GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Choo-Choo Charles จากมีมยอดฮิต สู่เกมสยองขวัญจากมันสมองนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียว
ลงวันที่ 16/12/2022

เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่สมัยนี้เรามักจะเห็น Solo Developer หรือนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียว ออกมาโชว์ฝีไม้ลายมือในการทำเกมคอนเซปต์เจ๋ง ๆ หรือบางทีก็เจ๋งไปยันเกมเพลย์ และในปีนี้เองก็มีอยู่หลายเกม แต่มีอยู่เกมหนึ่งที่นักพัฒนามีอายุเพียง 20 กว่าปี และได้ไอเดียจากการนำเอามีมดังของโลกวิดีโอเกมอย่าง Thomas Tank Engine มาพัฒนาให้กลายเป็นเกมแอ็คชั่นสยองขวัญอย่าง Choo-Choo Charles ซึ่งเกมนี้นี่แหละจะเป็นเกมที่เราจะนำมารีวิวกันในวันนี้

รถไฟผีแห่งเกาะปริศนา


ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักล่าปีศาจไร้ชื่อ เราเดินทางมายังเกาะปริศนาแห่งหนึ่งที่ชื่อ Aranearum โดยคำเชิญจาก Eugene เป้าหมายคือการกำจัดรถไฟที่มีขาเป็นแมงมุมและใบหน้าอันน่ากลัวอย่าง Charles ที่ทำให้ชาวบ้านอกสั่นขวัญผวากันไปหมด แทนที่จะหาทางกำจัดมัน แต่กลับกลายเป็นว่าเศรษฐีใหญ่ประจำเกาะกลับต้องการเก็บ Charles เอาไว้ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน แถมยังมีการเกณฑ์คนงานไปขุดเหมืองและป้องกันไข่ปริศนาที่อาจจะเป็นกุญแจไปสู่การกำจัด Charles ได้ งานนี้ความหวังในการกอบกู้หมู่บ้านจากรถไฟแมงมุมมรณะจึงได้เริ่มต้นขึ้น


หากว่ากันตามตรงแล้ว เนื้อเรื่องมันแทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นแค่การมาปราบรถไฟผีขาแมงมุมเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดมาจากไหน หรือเป็นตัวอะไรกันแน่ เนื้อเรื่องของเกมนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้พัฒนาได้พยายามจะสร้างความลึกให้กับมันแล้ว แต่ตัวคนเดียวย่อมมีขีดจำกัดในการสร้างสรรค์โลกในเกม เนื้อเรื่องภายในเกมนี้จะถูกเล่าผ่านเอกสารซะเป็นส่วนมาก เพราะภารกิจหลัก และภารกิจรองแทบจะไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องเลย มีพูดถึงบ้างแบบเบาบางเท่านั้น แต่ข้อดีคือ แม้มันจะเล่าในเอกสาร แต่ในทุก ๆ ที่ที่มี NPC รอเราอยู่นั้น หรือจุดที่เราจำเป็นจะต้องไปทำภารกิจหลัก หรือภารกิจรอง ส่วนมากจะมีกระดาษโน้ต วางรอให้เราเข้าไปกดอ่านอยู่แล้ว ต่อให้มันคือเกมโลกเปิดบนเกาะขนาดใหญ่ แต่เนื้อเรื่องก็แทบจะเป็นเส้นตรงทั้งหมด เมื่อเล่นจนจบเกม ผู้เล่นจะเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะมีก็เพียงบางอย่างเท่านั้นที่ไม่เคลียร์ แถมฉากจบสุดพีคที่เหมือนจะปูทางไปทำภาคต่อ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าอนาคตจะได้ทำหรือไม่


แม้จะเป็นผลงานของ Solo Developer และเห็นได้ชัดว่าเนื้อเรื่องมันไม่ได้มีอะไรมาก แต่ถือว่าเป็นความพยายามจะจัดการในส่วนของเนื้อเรื่องตัวเกมได้ดีเท่าที่คนคนเดียวจะทำได้แล้ว น่าเสียดายที่ตัวละครอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เนื้อเรื่อง มันแทบจะไม่ทำให้เรารู้สึกอยากติดตามเนื้อเรื่องเลย มีเพียง NPC ตัวละครหลักเท่านั้น ที่มีอารมณ์ร่วมกับตัวเนื้อเรื่องโดยตรง หากเราไปทำภารกิจย่อยของ NPC ที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจหลัก มันก็อาจจะทำให้เราเอียงคอ เกาหัวด้วยความงง ว่าชีวิตบนเกาะสุดอันตรายแห่งนี้ เขาหรือเธอยังจะต้องการอะไรแบบนี้อีกหรือ ? แต่ก็นั่นแหละ หากหลับตาข้างหนึ่งแล้วมองว่ามันคือผลงานของคนเพียงคนเดียว มันก็ยังถือว่าน่าประทับใจในระดับกลาง ๆ ได้เช่นกัน

