หน้าแรก
ข่าว
รายงานใหม่เผย Google ทุ่มเงินหลายสิบล้านเหรียญให้ผู้พัฒนานำเกมมาลง Stadia
Mar 01 2021
ผู้บริหาร Xbox เผย จะยังไม่มีตัวอย่างเกม Elden Ring ให้ชมเร็วๆ นี้
Mar 01 2021
เปิดตัว Pokemon: Diamond และ Pearl ฉบับรีเมค วางจำหน่ายสิ้นปีนี้
Mar 01 2021
Final Fantasy VII Ever Crisis จะมีองค์ประกอบเนื้อเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม
Mar 01 2021
ไลฟ์สตรีม Summer Game Fest ประกาศกลับมาอีกครั้งในปี 2021
Mar 01 2021
บทความ
วิเคราะห์ความฝันของ MiHoYo : การสร้างโลกเสมือนเป็นไปได้ขนาดไหน?
Feb 25 2021
Watch Dogs Legion: ความรู้สึกจากการทดลองเล่นโหมด Online
Feb 25 2021
Valheim วิธีทำให้หมูป่าเชื่อง การผสมพันธุ์ และวิธีติดตั้ง Trophy
Feb 23 2021
[Review] Werewolf: The Apocalypse - Earthblood เกมที่เหมือนจะดี...แต่ไปไม่สุดซะงั้น
Feb 22 2021
[Review] Blue Archive สวมบทบาทอาจารย์กอบกู้โรงเรียนที่รัก
Feb 22 2021
รีวิว
[Review] Werewolf: The Apocalypse - Earthblood เกมที่เหมือนจะดี...แต่ไปไม่สุดซะงั้น
Feb 22 2021
[Review] Blue Archive สวมบทบาทอาจารย์กอบกู้โรงเรียนที่รัก
Feb 22 2021
รีวิว The Sims 4 - Paranormal เปลี่ยนแปลงบ้านของคุณให้กลายเป็นคฤหาสน์ผีสิง
Feb 10 2021
รีวิว Demon's Soul Remake นิทานเรื่องเดิมที่สนุกยิ่งกว่าเดิมบนเครื่องใหม่
Feb 10 2021
[Review] Resident Evil Re:Verse การรวมดาวตัวดีและร้ายแห่งจักรวาลผีชีวะ เกมดีที่คนมองแค่เปลือก!
Feb 10 2021
อีสปอร์ต
Nimo TV จับมือ Mineski จัดการแข่งขันรวม Influencers กว่า 40 ชีวิต ชิงเงินกว่า 100,000 บาท !!
Dec 07 2020
อีพอลซ์ประกาศเปิดตัวการแข่งขันรายการ VALORANT ROYAL CUP ชิงเงินรางวัล 25,000 USD
Sep 14 2020
มาทำความรู้จักกับ N0tail กัปตันทีมขวัญใจมหาชน
Aug 17 2020
OG's Mind Games - เจาะเส้นทางแชมป์จากสงครามจิตวิทยาของ OG
Aug 17 2020
AIS eSports STUDIO คอมมูนิตี้อีสปอร์ตแห่งแรกในอาเซียน 4 โซนเด็ดกระแทกใจคออีสปอร์ต
Jul 17 2020
เกมมือถือ
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 เซิร์ฟเวอร์ใหม่ เตรียมออกผจญภัย 26 กพ. นี้!
