ต้องยอมรับว่า Sifu เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความสนใจจากสายตาของเกมเมอร์จำนวนมาก ด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่ผสมผสานเข้ากับแนวเกม Beat-em-ups ที่เน้นสะใจ จึงทำให้เกมนี้ต่างถูกพูดถึงไปในวงกว้างภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
และ ณ ตอนนี้ก็ใกล้วันที่ตัวเกมจะออกวางจำหน่ายบน PC แล้ว ซึ่งได้มีสื่อต่างประเทศหลากหลายเจ้าได้สัมผัสกับตัวเกม และมาบอกเล่าถึงความคิดเห็นของตัวเองในรีวิวเช่นกัน
ตัวเกมจะยังคงรักษาความยอดเยี่ยมไว้ได้เหมือนเมื่อครั้งตอน Preview ไหม? เราจะมาสรุปให้อ่านกันเองครับ
ความเห็นจากทาง IGN
เนื้อเรื่องภายในเกมจะไม่เล่าออกมาตรง ๆ แต่จะให้ผู้เล่นออกตามหา และปะติดปะต่อเรื่องราวเอง ซึ่งออกแบบออกมาได้ค่อนข้างดี เพราะในบางครั้ง เมื่อผู้เล่นตามไปจนเจอเบาะแส มันอาจจะเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใหม่ได้อีกด้วย
ระบบต่อสู้ของ Sifu ถือเป็นหนึ่งในระบบต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลย ทุกการปะทะ ทุกการโต้กลับ และเสียงของหมัดที่ชนเข้ากับกระดูกนี่มันสะใจมาก น่าประทับใจจริง ๆ
โดดเด่นจากเกมแนว Beat-em-ups อื่น ๆ ด้วยการที่สามารถใช้สภาพแวดล้อมเข้ามาช่วยสู้ได้ ทำให้ผู้เล่นต้องสังเกตสภาพแวดล้อม และคอยวางแผนให้ตัวเองได้เปรียบ
การควบคุมที่ง่ายมาก ปุ่มโจมตีสองปุ่ม แต่สามารถต่อยอดเป็นคอมโบที่หลากหลาย
ระบบการป้องกันคือหนึ่งในหัวใจหลักเลย ด้วยระบบ Structure Meter คล้ายกับเกม Sekiro แถมยังมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งโยกหลบ ป้องกัน ไปจนถึงสวนกลับ ช่วยทำให้การต่อสู้ในเกมเร้าใจมาก
AI ในเกมทำออกมาได้ดี มันจะบีบให้ผู้เล่นต้องเก่งขึ้น ไม่งั้นก็ตายซ้ำอยู่แบบนั้น แถมพวกมันจะไม่ยืนเข้ามาทีละตัวด้วย แต่จะเข้ามาพร้อม ๆ กัน
รูปแบบการโจมตีของศัตรูก็หลากหลายดี ถึงน่าจะจำได้หากเล่นไปสักพัก แต่ถ้าเราไม่ได้พุ่งสมาธิไปที่การต่อสู้มากพอ ตัวผู้เล่นอาจจะเจ็บหนักเลยก็ได้ หากพลาดแม้เพียงครั้งเดียว
ระบบอายุที่สร้างสรรค์ หากตายแล้วอายุจะเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เล่นมีเดิมพันที่สูงขึ้น
ถึงตัวเกมจะดูสั้นที่มีทั้งหมด 5 ด่าน แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้ว กว่าจะจบเกมครั้งแรกได้ก็ปาไปเกือบ 10 ชั่วโมง เพราะนี่ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย
โดยพื้นฐานแล้ว Sifu อาจจะคล้ายเกม Roguelike ที่เกิด ตาย วนเวียน และทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เพราะ Sifu ไม่มีองค์ประกอบของการสุ่มเข้ามา เพราะฉะนั้นผู้เล่นจะได้เจอกับ อาวุธเดิม ศัตรูเดิม และบอสตัวเดิมทุกครั้งที่ตาย แต่ตรงนี้นี่เองที่เป็นเหมือนข้อเสียเล็ก ๆ ในการนำเสนอ เพราะการที่ให้ผู้เล่นทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ มันไม่ใช่การออกแบบเกมที่น่าสนุกเท่าไรอยู่แล้ว
มีระบบสกิลที่สามารถทำให้ติดตัวถาวรได้ เป็นตัวช่วยให้เกมง่ายขึ้น
สกิลส่วนใหญ่มักจะต้องใช้ในสถานการณ์เฉพาะเท่านั้น เพราะงั้นบางทีเลยเสีย XP ไปกับสกิลที่ไม่ค่อยได้ใช้เลย
แม้สกิลจะดูเท่ และน่าตื่นตาตื่นใจ แต่มันไม่ได้ใช้บ่อยเท่ากับความสามารถหลักของตัวละครที่เกมให้มาตั้งแต่ต้นหรอก
Sifu เป็นเหมือนตัวแทนของแนว Beat-em-ups ในยุคสมัยใหม่ และได้สร้างแนวทางที่เกมในประเภทเดียวกันควรจะเป็น
ความเห็นจากทาง Gamespot
ระบบต่อสู้ทำออกมาดีมาก ไม่ว่าจะทั้งในเชิงรุกหรือเชิงรับ ทุกอย่างมันสะใจ และช่วยเติมเต็มให้ผู้เล่นเกมต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
สามารถถ่ายทอดวิทยายุทธ์ Pak Mei ได้เป็นอย่างดี ทุกการโจมตีรู้สึกได้ถึงแรงปะทะจริง ๆ
ระบบอายุที่เพิ่มขึ้นหลังจากการตาย สร้างเอกลักษณ์ให้เกมเป็นอย่างมาก
สามารถเล่นซ้ำในด่านเดิมได้หลายรอบ เพราะถึงให้จะเป็นการต่อสู้กับศัตรูกลุ่มเดิม แต่ช่วงจังหวะปะทะจะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นอีกด้วย
ในบางครั้งมุมกล้องอาจจะแย่ไปเสียหน่อย ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
เนื้อเรื่องกับตัวละครหลักที่ดาด ๆ ไร้มิติทำให้ไม่น่าติดตาม
มีระบบที่ให้สิ่งตอบแทนสำหรับผู้เล่นที่กล้าเสี่ยง ช่วยให้การต่อสู้ตื่นเต้นเข้าไปอีก
มีทางลัดสำหรับผู้เล่นที่ชอบสำรวจ ช่วยให้สามารถกลับมาเล่นซ้ำ หรือกลับเข้าไปสู้กับบอสได้ไวยิ่งขึ้น ไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นทั้งหมด
ตัวเกมถ่ายทอดอารมณ์ของภาพยนตร์กังฟูได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบภาพยนตร์แนวนี้ น่าจะหลงรักเกม Sifu ได้ไม่ยาก
Sifu คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเกมแนว Beat-em-ups ในยุคสมัยใหม่ ด้วยระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึก ไปจนถึงระบบอายุตัวละครที่แปลกใหม่ ทั้งหมดช่วยให้ผู้เล่นต้องรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอตลอดการเล่นในแต่ละรอบ
ความเห็นจากทาง Gamesradar
Sifu ไม่เหมือนกับเกมต่อสู้ทั่วไป ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจถึงการกระทำลำดับต่อไป หากคิดว่าการรัวปุ่มโจมตีเพียงอย่างดี จะสามารถชนะเกมนี้ได้ คุณคิดผิดแล้ว
น่าแปลกที่เมื่อเวลาเราตาย โดยปกติแล้ว คนเล่นมักจะหัวร้อน แต่เหมือนกับเกม Sifu มีเสน่ห์ดึงดูดบางอย่าง ที่เมื่อผู้เล่นตายแล้ว ผู้เล่นจะอยากลุกขึ้นมาใหม่ เพื่อสู้ต่อไปจนกว่าจะชนะ
ระบบอายุที่แปลกใหม่ แถมยังยุติธรรมกับผู้เล่น เพราะเมื่อผู้เล่นตาย ตัวละครหลักของเราจะมีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งจุดที่อายุเพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้ตัวละครหลักเราโจมตีแรงขึ้น โดยแลกมากับพลังชีวิตที่น้อยลงเช่นกัน
ซึ่งสำหรับคนที่เล่นจนชำนาญแล้ว มันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่ยังเล่นไม่คล่อง การที่ตัวละครหลักเราเปราะบาง ตายง่าย นี่คือบทลงโทษที่ใหญ่หลวงเลยทีเดียว
