GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Blacktail การดัดแปลงนิทานสลาฟ ที่จะพาคุณสำรวจโลกแฟนตาซีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ลงวันที่ 19/12/2022

การนำเอาเทพนิยาย หรือนิทานชื่อดังมาทำเป็นเกมนั้น มีให้เห็นกันมากมาย ทั้งเทพกรีก เทพโรมัน แต่จะมีสักกี่เกมที่ใช้นิทานพื้นบ้านมาเล่าเป็นเนื้อเรื่อง และ Blacktail คือเกมอินดี้ที่หยิบเอาเรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูนัก นั่นคือนิทานเรื่อง Baba Yaga ที่หลายคนอาจจะได้ยินชื่อเสียงผ่านสื่อบันเทิงอื่นมามากมาย มาเล่าเป็นวิดีโอเกม ส่วน Baba Yaga ในฉบับเกมนี้จะออกมาเป็นยังไง ลองมาดูในรีวิว Blacktail ของเรากัน

จากนิทานสลาฟ สู่เกม Indie RPG ที่เน้่นการนำเสนอเรื่องราว


อย่างที่เรากล่าวไปในพาดหัว Baba Yaga อาจเป็นชื่อที่เราเคยได้ยินจากสื่อบันเทิงหลายสื่อ เอาที่โด่งดังหน่อยก็คือ John Wick แต่จริง ๆ แล้ว Baba Yaga คือชื่อของนิทานพื้นบ้านของชาวสลาฟ บ้างก็ว่าด้วยเรื่องราวของแม่มดที่อาศัยอยู่ในป่า ซึ่ง Blacktail หยิบจุดนี้มาเล่าเป็นวิดีโอเกมและนำเสนอเรื่องราวนี้ได้ค่อนข้างน่าสนใจและเข้าถึงง่ายกว่ามาก ผู้เล่นจะได้เริ่มต้นเกมด้วยการรับบทเป็นตัวละครสาวชื่อ Yaga จากนั้นก็เลือกเส้นทางของตัวเองว่าจะเลือกเดินเส้นทางสายสว่างหรือสายมืด เมื่อเลือกแล้วเกมก็จะเริ่มต้นขึ้นกับพล็อตยอดฮิต คือ Yaga จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำที่หายไป เธอจำได้เพียงเพื่อนและน้องสาวของเธอเท่านั้น และเธอก็ได้รับการชักนำจากเสียงปริศนาอย่าง The Voice ให้ออกเดินทางตามหาความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด


และเหมือนว่าทีมพัฒนาเกมจะรู้ ว่าเกมของพวกเขานั้นอาจจะต้องอาศัยการเรียนรู้และการตีความที่มากเป็นพิเศษ เกมจึงมีโหมดการเล่น 2 โหมด คือโหมด Adventure และโหมด Story สำหรับโหมด Adventure นั้นจะเหมือนกับโหมดเกมความยากระดับปกติที่ผู้เล่นสามารถสนุก และท้าทายไปกับการต่อสู้ ในขณะที่โหมด Story จะเน้นให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่อง และลดความยากในการต่อสู้ลง เพื่อให้ผู้เล่นได้โฟกัสไปกับการติดตามเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น 

สิ่งที่เกมนี้ภูมิใจนำเสนอมาตั้งแต่ตอนเปิดตัวคือเรื่องของระบบศีลธรรมหรือ Morality ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการกระทำและการเลือกดำเนินเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเกม เรียกได้ว่า ดี-เลว ขึ้นอยู่กับตัวคุณกำหนด ตั้งแต่การเลือกเชื่อฟัง NPC ตัวใด หรือการกระทำเวลาเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นเวลาคุณเจอนกโดนปีศาจจับไว้อยู่ ถ้าเราเลือกช่วย มันก็จะช่วยเพิ่มคุณธรรมฝั่งดี แต่ถ้าเลือกปล่อยผ่าน หรือช่วยซ้ำเติมมันอีก ก็จะได้เพิ่มความชั่วร้ายในตัวให้สูงขึ้น ดังนั้นจะบอกได้ว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นเองก็ย่อมได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการชูจุดเด่นที่เหมาะสมกับแนวเกมและพื้นหลังที่เลือกมาใช้ได้ดี

