ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราอาจสังเกตได้ว่า Netflix เริ่มเข้ามามีบทบาทในวงการวิดีโอเกมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการปล่อยหนังแบบคนดูมีส่วนร่วมได้อย่าง Black Mirror: Bandersnatch และ You vs. Wild หรือจะเป็นการที่นำหนัง / การ์ตูน ที่ทำมาจากเกมเข้ามาฉายในแพลตฟอร์มมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้คิดจะหยุดแค่นี้ แต่มีแผนจะขยับขยายกิจการเข้ามาในตลาดเกมให้มากขึ้นในอนาคตด้วยจากรายงานของ The Information ทางบริษัทมีรับสมัครงานที่ปรึกษาทางด้านเกมอยู่ รวมถึงรายงานล่าสุดจาก Techradar ที่ได้รับอีเมลจาก Netflix ว่า 'พวกเรามีความรู้สึกตื่นเต้นเสมอที่ได้นำพาคนดูสนุกไปกับ สื่อผสมต่างๆ ภายในแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งนั้นรวมถึงสื่อที่คนดูมีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องได้อย่าง Bandersnatch และ You vs. Wild หรือสื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกมอย่าง Stranger Things, La Casa de Papel พวกเรารู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้นำเสนอสื่อแบบคนดูมีส่วนร่วมได้ มากขึ้นต่อไปในอนาคต'หากพูดถึงซีรีส์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรวาลเกมที่มีอยู่ใน Netflix ตอนนี้ ก็ต้องยอมรับเลยว่ามีอยู่เป็นจำนวนมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Dota, Resident Evil, Castlevania, Detention, รวมถึง Assassin's Creed ที่ก่อนหน้านี้เคยมีประกาศออกมาจาก Ubisoft เช่นกัน มันน่าสนใจไม่น้อยเลยเมื่อทราบว่า Netflix จะเข้ามาตีตลาดเกมมากขึ้น ต้องรอดูว่าผลงานหลังจากนี้ จะน่าสนุกขนาดไหนครับCredit : https://www.pcgamer.com/netflix-is-reportedly-planning-to-get-into-games-even-more/

หลังจากเงียบหายไปตลอดปี 2020 โดยโผล่มาให้เราซื้อเพียงแค่ Battle Pass เท่านั้น ล่าสุดทาง Valve ได้ตัดสินใจจะจัด The International 10 ขึ้นที่ประเทศ Sweden ในวันที่ 8 - 15 สิงหาคม 2021 โดยมีเงินรางวัลอยู่ที่ $40,018,195 ซึ่งได้มาจากส่วนแบ่งของยอดขาย Battle Pass ในปี 2020นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระบบใหม่ที่ชื่อว่า Supporters Clubs เข้ามา โดยระบบดังกล่าวเปิดให้ผู้เล่นแสดงออกถึงความรักที่มีต่อทีมที่เข้าร่วม TI ได้ผ่านการสนับสนุน Pack ราคาต่างๆ ซึ่งจะได้รับ Emote, Spray และอื่นๆ ไปใช้ภายในเกม ดูรายละเอียดของแถมที่ได้ข้างล่างอย่างไรก็ตาม Supporters Clubs จะทำการ Reset ทุกๆ DPC ซึ่งหมายความว่าระบบดังกล่าวจะกลายเป็นระบบถาวรใหม่ของเกม โดยในตอนนี้มี 17 ทีมที่ให้เลือกสนับสนุนได้ และจะถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งสำหรับบางที่อาจไม่มีระดับ Silver และ Gold ครับCredit : https://www.dota2.com/newsentry/3066366095803889976?fbclid=IwAR3PXfjkdp1F9q8tOZ_jjKFZfdtHdCbS8_Hznhpm7EWtuLb48Dcf5k7K6mk

ดูเหมือนว่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ยังตั้งเป้าจะเอาใจเหล่าเกมเมอร์อย่างไม่ลดละ เมื่อล่าสุดทางค่ายได้ทำการเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการประกาศเปิดตัวซีรีส์อนิเมะ Original เรื่องใหม่ Dota: Dragon’s Blood ที่อิงเนื้อเรื่องจากจักรวาลเกม MOBA ชื่อดังนั่นเอง! สำหรับอนิเมะ Dota: Dragon’s Blood จะเป็นการร่วมทุนระหว่าง Netflix และผู้พัฒนาเกม DOTA2 อย่าง Valve โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากนัก นอกเหนือไปจากว่าอนิเมะจะติดตามเรื่องราวของตัวละคร Dragon Knight เป็นหลัก และจะออกอากาศให้ชมกันทาง Netflix ในวันที่ 25 มีนาคมนี้! Credit: https://www.pcgamer.com/dota-dragons-blood-is-a-netflix-anime-series-premiering-next-month/?fbclid=IwAR1WEs39IIgUpncL_rzksVcfZwIexXGe6iCT3bCLZxKG1AbyYCj3mxVJjDc  

ดูเหมือนว่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Netflix ยังตั้งเป้าจะเอาใจเหล่าเกมเมอร์อย่างไม่ลดละ เมื่อล่าสุดทางค่ายได้ทำการเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการประกาศเปิดตัวซีรีส์อนิเมะ Original เรื่องใหม่ Dota: Dragon’s Blood ที่อิงเนื้อเรื่องจากจักรวาลเกม MOBA ชื่อดังนั่นเอง! สำหรับอนิเมะ Dota: Dragon’s Blood จะเป็นการร่วมทุนระหว่าง Netflix และผู้พัฒนาเกม DOTA2 อย่าง Valve โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากนัก นอกเหนือไปจากว่าอนิเมะจะติดตามเรื่องราวของตัวละคร Dragon Knight เป็นหลัก และจะออกอากาศให้ชมกันทาง Netflix ในวันที่ 25 มีนาคมนี้! Credit: https://www.pcgamer.com/dota-dragons-blood-is-a-netflix-anime-series-premiering-next-month/?fbclid=IwAR1WEs39IIgUpncL_rzksVcfZwIexXGe6iCT3bCLZxKG1AbyYCj3mxVJjDc  

หากให้เหล่าแฟน ๆ Dota 2 เลือกกัปตันในดวงใจของพวกเขาในตอนนี้ ชื่อของ N0tail หรือที่คนไทยนิยมเรียกพ่อใหญ่ คงจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่ออกมาอย่างแน่นอน ด้วยการที่เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่เข้าได้กับทุกคน ในขณะเดียวกันเขาก็มีความเป็นผู้นำสูงและไม่ยอมแพ้แม้จะต้องเจอกับทีมที่เก่งกว่า N0tail ถือว่าเป็นผู้เล่นเกม Dota 2 คนหนึ่งที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย จนได้หลอมตัวตนของเขาให้กลายเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมจนสามารถคว้าแชมป์รายการ The International ถึงสองสมัยซ้อน วันนี้เราจะมาดูเส้นทางชีวิตของเขาจากผู้เล่น HoN จนถึงแชมป์โลกเกม Dota 2 กำเนิดพ่อใหญ่ Big Daddy N0tail N0tail มีชื่อจริงว่า Johan Sundstein เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมปี 1993 ที่ประเทศเดนมาร์ก โดยเขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นผู้เล่นเกม Heroes of Newerth หรือ HoN ตั้งแต่อายุ 15 ปีในฐานะของผู้เล่น Solo Mid และการเล่นเกมนี้เองทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนรักที่จะกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญต่อชีวิตเขาในอนาคตอย่าง Fly หลังจากที่แข่งขันเกม HoN ได้ไม่นานเขาก็ได้ไปเล่นเกมใหม่ที่กำลังมาแรงกว่าในตอนนั้นอย่าง Dota 2 เอง โดยสังกัดแรกของ N0tail คือ Fnatic.EU ที่ในตอนนั้นเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความสามารถในการ Micro สูงทำให้เขาสามารถเล่นตัวละครอย่าง Meepo ได้อย่างชำนาญ ทีมของพวกเขาทำผลงานได้ดีจนสามารถที่จะเข้าไปแข่งรายการ The International ปี 2013 ได้ แม้ผลงานในรอบแบ่งกลุ่มจะทำได้ดีตนสามารถที่จะอยู่สายบนได้ แต่ในรอบ Main Event พวกก็ต้องกลับบ้านเร็วกว่าที่คิดด้วยการแพ้ให้กับทีม Tongfu และ Orange Esports กลับบ้านด้วยอันดับ 7-8 ร่วม ซึ่งหลังจากจบการแข่งขันนี้เขาก็ได้ลาออกจากทีม Fnatic จากทีม Secret สู่ทีม Monkey Business หลังรายการ TI3 ทีมต่าง ๆ ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย โดยเฉพาะหนึ่งในทีมขวัญใจมหาชนในตอนนั้นอย่าง Navi ต้องเสียสองผู้เล่นคนสำคัญอย่าง Puppey และ Kuroky ไป นำไปสู่การรวมตัวกันของทีม All Stars ทีมแรก ๆ ของโลก Dota 2 นามว่าทีม Secret Team Secret ยุค 2014 ได้รวมเอายอดฝีมือจากทุกตำแหน่งมาไว้ในทีมเดียวได้แก่ Kuroky (Carry) , S4(Mid), Simba (Fly Offlane) , Pupey (Support) , Big Daddy (N0tail Supports) ซึ่งสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสร้างสถิติอันยอดเยี่ยมในการแข่งขัน Qualify รายการ StarLadder StarSeries Season 10: Europe and CIS ด้วยการไม่แพ้ใครเลยติดต่อกัน 13 นัดติด แต่ไม่รู้สาเหตุอะไรก็ตาม N0tail และ Fly ก็ต้องออกจากทีมไปอีกครั้ง โดย N0tail ย้ายไปอยู่ C9 และ Fly ย้ายไปอยู่ทีม MeePwnd ซึ่ง N0tail สามารถทำผลงานกับ C9 ได้ดีจนสามารถไปแข่งขันรายการ TI5 ได้ แต่ก็ต้องโชคร้ายที่ทีมของพวกเขาต้องไปเจอกับทีม VG ที่ในตอนนั้นกำลังท็อปฟอร์มทำให้กลับบ้านไปอย่างรวดเร็วในอันดับที่ 9-12 ร่วม แม้ว่าในตอนนี้เขาจะเข้าแข่งขันรายการนี้มาแล้วสองครั้งแต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ เขาจึงตัดสินใจกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนคู่ใจของเขา Fly ในทีมใหม่ Monkey Business การกำเนิดขึ้นของทีม OG Monkey Business ของ N0tail ได้มีการดึงเอาผู้เล่นชื่อดังอย่าง MoonMeander และ Cr1t มาเข้าร่วมทีม แต่มีอยู่หนึ่งคนที่วงการ Dota 2 จับตามองมากที่สุดคือ Miracle ที่ในตอนนี้เป็นผู้เล่นที่ MMR 9000 คนแรกของโลกมาเป็นแกนหลักของทีมสลับตำแหน่งกับ N0tail ระหว่าง Mid และ Carry พร้อมกับได้โค้ชที่เป็นอดีตผู้เล่นอย่าง 7ckngMad (Ceb) https://www.facebook.com/975006269212985/posts/975237855856493?sfns=mo Money Business สามารถทำผลงานได้ดีระดับหนึ่ง จนไปเข้าตาสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Redbull และได้เปลี่ยนชื่อเป็นทีม OG ซึ่ง โดยในปี 2016 ทีมสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดีในการแข่งขันรายการใหญ่ระดับ Major ได้ถึงสองรายการ ทำให้แฟน ๆ ของเกม Dota 2 ในตอนน้ันต่างเต็งว่าทีมนี้ยังไงก็เป็นแชมป์ แต่แล้ว OG ก็ไปไม่ถึงฝันเนื่องจากพวกเขาต้องกลับบ้านด้วยฝีมือของ TNC ทำให้ทีม OG ต้องเสียผู้เล่นไปถึง 3 คนคือ MoonMeander , Miracle, Cr1t ทำให้พวกเขาต้องสร้างทีมใหม่อีกครั้ง โดยได้ JerAx ,S4 และ ana มาเข้าร่วมทีมแทน N0tail และความพยายามอีกครั้งเพื่อทีม OG ทีม OG ชุดใหม่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่พวกเขาสามารถคว้าแชมป์รายการ Boston Major 2017 ที่สองรายการ DAC 2017 และแชมป์รายการ Kiev Major 2017 แต่ผลงานของพวกเขาก็เริ่มสะดุด แม้พวกเขาจะสามารถที่จะเข้าร่วมรายการ Ti7 ได้ แต่พวกเขาก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันพ่ายให้กับทีม LGD ไปอย่างน่าเสียดาย ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ N0tail ต้องเสีย ana หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของทีมและได้นำเอา Resolut1on มาเล่นแทน ซึ่งเรียกได้นี่เป็นช่วงตกต่ำของเขาก็ได้เพราะว่าทีม OG ไม่สามารถที่จะทำผลงานได้เป็นชิ้นเป็นอันเลย สุดท้ายผู้เล่นอย่าง Resolut1on ก็ต้องออกจากทีม  7ckngMad มาเล่นแทนตำแหน่งที่หายไป เท่านั้นยังไม่พอเมื่อทางทีม OG รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการ TI8 ได้ก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น เมื่อ Fly เพื่อนรักที่อยู่กับเขามานานหลายปีแยกตัวออกไป พร้อมกับนำเอาสมาชิกอีกคนหนึ่งในทีมออกไปด้วย หลาย ๆ คนเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” เพราะในตอนนี้ OG แทบจะไม่เหลือสมาชิกคนสำคัญเลย จากเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด สู่ยอดทีม Dota แห่งยุค [caption id="attachment_27565" align="alignnone" width="1024"] รูปภาพจาก Gusugamer[/caption] N0tail ในตอนนั้นเขาได้เริ่มทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ และตัดสินใจว่าจะเดินต่อ ด้วยความร่วมมือกับ 7ckngMad ที่เปลี่ยนชื่อเป็น Ceb พวกเขาจึงรวบรวมทีมใหม่อีกครั้ง ภายใต้ Concept “เล่นเอาสนุกเข้าว่า” เขาจึงได้ชวน ana เพื่อนร่วมทีมเก่าที่และ Topson เด็กหนุ่มมหัศจรรย์ของโลก Dota 2 ในตอนนี้ N0tail ได้ปรับตำแหน่งใหม่ โดยเขาได้กลับไปเล่นตำแหน่ง Support ของทีมแทน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือว่ามาถูกทางเพราะว่า N0tail มีประสบการณ์ในการเล่นที่สูงอยู่แล้ว ทำให้เขาสามารถดึงจุดเด่นของตัวละคร Support ได้อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Silencer และ Chen ทีม OG สามารถ Qualify จนสามารถเข้าร่วมรายการ T8 ได้ ซึ่งด้วยความสามารถของทีมใหม่ทำให้ทีม OG สามารถที่จะเอาชนะทีมของอดีตเพื่อนรักได้อย่างไม่ยากเย็น รวมถึงคว้าแชมป์ TI8 พร้อมทำลายคำสาปของโล่ Aegis อีกด้วย ชัยชนะเริ่มต้นที่ทัศนคติ ในปีต่อมา N0tail ยังคงเดินหน้าคว้าแชมป์รายการ The International ปี 2019 ได้อย่างไม่ยากเย็น โดยเฉพาะรอบชิงที่เขาต้องไปเจออดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง Miracle เขาก็เอาชนะไปอย่างขาดลอย 3:1 เกม เรียกได้ว่าตอนนี้ OG คือสุดยอดทีมของเกม Dota 2 แม้ว่าในด้านฝีมือ N0tail จะไม่ได้เด่นเหมือนกับรุ่นน้องอย่าง ana และ Topson แต่ว่าในบทบาทกัปตันทีมเขาไม่ได้ขาดตกบกพร่องด้านใดเลย สิ่งที่สำคัญที่หลาย ๆ คนเห็นในตัวของ N0tail คือทัศนคติที่ดี พวกเขาเล่นเพื่อความสนุก ไม่กดดันตัวเอง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเขาก็ยิ้มเสมอ จนทำให้สิ่งเหล่ากลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเขาและทำให้หลาย ๆ คนหลงรักเขาในที่สุด ทัศนคติด้านบวกประกอบกับฝีมือในการเล่น ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าทีม OG ภายใต้การคุมทีมของเขาจะสามารถสร้างตำนานอะไรให้เกิดขึ้นกับเกม Dota 2 ได้อีก สรุป หากเราลองย้อนกลับไป N0tail ผ่านการเล่นเกมมาหลายปี แพ้นัดชิงก็หลายครั้ง แต่เขายังคงเลือกที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ประกอบกับการที่เขามีทัศนคติที่ดีทำให้เขายังคงสามารถเดินตามความฝันของตนเองอยู่เสมอ ๆ แม้ทุกวันนี้อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาหลายคนจะวางมือไปแล้วก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทาง N0tail ไม่เหมือนใครคือการที่เขาสามารถที่จะสร้างบรรยากาศให้กับผู้คนที่อยู่รอบตัวของเขา ให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันได้ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความมั่นใจสูง ซึ่งมีกัปตันน้อยคนนักจะสามารถที่จะทำแบบนี้ได้ นอกจากนี้เขายังสามารถส่งมอบทัศนคติการคิดบวกออกมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนร่วมทีมหรือเหล่าแฟนคลับของทีม OG ที่ต่างรักใคร่ในตัวเขา จึงไม่แปลกที่เขาจะยืนอยู่จุดสูงสุดของวงการนี้ อ้างอิงข้อมูลจาก : Liquidpedia

สำหรับแฟน ๆ ของเกม Dota 2 เป็นธรรมเนียมที่ทุก ๆ ปี Valve จะจัดการแข่ง Dota 2 ชิงแชมป์โลกหรือที่เรารู้จักกันในนาม The International โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 แล้ว ซึ่งสิ่งที่มาพร้อมกับการแข่งขันครั้งนี้คือ Battle Pass ที่จะมอบไอเทมต่าง ๆ ให้แก่ผู้เล่นเมื่อปลดล็อค ที่ยิ่งเลเวลสูงยิ่งได้ไอเทมเยอะ สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเติมวันนี้เรา GameFever TH มีคำแนะนำมาให้กับทุกท่าน เริ่มที่เลเวลเท่าไหร่ดี สำหรับปีนี้ Valve ได้ทำการขายสมุด Battle Pass 3 แพ็คเกตคือ แบบธรรมดาราคา 325 บาท แพ็คมาพร้อมเลเวล 50 ราคา 950 บาทและแพ็คมาพร้อมกับเลเวล 100 ราคา 1460 บาท สำหรับคำแนะนำนั้นต้องเริ่มต้นที่ว่าผู้อ่านอยากที่ไปถึงเลเวลที่เท่าไหร่ โดยหากไม่คิดจะเอาไอเทมอะไรมากแพ็คเกตเริ่มต้นถือว่าคุ้มค่าแล้ว  เนื่องจากจะได้สามารถที่จะเข้าถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของ Battle Pass ได้อย่างครบครัน ในส่วนของแพ็คเกตเลเวล 50 นั้นอาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่เนื่องจากแม้จะประหยัดงบไปได้เกือบ 300 บาท แต่ของที่ได้มานั้นเรียกได้ว่าไม่คุ้มเลย ดังนั้นหากจะเติมแนะนำว่าแพ็คเกตเลเวล 100 นั้นคุ้มกว่าเพราะเราสามารถที่จะประหยัดเงินในการเติมเพื่อเอาไอเทมได้ถูกมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้โอกาสในการเปิดกล่อง Immortal 1 จำนวน 6 ครั้งอีกด้วย เลเวลฟรีได้จากไหนบ้าง การได้เวเวลใน Battle Pass จะมีอยู่สองวิธีหลักคือ การเติมเงินเพื่อซื้อเลเวลโดยตรงกับการทำกิจกรรมในสมุด ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมดังต่อไปนี้ Cavern Crawl กิจกรรมที่ให้เราได้เล่นเพื่อปลดล็อกเซตของตัวละคร 3 ตัวได้แก่ Slark , Spirit Breaker , Nyx ซึ่งจะให้เราเล่นตัวละครที่กำหนดให้ชนะ โดยหากเราทำกิจกรรมนี้ทั้งหมดจะได้ 44 เลเวล Summer Event กิจกรรมพิเศษจากทาง Valve ที่จะอัปเดตเข้ามาในอนาคต Side Shope สำหรับร้านค้าข้างทางนี้นอกจากจะหมุดสุ่มของรางวัลแล้วยังมี Achievement ให้ทำด้วย นั่นคือการทำตัวละคร 3 ดาวให้ครบทุกตัว ซึ่งเมื่อเราทำสำเร็จจะได้ประมาณ 11 เลเวล Prizepool หากว่าในปีนี้เหล่าแฟน ๆ Dota 2 สามารถทำเงินรางวัลได้สูงตามที่ Valve ตั้งไว้ก็ได้จะเลเวลไปเลยฟรี ๆ โดยปีนี้หากเงินรางวัลรวมถึง 40 ล้านเหรียญเมื่อไหร่ ผู้เล่นทุกคนจะได้ 20 เลเวลฟรี ๆ เควสกิล ถือว่าเป็นระบบใหม่สำหรับเกม Dota 2 ที่เมื่อเราเข้าไปในกิลแล้วจะมีเควสหรือ Contract ให้ทำ โดยหากเราทำทุกวันจะได้ประมาณ 35-40 เวล แล้วแต่ดวง Achievement ต่าง ๆ ในสมุด ซึ่งหากเราทำได้หมดจะได้ประมาณ 58 เลเวล นับรวมกับเควสแจกสมุดให้กับเพื่อน ๆ แต่หากไม่ทำเราจะได้ประมาณ 42 เวล การพนัน ในแต่ละสัปดาห์ Valve จะให้เหรียญเราสำหรับการลงพนันว่าในเกมนี้เราจะชนะหรือไม่ ซึ่งหากเราสามารถลงพนันและชนะได้ เมื่อจบสัปดาห์ระบบจะทำการคำนวณแต้มให้ Portal ในเกมเราสามารถที่จะเปิด Portal เพื่อสุ่มรับแต้มหรือ Rylai Blessing ได้ ซึ่ง Portal จะได้จากการเติมถึงเลเวลที่กำหนด หมุน Rylai Blessing หากเราดวงดีมากพอ การหมุนแต่ละครั้งจะมีโอกาสได้เลเวลเพิ่ม กล่อง Immortal 3 ในทุก ๆ ปีกล่องนี้นอกจากจะมีไอเทมแล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้เลเวลฟรี ๆ อีกด้วย ถ้าดวงดีพอ โดยสรุปแล้วหากเราเล่นเป็นประจำจะได้เลเวลมาฟรี ๆ จำนวน 150 เลเวล ซึ่งหากคุณดวงดีก็จะได้เลเวลมากขึ้นกว่านี้ไปอีก แต่เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ต้องบอกว่าปีนี้เลเวลจากการทำกิจกรรมได้ยากกว่ามาก เติมเท่าไหร่ถึงคุ้ม สำหรับเรื่องนี้ต้องลองย้อนกลับไปดูตัวเราว่าต้องการไอเทมอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งในปีนี้ต้องบอกเลยว่าไอเทมต่าง ๆ นั้นถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าสนใจมาก ซึ่งไอเทมที่น่าสนใจมีดังนี้ SANCTUMS OF THE DIVINE -  เลเวล160 LIVING TOWERS - เลเวล 200 PUDGE PERSONA : THE TOY BUTCHER - เลเวล 255 ANTI-MAGE PERSONA : THE DISCIPLES PATH - เลเวล305 WRAITH KING ARCANA : ONE TRUE KING - เลเวล 375 QUEEN OF PAIN ARCANA : EMINENCE OF RISTUL - เลเวล 445 WINDRANGER ARCANA : COMPASS OF THE RISING GALE - เลเวล 575 AEGIS OF CHAMPIONS -  เลเวล1000 BABY ROSHAN - เลเวล 2000 เมื่อเราตั้งเป้าหมายแล้วก็เริ่มเติมเงินได้เลย โดยแพ็คเลเวลจะมีจำนวน 3 แพ็คคือ 5 เลเวล 81 บาท (เลเวลละประมาณ 16 บาท) 11 เลเวล 165 บาท (เลเวลละประมาณ 15 บาท) และ 24 เลเวล (เลเวลละประมาณ 14 บาท) จะเห็นได้ว่ายิ่งเราเติมแพ็คแพงยิ่งคุ้ม ในส่วนของไอเทมหากในมุมมองของผู้เขียนแล้ว เลเวล 575 ถือว่ากำลังพอดีเพราะจะได้ไอเทม Limited ในเกมครบ โดยเริ่มต้นที่เลเวล 100 จากนั้นทำภารกิจต่าง ๆ ในเกมจนถึงเลเวล ประมาณเลเวล 255 (Pudge Perona) จากนั้นรอกิจกรรม Steam Sale ที่ Valve จะขายแพ็คสุดคุ้มในราคาถูกมาก 120 เลเวลในราคาประมาณ 945 บาท (อ้างอิงจากปี 2019) ซึ่งสามารถที่จะทำบัคเพื่อที่จะซื้อได้หลายชุด ทำให้ใช้เงินทั้งหมดประมาณ 4310 บาท ซึ่งจะมากหรือจะน้อยกว่านี้ก็อยู่ที่ดวง แต่หากคุณเป็นสายเก็บครบโล่ Aegis ประจำปีจะมีต้องใช้เงินประมาณ 13,700 บาทและ Baby Roshan จะต้องใช้เงินจำนวน 27,000 กว่าบาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ซื้อโดยอิงจากการใช้เงินโดยตรง ไม่นับเลเวลที่ได้มาจากการทำกิจกรรมและการใช้ซื้อในช่วง Sale สรุป การจะเติม Battle Pass ให้คุ้มนั้นขึ้นอยู่กับสามปัจจัยคือ ไอเทมเราอยากได้ เวลาในการเล่นแต่ละวันและเงินที่เรามี ที่ยิ่งเริ่มต้นได้ไวยิ่งทำให้เราสามารถเก็บไอเทมต่าง ๆ ได้ง่ายและเก็บได้ครบ เมื่อคิดครบทั้งสามปัจจัยแล้วก็เติมเงินได้เลย

น่าเสียดายที่งาน Ti10 ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดนี้เนื่องจากการระบาดของเชื้อ COVID-19 แต่หนังสือ Battle Pass 2020 ที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Ti10 ได้ถูกอัปเดตเข้ามาในเกมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เราจะยังได้เห็นงาน Ti10 ในปีนี้อยู่อย่างแน่นอนครับ   เหมือนกับปีก่อนๆ ครั้งนี้ Battle Pass ก็ยังมาพร้อมกับของรางวัลมากมาย ที่จะมอบให้กับผู้เล่นเมื่อมีเลเวลถึงตามที่กำหนด โดยวิธีเก็บเลเวลก็สามารถทำได้หลายทางไม่ว่าจะเป็น ทำเควสรายวัน, ชาเลนจ์ หรือชนะในการเล่นแต่ละแมทช์ แถมปีนี้ยังมีของรางวัลสุด Exclusive มากมาย รวมไปจนถึงสกินระดับ Arcana ใหม่ถึง 3 สกินเลยทีเดียว แน่นอนว่านอกจากหนังสือแล้ว ยังมีโหมดใหม่ รวมไปจนถึงคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้ผู้เล่นได้ทำด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกิล เพื่อทำภารกิจสุดพิเศษเพื่อรับของรางวัล หรือโหมด Battle Gautlet ที่จะเปิดให้เล่นได้สำหรับคนที่มี Battle Pass เท่านั้น งานนี้เรียกได้ว่าแฟนๆ Dota 2 ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ Credit: PCGamer สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Dota 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกม Moba ที่มีจำนวนตัวละครให้เราได้เล่นเยอะมากโดยในตอนนี้มีถึง 119 ตัวละครให้เราได้เลือกมาใช้ตามสถานการณ์และความถนัด อย่างไรก็ตามก็มีตัวละครอยู่กลุ่มหนึ่งที่หลาย ๆ คนเลี่ยงที่จะเจอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความเก่งของตัวละครหรือความสามารถในการป่วนเกมที่เกินจะรับมือ โดยเฉพาะ 5 ตัวละครนี้ที่ไม่ว่าผู้เล่นมือใหม่หรือมือเก่าต่างก็ต้องปวดหัวเมื่อเจอ Riki หนึ่งในตัวละครที่ได้รับการ Buff ทั้งทางตรงและทางอ้อมจนกลายเป็นหนึ่งใน Carry ที่มีความสามารถในการทำเกมสูง โดยจุดขายของ Riki คือการล่องหนตลอดเวลา(Windwalk) ทำให้อีกฝ่ายจะต้องเสียเงินในการซื้อ Sentry , Dust, Gem ในการรับมือ ยังไม่นับความสามารถในการโจมตีอย่างรุนแรงตามค่า AGI เมื่อโจมตีทางด้านหลัง ทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างเลือกที่จะแบนไม่ก็เลือกตัวละครมาดักทางเสียเลย Anti Mage Anti Mage ถือว่าเป็นหนึ่งใน Carry ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะ Patch ไหน ๆ เนื่องด้วยความสามารถในการโยกฟาร์มไปมาในแผนที่ พร้อมกับการตีเบิร์นมานาอันแสนน่ารำคาญ ทำให้ตัวละครนี้มีอิสระในการเล่นสูงมาก ๆ ยิ่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกมยิ่งเก่ง ทางเดียวที่จะหยุดความโหดของตัวละครนี้คือกดให้จมดิน แล้วรีบจบเกมให้ไว Phantom Lancer หนึ่งในตัวละครที่หลาย ๆ คนยกให้เป็นมะเร็งร้ายประจำเกม Dota 2 กับ Phantom Lancer ตัวละครสาย AGI ที่มีจุดเด่นในเรื่องของร่างปลอมได้ แถมร่างปลอมยังสามารถสร้างร่างปลอมออกมาได้อีกสูงสุดถึง 15 ร่างเลยทีเดียว ทำให้ตัวละครนี้เก่งมาก ๆ เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกมที่หากของเต็มแทบจะสามารถสู้กับตัวละครได้เกือบทุกตัว ดังสมญานามมะเร็งของเกม Dota 2 Meepo Meepo ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่หากอยู่กับผู้เล่นที่เล่นไม่เป็นจะไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่หากอยู่กับผู้ที่ชำนาญนี่คือตัวละครที่เหมาะกับการไต่แรงค์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการฟาร์มและการเดินเกมที่แสนโหดร้าย จากบรรดาร่างโคลนของมัน นอกจากนี้ยังสามารถที่จะแชร์ประสบการณ์กับร่างหลักได้อีกด้วย ทำให้ตัวละครมีเลเวลไวมากและพร้อมที่จะตบเราอย่างโหดร้าย หากไม่มีตัวละครมาแก้ทางอย่างจริงจัง ไม่แปลกที่ตัวละครนี้จะถูกแบนเป็นประจำทั้งจากตัวผู้เล่นและระบบของเกม Dota 2 Techies ปิดท้ายกันด้วยตัวละครที่มีทั้งคนรักและคนเกลียดกับ Techies นักวางระเบิดที่มีความสามารถในการวางระเบิดไว้ในจุดต่าง ๆ ทำให้ตัวละครของเราตายอย่างไม่รู้ตัว นอกระเบิดยังเป็นหนึ่งในสกิลป้องกันบ้านที่ดีที่สุดในเกม Dota 2 จนทำให้เกมต่าง ๆ ยาวกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ด้วยความที่สไตล์การเล่นของตัวละครนี้จะเน้นการอยู่คนเดียวเป็นหลัก ทำให้ทีมเรามีจำนวนผู้เล่นนน้อยกว่าอีกฝ่ายแบบอัตโนมัติเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครสุดน่าปวดหัวจนหลาย ๆ คนเรียกร้องให้ Valve นำตัวละครนี้ออกจากเกมเลยทีเดียว เป็นอย่างไรกันบ้างกับตัวละครสุดน่าปวดหัวที่พวกเรา GamefeverTH นำมาแนะนำ หากเพื่อน ๆ มีตัวละครตัวไหนที่คิดว่าน่าปวดหัวก็แนะนำกันมาได้เลย

ช่วงเวลาที่ผ่านมาแฟน ๆ ของเกม Dota 2 หลาย ๆ คนเริ่มที่จะมองหาโหมดอาร์เขตเล่นแทนโหมดหลัก ทั้งในเรื่องของความแปลกใหม่และการเจอกับ Toxic ที่น้อยกว่า โดยโหมดที่ได้รับความนิยมมากโหมดหนึ่งคือ Dota 2 : Dawn of Wars ที่ได้นำเอาการเล่นของเกม Dota 2 มาผสมกับรูปแบบการเล่น Auto Chess สำหรับใครที่กำลังงงว่าเล่นยังไงไม่ชนะเสียที วันนี้เรา GameFever TH มีไกด์มาแนะนำ เริ่มเกมมาดู Hero Pool เป็นอย่างแรก Hero Pool ถือว่ามีความสำคัญมากตั้งแต่เริ่มเกม เนื่องจากจะทำให้เราเห็นภาพรวมของตัวละครทั้งหมดที่จะอยู่ในเกมนี้ ทำให้เราสามารถที่จะวางแผนว่าจะเลือกตัวละครตัวไหนบ้าง หรือต้องรับมือกับตัวละครไหนเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อเริ่มเกมมาให้ดู Hero Pool ก่อนเป็นอย่างแรก เน้นเลือกตัวละครที่ปั้นง่าย ใช้ไอเทมไม่เยอะก่อน เนื่องจาก Drawn of Wars เป็นเกมที่เน้นในการบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อของให้ตัวละคร การอัปเลเวลที่มีจำกัด ทำให้เราจะต้องเลือกว่าจะปั้นตัวไหนก่อนหรือหลัง ปั้นตัวไหนเพื่อแบกก่อน ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าที่เราเลือกตัวละครที่ปั้นง่ายไม่ใช่ไอเทมเยอะอย่าง Lich , Grimstroke ,  snapfire ซึ่งตัวละครเหล่านี้มีเพียงเลเวลก็เก่งแล้ว อย่างไรก็ตามเราไม่ควรจะปั้นตัวละครเหล่านี้มาก เพราะว่าหากเข้าสู่ช่วงกลางเกมอีกฝ่ายเริ่มมีไอเทมเราจะสู้ลำบาก แนะนำเพียง 1-2 ตัวพอ ควรเลือกตัวละครมาเป็น Combo กันและครบทุกตำแหน่ง ในโหมดนี้เรามี Supply จำกัดทำให้เราไม่สามารถที่จะยัดตัวละครทุกตัวเข้ามาในทีมได้ เราควรเลือกตัวละครที่ Combo กันเพื่อที่จะให้ทีมของเราแข็งแกร่ง เช่น Combo ทีมเจาะเกราะ Combo ทีมสกิล นอกจากนี้เราควรจะมีตัวละครต่าง ๆ ครบทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น Carry , นักเวทย์ , ตัวชน , ตัว Support มีตัวละครสำหรับการแก้ทางเสมอ เนื่องจากเกมนี้ได้อิงข้อมูลต่าง ๆ มาจากเกม Dota 2 ทำให้ทุกตัวละครสามารถแก้ทางได้เสมอ ซึ่งจะมีความสำคัญมากในช่วงกลางเกมถึงเลทเกม เพราะว่าช่วงนี้ตัวละครของเราและของอีกฝ่ายจะมีเยอะมาก อีกทั้งมีเลเวลที่สูงการแพ้เพียง 1-2 ครั้งอาจจะทำให้เราบาดเจ็บหนักก็เป็นได้ การมีตัวละครแก้ทางจะทำให้เราชนะง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งการต่อสู้แบบ 1-1 ตัวละครแก้ทางจะต้องมี บริหารถังขยะให้ดี สำหรับเกมนี้เมื่อเราขายตัวละครของเรา ตัวละครที่ขายจะยังไม่หายไปแต่จะอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าถังขยะ  โดยเราสามารถกด Spacebar เพื่อที่จะดูได้ ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถที่จะผสมตัวละครเพื่ออัปเวลได้ ทำให้การบริหารถึงชนะเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ Position ก็สำคัญ Position หรือตำแหน่งการยืนก็สำคัญเช่นกัน โดยการวางตัวละครไว้ในจุดต่าง ๆ ก็จะให้ผลต่างกัน เช่นเราต้องการให้ตัวละครนี้ออกสกิลให้ไวที่สุดการนำเอาไปไว้หน้าสุดก็เป็นเรื่องที่ดี หรือกรณีที่อีกฝ่ายวางแนวป้องกันไว้ตรงกลาง เราควรจะนำเอาตัวละครตัวละครสายโจมตีมาวางไว้ด้านข้างเป็นต้น ศึกษาไอเทมพิเศษ แม้ว่า Drawn of Wars จะอิงระบบการเล่นมาจากเกม Dota 2 แต่ว่าไอเทมต่าง ๆ จะอิงมาจากเกม Dota 2 แต่ว่าก็มีไอเทมหลาย ๆ ชิ้นที่พวกเขาออกแบบเองที่จะใช้ผลที่แตกต่างกัน เช่นเน้นโจมตีเฉพาะตัวละครที่ไม่ใช่สาย STR หรือว่าไอเทมที่ทำให้ตัวละครนี้เคลื่อนที่ช้ากว่าเพื่อนร่วมทีมเป็นต้น หวังว่าไกด์นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อยครับผม

Dota 2 ในช่วงนี้แม้ว่าจะค่อนข้างเงียบเนื่องจากหลาย ๆ เหตุไม่ว่าจะเป็น Patch ที่ไม่ค่อยน่าสนใจมากนักรวมถึงปัญหาต่าง ๆ ภายในเกมจนทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คน มุ่งไปยังการเล่นโหมดอาร์เขตแทนซึ่งก็มอบความบันเทิงชนิดที่ว่าไม่มีเกมไหนทำได้ วันนี้พวกเรา GameFever TH จะแนะนำโหมดอาเขตที่เน้นความกาวเป็นหลักความสนุกเป็นรอง Dota 2 but ebay หากใครเคยเข้าเว็บไซต์ซื้อขายระดับโลกอย่าง Ebay ย่อมที่จะรู้ว่าการที่เราจะซื้อของส่วนใหญ่เราจะต้องไปประมูลแข่งกับคนอื่น แล้วลองคิดดูว่าหากเป็นในเกม Dota 2 จะเป็นอย่างไร ในอาเขตโหมดนี้ไอเทมทุกอย่างยกเว้น Consumable จะต้องไปประมูลกับผู้เล่นอื่น ทำให้เกิดการปั่นราคากันเกิดขึ้นซึ่งความสนุกก็อยู่ตรงนี้แหละ เนื่องจากเราต้องประมูลแข่งกับฝ่ายเราเองและฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไอเทมแต่ละชิ้นจะมีราคาแตกต่างกันออกไป โดยคนที่เก่งที่สุดคือคนที่สามารถซื้อไอเทมดี ๆ ได้ในราคาที่ย่อมเยากว่าคนอื่น เรียกได้ว่าคนคิดต้องนั่งดมกาวมาแล้วแน่ ๆ Dota 2 but Dota 2 but Mode เพิ่มความกาวขึ้นไปอีกขั้นด้วยอาร์เขตที่จะทำให้คุณเล่นไปหัวเราะไปกับ Dota 2 but Dota 2 but Mode ที่จะให้คุณทิ้งตรรกระของ Dota 2 ทิ้งไปแล้ว โดยในโหมดนี้คุณจะมีสกิลแบบพิเศษไม่ว่าจะเป็น Shadow Fiend ที่ Raze ได้อย่างรุนแรง Enigma ที่ Black Hole จะทำการดึงเอาตัวละครมาจากทั้งแผนที่และอื่น ๆ อีกมากมายรับประกันความกาวร้อยเปอร์เซ็นต์ Birzha Memov หากคุณคิดว่า Beach vs Onepice หลากหลายแล้วคุณต้องยอมให้กับโหมดนี้เพราะนี่คือศึกการต่อสู้กันของคนในโลกอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะในประเทศรัสเซียผ่านรูปแบบ Overthrow สุดป่วนที่ตัวละครต่าง ๆ จะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองรวมถึงเสียงประกอบที่ฮาจนขำท้องแข็งตลอดเวลาที่เล่นโหมดนี้ Dota 2 but League Heroes Dota 2 กับ League of Legend ถือว่าเป็นคู่แข่งด้านเกม Moba มาอย่างยาวนาน แต่สำหรับแฟน ๆ Dota 2 คุณไม่จำเป็นต้องโหลดเกม LoL เพื่อที่จะลองเมื่อในเกม Dota มีโหมด Arcade ที่ชื่อ Dota 2 but League Heroes เล่นตัวละคร Dota 2 แต่ใช้สกิลแบบ LoL ทำให้เราสามารถลองเล่นตัวละครในอีกเกม ตัวละครต่าง ๆ มีสกิลอย่างไรก็จะได้รับการส่งต่อมายังโลก Dota 2 น่าเสียดายที่โหมดนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ Dota2 But Every Ability is spacial ปิดท้ายกันด้วยโหมด Dota2 But Every Ability is spacial ที่ขึ้นชื่อว่าสร้างจากความกาวแบบ 100% ในโหมดนี้สกิลทุกอย่างจะได้รับการปรับปรุงใหม่ไม่ว่าจะเป็น Phantom Assassin ที่มีโอกาสคริ 3% แต่ความแรง 9999% Death Prophet ที่มีสกิล Exorcism ปล่อยผีดุออกมาหนึ่งตัวและอื่น ๆ อีกมากมายจนทำให้คุณอยากจะลองคุยกับคนสร้างแผนที่นี้ว่าใช้กาวกี่กระป๋อง เป็นอย่างไรบ้างกับโหมดอาร์เขตกาว ๆ ที่เราได้นำมาแนะนำในวันนี้ หากเพื่อน ๆ สนใจโหมดไหนก็นำ Copy ชื่อไปวางไว้ในช่องค้นหาในส่วนของอาร์เขตก็จะได้เล่นโหมดเหล่านี้อย่างสนุกสนาน

