GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
Tips & Tricks: เคล็ดลับการเล่น Final Fantasy VII Remake ที่เกมอาจไม่ได้บอกคุณ
ลงวันที่ 13/04/2020

วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับเกม Final Fantasy VII Remake เกมที่คืนชีพตำนาน JRPG อันเป็นที่รักยิ่งของเกมเมอร์ทั่วโลก ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ด้วยระบบเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่ใหญ่และใหม่กว่าเดิม ให้เหล่าผู้เล่นเก่าได้มีโอกาสหวนคืนสู่นคร Midgar ให้หายคิดถึง และยังเป็นการแนะนำผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ให้รู้จักกับหนึ่งในเกมที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยุคใหม่ถึงทุกวันนี้

หลังจากที่ได้เล่นเกมมาแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่) แม้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะไม่ได้มีระดับความยากมากมายอะไรเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็ในโหมด Normal ที่ผู้เขียนเล่น) แต่ก็มีเคล็ดลับหลายอย่างที่ถ้าผู้เขียนรู้มาก่อนจะเริ่มเล่น ก็คงจะทำให้เล่นเกมง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เรากำลังทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกม

ด้วยประการฉะนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ ไม่กี่ข้อ ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้เอาไว้ จะได้เล่นเกมอย่างไร้กังวลที่สุดจ้า!

อย่าลืมใช้สกิล!


อันนี้อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่ามาบอกกัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้เขียน ด้วยความที่ระบบต่อสู้มีความเป็นเกมแอคชั่นสูง ทำให้บางครั้งผู้เขียนมัวแต่ง่วนกับการเล่นเกมให้เป็นเกมแอคชั่น เช่นการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีศัตรู หรือการทำคอมโบ ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้กับศัตรูบางชนิดที่ควรจะง่ายและรวดเร็ว กลับกลายเป็นใช้เวลาและเลือดเนื้อ/ไอเทมมากกว่าที่จำเป็น ยิ่งในชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกของเกมยิ่งต้องระวังไม่ให้ติดเป็นนิสัย เพราะศัตรูส่วนใหญ่จะยังอ่อนแอพอให้ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดาได้ แต่พอพ้นจากนั้นไป จะต้องพึ่งพาสกิลในแทบจะทุกการต่อสู้เลย


กันไว้ให้ชิน


แม้ว่าการกลิ้งหลบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายไปเลย จะดูเหมือนทางเลือกที่ฉลาดกว่าการยืนกดป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนค้นพบคือการกลิ้งหลบของเกม Final Fantasy VII Remake มี Invincibility Frame ดั่งที่มักจะพบในเกมแอคชั่นส่วนใหญ่อยู่น้อยมากๆ (หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ) ทำให้การกลิ้งหลบการโจมตีที่รวดเร็ว หรือการโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำได้ยากกว่าที่หลายคนอาจจะคุ้นชินจากการเล่นเกมแอคชั่นอื่นๆ

ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ การยอมยืนกันและรับความเสียหายที่ลดลง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้รับความเสียหายน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกจ ATB ของเราเพิ่มเร็วขึ้น และทำให้ตัวละครไม่ล้มลงอีกด้วย

แน่นอนว่าการกลิ้งหลบยังคงจำเป็นสำหรับการโจมตีที่ป้องกันไม่ได้ หรือการโจมตีระยะไกลที่เคลื่อนที่ช้า และการโจมตีที่อาจจะทำให้ติดสถานะ เช่นพิษ ใบ้ เป็นต้น


จงมี Materia Assess ติดตัวตลอดเวลา


เมื่อคุณได้รับ Assess Materia มาจาก NPC ที่ชื่อ Chadley นั้น จงใส่มันลงไปในช่อง Materia ของ Cloud ซักช่องหนึ่ง และเก็บมันไว้ตรงนั้นจนจบเกม เจ้า Materia เม็ดนี้จะมอบความสามารถ Assess ให้กับตัวละครที่ใส่ ทำให้สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ เช่นเงื่อนไขในการเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูแต่ละชนิด ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า เพราะศัตรูเก่งๆ บางตัวอาจจะมีจุดอ่อนแปลกๆ เช่นต้องโจมตีจากด้านหลังเท่านั้น หรือต้องใช้การโจมตีนี้ในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่งั้นจะทำความเสียหายไม่ค่อยได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยิ่งเราใช้สกิล Assess ใส่ศัตรูหลายชนิด Chadley ก็จะเริ่มพัฒนา Materia ชนิดใหม่ๆ มาขายให้เราอีกที แถมถ้าทำไปเรื่อยๆ ยังอาจจะปลดล๊อค VR Battle ให้เราลองสู้กับบอส Summon ต่างๆ และเอามันมาเป็นพวกได้ด้วย

เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เกมไม่ได้บอก (หรืออาจจะบอกแล้วผู้เขียนพลาดไป) คือเมื่อคุณลองใช้ Assess ใส่ศัตรูครั้งหนึ่ง คุณจะสามารถเรียกดูหน้าต่างรายละเอียดศัตรูชนิดนั้นได้ทันที ด้วยการกด Touchpad เมื่อพบศัตรูชนิดนั้นๆ ในการต่อสู้ จะได้ไม่เหมือนผู้เขียน ที่เล่นไปครึ่งเกมโดยที่คอยกด Assess ใหม่ทุกครั้งเวลาต้องการอ่านจุดอ่อนศัตรู...


เพิ่มเลือดปาร์ตี้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม L1


ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด เวลาที่ต้องการจะใช้ไอเทมหลายชิ้น แต่เกมบังคับให้เปิดเมนูใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ไอเทมหนึ่งชิ้น แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเปิดเมนูค้างเอาไว้ได้ด้วยการกดปุ่ม L1 ค้างเอาไว้ในตอนที่ใช้ไอเทม เราจะได้กดใช้ไอเทมได้หลายๆ ครั้ง หรือกระทั่งสลับไปยังตัวละครอีกตัวได้เร็วๆ


พยายามใช้ตัวละครระยะไกลในการฮีล


แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถมอบ Heal Materia ให้กับตัวละครไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนพบว่าการมอบ Materia ให้กับตัวละครที่โจมตีระยะไกลอย่าง Barret และ Aerith เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามักจะยืนห่างจากศัตรู และมีโอกาสโดนขัดจังหวะร่ายสกิลน้อยกว่า Cloud หรือ Tifa โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม ที่ศัตรูเริ่มท้าทายและดุดันมากขึ้น

นอกจากนี้ ในเวลาฉุกเฉิน ผู้เล่นสามารถสลับมาควบคุมตัวละคร Barret และ/หรือ Aerith ด้วยตัวเองเพิ่มเพิ่มเกจ ATB ของตัวละครจากระยะปลอดภัยได้ด้วย ในจังหวะที่ต้องฮีลเยอะๆ จะได้ทำได้เร็วขึ้น


ใช้สกิล Pray บ่อยๆ


เมื่อพูดถึงการฮีล ตัวละคร Aerith จะมาพร้อมกับ Materia เม็ดหนึ่งที่มอบความสามารถ (Ability) Pray ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฮีลเพื่อนทั้งปาร์ตี้พร้อมๆ กันได้โดยไม่เสีย MP โดยผู้เขียนมักจะลืมว่ามีสกิลนี้อยู่ และเพิ่มเลือดโดยใช้ Cure/Cura แทนบ่อยๆ ซึ่งเปลือง MP และ Ether มาก

แน่นอนว่าด้วยความเป็น Materia จะใส่ให้ตัวละครไหนก็ได้ แต่ตามที่กล่าวไปข้างบน การฮีลในเกมนี้ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวละครระยะไกลอย่าง Aerith และ Barret อยู่แล้ว การทิ้ง Materia Pray เอาไว้กับ Aerith จึงถือเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด

แก้ไข: มีผู้อ่านท่านหนึ่งแก้ไขข้อมูลมาว่า Pray เป็น Materia ไม่ใช่สกิลติดตัวของ Aerith ซึ่งผู้เขียนได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนอาจจะลืมเองเพราะใส่ Materia เอาไว้กับ Aerith ตลอดเวลา ขอขอบคุณสำหรับข้อแก้ไขด้วยครับ


