GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "lenovo"
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo ส่งท้ายปีเก่าด้วยแคมเปญ 12.12 GREAT SALE นำทัพแล็ปท็อปรุ่นดังลดสูงสุด 12%
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 4 ธันวาคม 2563 – เลอโนโว บริษัทผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทดีไวซ์ระดับโลก ผุดแคมเปญ 12.12 GREAT SALE ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ขนแล็ปท็อปรุ่นดัง อย่าง IdeaPad, Legion, ThinkBook และ ThinkPad มาลดราคาคืนกำไรให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน เกมเมอร์ ผู้ประกอบธุรกิจ หรือองค์กรทั่วประเทศ โดยแคมเปญจะมี ตั้งแต่วันที่ 7 – 16 ธันวาคม 2563 รายละเอียดแคมเปญ ลดออนท็อปสูงสุด 12% ทันที! กับโค้ด LNV12 ตลอด 10 วันของแคมเปญ พิเศษ! วันที่ 12 เดือน 12 มีสินค้าลดพิเศษ 50% ถึง 7 รุ่น ที่เว็บไซต์ https://lnv.gy/3mvl9Bi ThinkPad X1 Carbon Gen 8 (20U9S00R00) ThinkBook 13s (20R900E7TA) ThinkBook Plus (20TG004HTA) ThinkBook Plus (20TG004GTA) ThinkPad T15 (Intel) (20S6S00N00) ThinkBook Plus (20TG005DTA)  ThinkCentre M75n (11BSS01U00) ThinkCentre M720 SFF (10SUSF6400) แล็ปท็อปทุกรุ่นสามารถปรับแต่งสเปคได้ตามความต้องการก่อนกดสั่งซื้อ เช่น ต้องการตัวเลือกหน้าจอสูงสุด หรือต้องการตัวจัดเก็บข้อมูลที่จุได้มากขึ้น สามารถใช้สิทธิ์ ช้อปดีมีคืนได้ : เมื่อช้อปผลิตภัณฑ์จุใจแล้ว ได้ทั้งแล็ปท็อปใหม่ ทั้งเงินภาษีคืน 2 ต่อแบบนี้ ไม่ควรพลาด! สามารถผ่อน 0% ได้สูงสุดถึง 10 เดือน! กับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบัตรกรุงไทย เลอโนโวยังคงส่งมอบเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอันชาญฉลาดให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่นำโดยบริการ การขับเคลื่อนสังคมทั่วโลกให้เข้าถึงโอกาสที่ดีกว่า และการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดน ไฮไลท์แล็ปท็อปที่ร่วมโปรโมชั่น ThinkPad X1 Carbon Gen 8 แล็ปท็อปพรีเมียมบางเบาเพื่องานธุรกิจ มาพร้อมโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยในตัวอย่าง ชุดโปรแกรม ThinkShield อัพเดทใหม่ล่าสุด หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานและเก็บข้อมูล ระบบลำโพง Dolby Atmos ช่วยสร้างประสบการณ์เสียงอันเยี่ยมยอด และการรับรองว่าผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานระดับ military grade 12 ขั้นตอน รวมถึงการทดสอบคุณภาพระดับสูงถึง 200 รูปแบบ โปรเซสเซอร์: 10th Gen Intel® Core™ i5 กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics 620 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: 1TB SSD จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K in-plane switching พร้อม Dolby Vision HDR400, ความสว่าง 500 nits, 10 bit แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   ThinkPad X1 Carbon Gen 7 แล็ปท็อประดับโปรสำหรับการทำงานทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมฝาหลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ความบางเพียง 14.9 มม. ระบบสแกนลายนิ้วมือไบโอเมตริกซ์ ให้การเข้าใช้งานเครื่องเป็นเรื่องง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ ThinkShield ชุดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และตัวเลือกการ์ด LTE-A คู่กับเทคโนโลยี WWAN ออนไลน์ได้เหมือนใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7 กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics 620 หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 16GB LPDDR3 ตัวจัดเก็บข้อมูล: ตัวเลือกสูงสุด 2TB SSD PCIe จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K in-plane switching พร้อม Dolby Vision HDR400, ความสว่าง 500 nits, 10 bit แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   ThinkBook ขนาด 15 นิ้ว แล็ปท็อปประสิทธิภาพระดับองค์กร แต่ราคาระดับ mid-range มาพร้อมบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ทนทานต่อการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ขอบจอสุดบาง จอมีสัดส่วนพื้นที่การมองมากถึง 83% เมื่อเทียบกับขนาด และพอร์ต USB 3.1 ช่วยให้ผู้ใช้ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ตลอดเวลา แม้เครื่องปิดอยู่ และการรับรองว่าผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานระดับทหาร 12 ขั้นตอน รวมถึงการทดสอบคุณภาพระดับสูงถึง 200 รูปแบบ โปรเซสเซอร์: 10th Gen Intel® Core™ i5 กราฟิก: Intel UHD หรือตัวเลือกกราฟิกแยก AMD Radeon™ 620 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: ตัวเลือกสูงสุด 2TB แบบ HDD หรือ 1TB แบบ M.2 PCIe SSD หรือตัวเลือก Intel® Optane™ Memory H10 + 512GB SSD จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   IdeaPad L340 Gaming แล็ปท็อปเร็วแรงคู่กายสายเกม มาพร้อมคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ที่มีไฟพื้นหลังสีฟ้าเสริมบรรยากาศ ระบบเสียง Dolby Audio™ พลังที่แท้จริงของเทคโนโลยีเสียงขั้นสูง การเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมแบบพกพา และซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจเช็กสเปคตัวเครื่องได้สะดวกขึ้น รวมถึงเชื่อมต่อปรับจูนกับเกมที่ติดตั้งไว้ได้ด้วย โปรเซสเซอร์: 9th Gen Intel® Core™ i7 กราฟิก: ตัวเลือกสูงสุด NVIDIA® GeForce® GTX 1650 หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 24GB DDR4 ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 256GB SSD + 1TB จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching กันแสงสะท้อน แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 9 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   Legion 5 (AMD) แล็ปท็อปขั้นเทพเพื่อเกมเมอร์ตัวจริง มาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ และระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0 ควบคุมอุณหภูมิเครื่องได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Q Control 3.0 ผู้ใช้สามารถเลือกปรับโหมดได้ด้วยตนเอง ระหว่าง Quiet, Balance และ Performance รีเฟรชเรทที่ 144Hz เล่นเกมได้ลื่นไหลต่อเนื่อง และระบบลำโพง 2W Harman Kardon คู่กับ Dolby Atmos โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุดโปรเซสเซอร์โมบายล์ AMD Ryzen™ 7 4800H กราฟิก: ตัวเลือกสูงสุด AMD Radeon™ 620 สูงสุด NVIDIA® GeForce® RTX™ 2060 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB SSD จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 300 nits 100% sRGB Dolby Vision แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   ThinkPad T14s แล็ปท็อปทรงพลังพกพาสะดวกสำหรับการทำงาน มาพร้อมฟีเจอร์ที่ทันสมัยอย่าง Modern Standby เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ภายในหนึ่งวินาที และ Wake On Voice รับฟังคำสั่งของผู้ใช้ได้จากทุกมุมห้อง เมื่อเปิดฝาจอเครื่องไว้ เพิ่มความคล่องตัวให้งานทุกประเภท โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยครบวงจร ThinkShield การ์ด LTE-A WWAN อุปกรณ์เสริมช่วยให้ผู้ใช้งานออนไลน์ได้ทุกที่ และ AMD Memory Guard เข้ารหัสหน่วยความจำเพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น โปรเซสเซอร์: AMD Ryzen™ 5 Pro กราฟิก: AMD Radeon™ Vega หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 500 nits PrivacyGuard Touchscreen แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 16 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   ThinkPad X13 (AMD) แล็ปท็อปที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับธุรกิจ มาพร้อม ThinkShutter สำหรับปิดเว็บแคม และหน้าจอ PrivacyGuard with PrivacyAlert ป้องกันไม่ให้คนแอบดูหน้าจอจากข้างหลังผู้ใช้ ทั้งสองเป็นฟีเจอร์ของ ThinkShield ชุดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม การเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6 เพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไม่ติดขัด และฟังก์ชันใหม่บนปุ่ม F9-F11 ให้ผู้ใช้โทรออก รับสาย หรือวางสายโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย โปรเซสเซอร์: AMD Ryzen™ 5 Pro กราฟิก: AMD Radeon™ Vega หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB SSD จอ: 13.3 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 500 nits PrivacyGuard แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 13 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro
07 Dec 2020
Lenovo Legion Phone Duel ปฐมบทแห่ง Legion เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ขั้นสุดแห่งพลังของการเล่นเกมบนมือถือ
(กลาง) คุณธเนศ อังคศิริสรรพ, ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน, (ขวา) คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ, ผู้จัดการทั่วไปประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ประจำไทย และ (ซ้าย) คุณศรัณยพงศ์ สินทิพย์, ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง เลอโนโว ถ่ายภาพในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel ประเทศไทย - 22 ตุลาคม 2020 -– เลอโนโวเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Lenovo Legion Phone Duel ที่มาพร้อม Duel Technology Architecture ช่วยผสานการออกแบบเครื่องทั้งซอฟต์แวร์ภายใน และฮาร์ดแวร์ภายนอกให้ตอบโจทย์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนอย่างไร้ข้อจำกัดที่แท้จริง Lenovo Legion คือไลน์ผลิตภัณฑ์เกมมิ่งจากเลอโนโวที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก1 โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อการเล่นเกมอีกมากมาย วันนี้เลอโนโวพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมด้วยการเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ออกแบบขึ้นจาก feedback ของเกมเมอร์ทั่วโลกว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้ามองหาในผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน  ความนิยมของการเล่นเกม e-sport บนมือถือมีการเติบโดอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เกมเมอร์มองหาในเครื่องคือ การจัดการความร้อนที่ต้องทำได้ดี มีปุ่มกดเฉพาะเพื่อการปรับแต่งที่สะดวก และสามารถใช้งาน livestreaming ได้เพื่อที่เกมเมอร์เหล่านี้จะได้โชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์บนเวทีการแข่งขันที่เชื่อมถึงกันทั่วโลก เลอโนโวได้ออกแบบ Legion Phone Duel  ให้ไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อความต้องการที่เหล่าเกมเมอร์มองหา แต่ยังให้คุณสมบัติแห่งอนาคตที่เหนือไปอีกขั้นกับความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G และคลาวด์เกมมิ่ง เหนือสุดแห่งความแรง ที่สุดแห่งความเร็ว Legion Phone Duel มาพร้อมชิปเซ็ตอันทรงพลังอย่าง Qualcomm® Snapdragon™ 865 Plus ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเครื่องที่เร็วและแรงผ่านเทคโนโลยี Qualcomm Snapdragon Elite Gaming™ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 5G2 เสริมประสิทธิภาพเครื่องด้วย 5th gen ชิปเช็ตหน่วยความจำสูงสุดถึง 16GB LPDDR5, RAM และความจุสูงสุดถึง 512GB3 UFS 3.1.5. เต็มที่กับการแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.65 นิ้ว ความละเอียดมากถึง 2340 x 1080 พิกเซล พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง  144Hz นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ (touch sample rate) ที่สูงถึง 240Hz ช่วยให้ทุกสัมผัสหน้าจอตอบสนองอย่างรวดเร็วในทุกเกมแห่งชัยชนะ ผสานพลังจากภายนอกและภายในด้วย Dual Technology Architecture