หลังจากที่มีกระแสข่าวกันมาพักใหญ่ๆ ทางทีมผู้พัฒนาของเกมในตำนาน Alan Wake อย่าง Remedy Entertainment ก็ทำการออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเขาตั้งใจที่จะสร้างจักรวาลของ Remedy Connected Universe ที่ใหญ่ขึ้น และมีเกมหลายเกมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่ง Alan Wake นั้นจะเป็นเหมือนเกมที่เข้ามาขยายมันให้กว้างใหญ่ขึ้นนั่นเองโดยตัวเกม Alan Wake Remastered ที่กำลังจะมาถึงนั้น เราอาจจะได้เห็นทางทีมผู้พัฒนาทำการแก้ไขเนื้อหาบางส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมโยง ให้เกมนั้นร่วมเข้ามาอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเกมอื่นๆ จากการพูดคุยกับ Thomas Puha ผู้กำกับด้านการสื่อสารของทาง Remedy ก็ได้มีการกล่าวว่า Alan Wake Remastered จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแบบโดยสิ้นเชิง แต่จะมีการเพิ่มเติมส่วนเชื่อมโยงเข้าไป เพื่อให้ตัวเกมเชื่อมถึงเกมอื่นๆ ของ Remedy และเขายังกล่าวเสริมอีกว่า “สิ่งที่เราจะบอกก็คือ จงให้ความสนใจในการเล่นภาค Remastered”นอกจากนั้นในตอนนี้ทาง Remedy Entertainment เองก็กำลังซุ่มพัฒนาเกม AAA เกมใหม่อยู่ และแน่นอนว่ามันจะเป็นตัวเกมที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับ Control กับ Alan Wake ซึ่งก็ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็น Alan Wake 2 ก็เป็นได้อย่างไรก็ดี Alan Wake Remastered นั้นเตรียมจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 ตุลาคม บน PS4, Xbox One และ PC ค่ะ อดใจรอกันอีกไม่นานแล้วนะ!Credit: GamingBolt

ข้อมูลนี้ถูกเปิดเผยในเว็บไซต์หลักของ Remedy พร้อมกับข่าวที่ว่ายอดของ Control นั้นเพิ่มขึ้นมากในช่วง Q2 2021 ซึ่งทาง Remedy ก็ได้บอกว่าทางสตูดิโอนั้นได้ทำการโปรโมทเกมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Control Ultimate Edition บน Google Stadia และการวางขายเกมในช่วง Epc Game Store Mega Sale 2021 สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้ยอดของเกมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง'โดยรวมแล้ว ทั้งแพลตฟอร์มใหม่ เซอร์วิส และข้อเสนอพิเศษต่างๆ ทำให้เราได้รับบทเรียนอันมีค่าสำหรับอนาคตไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นหรือกลุ่มลูกค้าที่พึ่งรู้จักเกมของเรา' ข้อความบนเว็บไซต์กล่าว 'Control ได้เข้าถึงผู้เล่นจำนวนมากถึง 10 ล้านคนแล้วตอนนี้และจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ' นอกจากนี้ในข้อความยังกล่าวอีกว่ากำลังมีโปรเจคทุนหนาที่กำลังอยู่ในการพัฒนาอีกด้วย ซึ่งมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่เป็น Epic Games นอกจากนี้ก็มีเกม Co-Op PvE 4 คนในโลกของ Control ที่ร่วมพัฒนากับค่าย 505 Games ด้วย แถมทาง Remedy ก็ยังได้บอกอีกว่าจะร่วมมือกับ 505 Games ในการทำเกม Control ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต ในข้อความยังได้กล่าวอีกว่าทางค่ายกำลังทำเกมอยู่ 6 เกมและมีพนักงานมากถึง 293 