Feb 24 2021
[Review] Blue Archive สวมบทบาทอาจารย์กอบกู้โรงเรียนที่รัก
Feb 22 2021
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนวทางการเล่น Ninja สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย
Feb 22 2021
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนวทางการเล่น Rune Knight สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย
Feb 22 2021
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนวทางการเล่น Warlock สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย
Feb 22 2021
นอกเรื่อง
'ฆ่า Brand' เพื่อ 'RE Brand': กรณีศึกษาทิศทางที่เปลี่ยนไปของซีรีส์ Resident Evil
Feb 10 2021
Kakao Page และ Kakao M ประกาศควบรวมธุรกิจ เปิดตัวบริษัทใหม่ KAKAO ENTERTAINMENT
Feb 04 2021
[Guide] รวมข้อมูล Boss ทั้ง 12 ด่านใน Digivice รุ่น 2020
Jan 19 2021
[Unbox & Review] Pendulum Z เครื่อง V-Pet รุ่นใหม่กับความลับของโลก Digimon ที่ซ่อนไว้
Jan 06 2021
[Unbox & Review] Digivice 2020 เปิดจักรวาลใหม่ อุปกรณ์ของเด็กที่ถูกเลือก
Jan 06 2021
IT
ทำความรู้จัก ไวรัสเรียกค่าไถ่ ที่คนมีคอมทุกคนควรระวัง
Feb 24 2021
Linus Tech เผย การที่ Nvidia ออกการ์ดสำหรับ BitCoin ราคา RTX ก็ไม่ตก
Feb 23 2021
Nvidia อาจใส่ชิปป้องกันขุด BitCoin ในการ์ดจอ RTX ทั้งหมดที่จะผลิตหลังจากนี้
Feb 22 2021
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
Feb 19 2021
RTX 3060 จะขุด BitCoin ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นสำหรับขุดเฉพาะตามมา
Feb 19 2021
หน้าแรก
/
บทความ
บทความ
เกมมือถือ
Samsung
IT
บทความพิเศษ
One UI 3.0
Android 11
Samsung Galaxy Note 20 Ultra
ข่าวไอที
บทความ
ส่องลูกเล่นใหม่ ๆ ของ One UI 3.0 และ Android 11 ที่อัปเดตให้กับ Samsung A I S I Note I Z Series
ลงวันที่ 19/01/2021
อัปเดตมาได้ราว ๆ เกือบจะ 1 เดือนเห็นจะได้แล้วค่ะ สำหรับ
Android 11 และ One UI 3.0 ของแบรนด์ Samsung
ที่มาการทยอยอัปเดตให้ในแต่ละรุ่น โดยทางเกวลินเองได้ใช้
Samsung Galaxy Note 20 Ultra
ก็เลยทำการอัปเดตแล้วทดลองใช้งานดูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วันนี้เลยจะเขียนบทความนี้ขึ้นมาว่ามันมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมกันบ้างค่ะ ส่วนใครที่ใครแบรนด์นี้อยู่แล้วแต่เป็นรุ่นที่รองท็อปลงมาก็จะมีการอัปเดตให้ในแต่ละเดือน
( ส่วนนี้เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ทราบในช่วงท้ายบทความนะคะ )
เอาละเมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ
ต้องเข้าใจ “การอัปเดตในครั้งนี้ก่อน!”
สำหรับ
“One UI 3.0” คือระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมกับ Android 11
เพื่อที่จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในช่วงปลายเดือนธันวาคมจนถึงตอนนี้ทาง Samsung ก็ได้ไล่อัปเดตมาตั้งแต่ Series A, Series M, Galaxy Note 20 Series, Galaxy S20 Series, Galaxy Z Fold 2, Galaxy Z Fold 2, Galaxy Z Flip, Galaxy Note 10 Series, Galaxy Fold และ Galaxy S10 Series ทั้งนี้ก็ต้องแจ้งให้ทราบกันก่อนว่ามันคือการไล่อัปเดตในแต่ละรุ่นตามลำดับนะคะ
แล้ว “One UI 3.0” มันมีอะไรที่แตกต่างไปจากรุ่นเดิมก่อนหน้านี้บ้าง!?
อันดับแรกที่ต้องพูดถึงก่อนก็คือพวกไอคอนต่าง ๆ ที่เราใช้งานจะไม่แตกต่างจาก One UI 2.5 เลยค่ะ ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมาเรียนรู้ในส่วนนี้ใหม่แต่อย่างใดนะคะ แต่ที่จะต้องมาศึกษาอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อยก็คือ
