GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Digimon Survive "เนื้อเรื่องดี แต่เกมเพลย์ไม่มีก็ไม่ได้ป๊ะ?!"
ลงวันที่ 03/08/2022

ปีกกางเหินไปไม่มีวันแผ่วปลาย.. เชื่อเหลือเกินว่า ในวัยเด็กของเหล่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ต้องเคยได้ยินหรือได้ชมแอนิเมชั่นชื่อดังก้องโลก ที่ยังคงเป็นอมตะอยู่จนทุกวันนี้ นั่นคือ Digimon Adventure และหลังจากที่ประกาศเปิดตัว แถมเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมานานหลายปี เกม Digimon ภาคใหม่ อย่าง Digimon Survive ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ดิจิมอนในภาคนี้จะออกมาเป็นยังไง จะทำให้เราหวนระลึกถึงวัยเด็กที่ปีกรักยังโบยบินได้หรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความรีวิวของเรากัน

เรื่องราวของเด็กผู้ถูกเลือก กลุ่มใหม่


สำหรับแฟน ๆ ดิจิมอน น่าจะรู้กันดีว่า นอกจากอนิเมะภาค 1 และ 2 นั้น แต่ละภาคแทบจะไม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน แน่นอนว่า Digimon Survive เอง ก็เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้ถูกเลือกกลุ่มใหม่ด้วย แม้ว่าเราจะได้เห็นหน้าตาของเหล่าดิจิมอนที่เราคุ้นเคยกันอย่างอากุมอน กิลล์มอน ก็ตาม แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องก็จะแตกต่างกันจากต้นฉบับที่เรารู้จักกันดี 

เรื่องราวของเกมภาคนี้จะเล่าถึงเด็ก ๆ ทั้ง 8 คน ที่มาเข้าค่ายกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ และในวันที่ 2 ของการเข้าค่าย สามตัวละครเอกก็ได้ไปหาข้อมูลของตำนานเทพอสูร (Beast Gods หรือ Kemonogami) แต่ในขณะออกสำรวจ และเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ป่า พวกเขาก็เจอกับโคโรมอน และพวกเด็ก ๆ ก็ถูกดิจิมอนตัวอื่นโจมตี และกว่าพวกเด็ก ๆ จะรู้ตัวว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่ ไม่ใช่โลกมนุษย์ใบเดิมที่พวกเขารู้จักก็สายไปซะแล้ว เพราะตอนนี้พวกเขาอาจจะอยู่ในโลกที่เรียกว่า ดิจิทัลเวิลด์

ถ้าไม่ชอบอ่าน โปรดผ่านเกมนี้


อย่างแรกที่เราต้องเตือนกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยคือ นี่อาจไม่ใช่เกมดิจิมอนที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะแฟนเกม แฟนดิจิมอนที่คิดว่าจะได้เล่นเกมดิจิมอนแบบต่อสู้เอามัน เพราะการเล่าเรื่องของเกมนี้ค่อนข้างวัดใจคนเล่นมาก ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ การเล่าเรื่องของเกมนี้จะเหมือนกับเกมแนว Visual Novel ที่เราต้องเน้นอ่าน และพยายามไม่กดข้าม เพราะมักจะมีรายละเอียดปลีกย่อยซ่อนอยู่ในบทสนทนาเสมอ และมันจะถูกนำไปใช้กับระบบการเลือกตัวเลือกเพื่อตัดสินใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วย และเอาแค่ช่วงแรกของเกม เราก็ต้องทนอ่านเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเยอะมาก ใครที่ตบะไม่แก่กล้าพอ อาจจะถอดใจเลิกเล่นไปก่อนเลยตั้งแต่ช่วงแรก ดังนั้นเกมนี้เราต้องไม่ขี้เกียจอ่าน ไม่งั้นก็จบกันตั้งแต่ส่วนนี้ สิ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ คือฉากการสนทนาและกราฟิกภายในเกมที่เหมือนเรากำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่แค่ภาพสวยมันไม่อาจช่วยทดแทนความน่าเบื่อของการมานั่งอ่าน Text ได้เลย และภาษาที่ใช้ในเกมก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางสูง ถ้าคิดจะ Skip แหลกลาญแล้ว ยังไงก็ไม่คุ้มค่า และถ้าไม่ละเอียด ตอบไม่ดี ขอบอกว่ามันอาจส่งผลกับชะตากรรมชีวิตของเด็ก ๆ กลุ่มนี้เลยก็ว่าได้ 


