GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
เสน่ห์ของ Visual Novel Games ที่ทำให้คนหลงรัก
ลงวันที่ 11/08/2021

ในปัจจุบันที่ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับวิทยาการต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้เทคโนโลยีที่มีอยู่พัฒนาขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด พร้อมความกระตือรือร้นในการสรรค์สร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมเปิดรับความก้าวหน้าเหล่านั้นต่อไป และแน่นอนว่านั่นก็หมายรวมไปถึงอุตสาหกรรมภายในวงการเกมด้วยเช่นกัน


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวงการเกมในปัจจุบันนั้น มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายเข้ามาช่วยในการพัฒนา เพื่อให้ตัวเกมมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายในที่ทันสมัย มีภาพที่สมจริงเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้เล่นสามารถอินไปกับโลกของเกมได้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาให้เกมเพลย์มีความแปลกใหม่ ดุเดือดถึงใจ สามารถดึงดูดให้ผู้เล่นเพลิดเพลิน และต้องการใช้เวลาอยู่กับเกมนั้นๆ ยาวนานมากขึ้น จนเรียกได้เลยว่าในยุคนี้เกมเพลย์แทบจะเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญ ในการเลือกเล่นเกมของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว


ซึ่งจากข้อเท็จจริงเหล่านั้น ก็ทำให้เราอดจะตั้งคำถามเกี่ยวกับเกมอีกหนึ่งประเภทขึ้นมาไม่ได้ว่า...ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เกมที่มีเกมเพลย์อะไรน่าตื่นเต้นเลย ทำไมเกมแนวนี้จึงยังคงถูกพัฒนาออกมาอยู่มากมาย ทั้งยังมีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบ และติดตามเกมแนวดังกล่าวกันมาอย่างเหนียวแน่นกันนะ?


และใช่ค่ะ...เกมแนวที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้เลยก็คือ เกมแนว Visual Novel นั่นเอง



ย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 เกม Visual Novel หรือเรียกย่อๆ ว่าเกมแนว VN เป็นเกมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้การนำเสนอให้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับการอ่านนวนิยาย ด้วยการใช้ภาพกับบทบรรยายเป็นสื่อในการส่งสารต่างๆ กับผู้เล่น และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมี interactive กับเกมได้ ผ่านการตัดสินใจเลือกทางเลือกต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปจนถึงฉากจบนั่นเอง 



ด้วยลักษณะของเกมที่จะเน้นให้ผู้เล่นต้องอ่าน และทำความเข้าใจเรื่องราวผ่านตัวอักษรนั้นเอง ก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกว่าเกมแนว Visual Novel เป็นเกมที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และเหมาะสำหรับคนชอบอ่านนิยายเท่านั้น...แต่อันที่จริง หากคุณได้ลองใช้เวลาทำความเข้าใจกับมันขึ้นอีกสักหน่อย คุณก็จะได้พบว่าต่อให้คุณไม่ใช่แฟนนวนิยายเรื่องยาว คุณก็สามารถแสวงหาความเพลิดเพลินจากเกมแนวนี้ได้เช่นกัน


โดยเสน่ห์หลักๆ ของเกมแนว Visual Novel เลยก็คือ ความเรียบง่ายและตัวเลือก



ซึ่งเสน่ห์ของความเรียบง่ายนั้น ก็หมายรวมถึงความเรียบง่ายในการเข้าถึงการสร้างหรือพัฒนาเกม ด้วยความที่โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเกมแนวนี้ ไม่ได้ใช้โปรแกรมที่มีราคาแพงหรือซับซ้อนเกินไป และในบางเว็บไซต์ที่เป็นฟรีแพล็ตฟอร์มเอง ก็มีฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถลองสร้างเกม Visual Novel ง่ายๆ ขึ้นมาได้ เช่น โหมดสร้างเกมของคุณ ในเว็บไซต์ Dek-D เป็นต้น ทำให้ผู้พัฒนาหน้าใหม่บางคนที่อยากลองสร้างเกมของตัวเอง สามารถเริ่มต้นเรียนรู้จากการสร้างเกมแนว Visual Novel ได้ และเมื่อโปรแกรมหรือแพล็ตฟอร์ม เป็นอะไรที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็ส่งผลให้ฝ่ายผู้เล่นเองสามารถเข้าถึงเกม Visual Novel ได้ง่ายด้วยเช่นกัน 


