ด้วยความสำเร็จมหาศาลของเกมแนว Battle Royale ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คงไม่น่าแปลกใจที่เหล่าผู้พัฒนาเกมฟอร์มใหญ่จะเริ่มสนใจตีตลาดผู้เล่นเกม Battle Royale บ้าง อย่างเช่นเกม Call of Duty: Black Ops 4 และโหมด Blackout ของเกม ที่ปัจจุบันได้คว้าตำแหน่งเกม Battle Royale ที่ดีที่สุดไปแล้วในขณะนี้
Battlefield V เองก็เป็นอีกหนึ่งเกม FPS ฟอร์มใหญ่ที่จะมีโหมด Battle Royale เป็นของตัวเองเช่นกัน แต่ในขณะที่คู่แข่งในตลาด Battle Royale ต่างพากันเอาอย่างเกมฮิตเช่น PUBG และ Fortnite ด้วยการรองรับผู้เล่นนับ 100 คนในแต่ละเกม แต่ล่าสุดผู้พัฒนาจาก DICE ได้เผยแล้วว่าโหมด Battle Royale หรือ Firestorm ของเกมจะรองรับผู้เล่นเพียง 64 คนเท่านั้น เพื่อ สร้างประสบการณ์ที่ยังคงรู้สึกเหมือน Battlefield
ในตอนนี้ทีมพัฒนาตั้งเป้าจำนวนผู้เล่นเอาไว้ที่ 64 คนเท่านั้นสำหรับโหมด Firestorm เพราะสำหรับเรา สิ่งหนึ่งที่จะทำให้โหมดแตกต่างจากเกม Battle Royale ทั่วไปก็คือเอกลักษณ์ความเป็น Battlefield คุณ Ryan MacArthur ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้จัดการฝ่าย Live Service (บริการออนไลน์) ของค่ายเปิดเผยต่อเว็บข่าว VG247
แน่นอนว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอน เพราะผู้พัฒนาอาจจะเพิ่ม (หรือลด) จำนวนผู้เล่นในแต่ละเกมได้อีกก่อนเกมจะวางจำหน่าย เพราะโหมด Firestorm จะตามมาภายหลังจากที่เกมวางจำหน่ายไปแล้วซักพัก โดยล่าสุดผู้พัฒนาได้ประกาศว่าจะเพิ่มโหมดเข้าไปในเกมในช่วงเดือนมีนาคมปี 2019 ด้วยเหตุผลว่าเกมตัวต้นมีเนื้อหาให้เล่นเยอะอยู่แล้ว ค่ายจึงอยากจะให้เวลาผู้เล่นได้สำรวจเนื้อหาในเกมตัวต้นให้หมดเสียก่อน และเพื่อให้โหมด Firestorm ได้รับความสนใจในระดับที่ควรได้
"สำหรับ DICE เรามองว่าการเปิดบริการเกมในลักษณะเดียวกับ Battlefield V เราควรสร้างโหมดการเล่นแต่ละชนิดให้มีความแตกต่างกันชัดเจน มีจุดดีจุดเด่นต่างกันในแบบที่ทำให้ผู้เล่นสามารถพุ่งความสนใจไปที่การเล่นโหมดเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่
เราอยากให้ผู้เล่นสามารถสนุกกับโหมดที่มีอยู่ในเกมตัวต้นก่อน แล้วจึงค่อยขยับขยายไปสู่วิธีการเล่นใหม่ๆ เมื่อเกมอัพเดทต่อไปเรื่อยๆ การใส่โหมดการเล่นแตกต่างกันมากเกินไปอาจกลายเป็นการแตกฐานผู้เล่นของเราเองด้วย"
Battlefield V ดูจะมีกระแสไม่ค่อยดีในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้พัฒนาประกาศว่าองค์ประกอบของเกมหลายๆ อย่างเช่นการตกแต่งยานพาหนะหรือการลากเพื่อนเข้าที่กำบังจะยังไม่อยู่ในเกมตอนวางจำหน่าย จนกระทั่งเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายเดิมจากช่วงกลางเดือนตุลาคมไปยังวันที่ 20 พฤษจิกายนนี้ (PS4, Xbox One, PC)