อย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่ชื่นชอบในการนั่งอ่าน นั่งเสพเนื้อเรื่อง Digimon Survive ถือว่าเป็นภาคที่มีเนื้อหาค่อนข้างมืดหม่นกว่าเกมภาคก่อนหน้าอยู่พอสมควร เหมาะกับแฟน ๆ ดิจิมอนยุคใหม่หรือโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หรือใครอยากสัมผัสรสชาติที่แปลกใหม่ที่ซีรีส์ดิจิมอนจะนำเสนอให้คุณได้ ก็ลองดูได้ไม่เสียหาย นอกจากนั้น คาแรคเตอร์ของเหล่าเด็ก ๆ ในภาคนี้ ก็ยังให้อารมณ์คล้าย ๆ กับดิจิมอนทุกภาค คือแต่ละคนจะมาพร้อมลักษณะนิสัยส่วนตัวที่ชัดเจน ซึ่งก็อาจจะน่ารำคาญหรือน่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ได้ชื่นชอบสไตล์ตัวละครแบบอนิเมะไปเลยเช่นนี้

สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเกมนั้นมีการโปรโมทมาแต่แรกแล้วว่า จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องแบบ Visual Novel ประมาณ 70% และมีระบบการต่อสู้เพียง 30% เท่านั้น แฟน ๆ หลายคนที่ซื้อเพราะเห็นว่าเป็นดิจิมอน อาจจะไม่ได้สนใจหรือมองข้ามตรงนี้ไป ดังนั้นเราอาจจะต้องย้ำเตือนกันอีกหน ว่าหลัก ๆ แล้วนี่คือเกมแนว Visual Novel เน้นอ่านซะมากกว่า ซึ่งตัวเกมได้รับการรีวิวบอมบ์บนเว็บ Metacritic ไปว่า มันคือการโปรโมทหลอกลวงผู้บริโภค เพราะช่วงแรก ทาง BANDAI Namco โปรโมทว่าเกมจะเป็นเกมแนวเอาชีวิตรอด ในขณะที่โปรดิวเซอร์เกมบอกว่ามันจะเป็นแบบ Interactive ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคืออย่างหลังนั่นเอง


และภาพรวมของเนื้อเรื่องเอง ถ้าใครที่อ่านอังกฤษออกแบบไม่ต้องเปิดแปลไปด้วย ก็จะรู้สึกได้ว่านี่คือเนื้อหาที่แฟน ๆ ดิจิมอนจะต้องชื่นชอบ มันเหมือนกับการเอาดิจิมอนภาคแรกมาทำการตีความใหม่ เล่าเรื่องใหม่ ทั้งการออกแบบตัวละครที่มองปุ๊บก็พอจะเดาออกได้เลยว่ามันคือตัวแทนของใครในภาคก่อนหน้า ทั้งบุคลิกภาพ นิสัย และการดีไซน์ตัวละคร ถ้าจะบอกว่านี่คือดิจิมอนภาคแรก Reboot หลาย ๆ คนก็อาจจะเชื่อด้วยซ้ำไป เพียงแต่ในเหตุการณ์ของเกมภาคนี้ Digital World ดูเป็นสิ่งลี้ลับที่ไม่มีใครรู้จัก หรือดิจิมอนคืออะไรก็ไม่มีใครทราบได้ บวกกับดนตรีประกอบที่ทำออกมาในแนวลี้ลับพิศวง ก็ไม่แปลกถ้าบางครั้งเราจะรู้สึกว่ากำลังเล่นเกมแนว Visual Novel แนวสยองขวัญอยู่ ไม่ใช่เกมดิจิมอน


