ต้องบอกว่าในปีนี้ เกมม้ามืดที่ไม่ได้รับการโปรโมทมากมายอะไร แจ้งเกิดกันหลายเกมมาก และ Rumbleverse เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ในฐานะเกม Battle Royale + Brawler สุดวายป่วง เล่นง่าย แต่ยากที่จะเอาให้เก่ง แถมกระแสคนเล่นในต่างประเทศตอนนี้ก็ถือว่าเยอะ และน่าจะยังมีการอัปเดตอีกยาวไกลเลยทีเดียว แล้วเกมนี้มันเจ๋งยังไง ลองพบกับรีวิว Rumbleverse ของเรากันได้
เนื้อเรื่องไม่มี ซัดกันเอามันเข้าว่า
แม้จะเห็นว่ามันดูไม่ค่อยน่าสนใจ กราฟิกและตัวละครก็ดีไซน์ออกมาได้ไม่ดึงดูดเท่าไรนัก แต่ Rumbleverse เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 และใช้เวลาพัฒนาและขัดเกลากันอยู๋อีกราว ๆ 1 ปีครึ่งกันเลยทีเดียว กว่าที่เราจะได้เล่นกัน โดย Rumbleverse เป็นเกมแบบ Free to Play / Battle Royale ที่เน้นการต่อสู้ตะลุมบอนกันในระยะประชิด และมี Theme ของเกมเป็นแนวมวยปล้ำ ที่ตัวละครของเราจะต้องวิ่งเข้าไปใส่นัวกัน ไม่มีการใช้อาวุธปืนหรือยิงกันจากระยะไกล ทำได้ก็แค่เก็บของบางชิ้นมาขว้างปาใส่กันเท่านั้น และด้วยความที่เป็นเกมที่เน้นระบบออนไลน์มัลติเพลเยอร์เกมนี้จึงไม่มีส่วนของเนื้อเรื่องให้เราได้ติดตามกัน แต่จะโดดเด่นไปที่คอนเทนต์ต่าง ๆ ของตัวเกมที่ทำมารองรับระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบแทน
ด้วยความที่ไม่มีเนื้อเรื่องในเกมให้เล่า คอนเทนต์ของเกมจึงเน้นหนักไปทางด้านโหมดออนไลน์ และของเติมเงินและแฟชั่นเสียเป็นส่วนมาก ในเกมนี้เราจึงได้เห็นการขายของเป็นจำนวนมาก ทั้งสกิน แฟชั่นและอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงระบบยอดนิยมจำพวก Battle Pass
Battle Royale ใส่นัวของเหล่านักมวยปล้ำหลากสไตล์
Rumbleverse นำเสนอตัวเกมแบบมุมมองบุคคลที่ 3 และถูกจับโยนลงไปยังเมืองแห่งหนึ่ง ผู้เล่นต้องเอาชนะผู้เล่นคนอื่นด้วยการ Knock Out ศัตรูให้ตกรอบไปทั้งหมด และอยู๋รอดเป็นคนสุดท้ายตามกติกาแบบเกม Battle Royale ทั่วไป แต่อย่างที่บอกว่านี่คือเกมที่เน้นการต่อสู้ในระยะประชิด แต่แลกมาด้วยการคอมโบด้วยท่วงท่าการโจมตีระยะประชิดอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเตะต่อย การสับศอก รวมไปถึงสามารถป้องกันและบล็อกการป้องกันได้ แต่ก็จะมีการโจมตีบางประเภทที่ไม่สามารถบล็อกหรือป้องกันได้ด้วย
แน่นอนว่าเกม Battle Royale สิ่งที่ต้องทำคือการหาของอัปเกรดและสนับสนุนตัวละคร แต่เนื่องจากเกมนี้ไม่มีอาวุธปืนใด ๆ สิ่งที่อยู่ในเกมที่จะช่วยให้ตัวละครเราแข็งแกร่งขึ้นได้ คือนิตยสารการต่อสู้ ที่จะทำให้ตัวละครของเรามีท่าต่อสู้แบบพิเศษได้ และอีกประเภทหนึ่งก็คือน้ำยาเพิ่มพลังในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับเกมนี้จะมีน้ำยาสามสี คือแดง เขียว และเหลือง น้ำยาแต่ละประเภทจะช่วยเพิ่มพลังที่ต่างกันคือ สีแดงเพิ่มพลังโจมตี สีเขียวเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด และสีเหลืองเพิ่ม Stamina สูงสุด
