ถ้าพูดถึงบริษัท Tencent ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายเกมเจ้ายักษ์ของจีน ที่ถือสิทธิของ PUBG, Fortnite และกำลังพัฒนา Call of Duty: Online เวอร์ชั่นหุ่นยนตร์ซอมบี้ รวมถึงเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มขายเกมแบบดิจิทัลเจ้าใหญ่ที่เป็นคู่แข่งตัวเต็งของ Steam อย่าง WeGame แล้วก็แทบจะเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อว่าหุ้นจะร่วงลงถึง 20 หมื่นล้านเหรียญฯ ได้

ทว่าเรื่องก็ได้เกิดไปแล้วเมื่อกระทรวงศึกษาธิการของจีนออกข้อกำหนดที่พุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเกมในประเทศ โดยเว็บไซต์ Gameindustry เปิดเผยว่าทางกระทรวงศึกษาจีนได้ให้เหตุผลว่าข้อกำหนดชุดใหม่นี้จะช่วยลดจำนวนชั่วโมงของเด็กในการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของสายตาสั้นในเด็ก ซึ่งทางกระทรวงมีความเชื่อว่าวิดีโอเกมและอินเตอร์เน็ตอาจเป็นสาเหตุหลักในการเพิ่มอันตราสายตาสั้น จึงกำหนดแนวทางดังนี้

• กำหนดจำนวนชั่วโมงที่เยาวชนสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้


• ตรวจสอบระบบเรทติ้งของอายุที่เหมาะสม


• ลดจำนวนเกมออนไลน์ใหม่ที่จะได้รับอนุญาติให้จัดจำหน่ายได้

เมื่อคำแนะนำเหล่านี้ได้เผยแพร่ออกมา (ที่กระทบกับ Tencent ที่สุดคือข้อที่ 3) สำนักข่าว Reuters ได้รายงานว่าหุ้นของ Tencent ลดลง 2 หมื่นล้านเหรียญดอลล่าร์ ถือว่าไม่ใช่ปีที่ดีของ Tencent เสียเท่าไหร่โดยรวมปีนี้ Tencent เสียหายไปกว่า 160 ล้านบาทแล้ว

เมื่อตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่รัฐบาลจีนแช่แข็งการออกใบอนุญาติวางจำหน่ายเกมในประเทศ เนื่องจากมีความกังวลต่อความรุนแรงในเกม ทำให้ Tencent กำไรหายจากการห้ามทำเงินจาก PUBG Mobile และ Fortnite แถมยังต้องถอด Monster Hunter: World ออกจาก WeGame อย่างช่วยไม่ได้

นอกนี้ช่วงกรกฎาคมปีที่แล้ว Tencent ที่เป็นบริษัทที่ครองตลาดเกมมือถือกว่า 42 เปอร์เซ็นในปี 2017 รู้สึกว่าต้องตอบสนองต่อข้อครหาว่าตัวเกมทำให้เยาวชนติดเกมมือถือและนำไปสู่ภาวะสายตาสั้น จึงได้ประกาศแผนในการจำกัดเวลาเล่นสำหรับผู้เล่นวัยเด็กในเกม Honour of Kings หรือที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ RoV

ซึ่งเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการจีนระบุว่าการเรียนหนักเป็นสาเหตุต้นๆ ของภาวะสายตาสั้น รองลงมาคือการเล่นเกมมือถือ การใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกซ์อื่นๆ และการไม่ออกกำลังกายรวมถึงขาดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยในประเทศจีนมีประชากรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสายตาสั้นถึง 450 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 1.37 พันล้านคน ซึ่งภาวะสายตาสั้นในเด็กก็มีแนวโน้มสูงขึ้น

ทั้งนี้นี่อาจเป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น รูปการณ์อาจจะดีขึ้นก็เป็นได้ แต่จนกว่าที่นักลงทุนจะสามารถไว้วางใจกับข้อกำหนดที่ทางรัฐบาลออกมาก็มีแนวโน้มที่หุ้นจะดิ่งลงไปอีก โดย