ข้อเสียหลัก ๆ ของการนำเสนอแบบ Visual Novel คือ การถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ไม่ดีในบางสถานการณ์ เช่น ในเนื้อเรื่องเราอาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง แต่เกมไม่ได้มีแอนิเมชั่นหวือหวาอะไร เป็นเพียงการตัดสลับภาพไปมา ขึ้นบทสนทนา และเสียงกรีดร้องเท่านัน้ อารมณ์ร่วมหายไปเยอะเลยทีเดียว และฉากแบบนี้ก็มีให้เห็นเยอะซะด้วยในเกมแนวนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแฟนเดนตายของเหล่าดิจิมอนที่ชื่นชอบภาคแรก ผู้เขียนยังคงแนะนำว่า หาโอกาสลองด้วยตัวเองเลยจะดีกว่า

เกมเพลย์การเล่นแบบ RPG Old School ผสมเข้ากับ 'การเลือก' ที่อาจตัดสินชะตากรรมตัวละครและเนื้อเรื่อง


สำหรับเกมเพลย์การเล่นของ Digimon Survive นั้น ผู้เขียนมองว่ามันแบ่งออกเป็นสองอย่างหลัก ๆ คือเรื่องราวของการเลือก และการต่อสู้ ทำไมการเลือกจึงสำคัญ? เพราะเกมนี้ทางผู้พัฒนาได้โปรโมทไว้ด้วยตัวเองเลยว่า เลือกไม่ดี มีตายแน่นอน แต่กว่าจะได้รู้ว่าเอฟเฟคท์การเลือกจะส่งผลอย่างไร ผู้เล่นอาจจะต้องเล่นซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้อยากให้ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งตายอยู่แล้ว หัวใจสำคัญของการเลือกเลยคือ การประคับประคองความสัมพันธ์กับทุก ๆ ตัวละคร ไม่ใส่ใจใครมากไป ทำได้ แต่อย่าเยอะเกิน ไม่เช่นนั้นจะเกิดแนวทางใหม่ ๆ ของความสัมพันธ์ในกลุ่มได้ ซึ่งการที่ผู้เล่นจะเลือกให้ดีนั้น ก็จำเป็นจะต้องอ่านกันแบบหนัก ๆ เพื่อจะหาทางออกที่ดีที่สุดในกับตัวละครทุกคน และอย่างที่บอก ว่าเกมนี้คือ Visual Novel ถ้าคุณอ่านข้าม ไม่อ่านเลย ยังไงก็ไม่สนุกกับเกมนี้ โดยสถานการณ์ที่เราจะต้องเลือก จะถูกใส่เข้ามาเรื่อย ๆ ในระหว่างการเล่น และการเลือกทุกครั้งเราก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ด้วย สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาการเลือกคือ สายสัมพันธ์ตัยวละคร ความพึงพอใจ ความสุข ความกลัว ซึ่งจะส่งผลกับเส้นเรื่องเมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ


ทีนี้มาดูกันในส่วนของเกมเพลย์การเล่นในรูปแบบการต่อสู้กันบ้าง อย่างที่บอกไปในหัวข้อด้านบน ว่าเกมเพลย์ของ Digimon Survive นี้จะไม่ค่อยได้เน้นการต่อสู้สักเท่าไร ใน 1 ฉากเนื้อเรื่องใหญ่ ๆ จะเป็นการพูดคุย กับการเลือกชอยส์ไปแล้ว 70% อีก 30% (หรือส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าอาจจะน้อยกว่านั้น) ถึงจะเป็นการเข้าช่วงการต่อสู้ แต่.. ระบบเกมเพลย์การต่อสู้ก็ยังเป็นระบบที่วัยรุ่นใจร้อนหลายคนอาจไม่เอ็นจอยด้วยเช่นกัน นั่นคือระบบการต่อสู้แบบ Turn Based หรือการออกคำสั่ง ผลัดตากันควบคุมตัวละคร ที่ยิ่งทำให้เกมเพลย์ช้าลงไปอีก