เก็บท่า Overcharge ของ Barret ไว้สำหรับเวลาจำเป็น


สำหรับผู้เขียน ความสามารถ Overcharge ของ Barret เป็นหนึ่งในความสามารถที่ดีที่สุดในเกมเลย นอกจากจะสร้างความเสียหายได้รุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว การโจมตีนี้ยังทำให้หลอด Stagger ของศัตรูเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด Overcharge ยังทำให้เกจ ATB ของ Barret เพิ่มขึ้นเมื่อใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถนี้จึงมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์ เช่นถ้าต้องการฮีลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีใครมีเกจ ATB สามารถสลับมาเล่น Barret และเพิ่มเกจตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อฮีลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ หรือถ้าศัตรูติดสถานะ Stagger การใช้ Overcharge ก็จะทำความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรู ทำให้เกจ Stagger เพิ่มขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยลงแขกได้นานขึ้น และยังทำให้มีเกจ ATB ไว้ให้ Barret ใช้ท่าใหญ่ๆ ซ้ำได้อีกด้วย


สกิล Triple Strike ของ Cloud สามารถทำความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อศัตรูหนึ่งตัว


เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเล่น Cloud คือการรอให้ศัตรูมายืนกระจุกกันเป็นกลุ่ม แล้วใช้สกิล Triple Strike เพื่อโจมตี โดยสำหรับสกิล Triple Strike นั้นจะทำให้ Cloud พุ่งไปฟันศัตรูในบริเวณใกล้ๆ กัน 3 ตัว แต่สิ่งที่เกมไม่ได้บอกคือ ศัตรูหนึ่งตัวสามารถโดนความเสียหายจาก Triple Strike ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าพวกมันยืนอยู่ใกล้กันมากพอที่จะโดนดาบของ Cloud เมื่อเขาแกว่งฟันตัวแรก และถ้ามันอยู่ใกล้กันมากพอเป็นกลุ่มๆ เราก็จะสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรูทั้งกลุ่ม แลกกับเกจ ATB ช่องเดียวเท่านั้น


อย่าลืมเปิด Unbridled Strength ให้ Tifa


ตัวละคร Tifa จะมาพร้อมกับสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Unbridled Strength ซึ่งจะบัฟการโจมตีปกติและเพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ Ability ต่างๆ ของเธอ และทำให้ท่าพิเศษ (ปุ่มสามเหลี่ยม) ของเธอเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งที่กด Unbridled Strength (สูงสุดสองครั้ง) โดยหลายคนอาจจะมองข้ามสกิลนี้ไปเพราะเกมไม่ได้บอกชัดเจนว่าทำอะไรได้ แต่ในความเป็นจริง การใช้สกิลนี้ควบคู่กับท่าโจมตีอื่นๆ ของเธอ ทำให้ Tifa เป็นตัวละครที่สามารถทำความเสียหายในขณะที่ศัตรู Stagger อยู่ได้มหาศาล มีประโยชน์มากๆ ในการต่อกรกับเหล่าบอสในเกม ที่ถ้าไม่ได้ Stagger แล้วจะโดนความเสียหายน้อยมาก

คอมโบง่ายๆ สำหรับ Tifa คือการใช้สกิล Unbridled Strength เตรียมไว้ก่อนสองครั้ง เมื่อศัตรูติดสถานะ Stagger แล้ว ให้สลับมาควบคุม Tifa และกดใช้ท่าโจมตีสามเหลี่ยมของเธอติดๆ กันสองครั้ง (จะเป็นท่า Rise and Fall และ Omnistrike) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูรวมกัน 45% และทำให้เกจ ATB ของ Tifa กลับมาเต็มสองช่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเราสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อยๆ (กด Unbridled Strength สองครั้งอย่างรวดเร็ว ต่อด้วยท่าสามเหลี่ยมสองครั้ง) จนกว่าศัตรูจะหายจากสถานะ Stagger เลย หรือถ้าใครมีสกิล True Strike จากอาวุธ Purple Pain แล้ว จะใช้ควบคู่กับคอมโบนี้เพื่อเพิ่มหลอด Stagger ก็ได้เช่นกัน






ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่





GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
Tips & Tricks: เคล็ดลับการเล่น Final Fantasy VII Remake ที่เกมอาจไม่ได้บอกคุณ
13/04/2020

วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับเกม Final Fantasy VII Remake เกมที่คืนชีพตำนาน JRPG อันเป็นที่รักยิ่งของเกมเมอร์ทั่วโลก ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ด้วยระบบเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่ใหญ่และใหม่กว่าเดิม ให้เหล่าผู้เล่นเก่าได้มีโอกาสหวนคืนสู่นคร Midgar ให้หายคิดถึง และยังเป็นการแนะนำผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ให้รู้จักกับหนึ่งในเกมที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยุคใหม่ถึงทุกวันนี้

หลังจากที่ได้เล่นเกมมาแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่) แม้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะไม่ได้มีระดับความยากมากมายอะไรเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็ในโหมด Normal ที่ผู้เขียนเล่น) แต่ก็มีเคล็ดลับหลายอย่างที่ถ้าผู้เขียนรู้มาก่อนจะเริ่มเล่น ก็คงจะทำให้เล่นเกมง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เรากำลังทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกม

ด้วยประการฉะนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ ไม่กี่ข้อ ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้เอาไว้ จะได้เล่นเกมอย่างไร้กังวลที่สุดจ้า!

อย่าลืมใช้สกิล!


อันนี้อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่ามาบอกกัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้เขียน ด้วยความที่ระบบต่อสู้มีความเป็นเกมแอคชั่นสูง ทำให้บางครั้งผู้เขียนมัวแต่ง่วนกับการเล่นเกมให้เป็นเกมแอคชั่น เช่นการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีศัตรู หรือการทำคอมโบ ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้กับศัตรูบางชนิดที่ควรจะง่ายและรวดเร็ว กลับกลายเป็นใช้เวลาและเลือดเนื้อ/ไอเทมมากกว่าที่จำเป็น ยิ่งในชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกของเกมยิ่งต้องระวังไม่ให้ติดเป็นนิสัย เพราะศัตรูส่วนใหญ่จะยังอ่อนแอพอให้ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดาได้ แต่พอพ้นจากนั้นไป จะต้องพึ่งพาสกิลในแทบจะทุกการต่อสู้เลย


กันไว้ให้ชิน


แม้ว่าการกลิ้งหลบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายไปเลย จะดูเหมือนทางเลือกที่ฉลาดกว่าการยืนกดป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนค้นพบคือการกลิ้งหลบของเกม Final Fantasy VII Remake มี Invincibility Frame ดั่งที่มักจะพบในเกมแอคชั่นส่วนใหญ่อยู่น้อยมากๆ (หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ) ทำให้การกลิ้งหลบการโจมตีที่รวดเร็ว หรือการโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำได้ยากกว่าที่หลายคนอาจจะคุ้นชินจากการเล่นเกมแอคชั่นอื่นๆ

ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ การยอมยืนกันและรับความเสียหายที่ลดลง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้รับความเสียหายน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกจ ATB ของเราเพิ่มเร็วขึ้น และทำให้ตัวละครไม่ล้มลงอีกด้วย

แน่นอนว่าการกลิ้งหลบยังคงจำเป็นสำหรับการโจมตีที่ป้องกันไม่ได้ หรือการโจมตีระยะไกลที่เคลื่อนที่ช้า และการโจมตีที่อาจจะทำให้ติดสถานะ เช่นพิษ ใบ้ เป็นต้น


จงมี Materia Assess ติดตัวตลอดเวลา


เมื่อคุณได้รับ Assess Materia มาจาก NPC ที่ชื่อ Chadley นั้น จงใส่มันลงไปในช่อง Materia ของ Cloud ซักช่องหนึ่ง และเก็บมันไว้ตรงนั้นจนจบเกม เจ้า Materia เม็ดนี้จะมอบความสามารถ Assess ให้กับตัวละครที่ใส่ ทำให้สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ เช่นเงื่อนไขในการเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูแต่ละชนิด ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า เพราะศัตรูเก่งๆ บางตัวอาจจะมีจุดอ่อนแปลกๆ เช่นต้องโจมตีจากด้านหลังเท่านั้น หรือต้องใช้การโจมตีนี้ในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่งั้นจะทำความเสียหายไม่ค่อยได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยิ่งเราใช้สกิล Assess ใส่ศัตรูหลายชนิด Chadley ก็จะเริ่มพัฒนา Materia ชนิดใหม่ๆ มาขายให้เราอีกที แถมถ้าทำไปเรื่อยๆ ยังอาจจะปลดล๊อค VR Battle ให้เราลองสู้กับบอส Summon ต่างๆ และเอามันมาเป็นพวกได้ด้วย

เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เกมไม่ได้บอก (หรืออาจจะบอกแล้วผู้เขียนพลาดไป) คือเมื่อคุณลองใช้ Assess ใส่ศัตรูครั้งหนึ่ง คุณจะสามารถเรียกดูหน้าต่างรายละเอียดศัตรูชนิดนั้นได้ทันที ด้วยการกด Touchpad เมื่อพบศัตรูชนิดนั้นๆ ในการต่อสู้ จะได้ไม่เหมือนผู้เขียน ที่เล่นไปครึ่งเกมโดยที่คอยกด Assess ใหม่ทุกครั้งเวลาต้องการอ่านจุดอ่อนศัตรู...


เพิ่มเลือดปาร์ตี้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม L1


ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด เวลาที่ต้องการจะใช้ไอเทมหลายชิ้น แต่เกมบังคับให้เปิดเมนูใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ไอเทมหนึ่งชิ้น แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเปิดเมนูค้างเอาไว้ได้ด้วยการกดปุ่ม L1 ค้างเอาไว้ในตอนที่ใช้ไอเทม เราจะได้กดใช้ไอเทมได้หลายๆ ครั้ง หรือกระทั่งสลับไปยังตัวละครอีกตัวได้เร็วๆ


พยายามใช้ตัวละครระยะไกลในการฮีล


แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถมอบ Heal Materia ให้กับตัวละครไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนพบว่าการมอบ Materia ให้กับตัวละครที่โจมตีระยะไกลอย่าง Barret และ Aerith เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามักจะยืนห่างจากศัตรู และมีโอกาสโดนขัดจังหวะร่ายสกิลน้อยกว่า Cloud หรือ Tifa โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม ที่ศัตรูเริ่มท้าทายและดุดันมากขึ้น

นอกจากนี้ ในเวลาฉุกเฉิน ผู้เล่นสามารถสลับมาควบคุมตัวละคร Barret และ/หรือ Aerith ด้วยตัวเองเพิ่มเพิ่มเกจ ATB ของตัวละครจากระยะปลอดภัยได้ด้วย ในจังหวะที่ต้องฮีลเยอะๆ จะได้ทำได้เร็วขึ้น


ใช้สกิล Pray บ่อยๆ


เมื่อพูดถึงการฮีล ตัวละคร Aerith จะมาพร้อมกับ Materia เม็ดหนึ่งที่มอบความสามารถ (Ability) Pray ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฮีลเพื่อนทั้งปาร์ตี้พร้อมๆ กันได้โดยไม่เสีย MP โดยผู้เขียนมักจะลืมว่ามีสกิลนี้อยู่ และเพิ่มเลือดโดยใช้ Cure/Cura แทนบ่อยๆ ซึ่งเปลือง MP และ Ether มาก

แน่นอนว่าด้วยความเป็น Materia จะใส่ให้ตัวละครไหนก็ได้ แต่ตามที่กล่าวไปข้างบน การฮีลในเกมนี้ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวละครระยะไกลอย่าง Aerith และ Barret อยู่แล้ว การทิ้ง Materia Pray เอาไว้กับ Aerith จึงถือเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด

แก้ไข: มีผู้อ่านท่านหนึ่งแก้ไขข้อมูลมาว่า Pray เป็น Materia ไม่ใช่สกิลติดตัวของ Aerith ซึ่งผู้เขียนได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนอาจจะลืมเองเพราะใส่ Materia เอาไว้กับ Aerith ตลอดเวลา ขอขอบคุณสำหรับข้อแก้ไขด้วยครับ


