หากใครยังจำกันได้ กับเกมสัตว์ประหลาดถล่มเมืองอย่าง Rampage เกมที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1986 ใครจะไปรู้ว่าผ่านมานานหลายสิบปี จะมีเกมที่ได้แรงบันดาลใจ และยังทำออกมาอีก แถมเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยซะด้วย โดยเกมนี้มีชื่อว่า Terror of Hemasaurus เกมที่เราจะได้รับบทเป็นไคจูน้อยถล่มโลกทั้งใบให้วอดวายในสไตล์เดียวกันกับ Rampage เลย แต่เกมนี้จะออกมาเป็นยังไง ก็มาดูรีวิวของเรากันได้ในวันนี้เลย
เนื้อเรื่องสุดคลีเช่ที่เห็นได้บ่อยจากหนังแนวไคจู / มอนสเตอร์
กรกฎาคมปี 2023 ประเทศนอร์เวย์ เวทีดีเบทถกเถียงกันเรื่องสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้โลกร้อนมากขึ้นทุกที และมอนสเตอร์ยักษ์ที่ถูกแช่แข็งมานานก็ถูกปลดปล่อยออกมา มอนสเตอร์ตัวที่ว่าก็คือ Hemasaurus ที่ตอนนี้ชีวิตอิสระของมันกำลังจะสร้างหายนะให้กับโลก แต่จุดมุ่งหมายของเจ้า Hemasaurus กลับเป็นโบสถ์และลัทธิปริศนาที่อาจจะมีเงื่อนงำซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ต้องบอกว่าใครที่ดูหนังแนวสัตว์ประหลาดถล่มโลกหรือไคจูจะเห็นพล็อตแบบนี้บ่อยมาก การกระทำของมนุษย์จะเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดเหตุการณ์ที่จะไปปลุกสัตว์ประหลาดขึ้นมา อย่างน้อยเกมนี้ก็เคารพหลาย ๆ สื่อบันเทิงที่ทำแนวนี้ขึ้นมา แต่หากคุณกำลังมองหาความสดใหม่เกี่ยวกับแนวเกมไคจูทั้งหลายก็ต้องบอกว่าคิดผิด เกมนี้เหมือนทำขึ้นมาเพื่อคารวะ Rampage ล้วน ๆ และถูกสร้างขึ้นโดยใช้ธีมที่มีสีสันสดใส พร้อมเจ้า Hemasaurus ที่หน้าปกเกมจะดูเหมือนจระเข้ยักษ์ แต่ในเกมกลับน่ารักตะมุตะมิซะอย่างนั้น เอาเป็นว่าส่วนของเนื้อเรื่อง ใครดูหนังแนวนี้มาเยอะ ก็อย่าคาดหวังถึงความแปลกใหม่ภายในเกมนี้
วันไหนเครียด ให้เกมนี้ช่วยระบาย เพราะเข้าถึงง่ายยิ่งกว่าอะไรดี
ท่ามกลางยุคสมัยของเกม AAA หรือเกมฟอร์มยักษ์มากมายที่เข็นกราฟิก เข็นเนื้อเรื่อง เข็นชั่วโมงความยาวของเกมออกมาแข่งกัน Terror of Hemasaurus อาจเป็นเกมที่เราต้องลองเปิดใจลองเล่นดู เพราะเกมนี้มาพร้อมความเรียบง่ายแบบขั้นสุด ผู้เล่นจะได้เลือกมอนสเตอร์ 4 แบบในตอนเริ่มต้น จากนั้นเกมเพลย์ของคุณก็ง่าย ๆ เลย เดินจากซ้ายไปขวา ทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้าให้หมดสิ้น ทั้งหมดของเกมนั้นมีเท่านี้จริืง ๆ ดังนั้นนี่คือความสนุกที่เรียบง่ายมาก จนหลายคนอาจจะมองว่าไม่คุ้มค่า
