หากคุณชื่นชอบเกมยิงเข้าจังหวะเพลงร็อคสุดมันอย่าง BPM: Bullet Per Minute ที่เคยออกมาในปี 2020 เกมนี้จะทำให้อะดรีนาลีนคุณสูบฉีดยิ่งกว่า กับเกมยิงเข้าจังหวะเพลงเฮฟวี่เมทัลสุดเดือดตลอดทั้งเกม มันจะสนุกแค่ไหนก็ลองมาดูกันในรีวิว Metal: Hellsinger
เรื่องราวของเทพสวรรค์สาวไร้ชื่อที่ตัวเกมเรียกเธอว่า The Unknown ที่ดำดิ่งลงสู่นรกเพื่อชำระแค้นแด่เหล่าปีศาจร้าย แต่เธอกลับถูกนรกขโมย "เสียง" ของเธอไป และเธอต้องการได้มันคืน ผู้ปกครองนรกอย่าง The Judge เกรงว่าเธอจะอันตรายเกินไป จึงกักขังเธอไว้ในดินแดนลึกลับ แต่ปฏิบัติการถล่มนรกเพื่อชิงเสียงของเธอคืนจากนรกจึงเปิดฉากขึ้น คลอไปด้วยดนตรีเฮฟวี่เมทัลสุดเดือด โดยมีเป้าหมาย The Judge ผู้ปกครองนรกใต้พิภพแห่งนี้
เรื่องราวอันแสนเรียบง่าย ไร้ซึ่งที่มาที่ไป ไร้ซึ่งเหตุและผลใด ๆ สร้างเนื้อหาขึ้นมา ปูไปสู่การบู๊แบบงง ๆ เล่าต้นเหตุปลายเหตุที่ทำให้เราต้องบู๊ และระหว่างฉากก็จะมีการอธิบายว่า ตัว The Unknown กำลังจะก้าวไปเจอกับอะไร กับเกม Rhythm FPS ที่ชูจุดเด่นเป็นการยิงแหลกผสมจังหวะเพลงหนัก ๆ แบบนี้ คุณก็อาจจะโยนความสนใจในเนื้อเรื่องทิ้งไปตั้งแต่ได้ยินซาวด์แทร็คของเกมในครั้งแรกที่เข้าเกมเลยก็ได้
ด้วยเรื่องราวที่เล่าแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกครั้งที่เข้าสู่ฉากใหม่ ทำให้ผู้เล่นที่อยากจะเสพเนื้อเรื่องจริง ๆ ยังต้องแบ่งจิตสมาธิมานั่งลำดับเหตุการณ์ ใครที่เป็นแฟนเกมอยู่แล้ว อาจจะชื่นชอบกับเสียงบรรยายเนื้อเรื่อง เพราะไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Troy Baker นักพากย์เสียงที่โด่งดังมากในวงการวิดีโอเกม แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจหรือไม่รู้จัก Troy Baker ก็อาจจะไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ถือว่าเป็นเกมที่ใส่เนื้อเรื่องพอเข้ามาให้มีเหตุการณ์นำพาไปสู่การบู๊ เรียกได้ว่าทำให้มันสมเหตุสมผลจะดีกว่า
อัดแน่นไปด้วยซาวด์แทร็กสุดเดือด
โชคดีที่คุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นแฟนเพลง Heavy Metal มาก่อน ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ เพราะแต่ละเพลงในเกมนี้จะเป็นเพลงแบบ Original Metal Song หรือเป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ทั้งหมด ใครที่เป็นแฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลรับรองว่าแต่ละเพลงนั้น เด็ดมากพอจะพาให้คุณโยกหัวได้อย่างเมามันตลอดทั้งเกม และได้ศิลปินสายเมทัลมาร่วมทำเพลง ไม่ว่าจะเป็ฯ Matt Heafy, Serj และอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่คอนเทนต์ของเกมนั้นเป็นฉากใหญ่ ๆ จำนวน 7 ฉาก