Valve ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเกมที่ยืดหยุ่นในการเปิดรับไอเดียใหม่ ๆ จากเหล่าเกมเมอร์ โดยเฉพาะการที่เปิดให้เหล่าเกมเมอร์สายสร้างสรรค์ได้ใช้ความสามารถในการออกแบบแผนที่ โหมดการเล่น ไปจนถึงตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ทำให้เรามีรูปแบบในการเล่นเยอะมาก ไม่จำเจที่สำคัญไม่ต้องโหลดเกมใหม่ทั้งหมดก็เล่นได้แล้ว ในวันนี้ผู้เขียนมีหนึ่งในโหมดอาร์เขตของเกม Dota 2 มาแนะนำชื่อว่า Dawn of War Dawn of War คืออะไร Dawn of War คืออาร์เขตของเกม Dota 2 ขนาดผู้เล่น 8 คน โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า Rain ที่ได้นำเอาตัวละครของเกม Dota 2 มาต่อสู้กันภายใต้สังเวียนเดียว โดยที่เราไม่ต้องทำการควบคุมตัวละครต่าง ๆ เอง แต่ทาง AI จะควบคุมแทนเราทั้งหมดทั้งการใช้สกิล การโจมตี ซึ่งการที่เราจะชนะคือการจัดการผู้เล่นอื่น ๆ ไปจนหมด ด้วยความตื่นเต้นผสมกับการใช้ทักษะในการวางแผนล้วน ๆ ทำให้โหมดนี้ได้รับความนิยมจากผู้เล่น Dota 2 อย่างมาก โดยมีผู้เล่นมากกว่า 1 ล้านคนสมัครสมาชิกกับโหมดนี้ (การจะเล่นโหมดอาร์เขตใด ๆ ก็ตามต้องสมัครสมาชิกก่อน) อีกทั้งยังมีเซิร์ฟเวอร์เฉพาะอีกด้วย ทำให้ไม่ว่าหัวห้องจะอินเตอร์เน็ตไม่ดีเราก็เล่นได้สนุก นอกจากนี้ทางผู้พัฒนาเกมยังมีการอัปเดตตัวเกมอย่างต่อเนื่องเสมอ ความสนุกของโหมดนี้คืออะไร หลาย ๆ คนอาจจะประสบปัญหาเวลาเล่นเกม Dota 2 แล้วอาจจะประสบปัญหาเพื่อนร่วมทีมไม่เป็นใจ ฝีมือในการเล่นไม่ค่อยดี ยังไม่นับกับเหล่าบรรดา Toxic ที่เจอเป็นประจำ แต่การเล่นในโหมด Dawn of War จะต่างออกไป เราจะเป็นคนออกแบบทีมของเราเอง ออกแบบไอเทมของเราเอง การจัดตำแหน่งตัวละครต่าง ๆ เอง แบบไม่ต้องง้อเพื่อนร่วมทีม ทำให้เรามีอิสระในการออกแบบอย่างเต็มที่โดยสกิล รายละเอียดของตัวละครรวมถึงไอเทมจะคล้ายกับเกม Dota 2 ที่เราเล่น ทำให้เราไม่ต้องใช้เวลานานในการทำความเข้าใจมากนัก หากคุณเล่น Dota 2 เป็นประจำก็สามารถเล่นโหมดนี้ได้เลย ส่งผลให้โหมดการเล่นนี้สนุกมาก เพราะเราจะรู้สึกเพลินกับการจัดทีมของเรา ไม่ว่าจะเป็นทีมเวทย์ ทีม Tank ทีม Carry ที่ทุก ๆ ทีมต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยที่ต่างกัน ทำให้เรารู้สึกที่อยากจะลองอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องอาศัยดวงในการเล่นอีกด้วย เพราะระบบจะทำการสุ่มสกิลให้เรา สุ่มศัตรูที่เจอ รวมถึงสุ่มเพื่อนร่วมทีมของเราอีกด้วย นอกจากนี้ตัวโหมดเองก็สามารถเล่นซ้ำได้หลายรอบ เนื่องจากทุกรอบจะมีการสุ่มฮีโร่ใหม่เสมอ คล้ายกับเกมตระกูล Auto Chess แต่เล่นง่ายกว่ากันมาก ยิ่งคุณเล่นโหมดนี้เพลินอาจจะเล่นได้ตั้งแต่เลิกงานจนถึงเช้าของอีกวัน วิธีการเล่น การเล่นโหมดนี้จะคล้าย ๆ กับเกมตระกูล Auto Chess ที่เราจะมีตัวละครหลัก 1 ตัวในการซื้อตัวละครและไอเทมต่าง ๆ  โดยจะแบ่งออกเป็น 2 Phase หลัก ๆ คือ Phase ในการสร้างทีมและ Phase ในการต่อสู้ Phase ในการสร้างทีม สำหรับ Phase นี้ตัวเกมจะให้เราได้พัฒนาทีมของเรา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไอเทม อัพเกรดตัวละคร อัพเกรด Supply  จัดวางตำแหน่งต่าง ๆ โดยจะมีเวลานับด้านบน ซึ่งหากเราพร้อมเราสามารถกด Im Ready ทางฝั่งด้านล่าง เพื่อรับเงินโบนัสแต่เราจะไม่สามารถซื้อตัวละครได้อีก ดังนั้นก่อนจะกดคิดให้ดีก่อน นอกจากนี้ในระหว่าง Phase นี้ระบบจะทำการสุ่มดรอปไอเทมให้เราอีกด้วย การอัพเกรดไอเทมจะใช้หลักการเดียวกับเกม Dota 2 แต่การอัพเลเวลของตัวละครจะใช้หลักการของ Auto Chess คือตัวละครจะแบ่งออกเป็นเลเวล 1 , 5, 10 , 15 , 20 และ 25 โดยการอัพเกรดนั้นจะใช้ในลักษณะของรวมกันเช่น เลเวล 1 สองตัวผสมกันจะกลายเป็นเลเวล 5 เป็นต้น ซึ่งยิ่งตัวละครมีเลเวลสูงยิ่งใช้ Supply มาก การอัพเกรด Supply จะทำให้เราสามารถอัป Talent ที่จะใช้ผลพิเศษกับเราในบางอย่างเช่น กันตายหนึ่งครั้ง Nature ไอเทมฟรีหนึ่งชิ้น เป็นต้น ดังนั้นควรวางแผนให้ดีทุกครั้ง Phase ของการต่อสู้ สำหรับ Phase นี้ตัวเกมจะตัดหน้าจอของเราไปยังสังเวียนของการต่อสู้ โดยจะสุ่มผู้เล่นอีกคนมาร่วมทีมกับเรา พร้อมกับสุ่มตำแหน่งในการวางทีมของเราว่าเป็นหน้าด้านหรือด้านหลัง จากนั้น AI จะทำการบังคับทีมของเราให้สู้กับอีกฝ่าย ซึ่งในช่วงนี้เราควรสังเกตให้ดีว่าเราแพ้เพราะอะไร ควรอัพเกรดตัวละครแบบไหนและความซื้อไอเทมอะไรมาแก้ทางกับศัตรู หลังจากการต่อสู้เสร็จระบบจะทำการคำนวณเงินและดาเมจให้กับเรา โดยหากเราชนะก็จะได้เงินเยอะ แพ้ก็จะได้เงินน้อยตามลำดับ สำหรับดาเมจนั้นจะคิดเฉพาะทีมของผู้แพ้ ซึ่งจะคำนวณตัวละครที่เหลืออยู่ในสนาม ที่หากเหลือตัวละครอยู่เยอะยิ่งเจ็บหนักและเมื่อใครพลังชีวิตเหลือ 0% ก็จะต้องออกจากเกมนี้ไปจนกระทั่งเหลือผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว ในการจบเกมแต่ละครั้งเราจะแต้มในการอัพ Ranking อีกด้วย ซึ่งเดิมพันของเกมนี้โหดพอสมควรเนื่องจากคุณต้องติด Top 3 ขึ้นไปอีกทั้งยังต้องทำคะแนนให้ได้ดี (ฆ่าเยอะ, เล่นสู้กันสูสี) ถึงจะได้แต้มที่สูง ทำให้มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะ Rank ขึ้นช้าในช่วงแรก สรุป Dawn of War ถือว่าเป็นหนึ่งในโหมดการเล่นที่สนุก โดยเป็นการผสานระหว่างความเป็น Auto Chess และ Dota 2 ได้อย่างลงตัว การที่จะเก่งในเกมนี้ต้องอาศัยการทั้งการวางแผนและการใช้ดวงอีกด้วย สำหรับข้อเสียของโหมดนี้มีเพียงอย่างเดียวคือระยะเวลาในการเล่นแต่ละตาค่อนข้างที่จะนานมาก 30-50 นาทีเป็นอย่างน้อย ทำให้ใครที่ชอบอะไรเร็ว ๆ อาจจะเบื่อเสียก่อน Dawn of War เปิดให้เล่นแล้ววันนี้ฟรีผ่านโหมดพิเศษในเกม Dota 2 หากคุณยังไม่มีเกมนี้สามารถโหลดผ่าน Steam ได้เลย

Dota 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่เข้ามาแวะเวียนอยู่เป็นประจำ อีกทั้งตัวเกมยังได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะประเทศไทย สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่กำลังเริ่มเล่นเกมนี้อาจจะเจอคำศัพท์แปลก ๆ ที่ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร วันนี้พวกเรา GameFever TH จึงได้ขอแนะนำ 5 คำศัพท์เกี่ยวกับเกม Dota 2 ที่คุณต้องงงเมื่อได้ยินครั้งแรก Injoker เปิดมาคำแรกน่าจะเป็นคำที่หลาย ๆ คนเจอเวลาเล่นเกม Dota 2 แล้วเจอฝ่ายเราหรือฝ่ายตรงข้ามมีตัวละคร Invoker แล้วเล่นได้ไม่เก่งนักมักจะมีคำแซวว่า Injoker โดยที่มาของคำนี้เกิดจากการที่ตัวละคร Invoker เป็นหนึ่งในตัวละครที่จะเล่นให้ชำนาญยากมากแต่หากเล่นได้ดีจะเป็นตัวละครที่เก่งระดับแบกทีมได้ ทำให้หลาย ๆ คนลองเล่นตัวละครนี้แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยถูกเรียกว่า Injoker แทน เพราะคำว่า Joker เปรียบเหมือนพวกตัวตลกนั่นเอง 322 หลาย ๆ ครั้งที่เราดูการแข่งขันและในแมตช์นั้นสูสีมาก จนกระทั่งมีหนึ่งคนโยนเกมแล้วฝั่งตรงข้ามชนะ ชาวช่องแชทมักจะพิมพ์ข้อความว่า 322 อันหมายถึงการโยนเกมนั่นเอง โดยข้อความนี้มีที่มาจากในปี 2013 ผู้เล่นที่มีชื่อว่า Solo ของทีม RoX ได้ทำการโยนเกมเนื่องจากเขาได้วางเงินเดิมพันไว้ในทีมฝ่ายตรงข้ามเป็นจำนวนเงิน 322 ดอลลาร์ ภายหลังโดนจับได้และโดนแบนห้ามแข่งขันหนึ่งปี Pizza Party คำต่อมาหลาย ๆ คนก็น่าจะเห็นระหว่างการแข่งขันที่เหล่าชาวช่อง Chat มักจะพิมพ์ให้กับทีมผู้แพ้ว่า Pizza Party ซึ่งความหมายของคำนี้หมายถึงจะต้องมีใครสักคนโดนเตะออกจากทีม โดยที่มานั้นมาจากทีม Fnatic ชุดปี 2018 ที่ในตอนนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นขึ้น EE ในฐานะของกัปตันทีมได้ทำการเปลี่ยนเอา "UNiVeRsE" มาแทนที่ "Ohaiyo" ในระหว่างการนัดเลี้ยงฉลองชัยชนะด้วย Pizza ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องมาก่อน KA LE ในการแข่งขันระดับ Major ในประเทศจีนแล้วเกิดการกระตุกหรือ Lag ขึ้นมาเรามักจะเห็นเหล่า Proplayer หยุดเกมแล้วพิมพ์คำว่า KA LE ซึ่งคำนี้มาจากภาษาจีนคำว่า 卡 了 โดยมีหมายถึงการตระตุกหรืออาการแลคที่เรามักจะเห็น Proplayer ชาวจีนใช้คำนี้บ่อย ๆ Give DIRETIDE ปิดท้ายด้วยคำศัพท์ที่เป็น Meme ตลอดกาลของเกม Dota 2 ที่เกมเมอร์ใหม่ ๆ น่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจกับคำว่า Give DIRETIDE โดยคำนี้เป็นการอ้างอิงโหมดพิเศษของเกม Dota 2 ในปี 2012-2013 ที่จะให้เกมเมอร์ได้ทำกิจกรรมพิเศษ โดยจะได้รับไอเทมที่ดีมากเป็นของตอบแทน แต่มาในปีหลัง ๆ ทาง Valve ไม่ได้เพิ่มโหมด Diretide เข้ามาในเกมแล้วแต่เปลี่ยนเป็นโหมดอื่นแทน ทำให้แฟน ๆ ต่างเรียกร้องโหมดนี้เสมอมา นอกจาก 5 คำนี้แล้วยังมีคำศัพท์จากเกม Dota 2 ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักอีกมากมาย ทั้งคำที่สุภาพและไม่สุภาพ บางคำกลายเป็น Meme บางคำกลายเป็นคำเหยียดเชื้อชาติ ดังนั้นหากจะใช้คำใดก็ตามให้ดูสถานการณ์ด้วยไม่งั้นอาจจะมีผลร้ายมากกว่าผลดี

ในช่วงนี้กระแสของการแข่งขันในเกม Dota 2 กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหลังจากการมาถึงของ Major และ Minor ต่าง ๆ ที่ทีมใหญ่ ๆ หลังจากพักผ่อนช่วง TI 9 ที่ผ่านมา เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนได้นึกถึงเรื่องราวหนึ่งของการแข่งขันเกม Dota 2 ที่หลาย ๆ คนยกให้เป็นแมตช์ที่ Toxic ที่สุดแมตช์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของเกม Dota 2 ที่ได้รวมเอาด้านมืดของเหล่า Proplayer ออกมาจนสุด นั่นคือเกม AVS vs Antipro ใน Shanghai Major โดยจะแปลแบบไม่ให้หยาบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี 2016 ในการแข่งขันรอบ Open Qualifiers ของ Shanghai Major ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ระหว่างทีม AVS ที่เพิ่งเอาชนะ GGA.Plus และทีม Team.Anti-Pro.23 (Antipro) ที่ชนะบายมาทำให้พวกเขาต้องมาเจอกันในการแข่งขันครั้งนี้ [caption id="attachment_41855" align="aligncenter" width="1024"] หน้าดราฟท์ของทั้งสองทีม ปล. Patch เก่าแล้ว[/caption] AVS เลือกฝั่ง Radiance โดยเลือกตัวละครดังนี้ Tiny , Tuska, Razer, Ancient Apparition , Spirit Breaker Antipro เลือก Dire โดยเลือกตัวละครดังนี้ Queen of Pain , Gyrocopter, Bounty Hunter, Shadow Shaman เมื่อเกมเริ่มขึ้นเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยแต่ทั้งสองฝ่ายกล่าวตอบโต้กันเป็นมารยาท GLHF (Good luck, Have Fun) ก่อนที่ทั้งสองทีมจะรู้ว่านี่คือแมตช์ที่จะเป็นตำนานของเกม Dota 2 (ในด้านลบ) เกมเริ่มได้สักพักทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับ โดย First Blood ตกเป็นของ Antipro จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเกมเป็นทีม AVS ที่สามารถทำได้ดีกว่าทั้งในเรื่องของการเงินและการเดินเกม ทำให้ Tiny เริ่มทำการ BM ( Bad Manor) จนทำให้เกมเดือนขึ้นอย่างรุนแรง [caption id="attachment_41865" align="aligncenter" width="1024"] ในเกมคือ Tiny แต่รูปเป็น WR[/caption] Tiny : ขอเวลา 30 นาที Tiny: ต่อให้เลย 1 ตัว Tiny: ทีมนายบอกว่าเอาชนะทีมเราได้ Tiny: 30 นาที Tiny:โชว์พี่หน่อย Tiny:นายบอกว่าจะเอาชนะเราได้ใน 20 นาที Tiny:นายบอกว่าไม่เคยแพ้ทีมจากประเทศอินโดนีเซีย Tiny:เดี๋ยวจะสอนให้รู้ว่าชาวอินโดนีเซียเล่นกันอย่างไร Tiny:พวกนายมันจนและห่วยยังไงเล่า DK(ฝ่ายตรงข้าม) ก็ตอบกลับว่า : แล้วเอ็งจะเสียใจไอ้หนุ่ม จากนั้นเป็นทีม AVS ที่สามารถเดินเกมได้ดีกว่าจนสามารถเก็บ Team Wipe (ตายหมดทีม) ได้ทำให้ Tiny ทำการหยุดเกมและเริ่มพูดอีกครั้งว่า "เรามาหยุดคุยกันสักนิด พวกนายเริ่มเล่น Dota 2 ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" DK ก็ตอบกลับมาอย่างสั้น ๆ ว่า "นายโดน Mute ว่ะไม่มีใครเห็นหรอก " หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ Trash Talk ใส่กันอย่างเมามัน จนทำให้ผู้เขียนติดว่านี่เกม Dota 2 หรือ Rap Battle หลังจากที่คุยกันได้สักพักพวกเขาก็กลับมาเล่นกันอีกครั้ง โดยพวกเขาตั้งหน้าตั้งตาเล่นกันอย่างมาก หากเป็นสมัยนี้คงจะเป็น "ต่างฝ่ายต่างกำหมัดไว้" รอให้อีกฝ่ายพลาดเมื่อไหร่จะซ้ำเติมจนไม่เหลือซาก ซึ่งรูปเกมนั้นค่อนข้างเป็นฝ่าย Antipro ที่เล่นได้ดีกว่าอยู่พอสมควร จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นนาทีที่ 41 เมื่อ DK พลาดท่าถูกแก็งค์ตายทำให้ทางฝั่ง Antipro ไม่มีตัวละครยืนค้ำ ฝั่ง AVS จึงรีบบุกขึ้นบ้านและสามารถทำลาย Barrack ของฝั่งตรงข้ามได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดปาฏิหาริย์กับทีม Antipro เมื่ออยู่ดี ๆ ทีม AVS ก็หลุดกันยกทีม ทำให้ DK กดหยุดเกม AVS ถูกฆ่าตายยกทีมจากการหลุดในครั้งนี้ พร้อมกับเสีย Tempo ในการดันบ้านไปอย่างน่าเสียดายและเมื่อทีม AVS ทำการซื้อเกิดเพื่อที่จะป้องกันบ้านปาฏิหาริย์ครั้งที่สองก็ได้เกิดขึ้นกับทีม Antipro อีกครั้งเมื่อ AVS หลุดทั้งทีม(อีกแล้ว) ทีม Antipro จึงได้พิมพ์ว่าเรากดหยุดเกมไม่ได้ (ทั้ง ๆ ที่กดหยุดได้) จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ปะทะคารมกันอีกครั้ง โดยฝ่าย AVS มองว่าทางฝั่ง Antipro ไม่มีความเป็นนักกีฬาและไม่ให้เกียรติคู่แข่งด้วยการกดหยุดเกม ในขณะที่ Antipro ก็ตอบกลับไปว่าเรา Pause ไม่ได้ และเราก็ไม่ได้ DDOS พวกนายด้วย (แปลก ๆ ) ก็หลุดในครั้งนี้ทำให้ AVS เสียไปถึงสอง Barrack และทำให้โอกาสชนะของพวกเขาหายไปทันที โดยในจังหวะนี้การต่อสู้ได้เปลี่ยนจากสนามในเกม Dota มาเป็นช่อง Chat อย่างจริงจัง คำหยาบต่าง ๆ คำเหยียดรวมถึงประโยคที่ไม่น่าภิรมย์ในการแข่งระดับโปรต่างออกมาราวกับว่าห้องนี้คือ Public Game ฝั่ง AVS โฉยโอกาสที่อีกฝ่ายกำลังเก็บ Agis แล้ว Smoke ขึ้นไปตี Throne ของฝั่งตรงข้ามแต่ก็ไม่เป็นผลอีกทั้งถูกสวนกลับจนแตกพ่าย ทำให้โอกาสชนะอยู่ในมือของ Antipro แบบหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่า AVS ไม่ยอมและขอทำการ Lobby ใหม่อีกครั้งพร้อมกับบอกว่าให้อีกฝ่ายเอาบุพการีมาพนันด้วย แต่เหมือนว่า Antipro ไม่ยอมและเกมก็ได้จบลง เรื่องราวหลังจากนั้น https://www.youtube.com/watch?v=uWl-WMPnEAQ&t=266s หลังจากนั้นได้เกิดเรื่องราวใหญ่ขึ้นใน Community ของเกม Dota 2 ที่หลาย ๆ คนมองว่าพฤติกรรมของผู้เล่นในเกมนั้น Toxic เกิดไปจนแม้แต่เพื่อนร่วมชาติเองต่างก็ส่ายหน้ากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น  แต่การทำการ DDOS เพื่อที่จะเอาชนะอีกฝ่ายก็เป็นการกระทำที่เลวร้ายพอ ๆ กัน เนื่องจากหลาย ๆ คนต่างสงสัยว่าทีม Antipro ยังไงก็ DDOS ทีมฝั่งตรงข้ามแน่ ๆ จากจังหวะการกด Skill ก่อนหน้าที่อีกฝั่งจะหยุดจนหมดทีมและไม่ยอมกดหยุดเกมตามมารยาทในการแข่งขัน เรื่องราวทั้งหมดจบลงเมื่อผู้จัดการแข่งขันทำการตัดสิทธิ์ทีม Antipro ออกจากการแข่งขันและให้ทีม AVS ได้ไปต่อก่อนที่พวกเขาจะพ่ายให้กับทีม Its Just a FRANK, Bro ตกรอบไปในที่สุด สรุป AVS vs Antipro ถือว่าเป็นเกมการแข่งขันระดับ Major ที่หลาย ๆ คนยกให้เป็นการแข่งขันเกม Dota ที่ Toxic ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเกมหนึ่ง ในการแข่งขันมีการใช้คำหยาบ การเหยียดเชื้อชาติ การด่าทอรวมถึงการไม่แสดงน้ำใจนักกีฬาอันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของนักกีฬา Esports ทุกเกมที่ควรมี ที่สำคัญเกมนี้เราควรดูเป็นความบันเทิงเท่านั้นห้ามลอกเลียนแบบ อ้างอิง NoobfromUA Statement regading AVS - ANTIPRO- Shanghai Major Qualifier unfair defwin on AVG vs Antipro Match ID:2058163853

สวัสดีผู้อ่านทุกคน หลังจากที่ทีมแชมป์ TI 2 สมัยอย่าง OG ได้ประกาศว่าจะรวมทีมกลับมาแข่งขันโดยมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น 3 คน เราก็ได้เห็น Topias Miikka Taavitsainen (Topson) กลับมาเล่น DOTA2 มากขึ้นใน DOTA TV โดยวันนี้เราจะนำเกมที่ Topson ได้กด Rank game ไปพบกับ W33 ผู้เล่นเลนกลางทีม Nigma มาให้ดูกัน สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Topson เลือกที่จะเล่น Void Spirit เสมือนลองตัวซ้อมก่อนแข่ง เพราะ Void Spirit เพิ่งจะสามารถเลือกเล่นในการแข่งขันได้ในแพตช์ 7.24 ที่ผ่านมานี้เอง เริ่มต้นที่ไอเทมต้นเกมดูจะไม่มีอะไรที่แปลกตามากมาย มี Quelling Blade ที่ช่วยเรื่อง CS / Circlet + Mantle of Intelligence ที่จะร่วมเป็น Null Talisman / Iron Branch ที่เพิ่ม Stat เล็กน้อยช่วงต้นเกม และยังกดใช้ลงพื้นเพื่อสร้างต้นไม้ เพื่อเอา Tango กินเพิ่มเลือดได้เป็นพิเศษ / Faerie Fire ที่เพิ่มดาเมจ 2 หน่วย แล้วกดใช้เพิ่มเลือดในจังหวะที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึงได้ ส่วนสกิลที่อัพในเลเวล 1 ได้เลือกที่จะอัพสกิลมาเป็น Resonant Pulse ที่ทำดาเมจรอบตัว พร้อมกับสร้างโล่มารับความเสียหายประเภท Physical Attack นั้นเอง จริง ๆ แล้วตัวละคร Void Spirit น่าจะเป็นตัวที่แพ้ทาง Outworld Devourer อยู่มาก เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นตัวที่ตีไกล อีกทั้งยังโดนสกิล Astral Imprisonment ทำให้ลำบากในการทำ CS ขึ้นไปอีก แต่เมื่อ Void Spirit ที่อยู่ในมือของ Topson กลับดูเล่นออกมาได้ดีในช่วง 2 นาทีแรก เขาไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แต่เลือกที่จะหาจังหวะเดินไล่ตีอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้เกิดความเสียเปรียบเรื่องเลือดที่มากเกินไป ถึงจะพยายามตีแลกไป แต่สุดท้ายก็โดนกดดันอยู่ดี จนมีจังหวะนี้ที่ Outworld Devourer ของ W33 พยายามป่วน Topson อีกครั้งแต่รอบนี้ Topson ใช้ Fortification ป้อมกันครีปจากดาเมจของสกิล Astral Imprisonment พร้อมกับส่วนกลับ เพลย์นี้บอกเลยว่าตอนที่รับชมอยู่ รู้สึกตกใจมาก ๆ ไม่คิดว่าจะหาจังหวะสู้ได้จนกว่าจะเวเวล 6 ด้วยซ้ำ พร้อมกับไอเทมต่อไปที่ต้องซื้อคือ Bottle เพราะเป็นตัวละครที่ต้องเดินไปตรงนู้ตรงนี้บ่อย ก็เลยออกมาเป็น Bottle ใช้เก็บรูนเติมขวดในโอกาศต่าง ๆ นี้เป็นอีก 1 จังหวะที่เราจะไม่ได้เห็นจากใครนอกจาก Topson จริง ๆ ด้วยการที่ W33 ประมาทดาเมจของ Void Spirit มากเกินไปทำให้เดินหน้ากดดันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็พลาดโดนสวนด้วยสกิล ทั้งหมดของ Void Spirit ที่อัพมา นี้เลยเป็นจังหวะที่บอกได้เลยว่าถึงคุณจะเลือกตัวที่แพ้เลนมา ถ้าคุณใจเย็น และรู้ช่วงเวลาเก่งของตัวเองมากพอ คุณจะหาจังหวะสู้กลับ จนสามรถชนะในเลนได้อย่างแน่นอน ไอเทมต่อมาคือ Null Talisman อีก 2 ชิ้นที่จะทำให้ Void Spirit เป็นตัวที่ฟาร์มได้ช้า ไปเดินเกมสู้กับเพื่อน ๆ จะดีซะมากกว่า Medallion of Courage เป็นไอเทมชิ้นต่อไปอันนี้ออกมาเสริมในเรื่องการฆ่า มาคอมโบกับการใช้สกิล Astral Step จะทำให้ตีทุกตัวที่ผ่านสกิลนี้ในเวลาเดียวกัน ในช่วงกลางเกมถึงท้ายเกมไอเทมที่เพิ่มขึ้นมาคือ Solar Crest / Black King Bar ทำให้ตัว Void Spirit จะเก่งขึ้นมาก ๆ เมื่อได้ไอเทม Desolator จากสกิล Astral Step ที่ตีไปด้วยเมื่อใช้ ทำให้การลดเกราะมีผลหลายตัวขึ้นไปอีก ส่วน Talents เลเวล 10 จะเป็น +30 Damage เลเวล 15 +100 Resonant Pulse Damage เลเวล 20 -7 Astral Step Charge Restore Time จบด้วยไอเทมที่เพิ่มดาเมจเยอะที่สุดในเกมอย่าง Divine Rapier แต่ไอเทมชิ้นนี้ควรมาพร้อมกับเลเวล 25 นะ เพราะมี Talents Astral Step 200% Crit คุณจะสามารถฆ่าใครก็ได้ที่เกราะไม่เกิน 15 และเลือดประมาณ 2500 ได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องตีด้วยซ้ำ นี้แค่ Divine Rapier 1 อันเองนะ ถ้ามี ซัก 2 ถึง 3 อันสิ จะสนุกขนาดใหน สรุปไอเทมที่ต้องใช้หลักๆ Solar Crest / Desolator / Divine Rapier Talents เลเวล 10 +30 Damage เลเวล 15 +100 Resonant Pulse Damage เลเวล 20 -7 Astral Step Charge Restore Time เลเวล 25 Astral Step 200% Crit แนวการเล่นคือต้องออกไปช่วยเพื่อน ๆ ให้เยอะแต่อย่าตาย ถ้าเกมยาวจนสามารถซื้อ Divine Rapier คุณจะซื้อ 1 2 หรือ 3 อันก็ได้ แต่รีบจบเกมให้ไวที่สุดอย่าตายเด็ดขาด ถ้าคุณตายขึ้นมาละก็ Divine Rapier นั้นละจะทำร้ายทีมของคุณเองแทน ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

แม้ว่าจะยังถือเป็นงานน้องใหม่ในเวที Esports ด้วยประสบการณ์การจัดงานแข่งเพียงปีเศษ แต่เวทีแข่งขัน PVP Esports ที่จัดโดยผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสิงคโปร์ Singtel ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเวทีที่ถูกจับตามองในภูมิภาค SEA (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ด้วยความมุ่งมั่นของผู้จัด ที่จะผลักดันวงการอีสปอร์ตของภูมิภาคให้แข็งแกร่ง ในปีนี้ งานแข่ง PVP Esports ก็ยังคงจัดเต็มเช่นเคย ด้วยการประกาศเปิดตัวงานแข่งขันใหญ่ประจำปีอย่าง Singtels Esports Community League ซีซั่นใหม่ถึง 2 ซีซั่นในปีเดียว บนเวทีใหญ่ของงาน Thailand Game Expo ในวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา โดยนอกจากงานแข่งใหญ่แล้ว ยังมีงานแข่งระดับมือสมัครเล่นอย่าง PVP Esports Campus Championship (ระดับมหาวิทยาลัย) และ PVP Esports Corporate Championships (ระดับองค์กร) อีกด้วย ซึ่งแต่ละงานแข่งจะจัดพร้อมกันใน 4 ประเทศทั่วภูมิภาค ประกอบไปด้วยไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ภายในงาน สื่อมวลชนยังมีโอกาสได้ร่วมสัมภาษณ์กับประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Singtel (CEO) คุณ Arthur Lang และหัวหน้าฝ่ายการตลาดคุณ Cindy Tan ถึงบทบาทของ Singtel และบริษัทในเครือ (เช่น AIS) ในฐานะผู้จัดงานแข่ง PVP Esports ในภูมิภาค และความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลักดันวงการอีสปอร์ต และวงการเกมใน SEA โดยรวม ให้ก้าวสู่ระดับโลก ในปีนี้งาน PVP Esports จะจัดการแข่งขันระดับภูมิภาคถึง 2 ซีซั่น โดยจะมีการนำเกมใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันกันมากกว่าปีที่แล้วด้วย ผู้จัดมีวิธีใดในการเลือกเกมที่จะนำมาแข่งขัน เพราะแต่ละเกมก็มีความนิยมและฐานผู้เล่นที่ต่างกันไปในแต่ละประเทศของภูมิภาค Arthur Lang (AL): ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ผมรู้สึกว่าเรา [Singtel และบริษัทในเครือ] สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกม หรือแนวเกมใดที่ได้รับความที่นิยมบ้างในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะถ้าเป็นเกมที่เล่นบทมือถือ สำหรับในช่วงซีซั่นแรกของปีนี้ เรายังคงอยากให้งาน PVP Esports เป็นงานที่ทุกๆ ประเทศในภูมิภาคสามารถเข้าร่วมได้เท่าๆ กัน ฉะนั้นถ้าเกมอย่าง DOTA 2 ได้รับความนิยมมากๆ ใน 3 จาก 5 ประเทศสมาชิก เราก็จะนำมาแข่งกัน แต่จากการสังเกติเทรนด์ต่างๆ ในปีที่ผ่านมา เราตัดสินใจจะเปิดกว้างมากขึ้นซีซั่น 2 เช่นกัน อาจจะเกมบางเกมที่ได้รับความนิยมในเพียง 1 หรือ 2 ประเทศจากทั้งหมด แต่ถ้าเราคิดว่าน่าจะผลักดันเกมในระดับภูมิภาคได้ เราก็สนใจที่จะทำ ในการเลือกเกม แน่นอนว่าเราจะใช้วิธีรอให้ผู้พัฒนา หรือผู้จัดจำหน่ายเกมเข้ามาเสนอเงินให้ เพื่อให้เราจัดงานแข่งขันให้เกมเหล่านั้นก็ได้ แต่เราก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนั้น เราเลือกที่จะถามเหล่าผู้เล่นเองมากกว่า ว่าพวกเขาต้องการอะไรบ้าง นั่นคือเหตุผลที่เราจัดงานแข่งระดับมหาวิยาลัยและองค์กร เพื่อที่เราจะได้เข้าไปถามคนเหล่านี้ได้โดยตรง ว่าสิ่งที่พวกเขาอยากเห็นหรืออยากได้คืออะไร บนเวทีเปิดงาน ทาง Singtel ได้พูดถึงความสำคัญของการนำเสนอถึงความท้าทายหรือการเสียสละ ที่เหล่าผู้เล่นระดับโปรต้องเผชิญบนหนทางสู่ความสำเร็จ ทาง Singtel เองมีแผนการจะผลักดันเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรบ้าง AT: น่าจะเป็นอันรู้กันดี โดยเฉพาะในประเทศของภูมิภาค SEA ว่าวีดีโอเกมมักจะถูกมองเป็นสิ่งที่เสียเวลาหรือไร้สาระ แต่เราอยากทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจ ว่าทุกวันนี้ วีดีโอเกมสามารถพัฒนาจนกลายเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ ไม่ใช่เพียงแค่งานอดิเรกหรือการละเล่น ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นข้อเท็จจริงที่หลายคนยังเข้าไม่ถึง การเสริมความเข้าใจตรงจุด ว่าเกมสามารถเป็นอาชีพได้ และยังเป็นสิ่งที่ผลักดันและขับเคลื่อนเทคโนโลยีได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้ถือเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งของเราเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นในระดับ Pro League หรือ SEA Games และ Asian Games เราก็ได้เห็นความทุ่มเทของเหล่าโปรเกมเมอร์มาแล้วมากมาย และหลังจากที่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับพวกเขาหลายๆ คน เช่นกลุ่ม PVP Ambassador ของเราด้วยตัวเอง ผมยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาเหล่านี้มีทัศนคติที่น่าชื่นชม อย่าง Xian (Ho Kun Xian สตรีมเมอร์ชื่อดังชาวสิงคโปร์) นี่เป็นตัวอย่างที่ดี เขาเป็นคนที่ติดดินมาก แม้จะผ่านประสวการณ์ชีวิตอันยากลำบากมามากมาย และเขาเลือกที่จะแสดงออกถึงความมีวินัยและความมุมานะของเขาผ่านการเล่นเกม ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และน่าจะส่งเสริมมากขึ้นด้วย เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬาทุกชนิด การเล่นเกมอาจจะไม่ได้ทำให้เหงื่อแตกได้เหมือนกีฬาใช้กำลังทั่วไป แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ใช้สมาธิและพลังใจเยอะมากๆ และยังต้องใช้ความมีวินัยและความทุ่มเทไม่ต่างกันอีกด้วย Cindy Tan (CT): ส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืนให้กับวงการอีสปอร์ต ทั้งสำหรับนักแข่งและผู้ชม ก็คือการสร้างคอนเทนต์ นั่นเป็นเหตุผลที่เราให้ความสำคัญครึ่งหนึ่งไปกับการสร้างคอนเทนต์อื่นๆ เกี่ยวกับอีสปอร์ต โดยแม้ว่าในตอนนี้เราจะยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ แต่ตัวอย่างของงานที่ผ่านมาก็คือซีรี่ส์ Road to SEA Games ที่นำเสนอชีวิตของนักกีฬาที่ร่วมแข่งขันอีสปอร์ตในงาน ซึ่งเราร่วมผลิตกับบริษัท Razer นั่นเอง เรื่องราวชีวิตของนักกีฬาเป็นสิ่งที่เราให้ความสนใจมาก ในฐานะคอนเทนต์ อย่างในซีรี่ส์ Road to SEA Games เราก็ได้รับรู้เรื่องราวของนักกีฬาเกม DOTA 2 จากไทยคนหนึ่ง ที่ต้องผ่านอุปสรรคมากมายเพื่อเข้าแข่งขัน ตั้งแต่การเลิกกับแฟนที่อเมรีกา การขัดใจพ่อแม่เพื่อเข้าแข่งขัน แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเดินตามความฝัน ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ถือเป็นส่วนสำคัญ ในการสร้างวงการอีสปอร์ตโดยรวม AL: เราทุกคนในภูมิภาค SEA หรือ ASEAN มีจุดที่ร่วมกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน หรือมุขตลกที่คล้ายกัน แม้จะพูดกันคนละภาษาก็ตามที ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่้เชื่อมพวกเราเข้าด้วยกัน และผมมองวงการเกมเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ แค่คุณลองเดินออกไปข้างนอก คุณก็จะเห็นคนที่แต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครจากเกมตัวเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะพูดภาษาไม่เหมือนกันก็ตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละ คือสิ่งที่จะทำให้เราเป็นปึกแผ่นในฐานะภูมิภาค ไม่แน่ว่าซํกวันหนึ่ง เราอาจจะสามารถร่วมกันผลักดันเหล่านักกีฬาหัวกะทิในภูมิภาค ให้มีที่ยืนในระดับโลกได้ซักวัน คุณมองเห็นอนาคตอันใกล้ของวงการอีสปอร์ตเป็นอย่างไร คิดว่าอีสปอร์ตจะเปลี่ยนไปแค่ไหนในช่วง 5 หรือ 10 ปีต่อจากนี้ AL: ถ้าให้พูดถึงแผนการในระยะสั้น อาจจะช่วง 5 ปีนี้ สิ่งที่เรามุ่งหวังเป็นอย่างแรกคือการสร้างชุมชนเกมระดับภูมิภาคขึ้น ซึ่งเราจะขับเคลื่อนชุมชนนี้ เพื่อให้สังคมโดยกว้างสามารถมองเห็นอีสปอร์ตเป็นอะไรที่มากกว่าแค่กลุ่มวัยรุ่นสุมหัวกันเล่นเกม แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น และในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เราก็อยากจะเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของเทคโนโลยี 5G ซึ่งน่าจะเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมบนมือถือไปเลย แต่ในระยะสั้นนี้ เราก็คงตั้งเป้าไปที่การสร้างชุมชนเกม เพื่อเป็นเวทีให้ทั้งเรา และเหล่าเกมเมอร์ที่มีใจรัก สามารถร่วมกันสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับอีสปอร์ต เป็นจุดเชื่อมสำหรับคนในภูมิภาค รายละเอียดงานแข่งขัน PVP Esports ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

True Sight คือสารคดีเกี่ยวกับเกม Dota 2 ที่นำเสนอเรื่องราวของการแข่งขัน Esport ของเกมนี้ เพื่อให้เหล่าผู้เล่นได้มองเห็นเบื้องลึกเบื้องหลังว่าเกิดอะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งแต่ละปีจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันและนี่คือรีวิว True Sight 2019 สารคดีเกี่ยวกับเกม Dota 2 ที่ทุกคนควรดู กับการบอกเล่าเส้นทางแชมป์ครั้งที่สองของ OG จะเป็นอย่างไรตามพวกเรา GameFever TH มาได้เลย เรื่องราวที่มากกว่าการแข่งขันเกม True Sight 2019 นำเสนอเรื่องราวของการแข่งขัน The International 2019 งานแข่งขัน Dota 2 ชิงแชมป์โลก โดยมีรางวัลเดิมพันคือเงินรางวัลมหาศาลและความหวังที่ทีม OG จะสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นแชมป์สองสมัยแบบ Back to Back ทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าติดตามมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ในส่วนของเนื้อหา Valve ได้นำเสนอถึงบรรยายของทั้งสองทีมอย่าง Liquid และทีม OG ที่พวกเขาทั้งสองต่างพกความมั่นใจมาอย่างเต็มที่ ซึ่งหากคุณเป็นแฟนเกม Dota 2 คุณจะรู้สึกอินมาก ๆ เพราะว่าคุณมีพื้นฐานมาส่วนหนึ่ง ทำให้คุณสามารถเข้าใจพวกเขาได้อย่างง่ายดายและหลอมรวมความรู้สึกไปกับทีมที่คุณเชียร์ได้ ในขณะที่หากคุณไม่ค่อยรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกม Dota 2 อารมณ์คุณจะดูเหมือนสารดีเกี่ยวกับเกมที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างดี Kuroky vs Ceb สิ่งที่เหล่าคนดูจะได้เห็นระหว่างการชมสารคดีนี้ถือสองหัวใจหลักของทีมอย่าง Ceb จากทีม OG และ KuroKy จากทีม Liquid ที่ทั้งสองคนเป็นแกนหลักในการเชื่อมให้สมาชิกในทีมทำงานร่วมกัน ต่อสู้ร่วมกันและเอาชนะด้วยกัน คุณจะได้เห็นการวางแผน การสั่งการและที่สำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจและการปลุกใจกับเหล่าสมาชิกในทีม อันทำให้เราเห็นว่าการที่จะเป็นยอดทีมไม่ใช่เฉพาะฝีมือเท่านั้นแต่ยังมีทักษะอื่น ๆ ด้วย นอกจากสองตัวละครเด่นแล้วเราจะได้เห็นมุมมองของผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมเช่น Mind Control ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก Topson กับความนิ่งในการเล่น W33 ที่ต้องรับมือกับความกดดันอย่างสูงแม้จะได้เล่นตัวละครที่ถนัดเป็นต้น ซึ่งอารมณ์ที่สื่อออกมานั้น หาก Valve ได้ถ่ายทำสารคดีนี้ออกมาก็ยากที่เราจะได้รู้ถึงมุมมองด้านนี้ ชัยชนะ มิตรภาพ การต่อสู้ ในโลกของการแข่งขันหลาย ๆ คนมักจะมองแต่ผลลัพธ์หรือ "ชัยชนะ" เพียงด้านเดียว แต่ในสารคดี True Sight เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่สำคัญกว่าชัยชนะคือ "มิตรภาพ" ของทีมต่าง ๆ ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญของพวกเขาในการที่จะก้าวเดินต่อ ๆ ไป ไม่ว่าใครจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะใน "การต่อสู้" มิตรภาพและความเป็นเพื่อนจะยังคงอยู่เสมอ ซึ่ง Valve สื่อทั้งสามอย่างนี้ออกมาได้อย่างดีมาก ๆ สรุป True Sight 2019 คือสารคดีเกี่ยวกับการแข่งขันเกม ที่เน้นหนักไปยังเรื่องของอารมณ์และมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้ต่าง ๆ หากคุณเป็นเกมเมอร์หรือแฟนเกม Dota 2 คุณต้องชอบสารคดีนี้อย่างแน่นอน แต่หากคุณเป็นบุคคลธรรมดา สารดีเรื่องนี้ก็ทรงคุณค่าในการรับชมเช่นกัน [penci_review id="40531"]

