GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "mmorpg"
BioWare เปิดตัวส่วนเสริมใหม่ของเกม Star Wars: The Old Republic ในชื่อ Legacy Of The Sith
BioWare ได้ทำการเผยส่วนเสริมใหม่ล่าสุดของเกม Star Wars: The Old Republic ในชื่อ Legacy Of The Sith โดยตัวเกมจะเปิดตัวเป็นสิ่งแรกในงานครบรอบ 10 ปี ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้! ซึ่งนอกจากมันจะมอบเรื่องราวใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสแล้ว มันก็ยังมีภารกิจหลากหลายให้ได้เลือกเล่น มีการอัปเกรดตัวละครและอื่นๆ อีกมากมายLegacy Of The Sith นี้จะเป็นเกมแนว MMORPG ที่ทางสตูดิโอมีการเปิดเผยระหว่างการสตรีมผ่านทาง Twitch เมื่อวานว่า เกมนี้ถือเป็นการเริ่มสิ่งใหม่ๆ มากมายเลยสำหรับจักรวาล Star Wars ของ Bioware เนื้อเรื่องจะพาผู้เล่นไปสัมผัสกับเกม ผ่านมุมมองของทหารบรรจุใหม่ ที่ได้รับภารกิจในการปกป้องดวงดาวที่สำคัญมากๆ ดวงหนึ่งเอาไว้ โดยจะเน้นการเล่าไปยัง Darth Malgus กับแผนการลับของเขา และไม่ใช่แค่เรื่องราวใหม่ๆ เท่านั้นที่จะมอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ เพราะตัวเกมก็ยังมีระบบการปรับ Quality of Life ที่น่าจับตามองอีกด้วยนอกจากระบบการสร้างตัวละครที่ถูกปรับปรุงให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถตั้งหน้าตั้งตารอได้อีกหนึ่งระบบแล้ว จากการสตรีมที่ผ่านมา เราก็ยังได้เห็น feature ใหม่ที่ถูกเรียกว่า Combat Styles ที่จะทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเลือกเล่นให้หลากหลายได้มากขึ้นอีกด้วยโดย Legacy Of The Sith นี้จะลงให้กับเครื่อง PC ในวันหยุดนี้ และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์หลักของ Star Wars: The Old Republic ทางนี้ค่ะCredit: GameinFormer
02 Jul 2021
Riot ประกาศรับสมัครคนเข้ามาช่วยสร้าง MMORPG จากจักรวาล LOL เพิ่มเติม
ในงานครบรอบ 10 ปี ของทาง Riot ตอนปี 2019 เราได้ทราบว่า Riot ได้มีการซุ่มพัฒนาเกม IP อื่นๆ ที่ทั้งเกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับ LOL อีกมากมาย หลายๆ เกมได้เปิดตัว หรือเปิดให้เล่นแล้ววันนี้เช่น Legends of Runeterra, Valorant, และ Ruined King โดยล่าสุดทางฝั่งของโปรเจกต์ MMORPG เองก็มีความเคลื่อนไหวหลังจากเงียบมานานแล้วเช่นกัน มีการประกาศออกมาผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Riot เองวันนี้ว่า กำลังมองนักพัฒนาที่มีความสนใจเข้ามาช่วยพวกเขาในการนำโลกของ Runeterra ออกมาให้เกมเมอร์จากทั่วโลกได้เห็น ซึ่งตอนนี้พวกเขาต้องการ 5 ตำแหน่งหลักๆ ด้วยกันคือ Gameplay Engineering Game Design UX Design Game Art Game Production อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องนี้แล้ว เราแทบไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้เลย ซึ่งอาจคิดได้ว่าโปรเจกต์นี้ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนามากๆ และเราคงยังไม่ได้สัมผัสกันเร็วๆ นี้ครับ Credit; https://www.gameinformer.com/2021/02/22/riot-game-is-recruiting-for-its-new-mmorpg-based-in-the-league-of-legends-universe
23 Feb 2021
โลกแฟนตาซีที่รอคุณอยู่! : 10 เหตุผลที่คุณควรเล่น Final Fantasy XIV Online ในเวลานี้!
หมายเหตุ : ผู้เขียน เขียนบทความนี้จากประสบการณ์การเล่น Final Fantasy XIV Online นับตั้งแต่ Open Beta ของ A Realm Reborn จนถึง Expansion ล่าสุด Shadowbringers เป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม หมายเหตุ 2 : ในบทความนี้ ถ้ามีจุดที่ตกหล่น หรืออยากจะท้วงติง ถกเพื่อสนทนา ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่ง และพร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจ สู่โลกแห่ง Eorzea ด้วยความเต็มใจครับ ในแวดวงวิดีโอเกมยุคโมเดิร์นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เกมแนว Massive Multiplayer Open-World RPG หรือ ‘MMORPG’ นั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและมีประวัติศาสตร์ที่มีสีสันที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันต้องใช้ทั้งกำลังแรงงานผู้สร้าง ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่จะดึงดูดผู้เล่นให้อยู่ติดและยอม ‘จ่ายเงิน’ รายเดือนเพื่อเล่นมันต่อไป เช่นเดียวกับที่ Final Fantasy XIV เป็น และมันเป็นยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ เพราะมันผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่ใช่แค่ในฐานะตัวเกม แต่ในฐานะแฟรนไชส์ของ Final Fantasy เลยด้วยซ้ำ Final Fantasy XIV เปิดตัวเวอร์ชัน ‘1.0’ ในปี 2010 พร้อมเสียงตอบรับในทางลบอย่างมหาศาล ทั้งการเล่นที่ยากลำบาก เนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ และระบบที่ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเป็นอย่างมาก เสียงทางลบนั้นมากเสียจน Yoichi Wada ประธานบริษัท Square-Enix ในเวลานั้น ต้องออกตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้เล่น และปลด Hiromichi Tanaka โปรดิวเซอร์คนเก่าออก ก่อนที่จะโยกย้าย Naoki Yoshida ที่ในเวลานั้น กำลังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์ Dragon Quest X ให้มาทำหน้าที่ ‘กอบกู้ซาก’ ของ FFXIV ให้กลายเป็น ‘เกมใหม่’ ที่จะเรียกศรัทธาผู้เล่นกลับมาอีกครั้ง (พวกเขาถึงกับทำเหตุการณ์ ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลประจำปีทุกวันที่ 27 สิงหาคมกันเลยทีเดียว) [caption id="attachment_66005" align="alignnone" width="1024"] เหตุการณ์ The Calamity ที่ Bahamut หลุดจากการจองจำบนดวงจันทร์ Dalamud และเกือบทำลายทั้ง Eorzea ให้เป็นจุลด้วย Teraflare วันระเบิดเซิร์ฟเวอร์ เกมเวอร์ชัน 1.0 ที่อลังการงานสร้างอย่างมาก[/caption] FFXIV กลับมาอีกครั้งในปี 2013 ภายใต้ชื่อ ‘A Realm Reborn’ และที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ มันค่อยๆ ไต่บันไดความสำเร็จและความยอดเยี่ยมไปทีละขั้น ด้วยการเล่นที่ดีขึ้น กราฟิกที่สวยงามขึ้น และเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ กับ Expansion ตัวที่สามอย่าง Shadowbringers ที่เลยล่วงมาถึงแพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ ที่เหล่าผู้เล่นถึงกับยกให้มันคือ ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV ในรอบเจ็ดปีที่ผ่านมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้น และสำหรับผู้เขียนที่เล่นและติดตาม FFXIV มาในตลอดเจ็ดปี ก็ต้องขอบอกว่า ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะสมที่จะเข้าสัมผัสความสนุกของ MMORPG อย่าง FFXIV เท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ด้วย 10 เหตุผล ที่ยังคงแจ่มชัด และน่าจะทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านสนใจกันอยู่ไม่น้อย และถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครติดใจ และผูกใจกับโลกแห่ง Eorzea ได้บ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง -กราฟิกสวยงาม และใช้สเปคเครื่องที่ไม่สูงนัก ข้อดีประการแรกของ FFXIV ในตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า มันเป็นเกม MMORPG ที่กินทรัพยากรของ PC ค่อนข้างน้อยมาก ภายใต้งานออกแบบศิลป์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นชัดเจน และแม้ว่าในปัจจุบัน ทีมพัฒนาจะทำการอัพเกรดเอนจิ้นของตัวเกมให้รองรับสำหรับ DirectX11 เท่านั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นลิมิตที่ต่ำมากๆ สำหรับ PC สายเล่นเกมโดยทั่วไป (ที่การ์ดจอของใครหลายคนน่าจะรองรับไปถึง DirectX12 และระบบ Ray Tracing กันแล้ว…) มันรันได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงอนิเมชันตัวละครที่หลากหลาย ปรับแต่งตัวละครได้ตามแต่ใจต้องการ ในระดับที่ต่อให้คุณกดสุ่มสร้างตัวละคร มันก็ยังออกมาดูดี คงยากจะหาเกมไหนที่จะมีคุณสมบัติเทียบเคียง FFXIV ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เครื่อง PC ไม่แรงมากนัก และไม่คิดว่าจะสามารถรัน FFXIV ได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็อยากจะบอกให้หายห่วง นั่นเพราะว่า… -ระบบ Cross-Play ระหว่าง PC และ Playstation 4 Final Fantalsy XIV ยืนยันตัวตนในฐานะเกม MMORPG แบบ Cross-Play มาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ผู้เล่นบน PC และ Playstation 3 (หรือ Playstation 4 ในตอนนี้) สามารถเล่นร่วมเซิร์ฟเวอร์เดียวกันได้ และหนึ่ง ID ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแพลทฟอร์ม (แต่แน่นอน เนื้อหาเสริม Expansion ก็ยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเล่นไปได้ถึงระดับไหน…) แน่นอนว่าการเป็นเกม Cross-Play นั้น ทาง SQEN ได้คิดเผื่อสำหรับการควบคุมด้วยจอยแพดเอาไว้เป็นอย่างดี และนี่เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ใช้จอยแพดเล่นได้ง่ายมากๆ เกมหนึ่งในตลาดปัจจุบัน หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ คุณจะเอาคีย์บอร์ดกับเมาส์มาเสียบ USB กับเครื่อง Playstation 4 ก็ได้ เพราะมันถูกกำหนดเอาไว้เป็น Native Support โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้มากความ เล่นร่วมกันได้ กินสเปคไม่สูง แต่อาชีพที่หลากหลายก็ชวนให้ลายตาอยู่ไม่น้อย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เย็นใจได้เลย เพราะ… -หนึ่งตัวละคร เล่นได้ทุกอาชีพ FFXIV นำเอาเสน่ห์แบบ Final Fantasy III และ Final Fantasy V เข้ามาผนวกไว้กับตัวเอง เพราะตัวละครของคุณหนึ่งตัว สามารถเป็นได้ ‘ทุกอาชีพ’ เท่าที่ใจอยากจะเป็น แค่เพียงเปิดเควสต์ เปลี่ยนอาวุธหลัก คุณก็สามารถสลับไปเล่นอาชีพอื่นๆ ได้ตามต้องการ วันนี้คุณอยากจะเล่นเป็น Black Mage จอมเวทย์ร่ายคาถา แต่ถ้าเบื่อๆ แล้วอยากไปชนกับศัตรูซึ่งๆ หน้า เปลี่ยนอาวุธมาเป็นขวานแล้วสลับเป็น Warrior ก็ย่อมได้ ในที่นี้ รวมถึงอาชีพสายขุดหาของและสายคราฟท์ ซึ่งอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ทำให้คุณไม่ต้องสร้างตัวละครเป็นสิบๆ เพื่อรองรับกับอาชีพที่แตกต่าง ขอเพียงยังมีช่องว่างใน Armory Slot สำหรับอาวุธ ทุกอาชีพที่คุณปลดล็อคไว้แล้วก็พร้อมจะให้คุณเลือกเล่น แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการ Leveling ปลดล็อคความสามารถต่างๆ ตามระยะเวลา แต่ร้านค้า Mogstation ก็มีไอเทมพิเศษแบบจ่ายเงินจริง ให้คุณ skip เลเวลได้ตัวละครพร้อมใช้ในทันที แต่ผู้เขียนก็ไม่ขอแนะนำในหนทางนี้ เพราะ…. -เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ขับเคลื่อนทุกส่วนของตัวเกม Final Fantasy XIV คือเกมที่เป็น Story-Centric โดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหลัก Main Scenario ที่เข้มข้นในตลอดสาม Expansions ก็ดี (สงครามมังกรพันปี Dragonsong War ใน Heavensward, ภารกิจกอบกู้ Ala Mhigo จากจักรวรรดิใน Stormblood และการช่วยเหลือโลกต่างมิติใน Shadowbringers...) หรือแม้แต่เนื้อเรื่องของอาชีพต่างๆ ที่มีหลากหลายครบรส ทั้งดราม่า ตลกโปกฮา ซาบซึ้งใจ และน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพสายขุดสายคราฟท์ ที่มีเนื้อเรื่องเฉพาะเป็นของตัวเอง อันที่จริง คุณอาจจะไม่ต้องสนใจเนื้อหาและกด Skip ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ขอบอกว่า คุณจะพลาดอรรถรสของตัวเกมไปเกือบครึ่ง ที่ทีมสร้างได้รจนาเรื่องราวไว้ได้อย่างจับใจ โดยเฉพาะกับภาค Shadowbringers ที่ Natsuko Ishikawa มือเขียนบทระดับต้นๆ ของทีม (ผู้เขียนบทอาชีพ Dark Knight อันลือชื่อ) สร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างอลังการ จนผู้เล่นต่างยกย่องให้แพทช์ 5.3 ว่าเป็น ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV กันเลยทีเดียว (อ้อ แล้วในแพทช์ 5.3 ทีมพัฒนาทำการ ตัดทอน ภารกิจส่วนเกินที่ไม่จำเป็นในช่วง A Realm Reborn ไปเกือบ 30% ทำให้ pace การเล่นเร็วขึ้น สะดวกสบายแก่คนเล่นมากขึ้นด้วย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ~) แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจมากมายนักแล้วนั้น…. -เกมมีเมคานิคสุดท้าทาย รองรับกับผู้เล่นทุกระดับ เหตุผลที่ผู้เขียนไม่แนะนำให้คุณทำการ Skip เลเวล และให้เรียนรู้จากเบื้องต้น เพราะ FFXIV ยังเป็น MMORPG ที่ยังยึดกฎ ‘Holy Trinity’ สามโรลหลัก Tank, Healer, DPS และทุกการปะทะ ไม่ว่าจะดันเจี้ยนธรรมดา ไปจนถึง Savage Raid ระดับสุดโหด คุณต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง รู้ว่าอาชีพของตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง และจับมันให้อยู่มือ นี่ไม่ใช่เกมเดินทอดน่องเก็บเลเวลดาดๆ แต่เป็นเกมที่ทุกคนต้องรู้หน้าที่ และหนุนเสริมส่งซึ่งกันและกัน มันมีตั้งแต่ระดับง่ายๆ ผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนถึงระดับซูเปอร์ Ultimate Raid ที่ท้าทายเหล่ายอดมนุษย์ทีม Raider มือฉมัง (พร้อมของรางวัลเป็นอาวุธเอาไว้ใส่เดินขิง…) เรียกว่าคุณจะไม่ได้อยู่เฉยๆ แน่ๆ ถ้าเดินตามเนื้อหาที่วางเอาไว้ คุณจะได้พบกับทุกการปะทะอย่างแน่นอน แล้วสำหรับผู้เล่นสาย  Casual ล่ะ? คนที่อยากจะเอกเขนกเล่นเกมดูบรรยากาศอย่างสบายใจ หายห่วง นั่นเพราะ… -อีเวนท์ประจำปีไม่มีขาด ถ้าไม่นับ World of Warcraft ที่มีอีเวนท์ประจำปีระดับแน่นอนชนิดแปะเป็น In-Game Calendar แล้วนั้น FFXIV ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มากหลายด้วยอีเวนท์สนุกๆ ประจำปีให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ข้ามปี อีเวนท์หน้าร้อนชายทะเล อีเวนท์วันเด็กหญิงของญี่ปุ่น อีเวนท์ระลึกวัน ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อีเวนท์วันฮัลโลวีน จนถึงอีเวนท์วันวาเลนไทน์ มันอาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็เช่นเดียวกับทุกส่วนของตัวเกม ทุกอีเวนท์ผ่านการเขียนบทและรจนามาได้อย่างพอเหมาะ เล่นได้สนุกและบันเทิงอยู่ไม่น้อย พร้อมของรางวัลตอบแทนอีกมากมาย (อ้อ ผู้เล่นสามารถซื้อแพ็คเกจ แต่งงาน ในเกมได้ด้วย ซึ่งจะได้ของแถมพิเศษอีกต่างหาก~) แล้วนอกเหนือจากอีเวนท์ประจำปี มันมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับ Final Fantasy ภาคก่อนๆ หรือเปล่า? เชื่อว่านี่เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้น และในความเป็นจริงนั้น… -References กับซีรีส์ Final Fantasy (และซีรีส์เกมอื่น) ใส่มาจนล้นไม่มีขาดตก ด้วยการยืนอายุของซีรีส์ Final Fantasy มากว่าสามทศวรรษ ทำให้ทีมงานสร้างของ XIV มีวัตถุดิบที่จะสามารถจะหยิบจับมาใช้ได้อย่างอยู่มือ ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคย เหตุการณ์ที่คุ้นเคย จนถึง Dungeon และบอสที่คุ้นเคยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Raid แบบ 24 คนไต่ Crystal Tower จากภาคสาม, การใส่ดันเจี้ยนที่พ้องเนื้อหาไปกับโลก Ivalice ของ Final Fantasy Tactics และ Final Fantasy XII หรือการ Collaboration ล่าสุดกับ Yoko Taro กับซีรีส์ Nier : Automata ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นภายใต้ชื่อ YoRHa: Dark Apocalypse