การต่อสู้ในแต่ละรอบจะเป็นการออกคำสั่งให้ดิจิมอนของเรา โดยเลือกว่าจะทำอะไรในเทิร์นนั้น ๆ เช่นสั่งเคลื่อนที่ หรือสั่งโจมตี แต่..ประเด็นก็คือตัวเกมมันดันเป็น RPG ยุคเก๋าแบบแท้ ๆ ไม่มีอะไรผสม ทำให้หลายคนอาจจะแยกไม่ออก ว่ามันคลาสสิคหรือมักง่ายทำมาลวก ๆ กันแน่ ระบบต่าง ๆ ของเกมนี้ ใครที่เคยเล่นเกม JRPG ยุคเก่า ๆ ที่มีความซับซ้อน มาเจอเกมนี้จะง่ายไปในทันที หลัก ๆ แล้วจะมีการสลับทิศทางของตัวละคร เพื่อเลือกทางในการโจมตี มีการคำนวณเล็กน้อยว่าสกิลของเรา กว้างกี่ช่อง ใช้เอฟเฟคท์เท่าไร ใช้ SP เท่าไร มีการขึ้นที่ต่ำที่สูง เพื่อเพิ่มโอกาสการโจมตีและความแม่นยำในการโจมตีด้วย แต่ท้ายที่สุดตัวเกมมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นด้วย เพราะระบบของเกมนี้มันไม่ค่อยมีความซับซ้อนอะไรเลย ดิจิมอนที่นำออกมาต่อสู้จะได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ เก็บเลเวล ทำให้ดิจิมอนตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้น สวมใส่อุปกรณ์ใหม่ ๆ ได้ นำไปฝึกได้ และแน่นอน เมื่อเลเวลถึงก็จะสามารถอีโวลูชั่นเปลี่ยนร่างได้อีกต่างหาก โดยดิจิมอนบางตัวก็อีโวลูชั่นได้หลายร่างมาก อย่างเช่นอากุม่อนของเราตอนเริ่มเกมก็ไม่รู้จะแตกไปได้กี่ร่างกันแน่


แม้ว่าเกมเพลย์ของมันอาจจะไม่ถูกใจแฟน ๆ ดิจิมอนสักเท่าไร แต่สำหรับคนที่ชอบ JRPG ชอบเกมเทิร์นเบสแล้วล่ะก็ นี่เป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ของเกมดิจิมอนที่น่าสนใจใช้ได้เลยทีเดียว แต่หากจะหวังให้มาตรฐานมันสูงในระดับเดียวกันกับ JRPG เกมอื่น มันก็อาจจะยากไปหน่อย ให้ลดความคาดหวังลงมาจะดีกว่า

กราฟิกและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม และอาจจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าเกม


สิ่งสุดท้ายที่ไม่ชมไม่ได้ คือเรื่องของการนำเสนอกราฟิกที่งดงามราวกับนั่งดูการ์ตูนดี ๆ สักเรื่อง การดีไซน์ การออกแบบของเกมนี้ เรียกได้ว่าอาจทำให้แฟน ๆ ดิจิมอนบางคนฟินกันมาก เพราะอย่างที่บอกไป ทั้งลายเส้น ตัวละคร ดีไซน์ แม้กระทั่งฉากเปลี่ยนร่างก็ยังมีความใกล้เคียงกับการ์ตูฯต้นฉบับ มันเหมือนกับเป็นเกมที่ทำมาเพื่อแฟน ๆ ดิจิมอนโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ และเพราะการลงทุนทำฉากอนิเมชั่น ฉากคัทซีนที่ราวกับนั่งดูการ์ตูนจริง ๆ นี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันสมราคาหลักพันกว่าบาทในโซนไทยจริง ๆ ใครที่เป็นแฟนเดนตายดิจิมอน บอกเลยว่าอิ่มและคุ้ม แต่.. ถ้าใครไม่ชอบเกมแนว Visual Novel ไม่ชอบระบบ JRPG Turn Based ต่อให้เป็นแฟนดิจิมอนก็อาจจะวูบหลับคาคอมกันเอาได้ง่าย ๆ ก็แนะนำว่าตัดสินใจให้ดีก่อนจะซื้อจะดีกว่า

7
ข้อดี

เนื้อเรื่องดีงามเอาใจแฟนการ์ตูนรุ่นเก่า

ภาพและฉากคัตซีนที่สวยงามน่าจดจำ

ตัวเลือกบทสนทนาที่มีความหมาย

ข้อเสีย

เกมช้ามากกกกกกก ต้องอ่านหนังสือเยอะ

มีเกมเพลย์ให้เล่นจริงน้อย

เกมเพลย์การต่อสู้ไม่ค่อยสร้างสรรค์นัก

ฉากคัตซีนภาพนิ่งทำให้สื่ออารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร

7
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Digimon Survive "เนื้อเรื่องดี แต่เกมเพลย์ไม่มีก็ไม่ได้ป๊ะ?!"
03/08/2022

ปีกกางเหินไปไม่มีวันแผ่วปลาย.. เชื่อเหลือเกินว่า ในวัยเด็กของเหล่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ต้องเคยได้ยินหรือได้ชมแอนิเมชั่นชื่อดังก้องโลก ที่ยังคงเป็นอมตะอยู่จนทุกวันนี้ นั่นคือ Digimon Adventure และหลังจากที่ประกาศเปิดตัว แถมเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมานานหลายปี เกม Digimon ภาคใหม่ อย่าง Digimon Survive ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ดิจิมอนในภาคนี้จะออกมาเป็นยังไง จะทำให้เราหวนระลึกถึงวัยเด็กที่ปีกรักยังโบยบินได้หรือไม่ หาคำตอบได้ในบทความรีวิวของเรากัน

เรื่องราวของเด็กผู้ถูกเลือก กลุ่มใหม่


สำหรับแฟน ๆ ดิจิมอน น่าจะรู้กันดีว่า นอกจากอนิเมะภาค 1 และ 2 นั้น แต่ละภาคแทบจะไม่มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน แน่นอนว่า Digimon Survive เอง ก็เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้ถูกเลือกกลุ่มใหม่ด้วย แม้ว่าเราจะได้เห็นหน้าตาของเหล่าดิจิมอนที่เราคุ้นเคยกันอย่างอากุมอน กิลล์มอน ก็ตาม แต่เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องก็จะแตกต่างกันจากต้นฉบับที่เรารู้จักกันดี 

เรื่องราวของเกมภาคนี้จะเล่าถึงเด็ก ๆ ทั้ง 8 คน ที่มาเข้าค่ายกิจกรรมนอกหลักสูตร เพื่อศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ และในวันที่ 2 ของการเข้าค่าย สามตัวละครเอกก็ได้ไปหาข้อมูลของตำนานเทพอสูร (Beast Gods หรือ Kemonogami) แต่ในขณะออกสำรวจ และเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ป่า พวกเขาก็เจอกับโคโรมอน และพวกเด็ก ๆ ก็ถูกดิจิมอนตัวอื่นโจมตี และกว่าพวกเด็ก ๆ จะรู้ตัวว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่ ไม่ใช่โลกมนุษย์ใบเดิมที่พวกเขารู้จักก็สายไปซะแล้ว เพราะตอนนี้พวกเขาอาจจะอยู่ในโลกที่เรียกว่า ดิจิทัลเวิลด์

ถ้าไม่ชอบอ่าน โปรดผ่านเกมนี้


อย่างแรกที่เราต้องเตือนกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยคือ นี่อาจไม่ใช่เกมดิจิมอนที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะแฟนเกม แฟนดิจิมอนที่คิดว่าจะได้เล่นเกมดิจิมอนแบบต่อสู้เอามัน เพราะการเล่าเรื่องของเกมนี้ค่อนข้างวัดใจคนเล่นมาก ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ การเล่าเรื่องของเกมนี้จะเหมือนกับเกมแนว Visual Novel ที่เราต้องเน้นอ่าน และพยายามไม่กดข้าม เพราะมักจะมีรายละเอียดปลีกย่อยซ่อนอยู่ในบทสนทนาเสมอ และมันจะถูกนำไปใช้กับระบบการเลือกตัวเลือกเพื่อตัดสินใจในเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วย และเอาแค่ช่วงแรกของเกม เราก็ต้องทนอ่านเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเยอะมาก ใครที่ตบะไม่แก่กล้าพอ อาจจะถอดใจเลิกเล่นไปก่อนเลยตั้งแต่ช่วงแรก ดังนั้นเกมนี้เราต้องไม่ขี้เกียจอ่าน ไม่งั้นก็จบกันตั้งแต่ส่วนนี้ สิ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ คือฉากการสนทนาและกราฟิกภายในเกมที่เหมือนเรากำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่แค่ภาพสวยมันไม่อาจช่วยทดแทนความน่าเบื่อของการมานั่งอ่าน Text ได้เลย และภาษาที่ใช้ในเกมก็อยู่ในระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางสูง ถ้าคิดจะ Skip แหลกลาญแล้ว ยังไงก็ไม่คุ้มค่า และถ้าไม่ละเอียด ตอบไม่ดี ขอบอกว่ามันอาจส่งผลกับชะตากรรมชีวิตของเด็ก ๆ กลุ่มนี้เลยก็ว่าได้ 