สองย่อมดีกว่าหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Dual Technology Architecture ที่เป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ Legion Phone Duel เริ่มต้นตั้งแต่วงจรพลังงานของเครื่อง Dual Batteries - แบตเตอรี่แบบแพ็คคู่ขนาด 2500mAh ที่รวมแล้วให้ความจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถูกจัดวางให้อยู่ด้านซ้ายและขวาในตำแหน่งที่ตรงกับฝ่ามือ เพื่อเว้นที่ตรงกลางสำหรับวาง logic board ที่มีความร้อนให้ไกลกับฝ่ามือของผู้ใช้งานซึ่งมีความร้อนเช่นกัน เพื่อจัดการอุณหภูมิในการเล่นของเครื่องให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องสบายมือ จะเล่นเกมติดต่อกันแบบมาราธอนก็สามารถทำได้อย่างไร้กังวล ด้วยเทคโนโลยีท่อระบายความร้อนระดับ     ไฮเอนด์แบบ Dual-Liquid, แผ่นกราไฟต์ที่ถ่ายเทความร้อนได้ดีเยี่ยม และแผ่นทองแดง เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเที่ยงตรง ให้เกมเมอร์เต็มที่กับประสบการณ์เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและยาวนาน Dual Type-C Charging ให้ความสะดวกในการชาร์จด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C  2 ตำแหน่งที่ด้านข้างและด้านล่างของเครื่องเพื่อให้คุณเลือกชาร์จแบตเตอรี่จากที่ชาร์จขนาด 65W ได้ทั้งแบบหนึ่งหรือ 2 ที่ชาร์จพร้อมกันโดยจะให้พลังแบตเตอรี่จาก 0% - 100% ภายใน 34 นาที (หรือ 0% - 60% ใน 15 นาที) Dual Shoulder Controls ปุ่มไกควบคุมแบบอัลตร้าโซนิคด้านซ้ายขวามาพร้อมกลไก Dual Haptics ที่ช่วยให้ทุกการกดในขณะเล่นเกมได้ความลึกสมจริงเสมือนเป็นปุ่มกดจริงทั้งยังสามารถปรับระดับการตอบสนองให้รับกับความต้องการของผู้เล่นได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น การปรับโหมดการยิงในเกม (สูงสุดที่การยิง 10 ครั้งต่อวินาที) ด้วยการกดปุ่มไกแบบลากยาว เซ็นเซอร์แบบ gyroscope ช่วยปรับมุมมองในการเล่นให้เป็นแบบเกมมิ่งโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณหมุนเครื่องให้อยู่ในแนวนอนในลักษณะพร้อมเล่นเกม Dual Front-Facing Speakers ลำโพงคู่หน้าที่หันเข้าหาผู้เล่นให้คุณได้ยินเสียงฝีเท้าคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac Audio ที่มาพร้อมอะคูสติก แชมเบอร์ขนาดใหญ่ถึง 1.4cc ให้เสียงดังแบบ 3 มิติ รับประสบการณ์เสมือนได้เข้าไปอยู่ในเกม Dual Livestreaming ฟังก์ชั่นสำหรับการไลฟ์สตรีมผ่านกล้องหน้าแบบ pop-up ความละเอียดขนาด 20MP ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่โหมดการไลฟ์สตรีมในเวลาเพียง 0.5 วินาที ไลฟ์สตรีมหน้าและเสียงขณะเล่นกับภาพแบบ overlay บนหน้าจอเกมที่เล่น ซึ่งฟังก์ชัน Dual Livestreaming สามารถใช้งานได้บนแอปที่รองรับการไลฟ์สตรีมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวฟังก์ชันยังมาพร้อมความสามารถในการลบภาพพื้นหลัง ปรับแต่งใบหน้าของคุณด้วย selfie editor ที่ใช้ความสามารถของ AI ในการรีทัช ปรับแต่งภาพและสร้างฟิลเตอร์ บันทึกเสียงทุกการไลฟ์ให้ดังฟังชัดด้วยไมโครโฟนแบบรอบทิศทาง 4 ตัวที่มาพร้อมระบบจัดการเสียงรบกวนรอบข้าง Legion Phone Duel มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 64MP และเลนส์แบบ ultrawide ขนาด 16MP ให้ภาพละเอียดคมชัดในทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังรอบรับการอัดวีดีโอแบบ 4K ที่เฟรมเรต 30FPS เล่นในแบบที่คุณต้องการ ต่อเนื่องตลอดวัน Legion Phone Duel มาพร้อมอินเตอร์เฟซแบบเฉพาะที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเครื่องในมุมมองแบบแลนด์สแคปได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม Legion Realm แดชบอร์ดกลางของเครื่องที่ให้ผู้ใช้ควบคุมปรับแต่งฮาร์ดแวร์เครื่อง ไล่ดูรายชื่อเกมที่ดาวน์โหลดไว้ หรือเลือกเครือข่ายในการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น  WLAN, 5G, หรือ Wi-Fi 6 ได้อย่างรวดเร็ว ดูเกมที่คุณเล่นย้อนหลังเพื่อศึกษากลยุทธในฉากที่ไฮไลท์ก็ทำได้อย่างง่าย ๆ ผ่านฟังก์ชั่นการพรีวิว หรือจะรวมคลิปเข้าด้วยกันเพื่อแชร์ให้เพื่อรวมทีมไปศึกษาก็ทำได้ หรือถ้าคุณเพิ่งผ่านสมรภูมิสุดหิน หรือทำสถิติคะแนนใหม่แต่คุณลืมที่จะกด record ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงแค่คุณสไลด์นิ้วมือไปทางซ้ายบนปุ่มไกควบคุมด้านขวา เกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดอัจฉริยะอย่าง Legion Phone Duel ก็จะรีเพลย์ฉากที่เครื่องอัดไว้แบบอัตโนมัติให้กับคุณเพื่อที่คุณจะสามารถกดอัดบันทึกไว้ดูในอนาคต ไม่พลาดทุกการติดต่อที่สำคัญด้วยการปรับแต่งสีไฟ RGB บน สัญลักษณ์ตัว Y ด้านหลังเครื่องให้เปลี่ยนสีเพื่อเตือนเมื่อคุณมีข้อความเข้า หรือบอกสถานการณ์ชาร์จของแบตเตอรี่ และสุดท้าย หากคุณต้องการเปลี่ยนอรรถรสในการเล่นจากหน้าจอเครื่องไปที่จอมอนิเตอร์เพื่อมุมมองที่แปลกใหม่ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงต่อ Legion Phone Duel เข้ากับจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด หรือเม้าส์ผ่านพอร์ต USB-C Lenovo Legion Phone Duel จะวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้ Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ  Lenovo Legion Phone Duel ได้แก่ AIS, Banana, Blue Shop, IT-City, JD, JIB และ Speed Computer  Pre-Order Promotion สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 22 – 28 ตุลาคม 2020 รับสิทธิรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุดกว่า 3,500 บาท ดังนี้  Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 THB รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท และ Legion Gaming Headset H300 มูลค่า 1,390 บาท ติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ Lenovo Legion ในประเทศไทยได้ที่  www.lenovo.com/th/th/legion และ https://www.facebook.com/lenovolegionTH/
22 Oct 2020
Lenovo เปิดตัวโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งใหม่ ที่มาพร้อมกับสเปคสุดแรงในราคาที่จับต้องได้!