โลกของเกมที่กว้างใหญ่แต่ไร้ชีวิตชีวา และการดีไซน์ภารกิจที่ซ้ำซาก


เพื่อไม่ให้มองว่าเราอวยเกม และใช้คำว่า Solo Developer มาเป็นข้ออ้าง ในส่วนนี้เราจำเป็นจะต้องวิจารณ์กันอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าหลาย ๆ อย่างในเกมนี้จะน่าประทับใจจริง ๆ แต่มันก็ไม่อาจทำให้เรารู้สึกว่าบางอย่างมันแปลกจนเกินไป 

จริงอยู่ว่าตัวเกมเป็นเกม Open World มีพื้นที่เปิดกว้างบนเกาะ แต่ตลอดเกมการเล่นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมเส้นตรงซะมากกว่า แต่การออกสำรวจผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นเศษเหล็กที่ใช้ในการอัปเกรดรถไฟที่เป็นไฮไลท์ของเกมนี้ ซึ่งเสษเหล็กของเกมนี้ทั้งเกมนั้นมันมีเยอะมาก ๆ และส่วนมากจะอยู่ตามพื้น ตามซอกหลืบ หรือตามสถานที่สำคัญที่ถ้าหากว่ายิ่งออกสำรวจก็จะยิ่งได้เยอะ แต่ตัวเกมนั้นค่อนข้างเงียบเหงามาก หากผู้เล่นไม่ได้แล่นไปตามรางรถไฟ ลงมาวิ่งเล่นบนทุ่งหรือเนินกว้าง มันก็แทบจะไม่มีอะไรให้ทำ หรือถึงขั้นไม่มีชีวิตชีวาอะไรเลย เพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่ออยู่นอกรถไฟ และการจะวิ่งไปสำรวจอะไรสักอย่างในเกมนี้ก็กินเวลาเอาซะมาก ๆ แถมไม่คุ้มค่าอีกต่างหาก


รวมไปถึงการออกแบบหน้าตาของ NPC ตัวก็ต้องบอกเลยว่าไม่ได้ดีสักเท่าไร ใครที่ขัดใจกับรูปลักษณ์หน้าตาตัวละคร รับรองว่าจะไม่โอเคกับส่วนนี้แน่ ๆ เพราะแม้ว่าสภาพแวดล้อมภายในฉากต่าง ๆ ของเกมจะทำออกมาได้ดี แต่พอถึงจุดที่ต้องคุยกับ NPC นั้น เรียกได้ว่าช็อตฟีลกันเลยก็ได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นข้อจำกัดของการออกแบบและพัฒนาเกมด้วยตัวคนเดียวเช่นกัน

นอกจากนั้นดีไซน์ภารกิจต่าง ๆ ยังไม่ค่อยจะเวิร์ค เพราะเกือบทั้งเกมนั้นผู้เล่นจะได้เจอภารกิจที่มีอยู่แค่ไม่กี่แบบ เช่นการวิ่งไปหาของ การลักลอบเข้าไปในสถานที่แล้วขโมยของออกมา หรือเอาไอเทมไปส่งตามจุดต่าง ๆ และตลอดทั้งเกมก็มีอยู่เท่านี้ แม้กระทั่งภารกิจหลักอย่างการขโมยไข่ เพื่อไปอัญเชิญบอส ก็ยังเป็นแบบเดียวกันทุกจุด ต่างกันก็แค่สถานที่ คือเรียกได้ว่าดีไซน์เกมเพลย์ถือเป็นจุดอ่อนอย่างหนักของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ใครเล่นแล้วอาจจะขัดใจหลาย ๆ อย่าง