“ระบบการแจ้งเตือน”
ที่ตรงนี้ทาง Samsung ได้มีการดีไซน์ใหม่คือบอกระบุชัดเจนว่าการแจ้งเตือนนั้นมาจากของอะไร จากเดิมเวอร์ชั่นก่อนที่ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ในเวอร์ชั่นนี้ก็จะทำให้เราทราบแล้วว่าที่เด้ง ๆ แจ้งเตือนนั้นมาจากแอพพลิเคชั่นอะไรค่ะ รวมไปถึงมีการปรับโทนสีของโซนแสดงผลจากเดิมที่เป็นแบบสีขาวทึบแต่เมื่ออัปเดตเป็น One UI 3.0 ในส่วนนี้จะทำให้ดูโปร่งแสงมากขึ้น ความรู้สึกส่วนตัวก็คือมันดูสบายตามากกว่าเวอร์ชั่นก่อนเยอะเลย
ตามมาด้วยเหล่าไอคอนด้านบนพวกนี้ก็มีการออกแบบไอคอนบางส่วนใหม่รวมไปถึงปรับปรุงระบบการใช้งานบางส่วนให้ดีมากขึ้น นอกจากนี้พวกรายละเอียดเวลา, วัน และ เดือนก็จะมีการขยับมาให้เราได้เห็นชัดเจน โดยย้ายมาอยู่ตรงกลางแทนจากเดิมที่อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วพวกปุ่มเปิดปิดหรือค้นหาก็จะย้ายไปอยู่ด้านมุมขวาบนสุดของเครื่องก็เรียกว่าเป็นการจัดระเบียบที่ดูสวยงามไม่ใช่น้อยค่ะ
ต่อมาก็คือ
“ระบบ Reset แอพพลิเคชั่น”
ปกติแล้วเรากดไอคอนที่เป็น
“III”
เมื่อกดแล้วตอนเราเลื่อนมันจะดูไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ แต่พออัปเดตเป็น One UI 3.0 ก็มีการปรับให้เวลาเราเลื่อนหน้าต่างส่วนพวกนี้ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ส่วนถ้าต้องการอยากจะปิดแอพพลิเคชั่นนั้นก็ทำเหมือนเดิมคือปัดขึ้นหรือกดปุ่มปิดทั้งหมดเลยก็ได้ แล้วระบบที่ถูกปรับปรุงอีกส่วนหนึ่งก็คือ
“ระบบเพิ่ม-ลดเสียง”
ที่ออกแบบมาใหม่ เมื่อเรากดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงมันจะมีแถบสีขาวขึ้นมาที่หน้าจอ ซึ่งเราสามารถเลื่อนขึ้น เลื่อนลงเพื่อปรับระดับเสียงตามที่ต้องการหรือจะแตะที่ไอคอนลำโพงเพื่อเปิดปิดโหมดใช้เสียงหรือโหมดสั่นได้ด้วย แล้วไอคอน
“...”
เมื่อกดเข้ามาก็ยังสามารถตั้งค่าในการปรับแต่งการใช้เสียงหรือสั่นในโหมดการใช้งานที่ต้องการได้ตลอดเวลาค่ะ
แล้วเมื่อเรากดเข้ามาที่ตั้งค่า
“เหล่าไอคอนต่าง ๆ”
ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกันค่ะ แต่เรื่องการใช้งานต่าง ๆ ก็ยังคงเหมือนเดิมนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าเปลี่ยนแปลงไอคอนไปแล้วระบบการทำงานจะเปลี่ยนไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนของโปรไฟล์ของเราใน One UI 2.5 จะมีขนาดเล็กแต่พอมาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ก็มีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นแล้วเมื่อเรากดเข้ามาจะเห็นรายละเอียดในการเชื่อมต่อกับ
“Samsung Account”
ตรงนี้เราสามารถตั้งค่ารายละเอียดเชิงลึกของบัญชีโปรไฟล์ตัวเองได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
เรามาพูดถึงลูกเล่นต่าง ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาใน One UI 3.0 กันบ้างดีกว่าค่ะ อันดับแรกเลยก็คือ
“Dynamic Lock Screen”
ที่มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามาจากเดิมมีเพียงไม่กี่อันเท่านั้น บางคนอาจจะไม่เข้าใจมันคืออะไร เมื่อเราตั้งค่าเรียบร้อยแล้วจะทำให้ทุก ๆ ครั้งที่เราเปิดปิดหน้าจอภาพที่แสดงผลจะเปลี่ยนแปลงไปตามธีมที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถตั้งรูปวอลเปเปอร์ในแบบที่เราต้องการได้ ตามมาด้วยฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ
“การปิดหน้าจอด้วยการแตะเพียงแค่ 2 ครั้ง”
