GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[บทความ] อธิบายโรคระบาดใน The Last of Us ที่ไม่ได้ทำให้คนเป็นซอมบี้ แต่เป็นคนถูกเชื้อราสิงร่าง!
ลงวันที่ 24/01/2023

ถือเป็นซีรี่ส์ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมที่กำลังมาแรงมาก ๆ สำหรับ The Last of Us โดยปัจจุบันได้ฉายผ่านทาง HBO ไปถึง 2 ตอนด้วยกันแล้ว และทุกตอนก็ได้กระแสตอบรับดีมาก ๆ จนตอนนี้ The Last of Us ก็คือหนึ่งในชื่อที่ยอดนิยมทั้งในวงการเกม และภาพยนตร์เป็นที่เรียบร้อย


แต่หลายคนก็น่าจะเข้าใจผิดว่า The Last of Us มีเนื้อเรื่องคือตัวเอกต้องมาเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้กระหายเลือด ทั้งที่จริง ๆ จะต้องมาเอาชีวิตรอดจากมนุษย์ถูกเชื้อราสิงร่าง ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และมีความล้ำลึกกว่าการเป็นซอมบี้มาก พร้อมโรคระบาดนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากโรคเชื้อรามีบนโลกจริง ๆ ด้วย!!! วันนี้ GameFever จึงขอมาอธิบายความน่าสนใจโรคระบาดใน The Last of Us ให้ฟังกันว่าแปลกยังไง และมีอะไรให้ทราบนอกจากในซีรี่ส์ตอนนี้บ้าง!!!

Cordyceps

โรคเชื้อราต้นเหตุ The Last of Us


ถ้าแปลเป็นภาษาไทย คำว่า Cordyceps จะแปลตรงตัวได้ว่า 'ถั่งเช่า' ที่เป็นเชื้อราคนนิยมชอบนำมาทำเป็นสมุนไพรพอดีเลย โดยโรค Cordyceps เราก็ได้เห็นทั้งในซีรี่ส์กับเกมแล้วว่ามันระบาดรวดเร็วแบบไม่มีเวลาให้ตั้งตัว และทำให้คนติดเชื้ออยู่ในสภาพกระหายเลือดเนื้ออย่างขาดสติคล้ายซอมบี้กันเพียบ แถมในตอนที่ 2 ของฉบับซีรี่ส์ก็จะเห็นได้ว่าผู้ติดเชื้อมีรูปลักษณ์ต่างกันไปด้วย บางคนยังดูแค่เสียสติ แต่บางคนก็เหมือนถูกปรสิตกลายพันธ์ไปเลย (ผู้ติดเชื้อจะมีชื่อเรียกรวม ๆ กันด้วยว่าคือ Cordyceps Brian Infection หรือ CBI)

'ซอมบี้' ทั้งในหนัง และในเกมส่วนใหญ่จะคือผู้ติดเชื้อที่เสียสติหรือตายไปแล้วฟื้นมาใหม่ และอยากควักไส้พุงของพวกคนมากินเป็นอาหาร ขณะที่ผู้ติดเชื้อใน The Last of Us จะต่างออกไป เพราะอันที่จริงแล้วผู้ติดเชื้อราใน The Last of Us ยังมีชีวิตอยู่ และยังมีความรู้สึกตัวเหมือนปกติ แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เพราะถูกเชื้อราเข้าควบคุมสมอง และก็ไม่ได้มีเป้าหมายฆ่ามนุษย์เพื่อควักเนื้อมากิน แต่ต้องการแพร่เชื้อราใส่มนุษย์ให้ติดโรคนี้กันเยอะ ๆ เสียมากกว่า ส่งผลให้แค่เรื่องเป้าหมายก็จะต่างกับซอมบี้แล้ว แถมยังวิวิฒนาการร่างผู้ติดเชื้อขึ้นไปได้อีกถึง 4 ระยะ ทำให้มันมีรูปลักษณ์ต่างกันได้แบบที่เราเห็นกันในฉบับซีรี่ส์ตอน 2 นั่นเอง

เชื้อราซอมบี้ที่มีตัวตนอยู่จริง!

ทีมผู้ให้กำเนิด The Last of Us นั้นแท้จริงแล้วได้ออกแบบเชื้อรานี้ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากเชื้อรา Ophiocordyceps unilateralis และ Entomophthora muscae ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเหยื่ออย่างมดหรือแมลงได้คล้ายกับปรสิต โดยเชื้อราทั้ง 2 ชนิดนี้จะส่งผลให้เหยื่อเสียสติ และถูกเชื้อราเข้าควบคุมร่างเช่นกัน โดยเชื้อราจะเข้าคุมเพื่อให้แมลงพวกนี้ขึ้นไปยังที่สูง ๆ ก่อนที่จะดูดซึมสารอาหารจากร่างเหยื่อจนตาย เพื่อแพร่เกสรของตัวเองทางอากาศไปสู่เหยื่อตัวอื่นต่อไปเรื่อย ๆ (ยิ่งขึ้นไปที่สูงยิ่งกระจายเชื้อได้กว้างขึ้น) ไม่ได้เน้นสิงร่างเป็นปี ๆ อะไรแบบนั้น รวมทั้งเชื้อราพวกนี้ยังติดมนุษย์ไม่ได้นั่นเอง (เชื้อนี้มีการแอบกล่าวถึงตอนนักวิทยาศาสตร์ให้สัมภาษณ์ช่วงต้นตอนที่ 1 ฉบับซีรี่ส์)                                       

