GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
รีวิว The Witcher ฉบับ Netflix
ลงวันที่ 23/12/2019

The Witcher ถือว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายขายดีประจำประเทศโปแลนด์ผลงานจากนักเขียนชื่อดัง Andrzej Sapkowski ก่อนที่ทาง CD Projekt จะนำเอามาดัดแปลงเป็นเกมจำนวนสามภาค ซึ่งได้รับคำชมจากเหล่าเกมเมอร์อย่างมากโดยเฉพาะตัวเกมภาคที่ 3 The Witcher 3: Wild Hunt ที่ทำออกมาได้ดีมากจนคว้ารางวัล Game of The Years 2015 ไปครอง ปัจจุบันแม้จะผ่านมา 5 ปีแล้วตัวเกมยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและลงเครื่อง Nintendo Switch ไปเมื่อไม่นานมานี้



ในที่สุด Netflix ก็นำเอากระแสของ Witcher มาทำเป็นซีรีส์ให้เราได้ดูกัน ซึ่งเรื่องนี้หลาย ๆ คนน่าจะติดตามพอสมควร เนื่องจากความนิยมของเกมและนิยาย แต่ด้วยการที่ตัวซีรีส์มาจากสิ่งที่หลาย ๆ คนชอบทำให้ต้องเจอกับคำวิจารณ์หลาย ๆ อย่างตั้งแต่การ Cast นักแสดงไปจนถึงตอนถ่ายทำ จนในวันที่ 20 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมาซีรีส์นี้ก็ออกสู่สายตาชาวโลกเสียทีและนี่คือรีวิวจากพวกเรา Gamefever

เนื้อเรื่อง




The Witcher ฉบับ Netflix หรือชื่อไทยเดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร จะเล่าเรื่องราวของ 3 คนคือ Geralt of Rivia (นำแสดงโดย Henry Cavill) , Cirilla Fiona Elen Riannon (นำแสดงโดย Freya Allan) และ Yennefer (นำแสดงโดย Anya Chalotra) ที่แม้ชีวิตของพวกเขาจะเริ่มต้นไม่เหมือนกันแต่โชคชะตาก็นำพาให้พวกเขามาพบกันในที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อชะตากรรมของคนทั้งทวีปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเนื้อหาจะมีจำนวนทั้งหมด 8 ตอนและมีความยาวประมาณ 50 นาทีต่อตอน



เนื้อเรื่องถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Witcher ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน ๆ ซึ่งทางผู้กำกับเลือกที่จะเอาเล่าแบบสลับ Timeline แบบฉากต่อฉาก และไม่เรียง Timeline ทำให้เรารู้สึกว่าทางผู้ถ่ายทำต้องการนำเสนอโลกของ Witcher แบบภาพรวมก่อนที่จะนำเอาทุกอย่างมาประกอบกันในตอนท้าย ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลยแต่ติดตรงที่การเล่าเรื่องในช่วงแรก ๆ ที่ทำออกมาดีมากแต่ในช่วงหลัง ๆ เรื่องราวนั้นไม่ได้เข้มข้นเหมือนกับช่วงแรก ๆ ของซีรีส์ ซึ่งกว่าที่เราจะรู้สึกสนุกอีกครั้งก็เกือบ ๆ ท้ายของซีรีส์ที่ปมต่าง ๆ เริ่มได้รับการเปิดเผย ทำให้เราได้แต่หวังว่า Season ถัดไปเนื้อเรื่องจะได้รับการสานต่อ

การแสดง




ในส่วนของการแสดงต้องบอกว่าตัวละครหลักนั้นถือว่า Cast มาได้อย่างดี โดยเฉพาะ Henry Cavill ในฐานะ Geralt เขาก็ไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เขาสามารถเข้าถึงบทนี้ได้เป็นอย่างดีการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เล่นได้อย่างดี โดยเฉพาะฉาก Action ที่พี่แกใส่แบบไม่ยั้ง นอกจากนี้ในซีนที่ต้องเล่นมุกตลกพี่แกก็ยังคงความเป็น Geralt ในขณะเดียวกันก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้อย่างไหลลื่น



อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ Anya Chalotra ที่แม้ว่าหลาย ๆ คนจะไม่ค่อยชอบเธอในฐานะของ Yennefer มาตั้งแต่ตอน Cast แต่เธอก็เล่นบทนี้ออกมาได้ดีเยี่ยม รวมถึง Freya Allan กับบท Ciri ก็ทำออกมาได้ประทับใจพอสมควร แต่เป็นที่น่าเสียดายนอกจากตัวละครหลักแล้วตัวละครรองและนักแสดงบทบาทสมทบอื่น ๆ ดันไม่ค่อยดีเท่าไหร่



