Back 4 Blood เป็นเกมแนว FPS ยิงซอมบี้ตะลุยด่านคล้ายกับเกม Left 4 Dead แต่ตัวเกมนั้นมีระบบที่พิเศษเพิ่มเข้ามาหลายอย่าง ที่ทำให้เกมเพลย์ของ Back 4 Blood มีความหลากหลายกว่า Left 4 Dead มาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการ์ดหรือความสามารถของตัวละครที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างสไตล์การเล่นในแบบของตัวเองได้ แถมยังมีระบบเกมเพลย์ที่มี AI คอยควบคุมรูปแบบเกมของผู้เล่นอีกด้วย ในวันนี้เรามาดูรายละเอียดของระบบเหล่านี้กัน
ระบบการ์ดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Corruption Card และ Active Card ถ้าจะให้พูดง่ายๆ คือการ์ดที่จะเพิ่มความยากในการเล่นและการ์ดที่จะทำให้การเล่นง่ายขึ้นสำหรับผู้เล่นนั่นเอง
Corruption Card คือการ์ดที่ The Director (AI ที่คอยคุมเกมของผู้เล่น) เลือกออกมาเพื่อให้การเล่นเกมของคนเล่นไม่ง่ายจนเกินไป การ์ดประเภทนี้ทุกใบจะเกี่ยวข้องกับ the Ridden (ชื่อเรียกซอมบี้ในเกม) สภาพอากาศ หรือ อุปสรรคต่างๆ ที่สามารถเจอได้ในเกม ตัวเกมจะทำการเก็บสะสมการ์ดพวกนี้เพิ่มขึ้นทีละใบทุกครั้งที่ผู้เล่นผ่าน Chapter ทำให้การเล่นท้าทายและมีอรรถรสมากขึ้นแต่ก็ไม่ยากเกินไปจนทำให้ผู้เล่นเล่นไม่ได้ แถมทำให้การเล่นด่านเดิมๆ แต่ละครั้งเปลี่ยนไปอย่างมาก เช่นเล่นครั้งแรกอาจจะเจอสภาพอากาศปกติ แต่เล่นอีกครั้งกลับเจอหมอกลงหนาจนทำให้มองไม่เห็นเพื่อนหรือศัตรู ซึ่งก็ทำให้เกมยังคงท้าทายอยู่เสมอแม้จะเล่นด่านเดิมซ้ำกันหลายคร้ัง
แต่ในขณะเดียวกันตัวเกมก็จะให้ Challenge Card เพิ่มขึ้นมาด้วยเป็นเหมือนเป้าหมายเสริมในการผ่านด่าน หากทำสำเร็จก็จะได้รางวัลหลังการผ่านด่านเป็นรางวัล เช่น จบด่านภายใน 5 นาทีเพื่อรับเงินเพิ่มอีก 100 Copper (ไว้ใช้ซื้อของ) หรือหาไอเทมพิเศษบางอย่างให้เจอและนำไปยังห้องเซฟเพื่อรับ 50 Copper เป็นต้น
ใครที่สนใจรายละเอียดของ Corruption Cards สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงก์ : Corruption Cards
Active Card การ์ดประเภทนี้จะเป็นตัวช่วยของฝั่งผู้เล่น โดยจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดคือ “Reflex” (สีฟ้า), “Discipline” (สีแดง), “Brawn” (สีเขียว), “Fortune” (สีเหลือง) นอกจากนั้นการ์ดก็แบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อยได้แก่ Offense (จู่โจม), Defense (ป้องกัน), Utility (การใช้ไอเทม) และ Mobility (การเคลื่อนไหว) ผู้เล่นจะต้องเลือกการ์ดเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสชนะและทำให้ได้รับผลกระทบจาก Corruption การ์ดได้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การ์ดที่จะช่วยให้ดาเมจปืนเพิ่มขึ้นแลกกับแรงถีบปืนมากขึ้นหรือจัดการ Ridden ด้วยอาวุธระยะประชิดเพื่อเพิ่มเลือดเป็นต้น
ใครที่สนใจรายละเอียดของ Active Card สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงก์: Reflex & Fortune Card , Discipline & Brawn