Lenovo นับเป็นแบรนด์สินค้า IT ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดเกมบ้านเราในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต้วผมเองก็ยอมรับว่าแบลนด์นี้ขายสินค้าในราคาที่ไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ และวันนี้ทางเรา GameFever Th ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเปิดตัวโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งตัวใหม่จากทาง Lenovo ด้วย โดยต้องบอกเลยว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับสเปคสุดแรงในราคาที่จับต้องได้ครับ! Lenovo Ideapad Gaming 3 และ Legion 5 คือชื่อของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะมีการเปิดตัวเมื่อเช้านี้ครับ โดย Ideapad Gaming 3 จะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาไม่แพง แต่ยังคงมาพร้อมกับสเปคของเครื่องที่แรงพอสมควร ซึ่งราคาของรุ่นนี้จะมี 2 แบบคือรุ่นที่ใช้การ์ดจอ GTX 1650 กับรุ่นที่ใช้ GTX 1650Ti ทั้งสองรุ่นมีราคาต่างกันเพียงแค่ 2,000 บาทเท่านั้น สามารถดูรายละเอียดของสินค้า และของแถมได้ข้างล่างนี้! ในส่วนของ Legion 5 จะเป็นรุ่นที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยสเปคของรุ่นนี้จะมี 2 รุ่นให้สามารถเลือกซื้อได้ในตอนนี้เช่นกัน โดย จะแตกต่างกันแค่ในส่วนของการ์ดจอเช่นกันโดยตัวแรก จะมาพร้อมกับ CPU Ryzen 7 4000H กับการ์ดจอ 1660Ti ในราคา 36,900 บาท ส่วนตัวที่ 2 จะมาพร้อมกับ CPU Ryzen 5 4000H ที่ลดลงมา 1 ขั้น แต่ได้การ์ดจอเป็น RTX 2060 แทน ซึ่งรุ่นนี้ก็มีราคาอยู่ที่ 36,900 บาทเช่นกัน แถมพิเศษถ้าหากซื้อก่อนวันที่ 30 กันยายนนี้ จะได้รับแรมไปเลยๆ ฟรีอีก 8 GB ด้วย ส่วนสำหรับใครที่ต้องการให้สุดไปเลยทั้งฝั่ง CPU และ GPU ดูเหมือนว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการวางขาย Legion 5 ที่ ใช้ทั้ง CPU Ryzen 7 4000H + RTX 2060 ด้วย ก็ขอให้รอกันอีกนิดครับ (ป.ล Legion 5 ได้ของแถมอื่นๆ แบบเดียวกับที่ Ideapad Gaming 3 ได้ด้วยนะ)
10 Sep 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "lenovo"
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo Legion 5 ที่สุดแห่งดีไซน์! โมเดลที่เหมาะจะเป็นเครื่องรองพกพามากที่สุด
โดยปกติแล้ว เชื่อว่าเกมเมอร์บน PC ในปัจจุบันได้หันมาใช้เครื่องแบบประกอบกันหมดแล้ว เนื่องจากมีราคาถูกลงเป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถเพิ่มลดราคาในชิ้นส่วนต่างๆ ได้ตามใจ แต่การใช้เครื่องแบบประกอบก็มีปัญหาในเรื่องของความสะดวกเวลาใช้งานนอกสถานที่ เนื่องจากการยกไปยกมาไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ส่งผลให้หลายคนเลือกที่จะซื้อ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาไม่แพงมาก เอาไว้ใช้เล่นเกมเมื่อจำเป็นต้องเดินทางไปที่ไกลๆ ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตเองก็เล็งเห็นถึงจุดนี้ และเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งราคาจับต้องได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Lenovo ที่ออกซีรีส์ Legion ของพวกเขาให้มีราคาตั้งแต่ 20,000 กลางๆ ไปจนถึง เกือบๆ 100.000 โดยเครื่องที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักวันนี้คือ LENOVO LEGION 5 15ARH05-82B500FQTA ที่มีราคาอยู่ที่ประมาณ 33.000 บาท ครับ ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เรื่องแรกที่เห็นแล้วเป็นต้องหลงรักเลยคือในเรื่องของดีไซน์ที่มาในสีดำเรียบทั้งเครื่อง เรียบเนียน บางเฉียบ คือเห็นแล้วจะมีความรู้สึกว่า "เครื่องนี้จะต้องมีราคาอย่างแน่นอน" แต่ในความเป็นจริงๆ ราคาของ Legion 5 ก็ไม่ถึงกับจับต้องไม่ได้เหมือนกับตัวท็อปๆ ของแบรนด์อื่นครับ ล่าสุดที่พบเช็กในเว็บไซต์ของ JIB รุ่นที่ผมได้มามีราคาแค่เพียง 32,900 บาทเท่านั้น คือเรียกได้ว่าไม่แพงจนเกินไปจริงๆ น้ำหนักเพียง 2.46 กิโล เบากว่านี้ก็มือถือแล้ว Legion 5 ถือได้ว่าเป็นโมเดลที่ Lenovo ใส่ใจเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยสามารถสัมผัสได้เลยหลังจากได้ใช้งานด้วยตัวเอง เรื่องแรกคือน้ำหนักที่ไม่มากจนเกินไปเพียงแต่ 2.46 กิโลเท่านั้น ส่งผลให้การพกพาโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนี้ไปเล่นนอกสถานที่สามารถทำได้ง่าย และไม่เป็นภาระของผู้ใช้งาน พอร์ตเชื่อมต่อที่ให้มาเยอะ และไม่เกะกะ เรื่องที่สองคือพอร์ตการเชื่อมต่อ Legion 5 ออกแบบให้เกือบทั้งหมดต้องทำผ่านหลังเครื่องเท่านั้น และเหลือ USB ไว้ทางซ้ายกับขวาของเครื่องเพียงแค่ด้านละ 1 พอร์ต ซึ่งการทำแบบนี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่สำหรับขยับเมาส์ไปมาได้มากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาหัวของสาย USB จากเมาส์, คีย์บอร์ด, สาย Power, และ สาย HDMI มักสร้างปัญหากินพื้นที่ข้างๆ ของโน๊ตบุ๊คไปโดยไม่จำเป็นเสมอ ถือได้ว่าคิดเพื่อผู้ใช้งานมาเป็นอย่างดีจริงๆ ครับ คุณสมบัตติทางเทคนิค CPU: AMD Ryzen 7 4600H Max boots 4.2 GHz GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6 Screen Size: 15.6" (1920x1080) Full HD Panel Type: IPS Anti Glare – จอด้าน Refresh Rate: 144 Hz Memory Size: 8 GB DDR4 Solid State Drive: 512 GB SSD PCIe M.2 Weight: 2.46 kg OS Bundle: Windows 10 Home (64 Bit) หลังจากได้อ่านสเปคคร่าวๆ แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับสเปคที่แรงอะไรมากมายนัก แต่ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อยจนเล่นเกมใหญ่ๆ ไม่ไหว กล่าวคือเป็นสเปคที่สมราคา และไม่แพงจนเกินไปจะถือว่าถูกต้องที่สุดครับ ออกแบบมาให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น โดยปกติแล้วโน๊ตบุ๊คจะมีข้อเสียที่ร้ายแรงมากๆ อยู่ที่การระบายความร้อน เนื่องจากพัดลมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และทิศทางการระบายที่ไม่ดีเท่ากับเครื่อง PC โดยเจ้า Legion 5 ถูกออกแบบมาดูดลมเย็นเข้าข้างล่าง และระบายออกทางด้านหลังของเครื่อง และมีการยกเครื่องให้สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ลมเย็นสามารถไหลเข้าไปใต้เครื่องได้ง่ายขึ้น ซึ่งก็ถือว่าช่วยได้เยอะมากเลยจาก