GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] Call of Duty: Mobile เมื่อสมรภูมิถูกย่อลงมือถือ นี่คือความมันระดับพระกาฬ
ลงวันที่ 03/10/2019

หลังจากตัวเกม Call of Duty: Mobile ได้เปิดให้บริการพร้อมกันทั่วโลกในช่วง 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี Activision เป็นผู้ให้บริการ ส่วนเซิร์ฟเวอร์เอเชียของเรานั้นจะได้ Garena เป็นผู้เปิดให้บริการแทน ถึงแม้ผู้ให้การบริการทั้งสองเจ้าจะคนละเจ้าแต่ความสนุกและความมันชนิดระเบิดเขา เผากระท่อมก็ยังมีอย่างครบครัน ราวกับเอาเกมบน PC มาย่อลงในมือถือให้เล่นกันได้ทุกที่ทุกเวลา

ต้องขอย้อนไปช่วงที่ทาง Activision เริ่มลุยเกม Call of Duty ลงบนมือถือตอนแรกๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขอบอกเลยว่าเล่นไปแป๊บเดียวแทบจะลบเกมทิ้ง ณ เดียวนั้นเลย เหมือนรู้สึกว่าตลาดมือถือยังไม่ใช่ทาง จนกระทั่งในปัจจุบันเมื่อมือถือมีศักยภาพมากพอที่สามารถเล่นบนภาพกราฟิคสวยๆ ในราคาที่จับต้องได้ และมีหน้าจอกว้างพอที่เอื้อต่อการบังคับด้วยระบบสัมผัสบนปลายนิ้ว จนเกิดเกม Call of Duty: Mobile ที่พร้อมท้าชนเกมแนว Shooting รุ่นพี่ได้อย่างน่าสนใจ บทความนี้จะเป็นการรีวิวเกมมือถือสุดมันโดยเครื่องที่ใช้เล่นเกมนี้เป็น Samsung Galaxy A50 มือถือสเปคกลางๆ ไม่หวือหว๋า มาดูกันว่ามันจะสนุกไม่แพ้บน PC หรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง


==================================================



มันคือ Call of Duty ที่พกสนามรบไปตบกันได้ทุกหนแห่ง




Call of Duty: Mobile เป็นเกมแนว Shooting มุมมองบุคคลที่หนึ่งและมุมมองบุคคลที่สามสำหรับโหมด Battle Royale ที่มีระบบพื้นฐานต่างๆ อ้างอิงมาจากภาค Black Ops 2 เป็นหลัก พร้อมนำจุดเด่นและ Signature ของภาคอื่นๆ มาใส่รวมไว้ในนี้ด้วย แถมมีตัวละครสำคัญๆ อย่าง Ghost, Price, Soap จากภาค Modern Warfare หรือแม้กระทั่ง Alex Mason จากภาค Black Ops และ David Mason ลูกชายของเขาจากภาค Black Ops 2 ก็ยกขบวนมาอยู่ในเกมนี้ด้วย

นอกจากนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในเกมจะอิงจาก Modern Warfare เป็นหลัก แต่ที่น่าสนใจคือ Signature Weapon หรือ Operator Skill ซึ่งเป็นอาวุธปืนสุด OP จาก Black Ops 3 และ 4 ถูกใช้ในเกมนี้ด้วย หากใครเก่งๆ ได้ฆ่าบ่อยๆ จนเกจเต็มก็สามารถไล่กราดยิงใส่ให้ราบเป็นหน้ากลอง  แต่เห็นเอาระบบต่างๆ จากภาค Modern Warfare และ Black Ops มารวมกันแบบนี้ กลับลงตัวอย่างน่าประหลาดและไม่ได้รู้สึกว่ามันเยอะจนเกินไป

ความประทับใจแรกของเกมนี้ เห็นทีมี WOW




สิ่งแรกที่ทำได้น่าประทับใจจนไม่น่าเชื่อเลยก็คือการใช้เวลาจับคู่กับผู้เล่นคนอื่นๆ ซึ่งไม่เกินสามวินาทีก็ได้เล่นกันเลย แต่กลับเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะยังไม่ทันจะหยิบขนมเข้าปากเลยเกมก็เริ่มเสียแล้ว (อย่างหลังล้อเล่นนะ) สำหรับในโหมด Battle Royale กลับใช้เวลานานกว่านิดหน่อย ใช้เวลาไม่เกินสามสิบวินาทีโดยเฉลี่ยเพราะต้องจับคู่ทีเดียวหนึ่งร้อยคนต่อหนึ่งแมตช์ซึ่งอันนี้เข้าใจได้แต่ก็ยังถือว่าเร็วมากๆ อยู่ดี