ในแต่ละฉาก สิ่งที่พอจะเป็นคอนเทนต์ให้คนที่ชื่นชอบความท้าทายได้สนุกกับตัวเกมบ้างก็คือเรื่องของ Leaderboard หรือกระดานคะแนนของเรา ที่จะถูกนำไปเทียบกับผู้เล่นอื่นทั่วโลกในตอนท้าย นอกนั้นระบบออนไลน์ของเกมก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก ทำให้โดยรวมแล้วเกมนี้ถูกออกแบบมาเป็นเกมเนื้อเรื่องแบบเส้นตรงมากกว่า ใครที่ชื่นชอบเพลงเฮฟวี่เมทัลแบบเดือด ๆ ก็อาจจะได้ฟังเพลงมัน ๆ เป็นของแถม
แต่เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ก่อนคิดจะเล่นเกมนี้ มันไม่ใช่เกมง่ายสักเท่าไรนัก ด้วยความที่เป็นเกมยิงแบบเข้าจังหวะ แมตัวอย่างและเกมเพลย์จะเหมือนกับการเล่นเกมอย่าง Doom แต่ตอนเล่นจริง คุณอาจจะเผลอโฟกัสจนเกร็ง และเหนื่อยอย่างมากในการเล่นเกมนี้
ไม่แน่ใจว่า มันส์ หรือหัวร้อน !
หากใครไม่เคยเล่นเกมแนว Rhythm FPS มาก่อนนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า นี่ไม่ใช่เกมเดินหน้ายิงแหลกเอามันทั่วไป แต่เป็นเกมที่คุณจะต้องคลิกยิงให้เข้ากับจังหวะดนตรีในเกม และไม่ใช่แค่การคลิกยิงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด การแดช การพุ่งตัว การ Finish Move ทุกอย่างล้วนอิงจากจังหวะดนตรีที่อยู่ภายในเกมทั้งสิ้น เราถึงได้บอกคุณแต่แรกว่า หากเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเพลงแนวเฮฟวี่เมทัลเลย อาจจะไม่เหมาะกับเกมนี้ก็ได้
นอกจากด่านที่ต่างกันจะทำให้ดนตรีและบีท (BPM) ต่างกันแล้ว อาวุธแต่ละชนิดจะมีอนิเมชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นปืนลูกซอง ที่ยิงแล้วต้องเว้น 1 จังหวะ ถึงยิงใหม่ได้ ส่วนการรีโหลดก็อาจจะต้องใช้ 2 จังหวะ หรือปืนคู่ ที่ยิงได้ต่อเนื่องกว่า แต่ก็ต้องมีความแม่นยำในการกดตามจังหวะที่มากกว่าด้วย อาวุธใหม่ ๆ ในเกมนี้จะปลดล็อคก็ต่อเมื่อเราเล่นไปยังด่านใหม่ ๆ และทุกครั้งที่ได้อาวุธใหม่ เราจึงแนะนำให้ยืนอยู่เฉย ๆ กดตามจังหวะดนตรี เพื่อให้รู้ก่อนว่าอาวุธแต่ละชนิดมีรูปแบบการโจมตีอย่างไร
สำหรับจุดประสงค์ในเกมนี้ ก็แล้วแต่ผู้เล่นเลยว่า จะเล่นเอาผ่าน หรือเล่นเอาอันดับ แข่งขันกับคนอื่น ถ้าคุณคิดจะเล่นเอาอันดับแข่งขันกับคนอื่น ก็อาจจะต้องใช้เวลากันมากหน่อย เพราะเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย ในการเล่นครั้งแรก หรือแค่ด่านแรกก็งงจนปวดหัว ตาลายกันไปหมด กับการยิงคร่อมจังหวะ แต่ถ้าคุณคิดจะเล่นแค่ให้มันจบเกม ก็ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก
การได้มาซึ่งคะแนนนั้น ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงกดยิงแบบถูกจังหวะหรือ Perfect ผสมผสานไปกับการสังหารศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเลยคือ ห้ามโดนศัตรูโจมตี เราต้องอธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่า เกมนี้มีคะแนนตัวคูณอยู๋ 2 อย่าง อย่าง คือ Rhythm Streak ซึ่งจะได้จากการกดยิงให้ถูกจังหวะ ไม่ว่าจะ Bad Good Perfect ได้หมด แต่ที่สำคัญกว่าคือ Hit Streak - เจ้า Hit Streak นี้ จะได้มาก็ต่อเมื่อผู้เล่นยิงกำจัดศัตรูได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่โดนโจมตีเลย ยิ่งทำได้มากเท่าไร ตัวคูณคะแนนก็ยิ่งสูงเท่านั้น
ซึ่งความยากมันอยู่ตรงนี้ ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องเจอทั้งการโจมตีจากศัตรู การรักษาการโจมตีให้ถูกจังหวะ (หรือ Perfect) หลบหลีกศัตรู และต้องระวังตกเหว หรือตกฉากด้วย บอกได้เลยว่า เกมนี้จะงัดเอาทุกสกิลที่จะทำให้คุณต้อง Multitasking หรือทำอะไรหลายอย่างมาใช้ ใครที่ไหวก็ไหว และจะสนุกไปกับเกมมาก แต่ถ้าใครที่สมอง Process อะไรหลาย ๆ อย่างไม่ค่อยทัน รับรองว่าไม่นานก็หัวร้อน หรือเบื่อไปซะก่อน เพราะมันจะไม่สนุกเอาซะเลย
ข้อเสียอีกอย่างสำหรับผู้เขียนโดยเฉพาะ คือเกมนี้ บางเพลง บาง Track ที่นำมาใช้ในการประกอบเกม และใช้ในการยิงเข้าจังหวะ มันดูไม่ค่อยเข้ากับอาวุธใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทำให้การเล่น ยากขึ้นโดยไม่จำเป็น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมบางเพลงถึงออกมาฟังยาก แถมทำให้จับจังหวะตามได้ยากขนาดนี้ ยิ่งเป็นการสู้กับบอสไฟท์ที่บางทีก็ฬส่ความเป็น Bullet Hell สาดกระสุนเข้ามาเต็มจอ ยิ่งทำให้เราต้องใช้พลังงานในการเล่นสูงขึ้นมาก จนบางครั้งยังอาจรู้สึกว่ามันยากกว่าเกมอย่างตระกูล Souls-Like ด้วยซ้ำ
Metal: Hellsinger เป็นเกม Rhythm FPS ที่ดุเดือด มันส์ และจัดหนักกับเพลงเฮฟวี่เมทัลได้ดีมาก ข้อเสียของมันคือความยาก และเข้าถึงยาก เหมือนกับทำมาเน้นขายเพลงเฮฟวี่เมทัล ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นเพลงเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว แต่ตัวเกมเองก็ยังยากด้วยตัวมันเองอยู่ด้วย คำแนะนำสำหรับคนที่อยากลองจริง ๆ คือให้เลือกเล่นระดับง่ายที่สุดไปเลย เพื่อทำความเข้าใจระบบเกม ทำความเข้าใจกับการจับจังหวะ และสนุกไปกับการเล่นเกมได้ จากนั้นถ้าจะไปแข่งขันกับใครบนตารางคะแนนค่อยว่ากันในการเล่นรอบสอง หรือรอบถุัด ๆ ไป
คำเดือน สำหรับคนที่จะเล่นเกมนี้
อันนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์จากตัวผู้เขียนเอง ด้วยความที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน และพอได้ลองจับดู อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้นั้น ใช้ความสามารถในการ Multitasking ทั้งสายตาที่จ้องมองเคอร์เซอร์ หูทื่ฟังดนตรี และประสาทสัมผัสต่าง ๆ ที่ต้องทำงานพร้อม ๆ กัน รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองเกร็งตอนเล่นไปไม่ใช่น้อย และทำให้ร่างกายอ่อนล้ามาก ๆ แถมความยาวต่อด่านในการเล่นเกมนี้ก็ไม่ใช่สั้น ๆ กว่าจะจบแต่ละด่านก็ใช้เวลา 15-16 นาทีขึ้นไป การเกร็งร่างกายนานขนาดนั้น อาจส่งผลกระทบในระดับหนึ่ง
เรื่องของสเปคเครื่องอาจไม่ใช่ปัญหา และการ Optimize ก็ถือว่าทำออกมาดีมาก ๆ ใครที่เครื่องสเปคถึงอยู่แล้ว สามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล ไร้จุดบกพร่อง อาการเฟรมเรทตกก็แทบไม่มีให้เห็น ในด้าน Optimize นั้นถือว่าสอบผ่าน แต่เราก็คงต้องย้ำกันอีกครั้งในเรื่องของการเล่นเกมนี้ พยายามเช็คสภาพร่างกายตัวเองในช่วงเล่น เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบมากกว่าที่คุณคิดไว้
Metal: Hellsinger ถือเป็นอีกหนึ่งเกม Rhythm FPS ที่จัดว่าเดือด สนุก แต่ความยากของมันก็มีอยู่ และถ้าคุณไม่ใช่แฟนเพลงแนวเฮฟวี่เมทัลแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นเกมที่คุณสามารถมองข้ามไปได้โดยไม่ต้องรู้สึกอะไรมากนักก็ได้ หรือใครที่เป็นสมาชิก Xbox Game Pass สามารถลองเล่นกันได้ฟรี ๆ เช่นกัน
- เพลงเฮฟวี่เมทัลแบบออริจินอลเดือด ๆ จำนวนมาก
- กราฟิกสวยงาม โทนสีโดดเด่น เห็นแล้วจำได้เลยว่ามาจากเกมนี้
- Combat Movement ไม่ว่าจะเรื่องยิงและการเคลื่อนไหว อยู่ในระดับดี
- Troy Baker ให้เสียงบรรยายคัทซีนได้น่าติดตาม
- ไม่ใช่เกมง่าย
- ไม่เหมาะกับคนที่สมองประมวลอะไรหลาย ๆ อย่างได้ไม่พร้อมกัน
- ถ้าไม่ชอบเพลงเฮฟวี่เมทัลเดือด ๆ ข้ามเลยก็ได้
หากคุณชื่นชอบเกมยิงเข้าจังหวะเพลงร็อคสุดมันอย่าง BPM: Bullet Per Minute ที่เคยออกมาในปี 2020 เกมนี้จะทำให้อะดรีนาลีนคุณสูบฉีดยิ่งกว่า กับเกมยิงเข้าจังหวะเพลงเฮฟวี่เมทัลสุดเดือดตลอดทั้งเกม มันจะสนุกแค่ไหนก็ลองมาดูกันในรีวิว Metal: Hellsinger
เรื่องราวของเทพสวรรค์สาวไร้ชื่อที่ตัวเกมเรียกเธอว่า The Unknown ที่ดำดิ่งลงสู่นรกเพื่อชำระแค้นแด่เหล่าปีศาจร้าย แต่เธอกลับถูกนรกขโมย "เสียง" ของเธอไป และเธอต้องการได้มันคืน ผู้ปกครองนรกอย่าง The Judge เกรงว่าเธอจะอันตรายเกินไป จึงกักขังเธอไว้ในดินแดนลึกลับ แต่ปฏิบัติการถล่มนรกเพื่อชิงเสียงของเธอคืนจากนรกจึงเปิดฉากขึ้น คลอไปด้วยดนตรีเฮฟวี่เมทัลสุดเดือด โดยมีเป้าหมาย The Judge ผู้ปกครองนรกใต้พิภพแห่งนี้
