Ragnarok Origin หนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีประโยชน์ทั้งการเก็บเลเวล ปาร์ตี้ในดัน หรือแม้กระทั่ง PvP นั่นก็คืออาชีพ Lord Knight สายหอก Spiral Pierce นั่นเองซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำแนวทางการเล่นอาชีพนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกัน รวมถึงแนะนำสายการเล่นหลัก ๆ ที่คนนิยมเล่นกันด้วย พร้อมทั้งวิธีการอัพสกิล และอัพสเตตัสครับ สำหรับสายหอกเป็นสายที่ค่อนนิยมเล่นมากที่สุด เพราะสามารถทำดาเมจได้อย่างรุนแรง ค่อนข้าง Over Power มาก ๆ เหมาะทั้งปาร์ตี้ ลงดัน หรือล่าบอสก็นิยมเช่นกัน
Status ที่ควรอัพ
Noted - ในช่วงแรกแนะนำให้ลง Str จนถึง 90 ก่อนเพราะจะได้บัพของชุดเลเวล 70 นั่นเอง และค่อยแบ่งมาลง Dex และ Vit ที่หลัง
Skill ที่ควรอัพ
ตอนเป็น Swordman (เลเวล 10)
Noted - สำหรับช่วงเริ่มต้นจะให้สกิล Bash และ Maxnum Breake ในการเก็บเลเวลเป็นหลัก เหตุผลที่ต้องอัพ Sword Mastery เพราะจะเป็นทางผ่านไปอัพสกิล Spear Mastery นั่นเอง
ตอนเป็น Knight (เลเวล 40)
ที่เหลืออัพได้ตามใจ อาจจะกลับไปอัพ Provoke หรือ Endure เพิ่มก็ได้
Noted - สกิลหลัก ๆ ในการโจมตีของสายนี้คือสกิล Pierce เป็นหลัก แต่ข้อเสียก็คือสกิลนี้จะทำดาเมจได้รุนแรงเฉพาะมอนสเตอร์ขนาดใหญ่เท่านั้น แต่หลัง ๆ ถ้าหากคุณมีอาวุธที่แรงขึ้น ก็สามารถใช้สกิล Brandish Spear ในการเก็บเลเวลได้ เพราะว่าเป็นสกิลโจมตีหมู่
ตอนเป็น Lord Knight (เลเวล 70)
Noted - สำหรับสายนี้สกิลที่ใช้เก็บเลเวลจะเปลี่ยนไปใช้ Spiral Pierce ซึ่งจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก ๆ บวกกับบัพของ Aura Blade และ Concentrate จะทำให้โจมตีได้แรงมากขึ้นอีก ส่วนสกิล Frenzy เหมาะในการเพิ่มดาเมจที่รุนแรงช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมาะในการล่าบอส
ไอเท็มที่ควรใช้
อาวุธที่แนะนำในช่วงเลเวล 50 จะมีอาวุธอยู่สองชิ้นก็คือ
Magic Spear ซึ่งจุดเด่นของหอกนี้คือจะบวกพลังเจาะเกราะ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้สกิล Brandish Spear ด้วย
อีกหอกหนึ่งที่ใช้ได้ตอนเลเวล 50 ก็คือ Piercing Spear ซึ่งจะเป็นหอกที่บวกความแรงของสกิล Pierce โดยตรง
พอถึงเลเวล 70 อาวุธเดียวที่แนะนำนั่นก็คือหอก Cardo ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญมาก ๆ ก็คือการบวก ATK 100 ถ้าหาก Str ของคุณมากกว่า 90 ขึ้นไป และพอเลเวล 80 ก็อาจจะอัพเป็น Cardo I ก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้อาวุธนี้ยาว ๆ เลยไม่ต้องเปลี่ยน