โลกของนิทานสลาฟที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส และไม่ดาร์คอย่างที่คิด


แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องราวที่อิงมาจากนิทานสลาฟอย่าง Baba Yaga แต่ในความเป็นจริงแล้วเกมการเล่นมันก็ไม่ได้ชวนดาร์คอย่างที่คิด เกมนี้มีการนำเสนอในรูปแบบแฟนตาซีที่มีสีสันสดใสมาก จนแทบจะกลายเป็นจุดเด่นของเกมไปเลยตั้งแต่ตอนที่ได้เล่นครั้งแรก ใครที่ชื่นชอบสีสันสดใส ฉูดฉาด แบบ Far Cry 4 คุณอาจจะชอบเกมนี้ เพียงแต่กราฟิกจะเน้นหนักไปที่ความเป็นการ์ตูนมากกว่า 

และเพื่อให้สอดคล้องกับส่วนของเนื้อเรื่องที่จะนำเสนอประเด็นความดี ความชั่ว ทำให้ตลอดระยะเวลาการเล่น ผู้เล่นจะต้องเลือกชอยส์ในการตอบคำถามเหล่า NPC บ่อยมาก และทางเลือกในการตอบก็ดูเหมือนจะไร้ความประณีประนอม ต้องตอบแบบตรงไปตรงมาเท่านั้น ว่าเราจะไปขาว หรือไปดำ เรียกได้ว่าเกมนี้เน้นไปสุดทาง ไม่มีตรงกลางให้เลือกแน่นอน และยิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ เราก็จะยิ่งปลดล็อคความทรงจำที่ถูกนำเสนอเหมือนกับหนังสือนิทาน เพิ่มอรรถรสด้วยเสียงพากย์ระดับคุณภาพ ที่ทำให้เราอินไปกับเนื้อเรื่องได้ง่ายมาก


และตัวเกมเป็นเกมผจญภัยในโลก Open World ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และยังคงคอนเซปต์ความสดใส ย้ำกันอีกรอบว่าแม้จะเป็นเรื่องราวของ Baba Yaga แต่มันไม่ได้มีความดาร์คใด ๆ เลย แถมตัวเกมยังมีทั้งระบบกลางวัน กลางคืน นี่ไม่ใช่ป่าในเทพนิยายทั่วไป แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความสวยงามที่ผู้เล่นแทบจะกดหยุดถ่ายภาพเป็นสกรีนช็อตกันได้แทบจะทุกที่ และยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาด NPC ต่าง ๆ ที่จะมาดึงความสนใจเราจากเป้าหมายหลักได้ตลอดเวลา ในแง่ของการนำเสนอโลกในเกม ยังไงก็ต้องชื่นชมทีมพัฒนาเกมนี้จริง ๆ ที่ทำโลกนิทานสลาฟออกมาได้สวยงามขนาดนี้


ด้วยความที่เป็นเกม Single Player แบบเล่นคนเดียว ทำให้ตัวเกมไม่ได้มีความยาวอะไรมากนัก หากเล่นแบบไถเอาเนื้อเรื่องไปเลยก็อาจจะจบได้ใน 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้าจะออกสำรวจด้วย เอาทุกอย่างจนครบก็อาจจะมี 10 ชั่วโมงขึ้นไปอยู่ เทียบกับตัวเกมในราคา 552 บาท (โปรโมชั่นลดราคายาวถึงปีใหม่) ก็ถือว่าสมราคา แต่จะชอบหรือไม่ชอบเรื่องราวของเทพนิยายสลาฟหรือไม่ ก็แล้วแต่ตัวบุคคล แต่สำหรับในแง่การนำเสนอ ถือว่าทำได้ดีสำหรับ Blacktail

ธนูคู่ใจและพลังเหนือธรรมชาติ อาวุธที่จะอยู่คู่กับเราไปตลอดทั้งเกม


แม้ว่าจะเป็นเกมแอ็คชั่น แต่ Blacktail ไม่ใช่เกมบู๊แหลกขนาดนั้น อาวุธที่เรามี จะมีเพียงธนูคู่ใจเท่านั้น และเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นการปลดล็อคพลังพิเศษ ที่ใช้ได้ทั้งในการต่อสู้และเปิดเส้นทางลับต่าง ๆ แต่ในทุก ๆ การต่อสู้ ธนูของเรานี่ล่ะ ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้และช่วยให้เรารอด

สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการต่อสู้ คือการที่เกมเพลย์ของเกมนี้ถูกผูกรวมเข้ากับระบบที่เป็นจุดขายของเกมคือระบบศีลธรรม ผู้เล่นจะไม่สามารถครอบครอง หรือมีทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ เพราะหากเราเลือกเส้นทางสายใดสายหนึ่งไปแล้ว อาจจะไม่สามารถเข้าถึงไอเทมได้ทุกชิ้น ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเป็นเรื่องปกติ และรวมไปถึงเรื่องของสกิลและความสามารถด้วย

ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก แม้กระทั่งบอสไฟท์ ใครที่เคยเล่นเกม Action RPG มาแล้วหลาย ๆ เกมก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างกันมากจนเกินไปนัก เพราะถึงเวลาเราก็แค่ยิงให้โดน หลบให้ถูกจังหวะ เกมไม่ได้มีความยากอะไรขนาดนั้น เวลาเจอศัตรูใหม่ ของใหม่ เราอาจจะตายอยู่กับมันบ้างครั้งสองครั้ง แต่ถ้าจับจุดได้ทุกอย่างก็เรียบร้อยอยู่ดี


การอัปเกรดตัวละครของเกมนี้จะมีเพียงสกิลเท่านั้น แต่ตรงนี้ตัวเกมแอบน่ารำคาญเล็กน้อย กรณีที่เราจะอัปเกรดสกิลได้นั้น เราจะต้องกลับไปที่กระท่อมที่เป็นเหมือนกับ HUB ของเรา และ Skill Tree ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก การจะอัปเกรดสกิลได้นั้นจะต้องตามหา Lost Page ที่ได้จากการเล่นตามเนื้อเรื่องและการออกสำรวจ รวมไปถึงสกิลระดับ HEX Type จะเป็นสกิลที่เราเปิดใช้งานได้เพียงครั้งเดียวระหว่างการเล่น ที่จะทำให้เรามีความสามารถของสัตว์ต่าง ๆ 

ในขณะที่ไอเทมจำพวกยาฟื้นพลังก็ถือว่าสร้างสรรค์ แต่ในบางช่วงก็น่ารำคาญเช่นกัน คือเราจะต้องไปล่าสัตว์เพื่อนำเนื้อของมันกลับไปยังแคมป์ไฟ จากนั้นเราจะต้องปรุงให้สุกโดยการเล่นมินิเกมเท่านั้น การออกแบบเกมเพลย์ของเกมนี้จึงมีความกลาง ๆ ผสมอยู่ คือมันทั้งน่ารำคาญและน่าสนุกในเวลาเดียวกัน แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งเล่นนาน ยิ่งน่ารำคาญ


ในด้านของระบบศีลธรรมหรือ Morality เอง ก็ถือว่ามอบผลประโยชน์ที่สำคัญให้กับผู้เล่นที่เลือกสายดี สายชั่ว ยกตัวอย่างเช่นหากเราเล่นสายชั่ว การกำจัดศัตรูจะมีโอกาสดรอปไอเทมพิเศษที่ทำให้ฟื้นฟูพลังชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการต่อสู้ เพราะเกมนี้วิธีการฟื้นฟูพลังชีวิตค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าเราเล่นสายดี เราจะเก็บทรัพยากรและวัตถุดิบได้มากยิ่งขึ้น คือไม่ว่าคุณจะเลือกสายไหน มันก็จะมีประโยชน์ในตัวมันเองด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นเกมนี้ไม่มีผิดมีถูกใด ๆ เว้นเสียแต่ว่ามันเป็นความรู้สึกภายในจิตใจของคุณเองระหว่างเล่น


เกมเพลย์ของ Blacktail นั้น ไร้ซึ่งความซับซ้อน จุดเด่นของมันคือการเลือกทำดี ทำชั่ว ซึ่งสุดแล้วแต่ผู้เล่น แม้มันจะมอบประสบการณ์ในการเล่นคนละแบบ แต่ก็ถือว่าไม่ได้ห่างกันมากจนเรารู้สึกว่ามันคือคนละเกม ถ้ามองในแง่ความจำกัดจำเขี่ยของงบที่ใช้พัฒนา ก็ถือว่าทีมงานเกมนี้ได้พยายามสร้างสรรค์อย่างถึงที่สุดแล้ว