Dota 2 คือหนึ่งในเกมที่เรียกได้ว่าอยู่คู่กับวงการเกมมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่าถ้าหากใครเป็นคนที่ชอบเล่นเกม MOBA เป็นชีวิตจิตใจแล้วละก็ ต้องรู้จักเกมนี้อย่างแน่นอน ในแต่ละปี Dota 2 จะมีการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่เรียกว่า The International โดยทีมที่สามารถเอาชนะในรายการนี้ได้จะได้รับทั้งชื่อเสียง , เกียติยศ , และเงินรางวัลป็นจำนวนมาก ดังนั้นการชนะในการแข่งขันนี้สักครั้ง คงเป็นความใฝ่ฝั่นของ Pro Player Dota 2 แทบทุกคนเลยก็ว่าได้ ซึ่งการที่เอาชนะในการแข่งขันนี้ได้ เราไม่มีทางจินตนาการได้เลย ว่าแต่ละทีมต้องทุ่มเทฝึกซ้อม และเจอความกดดันอย่างหนักขนาดไหน ทำให้ Valve ได้ทำวิดีโอ Documentary ที่จะเล่าในจุดนั้นให้เราได้ดูกันครับ! ในการแข่งขัน The International 2019 ที่ผ่านมาทีม OG สามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 2 มาได้เป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของเกม Dota 2 จนทำให้ชื่อของทีม OG กลายเป็นตำนานในหมู่ผู้เล่น Dota 2 ไปแล้ว โดย True Sight ตัวล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมานั้น ไม่ได้เล่าจากมุมมองของทางฝั่ง OG ที่ได้แชมป์ในสมัยที่ 2 เหมือนกับตัว True Sight The International 2018 แต่เป็นมุมมองของทางฝั่งทีม Liquid ที่เป็นผู้ท้าชิง ว่าพวกเขาต้องเจอกับแรงกดดัน และความยากลำบากขนาดไหนในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งสามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

สวัสดีผู้อ่านทุกคน วันนี้เราจะมาดูเรื่องเกี่ยวกับไอเทมที่ราคาไม่แพงแต่ดีแสนดี ที่บางคนซื้อมาใช้ทุกเกม หรือ บางคนอาจจะไม่เคยซื้อมันเลย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Bracer/Wraith Band/Null Talisman ให้มากขึ้นอีกนิด เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าทำไมในบางครั้งเราควรจะซื้อมันมาใช้ แค่ไม่กี่ชิ้น แล้วมันดีขนาดใหนกันแน่? ไปดูกันเลยครับ Bracer/Wraith Band/Null Talisman ซื้อแล้วได้อะไรบ้าง Bracer ราคา 510 ผสมจาก Gauntlets of Strength + Circlet + Recipe (145+155+210) + 6 Strength + 3 Agility + 3 Intelligence + 5% ความต้านทานเวทมนตร์ Wraith Band ราคา 510 ผสมจาก Slippers of Agility + Circlet + Recipe (145+155+210) + 3 Strength + 6 Agility + 3 Intelligence + 5 ความเร็วในการโจมตี Null Talisman ราคา 510 ผสมจาก Mantle of Intelligence + Circlet + Recipe (145+155+210) + 3 Strength + 3 Agility + 6 Intelligence + เพิ่มความเสียหายสกิล 3% สิ่งที่ซ่อนอยู่ใน Strength/Agility/Intelligence รู้ไว้ก่อนเลือกซื้อ Bracer/Wraith Band/Null Talisman Strength +1 จะได้ + 20 หลอดเลือดสูงสุด + 0.1 การฟื้นฟูเลือด + 0.08%. ความต้านทานเวทมนตร์ ถ้าฮีโร่ที่ได้ Strength เพิ่มเป็นฮีโร่สาย Strength จะได้รับพลังโจมตีอีก 1 หน่วย  Agility +1 จะได้ + 0.16 เกราะ + 1 ความเร็วในการโจมตี + 0.05%. ความเร็วเคลื่อนที่ ถ้าฮีโร่ที่ได้ Agility เพิ่มเป็นฮีโร่สาย Agility จะได้รับพลังโจมตีอีก 1 หน่วย  Intelligence +1 จะได้ + 12 มานาสูงสุด + 0.05 การฟื้นฟูมานา + 0.07% ความเสียหายสกิล ถ้าฮีโร่ที่ได้  Intelligence เพิ่มเป็นฮีโร่สาย  Intelligence จะได้รับพลังโจมตีอีก 1 หน่วย  โปรเพลเยอร์ซื้ออันไหนแล้วควรกี่อันดี ? ในจุดนี้เราจะมาพูดถึงตำแหน่งที่เล่นด้วย เพราะแต่ละตำแหน่งจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงบางครั้งเราได้เห็นผู้เล่น เล่นตัวละครสาย INT แต่ทำไมบางคนกลับไปซื้อ Wraith Band หรือ Bracer แทนที่จะเป็น Null Talisman? วันนี้เราจะมาลงรายละเอียดให้เห็นภาพกัน ตำแหน่ง Support เรายกตัวอย่างของ Kuroky กัปตันคนสำคัญของทีม Nigma โดยเกมนี้เล่น Lich ที่เป็นตัวสาย INT แต่ทำไมถึงไปซื้อ Bracer ที่มีจุดเด่นที่ค่า STR ละ ? คือถ้าเรามองจากสิ่งที่ Kuroky ต้องการจริง ๆ คือเขา แค่ต้องการเอาตัวรอดซะมากกว่า และไอเทม Bracer ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี มันคุ้มมากกับราคา 510 สำหรับ Support ที่ไม่ค่อยจะมีเงินมากมาย ลองคิดดูสิ Bracer 1 อัน เพิ่มเลือดให้ 120 เกราะเกือบ 1 และความต้านทานเวทมนตร์เกือบ 6% มันทำให้คุณสามารถทนสกิลบางสกิลได้มากขึ้น 1 ครั้ง หรือ การโจมตีของ Carry 1 ครั้ง แค่นั้นมันก็สามารถทำให้คุณมีเวลาที่จะทำอะไรมากขึ้นจนฆ่าอีกฝ่ายได้ หรือ สามารถใช้สกิลก่อนตายเพื่อสร้างความได้เปรียบสำหรับเพื่อนที่กำลังมาช่วย หรือ อย่างน้อยจริง ๆ มันจะทำให้คุณไม่ตายในจังหวะมั่ว ๆ ในทีมไฟท์ที่มีสกิลลอยไปลอยมาก็ได้นะ ตำแหน่งต่อไป ตำแหน่ง Offlane เราจะมาดู Zai กับ Yang จาก Team Secret และ Vici Gaming ที่เล่น Underlord กับ Legion Commander โดยปกติแล้วในเกมนี้ Offlane มักจะต้องรับศึกที่หนัก เพราะต้องยืนเลนเพียงคนเดียว ดังนั้น ทั้ง 2 คนนี้ในช่วง 5 นาทีแรกก็ซื้อ Bracer เหมือนกัน เหตุผลก็ไม่ต่างจาก Support มากนัก เพราะเป็นไอเทมที่ราคาถูก และช่วยให้รอดตายได้ อีกทั้งตอนนี้ยังเป็นไอเทมให้สเตตัส ที่ตรงกับสายของฮีโร่ที่เล่นอีกด้วย ทำให้ทั้งคู่เลือกที่จะซื้อมาคนละ 1 ชิ้นในเกมนี้เพื่อให้มีความถึกทนตายยากในช่วงต้นเกม ต่อด้วยตำแหน่งที่หลายคนแย่งกันเล่นอย่าง Midlane เราจะมาดูตัวอย่างจากผู้เล่นทีม Evil Geniuses นั้นคือ Abed ในเกมนี้เขาได้เล่น Outworld Devourer ซึ่งเป็นตัวที่ต้องการ Status Int เยอะ ๆ ในการทำดาเมจ และเพื่อที่จะฟาร์มได้ไวขึ้นด้วย ไอเทม Null Talisman จึงเป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ข้อนี้มาก ๆ เพราะเสียเงินเพียงแค่ 1020 ก็ได้ Int มาถึง 12 หน่วย พร้อมกับสเตตัสอื่น ๆ อีกเล็กน้อย จากนั้นก็สามารถไปเก็บเงินซื้อไอเทมชิ้นใหญ่ ๆ ต่อได้เลย เพราะจากมานาสูงสุดที่เพิ่มขึ้น การฟื้นฟูมานา พลังโจมตี มันทำให้เขาสู้ชนะในเลนได้ไม่ยาก สามารถฆ่า หรือ ฟาร์มได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ออกไอเทมชิ้นต่อ ๆ ไปได้เร็ว ส่งผลให้เก่งกว่าถึงจะนิดหน่อย แต่มันก็เก่งกว่าจริง ๆ อันนี้แนะนำให้ไปทดลองกันเองได้เลย ส่วนตัวคิดว่ามันเห็นผลมาก ๆ ต่อที่ตำแหน่งสุดท้าย Carry จากตัวอย่างในภาพที่เราอามาให้ดูกันคือ Anti-Mage ของ 23savage ทีม Fnatic ที่ในช่วงต้นเกมเขาก็เลือกซื้อ Wraith Band ถึง 2 อันก่อนที่จะซื้อรองเท้าซะอีก จริง ๆ แล้วตัวของ Anti-Mage เอง ไม่ค้อยมีความจำเป็นที่ต้องเดินเร็ว ๆ อยู่แล้ว การจ่ายเงินไป 1020 ในช่วงต้นเกมแบบนี้ จะได้ทั้งเลือด เกราะ มานา ความเร็วโจมตีเพิ่มขึ้นอีก 10 ส่งผลให้ฟาร์มได้เร็ว และต่อเนื่องกว่าเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าใครที่เล่นเกมนี้อยู่ น่าจะเข้าใจอยู่แล้วว่า ตำแหน่ง Carry จำเป็นต้องฟาร์มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อปิดเกมอีกฝ่ายเร็ว ๆ นั้นเอง สุดท้ายนี้ บางเกมเราก็ซื้อของแบบอื่นได้ไม่ตายตัว ที่เราจับจุดนี้มานำเสนอเพื่อให้ดูเป็นกรณีศึกษา บางทีเราจะซื้อ Bracer/Wraith Band/Null Talisman มากกว่า 2 ชิ้นเป็น 3 หรือ 4 สำหรับตัวที่ต้องการ Status เยอะๆ อย่าง Naga Siren ที่ต้องให้การร่างปลอมถึกขึ้น หรือ Invoker ที่มักมีปัญหาเรื่อง Max Mana น้อยในช่วงต้นเกม ผู้เขียนอยากให้ผู้เล่นมือใหม่หรือมือเก่า ๆ ได้รู้จักไอเทมต้นเกมมากขึ้น ซึ่งมันอาจจะเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ทำให้คุณชนะเกมเลยก็ได้ ถ้าผู้อ่านอยากได้สาระ เล็กๆน้อย ๆ ของเกม Dota 2 สามารถ Comment ไว้ได้เลยนะ  

Dota 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมขวัญใจมหาชนที่มีอายุยาวนานเกือบ 11 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่ Valve ได้เปิดเวอร์ชัน Beta ให้เหล่าเกมเมอร์ได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อปลายปี 2019 ก็ได้เกิดเรื่องช็อคกับเหล่าเกมเมอร์ เมื่อยอดผู้เล่นของเกม Dota 2 ลดน้อยลงจนแพ้เกมจากเครือเดียวกันอย่าง Counter-Strike: Global Offensive ทั้ง ๆ ที่เกม Dota 2 ครองแชมป์เกมที่มีผู้เล่นสูงที่สุดใน Steam มาโดยตลอด ทำไมยอดผู้เล่นของเกม Dota 2 ลดลงวันนี้เรา GameFever TH จะพามาหาคำตอบกัน เกมยากไปสำหรับมือใหม่ Dota 2 แม้ว่าจะได้รับการสืบทอดมาจากแผนที่ Defense of the Ancients จากเกม Warcraft 3 โดยตรง ทั้งในแง่ของตัวละคร ไอเทมและระบบการเล่นที่ยังคงเสน่ห์เหมือนเดิม แต่เมื่อเทียบกับเกม Moba ในยุคปัจจุบันเกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เล่นยากมาก เนื่องจาก Dota 2 มี Mechanics (กลไก) มากมายทั้งการ Denied , การ Stack Creep, Talent , การชิง Outpost , ไอเทมป่าและอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ตัวเกมต้องใช้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจที่นานพอสมควร นอกจากนี้ยังมี Mechanics เล็ก ๆ ประจำสกิลและตัวละครต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งหากผู้เล่นอื่นที่ผ่านเกม Moba อื่นมาอาจจะใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่นาน แต่หากคุณเป็นมือใหม่ที่เล่นเกมนี้บอกเลยว่าทำเปิดใจในการเล่นเกมนี้ยาว ๆ Toxic ถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหายอดนิยมของเกมออนไลน์ในปัจจุบัน แต่สำหรับเกม Dota 2 เหล่าผู้เล่น Toxic ในเกมนี้ได้วิวัฒนาการมากกว่าเกมอื่น ๆ ไปอีกหลายขั้น หากจิตใจคุณอ่อนไหวกับเรื่องเหล่านี้เล่นประมาณ 3 - 4 ชั่วโมงอาจจะทำให้คุณไม่อยากที่จะเล่นเกมนี้อีกเลย สาเหตุที่เป็นแบบนี้เนื่องจากการที่ตัวเกมใช้เซิร์ฟเวอร์แบบแบ่งภูมิภาค (Region) ทำให้เกมเหล่าเกมเมอร์จากทั่วทั้งภูมิภาค ที่ต่างกันทั้งในด้านของวัฒนธรรม ภาษา การศึกษาและการอบรมสั่งสอนมาเจอกันแบบไม่ได้นัดหมาย ประกอบกับการที่เกม Dota 2 เป็นเกมที่เล่นฟรีแบบ 100% นั่นคือไม่ต้องซื้อตัวละคร ไม่ต้องเก็บเวลไอดี เพียงแค้สมัครไอดี Steam ก็เล่นได้เลย เหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายจึงสามารถแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไม่มี Limit ทำให้เกิดพฤติกรรมแย่ ๆ มากมาย ตั้งแต่การทะเลาะในทีมไปจนถึงการเหยียดเชื้อชาติ และเป็นที่น่าเศร้าเพราะเซิร์ฟที่มี Toxic มากที่สุดดันเป็นเซิร์ฟในประเทศบ้านเราซะงั้น แม้ว่า Valve จะมีระบบในการ Report และการเล่น Match Low Priority ในการจัดการเหล่าผู้เล่น Toxic แต่เหมือนว่าจะไม่มีผลต่อเหล่าเกมเมอร์กลุ่มนี้มากเท่าไหร่ โดยส่วนมากคนที่จะโดนบัญหา Toxic ดันเป็น Proplayer เสียมากกว่า ทำให้ปัญหานี้ยังคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน Smurf [caption id="attachment_38407" align="alignnone" width="960"] เครดิตจาก u/ButteryGreg[/caption] Smurf หากเปรียบง่าย ๆ คือการที่ผู้เล่นมีประสบการณ์และฝีมือสูงปลอมตัวเป็นผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นไม่เก่ง เพื่อที่จะสามารถเอาชนะได้ง่าย ๆ หรือภาษาเกมเมอร์เรียก "ตบ Noob" ปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหา Classic ของ Valve มาโดยตลอด แม้ว่าจะมีการนำมาตรการหลาย ๆ อย่างมาใช้ เช่นการที่ต้องเล่นมากกว่า 100 ตาขึ้นไปถึงจะสามารถเล่นโหมด Ranking ได้หรือการที่ให้ Algorithm ในการวัดฝีมือที่จะทำให้เจอคนที่ฝีมือใกล้เคียงกันแต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างจริงจัง อัปเดทใหม่เน้นเกมโถมและเกมเร็ว Dota 2 Patch 7.23 ได้เปลี่ยนรูปแบบของเกม Dota 2 ไปสู่การที่เล่นเกมโถมและเกมเร็วในรูปแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากในตอนนี้ผู้เล่นทุกคนมี Courier (ไก่) เป็นของตัวเอง ทำให้ไม่จำเป็นต้องแย่งไก่อีกแล้ว ส่งผลให้ทุกตัวละครสามรถที่จะทำเกมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ Support ไม่จำเป็นต้องซื้อ Ward อีกต่อไปทำให้ตำแหน่งนี้กลายเป็นตัวหลักในทีมได้อีกด้วยทำให้เกมเร็วขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้การมี Outpost ทำให้ทีมที่สามารถคุมเกมได้ในช่วงต้นเกมได้ จะสามารถคว้าชัยในการเล่นได้อย่างดีส่งผลให้ Meta นี้จะเน้นตัวละครที่สามารถเดินเกมได้เร็ว ไม่ใช้ไอเทมเยอะ ยิ่งตัวละครที่เก่งในช่วงต้นเกมคนยิ่งแย่งกันเล่นอย่างมาก ในทางกลับกันหากฝ่ายเราเสียเปรียบเราจะยิ่งแพ้ได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งหากถูกปิดแผนที่ออกจากบ้านไม่ได้ก็เตรียมตัวแพ้ได้เลย ดังนั้นอย่าแปลกใจที่หากคุณเล่นเกมช่วงนี้น้อยเกมนักที่เราจะได้เล่นเกมแบบสูสี ขาดกิจกรรมส่งเสริมการเล่นที่เหมาะสม Valve มีวิสัยทัศน์ในการมองว่าเกม Dota 2 สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ทำให้เรามักจะไม่ได้เห็นทาง Valve จัดกิจกรรมในการส่งเสริมการเล่นเท่าไหร่ นอกจากทัวร์นาเมนต์เงินรางวัลระดับโลกและช่วงเทศกาลสำคัญ ทำให้เกมเมอร์หลาย ๆ คนที่เล่นเกมนี้นาน ๆ ย่อมเบื่อเป็นธรรมดา การที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมการเล่นจะทำให้ผู้เล่นเก่าสนุกและผู้เล่นใหม่ก็มีกำลังใจที่จะเล่น แม้กิจกรรมล่าสุด Frostivius จะน่าสนใจแต่เงื่อนไขของกิจกรรมอาจจะยากไปหน่อย ซึ่งหวังว่า Valve จะรับจุดนนี้ไปพิจารณา ในตอนนี้ยอดผู้เล่นของเกม Dota 2 เหลือเพียงวันละ 380,863 ซึ่งยอดผู้เล่นนี้คือยอดผู้เล่นสูงสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (อ้างอิงจาก Steamchart) ทำให้เราต้องจับตามองว่า Valve จะแก้เกมนี้อย่างไร ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกมแนว Auto Battler หรือเกมวางหมาก แล้วปล่อยให้สู้กันเองซึ่งเป็นกระแสในช่วงต้นปีที่แล้วนั้น เรียกได้ว่ายังคงมาแรงจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดทาง Riot ก็ได้ออกมาบอกว่า จะพยายามดันให้ Teamfight Tactic ขึ้นไปเป็นกีฬา Esports ให้ได้ ทางด้าน Auto Chess เอง ก็กำลังจะเอาเกมไปลงให้กับเครื่อง PS4 กับ Nintendo Switch เพื่อเป็นการขยายตลาดเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าทาง Dota Underlords ที่เกิดในยุคเดียวกัน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงย่ำแย่สุด ๆ เลยครับ Dota Underlords นั้นเรียกได้ว่าเคยเป็นเกมแนว Auto Battler ที่มีคนเล่นเป็นจำนวนมากจริง ๆ ถึงขนาดที่เคยมีผู้เล่นออนไลน์พร้อมกันสูงสุดถึง 200,000 คนเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันตัวเกมกลับมีผู้เล่นพร้อมกันเฉลี่ยเพียง แค่ 11,000 คนเท่านั้น เรียกได้ว่ายอดผู้เล่นตกลงมามากกว่า 90% เลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากว่า Valve ยังไม่สามารถกอบกู้ยอดผู้เล่นกลับมาได้ในเร็ววันละก็ อีกไม่นานเกมนี้อาจจะตายลงก็เป็นได้ครับ Dota Underlords เปิดให้เล่นแล้ววันนี้บน Steam และ Mobile Credit : VG24/7 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกไม่กี่วันเราก็จะผ่านปี 2019 กันไปแล้วเพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2020 ทำให้เรานึกลองย้อนมองกลับไปว่าตลอดปีที่ผ่านมาเราเจอกับเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่สร้างความประทับใจให้กับเรา รวมถึงในวงการเกมก็เช่นกันที่มักจะมีอะไรที่น่าสนใจเราอยู่เสมอ ๆ และวันนี้เรา GameFever TH จะขอนำเสนอ 5 สุดยอดสถิติของวงการเกมประจำปี 2019 เกมที่มีคะแนนรีวิวสูงที่สุดประจำปี 2019 ใน Metacritic : Red Dead Redemption 2 (PC) Metacritic ถือว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่หลาย ๆ วงการโดยเฉพาะภาพยนตร์และเกมมักจะนำเอาไปอ้างอิงถึงคะแนนรีวิว เนื่องจากเว็บไซต์นี้จะนำเอาคะแนนจากสำนักรีวิวต่าง ๆ มารวมและเฉลี่ยไว้ในที่นี่ ซึ่งเกมที่ได้คะแนนสูงที่สุดของปี 2019 ได้แก่ Red Dead Redemption 2 (PC) ที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 93 คะแนน ในส่วนอันดับที่สองตกเป็นของ Resident Evil 2 (Xbox One) อันดับที่ 3 เป็นเกม Divinity: Original Sin II (Nintendo Switch) และอันที่ 4 เป็นเกม Beat Saber (PC) ที่แม้ว่ามีคะแนนเท่ากันหมดแต่หากนับจาก Critic ที่นำมาเฉลี่ยกัน Red Dead Redemption 2 จะได้มาเป็นอันดับหนึ่ง เกมที่มีเงินรางวัล Esports สูงที่สุด : The International 2019: Dota 2 Championships ถือว่าเป็นปีที่ 4 แล้วที่เกม Dota 2 ครองรางวัลเกมที่มีเงินรางวัลประจำทัวร์นาเมนต์มากที่สุดของโลก โดยในปี 2019 ที่ผ่านมารายการ The International 2019: Dota 2 Championships มีเงินรางวัลมากถึง 1,036,768,083 ล้านบาทหรือ $34,330,069.00 เรียกได้ว่าชนะหนึ่งครั้งมีเงินใช้สบายตลอดชีวิต นักกีฬา Esports ที่รวยที่สุด :N0tail Johan "N0tail" Sundstein ยังคงตำแหน่งนักกีฬา Esports ที่รวยที่สุดในโลกด้วยรายได้กว่า $6,890,591.79 หรือประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งรายได้หลักมาจากการแข่งขันรายการ The International 2019: Dota 2 Championships ที่ในตอนนั้นเขาได้เงินรางวัลไปถึง $3,155,536.20 ทำให้เราต้องลุ้นกันต่อไปว่าในปีเขาจะรักษาสถิตินี้ได้เลยหรือไม่ เกมที่ขายดีที่สุดประจำปี 2019 : Call of Duty : Modern Warfare (2019) The NPD Group บริษัทด้านการวิจัยตลาดชื่อดังสัญชาติอเมริกา ได้เปิดเผยผลการสำรวจวิดีโอเกมขายดีประจำปี 2019 โดยนับเอาเดือนพฤศจิกายน 2019 เป็นเดือนสุดท้ายของการเก็บข้อมูลพบว่าเกม Call of Duty : Modern Warfare คือเกมที่มียอดขายสูงที่สุดในปี 2019 ซึ่งตัวเกมทำรายได้ 600 ล้านเหรียญจากการวางจำหน่ายเพียง 3 วันเท่านั้น เกมมือถือที่ดีที่สุดในปี 2019 บน Android และ iOS ถือว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากสำหรับตลาดเกมมือถือ ที่ในปีนี้เราได้เล่นเกมเทพ ๆ อยู่หลาย ๆ เกมแต่หนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนยกให้เป็นเกมมือถือยอดเยี่ยมประจำปี 2019 คือ Call of Duty : Mobile โดยอ้างอิงจากการประกาศของทาง Google  ในขณะที่ฝั่ง Apple เกมมือถือที่ดีที่สุดคือ “Sky: Children of the Light” โดยเกมนี้ได้รับรางวัล iPhone Game of the Year 2019 ปี 2019 ถือว่าเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอย่างมากสำหรับวงการเกมทั้งในไทยและต่างประเทศ เราได้แต่หวังว่าปี 2020 จะมีอะไรให้เราตื่นเต้นมากกว่านี้อีก อ้างอิงจาก : esportsearnings metacritic.com npd.com

Dota 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกม Moba ยอดนิยมของโลก ด้วยการที่มียอดผู้เล่นมากกว่าเดือนละกว่า 400,000 คนพร้อมทั้งเงินรางวัลทัวร์นาเมนต์การแข่งขันติดอันดับโลก หลังจากที่ปล่อยให้รอคอยกันมานานในที่สุด Patch 7.23 ที่เปลี่ยนจนแทบจะกลายเป็นเกม Dota 3 เท่านั้นยังไม่พอ Icefrog ยังอัปเดตรัว ๆ จนกลายเป็นเวอร์ชั่น 7.23e ในระยะเวลาไม่นาน ทำให้เป็นการยากที่เราจะรอให้ Meta นิ่งพอ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า Patch ใหม่จะเลือกตัวฮีโร่ตัวไหนดีวันนี้เรามีคำแนะนำมามอบให้กับเพื่อน ๆ ชาว GameFever TH ทุกท่าน 1. Drow Ranger Drow Ranger ถือว่าเป็นฮีโร่ที่ถูก Rework เมื่ออัปเดตเข้าสู่ 7.23 ในตอนแรกหลาย ๆ คนต่างมากว่าตัวละครนี้เก่งน้อยลง แต่อันที่จริงแล้วเก่งขึ้นในรูปแบบใหม่ ด้วยสกิล Multishot ที่สร้างความเสียหายแบบ AoE รวมถึงสกิลอย่าง Marksmanship ที่เพิ่ม Agi ให้กับเพื่อนรวมทีมของเรา ทำให้ตัวละครนี้เก่งมากขึ้นจนหลาย ๆ ทีมเลือกที่จะแย่งกัน Pick ไม่ก็แบน 2. Void Spirit Void Spirit คำจำกัดความสั้น ๆ ของตัวละครนี้คือ "โกง" เนื่องจากความสามารถในการ Kite ที่ยอดเยี่ยมรวมถึงดาเมจที่สามารถจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ตัวละครนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในการเล่นแบบปกติและ Ranking ที่มีอัตราการเลือกมากถึง 20% (Rank : Divine ขึ้นไป) ซึ่งตัวละครนี้มีข้อเสียคือคนเล่นจะต้องศึกษาสกิลต่าง ๆ และต้องฝึกให้ชำนาญรับรองว่าโกงมาก 3. Nature Prophet 7.23 นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากสู่โลกของเกม Dota 2 ด้วยการเพิ่ม Out Post ทั้งสองฝั่งและเปลี่ยนให้ Courier หรือส่งของให้แยกเป็นของใครของมัน ทำให้ Nature Prophet เป็นตัวละครที่หลาย ๆ คนเลือก เพราะความสามารถจากสกิลอย่าง Teleportation ทำให้ตัวละครนี้สามารถแอบไปกินไก่ได้ ซึ่งหากทำสำเร็จจะได้เงินทั้งทีม นอกจากนี้ตัวละครนี้ยังมีความสามารถในการเติมการปะทะได้ทั้งแผนที่และมีความสามารถในการดันกระแส Creep ที่ดี ทำให้ตัวละครนี้มักจะโดนแบนบ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะในการแข่งขัน 4. Legion Commander ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครตำแหน่ง Offlane ที่ได้รับความนิยมมาหลายยุคหลายสมัย ด้วยความสามารถในการต่อกรกับ Carry ที่เป็นตัวละคร Melee ได้ดีและมีสกิลล้าง Debuff ให้เพื่อนและมีความสามารถในการจับตัวละครอีกฝ่ายด้วยการ Dual ที่หากชนะก็จะยิ่งเก่งขึ้น ทำให้ตัวละนี้ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าจะเป็นการเล่นปกติหรือการเล่นแบบ Ranking ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง 5. Lone Druid Lone Druid ถือว่าเป็นตัวละครที่ได้รับการ Rework ใหม่ใน Patch 7.23 โดยเฉพาะสกิล Summon Spirit Bear ที่ปรับให้เก่งมากขึ้นราวกับเป็นตัวละครที่ 6 ในทีม ทำให้ตัวละครนี้เฉิดฉายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งในแง่ของการสังหารฮีโร่และการดันบ้าน นอกจากนี้ Lone Druid ยังถือว่าเป็นตัวละครที่สามารถถือไอเทมได้ถึง 12 ช่อง ทำให้ไอเทมที่ดรอปมาจากป่าแล้วสามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากช่องเก็บของที่มากกว่าตัวละครอื่น ๆ แม้ว่าตัวละครนี้จะใช้ความสามารถในการบังคับที่สูง แต่ก็ยากมากในระดับที่เล่นไม่ไหว 6. Venomancer หลาย ๆ คนเล่นเกม Dota 2 ช่วงนี้ต้องเบื่อเจ้าตัวละครตัวนี้แน่นอน Venomancer อสรพิษร้ายที่ใน Patch 7.23 ได้มีการปรับใช้สกิล Poison Sting จะลดความสามารถในการรีเลือดของอีกฝ่าย ทำให้ตัวละครนี้มีความสามารถในการกดดันเลนที่โหดมาก ยิ่งมีเสริมเข้ากับ Plague Ward ทำให้คนที่อยู่ร่วมเลนต้องอยู่ไม่เป็นสุข นอกจากนี้ตัวละครนี้ยังมีสกิล Ultimate ที่ทรงพลังมากในการต่อสู้แบบทีม ดังนั้นหลาย ๆ ทีมจึงพยายามที่จะแย่งตัวละครนี้ไม่ก็ต้องแบนทิ้งไป 7.Treant Protector Treant Protector ถือว่าเป็นหนึ่งในยอดของตัวละคร Support ใน Patch นี้หลังจากที่ได้รับการ Rework ใหม่พร้อมกับความสามารถในการเดินเกมที่ดีขึ้นด้วยการให้ Natures guise เป็นสกิล Passive ที่สามารถเดินทะลุต้นไม้พร้อมความสามารถในการรีเลือด ทำให้สามารถเทรดเลือดกับศัตรูในเลนได้ดีขึ้น มีสกิลในการรีเลือดให้กับเพื่อนร่วมทีม มีสกิลสำหรับการไล่ล่า พร้อมอันติที่จะทำให้ทีมของเราได้เปรียบ เรียกได้ว่าครบเครื่องมาก ๆ สำหรับ Treant Protector 8.Razor หนึ่งในตัวละครที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยความสามารถในการเอาชนะเลนที่สูง Razor เมื่อเข้าสู่ Patch 7.23 ยังคงแกร่ง โดยแม้ว่าสกิล Static Link ทำให้เราไม่สามารถโจมตีได้เหมือนเดิม แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายอยู่เลนกับเราลำบากขึ้นเนื่องจากดาเมจที่ลดลง นอกจากนี้ตัวละคร Razor ยังป่วนอีกฝ่ายด้วยความเร็วจากการเคลื่อนที่ที่สูงจากสกิล Storm Surge และดาเมจจากสกิลหมู่ทั้ง Plasma Field และ Eye of the Storm ที่ได้รับการปรับใหม่อีกด้วย หากคุณไม่รู้ว่าจะหาตัวละครไหนมาเล่นดีในตำแหน่ง Carry และ Mid ตัวละครนี้ถือว่าแนะนำเลย 9.Vengeful Spirit Vengeful Spirit หลังจากอัปเดตเข้า 7.23 ก็กลายเป็นตัวละคร Meta โดยทันที Vengeance Aura ที่ Rework มาสามารถที่จะเพิ่ม Stat หลักของตัวละครรวมถึงระยะในการโจมตีอีกด้วย ทำให้สามารถนำเอามาพลิกแพลงได้อย่างหลากหลาย ตัวละครมีความสามารถในการ Gank ที่สูงมากทั้ง Magic Missile ที่จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง Wave Terror ที่ต้องใช้ได้ดีทั้งในการช่วยเพื่อนทำดาเมจและดัน Creep ปิดท้ายด้วย Nether Swap สกิลสารพัดประโยชน์ที่จะใช้ในการสังหารก็ดี ใช้ช่วยเพื่อนก็เยี่ยม 10.Blood Seeker Blood Seeker ยังคงเฉิดฉายอย่างต่อเนื่องใน Patch 7.23 ด้วยการที่รูปแบบการเล่นจะเน้นในการโถมเข้าหาอีกฝ่าย ทำให้การปะทะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาตัวละครนี้จึงได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ Blood Seeker มีจุดเด่นในเรื่องของการเดินเกมที่เร็วเพราะสกิลอย่าง Thirst ที่ยิ่งปะทะกันหนักเท่าไหร่เราก็จะยิ่งวิ่งเร็วเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการยืนเลนที่เก่งจากสกิล Blood Rage มีสกิล Blood Rite ที่คอยสร้างความปั่นป่วนในการต่อสู้ Team Fight และ Rupture ในการบังคับให้ศัตรูต้องอยู่กับที่ เรียกได้ว่าตัวละครตัวนี้เกิดมาเพื่อเกมเมอร์สายเดินเกมอย่างแท้จริง ปัจจุบันแม้ว่า Meta ยังไม่นิ่งเนื่องจากทางผู้พัฒนาเกมยังคงปรับสมดุลให้กับตัวเกมอย่างต่อเนื่อง การเลือก 10 ตัวละครนี้อาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์และการดราฟท์กับเพื่อนร่วมทีม ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขกับการเล่นเกม Dota 2 ครับผม  

Count Down หรือกิจกรรมนับถอยหลังเพื่อต้อนรับการมาถึงของปีถัดไป ซึ่งหลาย ๆ คนจัดเป็นประจำทุกปีไม่ว่าจะเป็นการออกไปกินเลี้ยงกับเพื่อนฝูง การอยู่กับครอบครัวหรือหากกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อที่จะ Count Down และสำหรับเกมเมอร์แล้วคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเล่นเกมนับเวลาถอยหลังข้ามปีใหม่ วันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอแนะนำ 5 เกมที่เหมาะสำหรับการ Count Down ในบ้านที่เล่นได้เพลิน ๆ จนถึงปีใหม่อย่างแน่นอน 1.Super Smash Bros. Ultimate สำหรับบ้านใครที่มีเครื่อง Nintendo Switch เกมนี้คุณจะต้องมีเพราะจะทำให้ปาร์ตี้ของคุณสนุกขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเกม Super Smash Bros. Ultimate จะเป็นเกมต่อสู้ที่ไม่เหมือนเกมอื่น ๆ แต่มีจุดเด่นในเรื่องของความเข้าใจง่าย ที่ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างสนุกสนาน ถ้าหากคุณมีเครื่อง Nintendo Switch แล้วยังไม่มีเกมนี้ ก็แนะนำให้ซื้อมาด่วน ๆ 2.Overcooking 1-2 หากพูดเกมสำหรับการเล่นเพื่อปาร์ตี้แล้ว ไม่มีเกมไหนจะสร้างความบันเทิงแบบครบวงจรได้เท่ากับเกม Overcooking อีกแล้ว โดยเกมนี้จะให้เราร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในการทำอาหารเสิร์ฟให้กับลูกค้า ซึ่งในแต่ละฉากจะมีอุปสรรคแตกต่างกัน ทำให้เกมนี้เล่นได้สนุกมาก ๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ด้วย มิฉะนั้นเกมนี้จะกลายเป็นเกมพังปาร์ตี้แทน 3.FIFA 2020/ efootball PES 2020 การเล่นเกมเป็นปาร์ตี้นั้นจะสนุกมาก หากมีเกมที่สามารถแข่งขันกันได้แบบทั่วถึงที่ให้เกมเมอร์ทุกคนและสำหรับเกมเกมกีฬาแล้ว คงไม่มีเกมไหนจะวัดฝีมือไปมากกว่า 2 เกมฟุตบอลของปีนี้อย่าง FIFA 2020/ efootball PES 2020 ที่จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย Fifa จะมีจุดเด่นในเรื่องของลิขสิทธิ์ทีมที่มาแบบเป็นครบครัน ในขณะที่ PES จะให้ความรู้สึกของการเล่นที่ลื่นไหลกว่า ชอบเกมไหนก็เลือกเกมนั้นครับผม 4.Tekken 7 การเล่น Super Smash Bros. Ultimate อาจจะให้ความสนุกในแบบองค์รวมแต่หากคุณต้องการเล่นเกมต่อสู้แบบแพ้คัดออกในปาร์ตี้ละก็ Tekken 7 เหมาะที่สุด ด้วยการวัดความสามารถในการต่อสู้กันแบบถึงพริกถึงขิง ที่การออกหมัดผิดไปหนึ่งจังหวะอาจจะทำให้แพ้กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีตัวละครมากมายให้เราได้เลือกเล่นถือว่าเป็นเกมเล่นเอาสนุกในปาร์ตี้ที่ดีเลย 5. Dota 2 / League of Legends /RoV ปิดท้ายกันด้วยเกม Moba ที่หากคุณเปลี่ยนอารมณ์จากการสังสรรค์มาเป็นการเล่นร่วมกันเพื่อ Count Down เกมตระกูลนี้ก็ถือว่าดีเลย ด้วยจุดเด่นที่ทำให้เราเล่นได้เพลิน ๆ ยิ่งได้เล่นกับเพื่อน ๆ ความสนุกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยปัจจุบันนั้นเกม MOBA ในมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คงไม่พ้นเกม ROV เกมที่สามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาหากมือถือของคุณเล่นได้ หรือหากคุณอาจจะจัดเป็นแบบ LAN Party ขน Notebook มากันคนละเครื่อง League of Legends และ Dota 2 ก็สามารถเล่นได้เพลิน ๆ การนับถอยหลังปีใหม่ ถือว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สร้างทั้งความสุขและมิตรภาพที่ดีให้กับเหล่าเกมเมอร์ แต่อย่างไรก็ตามหากเราไม่ระวังตัวหรือฉลองกันจนไม่ระวังตัวเอง นี่อาจจะกลายเป็นกิจกรรมแห่งความเสียใจก็เป็นได้ ดังนั้นมีสติต้อนรับปี 2020 กันครับผม

