The Witcher ถือว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายขายดีประจำประเทศโปแลนด์ผลงานจากนักเขียนชื่อดัง Andrzej Sapkowski ก่อนที่ทาง CD Projekt จะนำเอามาดัดแปลงเป็นเกมจำนวนสามภาค ซึ่งได้รับคำชมจากเหล่าเกมเมอร์อย่างมากโดยเฉพาะตัวเกมภาคที่ 3 The Witcher 3: Wild Hunt ที่ทำออกมาได้ดีมากจนคว้ารางวัล Game of The Years 2015 ไปครอง ปัจจุบันแม้จะผ่านมา 5 ปีแล้วตัวเกมยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและลงเครื่อง Nintendo Switch ไปเมื่อไม่นานมานี้
ในที่สุด Netflix ก็นำเอากระแสของ Witcher มาทำเป็นซีรีส์ให้เราได้ดูกัน ซึ่งเรื่องนี้หลาย ๆ คนน่าจะติดตามพอสมควร เนื่องจากความนิยมของเกมและนิยาย แต่ด้วยการที่ตัวซีรีส์มาจากสิ่งที่หลาย ๆ คนชอบทำให้ต้องเจอกับคำวิจารณ์หลาย ๆ อย่างตั้งแต่การ Cast นักแสดงไปจนถึงตอนถ่ายทำ จนในวันที่ 20 ธันวาคม 2019 ที่ผ่านมาซีรีส์นี้ก็ออกสู่สายตาชาวโลกเสียทีและนี่คือรีวิวจากพวกเรา Gamefever
เนื้อเรื่อง
The Witcher ฉบับ Netflix หรือชื่อไทยเดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร จะเล่าเรื่องราวของ 3 คนคือ Geralt of Rivia (นำแสดงโดย Henry Cavill) , Cirilla Fiona Elen Riannon (นำแสดงโดย Freya Allan) และ Yennefer (นำแสดงโดย Anya Chalotra) ที่แม้ชีวิตของพวกเขาจะเริ่มต้นไม่เหมือนกันแต่โชคชะตาก็นำพาให้พวกเขามาพบกันในที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อชะตากรรมของคนทั้งทวีปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเนื้อหาจะมีจำนวนทั้งหมด 8 ตอนและมีความยาวประมาณ 50 นาทีต่อตอน
เนื้อเรื่องถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของ Witcher ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหน ๆ ซึ่งทางผู้กำกับเลือกที่จะเอาเล่าแบบสลับ Timeline แบบฉากต่อฉาก และไม่เรียง Timeline ทำให้เรารู้สึกว่าทางผู้ถ่ายทำต้องการนำเสนอโลกของ Witcher แบบภาพรวมก่อนที่จะนำเอาทุกอย่างมาประกอบกันในตอนท้าย ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลยแต่ติดตรงที่การเล่าเรื่องในช่วงแรก ๆ ที่ทำออกมาดีมากแต่ในช่วงหลัง ๆ เรื่องราวนั้นไม่ได้เข้มข้นเหมือนกับช่วงแรก ๆ ของซีรีส์ ซึ่งกว่าที่เราจะรู้สึกสนุกอีกครั้งก็เกือบ ๆ ท้ายของซีรีส์ที่ปมต่าง ๆ เริ่มได้รับการเปิดเผย ทำให้เราได้แต่หวังว่า Season ถัดไปเนื้อเรื่องจะได้รับการสานต่อ
การแสดง
ในส่วนของการแสดงต้องบอกว่าตัวละครหลักนั้นถือว่า Cast มาได้อย่างดี โดยเฉพาะ Henry Cavill ในฐานะ Geralt เขาก็ไม่ได้ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เขาสามารถเข้าถึงบทนี้ได้เป็นอย่างดีการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เล่นได้อย่างดี โดยเฉพาะฉาก Action ที่พี่แกใส่แบบไม่ยั้ง นอกจากนี้ในซีนที่ต้องเล่นมุกตลกพี่แกก็ยังคงความเป็น Geralt ในขณะเดียวกันก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้อย่างไหลลื่น
อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ Anya Chalotra ที่แม้ว่าหลาย ๆ คนจะไม่ค่อยชอบเธอในฐานะของ Yennefer มาตั้งแต่ตอน Cast แต่เธอก็เล่นบทนี้ออกมาได้ดีเยี่ยม รวมถึง Freya Allan กับบท Ciri ก็ทำออกมาได้ประทับใจพอสมควร แต่เป็นที่น่าเสียดายนอกจากตัวละครหลักแล้วตัวละครรองและนักแสดงบทบาทสมทบอื่น ๆ ดันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
นอกจากนี้แล้วเหมือนว่าทางซีรีส์พยายามที่จะเพิ่มความหลากหลายของตัวละคร ทั้งในเรื่องของสีผิวและเชื้อชาติ ทำให้สิ่งนี้อาจจะขัดใจแฟน ๆ ของ The Witcher หลาย ๆ คน แต่หากคุณไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
ฉากในเรื่อง
Wicther ฉบับ Netflix ยังคงกลิ่นอายแบบที่แฟนเกมและแฟนนิยายคุ้นเคย ฉากต่าง ๆ จะให้ความรู้สึกของการที่เราได้อยู่ในโลกของ Witcher อย่างครบถ้วนและทำออกมาได้ดี ปีศาจต่าง ๆ ฉากการกินยา การร่ายเวทมนตร์ถือก็ทำออกมาได้ดี นอกจากนี้ซีรีส์มาพร้อมกับ Rate 18 + ทำให้เราจะเห็นฉากรุนแรงแบบจัดเต็ม ชนิดที่ว่าหากคุณไม่ชอบดูอะไรโหด ๆ แนะนำว่าให้เตรียมใจเล็กน้อยก่อนที่จะดู ฉากโป๊เปลือยก็ทำให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ ทั้งจากตัวละครหลักและนักแสดงคนอื่น ๆ ดังนั้นน้อง ๆ ที่อายุไม่ถึง 18 ปีไม่ควรจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้
สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับเรื่องฉากในเรื่องคงจะเป็นชุดของทหาร Nilfgaard ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะสวยเท่าไหร่ ต่างกับชุดของทหารจากอาณาจักรอื่น ๆ ที่ทำออกมาได้เท่มาก
สรุป
สรุปแล้ว Wicther ฉบับ Netflix ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ดูได้สนุกเรื่องหนึ่ง ตัวซีรีส์มีหลากหลายรสชาติให้เราได้สัมผัสในแง่มุมต่าง ๆ อย่างครบถ้วน แต่หากคุณเป็นแฟนที่ติดภาพมาจากนิยายหรือเกม คุณจะเจอกับเรื่องขัดใจในหลาย ๆ จุด ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วว่าจะดูหรือไม่
[penci_review id="37176"]
Superbom001
นักเขียน
บ๋อม - Content Writer / Gamer/ Freelancer