จากการที่ระบบลงทุนออนไลน์คล้ายการประมูลสุดนิยมอย่าง Blockchain และ NFTs เริ่มเข้ามามีส่วนในหลาย ๆ วงการรวมไปถึงวงการเกม การแสวงหาผลกำไรช่องทางใหม่นี้จึงเป็นเรื่องปกติ เฉกเช่นเดียวกับที่ Square Enix ได้เคยบอกไว้ว่าพวกเขาต้องการลงทุนเหมือนกัน เพื่อให้บริษัทเติบโตไม่อยู่กับที่

ส่งผลให้เหล่าแฟนเกมเกิดข้อสงสัยว่า ถ้าเป็นแบบนี้เกมที่พวกเขารักจะลงไปในระบบเหล่านี้ที่จะเปลี่ยนการเล่นเกมสนุก ๆ เฉย ๆ มาเป็นการทำงานหรือไม่ คุณ Yosuke Matsuda ประธานบริษัท Square Enix จึงออกมาตอบกลับทันทีเพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นกังวลไป

'ผมว่ามันยังเร็วเกินไปนะ ที่จะจับเกม Dragon Quest และ Final Fantasy มาเป็นเกมในระบบ Blockchain'

และด้วยความที่ทางบริษัทเองก็เพิ่งขาย Crystal Dynamics, Eidos Montreal, Square Enix Montreal ที่มีลิขสิทธิ์เกมชื่อดังพ่วงไปด้วยไม่ว่าจะเป็นเกมล่าสมบัติ Tomb Raider, เกมแอ็กชัน Deus Ex และ Thief and Legacy of Kain ในราคากว่า 300 ล้านดอลลาร์ให้กับ Embracer Group เพื่อที่จะแสวงหาผลกำไรใหม่ ๆ ของตัวบริษัทเอง

แม้ตัวประธาน Matsuda อยากจะสร้างเกมที่เน้นเนื้อเรื่องบนแพลตฟอร์ม NFTs แต่จากการสัมภาษณ์กับนักข่าวญี่ปุ่น เขาก็ยืนยันไปแล้วว่า 'พวกเขาจะใช้เงินในการพัฒนาบริษัท มากกว่าไปลงกับ NFTs และ Blockchain แน่นอน'

Credit - VGC