เรื่องราวอันแสนเรียบง่าย ไร้ซึ่งที่มาที่ไป ไร้ซึ่งเหตุและผลใด ๆ สร้างเนื้อหาขึ้นมา ปูไปสู่การบู๊แบบงง ๆ เล่าต้นเหตุปลายเหตุที่ทำให้เราต้องบู๊ และระหว่างฉากก็จะมีการอธิบายว่า ตัว The Unknown กำลังจะก้าวไปเจอกับอะไร กับเกม Rhythm FPS ที่ชูจุดเด่นเป็นการยิงแหลกผสมจังหวะเพลงหนัก ๆ แบบนี้ คุณก็อาจจะโยนความสนใจในเนื้อเรื่องทิ้งไปตั้งแต่ได้ยินซาวด์แทร็คของเกมในครั้งแรกที่เข้าเกมเลยก็ได้
ด้วยเรื่องราวที่เล่าแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกครั้งที่เข้าสู่ฉากใหม่ ทำให้ผู้เล่นที่อยากจะเสพเนื้อเรื่องจริง ๆ ยังต้องแบ่งจิตสมาธิมานั่งลำดับเหตุการณ์ ใครที่เป็นแฟนเกมอยู่แล้ว อาจจะชื่นชอบกับเสียงบรรยายเนื้อเรื่อง เพราะไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Troy Baker นักพากย์เสียงที่โด่งดังมากในวงการวิดีโอเกม แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจหรือไม่รู้จัก Troy Baker ก็อาจจะไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ถือว่าเป็นเกมที่ใส่เนื้อเรื่องพอเข้ามาให้มีเหตุการณ์นำพาไปสู่การบู๊ เรียกได้ว่าทำให้มันสมเหตุสมผลจะดีกว่า
อัดแน่นไปด้วยซาวด์แทร็กสุดเดือด
โชคดีที่คุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นแฟนเพลง Heavy Metal มาก่อน ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ เพราะแต่ละเพลงในเกมนี้จะเป็นเพลงแบบ Original Metal Song หรือเป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ทั้งหมด ใครที่เป็นแฟนเพลงเฮฟวี่เมทัลรับรองว่าแต่ละเพลงนั้น เด็ดมากพอจะพาให้คุณโยกหัวได้อย่างเมามันตลอดทั้งเกม และได้ศิลปินสายเมทัลมาร่วมทำเพลง ไม่ว่าจะเป็ฯ Matt Heafy, Serj และอื่น ๆ อีกมากมาย ในขณะที่คอนเทนต์ของเกมนั้นเป็นฉากใหญ่ ๆ จำนวน 7 ฉาก
ในแต่ละฉาก สิ่งที่พอจะเป็นคอนเทนต์ให้คนที่ชื่นชอบความท้าทายได้สนุกกับตัวเกมบ้างก็คือเรื่องของ Leaderboard หรือกระดานคะแนนของเรา ที่จะถูกนำไปเทียบกับผู้เล่นอื่นทั่วโลกในตอนท้าย นอกนั้นระบบออนไลน์ของเกมก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก ทำให้โดยรวมแล้วเกมนี้ถูกออกแบบมาเป็นเกมเนื้อเรื่องแบบเส้นตรงมากกว่า ใครที่ชื่นชอบเพลงเฮฟวี่เมทัลแบบเดือด ๆ ก็อาจจะได้ฟังเพลงมัน ๆ เป็นของแถม
แต่เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ก่อนคิดจะเล่นเกมนี้ มันไม่ใช่เกมง่ายสักเท่าไรนัก ด้วยความที่เป็นเกมยิงแบบเข้าจังหวะ แมตัวอย่างและเกมเพลย์จะเหมือนกับการเล่นเกมอย่าง Doom แต่ตอนเล่นจริง คุณอาจจะเผลอโฟกัสจนเกร็ง และเหนื่อยอย่างมากในการเล่นเกมนี้
ไม่แน่ใจว่า มันส์ หรือหัวร้อน !