ใน One UI 2.5 และ Android 10 ถ้าเราจะต้องการเปิดหน้าจอเพียงแค่เราแตะที่หน้าจอ 2 ครั้งมันจะทำการเปิดหน้าจอขึ้นมาทันที แต่เมื่ออัปเดตเป็น One UI 3.0 และ Android 11 ได้เพิ่มลูกเล่นการปิดหน้าจอเข้ามาด้วยการแตะที่หน้าจอ 2 ครั้งตัวเครื่องก็จะปิดหน้าจอให้ทันทีเลยค่ะ
แอบแปลกใจว่าทำไมไม่ทำมาตั้งแต่แรกนะเนี่ย
จุดต่อมาที่ปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ
“ตัวสแกนลายนิ้วมือ”
ที่มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ตัวเกวลินเองเป็นคนที่จะใช้นิ้วที่ใหญ่ก็จะใช้นิ้วโป้งในการสแกนเพื่อเปิดเครื่อง ผลที่ได้ก็คือมันก็ช่วยให้การสแกนง่ายขึ้นเร็วขึ้นจากเดิมพอสมควรเลยค่ะ แต่ถ้าเราติดพวกกระจกหรือฟิล์มกันรอยที่มีความหนาก็อาจจะสแกนยากเล็กน้อย ดังนั้นเมื่ออัปเดตแล้วขอแนะนำให้ไปตั้งค่าในการสแกนลายนิ้วมือใหม่อีกครั้งจะดีมากเลยค่ะ ตามมาด้วยเพิ่มลูกเล่น
“พื้นหลังการโทร”
ที่เราสามารถปรับแต่งได้จะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นรูปหรือวีดีโอที่ต้องการได้ แถมเรายังกำหนดให้เสียงจากวีดีโอที่เก็บเอาไว้มาเป็นเสียงเรียกเข้าได้อีกด้วย ใครที่อยากได้เสียงพี่เอก HRK เป็นเสียงเรียกเข้าก็ทำได้นะ
แล้วสิ่งที่หลายคนชื่นชอบคงหนีไม่พ้นเรื่อง
“การถ่ายรูปหรือวีดีโอ”
ตัวแพทช์ One UI 3.0 และ Android 11 ก็มีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้กับการถ่ายรูปด้วยนั้นก็คือระบบที่เรียกว่า
“Lock Focus”
ปกติแล้วถ้าเราแตะเบา ๆ 1 ครั้งมันจะเป็นการ Focus ภาพแม้ว่าจะเคลื่อนจอไปทางไหนมันก็จะตามจุดที่เราต้องการเอาไว้ แต่บางครั้งแสงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการแถมจะมีแถบให้เลื่อนปรับแต่ง แต่สักพักมันก็จะเปลี่ยนแสงกลับไปสภาพเดิมทำให้ระบบใหม่นี้จะมาช่วยแก้ไขในส่วนนี้ค่ะ เมื่อเราแตะค้างเอาไว้มันจะขึ้นเป็นวงกลมมีลูกแม่กุญแจเราสามารถลากเพื่อปรับแสงในแบบที่เราต้องการได้จากนั้นกดล็อค ก็เป็นระบบที่จะช่วยให้การถ่ายภาพของเราสนุกขึ้นไปอีกขั้นเลยค่ะ
แล้วฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามาก็ยังมีลูกเล่นที่เรียกว่า
“AR Emoji”
ที่ทำให้เราสามารถสร้างตัวละคร AR ของตัวเองขึ้นมาได้ โดยตัวละครพวกนี้มีความสามารถในการแสดงสีหน้า ท่าทางต่าง ๆ ของเราได้แบบเรียล์ไทม์เลยนะคะ แถมยังเปลี่ยนชุดของพวกเขาในแบบที่เราต้องการอีกด้วย แล้วตัวละครที่เราสร้างขึ้นมายังสามารถนำไปใช้เป็น AR Sticker ได้อีกด้วย
สรุปหลังจากการใช้งานจริงร่วม 1 เดือน!
จริง ๆ แล้วรายละเอียดของการอัปเดต One UI 3.0 และ Android 11 ยังมีมากกว่านี้มาก แต่เกวลินขอหยิบที่น่าสนใจมาพูดก็แล้วกันนะคะ หลังจากนี้จะเป็นสิ่งที่เห็นว่ามันเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Samsung Galaxy Note 20 Ultra เป็นอย่างมากเลยค่ะ ซึ่งรุ่นที่ใช้เป็น CPU
“Samsung Exynos 990 Octa Core”
ที่บางคนอาจจะบอกว่าใช้ไปนาน ๆ แล้วร้อน ส่วนตัวเมื่อมีการอัปเดตเรื่องความร้อนดีขึ้นถูกแก้ไขให้ดีขึ้นเยอะ ก่อนอัปเดตเวลาถ่ายรูปนาน ๆ ตัวกล้องจะร้อนเร็วมาก แต่พออัปเดตปัญหานี้ก็ดีขึ้นในระดับหนึ่งค่ะ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงเป็นเรื่อง
“สแกนคิวอาร์โค้ด”
ต่าง ๆ ที่ดูแม่นยำและเที่ยงตรงกว่าเดิมมาก ๆ แค่เปิดกล้องขึ้นมายังอ่านคิวอาร์โค้ดนั้นไม่เต็มจอก็เข้าสู่รหัสนั้นอย่างรวดเร็วเลยค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในการใช้งาน One UI 3.0 และ Android 11 ใครที่ใช้มือถือแบรนด์ Samsung รุ่นไหนอยู่เตรียมตัวรอการอัปเดตได้เลย รายละเอียดดังต่อไปนี้
( แต่ละรุ่นอาจจะมีการอัปเดตอาจจะเลื่อนมาเร็วขึ้นหรือช้าขึ้นอยู่กับทาง Samsung อีกทีค่ะ )