Performance ของเกม ที่แกว่งแบบขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด


เกมอินดี้ที่ถือว่าทำมาดีทุกอย่าง แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือในเรื่องของ Performance ทั้งที่เกมนี้ไม่ได้กินสเปคมากมายอะไร แต่ปัญหาที่เจอบ่อยมากคือ ทุกครั้งเวลาที่เราข้ามเขตแดนไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ จะเกิดอาการเฟรมเรทดรอป และแลคมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกมนี้ต้องการมากกว่าการ์ดจอคือเรื่องของแรมที่ใช้มากถึง 16GB ใครที่ใช้แรมน้อยกว่านี้ จริงอยู่ว่ายังไงก็เล่นได้ แต่อาจจะเจอปัญหาเฟรมเรทดรอป และกระตุกบ้างเป็นบางครั้ง แต่ในขณะที่เครื่องผู้เขียนเอง มีสเปคเกินกว่าที่เกมต้องการไปพอสมควร แต่กลับมีปัญหา ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหามาจากการพอร์ทเกมหรือ Performance ของตัวเกมเอง ซึ่งคงจะมีแพทช์มาแก้ในภายหลัง

Blacktail เป็นอีกเกมอินดี้ที่เรียกได้ว่า ม้ามืดส่งท้ายปีนี้อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีถึงขั้นไม่ควรพลาด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดี และถ้ามีโอกาสก็ควรลองเล่นดูสักครั้ง

7
ข้อดี

ดัดแปลงนิทานสลาฟมาเป็นเกมได้เพลิดเพลินมาก

ไม่ดาร์คก็จริง แต่มีจังหวะแอบหลอนที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัว

โลกภายในเกมที่สวยงาม น่าค้นหา

ระบบดีชั่วที่ได้ประโยชน์ทั้งสองแบบ แล้วแต่เราจะเลือก


ข้อเสีย

ระบบการต่อสู้ค่อนข้างน่าเบื่อ

เกมเป็นเส้นตรงซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีโอกาสได้สำรวจโลก ถ้าเราไม่เลือกที่จะทำมันเอง

Performance เกมค่อนข้างแกว่ง

ใครไม่อินกับความเป็นแฟนตาซีหรือเทพนิยายสลาฟจะไม่ชอบเกมนี้เลย

7
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Blacktail การดัดแปลงนิทานสลาฟ ที่จะพาคุณสำรวจโลกแฟนตาซีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
19/12/2022

การนำเอาเทพนิยาย หรือนิทานชื่อดังมาทำเป็นเกมนั้น มีให้เห็นกันมากมาย ทั้งเทพกรีก เทพโรมัน แต่จะมีสักกี่เกมที่ใช้นิทานพื้นบ้านมาเล่าเป็นเนื้อเรื่อง และ Blacktail คือเกมอินดี้ที่หยิบเอาเรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูนัก นั่นคือนิทานเรื่อง Baba Yaga ที่หลายคนอาจจะได้ยินชื่อเสียงผ่านสื่อบันเทิงอื่นมามากมาย มาเล่าเป็นวิดีโอเกม ส่วน Baba Yaga ในฉบับเกมนี้จะออกมาเป็นยังไง ลองมาดูในรีวิว Blacktail ของเรากัน

จากนิทานสลาฟ สู่เกม Indie RPG ที่เน้่นการนำเสนอเรื่องราว


อย่างที่เรากล่าวไปในพาดหัว Baba Yaga อาจเป็นชื่อที่เราเคยได้ยินจากสื่อบันเทิงหลายสื่อ เอาที่โด่งดังหน่อยก็คือ John Wick แต่จริง ๆ แล้ว Baba Yaga คือชื่อของนิทานพื้นบ้านของชาวสลาฟ บ้างก็ว่าด้วยเรื่องราวของแม่มดที่อาศัยอยู่ในป่า ซึ่ง Blacktail หยิบจุดนี้มาเล่าเป็นวิดีโอเกมและนำเสนอเรื่องราวนี้ได้ค่อนข้างน่าสนใจและเข้าถึงง่ายกว่ามาก ผู้เล่นจะได้เริ่มต้นเกมด้วยการรับบทเป็นตัวละครสาวชื่อ Yaga จากนั้นก็เลือกเส้นทางของตัวเองว่าจะเลือกเดินเส้นทางสายสว่างหรือสายมืด เมื่อเลือกแล้วเกมก็จะเริ่มต้นขึ้นกับพล็อตยอดฮิต คือ Yaga จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำที่หายไป เธอจำได้เพียงเพื่อนและน้องสาวของเธอเท่านั้น และเธอก็ได้รับการชักนำจากเสียงปริศนาอย่าง The Voice ให้ออกเดินทางตามหาความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด


และเหมือนว่าทีมพัฒนาเกมจะรู้ ว่าเกมของพวกเขานั้นอาจจะต้องอาศัยการเรียนรู้และการตีความที่มากเป็นพิเศษ เกมจึงมีโหมดการเล่น 2 โหมด คือโหมด Adventure และโหมด Story สำหรับโหมด Adventure นั้นจะเหมือนกับโหมดเกมความยากระดับปกติที่ผู้เล่นสามารถสนุก และท้าทายไปกับการต่อสู้ ในขณะที่โหมด Story จะเน้นให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่อง และลดความยากในการต่อสู้ลง เพื่อให้ผู้เล่นได้โฟกัสไปกับการติดตามเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น 

สิ่งที่เกมนี้ภูมิใจนำเสนอมาตั้งแต่ตอนเปิดตัวคือเรื่องของระบบศีลธรรมหรือ Morality ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการกระทำและการเลือกดำเนินเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเกม เรียกได้ว่า ดี-เลว ขึ้นอยู่กับตัวคุณกำหนด ตั้งแต่การเลือกเชื่อฟัง NPC ตัวใด หรือการกระทำเวลาเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นเวลาคุณเจอนกโดนปีศาจจับไว้อยู่ ถ้าเราเลือกช่วย มันก็จะช่วยเพิ่มคุณธรรมฝั่งดี แต่ถ้าเลือกปล่อยผ่าน หรือช่วยซ้ำเติมมันอีก ก็จะได้เพิ่มความชั่วร้ายในตัวให้สูงขึ้น ดังนั้นจะบอกได้ว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เล่นเองก็ย่อมได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการชูจุดเด่นที่เหมาะสมกับแนวเกมและพื้นหลังที่เลือกมาใช้ได้ดี

โลกของนิทานสลาฟที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส และไม่ดาร์คอย่างที่คิด


แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องราวที่อิงมาจากนิทานสลาฟอย่าง Baba Yaga แต่ในความเป็นจริงแล้วเกมการเล่นมันก็ไม่ได้ชวนดาร์คอย่างที่คิด เกมนี้มีการนำเสนอในรูปแบบแฟนตาซีที่มีสีสันสดใสมาก จนแทบจะกลายเป็นจุดเด่นของเกมไปเลยตั้งแต่ตอนที่ได้เล่นครั้งแรก ใครที่ชื่นชอบสีสันสดใส ฉูดฉาด แบบ Far Cry 4 คุณอาจจะชอบเกมนี้ เพียงแต่กราฟิกจะเน้นหนักไปที่ความเป็นการ์ตูนมากกว่า 

และเพื่อให้สอดคล้องกับส่วนของเนื้อเรื่องที่จะนำเสนอประเด็นความดี ความชั่ว ทำให้ตลอดระยะเวลาการเล่น ผู้เล่นจะต้องเลือกชอยส์ในการตอบคำถามเหล่า NPC บ่อยมาก และทางเลือกในการตอบก็ดูเหมือนจะไร้ความประณีประนอม ต้องตอบแบบตรงไปตรงมาเท่านั้น ว่าเราจะไปขาว หรือไปดำ เรียกได้ว่าเกมนี้เน้นไปสุดทาง ไม่มีตรงกลางให้เลือกแน่นอน และยิ่งเล่นไปเรื่อย ๆ เราก็จะยิ่งปลดล็อคความทรงจำที่ถูกนำเสนอเหมือนกับหนังสือนิทาน เพิ่มอรรถรสด้วยเสียงพากย์ระดับคุณภาพ ที่ทำให้เราอินไปกับเนื้อเรื่องได้ง่ายมาก


และตัวเกมเป็นเกมผจญภัยในโลก Open World ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และยังคงคอนเซปต์ความสดใส ย้ำกันอีกรอบว่าแม้จะเป็นเรื่องราวของ Baba Yaga แต่มันไม่ได้มีความดาร์คใด ๆ เลย แถมตัวเกมยังมีทั้งระบบกลางวัน กลางคืน นี่ไม่ใช่ป่าในเทพนิยายทั่วไป แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความสวยงามที่ผู้เล่นแทบจะกดหยุดถ่ายภาพเป็นสกรีนช็อตกันได้แทบจะทุกที่ และยังเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาด NPC ต่าง ๆ ที่จะมาดึงความสนใจเราจากเป้าหมายหลักได้ตลอดเวลา ในแง่ของการนำเสนอโลกในเกม ยังไงก็ต้องชื่นชมทีมพัฒนาเกมนี้จริง ๆ ที่ทำโลกนิทานสลาฟออกมาได้สวยงามขนาดนี้


ด้วยความที่เป็นเกม Single Player แบบเล่นคนเดียว ทำให้ตัวเกมไม่ได้มีความยาวอะไรมากนัก หากเล่นแบบไถเอาเนื้อเรื่องไปเลยก็อาจจะจบได้ใน 5-6 ชั่วโมง แต่ถ้าจะออกสำรวจด้วย เอาทุกอย่างจนครบก็อาจจะมี 10 ชั่วโมงขึ้นไปอยู่ เทียบกับตัวเกมในราคา 552 บาท (โปรโมชั่นลดราคายาวถึงปีใหม่) ก็ถือว่าสมราคา แต่จะชอบหรือไม่ชอบเรื่องราวของเทพนิยายสลาฟหรือไม่ ก็แล้วแต่ตัวบุคคล แต่สำหรับในแง่การนำเสนอ ถือว่าทำได้ดีสำหรับ Blacktail

ธนูคู่ใจและพลังเหนือธรรมชาติ อาวุธที่จะอยู่คู่กับเราไปตลอดทั้งเกม


แม้ว่าจะเป็นเกมแอ็คชั่น แต่ Blacktail ไม่ใช่เกมบู๊แหลกขนาดนั้น อาวุธที่เรามี จะมีเพียงธนูคู่ใจเท่านั้น และเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นการปลดล็อคพลังพิเศษ ที่ใช้ได้ทั้งในการต่อสู้และเปิดเส้นทางลับต่าง ๆ แต่ในทุก ๆ การต่อสู้ ธนูของเรานี่ล่ะ ที่จะเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้และช่วยให้เรารอด

สิ่งสำคัญนอกเหนือไปจากการต่อสู้ คือการที่เกมเพลย์ของเกมนี้ถูกผูกรวมเข้ากับระบบที่เป็นจุดขายของเกมคือระบบศีลธรรม ผู้เล่นจะไม่สามารถครอบครอง หรือมีทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ เพราะหากเราเลือกเส้นทางสายใดสายหนึ่งไปแล้ว อาจจะไม่สามารถเข้าถึงไอเทมได้ทุกชิ้น ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างเป็นเรื่องปกติ และรวมไปถึงเรื่องของสกิลและความสามารถด้วย

ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก แม้กระทั่งบอสไฟท์ ใครที่เคยเล่นเกม Action RPG มาแล้วหลาย ๆ เกมก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างกันมากจนเกินไปนัก เพราะถึงเวลาเราก็แค่ยิงให้โดน หลบให้ถูกจังหวะ เกมไม่ได้มีความยากอะไรขนาดนั้น เวลาเจอศัตรูใหม่ ของใหม่ เราอาจจะตายอยู่กับมันบ้างครั้งสองครั้ง แต่ถ้าจับจุดได้ทุกอย่างก็เรียบร้อยอยู่ดี


