Tribes of Midgard เกมแนว RPG Survival จากทางผู้พัฒนาอย่าง Norsfell ที่จะพาเราเข้าไปสู่โลกแห่งเทพปรัมปรานอร์ส และจุดเด่นคือการที่เราสามารถผจญภัยไปกับเพื่อนได้มากกว่า 10 คน พร้อมทั้งตัวเกมยังมีระบบความเป็น Roguelike ที่การเล่นแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันไปอีกด้วย โดยตัวเกมค่อนข้างได้รับความสนใจมากๆ เพราะหลังจากที่วางจำหน่ายเกมนี้ไปได้ไม่กี่วัน มันก็มียอดผู้เล่นพร้อมกันบน Steam สูงถึง 3 หมื่นคนเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในระดับเกม Indie เลยก็ว่าได้ ซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH ได้ไปลองเล่นเกมนี้มาแล้ว และจะมารีวิวพูดถึงข้อดีข้อเสียของเกม และมันเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ ?
ปกป้อง Midgard ของคุณให้นานที่สุด
โดยเรื่องราวของ Tribes of Midgard จะให้คุณได้รับบทเป็นชาวบ้านเมือง Midgard ที่จะต้องทำทุกวิธีทางในการปกป้องหมู่บ้านให้อยู่รอดในแต่ละคืนให้ได้นานที่สุด เพราะถึงช่วงกลางคืนเมื่อไร มันจะมีมอนสเตอร์มากมายเข้ามาบุกบ้านเรา นอกจากนี้เราจะต้องต่อสู้กับเหล่าอสูรยักษ์โยตุนส์ที่จะเข้าดินแดนมาถล่มเมืองของท่าน รวมถึงตัวเกมยังมีเนื้อเรื่องหลักที่จะให้คุณไปซ่อมสะพานเพื่อไปฆ่าบอสหมาภายในเกมก่อนที่บ้านของท่าน (ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์) จะถูกตีแตก เพราะยิ่งผ่านวันคืนไปเรื่อยๆ มอนสเตอร์และภูมิอากาศก็จะยิ่งมีความโหดร้ายมากขึ้นนั่นเอง
ผจญภัยเพื่อความอยู่รอด
โดยพื้นฐานการเล่นของเกมนี้มันก็จะเป็นเกมแนว Survival ทั่วไป ที่เรานั้นจะต้องวิ่งผจญภัยเพื่อเปิดแผนที่ ซึ่งการเล่นแต่ละครั้งแผนที่ก็จะสุ่มใหม่ทุกครั้ง ทำให้เราจะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอด เราจะได้พบเจอกับเหล่าศัตรูที่ตั้งแคมป์ในแผนที่มากมายให้เราไปพิชิต หรือจะเป็นการที่เราจะต้องไปขุดหิน ขุดแร่ ตัดไม้ โดยของรางวัลที่เราจะได้ก็คือวัสดุต่างๆ ที่จะเอามาคราฟต์ของพวกชุด อาวุธใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งสร้างป้อมปราการเอาไว้ต่อสู้กับเหล่าศัตรูตอนกลางคืนด้วย ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นยิ่งวันคืนผ่านไป ศัตรูก็จะแกร่งขึ้น ทำให้เราจะต้องอัพเกรดฐานที่มั่นของเราให้ดีขึ้นเพื่อรับมือ นอกจากนี้การผจญภัยเรายังมีเควสต่างๆ ให้ทำเพื่อรับของรางวัลพิเศษด้วย
โดยจุดมุ่งหมายของเกมนี้ไม่ใช่การที่เราจะสร้างบ้านขยายอาณาเขตไปเรื่อยๆ แต่เราต้องทำการฆ่าบอสหมาให้ได้ก่อนที่บ้านเราจะถูกศัตรูตีจนแตก ซึ่งปกติอยู่รอดให้ได้ซัก 15 วันก็ถือว่าเก่งแล้ว