ปัจจุบันการเล่นเกมได้มีการพัฒนามากขึ้นในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมเพื่อการแข่งขันหรือ Esports ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ ปี พร้อมกับมีเงินรางวัลที่สูงแซงการแข่งกีฬาหลาย ๆ อย่างไปแล้ว ทำให้นักกีฬาบางคนมีรายได้มากมายมหาศาล อย่างไรก็ตาม เกมไม่เหมือนกับกีฬาอื่น ๆ เนื่องจากมีการอัปเดตเสมอ ๆ เพื่อให้ตัวเกมสดใหม่และรู้สึกไม่จำเจ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ผลกระทบต่อการแข่งขันเพราะว่าการอัปเดตแต่ละครั้งจะส่งผลต่อเกมอย่างมาก บางครั้งอาจจะทำให้ทีมแชมป์เก่าตกรอบแรกไปเลยก็มี โดยเฉพาะเกมตระกูล Moba ต่าง ๆ ที่การอัปเดตจะถี่กว่าเกมประเภทอื่น ๆ เพื่อปรับสมดุลให้กับตัวเกม เมื่อมีการอัปเดตจะมีสองคำที่เหล่าเกมเมอร์ต้องเจอเสมอคือคำว่า "Nerf" (เนิร์ฟ) และ "Buff" (บัฟ) ในเกมต่าง ๆ เสมอซึ่งเพื่อน ๆ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมเราต้องใช้สองคำนี้และสองคำนี้หมายถึงอะไร วันนี้พวกเรา Gamefever มีคำแนะนำสำหรับเรื่องนี้มามอบให้กับทุกท่าน ที่มาของคำว่า "Nerf" "Nerf" (เนิร์ฟ) เป็นแสลง (slang)* หมายถึงการลดประสิทธิภาพของสิ่งต่าง ๆ ในวิดีโอเกม เพื่อให้ความสามารถต่าง ๆ ลดลง โดยสาเหตุของการ Nerf เกิดจากการที่ตัวละครหรือไอเทมต่าง ๆ เก่งเกินไปหรือได้รับความนิยมมากเกินไป ทำให้ทางผู้พัฒนาต้องการลดความสามารถลงเพื่อที่จะทำให้เกมสมดุลหรือเพื่อให้ผู้เล่นไปลองเล่นแนวทางอื่น ๆ บ้าง   โดยคำว่า "Nerf" มาจากของเล่นของบริษัทชื่อดังของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการผลิตปืนอัดลมที่ไม่มีความรุนแรงออกมา ซึ่งคำนี้ถูกนำไปอ้างอิงครั้งแรกในเกม Ultima Online ที่ได้ทำการปรับสมดุลจนทำให้ได้มีการนำคำนี้มาเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกลายเป็นแสลงติดปากของเหล่าเกมเมอร์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่มาของคำว่า "Buff" "Buff" (บัฟ) เป็นคำที่อยู่ตรงข้ามกับคำว่า "Nerf" โดยความหมายจะขึ้นอยู่กับบริบทของประเภทเกมต่าง ๆ เช่นในเกม MMORPG การ Buff จะหมายถึงการใช้ทักษะเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครอื่น ๆ ชั่วคราว ในขณะที่ในเกม MOBA และเกมแนวอื่น ๆ จะหมายถึงการเพิ่มความสามารถให้กับตัวละคร สิ่งของหรือสิ่งต่าง ๆ ให้มีความสามารถที่ดีขึ้น ซึ่งสาเหตุที่มีการ Buff เกิดจากหลายปัจจัยเช่น ตัวละครหรือแนวทางในการเล่นนี้ไม่ได้รับความนิยม ทำให้ทางทีมพัฒนาเกมต้องเพิ่มความสามารถเป็นต้น ที่มาของคำว่า "Buff" นั้นมาจากเกม MMORPG และในเกม MUD เพื่ออธิบายถึงการเพิ่มสถานะต่าง ๆ ของเกมที่จะส่งผลต่อผู้เล่น ทั้งในรูปแบบของไอเทมและจากความสามารถ ทำให้คำนี้ติดปากของเหล่าเกมเมอร์และแพร่หลายไปยังเกมอื่น ๆ เรื่อยมา ปัจจุบันนี้มีคำอื่น ๆ สำหรับการพูดคุยในวงการเกมโดยเฉพาะมากมาย เช่น Rework , Meta , RNG และคำอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งหากใครเป็นเกมเมอร์มือใหม่ ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจสักนิดแล้วคำเหล่านี้จะสามารถนำไปใช้ในทุก ๆ เกมเลย ขอให้เพื่อน ๆ เล่นเกมอย่างมีความสุขครับผม ป.ล. หากมีข้อมูลไม่ถูกต้องสามารถ Inbox บอกพวกเรา Gamefever ได้ทันที อ้างอิงข้อมูลจาก  english.stackexchange.com www.royin.go.th *แสลง (slang) ตามราชบัณฑิตยสภาให้นิยามว่า คำยืมจากภาษาอังกฤษหมายถึง ภาษาที่มีความหมายเป็นพิเศษเฉพาะของคนบางกลุ่ม ซึ่งต้องการพูดโดยไม่ให้คนที่อยู่นอกกลุ่มของตนเข้าใจ

ต้องบอกว่าเป็นการแขงขันที่มันมาก ๆ กับรอบชิงชนะเลิศ 30th Southeast Asian Games ของ E-sports Dota2 ระหว่าง ทีมฟิลิปปินส์ที่มาจากสายบน พบกับทีมไทยที่มาจากสายล่าง ถึงแม้จะพลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย แต่ต้องบอกว่าเป็นการแพ้อย่างสมศักศรีจริง ๆ เราไม่พูดอะไรมากละกันไปดูแต่ละเกมกันเลยดีกว่าครับ เกมที่ 1 ดูแผนของทางทีมฟิลิปปินส์นึกว่าดูทีม Team Liquid ชุด TI9 ที่มี Templar Assassin มาเล่นกลางเกม ในเกมนี้ทีมไทยเลยตัดสินใจที่จะเลือกตัวต้นเกมมาเพื่อหยุดเกมของอีกฝ่าย แต่มันก็มีความเสี่ยงสูงมาก ๆ เช่นกัน เพราะถ้าไม่สามารถเดินเกมในช่วงแรกได้ดีพอ ก็แทบจะแพ้แบบ 100% เลย แต่ทีมไทยกลับเลือกที่จะเล่นในช่วงกลางเกมแบบฟาร์ม ซึ่งมันผิดกับดราฟที่เลือกมา ทำให้เสียความได้เปรียบไปทั้งที่ต้นเกมทำออกมาได้ดีแท้ ๆ สุดท้ายก็ถูกดึงจนถึงเลทเกม ทำให้ทีมฟิลิปปินส์ ปิดเกมแรกไปได้ ทีมไทย 0-1 ทีมฟิลิปปินส์ เกมที่ 2 หลังจากเกมแรกที่ทางทีมฟิลิปปินส์แบนไปที่ตัวฮีโร่ของ Teeramahanon (23savage) จนไม่มีตัวเล่น และแพ้ไปในเกมแรก เกมนี้ทีมไทยเลยเลือกฮีโร่ Faceless Void ตัวถนัดมาเป็นตัวแรกเพื่อตัดปัญหาทิ้ง ช่วงนาทีที่ 0 ดันมีจุดให้ตกใจที่ทีมไทยเสีย Bounty Rune 4 จุดพร้อมเสีย First Blood  ด้วย แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ซะทีเดียว เพราะตัว Viper ดันไปชนะ Razor ที่เลนกลางได้ ทำให้ทางทีมฟิลิปปินส์ไม่มีใครออกมาทำเกมเลย และต้องเน้นไปที่การฟาร์มแทน กลับกัน Faceless Void ที่ปกติจะเน้นฟาร์มดันออกของมาทำเกมซะอย่างงั้น ทำให้ทีมไทยได้เปรียบมากจนสามารถชนะเกมที่ 2 ไปได้  ทีมไทย 1-1 ทีมฟิลิปปินส์ เกมที่ 3 เกมนี้จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ Outworld Devourer เป็นฮีโร่ที่เลือกมาตัวสุดท้ายของการดราฟจากทีมฟิลิปปินส์ ทำให้ได้เปรียบฮีโร่ทีมไทยหลายตัว แต่ทีมไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้ Spectre ที่เก่งท้ายเกมแก้เกมด้วยการออกของมาเล่นต้นเกมแบบเกมที่แล้ว แต่มันดันยืดเยื้อไปจนถึงท้ายเกมอยู่ดี จนทำให้ดาเมจของเราก็ดูน้อยกว่าอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ พอทางทีมฟิลิปปินส์ได้ไอเทม Black King Bar กันพร้อมหน้า ดาเมจของฝั่งเราก็ยิ่งน้อยลงไปอีก และก็ดูเป็นเรื่องง่ายของทางทีมฟิลิปปินส์ที่จะชนะเกมที่ 3 ไปได้ ทีมไทย 1-2 ทีมฟิลิปปินส์ เกมที่ 4 เกมนี้เหมือนสถานการณ์กลับกัน ทางฝั่งทีมไทยได้เลือก Anti-Mage มาเป็นตัวสุดท้าย ที่ไม่ใช่แค่มันชนะทางฮีโร่หลาย ๆ ตัวของทางทีมฟิลิปปินส์ แต่เป็นอีก 1 ตัวถนัดของผู้เล่นชาวไทยด้วย ต้นเกมทีมไทยเรียกได้ว่าสร้างความได้เปรียบในทุกเลน และทาง Anti-Mage ก็ได้ไอเทมจากการฟาร์มป่ามาแบบเข้าทางสุด ๆ ด้วย ทำให้กลายเป็นเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียวของทีมไทย จนสามารถเก็บเกมที่ 4 ไปได้ ทีมไทย 2-2 ทีมฟิลิปปินส์ เกมที่ 5 เกมสุดท้าย หลังสู้กันมาอย่างสนุกสนานในทุก ๆ เกมที่ผ่านมา เกมนี้ดราฟของทางทีมฟิลิปปินส์ดีมาก ๆ จนทีมไทยหมดทางเลือกแล้วใช้แผนที่ซ้อมกันมาบ่อย ผลก็ออกมาในทางที่ดีมาก ทีมไทยทำได้ดีกว่าสร้างความได้เปรียบได้ตลอดในช่วงต้นจนถึงกลางเกม ต่อให้ทำต้นเกมมาดีจริง ๆ แต่เหมือนจะยังดีไม่มากพอ ด้วยการที่ฮีโร่ของทีมไทยนั้นแพ้ทางในช่วยท้ายเกม บวกกับความนิ่งของ Enima ที่รอจังหวะใช้ Ultimate Black Hole อย่างใจเย็น ทำให้ทีมฟิลิปปินส์กลับมาถือความได้เปรียบในช่วงท้ายเกม ถึงจะมีจังหวะที่ทำให้กองเชียร์ทีมไทย เฮ มีลุ้นอยู่นิดนึง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานพลังทีมไฟท์ได้ ทำให้แตกพ่ายไปในเกมสุดท้าย ทีมไทย 2-3 ทีมฟิลิปปินส์ จบไปกับ 30th Southeast Asian Games ของ E-sports เกม  Dota2 มาดูสรุปเหรียญ เหรียญทอง         ทีมฟิลิปปินส์ เหรียญเงิน           ทีมไทย เหรียญทองแดง  ทีมเวียดนาม ขอขอบคุณผู้เล่นของทีมไทยทุกคนที่เล่นได้ดีเรารู้ว่าพวกคุณตั้งใจที่สุดแล้ว หนึ่งนรา ธีรมหานนท์ “23savage” ที่ถ้าเขาได้หยิบตัวถนัดไว้ใจได้แน่นอน ภูมิพัฒน์ ไตรศิริพานิช “Fearless” ที่แม้ไม่ต้องซ้อมตัว Viper แต่เมื่อทีมต้องการก็เล่นได้ดีมากจริงๆ นพฤทธิ์ พฤกษะริตานนท์ “Seri” จังหวะที่ต้องมีคนเปิดไว้ใจได้เสมอ อนุชา จิระวงศ์ “Jabz” ถ้าจะมีใครสร้างจังหวะเซอร์ไพรส์ของเกมก็ต้องคนนี้ อนุรัตน์ ไพรอนันต์ “Boombell” ซัพที่โดนกระทำอยู่เสมอแต่นั้นละคือสิ่งที่ทำให้คนอื่น ๆ มีพื้นที่เล่น ยังมีสมาชิกอีก 2 คน คือ ธนธรณ์ ศรีเอี่ยมกูล “tnt” และ พิพัฒน์ ปริยชาติ “Lakelz” โค้ช ที่ช่วยกันจนทีมไทย สร้างผลงานออกมาเหนือความคาดหมาย จากแค่หวังเหรียญทองแดงจนมาลุ้นเหรียญทองในวันนี้ ขอขอบคุณที่ทำให้พวกเราสนุกกับดูแข่ง Dota2 ถึงจะไม่ได้เหรียญทองกลับมาฝากแต่เป็นเหรียญเงิน พวกเราก็ดีใจในสิ่งที่พวกคุณทำให้แล้ว ขอขอบคุณจริง ๆ และจะเป็นกำลังใจให้ในการแข่งต่อ ๆ ไปครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ใน 30th Southeast Asian Games ได้มีการนำ E-sports มาร่วมแข่งด้วย โดยในโพสต์นี้เราจะมาดูผลรอบแบ่งกลุ่มและการวิเคราะห์ทีมในรอบ Playoffs กันเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเกม Dota 2 ซึ่งเป็นอีก 1 ความหวังของทีมชาติไทยที่จะได้เหรียญทองมาครอบครอง ปีนี้มีทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 8 ทีมด้วยกัน โดยมีการแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม A ทีมมาเลเซีย / ทีมเวียดนาม / ทีมสิงคโปร์ / ทีมไทย และ กลุ่ม B ทีมอินโดนีเซีย / ทีมฟิลิปปินส์ / ทีมเมียนมา / ทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และได้ผลของการแบ่งกลุ่มดังนี้ ผลรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A อันดับ 1  ทีมเวียดนาม ชนะ 5 แพ้ 1 (Tiebreakers ชนะ ) อันดับ 2 ทีมไทย ชนะ 5 แพ้ 1 เป็นการชิงอันดับ 1 ที่มันสุด ๆ โดนทีมเวียดนากับทีมไทยเจอกันตอนเก็บคะแนน และผลัดกันแพ้ชนะไปคนละ 1 เกม จากนั้นไปชนะอีกทีมละ  2 เกมจาก ทีมสิงคโปร์ กับ ทีมมาเลเซีย ทำให้คะแนนออกมาเท่ากัน จนต้องมา Tiebreakers แล้วผลก็ออกมาเป็นทีมเวียดนามเก็บชัยไปได้ ทำให้ทีมไทยต้องตกลงไปสายล่าง รอเจอกับอันดับที่ 2 ของกลุ่ม B กลุ่ม B อันดับ 1 ทีมฟิลิปปินส์ ชนะ 5 แพ้ 1 อันดับ 2 ทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ชนะ 4 แพ้ 2 เป็นงานง่ายของทีมเจ้าภาพและทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่แบ่งแต้มกันอย่างลงตัว Playoffs เรามาดูรายชื่อผู้เล่นของ 4 ชาติที่ได้เข้าไปเล่นในรอบนี้กัน ทีมเวียดนาม ได้ยกทีมที่กำลังน่าจับตามองในโซน SEA อย่าง 496 Gaming ที่พึ่งเป็นรองแชมป์งาน WESG 2019 SEA Finals โดยแพ้ TNC Predator มา 2 ต่อ 1 เกม เท่านั้น ถ้าถามว่าทีม TNC Predator เก่งขนาดไหน ก็ได้ที่ 1 ในการแข่งขันระดับ Major รอบล่าสุดเลยทีเดียว บอกได้เลยประมาท 496 Gaming ไม่ได้เลย สูสีกับทีมไทยสุด ๆ ทีมนี้ ผู้เล่นทีมเวียดนามใน SEA Games 2019 Pos 1 : Trịnh ‘458’ Văn Thọ Pos 2 : Nguyễn ‘Vivian’ Hoàng Lâm Pos 3 : Nguyễn ‘Red’ Tiến Phát Pos 4 : Nguyễn ‘Yasy’ Châu Lợi Pos 5 : Nguyễn ‘Datbb’ Thành Đạt Coach : Huỳnh ‘Magical’ Hữu Nghĩa ทีมไทย ทางทีมไทยเราก็เป็นการรวมตัวของผู้เล่นจากทีมต่าง ๆ มาเช่นกัน โดยคนที่น่าจับตาของเราจะมีด้วยกัน 2 คน คือ 23Savage และ Jabz ที่เป็น Pro Player จากทีม Fnatic บวกกับแพทช์ 7.23 เป็นอะไรที่ดูเข้าทาง Jabz เป็นอย่างมากอีกด้วย ส่วนผู้เล่นอีก 3 คน ถึงจะมาจากต่างทีม แต่ดูเหมือนว่าทีมไทยฝึกซ้อมร่วมกันมามากพอสมควร มาติดตามเชียร์ทีมชาติไทยไปด้วยกัน ได้ลุ้นเหรียญทองแน่นอนกับทีมชุดนี้ ผู้เล่นทีมไทย SEA Games 2019 Pos 1 : Nuengnara ’23Savage’ Teeramahanon Pos 2 : Poomipat ‘Fearless’ Trisiripanit Pos 3 : Seri ‘Seri’ Prugsaritanon Pos 4 : Anurat ‘Boombell’ Praianun Pos 5 : Anucha ‘Jabz’ Jirawong Coach : Pipat ‘LaKelz’ Prariyachat สำรอง : Thanathorn ‘tnt’ Sriiamkoon ทีมฟิลิปปินส์ (เจ้าภาพ) NO.1 ของ SEA ต้องยกให้ประเทศนี้! ด้วยความเป็นที่สุดในหลาย ๆ ด้านของเกม Dota 2 ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้เอาทีมที่ดีที่สุดอย่าง TNC Predator มาลงแข่ง และใช้ทีม Adroit ที่มีดีกรีอันดับที่ 13 - 16th MDL Chengdu Major มาลงแข่งพร้อมตัวสำรองอีก 2 คน จากทีม Cignal Ultra แต่ดูจากผลคะแนนแล้ว ก็ยังเป็นตัวเต็งอย่างไม่ต้องสงสัยเหมือนเดิมครับ ผู้เล่นทีมฟิลิปปินส์  SEA Games 2019 Pos 1 : John ‘Natsumi-‘ Anthony Vargas Pos 2 : Mc ‘Mac’ Nicholson Villanueva Pos 3 : Jun ‘Bok’ Kanehara Pos 4 : Marvin ‘Boombacs’ Rushton Pos 5 : Bryle ‘cml’ Alvizo สำรอง 1 : Erice ‘Erice’ Guerra สำรอง 2 : Van ‘Van’ Jerico Manalaysay ทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทีม Aggressive Slayer เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับเราถึงขนาดมีผู้เล่นหลาย ๆ คนเคยแสดงฝีมือในประเทศของเรามาแล้ว ผู้เล่นของทีมนี้ ก็มีชื่อที่คุ้นหูของเราซ่ะเหลือเกิน โดยทีม Aggressive Slayer ทำผลงานได้ดีในรายการ WESG 2019 SEA Finals ถ้าว่าใครเป็นม้ามืดการแข่งขันนี้ ก็คงต้องบอกว่าทีมนี้แหละครับ ด้วยแพทช์ที่เปลี่ยนไปทำให้ผลงานดีในระดับที่ผ่านรอบ Group Stage มาได้ ต้องมาตามดูผลงานพวกเขากันต่อไป ผู้เล่นทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว SEA Games 2019 Pos 1 : Jackky Pos 2 : BeeBie Pos 3 : Nevermine Pos 4 : AkiTo Pos 5 : Pila สำรอง : Buk-sert ในวันที่ 8/12/2019 ทีมชาติไทยเราจะพบกับทีมสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวใน Lower Bracket Semifinals ถึงจะไม่ใช่งานที่น่าหนักใจ แต่อย่าได้ประมาณแม้แต่นิดเดียว ยังไงก็ช่วยกันส่งแรงใจแรงเชียร์ทีมชาติไทยกันด้วยนะ ถ้าเราชนะรอบนี้การันตีเหรียญทองแดงแน่นอน สู้ให้รู้ว่า E-sports ไทยต้องได้รับการสนับสนุนที่มากกว่านี้ ไทยแลนด์สู้ ๆ #ไทยแลนด์ปู๊น ๆ Credit : Liquipedia ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่อยู่กับแพทช์ 7.22 กันมาหลายเดือนกับเกม Dota 2 เห็นฮีโร่ตัวเดิมเป็นร้อยแมตช์ ในที่สุด Valve ก็ได้ทำการอัปเดตแพทช์ 7.23 แล้ว! การอัปเดตครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่มากๆ เพราะนอกจากจะมีฮีโร่ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่อีก 2 ตัวแล้ว ทั้งวิธีเล่น แมคคานิคต่างๆ ผลของไอเทม รวมไปจนถึงดีไซน์ของแมพ ทุกอย่างถูกปรับใหม่แทบทั้งหมดเลยครับ! อีโร่ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่ ก็คือ Void Spirit กับ Snapfire ที่เคยเปิดตัวไปแล้วในงาน The International 2019 ทั้งสองตัวดูเหมือนจะเป็นฮีโร่ Carry ทั้งคู่ โดยที่ Void Spirit เป็นตัวตีใกล้ที่มีสามารถในเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และทนทานต่อดาเมจกายภาพ ในขณะที่ Snapfire เป็นฮีโร่ตีไกลที่มาพร้อมกับความสามารถกับระยะในการโจมตี ที่หลากหลายมากๆ สามารถรับชม Dota 2 Hero Spotlight ได้ข้างล่างนี้ครับ นอกจากฮีโร่ใหม่ทั้ง 2 แล้ว ยังมีการปรับกฏในการเล่นต่างๆ ของเกมอีกมากมาย ชนิดที่ว่าให้ลืมเกม Dota 2 ที่เราเคยเล่นกันก่อนหน้านี้ไปได้เลย เพราะสิ่งที่ปรับมานั้นมันส่งผลต่อภาพรวมของเกมอย่างมาก ถ้าให้เขียนอธิบายทั้งหมด วันนี้ก็ไม่น่าจะเสร็จ สามารถเข้าไปดู Patch Note ได้ที่นี้ แต่ถ้าเอาแบบคร่าวๆ เฉพาะที่ต่างไปจากเดิม จะมีดังนี้ครับ ทุกคนมี Courier เป็นของตัวเอง และ ตัว Courier จะมีความสามารถมากขึ้นตามเลเวลของฮีโร่ผู้เล่น GPM นั้นจะได้เยอะขึ้นตามเลเวลของ Courier (ถ้า Courier ตายเงินก็จะไม่เด้ง) Observer Ward ไม่ต้องใช้เงินซื้ออีกต่อไป ฮีโร่ทุกตัวเริ่มเกมพร้อมกับ Town Portal Scrolls 3 อัน ดีไซน์ของแมพเปลี่ยนไป มีการเพิ่มสิ่งปลูกสร้างใหม่ข้างๆ Side Shops ที่เรียกว่า Outposts Neutral Creep สามารถดรอป Unique Item ได้ถึง 62 แบบ (มีผลกับเกมมากๆ) ปรับบาลานซ์ของไอเทม และฮีโร่อีกมากมาย Credit : Dota2 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เดือนตุลาคมถือว่าเป็นเดือนที่มีเกมต่างๆ ออกมาให้เราได้เล่นเยอะมาก จนทำให้เกิดความสงสัยในหมู่พวกเรา Gamefever ว่าเดือนที่ผ่านมาเกมไหนได้รับความนิยมมากที่สุด โดยอิงจากแพลตฟอร์มขายเกมยอดนิยมอย่าง Steam มาให้เพื่อนๆ ได้รับทราบกัน และเพื่อใครกำลังเบื่อๆ อยากหาเกมใหม่เล่น ไปดูกันเลย 10.Rocket League ยอดผู้เล่นเฉลี่ย :33,048.8 Rocket League เกมที่ผสมผสานระหว่างกีฬาฟุตบอลกับการบังคับรถยนต์เข้าด้วยกัน ทำให้ระบบ Gameplay ของเกมนี้สนุกมาก อีกทั้งยังสามารถเล่นได้ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าหรือผู้เล่นใหม่ โดยปัจจุบันแม้ว่าเกมนี้จะมีอายุมากกว่า 5 ปีแล้ว แต่ความนิยมของเกมก็ยังไม่เสื่อมคลาย 9.Warframe ยอดผู้เล่นเฉลี่ย :34,398.9 Warframe หรือที่ใครหลายๆ คนนิยมเรียก Ninja อวกาศ ที่เน้นการเก็บทรัพยากรต่างๆ มาพัฒนาตัวละครไปเรื่อยๆ  โดยการอัปเดต Patch ตัวเกมหนึ่งครั้งเหมือนว่าได้เล่นเกมใหม่ทั้งเกมเลยทีเดียว แม้ว่าจะเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 6 แล้วแต่ก็ยังได้รับความนิยมจากเหล่าเกมเมอร์มหาศาลจากทุกแพลตฟอร์ม 8.Rust ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 46,704.4 Rust เกมแนว Sandbox - Survival ที่เราจะต้องสร้างบ้าน สร้างอาวุธ เพื่อเอาตัวรอดจากสิ่งต่างๆ รวมถึงเหล่าผู้เล่นด้วยกันเองที่ไม่แน่ใจจริงอยู่ไม่ได้ โดยตัวเกมแม้ว่าจะมีอายุหลายปีแต่ทางทีมผู้พัฒนาก็ยังคงอัปเดตตัวเกมอยู่เสมอ อีกทั้งตัวเกมก็ยังมีเซิร์ฟเวอร์ให้เราได้เล่นอีกมากมาย ดังนั้นซื้อเลยตอนนี้คุ้ม 7.Team Fortress 2 ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 51,993.9 จาก Mod ของเกมชื่อดังสู่เกมแยกของตัวเองอย่างเต็มตัว Team Fortress 2 ที่แม้ว่าปัจจุบันทีมงาน Valve เหมือนว่าจะไม่ค่อยสนใจเกมนี้แล้ว และเน้นไปยังเกมอื่นๆ มากกว่า แต่ความรักของเหล่าผู้เล่นที่มีต่อเกมนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีผู้เล่นเฉลี่ยมากถึง 5 หมื่นกว่าคนเลยทีเดียว 6.Grand Theft Auto V ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 58,656.1 สุดยอดเกมจากทาง Rockstars Game ที่แม้ว่าจะเป็นเกมเก่าอายุเกือบ 6 ปีอีกทั้งเกมใหม่ล่าสุดอย่าง Red Dead Redemption 2 ก็ใกล้จะเปิดให้เล่นแล้ว แต่ทางเกม GTA:V ยังคงมีผู้เล่นเกมนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในการเล่นแบบ GTA:Online รวมถึงการเล่นผ่าน Mod: Role Play ที่ในตอนนี้ยังคงได้รับความนิยมจากผู้เล่นเกมและเหล่า Steamer 5.Tom Clancys Rainbow Six Siege ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 65,632.5 หากจะพูดถึงเกมแนว Tactical FPS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเกม Tom Clancys Rainbow Six Siege ด้วยการที่ตัวเกมเล่นไม่ง่าย และก็ไม่ยากจนเกินไป ทำให้เกมนี้ถูกใจหลายคน นอกจากนี้ E-Sports ของเกมก็ได้เติบโตขึ้นอย่างมากเช่นกันจนตอนนี้ทัวร์นาเมนต์ต่า ๆ มีเงินรางวัลรวมมากกว่า 1 แสนเหรียญเลยทีเดียว 4.Destiny 2 ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 165,307.8 เรียกได้ว่าสร้างความแปลกใจให้กับใครหลายคนมาก ๆ เมื่อทาง bungie ประกาศนำเอาเกมชื่อดังของค่ายอย่าง Destiny 2 มาเปิดให้เล่นกันในรูปแบบ Free to Play บน Steam ทำให้ได้รับความสนใจจากเหล่าเกมเมอร์อย่างมาก โดยมีผู้เล่นเฉลี่ยมากกว่า 1.65 แสนคนตลอดเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา 3.PLAYERUNKNOWNS BATTLEGROUNDS ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 287,133.4 ปัจจุบันแม้ว่ากระแสของเกม Battle Royale จะได้รับความนิยมลดลงไปอย่างมาก ประกอบกับทางคู่แข่งของเกมแนวนี้เองต่างก็มีมากมายทั้งในรูปแบบของการซื้อเกมและ Free to Play แต่ว่าเกม PLAYERUNKNOWNS BATTLEGROUNDS หรือ PUBG ยังคงรักษาฐานผู้เล่นไว้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกับอัปเดตตัวเกมใหม่ๆ อยู่เสมอ แม้ว่ายอดผู้เล่นปัจจุบันจะลดลงเหลือ 1 ใน 5 ของตอนที่กำลังโด่งดังเมื่อปีที่แล้วก็ตาม 2.Dota 2 ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 388,355.9 ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความตกใจให้กับใครหลายคน เพราะ Dota 2 ถือว่าเป็นเกมที่ทาง Valve ให้ความสำคัญมากที่สุด รวมถึงเป็นเกมที่สามารถครองยอดผู้เล่นสูงสุดได้นานหลายเดือนสำหรับเกม Moba เกมนี้ แต่ว่าด้วยการที่ตัวเกมไม่ได้มีอัปเดตอะไรใหม่หลังจากการแข่งขันรายการ The International 2019 รวมถึงระบบ Matchmaking แบบใหม่ที่ทำให้หลายคนไม่ชอบ นอกจากนี้เกมคู่แข่งอย่าง LoL ยังประกาศจัดงานครบรอบ 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้จำนวนผู้เล่นที่ลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ 1.Counter-Strike: Global Offensive ยอดผู้เล่นเฉลี่ย : 408,995.3 สุดยอดเกมแนว FPS ของเหล่าเกมเมอร์ ที่ปัจจุบันแม้ว่าตัวเกมจะผ่านมาหลายปีแต่ก็ยังคงได้รับความนิยมเสมอจากเหล่าผู้เล่นและนักกีฬา E-Sports โดยหลังจากที่ทาง Valve ได้เปลี่ยนให้ CS:GO เป็นเกมฟรี ตัวเกมก็ได้รับความนิยมอย่างมากจนสามารถแซงเกม Dota 2 ได้ในที่สุด จาก 10 อันดับที่เรานำมาเสนอนั้นจะเห็นได้ว่าไม่มีเกมที่ออกมาใหม่ ๆ เลย เนื่องจากเหล่าคนเล่นเกมส่วนมากมักจะนิยมเล่นเกมเดิม ๆ มากกว่าเกมออกใหม่ เนื่องจากความคุ้นชินกับระบบไปจนถึงเพื่อนในเกมที่จะทิ้งไปเฉย ๆ ก็คงไม่ได้ ดังนั้นการที่เราจะเล่นเกมเก่าหรือเกมใหม่ไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าเราเล่นเกมไหนสนุกและมีความสุขมากกว่ากันเท่านั้นเอง อ้างอิงจาก : Steam Chart  ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

จบไปแล้วกับอีกหนึ่งทัวร์ใน Patch 7.22 กับการแข่งขัน ESL One Hamburg 2019 ที่อยู่กับเรามาอย่างยาวนานโดยการเพิ่มอักษรมาเรื่อยๆ จาก b c d จนถึงตัว h โดยทุกครั้งที่เปลี่ยนอักษรจะมีการปรับเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เราเห็นการเล่นฮีโร่ตัวเดิมๆ วนไปวนมา ถึงจะหาวิธีแก้ทางกันได้ เพราะความนานของ Patch แต่ภาพรวมที่เราเห็นก็เหมือนเดิมอยู่ดี เรามาดูฮีโร่ top 12 ตัว ที่มีการ เลือก-แบน เยอะที่สุดในงาน ESL One Hamburg 2019 ที่ผ่านมากันดีกว่า อันดับ 1 - Faceless Void Carry ที่เราจะเจอแทบทุกเกมในช่วงนี้ เพราะจะหยิบตอนไหนก็ได้ โดยแค่คุณดวงดีนิดๆ หน่อยๆ ตีแล้วติด Bash ก็ชนะทุกตัวได้ไม่ยาก มี Sustain ฟื้นเลือดได้จากสกิล Time Walk และ Slow หมู่บวกทำให้ Cooldown ฝั่งตรงข้ามเพิ่มขึ้นจากสกิล Time Dilation มีทีเด็ดคือสกิล Chronosphere ที่หยุดเวลาหมู่ เรียกได้ว่ามีผลอย่างมากในทีมไฟต์ ถึงสกิลจะมี Cooldown ที่นาน แต่ก็สามารถลดลงได้ด้วยไอเทม Aghanims Scepter ทำให้ตัวสกิลใช้ได้เกือบทุกไฟต์ แล้วมันจะไม่ใช่ตัว อันดับ 1 ได้อย่างไร (ถ้าพึ่งดูโจโจ้มาจะตะโกน ora ora ora!!! เพื่อเพิ่มความอินก็ได้นะ อาจจะทำให้ Bash มากขึ้น) การที่ถูกเอามาเล่นบ่อยมากๆ ทำให้ตอนนี้ Bloodseeker / Gyrocopter / Lycan / Alchemist ถูกหยิบมาเล่นบ่อยมากๆ เช่นกัน เพราะสามารถทำเกมได้ไวกว่า Void ตัว Keeper of the Light / Winter Wyvern ก็ถูกหยิบบ่อยขึ้นเช่นกัน เพราะสามารถใช้สกิลขัด Void จากนอก Chronosphere ได้ อันดับ 2 - Abaddon  Offlane/Support 5 ตั้งแต่บัฟครั้งล่าสุด ก็ทำให้มันสู้ในเลนเก่งขึ้นมาก Player บางคนเห็นฮีโร่ฝั่งตรงข้าม แล้วรู้ว่าชนะในเลนได้สบายๆ ก็ซื้อ Orb Venom + อัพสกิล Curse of Avernus มาไล่ตีกดดันก็ได้ ยังสามารถแก้ทาง Arrow ของ Mirana ด้วยสกิล Aphotic Shield อีกด้วย และต่อให้ตัว Abaddon แพ้ในเลน ตัวเขาก็ยังมีประโยชน์อยู่ดีจากสกิลต่างๆ   อันดับ 3 - Kunkka Mid/Offlane เป็นตัวที่มีแค่เลเวล 6 ก็เก่งไม่ต้องใช้ของเยอะ ในทีมไฟต์ก็สตรองดี เดินเกมได้เร็ว ไล่จับคนหลงได้ดี อยู่ในเลนก็เก่ง ครบเครื่องขนาดนี้ไม่แปลกใจที่จะเห็นมาตั้งแต่งานThe International 2019 อันดับ 4 Gyrocopter Mid/Carry อยู่มาตั้งแต่ The International 2019 เช่นกัน ช่วงแรกต้องการ Ogre magi มาบัฟสกิล Bloodlust ให้ แต่พอกลางเกมเป็นต้นไป Gyrocopter จะเป็น Carry ที่บวกได้ทั้งเกม พลิกแพลงในการเล่นได้เยอะ ยังมีพลังจาก Aghanims Scepter พร้อมกับ Item อื่นๆ ที่จะทำให้ในช่วงท้ายเกมยังเก่งจัดๆ อยู่ อันดับ 5 - Magnus Offlane/Sup4-5 ตัวนี้ง่ายๆ เลย คือบัฟ Magnus +  ฮีโร่ตีประชิดอะไรก็ได้ เพื่อให้สามารถฟาร์มได้เร็วขึ้น เหมือนได้ไอเทม Battle Fury มาโดยไม่ต้องซื้อ แต่ยังไงก็ตามพลังในเลนมันต่ำมาก ต้นเกมทำอะไรไม่ค้อยได้ ถ้าคนที่บัฟให้ เล่นได้ไม่ดี บอกเลยโอกาสแพ้สูงมาก อันดับ 6 - Leshrac ฮีโร่ที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งยกเว้น Sup5 เพราะสิ่งที่ต้องมีแค่เลเวล คลายๆ กับ Kunkka แต่ม้าเวรนี้สามารถทำลายป้อมได้ไวกว่ามาก แต่แลกมากับความถึกที่น้อยกว่ามาก จริงๆ ตัวนี้มันก็เป็นที่นิยมมานานแล้วอะนะ อันดับ 7 - Mirana ตำแหน่ง Sup4 ซึ่งในการแข่งขัน The International 2019 ฮีโร่ตัวนี้ถูกหยิบบ่อยมากๆ เพราะพลังในการกดดันอีกฝ่ายจากสกิล Sacred Arrow ที่สามารถ Stun ได้สูงสุดถึง 5 วินาที และสกิล Moonlight Shadow ที่จะทำให้เพื่อนรวมทีมทุกคนหายตัวได้ ช่วงท้ายเกมยังสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น Carry ได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่เห็นบ่อยๆ มานานแล้วเช่นกัน อันดับ 8 - Bloodseeker ตำแหน่ง Carry ซึ่งส่วนมากจะโดนแบนมากกว่าเลือกมาเล่น เพราะการจะใช้ Void เป็น Carry ก็เลยไม่อยากเจอ Bloodseeker ที่สามารถเดินเกมได้ไวกว่า แค่มี Rupture ก็เริ่มเดินเกมได้แล้ว พูดง่ายๆ ว่าคนเล่น Void ไม่ถูกใจสิ่งนี้อะแหละ อันดับ 9 - Ourworld Devourer อีกหนึ่ง Midlane ที่โดนแบนมากกว่าเลือก เพราะ Ourworld Devourer มีสกิล Astral Imprisonment ที่พร้อมขัดฮีโร่ได้แทบทุกตัวในเกม พร้อมทั้งยังมี Arcane Orb ที่ทำดาเมทได้สูงมาก และเป็นฮีโร่ที่แก้ทาง Morphling ใน Fight ได้ดีสุดๆ อีกด้วย  อันดับ 10 - Rubick ฮีโร่ Sup4 ครอบจักรวาล หยิบมาเล่นได้ทุกแผน เก่งตามฝืมือคนเล่น อันดับ 11 - Legion Commander Offlane คล้ายๆ Abaddon แต่เด่นในเรื่องการทำ Damage มากกว่า สามรถจับตายได้ 1 ตัว มี Move Speed สูงมาก + สกิล Overwhelming Odds เป็น Abaddon ที่ดุดีนกว่า และออกไอเทมได้หลากหลายกว่า อันดับ 12- Undying ตำแหน่ง Sup5 ที่ในเลนมีพลังในการกดที่สูงมากๆ พร้อมกับสกิลที่จะใช้ Heal หรือ ทาดาเมจก็ได้อย่าง Soul Rip ที่ปรับมาใหม่ให้ใช่ง่ายขึ้น ในทีมไฟต์เองก็เก่งมากๆ แต่ข้อเสียคือตัว Undying แทบไม่มีสกิลหยุดการเคลื่อนที่เลย ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางที่มี Pro Player ใช้ในการแข่งขัน ถึงจะดูเดิมๆ น่าเบื่อๆ จนส่งผลให้ผู้เล่น DOTA 2 ลดลงลงอย่างมาก เราคงต้องรอการอัปเดตต่อไป ที่ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ใหนถึงจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่นี้ก็เป็นแนวทางในการเลือกตัวเวลาเล่น ถ้าคิดอะไรไม่ออกแต่อยากชนะ ถ้าเพื่อนๆ มีฮีโร่ตัวไหนที่อยากแนะนำเพิ่มเติมมาคุยกันต่อได้เลยครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในช่วงเดือนสิงหาคม 2019 ที่ผ่านมารายการ The International ปี 2019 สามารถทำเงินรางวัลรวมของทัวร์นาเมนต์ได้มากถึง 34,200,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 1 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินประเทศไทยจนกลายเป็นการแข่งขันด้าน Esports ที่มีเงินรางวัลรวมมากที่สุดในโลก ซึ่งหลาย ๆ เกมเมอร์อาจจะไม่รู้ว่าเงินรางวัลของรายการนี้มากกว่า 90% มาจาก 25% ของยอดขาย Battle Pass Battle Pass หรือในบางเกมเรียก Season Pass ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาเงินของเกมต่าง ๆ ในยุคปัจจุบัน ที่เป็นการต่อยอดมาจากระบบ Subscribe ที่จะมอบความคุ้มค่าในการเติมมากกว่าปกติ อีกทั้งยังทำให้ผู้เล่นสายเติมสามารถที่จะต่อยอดไปได้เรื่อย ๆ ทำให้ระบบนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในเกมต่าง ๆ มากขึ้น นำไปสู่คำถามที่ว่าทำไมเกมในยุคนี้ถึงนิยมระบบนี้มากขึ้นวันนี้เรา GameFever TH จะไปหาคำตอบกัน เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสายกระเป๋าบางและกระเป๋าหนัก ระบบ Battle Pass ถูกออกแบบมาจากระบบ Subscribe อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้เพียงการซื้อมาตั้งแต่ Level 1 ถือว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะส่วนมากแล้วระบบนี้จะให้ไอเทมแก่ผู้เล่นตั้งแต่เราเริ่มซื้อเลยทีเดียว เพื่อเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนควักเงินในกระเป๋าออกมาซื้อ ในขณะที่ผู้เล่นสายเปย์คุณจะสามารถคำนวณรายจ่ายได้เลยว่า เติมเท่าไหร่คุณถึงจะได้รับไอเทมที่ต้องการทำให้เราสามารถเปย์เงินได้อย่างสบายใจมากขึ้น ซึ่งส่วนมากตัว Battle Pass จะมีระบบมารองรับตามความสามารถด้านการเงินของเรา ที่ยิ่งเราเติมเงินเยอะไอเทมที่เราจะได้ย่อมมีค่ามากเท่านั้น มีสิทธิพิเศษที่ผู้เล่นทั่วไปไม่มี สำหรับบางเกม Battle Pass ไม่ได้มีให้ไอเทมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ผู้เล่นสายฟรีไม่สามารถรับได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น สิทธิในการเล่นโหมดพิเศษ ฟังก์ชันพิเศษที่เพิ่มมาจากเกมปกติ นอกจากนี้ในบางเกม Battle Pass ยังเป็นการสนับสนุน Esports ของเกมอีกด้วย ทำให้เมื่อเราซื่อสิ่งของเหล่านี้แล้วรู้สึกคุ้มค่าเพราะนอกจากจะได้ไอเทมแล้ว ยังมีสิทธิพิเศษอีกต่างหาก ส่วนมากมาในรูปแบบ Limited Edition /Time Exclusive หลาย ๆ คนย่อมจะรู้ดีกว่าการขายในรูปแบบ Battle Pass ไอเทมในนั้นหลาย ๆ ชิ้นมักจะเป็นรูปแบบ Limited Edition ที่ส่วนมากจะไม่สามารถหาได้ทั่วไปในเกม โดยไอเทมใน Battle Pass ใหญ่มักจะออกแบบมาได้เท่กว่าไอเทมในเกมทั่วไป ทำให้เราจะต้องควักเงินซื้อเสมอ นอกจากนี้ในบางครั้งไอเทมพิเศษใน Battle Pass มักจะเป็นไอเทมแบบ Time Exclusive ที่จะให้ความรู้สึกประมาณว่าซื้อก่อนใช้ก่อน ซึ่งการใช้ไอเทมก่อนนั้นมีระยะเวลาแตกต่างกันในแต่ละเกม ซึ่งบางเกมก็อาจจะหลังการวางจำหน่าย บางเกมก็อาจจะเป็นปีถัดไปเลยทีเดียว มีระยะเวลาในการขายที่ยาวนาน เนื่องจากการที่ไอเทมมาในรูปแบบของ Limited Edition ทำให้ระบบนี้ต้องมีระยะเวลาในการขายที่นาน ทำให้เกมเมอร์หลาย ๆ คนที่อาจจะไม่ได้มีกำลังทรัพย์สูงมาก สามารถที่จะสะสมเงินในการซื้อเลเวลหรือไอเทมต่าง ๆ ได้ทันเวลา ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว Battle Pass จะมีระยะเวลาในการขายมากกว่า 1 เดือนเลยทีเดียว เหตุผลหลัก ๆ ที่กล่าวมาในข้างต้นล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบ Battle Pass หรือ Season Pass ได้รับความนิยมในเกมต่าง ๆ และมีแนวโน้มว่าในอนาคตเกมต่าง ๆ จะหันมาใช้ระบบนี้กันมากขึ้น ดังนั้นเกมเมอร์ทั้งหลายอาจจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Multiplayer Online Battle Arena หรือที่เรามักจะเรียกกันแบบติดปากว่า MOBA ถือว่าเป็นหนึ่งในแนวเกมที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากรูปแบบการเล่นที่เล่นง่าย ดูง่าย เข้าใจง่าย ทำให้เกมแนวนี้มักจะกลายเป็นกีฬา Esports ที่มีเงินรางวัลมหาศาลมากมายหลายเกม ทั้ง Dota 2 , LoL , RoV หรือ Mobile Legends เป็นต้น สำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสกับเกมแนวนี้และอยากที่จะเก่งขึ้นแบบรวดเร็ว วันนี้เรา GameFever TH มีเทคนิคมาแนะนำ 1.รู้จักกฎของเกมขั้นพื้นฐาน หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเกมแนว Moba ก็เหมือน ๆ กันไปหมดคือตีป้อมไปเรื่อย ๆ จนถึงฐานใหญ่แล้วชนะ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ในทุก ๆ เกม เนื่องจากบางเกมการจะเน้นวัตถุประสงค์ต่างกัน เช่นบางเกมเน้นในเรื่องของการเดินเกมของตัวละครต่าง ๆ บางเกมเน้นในเรื่องของการทำ Objective บางเกมเน้นในเรื่องของการเอาชนะกันในทีมไฟว์ ดังนั้นเราจะต้องเข้าใจกฎพื้นฐานของเกมต่าง ๆ ให้แน่น เพราะหากเราไม่เข้าใจในจุดนี้จะทำให้เราไปต่อได้ยาก 2.ทำความรู้จักกับตัวละครต่าง ๆ ของเกม เกม Moba จุดเด่นที่สุดของเกมแนวนี้คือตัวละครต่าง ๆ จะถูกบังคับด้วยผู้เล่นและต้องร่วมมือกันเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ ทำให้การทำความรู้จักกับตัวละครต่าง ๆ เป็นเรื่องพื้นฐานของเกมแนวนี้ เราควรรู้จักกับตัวละครต่าง ๆ ว่ามีสกิลอะไร มีจุดเด่นอะไร รวมถึงเหมาะสมกับตำแหน่งไหนในทีม ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยทำให้เราเล่นเกมเหล่านี้ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถที่จะเรียนรู้ในเรื่องของการรับมือได้อีกด้วย ดังนั้นหากเป็นไปได้พยายามที่จะลองเล่นตัวละครต่าง ๆ ให้ครบทุกตัว 3.แผนที่คือหัวใจของเกม Moba เนื่องด้วยการที่เกมแนว Moba จะมีสมรภูมิในการต่อสู้ที่ใหญ่ ทำให้แต่ละเกมจะต้องสร้างแผนที่ขึ้นมาเพื่อที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับความสะดวกสบายในการเล่นมากขึ้น นอกจากนี้แผนที่ยังถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นำไปสู่ชัยชนะ เพราะถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลชั้นยอดในการเอาชนะอีกฝ่าย เช่นหากเรามองไม่เห็นตัวละครของอีกฝั่งเลยในแผนที่เราจะต้องเริ่มที่ระวังตัว หรือการที่ตัวละครของอีกฝ่ายอยู่ในแผนที่คนเดียวก็สามารถที่จะเรียกเพื่อนมาจัดการได้เป็นต้น 4.ศึกษา Meta Meta หรือเรียกแบบเข้าใจง่าย ๆ คือแผนการเล่นที่เก่งในช่วงระยะเวลานั้น ๆ ที่จะมีผลต่อการเลือกตัวละคร เช่นหากตัวเกมเน้นในการต่อสู้ตัวละครที่มีสกิลแบบกว้างหรือสามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็วจะเก่ง หรือในเกมที่เน้นการเก็บเงินเพื่อซื้อไอเทม ตัวละครที่มีความสามารถในการหาเงินย่อมเก่งกว่าตัวละครอื่น ๆ เสมอ นอกจากนี้ Meta ในเกม Moba นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้เราต้องศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดี 5.ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครเก่งเกม Moba จากการเล่นเกมเพียงไม่กี่เกม ดังนั้นหากเราอยากที่จะเก่งในเกมแนวนี้ การฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ให้เชี่ยวชาญจึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเราอาจจะเริ่มจากตัวละครที่เราชอบก่อนหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ฝึกตัวละครต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนเก่ง นอกจากนี้เราควรที่หาความรู้เกี่ยวกับเกมแนวนี้ตลอดเวลาเพื่อให้เราปรับตัวได้ทันกับตัวเกม ซึ่งวิธีลัดที่เร็วที่สุดคือการดูเหล่า โปรเพลยเยอร์ว่าเขาเล่นยังไงแล้วเราลองนำเอามาปฏิบัติตาม เพียงเท่านี้ฝีมือของเราก็เพิ่มขึ้นแล้วอย่างแน่นอน 5 เทคนิคที่พวกเรา GameFever TH นำเสนอในวันนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังเริ่มเล่นเกมแนว Moba ไม่มากก็น้อย หากใครมีเทคนิคดี ๆ ก็สามารถแนะนำกันมาได้เลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

