หลังจากที่เกมแนว Survival horror ( สยองขวัญ เอาชีวิตรอด ) ผสม Openworld ( โลกเปิด ) ในตรีมซอมบี้ มุมมองบุคคลที่ 1 อย่างเกม Dying Light ได้รับกระแสตอบรับจนสร้างฐานแฟนๆ ได้เยอะในระดับที่ดีมากๆ ทีมผู้พัฒนาเกมนี้คือ Techland จึงประกาศทำภาค DLC ซึ่งไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง นั่นแหละครับผลตอบรับดีแบบนี้ ผู้พัฒนาเลยวางแผนสร้าง Dying Light 2 เรามาดูข้อมูลเกมนี้กันครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง จะทำให้เราเก็บตังค์ไว้รอซื้อได้หรือไม่?
Dying Light 2 คือเกมอะไร? / Information
เกมนี้เป็นเกมแนว สยองขวัญเอาชีวิตรอด ผสมกับโลกเปิด เรียกภาษาทางการว่า "
Survival horror / Openworld " และมีมุมมองบุคคลที่ 1 โดยเราจะได้อยู่ในเมืองสมมติที่ชื่อว่า
Harran เหมือนในภาคแรกซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศจริงๆ อย่าง ตรุกี แต่ในภาคที่ 2 นั้นจะเปลี่ยนไปบริเวณแถบทิศตะวันตก สถานที่ๆเต็มไปด้วยซอมบี้ และเหล่ามนุษย์ที่แบ่งเขตแบ่งพวกกันชัดเจน ในภาคนี้มีการยืนยันว่า เนื้อหาจะเข้มข้นกว่าเดิมแน่นอน.
ตัวละครเอกที่เปลี่ยนไป / Charector
หลายๆ เกมนั้นมักทำการตลาดอยู่ 2 อย่างคือ 1.ใช้ตัวละครเดิมสร้างภาคต่อเพื่อรักษามาตฐานของแฟนๆ 2.เพิ่มตัวละครใหม่ เพื่อขยายเนื้อหาของตัวเกม แต่...สำหรับ Dying Light 2 ทางค่ายได้ฉีกกฎไปเลย คือ สร้าง "
ตัวเอกใหม่ " ซึ่งมีชื่อว่า
Aiden Caldwell ( ไอเดน คาลด์เวล ) แฟนๆ ตัวเอกในภาค 1 อย่าง Kyle Crane หลายคนถึงกับเสียดาย แต่ทางค่ายพัฒนาก็รับประกันว่า
ความสามารถของ Aiden จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าภาค 1 เช่น ความสามารถของ parkour ( การวิ่งไต่กำแพง ) ไวขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งทางผู้เขียนคิดว่า การสร้างตัวเอกใหม่อาจจะทำเพื่อเชื่อมโยงกันในภาค 3 หรืออาจจะมีการเจอตัวเอกของภาคเก่า ในภาค 2 เป็นการเซอร์ไพรส์เล็กๆ ให้กับแฟนๆ ในภาคแรก ( คล้ายๆกับ Resident Evill 7 ที่อีธาน เจอ คริส)

รูปแบบการเล่น / Gameplay
รูปแบบการเล่นเราสามารถเลือกได้ว่า จะเน้น
ฆ่าเงียบไม่ให้พวกซอมบี้แห่กันมา หรือจะ
บู๊บ้าระห่ำไปเลย จะแอบในพุ่มไม้ ในตู้ ในถังขยะ หรือถีบประตูสาดกระสุดก็เลือกเอา! แถมตัวเกมยังมอบอิสระให้ท่านสำรวจพร้อมกับทำภารกิจหลัก-ย่อย ผู้พัฒนากล่าวว่า "
ถ้าเล่นแค่ภารกิจหลักๆ ใช้เวลา 15-20 ชั่วโมง แต่ถ้าเล่นแบบเก็บทุกอย่างต้องใช้เวลามากถึง 100 ชั่วโมง!!! " ซึ่งจุดขายของเกม คือ ความผาดโผนสามารถปีนป่ายได้แทบทุกตารางนิ้วของแผนที่ โดยเรียกความสามารถนี้ว่า parkour ซึ่งสามารถทำได้มากกว่าภาค 1 ถึง 2 เท่า ในส่วนของมุมกล้องจะเป็น
มุมมองบุคคลที่ 1 มุนนี้จะทำให้รู้สึกกดดันเมื่อต้องตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินเหมือนตัวเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ สนุก + ลุ้นระทึกนั่นเอง.