เรียกว่าคนที่ติดตามซีรีส์ Final Fantasy มาโดยตลอด จะต้องมีจุดที่ต้องโดนใจเข้าสักที่สองที่อย่างแน่นอน แต่เนื้อหาและการ Collaborate ที่มากมายอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการสร้างเกมนั้น ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญ นั่นทำให้… -ดนตรีในเกมนี้คืออลังการศิลป์อย่างแท้จริง จุดเด่นหนึ่งของ FFXIV ที่มีมาในตลอดทุก Expansions นั้น คือดนตรีประกอบ ที่ได้ทั้ง Nobuo Uematsu ปรมาจารย์รุ่นเก๋าแห่ง SQEN มาร่วมช่วยสร้าง ประกอบกับฝีมือของ Masayoshi Soken โปรดิวเซอร์เพลงหลักที่ทำดนตรีให้กับทุกการปะทะร่วมกับวง The Primals และเพลงเปิดอันยิ่งใหญ่ในเสียงร้องระดับสวรรค์สร้างของ Susan Calloway ชนิดที่ทุกเพลง สามารถรวมฮิตออกขายซื้อมาฟังได้แบบไม่เสียดายเงิน มันคือการกลั่นทุกประสบการณ์ทางดนตรีของทีมสร้างอย่างไม่มีกั๊กไม่มีเม้ม ที่พร้อมจะทำให้มันสุดยอดยิ่งๆ ขึ้นไป แต่เกมที่หนักเนื้อหาและแน่นคอนเทนต์ขนาดนี้ เราจะไว้ใจได้แค่ไหนว่าพวกเขาจะนำเสนอออกมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย หายห่วงครับ นั่นเพราะ… -คุณภาพคอนเทนต์เกมไม่เคยตก ด้วยระบบ Subscription-Based FFXIV เป็นหนึ่งในไม่กี่เกม MMORPG ที่กล้ายืนหยัดด้วยระบบ ‘จ่ายรายเดือน’ แบบ Subscription-Based ซึ่งทีมสร้างก็ไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง เพราะพวกเขามีตารางที่ชัดเจนในการปล่อยคอนเทนต์ตอนใหม่ๆ และเพิ่ม Features ที่น่าสนใจชนิดที่ไม่มีขาด มีอะไรให้ทำทั้งสาย Casual และ Hardcore แน่นอนว่าในแพทช์ล่าสุด 5.3 อย่าง Reflections in Crystal มีอุปสรรคจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยมันออกมาช้ากว่ากำหนดถึงเดือนครึ่ง (และกระทบถึงแพทช์อื่นๆ และการเปิดตัว Expansion ใหม่…) เพราะต้องจัดระบบการทำงานเพื่อป้องกันสุขภาพของทีมงาน แต่ Naoki Yoshida ก็ยืนยันผ่านรายการ Live Letter แล้วว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมคุณภาพเด็ดขาด ทุกอย่างต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดแม้จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งในตลอดเจ็ดปี มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ทีมสร้างนั้น ‘เอาจริง’ และทุ่มใส่เต็มเม็ดแบบไม่มีอะไรจะเสีย (และดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ…) และแน่นอน ด้วยระบบการจ่ายเงินเช่นนี้ ทำให้ FFXIV ไม่มีอาการแบบ ‘Pay to Win’ หรือเทพทรูใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงจุดนี้ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ รู้สึกว่าการจ่าย ‘รายเดือน’ นั้นเป็นสิ่งที่ผลักไสไม่ให้เข้ามาสัมผัสตัวเกม และรู้สึกว่า ไปหาเกมที่เล่นได้ฟรีมาเล่นไม่ดีกว่าหรือ ก็ขอบอกว่า ... -ตอนนี้ Free-Trial ได้ถึง Level 60 และเนื้อหาของ Expansion แรกอย่าง Heavensward ตั้งแต่แพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ นั้น ทางทีมพัฒนาเปิดกว้างและให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากลองเล่นได้เข้ามาสัมผัสได้นานขึ้น เพราะตอนนี้ ตัวเกมหลักและ Expansion ตัวแรกอย่าง Heavensward สามารถเล่นได้ ‘ฟรี’ จนถึงเลเวล 60 ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ สามารถไปหาโหลดลงทะเบียนได้ที่ https://freetrial.finalfantasyxiv.com/gb/ หรือบนระบบ Playstaion 4 ได้ที่ Store ของโซนอเมริกาและยุโรป ภายใต้เงื่อนไขสามประการ คือ… -ตัวละคร Free-Trial จะมีเงินติดตัวได้สูงสุด 300,000 Gil และใช้ Marketboard ซื้อขายไม่ได้ (ป้องกันการถล่มตลาด) -ตัวละคร Free-Trial ไม่สามารถ Add เพื่อนได้ด้วยตนเอง (แต่ให้ฝั่งผู้เล่น Add และชวนเข้าปาร์ตี้ได้) -ตัวละคร Free-Trial จะไม่สามารถรับ Tomestone (หน่วยเงินหลัง End-Game) ใดๆ ได้ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อิสระทั้งหมด คุณจะเล่นเป็นเผ่าไหน อาชีพไหน ไม่มีจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองสัมผัส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้นานแค่ไหน และถ้าเล่นตัว Free-Trial แล้วติดใจ คุณสามารถซื้อตัวเกมมาเปลี่ยนสถานะเป็น Full Subscription เล่นต่อได้ทันทีโดยไม่เสีย Progress เดิมที่ทำไว้ นับว่า SQEN ใจกว้างในการนี้พอสมควรทีเดียว Final Fantasy XIV ก้าวข้ามผ่านปีที่ 7 เข้าสู่ปีที่ 8 อย่างท้าทาย จากวันที่มันเป็นเพียง ‘ซากแห่งความอัปยศ’ ของ SQEN ทีมงานของ Naoki Yoshida กอบกู้มันจากเถ้าถ่าน สรรสร้างอย่างประณีต และใส่หัวใจให้เต็มร้อยกับผลงานชิ้นนี้ และผู้เขียนก็เชื่อว่า มันจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยาวนานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปณิธานของ Yoshida ที่กล่าวว่า เขาอยากทำเกมนี้ต่อไปอีกระดับสิบปี จนกว่าชีวิตจะหาไม่…   ‘และโลกแฟนตาซีอันรุ่มรวย สนุกสนาน และหลากหลายนี้ กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่มีจังหวะไหนที่ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะครับ!’
01 Sep 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
MU ORIGIN 2 เปิดให้บริการแล้วทั้ง iOS และ Android
MU ORIGIN 2 เกมมือถือจากซีรีส์ MMORPG ชื่อดังอย่าง MU ที่เคยเปิดให้บริการบ้านเราในสมัยก่อน หลังจากปล่อยช่วง CBT มาให้พวกเราได้ทดสอบไปเมื่อสิ้นปี ล่าสุดตอนนี้ตัวเกมเปิด OBT เรียบร้อยแล้วทั้งใน iOS และ Android โดยจุดเด่นของเกมคือการยกเครื่องเกม MU ในสมัยก่อนมาอัพเกรดให้มีกราฟิกสวยงาม และอลังการมากขึ้นด้วยขุมพลัง Unity แต่ยังคงความ Original ไว้ดังเดิมนั่นเอง พร้อมทั้งผู้พัฒนายืนยันเกมนี้ลิขสิทธ์แท้จากผู้พัฒนา WEBZEN อีกด้วย   https://www.facebook.com/MUORIGIN2.TH/videos/2008276736131365/ รวมถึงตัวเกมยังมีกิจกรรมสุ่มผู้โชคดี 3 ท่านลุ้นรับ "หมอนกอดMU" กติกา 1.กดไลค์ และแชร์กิจกรรมนี้ (LINK) 2.คอมเม้น พร้อม @เพื่อน 3 คน 3.สุ่มผู้โชคดี 3 ท่าน รับรางวัล “หมอนกอดMU” หมายเหตุ 1. ผู้เล่นต้องลบเวอร์ชันที่ทดสอบช่วง CBTก่อน แล้วโหลดเกมติตั้งใหม่อีกครั้ง ถึงจะเข้าเซิร์ฟทางการได้ 2.ขณะที่เปิดให้โหลดล่วงหน้านี้ ยังไม่สามารถเข่าเกมได้ ต้องรอเปิดทางการในวันที่ 3 ม.ค. เท่านั้น 3.ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 4 ม.ค. ผู้เล่นที่ได้รับรางวัล ทางแอดมินจะประกาศทางโพสต์นี้และไปคอมเม้นแจ้งผู้โชคดีให้ทราบ
03 Jan 2019
LaTale W เกม MMORPG บนมือถือน่าจับตามองจากผู้ให้บริการ Black Desert Online (เปิดเล่นกันยานี้)