เท่าที่ผมได้ใช้งานมาครับ เล่นเกมเป็นไง ในส่วนของการเล่นเกมตัวผมเองได้ทำการ Test ในเกมสองกลุ่มคือที่เป็นแนว Online เน้นไปที่การเล่นแบบ Multiplayer กับกลุ่มเกม AAA ที่มีกราฟิกหนักๆ ซึ่งจะขอกล่าวรวมถึงโชว์ผลทดสอบต่อไปแบบแบ่งหมวดหมู่กันข้างล่างนี้ครับ เกม AAA โดยปกติเกมตระกูลนี้จะมาพร้อมกับ ภาพ / กราฟิก ที่สวยงาม ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความสามารถของ Hardware ที่สูงถึงจะดันภาพได้มากกว่า 60 FPS ผมได้ทดลองใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทดลองเล่น 3 เกมด้วยกันคือ Shadow of the Tomb Raider, Assassins Creed Valhalla และ Cyberpunk 2077 ครับ Shadow of the Tomb Raider ผมทดลองใช้ Benchmark ที่ตัวเกมมีมาให้ ในการทดสอบคุณภาพกราฟิกระดับ High ดู โดยเจ้าเครื่องนี้สามารถทำ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 54 FPS ซึ่งถือว่าทำได้เกินความคาดหมายของผมอยู่พอสมควร เนื่องจากเกมนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างจะกินสเปคมาก และมีผู้เล่นหลายคนบ่นเกี่ยวกับเรื่อง FPS ที่ต่ำครับ ดูผลทดสอบได้ข้างล่างนี้ Assassins Creed Valhalla ต่อมาคือเกมภาคต่อของซีรีส์นักฆ่าที่ให้เรารับบทเป็นชาวไวกิง ซึ่งด้วยความที่เกมนี้มี Benchmark มาให้เหมือนกันผมเลยทำการทดสอบโดยตั้งคุณภาพของกราฟิกเป็นแบบ Custom โดยดันตัวเลือกต่างๆ ขึ้นไป High ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (แรมการ์ดจอน้อยเลยไป High หมดไม่ได้ครับ) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ 45 FPS ต่ำสุด 28 และสูงสุด 70 ครับ ดูผลทดสอบเต็มๆ ได้ข้างล่าง Cyberpunk 2077 ปิดท้ายด้วยเกมฟอร์มยักษ์จากทาง CD Projekt Red ที่น่าจะมีกราฟิกโหดที่สุดในตอนนี้ น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่มี Benchmark มาให้ใช้ด้วยเช่นเดียวกับทั้งสองเกมข้างบนผมจึงไม่มีค่าเฉลี่ยหรือกราฟมาให้ดู เบื้องต้นผมตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ Medium เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ใกล้เคียงกับ Assassins Creed Valhalla มีค่า Refresh Rate เฉลี่ยได้อยู่ที่ประมาณ 45 FPS มีลงไปต่ำถึง 22 - 28 FPS บ้าง และในฉากต่อสู้แบบดุเดือดจัดๆ จะเฉลี่ยอยู่ที่ 35 - 40 FPS ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ แนว Online เน้น Multiplayer เชื่อว่าถ้าเป็นแนวนี้เพื่อนๆ น่าจะอยากเห็นผลทดสอบของเกมตระกูล FPS มากที่สุดผมจึงเลือกเกมมาทดสอบสองตัวด้วยกันคือ Apex Legends และ Valorant ครับ Apex Legends ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม Battle Royale ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีอายุได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเพื่อนๆ ที่เล่นเกมนี้อยู่น่าจะทราบดีเลยว่า Apex เป็นเกมอีกเกมกินสเปคสูงมาก โดยในการทดสอบครั้งนี้ผมได้ตั้งค่าทุกอย่างเอาไว้ที่ High เลย ซึ่งเครื่องก็สามารถทำ FPS เฉลี่ยได้มากกว่า 60 FPS และมีขึ้นไปสูงถึง 100 FPS บ้างในที่มืด รวมถึงมีตกลงไปถึง 49 FPS บ้างเวลาดวลปืนกันแบบเดือดๆ ครับ สังเกต FPS ได้ที่มุมซ้ายบน ของแต่ละภาพ Valorant ดูเกมที่ใช้สเปคแรงๆ ไปแล้วมาดูเกมที่ไม่ค่อยกินเท่าไหร่อย่าง Valorant บ้าง เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมได้ตั้งค่ากราฟิกของเกมไว้ที่ High เช่นกัน โดยค่า FPS เฉลี่ยก็อยู่ที่มากกว่า 120 ครับมีบางครั้งที่ตกลงไปถึง 100 บ้าง และก็มีบางครั้งที่พุ่งขึ้นไปถึง 170 FPS เช่นกัน สรุป โดยรวมแล้ว Legion 5 ถือเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องรอง ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกมเวลาจำเป็นต้องออกไปนอกสถานที่สำหรับเหล่าเกมเมอร์ และอาจเป็นเครื่องที่เหมาะจะใช้เป็นเครื่องหลักหากไม่ได้มีรสนิยมชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ ก็สามารถซื้อรุ่นนี้ไปใช้งานได้ แต่ถ้าหากเป็นคนชอบเล่นเกมที่ใช้สเปคหนักๆ เป็นหลักแล้วละก็ ตัวผมเองไม่แนะนำเท่าไหร่ครับ เนื่องจากต่อให้โมเดลนี้จะสามารถระบายความร้อนได้ดีขนาดไหน ตัวเครื่องก็ยังถือว่ามีความร้อนที่สูงจนอาจเป็นอันตรายต่อ อะไหล่ภายใน หรือตัวผู้ใช้งานอยู่ดีครับ  
19 Feb 2021
Lenovo ส่งท้ายปีเก่าด้วยแคมเปญ 12.12 GREAT SALE นำทัพแล็ปท็อปรุ่นดังลดสูงสุด 12%
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 4 ธันวาคม 2563 – เลอโนโว บริษัทผู้นำด้านคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทดีไวซ์ระดับโลก ผุดแคมเปญ 12.12 GREAT SALE ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ขนแล็ปท็อปรุ่นดัง อย่าง IdeaPad, Legion, ThinkBook และ ThinkPad มาลดราคาคืนกำไรให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน เกมเมอร์ ผู้ประกอบธุรกิจ หรือองค์กรทั่วประเทศ โดยแคมเปญจะมี ตั้งแต่วันที่ 7 – 16 ธันวาคม 2563 รายละเอียดแคมเปญ ลดออนท็อปสูงสุด 12% ทันที! กับโค้ด LNV12 ตลอด 10 วันของแคมเปญ พิเศษ! วันที่ 12 เดือน 12 มีสินค้าลดพิเศษ 50% ถึง 7 รุ่น ที่เว็บไซต์ https://lnv.gy/3mvl9Bi ThinkPad X1 Carbon Gen 8 (20U9S00R00) ThinkBook 13s (20R900E7TA) ThinkBook Plus (20TG004HTA) ThinkBook Plus (20TG004GTA) ThinkPad T15 (Intel) (20S6S00N00) ThinkBook Plus (20TG005DTA)  ThinkCentre M75n (11BSS01U00) ThinkCentre M720 SFF (10SUSF6400) แล็ปท็อปทุกรุ่นสามารถปรับแต่งสเปคได้ตามความต้องการก่อนกดสั่งซื้อ เช่น ต้องการตัวเลือกหน้าจอสูงสุด หรือต้องการตัวจัดเก็บข้อมูลที่จุได้มากขึ้น สามารถใช้สิทธิ์ ช้อปดีมีคืนได้ : เมื่อช้อปผลิตภัณฑ์จุใจแล้ว ได้ทั้งแล็ปท็อปใหม่ ทั้งเงินภาษีคืน 2 ต่อแบบนี้ ไม่ควรพลาด! สามารถผ่อน 0% ได้สูงสุดถึง 10 เดือน! กับธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบัตรกรุงไทย เลอโนโวยังคงส่งมอบเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอันชาญฉลาดให้ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเปลี่ยนแปลงที่นำโดยบริการ การขับเคลื่อนสังคมทั่วโลกให้เข้าถึงโอกาสที่ดีกว่า และการเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดน ไฮไลท์แล็ปท็อปที่ร่วมโปรโมชั่น ThinkPad X1 Carbon Gen 8 แล็ปท็อปพรีเมียมบางเบาเพื่องานธุรกิจ มาพร้อมโซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยในตัวอย่าง ชุดโปรแกรม ThinkShield อัพเดทใหม่ล่าสุด หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานและเก็บข้อมูล ระบบลำโพง Dolby Atmos ช่วยสร้างประสบการณ์เสียงอันเยี่ยมยอด และการรับรองว่าผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานระดับ military grade 12 ขั้นตอน รวมถึงการทดสอบคุณภาพระดับสูงถึง 200 รูปแบบ โปรเซสเซอร์: 10th Gen Intel® Core™ i5 กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics 620 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: 1TB SSD จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K in-plane switching พร้อม Dolby Vision HDR400, ความสว่าง 500 nits, 10 bit แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   ThinkPad X1 Carbon Gen 7 แล็ปท็อประดับโปรสำหรับการทำงานทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมฝาหลังแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ความบางเพียง 14.9 มม. ระบบสแกนลายนิ้วมือไบโอเมตริกซ์ ให้การเข้าใช้งานเครื่องเป็นเรื่องง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ ThinkShield ชุดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย และตัวเลือกการ์ด LTE-A คู่กับเทคโนโลยี WWAN ออนไลน์ได้เหมือนใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุด 10th Gen Intel® Core™ i7 กราฟิก: Integrated Intel® UHD Graphics 620 หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 16GB LPDDR3 ตัวจัดเก็บข้อมูล: ตัวเลือกสูงสุด 2TB SSD PCIe จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด 4K in-plane switching พร้อม Dolby Vision HDR400, ความสว่าง 500 nits, 10 bit แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 18 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   ThinkBook ขนาด 15 นิ้ว แล็ปท็อปประสิทธิภาพระดับองค์กร แต่ราคาระดับ mid-range มาพร้อมบานพับโลหะผสมที่ใช้เทคโนโลยี Powdere-Metal ทนทานต่อการเปิด-ปิดกว่า 25,000 รอบ ขอบจอสุดบาง จอมีสัดส่วนพื้นที่การมองมากถึง 83% เมื่อเทียบกับขนาด และพอร์ต USB 3.1 ช่วยให้ผู้ใช้ชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้ตลอดเวลา แม้เครื่องปิดอยู่ และการรับรองว่าผ่านการทดสอบความแข็งแกร่งทนทานระดับทหาร 12 ขั้นตอน รวมถึงการทดสอบคุณภาพระดับสูงถึง 200 รูปแบบ โปรเซสเซอร์: 10th Gen Intel® Core™ i5 กราฟิก: Intel UHD หรือตัวเลือกกราฟิกแยก AMD Radeon™ 620 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: ตัวเลือกสูงสุด 2TB แบบ HDD หรือ 1TB แบบ M.2 PCIe SSD หรือตัวเลือก Intel® Optane™ Memory H10 + 512GB SSD จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   IdeaPad L340 Gaming แล็ปท็อปเร็วแรงคู่กายสายเกม มาพร้อมคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ที่มีไฟพื้นหลังสีฟ้าเสริมบรรยากาศ ระบบเสียง Dolby Audio™ พลังที่แท้จริงของเทคโนโลยีเสียงขั้นสูง การเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi 5 ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมแบบพกพา และซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage ช่วยให้ผู้ใช้ตรวจเช็กสเปคตัวเครื่องได้สะดวกขึ้น รวมถึงเชื่อมต่อปรับจูนกับเกมที่ติดตั้งไว้ได้ด้วย โปรเซสเซอร์: 9th Gen Intel® Core™ i7 กราฟิก: ตัวเลือกสูงสุด NVIDIA® GeForce® GTX 1650 หน่วยความจำ: ตัวเลือกสูงสุด 24GB DDR4 ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 256GB SSD + 1TB จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching กันแสงสะท้อน แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 9 ชั่วโมง มีระบบ Rapid Charge ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   Legion 5 (AMD) แล็ปท็อปขั้นเทพเพื่อเกมเมอร์ตัวจริง มาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ และระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0 ควบคุมอุณหภูมิเครื่องได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Q Control 3.0 ผู้ใช้สามารถเลือกปรับโหมดได้ด้วยตนเอง ระหว่าง Quiet, Balance และ Performance รีเฟรชเรทที่ 144Hz เล่นเกมได้ลื่นไหลต่อเนื่อง และระบบลำโพง 2W Harman Kardon คู่กับ Dolby Atmos โปรเซสเซอร์: ตัวเลือกสูงสุดโปรเซสเซอร์โมบายล์ AMD Ryzen™ 7 4800H กราฟิก: ตัวเลือกสูงสุด AMD Radeon™ 620 สูงสุด NVIDIA® GeForce® RTX™ 2060 หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB SSD จอ: 15.6 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 300 nits 100% sRGB Dolby Vision แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 Home   ThinkPad T14s แล็ปท็อปทรงพลังพกพาสะดวกสำหรับการทำงาน มาพร้อมฟีเจอร์ที่ทันสมัยอย่าง Modern Standby เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ภายในหนึ่งวินาที และ Wake On Voice รับฟังคำสั่งของผู้ใช้ได้จากทุกมุมห้อง เมื่อเปิดฝาจอเครื่องไว้ เพิ่มความคล่องตัวให้งานทุกประเภท โซลูชั่นการรักษาความปลอดภัยครบวงจร ThinkShield การ์ด LTE-A WWAN อุปกรณ์เสริมช่วยให้ผู้ใช้งานออนไลน์ได้ทุกที่ และ AMD Memory Guard เข้ารหัสหน่วยความจำเพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น โปรเซสเซอร์: AMD Ryzen™ 5 Pro กราฟิก: AMD Radeon™ Vega หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB จอ: 14 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 500 nits PrivacyGuard Touchscreen แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 16 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro   ThinkPad X13 (AMD) แล็ปท็อปที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับธุรกิจ มาพร้อม ThinkShutter สำหรับปิดเว็บแคม และหน้าจอ PrivacyGuard with PrivacyAlert ป้องกันไม่ให้คนแอบดูหน้าจอจากข้างหลังผู้ใช้ ทั้งสองเป็นฟีเจอร์ของ ThinkShield ชุดโปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม การเชื่อมต่อไร้สาย WiFi 6 เพื่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบไม่ติดขัด และฟังก์ชันใหม่บนปุ่ม F9-F11 ให้ผู้ใช้โทรออก รับสาย หรือวางสายโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย โปรเซสเซอร์: AMD Ryzen™ 5 Pro กราฟิก: AMD Radeon™ Vega หน่วยความจำ: 8GB ตัวจัดเก็บข้อมูล: HDD 512GB SSD จอ: 13.3 นิ้ว ตัวเลือกสูงสุด FHD in-plane switching ความสว่าง 500 nits PrivacyGuard แบตเตอรี่: ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 13 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ: ตัวเลือกสูงสุด Windows 10 Pro