เห็นคำว่า Stamina แล้ว ก็คงเกิดอาการสงสัยว่ามันมีผลอะไรยังไงกันแน่ ต้องบอกว่าด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้ Rumbleverse มีความสนุกและความพลิกแพลงที่หลากหลายและน่าสนใจกว่าเกม Battle Royale Brawler ทั่วไปมาก สำหรับเกมนี้หลอด Stamina ถือว่าเป็นหลอดที่มีความสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นเลย นอกจากจะใช้ในการกลิ้งหลบ พุ่งตัวหลบการโจมตีแล้ว มันยังใช้ในการวิ่ง หรือใช้เป็นท่าโจมตีในบางท่าได้ ซึ่งสกิลโจมตีพิเศษของเกมนี้ นอกจากจะโจมตีพลังชีวิตโดยตรงแล้ว ยังมีสกิลหรือท่าบางท่าที่โจมตีสร้างดาเมจไม่สูง แต่จะไปลด Stamina ของศัตรูมากกว่าแทน ทำให้เรามีกลยุทธ์ในการเล่นมากกว่า เพราะ Stamina นี้ ถือว่าเป็นประโยชน์กับตัวละครมาก ๆ ถ้าหมดขึ้นมา อาจจะตายได้ง่าย ๆ เลย
ท่าโจมตีต่าง ๆ ของเกมนี้ส่วนมากจะเป็นท่าโจมตีระยะประชิด ไม่ว่าจะเป็นการหมุนตัว การพุ่งเข้าชาร์จ การกระโดดต่อยหรือเตะ ทำให้เกมนี้มุ่งเน้นไปที่จังหวะและความแม่นยำมากกว่าการสแปมปุ่มรัว ๆ และบางท่าอาจจะมีการชาร์จก่อนแล้วค่อยกระโดดเข้าไปโจมตี ต้องคำนวณเวลาให้ดีก่อนเลือกออกท่าใด ๆ และที่สำคัญเลยคือ ต้องรู้ว่าท่านั้น ๆ มีแอนิเมชั่นและการทำงานอย่างไรด้วย ก่อนจะกดใช้ เพราะกดผิดชีวิตอาจเปลี่ยนเลยก็ว่าได้
และถึงแม้ว่าเกมนี้จะเน้นการต่อสู้ระยะประชิด และไม่มีอาวุธระยะไกลให้ใช้ แต่ในเกมนี้มีอาวุธระยะประชิดต่าง ๆ ให้ได้ใช้ โดยจะเป็นพวกเสาไฟ แผ่นไม้ ป้ายรถเมล์ โดยส่วนมากจะเป็นอาวุธประเภทใช้ได้ไม่กี่ก็แตกหักไป แต่ดาเมจที่ได้ถือว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ถ้าเลือกสถานการณ์ใช้ให้ถูกจังหวะก็อาจจะเป็นตัวพลิกเกมได้ และท้ายที่สุดคือเกมนี้รองรับการเล่นแบบ Solo และ Duo เท่านั้น ใครที่เพื่อนเยอะก็อาจจะต้องเซ็งกันหน่อย เพราะเล่นได้ทีละ 2 คนเท่านั้น
Easy to Learn, Hard to Master
เล่นง่าย แต่เล่นให้เก่งนั้นยาก ข้อความนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับเกม Rumbleverse นี้ ด้วยความที่เกมนี้เน้นการต่อสู้ระยะประชิด บางครั้งจึงได้อารมณ์เหมือนเกม Fighting อยู่เหมือนกัน ทุกครั้งเวลาเราต่อสู้ จำเป็นจะต้องคิดให้ดี ว่าสู้ไหวไหม เอาตัวรอดได้หรือเปล่าหลังจากชนะ หรือเสียหลักขึ้นมา จะเอาอยู่หรือไม่ ที่สำคัญคือเกมนี้ตัวละครของเราจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้และแอ็๕ชั่นของตัวละครอื่นเสมอ แทบไม่มีสิ่งที่เรียกว่า i-frame เลยในเกมนี้ (i-frame - invincibility frames สถานะอมตะเวลาเรากำลังออกแอ็คชั่นหรือท่วงท่าอะไรบางอย่าง) ดังนั้น ต่อให้เรากำลังจับศัตรูทุ่มทับจับหักอยู่อย่างเมามัน ถ้าเราโดนแจมจากคนอื่น เราก็จะได้รับความเสียหายนั้นไปด้วยแบบเต็ม ๆ ไม่มีหัก ดังนั้นการจะสู้ในเกมนี้ต้องระวังอย่างมาก ทางที่ดี เลี่ยงการต่อสู้แบบตะลุมบอนไปจะดีกว่า