เกม LaTale W (ลาเทล ดับเบิ้ลยู) เป็นเกมแนว MMORPG บนมือถือจากประเทศเกาหลีซึ่งมีรูปแบบการเล่นแบบ Side Scrolling (แบบเดียวกับ MapleStory M) ที่มีภาพแบบ 3D แนวน่ารัก สดใส และยังมีระบบภายในเกมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ระบบสัตว์เลี้ยงคู่หู ระบบตกแต่งบ้าน ระบบกิลด์/ปาร์ตี้ ระบบตกปลา ระบบแต่งงาน ระบบ PVP และระบบดันเจี้ยน จากที่ได้ทดลองเล่นเกมในเซิร์ฟเวอร์เกาหลีพบว่าเกมมีความคล้ายคลึงกับ MapleStory M หลายอย่าง แต่ก็มีส่วนที่ต่างกันหลายอย่างเช่นกัน อย่างแรกเลยก็คือด้านภาพที่ LaTale W ใช้งานภาพแบบ 3D ซึ่งทำได้ออกมาเหมาะกับตัวเกมมาก และทำให้มอนสเตอร์ต่างๆ รวมถึงเอฟเฟ็กต์ต่าง ในการต่อสู้ดูน่าสนใจขึ้น และส่งผลทำให้การเล่นสนุกขึ้นตามไปด้วย แม้จะเป็นตอนที่กดให้ตัวละคร Auto Quest แล้วนั่งดูเฉยๆ ก็ตาม นอกจากนี้ฉากยังมีมิติ มีการเดินไปอยู่หลังพุ่มไม้ได้ สร้างความน่าสนใจไปอีกแบบระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้ใช้การเปิดกาชา ซึ่งแต่ละวันเราจะโควต้าที่เปิดได้ฟรีอยู่ ทำให้รู้สึกลุ้นและสนุกในการได้สัตว์เลี้ยงใหม่ๆ มา ซึ่งมีทั้งแบบที่หน้าตาหน้ารัก และแบบหน้าตาเท่ๆ ให้เลือกใช้ได้ตามใจ แต่ละตัวมีผลต่อความสามารถของผู้เล่นและยังมี Skill เฉพาะของแต่ละตัวด้วย โดยสัตว์เลี้ยงมีให้ใช้มากถึง 300 สายพันธ์ุ การเพิ่มเลเวลของตัวละครในเกมยังมีความท้าทายต่างจากเกมมือถือเกมอื่นๆ ที่เน้นความง่าย เก็บเลเวลไว จากที่เล่นในเซิร์ฟเวอร์เกาหลีเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เลเวลยังอยู่ที่แค่เลเวล 10 เท่านั้นเอง ไม่แน่ใจว่าพอเป็นเซิร์ฟเวอร์ไทยแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนสมดุลเกมไหม แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็น่าจะถูกใจคนที่ชอบความท้าทาย และเกมที่ไม่ง่ายจนเกินไปก็ทำให้เกมเล่นได้นานขึ้นและการเล่นกันกับเพื่อนสนุกขึ้นด้วย เกมจะอัพค่า Status ต่างๆ ให้เราอัตโนมัติเมื่อเลเวลขึ้นแต่เราสามารถเลือกอัพ Skill ได้เอง ซึ่งจะแบ่งตามสายอาวุธที่ใช้ มีอาชีพให้ใช้เริ่มต้น 4 อาชีพคือ Warrior, Knight, Wizard, และ Explorer แต่ละอาชีพพัฒนาต่อไปได้อีก 2 สาย พิเศษสำหรับคนที่รอเล่นเกมนี้ในเดือนกันยายนนี้ก็คือเกมมาพร้อมภาษาไทยเต็มรูปแบบรวมถึงเสียงพากย์ไทยจากทีม Tanudan Studio ด้วย และยังมีการเพิ่มตัวละครใหม่ๆ ที่วาดโดยทีมชาวไทยอย่าง Nanami Animation อีก นอกจากนี้ทาง CEO ของ Funigloo ผู้พัฒนายังรับปากว่าจะมีคอนเทนต์พิเศษที่มีความเป็นไทยสำหรับชาวไทยแน่นอน โดยที่บอกได้ตอนนี้ก็คือแผนที่ PVP ที่ใช้ฉากจากประเทศไทย และยังสัญญาว่าเกมจะมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการอัพเดตย่อยทุกๆ สองสัปดาห์และอัพเดตใหญ่ๆ ทุกเดือน เท่าที่ลองดูในเซิร์ฟเวอร์เกาหลี LaTale W เป็นเกมที่สนุกใช้ได้ทีเดียว มีขัดใจอยู่หน่อยตรงที่เมนูต่างๆ ดูรกไปหน่อยและไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อความสนุกของเกมขนาดนั้น เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ไปลองด้วยตัวเองเลยดีกว่าเพราะเกมจะเปิดให้เล่นเดือนนี้แล้วทั้งบน iOS และ Android โดยสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ http://preregist.latalemobile.in.th ติดตามข่อมูลอื่นๆ ได้ทาง Facebook Official ของเกมอีกช่องทาง https://www.facebook.com/LataleW.TH เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ LaTale W ผู้ให้บริการเกมในประเทศไทยคือ Level Up Games ผู้ให้บริการ Black Desert Online ในประเทศไทย เกมเป็นเหมือนภาคต่อของ LaTale บนเวอร์ชัน PC ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้เล่น Latale W ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
27 Aug 2018
สัมภาษณ์ผู้พัฒนา: Black Desert Online
ถ้าพูดถึงเกม MMORPG ออนไลน์ที่น่าจับตามองในขณะนี้ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นเกม Black Desert Online เกมจากผู้พัฒนาเกาหลี Pearl Abyss ที่ขึ้นชื่อในด้านระบบต่อสู้แอคชั่นสุดมันส์และกราฟิคตัวละครที่ละเอียดสมจริงอย่างน่าทึ่ง ล่าสุดทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้พัฒนามาเล็กน้อย เพื่อถามไถ่ถึงความเป็นมาในปัจจุบันของเกมในเมืองไทย และแผนการในอนาคตที่ทีมงานเตรียมไว้สำหรับผู้เล่นชาวไทยนั่นเอง ไปตามอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างกันได้เลย! GFTH: ผ่านมาซักพักแล้วกับการเปิดตัวเกม Black Desert Online ในโซน SEA ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย เสียงตอบรับจากแฟนๆ ในภูมิภาคเป็นอย่างไรบ้าง PA: นับว่าต้องขอบคุณแรงสนับสนุนจากผู้เล่นจริงๆ ที่ทำให้ทีมสามารถผลิตอัพเดทใหม่ๆ ออกมาได้ทุกอาทิตย์ อย่างล่าสุดทางทีมเพิ่งจะเพิ่มอาชีพใหม่ๆ เข้าไปในเกมพร้อมกันถึงสามอาชีพคือ Dark Knight, Mystic และ Striker เพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้ลองเล่นกัน ทางทีมเองพยายามจะมองหาวิธีใหม่ๆ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าแฟนๆ BDO อยู่เสมอ เพื่อตอบแทนแฟนๆ ที่ลงทะเบียนเกมล่วงหน้ากว่า 750,000 คน จนเราต้องเพิ่มจำนวนเซิฟเวอร์ขึ้นจากตอนเปิดตัวเกมถึงห้าเท่า และเราจะพยายามต่อไปเพื่อตอบแทนความนิยมของแฟนๆ ทุกคนครับ GFTH: ข้อติชมของแฟนๆ แต่ละภูมิภาคคล้ายกันแค่ไหน PA: แน่นอนว่าในการทำอะไรซักอย่างเพื่อคนกลุ่มใหญ่ย่อมต้องพบกับคำติชมเป็นเรื่องปกติ สำหรับข้อติชมต่อเกม BDO นั้นค่อนข้างจะมีความคล้ายกันในทั่วโลก แต่แตกต่างกันในวิธีการสื่อสารมากกว่า แต่ถึงกระนั้นทางทีมก็เชื่อว่าผู้เล่นทุกท่านต่างออกความเห็นเพราะต้องการจะสนุกกับเกมให้มากที่สุด ทางทีมขอขอบคุณทุกเสียงติชมจากผู้เล่นทุกคน และสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาเกมให้ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นทุกคน GFTH: ปีนี้แฟนๆ ชาวไทยจะพอคาดหวังเซอร์ไพรส์อะไรได้อีกบ้าง PA: สำหรับแผนการในอนาคตทางทีมอาจจะขออุปไว้ก่อน แต่ทางทีมเองสังเกติเห็นว่ากิจกรรมสงกรานต์ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมาดูจะได้รับความสนใจจากผู้เล่นมากเป็นพิเศษ โดยในอนาคต ผู้เล่นสามารถคาดหวังกิจกรรมสนุกๆ ที่แทรกวัฒนธรรมไทยเพื่อผู้เล่นชาวไทยโดยเฉพาะอีกแน่นอน GFTH: มีผู้เล่นหลายคนที่บ่นว่าระบบหลายๆ อย่างในเกมใช้เวลาเยอะมาก (เช่น Life Skills ต่างๆ) ทีมมีแผนการในการพัฒนาจุดนี้อย่างไรบ้าง PA: การพัฒนาตัวละครในระบบ RPG ส่วนใหญ่เป็นการผสมผสามกันระหว่างฝีมือ เวลาเล่น และโชคอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากเกมที่นิยมในปัจจุบันอย่างเกม AOS หรือ FPS ทั้งหลาย ผู้เล่นหลายคนจึงอาจจะไม่ชินกับระบบในเกม RPG อย่าง BDO แต่ทางทีมก็กำลังคิดกันอย่างขันแข็งว่าจะทำอย่างไรให้ผู้เล่นสามารถใช้เวลาในเกมให้คุ้มค่ามากขึ้น หรือใช้เวลาน้อยลงในการทำภารกิจหลายๆ ชนิด เพื่อให้ผู้เล่นจำนวนมากที่สุดสามารถสนุกกับเกมได้อย่างเต็มที่ GFTH: มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ BDO ชาวไทยเกี่ยวกับอนาคตของเกมไหม PA: ทางทีม Pearl Abyss หวังว่าผู้เล่นชาวไทยจะยังคงชอบและสนุกไปกับเกมของเราในอนาคต และเราสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาเกมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ BDO เป็นเกมที่ผู้เล่นทุประเภทสามารถมาสนุกร่วมกันได้ หวังว่าเราจะยังได้รับการติดตามอย่างเหนียวแน่นจากแฟนๆ ชาวไทยต่อไปอีกในอนาคต
03 Jun 2018
Maplestory M เปิดลงทะเบียนในไทยวันนี้!
ปล่อยให้เล่นกันมาซักพักแล้วบนสโตร์ต่างประเทศ แต่ในที่สุดผู้เล่นชาวไทยได้ลงทะเบียนล่วงหน้ากันแล้วกับเกม Maplestory M เกมออนไลน์ในตำนานที่กลับมาอีกครั้งในรูปแบบมือถือ! คลิ๊กลงทะเบียน ที่นี่ หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับเกม Maplestory เกมออนไลน์สองมิติที่ให้เราเล่นเป็นตัวละครหัวโตๆ ที่เคยฮิตมากบน PC สมัยเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว การมาของเกมเวอร์ชั่น M นี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่เหล่าเกมเมอร์มีอายุทั้งหลายจะได้หวนคืนวันวาน สมัยที่เกมออนไลน์ยังรุ่งเรืองในเมืองไทย นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนาอย่าง Nexon Thailand ยังปล่อยกิจกรรมร่วมสนุกสำหรับแฟนๆ ให้ได้ชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันลงทะเบียนเพื่อรับของรางวัลในเกมอีกด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรมได้ ที่นี่ เพื่อนๆ คนไหนเคยเป็นแฟน Maplestory บ้างเอ่ย มีใครสนใจเวอร์ชั่นมือถือบ้าง คอมเมนต์เข้ามาคุยกันจ้า!