และด้วยความที่เกมมันสั้นมา หากผู้เล่นต้องการอัปเกรดรถไฟให้เต็มทุกอย่าง จำเป็นจะต้องไล่ทำภารกิจเสริมทุกภารกิจให้ครบ เพื่อให้ได้เศษเหล็กที่เพียงพอในการอัปเกรดทุกอย่างจนตัน แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเกมใช้เวลาในการเล่น + เก็บทุกสิ่งอย่างภายในเกมในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น สั้นมาก ๆ ในเรื่องของดีไซน์ภารกิจ ความยาวในการเล่น จริงอยู่ว่า มันคือข้อจำกัดของการทำเกมเพียงคนเดียว แต่หากใครคิดว่า 400 นั้นคุ้มค่า ก็จัดไป และที่ต้องชมอีกอย่างคือการแปลภาษาไทยของเกมนี้ แม้ว่าจะแปลได้ไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็ถือว่าแปลได้ดีเลยทีเดียว คำผิดอาจจะมีอยู่บาง แต่การเรียบเรียงคำให้สละสลวย อ่านง่าย เข้าใจได้ทันทีนั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นอีกข้อที่ต้องชื่นชมในส่วนนี้

แต่ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่า จะคิดว่ามันคุ้มและลองซื้อมาเล่นดูดีหรือไม่ แต่สำหรับส่วนตัวของผู้เขียนนั้น เป็นการหลับตาข้างหนึ่ง มองว่าตัวคนเดียว ทำได้ขนาดนี้ ก็เก่งมากแล้ว แต่ก็ตะชิมกันอย่างตรงไปตรงมาในแง่ของจุดอ่อนทั้งหลายเพียงเท่านั้น

เกมเพลย์แบบเส้นตรง และน่าหงุดหงิดในบางจุดสำคัญ


และเอาจริง ๆ แล้วแม้กระทั่งในส่วนของเกมเพลย์มันก็ไม่ได้มีอะไรมากขนาดนั้น อย่างที่เราได้เห็นกันไปในตัวอย่าง ในเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับยานพาหนะเป็นรถไฟจิ๋วสุดน่ารัก 1 ขบวน และบนรถไฟนั้นจะมีคอนโซลควบคุม 3 คันโยก คือการเดินหน้า ถอยหลัง และหยุดรถ ผู้เล่นสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง ส่วนท้ายรถจะเป็นอาวุธปืนที่เอาไว้ยิงต่อสู้ และมีหวูดรถไฟที่เอาไว้เรียงเจ้า Charles ออกมาปะทะกันได้ และในระหว่างการเดินรถไฟ เมื่อถึงจุดที่เป็นทางแยกผู้เล่นจะต้องลงจากรถไปสับรางด้วยตัวเอง

เกมเพลย์ของเกมนี้มันไม่มีอะไรมากเลย เพียงแค่ต้องเอาตัวรอดจากเจ้า Charles ให้ได้ และวิธีการจะจัดการมันขั้นเด็ดขาดก็คือการทำภารกิจเนื้อเรื่องเพื่ออัญเชิญมันออกมาต่อสู้ จะบอกว่าเกมเพลย์มันแทบไม่มีอะไรเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ช่วงการต่อสู้นั้น ก็ถือว่าลุ้นระทึกดี กับการมีรถไฟหน้าผี ขาแมงมุมมาไล่ล่าเรา แต่เมื่อยิงทำดาเมจกับมันไปจนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะหนีไปเอง


วิธีการได้อาวุธใหม่ ๆ นั้นทำได้จากการไปทำภารกิจสีแดง ที่เป็นภารกิจรับอาวุธใหม่ โดยอาวุธทั้งหมดภายในเกมนั้น จะมีทั้งหมด 4 แบบ คือปืนกลเริ่มต้น ปืนไฟ ปืนยาว และปืนยิงระเบิด ซึ่งทำดาเมจสูงที่สุดในเกม ซึ่งวิธีการจะได้มานั้นมันก็ไม่ยากอะไร แต่แม้ว่าเกมเพลย์ของมันจะเรียบง่ายเป็นเส้นตรงขนาดนั้น หลายส่วนของมันก็ค่อนข้างน่าหงุดหงิดใจอยู๋ไม่น้อย

ยกตัวอย่างเช่น ในภารกิจหลักที่เราต้องลักลอบไปเอาไข่นั้น เกมเพลย์การเล่นจะเปลี่ยนไปเป็นแบบลอบเร้นทันที เพราะเมื่อเราลงจากรถไฟนั้น เราจะไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัวเลย มีแต่มือเปล่า ๆ ในขณะที่ศัตรูมีอาวุธพร้อมจะยิงเราได้ทุกเมื่อ แต่แทนที่เกมจะทำให้ตรงส่วนนี้ตื่นเต้นจากการเล่นแบบลอบเร้น กลับกลายเป็นว่า A.I. ของมันก็ไม่ฉลาดพอจะฆ่าเราได้ มันเหมือนกับการเขียนโปรแกรม A.I. เกมนี้ คือเราไม่อยู่ในระยะยิง แต่เห็นเราเฉย ๆ มันจะวิ่งไล่ตามเรา ซึ่งทำให้เราสามารถวิ่งหนีได้ และในเมื่อมันทำแบบนี้ได้ การลอบเร้นก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป จะมีตลกบ้างก็ตอนที่ A.I. มันวิ่งไล่เราได้ไกลมาก ๆ ชนิดที่ว่าในช่วงแรก ถ้ารถไฟเรายังไม่ได้อัปเกรดความเร็ว มันก็วิ่งตามเราได้แบบหนังอินเดียกันเลยทีเดียว