*ในส่วนของอาวุธเราสามารถคราฟอาวุธได้เพิ่มขึ้นจากภาค 1 ถึง 50 แบบ และสามารถใช้สิ่งของรอบตัวสู้กับซอมบี้ได้ เจอไม้หยิบไม้ เจอขวดหยิบขวด ขว้างเลย!
แผนที่ที่ใหญ่กว่าหลายเท่า!! / Map
แผนที่เดิมว่าใหญ่แล้ว แต่นี่ทำให้ใหญ่กว่าเดิม
ถึง 4 เท่า! และทิวทัศน์ทุกอย่างเปลี่ยนไปแทบจะทุกอย่างเพราะ เนื้อหาห่างจากภาค 1 นาน
ถึง 15 ปี โดนพื้นที่จะแบ่งหลักๆ คือ ตัวตึกที่เป็นสถานที่แอบซ่อนของซอมบี้กลายพันธุ์ระดับลูกเจี๊ยบไปจนอภิมหาโหด พื้นที่ของมนุษย์ที่เหลือรอดซึ่งแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายกัน ในส่วนนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะจับมือเป็นพัธมิตร หรือจับปืนประกาศเป็นศัตรู ( รูปแบบดูคล้ายๆ Fallout ) ยังมีพื้นที่อีกมากมายให้เราสำรวจอีกมากให้เราร่วมไปพิสูจน์กัน.

การตัดสินใจที่ทำให้สูญเสียเนื้อหาไปถึง 25 %
หลังจากที่ภาค 1 ได้เน้นที่เกมเพลย์ ทำให้เนื้อเรื่องไม่ได้หวือหวามากนัก ผู้พัฒนาจึงปรับปรุงในภาค 2 โดยเพิ่มระบบ Choice การสนทนาถาม-ตอบ กับพวกกลุ่มมนุษย์ ให้ผู้เล่นเลือกซึ่ง
แต่ละคำตอบ แต่ละการกระทำจะส่งผลกับเนื้อเรื่อง ต่อๆไปในอนาคต ทำให้ควรค่าแก่การกลับมาเล่นใหม่หลายๆรอบ เพราะแต่ละครั้งที่จบเกมจะมีผลลัพธ์ที่ต่างออกไป.
*ถามว่าถ้าเราจะแก้ไขการตัดสินใจได้มั้ย ตอบว่า ถ้าเป็นเควสหลักจะไม่สามารถแก้ไขการตัดสินใจของเราได้ แต่ถ้าเป็นเควสย่อยแก้ไขได้ แต่เราอาจได้รับภารกิจเพิ่มเติม ที่ท้าทายขึ้นเพื่อแก้ไขสิ่งที่เราทำลงไป

พื้นที่มิตรและศัตรูส่งผลต่อเควสและการสำรวจ
ถ้าในพื้นที่นั้นๆ คุณเป็นมิตรกับเหล่า NPC คุณสามารถเข้าไปทำภารกิจ ล่าซอมบี้ สำรวจได้อย่างอิสระ อาจจะได้รับเควสพิเศษ หรือไอเทมพิเศษ แต่ถ้าคุณเป็นศัตรูกับพวก NPC ล่ะก็ บอกเลยว่า จะทำอะไรระวังให้ดี ถ้าพวกเขารู้ตัวก็เตรียมโดนล่าได้เลย จากที่ต้องจัดการแค่ซอมบี้ ต้องมาคอยระวังกระสุนปืนจากกลุ่มมนุษย์อีก บู๊กันมันส์!!!