นอกจากนี้เวลาตัดไม้ เปิดกล่องที่แคมป์ หรือจัดการศัตรู เราก็จะได้รับ Soul ที่จะเป็นเหมือนแต้มพลังให้เราสามารถใช้อัพเกรดร้านค้า สร้างฐานต่างๆ ซ่อมอาวุธ เพิ่มเลือดต้นไม้ หรือจะเอาไปซื้อของจากร้านค้าลับต่างๆ ได้ โดย Soul เป็นสิ่งสำคัญและล้ำค้ามากๆ เพราะถ้าหากเราเผลอโดนศัตรูฆ่าตายเมื่อไร Soul ที่เราได้มาจะหายออกจากตัวทั้งหมด
โยตุนส์ อสูรยักษ์สุดโหด
หนึ่งในศัตรูสุดโหดที่เราต้องเจอทุกๆ 3-4 วันนั่นก็คือศัตรูอย่างเจ้าโยตุนส์ที่มันจะเป็นอสูรยักษ์ตัวมหึมาที่จะเดินมาพลังบ้านเรา ซึ่งนอกจากที่เราจะต้องผจญภัยเปิดแผนที่แล้วนั้น เราจะต้องคอยหาเจ้าโยตุนส์เพื่อดักทางโจมตีพวกมันก่อนที่มันจะทำลายบ้านเราให้สิ้น โดยเหล่าโยตุนส์ตัวแรกๆ อาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่ตัวต่อๆ ไปมันก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโยตุนส์ก็จะมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายธาตุ โดยเราจะต้องหาอาวุธที่ชนะธาตุมาต่อสู้พวกมันเพื่อจัดการให้ง่ายมากขึ้น
อาวุธและอาชีพที่หลากหลาย
ภายในเกมมีอาวุธให้เราเลือกใช้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นดาบ ธนู ค้อน และขวาน ที่จะมีสกิลความสามารถที่แตกต่างกันไป แถมอาวุธแต่ละชิ้นยังมีธาตุต่างๆ ให้เราได้คราฟอีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้ศัตรูติดสถานะหรือเอาไว้จัดการกับโยตุนส์ที่มีธาตุแพ้เราก็ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถคราฟต์ชุดสวมใส่ที่จะมีค่าป้องกันความร้อนความหนาว กันสถานะ หรือเพิ่มเกราะให้เราได้
นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบคลาสที่จะให้เรานั้นได้อัพ Passive เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสให้กับตัวละครเรา ซึ่งตัวเกมมีให้เลือกคลาสมากกว่า 10 สาย เพียงแต่ว่า (เริ่มต้นจะมีคลาสให้เลือกแค่ 2 คลาสเท่านั้น) ซึ่งเราจะต้องทำรางวัลความสำเร็จเพื่อปลดล็อคเสียก่อน
ปลดล็อคความสำเร็จ เพื่อได้ไอเท็มไปใช้ในการผจญภัยครั้งต่อไป
รวมถึงในการเล่นจบแต่ละครั้ง ถ้าหากเราทำภารกิจตามเงื่อนไขตัเกมจะทำการปลดล็อคการเล่นใหม่ๆ ให้เราอีกด้วย ไม่ว่าจะการการปลดล็อคการคราฟต์อาวุธระดับสูงขึ้น การได้ขุดไอเท็มเซ็ตเริ่มต้นหรือแม้กระทั่งสกินแฟชันต่างๆ ซึ่งถ้าคุณยิ่งปลดล็อคมันก็จะช่วยให้คุณ สามารถมีของเก่งๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้การเล่นแต่ละครั้งมันสร้างสีสันได้อย่างดีเลย
ความรู้สึกหลังเล่น