สำหรับตัวละครแม้จะมีให้เล่น 4 ตัว แต่ Movement และรูปแบบการต่อสู้ของมันก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไรนัก หนำซ้ำ แม้ว่าตัวเกมจะมีฉากให้เลือกหลายฉากพอสมควร แต่ฉากหลังของมันกลับซ้ำซากจนน่าใจหาย ไม่มีการเปลี่ยนสถานที่หรือธีมใด ๆ มันยังคงเป็นเกมทำลายเมืองเอามัน และบางฉษกก็เพิ่มลูกเล่นเข้ามา เช่นแท่นกระโดดแบบแทรมโพลีน และลูกตุ้มเหล็กที่ทำให้เราสามารถพังตึกจนราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานนัก เพิ่มความเร้าใจในการบุกทำลายเมืองให้เร็วมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเกมจะเล่น Co-op ได้มากถึง 4 คน แต่มันก็ร่วมกันเล่นได้ในฉากของเนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่ได้มีด่านพิเศษที่ออกแบบมาให้ช่วยกันเล่นแต่อย่างใด ทำให้เกมนี้ค่อนข้างน่าเบื่อพอสมควรทั้งในแง่คอนเทนต์และเกมเพลย์ แค่ความน่ารักของมันก็อาจจะไม่คุ้มเท่าไรนัก เพราะเกมนี้ หากนั่งซัดแบบยาว ๆ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จบแล้ว
เกมเพลย์สุดคลาสสิค ตะลุยด่านซ้ายไปขวา จบแบบง่าย ๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำ
สำหรับคนที่คิดว่ารีวิวเกมนี้สั้น ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เพราะเราขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เพราะคอนเทนต์ของเกมนี้มันเบาโหวงเหวงมาก ๆ สำหรับเกมเพลย์ของ Terror of Hemasaurus นั้น หากคุณเป็นเซียนเกม Arcade จำพวกตะลุยด่านต่าง ๆ อยู่แล้ว หรือถ้ายิ่งเคยเล่น Rampage มานั้น ยิ่งง่ายเลย เพราะคุณจะทำความเข้าใจกับระบบเกมได้อย่างง่ายดาย การผ่านแต่ละด่านนั้น เพียงแค่คุณเกดินหน้าจับคนมากิน หรือทำลายตึกรามบ้านช่องจนพังพินาศให้หมด ตามที่ด่านกำหนดก็คือใช้ได้แล้ว
ในด่านหลัง ๆ แม้ว่าจะมีอุปสรรคต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาบ้าง เช่นกองกำลังตำรวจ หรือทหารที่จะมายิงทำให้พลังชีวิตเราลดลง แต่เราสามารถฟื้นพลังตัวเองกลับมาได้ง่าย ๆ ด้วยการจับคนมากินมันซะเลย และเกมเพลย์จะมีรูปแบบการทำลายที่ถือว่าไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย เช่น การปีนขึ้นไปบนตึก แล้วกดโจมตีรัว ๆ จนอาคารเริ่มพัง หรือจะทำลายฐานอาคารให้มันโค่นลงมาเลยก็ทำได้ แต่ถ้าใครอยากฮาร์ดคอร์กว่านั้น ก็ศามารถหยิบเอาคน หรือพวกยานพาหนะมาปาใส่จนทำให้เกิดการระเบิด และคร่าชีวิตผู้คนหรือทำลายเมืองนับร้อย นับพันได้ในไม่กี่วินาที
แต่ที่ทำให้มันน่าเบื่อจริง ๆ เลยคือเรื่องของฉากภายในเกม ที่แม้จะเล่นไปจนถึงด่านท้าย ๆ แล้ว แต่ฉากก็ยังคงเป็ฯตึกรามบ้านช่องเหมือนเดิม ไม่ได้ย้ายไปผจญภัยที่ไหนเลย ดังนั้นใครที่ไม่ชอบอะไรเดิม ๆ ก็อาจจะเบื่อเอาได้ง่าย ๆ แค่ 2 ชั่วโมงยังอาจจะไม่อยากเล่นให้จบก็เป็นได้ รวมไปถึงศัตรูหรืออุปสรรค ไม่ได้เพิ่มความท้าทายอะไรใหม่เข้ามา แต่ทำให้มันมาในปริมาณที่เยอะขึ้นเท่านั้น ยังดีที่ช่วงท้ายมีการเปลี่ยนตัวละครให้เราไปเล่นกันนิดหน่อย แต่จะเป็นอะไรนั้น ลองไปหาคำตอบกันดูเอง จะได้ไม่มองว่าเราสปอยล์ แต่ถึงแม้จะอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้เกมสนุกขึ้นสักเท่าไร
และที่มีปัญหาหนักมากจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องของการ Optimized เกม จริงอยู๋ว่าเกมมันเป็นพิกเซลกราฟิกแบบนี้ มันไม่ได้กินสเปคเครื่องอะไร แต่เราจะพูดแบบนี้ได้ก็จนกว่าที่เกมจะมีฉากระเบิด ตึกถล่มพังทลายเป็นกองพะเนิน เมื่อใดก็ตามที่มีการระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้น เกมจะมีอาการเฟรมเรทดรอปอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งช่วงท้ายที่แทบจะเป็นเกมแบบ Stop Motion กันเลยทีเดียว แม้จะเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียว แต่ก็ถือว่าทำลายประสบการณ์การเล่นเกมพอสมควร โดยเฉพาะกับเกมที่ถือว่าค่อนข้างน่าเบื่อตั้งแต่ช่วงต้นยันท้ายเกมแบบนี้
สรุปให้ว่า Terror of Hemasaurus นั้น ถือว่าเป็นเกมที่หากคิดจะหาเกมมาเล่นขำ ๆ แก้เบื่อ แก้ว่าง อยากทำลายข้าวของหรือตึกรามบ้านช่องเล่น ๆ มันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ด้วยราคาที่ถูกมาก ทำให้ทีมทำเกมอาจจะใส่คอนเทนต์เข้ามาตามราคา ซึ่งมันทำให้น่าผิดหวังไม่น้อย กับการตั้งใจออกแบบกราฟิกภายในเกมจนเป็นเอกลักษณ์ แต่เกมเพลย์กลับน่าเบื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เล่นแล้วคิดถึงวัยเด็ก เล่นง่าย เข้าถึงง่ายมาก
งานกราฟิก โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์มาก
เกมสั้นมาก ๆ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จบเกมได้แล้ว
เกมเพลย์แบบเดิมแทบจะทั้งเกม เริ่มเกมยังไง ท้ายเกมก็แบบนั้น ไม่มีเปลี่ยนแปลง
Optimize ไม่ดีมาก ๆ เมื่อเกิดเอฟเฟคท์หลายอย่างบนเกม เฟรมเรทดรอป
รองรับ Co-op แต่ก็ไม่รู้จะชวนเพื่อนมาทำอะไร เพราะมันก็เล่นเหมือนเดิมหมด
หากใครยังจำกันได้ กับเกมสัตว์ประหลาดถล่มเมืองอย่าง Rampage เกมที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1986 ใครจะไปรู้ว่าผ่านมานานหลายสิบปี จะมีเกมที่ได้แรงบันดาลใจ และยังทำออกมาอีก แถมเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยซะด้วย โดยเกมนี้มีชื่อว่า Terror of Hemasaurus เกมที่เราจะได้รับบทเป็นไคจูน้อยถล่มโลกทั้งใบให้วอดวายในสไตล์เดียวกันกับ Rampage เลย แต่เกมนี้จะออกมาเป็นยังไง ก็มาดูรีวิวของเรากันได้ในวันนี้เลย
เนื้อเรื่องสุดคลีเช่ที่เห็นได้บ่อยจากหนังแนวไคจู / มอนสเตอร์
กรกฎาคมปี 2023 ประเทศนอร์เวย์ เวทีดีเบทถกเถียงกันเรื่องสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ อุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้โลกร้อนมากขึ้นทุกที และมอนสเตอร์ยักษ์ที่ถูกแช่แข็งมานานก็ถูกปลดปล่อยออกมา มอนสเตอร์ตัวที่ว่าก็คือ Hemasaurus ที่ตอนนี้ชีวิตอิสระของมันกำลังจะสร้างหายนะให้กับโลก แต่จุดมุ่งหมายของเจ้า Hemasaurus กลับเป็นโบสถ์และลัทธิปริศนาที่อาจจะมีเงื่อนงำซ่อนอยู่เบื้องหลัง
