GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
รีวิว Coffee Talk “ชงเครื่องดื่มอุ่นๆ กับเรื่องเล่าร้านกาแฟต่างโลก”
ลงวันที่ 04/02/2020

ในยามที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน เราอาจจะนอนพัก เดินเล่นเปลื่ยนบรรยากาศ หรือไม่ก็จิบกาแฟอุ่นๆสักแก้ว แน่นอนกับเกมก็เช่นกัน เราอาจจะเหนื่อยล้าจากการเล่นเกมหนักๆ เนื้อหาแน่นๆ ก็มีบ้างที่เราอยากจะเปลื่ยนบรรยากาศ ไปเสพอะไรเบาๆ (โยงเก่ง 5555+) วันนี้เรา GameFever TH จะพาทุกคนมารู้จักเกม visual novel เบาๆ เนื้อเรื่องสบายๆ กับบรรยากาศในร้านกาแฟ ที่จะทำเรารู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง กับเกม Coffee Talk

เนื้อเรื่องและบรรยากาศโดยรวม




ในปี 2020 ในโลกที่หลายหลากเผ่าพันธ์ุ มีทั้งเอลฟ์ อ็อค แววูฟ แวมไพร์ ฯลฯ อยู่ร่วมกันในสังคม เราจะได้รับบทเป็น Barista เจ้าของร้านกาแฟ Coffee Talk  ที่อยู่ในเมือง Seattle และได้พบปะกับลูกค้าหลากหลายเผ่าพันธ์ุที่ปัญหาหรือเรื่องเล่าต่างๆ มาเล่ามาระบายให้ฟัง เราก็ค่อยรับฟังพร้อมกับชงเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้กับลูกค้าเหล่านั้น

เรียกได้ว่าเป็น set up เนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย มีการพูดถึงเกี่ยวประเดินต่างๆ เช่น ความรักต่างเผ่าพันธุ์ การเรียนรู้วัตนธรรมต่างถิ่น สายสัมพันธ์ในครอบครัว ฯลฯ (บอกแค่นี้ก่อน บอกเยอะไม่ได้ เดียวจะเป็นการสปอย) แถมเนื้อเรื่องเกมนี้ถือว่าเสพได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ถึงเนื้อเรื่องจะเสพง่าย ก็ไม่ได้ทำให้เกมน่าเบื่อแต่อย่างใด เนื้อเรื่องจะแบ่งให้เล่นเป็นวันๆไป มีการสลับหัวข้อแต่ละวัน ตัวละครต่างๆที่เราได้พบเจอ และเรื่องน่าประหลาดใจมีให้เห็นอยู่ตลอดทุกวันที่เราเล่น แต่ก็มีข้อเสียที่ว่าเนื้อเรื่องออกจะเป็นเส้นตรง และสั้นไปสักหน่อย 


บรรยากาศในเกมนี้ทำออกมาได้ดี บรรยากาศในร้านกาแฟ ฝนตกยามค่ำคืน มีเพลงประกอบแนวแจ็ส และ lo-fi เล่นไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าชิลสุดๆ ทำให้อยากไปชงกาแฟมานั่งจิบตอนเล่น (คนเขียนทำมาแล้ว 55555+) และภาพเกมนี้เป็นแบบพิกเซลอาร์ตที่มีสีสัน ทำให้รู้สึกสบายตา และอินไปกับบรรยากาศในเกม 

* แนะนำให้เล่นเกมนี้จบ 2 รอบ เพื่อที่จะได้รู้เนื้อเรื่องที่แท้จริง

ระบบการเล่น




ระบบการเล่นจะไม่เหมือนเกม visual novel ทั่วไป เราจะไม่ได้เลือกตอบคำถามเพื่อเลือกฉากจบ แต่เราจะทำการชงเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้กับลูกค้าแทน การชงเครื่องดื่มของเราจะมีผลกับเนื้อเรื่องไม่มากก็น้อย บางครั้งเราอาจจะต้องชงเครื่องอื่นที่ไม่ตรงกับที่ลูกค้าสั่ง เพื่อฉากจบที่ดีกว่า (แอบสปอยนะเนี่ย - -”) แต่ถ้าจะพูดจริงๆ การชงเครื่องดื่มของเรา ดูเหมือนจะมีผลต่อเนื้อเรื่องน้อยไปสักหน่อย (ตามความรู้สึกนะ)

การชงเครื่องดื่มในเกมนี้ จะเป็นการเลือกส่วนผสม 3 อย่างมารวมกัน เราจะต้องเลือกเครื่องดื่มพื้นฐาน (Base) ส่วนผสมหลัก (Primary) และส่วนผสมรอง (Secondary) เพื่อชงออกมาเป็นเครื่องดื่ม 1 แก้ว แล้วถ้าชงแล้วตรงกับสูตรเครื่องดื่ม ก็จะมีการบันทึกสูตรไว้ในโทรศัพท์ มีเมนูเครื่องดื่ม 30 กว่าสูตร (เราสามารถในโทรศัพท์ ดูสูตรเครื่องดื่ม เปลี่ยนเพลง อ่านข่าวประจำวัน และส่องโปรไฟล์ของตัวละครอื่นได้ด้วย) แถมบางเมนูเราสามารถทำ latte art ได้ด้วย (วาดยากมากกกกก ต้องใช้ฝืมือสักหน่อย)



