ภาพวาดฉลองครบรอบ35ปี โดย Shinkiro
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมต่อสู้หรือไม่ก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า Street Fighter ก็ยังเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมชื่อดังของ Capcom ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก และมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ทั้งในฐานะเกมตู้ และหนึ่งในเกมที่สนับสนุนวงการแข่งขันมืออาชีพ ในยุคก่อนที่จะแนวคิด "อีสปอร์ต" จะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก
หากขึ้นชื่อว่าเป็นเกมเมอร์ ตัวละครอย่าง Ryu หรือ Chun-li ก็น่าจะเป็นตัวละครที่คุณเคยเห็นผ่านหน้าผ่านตามาบ้าง ไหนจะกระบวนท่าสุดคลาสสิคของพวกเขาอย่าง Hadoken, Shoryuken, Sonic Boom, Lighting Kick อีก
ตัวละครที่มีความหลากหลาย กับเกมเพลย์ที่ลึกและท้าทาย เป็นสิ่งทำให้ Street Fighter สามารถยืนหยัดอยู่คู่กับวงการเกมมาช้านาน และให้กำเนิดวัตนธรรมเกมต่อสู้ที่ยังเข้มแข็งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก
ความล้มเหลวของ Street fighter V กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Capcom Fighting Game
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเป็นหนึ่งของเกมก็ถูกบดบังโดยเกมอื่น ๆ ที่ตามมา จากปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าเกม ถึงแม้ตอนนี้ Street Fighter จะยังคงโด่งดังและมีจำนวนผู้เล่นเป็นอันดับต้นของเกมต่อสู้ แต่การเปิดตัวที่ย่ำแย่ของ Street Fighter V .ในปี 2016 ทำให้ภาพลักษณ์ของ Street Fighter ในช่วง 5-6 ที่ผ่านมาแย่ลงอย่างมาก จนกลายเป็นเกมที่ถูกวงการเกมต่อสู้ล้อกันอย่างเฮฮาทุกวันนี้
จากความล้มเหลวอย่างหน้าอับอายของเกม Street fighter X Tekken ส่งผลให้ Street fighter V ซึ่งเป็นผลงานถัดไปของ Capcom ได้รับทุนสร้างน้อยนิดมาก จนต้องยอมผูกสัญญากับ Sony เพื่อรับทุนมาพัฒนาเกมให้เสร็จ แต่ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่ทุกคนที่ซื้อ Street fighter V ในวันวางจำหน่ายต่างรู้ดี ว่าเกมในวันนั้นแทบจะไม่มีเนื้อหาอะไรเลย
Street Fighter V เปิดตัวด้วยตัวละคร16ตัว มี Lobby Online ที่จุได้แค่เพียง 2 คนไม่อย่างนั้นห้องจะหลุด ไม่มี Arcade Mode ที่เกมต่อสู้ทุกเกมควรจะมีตั้งแต่แรก เนื้อหา Single Player เดียวที่เกมมีคือ Story Mode ที่มีแค่ 4 ด่าน กับ Survival Mode ที่เล่นรอบเดียวก็เบื่อแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Street Fighter V ก็เป็นเกมที่ถูกคนส่วนมากรังเกียจ จากเนื้อหาที่น้อยกว่าภาคที่แล้ว ระบบเกมที่ไม่สร้างสรรค์ดีไซน์มาเซฟ ๆ เพราะอยากให้คนดูเข้าใจง่าย จนเกมนี้ค่อย ๆ ตายลงอย่างช้า ๆ ถึงแม้จะคอยมีอัพเดตอย่างต่อเนื่องก็ตาม Street fighter V มีแววว่าจะไปไม่รอด จนกระทั่งการเปลี่ยนผู้นำทีมพัฒนาครั้งใหญ่ตอนปี 2563 เกิดขึ้นที่ทำให้เกมเริ่มกับมามีหวัง
9 ส.ค 2563 Yoshinori Ono Executive Producer ของซีรีส์ Street Fighter ประกาศลาออกจากบริษัทหลังทำงานที่ Capcom มานานกว่า 30 ปี และเจ้าตัวได้กล่าวว่าจะให้ทีมงานเลือดใหม่มาทำหน้าที่คุมหัวเรือแทน
Yoshinori Ono ภาพจากEurogamer