ยกตัวอย่างเช่น เกม Red Riding Hood หนูน้อยหมวกแดงสีเลือด ซึ่งเป็นเกมทางเลือกที่ถูกสร้างขึ้นในเว็บไซต์ Dek-D ที่เคยสร้างกระแสให้เด็กมัธยมจำนวนไม่น้อย เริ่มรู้จักกับเกมแนว Visual Novel รวมถึงเป็นเหมือนการจุดประกายความสนใจทั้งในแง่ของการเล่น และการลองสร้างเกมของตนเองขึ้นมาบ้างอีกด้วย


ในแง่ของการผลิตนอกจากความเรียบง่ายแล้ว เกมแนว Visual Novel เองก็ยังเป็นเกมประเภทที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยเปิดโอกาสให้ผู้สร้างได้สามารถออกแบบ และใส่จินตนาการของตัวเองลงไปได้อย่างเต็มที่ ทำให้ตัวเกมมีพื้นที่มากมาย ให้ผู้พัฒนาสามารถเสริมเกมเพลย์เล็กๆ น้อยๆ เข้ามาเป็นสีสันได้หากพวกเขาต้องการ ทำให้นอกจากผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่แล้ว ทางฝั่งผู้พัฒนาเองก็ยังได้สนุกไปกับการทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน



ในขณะที่เสน่ห์หลักอีกข้ออย่างตัวเลือกภายในเกมแนว Visual Novel 

นั้น ก็เป็นเสมือนสิ่งที่เสริมสร้างบรรยากาศให้ผู้เล่น สามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ กล่าวคือตัวเลือกต่างๆ ภายในเกม Visual Novel เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้แนวคิด ตรรกะส่วนบุคคล รวมถึงมุมมองที่มีต่อสิ่งต่างๆ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ และตัดสินทางเลือกของตนเองได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการตัดสินว่าทางเลือกเหล่านั้นถูกหรือผิด


ซึ่งนอกจากว่ามันจะเป็นการสร้างอารมณ์ร่วม ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเรานั้นคือคนที่ได้เข้าไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งยังได้เป็นผู้ตัดสินใจรับมือกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเองแล้ว มันยังหมายรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า การตัดสินใจทั้งหลายเหล่านั้น ทำให้แม้ว่าเราจะเล่นเกมเดียวกัน ภายใต้เนื้อเรื่องเดียวกัน หรือกระทั่งเลือกตัวเลือกที่เหมือนกันก็ตาม...แนวคิดที่ผู้เล่นแต่ละคนมี ก็จะทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน 


ด้วยการที่ผู้เล่นได้เป็นคนตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองนั้น ก็ทำให้ฉากจบที่รอคอยเราในฐานะผู้ตัดสินเส้นทางดังกล่าวอยู่ กลายเป็นสิ่งที่ตัวผู้เล่นเองคิดพิจารณา และได้เลือกให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวเองแล้วเช่นกัน



นอกจากความเรียบง่ายกับตัวเลือกแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเกม Visual Novel ที่สืบเนื่องมาจากตัวเลือกเลยก็คือ การที่ตัวเกมมักถูกออกแบบมา ให้มีฉากจบหลากหลายแบบ โดยที่เงื่อนไขในการจะได้มาซึ่งฉากจบเหล่านั้น ก็จะมาจากตัวเลือกต่างๆ ภายในเกม ซึ่งแต่ละตัวเลือกก็จะเป็นการพาผู้เล่นไปสู่เส้นทางที่แตกต่างกัน อันจะนำมาสู่ฉากจบที่แตกต่างกันนั่นเอง