ส่วนต่อมาที่ชอบเหมือนกันก็คือระบบกราฟิค ซึ่งเครื่องที่ใช้ในการรีวิวเกมนี้เป็น Samsung Galaxy A50 ที่มีสเปคเครื่องไม่แรงมากนัก แต่สามารถขับ Framerate วิ่งอยู่ที่ 60 FPS ได้อย่างสบายๆ ในระดับ Medium ซึ่งหากปรับ High ก็มีอาการหน่วงอยู่บ้าง Framerate จะอยู่ประมาณ 45 ถึง 50 FPS ก็ยังถือว่าพอรับได้ กลายเป็นว่าเกมนี้มีกราฟิคสวยๆ ลื่นๆ แต่กินสเปคไม่โหดอย่างที่คิด หากใครที่ใช้โทรศัพท์สเปคแรงกว่านี้ก็สามารถทำ Framerate 60FPS ในระดับ High ได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ



และอีกจุดที่ชอบมากคือ หากคิดว่าเกมนี้ไม่อำนวยต่อผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่มีทักษะเกม Shooting บนมือถือ ระบบการยิงของเกมก็มีการยิงแบบอัตโนมัติง่ายๆ เพียงแค่เลื่อนเป้าปืนให้ตรงกับศัตรูปืนก็จะยิงออกไปอย่างอัตโนมัติ หรือใครชอบความยากชนิด Try Hard ก็สามารถปรับระบบการยิงแบบ Advance ได้ซึ่งจะมีรายละเอียดปรับรูปแบบการยิงให้เหมาะกับสไตล์ที่เราเล่นกับปืนที่ละกระบอก

Interface ไม่ซับซ้อนและ Feature เด่นๆ ไม่ซ้ำใคร




ในด้านของ Interface และเมนูต่างๆ นั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ตั้งแต่หน้า Loadout ที่สามารถปรับแต่งได้โดยง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส คำอธิบายเรื่อง Perk เสริมความสามารถต่างๆ บ่งบอกชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย ถือเป็นจุดที่ดีแต่ก็ไม่ได้ถึงกับประทับใจมากนัก



หน้า Interface ภายในเกมนั้นแม้ปุ่นมันเยอะจริงๆ แต่ภาพโดยรวมนั้นถือว่าไม่ถึงกับบดบังสายตาจนน่ารำคาญแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการจัดหน้า Interface ได้อย่างชาญฉลาดและลงตัวมากสำหรับเกมแนว Shooting ที่ต้องการพื้นที่ในการมองให้มากที่สุดเพื่อความได้เปรียบในการเล่น



เมนูร้านค้าต่างๆ ใช้สัญลักษณ์เป็นการบอกหมวดสินค้าซึ่งก็เข้าใจง่ายดี แต่เพราะมันไม่บอกว่าคืออะไรบางคนอาจจะไม่เข้าใจก็ต้องลงไปจิ้มๆ อย่างละเอียดอีกทีว่า ในโหมดนี้มีอะไรขาย ซึ่งปืนในร้านค้าที่เอามาขายนั้นแม้จะเป็นกระบอกใหม่แต่ค่า Status ต่างๆ เท่ากับตัวปืนพื้นฐาน ฉะนั้นหมดกังวลเรื่องปืนเติมเงินมีผลต่อเกม สาย Pay-2-win จะไม่มีในนี้ ซึ่งประทับใจจริงๆ แต่ว่าราคาสินค้ามันสูงไปเสียหน่อย ความน่าซื้อเลยหายไประดับหนึ่ง



ส่วนตัวละครนั้นจะมีพื้นฐานให้สามตัวซึ่งสามารถซื้อเพิ่มเติมได้จาก Bundle ในเมนู Shop ของเกม แน่นอนว่าตัวละครอันแสนคุ้นเคยรอสายเปย์มาซื้อไปใช้งานนั้น ราคาก็จะสูงๆ หน่อย แต่อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้า เกมนี้เปย์เพื่อเอาความเท่ ความสวยงาม ไม่มีผลต่อการเล่นแต่อย่างใดซึ่งมันก็แฟร์ดี


อาวุธต่างๆ ในเกมเมื่อเราเล่นจบแต่ละเกมก็จะมีเลเวลของปืนเพิ่มขึ้นเพื่อปลดล็อคอุปกรณ์เสริม หากบางคนขี้เกียจก็สามารถใช้บัตร Weapon XP ในการเร่งเลเวลได้เพียงชั่วพริบตา