นอกจากนี้แล้วเหมือนว่าทางซีรีส์พยายามที่จะเพิ่มความหลากหลายของตัวละคร ทั้งในเรื่องของสีผิวและเชื้อชาติ ทำให้สิ่งนี้อาจจะขัดใจแฟน ๆ ของ The Witcher หลาย ๆ คน แต่หากคุณไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ฉากในเรื่อง




Wicther ฉบับ Netflix ยังคงกลิ่นอายแบบที่แฟนเกมและแฟนนิยายคุ้นเคย ฉากต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกของการที่เราได้อยู่ในโลกของ Witcher อย่างครบถ้วนและทำออกมาได้ดี ปีศาจต่าง ๆ ฉากการกินยา การร่ายเวทมนตร์ถือก็ทำออกมาได้ดี นอกจากนี้ซีรีส์มาพร้อมกับ Rate 18 + ทำให้เราจะเห็นฉากรุนแรงแบบจัดเต็ม ชนิดที่ว่าหากคุณไม่ชอบดูอะไรโหด ๆ แนะนำว่าให้เตรียมใจเล็กน้อยก่อนที่จะดู ฉากโป๊เปลือยก็ทำให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ ทั้งจากตัวละครหลักและนักแสดงคนอื่น ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปีไม่ควรจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้



สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับเรื่องฉากในเรื่องคงจะเป็นชุดของทหาร Nilfgaard ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ ต่างกับชุดของทหารจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ทำออกมาได้เท่มาก

สรุป




สรุปแล้ว Wicther ฉบับ Netflix ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดูได้สนุกเรื่องหนึ่ง ตัวซีรีส์มีหลากหลายรสชาติให้เราได้สัมผัสในแง่มุมต่าง ๆ อย่างครบถ้วน แต่หากคุณเป็นแฟนที่ติดภาพมาจากนิยายหรือเกม คุณจะเจอกับเรื่องขัดใจในหลาย ๆ จุด ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะดูหรือไม่

[penci_review id="37176"]

7
ข้อดี
ข้อเสีย
8
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
รีวิว The Witcher ฉบับ Netflix
23/12/2019

The Witcher ถือว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายขายดีประจำประเทศโปแลนด์ผลงานจากนักเขียนชื่อดัง Andrzej Sapkowski ก่อนที่ทาง CD Projekt จะนำเอามาดัดแปลงเป็นเกมจำนวนสามภาค ซึ่งได้รับคำชมจากเหล่าเกมเมอร์อย่างมากโดยเฉพาะตัวเกมภาคที่ 3 The Witcher 3: Wild Hunt ที่ทำออกมาได้ดีมากจนคว้ารางวัล Game of The Years 2015 ไปครอง ปัจจุบันแม้จะผ่านมา 5 ปีแล้วตัวเกมยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและลงเครื่อง Nintendo Switch ไปเมื่อไม่นานมานี้



ในที่สุด Netflix ก็นำเอากระแสของ Witcher มาทำเป็นซีรีส์ให้เราได้ดูกัน ซึ่งเรื่องนี้หลาย ๆ คนน่าจะติดตามพอสมควร เนื่องจากความนิยมของเกมและนิยาย แต่ด้วยการที่ตัวซีรีส์มาจากสิ่งที่หลาย ๆ คนชอบทำให้ต้องเจอกับคำวิจารณ์หลาย ๆ อย่างตั้งแต่การ Cast นักแสดงไปจนถึงตอนถ่ายทำ จนในวันที่ 20 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมาซีรีส์นี้ก็ออกสู่สายตาชาวโลกเสียทีและนี่คือรีวิวจากพวกเรา Gamefever

เนื้อเรื่อง




The Witcher ฉบับ Netflix หรือชื่อไทยเดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร จะเล่าเรื่องราวของ 3 คนคือ Geralt of Rivia (นำแสดงโดย Henry Cavill) , Cirilla Fiona Elen Riannon (นำแสดงโดย Freya Allan) และ Yennefer (นำแสดงโดย Anya Chalotra) ที่แม้ชีวิตของพวกเขาจะเริ่มต้นไม่เหมือนกันแต่โชคชะตาก็นำพาให้พวกเขามาพบกันในที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อชะตากรรมของคนทั้งทวีปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเนื้อหาจะมีจำนวนทั้งหมด 8 ตอนและมีความยาวประมาณ 50 นาทีต่อตอน