มกราคม
Galaxy S10 Lite
Galaxy S20 FE
Galaxy S20 FE 5G
Galaxy Note 10
Galaxy Note 10+
Galaxy Z Flip
Galaxy Z Flop 2 5G
กุมภาพันธ์
Galaxy S10e
Galaxy S10
Galaxy S10+
Galaxy Fold
มีนาคม
Galaxy M30s
Galaxy XCover Pro
Galaxy A51
Galaxy Note 10 Lite
Galaxy M31
Galaxy M31
Galaxy A71 5G
Galaxy Tab S7
Galaxy Tab S7+
เมษายน
Galaxy A50
Galaxy A50s
Galaxy M51
พฤภาคม
Galaxy A70
Galaxy A80
Galaxy Tab S6
Galaxy A71
Galaxy A31
Galaxy A21s
Galaxy A42 5G
Galaxy Tab S6 Lite
มิถุนายน
Galaxy A01
Galaxy A11
Galaxy A12
Galaxy M11
Galaxy Tab A
Galaxy Tab Active 3
Galaxy A02s
กรกฎาคม
Galaxy A10
Galaxy A10s
Galaxy A20
Galaxy A30
Galaxy XCover 4s
Galaxy Tab S5e
สิงหาคม
Galaxy A20s
Galaxy A30s
Galaxy Tab A8 Plus (2019)
Galaxy Tab A8 (2019)
Galaxy Tab A10.1 (2019)
Galaxy Tab Active Pro
Galaxy A01 Core
KaelynVT
นักเขียน
เกวลิน Vtuber สายพันธุ์ไทยแท้! ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ดูหนัง สายหม่ำ ๆ เฮ้อ...เสียดายไปไหนคนเดียวเหงา ๆ นี่อะสิ T.T
บทความที่คล้ายกัน
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 เซิร์ฟเวอร์ใหม่ เตรียมออกผจญภัย 26 กพ. นี้!
Feb 24, 2021
[Review] Blue Archive สวมบทบาทอาจารย์กอบกู้โรงเรียนที่รัก
Feb 22, 2021
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนวทางการเล่น Ninja สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย
Feb 22, 2021
เกมมือถือแนะนำ
อัพเดทล่าสุด วันที่ 01/03/64
Total Eggscape!
Crescent Moon Games
Days of Doom
Atari, Inc.
Cooking Simulator: Chef Game
PlayWay SA
Cubie Adventure World
UNIT5
WIND Runner : Puzzle Match
Joymax Co., Ltd.
เกมพีซี/คอนโซลแนะนำ
อัพเดทล่าสุด วันที่ 01/03/64
SCUM
Gamepires
Persona® 5 Strikers
ATLUS
Zombie Army 4: Dead War
Rebellion
บทความ
เกมมือถือ
Samsung
IT
บทความพิเศษ
One UI 3.0
Android 11
Samsung Galaxy Note 20 Ultra
ข่าวไอที
ส่องลูกเล่นใหม่ ๆ ของ One UI 3.0 และ Android 11 ที่อัปเดตให้กับ Samsung A I S I Note I Z Series
19/01/2021
อัปเดตมาได้ราว ๆ เกือบจะ 1 เดือนเห็นจะได้แล้วค่ะ สำหรับ
Android 11 และ One UI 3.0 ของแบรนด์ Samsung
ที่มาการทยอยอัปเดตให้ในแต่ละรุ่น โดยทางเกวลินเองได้ใช้
Samsung Galaxy Note 20 Ultra
ก็เลยทำการอัปเดตแล้วทดลองใช้งานดูตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา วันนี้เลยจะเขียนบทความนี้ขึ้นมาว่ามันมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมกันบ้างค่ะ ส่วนใครที่ใครแบรนด์นี้อยู่แล้วแต่เป็นรุ่นที่รองท็อปลงมาก็จะมีการอัปเดตให้ในแต่ละเดือน
( ส่วนนี้เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ทราบในช่วงท้ายบทความนะคะ )
เอาละเมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ
ต้องเข้าใจ “การอัปเดตในครั้งนี้ก่อน!”
สำหรับ
“One UI 3.0” คือระบบปฏิบัติการที่มาพร้อมกับ Android 11
เพื่อที่จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในช่วงปลายเดือนธันวาคมจนถึงตอนนี้ทาง Samsung ก็ได้ไล่อัปเดตมาตั้งแต่ Series A, Series M, Galaxy Note 20 Series, Galaxy S20 Series, Galaxy Z Fold 2, Galaxy Z Fold 2, Galaxy Z Flip, Galaxy Note 10 Series, Galaxy Fold และ Galaxy S10 Series ทั้งนี้ก็ต้องแจ้งให้ทราบกันก่อนว่ามันคือการไล่อัปเดตในแต่ละรุ่นตามลำดับนะคะ
แล้ว “One UI 3.0” มันมีอะไรที่แตกต่างไปจากรุ่นเดิมก่อนหน้านี้บ้าง!?