Signature Weapon หรือ Operator Skill ถือเป็นไพ่ตายของผู้เล่น สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดเช่น ปืนกล Minigun ที่สามารถสังหารศัตรูได้ทุกระยะเพียงไม่กี่อึดใจ, เครื่องยิงลูกระเบิดที่ยิงออกไปแล้วทำความเสียหายแบบวงกว้าง สามารถสังหารหมู่ได้เพียงนัดเดียว หรือแม้กระทั่งเครื่องพ่นไฟแม้ระยะของไฟจะใกล้แต่หากโดนแล้วไฟจะลามเผาไปทั่วร่างจนตายอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการได้อาวุธจำพวกนี้มาจะต้องปลดล็อคด้วยเลเวลของตัวผู้เล่นให้ถึงกำหนดเสียก่อนถึงจะใช้งานมันได้



ในด้านโหมด Battle Royale นั้นสามารถเลือกได้ที่จะใช้มุมมองแบบบุคคลที่หนึ่งหรือมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งแล้วแต่ความถนัด เพิ่มทางเลือกให้ผู้เล่นได้



ส่วนใน Interface ตัวเกมในโหมด Battle Royale นั้นแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากโหมด Multiplayer ปกติ เพียงแต่มีการเสริมปุ่มการสลับมุมมองที่ซ้ายล่างและสามารถปรับโหมดการยิงจากยิงทีละนัดเป็นแบบยิงอัตโนมัติได้ตามสถานะการณ์ และปุ่ม Signature Weapon จะถูกเปลี่ยนเป็น Class Skill แทน


Class Skill คือสิ่งที่ช่วยให้เรารอดพ้นสถานะการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ในโหมด Battle Royale ได้เป็นอย่างดี ทั้งสกิลฮีลหมู่, สกิลยิงสลิงปีนปายขึ้นที่สูงหรือสกิลตั้งกำแพงเหล็กฉุกเฉิน หากใช้ถูกจังหวะมันจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

Gameplay ที่ โค-ตะ-ระ มัน แต่เวลาสั้นเหลือเกิน




แผนที่ต่างๆ ภายในเกมนั้น ก็เอามาจากซีรี่ย์ Black Ops เป็นหลักตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคล่าสุด หากใครไม่เคยเล่นภาค Black Ops ก็จะใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับแผนที่สักหน่อย แต่ส่วนตัวจากที่ติดตามและเล่นภาค Black Ops มาทุกภาค จึงปรับตัวได้รวดเร็วและทำให้ชวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยเล่นบน PC



เนื่องจากมันเกมมือถือ จึงต้องย่นระยะเวลาการเล่นแต่ละเกมให้จบไวขึ้น ยกตัวอย่างเช่นโหมด Team Deathmatch ในเวอร์ชั่น PC ทีมจะต้องฆ่าให้ครบ 75 คะแนนหรือ 100 คะแนน แต่ในเวอร์ชั่นมือถือจะตัดเหลือเพียง 40 คะแนน ในรูปแบบเกม 5 ต่อ 5 แน่นอนว่าความสนุกนั้นไม่ได้กลับหายไป แต่มันแอบสะดุดที่ว่า เกมมันจบไวเกิน อารมณ์มันค้าง ต้องหาเกมใหม่ เล่นแป๊บๆ จบ และก็หาเกมใหม่วนไปเรื่อยๆ มันเลยรู้สึกเล่นไม่เต็มอิ่มเสียเท่าไหร่ และก็รวมถึงโหมด Domination หรือโหมดยึดพื้นที่ ปกติคะแนนที่เราจะชนะอยู่ที่ 200 คะแนน แต่ในมือถือจะเหลือเพียง 100 คะแนน แม้ระยะเวลาการเล่นจะนานขึ้นมานิด แต่ก็รู้สึกจบไว ไม่เต็มอิ่มอยู่ดี



เมื่อเกจ Signature Weapon หรือ Operator Skill เต็ม ก็เตรียมเปิดทุ่งสังหารกันได้เลยเพราะเมื่อเราได้ชักอาวุธสุด OP ออกมา แม้ยิงนัดแรกพวกมันจะไม่เป็นไร แต่นัดต่อไปก็จะได้เห็นศัตรูกระเด็นติดกำแพง ใครๆ ก็เห็นว่าตายหมู่ บอกเลยว่าจังหวะนี้เป็นอะไรที่แอบฟินและซาดิสม์นิดๆ กับการยิงไม่เลือกหน้าเพราะของเขาดีจริงๆ แถมสิ่งนี้จะช่วยทำให้เราพลิกเกมกลับมาชนะด้วย แต่ก็ต้องระวังด้วยว่ามันมีระยะเวลาจำกัดในการใช้ จึงต้องเลือกใช้ในสถานะการณ์ที่เหมาะจริงๆ เท่านั้นเนื่องจากแต่ละรอบมันใช้ได้ครั้งเดียว และหากเราตายขณะที่เรากำลังใช้ อาวุธสุด OP ก็จะหายไปด้วย