คน'เราดีใจที่ทางค่ายได้มีการเติบโตที่ดีในปีนี้ สถานทางการเงินของเราแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน แถมเกม Control ก็ช่วยดึงผู้เล่นจำนวนมากเข้ามารู้จักกับเราด้วย ซึ่งนั่นเป็นการบอกถึงความสามารถของเราในการสร้างเกมและแบรนด์ของเรา นอกจากนี้หลายๆ โปรเจคของเราที่กำลังอยู่ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็ใกล้จะถึงช่วงที่เราสามารถวางขายเกมใหม่ๆ ได้แล้ว'Control สามารถซื้อมาเล่นได้ใน Steam, PS5, PS4, Xbox Series X/S, Xbox One, Nintendo Switch, GOG, Epic Game Store และ Google Stadia Credit: IGN

ถือเป็นการเปิดตัวได้น่าสนใจไม่น้อยสำหรับตัวเกมใหม่ที่กำลังถูกพัฒนาจาก Remedy ซึ่งคอนเซ็ปเกมในครั้งนี้พวกเขาจะรวมตัวเกมอย่าง Control และ Alan Wake เพื่อผสมผสานจุดเด่นของตัวเกมทั้งสอง ให้โปรเจคนี้ของพวกเขาออกมาเยี่ยมที่สุด หลังจากการสัมภาษณ์ทีมผู้พัฒนาคุณ Sam Lake ในเรื่องแนวคิดที่ทำตัวเกม โดยการผสมผสาน Control และ Alan Wake มาไว้ด้วยกัน ซึ่งได้กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ตัวเกมจะให้อารมณ์คล้ายกับคุณกำลังดำเนินเรื่องราวของเกมอยู่ซักระยะหนึ่ง และประตูเชื่อมสู่อีกหนึ่งโลกก็เปิดตัวขึ้นทำให้ผู้เล่นจะได้พบกับการเล่นในรูปแบบเดิมแต่ประสบการณ์ที่มากขึ้นแน่นอน หากสังเกตุจพบได้ว่าส่วนของเกม Control ในบางช่วงเราจะได้เห็นเรื่องราวของ Alan Wake ซึ่งเกมทั้ง 2 นั้นก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกันเสมอๆ ไม่ใช้เรื่องแปลกใจที่หากผู้พัฒนาจะทำเกมออกมาใหม่ และพวกเขายังคงอิงรูปแบบเกมมาจากรูปแบบเดิมๆ จึงทำให้แฟนๆ หลายคนต่างเดาว่านี้อาจจะเป็นตัวภาคต่อของ Control และ Alan Wake  ได้เช่นกันอย่างไรก็ตามคงต้องรอการประกาศรายละเอียดของตัวเกมเพิ่มเติมจากทีมผู้พัฒนาอีกครั้งค่ะ Credit: gamingbolt  

เกม Control ของ Remedy Entertainment ที่ได้วางจำหน่ายไปในปี 2019 ไม่ใช่เกมที่ถูกสนใจมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้รายได้บริษัทแม่ของผู้วางจำหน่ายเพิ่มขึ้นสองเท่า ดังนั้นจะบอกว่าเกมนี้ไม่ได้รับความสนใจก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก ซึ่งล่าสุดจากการประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ อาจเป็นข่าวดีสำหรับแฟนเกมนี้ครับ! ทางผู้พัฒนากำลังมองหา Senior Producer มารับบทบาทสำคัญใน "Remedys Control franchise" และถึงแม้จะยังไม่มีการพูดถึงภาคต่ออย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีทางที่แฟรนไชส์นี้จะมีเกมอยู่ภาคเดียวแน่นอน นั้นจึงหมายความว่าเราน่าจะได้เห็น Control ภาคใหม่เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนครับ เกม Control วางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation4, Xbox One และ PC และได้รับการยืนยันแล้วว่าจะลงให้กับเครื่อง PS5 และ Xbox Series X ด้วยเช่นกัน เกมดังกล่าวจะมี DLC ด้วยแต่ยังไม่มีกำหนดการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Control คือเกม Action RPG ใหม่จาก Remedy Entertainment ผู้สร้าง Quantum break