ซึ่งนอกจากมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่น ได้ปลดล็อกความรู้สึกขัดใจในทำนองที่ว่า ‘หากเราได้เป็นคนตัดสินใจเลือกเอง ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ไหมนะ?’ ได้เป็นอย่างดีแล้ว การที่ตัวเกมทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมาเล่นซำ้ได้อีกหลายครั้ง โดยไม่เบื่อและยังได้รับประสบการณ์แตกต่างกันออกไปในแต่ละรอบ ก็ยังทำให้เกมแนวนี้มี replay value สูงอีกด้วย


ในขณะที่สำหรับ Visual Novel บางเกม การเล่นรอบใหม่ก็อาจจะไม่ใช่เพียงทางเลือกเท่านั้น แต่ยังเป็นความตั้งใจของผู้พัฒนา ที่ต้องการจะเปิดเผยเนื้อเรื่อง หรือรายละเอียดใหม่ๆ ออกมาในการเล่นรอบถัดไป เพื่อทำให้ผู้เล่นได้ใช้เวลาในการทำความเข้าใจสิ่งที่เกมต้องการจะนำเสนอมากขึ้น รวมถึงเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครต่างๆ ภายในเกมได้มากขึ้น อย่างที่หลายครั้งเราก็อาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อบางตัวละครไปเลยก็ได้ เมื่อเราได้ใช้เวลาในการดื่มดำ่ไปกับตัวเกม และทำความเข้าใจในฉากจบต่างๆ ที่ตัวเกมสื่ออออกมาอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น



ยกตัวอย่างเช่น เกม Visual Novel แนวจีบสาว ภาพสวย เพลงประกอบติดหู พร้อมตัวละครสุดน่ารัก จากทีมพัฒนาอย่าง Team Salvato ที่เคยสร้างกระแสฮือฮาขึ้นมาเป็นวงกว้างมาแล้ว ในปี 2017 กับ Doki Doki Literature Club 


ที่สร้างมิติของตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังแอบซ่อนลูกเล่นมากมายเอาไว้ หยอกล้อกับจิตสำนึกของผู้เล่นอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากตัวเกมจะทำให้เราจำต้องเล่นซำ้ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเราเล่นไปจนถึงฉากสุดท้ายของ Doki Doki Literature Club ตัวเกมก็ยังทิ้งประกายแนวคิดบางอย่างเอาไว้ ให้ผู้เล่นได้กลับมานั่งทบทวนต่อทั้งในแง่การนำเสนอเนื้อหา และประเด็นซับซ้อนที่แอบซ่อนอยู่ภายในความน่ารักของภาพกราฟิกอีกด้วย 



ซึ่งด้วยเสน่ห์เหล่านี้ ก็ทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมรักเกม Visual Novel และพร้อมจะใช้เวลาในการดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องที่ตัวเกมนำเสนอ ซึ่งหลายครั้งนอกจากความเพลิดเพลินแล้ว แนวคิดบางอย่างที่เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเกมนำเสนอเอง ก็อาจพยายามสะท้อนประเด็นบางอย่างออกมา ให้เราผู้เล่นได้เก็บไปลองขบคิดดู...และบางครั้งมันก็อาจจะทำให้เรา ได้เรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ หรือได้ลองวิเคราะห์ประเด็นอะไรบางอย่าง ที่เคยมองข้ามไปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก


อย่างไรก็ดีทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เป็นเพียงมุมมองของตัวผู้เขียนเองต่อเกมแนว Visual Novel เท่านั้น และแน่นอนว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มีความรู้สึกนึกคิด ประสบการณ์ รวมถึงแนวคิดต่อประเด็นต่างๆ ที่ถูกนำเสนอออกมาแตกต่างกัน ก็ย่อมจะทำให้สุดท้ายแล้วเสน่ห์ที่แต่ละคนมองเห็นและตีความกันออกมา ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน


แล้วสำหรับคุณนักอ่านแต่ละคนล่ะ...มีมุมมองต่อเกมแนว Visual Novel กันอย่างไรบ้างคะ?