แต่ความมันยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะเกมนี้ใช้ระบบ Score Streak เก็บคะแนนสะสมจากการฆ่าศัตรู, ช่วยเหลือการยิงหรือการสนับสนุนต่างๆ เมื่อถึงจุดที่กำหนดเราสามารถเรียกการสนับสนุนการยิงได้ต่างๆ มากมายทั้ง Predator Drone ที่ลงกลางหัวศัตรูสามารถสังหารหมู่ได้เพียงครั้งเดียว, เรียก Helicopter ออกมากราดยิงศัตรูเป็นระยะ สร้างความได้เปรียบในการเล่นหรือสามารถเรียก VTOL ซึ่งเป็นเครื่องบืนเพดานสูง เรียกปืนใหญ่ลงถล่มจากภาคพื้นได้โดยไม่ต้องกลัวกระสุนหมดหรือถูกโจมตีสวนขึ้นมาได้ง่ายๆ เหมือนเรากำลังได้ขยี้สิ่งมีชีวิตตัวน้อยด้วยเพียงปลายนิ้ว อีกทั้งเสียงระเบิดตูมตามสะใจนี่ฟินเสนาะหูดีเหลือเกิน


พอมาถึงคิวของโหมด Battle Royale นี่ฉากเปิดตัวอลังการมาก แต่ดันตกม้าตายเพราะไอ้การแปลภาษาไทยข้างล่าง ดด/วว/ปปป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแปลส่วนนี้มาทำไม ใส่เวลาบอกไปเลยน่าจะดูดีกว่าเยอะ เห็นจุดนี้ทีถึงกับเบ้ปากมองบนเลยล่ะ


พอเมื่อเท้าแตะพื้นและได้ลองเล่นโหมดนี้ได้สักพัก กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นหรือหวือหว๋ามากนัก แม้จะมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาอย่างการขับ Helicopter,ขับรถหุ้มเกราะ,มีปืนสำหรับยิงต่อต้านยานเกราะและต่อต้านอากาศยาน, มี Class Skill ไว้เพื่อใช้ในสถานะการณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งมีซอมบี้วิ่งไล่ตบแบบสุ่มก็ตาม แต่ใช่ว่ามันไม่สนุกเลย มันโอเคเลยล่ะ เล่นง่ายกว่าเกมแนว Battle Royale หลายเกม ระยะเวลาในการเล่นก็ไม่นานเกินไป เพียงแต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ก็เท่านั้น

==================================================


ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะได้เจอในเกม Call of Duty: Mobile แม้ว่าโหมด Zombie จะยังไม่เปิดให้เล่นในตอนนี้ แต่โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีมาก กราฟิคลื่นไหลแม้ใช้มือถือที่สเปคไม่แรง และที่สำคัญเลยคือโหมด Multiplayer ทำออกมาดีงามพระรามแปดไม่แพ้รุ่นพี่บน PC เลยล่ะ โดยเฉพาะตอนได้ขึ้น VTOL แล้วสาดกระสุนปืนใหญ่ลงมา แต่ทว่าในโหมด Battle Royale กลับทำออกมาเฉยๆ อาจจะเป็นเพราะเกมแนวนี้มีมานานและมีเยอะพอสมควรจึงรู้สึกไม่ค่อยมีอะไรใหม่มากนัก ส่วนใครกลัวว่าเกมนี้อาจจะต้องเจอคนที่เล่นผ่าน Emulator ล่ะก็ขอให้สบายใจได้เพราะทางทีมงานได้ยืนยันแล้วว่าคนที่เล่นผ่าน Emulator ก็จะเจอคนเล่นผ่าน Emulator ด้วยกันทำให้เกิดความแฟร์และหมดกังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ

สุดท้ายนี้ เกม Call of Duty: Mobile เหมาะกับใครหรือเล่นสไตล์ไหน ก็ขอตอบเลยว่าเป็นเกมที่เหมาะกับคอร์เกมสาย Shooting เกมไว หากคนไม่คุ้นเคยอาจจะรู้สึกมึนหัวเสียเล็กน้อย  และสามารถเล่นได้ทั้งแบบเล่นฆ่าเวลาหรือเล่นจริงจังก็ทำได้หมด เพราะนี่คือสมรภูมิย่อส่วนบนมือถือที่ดีที่สุดในขณะนี้ยังไงล่ะ



สำหรับใครที่สนใจอยากลองเล่น สามารถดาวน์โหลดกันได้เลยตามลิ้งก์ข้างล่าง


ดาวน์โหลดผ่าน ios: คลิ๊กที่นี่
ดาวน์โหลดผ่าน Android: คลิ๊กที่นี่


ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่



บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] Call of Duty: Mobile เมื่อสมรภูมิถูกย่อลงมือถือ นี่คือความมันระดับพระกาฬ
03/10/2019