หากใครไม่เคยเล่นเกมแนว Rhythm FPS มาก่อนนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า นี่ไม่ใช่เกมเดินหน้ายิงแหลกเอามันทั่วไป แต่เป็นเกมที่คุณจะต้องคลิกยิงให้เข้ากับจังหวะดนตรีในเกม และไม่ใช่แค่การคลิกยิงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด การแดช การพุ่งตัว การ Finish Move ทุกอย่างล้วนอิงจากจังหวะดนตรีที่อยู่ภายในเกมทั้งสิ้น เราถึงได้บอกคุณแต่แรกว่า หากเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเพลงแนวเฮฟวี่เมทัลเลย อาจจะไม่เหมาะกับเกมนี้ก็ได้
นอกจากด่านที่ต่างกันจะทำให้ดนตรีและบีท (BPM) ต่างกันแล้ว อาวุธแต่ละชนิดจะมีอนิเมชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นปืนลูกซอง ที่ยิงแล้วต้องเว้น 1 จังหวะ ถึงยิงใหม่ได้ ส่วนการรีโหลดก็อาจจะต้องใช้ 2 จังหวะ หรือปืนคู่ ที่ยิงได้ต่อเนื่องกว่า แต่ก็ต้องมีความแม่นยำในการกดตามจังหวะที่มากกว่าด้วย อาวุธใหม่ ๆ ในเกมนี้จะปลดล็อคก็ต่อเมื่อเราเล่นไปยังด่านใหม่ ๆ และทุกครั้งที่ได้อาวุธใหม่ เราจึงแนะนำให้ยืนอยู่เฉย ๆ กดตามจังหวะดนตรี เพื่อให้รู้ก่อนว่าอาวุธแต่ละชนิดมีรูปแบบการโจมตีอย่างไร
สำหรับจุดประสงค์ในเกมนี้ ก็แล้วแต่ผู้เล่นเลยว่า จะเล่นเอาผ่าน หรือเล่นเอาอันดับ แข่งขันกับคนอื่น ถ้าคุณคิดจะเล่นเอาอันดับแข่งขันกับคนอื่น ก็อาจจะต้องใช้เวลากันมากหน่อย เพราะเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย ในการเล่นครั้งแรก หรือแค่ด่านแรกก็งงจนปวดหัว ตาลายกันไปหมด กับการยิงคร่อมจังหวะ แต่ถ้าคุณคิดจะเล่นแค่ให้มันจบเกม ก็ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก
การได้มาซึ่งคะแนนนั้น ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงกดยิงแบบถูกจังหวะหรือ Perfect ผสมผสานไปกับการสังหารศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเลยคือ ห้ามโดนศัตรูโจมตี เราต้องอธิบายให้เข้าใจกันก่อนว่า เกมนี้มีคะแนนตัวคูณอยู๋ 2 อย่าง อย่าง คือ Rhythm Streak ซึ่งจะได้จากการกดยิงให้ถูกจังหวะ ไม่ว่าจะ Bad Good Perfect ได้หมด แต่ที่สำคัญกว่าคือ Hit Streak - เจ้า Hit Streak นี้ จะได้มาก็ต่อเมื่อผู้เล่นยิงกำจัดศัตรูได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่โดนโจมตีเลย ยิ่งทำได้มากเท่าไร ตัวคูณคะแนนก็ยิ่งสูงเท่านั้น
ซึ่งความยากมันอยู่ตรงนี้ ภายในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องเจอทั้งการโจมตีจากศัตรู การรักษาการโจมตีให้ถูกจังหวะ (หรือ Perfect) หลบหลีกศัตรู และต้องระวังตกเหว หรือตกฉากด้วย บอกได้เลยว่า เกมนี้จะงัดเอาทุกสกิลที่จะทำให้คุณต้อง Multitasking หรือทำอะไรหลายอย่างมาใช้ ใครที่ไหวก็ไหว และจะสนุกไปกับเกมมาก แต่ถ้าใครที่สมอง Process อะไรหลาย ๆ อย่างไม่ค่อยทัน รับรองว่าไม่นานก็หัวร้อน หรือเบื่อไปซะก่อน เพราะมันจะไม่สนุกเอาซะเลย