จากวันที่ 7 ตุลาคม 2019 ทางทีม Fnatic ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีม Dota 2 โดยมีผู้เล่นเก่าที่ต้องการออกจากทีม 2 คนคือ DuBu อดีตโค้ชที่กลายมาเป็นผู้เล่น และ Abed Midland No.1 Sea แต่ถึงอย่างนั้นทีม Fnatic ก็ยังผ่านรอบ Closed Qualifier เข้าแข่งในรายการ MDL Chengdu Major มาได้ โดยก่อนแข่งในเกมแรก Jabz ผู้เล่นของทีม Fanatic ขวัญใจชาวไทยได้มีการโพสต์ข้อความบน Facebook ว่า แต่มันพีคตรงที่ดันชนะแล้วเข้ารอบไปได้เนี่ยแหละ งั้นทางเราจึงจะพาไปดูว่าผู้เล่นของทางทีม Fnatic ตอนนี้แต่ละตำแหน่งเป็นใครบ้าง บอกก่อนเลยว่ามีคนไทยอยู่ในทีมระดับโลกนี้ถึง 2 คนเลยทีเดียว! 23Savage – Carry (Pos1) ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เคยมีแต้ม MMR เป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟ SEA ด้วยอายุเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น และมีผลงานเกือบได้ไป The International 2019 กับทีม Team Jinesbrus โดยรูปแบบการเล่นเป็นผู้เล่นที่มีการฟาร์มที่รวดเร็ว ฟาร์มได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าทีมจะเสียเปรียบแค่ไหนก็ตาม ซึ่งนับเป็นผู้เล่นที่ทีม Fnatic ยังคาดไปจริงๆ สำหรับตำแหน่ง Carry ฮีโร่ที่ถนัด : Morphling , Juggernaut , Anti-Mage Moon – Midlane (Pos2) ผู้เล่นใหม่ของทีม Fnatic แต่เรากลับไม่รู้สึกแปลกใจกับ Moon ผู้เล่นที่เคยอยู่ทีม Mineski มาก่อน โดยรูปแบบการเล่นของเขาจะเน้นไปทีการเดินเกมอย่างหนักหน่วง จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นการเงินของเขานั้นไม่ได้สูงมาก แต่นั้นก็ทำให้ผู้เล่นตำแหน่ง Carry ของทีมสามารถโฟกัสกับการฟาร์มได้อย่างเต็มที่ ตัวละครที่ถนัด : Tinker , Shadow Fiend , Puck IceIceIce – Offlane (pos3) มี Jabz ที่ไหนมี IceIceIce ที่นั้น ผู้เล่นที่เป็นระดับตำนานกับประสบการณ์ที่โชกโชน แต่หลายๆ คนก็ออกมาพูดว่า "การเล่นของเขามันเก่าเกินไปแล้ว" ในปีที่แล้วผลงานของเขาก็ทำออกมาได้ไม่ดีนัก ต้องมารอดูว่าประสบการณ์ของเขาจะส่งผลออกมาช่วยทีมใหม่ได้มากขนาดไหน ส่วนรูปแบบที่เราเห็นเขาเล่นบ่อยๆ นั้นก็คือการที่จะเล่นตัวที่สามารถเล่น Solo ได้ดี และส่วนใหญ่จะเป็นตัวที่ต้องการเงินและเลเวลพอสมควร ทำให้ช่วงท้ายเกมเขาก็เปรียบเหมือน Carry อีกหนึ่งคนของทีมนั้นเอง ตัวละครที่ถนัด : Timbersaw , Pangolier , Tidehunter DJ - Semi support (Pos4) ผู้เล่นที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟาร์มอย่างมากอีกคนหนึ่ง จนบางครั้งเงินของเขาจะมากกว่าผู้เล่นตำแหน่ง Core คนอื่นๆ ซะอีก เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่เล่นได้เสมอต้นเสมอปลายมากๆ รูปแบบการเล่นของเขาจะต้องการพื้นที่ในการฟาร์ม ชอบแยกออกไปดันเลนคนเดียว จนมีไอเทมมาช่วยทีม เรียกได้ว่านี้ละ Carry ที่มองไม่เห็นของทีม Fnatic ตัวละครที่ถนัด : Enigma , Rubick , Earth Spirit Jabz – Support (Pos5) กัปตันของทีม Fnatic คนปัจจุบัน เป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง และฮีโร่เกือบทุกตัว มีสไตล์การเล่นที่เน้นเดินเกมอย่างหนักหน่วง สร้างพื้นที่ในการฟาร์มให้กับ Carry ของทีมได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังเป็นการกดดันทีมอีกฝ่ายไปในตัว เป็นอีกนหนึ่งผู้เล่นที่เรียกได้ว่าเป็น "หอบัญชาการเดินได้" ของทีม Fnatic เลยก็ว่าได้ ตัวละครที่ถนัด : Earth Spirit , Io , Naga Siren สรุป  ทีม Fnatic ปัจจุบันดูมีความลงตัวกว่าผู้เล่นชุดก่อนมาก จากการเล่นในรายการล่าสุด Fnatic เป็นทั้งทีมที่เน้นสร้างพื้นที่ให้ 23Savage ได้ฟาร์ม และให้ตัว 23 เองเล่นเป็นพวกฮีโร่ Hard Carry ที่มีอิมแพ็คช่วงท้ายเกมสูง ตลอดการเล่นที่ผ่านมาทุกทีมที่เจอจะเจอปัญหาหยุด 23Savage ไม่ได้ ต้องติดตามดูว่าแผนนี้จะใช้เล่นได้อีกนานแค่ใหน จะมีแผนใหม่หรือไม่ ในการแข่งรอบต่อๆ ไป ปิดท้ายด้วย Highlights Fnatic vs Cignal Ultra SEA Final  MDL Chengdu Major 2019 ซึ่งเป็นการประเดิมเกมแรกของทีมชุดใหม่นี้ ถ้าใครที่สนใจทีม Fnatic ชุดนี้ยังไง สามารถติดตามผลงานต่อได้ในรายการ MDL Chengdu Major 2019  ในวันที่ 16 - 24 พฤศจิกายน 2019 นี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=NakX9i6N-Ks

ในช่วงนี้ Valve ผู้ให้บริการเกม Dota 2 ได้มีการพยายามในการปรับปรุงเกมให้ดีขึ้น โดยระบบ Matchmaking ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ทาง Valve ได้นำมาให้แล้วเห็นผลมากที่สุดคือการแบนเหล่าผู้เล่นที่พฤติกรรม Toxic ซึ่งไม่ได้มีผลเฉพาะผู้เล่นธรรมดาเท่านั้นเหล่าผู้เล่นโปรเพลเยอร์ก็ไม่รอด EternaLEnVy โปรเพลเยอร์ชื่อดังจากทีม Fighting PandaS ที่หนึ่งในจุดเด่นของเขาคือความหัวร้อนไม่ว่าจะเป็นกับเพื่อนร่วมทีมหรือศัตรู โดยหลังจากที่ Valve ได้อัปเดตระบบ Matchmaking ใหม่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา ทำให้เขาโดนแบนย้อนหลังเป็นระยะเวลามากถึง 6 เดือน เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่ทาง Valve พยายามจะมอบไปยังผู้เล่น Toxic หลาย ๆ คน เนื่องจากแต่เดิมคนกลุ่มนี้ไม่ค่อยกลัวโทษแบนเท่าไหร่ แต่หลังจากอัปเดตล่าสุดก็มีการแบนไปยังผู้เล่นหลายคน รวมถึงมีผลย้อนหลังอีกด้วย ทำให้บางคนโดนแบนเป็นเวลานานถึง 19 ปี เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้สังคมในเกม Dota 2 นั้นดีขึ้นไม่มากก็น้อย ที่มา:dotesports.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Ranking หรือการจัดอันดับถือว่าเป็นหนึ่งในระบบที่ยุติธรรมที่สุดของเกมต่าง ๆ ในการวัดฝีมือของผู้เล่นแต่ละคน ในบางเกมถือว่าเป็นหนทางก้าวแรกสู่การเป็นนักกีฬา Esports เลยทีเดียว ทำให้การไต่ Ranking ให้ได้สูง ๆ จึงเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนอย่างไม่ต้องสงสัย ในเกม Dota 2 ก็เช่นกันการที่ Ranking ระดับสูงสามารถนำไปต่อยอดหลาย ๆ อย่าง ทั้งการเป็นนักกีฬา Esports การเป็นนักวิเคราะห์หรือแม้กระทั่งนำไปโม้ให้เพื่อน ๆ ฟังยังได้เลย แต่ถึงกระนั้นการไต่ Rank ของเกมนี้เป็นอะไรที่ยากพอสมควรเฉกเช่นกับผู้เล่นเกมแนว Moba อื่น ๆ ที่เราจะต้องร่วมมือกับเกมเมอร์ในทีมอีก 5 คนที่ไม่เคยรู้กันมาก่อน อีกทั้งสังคมในเกมโดยเฉพาะ Rank ต่ำ ๆ ค่อนข้างจะยากลำบากสำหรับมือใหม่ เพราะต้องเจอผู้เล่น Toxic ไปจนถึงเหล่าคน Smurf ที่พร้อมจะสร้าง ID ใหม่เพื่อเสพความสนุกส่วนตน อีกทั้ง Dota 2 เองก็มีการรี Rank ทุก ๆ 6 เดือน ทำให้ต้องใช้หลาย ๆ อย่างทั้งทักษะ การคิดวิเคราะห์เกม รวมถึงความขยันในการเล่นอีกด้วย [caption id="attachment_30080" align="alignnone" width="1024"] Topson กับกุญแจดอกแรกของการเป็น Proplayer[/caption] เพื่อเป็นการต้อนรับการระบบ Ranking ในรูปแบบใหม่และฤดูกาลไต่ Rank ที่กำลังเริ่มต้นพวกเรา Gamefever จึงขอแนะนำวิธีการไต่ Rank แบบเข้าใจได้ง่ายและปฏิบัติได้จริงมามอบให้กับเพื่อน ๆ ครับ 1.ตั้งเป้าหมายในการไต่ Rank แบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป หลาย ๆ คนเมื่อกดปุ่ม Ranking แล้วต่างก็ต้องหวังว่ารอบนี้จะต้องได้ Rank ระดับ Immortal ขึ้นไปแน่นอน แต่เมื่อเล่นไปเล่นมาเริ่มพ่ายแพ้ก็เกิดอาการท้อ โดยเฉพาะเมื่อแพ้ติดกันหลาย ๆ ตาจนเหนื่อย ทำให้เราไม่อยากที่จะไต่ Rank อีกต่อไปและไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น สำหรับการไต่ Rank เราควรกำหนดเป้าหมายแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเช่น วันนี้ +100 MMR วันนี้เล่นเพียง +50 MMR พอ วันนี้ - 100 MMR แล้วพักก่อน ซึ่งการตั้งเป้าหมายแบบค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปจะทำให้เรามีกำลังใจที่ไต่ Rank แม้จะยากแค่ไหนแล้วค่อยพัฒนาฝีมือขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนกับฝึกวิ่งที่เราจะเริ่มจากการวิ่งช้า ๆ ก่อนแล้วค่อยปรับระดับในภายหลัง 2.เลือกตัวละคร Main หลักของเรา การเล่นแบบ Solo นั้นเราควรจะสามารถที่จะเล่นตัวละครได้อย่างหลากหลาย เพราะในบางเกมเราไม่สามารถที่จะเลือกตำแหน่งที่เราชอบได้หรือถนัดได้เสมอไป ดังนั้นเราควรที่จะมีตัวละครที่เราถนัดในทุก ๆ ตำแหน่งเพื่อที่เราจะได้มีความมั่นใจทุกครั้งที่เราได้เล่นตำแหน่งต่าง ๆ เพราะใน Ranking ที่ไม่สูงนั้นความมั่นใจในการเล่นมีความสำคัญมากกว่าการแก้ทาง แต่หากเป็นระดับ Ancient อาจจะต้องระวังการแก้ทางไว้ด้วย โดยเราควรจะเล่นตัวละครให้ได้อย่างน้อยตำแหน่งละ 2 ตัวเป็นขั้นต่ำ (10 ตัวละคร) รวมถึงแรกๆ พยายามอย่าจำกัดตัวเองที่จะเล่นตำแหน่งในตำแหน่งหนึ่ง อาจจะลองฝึกซักสามตำแหน่งเช่น Main Support แต่อาจจะฝึกเล่น Carry หรือ Off-Lane บ้างก็ได้ เพื่อให้คุณจะได้รู้จังหวะและเข้าใจการเล่นของหลายๆ ตำแหน่ง เผื่อประสบการตรงนี้อาจจะทำให้คุณรู้งานมากขึ้นนั่นเอง อย่างเช่นถ้าเป็น Support คุณอาจจะต้องไปช่วยเหลือตรงกลางเพื่อฆ่าศัตรูหรือกดดันบ้าง เพราะจากประสบการณ์ที่เคยลองจับๆ มา ถ้าเลเวลหรือไอเท็มตำแหน่งกลางนำกว่าศัตรู อาจจะทำให้เดินเกมได้ดีในช่วงกลางเกมเป็นต้น 3.ฝึกตัวละครต่าง ๆ ให้มีความชำนาญ หลังจากที่เราเลือกตัวละครหลักของเราแล้ว หน้าที่ตามมาคือ "ฝึก" เพราะว่าการที่จะเล่นให้ตัวละครเก่งนั้น ผู้เล่นจะต้องมีความเข้าใจในตัวละครนั้น ๆ เช่นกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องฝึกฝนและหาความรู้เกี่ยวกับตัวละครนั้น ๆ ให้มากที่สุด โดยง่ายที่สุดคือการเล่นใน Public Game และการตามหาอ่านไกด์ของตัวละครจากเว็บต่าง ๆ หรือแหล่งวิดีโออย่าง YouTube นอกจากนี้แล้วเราควรที่จะเรียนรู้เคล็ดลับต่าง ๆ ในการเล่นตัวละครของเราว่าเล่นคู่กับใครเก่ง (Combo) เก่งเวลาไหน (Timing) มีเคล็ดลับอะไรบ้าง (Tips) รวมถึงการแก้ทาง (Counter) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นพื้นฐานของเกม Dota 2 ที่เราจะต้องแม่น หากอยากไต่ Ranking ให้ได้สูง ๆ 4.การสื่อสารคือปัจจัยสำคัญในการเอาชนะ การเล่นเกมเป็นทีมสิ่งที่สำคัญมากคือ "การสื่อสารระหว่างผู้เล่นในทีม" เพราะเราสามารถที่จะสร้างความเข้าใจที่ตรงกันได้และทำให้การเล่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ด้วยความที่เกม Dota 2 นั้นบ้านเราเล่นผ่านเซิร์ฟเวอร์ Singapore เป็นหลักร่วมกับเพื่อนบ้านในอาเซียน ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสารของเกมนี้ เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นอย่างมากสำหรับเกมเมอร์บางคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง รวมถึงเพื่อนบ้านของเราบางประเทศก็ไม่ได้สื่อสารภาษาอังกฤษกับเราด้วยเช่นกัน แต่เกม Dota 2 ก็เหมือนกับเกม Moba อื่น ๆ ที่ภาษาในการสื่อสารสามารถเข้าใจเหมือนกันได้ทุกประเทศ เช่นคำศัพท์ง่าย ๆ อย่าง "Back" , "Heal" , Kill + ชื่อตัวละคร ก็สามารถเข้าใจกันได้ทั้งอาเซียน แต่ปัญหายังไม่หมดเท่านั้น ในบางครั้งเราจะต้องเจอกับผู้เล่นที่มีอาการหัวร้อน เอาแต่ใจ EGO ซึ่งผู้เขียนจะมอบคาถาให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนคือ "อดทน" เพราะว่า Dota 2 นั้นเล่นเป็นทีมและเล่นกันเพียงไม่กี่จังหวะ การโยนเกมเพียงแค่ครั้งเดียวอาจจะสร้างหายนะให้กับทีมได้ ดังนั้นอะไรยอมได้ยอมไปก่อนหลังจากชนะแล้วค่อยเพิ่มชื่อเพื่อนไปด่ากลับภายหลัง (ฮา) นอกจากนี้หากเราทำอะไรผิดการขอโทษจะทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น 5. เตรียมตัวให้พร้อม [caption id="attachment_30084" align="aligncenter" width="600"] รูปจาก Instagram: sharishanya[/caption] การเล่น Ranking เป็นการเล่นที่จริงจัง ซีเรียสและค่อนข้างที่จะกดดัน ทำให้การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการเล่นมีส่วนต่อการจะคว้าชัยชนะในการเล่นเกม ไม่ใช่เฉพาะการเตรียมตัวในเกมเท่านั้นแต่การเตรียมตัวนอกจอก็มีความสำคัญมาเช่นกัน ดังนั้นเราจะต้องเตรียมตัวของเราให้พร้อมในทุกด้านดังนี้ เคลียร์ธุระต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ทำร่างกายให้พร้อมในการเล่น หาความรู้เพิ่มเติมเสมอ ศึกษา Replay ย้อนหลังเป็นประจำ รวมถึงการดู Replay ของผู้เล่นระดับสูง ปรับอารมณ์ให้รู้สึกกระหายในชัยชนะเสมอ การไต่ Rank ของเกม Dota 2 ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปหากเราจริงจังและตั้งใจกับมัน ขอให้เกมเมอร์ชาว Dota 2 ไต่ Rank จนถึง Immortal กันทุกคนครับผม อ้างอิงจาก: dotafire.com

Dota2 เกมโมบ้าชื่อดังที่มีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าพอเป็นเกมที่มีคนเล่นเยอะ เราก็มักจะเห็นกลุ่ม Toxic Player ที่มีอยู่เยอะเป็นเงาตามตัวเช่นกัน ล่าสุดดูเหมือนผู้พัฒนาอย่าง Valve เองก็เริ่มจะทนไม่ไหว จึงได้เริ่มมาตรการแบนเหล่า Toxic Player แล้ว โดย Luke Plunkett ซึ่งเล่น Dota2 ในโซน Regions 2 ได้โพสลง Community ว่า "เขาทำอะไรผิด ถึงได้โดนแบนเป็นเวลา 19 ปี?" ซึ่งแน่นอนว่าก็มีคนเริ่มเข้าไปหาในเว็บไซต์ Dotabuff ว่าเขาทำอะไรผิดมาถึงได้โดนแบนถึง 19 ปี และพบว่าเพลเยอร์คนนี้มีจำนวนการออกจากเกมสูงถึง 60% ทำให้ไม่แปลกที่จะโดนโทษหนักขนาดนี้ ถ้าเล่น Dota2 ก็อย่าไปออกเกมเยอะนะครับเดียวโดนแบน 19 ปี Credit : Kotaku ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2019 ที่ผ่านมาทาง Facebook ของทีม EG ได้ประการถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในทีมแข่งขันเกม Dota 2 ที่ได้สูญเสียผู้เล่นไปถึง 2 คนอย่าง Sumail ผู้เล่นผู้อยู่กับทีมมานานถึง 5 ปีและ S4 ผู้เล่นมากประสบการณ์คนหนึ่งของวงการ Dota 2 ไป จึงทำให้ทางทีมต้องดึงผู้เล่นเข้ามาแทน และก็ต้องบอกเลยว่าการเปลี่ยนแปลงนี้น่าสนใจ วันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาวิเคราะห์เจาะทีละตำแหน่งกับไลน์อัพปัจจุบันนี้กัน Abed - Midlane แม้ว่าแฟน ๆ หลาย ๆ คนจะรู้สึกเสียดายที่ The King หรือ Sumail ผู้เล่นตำแหน่ง Midlane ผู้ที่อยู่กับทีมมานานถึง 5 ปีต้องแยกออกจากทีมไป แต่ Abed ก็ไม่ใช่คนที่ไหนไกล เขาถือผู้เล่น Dota 2 ที่มีฝีมือจัดจ้านในโซน SEA แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ในการแข่งขันรายการ The International 2019 ทีม Fnatic ทีมเก่าของเขามีผลงานไม่ดีนัก โดยกลับบ้านไปในอันดับที่ 13-16 ร่วม ทำให้เราต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Abed จะแบกทีมได้เหมือนกับ Sumail หรือไม่ ตัวละครที่ถนัด : Meepo , Invoker , Thinker  Arteezy - Carry Arteezy ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ในการเล่นที่สูง อีกทั้งเขาเองก็มีฝีมือที่คงเส้นคงว่าเอามาก ๆ จนในบางเกมถึงขึ้นแบกทีมร่วมกับ Sumail ซึ่งในการแข่งขัน The International 2019 ที่ผ่าน Arteezy สามารถทำงานได้อย่างดี แต่แล้วทีม EG มั่นใจในฝีมือเกินไปทำให้พวกเขาถูกแก้ทาง เพราะตำแหน่งของเขาที่ตัวละครของเขาที่เล่นเก่งมีน้อย จึงทำให้ถูกดักทางได้ง่ายนอกจากนี้โค้ชของ EG ยังดึงดันที่จะให้เขาเล่นตัวละครเดิม ๆ ตัวละครที่ถนัด : Arc Warden , Terrorblade , Lycan RAMZES666 - Offlane ถือว่าเป็นหนึ่งในการปรับตำแหน่งที่เซอร์ไพรส์เนื่องจากไม่คิดว่าผู้เล่น Carry จากแดนรัสเซียคนนี้จะเปลี่ยนตำแหน่งมาเล่น Offlane แทน S4 ผู้เล่นเดิม โดยหากเราดูจากสไตล์การเล่นของเขาที่เล่นเน้นกดดันคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังดุดันพร้อมกับตัวละครที่หลากหลาย ทำให้น่าจับตาดูเหมือนกันว่าเขาเล่นตำแหน่งนี้ได้หรือไม่ ตัวละครที่ถนัด: Lifestealer , Ursa , Juggernaut Cr1t- Semi support Cr1t ถือว่าเป็นหนึ่งแกนสำคัญของทางทีม EG นับตั้งแต่เขามา ในฐานะของผู้เล่นที่เดินเกมได้อย่างเฉียบคม พร้อมทั้งสร้างจังหวะต่าง ๆ ให้กับเพื่อน ๆ ในทีม สำหรับผลงานล่าสุดของเขานับว่า “พอดี” คือไม่เก่งจนถึงขั้นเด่น แต่ก็ไม่ฝีมือตกอย่างเห็นได้ชัด ตัวละครที่ถนัด : Dark willow, IO , Earth Spirit Fly - Support หลาย ๆ คนแปลกใจว่าทำไม Fly ถึงยังรอดจากการปรับทีมครั้งล่าสุด เพราะว่าผลงานของเขาในฐานะของผู้เล่นซัพพอร์ทถือว่าทำออกมาได้ต่ำกว่ามาตรฐานทั้งในแง่ของฝีมือการเล่นและการอ่านเกม แต่หากเรามองย้อนไปถึงว่าทำไมเขาถึงไม่ถูกปรับออกทีมไปนั้น อาจจะเนื่องมาจากการที่โค้ชมองว่า Fly ยังเป็นแกนหลักของทีม อีกทั้งยังเล่นคู่กับ Cr1t ได้อย่างดี ตัวละครที่ถนัด: Dazzle , Oracle , Pheonix BuLba - Coach สำหรับแฟน ๆ EG ที่ติดตามทีมนี้มาหลายปีย่อมจะรู้ดีว่าโค้ชที่ RTZ ยกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าอย่าง Bulba ทำให้การเชียร์ทีม EG ตื่นเต้นทุก ๆ ครั้งที่ลงสนามเพราะพวกเขาพร้อมที่จะแพ้ทุกทีม ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะตบทุกทีมเช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนมองไปยังสไตล์ของการดราฟท์ ที่เน้นการดราฟท์ตัวละครที่ผู้เล่นถนัดมากกว่าการดราฟท์เพื่อแก้ทาง ทำให้ในการแข่งบางแมตช์เกมนั้นยากเกินกว่าความจำเป็น ซึ่งโชคดีที่ทีม EG มีผู้เล่นที่เก่งทำให้ผลงานยังพอที่จะรับได้ในความรู้สึกของแฟน ๆ แต่สำหรับการแข่งขัน The International 2019 นั้น Bulba ดราฟท์ได้ประมาทมากเพราะมักจะดราฟท์ตัวละครที่ฝั่งตรงข้ามดักทางไว้แล้วเช่น ดราฟท์ Lifestealer ในเกมที่มี Slarda หรือปล่อยตัวละครสุดโกงประจำแพทช์อย่าง Alchemist ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้ จึงไม่แปลกที่ทาง EG จะพ่ายแพ้ในการแข่ง https://www.youtube.com/watch?v=Ws3A_Z6BVSk&t=923s โดยภาพรวมในตอนนี้เหมือนจะเป็นดั่งข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ ในแง่ที่ว่าทีม EG ชุดใหม่จะเน้นการเล่นโดยมี RTZ เป็นศูนย์กลาง ทำให้เกิดความรู้สึกเสี่ยงที่ว่า หาก RTZ ฟอร์มไม่ดีทีมก็ผลงานไม่ดีแต่หากเขายังคงรักษาฝีมือได้คงที่การพอมีลุ้นอยู่บ้าง ทำให้แฟน ๆ ต้องฝากความหวังว่า A-GOD จะเก่งได้เฉกเช่น S-GOD (Sumail) หรือ M-GOD (Miracle-) การที่จะตัดสินในตอนนี้อาจจะเร็วไปหน่อยกับทีมที่พึ่งตั้งมาใหม่ ทำให้เราคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าพวกเขาจะผ่านด่านหฤโหดของวงการ Dota 2 ได้หรือไม่ เพราะในทุก ๆ ปีการแข่งขันจะยิ่งยากขึ้นเช่นกัน

ถ้าพูดถึงเกม MOBA ชื่อดัง คนที่เล่นเกมสายนี้ยังไงก็ต้องรู้จักเกม Defense of The Ancient หรือ DOTA ต้นแบบของเกม MOBA ต่างๆ ปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่เกมที่เล่นเอาสนุกไปวันๆ แต่เป็นเกมที่มีการแข่งขันอย่างจริงจังถึงระดับโลก ล่าสุดในการแข่งขัน The International 2019 ก็มีเงินรางวัลรวมสูงถึง 33 ล้านดอลลาร์ (1000 กว่าล้านบาท) ทำให้หลายๆ คนเริ่มให้ความสนใจเกมนี้มากขึ้น เริ่มมีผู้เล่นใหม่เข้ามาเล่นเกมนี้อย่างเห็นได้ชัด แต่คุณรู้รึเปล่าว่าโลกของ DOTA ไม่เคยเป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่เลย แล้วอะไรบ้างที่ทำให้ผู้เล่นใหม่เล่นเกมนี้ได้อย่างยากลำบาก? วันนี้เราจะพาไปดูกันครับ แมคคานิคของเกมที่เยอะมากๆ DOTA เป็นเกม MOBA ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ดังนั้นตัวเกมจึงมีแมคคานิคที่เยอะมากๆ เพราะเกมถูกพัฒนามาเป็นเวลานาน ทำให้ผู้พัฒนาสามารถใส่แมคคานิคเข้ามาในเกมได้เยอะกว่าเกมอื่นๆ นั้นทำให้เกมนี้เป็นเกมที่มีแมคคานิคเยอะมากกว่าใคร จนผู้ที่เข้ามาเล่นใหม่จำเป็นต้องใช้เวลาศึกษานานมากๆ กว่าจะเข้าใจครบทุกเรื่อง โดยสามารถแบ่งเป็นเรื่องต่างๆ ได้ดังนี้ ระยะการมองเห็น ฟ็อกและหวาด ภายใน DOTA นั้น เรื่องของระยะมองเห็น กับ ระยะฟ็อกจะมีรายละเอียดที่เยอะมากๆ ในเกมนั้นจะมีช่วงเวลาอยู่ 2 เวลาคือ กลางวันและกลางคืน กลางวันนั้นเราจะมีระยะการมองเห็นที่ไกลถึง 1800 แต่ถ้าเป็นเวลากลางคืนระยะมองเห็นจะเหลือเพียง 800 นี้คือค่าพื้นนฐานแต่ก็ไม่ใช้ฮีโร่ทุกตัวจะใช้ระยะมองเห็นนี้ ( บางตัวจะมองเห็น 800 ในตอนกลางวัน แต่มีระยะ 1800 ในเวลากลางคืนก็มี ) ทำให้การปักหวาดภายในเกมนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ อีกทั้งจุดที่สำคัญต่อการปักหวาดของเกมนี้ ถ้าพูดตรงๆ แล้วมีเป็นร้อยจุดเลยทีเดียว ทำให้การมาเล่นใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้ว่า "ควรปักหวาดตรงไหนในสถานการณ์แบบไหน"  แน่นอนว่าต้องใช้เวลาเรียนรู้นานมาก กว่าจะเชี่ยวชาญจริงๆ (กลางคืนจะมีระยะมองเห็นลดลงอย่างเห็นได้ชัด) High Ground และ Low Ground สภาพภูมิประเทศภายในเกม DOTA จะมีเนินอยู่มากมาย ดังนั้นผู้พัฒนาจึงใส่แมคคานิคเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ด้วยนั้นคือ ถ้าหากเรายืนอยู่บนพื้นที่ซึ่งสูงกว่าจะทำให้สามารถมองเห็นพื้นที่ซึ่งต่ำกว่ารอบๆ ในทางกลับกัน ถ้าหากอยู่ในพื้นที่ซึ่งต่ำกว่าจะไม่สามารถมองเห็นพื้นที่สูงกว่ารอบๆ เช่นกัน นอกจากนี้ Unit ที่โจมตีไกล ถ้าหากโจมตีจากพื้นที่ต่ำกว่า จะมีโอกาศที่จะโจมตีไม่โดนอีกด้วย นั้นทำให้ตอนที่เล่นใหม่ๆ จะเกิดข้อสงสัยว่า"ทำไมถึงตีไม่โดน?"อยู่บ่อยครั้ง เพราะลืมไปว่าฮีโร่ของตัวเองยืนอยู่ Low Ground หรือมักจะเดินขึ้นเนินแล้วโดนรุมฆ่าเนื่องจากมองไม่เห็น High Ground (อยู่พื้นที่ต่ำจะมองไม่เห็นพื้นที่สูง) การ Denied ภายในเกม DOTA หากครีปหรือป้อมฝั่งเรากำลังจะแตกหรือตาย เราจะสามารถโจมตีเพื่อฆ่าหรือทำรายเองได้และนั้นจะทำให้อีกฝ่ายได้รับเงินและ exp น้อยลงหรือไม่ได้รับเลย ทำให้การ Denied เป็นเรื่องสำคัญมาก จำเป็นต้องฝึกให้เป็นทุกคน เพราะจะสร้างความได้เปรียบของเกมให้กับฝั่งเราได้เยอะ ดังนั้นตอนที่เริ่มเล่นใหม่จึงจำเป็นต้องใช้เวลาฝึกพอสมควรกว่าจะสามารถ Denied ได้อย่างแม่นยำ การ Camp ครีปป่า ใน DOTA ครีปป่าทุกจุดจะเกิดในทุก 1 นาทีและถ้าในหลุมที่ครีปเกิดไม่มีครีปอยู่ครีปชุดใหม่จึงจะสามารถเกิดได้ ดังนั้นจึงเกิดสิงที่เรียกว่าการ Camp ขึ้นมา โดยการลากครีปป่าออกมาจากหลุมในช่วงที่เวลาจะนับครบ 1 นาทีพอดี ก็จะเป็นการทำให้ครีปชุดใหม่เกิดโดยที่ครีปชุดเก่ายังไม่ตายได้ การทำแบบนี้จะทำให้ทีมเราสามารถฟาร์มงเงินจากครีปป่าได้เร็วขึ้น ประเด็นอยู่ที่ว่าในช่วงที่เรามาเล่นใหม่ๆ เรามักจะลืมดูเวลาทำให้ลืม Camp ครีปป่าไปด้วยนั้นเอง ระบบ Rune Dota2 จะมี Rune ที่ถ้าหากเก็บแล้วเราจะได้บัฟพิเศษมาเป็นเวลาชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็น บัฟวิ่งเร็ว, บัฟรีเลือดและมานาจนเต็ม, บัฟ Cooldown และการใช้มานาของสกิลลดลง, บัฟเพิ่มพลังโจมตีอีก 1 เท่า หรือได้ตัวปลอมของเรามา 2 ตัว เป็นต้นโดย Rune จะเกิดทุกๆ 2 นาที ถ้าเก็บได้ ก็จะสร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมาก ยังมี Rune ที่เก็บแล้วทั้งทีมจะได้เงินจำนวนหนึ่งอีกด้วย โดยจะเกิด 4 จุดพร้อมกันทุกๆ 5 นาที ตอนเริ่มเล่นใหม่ก็มักจะลืมดูเวลาทำให้เสียรูนให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามอยู่บ่อยครั้งไป การออกไอเทมแก้ทาง ภานในเกม DOTA นั้นไอเทมแต่ละชิ้นสามารถแก้ทางสกิลหรือตัวฮีโร่ได้เลย ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วการออกไอเทมภายในเกม DOTA นั้นจะเน้นไปที่การออกไอเทมแก้ทางกันแบบไม่รู้จบ นี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้เล่นใหม่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจว่าไอเท็มในเกมนี้มีอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง ชิ้นไหนสามารถแก้ชิ้นไหนได้บ้าง ชิ้นไหนสามารถแก้ฮีโร่ตัวไหนได้บ้าง นี้คือประเด็นที่ต้องใช้เวลาศึกษานานมากๆ ไอเทมมีเป็นร้อยชิ้น ฮีโร่เองก็มีเป็นร้อยตัว บอกไม่ได้เลยว่าต้องเล่นกี่ ชม. ถึงจะสามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ทะลุปรุโปร่งจริงๆ ( บางคนเล่นมาเป็นปีก็ยังไม่แม่นเลย ) สังคมภายในเกมที่โหดร้าย การเล่นเกมแบบหนึ่งทีมมี 5 คนอย่าง DOTA นั้นมันก็จำเป็นต้องใช้การสือสารเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว อย่าลืมว่าเพราะเป็นเกมเก่าแก่ เกมนี้จึงมีผู้เล่นที่เยอะมากๆ แน่นอนว่าเพราะมีคนเล่นเยอะมันก็จำเป็นต้องได้เจอกับคนหลากหลายรูปแบบ ในช่วงที่คุณมาเล่นใหม่ ไม่ต้องห่วงคุณเล่นได้เแย่อยู่แล้วมันเป็นเรื่องปกติของคนเล่นใหม่ ติดตรงที่ว่าเพื่อนร่วมทีมของคุณในเกมนั้นเขาจะเข้าใจเรารึเปล่าเนี่ยสิ ถ้าไม่! คุณก็จะโดนแซะ โดนด่าทั้งเกมจนทำให้รู้สึกอยากเลิกเล่นเกมนี้ไปเลยเชียวแหละ แต่ถ้ามีเพื่อนที่เล่นด้วยแล้วเขาเข้าใจเรา นั้นถือว่าโชคดีมาก การอัพแพทช์ที่เหมือนเปลี่ยนเกมเล่น DOTA คือ เกมที่จะมีการอัพแพทช์ที่ทำให้เกมเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ ทำให้ในช่วงที่คุณกำลังศึกษาการเล่นอยู่นั้น ถ้าหากมีแพทช์ใหม่เข้าคุณอาจจะต้องศึกษาบางเรื่องใหม่หมดเลยก็ได้ ยิ่งทำให้ต้องใช้เวลาเรียนรู้ที่นานขึ้นอีก ทำให้การเล่นเกมนี้มันเริ่มไม่สนุก ใช้เวลาศึกษานานมาก ระหว่างที่ศึกษาอยู่เล่นได้ไม่ดีก็โดนด่าอีก เรียกได้ว่าช่วงแรกๆ เล่นแล้วหงุดหงิดสุดๆ เลยแหละครับ สรุป DOTA2 เป็นเกมที่ไม่ใช้ว่าไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่ หากแต่เป็นเกมที่จำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษานานมากๆ แน่นอนว่าเพราะแมคคานิคที่เยอะจนเกินไป มักจะทำให้ผู้ที่มาเริ่มเล่นทนไม่ไหวมักจะยอมแพ้เลิกเล่นไปก่อนที่จพได้สัมผัสความสนุกจริงๆ เป็นที่มาของคำว่า "DOTA ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่นั้นเอง" แต่ถ้าหากสามารถเข้าใจแมคคานิคของเกมได้ แล้วละก็ เกมนี้คือ "หนึ่งในเกมที่สนุกที่สุดในโลก" แน่นอนครับการันตีเลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากทีม OG ได้ได้แชมป์ The International 2019 ก็มาถึงข่าวการประกาศพักของผู้เล่นในทีม ว่าด้วยผู้เล่นที่ชอบ ลาพักร้อน บ่อยที่สุดในทีมอย่าง ana โดยเริ่มจากการเล่น Meme ของ ‘Johan Sundstein’ หรือ “N0tail” กัปตันทีมใน Twitter ต่อด้วยการตบมุกของทาง Red Bull Gaming สุดท้ายก็มีการยืนยันแล้วว่า อนุญาตให้ ana พักร้อนได้จริง ครึ่งฤดูกาล (Dota Pro Circuit) หรือ ประมาณ 6 เดือน ต่อด้วยการพักร้อนของ Topias ‘Topson’ Taavitsainen ผู้เล่นมิดเลนอีกคนของทีม OG ที่ได้ประกาศผ่านทาง Twitter ว่าจะพักจากการแข่งเพื่อไปใช้เวลากับครอบครัวและมองหาเป้าหมายใหม่ในชีวิต (คิดว่าน่าจะยังไม่ได้เลิกเล่น อาจจะกลับมาในช่วง TI 10) ( จาก Twitter อันที่ 2 ถ้าสงสัยว่า To celebrate our victory at TI9, there is a discount on my website! คืออะไร มันคือเว็ปขายของของทางเจ้าตัวนั้นเอง สามารถกดตามไปดูได้ที่  https://topson.gg/ ) โดยปกติแล้วทางทีม OG จะไม่ลงในการแข่งขัน Major แรก ของแต่ละปี ทำให้เรายังไม่สามารถสรุปได้ว่า จะมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวจริงหรือเปล่า ต้องรอดูอีกว่าทางผู้เล่นที่เหลือ 3 คนในทีมที่ไม่ได้ไปไหนจะหาคนมาแทนใน 2 ตำแหน่งที่ยังว่างอยู่หรือเปล่า จะหมดไฟและทิ้งให้เรื่องรางของพวกเขาเป็นตำนานหรือจะกลับมาปกป้องบรรลังของตนเองอีกครั้ง มีแต่ต้องติดตามชมกันต่อไปครับ   ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