และหลังจากที่ได้ลองเล่นมาหลายชั่วโมง เกมนี้เน้นไปที่ "จังหวะ" มากจนมันแทบจะไม่ต่างอะไรจากเกม Fighting เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะท่าจำพวกคว้าจับหรือพุ่งเข้าไปรัด หากใช้ผิดจังหวะขึ้นมา รับรองว่าโดนสวนจนร่วงได้ง่าย ๆ และการต่อสู้แบบ 1vs1 มักจะเกิดขึ้นบ่อยมากในเกมนี้ หากเราไม่เก่งจริง เราอาจจะตายโดยที่ไม่สามารถสร้างดาเมจให้ศัตรูได้เลยแม้แต่หน่วยเดียว ผู้เขียนผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว กว่าจะเล่นเก่งพอจนไปตบคนอื่นได้บ้าง ก็ทำเอาหัวแทบอุ่นอยู่เหมือนกัน แม้ว่านี่จะเป็นเกมที่มีฉากหลังสุดแสนจะคอเมดี้ เน้นตลกโปกฮา แต่ความตึงมือของเกมเพลย์นี่ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เล่น ๆ โดยเฉพาะกับการที่มันเป็นเกม Competitive แบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ยังไงก็ถือว่าเป็นเกมที่ท้ายฝีมือและเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขันมาก ๆ
ด้วยรายละเอียดของเกมที่ไม่ได้เยอะมากนัก แถมเล่นง่าย เข้าใจง่าย แต่จะเล่นให้เก่งนั้น ยากเย็นเอาเรื่อง Rumbleverse ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมม้ามืดนอกสายตาที่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก และพบเจอคนไทยเล่นได้ยากสักหน่อย แต่ถ้ามีโอกาส บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด นี่อาจจะเป็นอีกเกมที่ดึงคุณติดหนึบไว้ที่หน้าจอได้ทั้งวันแบบงง ๆ กันเลยทีเดียว
Rumbleverse เปิดตัวให้เล่นฟรีแล้ว และลงให้กับ PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbos Series X|S
- เล่นฟรี !
- สนุกและเข้าใจง่าย เล่นซ้ำได้เรื่อย ๆ
- คนเล่นเยอะ และรองรับ Cross Platform ตลอดเวลา
- กินสเปคเครื่องน้อยมาก
- คอนเทนต์ภายในเกมมีอะไรให้ทำเยอะ
- ฝึกให้เก่งนั้นยากมาก
- บางจังหวะเป็นเกมต่อสู้ ถ้าพลาดก็คือตายเลย แทบไม่มีโอกาสแก้ตัว
- ดีไซน์เกมอาจไม่ถูกใจทุกคน
ต้องบอกว่าในปีนี้ เกมม้ามืดที่ไม่ได้รับการโปรโมทมากมายอะไร แจ้งเกิดกันหลายเกมมาก และ Rumbleverse เองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ในฐานะเกม Battle Royale + Brawler สุดวายป่วง เล่นง่าย แต่ยากที่จะเอาให้เก่ง แถมกระแสคนเล่นในต่างประเทศตอนนี้ก็ถือว่าเยอะ และน่าจะยังมีการอัปเดตอีกยาวไกลเลยทีเดียว แล้วเกมนี้มันเจ๋งยังไง ลองพบกับรีวิว Rumbleverse ของเรากันได้
เนื้อเรื่องไม่มี ซัดกันเอามันเข้าว่า
แม้จะเห็นว่ามันดูไม่ค่อยน่าสนใจ กราฟิกและตัวละครก็ดีไซน์ออกมาได้ไม่ดึงดูดเท่าไรนัก แต่ Rumbleverse เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2020 และใช้เวลาพัฒนาและขัดเกลากันอยู๋อีกราว ๆ 1 ปีครึ่งกันเลยทีเดียว กว่าที่เราจะได้เล่นกัน โดย Rumbleverse เป็นเกมแบบ Free to Play / Battle Royale ที่เน้นการต่อสู้ตะลุมบอนกันในระยะประชิด และมี Theme ของเกมเป็นแนวมวยปล้ำ ที่ตัวละครของเราจะต้องวิ่งเข้าไปใส่นัวกัน ไม่มีการใช้อาวุธปืนหรือยิงกันจากระยะไกล ทำได้ก็แค่เก็บของบางชิ้นมาขว้างปาใส่กันเท่านั้น และด้วยความที่เป็นเกมที่เน้นระบบออนไลน์มัลติเพลเยอร์เกมนี้จึงไม่มีส่วนของเนื้อเรื่องให้เราได้ติดตามกัน แต่จะโดดเด่นไปที่คอนเทนต์ต่าง ๆ ของตัวเกมที่ทำมารองรับระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบแทน
ด้วยความที่ไม่มีเนื้อเรื่องในเกมให้เล่า คอนเทนต์ของเกมจึงเน้นหนักไปทางด้านโหมดออนไลน์ และของเติมเงินและแฟชั่นเสียเป็นส่วนมาก ในเกมนี้เราจึงได้เห็นการขายของเป็นจำนวนมาก ทั้งสกิน แฟชั่นและอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงระบบยอดนิยมจำพวก Battle Pass
Battle Royale ใส่นัวของเหล่านักมวยปล้ำหลากสไตล์
Rumbleverse นำเสนอตัวเกมแบบมุมมองบุคคลที่ 3 และถูกจับโยนลงไปยังเมืองแห่งหนึ่ง ผู้เล่นต้องเอาชนะผู้เล่นคนอื่นด้วยการ Knock Out ศัตรูให้ตกรอบไปทั้งหมด และอยู๋รอดเป็นคนสุดท้ายตามกติกาแบบเกม Battle Royale ทั่วไป แต่อย่างที่บอกว่านี่คือเกมที่เน้นการต่อสู้ในระยะประชิด แต่แลกมาด้วยการคอมโบด้วยท่วงท่าการโจมตีระยะประชิดอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเตะต่อย การสับศอก รวมไปถึงสามารถป้องกันและบล็อกการป้องกันได้ แต่ก็จะมีการโจมตีบางประเภทที่ไม่สามารถบล็อกหรือป้องกันได้ด้วย
แน่นอนว่าเกม Battle Royale สิ่งที่ต้องทำคือการหาของอัปเกรดและสนับสนุนตัวละคร แต่เนื่องจากเกมนี้ไม่มีอาวุธปืนใด ๆ สิ่งที่อยู่ในเกมที่จะช่วยให้ตัวละครเราแข็งแกร่งขึ้นได้ คือนิตยสารการต่อสู้ ที่จะทำให้ตัวละครของเรามีท่าต่อสู้แบบพิเศษได้ และอีกประเภทหนึ่งก็คือน้ำยาเพิ่มพลังในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับเกมนี้จะมีน้ำยาสามสี คือแดง เขียว และเหลือง น้ำยาแต่ละประเภทจะช่วยเพิ่มพลังที่ต่างกันคือ สีแดงเพิ่มพลังโจมตี สีเขียวเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด และสีเหลืองเพิ่ม Stamina สูงสุด
เห็นคำว่า Stamina แล้ว ก็คงเกิดอาการสงสัยว่ามันมีผลอะไรยังไงกันแน่ ต้องบอกว่าด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้ Rumbleverse มีความสนุกและความพลิกแพลงที่หลากหลายและน่าสนใจกว่าเกม Battle Royale Brawler ทั่วไปมาก สำหรับเกมนี้หลอด Stamina ถือว่าเป็นหลอดที่มีความสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นเลย นอกจากจะใช้ในการกลิ้งหลบ พุ่งตัวหลบการโจมตีแล้ว มันยังใช้ในการวิ่ง หรือใช้เป็นท่าโจมตีในบางท่าได้ ซึ่งสกิลโจมตีพิเศษของเกมนี้ นอกจากจะโจมตีพลังชีวิตโดยตรงแล้ว ยังมีสกิลหรือท่าบางท่าที่โจมตีสร้างดาเมจไม่สูง แต่จะไปลด Stamina ของศัตรูมากกว่าแทน ทำให้เรามีกลยุทธ์ในการเล่นมากกว่า เพราะ Stamina นี้ ถือว่าเป็นประโยชน์กับตัวละครมาก ๆ ถ้าหมดขึ้นมา อาจจะตายได้ง่าย ๆ เลย
ท่าโจมตีต่าง ๆ ของเกมนี้ส่วนมากจะเป็นท่าโจมตีระยะประชิด ไม่ว่าจะเป็นการหมุนตัว การพุ่งเข้าชาร์จ การกระโดดต่อยหรือเตะ ทำให้เกมนี้มุ่งเน้นไปที่จังหวะและความแม่นยำมากกว่าการสแปมปุ่มรัว ๆ และบางท่าอาจจะมีการชาร์จก่อนแล้วค่อยกระโดดเข้าไปโจมตี ต้องคำนวณเวลาให้ดีก่อนเลือกออกท่าใด ๆ และที่สำคัญเลยคือ ต้องรู้ว่าท่านั้น ๆ มีแอนิเมชั่นและการทำงานอย่างไรด้วย ก่อนจะกดใช้ เพราะกดผิดชีวิตอาจเปลี่ยนเลยก็ว่าได้
