Ragnarok Origin แน่นอนว่าอาชีพพระเป็นหนึ่งในสายที่สำคัญมาก ๆ ในการปาร์ตี้ แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ชอบเล่นเพราะว่าตัวละครนี้ไม่มีดาเมจเสียเท่าไร และต้องพึ่งเพื่อนเยอะพอสมควร แต่รู้หรือไม่ว่าสำหรับอาชีพ High Priest ก็มีสายที่สามารถ ทำดาเมจได้อย่างรุนแรงนั่นก็คือสาย Magnus Exorcismus นั่นเอง ซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำแนวทางการเล่นเบื้องต้นของอาชีพนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ
(ตัวอย่างสกิล)
Status ที่ควรอัพ
สำหรับสายนี้จะเน้นทำดาเมจจากค่า INT เป็นหลัก และค่า DEX จะทำให้สกิล Magnus Exorcismus ร่ายไวขึ้น (แรก ๆ เน้นอัพ INT ไปจำนวนหนึ่งก่อนก็ได้เพื่อเก็บเลเวล)
Skill ที่ควรอัพ
ตอนเป็น Acolye (เลเวล 10)
ตอนเป็น Priest (เลเวล 40)
ตอนเป็น High Priest (เลเวล 70)
ของสวมใส่
สำหรับอาวุธนั้นในทุก ๆ เลเวลตั้งแต่ 50 / 70 / 80 ขึ้นไป แนะนำให้ใช้อาวุธ Holy Stick ซึ่งจะทำให้สกิล Magnus ร่ายไวขึ้น รวมถึงถ้าหากตีบวก 10 ขึ้นไป จะทำให้สกิลแรงขึ้นอีกด้วย
ส่วนโล่นั้นแนะนำให้ใส่ Exorcism Bible ซึ่งจะบวกดาเมจมอนสเตอร์ Undead มากขึ้นทุก ๆ การตีบวก Refinement ด้วย
ชุดนั้นในช่วงเลเวล 50 แนะนำให้ใส่ Magic Apprentice's set เพื่อบวก Magic Damage ส่วนผ้าคลุมให้ใส่ Hood ซึ่งพอเลเวล 70 ก็คราฟต์ชุดเดิมใส่ก็ได้
สำหรับชุดเลเวล 80 แนะนำให้ใส่ Sprint Set ซึ่งสเตตัสสำคัญเลยก็คือค่า Global Cooldown (ลดเวลาคูลดาวน์ของสกิล) และบวก MATK DMG ด้วย รวมถึงเสื้อ Sprint Mail ยังจะได้ค่า Variable CT หรือลดระยะร่าย - 10% ด้วย
การ์ดสำหรับใส่อาวุธแนะนำให้ใช้การ์ดที่เน้นการโจมตีเผ่านั้น ๆ หรือการ์ดที๋โจมตีมอนสเตอร์ขนาดต่าง ๆ ก็ได้ ส่วนถ้างบไม่เยอะก็อาจจะใช้การ์ด Boa หรือ Hunter Fly เพื่อเน้นเพิ่ม MATK ก็ได้
สำหรับชุดใช้การ์ด Pecopeco เพื่อบวก MAX HP 5% ก็ได้
สำหรับผ้าคลุมแนะนำให้ใส่การ์ด Frilldora ซึ่งจะบวกค่าลดระยะร่ายถึง 3% รวมถึงค่า INT ด้วย
สำหรับรองเท้าอาจจะใส่การ์ด Sohee ซึ่งจะเพิ่ม MAX HP 4% และบวกค่า SP Recovery 8%
ส่วนการ์ดเครื่องประดับให้ใส่การ์ด Mimic ซึ่งจะบวกค่าลดระยะร่ายถึง 2%
Ragnarok Origin แน่นอนว่าอาชีพพระเป็นหนึ่งในสายที่สำคัญมาก ๆ ในการปาร์ตี้ แต่หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ชอบเล่นเพราะว่าตัวละครนี้ไม่มีดาเมจเสียเท่าไร และต้องพึ่งเพื่อนเยอะพอสมควร แต่รู้หรือไม่ว่าสำหรับอาชีพ High Priest ก็มีสายที่สามารถ ทำดาเมจได้อย่างรุนแรงนั่นก็คือสาย Magnus Exorcismus นั่นเอง ซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำแนวทางการเล่นเบื้องต้นของอาชีพนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกันครับ
(ตัวอย่างสกิล)
Status ที่ควรอัพ
สำหรับสายนี้จะเน้นทำดาเมจจากค่า INT เป็นหลัก และค่า DEX จะทำให้สกิล Magnus Exorcismus ร่ายไวขึ้น (แรก ๆ เน้นอัพ INT ไปจำนวนหนึ่งก่อนก็ได้เพื่อเก็บเลเวล)
Skill ที่ควรอัพ
ตอนเป็น Acolye (เลเวล 10)
ตอนเป็น Priest (เลเวล 40)
ตอนเป็น High Priest (เลเวล 70)
ของสวมใส่
สำหรับอาวุธนั้นในทุก ๆ เลเวลตั้งแต่ 50 / 70 / 80 ขึ้นไป แนะนำให้ใช้อาวุธ Holy Stick ซึ่งจะทำให้สกิล Magnus ร่ายไวขึ้น รวมถึงถ้าหากตีบวก 10 ขึ้นไป จะทำให้สกิลแรงขึ้นอีกด้วย
ส่วนโล่นั้นแนะนำให้ใส่ Exorcism Bible ซึ่งจะบวกดาเมจมอนสเตอร์ Undead มากขึ้นทุก ๆ การตีบวก Refinement ด้วย
ชุดนั้นในช่วงเลเวล 50 แนะนำให้ใส่ Magic Apprentice's set เพื่อบวก Magic Damage ส่วนผ้าคลุมให้ใส่ Hood ซึ่งพอเลเวล 70 ก็คราฟต์ชุดเดิมใส่ก็ได้
สำหรับชุดเลเวล 80 แนะนำให้ใส่ Sprint Set ซึ่งสเตตัสสำคัญเลยก็คือค่า Global Cooldown (ลดเวลาคูลดาวน์ของสกิล) และบวก MATK DMG ด้วย รวมถึงเสื้อ Sprint Mail ยังจะได้ค่า Variable CT หรือลดระยะร่าย - 10% ด้วย
การ์ดสำหรับใส่อาวุธแนะนำให้ใช้การ์ดที่เน้นการโจมตีเผ่านั้น ๆ หรือการ์ดที๋โจมตีมอนสเตอร์ขนาดต่าง ๆ ก็ได้ ส่วนถ้างบไม่เยอะก็อาจจะใช้การ์ด Boa หรือ Hunter Fly เพื่อเน้นเพิ่ม MATK ก็ได้
สำหรับชุดใช้การ์ด Pecopeco เพื่อบวก MAX HP 5% ก็ได้
สำหรับผ้าคลุมแนะนำให้ใส่การ์ด Frilldora ซึ่งจะบวกค่าลดระยะร่ายถึง 3% รวมถึงค่า INT ด้วย
สำหรับรองเท้าอาจจะใส่การ์ด Sohee ซึ่งจะเพิ่ม MAX HP 4% และบวกค่า SP Recovery 8%
ส่วนการ์ดเครื่องประดับให้ใส่การ์ด Mimic ซึ่งจะบวกค่าลดระยะร่ายถึง 2%