รถไฟที่เป็นยานพาหนะหลักของเรานั้น จะมีค่าสถานะให้อัปเกรดทั้งหมด 3 ค่า คือค่าดาเมจที่เพิ่มพลังโจมตี ค่าเกราะที่เพิ่มพลังป้องกัน และค่าความเร็วเคลื่อนที่ ที่จะทำให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้น การอัปเกรดต่าง ๆ จะอัปเกรดได้สูงสุดที่เลเวล 10 ทั้งหมด แต่การอัปเกรดเหล่านี้กลับมีความขัดแย้งในตัวมันเองคือเรื่องของการโจมตี เพราะท้ายที่สุดแล้วพลังโจมตีที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้เราฆ่า Charles ได้ เพราะเมื่อยิงจนพลังมันลดไปแล้วมันก็จะหนีไปอยู่ดี และจะสู้กับมันได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ช่วงศึกตัดสินที่ต้องเล่นไปตามเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น ส่วนความเร็วกับเกราะป้องกันนั้น ถือว่ามีความสำคัญกว่ามาก

วิธีการได้มาซึ่งเศษเหล็กที่ใช้ในการอัปเกรด ก็คือการทำภารกิจรองต่าง ๆ ที่อยู่ในแผนที่ ซึ่งมันให้เศษเหล็กเยอะมาก หากทำจนครบทุกอย่าง ก็อัปเกรดรถไฟจนเต็มได้แน่นอน ส่วนภารกิจสีแดงจะเป็นภารกิจอาวธใหม่ และภารกิจสีฟ้าคือภารกิจเนื้อเรื่องและทั้งหมดนี้ผู้เล่นสามารถเก็บจนครบได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง อย่างที่บอกว่า ส่วนอื่น ๆ ของเกมเพลย์นั้นมันแทบไม่มีอะไรให้เราทำเลย แถมตัวเกมยังดูแปลก ๆ ในช่วงที่เราต้องลงจากรถไฟนั้น เราจะไม่มีอาวุธให้ใช้งานหรือเอาตัวรอดเลย ถ้าเราต้องเจอกับพวกศัตรูถือปืน เราจะไม่สามารถต่อสู้ได้เลย นอกจากหนีเท่านั้น และใช้วิธีการลอบเร้น ซึ่งการลอบเร้นมันก็ดันทำมาได้ไม่ค่อยจะดีเท่าไรด้วย ทำให้เกมเพลย์ในส่วนของการลงรถไฟมาหาของนี้ เป็นอะไรที่น่าเบื่อและชวนหงุดหงิดไม่ใช่น้อย


หากให้พิจาณณากันตรง ๆ Choo-Choo Charles เป็นการออกแบบและสร้างเกมของผู้พัฒนาเพียงคนเดียวที่น่าประทับใจ แต่มันก็มีหลายอย่างที่ไม่สามารถมองข้ามได้ แต่ก็ถือว่านี่คือผลงานเปิดตัวที่บ่งบอกถึงศักยภาพได้ดีมาก และน่าสนใจว่าถ้าอนาตตเขาได้งบและทีมงานในการช่วยทำเกม มันจะออกมาเป็นแบบไหน ถ้าไม่โดนจำกัดอิสรภาพจากการทำงานเป็นทีม

Choo-Choo Charles วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Steam ในราคา 400 บา่ท

7
ข้อดี

บรรยากาศการต่อสู้ไล่ล่า ระทึกมาก

รถไฟปีศาจออกแบบมาได้น่ากลัวสมแนวเกม

บรรยากาศชวนสยองขวัญจริง ๆ

ข้อเสีย

NPC ออกแบบได้แย่มาก

ดีไซน์ภารกิจซ้ำซาก

โลก Open World ที่ขาดชีวิตชีวาจริง ๆ

เกมสั้นมาก

6
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Choo-Choo Charles จากมีมยอดฮิต สู่เกมสยองขวัญจากมันสมองนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียว
16/12/2022

เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่สมัยนี้เรามักจะเห็น Solo Developer หรือนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียว ออกมาโชว์ฝีไม้ลายมือในการทำเกมคอนเซปต์เจ๋ง ๆ หรือบางทีก็เจ๋งไปยันเกมเพลย์ และในปีนี้เองก็มีอยู่หลายเกม แต่มีอยู่เกมหนึ่งที่นักพัฒนามีอายุเพียง 20 กว่าปี และได้ไอเดียจากการนำเอามีมดังของโลกวิดีโอเกมอย่าง Thomas Tank Engine มาพัฒนาให้กลายเป็นเกมแอ็คชั่นสยองขวัญอย่าง Choo-Choo Charles ซึ่งเกมนี้นี่แหละจะเป็นเกมที่เราจะนำมารีวิวกันในวันนี้

รถไฟผีแห่งเกาะปริศนา


ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักล่าปีศาจไร้ชื่อ เราเดินทางมายังเกาะปริศนาแห่งหนึ่งที่ชื่อ Aranearum โดยคำเชิญจาก Eugene เป้าหมายคือการกำจัดรถไฟที่มีขาเป็นแมงมุมและใบหน้าอันน่ากลัวอย่าง Charles ที่ทำให้ชาวบ้านอกสั่นขวัญผวากันไปหมด แทนที่จะหาทางกำจัดมัน แต่กลับกลายเป็นว่าเศรษฐีใหญ่ประจำเกาะกลับต้องการเก็บ Charles เอาไว้ โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน แถมยังมีการเกณฑ์คนงานไปขุดเหมืองและป้องกันไข่ปริศนาที่อาจจะเป็นกุญแจไปสู่การกำจัด Charles ได้ งานนี้ความหวังในการกอบกู้หมู่บ้านจากรถไฟแมงมุมมรณะจึงได้เริ่มต้นขึ้น


หากว่ากันตามตรงแล้ว เนื้อเรื่องมันแทบจะไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ เป็นแค่การมาปราบรถไฟผีขาแมงมุมเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดมาจากไหน หรือเป็นตัวอะไรกันแน่ เนื้อเรื่องของเกมนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้พัฒนาได้พยายามจะสร้างความลึกให้กับมันแล้ว แต่ตัวคนเดียวย่อมมีขีดจำกัดในการสร้างสรรค์โลกในเกม เนื้อเรื่องภายในเกมนี้จะถูกเล่าผ่านเอกสารซะเป็นส่วนมาก เพราะภารกิจหลัก และภารกิจรองแทบจะไม่ได้พูดถึงเนื้อเรื่องเลย มีพูดถึงบ้างแบบเบาบางเท่านั้น แต่ข้อดีคือ แม้มันจะเล่าในเอกสาร แต่ในทุก ๆ ที่ที่มี NPC รอเราอยู่นั้น หรือจุดที่เราจำเป็นจะต้องไปทำภารกิจหลัก หรือภารกิจรอง ส่วนมากจะมีกระดาษโน้ต วางรอให้เราเข้าไปกดอ่านอยู่แล้ว ต่อให้มันคือเกมโลกเปิดบนเกาะขนาดใหญ่ แต่เนื้อเรื่องก็แทบจะเป็นเส้นตรงทั้งหมด เมื่อเล่นจนจบเกม ผู้เล่นจะเข้าใจได้ด้วยตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จะมีก็เพียงบางอย่างเท่านั้นที่ไม่เคลียร์ แถมฉากจบสุดพีคที่เหมือนจะปูทางไปทำภาคต่อ ซึ่งก็ต้องรอดูกันว่าอนาคตจะได้ทำหรือไม่


แม้จะเป็นผลงานของ Solo Developer และเห็นได้ชัดว่าเนื้อเรื่องมันไม่ได้มีอะไรมาก แต่ถือว่าเป็นความพยายามจะจัดการในส่วนของเนื้อเรื่องตัวเกมได้ดีเท่าที่คนคนเดียวจะทำได้แล้ว น่าเสียดายที่ตัวละครอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เนื้อเรื่อง มันแทบจะไม่ทำให้เรารู้สึกอยากติดตามเนื้อเรื่องเลย มีเพียง NPC ตัวละครหลักเท่านั้น ที่มีอารมณ์ร่วมกับตัวเนื้อเรื่องโดยตรง หากเราไปทำภารกิจย่อยของ NPC ที่ไม่เกี่ยวกับภารกิจหลัก มันก็อาจจะทำให้เราเอียงคอ เกาหัวด้วยความงง ว่าชีวิตบนเกาะสุดอันตรายแห่งนี้ เขาหรือเธอยังจะต้องการอะไรแบบนี้อีกหรือ ? แต่ก็นั่นแหละ หากหลับตาข้างหนึ่งแล้วมองว่ามันคือผลงานของคนเพียงคนเดียว มันก็ยังถือว่าน่าประทับใจในระดับกลาง ๆ ได้เช่นกัน