หลังจากนั้น Shuhei Matsumoto, Takayuki Nakayama ผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer และ Director ของเกมตามลำดับ ได้ถูกดึงมารับหน้าที่เป็นหน้าตาของทีมพัฒนา Capcom Fighting Game แทน Yoshinori Ono โดยทั้งคู่ประกาศแผน Season 5 ของเกมที่จะเป็น Season สุดท้าย พร้อมกับการอัพเดทสมดุลตัวละครครั้งใหญ่ เพิ่มตัวละครชุดสุดท้าย แถมยังมีระบบ Skill ใหม่ "V-Shift" มาเพิ่ม ให้ผู้เล่นมีตัวเลือกในการวางแผนการป้องกันได้หลากหลายขึ้นอีกด้วย
Shuhei Matsumoto + Takayuki Nakayama: 2 ผู้นำรุ่นใหม่ กับแผนที่จะทำให้ Street Fighter 6 เป็นเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ภาพจากYoutube : Street fighter
Season 5 ของ Street fighter V ประสบความสำเร็จกว่าที่หลายคนคิด จากการนำตัวละคร Akira จาก Rival School มาเป็นตัวละครรับเชิญ พร้อมเพิ่มตัวละครฮา ๆ อย่าง Dan เข้ามาในเกม รวมถึงเปลี่ยน Rose จากตัวละครแนว Zoning (เน้นรักษาระยะห่างจากศัตรู) ให้มีมิติและมีคอมโบมากกว่าเดิม และท่่สำคัญที่สุด ยังปรับสมดุลให้ตัวละครทุกตัวเล่นสนุกขึ้น
ทุก ๆ คนที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่างมีความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับเกมมากขึ้นแล้วก็เริ่มที่จะมีความคิดที่ว่า “Capcom เริ่มกับมาใส่ใจเกี่ยวกับเกมต่อสู้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ด้วยเหตุนี้ Takayuki Nakayama กับ Shuhei Matsumoto จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนเกมได้อย่างรวดเร็ว
ผลงานที่ดีมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของทั้งสองคนนั้น เริ่มทำให้แฟนเกมอดที่จะมีความหวังกับ Street Fighter ไม่ได้ หลังจากที่สิ้นหวังมาตลอดหลายปี แฟน ๆ ตอนนี้เริ่มอยากเห็น Street Fighter 6 มากกว่าที่ผ่าน ๆ มา จนในที่สุดเมื่อต้นปีนี้ Capcom ก็ได้ประกาศเปิดตัว Street Fighter 6 ซึ่งเกมจะอยู่ภายใต้การคุมบังเหียนของ Producer และ Director ทั้ง 2 เหมือนเดิม
ตามที่ Shuhei Matsumoto บอกกับ IGN Japan ไว้ ดูเหมือนว่าการวางแผนพัฒนาเกม Street Fighter 6 ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2018 เมื่อ Takayuki Yamada ผู้กำกับของเกมได้เตรียมเอกสารไว้กว่า 92 หน้าในการนำเสนอไอเดียเกม โดยจุดเด่นที่เขามุ่งหมายไว้จะเกี่ยวกับแก่นหลัก 3 อย่างของเกม เช่น “FIGHTING GROUND” ที่จะมีหน้าที่รวบรวมเนื้อหาทุกอย่างที่เกมต่อสู้ควรจะมีเช่นโหมด Arcade, Versus, Practice, Special Match, Online และโหมดอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีในภาค 5 อีกด้วย “BATTLE HUB”ระบบที่จะเป็นเหมือนล๊อบบี้รูปแบบใหม่ และสุดท้าย “WORLD TOUR” ระบบผู้เล่นเดียวที่สร้างมาเพื่อให้ผู้เล่นได้ผจญภัยไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในของโลก Street Fighter
“พวกเราไม่ได้ทำเพียงแค่เกมต่อสู้ธรรมดา แต่พวกเราสร้าง “Street Fighter” ให้ออกมาสมชื่อมันจริงๆ” นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ Nakayama กล่าวเมื่อพูดถึงโหมดต่าง ๆ ของเกมนี้
หน้าตาUIโหมด FIGHTING GROUND
WORLD TOUR โหมดเกมที่อาจมีความทะเยอทะยานที่สุดตั้งแต่มีเกมต่อสู้มา