การอัปเกรดตัวละครของเกมนี้จะมีเพียงสกิลเท่านั้น แต่ตรงนี้ตัวเกมแอบน่ารำคาญเล็กน้อย กรณีที่เราจะอัปเกรดสกิลได้นั้น เราจะต้องกลับไปที่กระท่อมที่เป็นเหมือนกับ HUB ของเรา และ Skill Tree ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก การจะอัปเกรดสกิลได้นั้นจะต้องตามหา Lost Page ที่ได้จากการเล่นตามเนื้อเรื่องและการออกสำรวจ รวมไปถึงสกิลระดับ HEX Type จะเป็นสกิลที่เราเปิดใช้งานได้เพียงครั้งเดียวระหว่างการเล่น ที่จะทำให้เรามีความสามารถของสัตว์ต่าง ๆ 

ในขณะที่ไอเทมจำพวกยาฟื้นพลังก็ถือว่าสร้างสรรค์ แต่ในบางช่วงก็น่ารำคาญเช่นกัน คือเราจะต้องไปล่าสัตว์เพื่อนำเนื้อของมันกลับไปยังแคมป์ไฟ จากนั้นเราจะต้องปรุงให้สุกโดยการเล่นมินิเกมเท่านั้น การออกแบบเกมเพลย์ของเกมนี้จึงมีความกลาง ๆ ผสมอยู่ คือมันทั้งน่ารำคาญและน่าสนุกในเวลาเดียวกัน แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งเล่นนาน ยิ่งน่ารำคาญ


ในด้านของระบบศีลธรรมหรือ Morality เอง ก็ถือว่ามอบผลประโยชน์ที่สำคัญให้กับผู้เล่นที่เลือกสายดี สายชั่ว ยกตัวอย่างเช่นหากเราเล่นสายชั่ว การกำจัดศัตรูจะมีโอกาสดรอปไอเทมพิเศษที่ทำให้ฟื้นฟูพลังชีวิตได้ ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการต่อสู้ เพราะเกมนี้วิธีการฟื้นฟูพลังชีวิตค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าเราเล่นสายดี เราจะเก็บทรัพยากรและวัตถุดิบได้มากยิ่งขึ้น คือไม่ว่าคุณจะเลือกสายไหน มันก็จะมีประโยชน์ในตัวมันเองด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นเกมนี้ไม่มีผิดมีถูกใด ๆ เว้นเสียแต่ว่ามันเป็นความรู้สึกภายในจิตใจของคุณเองระหว่างเล่น


เกมเพลย์ของ Blacktail นั้น ไร้ซึ่งความซับซ้อน จุดเด่นของมันคือการเลือกทำดี ทำชั่ว ซึ่งสุดแล้วแต่ผู้เล่น แม้มันจะมอบประสบการณ์ในการเล่นคนละแบบ แต่ก็ถือว่าไม่ได้ห่างกันมากจนเรารู้สึกว่ามันคือคนละเกม ถ้ามองในแง่ความจำกัดจำเขี่ยของงบที่ใช้พัฒนา ก็ถือว่าทีมงานเกมนี้ได้พยายามสร้างสรรค์อย่างถึงที่สุดแล้ว

Performance ของเกม ที่แกว่งแบบขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด


เกมอินดี้ที่ถือว่าทำมาดีทุกอย่าง แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือในเรื่องของ Performance ทั้งที่เกมนี้ไม่ได้กินสเปคมากมายอะไร แต่ปัญหาที่เจอบ่อยมากคือ ทุกครั้งเวลาที่เราข้ามเขตแดนไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ จะเกิดอาการเฟรมเรทดรอป และแลคมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกมนี้ต้องการมากกว่าการ์ดจอคือเรื่องของแรมที่ใช้มากถึง 16GB ใครที่ใช้แรมน้อยกว่านี้ จริงอยู่ว่ายังไงก็เล่นได้ แต่อาจจะเจอปัญหาเฟรมเรทดรอป และกระตุกบ้างเป็นบางครั้ง แต่ในขณะที่เครื่องผู้เขียนเอง มีสเปคเกินกว่าที่เกมต้องการไปพอสมควร แต่กลับมีปัญหา ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัญหามาจากการพอร์ทเกมหรือ Performance ของตัวเกมเอง ซึ่งคงจะมีแพทช์มาแก้ในภายหลัง

Blacktail เป็นอีกเกมอินดี้ที่เรียกได้ว่า ม้ามืดส่งท้ายปีนี้อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีถึงขั้นไม่ควรพลาด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดี และถ้ามีโอกาสก็ควรลองเล่นดูสักครั้ง


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header