จากที่ได้เล่นมานั้น Tribes of Midgard เป็นเกมที่ทางผู้พัฒนาดีไซน์โลกออกมาได้อย่างน่าสนใจพอสมควร รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เล่นและลุ้นว่ารอบนี้เราจะได้เจอกับโลกหน้าตาแบบไหน ระบบการเล่นค่อนข้างเข้าใจง่ายไม่ได้มีความซับซ้อนใดๆ หาของให้ครบ และก็คราฟต์แค่นั้น
แต่สิ่งที่อาจจะทำให้ผู้เขียนไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับเกมนี้ก็คงจะเป็นหน้าที่ของเกมที่ค่อนข้างมีเยอะมาก กับเวลาที่จำกัดที่เราจะต้องวิ่งตะลุยเพื่อจบภารกิจที่ตั้งไว้ ไหนเราจะต้องวิ่งเปิดแผนที่ ไหนจะต้องฟาร์มของ ไหนจะต้องมาอัพเกรดบ้าน สร้างป้องปราการต่างๆ มันเลยทำให้การเล่นเกมนี้แบบ Solo เป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่ค่อยแนะนำเสียเท่าไร อย่างน้อยเกมนี้ควรจะมีเพื่อนเล่น 3-4 คนเป็นอย่างต่ำ เพราะตัวผู้เขียนมีเพื่อนเล่นเกมนี้เพียงแค่ 2 คนซึ่งต้องบอกเลยว่ามันค่อนข้างเหนื่อยและจุกจิกเป็นอย่างมาก พอจะวิ่งเปิดแผนที่ ซักพักก็ถึงกลางคืน มอนสเตอร์ก็จะออกมาแล้ว หรือพอจะไปไกลๆ ได้หน่อย เราก็ต้องมาเสียเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อตีโยตุนส์เป็นต้น
หรือถ้ามีเพื่อนมากถึง 10 คนนั้นก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าจำนวนผู้เล่นเยอะมันจะทำให้ศัตรูเก่งขึ้น แต่ภาระหน้าที่ของแต่ละคนก็จะมีคนช่วยกันทำน้อยลง อย่างเช่นบางคืนเราอาจจะทิ้งเพื่อนซัก 1-2 คนไม่ต้องกลับบ้านมากันฐานก็ได้ หรืออาจจะมีเพื่อนซักคนคอยทำหน้าที่คราฟต์ของต่างๆ ในฐานเพื่อจะได้ฐานผลิตใหม่ๆ เร็วขึ้นนั่นเอง
เกมมีอะไรให้ทำเยอะ
เริ่มเกมใหม่แต่ละครั้ง รูปแบบแผนที่จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
เกมเพลย์การต่อสู้สุดมันส์
เกมควรต้องมีเพื่อนเล่นด้วยเยอะๆ (ไม่ต่ำกว่า 3-4 คน)
มีบัคให้เห็นบ้างประปราย
Tribes of Midgard เกมแนว RPG Survival จากทางผู้พัฒนาอย่าง Norsfell ที่จะพาเราเข้าไปสู่โลกแห่งเทพปรัมปรานอร์ส และจุดเด่นคือการที่เราสามารถผจญภัยไปกับเพื่อนได้มากกว่า 10 คน พร้อมทั้งตัวเกมยังมีระบบความเป็น Roguelike ที่การเล่นแต่ละครั้งจะมีความแตกต่างกันไปอีกด้วย โดยตัวเกมค่อนข้างได้รับความสนใจมากๆ เพราะหลังจากที่วางจำหน่ายเกมนี้ไปได้ไม่กี่วัน มันก็มียอดผู้เล่นพร้อมกันบน Steam สูงถึง 3 หมื่นคนเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าทำได้ดีมากๆ ในระดับเกม Indie เลยก็ว่าได้ ซึ่งในบทความนี้พวกเรา GameFever TH ได้ไปลองเล่นเกมนี้มาแล้ว และจะมารีวิวพูดถึงข้อดีข้อเสียของเกม และมันเหมาะสำหรับคุณหรือไม่ ?