โลกของเกมที่กว้างใหญ่แต่ไร้ชีวิตชีวา และการดีไซน์ภารกิจที่ซ้ำซาก


เพื่อไม่ให้มองว่าเราอวยเกม และใช้คำว่า Solo Developer มาเป็นข้ออ้าง ในส่วนนี้เราจำเป็นจะต้องวิจารณ์กันอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าหลาย ๆ อย่างในเกมนี้จะน่าประทับใจจริง ๆ แต่มันก็ไม่อาจทำให้เรารู้สึกว่าบางอย่างมันแปลกจนเกินไป 

จริงอยู่ว่าตัวเกมเป็นเกม Open World มีพื้นที่เปิดกว้างบนเกาะ แต่ตลอดเกมการเล่นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมเส้นตรงซะมากกว่า แต่การออกสำรวจผู้เล่นจะได้รับรางวัลเป็นเศษเหล็กที่ใช้ในการอัปเกรดรถไฟที่เป็นไฮไลท์ของเกมนี้ ซึ่งเสษเหล็กของเกมนี้ทั้งเกมนั้นมันมีเยอะมาก ๆ และส่วนมากจะอยู่ตามพื้น ตามซอกหลืบ หรือตามสถานที่สำคัญที่ถ้าหากว่ายิ่งออกสำรวจก็จะยิ่งได้เยอะ แต่ตัวเกมนั้นค่อนข้างเงียบเหงามาก หากผู้เล่นไม่ได้แล่นไปตามรางรถไฟ ลงมาวิ่งเล่นบนทุ่งหรือเนินกว้าง มันก็แทบจะไม่มีอะไรให้ทำ หรือถึงขั้นไม่มีชีวิตชีวาอะไรเลย เพราะเราไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่ออยู่นอกรถไฟ และการจะวิ่งไปสำรวจอะไรสักอย่างในเกมนี้ก็กินเวลาเอาซะมาก ๆ แถมไม่คุ้มค่าอีกต่างหาก


รวมไปถึงการออกแบบหน้าตาของ NPC ตัวก็ต้องบอกเลยว่าไม่ได้ดีสักเท่าไร ใครที่ขัดใจกับรูปลักษณ์หน้าตาตัวละคร รับรองว่าจะไม่โอเคกับส่วนนี้แน่ ๆ เพราะแม้ว่าสภาพแวดล้อมภายในฉากต่าง ๆ ของเกมจะทำออกมาได้ดี แต่พอถึงจุดที่ต้องคุยกับ NPC นั้น เรียกได้ว่าช็อตฟีลกันเลยก็ได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นข้อจำกัดของการออกแบบและพัฒนาเกมด้วยตัวคนเดียวเช่นกัน

นอกจากนั้นดีไซน์ภารกิจต่าง ๆ ยังไม่ค่อยจะเวิร์ค เพราะเกือบทั้งเกมนั้นผู้เล่นจะได้เจอภารกิจที่มีอยู่แค่ไม่กี่แบบ เช่นการวิ่งไปหาของ การลักลอบเข้าไปในสถานที่แล้วขโมยของออกมา หรือเอาไอเทมไปส่งตามจุดต่าง ๆ และตลอดทั้งเกมก็มีอยู่เท่านี้ แม้กระทั่งภารกิจหลักอย่างการขโมยไข่ เพื่อไปอัญเชิญบอส ก็ยังเป็นแบบเดียวกันทุกจุด ต่างกันก็แค่สถานที่ คือเรียกได้ว่าดีไซน์เกมเพลย์ถือเป็นจุดอ่อนอย่างหนักของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ใครเล่นแล้วอาจจะขัดใจหลาย ๆ อย่าง