แต่ในเนื้อเรื่อง เราจะได้ชงเครื่องดื่มน้อยมาก แค่ 3 - 4 แก้วต่อ 1 วัน เกมนี้เลยมีโหมด Endless แยกไว้ให้ สำหรับคนที่คิดว่าชงในเนื้อเรื่องยังไม่จุใจ มีโหมด Free Brew สำหรับชงเครื่องดื่มตามใจอยาก และโหมด Challenge สำหรับแข่งชงเครื่องดื่มตามสั่งแบบจับเวลา 

ความรู้สึกหลังเล่น


รู้สึกเพลินมากๆ รู้ตัวอีกทีก็เล่นจนเคลียร์ achievements 100 % ไปซะแล้ว (เล่นยาวๆ 8 ชั่วโมง ไม่เรียกเพลินก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว 5555+) เนื้อเรื่องเกมนี้เสพง่าย ไม่น่าเบื่อ แถมรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ได้รับการฮิลจริงๆ แต่เนื้อเนื้อเรื่องจะดูเป็นเส้นตรง และสั้นไปสักหน่อย เพลงประกอบฟังง่าย เรื่อยๆดี และเกมเพลย์ชงเครื่องดื่มดูเหมือนจะมีส่วนร่วมในเกมน้อยไปหน่อย แต่ก็สนุกดี แล้วยังท้าทายมากในโหมด Challenge (กดชงกันมือหงิกเลย)  



สรุป


Coffee Talk ถือว่าเป็นเกมแนว visual novel ที่มีเนื้อเรื่องเบาๆ สบายๆ แต่ก็รู็สึกอบอุ่นหัวใจ และไม่น่าเบื่อ มีเกมเพลย์ที่ไม่เหมือนเกมแนว visual novel ทั่วไป ไม่ยากและก็ไม่ได้ง่ายมาก เหมาะกับผู้เล่นทั่วไป หรือผู้เล่นสายเสพเนื้อเรื่อง แต่เสียดายนิดๆที่เกมมันใช้เวลาจบไวไปหน่อย ส่วนใครที่ลังแลว่าจะซื้อดีไหม ก็ขอแนะนำว่าควรค่าแก่การซื้อมาเล่นจริงๆ ไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน

 

[penci_review id="40906"]

7
ข้อดี
ข้อเสีย
8
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
รีวิว Coffee Talk “ชงเครื่องดื่มอุ่นๆ กับเรื่องเล่าร้านกาแฟต่างโลก”
04/02/2020

ในยามที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน เราอาจจะนอนพัก เดินเล่นเปลื่ยนบรรยากาศ หรือไม่ก็จิบกาแฟอุ่นๆสักแก้ว แน่นอนกับเกมก็เช่นกัน เราอาจจะเหนื่อยล้าจากการเล่นเกมหนักๆ เนื้อหาแน่นๆ ก็มีบ้างที่เราอยากจะเปลื่ยนบรรยากาศ ไปเสพอะไรเบาๆ (โยงเก่ง 5555+) วันนี้เรา GameFever TH จะพาทุกคนมารู้จักเกม visual novel เบาๆ เนื้อเรื่องสบายๆ กับบรรยากาศในร้านกาแฟ ที่จะทำเรารู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง กับเกม Coffee Talk

เนื้อเรื่องและบรรยากาศโดยรวม




ในปี 2020 ในโลกที่หลายหลากเผ่าพันธ์ุ มีทั้งเอลฟ์ อ็อค แววูฟ แวมไพร์ ฯลฯ อยู่ร่วมกันในสังคม เราจะได้รับบทเป็น Barista เจ้าของร้านกาแฟ Coffee Talk  ที่อยู่ในเมือง Seattle และได้พบปะกับลูกค้าหลากหลายเผ่าพันธ์ุที่ปัญหาหรือเรื่องเล่าต่างๆ มาเล่ามาระบายให้ฟัง เราก็ค่อยรับฟังพร้อมกับชงเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้กับลูกค้าเหล่านั้น

เรียกได้ว่าเป็น set up เนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย มีการพูดถึงเกี่ยวประเดินต่างๆ เช่น ความรักต่างเผ่าพันธุ์ การเรียนรู้วัตนธรรมต่างถิ่น สายสัมพันธ์ในครอบครัว ฯลฯ (บอกแค่นี้ก่อน บอกเยอะไม่ได้ เดียวจะเป็นการสปอย) แถมเนื้อเรื่องเกมนี้ถือว่าเสพได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องใกล้ตัว แต่ถึงเนื้อเรื่องจะเสพง่าย ก็ไม่ได้ทำให้เกมน่าเบื่อแต่อย่างใด เนื้อเรื่องจะแบ่งให้เล่นเป็นวันๆไป มีการสลับหัวข้อแต่ละวัน ตัวละครต่างๆที่เราได้พบเจอ และเรื่องน่าประหลาดใจมีให้เห็นอยู่ตลอดทุกวันที่เราเล่น แต่ก็มีข้อเสียที่ว่าเนื้อเรื่องออกจะเป็นเส้นตรง และสั้นไปสักหน่อย 