07 Dec 2020
Lenovo Legion Phone Duel ปฐมบทแห่ง Legion เกมมิ่งสมาร์ทโฟน ขั้นสุดแห่งพลังของการเล่นเกมบนมือถือ
(กลาง) คุณธเนศ อังคศิริสรรพ, ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน, (ขวา) คุณวรพจน์ ถาวรวรรณ, ผู้จัดการทั่วไปประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ประจำไทย และ (ซ้าย) คุณศรัณยพงศ์ สินทิพย์, ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง เลอโนโว ถ่ายภาพในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel เกมมิ่งสมาร์ทโฟน Lenovo Legion Phone Duel ประเทศไทย - 22 ตุลาคม 2020 -– เลอโนโวเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรก Lenovo Legion Phone Duel ที่มาพร้อม Duel Technology Architecture ช่วยผสานการออกแบบเครื่องทั้งซอฟต์แวร์ภายใน และฮาร์ดแวร์ภายนอกให้ตอบโจทย์การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนอย่างไร้ข้อจำกัดที่แท้จริง Lenovo Legion คือไลน์ผลิตภัณฑ์เกมมิ่งจากเลอโนโวที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก1 โดยมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมที่ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จอมอนิเตอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อการเล่นเกมอีกมากมาย วันนี้เลอโนโวพร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกมด้วยการเปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ออกแบบขึ้นจาก feedback ของเกมเมอร์ทั่วโลกว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้ามองหาในผลิตภัณฑ์เกมมิ่งสมาร์ทโฟน  ความนิยมของการเล่นเกม e-sport บนมือถือมีการเติบโดอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เกมเมอร์มองหาในเครื่องคือ การจัดการความร้อนที่ต้องทำได้ดี มีปุ่มกดเฉพาะเพื่อการปรับแต่งที่สะดวก และสามารถใช้งาน livestreaming ได้เพื่อที่เกมเมอร์เหล่านี้จะได้โชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์บนเวทีการแข่งขันที่เชื่อมถึงกันทั่วโลก เลอโนโวได้ออกแบบ Legion Phone Duel  ให้ไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อความต้องการที่เหล่าเกมเมอร์มองหา แต่ยังให้คุณสมบัติแห่งอนาคตที่เหนือไปอีกขั้นกับความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G และคลาวด์เกมมิ่ง เหนือสุดแห่งความแรง ที่สุดแห่งความเร็ว Legion Phone Duel มาพร้อมชิปเซ็ตอันทรงพลังอย่าง Qualcomm® Snapdragon™ 865 Plus ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผลเครื่องที่เร็วและแรงผ่านเทคโนโลยี Qualcomm Snapdragon Elite Gaming™ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน 5G2 เสริมประสิทธิภาพเครื่องด้วย 5th gen ชิปเช็ตหน่วยความจำสูงสุดถึง 16GB LPDDR5, RAM และความจุสูงสุดถึง 512GB3 UFS 3.1.5. เต็มที่กับการแสดงผลบนหน้าจอขนาด 6.65 นิ้ว ความละเอียดมากถึง 2340 x 1080 พิกเซล พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง  144Hz นอกจากนี้ยังรองรับอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ (touch sample rate) ที่สูงถึง 240Hz ช่วยให้ทุกสัมผัสหน้าจอตอบสนองอย่างรวดเร็วในทุกเกมแห่งชัยชนะ ผสานพลังจากภายนอกและภายในด้วย Dual Technology Architecture สองย่อมดีกว่าหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Dual Technology Architecture ที่เป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ Legion Phone Duel เริ่มต้นตั้งแต่วงจรพลังงานของเครื่อง Dual Batteries - แบตเตอรี่แบบแพ็คคู่ขนาด 2500mAh ที่รวมแล้วให้ความจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ถูกจัดวางให้อยู่ด้านซ้ายและขวาในตำแหน่งที่ตรงกับฝ่ามือ เพื่อเว้นที่ตรงกลางสำหรับวาง logic board ที่มีความร้อนให้ไกลกับฝ่ามือของผู้ใช้งานซึ่งมีความร้อนเช่นกัน เพื่อจัดการอุณหภูมิในการเล่นของเครื่องให้สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่องสบายมือ จะเล่นเกมติดต่อกันแบบมาราธอนก็สามารถทำได้อย่างไร้กังวล ด้วยเทคโนโลยีท่อระบายความร้อนระดับ     ไฮเอนด์แบบ Dual-Liquid, แผ่นกราไฟต์ที่ถ่ายเทความร้อนได้ดีเยี่ยม และแผ่นทองแดง เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมอุณหภูมิได้อย่างเที่ยงตรง ให้เกมเมอร์เต็มที่กับประสบการณ์เล่นเกมที่ยอดเยี่ยมและยาวนาน Dual Type-C Charging ให้ความสะดวกในการชาร์จด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C  2 ตำแหน่งที่ด้านข้างและด้านล่างของเครื่องเพื่อให้คุณเลือกชาร์จแบตเตอรี่จากที่ชาร์จขนาด 65W ได้ทั้งแบบหนึ่งหรือ 2 ที่ชาร์จพร้อมกันโดยจะให้พลังแบตเตอรี่จาก 0% - 100% ภายใน 34 นาที (หรือ 0% - 60% ใน 15 นาที) Dual Shoulder Controls ปุ่มไกควบคุมแบบอัลตร้าโซนิคด้านซ้ายขวามาพร้อมกลไก Dual Haptics ที่ช่วยให้ทุกการกดในขณะเล่นเกมได้ความลึกสมจริงเสมือนเป็นปุ่มกดจริงทั้งยังสามารถปรับระดับการตอบสนองให้รับกับความต้องการของผู้เล่นได้อย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น การปรับโหมดการยิงในเกม (สูงสุดที่การยิง 10 ครั้งต่อวินาที) ด้วยการกดปุ่มไกแบบลากยาว เซ็นเซอร์แบบ gyroscope ช่วยปรับมุมมองในการเล่นให้เป็นแบบเกมมิ่งโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่คุณหมุนเครื่องให้อยู่ในแนวนอนในลักษณะพร้อมเล่นเกม Dual Front-Facing Speakers