และด้วยความที่เกมมันสั้นมา หากผู้เล่นต้องการอัปเกรดรถไฟให้เต็มทุกอย่าง จำเป็นจะต้องไล่ทำภารกิจเสริมทุกภารกิจให้ครบ เพื่อให้ได้เศษเหล็กที่เพียงพอในการอัปเกรดทุกอย่างจนตัน แต่ถึงอย่างนั้น ตัวเกมใช้เวลาในการเล่น + เก็บทุกสิ่งอย่างภายในเกมในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น สั้นมาก ๆ ในเรื่องของดีไซน์ภารกิจ ความยาวในการเล่น จริงอยู่ว่า มันคือข้อจำกัดของการทำเกมเพียงคนเดียว แต่หากใครคิดว่า 400 นั้นคุ้มค่า ก็จัดไป และที่ต้องชมอีกอย่างคือการแปลภาษาไทยของเกมนี้ แม้ว่าจะแปลได้ไม่สมบูรณ์นัก แต่ก็ถือว่าแปลได้ดีเลยทีเดียว คำผิดอาจจะมีอยู่บาง แต่การเรียบเรียงคำให้สละสลวย อ่านง่าย เข้าใจได้ทันทีนั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นอีกข้อที่ต้องชื่นชมในส่วนนี้

แต่ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่า จะคิดว่ามันคุ้มและลองซื้อมาเล่นดูดีหรือไม่ แต่สำหรับส่วนตัวของผู้เขียนนั้น เป็นการหลับตาข้างหนึ่ง มองว่าตัวคนเดียว ทำได้ขนาดนี้ ก็เก่งมากแล้ว แต่ก็ตะชิมกันอย่างตรงไปตรงมาในแง่ของจุดอ่อนทั้งหลายเพียงเท่านั้น

เกมเพลย์แบบเส้นตรง และน่าหงุดหงิดในบางจุดสำคัญ


และเอาจริง ๆ แล้วแม้กระทั่งในส่วนของเกมเพลย์มันก็ไม่ได้มีอะไรมากขนาดนั้น อย่างที่เราได้เห็นกันไปในตัวอย่าง ในเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับยานพาหนะเป็นรถไฟจิ๋วสุดน่ารัก 1 ขบวน และบนรถไฟนั้นจะมีคอนโซลควบคุม 3 คันโยก คือการเดินหน้า ถอยหลัง และหยุดรถ ผู้เล่นสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง ส่วนท้ายรถจะเป็นอาวุธปืนที่เอาไว้ยิงต่อสู้ และมีหวูดรถไฟที่เอาไว้เรียงเจ้า Charles ออกมาปะทะกันได้ และในระหว่างการเดินรถไฟ เมื่อถึงจุดที่เป็นทางแยกผู้เล่นจะต้องลงจากรถไปสับรางด้วยตัวเอง

เกมเพลย์ของเกมนี้มันไม่มีอะไรมากเลย เพียงแค่ต้องเอาตัวรอดจากเจ้า Charles ให้ได้ และวิธีการจะจัดการมันขั้นเด็ดขาดก็คือการทำภารกิจเนื้อเรื่องเพื่ออัญเชิญมันออกมาต่อสู้ จะบอกว่าเกมเพลย์มันแทบไม่มีอะไรเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ช่วงการต่อสู้นั้น ก็ถือว่าลุ้นระทึกดี กับการมีรถไฟหน้าผี ขาแมงมุมมาไล่ล่าเรา แต่เมื่อยิงทำดาเมจกับมันไปจนถึงจุดหนึ่ง มันก็จะหนีไปเอง


วิธีการได้อาวุธใหม่ ๆ นั้นทำได้จากการไปทำภารกิจสีแดง ที่เป็นภารกิจรับอาวุธใหม่ โดยอาวุธทั้งหมดภายในเกมนั้น จะมีทั้งหมด 4 แบบ คือปืนกลเริ่มต้น ปืนไฟ ปืนยาว และปืนยิงระเบิด ซึ่งทำดาเมจสูงที่สุดในเกม ซึ่งวิธีการจะได้มานั้นมันก็ไม่ยากอะไร แต่แม้ว่าเกมเพลย์ของมันจะเรียบง่ายเป็นเส้นตรงขนาดนั้น หลายส่วนของมันก็ค่อนข้างน่าหงุดหงิดใจอยู๋ไม่น้อย