ระบบสกิลที่ให้ผู้เล่นตัดสินใจ โดยจะมีตัวเลือกระหว่างปลดล็อกแบบธรรมดา หรือปลดล็อกแบบถาวรที่จะต้องใช้ XP มากขึั้น
ระบบการต่อสู้ของ Sifu มันไม่ได้แค่สนุก แต่มันช่วยเติมเต็มความสุข แถมยังชวนให้เสพติดอีกด้วย
แม้ว่าปุ่มการกระทำในเกมจะมีแค่ 4 ปุ่ม นั่นคือ โจมตีหนัก โจมตีเบา บล็อก และหลบหลีก แต่การต่อคอมโบก็ทำได้ลื่นไหล จนมีมากถึง 150 ท่าเลยทีเดียว
อัตราการเรียนรู้ที่เกมนี้มอบให้ผู้เล่น อยู่ในจุดที่กำลังพอเหมาะ พอเจาะ ทำให้เกมเข้าถึงง่าย แม้จะยากก็ตามที
แอบน่าเสียดายที่ตัวเกมสั้นไปหน่อย แต่ก็ยังพอมีคุณค่าให้เล่นซ้ำ
ประเภทของศัตรูมีน้อย ทำให้รู้สึกไม่หลากหลาย หากจับทางได้
Sifu เป็นเกมที่มีแนวคิดแปลกใหม่ แถมยังนำเสนอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งระบบต่อสู้ยังเป็นอะไรที่สะใจที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมาเลย
ความเห็นจากทาง Polygon
Sifu คือเกมที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนเป็นไอ้หนุ่มกังฟูสุดเจ๋ง ราวกับหลุดออกมาจากในภาพยนตร์
การทำอนิเมชันต่อสู้ในเกมนี้สุดยอดมาก ทุกอย่างมันลื่นไหลไปหมด
ผู้เล่นที่ทางเลือกที่หลากหลายในการจัดการศัตรู ด้วยระบบที่อนุญาตให้สามารถใช้สภาพแวดล้อมในการช่วยสู้ได้
ถึงอย่างนั้น AI ของศัตรูก็ไม่ได้โง่จนยืนเฉย ๆ หรือเดินเข้ามาทีละตัวให้ผู้เล่นอัด แต่มันจะกรูกันเข้ามาพร้อมกัน ซึ่งตรงจุดนี้นี่เองที่ทำให้เกมมีความท้าทายขึ้นเป็นอย่างมาก
ถึงจะเป็นเกมต่อสู้ แต่การป้องกันคือหัวใจหลัก การป้องกันที่ดี จะนำไปสู่การต่อสู้ที่ดีได้เช่นกัน
ในตอนแรกอาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้เยอะ แต่เมื่อเล่นเป็นแล้ว มันก็คุ้มค่าที่จะลงทุน
ระบบการต่อสู้เป็นอะไรที่สะใจมาก จะบอกว่าเกมนี้ทำให้คนเล่นเสพติดความรุนแรงก็ว่าได้
Sifu มีส่วนผสมของความเป็น Roguelike แต่ก็ไม่ทั้งหมด ตัวเกมจะถูกรีเซ็ตให้คุณไปเริ่มใหม่เมื่อตาย แต่จำนวนศัตรู ไปจนถึงการวางศัตรู และฉากต่าง ๆ จะยังเหมือนเดิม ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยทำให้เกมง่ายขึ้นนั่นเอง
ในช่วงแรกที่เจอเหตุการณ์ซ้ำ ๆ มันก็ยังรู้สึกดีอยู่หรอก แต่หลังจากที่คุณตายซ้ำ ตายซากจนมาเจอบทพูดเดิม ๆ นับโหล มันก็คงต้องมีบ้างที่จะรู้สึกเบื่อกันบ้าง ซึ่งทางผู้พัฒนาน่าจะใส่ปุ่มให้กด Skip ข้ามช่วยพูดไปได้เลยนะ
Sifu เป็นเกมที่น่าหงุดหงิดอย่างเหลือเชื่อ น่าองค์ประกอบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไปวนมาให้พบเจอนับครั้งไม่ถ้วนทุกครั้งที่เล่นใหม่ ถึงระบบต่อสู้จะสนุกสุด ๆ ก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถกลบข้อด้อยตรงนี้ไปได้
แถมด้วยแนวคิดและไอเดียแปลก ๆ อย่างการเพิ่มอายุของผู้เล่น ที่บีบให้ผู้เล่นต้องพัฒนาฝีมือหากอยากจะชนะเกม ก็กลับไปทำลายความสุขของคอเกมสาย Casual ได้ง่าย ๆ เลยอีกด้วย
ความเห็นจากทาง Destructoid