การแพร่เชื้อ

แม้ในเกมจะไม่เคยอธิบายแน่ชัดว่าเชื้อรา Cordyceps กำเนิดหรือวิวัฒนาการจนทำให้ส่งผลต่อมนุษย์ได้อย่างไร แต่ในซีรีส์ดูเหมือนจะตั้งใจตอบคำถามนี้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นข้อสังเกตของนักวิทยาศาสตร์ในช่วงต้นของตอนแรก ที่บอกว่าเชื้อราเหล่านี้อาจวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่อุณภูมิสูงขึ้น และช่วงต้นของตอนที่ 2 ที่ดูเหมือนจะเฉลยว่าเชื้อโรคเริ่มระบาดในโรงงานผลิตแป้งทำอาหารของอินโดนิเซีย ส่งผลให้ Cordyceps เข้าไปปนอยู่ในอาหาร และเมื่อใครที่ติดเชื้อไป หลังเข้าสู่ระยะที่ 1 พวกเขาจะแพร่เชื้อต่อได้ด้วยการกัดเข้าที่ร่างกายมนุษย์คนอื่น ๆ และตามฉบับซีรี่ส์จะเห็นได้ว่าถ้าโดนกัดที่คอ ก็จะส่งผลให้ติดเชื้อเข้าสู่ระยะที่ 1 หลังผ่านไปเวลา 5-15 นาที ส่วนถ้าโดนที่แขนจะเป็น 2-5 ชั่วโมง ขณะที่ตรงขาจะเป็น 12- 24 ชั่วโมง


อย่างไรก็ตาม ในฉบับเกมจะมีการแพร่เชื้อรูปแบบผ่านทางหายใจด้วย เพราะผู้ติดเชื้อที่ตายแต่เชื้อราในร่างยังไม่ตายจะมีการสร้างสปอร์หรือเกสรออกมาแพร่เชื้อต่อ ทำให้เราจะได้เห็นบางฉากที่ตัวเอกจะใส่หน้ากากกันแก๊สเพื่อป้องกัน ส่วนในซีรี่ส์มีการยืนยันแล้วว่าไม่มีแพร่เชื้อรูปแบบนี้ โดยเปลี่ยนจากเกสรมาเป็นลักษณะเหมือน "เส้นใย" ที่ออกมาจากปากของผู้ติดเชื้อแทน



อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 1

เมอติดเชื้อเข้าสู่ระยะ 1 ที่คนส่วนใหญ่ในจักรวาล The Last of Us ตั้งชื่อเรียกว่า Runner ก็จะส่งผลให้คนติดควบคุมตัวเองไม่ได้เลยทันที แต่ในระยะนี้จะยังมีรูปลักษณ์ และทุกอย่างเหมือนมนุษย์ (ตรงนี้คนเลยมองว่ามันก็คงเหมือนซอมบี้) ขณะที่ดวงตาจะดูมืดประหลาดไป และมีเส้นดำอะไรต่าง ๆ ขึ้นตามร่างกาย ซึ่งก็เป็นผลจากเชื้อราที่เริ่มเข้าควบคุมระบบประสาทต่าง ๆ ในร่างกาย รวมทั้งเชื้อก็ยังจะกระตุ้นความโกรธเพื่อให้ร่างมีความดุร้าย และเข้าแพร่เชื้อใส่คนทั่วไปด้วยการวิ่งกัดตรง ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลให้คนตั้งชื่อระยะนี้ว่า Runner

ทั้งนี้ ด้วยความที่เชื้อราภายในร่างยังอยู่ในระยะเติบโต และยังไม่สามารถเข้าควบคุมระบบประสาทต่าง ๆ ได้สมบูรณ์ทั้ง 100% ส่งผลให้เหล่า Runner มีความเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ อันเป็นผลจากการที่ร่างกายมนุษย์ผู้ติดเชื้อพยายามขัดขืนคำสั่งของเชื้อรา