หลังจากตัวเกม Call of Duty: Mobile ได้เปิดให้บริการพร้อมกันทั่วโลกในช่วง 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี Activision เป็นผู้ให้บริการ ส่วนเซิร์ฟเวอร์เอเชียของเรานั้นจะได้ Garena เป็นผู้เปิดให้บริการแทน ถึงแม้ผู้ให้การบริการทั้งสองเจ้าจะคนละเจ้าแต่ความสนุกและความมันชนิดระเบิดเขา เผากระท่อมก็ยังมีอย่างครบครัน ราวกับเอาเกมบน PC มาย่อลงในมือถือให้เล่นกันได้ทุกที่ทุกเวลา

ต้องขอย้อนไปช่วงที่ทาง Activision เริ่มลุยเกม Call of Duty ลงบนมือถือตอนแรกๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขอบอกเลยว่าเล่นไปแป๊บเดียวแทบจะลบเกมทิ้ง ณ เดียวนั้นเลย เหมือนรู้สึกว่าตลาดมือถือยังไม่ใช่ทาง จนกระทั่งในปัจจุบันเมื่อมือถือมีศักยภาพมากพอที่สามารถเล่นบนภาพกราฟิคสวยๆ ในราคาที่จับต้องได้ และมีหน้าจอกว้างพอที่เอื้อต่อการบังคับด้วยระบบสัมผัสบนปลายนิ้ว จนเกิดเกม Call of Duty: Mobile ที่พร้อมท้าชนเกมแนว Shooting รุ่นพี่ได้อย่างน่าสนใจ บทความนี้จะเป็นการรีวิวเกมมือถือสุดมันโดยเครื่องที่ใช้เล่นเกมนี้เป็น Samsung Galaxy A50 มือถือสเปคกลางๆ ไม่หวือหว๋า มาดูกันว่ามันจะสนุกไม่แพ้บน PC หรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง


==================================================



มันคือ Call of Duty ที่พกสนามรบไปตบกันได้ทุกหนแห่ง




Call of Duty: Mobile เป็นเกมแนว Shooting มุมมองบุคคลที่หนึ่งและมุมมองบุคคลที่สามสำหรับโหมด Battle Royale ที่มีระบบพื้นฐานต่างๆ อ้างอิงมาจากภาค Black Ops 2 เป็นหลัก พร้อมนำจุดเด่นและ Signature ของภาคอื่นๆ มาใส่รวมไว้ในนี้ด้วย แถมมีตัวละครสำคัญๆ อย่าง Ghost, Price, Soap จากภาค Modern Warfare หรือแม้กระทั่ง Alex Mason จากภาค Black Ops และ David Mason ลูกชายของเขาจากภาค Black Ops 2 ก็ยกขบวนมาอยู่ในเกมนี้ด้วย

นอกจากนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในเกมจะอิงจาก Modern Warfare เป็นหลัก แต่ที่น่าสนใจคือ Signature Weapon หรือ Operator Skill ซึ่งเป็นอาวุธปืนสุด OP จาก Black Ops 3 และ 4 ถูกใช้ในเกมนี้ด้วย หากใครเก่งๆ ได้ฆ่าบ่อยๆ จนเกจเต็มก็สามารถไล่กราดยิงใส่ให้ราบเป็นหน้ากลอง  แต่เห็นเอาระบบต่างๆ จากภาค Modern Warfare และ Black Ops มารวมกันแบบนี้ กลับลงตัวอย่างน่าประหลาดและไม่ได้รู้สึกว่ามันเยอะจนเกินไป

ความประทับใจแรกของเกมนี้ เห็นทีมี WOW




สิ่งแรกที่ทำได้น่าประทับใจจนไม่น่าเชื่อเลยก็คือการใช้เวลาจับคู่กับผู้เล่นคนอื่นๆ ซึ่งไม่เกินสามวินาทีก็ได้เล่นกันเลย แต่กลับเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะยังไม่ทันจะหยิบขนมเข้าปากเลยเกมก็เริ่มเสียแล้ว (อย่างหลังล้อเล่นนะ) สำหรับในโหมด Battle Royale กลับใช้เวลานานกว่านิดหน่อย ใช้เวลาไม่เกินสามสิบวินาทีโดยเฉลี่ยเพราะต้องจับคู่ทีเดียวหนึ่งร้อยคนต่อหนึ่งแมตช์ซึ่งอันนี้เข้าใจได้แต่ก็ยังถือว่าเร็วมากๆ อยู่ดี