การเล่น Sifu มันเหมือนกับการปีนภูเขาน่ะแหละ ยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูงเท่าไร ในตอนที่ตกลงมา ก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น
การจะเล่นเกมนี้ให้จบได้ ไม่ใช่แค่เพียงเข้าใจถึงระบบการเล่นเพียงอย่างเดียว แต่ผู้เล่นจะต้องใจเย็น และตัดสินใจให้ดีอีกด้วย
นี่ไม่ใช่เกมที่ง่าย เพราะตัวละครหลักของค่อนข้างเปราะบาง แถมศัตรูจะยังเข้ามาล้อมรอบคุณจากทุกทิศทางอีกด้วย
การตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดที่แท้จริง เพราะเมื่อคุณตาย คุณจะกลับมาในอายุที่มากขึ้น โดยตัวเกมจะให้อายุตั้งต้นมาที่ 20 และมันจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเมื่อคุณตายซ้ำตายซาก จนหากคุณตายและอายุถึง 70 ปี เมื่อไร หลังจากนั้นคือเกมโอเวอร์ของแท้
Sifu เป็นหนึ่งในเกมที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมาเลย
ตัวเกมไม่ได้ใจดี ที่จะรีเซ็ตอายุให้หากคุณผ่านด่าน อายุของคุณจะเท่าเดิมไปเรื่อยจนกว่าจะจบเกมเลย ซึ่งหากคุณตายเยอะในด่านแรกของเกม คุณจะต้องไปลุยด่านหลัง ๆ โดยที่มีชีวิตสำรองน้อยลงทั้งแบบนั้น ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะช่วยให้เกมทวีความยากขึ้นไปอีก
การจะจบเกม Sifu นี้ได้ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ และผิดพลาดน้อยที่สุด สงสัยจริง ๆ ว่าจะมีสักกี่คนกันนะที่ได้สัมผัสกับฉากจบของตัวเกมด้วยตัวเอง
การออกไปสำรวจฉาก จะพาผู้เล่นไปเจอกับทางลัด ซึ่งจะมีพวก Mini Boss รออยู่ด้วย
ตัวเกมจะให้ทางเลือกผู้เล่นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการปลดสกิล ไปจนถึงการเลือกผ่านด่าน ที่ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะรีบจบ รีบออกจากด่านนี้ หรือจะสำรวจพื้นที่เพิ่มอีกหน่อย เพื่อจัดการศัตรู และเอา XP มาอัปสกิลดีนะ แน่นอนว่าการตะลอนในแผนที่เดิมต่อ ก็อาจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองเช่นกัน
การต่อสู้กับบอสหลักทั้ง 5 น่าประทับใจมาก แต่ละตัวจะมีท่าและพื้นที่ในฉากเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าแต่ละตัวก็จะมีวิธีรับมือที่แตกต่างกัน ช่วยให้การต่อสู้นี้กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่จะติดตรึงในใจของคนเล่นไปอีกนาน
Sifu มอบความท้าทายให้กับผู้เล่นเป็นอย่างสูง ด้วยระบบที่บีบคั้น แต่ความสนุกที่มาจากการต่อสู้ จะทำให้ผู้เล่นอยากกลับไปเล่นซ้ำ แม้จะต้องเริ่มใหม่อีกกี่รอบก็ตามที
เรียกได้ว่า เป็นไม่กี่เกมที่ความเห็นของหลายสำนักต่างไปในทิศทางเดียวกัน แถมยังกวาดคะแนนไปได้สูงอีกด้วย ถึงแม้จะมีจังหวะตกม้าตายในเรื่องของการเล่นซ้ำ กับการออกแบบเลเวลที่แอบน่าเบื่อ แต่ด้วยระบบอายุที่แปลกใหม่ การต่อสู้ที่เร้าใจ ไปจนถึงอนิเมชันรุกรับที่ลื่นไหล ตัวเกม Sifu จึงอาจจะสามารถขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเกม Action ยอดเยี่ยมประจำปีได้เลย
แหล่งข้อมูล: IGN