“WORLD TOUR” จะไม่ใช่แค่เพียงโหมดที่ใส่เป็นโบนัสเสริมแต่อย่างไรเลย ขนาดของมันเทียบได้เท่ากับเกมเต็มๆเกมนึง” นี่คือคำพูดของ Takayuki Nakayama ที่ได้กล่าวกับสื่อจาก IGN Japan
หลังจากนั้น Producer และ Director ได้สริมกับทาง IGN Japan อีกว่าโหมด “WORLD TOUR” จะให้เราได้มีโอกาสได้สร้างตัวละครลงมาเดินรอบ ๆ อย่างอิสระใน “Metro City” เมืองชื่อดังจากเกมสุดคลาสสิกอีกเกมของ Capcom “Final Fight” และได้พบปะตัวละครมากหน้าหลายตา และท้าประลองตัวละครอย่าง LUKE JAIME ระหว่างสำรวจได้อีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อถูกถามถึงสถานที่อื่น ๆ ทีมงานทั้งคู่ได้ตอบคำถามด้วยการหยอกแง้ม ๆ ว่า
“ผมอาจฟันธงอะไรแน่นอนตอนนี้ไม่ได้ แต่หวังว่าคุณจะรอการรายงานข่าวครั้งต่อไปเกี่ยวกับเกม ผมพยายามที่จะสร้างโหมดที่จะทำให้ผู้เล่นเดินทางไปรอบโลก และฝึกวิชาเพื่อที่จะให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น”
ในหัวข้อเดียวกันนี้ทีมงานยังกล่าวอีกว่าโหมด WORLD TOUR จะคอยมีเนื้อหาและภารกิจต่าง ๆ รอบแผนที่ซึ่งจะทำหน้าที่สอนผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยเล่นเกมต่อสู้ หรือผู้เล่นที่ไม่คุ้นเคยกับระบบเกมนี้ รวมถึงแนะนำและย้อนเรื่องราวของตัวละครในซีรีส์ระหว่างทางด้วย
Battle Hub: โหมดที่มีไว้มากกว่าเป็นแค่ที่เดินเล่น
แม้ระบบ Battle Hub จะเป็นระบบที่เรามีข้อมูลน้อยที่สุดในตอนนี้ แต่สกรีนช๊อตที่ Capcom ปล่อยมา ก็มีอะไรมากพอให้เราดึงออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้
Game Center? หรือเราจะสามารถเล่นเกมต่อสู้เก่า ๆ ของCapcom ได้ในโหมดนี้?
หากซูมเข้าไปใกล้ ๆ เราจะเห็นว่าตู้ในภาพนั้นเต็มไปด้วยเกมต่อสู้เก่า ๆ อย่าง Street Fighter Alpha 2 และ Super Puzzle Fighter 2 อีกด้วย หรือเราจะสามารถเล่น "เกมในเกม" ได้จากตู้พวกนี้?!
Body Shop ที่อาจมีไว้ซื้อของตกแต่งตัวละครที่เราสร้าง
Cammy กับ Guile สู้กันในตู้เกม เราอาจสามารถกดเข้าไปดูการต่อสู้ของคนอื่นได้อย่างง่าย ๆ
Event Counter ให้เราสามารถจัดทัวร์นาเม้นต์เองในโหมดนี้ได้เลย
ด้วยข้อมูลทุกอย่างที่ว่าไป Street Fighter 6 ดูจะเป็นเกมต่อสู้แรกในรอบหลายปี ที่ทำให้ผู้คนเริ่มสนใจซีรีส์นี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่หน้าเก่า อนาคตของ Street Fighter ตอนนี้เป็นความหวังของหลาย ๆ คน
“ถ้าเราจะนำเสนอ Street Fighter ภาคใหม่ออกมานี่คือสิ่งที่เราควรที่จะต้องทำ”
“เราต้องคิดถึงอนาคต ไม่ใช้แค่วางแผนไว้กับแค่ภาค 6 ถ้าหากแฟรนไชส์ Street Fighter เริ่มจะหายไปละก็ เราต้องตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้เลย”
ทีมงานทั้งสองท่านได้ได้พูดประโยคเหล่านี้ออกมาระหว่างการสัมภาษณ์ แถมยังบอกอีกว่าทีมที่กำลังเร่งพัฒนาเกมอยู่ตอนนี้เป็นทีมที่มีความกระตือรือร้นมาก ๆ และมีบรรยากาศการทำงานที่ดี พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ครั้งไหนที่ราบรื่นได้เท่าครั้งนี้มาก่อน
Street Fighter 6 มีกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2023 สำหรับเครื่อง PlayStation, Xbox, PC โดยเกมจะสนับสนุนระบบ Crossplay ด้วย
แหล่งข้อมูล: IGN Japan