โดยตัวเกมนั้นได้รับรางวัล Best Art Direction จากงาน The Game Awards 2019 ที่ผ่านมาด้วย ถึงตัวเกมจะวางจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 ที่ผ่านมาแล้ว แต่ผู้พัฒนาก็ยังคงเพิ่มคอนเทนท์ใหม่เข้ามาในเกมเรื่อย ๆ อย่างล่าสุด The Expeditions ที่เป็น Challenges ใหม่ที่เปิดให้ผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าไปเล่นได้เลยฟรี ๆ และ Major Expansion แรกของเกมก็มีกำหนดวางขายแล้วเช่นกันครับ! The Expeditions เป็นคอนเทนท์ใหม่ ที่ให้ผู้เล่นจะสามารถเริ่มเควส Challenge ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับกล่องเล่นเพลงปริศนาได้ โดยเจ้ากล่องเล่นเพลงนี้งจะพาเราไปยัง Realm ใหม่ เพื่อทำ Challenge ต่าง ๆ นั้น โดยแบ่งความยากออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งจะได้รับ Junkbox Tokens สำหรับแลกของ มากขึ้นตามระดับความยากที่เข้าไปท้าทาย จากนั้นนำ Tokens ดังกล่าวไปแลกรับ Mods , Crafting Materials และ Outfit ใหม่ ๆ ต่อไปครับ ส่วน Expansion แรกนั้นตอนนี้มีแค่ชื่อ The Foundation กับวันที่จะวางจำหน่าย 26 มีนาคม 2020 เท่านั้นที่ปล่อยออกมา ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ได้มีการปล่อย Launch Trailer ของ The Expeditions และ Expansion ใหม่นี้ออกมาแล้วด้วย สามารถรับรถชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Control วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC ครับ โดยสามารถเข้าไปเล่น The Expeditions ได้แล้ววันนี้ ส่วน Expansions แรกของเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 26 มีนาคม 2020 นี้ครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ออกมาแล้วหลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 ปีกับค่ายเกมชื่อกระฉ่อนอย่าง Remedy Entertainment ค่ายที่เคยฝากฝังเกมชื่อมาแล้วอย่าง Max Payne 1 - 2, Alan Wake และ Quantum Break โดยครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับเกมใหม่ Control ภายใต้ผู้จัดจำหน่ายรายใหม่อย่าง 505 Games หลังจากที่จากลากับทาง Microsoft ไป ซึ่งในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมารีวิวเกมนี้ในทุกท่านได้ทราบกันครับว่า Control จะยอดเยี่ยมเท่ากับเกมรุ่นพี่ที่เคยออกมาได้หรือไม่ ? เนื้อเรื่อง Control จะเล่าเรื่องราวของสาวแกร่งคนหนึ่งนามว่า Jesse Faden ที่ได้รับตำแหน่งให้มาเป็น Director ขององค์กร Federal Bureau of Control (FBC) หน่วยงานลับของรัฐบาลที่คอยจัดการเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่บังเอิญภายในหน่วยงานนี้เองก็ถูกศัตรูลึกลับนามว่า The Hiss เข้าโจมตีในอาคาร จึงทำให้วันแรกที่ทำงานเรานั้นจะต้องแก้ไขสถานการณ์เพื่อฟื้นฟูองค์กรให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง, หาสาเหตุปริศนาของพลังเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้น รวมถึงเสาะหาน้องชายของเขาที่สมัยเด็กได้ถูกพาเข้ามาในนี้แล้วหายตัวไป โดยสไตล์การเล่าเรื่องของเกมนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันมีความแปลกใหม่ในการนำเสนอมากๆ ตัวเนื้อเรื่องจะมีความซับซ้อนซ่อนเงื่อน รวมถึงในช่วงเริ่มต้นเองเราอาจจะยังไม่สามารถจับต้นชนปลายถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราจะต้องหาตามหาอ่านเรื่องราวตามเอกสาร รวมถึงภายในเรื่องถ้าเล่นไปเรื่อยๆ มันก็จะค่อยๆ เผยรายละเอียดทีละนิด โดยในช่วงแรกๆ ตัวเกมมีปริศนาเยอะมาก เนื่องจากการเล่าเรื่องที่ต้องใช้การตีความ มีกลิ่นอายในความติสแตกเหมือนหนังของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลนยุคแรกๆ ยังไงอย่างงั้น แต่ข้อดีคือพอถึงบทสรุปตัวเกมก็เฉลยปมต่างๆ ได้และเคลียดี แต่ข้อเสียของการดำเนินเรื่องแนวนี้คือ ถ้าคนที่ชอบก็คือชอบไปเลย แต่ถ้าคนไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลย เพราะการเล่าเรื่องมันไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่กินง่ายเหมือนเกมอื่น ยิ่งตัวเกมเป็นแนวไซ-ไฟ ที่จะมีศัพท์เทคนิคเข้าใจยากอยู่แล้ว ไหนจะมีปมต่างๆ อีกหลายทบ ไอ้ความติสนี่แหละมันทำให้บางครั้งเราอาจจะตามเนื้อเรื่องไม่ทัน ผิดกับเกมก่อนหน้าอย่าง Quantum Break ที่ต่อให้เป็นแนวไซ-ไฟเหมือนกัน มีศัพท์เทคนิคคล้ายกัน แต่ตัวเนื้อเรื่องเองก็ดำเนินได้ไม่ซับซ้อน มีความซื่อตรงกว่าทำให้เข้าใจง่ายมากกว่า กราฟิก กราฟิกของ Control นั้นต้องชมในเรื่องของแสงเงาที่ผู้พัฒนาใส่ใจรายละเอียดตรงนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากในเวอร์ชั่น PC ของเกมนี้รองรับระบบ Ray Tracing อีกด้วย ตัวกราฟิกเอกก็สวยตามยุคสมัย แต่ธีมของเกมนี้จะเน้นความลึกลับมากกว่าหลายๆ เกม มันจะมีกลิ่นอายความเป็น Psycho อยู่หน่อยๆ ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ไม่เลวเลย แต่สิ่งที่รู้สึกผิดหวังก็อาจจะเป็นโมเดลของตัวละครที่รู้สึกว่าจะดรอปกว่าเกมก่อนหน้าอย่าง Quantum Break เป็นอย่างมาก มีความรู้สึกว่าคุณภาพของ Motion Capture ของ Control จะดูด้อยกว่าหน่อยๆ รวมถึงฉากคัทซีนต่างๆ ของเกมนี้ก็จะดูน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และจะเน้นเพียงแค่การที่ NPC ยืนคุยกับเราง่อยๆ เท่านั้น ซึ่งเดาได้ว่างบในการสร้างอาจจะไม่เยอะเท่ากับ Quantum Break ก็เป็นได้เพราะ Microsoft น่าจะมีทุนที่เยอะกว่า 505 Games รวมถึงสิ่งที่ไม่ชอบเลยก็คือ Performance ของเกมทำออกมาได้ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไร ในเวอร์ชั่น PC เพราะคอมพิวเตอร์ที่ผู้เขียนเล่นนั้นก็แรงในระดับหนึ่ง i7 Gen 8 + 1070 แต่จะต้องปรับ Low หรือเรนเดอร์โมเดลให้ถึง 1080p ไม่ค่อยจะได้ เพราะมันจะเกิดอาการหน่วงๆ เฟรมดรอปลงมาจนน่ารำคาญหลายครั้ง เกมเพลย์ ตัวเกมเพลย์ของ Control เองก็ต้องบอกเลยว่ามันก็จะยังคงความเป็นเกมค่าย Remedy อยู่ ที่จะเป็นเกมแนวเดินหน้ายิง บวกกับความสามารถของตัวละครต่างๆ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกให้มากยิ่งขึ้น แต่ความสามารถของตัวละครเอกก็จะแตกต่างตามธีมของเกมไป ซึ่งเกมนี้มีธีมเกี่ยวกับปรากฏการลึกลับเหนือธรรมชาติ มีความเป็นไซ-ไฟบวกอารมณ์ผีสางอยู่หน่อยๆ จึงทำให้ Jesse