ชุดที่แนะนำช่วงเลเวล 50 และ 70 ก็คือชุดเซ็ทอย่าง Mountain Range ประกอบไปด้วย Wool Scarf (ผ้าคลุม) และ Tidal Shoes (รองเท้า) เพราะเราจะได้บัพเพิ่มโจมตีกายภาพ +3% ส่วนเสื้อใส่เป็น Combat Uniform เพื่อบวก Str 3 ก็ได้
ส่วนพอถึงเลเวล 80 แนะนำให้ใส่ชุดเซ็ท Tyr's Blessing เพราะจะเพิ่มค่า ATK +2 ต่อค่า Str 1 ซึ่งมันจะทำให้ดาเมจเราเพิ่มอย่างมหาศาล และใส่ชุดนี้ยาว ๆ ได้เลย
ส่วนเครื่องประดับที่ใช้ก็คือ Ring ที่จะบวก Str โดยตรง
การ์ดที่ควรใช้
อาวุธ - เน้นการใช้การ์ดที่เพิ่มพลังโจมตีต่อธาตุ ต่อชนิด หรือขนาดของมอนสเตอร์นั้น ๆ หรือช่วงเริ่มต้นก็สามารถใส่การ์ดที่เพิ่ม ATK ก็ได้เช่นกันอย่าง Andre Card หรือ Hunter Fly เป็นต้น (แต่ Hunterfly ราคาจะแพงกว่า)
ชุด - Pecopeco จะเพิ่มเลือดสูงสุด 5%
ผ้าคลุม - สามารถใส่การ์ดที่ต้านทานมอนสเตอร์ธาตุนั้น ๆ ก็ได้ หรือถ้าอยากได้การ์ดที่ใส่แก้ขัด และถ้าคุณงบไม่เยอะก็อาจจะใส่ Choco Card ที่จะบวก Max HP 3% ก็ได้
รองเท้า - ใส่การ์ด Sohee เพื่อเพิ่ม Max HP 4% และจะได้ค่า SP Recovery 8% ก็ได้เช่นกัน
ประดับ - ถ้ามีเงินเยอะอาจจะใส่การ์ด Mantis ซึ่งจะบวก STR + 2 และ ATK + 1% แต่ถ้างบไม่เยอะสามารถใช้การ์ด Tarou ซึ่งจะบวก ATK + 5 และนำไปอัพเกรดเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน (การ์ด Tarou จะถูกกว่ามาก)
Ragnarok Origin หนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีประโยชน์ทั้งการเก็บเลเวล ปาร์ตี้ในดัน หรือแม้กระทั่ง PvP นั่นก็คืออาชีพ Lord Knight สายหอก Spiral Pierce นั่นเองซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำแนวทางการเล่นอาชีพนี้ให้ทุกท่านได้ทราบกัน รวมถึงแนะนำสายการเล่นหลัก ๆ ที่คนนิยมเล่นกันด้วย พร้อมทั้งวิธีการอัพสกิล และอัพสเตตัสครับ สำหรับสายหอกเป็นสายที่ค่อนนิยมเล่นมากที่สุด เพราะสามารถทำดาเมจได้อย่างรุนแรง ค่อนข้าง Over Power มาก ๆ เหมาะทั้งปาร์ตี้ ลงดัน หรือล่าบอสก็นิยมเช่นกัน
Status ที่ควรอัพ
Noted - ในช่วงแรกแนะนำให้ลง Str จนถึง 90 ก่อนเพราะจะได้บัพของชุดเลเวล 70 นั่นเอง และค่อยแบ่งมาลง Dex และ Vit ที่หลัง
Skill ที่ควรอัพ
ตอนเป็น Swordman (เลเวล 10)
Noted - สำหรับช่วงเริ่มต้นจะให้สกิล Bash และ Maxnum Breake ในการเก็บเลเวลเป็นหลัก เหตุผลที่ต้องอัพ Sword Mastery เพราะจะเป็นทางผ่านไปอัพสกิล Spear Mastery นั่นเอง
ตอนเป็น Knight (เลเวล 40)
ที่เหลืออัพได้ตามใจ อาจจะกลับไปอัพ Provoke หรือ Endure เพิ่มก็ได้