ต้องยอมรับว่า Sifu เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความสนใจจากสายตาของเกมเมอร์จำนวนมาก ด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่ผสมผสานเข้ากับแนวเกม Beat-em-ups ที่เน้นสะใจ จึงทำให้เกมนี้ต่างถูกพูดถึงไปในวงกว้างภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
และ ณ ตอนนี้ก็ใกล้วันที่ตัวเกมจะออกวางจำหน่ายบน PC แล้ว ซึ่งได้มีสื่อต่างประเทศหลากหลายเจ้าได้สัมผัสกับตัวเกม และมาบอกเล่าถึงความคิดเห็นของตัวเองในรีวิวเช่นกัน
ตัวเกมจะยังคงรักษาความยอดเยี่ยมไว้ได้เหมือนเมื่อครั้งตอน Preview ไหม? เราจะมาสรุปให้อ่านกันเองครับ
ความเห็นจากทาง IGN
เนื้อเรื่องภายในเกมจะไม่เล่าออกมาตรง ๆ แต่จะให้ผู้เล่นออกตามหา และปะติดปะต่อเรื่องราวเอง ซึ่งออกแบบออกมาได้ค่อนข้างดี เพราะในบางครั้ง เมื่อผู้เล่นตามไปจนเจอเบาะแส มันอาจจะเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใหม่ได้อีกด้วย
ระบบต่อสู้ของ Sifu ถือเป็นหนึ่งในระบบต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลย ทุกการปะทะ ทุกการโต้กลับ และเสียงของหมัดที่ชนเข้ากับกระดูกนี่มันสะใจมาก น่าประทับใจจริง ๆ
โดดเด่นจากเกมแนว Beat-em-ups อื่น ๆ ด้วยการที่สามารถใช้สภาพแวดล้อมเข้ามาช่วยสู้ได้ ทำให้ผู้เล่นต้องสังเกตสภาพแวดล้อม และคอยวางแผนให้ตัวเองได้เปรียบ
การควบคุมที่ง่ายมาก ปุ่มโจมตีสองปุ่ม แต่สามารถต่อยอดเป็นคอมโบที่หลากหลาย
ระบบการป้องกันคือหนึ่งในหัวใจหลักเลย ด้วยระบบ Structure Meter คล้ายกับเกม Sekiro แถมยังมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งโยกหลบ ป้องกัน ไปจนถึงสวนกลับ ช่วยทำให้การต่อสู้ในเกมเร้าใจมาก
AI ในเกมทำออกมาได้ดี มันจะบีบให้ผู้เล่นต้องเก่งขึ้น ไม่งั้นก็ตายซ้ำอยู่แบบนั้น แถมพวกมันจะไม่ยืนเข้ามาทีละตัวด้วย แต่จะเข้ามาพร้อม ๆ กัน
รูปแบบการโจมตีของศัตรูก็หลากหลายดี ถึงน่าจะจำได้หากเล่นไปสักพัก แต่ถ้าเราไม่ได้พุ่งสมาธิไปที่การต่อสู้มากพอ ตัวผู้เล่นอาจจะเจ็บหนักเลยก็ได้ หากพลาดแม้เพียงครั้งเดียว
ระบบอายุที่สร้างสรรค์ หากตายแล้วอายุจะเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เล่นมีเดิมพันที่สูงขึ้น
ถึงตัวเกมจะดูสั้นที่มีทั้งหมด 5 ด่าน แต่พอได้เล่นจริง ๆ แล้ว กว่าจะจบเกมครั้งแรกได้ก็ปาไปเกือบ 10 ชั่วโมง เพราะนี่ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลย
โดยพื้นฐานแล้ว Sifu อาจจะคล้ายเกม Roguelike ที่เกิด ตาย วนเวียน และทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เพราะ Sifu ไม่มีองค์ประกอบของการสุ่มเข้ามา เพราะฉะนั้นผู้เล่นจะได้เจอกับ อาวุธเดิม ศัตรูเดิม และบอสตัวเดิมทุกครั้งที่ตาย แต่ตรงนี้นี่เองที่เป็นเหมือนข้อเสียเล็ก ๆ ในการนำเสนอ เพราะการที่ให้ผู้เล่นทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ มันไม่ใช่การออกแบบเกมที่น่าสนุกเท่าไรอยู่แล้ว
มีระบบสกิลที่สามารถทำให้ติดตัวถาวรได้ เป็นตัวช่วยให้เกมง่ายขึ้น