01 Jun 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "mmorpg"
BioWare เปิดตัวส่วนเสริมใหม่ของเกม Star Wars: The Old Republic ในชื่อ Legacy Of The Sith
BioWare ได้ทำการเผยส่วนเสริมใหม่ล่าสุดของเกม Star Wars: The Old Republic ในชื่อ Legacy Of The Sith โดยตัวเกมจะเปิดตัวเป็นสิ่งแรกในงานครบรอบ 10 ปี ที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้! ซึ่งนอกจากมันจะมอบเรื่องราวใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสแล้ว มันก็ยังมีภารกิจหลากหลายให้ได้เลือกเล่น มีการอัปเกรดตัวละครและอื่นๆ อีกมากมายLegacy Of The Sith นี้จะเป็นเกมแนว MMORPG ที่ทางสตูดิโอมีการเปิดเผยระหว่างการสตรีมผ่านทาง Twitch เมื่อวานว่า เกมนี้ถือเป็นการเริ่มสิ่งใหม่ๆ มากมายเลยสำหรับจักรวาล Star Wars ของ Bioware เนื้อเรื่องจะพาผู้เล่นไปสัมผัสกับเกม ผ่านมุมมองของทหารบรรจุใหม่ ที่ได้รับภารกิจในการปกป้องดวงดาวที่สำคัญมากๆ ดวงหนึ่งเอาไว้ โดยจะเน้นการเล่าไปยัง Darth Malgus กับแผนการลับของเขา และไม่ใช่แค่เรื่องราวใหม่ๆ เท่านั้นที่จะมอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ เพราะตัวเกมก็ยังมีระบบการปรับ Quality of Life ที่น่าจับตามองอีกด้วยนอกจากระบบการสร้างตัวละครที่ถูกปรับปรุงให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผู้เล่นสามารถตั้งหน้าตั้งตารอได้อีกหนึ่งระบบแล้ว จากการสตรีมที่ผ่านมา เราก็ยังได้เห็น feature ใหม่ที่ถูกเรียกว่า Combat Styles ที่จะทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเลือกเล่นให้หลากหลายได้มากขึ้นอีกด้วยโดย Legacy Of The Sith นี้จะลงให้กับเครื่อง PC ในวันหยุดนี้ และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์หลักของ Star Wars: The Old Republic ทางนี้ค่ะCredit: GameinFormer
02 Jul 2021
Riot ประกาศรับสมัครคนเข้ามาช่วยสร้าง MMORPG จากจักรวาล LOL เพิ่มเติม
ในงานครบรอบ 10 ปี ของทาง Riot ตอนปี 2019 เราได้ทราบว่า Riot ได้มีการซุ่มพัฒนาเกม IP อื่นๆ ที่ทั้งเกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับ LOL อีกมากมาย หลายๆ เกมได้เปิดตัว หรือเปิดให้เล่นแล้ววันนี้เช่น Legends of Runeterra, Valorant, และ Ruined King โดยล่าสุดทางฝั่งของโปรเจกต์ MMORPG เองก็มีความเคลื่อนไหวหลังจากเงียบมานานแล้วเช่นกัน มีการประกาศออกมาผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Riot เองวันนี้ว่า กำลังมองนักพัฒนาที่มีความสนใจเข้ามาช่วยพวกเขาในการนำโลกของ Runeterra ออกมาให้เกมเมอร์จากทั่วโลกได้เห็น ซึ่งตอนนี้พวกเขาต้องการ 5 ตำแหน่งหลักๆ ด้วยกันคือ Gameplay Engineering Game Design UX Design Game Art Game Production อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องนี้แล้ว เราแทบไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์นี้เลย ซึ่งอาจคิดได้ว่าโปรเจกต์นี้ยังอยู่ในช่วงแรกของการพัฒนามากๆ และเราคงยังไม่ได้สัมผัสกันเร็วๆ นี้ครับ Credit; https://www.gameinformer.com/2021/02/22/riot-game-is-recruiting-for-its-new-mmorpg-based-in-the-league-of-legends-universe
23 Feb 2021
โลกแฟนตาซีที่รอคุณอยู่! : 10 เหตุผลที่คุณควรเล่น Final Fantasy XIV Online ในเวลานี้!
หมายเหตุ : ผู้เขียน เขียนบทความนี้จากประสบการณ์การเล่น Final Fantasy XIV Online นับตั้งแต่ Open Beta ของ A Realm Reborn จนถึง Expansion ล่าสุด Shadowbringers เป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม หมายเหตุ 2 : ในบทความนี้ ถ้ามีจุดที่ตกหล่น หรืออยากจะท้วงติง ถกเพื่อสนทนา ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่ง และพร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจ สู่โลกแห่ง Eorzea ด้วยความเต็มใจครับ ในแวดวงวิดีโอเกมยุคโมเดิร์นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เกมแนว Massive Multiplayer Open-World RPG หรือ ‘MMORPG’ นั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและมีประวัติศาสตร์ที่มีสีสันที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันต้องใช้ทั้งกำลังแรงงานผู้สร้าง ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่จะดึงดูดผู้เล่นให้อยู่ติดและยอม ‘จ่ายเงิน’ รายเดือนเพื่อเล่นมันต่อไป เช่นเดียวกับที่ Final Fantasy XIV เป็น และมันเป็นยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ เพราะมันผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่ใช่แค่ในฐานะตัวเกม แต่ในฐานะแฟรนไชส์ของ Final Fantasy เลยด้วยซ้ำ Final Fantasy XIV เปิดตัวเวอร์ชัน ‘1.0’ ในปี 2010 พร้อมเสียงตอบรับในทางลบอย่างมหาศาล ทั้งการเล่นที่ยากลำบาก เนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ และระบบที่ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเป็นอย่างมาก เสียงทางลบนั้นมากเสียจน Yoichi Wada ประธานบริษัท Square-Enix ในเวลานั้น ต้องออกตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้เล่น และปลด Hiromichi Tanaka โปรดิวเซอร์คนเก่าออก ก่อนที่จะโยกย้าย Naoki Yoshida ที่ในเวลานั้น กำลังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์ Dragon Quest X ให้มาทำหน้าที่ ‘กอบกู้ซาก’ ของ FFXIV ให้กลายเป็น ‘เกมใหม่’ ที่จะเรียกศรัทธาผู้เล่นกลับมาอีกครั้ง (พวกเขาถึงกับทำเหตุการณ์ ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลประจำปีทุกวันที่ 27 สิงหาคมกันเลยทีเดียว) [caption id="attachment_66005" align="alignnone" width="1024"] เหตุการณ์ The Calamity ที่ Bahamut หลุดจากการจองจำบนดวงจันทร์ Dalamud และเกือบทำลายทั้ง Eorzea ให้เป็นจุลด้วย Teraflare วันระเบิดเซิร์ฟเวอร์ เกมเวอร์ชัน 1.0 ที่อลังการงานสร้างอย่างมาก[/caption] FFXIV กลับมาอีกครั้งในปี 2013 ภายใต้ชื่อ ‘A Realm Reborn’ และที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ มันค่อยๆ ไต่บันไดความสำเร็จและความยอดเยี่ยมไปทีละขั้น ด้วยการเล่นที่ดีขึ้น กราฟิกที่สวยงามขึ้น และเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ กับ Expansion ตัวที่สามอย่าง Shadowbringers ที่เลยล่วงมาถึงแพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ ที่เหล่าผู้เล่นถึงกับยกให้มันคือ ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV ในรอบเจ็ดปีที่ผ่านมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้น และสำหรับผู้เขียนที่เล่นและติดตาม FFXIV มาในตลอดเจ็ดปี ก็ต้องขอบอกว่า ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะสมที่จะเข้าสัมผัสความสนุกของ MMORPG อย่าง FFXIV เท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ด้วย 10 เหตุผล ที่ยังคงแจ่มชัด และน่าจะทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านสนใจกันอยู่ไม่น้อย และถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครติดใจ และผูกใจกับโลกแห่ง Eorzea ได้บ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง -กราฟิกสวยงาม และใช้สเปคเครื่องที่ไม่สูงนัก ข้อดีประการแรกของ FFXIV ในตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า มันเป็นเกม MMORPG ที่กินทรัพยากรของ PC ค่อนข้างน้อยมาก ภายใต้งานออกแบบศิลป์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นชัดเจน และแม้ว่าในปัจจุบัน ทีมพัฒนาจะทำการอัพเกรดเอนจิ้นของตัวเกมให้รองรับสำหรับ DirectX11 