และถึงแม้ว่าเกมนี้จะเน้นการต่อสู้ระยะประชิด และไม่มีอาวุธระยะไกลให้ใช้ แต่ในเกมนี้มีอาวุธระยะประชิดต่าง ๆ ให้ได้ใช้ โดยจะเป็นพวกเสาไฟ แผ่นไม้ ป้ายรถเมล์ โดยส่วนมากจะเป็นอาวุธประเภทใช้ได้ไม่กี่ก็แตกหักไป แต่ดาเมจที่ได้ถือว่าสูงเอาเรื่องเลยทีเดียว ถ้าเลือกสถานการณ์ใช้ให้ถูกจังหวะก็อาจจะเป็นตัวพลิกเกมได้ และท้ายที่สุดคือเกมนี้รองรับการเล่นแบบ Solo และ Duo เท่านั้น ใครที่เพื่อนเยอะก็อาจจะต้องเซ็งกันหน่อย เพราะเล่นได้ทีละ 2 คนเท่านั้น
Easy to Learn, Hard to Master
เล่นง่าย แต่เล่นให้เก่งนั้นยาก ข้อความนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับเกม Rumbleverse นี้ ด้วยความที่เกมนี้เน้นการต่อสู้ระยะประชิด บางครั้งจึงได้อารมณ์เหมือนเกม Fighting อยู่เหมือนกัน ทุกครั้งเวลาเราต่อสู้ จำเป็นจะต้องคิดให้ดี ว่าสู้ไหวไหม เอาตัวรอดได้หรือเปล่าหลังจากชนะ หรือเสียหลักขึ้นมา จะเอาอยู่หรือไม่ ที่สำคัญคือเกมนี้ตัวละครของเราจะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้และแอ็๕ชั่นของตัวละครอื่นเสมอ แทบไม่มีสิ่งที่เรียกว่า i-frame เลยในเกมนี้ (i-frame - invincibility frames สถานะอมตะเวลาเรากำลังออกแอ็คชั่นหรือท่วงท่าอะไรบางอย่าง) ดังนั้น ต่อให้เรากำลังจับศัตรูทุ่มทับจับหักอยู่อย่างเมามัน ถ้าเราโดนแจมจากคนอื่น เราก็จะได้รับความเสียหายนั้นไปด้วยแบบเต็ม ๆ ไม่มีหัก ดังนั้นการจะสู้ในเกมนี้ต้องระวังอย่างมาก ทางที่ดี เลี่ยงการต่อสู้แบบตะลุมบอนไปจะดีกว่า
และหลังจากที่ได้ลองเล่นมาหลายชั่วโมง เกมนี้เน้นไปที่ "จังหวะ" มากจนมันแทบจะไม่ต่างอะไรจากเกม Fighting เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะท่าจำพวกคว้าจับหรือพุ่งเข้าไปรัด หากใช้ผิดจังหวะขึ้นมา รับรองว่าโดนสวนจนร่วงได้ง่าย ๆ และการต่อสู้แบบ 1vs1 มักจะเกิดขึ้นบ่อยมากในเกมนี้ หากเราไม่เก่งจริง เราอาจจะตายโดยที่ไม่สามารถสร้างดาเมจให้ศัตรูได้เลยแม้แต่หน่วยเดียว ผู้เขียนผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว กว่าจะเล่นเก่งพอจนไปตบคนอื่นได้บ้าง ก็ทำเอาหัวแทบอุ่นอยู่เหมือนกัน แม้ว่านี่จะเป็นเกมที่มีฉากหลังสุดแสนจะคอเมดี้ เน้นตลกโปกฮา แต่ความตึงมือของเกมเพลย์นี่ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เล่น ๆ โดยเฉพาะกับการที่มันเป็นเกม Competitive แบบนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ยังไงก็ถือว่าเป็นเกมที่ท้ายฝีมือและเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขันมาก ๆ
ด้วยรายละเอียดของเกมที่ไม่ได้เยอะมากนัก แถมเล่นง่าย เข้าใจง่าย แต่จะเล่นให้เก่งนั้น ยากเย็นเอาเรื่อง Rumbleverse ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมม้ามืดนอกสายตาที่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก และพบเจอคนไทยเล่นได้ยากสักหน่อย แต่ถ้ามีโอกาส บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด นี่อาจจะเป็นอีกเกมที่ดึงคุณติดหนึบไว้ที่หน้าจอได้ทั้งวันแบบงง ๆ กันเลยทีเดียว
Rumbleverse เปิดตัวให้เล่นฟรีแล้ว และลงให้กับ PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbos Series X|S