ด้วยความที่เหล่า Runner นั้นยังมีร่างกายที่เป็นมนุษย์อยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ยังจัดการมันได้เหมือนวิธีจัดการมนุษย์ทั่วไป เช่นการรัดคอให้ขาดอากาศตาย การหักคอ หรือการทำให้เสียเลือดมาก ต่างจาก "ซอมบี้" ทั่วไปที่ต้องทำลายสมองเท่านั้นถึงจะตาย จนกลายเป็นความน่าสยองอย่างหนึ่งของเหล่า Runner ในฉบับเกม นั่นก็คือการที่พวกมันมักจะส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดเวลาถูกโจมตี เพราะแม้ผู้ติดเชื้อจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังมีสติพอจะรู้สึกเจ็บจากการโดนทำร้ายอยู่ดี

และด้วยความที่เหล่า Runner ยังมีชีวิตอยู่ ส่งผลให้พวกมันจำเป็นต้อง "กิน" เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป และเพื่อเลี้ยงเชื้อราที่เติบโตในร่างกายไปด้วย โดย Runner ที่ไม่สามารถหาอาหาร (มนุษย์นั่นแล) กินได้เป็นระยะเวลานาน ๆ ก็มักจะตายไปในที่สุด เหลือไว้เพียงร่างกายเป็นแหล่งเพาะเชื้อราเพื่อแพร่กระจายต่อไป


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 2

ผู้ติดเชื้อระยะที่ 1 ที่มีชีวิตรอดตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 1 ปี จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ทีมีชื่อเรียกว่า Stalker โดยระยะนี้เชื้อราจะควบคุมผู้ติดเชื้อได้แล้ว 100% ส่งผลให้พวกมันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วกว่า Runner ทั่วไปพอสมควร ซึ่งเชื้อราจะเข้าไปกระตุ้นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่หลงเหลืออยู่ของผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้ Stalker มีพฤติกรรมคล้ายกับสัตว์นักล่าบางชนิด ที่จะรวมฝูงกันจู่โจมเหยื่อทีเผลอ และถอยหนีอย่างรวดเร็วเพื่อเอาตัวรอดในกรณีที่เหยื่อพยายามสู้กลับ 


อย่างไรก็ตาม Stalker ก็จะยังเป็นระยะที่เชื้อรานั้นดูดสารอาหารจากร่างกายผู้ติดเชื้อมาทำให้ตัวเองเติบโตอยู่เช่นเคย แต่ด้วยความที่ร่างกายโดนดูดไปเกิน 2 อาทิตย์ จึงส่งผลให้ผู้ติดเชื้อระยะนี้มีร่างกายซูบผอม และมีกำลังวังชาไม่เท่าเหล่า Runner (เป็นเหตุผลให้เชื้อราในระยะนี้ต้องซุ่มโจมตีหรือเน้นรวมตัวเป็นฝูงด้วย) รวมทั้งบางร่างที่สู้ไม่ไหวกับการโดนดูดมานานก็จะตายกลายเป็นศพในที่สุด แถมผู้ติดเชื้อระยะ Stalker ก็จะยังมีสติรับรู้ความรู้สึกหรือความเจ็บได้ดีอยู่เช่นกัน


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 3

เมื่อติดเชื้อในระยะที่ 2 ที่มีชีวิตรอดเกิน 1 ปี จะเข้าสู่ระยะ 3 ที่มีชื่อเรียกว่า Clicker โดยเชื้อราในสมองของผู้ติดเชื้อจะเติบโตและบานออกมาทางลูกตาเป็นอันดับแรก และค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนครอบหัวผู้ติดเชื้อในที่สุด เหลือไว้เพียงปากและฟันไว้ใช้กัดเพื่อแพร่เชื้อต่อเท่านั้น เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเหล่า Clicker จึงตาบอดมองอะไรไม่เห็นอีกต่อไป

แต่แม้ว่าประสาทตาของพวกมันจะใช้การไม่ได้ เหล่า Clicker ก็ได้พัฒนาความสามารถในการใช้เสียงเพื่อระบุตำแหน่งของวัตถุรอบตัว (Echolocation) ด้วยการสร้างเสียง "แกร๊ก ๆ" ที่ได้ยินในซีรีส์ จนเป็นที่มาของชื่อ Clicker นั่นเอง แต่ด้วยพื้นฐานของร่างกายที่ยังคงเป็นมนุษย์ ทำให้ประสาทด้านการฟังเสียงของ Clicker ไม่ละเอียดเท่ากับสัตว์อย่างค้างคาว ความสามารถในการระบุตำแหน่งด้วยเสียงนี้จึงยังมีความจำกัดอยู่มาก และมักมีความแม่นยำจริง ๆ ในระยะใกล้เท่านั้น


นอกจากนี้ ด้วยความที่ร่างกายของ Clicker ได้ถูกเชื้อราเข้าทดแทนอวัยวะภายในและกล้ามเนื้อในสัดส่วนที่มากกว่าผู้ติดเชื้อระยะต้น ๆ ส่งผลให้พวกมันสามารถทนทานต่อความเสียหายได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไปพอสมควร แถมเชื้อราที่บานออกมาบนหัวและตามผิวหนังยังทำหน้าที่คล้าย "เกราะ" เพื่อป้องกันความเสียหายต่อร่างกายของตัว Clicker เองอีกด้วย ดังที่เห็นในซีรีส์ว่าขนาด Tess เอาขวานจามหัวซะมิดด้ามยังแทบไม่เป็นอะไรเลย!


