ล่าสุดประกาศเปิดตัวแล้วสำหรับภาคต่อของเกมสร้างสวนสนุกไดโนเสาร์ Jurassic World Evolution 2 ซึ่งถึงแม้ภาคแรกจะได้รับความนิยมมาก แต่มันก็ยังมีปัญหาเล็กๆเช่น เกมไม่ท้าทาย AI ไดโนเสาร์ไม่ฉลาดเท่าไร สิ่งก่อสร้างน้อยไม่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งทุกคนหวังว่ามันจะได้รับการแก้ไขในภาคใหม่ ล่าสุดทางนิติยาสาร Game Informer ได้ไปสัมภาษณ์กับทาง Frontier เกี่ยวกับรายละเอียดใหญ่ของภาคนี้ ซึ่งมีออกมาดังนี้ครับ
1. แผนที่ในเกมจะใหญ่กว่าภาคแรกมาก ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างและเลี้ยงไดโนเสาร์ได้จำนวนมาก
2. ไดโนเสาร์แต่ละชนิดจะมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง และมีการแย่งชิงพื้นที่กันด้วย
3.ระบบฟักไข่ ไดโนเสาร์ สามารถออกมาทีเดียวพร้อมๆกันได้ (ในภาคแรกจะออกทีละตัว)เมื่อไดโนเสาร์ออกมาจากโรงฟักไข่ มันจะสำรวจพื้นที่ หากเจอพื้นที่ที่มันชอบ ก็จะยึดเป็นอาณาเขตของมัน
4.ในกรงเดียวกัน สามารถสร้างสภาพแวดล้อมแตกต่างกันได้ โดยเกมจะยึดระบบเป็นอาณาเขตเป็นหลัก ผมขออธิบายตามนี้ ในภาคแรกเวลาเพื่อนๆสร้างกรงไดโนเสาร์ระบบเกมจะยึดค่าสภาพแวดล้อมเกมทั้งหมดเป็นพื้นที่เดียว ในกรงเดียว แต่ในภาค 2 มันจะยืดหยุ่นกว่ามาก คือ 1 กรง สามารถทำให้มีสภาพแวดล้อมของไดโนเสาร์ได้หลายสายพันธุ์ กรงนึงอยู่ได้หลายตัว มันจะแบ่งเป็นอาณาเขตของมันเอง ไม่จำเป็นต้องสร้างหลายๆกรง
5.ระบบอาณาเขตของไดโนเสาร์ จะยืดหยุ่นมาก ยกตัวอย่าง Triceratop อยู่ในพื้นที่นึงที่มันยึดอาณาเขต มันสามารถเคลือนย้ายจากพื้นที่เก่าที่มันอยู่ ไปยังพื้นที่อื่นได้ ทีนี้ถ้าในบริเวณนั้นมันไปเจอสายพันธุ์อื่นที่อยู่ร่วมกันได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจอสายพันธุ์ที่ไม่ถูกกัน มันจะเกิดการแย่งชิงอาณาเขตกันขึ้น
6.ไดโนเสาร์กินพืช ไม่จำเป็นต้องกินจากเครื่องให้อาหาร อีกต่อไป เพราะมันสามารถหากินได้เองตามต้นไม้และหญ้าในธรรมชาติได้ เพียงแต่ถ้ากินจากเครื่องให้อาหารค่าความต้องการจะขึ้นไวกว่า
7.Pteranodon มีอนิเมชั่นการบินแบบไดนามิค ที่แตกต่างกัน มันสามารถบินพร้อมกัน 2-3 ตัวได้
8.หาก Pteranodon มีอาการหงุดหงิด มันจะบินชนกระจกหนีออกไป ป่วนพวกนักท่องเที่ยว และสามารถยิงให้มันสลบเพื่อจับมันกลับเข้ากรง
9.กรงนกในภาคนี้ สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ คุณสามารถเอาอะไรมาวางตกแต่งภายในนี้ได้
10.ไดโนเสาร์สายพันธุ์ขนาดเล็กสามารถออกล่าเป็นฝูงและสู้กับพวกที่ตัวใหญ่กว่าได้
11.การล่าจะไล่ตามเหยื่อแบบไดนามิก จะไม่มีการหยุดรอเหมือนภาคแรก และมีการปรับปรุงระบบการต่อสู้ด้วยเช่นกัน
12.โมซาซอรัสจะไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานในชนิดเดียวภายในเกม เช่นเดียวกับเทราโนดอน มีสัตว์เลื้อยคลานบินได้ชนิดอื่นด้วย
13.หากไดโนเสาร์บาดเจ็บ จะต้องไปรักษาที่ Paleo-Medical Facility (ระบบนี้จะคล้ายๆกับใน Planet Zoo)
14.Paleo-Medical Facility จะมาพร้อมกับรถกู้ชีพที่เรียกว่า Mobile Vet Unit คุณสามารถควบคุมมันได้
15.นักท่องเที่ยวจะมีความต้องการมากขึ้น
16.นักท่องเที่ยวแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ พวกที่ชอบการผจญภัย,พวกชอบธรรมชาติ,พวกต้องการความหรูหรา และ นักท่องเที่ยวทั่วๆไป
ยกตัวอย่าง นักท่องเที่ยวสายผจญภัยอาจจะชอบไปดูพวกไดโนเสาร์ที่กินเนื้อเป็นต้น (คล้ายๆใน Jurassic Park Operation Genesis )
17.อาคารจะสามารถปรับแต่งมากขึ้น ในที่นี้คือ มันไม่ได้มาแบบเป็นสำเร็จรูปเหมือนภาคแรก คือจะให้มาเป็นอาคารเปล่าๆ เราต้องปรับแต่งเองว่าจะให้เป็นอะไร เป็นลานโบลิ่ง เป็นโรงหนัง สปา สามารถเลือกได้ว่าให้มีอะไรบ้างในอาคารเช่น ต้นไม้ หรือโครงกระดูกด้านหน้า ปรับโทนสี
18.เกมจะมีระบบเร่งเวลาให้ สามารถหยุดและเร่งได้ แต่ถ้าเจอบางสถานการณ์จะไม่สามารถเร่งเวลาได้
19.ภัยทางธรรมชาติแบบใหม่ที่เข้ามาคือ 'พายุหิมะ' มันจะส่งผลคือปกคลุ่มทั่วพื้นที่และอาจจะทำให้เครื่องส่งพลังงานเสียหาย
20.ไดโนเสาร์แต่ละตัวจะมี 12 สี และลวดลายมากถึง 7 แบบ และยังมีโมเดลให้เลือกตามที่อิงจากหนัง
อีก
ไดโนเสาร์ที่เปิดเผย ณ ตอนนี้มี 13 ชนิดตามนี้
Acrocanthosaurus
Allosaurus
Amargasaurs
Ankylosaurus
Baryonyx
Brachiosaurus
Camarasaurus
Nasutoceratops
Pteranaodon
Stegosaurus
Triceratops
Tyrannosaurus Rex
ข้อมูล
Raptors Hunt In Packs! Exclusive First Details For Jurassic World Evolution 2 - Game Informer
ล่าสุดประกาศเปิดตัวแล้วสำหรับภาคต่อของเกมสร้างสวนสนุกไดโนเสาร์ Jurassic World Evolution 2 ซึ่งถึงแม้ภาคแรกจะได้รับความนิยมมาก แต่มันก็ยังมีปัญหาเล็กๆเช่น เกมไม่ท้าทาย AI ไดโนเสาร์ไม่ฉลาดเท่าไร สิ่งก่อสร้างน้อยไม่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งทุกคนหวังว่ามันจะได้รับการแก้ไขในภาคใหม่ ล่าสุดทางนิติยาสาร Game Informer ได้ไปสัมภาษณ์กับทาง Frontier เกี่ยวกับรายละเอียดใหญ่ของภาคนี้ ซึ่งมีออกมาดังนี้ครับ
1. แผนที่ในเกมจะใหญ่กว่าภาคแรกมาก ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างและเลี้ยงไดโนเสาร์ได้จำนวนมาก
2. ไดโนเสาร์แต่ละชนิดจะมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง และมีการแย่งชิงพื้นที่กันด้วย
3.ระบบฟักไข่ ไดโนเสาร์ สามารถออกมาทีเดียวพร้อมๆกันได้ (ในภาคแรกจะออกทีละตัว)เมื่อไดโนเสาร์ออกมาจากโรงฟักไข่ มันจะสำรวจพื้นที่ หากเจอพื้นที่ที่มันชอบ ก็จะยึดเป็นอาณาเขตของมัน
4.ในกรงเดียวกัน สามารถสร้างสภาพแวดล้อมแตกต่างกันได้ โดยเกมจะยึดระบบเป็นอาณาเขตเป็นหลัก ผมขออธิบายตามนี้ ในภาคแรกเวลาเพื่อนๆสร้างกรงไดโนเสาร์ระบบเกมจะยึดค่าสภาพแวดล้อมเกมทั้งหมดเป็นพื้นที่เดียว ในกรงเดียว แต่ในภาค 2 มันจะยืดหยุ่นกว่ามาก คือ 1 กรง สามารถทำให้มีสภาพแวดล้อมของไดโนเสาร์ได้หลายสายพันธุ์ กรงนึงอยู่ได้หลายตัว มันจะแบ่งเป็นอาณาเขตของมันเอง ไม่จำเป็นต้องสร้างหลายๆกรง