ภาพวาดฉลองครบรอบ35ปี โดย Shinkiro
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมต่อสู้หรือไม่ก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า Street Fighter ก็ยังเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมชื่อดังของ Capcom ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จัก และมีประวัติศาสตร์มายาวนาน ทั้งในฐานะเกมตู้ และหนึ่งในเกมที่สนับสนุนวงการแข่งขันมืออาชีพ ในยุคก่อนที่จะแนวคิด "อีสปอร์ต" จะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก
หากขึ้นชื่อว่าเป็นเกมเมอร์ ตัวละครอย่าง Ryu หรือ Chun-li ก็น่าจะเป็นตัวละครที่คุณเคยเห็นผ่านหน้าผ่านตามาบ้าง ไหนจะกระบวนท่าสุดคลาสสิคของพวกเขาอย่าง Hadoken, Shoryuken, Sonic Boom, Lighting Kick อีก
ตัวละครที่มีความหลากหลาย กับเกมเพลย์ที่ลึกและท้าทาย เป็นสิ่งทำให้ Street Fighter สามารถยืนหยัดอยู่คู่กับวงการเกมมาช้านาน และให้กำเนิดวัตนธรรมเกมต่อสู้ที่ยังเข้มแข็งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก
ความล้มเหลวของ Street fighter V กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Capcom Fighting Game
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเป็นหนึ่งของเกมก็ถูกบดบังโดยเกมอื่น ๆ ที่ตามมา จากปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าเกม ถึงแม้ตอนนี้ Street Fighter จะยังคงโด่งดังและมีจำนวนผู้เล่นเป็นอันดับต้นของเกมต่อสู้ แต่การเปิดตัวที่ย่ำแย่ของ Street Fighter V .ในปี 2016 ทำให้ภาพลักษณ์ของ Street Fighter ในช่วง 5-6 ที่ผ่านมาแย่ลงอย่างมาก จนกลายเป็นเกมที่ถูกวงการเกมต่อสู้ล้อกันอย่างเฮฮาทุกวันนี้
จากความล้มเหลวอย่างหน้าอับอายของเกม Street fighter X Tekken ส่งผลให้ Street fighter V ซึ่งเป็นผลงานถัดไปของ Capcom ได้รับทุนสร้างน้อยนิดมาก จนต้องยอมผูกสัญญากับ Sony เพื่อรับทุนมาพัฒนาเกมให้เสร็จ แต่ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่ทุกคนที่ซื้อ Street fighter V ในวันวางจำหน่ายต่างรู้ดี ว่าเกมในวันนั้นแทบจะไม่มีเนื้อหาอะไรเลย
Street Fighter V เปิดตัวด้วยตัวละคร16ตัว มี Lobby Online ที่จุได้แค่เพียง 2 คนไม่อย่างนั้นห้องจะหลุด ไม่มี Arcade Mode ที่เกมต่อสู้ทุกเกมควรจะมีตั้งแต่แรก เนื้อหา Single Player เดียวที่เกมมีคือ Story Mode ที่มีแค่ 4 ด่าน กับ Survival Mode ที่เล่นรอบเดียวก็เบื่อแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Street Fighter V ก็เป็นเกมที่ถูกคนส่วนมากรังเกียจ จากเนื้อหาที่น้อยกว่าภาคที่แล้ว ระบบเกมที่ไม่สร้างสรรค์ดีไซน์มาเซฟ ๆ เพราะอยากให้คนดูเข้าใจง่าย จนเกมนี้ค่อย ๆ ตายลงอย่างช้า ๆ ถึงแม้จะคอยมีอัพเดตอย่างต่อเนื่องก็ตาม Street fighter V มีแววว่าจะไปไม่รอด จนกระทั่งการเปลี่ยนผู้นำทีมพัฒนาครั้งใหญ่ตอนปี 2563 เกิดขึ้นที่ทำให้เกมเริ่มกับมามีหวัง
9 ส.ค 2563 Yoshinori Ono Executive Producer ของซีรีส์ Street Fighter ประกาศลาออกจากบริษัทหลังทำงานที่ Capcom มานานกว่า 30 ปี และเจ้าตัวได้กล่าวว่าจะให้ทีมงานเลือดใหม่มาทำหน้าที่คุมหัวเรือแทน
Yoshinori Ono ภาพจากEurogamer
