Brendan Greene เป็นอาร์ทติสชาวไอริชที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในชื่อ PlayerUnknown ผู้ร่วมพัฒนาเกมแนว Battle Royale ชื่อดังอย่าง PlayerUnknown’s Battlegrounds (PUBG) ที่เพิ่งจะลาออกจาก PUBG Studios มาเมื่อไม่นานนี้ เพื่อมาตั้งบริษัทของตัวเองอย่าง PlayerUnknown Productions ขึ้นมา ซึ่งในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทำงานกันอย่างหนัก ในโปรเจกต์ ‘Prologue’ ซึ่งจะเป็นเกมโลกเปิดสุดอลังกาล
โดยจากการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของ Gamesbeat กับทางผู้พัฒนาอย่าง PlayerUnknown เขาก็ได้กล่าวว่า เกมดังกล่าวนั้นอาจจะทำให้แฟนๆ หลายคนเบื่อก็ได้ แน่นอน...เรื่องนี้ไม่ได้น่าแปลกใจเมื่อ Brendan Greene ทำการสารภาพแล้วว่า Prologue เป็นเกมที่สร้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ และจะนำไปสู่ Project Artemis ซึ่งจะมีความเป็นเกมโลกเปิดขนาดยักษ์ ที่มีพื้นที่กว้างถึง 64x64 กิโลเมตร
“ผมคิดว่ามันคงจะค่อนข้างน่าเบื่อ” Greene สารภาพ “การจุดไฟ เปิดหน้าต่าง ทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ป้องกันไม่ให้หนาวตายจากพายุที่โหมกระหนํ่าเข้ามาตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ดีเราก็ยังมีเกมเพลย์อีกมากมายที่อยากจะนำเสนอออกมา ซึ่งจะเป็นการอ้างอิงหลักเหตุและผลอย่างเป็นระบบ”
Prologue นั้นกำลังพยายามที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและแปลกใหม่ ภายใต้โลกเปิดขนาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันเกมเพลย์ที่ให้ความรู้สึก ของการต้องทำกิจกรรมเดิมซำ้ๆ ก็อดทำให้รู้สึกถึงเกม Death Stranding ของ Kojima Productions ไม่ได้ ดังนั้นแล้วในตอนนี้เราก็ได้ทำได้แต่เพียงจับตาดูและติดตามข่าวกันต่อไปนะคะ ว่าในท้ายที่สุดแล้ว Prologue ในเวอร์ชันสมบูรณ์นั้น จะออกมาเป็นอย่างไร
Credit: GamingBolt
Brendan Greene เป็นอาร์ทติสชาวไอริชที่ทุกคนอาจจะรู้จักกันในชื่อ PlayerUnknown ผู้ร่วมพัฒนาเกมแนว Battle Royale ชื่อดังอย่าง PlayerUnknown’s Battlegrounds (PUBG) ที่เพิ่งจะลาออกจาก PUBG Studios มาเมื่อไม่นานนี้ เพื่อมาตั้งบริษัทของตัวเองอย่าง PlayerUnknown Productions ขึ้นมา ซึ่งในขณะนี้พวกเขาก็กำลังทำงานกันอย่างหนัก ในโปรเจกต์ ‘Prologue’ ซึ่งจะเป็นเกมโลกเปิดสุดอลังกาล
โดยจากการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของ Gamesbeat กับทางผู้พัฒนาอย่าง PlayerUnknown เขาก็ได้กล่าวว่า เกมดังกล่าวนั้นอาจจะทำให้แฟนๆ หลายคนเบื่อก็ได้ แน่นอน...เรื่องนี้ไม่ได้น่าแปลกใจเมื่อ Brendan Greene ทำการสารภาพแล้วว่า Prologue เป็นเกมที่สร้างขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้ และจะนำไปสู่ Project Artemis ซึ่งจะมีความเป็นเกมโลกเปิดขนาดยักษ์ ที่มีพื้นที่กว้างถึง 64x64 กิโลเมตร
“ผมคิดว่ามันคงจะค่อนข้างน่าเบื่อ” Greene สารภาพ “การจุดไฟ เปิดหน้าต่าง ทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้ป้องกันไม่ให้หนาวตายจากพายุที่โหมกระหนํ่าเข้ามาตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ดีเราก็ยังมีเกมเพลย์อีกมากมายที่อยากจะนำเสนอออกมา ซึ่งจะเป็นการอ้างอิงหลักเหตุและผลอย่างเป็นระบบ”
Prologue นั้นกำลังพยายามที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและแปลกใหม่ ภายใต้โลกเปิดขนาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันเกมเพลย์ที่ให้ความรู้สึก ของการต้องทำกิจกรรมเดิมซำ้ๆ ก็อดทำให้รู้สึกถึงเกม Death Stranding ของ Kojima Productions ไม่ได้ ดังนั้นแล้วในตอนนี้เราก็ได้ทำได้แต่เพียงจับตาดูและติดตามข่าวกันต่อไปนะคะ ว่าในท้ายที่สุดแล้ว Prologue ในเวอร์ชันสมบูรณ์นั้น จะออกมาเป็นอย่างไร
Credit: GamingBolt