เท่านั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นลิมิตที่ต่ำมากๆ สำหรับ PC สายเล่นเกมโดยทั่วไป (ที่การ์ดจอของใครหลายคนน่าจะรองรับไปถึง DirectX12 และระบบ Ray Tracing กันแล้ว…) มันรันได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงอนิเมชันตัวละครที่หลากหลาย ปรับแต่งตัวละครได้ตามแต่ใจต้องการ ในระดับที่ต่อให้คุณกดสุ่มสร้างตัวละคร มันก็ยังออกมาดูดี คงยากจะหาเกมไหนที่จะมีคุณสมบัติเทียบเคียง FFXIV ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เครื่อง PC ไม่แรงมากนัก และไม่คิดว่าจะสามารถรัน FFXIV ได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็อยากจะบอกให้หายห่วง นั่นเพราะว่า… -ระบบ Cross-Play ระหว่าง PC และ Playstation 4 Final Fantalsy XIV ยืนยันตัวตนในฐานะเกม MMORPG แบบ Cross-Play มาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ผู้เล่นบน PC และ Playstation 3 (หรือ Playstation 4 ในตอนนี้) สามารถเล่นร่วมเซิร์ฟเวอร์เดียวกันได้ และหนึ่ง ID ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแพลทฟอร์ม (แต่แน่นอน เนื้อหาเสริม Expansion ก็ยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเล่นไปได้ถึงระดับไหน…) แน่นอนว่าการเป็นเกม Cross-Play นั้น ทาง SQEN ได้คิดเผื่อสำหรับการควบคุมด้วยจอยแพดเอาไว้เป็นอย่างดี และนี่เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ใช้จอยแพดเล่นได้ง่ายมากๆ เกมหนึ่งในตลาดปัจจุบัน หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ คุณจะเอาคีย์บอร์ดกับเมาส์มาเสียบ USB กับเครื่อง Playstation 4 ก็ได้ เพราะมันถูกกำหนดเอาไว้เป็น Native Support โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้มากความ เล่นร่วมกันได้ กินสเปคไม่สูง แต่อาชีพที่หลากหลายก็ชวนให้ลายตาอยู่ไม่น้อย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เย็นใจได้เลย เพราะ… -หนึ่งตัวละคร เล่นได้ทุกอาชีพ FFXIV นำเอาเสน่ห์แบบ Final Fantasy III และ Final Fantasy V เข้ามาผนวกไว้กับตัวเอง เพราะตัวละครของคุณหนึ่งตัว สามารถเป็นได้ ‘ทุกอาชีพ’ เท่าที่ใจอยากจะเป็น แค่เพียงเปิดเควสต์ เปลี่ยนอาวุธหลัก คุณก็สามารถสลับไปเล่นอาชีพอื่นๆ ได้ตามต้องการ วันนี้คุณอยากจะเล่นเป็น Black Mage จอมเวทย์ร่ายคาถา แต่ถ้าเบื่อๆ แล้วอยากไปชนกับศัตรูซึ่งๆ หน้า เปลี่ยนอาวุธมาเป็นขวานแล้วสลับเป็น Warrior ก็ย่อมได้ ในที่นี้ รวมถึงอาชีพสายขุดหาของและสายคราฟท์ ซึ่งอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ทำให้คุณไม่ต้องสร้างตัวละครเป็นสิบๆ เพื่อรองรับกับอาชีพที่แตกต่าง ขอเพียงยังมีช่องว่างใน Armory Slot สำหรับอาวุธ ทุกอาชีพที่คุณปลดล็อคไว้แล้วก็พร้อมจะให้คุณเลือกเล่น แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการ Leveling ปลดล็อคความสามารถต่างๆ ตามระยะเวลา แต่ร้านค้า Mogstation ก็มีไอเทมพิเศษแบบจ่ายเงินจริง ให้คุณ skip เลเวลได้ตัวละครพร้อมใช้ในทันที แต่ผู้เขียนก็ไม่ขอแนะนำในหนทางนี้ เพราะ…. -เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ขับเคลื่อนทุกส่วนของตัวเกม Final Fantasy XIV คือเกมที่เป็น Story-Centric โดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหลัก Main Scenario ที่เข้มข้นในตลอดสาม Expansions ก็ดี (สงครามมังกรพันปี Dragonsong War ใน Heavensward, ภารกิจกอบกู้ Ala Mhigo จากจักรวรรดิใน Stormblood และการช่วยเหลือโลกต่างมิติใน Shadowbringers...) หรือแม้แต่เนื้อเรื่องของอาชีพต่างๆ ที่มีหลากหลายครบรส ทั้งดราม่า ตลกโปกฮา ซาบซึ้งใจ และน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพสายขุดสายคราฟท์ ที่มีเนื้อเรื่องเฉพาะเป็นของตัวเอง อันที่จริง คุณอาจจะไม่ต้องสนใจเนื้อหาและกด Skip ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ขอบอกว่า คุณจะพลาดอรรถรสของตัวเกมไปเกือบครึ่ง ที่ทีมสร้างได้รจนาเรื่องราวไว้ได้อย่างจับใจ โดยเฉพาะกับภาค Shadowbringers ที่ Natsuko Ishikawa มือเขียนบทระดับต้นๆ ของทีม (ผู้เขียนบทอาชีพ Dark Knight อันลือชื่อ) สร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างอลังการ จนผู้เล่นต่างยกย่องให้แพทช์ 5.3 ว่าเป็น ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV กันเลยทีเดียว (อ้อ แล้วในแพทช์ 5.3 ทีมพัฒนาทำการ ตัดทอน ภารกิจส่วนเกินที่ไม่จำเป็นในช่วง A Realm Reborn ไปเกือบ 30% ทำให้ pace การเล่นเร็วขึ้น สะดวกสบายแก่คนเล่นมากขึ้นด้วย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ~) แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจมากมายนักแล้วนั้น…. -เกมมีเมคานิคสุดท้าทาย รองรับกับผู้เล่นทุกระดับ เหตุผลที่ผู้เขียนไม่แนะนำให้คุณทำการ Skip เลเวล และให้เรียนรู้จากเบื้องต้น เพราะ FFXIV ยังเป็น MMORPG ที่ยังยึดกฎ ‘Holy Trinity’ สามโรลหลัก Tank, Healer, DPS และทุกการปะทะ ไม่ว่าจะดันเจี้ยนธรรมดา ไปจนถึง Savage Raid ระดับสุดโหด คุณต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง รู้ว่าอาชีพของตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง และจับมันให้อยู่มือ นี่ไม่ใช่เกมเดินทอดน่องเก็บเลเวลดาดๆ แต่เป็นเกมที่ทุกคนต้องรู้หน้าที่ และหนุนเสริมส่งซึ่งกันและกัน มันมีตั้งแต่ระดับง่ายๆ ผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนถึงระดับซูเปอร์ Ultimate Raid ที่ท้าทายเหล่ายอดมนุษย์ทีม Raider มือฉมัง (พร้อมของรางวัลเป็นอาวุธเอาไว้ใส่เดินขิง…) เรียกว่าคุณจะไม่ได้อยู่เฉยๆ แน่ๆ ถ้าเดินตามเนื้อหาที่วางเอาไว้ คุณจะได้พบกับทุกการปะทะอย่างแน่นอน แล้วสำหรับผู้เล่นสาย  Casual ล่ะ? คนที่อยากจะเอกเขนกเล่นเกมดูบรรยากาศอย่างสบายใจ หายห่วง นั่นเพราะ… -อีเวนท์ประจำปีไม่มีขาด ถ้าไม่นับ World of Warcraft ที่มีอีเวนท์ประจำปีระดับแน่นอนชนิดแปะเป็น In-Game Calendar แล้วนั้น FFXIV ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มากหลายด้วยอีเวนท์สนุกๆ ประจำปีให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ข้ามปี อีเวนท์หน้าร้อนชายทะเล อีเวนท์วันเด็กหญิงของญี่ปุ่น อีเวนท์ระลึกวัน ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อีเวนท์วันฮัลโลวีน จนถึงอีเวนท์วันวาเลนไทน์ มันอาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็เช่นเดียวกับทุกส่วนของตัวเกม ทุกอีเวนท์ผ่านการเขียนบทและรจนามาได้อย่างพอเหมาะ เล่นได้สนุกและบันเทิงอยู่ไม่น้อย พร้อมของรางวัลตอบแทนอีกมากมาย (อ้อ ผู้เล่นสามารถซื้อแพ็คเกจ แต่งงาน ในเกมได้ด้วย ซึ่งจะได้ของแถมพิเศษอีกต่างหาก~) แล้วนอกเหนือจากอีเวนท์ประจำปี มันมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับ Final Fantasy ภาคก่อนๆ หรือเปล่า? เชื่อว่านี่เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้น และในความเป็นจริงนั้น… -References กับซีรีส์ Final Fantasy (และซีรีส์เกมอื่น) ใส่มาจนล้นไม่มีขาดตก ด้วยการยืนอายุของซีรีส์ Final Fantasy มากว่าสามทศวรรษ ทำให้ทีมงานสร้างของ XIV มีวัตถุดิบที่จะสามารถจะหยิบจับมาใช้ได้อย่างอยู่มือ ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคย เหตุการณ์ที่คุ้นเคย จนถึง Dungeon และบอสที่คุ้นเคยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Raid แบบ 24 คนไต่ Crystal Tower จากภาคสาม, การใส่ดันเจี้ยนที่พ้องเนื้อหาไปกับโลก Ivalice ของ Final Fantasy Tactics และ Final Fantasy XII หรือการ Collaboration ล่าสุดกับ Yoko Taro