อันดับแรกที่ต้องพูดถึงก่อนก็คือพวกไอคอนต่าง ๆ ที่เราใช้งานจะไม่แตกต่างจาก One UI 2.5 เลยค่ะ ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมาเรียนรู้ในส่วนนี้ใหม่แต่อย่างใดนะคะ แต่ที่จะต้องมาศึกษาอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อยก็คือ
“ระบบการแจ้งเตือน”
ที่ตรงนี้ทาง Samsung ได้มีการดีไซน์ใหม่คือบอกระบุชัดเจนว่าการแจ้งเตือนนั้นมาจากของอะไร จากเดิมเวอร์ชั่นก่อนที่ไม่มีการแบ่งหมวดหมู่ในเวอร์ชั่นนี้ก็จะทำให้เราทราบแล้วว่าที่เด้ง ๆ แจ้งเตือนนั้นมาจากแอพพลิเคชั่นอะไรค่ะ รวมไปถึงมีการปรับโทนสีของโซนแสดงผลจากเดิมที่เป็นแบบสีขาวทึบแต่เมื่ออัปเดตเป็น One UI 3.0 ในส่วนนี้จะทำให้ดูโปร่งแสงมากขึ้น ความรู้สึกส่วนตัวก็คือมันดูสบายตามากกว่าเวอร์ชั่นก่อนเยอะเลย
ตามมาด้วยเหล่าไอคอนด้านบนพวกนี้ก็มีการออกแบบไอคอนบางส่วนใหม่รวมไปถึงปรับปรุงระบบการใช้งานบางส่วนให้ดีมากขึ้น นอกจากนี้พวกรายละเอียดเวลา, วัน และ เดือนก็จะมีการขยับมาให้เราได้เห็นชัดเจน โดยย้ายมาอยู่ตรงกลางแทนจากเดิมที่อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอ แล้วพวกปุ่มเปิดปิดหรือค้นหาก็จะย้ายไปอยู่ด้านมุมขวาบนสุดของเครื่องก็เรียกว่าเป็นการจัดระเบียบที่ดูสวยงามไม่ใช่น้อยค่ะ
ต่อมาก็คือ
“ระบบ Reset แอพพลิเคชั่น”
ปกติแล้วเรากดไอคอนที่เป็น
“III”
เมื่อกดแล้วตอนเราเลื่อนมันจะดูไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ แต่พออัปเดตเป็น One UI 3.0 ก็มีการปรับให้เวลาเราเลื่อนหน้าต่างส่วนพวกนี้ดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ส่วนถ้าต้องการอยากจะปิดแอพพลิเคชั่นนั้นก็ทำเหมือนเดิมคือปัดขึ้นหรือกดปุ่มปิดทั้งหมดเลยก็ได้ แล้วระบบที่ถูกปรับปรุงอีกส่วนหนึ่งก็คือ
“ระบบเพิ่ม-ลดเสียง”
ที่ออกแบบมาใหม่ เมื่อเรากดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงมันจะมีแถบสีขาวขึ้นมาที่หน้าจอ ซึ่งเราสามารถเลื่อนขึ้น เลื่อนลงเพื่อปรับระดับเสียงตามที่ต้องการหรือจะแตะที่ไอคอนลำโพงเพื่อเปิดปิดโหมดใช้เสียงหรือโหมดสั่นได้ด้วย แล้วไอคอน
“...”