สกิลส่วนใหญ่มักจะต้องใช้ในสถานการณ์เฉพาะเท่านั้น เพราะงั้นบางทีเลยเสีย XP ไปกับสกิลที่ไม่ค่อยได้ใช้เลย
แม้สกิลจะดูเท่ และน่าตื่นตาตื่นใจ แต่มันไม่ได้ใช้บ่อยเท่ากับความสามารถหลักของตัวละครที่เกมให้มาตั้งแต่ต้นหรอก
Sifu เป็นเหมือนตัวแทนของแนว Beat-em-ups ในยุคสมัยใหม่ และได้สร้างแนวทางที่เกมในประเภทเดียวกันควรจะเป็น
ความเห็นจากทาง Gamespot
ระบบต่อสู้ทำออกมาดีมาก ไม่ว่าจะทั้งในเชิงรุกหรือเชิงรับ ทุกอย่างมันสะใจ และช่วยเติมเต็มให้ผู้เล่นเกมต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
สามารถถ่ายทอดวิทยายุทธ์ Pak Mei ได้เป็นอย่างดี ทุกการโจมตีรู้สึกได้ถึงแรงปะทะจริง ๆ
ระบบอายุที่เพิ่มขึ้นหลังจากการตาย สร้างเอกลักษณ์ให้เกมเป็นอย่างมาก
สามารถเล่นซ้ำในด่านเดิมได้หลายรอบ เพราะถึงให้จะเป็นการต่อสู้กับศัตรูกลุ่มเดิม แต่ช่วงจังหวะปะทะจะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นอีกด้วย
ในบางครั้งมุมกล้องอาจจะแย่ไปเสียหน่อย ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถรับรู้ได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
เนื้อเรื่องกับตัวละครหลักที่ดาด ๆ ไร้มิติทำให้ไม่น่าติดตาม
มีระบบที่ให้สิ่งตอบแทนสำหรับผู้เล่นที่กล้าเสี่ยง ช่วยให้การต่อสู้ตื่นเต้นเข้าไปอีก
มีทางลัดสำหรับผู้เล่นที่ชอบสำรวจ ช่วยให้สามารถกลับมาเล่นซ้ำ หรือกลับเข้าไปสู้กับบอสได้ไวยิ่งขึ้น ไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นทั้งหมด
ตัวเกมถ่ายทอดอารมณ์ของภาพยนตร์กังฟูได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบภาพยนตร์แนวนี้ น่าจะหลงรักเกม Sifu ได้ไม่ยาก
Sifu คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเกมแนว Beat-em-ups ในยุคสมัยใหม่ ด้วยระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึก ไปจนถึงระบบอายุตัวละครที่แปลกใหม่ ทั้งหมดช่วยให้ผู้เล่นต้องรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอตลอดการเล่นในแต่ละรอบ
ความเห็นจากทาง Gamesradar
Sifu ไม่เหมือนกับเกมต่อสู้ทั่วไป ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจถึงการกระทำลำดับต่อไป หากคิดว่าการรัวปุ่มโจมตีเพียงอย่างดี จะสามารถชนะเกมนี้ได้ คุณคิดผิดแล้ว
น่าแปลกที่เมื่อเวลาเราตาย โดยปกติแล้ว คนเล่นมักจะหัวร้อน แต่เหมือนกับเกม Sifu มีเสน่ห์ดึงดูดบางอย่าง ที่เมื่อผู้เล่นตายแล้ว ผู้เล่นจะอยากลุกขึ้นมาใหม่ เพื่อสู้ต่อไปจนกว่าจะชนะ
ระบบอายุที่แปลกใหม่ แถมยังยุติธรรมกับผู้เล่น เพราะเมื่อผู้เล่นตาย ตัวละครหลักของเราจะมีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งจุดที่อายุเพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้ตัวละครหลักเราโจมตีแรงขึ้น โดยแลกมากับพลังชีวิตที่น้อยลงเช่นกัน
ซึ่งสำหรับคนที่เล่นจนชำนาญแล้ว มันคงไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับคนที่ยังเล่นไม่คล่อง การที่ตัวละครหลักเราเปราะบาง ตายง่าย นี่คือบทลงโทษที่ใหญ่หลวงเลยทีเดียว
ระบบสกิลที่ให้ผู้เล่นตัดสินใจ โดยจะมีตัวเลือกระหว่างปลดล็อกแบบธรรมดา หรือปลดล็อกแบบถาวรที่จะต้องใช้ XP มากขึั้น
ระบบการต่อสู้ของ Sifu มันไม่ได้แค่สนุก แต่มันช่วยเติมเต็มความสุข แถมยังชวนให้เสพติดอีกด้วย
แม้ว่าปุ่มการกระทำในเกมจะมีแค่ 4 ปุ่ม นั่นคือ โจมตีหนัก โจมตีเบา บล็อก และหลบหลีก แต่การต่อคอมโบก็ทำได้ลื่นไหล จนมีมากถึง 150 ท่าเลยทีเดียว
อัตราการเรียนรู้ที่เกมนี้มอบให้ผู้เล่น อยู่ในจุดที่กำลังพอเหมาะ พอเจาะ ทำให้เกมเข้าถึงง่าย แม้จะยากก็ตามที
แอบน่าเสียดายที่ตัวเกมสั้นไปหน่อย แต่ก็ยังพอมีคุณค่าให้เล่นซ้ำ
ประเภทของศัตรูมีน้อย ทำให้รู้สึกไม่หลากหลาย หากจับทางได้
Sifu เป็นเกมที่มีแนวคิดแปลกใหม่ แถมยังนำเสนอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งระบบต่อสู้ยังเป็นอะไรที่สะใจที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมาเลย
ความเห็นจากทาง Polygon
Sifu คือเกมที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนเป็นไอ้หนุ่มกังฟูสุดเจ๋ง ราวกับหลุดออกมาจากในภาพยนตร์
การทำอนิเมชันต่อสู้ในเกมนี้สุดยอดมาก ทุกอย่างมันลื่นไหลไปหมด
ผู้เล่นที่ทางเลือกที่หลากหลายในการจัดการศัตรู ด้วยระบบที่อนุญาตให้สามารถใช้สภาพแวดล้อมในการช่วยสู้ได้
ถึงอย่างนั้น AI ของศัตรูก็ไม่ได้โง่จนยืนเฉย ๆ หรือเดินเข้ามาทีละตัวให้ผู้เล่นอัด แต่มันจะกรูกันเข้ามาพร้อมกัน ซึ่งตรงจุดนี้นี่เองที่ทำให้เกมมีความท้าทายขึ้นเป็นอย่างมาก
ถึงจะเป็นเกมต่อสู้ แต่การป้องกันคือหัวใจหลัก การป้องกันที่ดี จะนำไปสู่การต่อสู้ที่ดีได้เช่นกัน
ในตอนแรกอาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้เยอะ แต่เมื่อเล่นเป็นแล้ว มันก็คุ้มค่าที่จะลงทุน
ระบบการต่อสู้เป็นอะไรที่สะใจมาก จะบอกว่าเกมนี้ทำให้คนเล่นเสพติดความรุนแรงก็ว่าได้
Sifu มีส่วนผสมของความเป็น Roguelike แต่ก็ไม่ทั้งหมด ตัวเกมจะถูกรีเซ็ตให้คุณไปเริ่มใหม่เมื่อตาย แต่จำนวนศัตรู ไปจนถึงการวางศัตรู และฉากต่าง ๆ จะยังเหมือนเดิม ซึ่งตรงจุดนี้จะช่วยทำให้เกมง่ายขึ้นนั่นเอง
ในช่วงแรกที่เจอเหตุการณ์ซ้ำ ๆ มันก็ยังรู้สึกดีอยู่หรอก แต่หลังจากที่คุณตายซ้ำ ตายซากจนมาเจอบทพูดเดิม ๆ นับโหล มันก็คงต้องมีบ้างที่จะรู้สึกเบื่อกันบ้าง ซึ่งทางผู้พัฒนาน่าจะใส่ปุ่มให้กด Skip ข้ามช่วยพูดไปได้เลยนะ
Sifu เป็นเกมที่น่าหงุดหงิดอย่างเหลือเชื่อ น่าองค์ประกอบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ไปวนมาให้พบเจอนับครั้งไม่ถ้วนทุกครั้งที่เล่นใหม่ ถึงระบบต่อสู้จะสนุกสุด ๆ ก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถกลบข้อด้อยตรงนี้ไปได้
แถมด้วยแนวคิดและไอเดียแปลก ๆ อย่างการเพิ่มอายุของผู้เล่น ที่บีบให้ผู้เล่นต้องพัฒนาฝีมือหากอยากจะชนะเกม ก็กลับไปทำลายความสุขของคอเกมสาย Casual ได้ง่าย ๆ เลยอีกด้วย
ความเห็นจากทาง Destructoid