อย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่ชื่นชอบในการนั่งอ่าน นั่งเสพเนื้อเรื่อง Digimon Survive ถือว่าเป็นภาคที่มีเนื้อหาค่อนข้างมืดหม่นกว่าเกมภาคก่อนหน้าอยู่พอสมควร เหมาะกับแฟน ๆ ดิจิมอนยุคใหม่หรือโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หรือใครอยากสัมผัสรสชาติที่แปลกใหม่ที่ซีรีส์ดิจิมอนจะนำเสนอให้คุณได้ ก็ลองดูได้ไม่เสียหาย นอกจากนั้น คาแรคเตอร์ของเหล่าเด็ก ๆ ในภาคนี้ ก็ยังให้อารมณ์คล้าย ๆ กับดิจิมอนทุกภาค คือแต่ละคนจะมาพร้อมลักษณะนิสัยส่วนตัวที่ชัดเจน ซึ่งก็อาจจะน่ารำคาญหรือน่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ได้ชื่นชอบสไตล์ตัวละครแบบอนิเมะไปเลยเช่นนี้

สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเกมนั้นมีการโปรโมทมาแต่แรกแล้วว่า จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องแบบ Visual Novel ประมาณ 70% และมีระบบการต่อสู้เพียง 30% เท่านั้น แฟน ๆ หลายคนที่ซื้อเพราะเห็นว่าเป็นดิจิมอน อาจจะไม่ได้สนใจหรือมองข้ามตรงนี้ไป ดังนั้นเราอาจจะต้องย้ำเตือนกันอีกหน ว่าหลัก ๆ แล้วนี่คือเกมแนว Visual Novel เน้นอ่านซะมากกว่า ซึ่งตัวเกมได้รับการรีวิวบอมบ์บนเว็บ Metacritic ไปว่า มันคือการโปรโมทหลอกลวงผู้บริโภค เพราะช่วงแรก ทาง BANDAI Namco โปรโมทว่าเกมจะเป็นเกมแนวเอาชีวิตรอด ในขณะที่โปรดิวเซอร์เกมบอกว่ามันจะเป็นแบบ Interactive ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคืออย่างหลังนั่นเอง


และภาพรวมของเนื้อเรื่องเอง ถ้าใครที่อ่านอังกฤษออกแบบไม่ต้องเปิดแปลไปด้วย ก็จะรู้สึกได้ว่านี่คือเนื้อหาที่แฟน ๆ ดิจิมอนจะต้องชื่นชอบ มันเหมือนกับการเอาดิจิมอนภาคแรกมาทำการตีความใหม่ เล่าเรื่องใหม่ ทั้งการออกแบบตัวละครที่มองปุ๊บก็พอจะเดาออกได้เลยว่ามันคือตัวแทนของใครในภาคก่อนหน้า ทั้งบุคลิกภาพ นิสัย และการดีไซน์ตัวละคร ถ้าจะบอกว่านี่คือดิจิมอนภาคแรก Reboot หลาย ๆ คนก็อาจจะเชื่อด้วยซ้ำไป เพียงแต่ในเหตุการณ์ของเกมภาคนี้ Digital World ดูเป็นสิ่งลี้ลับที่ไม่มีใครรู้จัก หรือดิจิมอนคืออะไรก็ไม่มีใครทราบได้ บวกกับดนตรีประกอบที่ทำออกมาในแนวลี้ลับพิศวง ก็ไม่แปลกถ้าบางครั้งเราจะรู้สึกว่ากำลังเล่นเกมแนว Visual Novel แนวสยองขวัญอยู่ ไม่ใช่เกมดิจิมอน