เก็บท่า Overcharge ของ Barret ไว้สำหรับเวลาจำเป็น


สำหรับผู้เขียน ความสามารถ Overcharge ของ Barret เป็นหนึ่งในความสามารถที่ดีที่สุดในเกมเลย นอกจากจะสร้างความเสียหายได้รุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว การโจมตีนี้ยังทำให้หลอด Stagger ของศัตรูเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด Overcharge ยังทำให้เกจ ATB ของ Barret เพิ่มขึ้นเมื่อใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถนี้จึงมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์ เช่นถ้าต้องการฮีลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีใครมีเกจ ATB สามารถสลับมาเล่น Barret และเพิ่มเกจตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อฮีลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ หรือถ้าศัตรูติดสถานะ Stagger การใช้ Overcharge ก็จะทำความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรู ทำให้เกจ Stagger เพิ่มขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยลงแขกได้นานขึ้น และยังทำให้มีเกจ ATB ไว้ให้ Barret ใช้ท่าใหญ่ๆ ซ้ำได้อีกด้วย


สกิล Triple Strike ของ Cloud สามารถทำความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อศัตรูหนึ่งตัว


เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเล่น Cloud คือการรอให้ศัตรูมายืนกระจุกกันเป็นกลุ่ม แล้วใช้สกิล Triple Strike เพื่อโจมตี โดยสำหรับสกิล Triple Strike นั้นจะทำให้ Cloud พุ่งไปฟันศัตรูในบริเวณใกล้ๆ กัน 3 ตัว แต่สิ่งที่เกมไม่ได้บอกคือ ศัตรูหนึ่งตัวสามารถโดนความเสียหายจาก Triple Strike ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าพวกมันยืนอยู่ใกล้กันมากพอที่จะโดนดาบของ Cloud เมื่อเขาแกว่งฟันตัวแรก และถ้ามันอยู่ใกล้กันมากพอเป็นกลุ่มๆ เราก็จะสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรูทั้งกลุ่ม แลกกับเกจ ATB ช่องเดียวเท่านั้น


อย่าลืมเปิด Unbridled Strength ให้ Tifa


ตัวละคร Tifa จะมาพร้อมกับสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Unbridled Strength ซึ่งจะบัฟการโจมตีปกติและเพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ Ability ต่างๆ ของเธอ และทำให้ท่าพิเศษ (ปุ่มสามเหลี่ยม) ของเธอเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งที่กด Unbridled Strength (สูงสุดสองครั้ง) โดยหลายคนอาจจะมองข้ามสกิลนี้ไปเพราะเกมไม่ได้บอกชัดเจนว่าทำอะไรได้ แต่ในความเป็นจริง การใช้สกิลนี้ควบคู่กับท่าโจมตีอื่นๆ ของเธอ ทำให้ Tifa เป็นตัวละครที่สามารถทำความเสียหายในขณะที่ศัตรู Stagger อยู่ได้มหาศาล มีประโยชน์มากๆ ในการต่อกรกับเหล่าบอสในเกม ที่ถ้าไม่ได้ Stagger แล้วจะโดนความเสียหายน้อยมาก

คอมโบง่ายๆ สำหรับ Tifa คือการใช้สกิล Unbridled Strength เตรียมไว้ก่อนสองครั้ง เมื่อศัตรูติดสถานะ Stagger แล้ว ให้สลับมาควบคุม Tifa และกดใช้ท่าโจมตีสามเหลี่ยมของเธอติดๆ กันสองครั้ง (จะเป็นท่า Rise and Fall และ Omnistrike) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูรวมกัน 45% และทำให้เกจ ATB ของ Tifa กลับมาเต็มสองช่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเราสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อยๆ (กด Unbridled Strength สองครั้งอย่างรวดเร็ว ต่อด้วยท่าสามเหลี่ยมสองครั้ง) จนกว่าศัตรูจะหายจากสถานะ Stagger เลย หรือถ้าใครมีสกิล True Strike จากอาวุธ Purple Pain แล้ว จะใช้ควบคู่กับคอมโบนี้เพื่อเพิ่มหลอด Stagger ก็ได้เช่นกัน






ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่





บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header