การเล่น Sifu มันเหมือนกับการปีนภูเขาน่ะแหละ ยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูงเท่าไร ในตอนที่ตกลงมา ก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น
การจะเล่นเกมนี้ให้จบได้ ไม่ใช่แค่เพียงเข้าใจถึงระบบการเล่นเพียงอย่างเดียว แต่ผู้เล่นจะต้องใจเย็น และตัดสินใจให้ดีอีกด้วย
นี่ไม่ใช่เกมที่ง่าย เพราะตัวละครหลักของค่อนข้างเปราะบาง แถมศัตรูจะยังเข้ามาล้อมรอบคุณจากทุกทิศทางอีกด้วย
การตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดที่แท้จริง เพราะเมื่อคุณตาย คุณจะกลับมาในอายุที่มากขึ้น โดยตัวเกมจะให้อายุตั้งต้นมาที่ 20 และมันจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเมื่อคุณตายซ้ำตายซาก จนหากคุณตายและอายุถึง 70 ปี เมื่อไร หลังจากนั้นคือเกมโอเวอร์ของแท้
Sifu เป็นหนึ่งในเกมที่ยากที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นมาเลย
ตัวเกมไม่ได้ใจดี ที่จะรีเซ็ตอายุให้หากคุณผ่านด่าน อายุของคุณจะเท่าเดิมไปเรื่อยจนกว่าจะจบเกมเลย ซึ่งหากคุณตายเยอะในด่านแรกของเกม คุณจะต้องไปลุยด่านหลัง ๆ โดยที่มีชีวิตสำรองน้อยลงทั้งแบบนั้น ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะช่วยให้เกมทวีความยากขึ้นไปอีก
การจะจบเกม Sifu นี้ได้ นั่นหมายความว่าคุณจะต้องทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ และผิดพลาดน้อยที่สุด สงสัยจริง ๆ ว่าจะมีสักกี่คนกันนะที่ได้สัมผัสกับฉากจบของตัวเกมด้วยตัวเอง
การออกไปสำรวจฉาก จะพาผู้เล่นไปเจอกับทางลัด ซึ่งจะมีพวก Mini Boss รออยู่ด้วย
ตัวเกมจะให้ทางเลือกผู้เล่นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการปลดสกิล ไปจนถึงการเลือกผ่านด่าน ที่ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะรีบจบ รีบออกจากด่านนี้ หรือจะสำรวจพื้นที่เพิ่มอีกหน่อย เพื่อจัดการศัตรู และเอา XP มาอัปสกิลดีนะ แน่นอนว่าการตะลอนในแผนที่เดิมต่อ ก็อาจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ตัวเองเช่นกัน
การต่อสู้กับบอสหลักทั้ง 5 น่าประทับใจมาก แต่ละตัวจะมีท่าและพื้นที่ในฉากเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าแต่ละตัวก็จะมีวิธีรับมือที่แตกต่างกัน ช่วยให้การต่อสู้นี้กลายเป็นหนึ่งในความทรงจำที่จะติดตรึงในใจของคนเล่นไปอีกนาน
Sifu มอบความท้าทายให้กับผู้เล่นเป็นอย่างสูง ด้วยระบบที่บีบคั้น แต่ความสนุกที่มาจากการต่อสู้ จะทำให้ผู้เล่นอยากกลับไปเล่นซ้ำ แม้จะต้องเริ่มใหม่อีกกี่รอบก็ตามที
เรียกได้ว่า เป็นไม่กี่เกมที่ความเห็นของหลายสำนักต่างไปในทิศทางเดียวกัน แถมยังกวาดคะแนนไปได้สูงอีกด้วย ถึงแม้จะมีจังหวะตกม้าตายในเรื่องของการเล่นซ้ำ กับการออกแบบเลเวลที่แอบน่าเบื่อ แต่ด้วยระบบอายุที่แปลกใหม่ การต่อสู้ที่เร้าใจ ไปจนถึงอนิเมชันรุกรับที่ลื่นไหล ตัวเกม Sifu จึงอาจจะสามารถขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในเกม Action ยอดเยี่ยมประจำปีได้เลย
แหล่งข้อมูล: IGN