ด้วยความสำเร็จมหาศาลของเกมแนว Battle Royale ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คงไม่น่าแปลกใจที่เหล่าผู้พัฒนาเกมฟอร์มใหญ่จะเริ่มสนใจตีตลาดผู้เล่นเกม Battle Royale บ้าง อย่างเช่นเกม Call of Duty: Black Ops 4 และโหมด Blackout ของเกม ที่ปัจจุบันได้คว้าตำแหน่งเกม Battle Royale ที่ดีที่สุดไปแล้วในขณะนี้
Battlefield V เองก็เป็นอีกหนึ่งเกม FPS ฟอร์มใหญ่ที่จะมีโหมด Battle Royale เป็นของตัวเองเช่นกัน แต่ในขณะที่คู่แข่งในตลาด Battle Royale ต่างพากันเอาอย่างเกมฮิตเช่น PUBG และ Fortnite ด้วยการรองรับผู้เล่นนับ 100 คนในแต่ละเกม แต่ล่าสุดผู้พัฒนาจาก DICE ได้เผยแล้วว่าโหมด Battle Royale หรือ Firestorm ของเกมจะรองรับผู้เล่นเพียง 64 คนเท่านั้น เพื่อ สร้างประสบการณ์ที่ยังคงรู้สึกเหมือน Battlefield
ในตอนนี้ทีมพัฒนาตั้งเป้าจำนวนผู้เล่นเอาไว้ที่ 64 คนเท่านั้นสำหรับโหมด Firestorm เพราะสำหรับเรา สิ่งหนึ่งที่จะทำให้โหมดแตกต่างจากเกม Battle Royale ทั่วไปก็คือเอกลักษณ์ความเป็น Battlefield คุณ Ryan MacArthur ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้จัดการฝ่าย Live Service (บริการออนไลน์) ของค่ายเปิดเผยต่อเว็บข่าว VG247
แน่นอนว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่ใช่ตัวเลขที่แน่นอน เพราะผู้พัฒนาอาจจะเพิ่ม (หรือลด) จำนวนผู้เล่นในแต่ละเกมได้อีกก่อนเกมจะวางจำหน่าย เพราะโหมด Firestorm จะตามมาภายหลังจากที่เกมวางจำหน่ายไปแล้วซักพัก โดยล่าสุดผู้พัฒนาได้ประกาศว่าจะเพิ่มโหมดเข้าไปในเกมในช่วงเดือนมีนาคมปี 2019 ด้วยเหตุผลว่าเกมตัวต้นมีเนื้อหาให้เล่นเยอะอยู่แล้ว ค่ายจึงอยากจะให้เวลาผู้เล่นได้สำรวจเนื้อหาในเกมตัวต้นให้หมดเสียก่อน และเพื่อให้โหมด Firestorm ได้รับความสนใจในระดับที่ควรได้
"สำหรับ DICE เรามองว่าการเปิดบริการเกมในลักษณะเดียวกับ Battlefield V เราควรสร้างโหมดการเล่นแต่ละชนิดให้มีความแตกต่างกันชัดเจน มีจุดดีจุดเด่นต่างกันในแบบที่ทำให้ผู้เล่นสามารถพุ่งความสนใจไปที่การเล่นโหมดเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่
เราอยากให้ผู้เล่นสามารถสนุกกับโหมดที่มีอยู่ในเกมตัวต้นก่อน แล้วจึงค่อยขยับขยายไปสู่วิธีการเล่นใหม่ๆ เมื่อเกมอัพเดทต่อไปเรื่อยๆ การใส่โหมดการเล่นแตกต่างกันมากเกินไปอาจกลายเป็นการแตกฐานผู้เล่นของเราเองด้วย"
Battlefield V ดูจะมีกระแสไม่ค่อยดีในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้พัฒนาประกาศว่าองค์ประกอบของเกมหลายๆ อย่างเช่นการตกแต่งยานพาหนะหรือการลากเพื่อนเข้าที่กำบังจะยังไม่อยู่ในเกมตอนวางจำหน่าย จนกระทั่งเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายเดิมจากช่วงกลางเดือนตุลาคมไปยังวันที่ 20 พฤษจิกายนนี้ (PS4, Xbox One, PC)