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
เสน่ห์ของ Visual Novel Games ที่ทำให้คนหลงรัก
11/08/2021

ในปัจจุบันที่ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจกับวิทยาการต่างๆ มากขึ้น ส่งผลให้เทคโนโลยีที่มีอยู่พัฒนาขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด พร้อมความกระตือรือร้นในการสรรค์สร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ ต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมเปิดรับความก้าวหน้าเหล่านั้นต่อไป และแน่นอนว่านั่นก็หมายรวมไปถึงอุตสาหกรรมภายในวงการเกมด้วยเช่นกัน


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวงการเกมในปัจจุบันนั้น มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมายเข้ามาช่วยในการพัฒนา เพื่อให้ตัวเกมมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมภายในที่ทันสมัย มีภาพที่สมจริงเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้เล่นสามารถอินไปกับโลกของเกมได้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาให้เกมเพลย์มีความแปลกใหม่ ดุเดือดถึงใจ สามารถดึงดูดให้ผู้เล่นเพลิดเพลิน และต้องการใช้เวลาอยู่กับเกมนั้นๆ ยาวนานมากขึ้น จนเรียกได้เลยว่าในยุคนี้เกมเพลย์แทบจะเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญ ในการเลือกเล่นเกมของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว


ซึ่งจากข้อเท็จจริงเหล่านั้น ก็ทำให้เราอดจะตั้งคำถามเกี่ยวกับเกมอีกหนึ่งประเภทขึ้นมาไม่ได้ว่า...ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เกมที่มีเกมเพลย์อะไรน่าตื่นเต้นเลย ทำไมเกมแนวนี้จึงยังคงถูกพัฒนาออกมาอยู่มากมาย ทั้งยังมีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบ และติดตามเกมแนวดังกล่าวกันมาอย่างเหนียวแน่นกันนะ?


และใช่ค่ะ...เกมแนวที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้เลยก็คือ เกมแนว Visual Novel นั่นเอง



ย้อนกลับไปในช่วงยุค 90 เกม Visual Novel หรือเรียกย่อๆ ว่าเกมแนว VN เป็นเกมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้การนำเสนอให้มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับการอ่านนวนิยาย ด้วยการใช้ภาพกับบทบรรยายเป็นสื่อในการส่งสารต่างๆ กับผู้เล่น และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมี interactive กับเกมได้ ผ่านการตัดสินใจเลือกทางเลือกต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องต่อไปจนถึงฉากจบนั่นเอง 



ด้วยลักษณะของเกมที่จะเน้นให้ผู้เล่นต้องอ่าน และทำความเข้าใจเรื่องราวผ่านตัวอักษรนั้นเอง ก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกว่าเกมแนว Visual Novel เป็นเกมที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม และเหมาะสำหรับคนชอบอ่านนิยายเท่านั้น...แต่อันที่จริง หากคุณได้ลองใช้เวลาทำความเข้าใจกับมันขึ้นอีกสักหน่อย คุณก็จะได้พบว่าต่อให้คุณไม่ใช่แฟนนวนิยายเรื่องยาว คุณก็สามารถแสวงหาความเพลิดเพลินจากเกมแนวนี้ได้เช่นกัน


โดยเสน่ห์หลักๆ ของเกมแนว Visual Novel เลยก็คือ ความเรียบง่ายและตัวเลือก



ซึ่งเสน่ห์ของความเรียบง่ายนั้น ก็หมายรวมถึงความเรียบง่ายในการเข้าถึงการสร้างหรือพัฒนาเกม ด้วยความที่โปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเกมแนวนี้ ไม่ได้ใช้โปรแกรมที่มีราคาแพงหรือซับซ้อนเกินไป และในบางเว็บไซต์ที่เป็นฟรีแพล็ตฟอร์มเอง ก็มีฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถลองสร้างเกม Visual Novel ง่ายๆ ขึ้นมาได้ เช่น โหมดสร้างเกมของคุณ ในเว็บไซต์ Dek-D เป็นต้น ทำให้ผู้พัฒนาหน้าใหม่บางคนที่อยากลองสร้างเกมของตัวเอง สามารถเริ่มต้นเรียนรู้จากการสร้างเกมแนว Visual Novel ได้ และเมื่อโปรแกรมหรือแพล็ตฟอร์ม เป็นอะไรที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก็ส่งผลให้ฝ่ายผู้เล่นเองสามารถเข้าถึงเกม Visual Novel ได้ง่ายด้วยเช่นกัน 