หลังจากนั้น Shuhei Matsumoto, Takayuki Nakayama ผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer และ Director ของเกมตามลำดับ ได้ถูกดึงมารับหน้าที่เป็นหน้าตาของทีมพัฒนา Capcom Fighting Game แทน Yoshinori Ono โดยทั้งคู่ประกาศแผน Season 5 ของเกมที่จะเป็น Season สุดท้าย พร้อมกับการอัพเดทสมดุลตัวละครครั้งใหญ่ เพิ่มตัวละครชุดสุดท้าย แถมยังมีระบบ Skill ใหม่ "V-Shift" มาเพิ่ม ให้ผู้เล่นมีตัวเลือกในการวางแผนการป้องกันได้หลากหลายขึ้นอีกด้วย
Shuhei Matsumoto + Takayuki Nakayama: 2 ผู้นำรุ่นใหม่ กับแผนที่จะทำให้ Street Fighter 6 เป็นเกมต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ภาพจากYoutube : Street fighter
Season 5 ของ Street fighter V ประสบความสำเร็จกว่าที่หลายคนคิด จากการนำตัวละคร Akira จาก Rival School มาเป็นตัวละครรับเชิญ พร้อมเพิ่มตัวละครฮา ๆ อย่าง Dan เข้ามาในเกม รวมถึงเปลี่ยน Rose จากตัวละครแนว Zoning (เน้นรักษาระยะห่างจากศัตรู) ให้มีมิติและมีคอมโบมากกว่าเดิม และท่่สำคัญที่สุด ยังปรับสมดุลให้ตัวละครทุกตัวเล่นสนุกขึ้น
ทุก ๆ คนที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่างมีความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับเกมมากขึ้นแล้วก็เริ่มที่จะมีความคิดที่ว่า “Capcom เริ่มกับมาใส่ใจเกี่ยวกับเกมต่อสู้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” ด้วยเหตุนี้ Takayuki Nakayama กับ Shuhei Matsumoto จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟนเกมได้อย่างรวดเร็ว
ผลงานที่ดีมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของทั้งสองคนนั้น เริ่มทำให้แฟนเกมอดที่จะมีความหวังกับ Street Fighter ไม่ได้ หลังจากที่สิ้นหวังมาตลอดหลายปี แฟน ๆ ตอนนี้เริ่มอยากเห็น Street Fighter 6 มากกว่าที่ผ่าน ๆ มา จนในที่สุดเมื่อต้นปีนี้ Capcom ก็ได้ประกาศเปิดตัว Street Fighter 6 ซึ่งเกมจะอยู่ภายใต้การคุมบังเหียนของ Producer และ Director ทั้ง 2 เหมือนเดิม
ตามที่ Shuhei Matsumoto บอกกับ IGN Japan ไว้ ดูเหมือนว่าการวางแผนพัฒนาเกม Street Fighter 6 ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2018 เมื่อ Takayuki Yamada ผู้กำกับของเกมได้เตรียมเอกสารไว้กว่า 92 หน้าในการนำเสนอไอเดียเกม โดยจุดเด่นที่เขามุ่งหมายไว้จะเกี่ยวกับแก่นหลัก 3 อย่างของเกม เช่น “FIGHTING GROUND” ที่จะมีหน้าที่รวบรวมเนื้อหาทุกอย่างที่เกมต่อสู้ควรจะมีเช่นโหมด Arcade, Versus, Practice, Special Match, Online และโหมดอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีในภาค 5 อีกด้วย “BATTLE HUB”ระบบที่จะเป็นเหมือนล๊อบบี้รูปแบบใหม่ และสุดท้าย “WORLD TOUR” ระบบผู้เล่นเดียวที่สร้างมาเพื่อให้ผู้เล่นได้ผจญภัยไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในของโลก Street Fighter
“พวกเราไม่ได้ทำเพียงแค่เกมต่อสู้ธรรมดา แต่พวกเราสร้าง “Street Fighter” ให้ออกมาสมชื่อมันจริงๆ” นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ Nakayama กล่าวเมื่อพูดถึงโหมดต่าง ๆ ของเกมนี้
หน้าตาUIโหมด FIGHTING GROUND
WORLD TOUR โหมดเกมที่อาจมีความทะเยอทะยานที่สุดตั้งแต่มีเกมต่อสู้มา