ยกตัวอย่างเช่น ในภารกิจหลักที่เราต้องลักลอบไปเอาไข่นั้น เกมเพลย์การเล่นจะเปลี่ยนไปเป็นแบบลอบเร้นทันที เพราะเมื่อเราลงจากรถไฟนั้น เราจะไม่มีอาวุธใด ๆ ติดตัวเลย มีแต่มือเปล่า ๆ ในขณะที่ศัตรูมีอาวุธพร้อมจะยิงเราได้ทุกเมื่อ แต่แทนที่เกมจะทำให้ตรงส่วนนี้ตื่นเต้นจากการเล่นแบบลอบเร้น กลับกลายเป็นว่า A.I. ของมันก็ไม่ฉลาดพอจะฆ่าเราได้ มันเหมือนกับการเขียนโปรแกรม A.I. เกมนี้ คือเราไม่อยู่ในระยะยิง แต่เห็นเราเฉย ๆ มันจะวิ่งไล่ตามเรา ซึ่งทำให้เราสามารถวิ่งหนีได้ และในเมื่อมันทำแบบนี้ได้ การลอบเร้นก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป จะมีตลกบ้างก็ตอนที่ A.I. มันวิ่งไล่เราได้ไกลมาก ๆ ชนิดที่ว่าในช่วงแรก ถ้ารถไฟเรายังไม่ได้อัปเกรดความเร็ว มันก็วิ่งตามเราได้แบบหนังอินเดียกันเลยทีเดียว


รถไฟที่เป็นยานพาหนะหลักของเรานั้น จะมีค่าสถานะให้อัปเกรดทั้งหมด 3 ค่า คือค่าดาเมจที่เพิ่มพลังโจมตี ค่าเกราะที่เพิ่มพลังป้องกัน และค่าความเร็วเคลื่อนที่ ที่จะทำให้รถไฟวิ่งเร็วขึ้น การอัปเกรดต่าง ๆ จะอัปเกรดได้สูงสุดที่เลเวล 10 ทั้งหมด แต่การอัปเกรดเหล่านี้กลับมีความขัดแย้งในตัวมันเองคือเรื่องของการโจมตี เพราะท้ายที่สุดแล้วพลังโจมตีที่มากขึ้น ไม่ได้ทำให้เราฆ่า Charles ได้ เพราะเมื่อยิงจนพลังมันลดไปแล้วมันก็จะหนีไปอยู่ดี และจะสู้กับมันได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ช่วงศึกตัดสินที่ต้องเล่นไปตามเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น ส่วนความเร็วกับเกราะป้องกันนั้น ถือว่ามีความสำคัญกว่ามาก

วิธีการได้มาซึ่งเศษเหล็กที่ใช้ในการอัปเกรด ก็คือการทำภารกิจรองต่าง ๆ ที่อยู่ในแผนที่ ซึ่งมันให้เศษเหล็กเยอะมาก หากทำจนครบทุกอย่าง ก็อัปเกรดรถไฟจนเต็มได้แน่นอน ส่วนภารกิจสีแดงจะเป็นภารกิจอาวธใหม่ และภารกิจสีฟ้าคือภารกิจเนื้อเรื่องและทั้งหมดนี้ผู้เล่นสามารถเก็บจนครบได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง อย่างที่บอกว่า ส่วนอื่น ๆ ของเกมเพลย์นั้นมันแทบไม่มีอะไรให้เราทำเลย แถมตัวเกมยังดูแปลก ๆ ในช่วงที่เราต้องลงจากรถไฟนั้น เราจะไม่มีอาวุธให้ใช้งานหรือเอาตัวรอดเลย ถ้าเราต้องเจอกับพวกศัตรูถือปืน เราจะไม่สามารถต่อสู้ได้เลย นอกจากหนีเท่านั้น และใช้วิธีการลอบเร้น ซึ่งการลอบเร้นมันก็ดันทำมาได้ไม่ค่อยจะดีเท่าไรด้วย ทำให้เกมเพลย์ในส่วนของการลงรถไฟมาหาของนี้ เป็นอะไรที่น่าเบื่อและชวนหงุดหงิดไม่ใช่น้อย


หากให้พิจาณณากันตรง ๆ Choo-Choo Charles เป็นการออกแบบและสร้างเกมของผู้พัฒนาเพียงคนเดียวที่น่าประทับใจ แต่มันก็มีหลายอย่างที่ไม่สามารถมองข้ามได้ แต่ก็ถือว่านี่คือผลงานเปิดตัวที่บ่งบอกถึงศักยภาพได้ดีมาก และน่าสนใจว่าถ้าอนาตตเขาได้งบและทีมงานในการช่วยทำเกม มันจะออกมาเป็นแบบไหน ถ้าไม่โดนจำกัดอิสรภาพจากการทำงานเป็นทีม

Choo-Choo Charles วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน Steam ในราคา 400 บา่ท


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header