สำหรับการเล่นเกมแนว MOBA แล้วทุกตำแหน่งล้วนมีความสำคัญเท่า ๆ กันหมด แต่หนึ่งตำแหน่งที่ต้องใช้ความสามารถอย่างมาก รวมถึงความสามารถในการอ่านเกมที่สูงนั่นคือตำแหน่ง Supports ที่น้อยคนนักจะเล่นตำแหน่งนี้ออกมาได้ดี JerAx ถือว่าเป็นผู้เล่นตำแหน่ง Supports คนหนึ่งที่แต่เดิมเขาเป็นผู้เล่นพเนจรที่ย้ายทีมบ่อย เจอกับความพ่ายแพ้ก็หลายครั้ง วันนี้เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในยอดของผู้เล่น Support ของโลก Dota 2 พร้อมนำพาทีมคว้าแชมป์โลกถึง 2 ครั้ง จากผู้เล่น HoN สู่ผู้เล่น Dota 2 JerAx มีชื่อจริงว่า Jesse Vainikka เขาเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1992 สัญชาติฟินแลนด์ โดยเขาเริ่มต้นอาชีพการเป็นโปรเพลเยอร์จากเกม HoN ในทีม Dirty Minds และทีม "Man the fuck Up"/"KD-Gaming" หลังจากนั้นเขาก็ต้องไปรับการเกณฑ์ทหารของประเทศฟินแลนด์ โดยสังกัดกองทัพเรือ หลังจากที่ปลดประจำการแล้วเขาก็กลับมาสู้เส้นทางของการเป็นโปรเพลเยอร์เหมือนเดิม โดยคราวนี้เป็นเกมใหม่ที่กำลังโด่งดังของทาง Valve นั่นคือเกม Dota 2 นั่นเอง 4 ปีกับเส้นทาง 6 ทีม [caption id="attachment_27651" align="alignnone" width="678"] รูปจาก Gusugamer[/caption] หลังจากที่ JerAx เจ้าสู่วงการ Dota 2 เขาก็ได้ร่วมกับทีมเก่าตั้งแต่สมัย HoN อย่าง Rat in the dark และ QPAD Red Pandas ซึ่งในตอนนั้นการแข่งขัน Dota 2 ยังเน้นการแข่งขันเป็นรายการเล็กมากกว่า อีกทั้งยังมีเงินรางวัลให้เฉพาะอันดับที่ 3 ขึ้นไป ทำให้รายได้ของไม่มากนัก แต่ว่าทีมนี้เองที่ทำให้เขาสนิทสนมกับ MATUMBAMAN และเป็นเพื่อนกันในที่สุด https://twitter.com/Renkes67/status/1056274210887254016 ผลงานของทีม QPAD ไม่ค่อยดีนักทำให้เขาและ MATUMBAMAN ออกมาตั้งทีมใหม่ในชื่อ 4 Anchors + Sea Captain ที่เหมือนจะเอาฮา แต่ก็ทำผลงานออกมาได้ไม่เลวเลย แต่เล่นได้แปปเดียวเขาก็ต้องย้ายออกเหมือนเดิมคราวนี้เขาได้ไปอยู่ทีมอย่าง Thinker และย้ายไปยังทีมอย่าง MVP.HOT6ix ที่สามารถผ่านรอบ Qualify โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเข้าแข่งขันรายการ The International ประจำปี 2015 ได้ JerAx กับทีม Liquid แม้ MVP.HOT6ix จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขัน TI ได้แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะพวกเขาตกรอบไปอย่างรวดเร็วทำให้ JerAx ตัดสินใจออกจากทีมเก่า แล้วย้ายไปอยู่ทีมใหม่ที่มี Kuroky เป็นแกนกลางหลักของทีมในชื่อ 5Jungz ก่อนจะย้ายไปอยู่ในสังกัดทีม Liquid ที่นี่เองที่ทำให้ชื่อของเขาได้เฉิดฉายอีกครั้ง จากการเล่นฮีโร่อย่าง Earth Spirt ที่เล่นได้โดดเด่นมาก ๆ จนหลาย ๆ ทีมหากแข่งกับทีม Liquid เลือกที่จะแบนตัวละครนี้ นอกจากนี้เขายังเล่นฮีโร่อย่าง Earth Shaker ได้ราวกับเกิดมาเพื่อตัวละครนี้ https://twitter.com/iamJERAX/status/868774464984686592 สาเหตุที่เขาเล่นตัวละครเหล่านี้เก่ง เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่นที่ชอบเดินไปมาระหว่างเกม ถ้าเกิดเป็นเกม Moba อื่น ๆ จะเรียกว่าตำแหน่ง Roaming ที่จะคอยก่อกวนฝั่งตรงข้าม รวมถึงตัดจังหวะต่าง ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายเล่นได้กสะดวก ซึ่งเขาสามารถทำได้ดีมาก จนสามารถคว้าแชมป์แรกของเขาได้จากรายการ EPICENTER ปี 2016 น่าเสียดายที่ทีม Liquid มีผลงานที่ไม่ค่อยจะดีนักในการแข่งขันรายการ The International 2016 โดยพวกเขาต้องกลับบ้านไปในอันที่ 7-8 ร่วมกับทีม TNC ทำให้ทีมเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นรวมถึงตัวเขาเองก็ต้องย้ายออกจากทีม JerAx ภายใต้ร่มเงาของทีม OG หลังจากออกจากทีม Liquid เขาก็ย้ายเข้าไปสู่ทีม OG ซึ่งเขาก็ยังคงรักษาฟอร์มที่ใดในการเล่นอยู่เสมอ โดยเขาได้ร่วมมือกับ Fly ในการเดินเกมและช่วยเหลือทีมในจังหวะต่าง ๆ รวมถึงสร้างพื้นที่ให้กับ Carry อย่าง N0tail และ Miracle ทำทีมสามารถทำผลงานได้อย่างดี โดยเขาช่วยทีมคว้าแชมป์ Major มาสองสมัยคือ Boston Major 2016 และ Kiev Major 2017 แต่ผลงานในการแข่งขัน TI 2017 ของทีม OG กลับทำไม่ดีนัก ซึ่งสาเหตุนั้นหลาย ๆ คนคาดมาจากการที่ทีม OG กดดันตัวเองมากเกินไป ทำให้ความมั่นใจที่เป็นจุดเด่นของพวกเขาหายไป โดยทีมถึงขั้นวิกฤตเพราะพวกเขาต้องเสียผู้เล่นไปอีกสองคนคือ S4 และ FLY แต่หลังจากที่เสียใจไปได้ไม่นาน Ceb ที่เป็นโค้ชในตอนนั้นเขาบอกให้ทุกคนกลับไปทบทวนตัวเองว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตที่บ้าน ซึ่งเรื่องนี้จะเปลี่ยนแปลง OG และ JerAx ไปตลอดกาล JerAx กับเส้นทางสู่แชมป์โลก หลังจากที่ทีม OG กลับไปทบทวนตัวเองพวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับความมั่นใจที่ขาดหายไปนาน โดย JerAx ในการแข่งขัน TI8 นั้นเขาสามารถเล่นตัวละครได้หลากหลายกว่าเดิม อีกทั้งเขายังสามารถที่จะเดินเกมได้เฉียบคมกว่าเดิม เคล็ดลับความสำเร็จของเขานั้น N0tail ได้กล่าวไว้ว่า JerAx เป็นคนที่ยิ้มเสมอแม้ว่าเกมจะพังแค่ไหนก็ตาม อีกทั้งเขาเองก็ไม่ค่อยมีอาการหัวร้อนเท่าไหร่ โดยเขากล่าวว่าได้ยิน JerAx ตะโกนก็ตอนแข่งขันรอบชิง TI8 ที่พวกเขาสามารถพลิกกลับมาเอาชนะ LGD ได้ สำหรับ TI 9 นั้นเขาได้พัฒนาการเล่นของเขาให้ดีขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งการที่สามารถเล่นฮีโร่สลับกับ Topson ได้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความสับสนในการดราฟท์ นอกจากนี้การเดินเกมของเขาก็เฉียบคมยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะ Tiny ของเขาที่ทำเอาทีม Liquid ไปไม่เป็นเลยทีเดียว สรุป ตอนนี้ JerAx มีทั้งชื่อเสียและเงินทอง เขามีเงินรางวัลจากการแข่งขัน Dota 2 มากถึง $6,211,217 หรือประมาณเกือบ 200 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดร้านขายของต่าง ๆ ที่มีตัวเองเป็นฟรีเซนเตอร์อีกด้วย ซึ่งความไม่ยอมแพ้และความรักในการเล่นเกมของ JerAx ทำให้เขามีวันนี้ นอกจากนี้เขายังทำให้พ่อและแม่ภูมิใจด้วยการที่เป็นนักกีฬา Esports สองคนแรกที่ได้รับเชิญจากประธานาธิบดีของประเทศฟินแลนด์ให้เข้าพบเนื่องในวันประกาศเอกราช ซึ่งนอกจากเขาแล้วไม่ใช่ใครไหนไกล Topson เพื่อนร่วมทีมนั่นเอง ในตอนนี้เพื่อน ๆ น่าอ่านเรื่องราวของสมาชิกทีม OG มาจนเกือบครบทุกคนแล้ว เราจะเห็นได้ความมั่นใจเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ของเพียงเรามั่นใจในตัวเองทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง อ้างอิงข้อมูลจาก Liquidpedia True Sight 2018 True Sight Kiev Major Jerrax.gg Against the Odds

DOTA 2 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีแนว MOBA ที่ได้รับความนิยมมาเกมหนึ่งของโลก มียอดผู้เล่นมากกว่าเดือนละ 11 ล้านคน พร้อมทั้งเป็นเกมที่มีเงินรางวัล Esports สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยในรายการ The International 2019 หรือรายการแข่งขัน DOTA 2 ชิงแชมป์โลกประจำปีนั้นมีเงินรางวัลรวมมากถึง 34,330,068 กันเลยทีเดียว เงินรางวัลที่มหาศาลย่อมดึงดูดผู้เล่นที่เก่งกาจและมีฝีมือเข้าสู่เกม DOTA 2 รวมถึงความกดดันมหาศาลในการแข่งขันแต่ครั้งที่การพลาดเพียงครั้งเดียวอาจจะทำให้พลาดเงินหลักล้านเหรียญไปเลยก็มี ท่ามกลางแรงกดดันที่มหาศาลและการแข่งขันที่สูง กับมีอยู่ทีมหนึ่งที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึงสองสมัย อีกทั้งยังสร้างความเป็นไปได้ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย จนในตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าพวกเขาคือราชาแห่งโลก DOTA 2 นั่นคือทีม OG จุดกำเนิดจากสองเพื่อนรัก ปลายปี 2014 วงการ Esports ของเกม DOTA 2 กำลังร้อนระอุเนื่องจากเงินรางวัลของการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ สูงขึ้นอย่างมาก แต่ว่าเหล่าผู้เล่นหลาย ๆ คนกับรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการแข่งขัน เนื่องจากรายได้ต่าง ๆ ที่ได้ในทัวร์นาเมนต์รวมถึงเงินจากสปอนเซอร์ต่างถูกสโมสรหักออกไป ทำให้พวกเขามองว่าหากออกมารับเองคงจะได้เงินดีกว่าเดิม แนวคิดนี้ได้จุดประกายไปยังสองผู้เล่นของทีม Navi อย่าง Puppy และ Kuroky ที่ในตอนนั้นพวกเขาอายุมากแล้วและมั่นใจในความสามารถมากพอจึงออกมาตั้งทีมของตัวเองนามว่า Team Secret พร้อมทั้งชวนผู้เล่นเด่น ๆ ในตอนนั้นอย่าง N0tail , FLY และ S4 มาร่วมกับทีม Team Secret ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในตอนที่เปิดตัว โดยที่พวกเขาไม่แพ้ใครเลย 15 เกมติดกัน แม้ว่าผลงานจะยอดเยี่ยมแค่ไหนแต่เหมือนว่าทีมจะต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ทำให้ N0tail และ FLY ออกจากทีมไปโดยทั้งคู่แยกย้ายกันไปคนละทีม หลังจากจบการแข่งขัน The International 2015 สองเพื่อนรักอย่าง N0tail และ FLY มีความคิดที่จะสร้างทีมขึ้นมาเอง  โดยพวกเขาเรียนรู้จากการทำทีมมาจากทีม Secret นอกจากนี้ N0tail และ Fly ต่างมีความสนิทสมกันเพราะทั้งคู่เคยร่วมทีมกันมาแล้วหลายครั้ง Team OG เวอร์ชัน 1.0 Monkey Business คือชื่อแรกที่ทั้งสองคนคิด ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าทำไมพวกเขาต้องตั้งชื่ออย่างนี้ แต่หากดูจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เหมือนว่าพวกเขาจะตั้งชื่อล้อเลียนแนวคิดของผู้ก่อตั้ง Team Secret ไม่ก็ตั้งเพราะว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดี เมื่อก่อตั้งทีมก็ต้องมีการหาสมาชิก โดยคนแรกที่ N0tail เชิญมาคือ “Ceb” (7ckingmad) มาเป็นโค้ชให้กับทีม โดย N0tail ได้เชิญผู้เล่นอีกสองคนคือ Cr1t- กับ Miracle ผู้เล่นที่ในตอนนั้นกำลังโด่งดังเนื่องจากเขามี MMR สูงติดอันดับท็อปของเซิร์ฟเวอร์ ในขณะที่ Fly ก็ส่งจดหมายเชิญชวนไปยัง MoonMeander เพื่อนเก่าของเขาสมัยร่วมทีม CoL ด้วยกัน และแล้วทีมชุดแรกก็ได้จัดตั้งอย่างเต็มตัว Monkey Business ทำผลงานออกมาได้อย่างดี โดยการเอาชนะทีมใหญ่ ๆ ในสมัยนั้นไม่ว่าจะเป็น Navi  , Team Liquid รวมถึงสามารถสู้ทีมรวมดาวของโลก DOTA 2 อย่าง Team Secret ได้อย่างสูสี สำหรับแนวทางการเล่นของทีม Monkey Business ในชุดนี้คือการที่พวกเขาเน้นการเล่นด้วยความมั่นใจ โดยมี Miracle กับ N0tail เป็นแกนหลักของทีม ในขณะที่ MoonMeander จะคอยสร้างความปั่นป่วนให้กับฝ่ายตรงข้าม ส่วน Cr1t จะเป็นฝ่ายสนับสนุนตัว Core ประจำทีมและ Fly จะเป็นคนเดินเกมในเลนต่าง ๆ ผลงานที่ดีทำให้ก่อตั้งทีมเพียงสองเดือน พวกเขาก็ได้สปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Redbull พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อทีมเป็น OG ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา ทำให้สามารถคว้าแชมป์รายการ Frankfurt Major 2015 และ Manila Major 2016 ทำให้ทีม OG เป็นทีมเต็งหนึ่งของการแข่งขัน The International  2016 The International  2016 ได้ถือว่าเป็นการแข่งขันรายการระดับโลกครั้งแรกของทีม OG ทำให้พวกเขาต้องเจอกับแรงกดดันอย่างมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้พวกเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองและจิตใจของสมาชิกในทีมเริ่มเสีย โดยเฉพาะเกมที่พวกเขาแพ้ทีม MVP.Pheonix ขาดลอยถึง 3-22 ก่อนที่เส้นทางของพวกเขาในรายการนี้จะจบลงหลังจากการพ่ายแพ้ให้กับทีม TNC ม้ามืดในตอนนั้น ซึ่งเรื่องนี้สร้างความตกใจให้กับแฟน ๆ ของเกม DOTA 2 ทั่วโลก และสร้างความร้าวฉานให้กับทีม ทำให้เมื่อการแข่งขันรายการนี้จบลง Miracle , Cr1t และ MoonMeander จึงย้ายออกจากทีม OG เวอร์ชัน 2.0 การสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญไปถึงสามคน สำหรับบางทีมอาจจะถึงขั้นยุบทีมได้ แต่กรณีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทีม OG เพราะว่าแกนหลักของทีมคือ N0tail และ Fly รวมถึงโค้ชประจำทีมอย่าง Ceb พวกเขาจึงรวบรวมทีมขึ้นมาใหม่อีกครั้ง คราวนี้ได้มีผู้เล่นมาเพิ่มคือ S4 , JerAx และ ana OG กลับมาลุยอีกครั้งในการแข่งขันระดับ Major โดยพวกเขายังโชว์ผลงานได้อย่างดี ซึ่งต้องยกความดีความชอบเรื่องนี้ให้กับ Ceb ที่สามารถคิดนำ Meta ในตอนนั้นขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ รวมถึงเรียนรู้การที่จะปลุกกำลังใจให้กับสมาชิกในทีมในเรื่องความมั่นใจ ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จเพราะทีม OG สามารถคว้าแชมป์ Major ได้อีกสองสมัยคือ Boston Major 2016 และ Kiev Major 2017 พร้อมทั้งจารึกชื่อในฐานะของทีมแรกที่สามารถเก็บถ้วยแชมป์ระดับ Major ได้ถึง 4 สมัย ผลงานที่ยอดเยี่ยมประกอบกับการคิดนำหน้า Meta คือความแข็งแกร่งของ OG ช่วงก่อนรายการ The International 2017 ทำให้ไม่แปลกใจที่หลาย ๆ คนจะมองว่า OG ชุดนี้ยังไงก็แชมป์อย่างแน่นอน เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกอีกครั้ง เพราะว่าทีม OG แม้จะได้คะแนนอย่างเยอะในรอบแบ่งกลุ่มแต่ก็ต้องกลับไปอย่างรวดเร็วในการแข่งขันรอบ Main Event โดยพวกเขาเกิดคำถามในใจว่าทำไมถึงยังไม่ชนะรายการนี้เสียทีทั้ง ๆ ที่ฟอร์มดีมาตลอดทั้งปี ซึ่งคราวนี้ทุกๆ คนต่างมีเหตุผลของตัวเอง โดย Ceb โค้ชของทีมกล่าวว่า “เราโดน Outplay จากฝ่ายตรงข้ามและถูกตบจากทีมที่ดีกว่า “ ขณะที่ที่ JerAx ให้เหตุผลว่า “ทีมนั้นใช้อารมณ์ในเกมจนมากเกินไป” ในขณะที่สองเพื่อนรักอย่าง N0tail และ Fly ต่างไม่มีความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้ แต่ในมุมมองของคนภายนอก “แพะ” ของทีม OG คือ “ana” ที่หลาย ๆ คนกล่าวว่าฟอร์มของเขาในรายการนี้แย่มาก พร้อมทั้งโดนต่อว่ามากมาย เช่น “น้องสาวฉันเล่นดีกว่านายอีก” “เตะ ana รับรองทีม OG ดีขึ้น” เป็นต้น ทำให้เขาเลือกที่จะพักการแข่งขันและออกไปค้นหาตัวของเขาอีกครั้ง ช่วงเวลาที่แสนมืดมนของ OG ทีม OG เลือกที่จะเดินหน้าต่อโดยเรียก Resoulut1on มาแทนตำแหน่งของ ana แต่ก็มีผลงานที่ไม่น่าประทับใจนัก โดยในปีนี้ Valve ได้ใช้ระบบ DPC หรือ Dota Pro Circuit เป็นปีแรก ทำให้การแข่งขันทุกทัวร์นาเมนต์มีความหมาย เพราะมีต่อการได้รับเชิญไปแข่งขัน TI8 ในฤดูกาลนั้น OG ทำได้เพียง 960 แต้ม ในขณะที่อันดับหนึ่งในตอนนั้นอย่างทีม Virtus Pro มีแต้มมากถึง 12372 แต้มต่างกันเกือบ ๆ  10 เท่า ทำให้ในตอนนี้เกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนักในทีม โดยพวกเขาได้เสีย Resoulut1on ไปก่อนและนำเอา Ceb มาเล่นแทน แต่ความสูญเสียที่หนักที่สุดคือ Fly เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขของ N0tail มาอย่างยาวนานมาถึง 8 ปีกับเลือกที่ย้ายออกจากทีมไปเพื่อไปหาทีมที่มีโอกาสได้แชมป์มากกว่า ซึ่งในตอนนั้นคือ EG (ความคิดของ Fly) พร้อมกับดึงเอาเพื่อนร่วมทีมอย่าง S4 ไปด้วยอีกคน ซึ่งในตอนนั้น Fly เป็นถึงกัปตันของทีม รวมถึงแฟนของเขาเองก็เป็นผู้จัดการทีมอีกต่างหาก ทำให้สถานการณ์ของ OG ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตเพราะอีกไม่นานการแข่งขัน TI8 ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว กำเนิด OG ชุดแชมป์ สารคดี Against The Odds ได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์ Fly ออกจากทีมในทุก ๆ มุม ทุกคนเกิดความสิ้นหวังและท้อแท้อย่างมากโดยเฉพาะ N0tail ที่ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อพูดถึงเหตุการณ์นี้ ทีมตัดสินใจที่จะให้ทุกคนได้แยกย้ายกันออกไปเพื่อทบทวนสิ่งต่าง ๆ แล้วค่อยมาวางแผนกันใหม่ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะกลับมาแข่งขันอีกครั้ง โดยในคราวนี้พวกเขาต้องสร้างทีมใหม่พร้อมกับการทุ่มอย่างเต็มที่เพื่อที่จะเป็นแชมป์ให้ได้ Ceb ปรึกษากับ N0tail และได้เลือกเอาหนึ่งในผู้เล่นที่ไม่มีใครรู้จักในขณะนั้นอย่าง Topson มาร่วมทีม พร้อมทั้งดึง ana กลับเข้ามาร่วมทีมหลังจากที่เขาได้เรียนรู้ความฝันของตัวเองแล้วกลับมาเป็นโปรเพลเยอร์อีกครั้ง   OG สร้างทีมใหม่ได้ไม่นานพวกเขาก็สามารถที่จะผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รายการ The International 2018 ได้อย่างไม่ยากเย็น ในส่วนของรอบ Group Stage พวกเขาก็ทำผลงานได้อย่างโอเคเลย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทาง OG เปลี่ยนไปจากการแข่งขันครั้งแล้วคือพวกเขาสนุกในการเล่นเกมมากกว่าเดิม พร้อมกับความมั่นใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในรอบ Group Stage ทีม OG สามารถที่จะเอาชนะทีมต่าง ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น จนกระทั่งพวกเขาต้องไปเจอทีมของกัปตันทีมคนเก่าอย่างทีม EG พวกเขาก็สามารถย้ำแค้นได้สำเร็จ ซึ่งชัยชนะกับ EG นั้นส่งผลกับ OG อย่างมากเพราะเป็นการระบายความแค้นของคนในทีม ในขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะเอาชนะรายการแข่งขัน TI8 [caption id="attachment_27565" align="alignnone" width="1024"] รูปภาพจาก Gusugamer[/caption] ทีม OG เรียนรู้ว่าตราบใดที่พวกเขาไม่แพ้จนบ้านแตก พวกเขาสามารถเอาชนะได้ โดยในการแข่งขัน TI8 ทีม OG ต้องเจอกับสถานการณ์ที่พวกเขากดดันอย่างมากหลายเกม ทั้งเกมที่ 2 ระหว่าง OG กับ EG ที่พวกเขาโดนกดดันตลอดทั้งเกมแต่ก็กลับมาได้ หรือในการแข่งขันรอบชิงรายการนี้ระหว่างทีม OG กับ PSG.LGD พวกเขาต้องเจอกับเกมที่ยากลำบากหลาย ๆ ครั้งแต่ก็กลับมาได้ เท่านั้นยังไม่พอการที่ Topson เป็นผู้เล่นที่เล่นสไตล์ไม่เหมือนใครและ ana ที่มีการตัดสินใจที่เฉียบคมและฝีมือที่คงเส้นคงวา ประกอบกับความมั่นใจที่สูงของสมาชิกในทีมแต่ละคนจึงทำให้ทีม OG ชุดนี้สามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด OG ราชาแห่งโลก Dota 2 หลังจากการแข่งขันรายการ The International 2018 เสร็จทีม OG ก็ได้สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ อีกครั้งด้วยการที่ไม่เข้าร่วมในการแข่งขัน Major แรกของฤดูกาลและเลือกที่จะพักผ่อนมากกว่า แต่แล้วเหมือนสถานการณ์ของทีม OG จะกลับเข้าสู่ลูปเดิมอีกครั้ง โดย ana ประกาศพักการแข่งทำให้เขาต้องหาผู้เล่น "Pajkatt" ซึ่งพวกเขาก็ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก โดยผ่านไปครึ่งฤดูกาลพวกเขาได้แต้มเพียงแค่ 50 คะแนนเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันระดับ Major อีกต่างหาก หลังจากนั้นไม่นาน ana ก็ขอกลับเขาร่วมทีมอีกครั้ง โดยตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ก็มีการพัฒนาที่ดีขึ้นรวมถึงความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น ทีม OG เกือบจะไม่ได้มาป้องกันแชมป์เนื่องจากในรายการ EPICENTER ทาง N0tail เกิดป่วยกะทันหัน ทำให้พวกเขาต้องนำเอาโค้ชมาเล่นแทน โชคดีที่ผลงานของพวกเขาเข้าเป้าทำให้มีแต้มเพียงพอที่จะรับเชิญเข้าแข่งขัน TI9 TI9 ทีม OG ได้คิดค้นแผนการเล่นใหม่ ๆ ล้ำหน้า Meta ขึ้นไปอีกระดับ โดยเฉพาะความต้องการในการเอาชนะเลนที่ OG พวกเขาพร้อมจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะได้มา ในขณะที่หลาย ๆ ทีมในตอนนั้นเน้นไปยังการเอาชนะในช่วงกลางเกม รวมถึงการดราฟท์หลอกที่ใช้ลูกเล่นมากกว่าเดิม นอกจากนี้สิ่งที่ทาง OG ได้พัฒนาขึ้นไปอีกระดับคือจิตวิทยาในเกม ที่พวกเขาใช้ทั้งเกมการเล่นที่กดดันคู่ต่อสู้ การใช้ Wheel Chat การใช้สเปย์ รวมถึงการให้ทิปอันเป็นสงครามทางจิตวิทยาที่ทำให้อีกฝ่ายหัวร้อนอย่างไม่ยากเย็น เมื่อหลาย ๆ อย่างลงตัว OG จึงได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่สอง อีกทั้งยังเป็นการป้องกันแชมป์ (Back to Back) ได้อีกด้วย สรุป จากทีมนอกสายตาสู่ราชาแห่งโลก DOTA 2 ทีม OG ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า “หากเราเลือกที่จะไม่ยอมแพ้เรายังมีหนทางที่จะชนะเสมอ” ซึ่งปรัชญานี้กลายเป็นรากฐานของทีม OG ไปแล้ว พวกเขามีความมั่นใจเต็มร้อย มีความสุขที่ได้เล่นด้วยกันพร้อมทั้งมีความคิดในแง่ดีเสมอ ดังนั้นวันนี้เราเริ่มต้นที่เปลี่ยนความคิดของเราจากคำว่า “เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้” แล้วมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้ของคุณอาจจะเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก็เป็นได้ อ้างอิงจาก signature.in.th liquipedia.net esportscircles สารคดี True Sight Kiev Major สารคดี True Sight TI8 Interview with OG.Cr1t สารคดี Against The Odd

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” ประโยคนี้ถือว่าเป็นประโยคคลาสสิคที่อยู่คู่กับทุกวงการ แม้แต่วงการ Esports คำนี้ก็ยังคงทรงอิทธิพลอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะเกมเมอร์หลาย ๆ คนที่อยากจะเป็นผู้เล่นระดับโปรเพลเยอร์ แต่ก็มีหลายคนที่เลิกศรัทธากับคำนี้ไปแล้ว แต่คุณเชื่อหรือไม่ !! มีผู้เล่น Dota 2 ท่านหนึ่งต้องใช่เวลามากถึง 6 ปีในความพยายามที่จะเป็นหนึ่งในวงการ Dota 2 เขาลงแข่งหลายครั้ง ถอดใจไปแล้วก็หลายครั้งเปลี่ยนแนวการเล่นมาแล้วหลายรอบ แต่ด้วยความรักที่มีกับเกมนี้และความเชื่อมั่นที่เขามี ในวันนี้เขาคือหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่ง Offlane ที่เก่งที่สุดในโลก คนนั้นคือ “Ceeeeeeeeeeeeeeeeeeeb” Ceb กับเส้นทางของโปรเพลเยอร์ที่ยากลำบาก Ceb มีชื่อจริงว่า Sébastien Debs เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมปี 1992 เขาเป็นคนประเทศฝรั่งเศสและชอบเล่นเกมมาตั้งแต่เด็ก โดยเขาเริ่มเข้าสู่วงการ Dota 2 ในปี 2011 พร้อมชื่อในเกมว่า 7ckngMad กับทีม Shakira ในตำแหน่ง Support 4 หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ย้ายไปยังทีม Western Wolves เล่นได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องย้ายทีมอีกครั้งสู่ทีม mTw ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถไต่ MMR ได้ถึง 7000 โดยการเล่นเพียงแค่ Suuport https://twitter.com/Ceb_dota/status/661546287775539200 หลังจากเข้าทีมนี้ไม่นานเขาก็ได้สัมผัส TI เป็นครั้งแรกแต่ก็ตกรอบแรกไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้สมาชิกในทีมต้องย้ายทีมอีกครั้งไปสู่ทีม DD.Dota 2 หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปมาหลายทีม ซึ่งในช่วงเวลาในเป็นโปรเพลเยอร์นั้น ระหว่างปี 2012-2014 เขาย้ายทีมไปถึง 7 ทีมเลยเดียว ระหว่างนี้เขาเอง !! หากว่างก็ยังรับหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ให้กับทัวร์นาเมนต์ต่างๆ อีกด้วย โดยผลงานในช่วงนี้เรียกได้ว่าล้มเหลวก็ว่าได้เพราะเขาไม่สามารถที่จะเข้าแข่งขันรายการ The International ได้เลยนับตั้งแต่ปี 2013-2014 นอกจากนี้ในปี 2014 ถึง 2016 เขาก็ได้พยายามหลายครั้งกับเพื่อนร่วมทีมหลาย ๆ คน แต่สุดท้ายหลังจากที่เล่นเป็นตำแหน่ง Support ให้กับทีม Kaipi แล้วไม่ประสบความสำเร็จเขาจึงต้องเปลี่ยนสายแทน Ceb กับชีวิตการเป็นโค้ชทีม OG [caption id="attachment_27580" align="alignnone" width="675"] รูปจากเว็บไซต์ Joindota[/caption] โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเขา หลังจากที่ออกจากทีมไม่นานเขาก็รับงานเป็นโค้ชให้กับทีม OG โดยจุดเด่นของเขาคือการที่ประสบการณ์ต่าง ๆ ของเขาที่ผ่านมาในการผลักดันทีม OG ซึ่งหนึ่งในวิธีที่เขานิยมใช้คือการปลุกใจกับสมาชิกในทีม ที่นอกจากจะลดความกดดันในการแข่งแล้ว ยังสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขาอีกด้วย https://youtu.be/GgAAPPf4z00 ผลงานการเป็นโค้ชของเขานับว่าไม่เลวเลยสามารถนำทีม OG เป็นแชมป์ Major ได้ถึง 4 สมัยและได้แชมป์รายการเล็ก ๆ อีกหลายรายการ แต่สำหรับรายการใหญ่ที่สุดในปีอย่าง The International พวกเขากับทำผลงานออกมาได้ไม่ดีนัก อีกทั้งเขาเองไม่มีบารมีมากพอในการรั้งสมาชิกในทีม ทำให้ OG ต้องเสียยอดฝีมือไปหลายคน เมื่อโชคชะตาเขียนให้เขาเป็นแชมป์ ในปี 2018 ทีม OG ไม่สามารถที่จะได้รับการรับเชิญเข้าแข่งขันรายการ The International ประจำปี เหมือนเดิมทำให้ FLY และ s4 ตัดสินใจออกจากทีม เขาในฐานะของโค้ชก็ต้องรับบทเป็นผู้เล่นจำเป็นในฐานะของ Midlane ก่อนที่เขาจะปรึกษากับ N0tail ในการชวน Topson มาเล่นตำแหน่งนี้แทน ส่วนเขาได้เล่นตำแหน่งที่ไม่ได้แตะมานานอย่าง Offlane 7ckngMad จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น Ceb ในการลุยรายการ Ti8 ด้วยการที่เขาเป็นโค้ชมาก่อนรวมถึงมีประสบการณ์เล่นอย่างยาวนาน ทำให้เขาสามารถอ่านเกมได้ดีกว่า Offlane คนอื่น ๆ โดยเขาจะเป็นคนทำทุกอย่างให้กับทีม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่ให้ Carry การยืนค้ำให้กับเพื่อนร่วมทีม หรือการเปิด Team Fight เขาล้วนทำออกมาได้ดี สำหรับรอบชิงชนะเลิศถือว่าเป็นการดึงเอาความสามารถของเขามาใช้อย่างเต็มที่ โดยในเกมที่ 4 เขาได้สร้างจังหวะที่เป็นตำนานของการแข่งในชื่อ Ceeeeeeb call of his life จนทำให้ทีมสามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ในที่สุด ซึ่งบทบาทของ Ceb นั้นนอกเหนือจากการเป็นผู้เล่นแล้วนั้น เขาก็ยังมีหน้าที่เพื่อที่จะปลุกใจเพื่อนๆ เปรียบเสมือนเป็นผู้เล่นและโค้ชไปด้วย ดูได้จากคลิปด้านล่างที่ทาง OG เจอกับ PSG.LGD ในรอบชิง ที่ Ceb มีบทบาทมากๆ ที่ทำให้ทีมมีกำลังใจมากขึ้น https://youtu.be/Bv4CqIxqTMA TI9 กับ Ceb ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ก่อนการแข่งขัน TI9 ไม่นาน Ceb ต้องเจอกับประเด็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรง ซึ่งเขาก็ยอมรับผิดและเดินต่อไป ในวงการ Dota 2 ซึ่ง OG เป็นหนึ่งทีมที่ไม่ค่อยจริงจังกับการแข่งขันรายการอื่นมากนัก นอกจากรายการ The International โดยพวกเขาเน้นแข่งเพียงเพื่อมีแต้มเพียงพอที่จะได้รับการรับเชิญเท่านั้น ใน TI9 เขาได้แสดงให้เกมเมอร์หลาย ๆ คนเห็นแล้วว่า เกมเมอร์อายุ 27 ยังคงสามารถอยู่ในวงการ Esports ได้ หากคุณมีความพยายามมากพอ ซึ่งการแข่งขันในปีนี้เขาฝีมือคงเส้นคงวามากกว่าที่ผ่านมา อีกทั้งยังประสานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีขึ้นกว่า TI8 หลายเท่า รวมถึงเป็นแกนกลางสำคัญในการคุมจังหวะให้กับทีมอีกด้วย จนทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด ซึ่งเขาได้รับเกียรติจากเพื่อนร่วมทีมในการชูถ้วย Aegis เป็นคนแรกของทีม สรุป Ceb จากผู้เล่น Dota 2 ที่ล้มเหลวมาตลอด 6 ปีของการเล่นอาชีพ ในตอนนี้เขากลับมาติดอันดับผู้เล่นที่เงินสูงสุดประจำเกมนี้ไปแล้ว พร้อมกับประโยคคำว่า “Ceeeeeeeeeeeeeeeb” ที่เราจะได้ยินไปอีกนาน สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่นั้นคือการที่ เขาไม่เคยที่จะยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่าง ๆ รวมถึงมีทัศนคติที่ดีซึ่งเขาได้รับมาจากการที่ได้อยู่กับ N0tail และจุดสำคัญที่สุดคือ “ประสบการณ์“ ในการเล่นของเขา ที่ทำให้เขาสามารถมองผู้เล่นแต่ละคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยเฉพาะการดึงเอาผู้เล่นเก่ง ๆ เข้ามาในทีมแล้วดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาอย่าง Miracle , ana, Topson ซึ่งเดิมทีเขาก็เป็นผู้เล่นธรรมดา แต่เมื่อเข้าสู่ทีม OG แล้วต่างเก่งขึ้นแบบทันตาเห็น หากเพื่อน ๆ คิดว่าทุกวันนี้การทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จเสียที หรือเล่นมากี่ปีก็ไม่เก่งขึ้นเลย อาจจะลองเพิ่มความพยายามในการเล่นมากขึ้น ไม่แน่เราอาจจะประสบความสำเร็จในอนาคตเหมือน Ceb ก็ได้ อ้างอิง : Liquidpedia N0tail interview with Ceb TI9 