ส่วนต่อมาที่ชอบเหมือนกันก็คือระบบกราฟิค ซึ่งเครื่องที่ใช้ในการรีวิวเกมนี้เป็น Samsung Galaxy A50 ที่มีสเปคเครื่องไม่แรงมากนัก แต่สามารถขับ Framerate วิ่งอยู่ที่ 60 FPS ได้อย่างสบายๆ ในระดับ Medium ซึ่งหากปรับ High ก็มีอาการหน่วงอยู่บ้าง Framerate จะอยู่ประมาณ 45 ถึง 50 FPS ก็ยังถือว่าพอรับได้ กลายเป็นว่าเกมนี้มีกราฟิคสวยๆ ลื่นๆ แต่กินสเปคไม่โหดอย่างที่คิด หากใครที่ใช้โทรศัพท์สเปคแรงกว่านี้ก็สามารถทำ Framerate 60FPS ในระดับ High ได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ



และอีกจุดที่ชอบมากคือ หากคิดว่าเกมนี้ไม่อำนวยต่อผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่มีทักษะเกม Shooting บนมือถือ ระบบการยิงของเกมก็มีการยิงแบบอัตโนมัติง่ายๆ เพียงแค่เลื่อนเป้าปืนให้ตรงกับศัตรูปืนก็จะยิงออกไปอย่างอัตโนมัติ หรือใครชอบความยากชนิด Try Hard ก็สามารถปรับระบบการยิงแบบ Advance ได้ซึ่งจะมีรายละเอียดปรับรูปแบบการยิงให้เหมาะกับสไตล์ที่เราเล่นกับปืนที่ละกระบอก

Interface ไม่ซับซ้อนและ Feature เด่นๆ ไม่ซ้ำใคร




ในด้านของ Interface และเมนูต่างๆ นั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ตั้งแต่หน้า Loadout ที่สามารถปรับแต่งได้โดยง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส คำอธิบายเรื่อง Perk เสริมความสามารถต่างๆ บ่งบอกชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย ถือเป็นจุดที่ดีแต่ก็ไม่ได้ถึงกับประทับใจมากนัก



หน้า Interface ภายในเกมนั้นแม้ปุ่นมันเยอะจริงๆ แต่ภาพโดยรวมนั้นถือว่าไม่ถึงกับบดบังสายตาจนน่ารำคาญแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการจัดหน้า Interface ได้อย่างชาญฉลาดและลงตัวมากสำหรับเกมแนว Shooting ที่ต้องการพื้นที่ในการมองให้มากที่สุดเพื่อความได้เปรียบในการเล่น



เมนูร้านค้าต่างๆ ใช้สัญลักษณ์เป็นการบอกหมวดสินค้าซึ่งก็เข้าใจง่ายดี แต่เพราะมันไม่บอกว่าคืออะไรบางคนอาจจะไม่เข้าใจก็ต้องลงไปจิ้มๆ อย่างละเอียดอีกทีว่า ในโหมดนี้มีอะไรขาย ซึ่งปืนในร้านค้าที่เอามาขายนั้นแม้จะเป็นกระบอกใหม่แต่ค่า Status ต่างๆ เท่ากับตัวปืนพื้นฐาน ฉะนั้นหมดกังวลเรื่องปืนเติมเงินมีผลต่อเกม สาย Pay-2-win จะไม่มีในนี้ ซึ่งประทับใจจริงๆ แต่ว่าราคาสินค้ามันสูงไปเสียหน่อย ความน่าซื้อเลยหายไประดับหนึ่ง



ส่วนตัวละครนั้นจะมีพื้นฐานให้สามตัวซึ่งสามารถซื้อเพิ่มเติมได้จาก Bundle ในเมนู Shop ของเกม แน่นอนว่าตัวละครอันแสนคุ้นเคยรอสายเปย์มาซื้อไปใช้งานนั้น ราคาก็จะสูงๆ หน่อย แต่อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้า เกมนี้เปย์เพื่อเอาความเท่ ความสวยงาม ไม่มีผลต่อการเล่นแต่อย่างใดซึ่งมันก็แฟร์ดี


อาวุธต่างๆ ในเกมเมื่อเราเล่นจบแต่ละเกมก็จะมีเลเวลของปืนเพิ่มขึ้นเพื่อปลดล็อคอุปกรณ์เสริม หากบางคนขี้เกียจก็สามารถใช้บัตร Weapon XP ในการเร่งเลเวลได้เพียงชั่วพริบตา