เมื่อกดเข้ามาก็ยังสามารถตั้งค่าในการปรับแต่งการใช้เสียงหรือสั่นในโหมดการใช้งานที่ต้องการได้ตลอดเวลาค่ะ
แล้วเมื่อเรากดเข้ามาที่ตั้งค่า
“เหล่าไอคอนต่าง ๆ”
ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเช่นกันค่ะ แต่เรื่องการใช้งานต่าง ๆ ก็ยังคงเหมือนเดิมนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าเปลี่ยนแปลงไอคอนไปแล้วระบบการทำงานจะเปลี่ยนไปด้วย นอกจากนี้ในส่วนของโปรไฟล์ของเราใน One UI 2.5 จะมีขนาดเล็กแต่พอมาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ก็มีการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นแล้วเมื่อเรากดเข้ามาจะเห็นรายละเอียดในการเชื่อมต่อกับ
“Samsung Account”
ตรงนี้เราสามารถตั้งค่ารายละเอียดเชิงลึกของบัญชีโปรไฟล์ตัวเองได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ
เรามาพูดถึงลูกเล่นต่าง ๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามาใน One UI 3.0 กันบ้างดีกว่าค่ะ อันดับแรกเลยก็คือ
“Dynamic Lock Screen”
ที่มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามาจากเดิมมีเพียงไม่กี่อันเท่านั้น บางคนอาจจะไม่เข้าใจมันคืออะไร เมื่อเราตั้งค่าเรียบร้อยแล้วจะทำให้ทุก ๆ ครั้งที่เราเปิดปิดหน้าจอภาพที่แสดงผลจะเปลี่ยนแปลงไปตามธีมที่เราได้ตั้งค่าเอาไว้ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถตั้งรูปวอลเปเปอร์ในแบบที่เราต้องการได้ ตามมาด้วยฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ
“การปิดหน้าจอด้วยการแตะเพียงแค่ 2 ครั้ง”
ใน One UI 2.5 และ Android 10 ถ้าเราจะต้องการเปิดหน้าจอเพียงแค่เราแตะที่หน้าจอ 2 ครั้งมันจะทำการเปิดหน้าจอขึ้นมาทันที แต่เมื่ออัปเดตเป็น One UI 3.0 และ Android 11 ได้เพิ่มลูกเล่นการปิดหน้าจอเข้ามาด้วยการแตะที่หน้าจอ 2 ครั้งตัวเครื่องก็จะปิดหน้าจอให้ทันทีเลยค่ะ
แอบแปลกใจว่าทำไมไม่ทำมาตั้งแต่แรกนะเนี่ย
จุดต่อมาที่ปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ
“ตัวสแกนลายนิ้วมือ”
ที่มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ตัวเกวลินเองเป็นคนที่จะใช้นิ้วที่ใหญ่ก็จะใช้นิ้วโป้งในการสแกนเพื่อเปิดเครื่อง ผลที่ได้ก็คือมันก็ช่วยให้การสแกนง่ายขึ้นเร็วขึ้นจากเดิมพอสมควรเลยค่ะ แต่ถ้าเราติดพวกกระจกหรือฟิล์มกันรอยที่มีความหนาก็อาจจะสแกนยากเล็กน้อย ดังนั้นเมื่ออัปเดตแล้วขอแนะนำให้ไปตั้งค่าในการสแกนลายนิ้วมือใหม่อีกครั้งจะดีมากเลยค่ะ ตามมาด้วยเพิ่มลูกเล่น
“พื้นหลังการโทร”
ที่เราสามารถปรับแต่งได้จะเปลี่ยนพื้นหลังเป็นรูปหรือวีดีโอที่ต้องการได้ แถมเรายังกำหนดให้เสียงจากวีดีโอที่เก็บเอาไว้มาเป็นเสียงเรียกเข้าได้อีกด้วย ใครที่อยากได้เสียงพี่เอก HRK เป็นเสียงเรียกเข้าก็ทำได้นะ
แล้วสิ่งที่หลายคนชื่นชอบคงหนีไม่พ้นเรื่อง
“การถ่ายรูปหรือวีดีโอ”
ตัวแพทช์ One UI 3.0 และ Android 11 ก็มีการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้กับการถ่ายรูปด้วยนั้นก็คือระบบที่เรียกว่า
“Lock Focus”
ปกติแล้วถ้าเราแตะเบา ๆ 1 ครั้งมันจะเป็นการ Focus ภาพแม้ว่าจะเคลื่อนจอไปทางไหนมันก็จะตามจุดที่เราต้องการเอาไว้ แต่บางครั้งแสงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการแถมจะมีแถบให้เลื่อนปรับแต่ง แต่สักพักมันก็จะเปลี่ยนแสงกลับไปสภาพเดิมทำให้ระบบใหม่นี้จะมาช่วยแก้ไขในส่วนนี้ค่ะ เมื่อเราแตะค้างเอาไว้มันจะขึ้นเป็นวงกลมมีลูกแม่กุญแจเราสามารถลากเพื่อปรับแสงในแบบที่เราต้องการได้จากนั้นกดล็อค ก็เป็นระบบที่จะช่วยให้การถ่ายภาพของเราสนุกขึ้นไปอีกขั้นเลยค่ะ
แล้วฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมเข้ามาก็ยังมีลูกเล่นที่เรียกว่า
“AR Emoji”
ที่ทำให้เราสามารถสร้างตัวละคร AR ของตัวเองขึ้นมาได้ โดยตัวละครพวกนี้มีความสามารถในการแสดงสีหน้า ท่าทางต่าง ๆ ของเราได้แบบเรียล์ไทม์เลยนะคะ แถมยังเปลี่ยนชุดของพวกเขาในแบบที่เราต้องการอีกด้วย แล้วตัวละครที่เราสร้างขึ้นมายังสามารถนำไปใช้เป็น AR Sticker ได้อีกด้วย
สรุปหลังจากการใช้งานจริงร่วม 1 เดือน!
