Made in Abyss: Binary Star Falling into Darkness เกมที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังสุดดาร์ค ได้เปิดเผยรายละเอียดของโหมด Deep in Abyss จำนวนมาก
โดยในโหมดนี้ ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์ตัวละครของตัวเองขึ้นมา แถมภายในโหมดยังมีเนื้อเรื่องที่แยกออกมาเป็นเอกเทศของตัวเองอีกด้วย
เนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าถึงตัวละครของผู้เล่นที่เพิ่งได้รับการบรรจุเข้ากลุ่ม พร้อมกับนักเรียนอีก 3 คน ซึ่งหลังจากผ่านการฝึกฝนมาหลายเดือน กลุ่มของเราก็ได้ลงไปสำรวจ The Abyss ในฐานะกลุ่ม Red Whistle เสียที
ซึ่งความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง มันก็จะเริ่มต้นมาจากตรงนี้นี่แหละ
ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเองอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งระหว่างการทำเควสต์หลัก เควสต์รอง และการเก็บรวบรวมวัตถุโบราณ ผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์ไปจนถึงค่าเงินในการใช้อัปเกรดตัวละตรให้เลเวลสูงขึ้น เพื่อที่จะได้ลงไปท้าทายยังหลุมนรกที่มีความลึกมากเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
ตัวละครของผู้เล่นจะถูกแบ่งค่าการเติบโตออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ ความแข็งแกร่ง, ความอิ่มท้อง และ พลังกาย โดยทั้งความอิ่มท้องและพลังกายจะมีค่าลดลงเมื่อตัวละครมีการเคลื่อนไหว ทว่าค่าพลังกายจะสามารถฟื้นฟูได้เองอัตโนมัติ ส่วนค่าความอิ่มท้องจะต้องมีอาหารในการช่วยฟื้นฟู และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือ ค่าพลังกายจะไม่สามารถฟื้นเองได้ หากค่าความอิ่มท้องอยู่ที่ศูนย์
นอกจากค่าพลังที่ต้องคอยระวังอยู่เสมอแล้ว สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ใน The Abyss ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะรอบตัวผู้เล่นจะเต็มไปด้วยอันตราย และเหตุไม่คาดฝัน เช่น จำนวนอาหารที่เหลือ พลังชีวิตของตัวละครหลัก ความทนทานของอุปกรณ์ น้ำหนักของไอเทมที่สามารถขนไปได้
ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องคิดคำนวณด้วยว่า ในการลงไปสำรวจ The Abyss แต่ละรอบนั้น ควรจะเก็บอะไรขึ้นกลับมาบนผิวโลกบ้าง
Made in Abyss: Binary Star Falling into Darkness จะวางขายบน PS4, Switch และ PC วันที่ 1 กันยายนในประเทศญี่ปุ่น ส่วนโซนอเมริกาเหนือและยุโรปจะวางขายวันที่ 2 กันยายนแทน
แหล่งข้อมูล: gematsu
Made in Abyss: Binary Star Falling into Darkness เกมที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังสุดดาร์ค ได้เปิดเผยรายละเอียดของโหมด Deep in Abyss จำนวนมาก
โดยในโหมดนี้ ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างสรรค์ตัวละครของตัวเองขึ้นมา แถมภายในโหมดยังมีเนื้อเรื่องที่แยกออกมาเป็นเอกเทศของตัวเองอีกด้วย
เนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าถึงตัวละครของผู้เล่นที่เพิ่งได้รับการบรรจุเข้ากลุ่ม พร้อมกับนักเรียนอีก 3 คน ซึ่งหลังจากผ่านการฝึกฝนมาหลายเดือน กลุ่มของเราก็ได้ลงไปสำรวจ The Abyss ในฐานะกลุ่ม Red Whistle เสียที
ซึ่งความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง มันก็จะเริ่มต้นมาจากตรงนี้นี่แหละ
ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาเองอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งระหว่างการทำเควสต์หลัก เควสต์รอง และการเก็บรวบรวมวัตถุโบราณ ผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์ไปจนถึงค่าเงินในการใช้อัปเกรดตัวละตรให้เลเวลสูงขึ้น เพื่อที่จะได้ลงไปท้าทายยังหลุมนรกที่มีความลึกมากเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง
ตัวละครของผู้เล่นจะถูกแบ่งค่าการเติบโตออกเป็น 3 แบบ ได้แก่ ความแข็งแกร่ง, ความอิ่มท้อง และ พลังกาย โดยทั้งความอิ่มท้องและพลังกายจะมีค่าลดลงเมื่อตัวละครมีการเคลื่อนไหว ทว่าค่าพลังกายจะสามารถฟื้นฟูได้เองอัตโนมัติ ส่วนค่าความอิ่มท้องจะต้องมีอาหารในการช่วยฟื้นฟู และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจก็คือ ค่าพลังกายจะไม่สามารถฟื้นเองได้ หากค่าความอิ่มท้องอยู่ที่ศูนย์
นอกจากค่าพลังที่ต้องคอยระวังอยู่เสมอแล้ว สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ใน The Abyss ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะรอบตัวผู้เล่นจะเต็มไปด้วยอันตราย และเหตุไม่คาดฝัน เช่น จำนวนอาหารที่เหลือ พลังชีวิตของตัวละครหลัก ความทนทานของอุปกรณ์ น้ำหนักของไอเทมที่สามารถขนไปได้
ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องคิดคำนวณด้วยว่า ในการลงไปสำรวจ The Abyss แต่ละรอบนั้น ควรจะเก็บอะไรขึ้นกลับมาบนผิวโลกบ้าง
Made in Abyss: Binary Star Falling into Darkness จะวางขายบน PS4, Switch และ PC วันที่ 1 กันยายนในประเทศญี่ปุ่น ส่วนโซนอเมริกาเหนือและยุโรปจะวางขายวันที่ 2 กันยายนแทน
แหล่งข้อมูล: gematsu