Noted - สกิลหลัก ๆ ในการโจมตีของสายนี้คือสกิล Pierce เป็นหลัก แต่ข้อเสียก็คือสกิลนี้จะทำดาเมจได้รุนแรงเฉพาะมอนสเตอร์ขนาดใหญ่เท่านั้น แต่หลัง ๆ ถ้าหากคุณมีอาวุธที่แรงขึ้น ก็สามารถใช้สกิล Brandish Spear ในการเก็บเลเวลได้ เพราะว่าเป็นสกิลโจมตีหมู่
ตอนเป็น Lord Knight (เลเวล 70)
Noted - สำหรับสายนี้สกิลที่ใช้เก็บเลเวลจะเปลี่ยนไปใช้ Spiral Pierce ซึ่งจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก ๆ บวกกับบัพของ Aura Blade และ Concentrate จะทำให้โจมตีได้แรงมากขึ้นอีก ส่วนสกิล Frenzy เหมาะในการเพิ่มดาเมจที่รุนแรงช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมาะในการล่าบอส
ไอเท็มที่ควรใช้
อาวุธที่แนะนำในช่วงเลเวล 50 จะมีอาวุธอยู่สองชิ้นก็คือ
Magic Spear ซึ่งจุดเด่นของหอกนี้คือจะบวกพลังเจาะเกราะ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้สกิล Brandish Spear ด้วย
อีกหอกหนึ่งที่ใช้ได้ตอนเลเวล 50 ก็คือ Piercing Spear ซึ่งจะเป็นหอกที่บวกความแรงของสกิล Pierce โดยตรง
พอถึงเลเวล 70 อาวุธเดียวที่แนะนำนั่นก็คือหอก Cardo ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญมาก ๆ ก็คือการบวก ATK 100 ถ้าหาก Str ของคุณมากกว่า 90 ขึ้นไป และพอเลเวล 80 ก็อาจจะอัพเป็น Cardo I ก็ได้ แต่แนะนำให้ใช้อาวุธนี้ยาว ๆ เลยไม่ต้องเปลี่ยน
ชุดที่แนะนำช่วงเลเวล 50 และ 70 ก็คือชุดเซ็ทอย่าง Mountain Range ประกอบไปด้วย Wool Scarf (ผ้าคลุม) และ Tidal Shoes (รองเท้า) เพราะเราจะได้บัพเพิ่มโจมตีกายภาพ +3% ส่วนเสื้อใส่เป็น Combat Uniform เพื่อบวก Str 3 ก็ได้
ส่วนพอถึงเลเวล 80 แนะนำให้ใส่ชุดเซ็ท Tyr's Blessing เพราะจะเพิ่มค่า ATK +2 ต่อค่า Str 1 ซึ่งมันจะทำให้ดาเมจเราเพิ่มอย่างมหาศาล และใส่ชุดนี้ยาว ๆ ได้เลย
ส่วนเครื่องประดับที่ใช้ก็คือ Ring ที่จะบวก Str โดยตรง
การ์ดที่ควรใช้
อาวุธ - เน้นการใช้การ์ดที่เพิ่มพลังโจมตีต่อธาตุ ต่อชนิด หรือขนาดของมอนสเตอร์นั้น ๆ หรือช่วงเริ่มต้นก็สามารถใส่การ์ดที่เพิ่ม ATK ก็ได้เช่นกันอย่าง Andre Card หรือ Hunter Fly เป็นต้น (แต่ Hunterfly ราคาจะแพงกว่า)
ชุด - Pecopeco จะเพิ่มเลือดสูงสุด 5%
ผ้าคลุม - สามารถใส่การ์ดที่ต้านทานมอนสเตอร์ธาตุนั้น ๆ ก็ได้ หรือถ้าอยากได้การ์ดที่ใส่แก้ขัด และถ้าคุณงบไม่เยอะก็อาจจะใส่ Choco Card ที่จะบวก Max HP 3% ก็ได้
รองเท้า - ใส่การ์ด Sohee เพื่อเพิ่ม Max HP 4% และจะได้ค่า SP Recovery 8% ก็ได้เช่นกัน
ประดับ - ถ้ามีเงินเยอะอาจจะใส่การ์ด Mantis ซึ่งจะบวก STR + 2 และ ATK + 1% แต่ถ้างบไม่เยอะสามารถใช้การ์ด Tarou ซึ่งจะบวก ATK + 5 และนำไปอัพเกรดเพิ่มเติมก็ได้เช่นกัน (การ์ด Tarou จะถูกกว่ามาก)