กับซีรีส์ Nier : Automata ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นภายใต้ชื่อ YoRHa: Dark Apocalypse เรียกว่าคนที่ติดตามซีรีส์ Final Fantasy มาโดยตลอด จะต้องมีจุดที่ต้องโดนใจเข้าสักที่สองที่อย่างแน่นอน แต่เนื้อหาและการ Collaborate ที่มากมายอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการสร้างเกมนั้น ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญ นั่นทำให้… -ดนตรีในเกมนี้คืออลังการศิลป์อย่างแท้จริง จุดเด่นหนึ่งของ FFXIV ที่มีมาในตลอดทุก Expansions นั้น คือดนตรีประกอบ ที่ได้ทั้ง Nobuo Uematsu ปรมาจารย์รุ่นเก๋าแห่ง SQEN มาร่วมช่วยสร้าง ประกอบกับฝีมือของ Masayoshi Soken โปรดิวเซอร์เพลงหลักที่ทำดนตรีให้กับทุกการปะทะร่วมกับวง The Primals และเพลงเปิดอันยิ่งใหญ่ในเสียงร้องระดับสวรรค์สร้างของ Susan Calloway ชนิดที่ทุกเพลง สามารถรวมฮิตออกขายซื้อมาฟังได้แบบไม่เสียดายเงิน มันคือการกลั่นทุกประสบการณ์ทางดนตรีของทีมสร้างอย่างไม่มีกั๊กไม่มีเม้ม ที่พร้อมจะทำให้มันสุดยอดยิ่งๆ ขึ้นไป แต่เกมที่หนักเนื้อหาและแน่นคอนเทนต์ขนาดนี้ เราจะไว้ใจได้แค่ไหนว่าพวกเขาจะนำเสนอออกมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย หายห่วงครับ นั่นเพราะ… -คุณภาพคอนเทนต์เกมไม่เคยตก ด้วยระบบ Subscription-Based FFXIV เป็นหนึ่งในไม่กี่เกม MMORPG ที่กล้ายืนหยัดด้วยระบบ ‘จ่ายรายเดือน’ แบบ Subscription-Based ซึ่งทีมสร้างก็ไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง เพราะพวกเขามีตารางที่ชัดเจนในการปล่อยคอนเทนต์ตอนใหม่ๆ และเพิ่ม Features ที่น่าสนใจชนิดที่ไม่มีขาด มีอะไรให้ทำทั้งสาย Casual และ Hardcore แน่นอนว่าในแพทช์ล่าสุด 5.3 อย่าง Reflections in Crystal มีอุปสรรคจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยมันออกมาช้ากว่ากำหนดถึงเดือนครึ่ง (และกระทบถึงแพทช์อื่นๆ และการเปิดตัว Expansion ใหม่…) เพราะต้องจัดระบบการทำงานเพื่อป้องกันสุขภาพของทีมงาน แต่ Naoki Yoshida ก็ยืนยันผ่านรายการ Live Letter แล้วว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมคุณภาพเด็ดขาด ทุกอย่างต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดแม้จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งในตลอดเจ็ดปี มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ทีมสร้างนั้น ‘เอาจริง’ และทุ่มใส่เต็มเม็ดแบบไม่มีอะไรจะเสีย (และดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ…) และแน่นอน ด้วยระบบการจ่ายเงินเช่นนี้ ทำให้ FFXIV ไม่มีอาการแบบ ‘Pay to Win’ หรือเทพทรูใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงจุดนี้ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ รู้สึกว่าการจ่าย ‘รายเดือน’ นั้นเป็นสิ่งที่ผลักไสไม่ให้เข้ามาสัมผัสตัวเกม และรู้สึกว่า ไปหาเกมที่เล่นได้ฟรีมาเล่นไม่ดีกว่าหรือ ก็ขอบอกว่า ... -ตอนนี้ Free-Trial ได้ถึง Level 60 และเนื้อหาของ Expansion แรกอย่าง Heavensward ตั้งแต่แพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ นั้น ทางทีมพัฒนาเปิดกว้างและให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากลองเล่นได้เข้ามาสัมผัสได้นานขึ้น เพราะตอนนี้ ตัวเกมหลักและ Expansion ตัวแรกอย่าง Heavensward สามารถเล่นได้ ‘ฟรี’ จนถึงเลเวล 60 ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ สามารถไปหาโหลดลงทะเบียนได้ที่ https://freetrial.finalfantasyxiv.com/gb/ หรือบนระบบ Playstaion 4 ได้ที่ Store ของโซนอเมริกาและยุโรป ภายใต้เงื่อนไขสามประการ คือ… -ตัวละคร Free-Trial จะมีเงินติดตัวได้สูงสุด 300,000 Gil และใช้ Marketboard ซื้อขายไม่ได้ (ป้องกันการถล่มตลาด) -ตัวละคร Free-Trial ไม่สามารถ Add เพื่อนได้ด้วยตนเอง (แต่ให้ฝั่งผู้เล่น Add และชวนเข้าปาร์ตี้ได้) -ตัวละคร Free-Trial จะไม่สามารถรับ Tomestone (หน่วยเงินหลัง End-Game) ใดๆ ได้ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อิสระทั้งหมด คุณจะเล่นเป็นเผ่าไหน อาชีพไหน ไม่มีจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองสัมผัส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้นานแค่ไหน และถ้าเล่นตัว Free-Trial แล้วติดใจ คุณสามารถซื้อตัวเกมมาเปลี่ยนสถานะเป็น Full Subscription เล่นต่อได้ทันทีโดยไม่เสีย Progress เดิมที่ทำไว้ นับว่า SQEN ใจกว้างในการนี้พอสมควรทีเดียว Final Fantasy XIV ก้าวข้ามผ่านปีที่ 7 เข้าสู่ปีที่ 8 อย่างท้าทาย จากวันที่มันเป็นเพียง ‘ซากแห่งความอัปยศ’ ของ SQEN ทีมงานของ Naoki Yoshida กอบกู้มันจากเถ้าถ่าน สรรสร้างอย่างประณีต และใส่หัวใจให้เต็มร้อยกับผลงานชิ้นนี้ และผู้เขียนก็เชื่อว่า มันจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยาวนานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปณิธานของ Yoshida ที่กล่าวว่า เขาอยากทำเกมนี้ต่อไปอีกระดับสิบปี จนกว่าชีวิตจะหาไม่…   ‘และโลกแฟนตาซีอันรุ่มรวย สนุกสนาน และหลากหลายนี้ กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่มีจังหวะไหนที่ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะครับ!’
01 Sep 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
MU ORIGIN 2 เปิดให้บริการแล้วทั้ง iOS และ Android
MU ORIGIN 2 เกมมือถือจากซีรีส์ MMORPG ชื่อดังอย่าง MU ที่เคยเปิดให้บริการบ้านเราในสมัยก่อน หลังจากปล่อยช่วง CBT มาให้พวกเราได้ทดสอบไปเมื่อสิ้นปี ล่าสุดตอนนี้ตัวเกมเปิด OBT เรียบร้อยแล้วทั้งใน iOS และ Android โดยจุดเด่นของเกมคือการยกเครื่องเกม MU ในสมัยก่อนมาอัพเกรดให้มีกราฟิกสวยงาม และอลังการมากขึ้นด้วยขุมพลัง Unity แต่ยังคงความ Original ไว้ดังเดิมนั่นเอง พร้อมทั้งผู้พัฒนายืนยันเกมนี้ลิขสิทธ์แท้จากผู้พัฒนา WEBZEN อีกด้วย   https://www.facebook.com/MUORIGIN2.TH/videos/2008276736131365/ รวมถึงตัวเกมยังมีกิจกรรมสุ่มผู้โชคดี 3 ท่านลุ้นรับ "หมอนกอดMU" กติกา 1.กดไลค์ และแชร์กิจกรรมนี้ (LINK) 2.คอมเม้น พร้อม @เพื่อน 3 คน 3.สุ่มผู้โชคดี 3 ท่าน รับรางวัล “หมอนกอดMU” หมายเหตุ 1. ผู้เล่นต้องลบเวอร์ชันที่ทดสอบช่วง CBTก่อน แล้วโหลดเกมติตั้งใหม่อีกครั้ง ถึงจะเข้าเซิร์ฟทางการได้ 2.ขณะที่เปิดให้โหลดล่วงหน้านี้ ยังไม่สามารถเข่าเกมได้ ต้องรอเปิดทางการในวันที่ 3 ม.ค. เท่านั้น 3.ประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 4 ม.ค. ผู้เล่นที่ได้รับรางวัล ทางแอดมินจะประกาศทางโพสต์นี้และไปคอมเม้นแจ้งผู้โชคดีให้ทราบ
03 Jan 2019
LaTale W เกม MMORPG บนมือถือน่าจับตามองจากผู้ให้บริการ Black Desert Online (เปิดเล่นกันยานี้)
เกม LaTale W (ลาเทล ดับเบิ้ลยู) เป็นเกมแนว MMORPG บนมือถือจากประเทศเกาหลีซึ่งมีรูปแบบการเล่นแบบ Side Scrolling (แบบเดียวกับ MapleStory M) ที่มีภาพแบบ 3D แนวน่ารัก สดใส และยังมีระบบภายในเกมที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น ระบบสัตว์เลี้ยงคู่หู ระบบตกแต่งบ้าน ระบบกิลด์/ปาร์ตี้ ระบบตกปลา ระบบแต่งงาน ระบบ PVP และระบบดันเจี้ยน จากที่ได้ทดลองเล่นเกมในเซิร์ฟเวอร์เกาหลีพบว่าเกมมีความคล้ายคลึงกับ MapleStory M หลายอย่าง แต่ก็มีส่วนที่ต่างกันหลายอย่างเช่นกัน อย่างแรกเลยก็คือด้านภาพที่ LaTale W ใช้งานภาพแบบ 3D ซึ่งทำได้ออกมาเหมาะกับตัวเกมมาก และทำให้มอนสเตอร์ต่างๆ รวมถึงเอฟเฟ็กต์ต่าง ในการต่อสู้ดูน่าสนใจขึ้น และส่งผลทำให้การเล่นสนุกขึ้นตามไปด้วย แม้จะเป็นตอนที่กดให้ตัวละคร Auto Quest แล้วนั่งดูเฉยๆ ก็ตาม นอกจากนี้ฉากยังมีมิติ มีการเดินไปอยู่หลังพุ่มไม้ได้ สร้างความน่าสนใจไปอีกแบบระบบสัตว์เลี้ยงของเกมนี้ใช้การเปิดกาชา ซึ่งแต่ละวันเราจะโควต้าที่เปิดได้ฟรีอยู่ ทำให้รู้สึกลุ้นและสนุกในการได้สัตว์เลี้ยงใหม่ๆ มา ซึ่งมีทั้งแบบที่หน้าตาหน้ารัก และแบบหน้าตาเท่ๆ ให้เลือกใช้ได้ตามใจ แต่ละตัวมีผลต่อความสามารถของผู้เล่นและยังมี Skill เฉพาะของแต่ละตัวด้วย โดยสัตว์เลี้ยงมีให้ใช้มากถึง 300 สายพันธ์ุ การเพิ่มเลเวลของตัวละครในเกมยังมีความท้าทายต่างจากเกมมือถือเกมอื่นๆ ที่เน้นความง่าย เก็บเลเวลไว จากที่เล่นในเซิร์ฟเวอร์เกาหลีเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เลเวลยังอยู่ที่แค่เลเวล 10 เท่านั้นเอง ไม่แน่ใจว่าพอเป็นเซิร์ฟเวอร์ไทยแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนสมดุลเกมไหม แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็น่าจะถูกใจคนที่ชอบความท้าทาย และเกมที่ไม่ง่ายจนเกินไปก็ทำให้เกมเล่นได้นานขึ้นและการเล่นกันกับเพื่อนสนุกขึ้นด้วย เกมจะอัพค่า Status ต่างๆ ให้เราอัตโนมัติเมื่อเลเวลขึ้นแต่เราสามารถเลือกอัพ Skill ได้เอง ซึ่งจะแบ่งตามสายอาวุธที่ใช้ มีอาชีพให้ใช้เริ่มต้น 4 อาชีพคือ Warrior, Knight, Wizard, และ Explorer แต่ละอาชีพพัฒนาต่อไปได้อีก 2 สาย พิเศษสำหรับคนที่รอเล่นเกมนี้ในเดือนกันยายนนี้ก็คือเกมมาพร้อมภาษาไทยเต็มรูปแบบรวมถึงเสียงพากย์ไทยจากทีม Tanudan Studio ด้วย และยังมีการเพิ่มตัวละครใหม่ๆ ที่วาดโดยทีมชาวไทยอย่าง Nanami Animation อีก นอกจากนี้ทาง CEO ของ Funigloo ผู้พัฒนายังรับปากว่าจะมีคอนเทนต์พิเศษที่มีความเป็นไทยสำหรับชาวไทยแน่นอน โดยที่บอกได้ตอนนี้ก็คือแผนที่ PVP ที่ใช้ฉากจากประเทศไทย และยังสัญญาว่าเกมจะมีการอัพเดตอย่างสม่ำเสมอ โดยมีการอัพเดตย่อยทุกๆ สองสัปดาห์และอัพเดตใหญ่ๆ ทุกเดือน เท่าที่ลองดูในเซิร์ฟเวอร์เกาหลี LaTale W เป็นเกมที่สนุกใช้ได้ทีเดียว มีขัดใจอยู่หน่อยตรงที่เมนูต่างๆ ดูรกไปหน่อยและไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อความสนุกของเกมขนาดนั้น เอาเป็นว่าใครที่สนใจก็ไปลองด้วยตัวเองเลยดีกว่าเพราะเกมจะเปิดให้เล่นเดือนนี้แล้วทั้งบน iOS และ Android โดยสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ http://preregist.latalemobile.in.th ติดตามข่อมูลอื่นๆ ได้ทาง Facebook Official ของเกมอีกช่องทาง https://www.facebook.com/LataleW.TH เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ LaTale W ผู้ให้บริการเกมในประเทศไทยคือ Level Up Games ผู้ให้บริการ Black Desert Online ในประเทศไทย เกมเป็นเหมือนภาคต่อของ LaTale บนเวอร์ชัน PC ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้เล่น Latale W ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
27 Aug 2018
สัมภาษณ์ผู้พัฒนา: Black Desert Online
ถ้าพูดถึงเกม MMORPG ออนไลน์ที่น่าจับตามองในขณะนี้ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นเกม Black Desert Online เกมจากผู้พัฒนาเกาหลี Pearl Abyss ที่ขึ้นชื่อในด้านระบบต่อสู้แอคชั่นสุดมันส์และกราฟิคตัวละครที่ละเอียดสมจริงอย่างน่าทึ่ง ล่าสุดทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้พัฒนามาเล็กน้อย เพื่อถามไถ่ถึงความเป็นมาในปัจจุบันของเกมในเมืองไทย และแผนการในอนาคตที่ทีมงานเตรียมไว้สำหรับผู้เล่นชาวไทยนั่นเอง ไปตามอ่านบทสัมภาษณ์ด้านล่างกันได้เลย! GFTH: ผ่านมาซักพักแล้วกับการเปิดตัวเกม Black Desert Online ในโซน SEA ซึ่งรวมถึงเมืองไทยด้วย เสียงตอบรับจากแฟนๆ ในภูมิภาคเป็นอย่างไรบ้าง PA: นับว่าต้องขอบคุณแรงสนับสนุนจากผู้เล่นจริงๆ ที่ทำให้ทีมสามารถผลิตอัพเดทใหม่ๆ ออกมาได้ทุกอาทิตย์ อย่างล่าสุดทางทีมเพิ่งจะเพิ่มอาชีพใหม่ๆ เข้าไปในเกมพร้อมกันถึงสามอาชีพคือ Dark Knight, Mystic และ Striker เพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้ลองเล่นกัน ทางทีมเองพยายามจะมองหาวิธีใหม่ๆ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าแฟนๆ BDO อยู่เสมอ เพื่อตอบแทนแฟนๆ ที่ลงทะเบียนเกมล่วงหน้ากว่า 750,000 คน จนเราต้องเพิ่มจำนวนเซิฟเวอร์ขึ้นจากตอนเปิดตัวเกมถึงห้าเท่า และเราจะพยายามต่อไปเพื่อตอบแทนความนิยมของแฟนๆ ทุกคนครับ GFTH: ข้อติชมของแฟนๆ แต่ละภูมิภาคคล้ายกันแค่ไหน PA: แน่นอนว่าในการทำอะไรซักอย่างเพื่อคนกลุ่มใหญ่ย่อมต้องพบกับคำติชมเป็นเรื่องปกติ สำหรับข้อติชมต่อเกม BDO นั้นค่อนข้างจะมีความคล้ายกันในทั่วโลก แต่แตกต่างกันในวิธีการสื่อสารมากกว่า แต่ถึงกระนั้นทางทีมก็เชื่อว่าผู้เล่นทุกท่านต่างออกความเห็นเพราะต้องการจะสนุกกับเกมให้มากที่สุด ทางทีมขอขอบคุณทุกเสียงติชมจากผู้เล่นทุกคน และสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาเกมให้ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นทุกคน GFTH: ปีนี้แฟนๆ ชาวไทยจะพอคาดหวังเซอร์ไพรส์อะไรได้อีกบ้าง PA: สำหรับแผนการในอนาคตทางทีมอาจจะขออุปไว้ก่อน แต่ทางทีมเองสังเกติเห็นว่ากิจกรรมสงกรานต์ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมาดูจะได้รับความสนใจจากผู้เล่นมากเป็นพิเศษ โดยในอนาคต ผู้เล่นสามารถคาดหวังกิจกรรมสนุกๆ ที่แทรกวัฒนธรรมไทยเพื่อผู้เล่นชาวไทยโดยเฉพาะอีกแน่นอน GFTH: มีผู้เล่นหลายคนที่บ่นว่าระบบหลายๆ อย่างในเกมใช้เวลาเยอะมาก (เช่น Life Skills ต่างๆ) ทีมมีแผนการในการพัฒนาจุดนี้อย่างไรบ้าง PA: การพัฒนาตัวละครในระบบ RPG ส่วนใหญ่เป็นการผสมผสามกันระหว่างฝีมือ เวลาเล่น และโชคอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากเกมที่นิยมในปัจจุบันอย่างเกม AOS หรือ FPS ทั้งหลาย ผู้เล่นหลายคนจึงอาจจะไม่ชินกับระบบในเกม RPG อย่าง BDO แต่ทางทีมก็กำลังคิดกันอย่างขันแข็งว่าจะทำอย่างไรให้ผู้เล่นสามารถใช้เวลาในเกมให้คุ้มค่ามากขึ้น หรือใช้เวลาน้อยลงในการทำภารกิจหลายๆ ชนิด เพื่อให้ผู้เล่นจำนวนมากที่สุดสามารถสนุกกับเกมได้อย่างเต็มที่ GFTH: มีอะไรอยากจะฝากถึงแฟนๆ BDO ชาวไทยเกี่ยวกับอนาคตของเกมไหม PA: ทางทีม Pearl Abyss หวังว่าผู้เล่นชาวไทยจะยังคงชอบและสนุกไปกับเกมของเราในอนาคต และเราสัญญาว่าจะพยายามพัฒนาเกมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ BDO เป็นเกมที่ผู้เล่นทุประเภทสามารถมาสนุกร่วมกันได้ หวังว่าเราจะยังได้รับการติดตามอย่างเหนียวแน่นจากแฟนๆ ชาวไทยต่อไปอีกในอนาคต
03 Jun 2018
Maplestory M เปิดลงทะเบียนในไทยวันนี้!
ปล่อยให้เล่นกันมาซักพักแล้วบนสโตร์ต่างประเทศ แต่ในที่สุดผู้เล่นชาวไทยได้ลงทะเบียนล่วงหน้ากันแล้วกับเกม Maplestory M เกมออนไลน์ในตำนานที่กลับมาอีกครั้งในรูปแบบมือถือ! คลิ๊กลงทะเบียน ที่นี่ หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับเกม Maplestory เกมออนไลน์สองมิติที่ให้เราเล่นเป็นตัวละครหัวโตๆ ที่เคยฮิตมากบน PC สมัยเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว การมาของเกมเวอร์ชั่น M นี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่เหล่าเกมเมอร์มีอายุทั้งหลายจะได้หวนคืนวันวาน สมัยที่เกมออนไลน์ยังรุ่งเรืองในเมืองไทย นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนาอย่าง Nexon Thailand ยังปล่อยกิจกรรมร่วมสนุกสำหรับแฟนๆ ให้ได้ชวนเพื่อนๆ มาร่วมกันลงทะเบียนเพื่อรับของรางวัลในเกมอีกด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกิจกรรมได้ ที่นี่ เพื่อนๆ คนไหนเคยเป็นแฟน Maplestory บ้างเอ่ย มีใครสนใจเวอร์ชั่นมือถือบ้าง คอมเมนต์เข้ามาคุยกันจ้า!
01 Jun 2018