ข้อเสียหลัก ๆ ของการนำเสนอแบบ Visual Novel คือ การถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ไม่ดีในบางสถานการณ์ เช่น ในเนื้อเรื่องเราอาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง แต่เกมไม่ได้มีแอนิเมชั่นหวือหวาอะไร เป็นเพียงการตัดสลับภาพไปมา ขึ้นบทสนทนา และเสียงกรีดร้องเท่านัน้ อารมณ์ร่วมหายไปเยอะเลยทีเดียว และฉากแบบนี้ก็มีให้เห็นเยอะซะด้วยในเกมแนวนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามแฟนเดนตายของเหล่าดิจิมอนที่ชื่นชอบภาคแรก ผู้เขียนยังคงแนะนำว่า หาโอกาสลองด้วยตัวเองเลยจะดีกว่า

เกมเพลย์การเล่นแบบ RPG Old School ผสมเข้ากับ 'การเลือก' ที่อาจตัดสินชะตากรรมตัวละครและเนื้อเรื่อง


สำหรับเกมเพลย์การเล่นของ Digimon Survive นั้น ผู้เขียนมองว่ามันแบ่งออกเป็นสองอย่างหลัก ๆ คือเรื่องราวของการเลือก และการต่อสู้ ทำไมการเลือกจึงสำคัญ? เพราะเกมนี้ทางผู้พัฒนาได้โปรโมทไว้ด้วยตัวเองเลยว่า เลือกไม่ดี มีตายแน่นอน แต่กว่าจะได้รู้ว่าเอฟเฟคท์การเลือกจะส่งผลอย่างไร ผู้เล่นอาจจะต้องเล่นซ้ำไปซ้ำมาหลาย ๆ รอบ แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้อยากให้ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งตายอยู่แล้ว หัวใจสำคัญของการเลือกเลยคือ การประคับประคองความสัมพันธ์กับทุก ๆ ตัวละคร ไม่ใส่ใจใครมากไป ทำได้ แต่อย่าเยอะเกิน ไม่เช่นนั้นจะเกิดแนวทางใหม่ ๆ ของความสัมพันธ์ในกลุ่มได้ ซึ่งการที่ผู้เล่นจะเลือกให้ดีนั้น ก็จำเป็นจะต้องอ่านกันแบบหนัก ๆ เพื่อจะหาทางออกที่ดีที่สุดในกับตัวละครทุกคน และอย่างที่บอก ว่าเกมนี้คือ Visual Novel ถ้าคุณอ่านข้าม ไม่อ่านเลย ยังไงก็ไม่สนุกกับเกมนี้ โดยสถานการณ์ที่เราจะต้องเลือก จะถูกใส่เข้ามาเรื่อย ๆ ในระหว่างการเล่น และการเลือกทุกครั้งเราก็ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ด้วย สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาการเลือกคือ สายสัมพันธ์ตัยวละคร ความพึงพอใจ ความสุข ความกลัว ซึ่งจะส่งผลกับเส้นเรื่องเมื่อเราเล่นไปเรื่อย ๆ


ทีนี้มาดูกันในส่วนของเกมเพลย์การเล่นในรูปแบบการต่อสู้กันบ้าง อย่างที่บอกไปในหัวข้อด้านบน ว่าเกมเพลย์ของ Digimon Survive นี้จะไม่ค่อยได้เน้นการต่อสู้สักเท่าไร ใน 1 ฉากเนื้อเรื่องใหญ่ ๆ จะเป็นการพูดคุย กับการเลือกชอยส์ไปแล้ว 70% อีก 30% (หรือส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าอาจจะน้อยกว่านั้น) ถึงจะเป็นการเข้าช่วงการต่อสู้ แต่.. ระบบเกมเพลย์การต่อสู้ก็ยังเป็นระบบที่วัยรุ่นใจร้อนหลายคนอาจไม่เอ็นจอยด้วยเช่นกัน นั่นคือระบบการต่อสู้แบบ Turn Based หรือการออกคำสั่ง ผลัดตากันควบคุมตัวละคร ที่ยิ่งทำให้เกมเพลย์ช้าลงไปอีก

