ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าข่าวการซื้อกิจการบริษัท Activision Blizzard โดย Microsoft จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของวงการเกมอย่างใหญ่หลวง และผู้ที่น่าจะรู้สึกได้ถึงผลกระทบนี้มากเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นบริษัท Sony ผู้ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Microsoft ในตลาดเกมคอนโซล โดยรายงานล่าสุดของสื่อ Bloomberg ได้เปิดเผยว่ามูลค่าหุ้นของ Sony ได้ตกลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่ที่ข่าวการซื้อกิจการถูกเปิดเผยขึ้น ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่า $2 หมื่นล้าน (หรือราว 6.6 แสนล้านบาท) เลยทีเดียว!
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงาน Morningstar Research เปิดเผยว่าการเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ของ Microsoft ในราคาสูงถึง $6.8 หมื่นล้าน (ราว 2.2 แสนล้านบาท) อาจทำให้นักลงทุนหลายคนรู้สึกขาดความมั่นใจในศักยภาพของ Sony ในการแข่งขันกับ Microsoft ในอนาคตเมื่อค่ายอาจไม่สามารถวางจำหน่ายเกมชื่อดังจำนวนมากที่ Activision ถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Call of Duty, Diablo, Overwatch, และอื่นๆ อีกมากมาย
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากบริษัท DFC Intelligence ก็ได้ออกความเห็นว่าการซื้อกิจการของ Microsoft ครั้งนี้ อาจบ่งชี้ว่า Microsoft ไม่ได้มองบริษัทเกมอย่าง Sony หรือ Nintendo เป็นคู่แข่งอีกต่อไปแล้วเมื่อคำนึงถึงทิศทางในอนาคตของวงการเกม
'Sony และ Nintendo ล้วนมีอิทธิพลมากๆ ในอุตสาหกรรมเกมปัจจุบัน แต่บริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้มักมีปัญหาในการแข่งขันในระดับที่สูงกว่า ซึ่งเป็นทิศทางที่วงการกำลังขยับไปในอนาคต การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้น่าจะเป็นความพยายามของ Microsoft ที่จะแข่งกับบริษัทอย่าง Google, Amazon, Facebook, และอื่นๆ มากกว่า โดยการครอบครอง Activision Blizzard จะทำให้ Microsoft อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งมากพอจะแข่งกับบริษัทเหล่านี้ได้โดยตรง'
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าข่าวการซื้อกิจการบริษัท Activision Blizzard โดย Microsoft จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของวงการเกมอย่างใหญ่หลวง และผู้ที่น่าจะรู้สึกได้ถึงผลกระทบนี้มากเป็นอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นบริษัท Sony ผู้ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Microsoft ในตลาดเกมคอนโซล โดยรายงานล่าสุดของสื่อ Bloomberg ได้เปิดเผยว่ามูลค่าหุ้นของ Sony ได้ตกลงมากกว่า 10% นับตั้งแต่ที่ข่าวการซื้อกิจการถูกเปิดเผยขึ้น ซึ่งมีมูลค่ารวมกันกว่า $2 หมื่นล้าน (หรือราว 6.6 แสนล้านบาท) เลยทีเดียว!
จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงาน Morningstar Research เปิดเผยว่าการเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ของ Microsoft ในราคาสูงถึง $6.8 หมื่นล้าน (ราว 2.2 แสนล้านบาท) อาจทำให้นักลงทุนหลายคนรู้สึกขาดความมั่นใจในศักยภาพของ Sony ในการแข่งขันกับ Microsoft ในอนาคตเมื่อค่ายอาจไม่สามารถวางจำหน่ายเกมชื่อดังจำนวนมากที่ Activision ถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Call of Duty, Diablo, Overwatch, และอื่นๆ อีกมากมาย
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จากบริษัท DFC Intelligence ก็ได้ออกความเห็นว่าการซื้อกิจการของ Microsoft ครั้งนี้ อาจบ่งชี้ว่า Microsoft ไม่ได้มองบริษัทเกมอย่าง Sony หรือ Nintendo เป็นคู่แข่งอีกต่อไปแล้วเมื่อคำนึงถึงทิศทางในอนาคตของวงการเกม
'Sony และ Nintendo ล้วนมีอิทธิพลมากๆ ในอุตสาหกรรมเกมปัจจุบัน แต่บริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้มักมีปัญหาในการแข่งขันในระดับที่สูงกว่า ซึ่งเป็นทิศทางที่วงการกำลังขยับไปในอนาคต การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้น่าจะเป็นความพยายามของ Microsoft ที่จะแข่งกับบริษัทอย่าง Google, Amazon, Facebook, และอื่นๆ มากกว่า โดยการครอบครอง Activision Blizzard จะทำให้ Microsoft อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งมากพอจะแข่งกับบริษัทเหล่านี้ได้โดยตรง'