ยกตัวอย่างเช่น เกม Red Riding Hood หนูน้อยหมวกแดงสีเลือด ซึ่งเป็นเกมทางเลือกที่ถูกสร้างขึ้นในเว็บไซต์ Dek-D ที่เคยสร้างกระแสให้เด็กมัธยมจำนวนไม่น้อย เริ่มรู้จักกับเกมแนว Visual Novel รวมถึงเป็นเหมือนการจุดประกายความสนใจทั้งในแง่ของการเล่น และการลองสร้างเกมของตนเองขึ้นมาบ้างอีกด้วย


ในแง่ของการผลิตนอกจากความเรียบง่ายแล้ว เกมแนว Visual Novel เองก็ยังเป็นเกมประเภทที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยเปิดโอกาสให้ผู้สร้างได้สามารถออกแบบ และใส่จินตนาการของตัวเองลงไปได้อย่างเต็มที่ ทำให้ตัวเกมมีพื้นที่มากมาย ให้ผู้พัฒนาสามารถเสริมเกมเพลย์เล็กๆ น้อยๆ เข้ามาเป็นสีสันได้หากพวกเขาต้องการ ทำให้นอกจากผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่แล้ว ทางฝั่งผู้พัฒนาเองก็ยังได้สนุกไปกับการทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน



ในขณะที่เสน่ห์หลักอีกข้ออย่างตัวเลือกภายในเกมแนว Visual Novel 

นั้น ก็เป็นเสมือนสิ่งที่เสริมสร้างบรรยากาศให้ผู้เล่น สามารถแสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ กล่าวคือตัวเลือกต่างๆ ภายในเกม Visual Novel เป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้แนวคิด ตรรกะส่วนบุคคล รวมถึงมุมมองที่มีต่อสิ่งต่างๆ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ และตัดสินทางเลือกของตนเองได้อย่างอิสระ โดยไม่มีการตัดสินว่าทางเลือกเหล่านั้นถูกหรือผิด


ซึ่งนอกจากว่ามันจะเป็นการสร้างอารมณ์ร่วม ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวเรานั้นคือคนที่ได้เข้าไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งยังได้เป็นผู้ตัดสินใจรับมือกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเองแล้ว มันยังหมายรวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า การตัดสินใจทั้งหลายเหล่านั้น ทำให้แม้ว่าเราจะเล่นเกมเดียวกัน ภายใต้เนื้อเรื่องเดียวกัน หรือกระทั่งเลือกตัวเลือกที่เหมือนกันก็ตาม...แนวคิดที่ผู้เล่นแต่ละคนมี ก็จะทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน 


ด้วยการที่ผู้เล่นได้เป็นคนตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองนั้น ก็ทำให้ฉากจบที่รอคอยเราในฐานะผู้ตัดสินเส้นทางดังกล่าวอยู่ กลายเป็นสิ่งที่ตัวผู้เล่นเองคิดพิจารณา และได้เลือกให้มันเกิดขึ้นด้วยตัวเองแล้วเช่นกัน



นอกจากความเรียบง่ายกับตัวเลือกแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเกม Visual Novel ที่สืบเนื่องมาจากตัวเลือกเลยก็คือ การที่ตัวเกมมักถูกออกแบบมา ให้มีฉากจบหลากหลายแบบ โดยที่เงื่อนไขในการจะได้มาซึ่งฉากจบเหล่านั้น ก็จะมาจากตัวเลือกต่างๆ ภายในเกม ซึ่งแต่ละตัวเลือกก็จะเป็นการพาผู้เล่นไปสู่เส้นทางที่แตกต่างกัน อันจะนำมาสู่ฉากจบที่แตกต่างกันนั่นเอง