การต่อสู้ในแต่ละรอบจะเป็นการออกคำสั่งให้ดิจิมอนของเรา โดยเลือกว่าจะทำอะไรในเทิร์นนั้น ๆ เช่นสั่งเคลื่อนที่ หรือสั่งโจมตี แต่..ประเด็นก็คือตัวเกมมันดันเป็น RPG ยุคเก๋าแบบแท้ ๆ ไม่มีอะไรผสม ทำให้หลายคนอาจจะแยกไม่ออก ว่ามันคลาสสิคหรือมักง่ายทำมาลวก ๆ กันแน่ ระบบต่าง ๆ ของเกมนี้ ใครที่เคยเล่นเกม JRPG ยุคเก่า ๆ ที่มีความซับซ้อน มาเจอเกมนี้จะง่ายไปในทันที หลัก ๆ แล้วจะมีการสลับทิศทางของตัวละคร เพื่อเลือกทางในการโจมตี มีการคำนวณเล็กน้อยว่าสกิลของเรา กว้างกี่ช่อง ใช้เอฟเฟคท์เท่าไร ใช้ SP เท่าไร มีการขึ้นที่ต่ำที่สูง เพื่อเพิ่มโอกาสการโจมตีและความแม่นยำในการโจมตีด้วย แต่ท้ายที่สุดตัวเกมมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นด้วย เพราะระบบของเกมนี้มันไม่ค่อยมีความซับซ้อนอะไรเลย ดิจิมอนที่นำออกมาต่อสู้จะได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ เก็บเลเวล ทำให้ดิจิมอนตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้น สวมใส่อุปกรณ์ใหม่ ๆ ได้ นำไปฝึกได้ และแน่นอน เมื่อเลเวลถึงก็จะสามารถอีโวลูชั่นเปลี่ยนร่างได้อีกต่างหาก โดยดิจิมอนบางตัวก็อีโวลูชั่นได้หลายร่างมาก อย่างเช่นอากุม่อนของเราตอนเริ่มเกมก็ไม่รู้จะแตกไปได้กี่ร่างกันแน่


แม้ว่าเกมเพลย์ของมันอาจจะไม่ถูกใจแฟน ๆ ดิจิมอนสักเท่าไร แต่สำหรับคนที่ชอบ JRPG ชอบเกมเทิร์นเบสแล้วล่ะก็ นี่เป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ของเกมดิจิมอนที่น่าสนใจใช้ได้เลยทีเดียว แต่หากจะหวังให้มาตรฐานมันสูงในระดับเดียวกันกับ JRPG เกมอื่น มันก็อาจจะยากไปหน่อย ให้ลดความคาดหวังลงมาจะดีกว่า

กราฟิกและการนำเสนอที่ยอดเยี่ยม และอาจจะเป็นตัวกำหนดมูลค่าเกม


สิ่งสุดท้ายที่ไม่ชมไม่ได้ คือเรื่องของการนำเสนอกราฟิกที่งดงามราวกับนั่งดูการ์ตูนดี ๆ สักเรื่อง การดีไซน์ การออกแบบของเกมนี้ เรียกได้ว่าอาจทำให้แฟน ๆ ดิจิมอนบางคนฟินกันมาก เพราะอย่างที่บอกไป ทั้งลายเส้น ตัวละคร ดีไซน์ แม้กระทั่งฉากเปลี่ยนร่างก็ยังมีความใกล้เคียงกับการ์ตูฯต้นฉบับ มันเหมือนกับเป็นเกมที่ทำมาเพื่อแฟน ๆ ดิจิมอนโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ และเพราะการลงทุนทำฉากอนิเมชั่น ฉากคัทซีนที่ราวกับนั่งดูการ์ตูนจริง ๆ นี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันสมราคาหลักพันกว่าบาทในโซนไทยจริง ๆ ใครที่เป็นแฟนเดนตายดิจิมอน บอกเลยว่าอิ่มและคุ้ม แต่.. ถ้าใครไม่ชอบเกมแนว Visual Novel ไม่ชอบระบบ JRPG Turn Based ต่อให้เป็นแฟนดิจิมอนก็อาจจะวูบหลับคาคอมกันเอาได้ง่าย ๆ ก็แนะนำว่าตัดสินใจให้ดีก่อนจะซื้อจะดีกว่า


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header