'Resident Evil' นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่โลดแล่นกันมาอย่างยาวยานในวงการเกมตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ และแน่นอนว่าตัวเกมนั้นก็ขยันทำภาคใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ทั้งภาคหลัก ภาคเสริมรวมถึงภาคที่ทำมาสำหรับเล่นโหมด Multiplayer ตั้งมากมาย แต่คิดหรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็น Resident Evil จนถึงทุกวันนี้ เรารู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้บ้าง แน่นอนว่าในวันนี้พวกเรา GameFever TH ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ มาไว้ในบทความ 14 ข้อมูลที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับแฟรนไชส์เกม Resident Evil ถ้าพร้อมกันแล้วมาดูเลยว่ามีข้อมูลไหนที่เรายังไม่เคยรู้กันบ้าง!
1.ก่อนจะใช้ชื่อ Resident Evil เกมเคยใช้ชื่อว่า 'Biohazard' มาก่อน
ถ้าเราถามแฟนเกมยุคหลังๆ ว่ารู้จักเกม 'Biohazard' ไหม? แน่นอนว่าส่วนใหญ่นั้นน่าจะไม่รู้จัก แต่ชื่อนี้จริงๆ แล้วมันคือชื่อดั้งเดิมของซีรี่ส์เกม Resident Evil นี่แหละ โดยเหตุผลที่มีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้จนถึงปัจจุบันนั้นหลักๆ จะมีออยู่ 2 เรื่อง นั่นคือ 1.ทาง Capcom ไม่สามารถใช้ชื่อ Biohazard ในการไปขายในโซนสหรัฐอเมริกาได้ เพราะชื่อนี้มันดันไปซ้ำกับวงดนตรีพังก์ที่มีชื่อเดียวกัน และ 2.คำว่า 'ฺBiohazard' นั้นมันดูมีความหมายตื้นเกินไป เพราะชื่อเกมก็ตีกรอบไปแล้วว่าเราจะต้องมาเจอกับเชื้อชีวภาพแน่นอน แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้เป็น 'Resident Evil' มันทำให้ความน่ากลัว ความลึกลับรวมถึงศัตรูดูมีความหลากหลายมากขึ้นไม่จำเป็นต้องมีซอมบี้อย่างเดียว นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ตัวเกมสามารถมาไกลได้จนถึงปัจจุบันนี้!
2.หลายๆ ส่วนมีแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ ' The Shining'ต้องบอกก่อนเลยว่าทั้งผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์เกม Resident Evil อย่างคุณชินจิ มิคามิ / ผู้กับกับภาค 7 อย่างคุณเคสุเกะ ยามาคาวะ รวมถึงทีมงาน Capcom ในชุดพัฒนาซีรีส์นี้ล้วนเป็นแฟนตัวยงภาพยนตร์สยองขวัญในตำนานอย่าง The Shining โดยสิ่งที่พวกเขาใส่ไว้ในเกนั้นมีหลายอย่างมากๆ สิ่งที่เห็นชัดๆ เด่นๆ เลยก็่คือตัวคฤหาสถ์ใน Resident Evil ภาคแรกที่มีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์มากๆ เฉลยได้เลยว่าทีมงานก็ใช้ตัวปราสาทภายในภาพยนตร์นั่นแหละมาเป็นต้นแบบ ยังมีข้อความตัวภาพยนตร์ที้เขียนว่า 'Redrum' ซึ่งถ้านำคำนี้มาเขียนกลับตัวอักษร มันจะมีความว่า 'ฆาตกร' โดยคำนี้ได้ไปโผล่ใน Resident Evil ภาค 2 ฉบับตั้งเดิม ซึ่งสิ่งนี้เป็นการแสดงถึงความเคารพเชิดชูและยังเป้นอีสเตอร์เอ็กซ์ในเกมอีกด้วย และล่าสุดอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของตัวละครลุงสุดโหดใน Resident Evil 7 อย่าง 'JackBaker' ทั้งนิสัยและรูปลักษณ์ก็มาจาก 'Jack Torrance' ตัวละครร้ายในภาพยนตร์ The Shining อีกเช่นกัน!
3.Resident Evil มีต้นแบบมาจาก Sweet Home
เคยรู้กันหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเกม Resident Evil นั้น เป็นเกมที่มีไอเดียมาจากเกมอื่น ซึ่งเกมนั้นก็คือเกม Sweet Home เกมแนวสยองขวัญของทาง Capcom เอง ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์อีกที แล้วมันเป็นต้นแบบของ Resident Evil ยังไง? เรามาไล่ดูที่เรื่องเลย เริ่มด้วยตัวเกมจะกล่าวถึงทีมงาน 5 คนที่เข้าไปสำรวจในคฤหาสถ์หลังหนึ่ง มีปริศนาให้ผู้เล่นทำ มีระบบบริหารจัดการ inventory ที่ทำให้เราต้องวางแผนมากขึ้นในการเก็บของแต่ละครั้งถ้ายังไม่ชัดมาดูอีกเรื่องเลยนั่นก็คือ ตัวละครแต่ละคนนั้นจะมีความสามารถเฉพาะตัวอยู่ ซึ่งมันจะเหมือนกับใน RE หลายๆ ภาค เช่น ภาค 2 ที่แคลร์ เรดฟิลจะมีกุญแจผีสามารถเปิดประตูได้ทุกบานและมีปืนระเบิด ส่วนลีออนจะมีไฟแช็คสำหรับจุดไฟตามสถานที่ต่างๆ ได้และมีความสามารถอัพเกรดปืนได้!