มีความสามารถในการใช้พลังจิตเป็นหลัก สามารถลอยขึ้นไปในอากาศได้อย่างอิสระ มีพลังที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุเพื่อใช้โจมตีศัตรูต่างๆ นาๆ ปืนที่เราใช้ก็จะเป็น Service Weapon ปืนมีชีวิตที่จะ Reload กระสุนให้เอง ซึ่งเราสามารถเก็บวัตถุดิบต่างๆ เพื่อหาของมาอัพเกรดเปลี่ยนสไตล์ของปืนได้ให้เป็นปืนกล หรือปืนชาร์จยิงบลาๆ รวมถึงเรายังสามารถที่ใส่ MOD เพื่อเพิ่ม Passive ให้กับปืนของเราได้อีกด้วย แต่วัตถุดิบที่มีให้ไม่เยอะ เราก็อาจจะเลือกใช้และเลือกอัพเกรดว่าเราอยากจะเล่นสไตล์ไหน เพราะว่าต่อให้ปืนมีรูปแบบเยอะยังไง เราก็ใส่ได้เพียงแค่ 2 แบบ สไตล์เพลย์เกมนี้จะมีความ Run and Gun มากพอสมควร ที่จะทำให้สปีดของเกมมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และจุดเด่นของ Control ที่ไม่เหมือนเกมอื่นๆ ก็น่าจะเป็นความยากของเกมที่ศัตรูมีความโหดเหียมกว่าหลายๆ เกมที่ผ่านมา ความยากระดับพอๆ กับเกม Max Payne เลยก็ว่าได้ ที่เราอาจจะโดนศัตรูยิงไม่กี่ทีก็ลงไปกอง รวมถึงเหล่าศัตรูเองก็ไม่ได้อยู่เพียงแค่ภาคพื้นดิน มันจะมีบางตัวที่ลอยได้วนเวียนไล่ฆ่าเราทุกทิศทาง ถึงอย่างนั้นใช่ว่าตัวเกมจะไม่มีข้อเสีย เพราะต่อให้เกมนี้จะมีระบบความสามารถที่แปลกใหม่ให้เราได้เล่น แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกตัวผู้เขียนกลับคิดว่ามันมีความหลากหลาย และความว้าวน้อยกว่าเกมก่อนหน้า Quantum Break อยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าเกมนี้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการเปลี่ยนสไตล์ปืนหรือการใส่ Passive ถึงอย่างนั้นแรงจูงใจของมันก็ไม่เร้าใจพอ เพราะว่าสิ่งที่มันจะมาเพิ่มความว้าวของเราก็คือสกิลใหม่ๆ ที่ได้ลองเล่น และมีผลต่อเกมการต่อสู้มากๆ ซึ่งเกมนี้ต่อให้มีสกิลใหม่ๆ มันก็เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบในการผ่านด่านแต่นั้น อย่างเช่นระบบการบินที่เราไม่สามารถจะไปบินยิงซึ่งๆ หน้ากับศัตรูได้เลย เพราะดาเมจที่ได้รับมันหนักหนาเกินไป ผิดกับ Quantum Break ที่จะมีสกิลสโลว์เวลาให้เราวิ่งเข้าถึงศัตรูอย่างรวดเร็วและ Takedown ศัตรูเป็นต้น พร้อมทั้งการโจมตีบางอย่างมันก็จะดู Over Power เกินไปหน่อย อย่างสกิลพลังจิตที่เราจะสามารถยกของไปโจมตีศัตรูได้ ซึ่งแรกๆ มันก็ท้าทายเพราะสกิลเราไม่แรงเท่าไร แต่พออัพเกรดไประดับสูง ตัว Service Weapon ก็กลายเป็นอาวุธรองไปเลย เพราะเราสามารถใช้พลังจิตโจมตีศัตรูไม่กี่ทีก็ลงไปนอนแล้ว ตัวปืนเป็นส่วนประกอบที่จะทำเพียงแค่ลดดาเมจเล็กๆ น้อยๆ เพื่อรอคูลดาวน์พลังจิตเท่านั้น สรุป Control ก็ยังเป็นเกมที่มีสูตรสำเร็จและแนวเกมที่ถนัดของค่าย Remedy เช่นเดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนในเรื่องของธีมเกมและการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเสนอการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้ง และซับซ้อนขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับคนที่ชอบเนื้อเรื่องที่ต้องใช้การตีความต่างๆ นาๆ มีปริศนาและปมให้เราติดตาม