ลำโพงคู่หน้าที่หันเข้าหาผู้เล่นให้คุณได้ยินเสียงฝีเท้าคู่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีเสียง Dirac Audio ที่มาพร้อมอะคูสติก แชมเบอร์ขนาดใหญ่ถึง 1.4cc ให้เสียงดังแบบ 3 มิติ รับประสบการณ์เสมือนได้เข้าไปอยู่ในเกม Dual Livestreaming ฟังก์ชั่นสำหรับการไลฟ์สตรีมผ่านกล้องหน้าแบบ pop-up ความละเอียดขนาด 20MP ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่โหมดการไลฟ์สตรีมในเวลาเพียง 0.5 วินาที ไลฟ์สตรีมหน้าและเสียงขณะเล่นกับภาพแบบ overlay บนหน้าจอเกมที่เล่น ซึ่งฟังก์ชัน Dual Livestreaming สามารถใช้งานได้บนแอปที่รองรับการไลฟ์สตรีมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวฟังก์ชันยังมาพร้อมความสามารถในการลบภาพพื้นหลัง ปรับแต่งใบหน้าของคุณด้วย selfie editor ที่ใช้ความสามารถของ AI ในการรีทัช ปรับแต่งภาพและสร้างฟิลเตอร์ บันทึกเสียงทุกการไลฟ์ให้ดังฟังชัดด้วยไมโครโฟนแบบรอบทิศทาง 4 ตัวที่มาพร้อมระบบจัดการเสียงรบกวนรอบข้าง Legion Phone Duel มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 64MP และเลนส์แบบ ultrawide ขนาด 16MP ให้ภาพละเอียดคมชัดในทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังรอบรับการอัดวีดีโอแบบ 4K ที่เฟรมเรต 30FPS เล่นในแบบที่คุณต้องการ ต่อเนื่องตลอดวัน Legion Phone Duel มาพร้อมอินเตอร์เฟซแบบเฉพาะที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถใช้งานเครื่องในมุมมองแบบแลนด์สแคปได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม Legion Realm แดชบอร์ดกลางของเครื่องที่ให้ผู้ใช้ควบคุมปรับแต่งฮาร์ดแวร์เครื่อง ไล่ดูรายชื่อเกมที่ดาวน์โหลดไว้ หรือเลือกเครือข่ายในการเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็น  WLAN, 5G, หรือ Wi-Fi 6 ได้อย่างรวดเร็ว ดูเกมที่คุณเล่นย้อนหลังเพื่อศึกษากลยุทธในฉากที่ไฮไลท์ก็ทำได้อย่างง่าย ๆ ผ่านฟังก์ชั่นการพรีวิว หรือจะรวมคลิปเข้าด้วยกันเพื่อแชร์ให้เพื่อรวมทีมไปศึกษาก็ทำได้ หรือถ้าคุณเพิ่งผ่านสมรภูมิสุดหิน หรือทำสถิติคะแนนใหม่แต่คุณลืมที่จะกด record ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพียงแค่คุณสไลด์นิ้วมือไปทางซ้ายบนปุ่มไกควบคุมด้านขวา เกมมิ่งสมาร์ทโฟนสุดอัจฉริยะอย่าง Legion Phone Duel ก็จะรีเพลย์ฉากที่เครื่องอัดไว้แบบอัตโนมัติให้กับคุณเพื่อที่คุณจะสามารถกดอัดบันทึกไว้ดูในอนาคต ไม่พลาดทุกการติดต่อที่สำคัญด้วยการปรับแต่งสีไฟ RGB บน สัญลักษณ์ตัว Y ด้านหลังเครื่องให้เปลี่ยนสีเพื่อเตือนเมื่อคุณมีข้อความเข้า หรือบอกสถานการณ์ชาร์จของแบตเตอรี่ และสุดท้าย หากคุณต้องการเปลี่ยนอรรถรสในการเล่นจากหน้าจอเครื่องไปที่จอมอนิเตอร์เพื่อมุมมองที่แปลกใหม่ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงต่อ Legion Phone Duel เข้ากับจอมอนิเตอร์ คีย์บอร์ด หรือเม้าส์ผ่านพอร์ต USB-C Lenovo Legion Phone Duel จะวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 28 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้ Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ  Lenovo Legion Phone Duel ได้แก่ AIS, Banana, Blue Shop, IT-City, JD, JIB และ Speed Computer  Pre-Order Promotion สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 22 – 28 ตุลาคม 2020 รับสิทธิรับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุดกว่า 3,500 บาท ดังนี้  Lenovo Legion Phone Duel 12GB / 256GB Blazing Blue ราคา 23,990 THB รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท Lenovo Legion Phone Duel 16GB / 512GB Vengeance Red ราคา 30,990 บาท รับฟรี Legion Gaming Backpack Recon มูลค่า 1,990 บาท และ Legion Gaming Headset H300 มูลค่า 1,390 บาท ติดตามความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ Lenovo Legion ในประเทศไทยได้ที่  www.lenovo.com/th/th/legion และ https://www.facebook.com/lenovolegionTH/
22 Oct 2020
Lenovo เปิดตัวโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งใหม่ ที่มาพร้อมกับสเปคสุดแรงในราคาที่จับต้องได้!
Lenovo นับเป็นแบรนด์สินค้า IT ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดเกมบ้านเราในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต้วผมเองก็ยอมรับว่าแบลนด์นี้ขายสินค้าในราคาที่ไม่แพงเกินไปเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ และวันนี้ทางเรา GameFever Th ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเปิดตัวโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งตัวใหม่จากทาง Lenovo ด้วย โดยต้องบอกเลยว่า เจ้าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับสเปคสุดแรงในราคาที่จับต้องได้ครับ! Lenovo Ideapad Gaming 3 และ Legion 5 คือชื่อของโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะมีการเปิดตัวเมื่อเช้านี้ครับ โดย Ideapad Gaming 3 จะเป็นรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาไม่แพง แต่ยังคงมาพร้อมกับสเปคของเครื่องที่แรงพอสมควร ซึ่งราคาของรุ่นนี้จะมี 2 แบบคือรุ่นที่ใช้การ์ดจอ GTX 1650 กับรุ่นที่ใช้ GTX 1650Ti ทั้งสองรุ่นมีราคาต่างกันเพียงแค่ 2,000 บาทเท่านั้น สามารถดูรายละเอียดของสินค้า และของแถมได้ข้างล่างนี้! ในส่วนของ Legion 5 จะเป็นรุ่นที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยสเปคของรุ่นนี้จะมี 2 รุ่นให้สามารถเลือกซื้อได้ในตอนนี้เช่นกัน โดย จะแตกต่างกันแค่ในส่วนของการ์ดจอเช่นกันโดยตัวแรก จะมาพร้อมกับ CPU Ryzen 7 4000H กับการ์ดจอ 1660Ti ในราคา 36,900 บาท ส่วนตัวที่ 2 จะมาพร้อมกับ CPU Ryzen 5 4000H ที่ลดลงมา 1 ขั้น แต่ได้การ์ดจอเป็น RTX 2060 แทน ซึ่งรุ่นนี้ก็มีราคาอยู่ที่ 36,900 บาทเช่นกัน แถมพิเศษถ้าหากซื้อก่อนวันที่ 30 กันยายนนี้ จะได้รับแรมไปเลยๆ ฟรีอีก 8 GB ด้วย ส่วนสำหรับใครที่ต้องการให้สุดไปเลยทั้งฝั่ง CPU และ GPU ดูเหมือนว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการวางขาย Legion 5 ที่ ใช้ทั้ง CPU Ryzen 7 4000H + RTX 2060 ด้วย ก็ขอให้รอกันอีกนิดครับ (ป.ล Legion 5 ได้ของแถมอื่นๆ แบบเดียวกับที่ Ideapad Gaming 3 ได้ด้วยนะ)
10 Sep 2020