ปกป้อง Midgard ของคุณให้นานที่สุด
โดยเรื่องราวของ Tribes of Midgard จะให้คุณได้รับบทเป็นชาวบ้านเมือง Midgard ที่จะต้องทำทุกวิธีทางในการปกป้องหมู่บ้านให้อยู่รอดในแต่ละคืนให้ได้นานที่สุด เพราะถึงช่วงกลางคืนเมื่อไร มันจะมีมอนสเตอร์มากมายเข้ามาบุกบ้านเรา นอกจากนี้เราจะต้องต่อสู้กับเหล่าอสูรยักษ์โยตุนส์ที่จะเข้าดินแดนมาถล่มเมืองของท่าน รวมถึงตัวเกมยังมีเนื้อเรื่องหลักที่จะให้คุณไปซ่อมสะพานเพื่อไปฆ่าบอสหมาภายในเกมก่อนที่บ้านของท่าน (ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์) จะถูกตีแตก เพราะยิ่งผ่านวันคืนไปเรื่อยๆ มอนสเตอร์และภูมิอากาศก็จะยิ่งมีความโหดร้ายมากขึ้นนั่นเอง
ผจญภัยเพื่อความอยู่รอด
โดยพื้นฐานการเล่นของเกมนี้มันก็จะเป็นเกมแนว Survival ทั่วไป ที่เรานั้นจะต้องวิ่งผจญภัยเพื่อเปิดแผนที่ ซึ่งการเล่นแต่ละครั้งแผนที่ก็จะสุ่มใหม่ทุกครั้ง ทำให้เราจะได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอด เราจะได้พบเจอกับเหล่าศัตรูที่ตั้งแคมป์ในแผนที่มากมายให้เราไปพิชิต หรือจะเป็นการที่เราจะต้องไปขุดหิน ขุดแร่ ตัดไม้ โดยของรางวัลที่เราจะได้ก็คือวัสดุต่างๆ ที่จะเอามาคราฟต์ของพวกชุด อาวุธใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งสร้างป้อมปราการเอาไว้ต่อสู้กับเหล่าศัตรูตอนกลางคืนด้วย ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นยิ่งวันคืนผ่านไป ศัตรูก็จะแกร่งขึ้น ทำให้เราจะต้องอัพเกรดฐานที่มั่นของเราให้ดีขึ้นเพื่อรับมือ นอกจากนี้การผจญภัยเรายังมีเควสต่างๆ ให้ทำเพื่อรับของรางวัลพิเศษด้วย
โดยจุดมุ่งหมายของเกมนี้ไม่ใช่การที่เราจะสร้างบ้านขยายอาณาเขตไปเรื่อยๆ แต่เราต้องทำการฆ่าบอสหมาให้ได้ก่อนที่บ้านเราจะถูกศัตรูตีจนแตก ซึ่งปกติอยู่รอดให้ได้ซัก 15 วันก็ถือว่าเก่งแล้ว
นอกจากนี้เวลาตัดไม้ เปิดกล่องที่แคมป์ หรือจัดการศัตรู เราก็จะได้รับ Soul ที่จะเป็นเหมือนแต้มพลังให้เราสามารถใช้อัพเกรดร้านค้า สร้างฐานต่างๆ ซ่อมอาวุธ เพิ่มเลือดต้นไม้ หรือจะเอาไปซื้อของจากร้านค้าลับต่างๆ ได้ โดย Soul เป็นสิ่งสำคัญและล้ำค้ามากๆ เพราะถ้าหากเราเผลอโดนศัตรูฆ่าตายเมื่อไร Soul ที่เราได้มาจะหายออกจากตัวทั้งหมด
โยตุนส์ อสูรยักษ์สุดโหด
หนึ่งในศัตรูสุดโหดที่เราต้องเจอทุกๆ 3-4 วันนั่นก็คือศัตรูอย่างเจ้าโยตุนส์ที่มันจะเป็นอสูรยักษ์ตัวมหึมาที่จะเดินมาพลังบ้านเรา ซึ่งนอกจากที่เราจะต้องผจญภัยเปิดแผนที่แล้วนั้น เราจะต้องคอยหาเจ้าโยตุนส์เพื่อดักทางโจมตีพวกมันก่อนที่มันจะทำลายบ้านเราให้สิ้น โดยเหล่าโยตุนส์ตัวแรกๆ อาจจะไม่ได้เก่งมาก แต่ตัวต่อๆ ไปมันก็จะเก่งขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงโยตุนส์ก็จะมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายธาตุ โดยเราจะต้องหาอาวุธที่ชนะธาตุมาต่อสู้พวกมันเพื่อจัดการให้ง่ายมากขึ้น
อาวุธและอาชีพที่หลากหลาย