และมาตบเนื้อเรื่องสุดเซอร์ไพร์สในตอนท้าย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เหมือนดาบสองคมที่ตัวเกมอาจจะต้องใช้ความสามารถในการอ่านและตีความเยอะๆ เพื่อที่จะได้ตามและเข้าใจในการนำเสนอของเกมที่มีการเล่าเรื่องแบบติสๆ งานอาร์ทเยอะๆ แบบนี้ ส่วนในเรื่องของเกมเพลย์ก็ยังทำออกมาได้ดีถ้าหากใครที่ไม่คิดมากในเรื่องนีก็อาจจะเล่นได้เพลินจนจบเกม แต่เสียดายที่ส่วนตัวอยากให้เกมมีความหลากหลายมากกว่านี้ รวมถึงตัวเกมมีการลดสเกลการสร้างในหลายๆ ส่วน (หรืออาจจะเป็นการจงใจก็ได้)  จึงทำให้เกมนี้อาจจะมีติดๆ ขัดๆ ในเรื่องความคิดสำหรับผู้เขียนที่เล่นเกมของค่ายนี้เป็นประจำ และเกม Quantum Break ทำเอาไว้ดีมาก แต่ Control ยังไม่สามารถที่จะก้าวผ่านความยอดเยี่ยมนี้ไปได้ซักเท่าไร อาจจะเป็นในเรื่องปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่มันไม่เอื้ออำนวยก็เป็นได้   แต่ถามว่ามันแย่ขนาดนั้นไหมก็ไม่ใช่ เพราะยังไงนี่มันก็เป็นเกมที่ดีและอยู๋ในเกณฑ์ของความสนุกเหมือนเดิม ยังสามารถเล่นได้เพลินๆ และติดพันกับมันจนจบเกมได้อย่างสบายๆ เหมาะสมกับราคาของเกมที่สบายประเป๋า ที่ตัวเกมวางจำหน่ายเพียงแค่ 699 บาทเท่านั้น ซึ่งคุณจะสามารถเต็มอิ่มกับเกมได้มากกว่า 8-10 ชั่วโมง อย่างสบายๆ [penci_review id="27913"]

Control เกมล่าสุดจากทีมผู้พัฒนา Remedy Entertainment ที่เคยมีผลงานก่อนหน้าอย่าง Quantum Break และ Alan Wake ซึ่งจะออกวางจำหน่ายในเดือนหน้านี้แล้ว [embed]https://youtu.be/w84fToQ6BXY[/embed] ตัวเกม Control เป็นเกมแนว Action-Adventure มุมมองบุคคลที่สาม โดยเล่นเป็นหญิงสาวมาดเข้ม Jesse Fadens ที่สามารถควบคุมพลังเหนือธรรมชาติได้ เช่น เคลื่อนย้าย หยุด ดึง ยก ผลักวัตถุได้ตามใจ ลอยตัวได้ รับหน้าที่ผู้กำกับตามเข้าไปสืบหาศัตรูที่เข้ามาแทรกแซงความเป็นจริง แม้ตัวเกมยังไม่ประกาศราคาหรือความต้องการของระบบแต่อย่างใด แต่ก็ได้ปล่อยเกมเพลย์ใหม่ความยาว 8 นาทีมาให้เราได้ชมกันด้วย ตามไปรู้จักกับเจ๊ Jesse เพิ่มขึ้นกันเลย เกมเพลย์ใหม่ความยาว 8 นาที [embed]https://youtu.be/ZpOAapuX9jQ[/embed] เกมเพลย์ก่อนหน้าที่มีความยาวจัดเต็มถึง 17 นาที [embed]https://www.youtube.com/watch?v=XTB2PdtH7xw[/embed] Control วางจำหน่ายในวันที่ 27 สิงหาคมนี้บน PS4, Xbox One และ PC

เผยความเคลื่อนไหวกันมาเรื่อยๆ สำหรับเกมแนว Action อย่าง CONTROL จากทีมงาน Remedy ผู้สร้าง Max Payne 1-2 ล่าสุดผู้พัฒนาได้เปิดเผยตัวอย่างใหม่ ที่จะอธิบายเกี่ยวกับโลกภายในเกมที่เราจะต้องเผชิญ ในตึกที่เรียกว่า The Oldest House  บ้านที่ข้างในมีพลังบางอย่างที่ทำให้หลายๆ อย่างขัดกำหลักฟิสิกความเป็นจริง มีการเชื่อมต่อระหว่างจิตใจของเรา และสิ่งที่เราไม่สามารถระบุได้เป็นต้น รวมถึงตอนท้ายเรายังได้ยินเสียงของตัวละครในเกม Zachariah Trench (รับบทโดย James McCaffrey ผู้ให้เสียง Max Payne) ที่ตัวละครนี้เป็นอดีตผู้กำกับขององค์กรที่เราอยู่ https://www.youtube.com/watch?v=wMEDqtE2IUc โดยเกม CONTROL เราจะได้รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ Jesse Faden ในองค์กร Federal Bureau of Control ที่จะคอยสืบเรื่องปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติต่างๆ ซึ่งตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One