The Director หรือที่รู้จักกันในนาม AI Game Master คือหนึ่งในระบบพิเศษที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เด่นของเกมเลยก็ว่าได้ เพราะทุกการเล่นเกมของคุณจะมี AI ตัวนี้คอยคุมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของในแมพต่างๆ การ์ด Corruption ที่สุ่มได้ หรือแม้แต่ ตัว Mutations ที่ปรากฏออกมาในด่าน ก็ได้ AI ตัวนี้คอยคุมอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เกมของคุณไม่ง่ายและยากจนเกินไป
ยกตัวอย่างการทำงานของระบบนี้ก็มีตัวอย่างเช่น ความยากในแต่ละการเล่นของเราจะไม่เท่ากัน หากด่านแรกทีมของเราสามารถผ่านได้อย่างรวดเร็ว The Director ก็จะทำการปรับให้ Ridden เยอะขึ้น ของหายากขึ้น หรือหากเราไม่สามารถผ่านด่านในทีแรกได้ The Director ก็จะปรับ Ridden ให้น้อยลง หรือไอเทมระดับที่ดีกว่าเดิมจะโผล่มาให้เห็นมากขึ้นเป็นต้น
ใครที่อยากจะหาวิธีรับมือและเล่นเกมให้สนุกสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่: Loadout Character
ด้วยระบบเหล่านี้นี้จึงทำให้การเล่นเกมในแต่ละครั้งไม่น่าเบื่อและจำเจจนเกินไป แถมยังสามารถทำให้ผู้เล่นได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลาที่เล่นอีกด้วย หากใครชอบเกมแนวยิงซอมบี้ล่ะก็ผมแนะนำเลยว่า Back 4 Blood คือเกมที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้ขอบคุณที่อ่านครับ
Back 4 Blood เป็นเกมแนว FPS ยิงซอมบี้ตะลุยด่านคล้ายกับเกม Left 4 Dead แต่ตัวเกมนั้นมีระบบที่พิเศษเพิ่มเข้ามาหลายอย่าง ที่ทำให้เกมเพลย์ของ Back 4 Blood มีความหลากหลายกว่า Left 4 Dead มาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการ์ดหรือความสามารถของตัวละครที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างสไตล์การเล่นในแบบของตัวเองได้ แถมยังมีระบบเกมเพลย์ที่มี AI คอยควบคุมรูปแบบเกมของผู้เล่นอีกด้วย ในวันนี้เรามาดูรายละเอียดของระบบเหล่านี้กัน
ระบบการ์ดจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Corruption Card และ Active Card ถ้าจะให้พูดง่ายๆ คือการ์ดที่จะเพิ่มความยากในการเล่นและการ์ดที่จะทำให้การเล่นง่ายขึ้นสำหรับผู้เล่นนั่นเอง
Corruption Card คือการ์ดที่ The Director (AI ที่คอยคุมเกมของผู้เล่น) เลือกออกมาเพื่อให้การเล่นเกมของคนเล่นไม่ง่ายจนเกินไป การ์ดประเภทนี้ทุกใบจะเกี่ยวข้องกับ the Ridden (ชื่อเรียกซอมบี้ในเกม) สภาพอากาศ หรือ อุปสรรคต่างๆ ที่สามารถเจอได้ในเกม ตัวเกมจะทำการเก็บสะสมการ์ดพวกนี้เพิ่มขึ้นทีละใบทุกครั้งที่ผู้เล่นผ่าน Chapter ทำให้การเล่นท้าทายและมีอรรถรสมากขึ้นแต่ก็ไม่ยากเกินไปจนทำให้ผู้เล่นเล่นไม่ได้ แถมทำให้การเล่นด่านเดิมๆ แต่ละครั้งเปลี่ยนไปอย่างมาก เช่นเล่นครั้งแรกอาจจะเจอสภาพอากาศปกติ แต่เล่นอีกครั้งกลับเจอหมอกลงหนาจนทำให้มองไม่เห็นเพื่อนหรือศัตรู ซึ่งก็ทำให้เกมยังคงท้าทายอยู่เสมอแม้จะเล่นด่านเดิมซ้ำกันหลายคร้ัง