“WORLD TOUR” จะไม่ใช่แค่เพียงโหมดที่ใส่เป็นโบนัสเสริมแต่อย่างไรเลย ขนาดของมันเทียบได้เท่ากับเกมเต็มๆเกมนึง” นี่คือคำพูดของ Takayuki Nakayama ที่ได้กล่าวกับสื่อจาก IGN Japan
หลังจากนั้น Producer และ Director ได้สริมกับทาง IGN Japan อีกว่าโหมด “WORLD TOUR” จะให้เราได้มีโอกาสได้สร้างตัวละครลงมาเดินรอบ ๆ อย่างอิสระใน “Metro City” เมืองชื่อดังจากเกมสุดคลาสสิกอีกเกมของ Capcom “Final Fight” และได้พบปะตัวละครมากหน้าหลายตา และท้าประลองตัวละครอย่าง LUKE JAIME ระหว่างสำรวจได้อีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อถูกถามถึงสถานที่อื่น ๆ ทีมงานทั้งคู่ได้ตอบคำถามด้วยการหยอกแง้ม ๆ ว่า
“ผมอาจฟันธงอะไรแน่นอนตอนนี้ไม่ได้ แต่หวังว่าคุณจะรอการรายงานข่าวครั้งต่อไปเกี่ยวกับเกม ผมพยายามที่จะสร้างโหมดที่จะทำให้ผู้เล่นเดินทางไปรอบโลก และฝึกวิชาเพื่อที่จะให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น”
ในหัวข้อเดียวกันนี้ทีมงานยังกล่าวอีกว่าโหมด WORLD TOUR จะคอยมีเนื้อหาและภารกิจต่าง ๆ รอบแผนที่ซึ่งจะทำหน้าที่สอนผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยเล่นเกมต่อสู้ หรือผู้เล่นที่ไม่คุ้นเคยกับระบบเกมนี้ รวมถึงแนะนำและย้อนเรื่องราวของตัวละครในซีรีส์ระหว่างทางด้วย
Battle Hub: โหมดที่มีไว้มากกว่าเป็นแค่ที่เดินเล่น
แม้ระบบ Battle Hub จะเป็นระบบที่เรามีข้อมูลน้อยที่สุดในตอนนี้ แต่สกรีนช๊อตที่ Capcom ปล่อยมา ก็มีอะไรมากพอให้เราดึงออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้
Game Center? หรือเราจะสามารถเล่นเกมต่อสู้เก่า ๆ ของCapcom ได้ในโหมดนี้?
หากซูมเข้าไปใกล้ ๆ เราจะเห็นว่าตู้ในภาพนั้นเต็มไปด้วยเกมต่อสู้เก่า ๆ อย่าง Street Fighter Alpha 2 และ Super Puzzle Fighter 2 อีกด้วย หรือเราจะสามารถเล่น "เกมในเกม" ได้จากตู้พวกนี้?!
Body Shop ที่อาจมีไว้ซื้อของตกแต่งตัวละครที่เราสร้าง
Cammy กับ Guile สู้กันในตู้เกม เราอาจสามารถกดเข้าไปดูการต่อสู้ของคนอื่นได้อย่างง่าย ๆ
Event Counter ให้เราสามารถจัดทัวร์นาเม้นต์เองในโหมดนี้ได้เลย
ด้วยข้อมูลทุกอย่างที่ว่าไป Street Fighter 6 ดูจะเป็นเกมต่อสู้แรกในรอบหลายปี ที่ทำให้ผู้คนเริ่มสนใจซีรีส์นี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่หน้าเก่า อนาคตของ Street Fighter ตอนนี้เป็นความหวังของหลาย ๆ คน
“ถ้าเราจะนำเสนอ Street Fighter ภาคใหม่ออกมานี่คือสิ่งที่เราควรที่จะต้องทำ”
“เราต้องคิดถึงอนาคต ไม่ใช้แค่วางแผนไว้กับแค่ภาค 6 ถ้าหากแฟรนไชส์ Street Fighter เริ่มจะหายไปละก็ เราต้องตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างตั้งแต่ตอนนี้เลย”
ทีมงานทั้งสองท่านได้ได้พูดประโยคเหล่านี้ออกมาระหว่างการสัมภาษณ์ แถมยังบอกอีกว่าทีมที่กำลังเร่งพัฒนาเกมอยู่ตอนนี้เป็นทีมที่มีความกระตือรือร้นมาก ๆ และมีบรรยากาศการทำงานที่ดี พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ครั้งไหนที่ราบรื่นได้เท่าครั้งนี้มาก่อน
Street Fighter 6 มีกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2023 สำหรับเครื่อง PlayStation, Xbox, PC โดยเกมจะสนับสนุนระบบ Crossplay ด้วย
แหล่งข้อมูล: IGN Japan