Signature Weapon หรือ Operator Skill ถือเป็นไพ่ตายของผู้เล่น สามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดเช่น ปืนกล Minigun ที่สามารถสังหารศัตรูได้ทุกระยะเพียงไม่กี่อึดใจ, เครื่องยิงลูกระเบิดที่ยิงออกไปแล้วทำความเสียหายแบบวงกว้าง สามารถสังหารหมู่ได้เพียงนัดเดียว หรือแม้กระทั่งเครื่องพ่นไฟแม้ระยะของไฟจะใกล้แต่หากโดนแล้วไฟจะลามเผาไปทั่วร่างจนตายอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการได้อาวุธจำพวกนี้มาจะต้องปลดล็อคด้วยเลเวลของตัวผู้เล่นให้ถึงกำหนดเสียก่อนถึงจะใช้งานมันได้



ในด้านโหมด Battle Royale นั้นสามารถเลือกได้ที่จะใช้มุมมองแบบบุคคลที่หนึ่งหรือมุมมองบุคคลที่สาม ซึ่งแล้วแต่ความถนัด เพิ่มทางเลือกให้ผู้เล่นได้



ส่วนใน Interface ตัวเกมในโหมด Battle Royale นั้นแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากโหมด Multiplayer ปกติ เพียงแต่มีการเสริมปุ่มการสลับมุมมองที่ซ้ายล่างและสามารถปรับโหมดการยิงจากยิงทีละนัดเป็นแบบยิงอัตโนมัติได้ตามสถานะการณ์ และปุ่ม Signature Weapon จะถูกเปลี่ยนเป็น Class Skill แทน


Class Skill คือสิ่งที่ช่วยให้เรารอดพ้นสถานะการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ในโหมด Battle Royale ได้เป็นอย่างดี ทั้งสกิลฮีลหมู่, สกิลยิงสลิงปีนปายขึ้นที่สูงหรือสกิลตั้งกำแพงเหล็กฉุกเฉิน หากใช้ถูกจังหวะมันจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

Gameplay ที่ โค-ตะ-ระ มัน แต่เวลาสั้นเหลือเกิน




แผนที่ต่างๆ ภายในเกมนั้น ก็เอามาจากซีรี่ย์ Black Ops เป็นหลักตั้งแต่ภาคแรกถึงภาคล่าสุด หากใครไม่เคยเล่นภาค Black Ops ก็จะใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับแผนที่สักหน่อย แต่ส่วนตัวจากที่ติดตามและเล่นภาค Black Ops มาทุกภาค จึงปรับตัวได้รวดเร็วและทำให้ชวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยเล่นบน PC



เนื่องจากมันเกมมือถือ จึงต้องย่นระยะเวลาการเล่นแต่ละเกมให้จบไวขึ้น ยกตัวอย่างเช่นโหมด Team Deathmatch ในเวอร์ชั่น PC ทีมจะต้องฆ่าให้ครบ 75 คะแนนหรือ 100 คะแนน แต่ในเวอร์ชั่นมือถือจะตัดเหลือเพียง 40 คะแนน ในรูปแบบเกม 5 ต่อ 5 แน่นอนว่าความสนุกนั้นไม่ได้กลับหายไป แต่มันแอบสะดุดที่ว่า เกมมันจบไวเกิน อารมณ์มันค้าง ต้องหาเกมใหม่ เล่นแป๊บๆ จบ และก็หาเกมใหม่วนไปเรื่อยๆ มันเลยรู้สึกเล่นไม่เต็มอิ่มเสียเท่าไหร่ และก็รวมถึงโหมด Domination หรือโหมดยึดพื้นที่ ปกติคะแนนที่เราจะชนะอยู่ที่ 200 คะแนน แต่ในมือถือจะเหลือเพียง 100 คะแนน แม้ระยะเวลาการเล่นจะนานขึ้นมานิด แต่ก็รู้สึกจบไว ไม่เต็มอิ่มอยู่ดี



เมื่อเกจ Signature Weapon หรือ Operator Skill เต็ม ก็เตรียมเปิดทุ่งสังหารกันได้เลยเพราะเมื่อเราได้ชักอาวุธสุด OP ออกมา แม้ยิงนัดแรกพวกมันจะไม่เป็นไร แต่นัดต่อไปก็จะได้เห็นศัตรูกระเด็นติดกำแพง ใครๆ ก็เห็นว่าตายหมู่ บอกเลยว่าจังหวะนี้เป็นอะไรที่แอบฟินและซาดิสม์นิดๆ กับการยิงไม่เลือกหน้าเพราะของเขาดีจริงๆ แถมสิ่งนี้จะช่วยทำให้เราพลิกเกมกลับมาชนะด้วย แต่ก็ต้องระวังด้วยว่ามันมีระยะเวลาจำกัดในการใช้ จึงต้องเลือกใช้ในสถานะการณ์ที่เหมาะจริงๆ เท่านั้นเนื่องจากแต่ละรอบมันใช้ได้ครั้งเดียว และหากเราตายขณะที่เรากำลังใช้ อาวุธสุด OP ก็จะหายไปด้วย