4.ใน Resident Evil 2 ภาคดั้งเดิม การทำของตัวละครหนึ่งตัวจะส่งผลกับอีกคนด้วย
อย่างที่ได้ยกตัวอย่างในหัวข้อด้านบนไปว่าในภาค 2 นั้นทั้งลีออน และแคลร์จะมีความสามารถทักษะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป แต่ Resident Evil ภาค 2 ฉบับ Original มันเหนือชั้นกว่านั้น นั้่นก็คือหากเราเล่นเป็นตัวละครไหนไปเคลียร์ศัตรูในบางฉากแล้วเซฟไว้ จากนั้นลองเปลี่ยนไปเล่นอีกตัวละครนึง เราจะพบกว่าตรงจุดนั้นไม่มีศัตรูเหลืออยู่เลย นอกจากนี้ยังสามารถทำการดร็อปไอเทมทิ้งไว้ให้ตัวละครอีกคนของเรา หรือจะทำการปลดล็อคเปิดประตูเพื่อเปิดทิ้งไว้ให้อีกคนก็ได้เช่นกัน!
5.เกมที่ให้กำเนิดนิยามแนวเกม 'Survival Horror'
ในข้อนี้ไม่ได้จะบอกว่า Resident Evil คือเกม Survival Horror เกมแรกของโลก แต่มันคือการนิยามเกมแนว Survival Horror ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยบทสัมภาษณ์ที่คุณชินจิ มิคามิ ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์เกมนี้ได้นิยามเกมแนว Survival Horror ไว้แล้ว โดยใจความสรุปก็คือ Survival Horror จะเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องพบเจอกับความสยองขวัญและน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันสิ่งเหล่านี้ผู้ก็เล่นสามารถจัดการกับมันได้ หมายความว่าเราจะสู้หรือจะหนีก็ได้ทั้งนั้น ตัวเกมจะไม่บังคับว่าเราต้องสู้เหมือนเกม Action หรือต้องหนีตายอย่างเดียวเหมือนเกมแนวสยองขวัญ และแน่นอนว่าสำหรับเกมที่อยู่ในนิยามคำนี้ก็จะมีภาคหลัก Resident Evil 1-3 และตัดมาที่ภาค 7 ด้วยรวมถึงภาค 8 อย่าง Resident Evil Village ที่ยังคงให้กลิ่นอายของความเป็น Survival Horror อีกด้วย!
6.เป็นเกมที่ขายดีที่สุดในหมวดเกมสยองขวัญ
แน่นอนว่าเกมแนวซอมบี้ แนวสยองขวัญหรือแนว Survival Horror นั้นไม่ได้มีแค่เกม Resident Evil เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในยุคนั้นก็มีเกมแนวใกล้เคียงกันออกมาแข่งขันด้วยเหมือนกัน เช่น Silenet Hill / Clock Tower หรือ Parasite Eve ดังนั้นการแข่งขันมันต้องสูงแน่นอนแต่เชื่อหรือไม่ว่าจากผลสำรวจของยอดขายรายได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น สำหรับเกม Resident Evil นับเป็นเกมในหมวดสยองขวัญที่ขายดีที่สุด ณ เวลานี้ โดยข้อมูลที่อัพเดทในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 แฟรนไชส์เกมนี้มียอดขายทั่วโลกรวมกันไปแล้วมากถึง 107 ล้านชุด!
7.ตัวละครใน Resident Evil ภาคแรก (เคย) มี 4 คนให้เราเล่นได้
อย่างที่บอกไปว่า Sweet Home นั้นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำหรับเกม Resident Evil ดังนั้นการที่ Sweet Home ผู้เล่นสามารถเล่นได้ 5 ตัวละครทีมงานก็เคยคิดจะให้ Resident Evil ภาคแรกนั้นสามาารถเล่นได้ถึง 4 ตัวละครเช่นกัน โดยนอกจากจะมีคริส เรดฟิลด์และจิล วาเลนไทน์ให้เล่นนั้น ยังสามารถเล่นอีก 2 ตัวละครคือหน่วยแพทย์สายฮาอย่าง Dewey และชายร่างยักษ์ผู้ดัดแปลงร่างกายของตัวเองให้กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์กอย่าง 'Gelzer' แต่เมือทีมพัฒนามาพิจารณาดูอีกรอบ พวกเขาก็คิดกันว่าถ้ามีตัวละครที่มาคอยสร้างบรรยากาศขำๆ เฮฮาจะทำให้บรรยากาศความน่ากลัวลดลงไป หรือหากมีตัวละครที่ดูโหดๆ มนุษย์ไซบอร์กร่างยักษ์มาไล่ฆ่าซอมบี้มันก็ดูจะเวอร์หนักไปทาง Action และหลุดจากนิยามเกมสยองขวัญเอาตัวรอดมากเกินไป!
8.Resident Evil ภาคแรกเคยเกือบจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
Resident Evil 7 คือเกมแรกของแฟรนไชส์ที่ใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง? คำตอบคือใช่ แต่แนวคิดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วคุณชินจิ มิคามิและทีมงาน Capcom เคยวาดฝันจะให้แฟรนไชส์เกม Resident Evil ของพวกเขาสร้างตำนานด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้นยังไม่สามารถมารถทำเกมในมุมมองบุคคลที่หนึ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากนัก ทีมงานจึงตัดสินใจที่จะใช้ฉาก CG และทำมุมมองเป็นแบบล็อคฉาก ล็อคกล้อง แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าเพราะการกระทำนั้นเองจึงทำให้แฟรนไชส์ Resident Evil ได้กลายมาเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้!
9.Resident Evil 2 Remake เกิดจากความกดดันของแฟนเกมที่สร้างเกมกันเอง
ในปี 2002 ทาง Capcom ได้ทำการ Remake เกม Resident Evil ออกมาบนเครื่อง GameCute แถมทำออกมาดีมากจนถูกนำไปพล็อตแทบจะทุกเครืองเกมในยุคนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายปีประจวบกับช่วงที่ทีมงานทำ Resident Evil 6 ออกมาในพล็อตบู๊แหลกแจกกระสุนนั้น แฟนๆ ก็เอือมๆ อิ่มตัวกับแนวนี้แล้ว จึงมีการเรียกร้องให้ทาง Capcom รีเมคเกม Resident Evil 2 เหมือนที่พวกเขาเคยทำกับภาค 1 ไว้ แต่เหมือน Capcom จะไม่สนใจ จนทำให้ทีมงานแฟนเกม Invader Studios ก็สร้างเกมแฟนเมดออกมาในชื่อ Resident Evil 2 Reborn HD แน่นอนว่า Capcom เก้าอี้ร้อนขึ้นมาทันที เพราะกระแสเกมนี้มาแรงมากๆ เพราะแฟนๆ พร้อมสนับสนุนให้เกมพัฒนาเสร็จถ้าหาก Capcom ไม่ทำ ดังนั้นจึงทำให้ Capcom ประกาศจะสร้าง Resident Evil 2 Remake ออกมาทันที และพวกเขาก็ขอให้ทาง Invader Studios หยุดพัฒนาโปรเจ็คนั้นต่อและเชิญมาร่วมปรึกษาการสร้างเกมรีเมคด้วย *นอกจากนี้ Invader Studios ก็ได้นำโปรเจ็กต์ Resident Evil 2 Reborn HD มาแปลงโฉมใหม่เป็นเกม 'Daymare: 1998' ที่วางจำหน่ายใน Steam ราคา 379 บาทอีกด้วย สนใจก็ไปตำกันได่!
10.Resident Evil 4 เคยถูกประกาศว่าจะมีให้เล่นแค่บนเครื่อง GameCube เท่านั้น!
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าจริงๆ แล้วนั้น Resident Evil 4 เคยเป็นเกม Exculsive บนเครื่อง GameCube เท่านั้น! โดยทางคุณชินจิ มิคามิ เคยลั่นสัจจะวาจาไว้อย่างแน่วแน่ว่า ถ้าเกม Re4 นี้มีการไปพล็อตลงบนเครื่องเกมอื่นๆ เขาจะทำการคว้านท้องให้ดูเลย แล้วผลเป็นไง...เกมมันถูกพล็อตไปบนเครื่องเกมมากมายรวมถึง PC ด้วย และล่าสุดก็มีการประกาศทำภาคนี้ในเวอร์ชั่น VR เพื่อลงให้กับเครื่อง Oculus Quest 2 ด้วย นับเป็นการพอร์ตเกมครั้งที่ 14 เข้าไปแล้ว เห็นทีแบบนี้คุณชินจิ มิคามิคงจะต้องคว้านท้องบ่อยหน่อนนะ!
11.เป็นเกมแรกที่ใช้ระบบเล็งด้วยเลเซอร์เป็นเกมแรก!
สำหรับ Resident Evil 4 ที่เป็นเหมือนภาคปฏิวัติซีรี่ส์เกมตัวเองในหลายๆ ด้านทั้งมุมกล้องที่เปลี่ยนไปใช้มุมมองบุคคลที่สามแบบข้ามหัวไหล่ เพิ่มความเป็น Action Horror มากขึ้น และอีกเรื่องที่ปฏิวัติวงการเกมเลยนั่นก็คือ 'ระบบเล็งยิงด้วยเลเซอร์' ซึ่งสำหรับภาคก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะใช้ระบบการเล็งยิงออโต้ นั่นก็คือเมื่อเรากดเล็ง เท่ากับว่ายิงโดนแน่นอน ส่วนการเลื่อนขึ่น-ลงที่เหลือเป็นเพียงการเลือกเท่านั้นว่าจะโจมตีส่วนไหนตั้งแต่ขาไปจนถึงหัว และในขณะเดียวกันเกมยิงอื่นๆ ก็จะใช้ระบบเป้าเล็งแบบพื้นฐานเกมยิงทั่วไปเท่านั้น และหลังจากที่ Re4 มีระบบเล็งด้วยเลเซอร์นั้น ระบบนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในหลายๆ เกมอยู่ช่วงหนึ่งเลย!