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 4

เมื่อติดเชื้อในระยะที่ 3 มานานหลายปี จะทำให้เข้าสู่ระยะ 4 ที่มีชื่อเรียกว่า Bloater ซึ่งเชื้อราจะมาทดแทนร่างผู้ติดเชื้อจนแทบไม่เหลือส่วนไหนแล้ว (แต่ผู้ติดเชื้อก็ยังมีชีวิต) และเชื้อราที่มาทดแทนร่างของผู้ติดเชื้อยังช่วยป้องกันการโจมตีได้เช่นเดียวกับเหล่า Clicker อีกด้วย การเติบโตของเชื้อรายังส่งผลให้เหล่า Bloater มีพละกำลังมากเพียงพอจะฉีกหัวมนุษย์จากบ่าได้เลยทีเดียว

การเติบโตของเชื้อราบนหัวก็ส่งผลให้พวกมันมีความเชื่องช้าและซุ่มซ่ามกว่าผู้ติดเชื้อระยะก่อน ๆ แถมความสามารถในการใช้เสียงเพื่อระบุตำแหน่งยังถดถอยลงจากตอนเป็น Clicker อีกต่างหาก พวก Bloater จึงมักตอบสนองต่อเสียงใด ๆ ก็ตามด้วยการพุ่งเข้าชนแบบสุดตัว  


อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ Bloater มีเชื้อราทดแทนร่างกายผู้ติดเชื้อเต็มตัวไปหมด จึงส่งผลให้ถ้ามันถูกไฟคลอกก็จะบาดเจ็บหนักอย่างมาก (เชื้อราตัวนี้แพ้ไฟ) โดยเหล่า Bloater ในฉบับเกมยังมีความสามารถในการผลิตถุงเกสรตามร่างกายเพื่อใช้โยนใส่ Joel ได้อีกด้วย แต่เมื่อผู้กำกับซีรีส์ได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการใช้เกสรมาเป็นเส้นใย (Tendrils) ดังที่เห็นกัน ก็คงต้องรอดูว่าพวก Bloater ในซีรีส์จะยังมีความสามารถนี้อยู่อีกไหม หรือจะถูกทดแทนด้วยความสามารถพิเศษอันน่าสยองแบบไหนอีก

ความน่าสนใจสุดท้ายของเชื้อนี้

เจ้าตัวเชื้อรา Cordyceps นั้นมันก็ยังมีเป้าหมายด้วยนะนั่นคือ 'ต้องการที่จะแพร่เชื้อสู่มนุษย์ไปเยอะ ๆ เพื่อให้มันดำรงชีวิตไปได้นานเรื่อย ๆ แบบไม่สูญพันธุ์' ฉะนั้นมันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่สุด ๆ ในจักรวาล The Last of Us เนื่องจากมนุษย์นั้นต้องมาเป็นเหยื่อของสิ่งที่เอาชนะมันได้ยากมากเลย แต่ก็อย่าลืมว่าข้อมูลทั้งหมดจากด้านบนนั้นส่วนใหญ่อิงมาจากฉบับเกม ส่งผลให้ในซีรี่ส์ที่จะมีการปรับเปลี่ยนต่างออกไปในบางเรื่องได้เยอะด้วย!

                                               

ก่อนจากกันไป

ตอนนี้นอกจากซีรี่ส์ The Last of Us ที่ฉายบน HBO ทางฝั่งพวกเกมนั้นก็จะมีให้เล่นกัน 2 ภาคได้แก่ The Last of Us กับ The Last of Us Part 2 โดย The Last of Us ที่เป็นเกมภาค 1 จะมีให้หาเล่นได้บน PlayStation แต่เกมภาค 1 จะยังมีเวอร์ชั่น Remake ในชื่อ The Last of Us Part 1 หาเล่นได้บน PlayStation 5 แล้วก็จะมีขายบน PC ใน 3 มีนาคม 2023 ส่วน The Last of Us Part 2 หาเล่นได้แค่บน PlayStation ในตอนนี้ ขณะที่ซีรี่ส์ The Last of Us จะฉายตอนใหม่ ๆ บน HBO ในทุกวันจันทร์ และซีซั่น 1 จะมีให้รับชมทั้งหมด 9 ตอนนั่นเอง


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[บทความ] อธิบายโรคระบาดใน The Last of Us ที่ไม่ได้ทำให้คนเป็นซอมบี้ แต่เป็นคนถูกเชื้อราสิงร่าง!
24/01/2023