MVP (Most Value Player) หรือภาษาไทยจะนิยมใช้คำว่าผู้เล่นทรงคุณค่า เป็นตำแหน่งที่จะมอบให้กับนักกีฬาที่เป็นคนสำคัญของการแข่งขันนั้น ๆ ซึ่งในโลกของกีฬา Esports ก็เริ่มมีการนำเอาตำแหน่งนี้มามอบให้ผู้เล่นที่แสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นั้น ๆ The International  2019 เป็นรายการแข่งขัน DOTA 2 ที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกของวงการ Esports ท(เงินรางวัลรวมประมาณ 1 พันล้านบาท) ทำให้การแข่งขันรายการนี้ทุกทีมต้องเอาจริงและเต็มไปด้วยแรงกดดันต่าง ๆ แต่มีผู้เล่นหนึ่งคนที่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ จนทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์จากรายการนี้ได้เป็นสมัยที่สอง พร้อมทั้งเปิดตำนาน IO ฮีโร่นอกสายตาของใครหลาย ๆ คนมาเล่นตำแหน่ง Carry จนฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง นั่นคือ ana นั่นเอง Ana เขาคือใคร เขาผ่านอะไรมาจนสามารถคว้าตำแหน่ง MVP ของทัวร์นาเมนต์นี้คู่กับผู้เล่นอย่าง Topson ได้ วันนี้เรามาเปิดประวัติของเขากัน กำเนิดชายชื่อ ana ana เป็นชื่อในเกมเขาที่ได้มาจากชื่อจริงว่า Anathan Pham เขาเกิดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมปี 1999 ในประเทศออสเตรเลีย เขาเริ่มเล่นเกม DOTA 2 ตั้งแต่อายุ 12 ปี หลังจากที่เขาเล่นมาได้สองปีเขาจึงคิดที่จะเล่น DOTA 2 อย่างจริงจังและต้องอยู่ในทีมระดับโลกได้ โดยในตอนนี้เขาได้เล่นให้กับทีมเล็ก ๆ อย่าง Mobility Gaming International แต่เมื่อเล่นได้เพียงหนึ่งเดือน ทีมก็ล่มหลังจากแข่งรายการ Home Grown Gaming EB Games Expo เนื่องจากประเทศออสเตรเลียมีความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ช้ามาก อีกทั้งจำนวนผู้เล่นระดับโปรที่น้อย ทำให้เขาต้องหาทางในการที่จะเข้ามาสู่วงการนี้ให้ได้ เพราะหากยังคงเล่นในโซนนี้ต่อไปความฝันของการเป็นผู้เล่นระดับโลกอาจจะยากจนเกินไป แต่แล้วสวรรค์ก็เหมือนจะขีดเขียนให้เขาได้เป็นโปรเพลเยอร์ เมื่อเขาสามารถไต่ Ranking ของเขาได้ติดอันดับของเซิร์ฟเวอร์ หลักจากนั้น ana เขาก็ได้รับคำเชิญจากทางสโมสร Esports ชื่อดังของแดนมังกรอย่าง CDEC ให้ไปเข้าแคมป์คัดตัว เรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้กับครอบครัวของ ana อย่างมากโดยเฉพาะแม่ของเขา ที่ไม่ค่อยจะอยากส่งเสริมให้เขาได้เดินทางสายนี้มากนัก แต่ก็ได้คนอื่น ๆ ในบ้านโดยเฉพาะพี่ชายช่วยกันเกลี้ยกล่อมทำให้ ana ได้เริ่มต้นเส้นทาง Esports ของเขาเสียที โดยพี่ชายของเขากล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า เมื่อโอกาสมาแล้ว เราไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้นอกจากคำว่า ‘ลุยเลย’ เส้นทางของ Esports ไม่ใช่เรื่องง่าย [caption id="attachment_27551" align="alignnone" width="680"] รูปภาพจากเว็บไซต์ Redbull[/caption] ปี 2015 หลังจากฉลองเทศกาลคริสต์มาสกับครอบครัวเสร็จ ana เดินทางออกจากบ้านที่ Melbourne ไปยังมหานคร Shanghai ในแคมป์คัดตัวผู้เล่นของสโมสร CDEC ด้วยความที่ ana มีฝีมือโดดเด่นในตำแหน่ง Mid Lane รวมถึงเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดี ทำให้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครหลายคน โดยเฉพาะผู้จัดการของทีมจึงทำให้เขาได้ไปอยู่กับทีมชื่อดังของเมืองจีนนามว่า Invictus Gaming หรือ IG  แต่การไปอยู่กับทีม IG นั้น ana ต้องมาเป็นตำแหน่งสำรองให้กับ Ferrari_430 ตำนาน Mid Lane ของแผ่นดินจีน ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกปี 2012 ทำให้ ana ค่อยได้แสดงฝีมือซักเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ได้มีโอกาสในการเล่นบ่อยนัก รายการที่เขาเดียวรายการเดียวที่เราได้เห็นเขาแสดงฝีไม้ลายมือคือ National Electronic Arena 2016  ถึงแบบนั้นเหมือนว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้ง เพราะในการแข่งขันรอบ Qualify ประจำภูมิภาคจีนของ The International  2016 ทีม IG ไม่ผ่านรอบคัดเลือก ทำให้ในปีนั้นเขาต้องออกจากทีม จนเกิดคำถามเกี่ยวกับอาชีพของตัวเองว่าจะเอายังไงต่อไปดี OG ผู้สร้าง ana ขึ้นมา [caption id="attachment_27556" align="alignnone" width="1024"] รูปภาพจาก ESPN[/caption] ตัดไปอีกฟากของโลกใน TI6 เองทีม OG เป็นทีมเป็นหนึ่งหนึ่งในทีมที่ใครหลาย ๆ คน คาดการณ์ว่าเป็นตัวเต็งแชมป์เพราะปีนั้นมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นและ ที่สามารถโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างโดดเด่นและสามารถเก็บคะแนนได้เยอะในรอบแบ่งกลุ่ม กลับโดนทีมอย่าง TNC จากโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่งกลับบ้านไป จากเหตุการณ์นั้นทำให้พวกเขาต้องเสียผู้เล่นไปถึงสามคนคือ -Miracle , MoonMeander และ Cr1t- OG เร่งที่ทีมใหม่ โดยได้มีการดึงเอา Jerax, S4 และ Ana เข้ามาเสริมทีม ซึ่งบททดสอบแรกของพวกเขานั้นคือ The Boston Major นอกเหนือจากผู้เล่นหน้าใหม่แล้ว พวกเขาได้กำลังสำคัญมาเสริมอีกหนึ่งคนนั้นก็คือ Ceb อดีตผู้เล่นที่N0tail เชื้อเชิญมาเป็นโค้ชนั่นเอง และด้วยทีมชุดใหม่นี้พวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างไม่ยากเย็น พวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างไม่ยากเย็น นอกจากจะชนะในเมอเจอร์นั้นแล้วในรายการ Dota 2 Asia Championship  2017 พวกเขายังสามารถคว้ารางวัลอันดับสองมาได้ครอบครองได้ ก่อนที่จะโชว์เก่งอีกครั้งด้วยการที่คว้าแชมป์ The Kiev Major 2017 ด้วยการเฉือนเอาชนะ VP เจ้าบ้านไป 3 ต่อหนึ่ง 2 ทำให้ทีม OG เป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์รายการ Major ได้มากถึง 4 แชมป์ เรียกได้ว่าถ้าดูจากผลงานแล้ว OG ในตอนนั้นถือว่าเป็นทีมที่ลงตัวมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นว่าที่แชมป์ของรายการ The International 2017 ก็ว่าได้  แต่แล้วทีม OG ก็ไปไม่ถึงฝันพวกเขาตกรอบในอันที่ 7-8 ร่วม ด้าน  ana ก็โดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นแคร์รี่ที่แบกความหวังของทีมเอาไว้ ซึ่งคำพูดที่ชาวเน็ตใช้ก็มีตั้งแต่ “น้องสาวฉันยังเล่นได้ดีกว่านาย” ไปถึง “ ana คือจุดอ่อนของทีมและ OG จะไม่มีวันดีกว่านี้ถ้าไม่ตัดเขาออกไป” ทำ ana รู้สึกกดดันมากถึงขนาดที่ว่า N0tail เคยกล่าวผ่านสารคดี Against the Odds  ว่า หลังจากการแข่งขัน TI7 จบลง เขาก็รู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะเดินต่อไปในเส้นทางสายนี้ ทำให้ ana พักการแข่งชั่วคราวและหันเข้าสู่เส้นทางในการเป็นเชพแทน ซึ่งคนที่เป็นไอดอลให้กับเขาคือ Gordon Ramsey เชฟชื่อดังระดับโลก https://twitter.com/anadota99/status/898193157354995712 หลังจากพักเพียงครึ่งปี ana ก็กลับเข้าสู่โปรซีนอีกครั้งในฐานะสมาชิกทีม Echo International ทว่าเขาก็เล่นให้กับทีมได้แค่สองเดือน ก่อนจะตัดสินใจเขากลับไปเล่นให้กับทีม OG ทีมที่กำลังต้องการเขาอย่างมาก เนื่องจาก Fly และ s4 ถอนตัวออกจากทีมไปอย่างกระทันหันก่อนจะถึง TI8 ส่งผลให้คะแนนของทีมไม่เพียงพอที่จะเข้าแข่งในฐานะทีมรับเชิญ และจะต้องไปผ่านรอบคัดเลือกตั้งแต่ระดับภูมิภาคเหมือนทีมโนเนมอื่นๆ  ซึ่งการเปลี่ยนผู้เล่นในทีมครั้งนี้ก็ได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์  OG ไปตลอดกาล   Rise of ana [caption id="attachment_27553" align="alignnone" width="739"] รูปจากเว็บไซต์ Redbull[/caption] ในการกลับมาของ anaในครั้งนี้ คือการที่ OG มีผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Topson เด็กหนุ่มมหัศจรรย์และโค้ชผู้ผันตัวมาเป็น Offlane อย่าง Ceb มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของทีม  โดย Ceb ทำหน้าที่คอยคุมจังหวะของเกมและมี Topson คอยป่วนฝั่งตรงข้ามเก็บคิลช่วงต้นเกม ซื้อเวลาให้ ana ฟาร์มเพื่อกลับมาช่วยในทีมทีมไฟต์ในเวลาที่กำลังจะได้เปรียบ และมาช่วยกอบกู้ทีมในเวลาที่สถานะการณ์ย่ำแย่ ซึ่งฮีโร่ที่เขาสามารถดึงความสามารถออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมคงไม่พ้น Ember Spirit และ Phantom lancer https://youtu.be/Bv4CqIxqTMA สิ่งที่ทำให้ ana แตกต่างไปจาก Carry คนอื่น ๆ คือสไตล์การเล่นที่ดุดัน มีความมั่นใจสูง ทำให้เขากล้าที่จะเล่นหลาย ๆ จังหวะ ถือว่าเป็นผู้เล่นที่รับมือเขาได้ยากมาก ยิ่งเมื่อรวมกับ Topson แล้วทำให้สามารถคว้าแชมป์โลกมาสู่ทีม OG ได้สำเร็จ พร้อมคว้าตำแหน่ง MVP มาครอบครอง หลังจากคว้าแชมป์ TI8 ได้สำเร็จ ana ก็ได้พักการแข่ง Dota 2 อีกครั้ง ซึ่งในรอบนี้เขาได้ออกไปทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การเรียนทำอาหาร ไปจนถึงการเรียนเกี่ยวกับเรื่องของ Bitcoins ซึ่งการพักระหว่างซีซั่นของ ana ถือเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่แค่ในฐานะโปรเพลเยอร์ แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ยังคงตามล่าหาความฝันด้านอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการทำ Self-reflection (การสำรวจความคิดตัวเอง) ไปในตัวด้วย https://twitter.com/anadota99/status/1135564666132881409 Ana เจ้าของตำแหน่ง MVP สองสมัยซ้อน หลังจากที่ใช้ชีวิตเต็มที่มาหลายเดือน แคร์รี่ก็กลับมาสู่วงการ DOTA 2 อีกครั้ง โดยข่วงที่เขาไม่อยู่นั้นทีม OG ถือว่าทำงานได้อย่างน่าผิดหวัง โดยผ่านไปครึ่งฤดูการพวกเขามีแต้ม DPC เพียง 50 แต้ม ในขณะที่ทีมที่หนึ่งของโลกในตอนนั้นอย่าง Secret มีแต้มมากถึง 7950 แต้ม ทำให้สุขภาพจิตของผู้เล่นในทีมค่อนข้างแย่ ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เขาไม่อยู่ทำให้ในทีมขาดความมั่นใจในการเล่น แม้ว่าเมื่อ ana กลับเข้ามาเล่นช่วงแรก ๆ ยังไม่สามารถเก็บชนะได้เท่าที่ควร แต่ก็ทำให้ทีม OG ค่อย ๆ มีความมั่นใจในการเล่นเพิ่มขึ้น มีแนวทางการเล่นที่ชัดเจนขึ้นทำให้ผลงานโดยรวมของทีมดีขึ้นตามลำดับจนสามารถเก็บแต้ม DPC เพียงพอต่อการเข้าแข่งขัน TI 9 ใน TI9 เขายังคงฟอร์มการเล่นของตัวเองไว้อย่างยอดเยี่ยม โดยในคราวนี้พวกเขาได้อัปเกรดความเก่งขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ นั่นคือการเพิ่มฮีโร่ที่ทุกทีมต้องแบนอย่าง IO ที่แม้จะถูกเนิร์ฟจนแทบเล่นไม่ได้ แต่เขาก็ดึงเอาจุดเด่นของตัวละครนี้ออกมาจนมีอัตราชนะสูงถึง 100% ซึ่งตัวละครนี้ไม่ได้อยู่ในแผนที่ทีม OG เคยซ้อมแต่เป็นเพราะพวกเขาเชื่อใจใน ana จึงให้เขาได้เล่นฮีโร่ตัวนี้ ประกอบกับการประสานงานอย่างยอดเยี่ยมของ OG ทำให้ปีนี้ ana กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ใครหลาย ๆ คนกลัว เพราะจะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ได้ หากจ้องจัดการเขาทีม OG ก็ยิ่งได้เปรียบ ทางเดียวที่พวกเขาจะหยุด ana ได้คือการที่รอให้ทีม OG พลาดช่วงท้ายเกม ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ Ti9 ที่ผ่านมา ana กับ Topson สลับกันได้ MVP ในแต่ละแมตช์ ในแมตช์สุดท้ายของการแข่งขันการ ana ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าหากเขาจับ IO จะเป็นเช่นไร สรุป Ana ในตอนนี้เขาเป็นผู้เล่นระดับโลกที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือ การตัดสินใจ รวมถึงทีมเวิร์คเขาก็สามารถดึงเอาสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ก็คือความมั่นใจในฝีมือการเล่นของเขาที่ไม่สนในเรื่องของการโดนดักทางหรือแก้ทาง เพราะเขาเชื่อเสมอว่าเมื่อเขามีความมั่นใจเล่นฮีโร่ตัวไหนก็ชนะ ถึงจุดนี้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าแล้วที่ผ่านมา ana เล่นมาก็หลายทีม ทำไมถึงประสบความสำเร็จกับ OG มากกว่าทีมอื่น ๆ ที่เขาเคยเล่น คำตอบคือทีม OG ภายหลังจากการที่ได้ Ceb เข้ามาในทีม ทำให้แรงกดดันต่าง ๆ น้อยลงและเขาเล่นในแบบเป็นตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งนี่คือวิธีการที่เป็นปรัชญาของทีม OG คือปล่อยให้ผู้เล่นแต่ละคนได้ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่แล้วผลลัพธ์จะออกมาดีเอง เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ Miracle และ Topson ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าเส้นทางของ ana จะเป็นอย่างไรในอนาคต เนื่องจากตอนนี้เขายังอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น พร้อมกับเงินรางวัลการแข่งขันที่อยู่ในกระเป๋าประมาณ 180 ล้านบาท ในขณะเดียวกันเขาไม่ได้หยุดที่จะพยายามหาความฝันของตัวเองในด้านอื่น ๆ ทั้งการเป็นเชฟหรือการเล่น Bitcoins ทำให้เราสะท้อนตัวตนของเขาได้ว่า ana คือคนที่พยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ทั้งในด้านของการเล่นเกมและด้านอื่น ๆ ที่เขาสนใจ อันเป็นคุณสมบัติที่เราควรที่จะเอามาเป็นแบบอย่าง อ้างอิงข้อมูลจาก  Liquidpedia TI7 Profile Player - ana Against The Odd

Topson เป็นหนึ่งคนที่ขึ้นชื่อเรื่องการออกไอเทมสุดแปลก แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่มันออกมาดี แต่ที่ผลมันออกมาดีก็มีไม่ใช่น้อย เช่น Invoker ออกไอเท็ม Meteorhammer หรือ Gyrocopter ออก Diffusal Blade แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง Pugna ที่ออก Veil of Discord ชิ้นแรก ออกก่อนรองเท้าหรือซื้อ Bottle เสียอีก แต่ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องการเล่นมารู้จักกับ Hero PUGNA กันก่อนครับ สกิล Nether Blast ปล่อยคลื่นระเบิดสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างใส่ยูนิตและสิ่งก่อสร้างฝ่ายศัตรูในพื้นที่เป้าหมาย 325 หน่วย แต่จะสร้างสร้างความเสียหายเพียงครึ่งเดียวต่อสิ่งก่อสร้าง   Decrepify คาถาพันธนาการที่ทำให้ยูนิตเคลื่อนที่ช้าลงและไม่สามารถโจมตี หรือถูกโจมตีได้ ยูนิตที่อยู่ในภาวะนี้จะได้รับความเสียหายทางเวทมนตร์เพิ่มขึ้นอีก 60%   Nether Ward Pugna ปัก Nether Ward ไปยังตำแหน่งเป้าหมาย ซึ่ง Nether Ward จะลดอัตราฟื้นฟูมานาของฮีโร่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงและจะยิงกระสุนใส่ฮีโร่ศัตรูที่ใช้สกิล  โดยจะสร้างความเสียหายเท่ากับมานาที่ใช้คูณด้วย 2 ยกตัวอย่างก็ Crystal Maiden ใช้สกิล Freezing Field ใช้มานา 600 หน่วย ก็จะโดนดาเมท 1200 ทันทีนั้นเอง Life Drain สกิลยืนร่าย - เมื่อร่ายใส่ศัตรู Pugna จะดูดพลังชีวิตจากยูนิตศัตรูเป้าหมายเพื่อรักษาตัวเอง ถ้าหากพลังชีวิตของ Pugna เต็มอยู่และเป้าหมายศัตรูเป็นฮีโร่ ผลของ Life Drain จะกลายเป็นการฟื้นฟูมานาแทน เมื่อร่ายใส่เพื่อนร่วมทีม Pugna จะถ่ายเทพลังชีวิตของเขาไปให้เพื่อนร่วมทีม วินาทีละ 350 หน่วยทุกกรณี ถ้าถือ Aghanim’s Scepter อยู่ สกิล Life Drain จะไม่มี Cooldown  PUGNA มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ข้อดี วิ่งไวถึง 330  ถือว่ามากที่สุดดร่วมกับ Keeper of the Light / Legion Commander / Meepo Pugna เป็น Hero ที่สามารถกดเลนอีกฝ่ายได้ตั้งแต่เลเวล 1 ด้วยสกิล Decrepify ถ้านึกภาพไม่ออกจะยกตัวอย่างให้คุณดูนะ ถ้าคุณไปเจอ Pugna ที่เลนกลางคุณกำลังจะ Last Hit ครีปฮีโร่ตัวนี้มากดสกิล Decrepify ใส่คุณทำให้คุณไม่สามารถตีเพื่อ Lsat Hit ได้ แล้ว Pugna ก็จะ Denied ครีปตัวนั้น เงินก็ไม่ได้ EXP ก็ได้นน้อยลงตามไปด้วย ตัวสายตีธรรมดาไม่ชอบมัน เพราะสกิล Decrepify อีกเช่นเคย คุณเล่น Phantom Assassin คุณกำลังจะเข้าไปฆ่าใครซักคน Pugna ก็จะกด Decrepify ใส่คุณให้ตีไม่ได้หรือเพื่อนร่วมทีมขอองเขาไม่ถูกตีได้ด้วย สกิล Decrepify สามารถทำคอมโบกับเพื่อน โดยกดใส่อีกฝ่ายเพื่อให้โดนเวทมนตร์แรงเพิ่มขึ้นก็ได้ ยังไม่หมด เป็นตัวที่ลาสครีปได้ดีจากสกิล Nether Blast แถมยังเอาไว้ทำลายป้อมหรือฟามกองครีปที่เพื่อนเราเตรียมไว้ให้ได้อีกด้วย ต่อด้วยสกิล Nether Ward ที่ทำให้อีกฝ่ายที่ใช้สกิลเจ็บตัวเอง ลดการฟื้นฟูมานาอีกถ้ายืนกดสกิลเพลินๆถึงตายเลยแน่นอน สุดท้ายสกิล Life Drain สามารถใช้ได้ทั้งทำดาเมจหรือรักษาเพื่อนร่วมทีมตามสถานการณ์ ข้อเสีย ตัว Pugna ไม่มีเกราะเลยตอนต้นเกมบวกกับเลือดเริ่มต้นที่น้อยมีแค่ 542 เท่านั้น เป็นกระดูกตัวน้อยที่เปราะบางสุดๆ โดยแค่ข้อนี้ข้อเดียวก็แทบจะลบข้อดีทั้งหมดได้เลย เพราะ Pugna จะตายก่อนได้ใช้ข้อดีทั้งหมดของเขา แพ้ไอเทม Black King Bar เพราะตัว Pugna มีแต่ความแรงที่สกิลทำให้โดน Black King Bar ที่ทำให้ป้องกันเวทได้ 100% เป็นเวลา 10 วินาที ถ้าเจอ Black King Bar วิ่งหนีอย่างเดียว  ไอเทม Veil of discord สามารถกดใช้ได้โดยมีความสามารถ ปล่อยคลื่นรัศมี 600 หน่วย ลดความต้านทานเวทมนตร์ของศัตรู 25% คอมโบกับสกิลต่างๆของ Pugna เป็นอย่างดี กดใช้ของ Veil of Discord กับสกิล Decrepify  เท่ากับว่าเราลดเกราะเวทได้ 85% ทำให้ Pugna จะทำดาเมจได้รุนแรงมาก การเล่น Pugna ของ Topsong  เขาได้หยิบ Pugna มาเล่นในการแข่ง The International 2019 ทั้งหมด 2 เกมและชนะทั้ง 2 ตานั้นโดยเราจะมาดูเกมที่เขาเล่น Pugna ในเกมที่เจอทีม Team Liquid ในเกมที่ 3 รอบชิงของ The International 2019  ภาพที่ 1 นี้มี 2 จุดให้เราสังเกตคือ   วงสีเหลือง เป็นไอเทมต้นเกมที่ทาง PUGNA (Topson) เลือกที่จะออกมาต้นเกมปกติแล้วผู้เล่นทั่วไปจะซื้อไอเทมที่จะผสมไปเป็น Mantle of Intelligent กับ Circlet เพื่อที่จะไปต่อเป็น Null Talisman ที่จะช่วยเพิ่มสเตตัสทุกอย่าง เช่น เลือด มานา ดาเมจตีธรรม แต่ตัว Topson กลับคิดว่าเขาจะรีบออก Veil of Discord ให้เร็วที่สุด เลยเลือกที่จะซื้อ Crown ที่เป็นส่วนผสมมาตั้งแต่ต้นเกมแทน วงสีแดง อยากให้ทุกคนมองเห็นว่าครีปเวทหายไปในฝั่งของ Pugna (Topson)  แล้วมีเครื่องหมาย ? นั้นแสดงถึงการ Denied ครีปตัวนั้นทิ้งไป ถึงทาง Templar Assassin (W33) จะมีดาเมจ 67 มากว่า Pugna ที่มีดาเมจ 54 แต่การที่โดนสกิล Decrepify ไปทำให้ Templar Assassin (W33) ไม่สามารถลาสครีปตัวนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายที่ Pugna (Topson) จะ Denied ครีปตัวนั้นเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบทั้ง EXP และ เงิน ซึ่งตลอดการยืนเลนนั้นไม่ใช่ครั้งเดียวแน่นอนที่เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ (อยากบอกไว้ด้วยในเกม Dota2 นั้น ครีปเวทนี้จะได้ เงินและเลเวลมากกว่าครีปตีใกล้ การโดน Denied เลเวลและเงินตามแน่นอน) ภาพที่ 2 มี 3 จุดให้ดูกันคือ  วงสีฟ้า จากภาพที่แล้วทำให้เห็นว่า Pugna (Topson) นำอยู่ทั้ง คริป และ Denied ของ Templar Assassin (W33) จนเลเวลนั้นนำอยู่ 1 เลเวลเลยทีเดียว วงสีเหลือง Pugna (Topson) เขาจะอัพสกิล Nether Blast มาเพื่อ Last Hit และอัพสกิล Decrepify คู่กันมาเพื่อป่วน จังหวะ Last Hit ของอีกฝ่ายด้วย พร้อมกับ ซื้อ Helm of Iron Will มาเพิ่มเกราะ ลดดาเมจที่โดน Templar Assassin ตีโดยตรง และเป็นส่วนผสมของ Veil of Discord อีกด้วย วงสีแดง Tiny (Jerax) เลือกที่จะมากดดัน Templar Assassin เพิ่มอีก เพื่อสร้างความได้เปรียบให้มากว่าเดิมถ้าไม่ตาย Templar Assassin (W33) ก็จะเสียเลือดแล้วยังไม่ได้ Last Hit อีกและถ้าตายก็กำไรมากขึ้นไปอีก ในภาพก็สามารถฆ่าได้สำเร็จ ภาพที่ 3  ดูที่วงสีแดงทั้ง 2 อัน จากที่ Pugna (Topson) ที่มีไอเทม Veil of Discord พร้อมกับเลเวล 6 พอดี ก็ทำการเปิดฉากจะฆ่า Templar Assassin (W33) แต่ก็ฆ่าไมได้เพราะ W33 ใช้ Faerie Fire เพิ่มเลือดจังหวะสุดท้ายจึงหนีออกไปได้ แต่ก็ไม่สามารถกลับเข้ามาในเลนได้อีกสักพักเลยทีเดียว ภาพที่ 4  วงกลมสีแดง ทางทีม Team Liquid ต้องไปเอา Tidehunter (MinD_ContRoL)  และ Rubic (GH) มารุม Pugna (Topson) แต่ก็ฆ่าไม่ได้โดย Pugna (Topson) แค่กด Town Portal Scroll หนีกลับบ้านอย่างง่ายดาย แถมในวงสีเหลืองยังฝากรอยแผลเอาไว้อีกด้วย ให้ดูเลือดของป้อมที่เหลือน้อยเต็มที ภาพที่ 5 วงสีฟ้า Team Liquid ที่ต้องมารวมตัวกันถึง 5 คนแต่ทาง OG ในวงกลมสีแดงนั้นมารวมแค่ 3 และอีก 2 คนใน Mini Map ด้านข้างก็ฟามอย่างสบายใจ แทนที่จะมาเสียเวลาตรงกลาง สุดท้ายก็มีแค่ Tidehunter (MinD_ContRoL)  กับ Tiny (Jerax) ที่ตายแลกกันไป 3 ต่อ 5 ไม่นับว่าคุ่มเท่าไหร่ หลังจากนั้น Team Liquid ก็ยังต้องคอยปวดหัวกับการที่ Pugna (Topson) พยายามระเบิดป้อมและไปไล่ฆ่าคนโน้นคนนี้จนผู้เลยทีม Team Liquid ไม่เป็นอันฟาร์มกันเลย สุดท้าย  Enchantress (Ceb) กับ Faceless Void (ana) ที่ฟาร์มจนอ้วนตัวกลมก็มารวมตัวจบเกมไปตอนนาทีที่ 23 ทีม OG ฆ่ารวมไป 36 ตาย 11 เงินนำ 23K สรุป  Pugna (Topson) นั้นเป็นการเล่นที่ดุดัน แถมตัวเองก็ชนะทาง Templar Assassin (W33) ด้วย นอกจากนี้ไอเทมที่ออกมาก็เข้ากับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Tiny (Jerax) ได้ดี บอกได้เลยว่าชนะทั้งดราฟ ชนะทั้งการออกของและแผนการ ถ้าคุณอยากไปทำตามก็ของให้เพื่อนรวมทีมของคุณเอาพื้นที่คุณสร้างให้นั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับ Support 2 คนของทีมคุณก็ต้องมาช่วยด้วยนะ ไม่งั้น 1 VS 5 มันก็เกินความสามารถไปอยู่ดี OG’s Mind Games – เจาะเส้นทางแชมป์จากสงครามจิตวิทยาของ OG รู้จักกับ Topson เด็กหนุ่มมหัศจรรย์แห่งโลก Dota 2 IO ฮีโร่ที่ควรจะเป็นได้แค่ Support แต่ดูเหมือนว่าวันนี้มันจะไม่ใช้แบบนั้นอีกแล้ว ติดตามข่าวได้ที่ Facebook: GameFever TH ติดตามคอนเทนท์วิดีโอของเรา Youtube: GameFever TH

Dota 2 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมมาแรงจากทางค่าย Valve นอกจากที่จะมีระบบการเล่นที่สนุกแล้ว เกมนี้ยังมีรายการแข่งขันที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลกอย่าง The International หรือเรียกอย่างเข้าใจง่ายคือการแข่งขันเกม Dota 2 ชิงแชมป์โลกประจำปี โดยมีล่าสุดมีเงินรางวัลสูงมากถึง 34,328,410 เหรียญหรือประมาณ 1000 ล้านบาท ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มที่จะมองหาทีม รวมถึงพัฒนาฝีมือของตัวเอง พร้อมกับความฝันอันแรงกล้าที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ให้จงได้ สำหรับใครที่เป็นมือใหม่และไม่รู้ว่าจะเริ่มพัฒนาฝีมือทางด้านไหนก่อนดี วันนี้พวกเรา Gamefever มีเว็บไซต์มาแนะนำ เพื่อพัฒนาฝีมือให้ก้าวขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ 1. Dotafire Dotafire ถือว่าเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่อยู่กับผู้เล่นเกม Dota 2 มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เกมเปิด โดยจุดเด่นของทางเว็บไซต์นี้คือการมี “ไกด์”ของตัวละครต่าง ๆ ครบทุกตัว (ภาษาอังกฤษ) ให้เราได้เลือกเล่นได้อย่างหลากหลาย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเพียงแต่การออกไอเทมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวิธีคิดของตัวละครนั้น ๆ อีกด้วย สำหรับวิธีใช้ก็ง่ายมาก เพียงแค่เพื่อน ๆ กดเข้าไปในเว็บไซต์ หลังจากนั้นพิมพ์ชื่อตัวละครในช่องค้นหา เพียงเท่านี้เราก็จะเจอกับไกด์ของตัวละครที่เราเลือกเล่นแล้ว ซึ่งความดีงามของเว็บไซต์นี้ก็คือการที่ไกด์แต่ละบทความจะมีการบอกเวอร์ชันของตัวเกมด้วย ทำให้เราไม่หลงว่าไกด์นี้เป็นไกด์เก่าหรือไกด์ใหม่ 2. Dotabuff หากคุณเป็นคนที่เชื่อว่าตัวเลขไม่เคยโกหกใคร ก็ของยินดีต้อนรับเข้าสู่ Dotabuff เว็บไซต์รวบรวมสถิติที่ใหญ่ที่สุดของโลก Dota 2 โดยเว็บนี้จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับสถิติทุกอย่างให้เรารู้ ตั้งแต่ Winrate / KDA/ เปอร์เซ็นนต์การอัปเกรดไอเทม รวมถึงอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะประวัติการแข่งที่เหล่าโปรเพลเยอร์จะมาส่องคู่แข่งก็เว็บไซต์นี่แหละ นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถที่จะเชื่อม Steam ของเรากับทางเว็บไซต์ได้ ซึ่งจะทำให้เราทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้เราสามารถวางแผนในการพัฒนาฝีมือของเราได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นหากคุณต้องการเป็นเกมเมอร์สายจริงจัง เซฟเว็บนี้ไว้ใน Bookmark เลย 3. YouTube/Twitch สำหรับผู้เล่นใหม่นั้นการก๊อบปี้ ความสามารถและแนวทางในการเล่นจากผู้เล่นระดับสูง ย่อมพัฒนาฝีมือในการเล่นเกมได้ดีกว่าการเล่นแบบธรรมดา โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการดูว่าผู้เล่นคนนั้น ๆ มีทักษะและวิธีการแก้ปัญหาให้กับตัวละครนั้น ๆ อย่างไร ซึ่งแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในตอนนี้คือทาง YouTube และ Twitter ที่หาเกมเมอร์ชอบผู้เล่นท่านไหน ก็สามารถที่จะไปหาดูได้ โดยใน Twitch จะเหมาะกับการที่ดูเหล่าโปรเล่นสดมากกว่า ในขณะที่ YouTube จะเหมาะกับการดูวิดีโอในการสอนมากกว่าซึ่งก็ดูตามความถนัดและความชอบของแต่ละคน 4. blog.dota2 เมื่อคุณเข้าสู่โหมดเกมการเล่นจริงจัง ข่าวสารต้องเร็ว อัปเดตต้องไว ซึ่งคงไม่มีเว็บไซต์ไหนที่จะเร็วไปกว่าเว็บไซต์หลักของเกมอย่างเว็บไซต์ Dota 2 อีกแล้ว ซึ่งจุดหลัก ๆ ที่ทำให้เว็บนี้มีความสำคัญคือทุกครั้งที่มีการอัปเดตแพทช์ต่าง ๆ รวมถึงตัวละครใหม่จะลงที่นี่เป็นที่แรก นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญอีกประการของเว็บนี้คือ Leaderboard ที่จะบอกได้ว่าใครคือยอดฝีมือในเวลานี้ ซึ่งจะแยกออกเป็น 4 โซนได้แก่ โซนอเมริกา โซนเอเชียตะวันออกเฉียงให้ โซนยุโรปและโซนจีน เป็นที่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ Valve ได้ลองระบบ Ranking แบบใหม่ ทำให้เราไม่สามารถที่จะดูว่าใคร Ranking สูงได้จนกว่า Valve จะแก้ปัญหาต่าง ๆ ลงตัวก่อน 5.liquipedia liquipedia เป็นสารานุกรมเกี่ยวกับ Esports ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีข้อมูลต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นระดับโปร ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง/รายได้/ได้แชมป์มาแล้วกี่ทัวร์ เว็บไซต์นี้จะบอกทุกอย่าง นอกจากนี้ยังสามารถที่จะใช้ติดตามการแข่งขันของเกมต่าง ๆ โดยเฉพาะเกม Dota 2 ที่เว็บนี้บอกตารางการแข่งขันที่ละเอียดมาก ๆ และมีการสรุปผลการแข่งในแต่ละทัวร์ให้เราอีกด้วย ใครอยากความรู้เกี่ยวกับ Esports ของเกม Dota 2 ก็เริ่มที่เว็บนี้เลย แถม Gamefever ขออนุญาตขายของเล็กน้อย (ฮา) Gamefever ของเราเป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับวงการเกมอย่างครบครันในเว็บไซต์เดียว ทำให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องเหนื่อยที่จะตามข่าวของวงการเกม โดยในส่วนของเกม Dota 2 นั้นทางเราค่อนข้างที่จะใส่ในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของข่าวสารที่เราพยายามที่จะอัปเดตทุกวัน รวมถึงบทความต่าง ๆ เกี่ยวกับเกม Dota 2 ที่จะทำให้คุณมองเห็นภาพของเกมนี้ได้กว้างกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้พวกเรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย ขอให้เพื่อน ๆ ความสุขในการพัฒนาฝีมือมาเป็นผู้เล่นระดับแนวหน้าของเกม Dota 2 กันทุกคน

หนึ่งในประเด็นที่กำลังมาแรงในตอนนี้คงจะไม่พ้นการที่ทีม OG สามารถคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ The International 2019 ได้ พร้อมคว้าเงินรางวัลกลับบ้านไป 15.5 ล้านเหรียญหรือเกือบ 500 ล้านบาทกันเลยทีเดียว พร้อมทั้งเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์จากการแข่งขันรายการนี้ได้ 2 สมัยและเป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ได้ หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ทีม OG สามารถเฉิดฉายได้โดดเด่นนั้น ต้องยกความดีความชอบให้กับหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่ง Mid ที่เก่งที่สุดในขณะนี้อย่าง Topson ที่ฝีไม้ลายมือของเขานั้นสุดยอดมาก อีกทั้งยังฝากผลงานที่ตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าผู้เล่นเสมอ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเขากัน กำเนิดชายที่ชื่อ TOPSON [caption id="attachment_27351" align="alignnone" width="678"] รูปจาก Redbull.com[/caption] Topias Miikka "Topson" Taavitsainen เป็นเด็กหนุ่มชาวฟินแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1998 โดยประวัติในวัยเด็กของเขาไม่ค่อยมีใครทราบนัก แต่เด็กหนุ่มคนนี้ถือว่าเกิดมาคู่กับเกมอย่าง Dota มาอย่างแน่นอนเพราะว่าเขากล่าวว่าเขาเล่นเกมนี้มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ด้วยพรสวรรค์และความสามารถของเขา ทำให้ Topson สามารถไต่แรงค์ของเกมนี้จนติดอันดับต้น ๆ ของเกมนี้ ความสามารถของเขาได้ไปเตะตา ผู้เล่นระดับสูงจนเกิดการรวมทีมแข่ง Esports ครั้งแรกในชื่อทีม SFTe-sports ที่ได้ดึงเอา Carry ชาวรัสเซียชื่อดังอย่าง "Illidan" มาเป็นกัปตันทีมพร้อมกับสมาชิกอีกสามคนได้แก่ "Niqua" , "Pablo" และ "Taiga" ผลงานของ SFTe-sports ถือว่าโอเคเลย โดยพวกเขาสามารถคว้าแชมป์รายการ Minor อย่าง ProDotA Cup Europe #22 ไปได้ 3 ต่อ 1 เกมและนั่นถือว่าเป็นแชมป์แรกในชีวิตของเรา แต่ด้วยสาเหตุอะไรก็ตามแต่ ทีมของเขาก็ได้แตก สมาชิกทุกคนแยกย้ายกันไป ซึ่ง Topson หลังจากที่เขาออกมาเขาก็ได้เข้าร่วมทีมอย่าง 5 Anchors No Captain ซึ่งเป็นทีมชาวฟินแลนด์ล้วน เข้าลุยรายการ World Electronic Sports Games 2017 และ Join Dota League ซึ่งผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจนัก https://twitter.com/Team5ANC/status/975767211989258245 หลังจากนั้น Topson ก็ได้ออกจากทีม ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ทีมไหน แต่เหมือน Topson จะรู้ว่า MMR เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ชีวิตการเล่นเกม Dota 2 ของเขาประสบความสำเร็จ ทำให้เขานั่งปั่น MMR จนสามารถเป็นที่ 1 ของเซิร์ฟยุโรปได้ https://twitter.com/TopsonDota/status/981634199672229890 ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าการที่เขาได้ Ranking สูงสุดของเซิร์ฟครั้งนี้ จะเปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดการ Rise of Topson ในตอนนั้นการแข่งขัน The International ปี 2017 กำลังใกล้เข้ามา ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับทีม OG ที่ในตอนนั้น เนื่องจากการที่ s4 และ Fly ได้ทำการย้ายออกจากทีม ทำให้พวกเขาได้มีการดึงเอา Ana และ Ceb มาเป็นผู้เล่นในทีมและได้มีการดึงเอา Resoulution มาเล่นแต่หลังจากที่ลองเล่นได้แป๊บเดียวเขาก็ได้ถอนตัวออก https://www.youtube.com/watch?v=bdgTa9ni4S8 เพราะว่าในตอนนั้นทีม OG ผลงานไม่ดีนัก อีกทั้งยังไม่ได้รับการคัดเลือกเข้าแข่งรายการ The International 2018 อีกต่างหาก ทำให้พวกเขาจะต้องเข้าแข่งในรูปแบบ Open Qualify เท่านั้น ซึ่งทาง Notail กัปตันทีมในตอนนั้นไม่รู้จะไปหาใครที่ไหนได้ จึงปรึกษากับ Ceb และเลือกเอา Topson ซึ่งได้ MMR อันดับหนึ่งในตอนนั้นมา ซึ่งเขาเองก็ไม่ปฏิเสธ ด้วยพลังของทีมใหม่ ทำให้ทีม OG สามารถที่จะผ่านรอบ Qualify ของโซนยุโรปได้อย่างไม่ยากเย็น จนเมื่อถึงรอบแบ่งกลุ่มพวกเขาถึงรู้ว่าที่ผ่านมาถือว่าเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยในรอบนี้พวกเขาต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง PSG.LGD , Team Liquid, Evil Genius  ซึ่งพวกเขาสามารถฟันพาจนสามารถที่จะอยู่สายบนได้ ในการแข่งขันรอบ Main Stage พวกเขาต้องเจอกับทีมที่แข็งแกร่งหลาย ๆ ทีม ซึ่งในตอนนั้นสายตาของแฟนเกม Dota 2 จับต้องไปยังการเจอกันของสองเพื่อนเก่าระหว่างทีม OG และ EG ซึ่ง Topson และ ana สามารถทำผลงานออกมาได้อย่างดี โดยเฉพาะ Invoker สาย Quas Wax และ Zeus ที่ในตอนนั้นไม่มีทีมไหนเล่นแบบนี้ ทำให้ทีม OG สามารถเอาชนะไปได้ 2-1 เกมพร้อมกับฉากจับมือในตำนาน ทีม OG สามารถที่จะเอาชนะคู่แข่งได้อย่างสบาย ๆ โดยหนึ่งในจุดเด่นของทีม OG คือการดราฟท์หลอกในตำแหน่งของ Mid Lane ที่พวกเขาสามารถที่จะสลับตำแหน่งการเล่นกับ ana ได้ รวมถึงการเล่นตัวละครที่ไม่เหมือนใครไม่ว่าจะเป็น Pugna หรือ Zeus เป็นต้น ทำให้พวกเขาเข้าไปชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกกับทีม PSG.LGD ในรอบชิงนั้นเรียกได้ว่าเป็นด่านหินของทีม OG โดยในเกมแรก Topson สามารถระเบิดพลังของ Monkey King ออกมาได้อย่างดุดัน ทำให้เกมแรกทีม OG สามารถเอาชนะไปได้แม้ว่าช่วงต้นเกมพวกเขาจะโดนกดดันมากแค่ไหน สำหรับเกมที่สองและสามนั้น ทาง PSG.LGD พวกเขาสามารถที่จะจับทางได้ ด้วยเกมรับที่แข็งแกร่งและการเล่นที่เนียบกว่าทำให้ในตอนนั้น หากพวกเขาแพ้อีกหนึ่งเกม แชมป์โลกจะตกเป็นของทีม PSG.LGD ทันที พร้อมทั้งดำรงคำสาปของถ้วย Aegis ที่หากแข่งในปีเลขคู่ทีมจีนจะได้แชมป์ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ถอดใจ แม้ว่าบ้านจะแตกแค่ไหนพวกเขาก็สู้ ทำให้ทีม OG ค่อย ๆ ที่จะกลับมาจนสามารถคว้าแชมป์ได้มาที่สุด พร้อมกับล้างคำสาป Aegis ออกไปได้ ชัยชนะในคราวนั้นส่งผลให้ Topson กลายเป็นเศรษฐีในระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งเดือน TI 9 กับ Topson เวอร์ชันอัปเกรด [caption id="attachment_27352" align="alignnone" width="818"] รูปจาก VPEsports[/caption] ในปี 2019 ช่วงก่อน TI นั้นพวกเขาพักแข่งชั่วเป็นเวลาสามเดือน ก่อนที่จะกลับมาแข่งอีกครั้งโดยไม่มี ana ซึ่งเปรียบเสมือนประกันชีวิตของทีม OG เนื่องจาก Topson เป็นผู้เล่นประเภท High Risk High Return  ทำให้ในบางครั้งหากเขาพลาดทีม OG ก็เตรียมแพ้ได้เลย นอกจากนี้เขายังออกไอเทมที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็น Gyrocopter สายเวทย์ที่ออก Invoker สาย Meteor Hammer ทำให้เขามักจะถูกต่อว่าอยู่บ่อยครั้ง แม้กระทั่ง Puppy กัปตันทีมชื่อดังอย่าง Team Secret ยังแช่งเขาว่า สักวันหนึ่งเอ็งจะต้องตายเพราะออกของแบบนี้ ซึ่งในช่วงก่อนการแข่งขันที่ TI 9 นั้นก็อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่าพวกเขาไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก แต่ก็มีแต้มเพียงพอที่จะเข้าแข่งขันรายการนี้ได้ สำหรับรายการ TI 9 ถือว่าทีม OG ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งในภาพรวมนั้นเขาจะเล่นตัวละครที่สร้างพื้นที่แล้วให้ ana ฟาร์ม พร้อมกับจิตวิทยาในรูปแบบ OG ทำให้ Topson กลายเป็นปีศาจที่ผู้คนต่างหวาดกลัว และยิ่งโหดเข้าไปอีกเมื่อเขาได้เล่นคู่กับ IO ของ ana ที่ในปีนี้สามารถเก็บชัยชนะได้ 100% ในรอบชิงกับ Team Liquid เราจะเห็นได้ว่า Topson สามารถทำเกมได้อย่างเฉียบคม ไม่ว่าจะเป็น Monkey King Pugna รวมถึง Gyrocopter สาย Diffusal blade ที่สร้างความลำบากให้กับทีม Liquid อย่างมาก จนทำให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ได้สองสมัย รวมถึงสามารถปกป้องแชมป์ได้เป็นครั้งแรกอีกด้วย ถอดบทเรียนที่เราได้จาก Topson Topson นั้นแม้ว่าเขาจะใหม่กับวงการนี้ แต่เขาก็ได้สะท้อนให้เราเห็นถึงเส้นทางของการเป็นโปรเพลเยอร์ได้พอสังเขปดังนี้ เส้นทางของการเข้าสู่วงการเริ่มต้นที่ MMR  แม้ว่าหลายคนจะมองว่า MMR เป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่ก็ไม่มีวิธีใดที่จะพิสูจน์ความสามารถของคุณได้ นอกจากผลงานที่จับต้องได้อย่าง MMR เป็นต้น เป็นตัวของตัวเอง เราจะเห็นได้ว่า Topson มีสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร จึงไม่แปลกที่เขาจะสามารถเล่นออกมาได้ดี ผู้เล่นเก่งต้องคู่กับทีมที่ดี หลายครั้งในวงการ Esports นั้นสิ่งที่สำคัญนอกจากฝีมือของเราคือเพื่อนร่วมทีม ที่สามารถเล่นเข้าขากันได้ ซึ่งคนเก่ง 5 คนยังไม่เท่าคนที่เล่นเข้าขากัน 5 คน อ้างอิง : Liquidpedia   บทความที่คุณอาจสนใจ OGs Mind Games - เจาะเส้นทางแชมป์จากสงครามจิตวิทยาของ OG รู้จักกับ Topson เด็กหนุ่มมหัศจรรย์แห่งโลก Dota 2 PUGNA ตัวร้ายกับไอเทมบิ้วแสน UNIQUE ของ TOPSON IO ฮีโร่ที่ควรจะเป็นได้แค่ Support แต่ดูเหมือนว่าวันนี้มันจะไม่ใช้แบบนั้นอีกแล้ว