แต่ความมันยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะเกมนี้ใช้ระบบ Score Streak เก็บคะแนนสะสมจากการฆ่าศัตรู, ช่วยเหลือการยิงหรือการสนับสนุนต่างๆ เมื่อถึงจุดที่กำหนดเราสามารถเรียกการสนับสนุนการยิงได้ต่างๆ มากมายทั้ง Predator Drone ที่ลงกลางหัวศัตรูสามารถสังหารหมู่ได้เพียงครั้งเดียว, เรียก Helicopter ออกมากราดยิงศัตรูเป็นระยะ สร้างความได้เปรียบในการเล่นหรือสามารถเรียก VTOL ซึ่งเป็นเครื่องบืนเพดานสูง เรียกปืนใหญ่ลงถล่มจากภาคพื้นได้โดยไม่ต้องกลัวกระสุนหมดหรือถูกโจมตีสวนขึ้นมาได้ง่ายๆ เหมือนเรากำลังได้ขยี้สิ่งมีชีวิตตัวน้อยด้วยเพียงปลายนิ้ว อีกทั้งเสียงระเบิดตูมตามสะใจนี่ฟินเสนาะหูดีเหลือเกิน


พอมาถึงคิวของโหมด Battle Royale นี่ฉากเปิดตัวอลังการมาก แต่ดันตกม้าตายเพราะไอ้การแปลภาษาไทยข้างล่าง ดด/วว/ปปป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแปลส่วนนี้มาทำไม ใส่เวลาบอกไปเลยน่าจะดูดีกว่าเยอะ เห็นจุดนี้ทีถึงกับเบ้ปากมองบนเลยล่ะ


พอเมื่อเท้าแตะพื้นและได้ลองเล่นโหมดนี้ได้สักพัก กลับไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้นหรือหวือหว๋ามากนัก แม้จะมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาอย่างการขับ Helicopter,ขับรถหุ้มเกราะ,มีปืนสำหรับยิงต่อต้านยานเกราะและต่อต้านอากาศยาน, มี Class Skill ไว้เพื่อใช้ในสถานะการณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งมีซอมบี้วิ่งไล่ตบแบบสุ่มก็ตาม แต่ใช่ว่ามันไม่สนุกเลย มันโอเคเลยล่ะ เล่นง่ายกว่าเกมแนว Battle Royale หลายเกม ระยะเวลาในการเล่นก็ไม่นานเกินไป เพียงแต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ก็เท่านั้น

==================================================


ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะได้เจอในเกม Call of Duty: Mobile แม้ว่าโหมด Zombie จะยังไม่เปิดให้เล่นในตอนนี้ แต่โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีมาก กราฟิคลื่นไหลแม้ใช้มือถือที่สเปคไม่แรง และที่สำคัญเลยคือโหมด Multiplayer ทำออกมาดีงามพระรามแปดไม่แพ้รุ่นพี่บน PC เลยล่ะ โดยเฉพาะตอนได้ขึ้น VTOL แล้วสาดกระสุนปืนใหญ่ลงมา แต่ทว่าในโหมด Battle Royale กลับทำออกมาเฉยๆ อาจจะเป็นเพราะเกมแนวนี้มีมานานและมีเยอะพอสมควรจึงรู้สึกไม่ค่อยมีอะไรใหม่มากนัก ส่วนใครกลัวว่าเกมนี้อาจจะต้องเจอคนที่เล่นผ่าน Emulator ล่ะก็ขอให้สบายใจได้เพราะทางทีมงานได้ยืนยันแล้วว่าคนที่เล่นผ่าน Emulator ก็จะเจอคนเล่นผ่าน Emulator ด้วยกันทำให้เกิดความแฟร์และหมดกังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ

สุดท้ายนี้ เกม Call of Duty: Mobile เหมาะกับใครหรือเล่นสไตล์ไหน ก็ขอตอบเลยว่าเป็นเกมที่เหมาะกับคอร์เกมสาย Shooting เกมไว หากคนไม่คุ้นเคยอาจจะรู้สึกมึนหัวเสียเล็กน้อย  และสามารถเล่นได้ทั้งแบบเล่นฆ่าเวลาหรือเล่นจริงจังก็ทำได้หมด เพราะนี่คือสมรภูมิย่อส่วนบนมือถือที่ดีที่สุดในขณะนี้ยังไงล่ะ



สำหรับใครที่สนใจอยากลองเล่น สามารถดาวน์โหลดกันได้เลยตามลิ้งก์ข้างล่าง


ดาวน์โหลดผ่าน ios: คลิ๊กที่นี่
ดาวน์โหลดผ่าน Android: คลิ๊กที่นี่


ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่




บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header