ถือเป็นซีรี่ส์ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมที่กำลังมาแรงมาก ๆ สำหรับ The Last of Us โดยปัจจุบันได้ฉายผ่านทาง HBO ไปถึง 2 ตอนด้วยกันแล้ว และทุกตอนก็ได้กระแสตอบรับดีมาก ๆ จนตอนนี้ The Last of Us ก็คือหนึ่งในชื่อที่ยอดนิยมทั้งในวงการเกม และภาพยนตร์เป็นที่เรียบร้อย


แต่หลายคนก็น่าจะเข้าใจผิดว่า The Last of Us มีเนื้อเรื่องคือตัวเอกต้องมาเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้กระหายเลือด ทั้งที่จริง ๆ จะต้องมาเอาชีวิตรอดจากมนุษย์ถูกเชื้อราสิงร่าง ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ และมีความล้ำลึกกว่าการเป็นซอมบี้มาก พร้อมโรคระบาดนี้ยังได้แรงบันดาลใจจากโรคเชื้อรามีบนโลกจริง ๆ ด้วย!!! วันนี้ GameFever จึงขอมาอธิบายความน่าสนใจโรคระบาดใน The Last of Us ให้ฟังกันว่าแปลกยังไง และมีอะไรให้ทราบนอกจากในซีรี่ส์ตอนนี้บ้าง!!!

Cordyceps

โรคเชื้อราต้นเหตุ The Last of Us


ถ้าแปลเป็นภาษาไทย คำว่า Cordyceps จะแปลตรงตัวได้ว่า 'ถั่งเช่า' ที่เป็นเชื้อราคนนิยมชอบนำมาทำเป็นสมุนไพรพอดีเลย โดยโรค Cordyceps เราก็ได้เห็นทั้งในซีรี่ส์กับเกมแล้วว่ามันระบาดรวดเร็วแบบไม่มีเวลาให้ตั้งตัว และทำให้คนติดเชื้ออยู่ในสภาพกระหายเลือดเนื้ออย่างขาดสติคล้ายซอมบี้กันเพียบ แถมในตอนที่ 2 ของฉบับซีรี่ส์ก็จะเห็นได้ว่าผู้ติดเชื้อมีรูปลักษณ์ต่างกันไปด้วย บางคนยังดูแค่เสียสติ แต่บางคนก็เหมือนถูกปรสิตกลายพันธ์ไปเลย (ผู้ติดเชื้อจะมีชื่อเรียกรวม ๆ กันด้วยว่าคือ Cordyceps Brian Infection หรือ CBI)

'ซอมบี้' ทั้งในหนัง และในเกมส่วนใหญ่จะคือผู้ติดเชื้อที่เสียสติหรือตายไปแล้วฟื้นมาใหม่ และอยากควักไส้พุงของพวกคนมากินเป็นอาหาร ขณะที่ผู้ติดเชื้อใน The Last of Us จะต่างออกไป เพราะอันที่จริงแล้วผู้ติดเชื้อราใน The Last of Us ยังมีชีวิตอยู่ และยังมีความรู้สึกตัวเหมือนปกติ แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เพราะถูกเชื้อราเข้าควบคุมสมอง และก็ไม่ได้มีเป้าหมายฆ่ามนุษย์เพื่อควักเนื้อมากิน แต่ต้องการแพร่เชื้อราใส่มนุษย์ให้ติดโรคนี้กันเยอะ ๆ เสียมากกว่า ส่งผลให้แค่เรื่องเป้าหมายก็จะต่างกับซอมบี้แล้ว แถมยังวิวิฒนาการร่างผู้ติดเชื้อขึ้นไปได้อีกถึง 4 ระยะ ทำให้มันมีรูปลักษณ์ต่างกันได้แบบที่เราเห็นกันในฉบับซีรี่ส์ตอน 2 นั่นเอง

เชื้อราซอมบี้ที่มีตัวตนอยู่จริง!

ทีมผู้ให้กำเนิด The Last of Us นั้นแท้จริงแล้วได้ออกแบบเชื้อรานี้ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากเชื้อรา Ophiocordyceps unilateralis และ Entomophthora muscae ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเหยื่ออย่างมดหรือแมลงได้คล้ายกับปรสิต โดยเชื้อราทั้ง 2 ชนิดนี้จะส่งผลให้เหยื่อเสียสติ และถูกเชื้อราเข้าควบคุมร่างเช่นกัน โดยเชื้อราจะเข้าคุมเพื่อให้แมลงพวกนี้ขึ้นไปยังที่สูง ๆ ก่อนที่จะดูดซึมสารอาหารจากร่างเหยื่อจนตาย เพื่อแพร่เกสรของตัวเองทางอากาศไปสู่เหยื่อตัวอื่นต่อไปเรื่อย ๆ (ยิ่งขึ้นไปที่สูงยิ่งกระจายเชื้อได้กว้างขึ้น) ไม่ได้เน้นสิงร่างเป็นปี ๆ อะไรแบบนั้น รวมทั้งเชื้อราพวกนี้ยังติดมนุษย์ไม่ได้นั่นเอง (เชื้อนี้มีการแอบกล่าวถึงตอนนักวิทยาศาสตร์ให้สัมภาษณ์ช่วงต้นตอนที่ 1 ฉบับซีรี่ส์)                                       