ซึ่งนอกจากมันจะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่น ได้ปลดล็อกความรู้สึกขัดใจในทำนองที่ว่า ‘หากเราได้เป็นคนตัดสินใจเลือกเอง ผลลัพธ์ที่ออกมาจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ไหมนะ?’ ได้เป็นอย่างดีแล้ว การที่ตัวเกมทำให้ผู้เล่นสามารถกลับมาเล่นซำ้ได้อีกหลายครั้ง โดยไม่เบื่อและยังได้รับประสบการณ์แตกต่างกันออกไปในแต่ละรอบ ก็ยังทำให้เกมแนวนี้มี replay value สูงอีกด้วย


ในขณะที่สำหรับ Visual Novel บางเกม การเล่นรอบใหม่ก็อาจจะไม่ใช่เพียงทางเลือกเท่านั้น แต่ยังเป็นความตั้งใจของผู้พัฒนา ที่ต้องการจะเปิดเผยเนื้อเรื่อง หรือรายละเอียดใหม่ๆ ออกมาในการเล่นรอบถัดไป เพื่อทำให้ผู้เล่นได้ใช้เวลาในการทำความเข้าใจสิ่งที่เกมต้องการจะนำเสนอมากขึ้น รวมถึงเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของตัวละครต่างๆ ภายในเกมได้มากขึ้น อย่างที่หลายครั้งเราก็อาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อบางตัวละครไปเลยก็ได้ เมื่อเราได้ใช้เวลาในการดื่มดำ่ไปกับตัวเกม และทำความเข้าใจในฉากจบต่างๆ ที่ตัวเกมสื่ออออกมาอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น



ยกตัวอย่างเช่น เกม Visual Novel แนวจีบสาว ภาพสวย เพลงประกอบติดหู พร้อมตัวละครสุดน่ารัก จากทีมพัฒนาอย่าง Team Salvato ที่เคยสร้างกระแสฮือฮาขึ้นมาเป็นวงกว้างมาแล้ว ในปี 2017 กับ Doki Doki Literature Club 


ที่สร้างมิติของตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังแอบซ่อนลูกเล่นมากมายเอาไว้ หยอกล้อกับจิตสำนึกของผู้เล่นอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากตัวเกมจะทำให้เราจำต้องเล่นซำ้ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเราเล่นไปจนถึงฉากสุดท้ายของ Doki Doki Literature Club ตัวเกมก็ยังทิ้งประกายแนวคิดบางอย่างเอาไว้ ให้ผู้เล่นได้กลับมานั่งทบทวนต่อทั้งในแง่การนำเสนอเนื้อหา และประเด็นซับซ้อนที่แอบซ่อนอยู่ภายในความน่ารักของภาพกราฟิกอีกด้วย 



ซึ่งด้วยเสน่ห์เหล่านี้ ก็ทำให้ใครหลายๆ คนตกหลุมรักเกม Visual Novel และพร้อมจะใช้เวลาในการดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องที่ตัวเกมนำเสนอ ซึ่งหลายครั้งนอกจากความเพลิดเพลินแล้ว แนวคิดบางอย่างที่เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเกมนำเสนอเอง ก็อาจพยายามสะท้อนประเด็นบางอย่างออกมา ให้เราผู้เล่นได้เก็บไปลองขบคิดดู...และบางครั้งมันก็อาจจะทำให้เรา ได้เรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ หรือได้ลองวิเคราะห์ประเด็นอะไรบางอย่าง ที่เคยมองข้ามไปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก


อย่างไรก็ดีทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เป็นเพียงมุมมองของตัวผู้เขียนเองต่อเกมแนว Visual Novel เท่านั้น และแน่นอนว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ที่มีความรู้สึกนึกคิด ประสบการณ์ รวมถึงแนวคิดต่อประเด็นต่างๆ ที่ถูกนำเสนอออกมาแตกต่างกัน ก็ย่อมจะทำให้สุดท้ายแล้วเสน่ห์ที่แต่ละคนมองเห็นและตีความกันออกมา ล้วนแล้วแต่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน


แล้วสำหรับคุณนักอ่านแต่ละคนล่ะ...มีมุมมองต่อเกมแนว Visual Novel กันอย่างไรบ้างคะ?



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header