แต่ในขณะเดียวกันตัวเกมก็จะให้ Challenge Card เพิ่มขึ้นมาด้วยเป็นเหมือนเป้าหมายเสริมในการผ่านด่าน หากทำสำเร็จก็จะได้รางวัลหลังการผ่านด่านเป็นรางวัล เช่น จบด่านภายใน 5 นาทีเพื่อรับเงินเพิ่มอีก 100 Copper (ไว้ใช้ซื้อของ) หรือหาไอเทมพิเศษบางอย่างให้เจอและนำไปยังห้องเซฟเพื่อรับ 50 Copper เป็นต้น
ใครที่สนใจรายละเอียดของ Corruption Cards สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงก์ : Corruption Cards
Active Card การ์ดประเภทนี้จะเป็นตัวช่วยของฝั่งผู้เล่น โดยจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดคือ “Reflex” (สีฟ้า), “Discipline” (สีแดง), “Brawn” (สีเขียว), “Fortune” (สีเหลือง) นอกจากนั้นการ์ดก็แบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อยได้แก่ Offense (จู่โจม), Defense (ป้องกัน), Utility (การใช้ไอเทม) และ Mobility (การเคลื่อนไหว) ผู้เล่นจะต้องเลือกการ์ดเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสชนะและทำให้ได้รับผลกระทบจาก Corruption การ์ดได้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น การ์ดที่จะช่วยให้ดาเมจปืนเพิ่มขึ้นแลกกับแรงถีบปืนมากขึ้นหรือจัดการ Ridden ด้วยอาวุธระยะประชิดเพื่อเพิ่มเลือดเป็นต้น
ใครที่สนใจรายละเอียดของ Active Card สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงก์: Reflex & Fortune Card , Discipline & Brawn
The Director หรือที่รู้จักกันในนาม AI Game Master คือหนึ่งในระบบพิเศษที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เด่นของเกมเลยก็ว่าได้ เพราะทุกการเล่นเกมของคุณจะมี AI ตัวนี้คอยคุมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของในแมพต่างๆ การ์ด Corruption ที่สุ่มได้ หรือแม้แต่ ตัว Mutations ที่ปรากฏออกมาในด่าน ก็ได้ AI ตัวนี้คอยคุมอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เกมของคุณไม่ง่ายและยากจนเกินไป
ยกตัวอย่างการทำงานของระบบนี้ก็มีตัวอย่างเช่น ความยากในแต่ละการเล่นของเราจะไม่เท่ากัน หากด่านแรกทีมของเราสามารถผ่านได้อย่างรวดเร็ว The Director ก็จะทำการปรับให้ Ridden เยอะขึ้น ของหายากขึ้น หรือหากเราไม่สามารถผ่านด่านในทีแรกได้ The Director ก็จะปรับ Ridden ให้น้อยลง หรือไอเทมระดับที่ดีกว่าเดิมจะโผล่มาให้เห็นมากขึ้นเป็นต้น
ใครที่อยากจะหาวิธีรับมือและเล่นเกมให้สนุกสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่: Loadout Character
ด้วยระบบเหล่านี้นี้จึงทำให้การเล่นเกมในแต่ละครั้งไม่น่าเบื่อและจำเจจนเกินไป แถมยังสามารถทำให้ผู้เล่นได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอดเวลาที่เล่นอีกด้วย หากใครชอบเกมแนวยิงซอมบี้ล่ะก็ผมแนะนำเลยว่า Back 4 Blood คือเกมที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน สำหรับบทความนี้ขอบคุณที่อ่านครับ