การแพร่เชื้อ

แม้ในเกมจะไม่เคยอธิบายแน่ชัดว่าเชื้อรา Cordyceps กำเนิดหรือวิวัฒนาการจนทำให้ส่งผลต่อมนุษย์ได้อย่างไร แต่ในซีรีส์ดูเหมือนจะตั้งใจตอบคำถามนี้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นข้อสังเกตของนักวิทยาศาสตร์ในช่วงต้นของตอนแรก ที่บอกว่าเชื้อราเหล่านี้อาจวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่อุณภูมิสูงขึ้น และช่วงต้นของตอนที่ 2 ที่ดูเหมือนจะเฉลยว่าเชื้อโรคเริ่มระบาดในโรงงานผลิตแป้งทำอาหารของอินโดนิเซีย ส่งผลให้ Cordyceps เข้าไปปนอยู่ในอาหาร และเมื่อใครที่ติดเชื้อไป หลังเข้าสู่ระยะที่ 1 พวกเขาจะแพร่เชื้อต่อได้ด้วยการกัดเข้าที่ร่างกายมนุษย์คนอื่น ๆ และตามฉบับซีรี่ส์จะเห็นได้ว่าถ้าโดนกัดที่คอ ก็จะส่งผลให้ติดเชื้อเข้าสู่ระยะที่ 1 หลังผ่านไปเวลา 5-15 นาที ส่วนถ้าโดนที่แขนจะเป็น 2-5 ชั่วโมง ขณะที่ตรงขาจะเป็น 12- 24 ชั่วโมง


อย่างไรก็ตาม ในฉบับเกมจะมีการแพร่เชื้อรูปแบบผ่านทางหายใจด้วย เพราะผู้ติดเชื้อที่ตายแต่เชื้อราในร่างยังไม่ตายจะมีการสร้างสปอร์หรือเกสรออกมาแพร่เชื้อต่อ ทำให้เราจะได้เห็นบางฉากที่ตัวเอกจะใส่หน้ากากกันแก๊สเพื่อป้องกัน ส่วนในซีรี่ส์มีการยืนยันแล้วว่าไม่มีแพร่เชื้อรูปแบบนี้ โดยเปลี่ยนจากเกสรมาเป็นลักษณะเหมือน "เส้นใย" ที่ออกมาจากปากของผู้ติดเชื้อแทน



อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 1

เมอติดเชื้อเข้าสู่ระยะ 1 ที่คนส่วนใหญ่ในจักรวาล The Last of Us ตั้งชื่อเรียกว่า Runner ก็จะส่งผลให้คนติดควบคุมตัวเองไม่ได้เลยทันที แต่ในระยะนี้จะยังมีรูปลักษณ์ และทุกอย่างเหมือนมนุษย์ (ตรงนี้คนเลยมองว่ามันก็คงเหมือนซอมบี้) ขณะที่ดวงตาจะดูมืดประหลาดไป และมีเส้นดำอะไรต่าง ๆ ขึ้นตามร่างกาย ซึ่งก็เป็นผลจากเชื้อราที่เริ่มเข้าควบคุมระบบประสาทต่าง ๆ ในร่างกาย รวมทั้งเชื้อก็ยังจะกระตุ้นความโกรธเพื่อให้ร่างมีความดุร้าย และเข้าแพร่เชื้อใส่คนทั่วไปด้วยการวิ่งกัดตรง ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลให้คนตั้งชื่อระยะนี้ว่า Runner

ทั้งนี้ ด้วยความที่เชื้อราภายในร่างยังอยู่ในระยะเติบโต และยังไม่สามารถเข้าควบคุมระบบประสาทต่าง ๆ ได้สมบูรณ์ทั้ง 100% ส่งผลให้เหล่า Runner มีความเคลื่อนไหวติด ๆ ขัด ๆ อันเป็นผลจากการที่ร่างกายมนุษย์ผู้ติดเชื้อพยายามขัดขืนคำสั่งของเชื้อรา