ภายในเกมมีอาวุธให้เราเลือกใช้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นดาบ ธนู ค้อน และขวาน ที่จะมีสกิลความสามารถที่แตกต่างกันไป แถมอาวุธแต่ละชิ้นยังมีธาตุต่างๆ ให้เราได้คราฟอีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้ศัตรูติดสถานะหรือเอาไว้จัดการกับโยตุนส์ที่มีธาตุแพ้เราก็ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถคราฟต์ชุดสวมใส่ที่จะมีค่าป้องกันความร้อนความหนาว กันสถานะ หรือเพิ่มเกราะให้เราได้
นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบคลาสที่จะให้เรานั้นได้อัพ Passive เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสให้กับตัวละครเรา ซึ่งตัวเกมมีให้เลือกคลาสมากกว่า 10 สาย เพียงแต่ว่า (เริ่มต้นจะมีคลาสให้เลือกแค่ 2 คลาสเท่านั้น) ซึ่งเราจะต้องทำรางวัลความสำเร็จเพื่อปลดล็อคเสียก่อน
ปลดล็อคความสำเร็จ เพื่อได้ไอเท็มไปใช้ในการผจญภัยครั้งต่อไป
รวมถึงในการเล่นจบแต่ละครั้ง ถ้าหากเราทำภารกิจตามเงื่อนไขตัเกมจะทำการปลดล็อคการเล่นใหม่ๆ ให้เราอีกด้วย ไม่ว่าจะการการปลดล็อคการคราฟต์อาวุธระดับสูงขึ้น การได้ขุดไอเท็มเซ็ตเริ่มต้นหรือแม้กระทั่งสกินแฟชันต่างๆ ซึ่งถ้าคุณยิ่งปลดล็อคมันก็จะช่วยให้คุณ สามารถมีของเก่งๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้การเล่นแต่ละครั้งมันสร้างสีสันได้อย่างดีเลย
ความรู้สึกหลังเล่น
จากที่ได้เล่นมานั้น Tribes of Midgard เป็นเกมที่ทางผู้พัฒนาดีไซน์โลกออกมาได้อย่างน่าสนใจพอสมควร รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เล่นและลุ้นว่ารอบนี้เราจะได้เจอกับโลกหน้าตาแบบไหน ระบบการเล่นค่อนข้างเข้าใจง่ายไม่ได้มีความซับซ้อนใดๆ หาของให้ครบ และก็คราฟต์แค่นั้น
แต่สิ่งที่อาจจะทำให้ผู้เขียนไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับเกมนี้ก็คงจะเป็นหน้าที่ของเกมที่ค่อนข้างมีเยอะมาก กับเวลาที่จำกัดที่เราจะต้องวิ่งตะลุยเพื่อจบภารกิจที่ตั้งไว้ ไหนเราจะต้องวิ่งเปิดแผนที่ ไหนจะต้องฟาร์มของ ไหนจะต้องมาอัพเกรดบ้าน สร้างป้องปราการต่างๆ มันเลยทำให้การเล่นเกมนี้แบบ Solo เป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่ค่อยแนะนำเสียเท่าไร อย่างน้อยเกมนี้ควรจะมีเพื่อนเล่น 3-4 คนเป็นอย่างต่ำ เพราะตัวผู้เขียนมีเพื่อนเล่นเกมนี้เพียงแค่ 2 คนซึ่งต้องบอกเลยว่ามันค่อนข้างเหนื่อยและจุกจิกเป็นอย่างมาก พอจะวิ่งเปิดแผนที่ ซักพักก็ถึงกลางคืน มอนสเตอร์ก็จะออกมาแล้ว หรือพอจะไปไกลๆ ได้หน่อย เราก็ต้องมาเสียเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อตีโยตุนส์เป็นต้น
หรือถ้ามีเพื่อนมากถึง 10 คนนั้นก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าจำนวนผู้เล่นเยอะมันจะทำให้ศัตรูเก่งขึ้น แต่ภาระหน้าที่ของแต่ละคนก็จะมีคนช่วยกันทำน้อยลง อย่างเช่นบางคืนเราอาจจะทิ้งเพื่อนซัก 1-2 คนไม่ต้องกลับบ้านมากันฐานก็ได้ หรืออาจจะมีเพื่อนซักคนคอยทำหน้าที่คราฟต์ของต่างๆ ในฐานเพื่อจะได้ฐานผลิตใหม่ๆ เร็วขึ้นนั่นเอง