสุดท้าย ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าไม่แพงจนกระเป๋าฉีกจนเกินไป โดยหากซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ PC ชั้นนำอย่าง JIB จะมีราคาอยู่ที่ 2,790 เท่านั้น โดยสำหรับรุ่นนี้จะมี 2 สีให้เลือกคือขาว / ดำ บริเวณฟองน้ำลองหู และฟองน้ำลองศีรษะสามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นถ้าหากจะอัปเกรดไปใช้แบบที่นุ่มกว่าสบายกว่า ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเลยครับ
ในยุคที่การเล่นเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจกว้างขวางขึ้น รวมถึงเข้าถึงได้ง่ายไม่ว่าใครก็สามารถเล่นเกมได้ ก็ได้ทำให้การพัฒนาอุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็น หูฟัง จอย หรือทีวี ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าเกมเมอร์กันมากขึ้น โดยเฉพาะหูฟัง ที่หลังมีรุ่นที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโดยใช้สายอีกต่อไป ส่งผลให้ผู้เล่นมีอิสระในการเล่นเกมที่มากขึ้น
ในปัจจุบันมีหูฟังหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตการใช้งานกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลแบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นของ Sony เองหรือของแบรนด์ดังต่างไม่ว่าจะเป็น Razer, SteelSeries และ HyperX บ้างก็มีราคาถูกไม่กี่พัน บ้างรุ่นก็มีราคาถูกสามารถจับต้องได้โดยง่าย ซึ่งนับเป็นโชคดีของเราที่มีโอกาสได้ทดลองใช้เจ้า HyperX Cloud Stinger Core Wireless ที่ต้องบอกเลยว่าน่าจะถูกใจเพื่อนๆ สายคอนโซลอย่างแน่นอน ดังนั้นวันนี้จะมีรีวิวเจ้าหูฟังไร้สายนี้ให้เพื่อนๆ ได้ใช้เป็นทางเลือกในการตัดสินใจซื้อต่อไปครับ
แบตเตอรี่ 17 ชั่วโมง ใช้งานแบบต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ในเมื่อเป็นหูฟังแบบไร้สายแล้วเชื่อว่าเรื่องแรกที่หลายคนน่าจะเป็นห่วงกันคือเรื่องอายุการใช้งานของแบต ต่อหนึ่งรอบการใช้งาน ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าหายห่วงครับ เพราะทาง HyperX ได้ออกแบบมาให้แบตเตอรี่ของหูฟังตัวนี้สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้มากกว่า 17 ชั่วโมง แถมยังใช้วิธีการชาร์จแบตผ่านสาย USB Type-C ทำให้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่มาพร้อมกับหูฟังรุ่นนี้คือระบบเสียงแบบ 7.1 ที่ทำให้ได้ยินทิศทางกำเนิดของเสียงภายในเกมได้ดียิ่งขึ้น ลองจินตนาการว่า เพื่อนๆ กำลังเล่น Watch Dogs Legion สำรวจเมือง London อยู่ เมื่อมีรถกำลังจะขับผ่านเราไป หูฟังตัวนี้จะแสดงผลเสียงได้อย่างถูกต้องชนิดที่ หลับตาอยู่ก็รู้ได้เลยว่ารถกำลังค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านเราไปทางซ้าย จนสุดท้ายก็เหลือเสียงทิ้งไว้บริเวณด้านหลังหูด้านซ้าย เพราะว่ารถดังกล่าวเคลื่อนตัวผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประสบการณ์แบบนี้ยังได้รับจากเสียงสะท้อนที่เกิดจากวัตถุกระทบกันภายในเกม เสียงของน้ำที่ไหลผ่าน หรือแม้กระทั่งทิศทางของเสียงเม็ดฝนที่กระทบพื้น คือเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์เกมมิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ แน่นอนว่ามันช่วยให้สามารถเล่นเกม FPS แบบที่ต้องแข่งขันกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