ซอมบี้จะโหดขึ้น และหลากหลายขึ้น
หลังจากได้เห็นเหล่าซอมบี้โหดๆ มามากมายในภาค 1 ทางผู้พัฒนาได้เพิ่มซอมบี้ระดับ Boss มาอีกมากมายไว้ในภาค 2 ทำให้ผู้เล่นต้องคิดหาทางว่า ซอมบี้ชนิดนั้นๆต้องจัดการอย่างไร เป็นการเพิ่มความท้าทายและความสนุกให้กับผู้เล่น ซึ่งพวกเขาได้รับแรงบรรดาลใจจากเกมดังอย่าง
Letf 4 Dead 2
พื้นที่มหาโหดนามว่า Dark Zones
ระบบกลางวัน / กลา่งคืน ก็เป็น 1 ในจุดเด่นของเกมนี้ ในกลางวันจะมีซอมบี้ระดับอ่อนๆ แต่เมื่อกลางคืนซอมบี้จะเยอะขึ้น โหดขึ้น และน่ากลัวขึ้น ซึ่งในภาค 2 ก็ยังรักษาเอกลักษ์นั้นไว้อยู่ แต่เพื่อเพิ่มความท้าทาย พวกที่ชอบเสี่ยงชอบท้าทายกลางวันสบายๆ ไม่ชอบอยากเจอซอมบี้เยอะๆ โหดๆ เชิญเข้าไปในที่ๆ แสงแดดส่องไม่ถึงได้เลย เช่น ภายในตัวตึก แต่ถ้าจำเป็นต้องเข้าทำไปทำเควส ก็สามารถไปแบบเงียบๆ หรือใช้แสง UV ช่วยป้องกันได้.

ระบบ Co-op กับผู้เล่น 4 คน
เราสามารถร่วมสนุกกับผู้เล่นอื่นๆ ได้ทั้งในเนื้อหาหลัก และ มินิเกม โดยการให้ 1 ใน 4 คนเป็นผู้สร้างห้อง แต่...ขอเตือนไว้ว่าผู้เล่นอื่นนอกจากหัวหน้าห้อง จะไม่สามารถตัดสินใจในการตอบ NPC ได้ ที่ทำได้คือ ช่วยกันฟันฝ่าเหล่าศัตรูให้ผ่านเควสต่างๆ เท่านั้น ดังนั้นเนื้อเรื่องต่อๆไปจะเปลี่ยนไปในทางใด ขึ้นอยู่กับหัวหน้าห้องเท่านั้น แต่ถ้าเล่นกับเพื่อนๆ ที่รู้ใจกันก็สามารถปรึกษากันก่อนตัดสินใจได้.
วันวางจำหน่าย / แฟลตฟอร์ม
หลังจากที่อ่านมาทุกคนคงเห็นแล้วว่า ตัวเกมมีความอลังการงานสร้างเอามากๆ ดังนั้นหลังจากที่ประกาศเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิ ปี 2020 นี้ ล่าสุดทางผู้พัฒนาได้
ขอเลื่อนวันวางจำหน่ายไปอย่างไม่มีกำหนด ทางผู้เขียนคาดเดาว่า น่าจะเป็นเพราะตัวเกมเป็น Project ที่ค่อนข้างใหญ่มากๆ อาจจะยังมีบัค หรือข้อผิดพลาดบางอย่างอยู่ จึงต้องขอเวลาไปแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สุด แต่ขอให้รอเถอะครับจะสร้างทั้งทีทำออกมาให้ดีๆ เพื่อผู้บริโภคนั้นแหละ คือสิ่งที่ดี!
ส่วนด้านแฟลตฟอร์มการวางจำหน่าย ได้มีการยืนยันแล้วว่าจะลงใน
PC / XBOX ONE / PS4 ส่วน PS5 รอข่าวสารยืนยันอีกทีครับ.
StarDusT
นักเขียน
ฝากเข้ามาอ่านกันเรื่อยๆนะครับ ติดตามผลงานไว้นานๆ นะ