อย่างที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้เกม Alan Wake เกมแนว Survival Horror จากทาง Remedy Entertainment ก็ได้ถูกถอดออกจากร้านค้า Steam ด้วยเหตุผลบางประการ โดยเกมนี้ก็เป็นเกมที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากพอสมควร และหลายๆ คนอาจจะเสียดายที่เกมนี้อาจจะไม่มีให้คนรุ่นหลังได้สัมผัส แต่ล่าสุดทุกคนก็เตรียมดีใจได้เลย เพราะว่าทางผู้พัฒนาเองได้นำตัวเกม Alan Wake กลับมาวางขายบน Steam แล้วอีกครั้ง รวมถึงตัวเกมยังลดราคาต้อนรับวันฮาโลวีนเหลือเพียงแค่ 47.80 บาท เท่านั้นถูกมากๆ ซึ่งข้อเสนอนี้จะจบลงในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2018 และหลังจากนี้ตัวเกมจะขายในราคา 239 บาท สามารถดูรายละเอียดได้ ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=sSB4QcQMm6E โดยเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นนักเขียนชื่อดัง Alan Wake ที่ได้เข้าไปพัวพันกับสิ่งลี้ลับในเมืองที่ตัวเองและภรรยาได้ไปพักร้อน รวมถึงตัวภรรยาเองนั้นยังถูกสิ่งลี้ลับจับตัวไปอีกด้วย โดยเราจะต้องตามหาภรรยาและนำเธอกลับมาให้ได้ พร้อมค้นหาปริศนาที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเมือง โดยตัวเกมได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกอย่างมากเพราะการมีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก VG247

ก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดตัวออกมากับเกมใหม่อย่าง Control จากทาง Remedy Entertainment ซึ่งล่าสุดได้มีรายงานว่า James McCaffrey ผู้ให้เสียงตัวเอกจากเกม Max Payne และ Matthew Porretta นักแสดงผู้ให้เสียงตัวเอกอย่าง Alax Wake ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนได้เข้าร่วมพากย์เสียงให้กับตัวละครในเกมใหม่ของทาง Remedy https://www.youtube.com/watch?v=k9bvtZwuJLQ โดย James AcCaffrey จะได้รับบทเป็นอดีตผู้อำนวยการทีมสืบสวน และ ทาง Matthew Porretta ก็จะได้รับบทเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัย Dr. Casper Darling และตัวเอกในเกมนี้อย่าง Jesse Faden ก็จะได้ Courtney Hope มาเป็นผู้ให้เสียงอีกด้วย ซึ่งตัวเธอเองก็เคยรับบทเป็น Beth จากเกมก่อนหน้าของ Remedy อย่าง Quantum Break เช่นกัน ซึ่งภายในเรื่องตัวเธอจะได้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของทีมสืบสวนแทน James McCaffrey นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=-gBa_D2nxZg แต่ในข้อมูลเกี่ยวกับทาง Dr. Casper Darling เองก็ยังไม่แน่ขัดเท่าไร แต่คาดว่าอาจจะเป็นคนสำคัญที่จะอธิบายเรื่องเหนือธรรมชาติภายในเกมนี้แน่นอน โดยเกม Control เป็นเกมแนว Action Sci-fi ที่ตัวจะได้รับบทเป็น Jesse Faden ที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่เข้ามารุกรานบนโลก โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ขอบคุณข้อมูลจาก VG247