ด้วยความที่เหล่า Runner นั้นยังมีร่างกายที่เป็นมนุษย์อยู่ซะเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ยังจัดการมันได้เหมือนวิธีจัดการมนุษย์ทั่วไป เช่นการรัดคอให้ขาดอากาศตาย การหักคอ หรือการทำให้เสียเลือดมาก ต่างจาก "ซอมบี้" ทั่วไปที่ต้องทำลายสมองเท่านั้นถึงจะตาย จนกลายเป็นความน่าสยองอย่างหนึ่งของเหล่า Runner ในฉบับเกม นั่นก็คือการที่พวกมันมักจะส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดเวลาถูกโจมตี เพราะแม้ผู้ติดเชื้อจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังมีสติพอจะรู้สึกเจ็บจากการโดนทำร้ายอยู่ดี

และด้วยความที่เหล่า Runner ยังมีชีวิตอยู่ ส่งผลให้พวกมันจำเป็นต้อง "กิน" เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไป และเพื่อเลี้ยงเชื้อราที่เติบโตในร่างกายไปด้วย โดย Runner ที่ไม่สามารถหาอาหาร (มนุษย์นั่นแล) กินได้เป็นระยะเวลานาน ๆ ก็มักจะตายไปในที่สุด เหลือไว้เพียงร่างกายเป็นแหล่งเพาะเชื้อราเพื่อแพร่กระจายต่อไป


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 2

ผู้ติดเชื้อระยะที่ 1 ที่มีชีวิตรอดตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 1 ปี จะเข้าสู่ระยะที่ 2 ทีมีชื่อเรียกว่า Stalker โดยระยะนี้เชื้อราจะควบคุมผู้ติดเชื้อได้แล้ว 100% ส่งผลให้พวกมันสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วกว่า Runner ทั่วไปพอสมควร ซึ่งเชื้อราจะเข้าไปกระตุ้นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่หลงเหลืออยู่ของผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้ Stalker มีพฤติกรรมคล้ายกับสัตว์นักล่าบางชนิด ที่จะรวมฝูงกันจู่โจมเหยื่อทีเผลอ และถอยหนีอย่างรวดเร็วเพื่อเอาตัวรอดในกรณีที่เหยื่อพยายามสู้กลับ 


อย่างไรก็ตาม Stalker ก็จะยังเป็นระยะที่เชื้อรานั้นดูดสารอาหารจากร่างกายผู้ติดเชื้อมาทำให้ตัวเองเติบโตอยู่เช่นเคย แต่ด้วยความที่ร่างกายโดนดูดไปเกิน 2 อาทิตย์ จึงส่งผลให้ผู้ติดเชื้อระยะนี้มีร่างกายซูบผอม และมีกำลังวังชาไม่เท่าเหล่า Runner (เป็นเหตุผลให้เชื้อราในระยะนี้ต้องซุ่มโจมตีหรือเน้นรวมตัวเป็นฝูงด้วย) รวมทั้งบางร่างที่สู้ไม่ไหวกับการโดนดูดมานานก็จะตายกลายเป็นศพในที่สุด แถมผู้ติดเชื้อระยะ Stalker ก็จะยังมีสติรับรู้ความรู้สึกหรือความเจ็บได้ดีอยู่เช่นกัน


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 3

เมื่อติดเชื้อในระยะที่ 2 ที่มีชีวิตรอดเกิน 1 ปี จะเข้าสู่ระยะ 3 ที่มีชื่อเรียกว่า Clicker โดยเชื้อราในสมองของผู้ติดเชื้อจะเติบโตและบานออกมาทางลูกตาเป็นอันดับแรก และค่อย ๆ เติบโตขึ้นจนครอบหัวผู้ติดเชื้อในที่สุด เหลือไว้เพียงปากและฟันไว้ใช้กัดเพื่อแพร่เชื้อต่อเท่านั้น เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเหล่า Clicker จึงตาบอดมองอะไรไม่เห็นอีกต่อไป

แต่แม้ว่าประสาทตาของพวกมันจะใช้การไม่ได้ เหล่า Clicker ก็ได้พัฒนาความสามารถในการใช้เสียงเพื่อระบุตำแหน่งของวัตถุรอบตัว (Echolocation) ด้วยการสร้างเสียง "แกร๊ก ๆ" ที่ได้ยินในซีรีส์ จนเป็นที่มาของชื่อ Clicker นั่นเอง แต่ด้วยพื้นฐานของร่างกายที่ยังคงเป็นมนุษย์ ทำให้ประสาทด้านการฟังเสียงของ Clicker ไม่ละเอียดเท่ากับสัตว์อย่างค้างคาว ความสามารถในการระบุตำแหน่งด้วยเสียงนี้จึงยังมีความจำกัดอยู่มาก และมักมีความแม่นยำจริง ๆ ในระยะใกล้เท่านั้น


นอกจากนี้ ด้วยความที่ร่างกายของ Clicker ได้ถูกเชื้อราเข้าทดแทนอวัยวะภายในและกล้ามเนื้อในสัดส่วนที่มากกว่าผู้ติดเชื้อระยะต้น ๆ ส่งผลให้พวกมันสามารถทนทานต่อความเสียหายได้มากกว่ามนุษย์ทั่วไปพอสมควร แถมเชื้อราที่บานออกมาบนหัวและตามผิวหนังยังทำหน้าที่คล้าย "เกราะ" เพื่อป้องกันความเสียหายต่อร่างกายของตัว Clicker เองอีกด้วย ดังที่เห็นในซีรีส์ว่าขนาด Tess เอาขวานจามหัวซะมิดด้ามยังแทบไม่เป็นอะไรเลย!