แน่นอนว่าปกติเมื่อเรากำลังสนุกไปกับเกมหนึ่งเกม ผู้เล่นส่วนใหญ่มักใช้เวลาหลายชั่วโมงติดๆ กันสนุกไปกับการออกผจญภัย หรือสำรวจโลกใบนั้น เพื่อให้ตอบสนองต่อประสบการณ์เล่นเกมต่อเนื่องดีที่สุด HyperX ได้ออกแบบหูฟังตัวนี้มาให้มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 215 กรัมเท่านั้น ทำให้ใส่ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานได้โดยไม่รู้สึกหนัก นอกจากนี้ยังมีการใช้ฟองน้ำหุ้มตาข่ายอย่างดีใส่มาบริเวณที่ครอบหู และส่วนบนของหูฟัง ทำให้รู้สึกสบาย และระคายเคืองเลยแม้แต่น้อย
เมื่อทราบว่าหูฟังมีน้ำหนักเบามาก หลายคนอาจกังวลเรื่องอายุการใช้งานที่อาจจะไม่นานเท่าไหร่เนื่องจากเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งแม้ว่าดูจากภายนอกแล้วจะเหมือนว่าหูฟังนี้เป็นพลาสติกแข็งทั้งอัน แต่โครงภายในของหูฟังจริงๆ แล้วเป็นเหล็กน้ำหนักเบาคุณภาพดี ตรงส่วนของการปรับขนาดเอง ก็มีการใช้โครงสร้างที่เป็นโลหะด้วยเช่นกัน ถ้าหากทั้งหมดนี้ยังไม่พอ HyperX Cloud Stinger Core Wireless ยังมาพร้อมกับการรับประกัน 2 ปีอีกด้วย
ในการเล่นเกม Co-Op หรือ Competitive ขาดไม่ได้เลยสำหรับไมค์ที่ใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม และเพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างคมชัด ไม่มีเสียงรบกวน ทาง HyperX ได้ใส่ไมค์แบบ Noise Cancellation มาเลยกับรุ่นนี้ ตลอดระยะเวลาที่ได้ทดลองใช้เจ้าหูฟังตัวนี้ พบว่าไม่มีเสียงแทรกหลุดรอดเข้าไปในไมค์เลย ส่งผลให้การสื่อสารทุกอย่างคมชัด ถูกต้อง หมดกังวลเรื่องสื่อสารไม่รู้เรื่องในนาทีสำคัญของเกม
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "ในเมื่อหูฟังเป็นแบบ 7.1 แถมเชื่อมต่อผ่าน USB ด้วย จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรยุ่งยากรึเปล่าถึงจะใช้งานกับ PS5 ได้" คำตอบคือ "ไม่เลย" เพียงแค่ชาร์จแบตให้เต็ม นำ USB เสียบกับช่องด้านหน้าหรือด้านหลังของเครื่อง PS5 ก็ได้ พร้อมกับกดปุ่มเปิดที่ตัวหูฟัง เพียงเท่านี้ก็สามารถสัมผัสกับระบบเสียงแบบ 7.1 ได้เลย
อย่างที่บอกไปแล้วว่าทาง HyperX ได้ใส่ใจการออกแบบให้เหมาะสมจะใช้งานเป็นเวลานานๆ ได้ ตัวผู้เขียนได้ทดลองใช้งานหูฟังนี้ในการเล่นเกม Watch Dogs Legion ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ชั่วโมงติดกันมาแล้ว พบว่าใส่สบายมาก เสียงที่ได้ก็ครบถ้วน แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดเห็นจะเป็นความอิสระในการขยับร่างกายลุกไปไหนมาไหนได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะดึงสายของหูฟังขาด เนื่องจากเป็นหูฟังแบบไร้สาย จะลุกไปยืดเส้นยืดสายเมื่อเมื่อย หรือไปเข้าห้องน้ำก็สามารถทำได้ทันที (จะใส่หูฟังไปด้วยก็ได้เนื่องจากระยะเชื่อมต่อไกลมากๆ) เรียกได้ว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว
ในการใช้งานกับเครื่อง PC ก็ไม่ได้แตกต่างจาก PS5 เท่าไหร่นัก สามารถเสียบ USB แล้วเปิดใช้งานได้เลย แต่จะดีกว่าหน่อยคือสามารถโหลดแอปจากเว็บไซต์ของ HyperX มาดูได้ว่าตอนนี้แบตเตอรี่ของหูฟังเราเหลืออยู่เท่าไหร่ จำเป็นต้องถอดไปชาร์จเร็วๆ นี้รึเปล่า (โดยปกติเวลาแบตใกล้หมดจะมีเสียงแจ้งเตือนอยู่แล้ว) ซึ่งก็จะช่วยให้การใช้งานลื่นไหลกว่าเล็กน้อยครับ
สุดท้ายคือในเรื่องของราคาที่น่าจะเป็นคำถามซึ่งเพื่อนๆ อยากได้คำตอบเป็นอย่างสุดท้าย ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าไม่แพงจนกระเป๋าฉีกจนเกินไป โดยหากซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ PC ชั้นนำอย่าง JIB จะมีราคาอยู่ที่ 2,790 เท่านั้น โดยสำหรับรุ่นนี้จะมี 2 สีให้เลือกคือขาว / ดำ บริเวณฟองน้ำลองหู และฟองน้ำลองศีรษะสามารถถอดเปลี่ยนได้ ดังนั้นถ้าหากจะอัปเกรดไปใช้แบบที่นุ่มกว่าสบายกว่า ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเลยครับ