GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "usb4"
รู้จักกับ USB4 เทคโนโลยีสายเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนประสบการณ์เกมมิ่งของคุณได้
หลายคนอาจไม่รู้ว่าในปี 2019 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวมาตรฐาน USB ใหม่จากทาง USB Implementers Forum ชื่อว่า USB4 ซึ่งมีกำหนดจะถูกเอามาใช้จริงในช่วง ปลายปี 2020 หรือก็คือช่วงนี้ และเชื่อหรือไม่ครับว่าเจ้าเทคโนโลยีสายเล็กๆ นี้อาจเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เกมมิ่งของเราชนิดคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้รับความรู้ที่เต็มที่ และเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าเจ้า USB4 นี้ มันยอดเยี่ยมยังไง ผมจำเป็นต้องเริ่มอธิบายก่อนว่า USB4 คืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน, และสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยตัวบทความนี้อาจมีความยาวที่มากพอสมควร ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยครับ USB4 คืออะไร USB4 คือเทคโนโลยีส่งข้อมูลแบบ External ตัวใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับจากทาง USB Implementers Forum ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยควบคุมดูแลมาตรฐานของสาย USB โดยเจ้าสายรับส่งข้อมูลเจเนอเรชันใหม่นี้ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 40GB ต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่า USB 3.2 อีกเท่าตัว สายนี้จะมาในรูปแบบ Type-C เท่านั้น และไม่มีรูปแบบ Type-A ที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งเหตุผลที่ต้องทำให้ออกมาเป็น Type-C เท่านั้น ก็เพื่อให้สามารถเอาไปใช้งานร่วมกับสาย Thunderbolt 3 ได้ด้วย โดยการที่สามารถใช้ร่วมกันได้แบบนี้ จะส่งผลถึงวงการเกมพอสมควรในเรื่องของราคา Hardware แต่ผมจะขอกล่าวต่อไปข้างล่างนี้ครับ นอกจากนี้จากประกาศของทาง VESA ทำให้เทคโนโลยี DisplayPort 2.0 เอง ก็หันมาใช้สาย USB4 ในการส่งข้อมูลเช่นกัน ซึ่งเจ้า DisplayPort 2.0 เองก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เล่นเกมของเพื่อนๆ ไปเลยเช่นกัน และเหตุผลว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปก็อยู่ข้างล่างนี้แล้วเช่นกันครับ DisplayPort 2.0 คืออะไร หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้สาย HDMI ในการต่อจอเข้ากับเครื่องเล่นเกม หรือคอมพิวเตอร์อยู่ในตอนนี้ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการใช้งานจอแสดงผลที่มีความละเอียดมากกว่า 4K และมีค่า Refresh Rate สูงกว่า 60 Hz แล้วละก็ เราจะไม่สามารถใช้สาย HDMI ในการเชื่อมต่อได้ ตัวสายมีขนาดของ Bandwidth ที่ไม่เพียงพอครับ โดยเทคโนโลยีล่าสุดของสาย HDMI คือ HDMI 2.0 ซึ่งมีขนาด Bandwidth เท่ากับ 18Gbps ดังนั้นจึงส่งผลให้สาย HDMI สามารถแสดงผลได้สูงสุดที่ความละเอียด 4K กับค่า Refresh Rate ที่ 60 Hz ครับ ดังนั้นในส่วนนี้สาย DisplayPort 1.4 จึงเข้ามารับหน้าที่แทนเนื่องจากเป็นสายที่มีขนาด Bandwidth สูงถึง 32.4 Gbps  (สามารถแสดงผลได้ถึง 4K/120 Hz และ 8K/60Hz) นอกจากนี้เทคโนโลยี Nvidia G-Sync กับ AMD FreeSync เอง ก็สามารถทำงานผ่านสาย DisplayPort ได้เท่านั้นเช่นกัน เพื่อนๆ อาจสังเกตได้ว่าจอคอมพิวเตอร์แพงๆ ที่มีความละเอียดสูง มีค่า Refresh Rate สูง และมีเทคโนโลยี Nvidia G-Sync หรือ AMD FreeSync มักให้สาย DisplayPort มาด้วยครับ กลับมาที่ประเด็น DisplayPort 2.0 เทคโนโลยีนี้คือตัวใหม่ล่าสุดที่มี Bandwidth สูงถึง 77.4 Gbps (สามารถแสดงผลได้ถึง 4K/144 Hz, 8K/120 Hz และ 16K/60Hz) ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการมาของ USB4 คือ การหมายความว่าเราจะสามารถเล่นเกมในความละเอียดที่สูงมากขึ้น หรือ Refresh Rate ที่สูงกว่าเดิมได้นั้นเอง [caption id="attachment_72716" align="aligncenter" width="1280"] เล่นเกมแบบ 16K[/caption] (ขอบคุณภาพจากทาง Linus Tech Tips) USB4 สามารถใช้กับ Thunderbolt 3 = ราคาของ Hardware จะถูกลง ก่อนที่โลกเราจะรู้จักกับ USB4 เทคโนโลยีสายที่ส่งข้อมูลได้เร็วที่สุดของโลกคือ Thunderbolt 3 ซึ่งเจ้าสายนี้เป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของทาง Intel ส่งผลให้หากผู้ผลิต Hardware จะใช้เทคโนโลยี จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับ Intel ด้วย ผลลัพธ์คือผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้ต้นทุนที่มากขึ้น และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Notebook รุ่น Highend รวมไปจนถึง Macbook ของทาง Apple มีราคาที่แพง นอกจากนี้ AMD เองก็ไม่สามารถนำ Thunderbolt 3 มาใช้งานได้เช่นกันเนื่องจาก Intel ไม่ยอม ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ External GPU ที่เอาไว้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Notebook สามารถใช้งานได้กับเครื่องที่ใช้ Chipset ภายในเป็นของ Intel เท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นการมาของ USB4 ที่สามารถใช้งานกับ Thunderbolt 3 ได้จึงจะช่วยลดราคาต้นทุนให้กับผู้ผลิตได้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ถูกกว่า การลดต้นทุนได้จึงหมายความว่า ราคาของสินค้าที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในส่วนนี้จะถูกลง ซึ่งจะทำให้พวกเราเหล่าเกมเมอร์สามารถจับต้องสินค้าที่มีประสิทธิภาพ สูงขึ้นในราคาเท่าเดิมได้นั้นเอง และการมี Notebook แรงๆ หรือ Hardware ดีๆ ก็จะทำให้การเล่นเกมของเพื่อนๆ ลื่นไหลมากขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ ความเปลี่ยนแปลงของวงการเกมที่น่าจะเกิดขึ้นเมื่อ USB4 ถูกใช้งานจริง นอกจากที่ผมกล่าวมาข้างตนแล้วยังมีอีก 2 ประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเกิดขึ้น สามารถอ่านได้ข้างล่างนี้เลยครับ การเปลี่ยนไปใช้จอที่สามารถเชื่อมต่อกับ USB4 ได้ ในปัจจุบันมาตรฐานการเล่นเกมถูกปรับขึ้นมาเป็น 4K / 60 FPS แล้ว จากการมาของเครื่อง PS5 และ Xbox Series X ดังนั้นในอนาคตมาตรฐานของความละเอียด กับ Refresh Rate จะสูงมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน โดยความละเอียดที่สูงกว่า 4K / 60 FPS นั้นไม่สามารถใช้งานสาย HDMI ได้แล้ว กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือการเปลี่ยนไปใช้ USB4 ในการส่งภาพจะกลายเป็นมามาตรฐานใหม่ของจอ PC อย่างแน่นอน และเมื่อวันนั้นมาถึง เหล่าเกมเมอร์ PC อาจได้เปลี่ยนจอกันทุกคนเลยครับ เอาจริงๆ มันยัง ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ขนาดนั้นสำหรับเราในตอนนี้ เนื่องจากมาตรฐาน USB4 ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในตอนนี้ และน่าจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเล่นเกมที่ควายละเอียดต่ำกว่า 8K / 60 FPS เช่นกัน เนื่องจากสาย DisplayPort 1.4 ยังสามารถทำงานในส่วนนี้ได้ดีอยู่ ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อเวลาที่เราต้องเปลี่ยนมาถึงจริงๆ เราก็จะปรับตัวกันได้เอง เหมือนตอนที่โลกเปลี่ยนจากสาย AV มาใช้สาย HDMI แทน นอกจากนี้คิดว่ากว่ายุคที่เราจะไปถึงความละเอียดมากกว่า 8K มันก็น่าจะยังอีก 6 - 8 ปีเลยครับ ถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเลยหลังจากที่ DisplayPort 2.0 กับ USB4 ถูกใช้งานเลย เห็นจะเป็นการที่สามารถต่อจอความละเอียดสูงพร้อมกันหลายตัวได้เลยด้วยสายเพียงเส้นเดียว ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะช่วยให้ประสบการณ์เกมมิ่งของเราดีขึ้นมากน้อยขนาดไหนเช่นกันครับ และอย่าลืมว่าจอที่นำมาใช้ต้องรองรับสายตัวนี้ด้วยเช่นกัน   (ขอบคุณภาพจากทาง BeginnersTech) ตลาด Hardware อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่จะมีราคาถูกลง อ่านผ่านๆ อาจเห็นว่าประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับวงการเกมเท่าไหร่นัก แต่ผมจะบอกว่าแม้ไม่ทางตรง แต่ข้อนี้ก็ส่งผลในทางอ้อมอยู่พอสมควรครับ ซึ่งถ้าให้อธิบายไปทีละขั้นต้อนแล้วละก็ คิดว่าอาจจะยาวเกินไปดังนั้นผมจึงได้เขียนอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เอาไว้แล้วข้างล่างนี้ครับ มีสายที่ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น = SSD พกพาจะสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ SSD ที่อยู่ในเครื่องมากขึ้น SSD พกพาจะสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ SSD ที่อยู่ในเครื่องมากขึ้น = การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลจะสูงขึ้น การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลจะสูงขึ้น = อาจทำให้ราคาของสินค้าจะถูกลง ราคาของสินค้าจะถูกลง = การประกอบ PC หรือ Console จะใช้ต้นทุนถูกลง การประกอบ PC หรือ Console จะใช้ต้นทุนถูกลง = เราอาจได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ราคาเท่าเดิม เครื่องที่มีประสิทธิภาพ = ประสบการณ์เกมที่ได้จะดีกว่า (4K / 120 FPS หรืออะไรก็แล้วแต่) นี้คือผลกระทบจากการมาของสาย USB4 เท่าที่ผมจะนึกออกในตอนนี้ครับ ซึ่งความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ผมกล่าวมาจะไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีหรอกครับ มันน่าจะต้องใช้เวลาอีก 5 - 10 ปี เลยในความคิดของผม และไม่แน่ใจด้วยว่ามีความเป็นไปได้อะไรที่ผมมองข้ามไปหรือไม่ ถ้าหากเพื่อนคิดเห็นอย่างไรก็คอมเม้นต์คุยกันได้ครับ!
17 Nov 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "usb4"
รู้จักกับ USB4 เทคโนโลยีสายเล็กๆ ที่อาจเปลี่ยนประสบการณ์เกมมิ่งของคุณได้
หลายคนอาจไม่รู้ว่าในปี 2019 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวมาตรฐาน USB ใหม่จากทาง USB Implementers Forum ชื่อว่า USB4 ซึ่งมีกำหนดจะถูกเอามาใช้จริงในช่วง ปลายปี 2020 หรือก็คือช่วงนี้ และเชื่อหรือไม่ครับว่าเจ้าเทคโนโลยีสายเล็กๆ นี้อาจเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เกมมิ่งของเราชนิดคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เพื่อที่จะให้เพื่อนๆ ได้รับความรู้ที่เต็มที่ และเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าเจ้า USB4 นี้ มันยอดเยี่ยมยังไง ผมจำเป็นต้องเริ่มอธิบายก่อนว่า USB4 คืออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน, และสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยตัวบทความนี้อาจมีความยาวที่มากพอสมควร ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยครับ USB4 คืออะไร USB4 คือเทคโนโลยีส่งข้อมูลแบบ External ตัวใหม่ล่าสุดที่ได้รับการยอมรับจากทาง USB Implementers Forum ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยควบคุมดูแลมาตรฐานของสาย USB โดยเจ้าสายรับส่งข้อมูลเจเนอเรชันใหม่นี้ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 40GB ต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่า USB 3.2 อีกเท่าตัว สายนี้จะมาในรูปแบบ Type-C เท่านั้น และไม่มีรูปแบบ Type-A ที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งเหตุผลที่ต้องทำให้ออกมาเป็น Type-C เท่านั้น ก็เพื่อให้สามารถเอาไปใช้งานร่วมกับสาย Thunderbolt 3 ได้ด้วย โดยการที่สามารถใช้ร่วมกันได้แบบนี้ จะส่งผลถึงวงการเกมพอสมควรในเรื่องของราคา Hardware แต่ผมจะขอกล่าวต่อไปข้างล่างนี้ครับ นอกจากนี้จากประกาศของทาง VESA ทำให้เทคโนโลยี DisplayPort 2.0 เอง ก็หันมาใช้สาย USB4 ในการส่งข้อมูลเช่นกัน ซึ่งเจ้า DisplayPort 2.0 เองก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เล่นเกมของเพื่อนๆ ไปเลยเช่นกัน และเหตุผลว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปก็อยู่ข้างล่างนี้แล้วเช่นกันครับ DisplayPort 2.0 คืออะไร หลายคนอาจคุ้นเคยกับการใช้สาย HDMI ในการต่อจอเข้ากับเครื่องเล่นเกม หรือคอมพิวเตอร์อยู่ในตอนนี้ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วถ้าหากเพื่อนๆ ต้องการใช้งานจอแสดงผลที่มีความละเอียดมากกว่า 4K และมีค่า Refresh Rate สูงกว่า 60 Hz แล้วละก็ เราจะไม่สามารถใช้สาย HDMI ในการเชื่อมต่อได้ ตัวสายมีขนาดของ Bandwidth ที่ไม่เพียงพอครับ โดยเทคโนโลยีล่าสุดของสาย HDMI คือ HDMI 2.0 ซึ่งมีขนาด Bandwidth เท่ากับ 18Gbps ดังนั้นจึงส่งผลให้สาย HDMI สามารถแสดงผลได้สูงสุดที่ความละเอียด 4K กับค่า Refresh Rate ที่ 60 Hz ครับ ดังนั้นในส่วนนี้สาย DisplayPort 1.4 จึงเข้ามารับหน้าที่แทนเนื่องจากเป็นสายที่มีขนาด Bandwidth สูงถึง 32.4 Gbps  (สามารถแสดงผลได้ถึง 4K/120 Hz และ 8K/60Hz) นอกจากนี้เทคโนโลยี Nvidia G-Sync กับ AMD FreeSync เอง ก็สามารถทำงานผ่านสาย DisplayPort ได้เท่านั้นเช่นกัน เพื่อนๆ อาจสังเกตได้ว่าจอคอมพิวเตอร์แพงๆ ที่มีความละเอียดสูง มีค่า Refresh Rate สูง และมีเทคโนโลยี Nvidia G-Sync หรือ AMD FreeSync มักให้สาย DisplayPort มาด้วยครับ กลับมาที่ประเด็น DisplayPort 2.0 เทคโนโลยีนี้คือตัวใหม่ล่าสุดที่มี Bandwidth สูงถึง 77.4 Gbps (สามารถแสดงผลได้ถึง 4K/144 Hz, 8K/120 Hz และ 16K/60Hz) ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าการมาของ USB4 คือ การหมายความว่าเราจะสามารถเล่นเกมในความละเอียดที่สูงมากขึ้น หรือ Refresh Rate ที่สูงกว่าเดิมได้นั้นเอง [caption id="attachment_72716" align="aligncenter" width="1280"] เล่นเกมแบบ 16K[/caption] (ขอบคุณภาพจากทาง Linus Tech Tips) USB4 สามารถใช้กับ Thunderbolt 3 = ราคาของ Hardware จะถูกลง ก่อนที่โลกเราจะรู้จักกับ USB4 เทคโนโลยีสายที่ส่งข้อมูลได้เร็วที่สุดของโลกคือ Thunderbolt 3 ซึ่งเจ้าสายนี้เป็นเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของทาง Intel ส่งผลให้หากผู้ผลิต Hardware จะใช้เทคโนโลยี จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับ Intel ด้วย ผลลัพธ์คือผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้ต้นทุนที่มากขึ้น และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Notebook รุ่น Highend รวมไปจนถึง Macbook ของทาง Apple มีราคาที่แพง นอกจากนี้ AMD เองก็ไม่สามารถนำ Thunderbolt 3 มาใช้งานได้เช่นกันเนื่องจาก Intel ไม่ยอม ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ External GPU ที่เอาไว้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Notebook สามารถใช้งานได้กับเครื่องที่ใช้ Chipset ภายในเป็นของ Intel เท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นการมาของ USB4 ที่สามารถใช้งานกับ Thunderbolt 3 ได้จึงจะช่วยลดราคาต้นทุนให้กับผู้ผลิตได้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ถูกกว่า การลดต้นทุนได้จึงหมายความว่า ราคาของสินค้าที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในส่วนนี้จะถูกลง ซึ่งจะทำให้พวกเราเหล่าเกมเมอร์สามารถจับต้องสินค้าที่มีประสิทธิภาพ สูงขึ้นในราคาเท่าเดิมได้นั้นเอง และการมี Notebook แรงๆ หรือ Hardware ดีๆ ก็จะทำให้การเล่นเกมของเพื่อนๆ ลื่นไหลมากขึ้นไปด้วยในเวลาเดียวกันครับ ความเปลี่ยนแปลงของวงการเกมที่น่าจะเกิดขึ้นเมื่อ USB4 ถูกใช้งานจริง นอกจากที่ผมกล่าวมาข้างตนแล้วยังมีอีก 2 ประเด็นที่ผมคิดว่าน่าจะเกิดขึ้น สามารถอ่านได้ข้างล่างนี้เลยครับ การเปลี่ยนไปใช้จอที่สามารถเชื่อมต่อกับ USB4 ได้ ในปัจจุบันมาตรฐานการเล่นเกมถูกปรับขึ้นมาเป็น 4K / 60 FPS แล้ว จากการมาของเครื่อง PS5 และ Xbox Series X ดังนั้นในอนาคตมาตรฐานของความละเอียด กับ Refresh Rate จะสูงมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน โดยความละเอียดที่สูงกว่า 4K / 60 FPS นั้นไม่สามารถใช้งานสาย HDMI ได้แล้ว กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือการเปลี่ยนไปใช้ USB4 ในการส่งภาพจะกลายเป็นมามาตรฐานใหม่ของจอ PC อย่างแน่นอน และเมื่อวันนั้นมาถึง เหล่าเกมเมอร์ PC อาจได้เปลี่ยนจอกันทุกคนเลยครับ เอาจริงๆ มันยัง ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ขนาดนั้นสำหรับเราในตอนนี้ เนื่องจากมาตรฐาน USB4 ยังไม่ได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในตอนนี้ และน่าจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเล่นเกมที่ควายละเอียดต่ำกว่า 8K / 60 FPS เช่นกัน เนื่องจากสาย DisplayPort 1.4 ยังสามารถทำงานในส่วนนี้ได้ดีอยู่ ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อเวลาที่เราต้องเปลี่ยนมาถึงจริงๆ เราก็จะปรับตัวกันได้เอง เหมือนตอนที่โลกเปลี่ยนจากสาย AV มาใช้สาย HDMI แทน นอกจากนี้คิดว่ากว่ายุคที่เราจะไปถึงความละเอียดมากกว่า 8K มันก็น่าจะยังอีก 6 - 8 ปีเลยครับ ถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นเลยหลังจากที่ DisplayPort 2.0 กับ USB4 ถูกใช้งานเลย เห็นจะเป็นการที่สามารถต่อจอความละเอียดสูงพร้อมกันหลายตัวได้เลยด้วยสายเพียงเส้นเดียว ซึ่งผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะช่วยให้ประสบการณ์เกมมิ่งของเราดีขึ้นมากน้อยขนาดไหนเช่นกันครับ และอย่าลืมว่าจอที่นำมาใช้ต้องรองรับสายตัวนี้ด้วยเช่นกัน   (ขอบคุณภาพจากทาง BeginnersTech) ตลาด Hardware อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่จะมีราคาถูกลง อ่านผ่านๆ อาจเห็นว่าประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับวงการเกมเท่าไหร่นัก แต่ผมจะบอกว่าแม้ไม่ทางตรง แต่ข้อนี้ก็ส่งผลในทางอ้อมอยู่พอสมควรครับ ซึ่งถ้าให้อธิบายไปทีละขั้นต้อนแล้วละก็ คิดว่าอาจจะยาวเกินไปดังนั้นผมจึงได้เขียนอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เอาไว้แล้วข้างล่างนี้ครับ มีสายที่ส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น = SSD พกพาจะสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ SSD ที่อยู่ในเครื่องมากขึ้น SSD พกพาจะสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ SSD ที่อยู่ในเครื่องมากขึ้น = การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลจะสูงขึ้น การแข่งขันในตลาดอุปกรณ์เก็บข้อมูลจะสูงขึ้น = อาจทำให้ราคาของสินค้าจะถูกลง ราคาของสินค้าจะถูกลง = การประกอบ PC หรือ Console จะใช้ต้นทุนถูกลง การประกอบ PC หรือ Console จะใช้ต้นทุนถูกลง = เราอาจได้เครื่องที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่ราคาเท่าเดิม เครื่องที่มีประสิทธิภาพ = ประสบการณ์เกมที่ได้จะดีกว่า (4K / 120 FPS หรืออะไรก็แล้วแต่) นี้คือผลกระทบจากการมาของสาย USB4 เท่าที่ผมจะนึกออกในตอนนี้ครับ ซึ่งความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ผมกล่าวมาจะไม่ได้เกิดขึ้นแบบทันทีหรอกครับ มันน่าจะต้องใช้เวลาอีก 5 - 10 ปี เลยในความคิดของผม และไม่แน่ใจด้วยว่ามีความเป็นไปได้อะไรที่ผมมองข้ามไปหรือไม่ ถ้าหากเพื่อนคิดเห็นอย่างไรก็คอมเม้นต์คุยกันได้ครับ!
17 Nov 2020