12.เป็นซีรี่ส์เกมที่มักจะมีตัวร้ายที่แย่งซีนตัวเอกอยู่บ่อยๆ
ล่าสุดสำหรับ Resident Evil Village แทนที่แฟนๆ จะโฟกัสการกลับมาของคริส เรสฟิลด์ หรือว่าเหตุการณ์ที่ลูกของอีธานถูกลักพาตัวไป กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ชาวเกมพูดถึงกันมากที่สุดกลับเป็นบอสแวมไพร์ร่างยักษ์สุดเซ็กซี่อย่าง 'Lady Dimitrescu' แต่จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันมีมาตั้งแต่เนิ่นนานแล้วนับตั้งแต่ Mr.G วายร้ายจากภาค 2 / อาวุธชีวภาพอย่าง Nemesis จากภาค 3 เอย / เวสเกอร์ ตัวร้ายจากองค์กร Umbrella ที่โผล่ฉากไหนก็เท่ ไหนยังมี Mr.X จอมแสบที่พร้อมจะไล่ล่าผู้เล่นตลอดเวลาใน Resident Evil 2 Remake อีก! และยังเชื่อมั่นว่าสำหรับ Resident Evil Village นั้นจะมีวายร้ายหลายตัวที่พร้อมแย่งซีนตัวเอกอีกแน่นอน!
13.เป็นเกมยากที่สามารถจบได้ด้วยการใช้ 'มีด' เพียงอย่างเดียว!
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสำหรับแฟรนไชส์เกม Resident Evil นั้นก็ถูกนับเป็นหนึ่งในเกมยากชวนปาจอยเช่นกัน ถึงแม้บางภาคทีมงานจะทำให้เกมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่บางช็อตบางฉากมันก็ยากใช้ได้ แต่ก็ไม่พ้นผู้เล่นสาย Challenge สายโหด เพราะว่าสำหรับ Resident Evil แทบทุกภาคนั้นมักจะมีผู้เล่นบางคนบางกลุ่ม ช่างหาทำเคลียร์เกมด้วยการใช้ 'มีด' เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วที่ตลกร้ายกว่านั้นก็คือ ทีมงานบอกชอบใช้แต่มีดใช้ไหม งั้นจัดโหมด The Tofu Survival ในภาค 2 รีเมคให้เล่นเป็นเต้าหู้ถือมีดยันจบเกม และล่าสุดก็คือ DLC : End of Zoe ของ Resident Evil 7 ที่ผู้เล่นจะต้องเล่นเป็นลุงของโซอี้ที่สามารถใช้เพียงหมัดเท่านั้นในการต่อสู้กับศัตรู!
14.Resident Evil เป็นแฟรนไชส์เกมที่เปลี่ยนมุมมองการเล่นบ่อยที่สุดเกมหนึ่งการที่เกมๆ หนึ่งจะสร้างฐานแฟนเกมได้นั้น ก็มีสาเหตุมาจากหลายๆ ปัจจัย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของมุมกล้องมุมมองในการเล่น ดังนั้นการที่จะมาเปลี่ยนมุมกล้องในแต่ละครั้ง ล้วนมีความเสี่ยง แต่เชื่อหรือไม่ว่าสำหรับแฟรนไชส์เกม Resident Evil โดยทาง Capcom ทำการเปลี่ยนมุมกล้องภาคหลักมาแล้วมากถึง 3 ครั้ง ซึ่งในยุคแรกนั้นตัวเกมจะใช้มุมมองแบบล็อคกล้อง แล้วพอมาภาค 4 ก็ปฏิวัติแฟรนไชส์ด้วยการเปลี่ยนเป็นมุมมองบุคคลที่สามข้ามหัวไหล่ และจากนั้นก็สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนเกมอีกครั้ง เพราะในภาค 7 ทาง Capcom ก็ยอมเสี่ยงที่จะเปลี่ยนเกมไปใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง มันฺฺฮือฮาขนาดที่ว่าในวันแรกที่เปิดตัวเกมนี้สื่อข่าวและแฟนๆ ดูตัวอย่างจนจบไม่มีใครรู้ว่ามันคือ Resident Evil 7 จนกระทั่งชื่อเกมขึ้นเท่านั้นแหละ ร้องตกใจ สตั๊น อึ้งกันทั้งห้องส่ง!
'Resident Evil' นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่โลดแล่นกันมาอย่างยาวยานในวงการเกมตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ และแน่นอนว่าตัวเกมนั้นก็ขยันทำภาคใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ทั้งภาคหลัก ภาคเสริมรวมถึงภาคที่ทำมาสำหรับเล่นโหมด Multiplayer ตั้งมากมาย แต่คิดหรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็น Resident Evil จนถึงทุกวันนี้ เรารู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้บ้าง แน่นอนว่าในวันนี้พวกเรา GameFever TH ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ มาไว้ในบทความ 14 ข้อมูลที่คุณอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับแฟรนไชส์เกม Resident Evil ถ้าพร้อมกันแล้วมาดูเลยว่ามีข้อมูลไหนที่เรายังไม่เคยรู้กันบ้าง!
1.ก่อนจะใช้ชื่อ Resident Evil เกมเคยใช้ชื่อว่า 'Biohazard' มาก่อน
ถ้าเราถามแฟนเกมยุคหลังๆ ว่ารู้จักเกม 'Biohazard' ไหม? แน่นอนว่าส่วนใหญ่นั้นน่าจะไม่รู้จัก แต่ชื่อนี้จริงๆ แล้วมันคือชื่อดั้งเดิมของซีรี่ส์เกม Resident Evil นี่แหละ โดยเหตุผลที่มีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้จนถึงปัจจุบันนั้นหลักๆ จะมีออยู่ 2 เรื่อง นั่นคือ 1.ทาง Capcom ไม่สามารถใช้ชื่อ Biohazard ในการไปขายในโซนสหรัฐอเมริกาได้ เพราะชื่อนี้มันดันไปซ้ำกับวงดนตรีพังก์ที่มีชื่อเดียวกัน และ 2.คำว่า 'ฺBiohazard' นั้นมันดูมีความหมายตื้นเกินไป เพราะชื่อเกมก็ตีกรอบไปแล้วว่าเราจะต้องมาเจอกับเชื้อชีวภาพแน่นอน แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้เป็น 'Resident Evil' มันทำให้ความน่ากลัว ความลึกลับรวมถึงศัตรูดูมีความหลากหลายมากขึ้นไม่จำเป็นต้องมีซอมบี้อย่างเดียว นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ตัวเกมสามารถมาไกลได้จนถึงปัจจุบันนี้!
2.หลายๆ ส่วนมีแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ ' The Shining'ต้องบอกก่อนเลยว่าทั้งผู้ให้กำเนิดซีรี่ส์เกม Resident Evil อย่างคุณชินจิ มิคามิ / ผู้กับกับภาค 7 อย่างคุณเคสุเกะ ยามาคาวะ รวมถึงทีมงาน Capcom ในชุดพัฒนาซีรีส์นี้ล้วนเป็นแฟนตัวยงภาพยนตร์สยองขวัญในตำนานอย่าง The Shining โดยสิ่งที่พวกเขาใส่ไว้ในเกนั้นมีหลายอย่างมากๆ สิ่งที่เห็นชัดๆ เด่นๆ เลยก็่คือตัวคฤหาสถ์ใน Resident Evil ภาคแรกที่มีความคล้ายคลึงกับภาพยนตร์มากๆ เฉลยได้เลยว่าทีมงานก็ใช้ตัวปราสาทภายในภาพยนตร์นั่นแหละมาเป็นต้นแบบ ยังมีข้อความตัวภาพยนตร์ที้เขียนว่า 'Redrum' ซึ่งถ้านำคำนี้มาเขียนกลับตัวอักษร มันจะมีความว่า 'ฆาตกร' โดยคำนี้ได้ไปโผล่ใน Resident Evil ภาค 2 ฉบับตั้งเดิม ซึ่งสิ่งนี้เป็นการแสดงถึงความเคารพเชิดชูและยังเป้นอีสเตอร์เอ็กซ์ในเกมอีกด้วย และล่าสุดอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของตัวละครลุงสุดโหดใน Resident Evil 7 อย่าง 'JackBaker' ทั้งนิสัยและรูปลักษณ์ก็มาจาก 'Jack Torrance' ตัวละครร้ายในภาพยนตร์ The Shining อีกเช่นกัน!
3.Resident Evil มีต้นแบบมาจาก Sweet Home
เคยรู้กันหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเกม Resident Evil นั้น เป็นเกมที่มีไอเดียมาจากเกมอื่น ซึ่งเกมนั้นก็คือเกม Sweet Home เกมแนวสยองขวัญของทาง Capcom เอง ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์อีกที แล้วมันเป็นต้นแบบของ Resident Evil ยังไง? เรามาไล่ดูที่เรื่องเลย เริ่มด้วยตัวเกมจะกล่าวถึงทีมงาน 5 คนที่เข้าไปสำรวจในคฤหาสถ์หลังหนึ่ง มีปริศนาให้ผู้เล่นทำ มีระบบบริหารจัดการ inventory ที่ทำให้เราต้องวางแผนมากขึ้นในการเก็บของแต่ละครั้งถ้ายังไม่ชัดมาดูอีกเรื่องเลยนั่นก็คือ ตัวละครแต่ละคนนั้นจะมีความสามารถเฉพาะตัวอยู่ ซึ่งมันจะเหมือนกับใน RE หลายๆ ภาค เช่น ภาค 2 ที่แคลร์ เรดฟิลจะมีกุญแจผีสามารถเปิดประตูได้ทุกบานและมีปืนระเบิด ส่วนลีออนจะมีไฟแช็คสำหรับจุดไฟตามสถานที่ต่างๆ ได้และมีความสามารถอัพเกรดปืนได้!
4.ใน Resident Evil 2 ภาคดั้งเดิม การทำของตัวละครหนึ่งตัวจะส่งผลกับอีกคนด้วย
อย่างที่ได้ยกตัวอย่างในหัวข้อด้านบนไปว่าในภาค 2 นั้นทั้งลีออน และแคลร์จะมีความสามารถทักษะพิเศษที่แตกต่างกันออกไป แต่ Resident Evil ภาค 2 ฉบับ Original มันเหนือชั้นกว่านั้น นั้่นก็คือหากเราเล่นเป็นตัวละครไหนไปเคลียร์ศัตรูในบางฉากแล้วเซฟไว้ จากนั้นลองเปลี่ยนไปเล่นอีกตัวละครนึง เราจะพบกว่าตรงจุดนั้นไม่มีศัตรูเหลืออยู่เลย นอกจากนี้ยังสามารถทำการดร็อปไอเทมทิ้งไว้ให้ตัวละครอีกคนของเรา หรือจะทำการปลดล็อคเปิดประตูเพื่อเปิดทิ้งไว้ให้อีกคนก็ได้เช่นกัน!
5.เกมที่ให้กำเนิดนิยามแนวเกม 'Survival Horror'
ในข้อนี้ไม่ได้จะบอกว่า Resident Evil คือเกม Survival Horror เกมแรกของโลก แต่มันคือการนิยามเกมแนว Survival Horror ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยบทสัมภาษณ์ที่คุณชินจิ มิคามิ ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์เกมนี้ได้นิยามเกมแนว Survival Horror ไว้แล้ว โดยใจความสรุปก็คือ Survival Horror จะเป็นเกมที่ผู้เล่นต้องพบเจอกับความสยองขวัญและน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันสิ่งเหล่านี้ผู้ก็เล่นสามารถจัดการกับมันได้ หมายความว่าเราจะสู้หรือจะหนีก็ได้ทั้งนั้น ตัวเกมจะไม่บังคับว่าเราต้องสู้เหมือนเกม Action หรือต้องหนีตายอย่างเดียวเหมือนเกมแนวสยองขวัญ และแน่นอนว่าสำหรับเกมที่อยู่ในนิยามคำนี้ก็จะมีภาคหลัก Resident Evil 1-3 และตัดมาที่ภาค 7 ด้วยรวมถึงภาค 8 อย่าง Resident Evil Village ที่ยังคงให้กลิ่นอายของความเป็น Survival Horror อีกด้วย!
6.เป็นเกมที่ขายดีที่สุดในหมวดเกมสยองขวัญ
แน่นอนว่าเกมแนวซอมบี้ แนวสยองขวัญหรือแนว Survival Horror นั้นไม่ได้มีแค่เกม Resident Evil เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในยุคนั้นก็มีเกมแนวใกล้เคียงกันออกมาแข่งขันด้วยเหมือนกัน เช่น Silenet Hill / Clock Tower หรือ Parasite Eve ดังนั้นการแข่งขันมันต้องสูงแน่นอนแต่เชื่อหรือไม่ว่าจากผลสำรวจของยอดขายรายได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น สำหรับเกม Resident Evil นับเป็นเกมในหมวดสยองขวัญที่ขายดีที่สุด ณ เวลานี้ โดยข้อมูลที่อัพเดทในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 แฟรนไชส์เกมนี้มียอดขายทั่วโลกรวมกันไปแล้วมากถึง 107 ล้านชุด!
7.ตัวละครใน Resident Evil ภาคแรก (เคย) มี 4 คนให้เราเล่นได้
อย่างที่บอกไปว่า Sweet Home นั้นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจสำหรับเกม Resident Evil ดังนั้นการที่ Sweet Home ผู้เล่นสามารถเล่นได้ 5 ตัวละครทีมงานก็เคยคิดจะให้ Resident Evil ภาคแรกนั้นสามาารถเล่นได้ถึง 4 ตัวละครเช่นกัน โดยนอกจากจะมีคริส เรดฟิลด์และจิล วาเลนไทน์ให้เล่นนั้น ยังสามารถเล่นอีก 2 ตัวละครคือหน่วยแพทย์สายฮาอย่าง Dewey และชายร่างยักษ์ผู้ดัดแปลงร่างกายของตัวเองให้กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์กอย่าง 'Gelzer' แต่เมือทีมพัฒนามาพิจารณาดูอีกรอบ พวกเขาก็คิดกันว่าถ้ามีตัวละครที่มาคอยสร้างบรรยากาศขำๆ เฮฮาจะทำให้บรรยากาศความน่ากลัวลดลงไป หรือหากมีตัวละครที่ดูโหดๆ มนุษย์ไซบอร์กร่างยักษ์มาไล่ฆ่าซอมบี้มันก็ดูจะเวอร์หนักไปทาง Action และหลุดจากนิยามเกมสยองขวัญเอาตัวรอดมากเกินไป!
8.Resident Evil ภาคแรกเคยเกือบจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
Resident Evil 7 คือเกมแรกของแฟรนไชส์ที่ใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง? คำตอบคือใช่ แต่แนวคิดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เพราะจริงๆ แล้วคุณชินจิ มิคามิและทีมงาน Capcom เคยวาดฝันจะให้แฟรนไชส์เกม Resident Evil ของพวกเขาสร้างตำนานด้วยมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้นยังไม่สามารถมารถทำเกมในมุมมองบุคคลที่หนึ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากนัก ทีมงานจึงตัดสินใจที่จะใช้ฉาก CG และทำมุมมองเป็นแบบล็อคฉาก ล็อคกล้อง แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าเพราะการกระทำนั้นเองจึงทำให้แฟรนไชส์ Resident Evil ได้กลายมาเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้!
9.Resident Evil 2 Remake เกิดจากความกดดันของแฟนเกมที่สร้างเกมกันเอง
ในปี 2002 ทาง Capcom ได้ทำการ Remake เกม Resident Evil ออกมาบนเครื่อง GameCute แถมทำออกมาดีมากจนถูกนำไปพล็อตแทบจะทุกเครืองเกมในยุคนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายปีประจวบกับช่วงที่ทีมงานทำ Resident Evil 6 ออกมาในพล็อตบู๊แหลกแจกกระสุนนั้น แฟนๆ ก็เอือมๆ อิ่มตัวกับแนวนี้แล้ว จึงมีการเรียกร้องให้ทาง Capcom รีเมคเกม Resident Evil 2 เหมือนที่พวกเขาเคยทำกับภาค 1 ไว้ แต่เหมือน Capcom จะไม่สนใจ จนทำให้ทีมงานแฟนเกม Invader Studios ก็สร้างเกมแฟนเมดออกมาในชื่อ Resident Evil 2 Reborn HD แน่นอนว่า Capcom เก้าอี้ร้อนขึ้นมาทันที เพราะกระแสเกมนี้มาแรงมากๆ เพราะแฟนๆ พร้อมสนับสนุนให้เกมพัฒนาเสร็จถ้าหาก Capcom ไม่ทำ ดังนั้นจึงทำให้ Capcom ประกาศจะสร้าง Resident Evil 2 Remake ออกมาทันที และพวกเขาก็ขอให้ทาง Invader Studios หยุดพัฒนาโปรเจ็คนั้นต่อและเชิญมาร่วมปรึกษาการสร้างเกมรีเมคด้วย *นอกจากนี้ Invader Studios ก็ได้นำโปรเจ็กต์ Resident Evil 2 Reborn HD มาแปลงโฉมใหม่เป็นเกม 'Daymare: 1998' ที่วางจำหน่ายใน Steam ราคา 379 บาทอีกด้วย สนใจก็ไปตำกันได่!
10.Resident Evil 4 เคยถูกประกาศว่าจะมีให้เล่นแค่บนเครื่อง GameCube เท่านั้น!
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าจริงๆ แล้วนั้น Resident Evil 4 เคยเป็นเกม Exculsive บนเครื่อง GameCube เท่านั้น! โดยทางคุณชินจิ มิคามิ เคยลั่นสัจจะวาจาไว้อย่างแน่วแน่ว่า ถ้าเกม Re4 นี้มีการไปพล็อตลงบนเครื่องเกมอื่นๆ เขาจะทำการคว้านท้องให้ดูเลย แล้วผลเป็นไง...เกมมันถูกพล็อตไปบนเครื่องเกมมากมายรวมถึง PC ด้วย และล่าสุดก็มีการประกาศทำภาคนี้ในเวอร์ชั่น VR เพื่อลงให้กับเครื่อง Oculus Quest 2 ด้วย นับเป็นการพอร์ตเกมครั้งที่ 14 เข้าไปแล้ว เห็นทีแบบนี้คุณชินจิ มิคามิคงจะต้องคว้านท้องบ่อยหน่อนนะ!
11.เป็นเกมแรกที่ใช้ระบบเล็งด้วยเลเซอร์เป็นเกมแรก!
สำหรับ Resident Evil 4 ที่เป็นเหมือนภาคปฏิวัติซีรี่ส์เกมตัวเองในหลายๆ ด้านทั้งมุมกล้องที่เปลี่ยนไปใช้มุมมองบุคคลที่สามแบบข้ามหัวไหล่ เพิ่มความเป็น Action Horror มากขึ้น และอีกเรื่องที่ปฏิวัติวงการเกมเลยนั่นก็คือ 'ระบบเล็งยิงด้วยเลเซอร์' ซึ่งสำหรับภาคก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่จะใช้ระบบการเล็งยิงออโต้ นั่นก็คือเมื่อเรากดเล็ง เท่ากับว่ายิงโดนแน่นอน ส่วนการเลื่อนขึ่น-ลงที่เหลือเป็นเพียงการเลือกเท่านั้นว่าจะโจมตีส่วนไหนตั้งแต่ขาไปจนถึงหัว และในขณะเดียวกันเกมยิงอื่นๆ ก็จะใช้ระบบเป้าเล็งแบบพื้นฐานเกมยิงทั่วไปเท่านั้น และหลังจากที่ Re4 มีระบบเล็งด้วยเลเซอร์นั้น ระบบนี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในหลายๆ เกมอยู่ช่วงหนึ่งเลย!
12.เป็นซีรี่ส์เกมที่มักจะมีตัวร้ายที่แย่งซีนตัวเอกอยู่บ่อยๆ
ล่าสุดสำหรับ Resident Evil Village แทนที่แฟนๆ จะโฟกัสการกลับมาของคริส เรสฟิลด์ หรือว่าเหตุการณ์ที่ลูกของอีธานถูกลักพาตัวไป กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ชาวเกมพูดถึงกันมากที่สุดกลับเป็นบอสแวมไพร์ร่างยักษ์สุดเซ็กซี่อย่าง 'Lady Dimitrescu' แต่จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันมีมาตั้งแต่เนิ่นนานแล้วนับตั้งแต่ Mr.G วายร้ายจากภาค 2 / อาวุธชีวภาพอย่าง Nemesis จากภาค 3 เอย / เวสเกอร์ ตัวร้ายจากองค์กร Umbrella ที่โผล่ฉากไหนก็เท่ ไหนยังมี Mr.X จอมแสบที่พร้อมจะไล่ล่าผู้เล่นตลอดเวลาใน Resident Evil 2 Remake อีก! และยังเชื่อมั่นว่าสำหรับ Resident Evil Village นั้นจะมีวายร้ายหลายตัวที่พร้อมแย่งซีนตัวเอกอีกแน่นอน!
13.เป็นเกมยากที่สามารถจบได้ด้วยการใช้ 'มีด' เพียงอย่างเดียว!
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสำหรับแฟรนไชส์เกม Resident Evil นั้นก็ถูกนับเป็นหนึ่งในเกมยากชวนปาจอยเช่นกัน ถึงแม้บางภาคทีมงานจะทำให้เกมสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่บางช็อตบางฉากมันก็ยากใช้ได้ แต่ก็ไม่พ้นผู้เล่นสาย Challenge สายโหด เพราะว่าสำหรับ Resident Evil แทบทุกภาคนั้นมักจะมีผู้เล่นบางคนบางกลุ่ม ช่างหาทำเคลียร์เกมด้วยการใช้ 'มีด' เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วที่ตลกร้ายกว่านั้นก็คือ ทีมงานบอกชอบใช้แต่มีดใช้ไหม งั้นจัดโหมด The Tofu Survival ในภาค 2 รีเมคให้เล่นเป็นเต้าหู้ถือมีดยันจบเกม และล่าสุดก็คือ DLC : End of Zoe ของ Resident Evil 7 ที่ผู้เล่นจะต้องเล่นเป็นลุงของโซอี้ที่สามารถใช้เพียงหมัดเท่านั้นในการต่อสู้กับศัตรู!
14.Resident Evil เป็นแฟรนไชส์เกมที่เปลี่ยนมุมมองการเล่นบ่อยที่สุดเกมหนึ่งการที่เกมๆ หนึ่งจะสร้างฐานแฟนเกมได้นั้น ก็มีสาเหตุมาจากหลายๆ ปัจจัย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของมุมกล้องมุมมองในการเล่น ดังนั้นการที่จะมาเปลี่ยนมุมกล้องในแต่ละครั้ง ล้วนมีความเสี่ยง แต่เชื่อหรือไม่ว่าสำหรับแฟรนไชส์เกม Resident Evil โดยทาง Capcom ทำการเปลี่ยนมุมกล้องภาคหลักมาแล้วมากถึง 3 ครั้ง ซึ่งในยุคแรกนั้นตัวเกมจะใช้มุมมองแบบล็อคกล้อง แล้วพอมาภาค 4 ก็ปฏิวัติแฟรนไชส์ด้วยการเปลี่ยนเป็นมุมมองบุคคลที่สามข้ามหัวไหล่ และจากนั้นก็สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนเกมอีกครั้ง เพราะในภาค 7 ทาง Capcom ก็ยอมเสี่ยงที่จะเปลี่ยนเกมไปใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง มันฺฺฮือฮาขนาดที่ว่าในวันแรกที่เปิดตัวเกมนี้สื่อข่าวและแฟนๆ ดูตัวอย่างจนจบไม่มีใครรู้ว่ามันคือ Resident Evil 7 จนกระทั่งชื่อเกมขึ้นเท่านั้นแหละ ร้องตกใจ สตั๊น อึ้งกันทั้งห้องส่ง!