เนื้อเรื่องถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Witcher ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน ๆ ซึ่งทางผู้กำกับเลือกที่จะเอาเล่าแบบสลับ Timeline แบบฉากต่อฉาก และไม่เรียง Timeline ทำให้เรารู้สึกว่าทางผู้ถ่ายทำต้องการนำเสนอโลกของ Witcher แบบภาพรวมก่อนที่จะนำเอาทุกอย่างมาประกอบกันในตอนท้าย ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลยแต่ติดตรงที่การเล่าเรื่องในช่วงแรก ๆ ที่ทำออกมาดีมากแต่ในช่วงหลัง ๆ เรื่องราวนั้นไม่ได้เข้มข้นเหมือนกับช่วงแรก ๆ ของซีรีส์ ซึ่งกว่าที่เราจะรู้สึกสนุกอีกครั้งก็เกือบ ๆ ท้ายของซีรีส์ที่ปมต่าง ๆ เริ่มได้รับการเปิดเผย ทำให้เราได้แต่หวังว่า Season ถัดไปเนื้อเรื่องจะได้รับการสานต่อ

การแสดง




ในส่วนของการแสดงต้องบอกว่าตัวละครหลักนั้นถือว่า Cast มาได้อย่างดี โดยเฉพาะ Henry Cavill ในฐานะ Geralt เขาก็ไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เขาสามารถเข้าถึงบทนี้ได้เป็นอย่างดีการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เล่นได้อย่างดี โดยเฉพาะฉาก Action ที่พี่แกใส่แบบไม่ยั้ง นอกจากนี้ในซีนที่ต้องเล่นมุกตลกพี่แกก็ยังคงความเป็น Geralt ในขณะเดียวกันก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้อย่างไหลลื่น



อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ Anya Chalotra ที่แม้ว่าหลาย ๆ คนจะไม่ค่อยชอบเธอในฐานะของ Yennefer มาตั้งแต่ตอน Cast แต่เธอก็เล่นบทนี้ออกมาได้ดีเยี่ยม รวมถึง Freya Allan กับบท Ciri ก็ทำออกมาได้ประทับใจพอสมควร แต่เป็นที่น่าเสียดายนอกจากตัวละครหลักแล้วตัวละครรองและนักแสดงบทบาทสมทบอื่น ๆ ดันไม่ค่อยดีเท่าไหร่



นอกจากนี้แล้วเหมือนว่าทางซีรีส์พยายามที่จะเพิ่มความหลากหลายของตัวละคร ทั้งในเรื่องของสีผิวและเชื้อชาติ ทำให้สิ่งนี้อาจจะขัดใจแฟน ๆ ของ The Witcher หลาย ๆ คน แต่หากคุณไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร

ฉากในเรื่อง




Wicther ฉบับ Netflix ยังคงกลิ่นอายแบบที่แฟนเกมและแฟนนิยายคุ้นเคย ฉากต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกของการที่เราได้อยู่ในโลกของ Witcher อย่างครบถ้วนและทำออกมาได้ดี ปีศาจต่าง ๆ ฉากการกินยา การร่ายเวทมนตร์ถือก็ทำออกมาได้ดี นอกจากนี้ซีรีส์มาพร้อมกับ Rate 18 + ทำให้เราจะเห็นฉากรุนแรงแบบจัดเต็ม ชนิดที่ว่าหากคุณไม่ชอบดูอะไรโหด ๆ แนะนำว่าให้เตรียมใจเล็กน้อยก่อนที่จะดู ฉากโป๊เปลือยก็ทำให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ ทั้งจากตัวละครหลักและนักแสดงคนอื่น ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปีไม่ควรจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้



สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับเรื่องฉากในเรื่องคงจะเป็นชุดของทหาร Nilfgaard ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ ต่างกับชุดของทหารจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ทำออกมาได้เท่มาก

สรุป




สรุปแล้ว Wicther ฉบับ Netflix ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดูได้สนุกเรื่องหนึ่ง ตัวซีรีส์มีหลากหลายรสชาติให้เราได้สัมผัสในแง่มุมต่าง ๆ อย่างครบถ้วน แต่หากคุณเป็นแฟนที่ติดภาพมาจากนิยายหรือเกม คุณจะเจอกับเรื่องขัดใจในหลาย ๆ จุด ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะดูหรือไม่

[penci_review id="37176"]


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header