บรรยากาศในเกมนี้ทำออกมาได้ดี บรรยากาศในร้านกาแฟ ฝนตกยามค่ำคืน มีเพลงประกอบแนวแจ็ส และ lo-fi เล่นไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าชิลสุดๆ ทำให้อยากไปชงกาแฟมานั่งจิบตอนเล่น (คนเขียนทำมาแล้ว 55555+) และภาพเกมนี้เป็นแบบพิกเซลอาร์ตที่มีสีสัน ทำให้รู้สึกสบายตา และอินไปกับบรรยากาศในเกม 

* แนะนำให้เล่นเกมนี้จบ 2 รอบ เพื่อที่จะได้รู้เนื้อเรื่องที่แท้จริง

ระบบการเล่น




ระบบการเล่นจะไม่เหมือนเกม visual novel ทั่วไป เราจะไม่ได้เลือกตอบคำถามเพื่อเลือกฉากจบ แต่เราจะทำการชงเครื่องดื่มอุ่นๆ ให้กับลูกค้าแทน การชงเครื่องดื่มของเราจะมีผลกับเนื้อเรื่องไม่มากก็น้อย บางครั้งเราอาจจะต้องชงเครื่องอื่นที่ไม่ตรงกับที่ลูกค้าสั่ง เพื่อฉากจบที่ดีกว่า (แอบสปอยนะเนี่ย - -”) แต่ถ้าจะพูดจริงๆ การชงเครื่องดื่มของเรา ดูเหมือนจะมีผลต่อเนื้อเรื่องน้อยไปสักหน่อย (ตามความรู้สึกนะ)

การชงเครื่องดื่มในเกมนี้ จะเป็นการเลือกส่วนผสม 3 อย่างมารวมกัน เราจะต้องเลือกเครื่องดื่มพื้นฐาน (Base) ส่วนผสมหลัก (Primary) และส่วนผสมรอง (Secondary) เพื่อชงออกมาเป็นเครื่องดื่ม 1 แก้ว แล้วถ้าชงแล้วตรงกับสูตรเครื่องดื่ม ก็จะมีการบันทึกสูตรไว้ในโทรศัพท์ มีเมนูเครื่องดื่ม 30 กว่าสูตร (เราสามารถในโทรศัพท์ ดูสูตรเครื่องดื่ม เปลี่ยนเพลง อ่านข่าวประจำวัน และส่องโปรไฟล์ของตัวละครอื่นได้ด้วย) แถมบางเมนูเราสามารถทำ latte art ได้ด้วย (วาดยากมากกกกก ต้องใช้ฝืมือสักหน่อย)



แต่ในเนื้อเรื่อง เราจะได้ชงเครื่องดื่มน้อยมาก แค่ 3 - 4 แก้วต่อ 1 วัน เกมนี้เลยมีโหมด Endless แยกไว้ให้ สำหรับคนที่คิดว่าชงในเนื้อเรื่องยังไม่จุใจ มีโหมด Free Brew สำหรับชงเครื่องดื่มตามใจอยาก และโหมด Challenge สำหรับแข่งชงเครื่องดื่มตามสั่งแบบจับเวลา 

ความรู้สึกหลังเล่น


รู้สึกเพลินมากๆ รู้ตัวอีกทีก็เล่นจนเคลียร์ achievements 100 % ไปซะแล้ว (เล่นยาวๆ 8 ชั่วโมง ไม่เรียกเพลินก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว 5555+) เนื้อเรื่องเกมนี้เสพง่าย ไม่น่าเบื่อ แถมรู้สึกอบอุ่นหัวใจ ได้รับการฮิลจริงๆ แต่เนื้อเนื้อเรื่องจะดูเป็นเส้นตรง และสั้นไปสักหน่อย เพลงประกอบฟังง่าย เรื่อยๆดี และเกมเพลย์ชงเครื่องดื่มดูเหมือนจะมีส่วนร่วมในเกมน้อยไปหน่อย แต่ก็สนุกดี แล้วยังท้าทายมากในโหมด Challenge (กดชงกันมือหงิกเลย)  



สรุป


Coffee Talk ถือว่าเป็นเกมแนว visual novel ที่มีเนื้อเรื่องเบาๆ สบายๆ แต่ก็รู็สึกอบอุ่นหัวใจ และไม่น่าเบื่อ มีเกมเพลย์ที่ไม่เหมือนเกมแนว visual novel ทั่วไป ไม่ยากและก็ไม่ได้ง่ายมาก เหมาะกับผู้เล่นทั่วไป หรือผู้เล่นสายเสพเนื้อเรื่อง แต่เสียดายนิดๆที่เกมมันใช้เวลาจบไวไปหน่อย ส่วนใครที่ลังแลว่าจะซื้อดีไหม ก็ขอแนะนำว่าควรค่าแก่การซื้อมาเล่นจริงๆ ไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน

 

[penci_review id="40906"]


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header