5.ระบบอาณาเขตของไดโนเสาร์ จะยืดหยุ่นมาก ยกตัวอย่าง Triceratop อยู่ในพื้นที่นึงที่มันยึดอาณาเขต มันสามารถเคลือนย้ายจากพื้นที่เก่าที่มันอยู่ ไปยังพื้นที่อื่นได้ ทีนี้ถ้าในบริเวณนั้นมันไปเจอสายพันธุ์อื่นที่อยู่ร่วมกันได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจอสายพันธุ์ที่ไม่ถูกกัน มันจะเกิดการแย่งชิงอาณาเขตกันขึ้น
6.ไดโนเสาร์กินพืช ไม่จำเป็นต้องกินจากเครื่องให้อาหาร อีกต่อไป เพราะมันสามารถหากินได้เองตามต้นไม้และหญ้าในธรรมชาติได้ เพียงแต่ถ้ากินจากเครื่องให้อาหารค่าความต้องการจะขึ้นไวกว่า
7.Pteranodon มีอนิเมชั่นการบินแบบไดนามิค ที่แตกต่างกัน มันสามารถบินพร้อมกัน 2-3 ตัวได้
8.หาก Pteranodon มีอาการหงุดหงิด มันจะบินชนกระจกหนีออกไป ป่วนพวกนักท่องเที่ยว และสามารถยิงให้มันสลบเพื่อจับมันกลับเข้ากรง
9.กรงนกในภาคนี้ สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ คุณสามารถเอาอะไรมาวางตกแต่งภายในนี้ได้
10.ไดโนเสาร์สายพันธุ์ขนาดเล็กสามารถออกล่าเป็นฝูงและสู้กับพวกที่ตัวใหญ่กว่าได้
11.การล่าจะไล่ตามเหยื่อแบบไดนามิก จะไม่มีการหยุดรอเหมือนภาคแรก และมีการปรับปรุงระบบการต่อสู้ด้วยเช่นกัน
12.โมซาซอรัสจะไม่ใช่สัตว์เลื้อยคลานในชนิดเดียวภายในเกม เช่นเดียวกับเทราโนดอน มีสัตว์เลื้อยคลานบินได้ชนิดอื่นด้วย
13.หากไดโนเสาร์บาดเจ็บ จะต้องไปรักษาที่ Paleo-Medical Facility (ระบบนี้จะคล้ายๆกับใน Planet Zoo)
14.Paleo-Medical Facility จะมาพร้อมกับรถกู้ชีพที่เรียกว่า Mobile Vet Unit คุณสามารถควบคุมมันได้
15.นักท่องเที่ยวจะมีความต้องการมากขึ้น
16.นักท่องเที่ยวแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ พวกที่ชอบการผจญภัย,พวกชอบธรรมชาติ,พวกต้องการความหรูหรา และ นักท่องเที่ยวทั่วๆไป
ยกตัวอย่าง นักท่องเที่ยวสายผจญภัยอาจจะชอบไปดูพวกไดโนเสาร์ที่กินเนื้อเป็นต้น (คล้ายๆใน Jurassic Park Operation Genesis )
17.อาคารจะสามารถปรับแต่งมากขึ้น ในที่นี้คือ มันไม่ได้มาแบบเป็นสำเร็จรูปเหมือนภาคแรก คือจะให้มาเป็นอาคารเปล่าๆ เราต้องปรับแต่งเองว่าจะให้เป็นอะไร เป็นลานโบลิ่ง เป็นโรงหนัง สปา สามารถเลือกได้ว่าให้มีอะไรบ้างในอาคารเช่น ต้นไม้ หรือโครงกระดูกด้านหน้า ปรับโทนสี
18.เกมจะมีระบบเร่งเวลาให้ สามารถหยุดและเร่งได้ แต่ถ้าเจอบางสถานการณ์จะไม่สามารถเร่งเวลาได้
19.ภัยทางธรรมชาติแบบใหม่ที่เข้ามาคือ 'พายุหิมะ' มันจะส่งผลคือปกคลุ่มทั่วพื้นที่และอาจจะทำให้เครื่องส่งพลังงานเสียหาย
20.ไดโนเสาร์แต่ละตัวจะมี 12 สี และลวดลายมากถึง 7 แบบ และยังมีโมเดลให้เลือกตามที่อิงจากหนัง
อีก
ไดโนเสาร์ที่เปิดเผย ณ ตอนนี้มี 13 ชนิดตามนี้
Acrocanthosaurus
Allosaurus
Amargasaurs
Ankylosaurus
Baryonyx
Brachiosaurus
Camarasaurus
Nasutoceratops
Pteranaodon
Stegosaurus
Triceratops
Tyrannosaurus Rex
ข้อมูล
Raptors Hunt In Packs! Exclusive First Details For Jurassic World Evolution 2 - Game Informer