อาการผู้ติดเชื้อระยะที่ 4

เมื่อติดเชื้อในระยะที่ 3 มานานหลายปี จะทำให้เข้าสู่ระยะ 4 ที่มีชื่อเรียกว่า Bloater ซึ่งเชื้อราจะมาทดแทนร่างผู้ติดเชื้อจนแทบไม่เหลือส่วนไหนแล้ว (แต่ผู้ติดเชื้อก็ยังมีชีวิต) และเชื้อราที่มาทดแทนร่างของผู้ติดเชื้อยังช่วยป้องกันการโจมตีได้เช่นเดียวกับเหล่า Clicker อีกด้วย การเติบโตของเชื้อรายังส่งผลให้เหล่า Bloater มีพละกำลังมากเพียงพอจะฉีกหัวมนุษย์จากบ่าได้เลยทีเดียว

การเติบโตของเชื้อราบนหัวก็ส่งผลให้พวกมันมีความเชื่องช้าและซุ่มซ่ามกว่าผู้ติดเชื้อระยะก่อน ๆ แถมความสามารถในการใช้เสียงเพื่อระบุตำแหน่งยังถดถอยลงจากตอนเป็น Clicker อีกต่างหาก พวก Bloater จึงมักตอบสนองต่อเสียงใด ๆ ก็ตามด้วยการพุ่งเข้าชนแบบสุดตัว  


อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ Bloater มีเชื้อราทดแทนร่างกายผู้ติดเชื้อเต็มตัวไปหมด จึงส่งผลให้ถ้ามันถูกไฟคลอกก็จะบาดเจ็บหนักอย่างมาก (เชื้อราตัวนี้แพ้ไฟ) โดยเหล่า Bloater ในฉบับเกมยังมีความสามารถในการผลิตถุงเกสรตามร่างกายเพื่อใช้โยนใส่ Joel ได้อีกด้วย แต่เมื่อผู้กำกับซีรีส์ได้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการใช้เกสรมาเป็นเส้นใย (Tendrils) ดังที่เห็นกัน ก็คงต้องรอดูว่าพวก Bloater ในซีรีส์จะยังมีความสามารถนี้อยู่อีกไหม หรือจะถูกทดแทนด้วยความสามารถพิเศษอันน่าสยองแบบไหนอีก

ความน่าสนใจสุดท้ายของเชื้อนี้

เจ้าตัวเชื้อรา Cordyceps นั้นมันก็ยังมีเป้าหมายด้วยนะนั่นคือ 'ต้องการที่จะแพร่เชื้อสู่มนุษย์ไปเยอะ ๆ เพื่อให้มันดำรงชีวิตไปได้นานเรื่อย ๆ แบบไม่สูญพันธุ์' ฉะนั้นมันจึงถือเป็นเรื่องที่น่าหดหู่สุด ๆ ในจักรวาล The Last of Us เนื่องจากมนุษย์นั้นต้องมาเป็นเหยื่อของสิ่งที่เอาชนะมันได้ยากมากเลย แต่ก็อย่าลืมว่าข้อมูลทั้งหมดจากด้านบนนั้นส่วนใหญ่อิงมาจากฉบับเกม ส่งผลให้ในซีรี่ส์ที่จะมีการปรับเปลี่ยนต่างออกไปในบางเรื่องได้เยอะด้วย!

                                               

ก่อนจากกันไป

ตอนนี้นอกจากซีรี่ส์ The Last of Us ที่ฉายบน HBO ทางฝั่งพวกเกมนั้นก็จะมีให้เล่นกัน 2 ภาคได้แก่ The Last of Us กับ The Last of Us Part 2 โดย The Last of Us ที่เป็นเกมภาค 1 จะมีให้หาเล่นได้บน PlayStation แต่เกมภาค 1 จะยังมีเวอร์ชั่น Remake ในชื่อ The Last of Us Part 1 หาเล่นได้บน PlayStation 5 แล้วก็จะมีขายบน PC ใน 3 มีนาคม 2023 ส่วน The Last of Us Part 2 หาเล่นได้แค่บน PlayStation ในตอนนี้ ขณะที่ซีรี่ส์ The Last of Us จะฉายตอนใหม่ ๆ บน HBO ในทุกวันจันทร์ และซีซั่น 1 จะมีให้รับชมทั้งหมด 9 ตอนนั่นเอง


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header