จริง ๆ แล้วรายละเอียดของการอัปเดต One UI 3.0 และ Android 11 ยังมีมากกว่านี้มาก แต่เกวลินขอหยิบที่น่าสนใจมาพูดก็แล้วกันนะคะ หลังจากนี้จะเป็นสิ่งที่เห็นว่ามันเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Samsung Galaxy Note 20 Ultra เป็นอย่างมากเลยค่ะ ซึ่งรุ่นที่ใช้เป็น CPU
“Samsung Exynos 990 Octa Core”
ที่บางคนอาจจะบอกว่าใช้ไปนาน ๆ แล้วร้อน ส่วนตัวเมื่อมีการอัปเดตเรื่องความร้อนดีขึ้นถูกแก้ไขให้ดีขึ้นเยอะ ก่อนอัปเดตเวลาถ่ายรูปนาน ๆ ตัวกล้องจะร้อนเร็วมาก แต่พออัปเดตปัญหานี้ก็ดีขึ้นในระดับหนึ่งค่ะ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงเป็นเรื่อง
“สแกนคิวอาร์โค้ด”
ต่าง ๆ ที่ดูแม่นยำและเที่ยงตรงกว่าเดิมมาก ๆ แค่เปิดกล้องขึ้นมายังอ่านคิวอาร์โค้ดนั้นไม่เต็มจอก็เข้าสู่รหัสนั้นอย่างรวดเร็วเลยค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในการใช้งาน One UI 3.0 และ Android 11 ใครที่ใช้มือถือแบรนด์ Samsung รุ่นไหนอยู่เตรียมตัวรอการอัปเดตได้เลย รายละเอียดดังต่อไปนี้
( แต่ละรุ่นอาจจะมีการอัปเดตอาจจะเลื่อนมาเร็วขึ้นหรือช้าขึ้นอยู่กับทาง Samsung อีกทีค่ะ )
มกราคม
Galaxy S10 Lite
Galaxy S20 FE
Galaxy S20 FE 5G
Galaxy Note 10
Galaxy Note 10+
Galaxy Z Flip
Galaxy Z Flop 2 5G
กุมภาพันธ์
Galaxy S10e
Galaxy S10
Galaxy S10+
Galaxy Fold
มีนาคม
Galaxy M30s
Galaxy XCover Pro
Galaxy A51
Galaxy Note 10 Lite
Galaxy M31
Galaxy M31
Galaxy A71 5G
Galaxy Tab S7
Galaxy Tab S7+
เมษายน
Galaxy A50
Galaxy A50s
Galaxy M51
พฤภาคม
Galaxy A70
Galaxy A80
Galaxy Tab S6
Galaxy A71
Galaxy A31
Galaxy A21s
Galaxy A42 5G
Galaxy Tab S6 Lite
มิถุนายน
Galaxy A01
Galaxy A11
Galaxy A12
Galaxy M11
Galaxy Tab A
Galaxy Tab Active 3
Galaxy A02s
กรกฎาคม
Galaxy A10
Galaxy A10s
Galaxy A20
Galaxy A30
Galaxy XCover 4s
Galaxy Tab S5e
สิงหาคม
Galaxy A20s
Galaxy A30s
Galaxy Tab A8 Plus (2019)
Galaxy Tab A8 (2019)
Galaxy Tab A10.1 (2019)
Galaxy Tab Active Pro
Galaxy A01 Core
KaelynVT
นักเขียน
เกวลิน Vtuber สายพันธุ์ไทยแท้! ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ดูหนัง สายหม่ำ ๆ เฮ้อ...เสียดายไปไหนคนเดียวเหงา ๆ นี่อะสิ T.T
บทความที่คล้ายกัน
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 เซิร์ฟเวอร์ใหม่ เตรียมออกผจญภัย 26 กพ. นี้!
Feb 24, 2021
[Review] Blue Archive สวมบทบาทอาจารย์กอบกู้โรงเรียนที่รัก
Feb 22, 2021
Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนวทางการเล่น Ninja สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย
Feb 22, 2021
เกมมือถือแนะนำ
อัพเดทล่าสุด วันที่ 01/03/64
Total Eggscape!
Crescent Moon Games
Days of Doom
Atari, Inc.
Cooking Simulator: Chef Game
PlayWay SA
Cubie Adventure World
UNIT5
WIND Runner : Puzzle Match
Joymax Co., Ltd.
เกมพีซี/คอนโซลแนะนำ
อัพเดทล่าสุด วันที่ 01/03/64
SCUM
Gamepires
Persona® 5 Strikers
ATLUS
Zombie Army 4: Dead War
Rebellion
Show header
หน้าแรก
ข่าว
บทความ
รีวิว
อีสปอร์ต
เกมมือถือ
นอกเรื่อง
IT
X