ข้อเสียอีกอย่างสำหรับผู้เขียนโดยเฉพาะ คือเกมนี้ บางเพลง บาง Track ที่นำมาใช้ในการประกอบเกม และใช้ในการยิงเข้าจังหวะ มันดูไม่ค่อยเข้ากับอาวุธใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ทำให้การเล่น ยากขึ้นโดยไม่จำเป็น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมบางเพลงถึงออกมาฟังยาก แถมทำให้จับจังหวะตามได้ยากขนาดนี้ ยิ่งเป็นการสู้กับบอสไฟท์ที่บางทีก็ฬส่ความเป็น Bullet Hell สาดกระสุนเข้ามาเต็มจอ ยิ่งทำให้เราต้องใช้พลังงานในการเล่นสูงขึ้นมาก จนบางครั้งยังอาจรู้สึกว่ามันยากกว่าเกมอย่างตระกูล Souls-Like ด้วยซ้ำ
Metal: Hellsinger เป็นเกม Rhythm FPS ที่ดุเดือด มันส์ และจัดหนักกับเพลงเฮฟวี่เมทัลได้ดีมาก ข้อเสียของมันคือความยาก และเข้าถึงยาก เหมือนกับทำมาเน้นขายเพลงเฮฟวี่เมทัล ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นเพลงเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว แต่ตัวเกมเองก็ยังยากด้วยตัวมันเองอยู่ด้วย คำแนะนำสำหรับคนที่อยากลองจริง ๆ คือให้เลือกเล่นระดับง่ายที่สุดไปเลย เพื่อทำความเข้าใจระบบเกม ทำความเข้าใจกับการจับจังหวะ และสนุกไปกับการเล่นเกมได้ จากนั้นถ้าจะไปแข่งขันกับใครบนตารางคะแนนค่อยว่ากันในการเล่นรอบสอง หรือรอบถุัด ๆ ไป
คำเดือน สำหรับคนที่จะเล่นเกมนี้
อันนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์จากตัวผู้เขียนเอง ด้วยความที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน และพอได้ลองจับดู อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้นั้น ใช้ความสามารถในการ Multitasking ทั้งสายตาที่จ้องมองเคอร์เซอร์ หูทื่ฟังดนตรี และประสาทสัมผัสต่าง ๆ ที่ต้องทำงานพร้อม ๆ กัน รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองเกร็งตอนเล่นไปไม่ใช่น้อย และทำให้ร่างกายอ่อนล้ามาก ๆ แถมความยาวต่อด่านในการเล่นเกมนี้ก็ไม่ใช่สั้น ๆ กว่าจะจบแต่ละด่านก็ใช้เวลา 15-16 นาทีขึ้นไป การเกร็งร่างกายนานขนาดนั้น อาจส่งผลกระทบในระดับหนึ่ง
เรื่องของสเปคเครื่องอาจไม่ใช่ปัญหา และการ Optimize ก็ถือว่าทำออกมาดีมาก ๆ ใครที่เครื่องสเปคถึงอยู่แล้ว สามารถรันเกมได้อย่างลื่นไหล ไร้จุดบกพร่อง อาการเฟรมเรทตกก็แทบไม่มีให้เห็น ในด้าน Optimize นั้นถือว่าสอบผ่าน แต่เราก็คงต้องย้ำกันอีกครั้งในเรื่องของการเล่นเกมนี้ พยายามเช็คสภาพร่างกายตัวเองในช่วงเล่น เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบมากกว่าที่คุณคิดไว้
Metal: Hellsinger ถือเป็นอีกหนึ่งเกม Rhythm FPS ที่จัดว่าเดือด สนุก แต่ความยากของมันก็มีอยู่ และถ้าคุณไม่ใช่แฟนเพลงแนวเฮฟวี่เมทัลแล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นเกมที่คุณสามารถมองข้ามไปได้โดยไม่ต้องรู้สึกอะไรมากนักก็ได้ หรือใครที่เป็นสมาชิก Xbox Game Pass สามารถลองเล่นกันได้ฟรี ๆ เช่นกัน