ต้องบอกว่าใครที่ดูหนังแนวสัตว์ประหลาดถล่มโลกหรือไคจูจะเห็นพล็อตแบบนี้บ่อยมาก การกระทำของมนุษย์จะเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดเหตุการณ์ที่จะไปปลุกสัตว์ประหลาดขึ้นมา อย่างน้อยเกมนี้ก็เคารพหลาย ๆ สื่อบันเทิงที่ทำแนวนี้ขึ้นมา แต่หากคุณกำลังมองหาความสดใหม่เกี่ยวกับแนวเกมไคจูทั้งหลายก็ต้องบอกว่าคิดผิด เกมนี้เหมือนทำขึ้นมาเพื่อคารวะ Rampage ล้วน ๆ และถูกสร้างขึ้นโดยใช้ธีมที่มีสีสันสดใส พร้อมเจ้า Hemasaurus ที่หน้าปกเกมจะดูเหมือนจระเข้ยักษ์ แต่ในเกมกลับน่ารักตะมุตะมิซะอย่างนั้น เอาเป็นว่าส่วนของเนื้อเรื่อง ใครดูหนังแนวนี้มาเยอะ ก็อย่าคาดหวังถึงความแปลกใหม่ภายในเกมนี้
วันไหนเครียด ให้เกมนี้ช่วยระบาย เพราะเข้าถึงง่ายยิ่งกว่าอะไรดี
ท่ามกลางยุคสมัยของเกม AAA หรือเกมฟอร์มยักษ์มากมายที่เข็นกราฟิก เข็นเนื้อเรื่อง เข็นชั่วโมงความยาวของเกมออกมาแข่งกัน Terror of Hemasaurus อาจเป็นเกมที่เราต้องลองเปิดใจลองเล่นดู เพราะเกมนี้มาพร้อมความเรียบง่ายแบบขั้นสุด ผู้เล่นจะได้เลือกมอนสเตอร์ 4 แบบในตอนเริ่มต้น จากนั้นเกมเพลย์ของคุณก็ง่าย ๆ เลย เดินจากซ้ายไปขวา ทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้าให้หมดสิ้น ทั้งหมดของเกมนั้นมีเท่านี้จริืง ๆ ดังนั้นนี่คือความสนุกที่เรียบง่ายมาก จนหลายคนอาจจะมองว่าไม่คุ้มค่า
สำหรับตัวละครแม้จะมีให้เล่น 4 ตัว แต่ Movement และรูปแบบการต่อสู้ของมันก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไรนัก หนำซ้ำ แม้ว่าตัวเกมจะมีฉากให้เลือกหลายฉากพอสมควร แต่ฉากหลังของมันกลับซ้ำซากจนน่าใจหาย ไม่มีการเปลี่ยนสถานที่หรือธีมใด ๆ มันยังคงเป็นเกมทำลายเมืองเอามัน และบางฉษกก็เพิ่มลูกเล่นเข้ามา เช่นแท่นกระโดดแบบแทรมโพลีน และลูกตุ้มเหล็กที่ทำให้เราสามารถพังตึกจนราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานนัก เพิ่มความเร้าใจในการบุกทำลายเมืองให้เร็วมากยิ่งขึ้น แม้ว่าเกมจะเล่น Co-op ได้มากถึง 4 คน แต่มันก็ร่วมกันเล่นได้ในฉากของเนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่ได้มีด่านพิเศษที่ออกแบบมาให้ช่วยกันเล่นแต่อย่างใด ทำให้เกมนี้ค่อนข้างน่าเบื่อพอสมควรทั้งในแง่คอนเทนต์และเกมเพลย์ แค่ความน่ารักของมันก็อาจจะไม่คุ้มเท่าไรนัก เพราะเกมนี้ หากนั่งซัดแบบยาว ๆ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็จบแล้ว
เกมเพลย์สุดคลาสสิค ตะลุยด่านซ้ายไปขวา จบแบบง่าย ๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำ
สำหรับคนที่คิดว่ารีวิวเกมนี้สั้น ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เพราะเราขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เพราะคอนเทนต์ของเกมนี้มันเบาโหวงเหวงมาก ๆ สำหรับเกมเพลย์ของ Terror of Hemasaurus นั้น หากคุณเป็นเซียนเกม Arcade จำพวกตะลุยด่านต่าง ๆ อยู่แล้ว หรือถ้ายิ่งเคยเล่น Rampage มานั้น ยิ่งง่ายเลย เพราะคุณจะทำความเข้าใจกับระบบเกมได้อย่างง่ายดาย การผ่านแต่ละด่านนั้น เพียงแค่คุณเกดินหน้าจับคนมากิน หรือทำลายตึกรามบ้านช่องจนพังพินาศให้หมด ตามที่ด่านกำหนดก็คือใช้ได้แล้ว
ในด่านหลัง ๆ แม้ว่าจะมีอุปสรรคต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาบ้าง เช่นกองกำลังตำรวจ หรือทหารที่จะมายิงทำให้พลังชีวิตเราลดลง แต่เราสามารถฟื้นพลังตัวเองกลับมาได้ง่าย ๆ ด้วยการจับคนมากินมันซะเลย และเกมเพลย์จะมีรูปแบบการทำลายที่ถือว่าไม่มาก แต่ก็ไม่น้อย เช่น การปีนขึ้นไปบนตึก แล้วกดโจมตีรัว ๆ จนอาคารเริ่มพัง หรือจะทำลายฐานอาคารให้มันโค่นลงมาเลยก็ทำได้ แต่ถ้าใครอยากฮาร์ดคอร์กว่านั้น ก็ศามารถหยิบเอาคน หรือพวกยานพาหนะมาปาใส่จนทำให้เกิดการระเบิด และคร่าชีวิตผู้คนหรือทำลายเมืองนับร้อย นับพันได้ในไม่กี่วินาที
แต่ที่ทำให้มันน่าเบื่อจริง ๆ เลยคือเรื่องของฉากภายในเกม ที่แม้จะเล่นไปจนถึงด่านท้าย ๆ แล้ว แต่ฉากก็ยังคงเป็ฯตึกรามบ้านช่องเหมือนเดิม ไม่ได้ย้ายไปผจญภัยที่ไหนเลย ดังนั้นใครที่ไม่ชอบอะไรเดิม ๆ ก็อาจจะเบื่อเอาได้ง่าย ๆ แค่ 2 ชั่วโมงยังอาจจะไม่อยากเล่นให้จบก็เป็นได้ รวมไปถึงศัตรูหรืออุปสรรค ไม่ได้เพิ่มความท้าทายอะไรใหม่เข้ามา แต่ทำให้มันมาในปริมาณที่เยอะขึ้นเท่านั้น ยังดีที่ช่วงท้ายมีการเปลี่ยนตัวละครให้เราไปเล่นกันนิดหน่อย แต่จะเป็นอะไรนั้น ลองไปหาคำตอบกันดูเอง จะได้ไม่มองว่าเราสปอยล์ แต่ถึงแม้จะอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ทำให้เกมสนุกขึ้นสักเท่าไร
และที่มีปัญหาหนักมากจริง ๆ น่าจะเป็นเรื่องของการ Optimized เกม จริงอยู๋ว่าเกมมันเป็นพิกเซลกราฟิกแบบนี้ มันไม่ได้กินสเปคเครื่องอะไร แต่เราจะพูดแบบนี้ได้ก็จนกว่าที่เกมจะมีฉากระเบิด ตึกถล่มพังทลายเป็นกองพะเนิน เมื่อใดก็ตามที่มีการระเบิดขนาดใหญ่เกิดขึ้น เกมจะมีอาการเฟรมเรทดรอปอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งช่วงท้ายที่แทบจะเป็นเกมแบบ Stop Motion กันเลยทีเดียว แม้จะเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียว แต่ก็ถือว่าทำลายประสบการณ์การเล่นเกมพอสมควร โดยเฉพาะกับเกมที่ถือว่าค่อนข้างน่าเบื่อตั้งแต่ช่วงต้นยันท้ายเกมแบบนี้
สรุปให้ว่า Terror of Hemasaurus นั้น ถือว่าเป็นเกมที่หากคิดจะหาเกมมาเล่นขำ ๆ แก้เบื่อ แก้ว่าง อยากทำลายข้าวของหรือตึกรามบ้านช่องเล่น ๆ มันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ด้วยราคาที่ถูกมาก ทำให้ทีมทำเกมอาจจะใส่คอนเทนต์เข้ามาตามราคา ซึ่งมันทำให้น่าผิดหวังไม่น้อย กับการตั้งใจออกแบบกราฟิกภายในเกมจนเป็นเอกลักษณ์ แต่เกมเพลย์กลับน่าเบื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้