ฟิลิปินส์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เกม Dota 2 ได้รับความนิยมอย่างสูง เปรียบดั่งเกมนี้คือ MOBA ประจำชาติและความภาคภูมิใจใน Esports ที่ทีมจากประเทศนี้มักจะติดอันโลกเสมอ อย่างปีนี้ก็มีทีม TNC ที่สามารถทำผลงานได้ดีในการแข่งขัน TI9 และทำผลงานได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่อย่างที่รู้กันว่าแชมป์ของรายการนี้ก็คือทีม OG ที่เก็บชัยชนะได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ปีนี้กวาดรางวัลไปเกือบ 500 ล้านบาท ซึ่งจากผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้ทีมนี้มีแฟนคลับมากมายทั่วโลกรวมทั้งเหล่าผู้เล่น Dota 2 ในประเทศฟิลิปินส์ ซึ่งผู้เล่นเกมนี้ที่เป็นแฟนทีม OG ก็ขอเถลิงแชมป์กับทีมรักด้วย ถึงตัวจะไกลแต่ใจก็ใกล้กัน พวกเขาเลยได้ทำการขอนำรูปภาพฉลองการได้แชมป์จาก Wykrhm Reddy ทีมงานชื่อดังของ Valve เพื่อไปเช่าป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ สุดท้ายผลลัพธ์จึงออกมาดั่งรูปด้านล่าง จากรูปก็เห็นได้ว่า “โชว์กันเต็มตา” มองเห็นกันได้แทบจะในระยะหลายกิโลเมตร ทำให้มันแสดงให้เห็นถึงความชอบที่มีต่อทีม OG ของเหล่าแฟนคลับฟิลิปีโนเป็นอย่างดี ซึ่งเหตุผลที่ทีมนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสไตล์การเล่นที่ดุดัน รวมถึงความกวนและความเกรียนของพวกเขาที่ทะลุเกินพิกัด จึงไม่แปลกที่ใครๆ ต่างก็รัก รวมถึงการต่อสู้และเอาชนะกับปัญหาและความยากลำบากจากที่เราเคยเห็นดราม่าก่อนๆ มา ทำให้ทีมนี้เข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆ คน แฟนๆ ทีม OG ในประเทศไทยคนไหนสนใจก็ลองนำเอาวิธีนี้มาใช้กันได้ รับรองว่าประเทศไทยจะต้องได้รับการกล่าวถึงจากแฟนๆ เกม Dota 2 ทั่วโลกอย่างแน่นอน ที่มา: Wykrhm Reddy กลับหน้าหลัก: GameFever TH

Tiny เป็นตัวที่นิยมมากในการแข่ง The International 2019 ครั้งนี้ โดยมีการเลือกมาเล่นทั้งหมด 97 เกม ชนะอยู่ที่ 54 เกมคิดเป็น 55.67% เป็นอันดับ 8 ที่ถูกเลือกมาเล่นมากที่สุดเลยทีเดียว เรามาดูรายระเอียดของ Tiny หินกลิ้งว่าทำไมถึงได้รับความนิยมขนาดนี้กันดีกว่า แล้วทำไมฮีโร่ตัวนี้ถึงเป็นอีก 1 หัวใจหลักของทีม OG ที่ทำให้คว้าแชมป์ The International 2019 มาได้ สกิล Avalanche ขว้างหินจำนวนมากไปที่พื้นที่เป้าหมายเป็นเวลา 1.8 วินาที สร้างความเสียหาย 60 ดาเมจและสตั่น 0.2 วินาที่ ทุกๆ 0.3 วินาที สกิล Avalanche สร้างความเสียหายเพิ่มอีก 3 เท่าต่อยูนิตที่กำลังถูก Toss อยู่ Toss จับยูนิตที่อยู่ใกล้ Tiny ที่สุดในรัศมี 275 หน่วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกันหรือฝ่ายศัตรู แล้วโยนไปยังยูนิตเป้าหมายหรือรูน สร้างความเสียหายในบริเวณนั้น หากยูนิตที่ถูกโยนเป็นศัตรูจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีก 30% Tree Grab  สกิลนี้ทำให้ Tiny สามารถหยิบต้นไม้มาโจมตีได้สูงสุด 5 ครั้ง ได้รับโบนัสดาเมจสูงสุด 40% และความสามารถโจมตีกระจายมา ถ้าหากเป้าหมายที่โจมตีเป็นสิงก่อสร้างจะสร้างความเสียหายเพิ่มเป็น 200% แทน Tree Throw  โยนต้นไม้ที่คว้ามาจากสกิล Tree Grab สามารถโยนออกไปไกลสุก 1300 Range เพื่อสร้างความเสียหายแก่เป้าหมายเป็นวงกว่าง โดยจะเสียจำนวนครั้งในการโจมตีทั้งหมดในการโยนครั้งเดียว Grow Tiny ขยายร่างเพิ่มสเตตัสของต่างๆให้กับตัวเองอาธิ เกราะ พลังโจมตีและขนาดของตัว แต่จะสูญเสียความเร็วในการโจมไป Tree Volley เป็นสกิลที่จะได้มาหลังได้ไอเท็ม Aghanims Scepter ทำให้ Tiny สามารถขว้างต้นไม้ที่อบู่รอบๆตัวเองทุกๆ 0.4 วินาที (นานสุด 2.4 วิานที) ไปยังพื้นที่เป้าหมายสร้างความเสียหายเป็ยวงกว่างตามดาเมจของ Tiny+20% และยังสามารถติดผลของไอเทมที่สวมใส่อยู่ได้ การขว้างต้นไม้ทั้งหมดจะไม่พลาดเป้า   ทำไม OG เลือกใช้ TINY  จะตำแหน่งใหนก็ได้หมด TINY เป็น Hero เล่นได้เกือบทุกตำแหน่งยกเว้น POS 5 หรือ Hard Support จึงไม่แปลกที่จะเลือกมาในตัวแรกๆเพื่อสร้างความสับสนในการเลือกตัว ว่า Tiny จะไปอยู่ในตำแหน่งกันแน่ เก่งในทุกช่วงของเกม  แค่เลเวล 1 Tiny สามารถตีธรรมได้แรงมากจากสกิล Tree Grab บอกได้เลยว่ารวมของต้นเกมแล้วเกิน 80 หน่วย แน่นอน พอถึงช่วงกลางเกมที่มีเวเวลซัก 7 ขึ้นไปแล้วนั้น Tiny ก็จะมีสกิลที่สามารถฆ่า Hero ตัวบางๆได้ด้วยแต่การใช้สกิล Avalanche + Toss + ตีซัก 1 ครั้ง +Tree Throw  ใคร HP ไม่ถึง 1000 เดินมาเจอตัวๆในซอยเปลี่ยว ช่วงกลางเกมนี้นะรอดยากบอกเลย ท้ายเกมใครบอกว่าตัวนี้ไม่เก่งนี้คิดใหม่เลยนะ ด้วยผลของ Aghanims Scepter ที่พึ่งเพิ่มเข้ามาไม่นานนี้ ทำให้ Tiny ใช้สกิล Tree Volley ฆ่าใครก็ได้เลยละด้วยไอเทม Echo Sabre ที่มันจะสโล 100% ทุกคนที่โดนสกิลนี้แล้ว ยังมี Daedalus มาเพิ่มความแรงของต้นไม้แต่ละต้นที่โยนออกไปอีกถึง 245% จากพลังโจมตีของ Tiny บอกได้เลยว่า Hero ที่โดนสกิลนี้สามารถล้มไปพร้อมกับกองต้นไม้ได้แบบไม่รู้ตัว การเอาไปใช้ของ OG  เกม 1 Pos 2 (Midland)  เล่นโดย Topson มีการเอา Tiny ไปเลนกลางเพื่อเจอกับ Templar Assassin ตัว Tiny สามารถใช้สกิล Avalanche แก้ทางสกิล Refraction ของ Templar Assassin และ Damage Tiny ที่สูงกว่าในช่วงต้นเกมจากสกิล Tree Throw ทำให้การกดดัน การลาสครีปทำได้ดีกว่า กลางเกม Topson เลือกที่จะออกไปไล่ฆ่าในเลนอื่นๆ เพื่อให้ทีม Team Liquid หันมาสนใจเขามากว่า ana ที่ต้องการเวลาในการฟามอีกซักพักเพื่อเอาไอเท็มออกมาปิดเกม ช่วงท้ายเกม Topson ได้กลายเป็นตัวคอยเปิดจังหวะทีมไฟท์ให้กับเพื่อนร่วมทีมและคอยหายคนหลุดตำแหน่งแล้ว Toss เพื่อสร้างโอกาศที่จะฆ่า ทั้งยังสามารถเสริมดาเมจจากแนวหลังด้วยสกิล Tree Volley ได้อีกด้วย  ( เกมที่ 1 Topson ไล่ยันป้อม tier  2 ) เกม 2-4 POS 4 (Support) เล่นโดย Jerax ได้ใช้ Tiny เป็นตัวโรมมิ้งเดินทำเกมตลอดเวลาด้วยสกิล Toss เปลี่ยนตำแหน่งยืนของอีกฝ่ายรัวๆ พอกลางเกมก็ยังมีดาเมทที่สูงมาก จึงใช้ประโยชน์ตรงนี้ไปท้าตีท้าต่อยกับอีกฝ่ายแทบจะตลอดเวลา ซึ้งเป็นสไตล์เล่นดุสุดบุกไล่กัดสุด สุดยันบ่อ พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Topson และ Ceb ที่มันจะหยิบ Hero มาชนะเลนเสมอ ทำให้พวกเขา 3 คน + N0tail จะมาเดินเล่นในป่าอีกฝั้งดันป้อมสร้างความวุ้นวายจนคุณไม่มีเวลาไปตามหา ana ที่หลบฟามอย่างสบายใจได้เลย  อีกอย่างหนึ่งถ้าคุณยังสามารถเล่น Tiny แบบ Jerax ในเกมรอบชิงได้อีกด้วย คือการเข้าไปป่วนการฟามของฝ่ายตรงข้ามโดยในเกม 3 ทีม OG กดดัน Midland ของอีกฝ่าย จน Templar Assassin ของ w33 หนีไปฟามป่าตั้งแต่เวล 5 Jerax ก็พยายามเข้าไปป่วนโดยการพยายามแย้งครีปและแชร์ EXP ที่ได้จากครีปป่าทำให้ w33 จำเป็นต้องเสียเวลาไล่ Tiny อยู่นานมาก จนสุดท้ายก็ต้องตาม Rubik ที่เล่นโดย GH มาช่วยไล่ออก Tiny ให้ออกไปจากป่า แต่แค่นี้ก็เป็นทำให้ w33 เสียเวลาที่จะได้ฟามครีปไปถึง 1-2 นาทีเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณคิดจะไปทำตาม jerax ละก็ ต้องระวังเรื่องมานาของ Tiny ให้ดีเพราะในแต่ละสกิลของ Tiny มันใช้มานาเยอะมากๆ บางครั้งอาจจะไม่พอทำคอมโบสกิลแล้วตายเองได้เช่นกัน ( เกม 2 OG รวมตัวกัน 5 คนไล่Team Liquid ยันป้อม tier 3 ) ( เกมที่ 3 Jerax ที่เล่น TINYก็ยังขัดแข้งขัดขาปวนการฟามถึงในป่า ) ( เกมที่ 4 เกมนี้ Jerax ที่เล่น TINY ได้ทำหน้าที่เป็นแนวหน้ารับมือรับเท้าเพื่อให้ ANA ที่เล่น IO ได้มืพื้นที่ฟามอยู่ตลอด ) สรุป  Tiny เป็นตัวที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งสร้างความได้เปรียบจากการไล่ฆ่าได้ดี ดาเมจสูงมากตลอดทั้งเกม แต่ Tiny เองก็ต้องการเลเวลและไอเทมมาปิดจุดอ่อนเรื่องมานาที่น้อยของเขา ถ้าเพื่อนคุณเลือกที่จะฟามอย่างเดียวทุกคน Tiny อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี อย่าลืมดูสถานการณ์และเพื่อนร่วมทีมให้ดีคุณสามารรถฟาร์มอย่างใจเย็นไม่รีบไปรอฆ่าท้ายเกมคุณก็ยังเก่งและสามารถชนะได้อยู่นะ

ถ้าพูดถึง Hero ในเกม Dota2 ที่กำลังพูดถึงในปัจจุบันนี้ก็คงไม่พ้น IO ฮีโร่ที่ควรจะเป็นแค่ตัว Support แต่ภาพเกี่ยวกับฮีโร่ตัวนี้ทั้งหมดก็เปลี่ยนไปหลังจากผู้เล่น Ana ทีม OG ใช้มันเล่นในตำแหน่ง Carry จนสามารถได้แชมป์โลกครั้งที่ 9 ของเกม Dota2 มาได้ ทำให้เริ่มมีการเอาฮีโร่บอลฟ้าบินได้นี้ไปเล่นในตำแหน่ง Carry กันมากขึ้น แล้วอะไรทำให้ตัวที่ควรจะเป็น Support กลายเป็นตัวแบกสุดเก่งได้ละวันนี้เรามาทำความรู้จักกับ IO กันครับ สกิล IO เป็นฮีโร่ ตีไกล สาย STR ที่มีลักษณะเป็นเหมือนวิญญาณกลมๆลอยไปลอยมาได้และมีสกิลที่เน้นไปที่การเพิ่ม Regen ทั้ง เลือด,มานา,Attack Speed,Move Speed และ Damage Reduction ให้กับเพื่อน ก่อนที่เราจะดูว่าตัวนี้เล่นยังไงก็ต้องเข้าใจสกิลของ IO ก่อน สกิลที่ 1  Tether เป็นสกิลหัวใจหลักของ IO สกิลนี้มีไว้ให้ฮีโร่ตัวนี้เชื่อมกับ Unit ตัวไหนก็ได้ฝั่งเดียวกัน ตัวที่เชื่อมอยู่จะได้รับความเร็วในการเคลื่อนที่มากขึ้นและค่า Regen เลือดและมานาของ IO ไปด้วย ก็คือจะรีเลือดเร็วขึ้นตามค่า Regen เลือดและมานาของฮีโร่ตีวนี้สูงสุด 1.5 เท่าและ Unit ที่เชื่อมอยู่จะได้ความเร็วเคลื่อนเพิ่มขึ้น 14% แล้วตัว IO เองจะก๊อปความเร็วในการวิ่งของตัวที่เชื่อมอยู่ด้วย สกิลที่ 2 Spirits สกิลที่ทำให้ IO สามารถเล่นในตำแหน่ง Carry ได้ โดยหลังกดใช้สกิลนี้จะมีลูกแก้ว ออกมาหมุนรอบๆ IO ทั้งหมด 5 ลูกและลูกแก้วจะทำดาเมจใส Unit ที่ลูกแก้วบินผ่าน แต่ถ้าลูกแก้วชนกับ Hero อีกฝ่ายจะเกิดระเบิดและทำดาเมจความเสีบหายแทนและเพลเยอร์สามารถควบคุม รัศมี ที่ลูกแก้วหมุนรอบตัวของ IO ได้ สกิลที่ 3 Overcharge สกิลที่จะมอบ Attack Speed สูงสุด 140 และ Damage Reduction สูงสุด 20% ให้กับ IO และ Unit ที่ฮีโร่ตัวนี้ทำการเชื่อมอยู่ ทำให้ Hero หรือ Unit ที่เชื่อมอยู่ได้ความถึกและความสามารถในการทำดาเมจเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ   สกิลที่ 4 Relocate สกิลที่ทำให้ IO และ Unit เชื่อมอยู่เคลื่อนย้ายไปตรงไหนของแมพก็ได้เป็นเวลา 12 วินาทีและหลังจากผ่านไป 12 วินาที IO และ Unit ที่เชื่อมอยู่จะกลับไปจุดแรกที่กดใช้สกิล ทำให้ ฮีโร่ตัวนี้สามารถพาใครก็ได้ไปช้วยสู้ในจุดไหนของแมพก็ได้ ทำไมถึงต้องหยิบ IO ไปเล่น Carry ? เพราะถ้า IO สามารถออกไอเท็มหลายๆชิ้นในเกมได้แล้วจะกลายเป็นฮีโร่ที่น่ากลัวมากๆ แต่ด้วยปกติฮีโร่ตัวนี้จะหยิบไปเล่นในตำแหน่ง Support จึงทำให้ไม่มีเงินมากพอจะออกไอเท็มพวกนั้น แต่ถ้าเล่นในตำแหน่ง Carry แล้วก็จะสามารถฟาร์มได้เต็มที่และออกไอเท็มดังกล่าวได้นั้นเอง ส่วนไอเท็มที่ IO ออกแล้วน่ากลัวนั้นมีดังนี้ครับ Heart of Tarrasque โดยจริงๆแล้วแล้วความน่ากลัวของ IO คือสกิล 1 ที่ทำให้เพื่อนได้รับค้า Hp/Mp Regen 1.5 เท่าของตัวเองดังนั้นถ้าหากมีไอเท็ม Heart of Tarrasque แล้วละก็ คนที่ IO เชื่อมอยู่จะเหมือนเป็น อมตะย่อมๆ เลยก็ว่าได้เพราะคนที่เชื่อมอยู่จะได้ Hp Regen มากกว่า 400 ต่อวินาที (มากกว่าบ่อน้ำ) นั้นหมายความว่าตราบได้ที่ยังไม่ตายก็สามารถวิ่งออกมาให้ IO เชื่อมเพื่อรีเลือดให้เต็มได้ตลอดเวลา Aghanims Scepter อีก 1 ไอเท็มที่จะทำให้สกิล 2 ของ IO จะไม่ต้องกดใช้อีกต่อไป และจะมี Spirit 1 ลูกออกมาทุกๆ 5 วินาที (MAX 5) ทำให้ฮีโร่ตัวนี้สามารถทำดาเมจได้แทบจะตลอดเวลาโดยทีไม่ต้องตีเลยแค่เดินเข้าไปให้ลูกแก้วชนฮีโร่อีกฝ่ายก็พอและยังเอามาคอมโบกับ Talents เลเวล 10 และ 15 ทำให้ลูกแก้วสามารถทำดาเมจได้ถึง 155 ต่อลูกและยัง Slow 80% อีกด้วย   Helm of Dominator คือโดยปกติแล้วฮีโร่แทบทุกตัวใน Dota2 ต้องการ ความเร็วในเคลื่อนที่ ทำให้ฮีโร่ส่วนใหญ่ในเกมจำเป็นต้องออก Boots ต่างๆเพื่อเพิ่มความเร็วในการวิ่งแต่ IO สามารถใช้ Helm of Dominator ควบคุมครีป 1 ตัวและครีปที่ควบคุมมาจะได้ความเร็วเคลื่อนที่เป็น 425 และตัว IO เองจะได้ Hp Regen จากไอเท็มชินนี้อีก 8.5 ให้เอามาคอมโบกับสกิล 1 ทำให้ IO ไม่ต้องออก Boost ใดๆนั้นเอง วิธีเล่น ต้นเกม เริ่มแรกให้เข้าเลนตามปกติพยามลาสครีปเก็บเลเวลและเงินไปก่อนในช่วงต้นเกมหลังจากได้ Helm of Dominator ให้เข้าป่าไปควบคุมครีปตัวใหญ่ 1 ตัวและใช้สกิล 1 เชื่อมกับครีปตัวนั้นไว้ IO กับครีปตัวที่เชื่อมจะมีความเร็วในการวิ่งเป็น 430 หน่อยๆ ทั้งครีปทีคุมมาจะได้ Hp Regen ประมาณ 6-7 ตอวินาที และใช้ครีปเป็นตัวนั้นแท้งเวลาฟาร์มป่า ใช้สกิล 2 ควบคุมระยะไว้ดีๆจะทำให้ IO สามารถฟาร์มครีปป่าหลายจุดพร้อมกันได้ กลางเกม ช่วงเวลานี้จำเป็นต้องรีบขึ้นไอเท็ม Aghanims Scepter ให้เร็วที่สุดและรีบเก็บเลเวลให้ 15 เพราะ IO ต้องใช้สกิล 2 ในการฟาร์มอยู่แทบตลอดเวลา ปัญหาที่จะตามมาก็คือ Mana ไม่พอนั้นเองแต่ถ้าได้ Scepter แล้วจะไม่จำเป็นต้องใช้มานาในการฟาร์มอีกต่อไปและยังทำให้ IO สามารถทำดาเมจได้อย่างต่อเนื่องในทีมไฟท์อีกด้วยจากนั้นก็ใช้สกิล Relocate ไปช่วยเพื่อนในทีมไฟท์ต่างเพื่อสร้างความได้เปรียบ ท้ายเกม สุดท้ายก็พยามฟาร์มและไปช่วยทีมไฟท์จนได้ Heart of Tarrasque หลังจากได้ชินนี้อีกฝ่ายก็แทบจะไม่มีปัญญาชนะทีมไฟท์ได้แล้วนั้นเอง สรุป แน่นอนว่า IO เป็นฮีโร่ที่สามารถฟาร์มได้อย่างรวดเร็วและเมื่อได้ไอเท็มสำคัญครบทีมไฟท์ของฝั่งเราจะมีพลังอย่างมากจังหวะเข้าก็เอาลูกแก้ว IO ชนให้ Slow เพื่อเปิดทีมไฟท์ รือจังหวะหนีที่เอาลูกแกวชนโสล์ไว้ทำให้ตามฆ่าฝั่งเราได้ยากแต่อย่าลืมว่าในช่วงต้นเกมเพื่อนอีก 4 คนของเราก็ต้องเล่นแบบ 4 ต่อ 5 เป็นระบะเวลานานจนกว่าตัว IO จะได้ไอเท็มด้วยนั้นหมายความว่าถ้าไม่สามารถฟาร์มได้เร็วพอหรือเพื่อนไม่สามารถประคองเกมได้ก็แพ้ได้เหมือนกัน https://www.youtube.com/watch?v=jS8bgQwD1Uw

การแข่งขัน The International ประจำปี 2019 ขอแสดงความยินดีกับทีม ผู้ชนะอย่างทีม OG พร้อมกับเงินรางวัลกลับบ้านไป 15.5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 480 ล้านบาทไทย ซึ่งการแข่งขันแต่ละแมตช์นั้นสุดยอดมาก ทั้งในเรื่องแผนการและรวมถึงความสามารถของผู้เล่นแต่คนที่ดึงออกมาได้อย่างสุดยอด เกมเมอร์ทั้งหลายเคยสงสัยกันไหมว่าการเป็นผู้เล่นระดับโปรพวกเขาต้องผ่านอะไรบ้าง เกมการเล่นแต่ตาพวกเขาต้องมือกับอะไรบ้าง พวกเขารับมือกับความผิดหวังและชัยชนะอย่างไร ก็ถือเป็นคำถามที่น่าสนใจไม่มากก็น้อย เพราะว่าน้อยนักที่เราจะได้เห็นงานเบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ วันนี้เราจึงจะมาเปิดเผยเรื่องราวอีกด้านของวงการ Esports ที่เกมเมอร์ต้องดูนั่นคือ True Sight True Sight คืออะไร True Sight คือสารคดีเกี่ยวกับ Esports ของเกม Dota 2 จากทาง Valve เจ้าของเกม ซึ่งได้นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของเหล่าโปรเพลเยอร์ ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน การฝึกซ้อม การรับมือกับความเครียดในเกม เป็นเต้น โดยทาง Valve ได้นำเสนอออกมาในรูปแบบของสารคดีซึ่ง Season ที่ 1 จะประกอบไปด้วย 6 ตอน ที่จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถรับชมได้ผ่านทางสองช่องทางคือใน YouTube ช่องหลักของเกม Dota 2 และใน Steam ผ่านหน้าของเกม Dota 2 ได้เลย https://www.youtube.com/watch?v=Bv4CqIxqTMA สำหรับ 2 ตอนแรกนั้นเป็นเรื่องราวของทีม EG และ Fnatic ในฤดูกาลแข่งขันประจำปี 2016 ที่กำลังจะแข่งขัน Boston Major ว่าพวกเขาต้องเตรียมตัวอย่างไร จัดการเรื่องราวต่าง ๆ อย่างไร โดยจุดเด่นของสองตอนนี้คือรูปแบบของทีมที่แตกต่างกัน โดย EG เล่นกันมาก่อนสักพักแล้วจึงสนิทกันพอสมควร ในขณะที่ Fnatic เป็นทีมสร้างใหม่ ตอนที่ 3 จะเป็นเรื่องราวของทีม EG ล้วน ๆ โดยเราจะได้เห็นถึงเรื่องราวของทีมนี้แบบครบทุกมุม ทั้งในเรื่องใครสนิทกับใคร ใครมีนิสัยอย่างไรและพวกเขารับมือกับการแข่งขันอย่างไร พวกเขาใช้วิธีไหนในการเอาชนะความกดดันต่าง ๆ รวมถึงพลังมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของพวกเขาจะนำพาพวกเขาไปไกลได้แค่ไหน ตอนที่ 4 จะเป็นเรื่องราวของทีม OG ในปี 2017 ที่ในตอนนั้นพวกเขาถือว่าเป็นหนึ่งในทีมเก่งมาก ๆ ทีมหนึ่ง เพราะพวกเขาสามารถคว้าแชมป์รายการระดับ Major ได้อย่างง่ายดาย อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของพวกเขา โค้ชมีบทบาทกับทีมแค่ไหน ตอนที่ 5 จะเป็นเรื่องราวของการแข่งขันรอบสุดท้ายของรายการ The International ประจำปี 2017 ระหว่างทีม Liquid และทีม Newbee ที่ผู้ชนะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พร้อมเงินรางวัลมากกว่า 10.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเราจะได้เห็นบทบาทของ Kuroky และ kaka ในฐานะหัวหน้าทีม ที่ต้องนำพาเพื่อนร่วมทีมไปสู่ชัยชนะ ตอนที่ 6 นำเสนอเรื่องราวของทีม OG ทีมที่มีฟอร์มย่ำแย่มาเกือบตลอดทั้งฤดูกาล แต่แล้วการมาถึงของสมาชิกใหม่อย่าง Topson และการกลับมาเล่นอีกครั้งของ Ceb ทำให้พวกเขาได้สร้างตำนานบทใหม่ให้กับเกม Dota 2 พวกเขามีอะไรหรือทำอะไรจึงสามารถเอาชนะทีมสุดแกร่งอย่าง PSG.LGD ได้ ในสารคดีมีคำตอบ มากกว่าความสนุกในจอคือเรื่องราวของคนที่เล่นมัน True Sight ได้นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้เล่นอย่างรอบด้าน เราจะเห็นถึงความกดดันของการเป็นผู้เล่นระดับโลกที่การตัดสินใจบางอย่างอาจจะสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปได้ รวมถึงเรื่องราวของความผิดหวังที่แต่ละทีมจะมีวิธีในการรับมือที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นสารคดีของทาง Valve โดยตรงทำให้เราสัมผัสกับความจริงแบบไม่อิงอคติ ความรู้สึกต่าง ๆ เราจะสัมผัสได้ราวกับเราได้นั่งอยู่ข้างสนามร่วมกับพวกเขา อยู่ในห้องซ้อมกับพวกเขา ทำให้เราเข้าใจถึงความเป็นผู้เล่นระดับโปรว่าอาชีพนี้มันไม่ง่ายเลย ความที่อารมณ์ต่าง ๆ สื่อออกมาอย่างชัดเจนนั้น ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่างและวิธีการคิดของแต่ละทีม โดยเฉพาะคนอย่างโค้ช ที่นอกจอเราอาจจะไม่ได้เห็นบทบาทของสิ่งเหล่านี้มากนัก แต่เบื้องหลังนี่คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะการแข่งขันเลยก็ว่าได้ ด้วยความยอดเยี่ยมนี้เองทำให้สารดคีด้าน Esports เรื่องนี้ได้คะแนนรีวิวจากเว็บ Imdb มากถึง 7.9 เต็ม 10 เลยทีเดียว เรียนรู้จดจำและนำไปใช้ สารดีเรื่องนี้แม้จะนำเสนอเรื่องราวของโปรเพลเยอร์เป็นหลัก แต่เราก็สามารถนำเอาแนวคิดและวิธีการบางอย่างมาปรับใช้กับตัวเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา การไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน ๆ รวมถึงการเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง แม้ว่าจะต้องเจ็บปวดกับความพ่ายแพ้เพียงไหนก็ตาม สิ่งที่ดีงานอีกอย่างของสารคดีชุดนี้คือ พวกเขาพยายามที่จะคิดในแง่บวกเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารคดีเกี่ยวกับทีม OG ที่ทำให้เราเห็นถึงการมองโลกในแง่บวกมีผลต่อเกมการเล่นของทีมอย่างไร ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นรากฐานให้กับทีมจนสามารถคว้าแชมป์ได้ถึงสองสมัยเลยที่เดียว นอกจากนี้หากคุณเป็นแฟนของเกม Dota 2 เรื่องนี้ถือว่าเป็นสารคดีที่คุณจะต้องดู เพราะว่าสารคดีเรื่องนี้สอนถึงการเป็นโปรเพลเยอร์ว่าคุณจะต้องเจออะไรบ้าง บางทีฝีมืออาจจะไม่สำคัญทำกับการร่วมมือร่วมใจกันของคนในทีมเพื่อฟันผ่าอุปสรรคต่าง ๆ ให้สมกับคำว่า “ทีม” True Sight ถือว่าเป็นสารคดีเกี่ยวกับ Esports ที่เกมเมอร์ทั้งหลายควรดูอย่างน้อยหนึ่งครั้ง แล้วมุมมองที่มีต่อการเล่นเกมและการแข่งขันอาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล

คู่ที่ 1 Vici Gaming x Team Secret เกมที่ 1 Secret เลือกใช้แผน IO Carry เช่นเดียวกับ OG และเป็นทางฝั่งของ Secret ที่ได้ Kill ขึ้นนำไปก่อน 4 ต่อ 1 แต่สภาพการเงินของทั้งสองทีมยังสูสีแต่หลังจาก IO ได้ Ahganim ทาง Secret ก็ทำการรุกอย่างหนัก ไม่ปล่อยให้ทาง VG ได้ฟาร์มง่ายๆ 22 นาทีทางฝั่ง Secret ได้บาแร็คแรกเลนกลางไปก่อนและจบเกมไปในนาทีที่ 23  เกมที่ 2 ทางฝั่ง Secret เป็นฮีโร่สไตล์ทำเกมช่วงกลางเกมเช่นเคย แต่ในช่วงต้นเกมทั้งสองทีมก็มีการแลกหมัดกันอยู่บ้างแต่จะเน้นไปที่การฟาร์มมากกว่าในนาทีที่ 11 เป็นทางฝั่งของ Secret ทำทีมไฟท์ออกมาได้ดีกว่า ส่วน Alchemist ของ VG ก็หนีฟาร์มสุดชีวิต แต่ทาง Secret กดดันหนักขึ้นเรื่อยเหมือนไม่อยากเล่นเกมยาวและได้ Tower Tier 3 แรกมาในนาทีที่ 17 และ Secret ไม่ปล่อยให้ทาง Vg ได้เล่นสามารถ END บ้านได้ในนาที 22 จบไปด้วย Score Vici Gaming 0 - 2 Team Secret คู่ที่ 2 PSG.LGD  x OG เกมที่ 1 ทั้ง 2 ทีมหยิบฮีโร่มาเน้นเล่นในทีมไฟท์กันอย่างเต็มที่ เป็นทางฝั่งของ LGD ที่ขึ้นนำไปก่อน 4 - 2 แต่ OG ก็ตีตื้นขึ้นมาได้ในนาทีที่ 10 เกมยังคงดุเดือดมีทีมไฟท์อยู่ประปราย เข้าช่วงกลางเกมการเงินทั้ง 2 ทีมไม่ห่างกันมากเป็นเกมที่ดุเดือดสมเป็นรอบทอป 3 จริงๆ ถ้าหากทางฝั่ง OG สามารถ Chrono Sphere ได้ดีจะชนะ แต่ถ้าหาก Tidehunter ของ LGD เปิดได้ดีกว่าก็จะชนะเช่นกันยังเป็นไฟท์ที่เสมอกันไปเรื่อยๆ และในนาทีที่ 40 เป็นฝั่ง OG ที่พลาดก่อนทำให้ LGD One shot ชนะไปในชอตเดียว เกมที่ 2 ทั้งสองทีมยังคงดราฟตัวมาเพื่อเน้น ทีมไฟท์เหมือนเดิม LGD พยามทำเกมอย่างหนักหน่วงเพื่อไม่เปิดพื้นที่ให้ Alchemist ของทาง OG ได้ฟาร์มแต่ทางฝั่ง OG ก็สามารถรับมือกับเกมไฟท์ของทาง LGD ได้ดีทำให้ Alchemist ของทางฝั่ง OG ได้ฟาร์มอย่างเวลาผ่านไป 12 นาที Alchemist ของทางฝั่ง OG มีเงินเป็นจำนวนมากและใช้พลังของเงินในการใช้ไอเท็มกดดันทางฝั่ง LGD นาทีที่ Alchemist มีไอเท็มถึง ชิ้นทำให้ LGD ไม่สามารถต้านทานได้ไหวจึงแตกพ่ายไป เกมที่ 3 ทางฝั่ง OG ยังคงใข้ Alchemist เร่งสปีดฟาร์มในช่วงต้นเกมเพื่อที่จะไม่เปิดโอกาศให้ Slark ของทางฝั่ง LGD ได้ฟาร์มแต่เป็น SD ของทาง LGD ก็เดินเพื่อเซฟเพื่อนได้ดีและกลับเป็นฝั่ง LGD ที่เดินเกมในช่วงต้นเกมได้ดีกว่าแต่ทาง OG ก็พยายามหนีฟาร์มอย่างสุดชีวิตจนนาทีที่ 22 ที่ทางฝั่ง OG ชนะทีมไฟท์ใหญ่ครั้งแรกทำให้การเงินของทาง Alchemist ไม่สามารถหยุดได้และใช้พลังของเงินที่แตกต่างกดดัน LGD แทนเข้านาทีที่ 28 ทางฝั่ง OG1 สามารถทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าทำให้ทีม OG เข้าไปรอในรอบชิง จบไปด้วย PSG.LGD 1 - 2 OG คู่ที่ 3 Team Liquid x Team Secret เกมที่ 1 Secret ดราฟแผ่น IO Caerry มาอีกครั้งแต่ทีม Liquid รู้ทันจึงดราฟฮีโร่มาเล่นในช่วงต้นเกมในช่วงต้นเกมก็ Liquide พยามที่จะกดดันทางฝั่งของ Secret เพื่อให้ไม่มีเวลาฟาร์มเท่าที่จะเป็นไปได้เขาสู่ช่วงกลางเกมทั้งสองทีมมีทีมไฟท์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง Liquide ได้เปรียบเล็กน้อยในทุกๆ ครั้งและในช่วงท้ายเกมเป็นทีม Secret ที่พลาดก่อนทำให้ทีม Liquid สามารถเดินเกมไวปิดเกมไปได้ เกมที่ 2 เกมนี้ทางฝั่ง Liquid ดราฟฮีโร่มาเน้นเล่นต้นเกมและให้ Alchemist นั้นมีพื้นที่ในการฟาร์มอย่างเต็มที่ ทางด้าน Secret เองก็พยามสร้างพื้นที่ให้กับ WK ได้ฟาร์ม แต่ว่าจังหวะในการทำทีมไฟท์ของทีม Liquid นั้นสามารถทำได้ดีกว่าทำให้ทางฝั่งทีม Secret เริ่มจะเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อยๆและ Alchemist เองก็มีเวลาฟาร์มได้เต็มที่ และเหมือนเดิมพอเข้านาทีที่ 22 Alchemist ก็เริ่มออกมาใช้พลังของไอเท็มในการกดดันทีมฝั่งตรงข้ามและเป็นทีม Secret ที่ต้องกลับบ้านไปในรอบนี้ จบไปด้วย Team Liquid 2 - 0 Team Secret  

เกมเมอร์ที่เคยเล่นเกมแนว Moba (Multiplayer Online Battle Arena) ย่อมจะรู้ดีว่าควรสนุกของเกมประเภทนี้คือการเลือกตัวละครและร่วมมือกับผู้เล่นในทีม เพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามให้ได้อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมประเภทนี้มาอย่างยาวนาน อีกทั้งเกมแนวนี้เองยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะผู้จัดเกมแนว Esports เนื่องจากเกมแนวนี้มีฐานผู้เล่นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถเข้าใจได้ง่ายแม้ว่าจะไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน หนึ่งในเกมแนว Moba ที่ได้รับความนิยมมากคือเกม Dota 2 จากทาง Valve ที่มีผู้เล่นมากกว่าเดือนละ 10 ล้านคน มีฮีโร่ให้เลือกเล่นมากกว่า 100 ตัวรวมถึงเป็นเกมที่มีเงินรางวัลรวมสูงที่สุดในวงการ Esports คือ $33,787,725 หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท Dota 2 นั้นไม่ใช่เกมใหม่เสียทีเดียว แต่เป็นเกมได้ที่รับการพัฒนาจากแผ่นที่ในเกมใน Warcraft 3: The Frozen Throne ที่ชื่อ DotA Allstars ทำตัวตัวละครของทั้งสองเกมจึงไม่ค่อยแตกต่างกันมาก ซึ่งเราเรียกตัวละครเหล่านี้ว่า Original Hero แฟนของเกม Dota 2 ที่เล่นเกมนี้มาอย่างยาวนานย่อมที่จะรู้ว่าทาง Valve ไม่ค่อยที่จะอัปเดทตัวละครถี่มากนัก เนื่องจากการอัปเดทมีผลต่อสมดุลของตัวละครและรูปแบบของการเล่นอย่างมาก อีกทั้งอาจจะเก่งเกินไปจนเกมไม่สนุก การอัปเดทตัวละครที่เรียกเสียง ฮือฮาจากเหล่าผู้เล่นได้มากที่สุดคงไม่พ้นสองคู่หูมือระเบิดอย่าง Techies ที่ได้เปิดตัวอย่างอลังการในการแข่งขัน The International 4 ในการแข่งขันระหว่างทีม Xboct และทีม rOtk ที่เรียกเสียงเฮจากแฟน ๆ ได้ก้องทั้งสนาม https://youtu.be/lNSPXNoUsA0 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Techies กลายเป็นตัวละครที่แฟน ๆ Dota 2 มักจะกล่าวถึงเสมอในไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นธรรมดาหรือผู้เล่นมือโปร ที่ไม่ชอบก็เกลียดไปเลย ทำไมตัวละครนี้แฟน ๆ ถึงทั้งรักและเกลียด บทความนี้มีคนตอบ รู้จักตัวละคร Techies เบื้องต้น Techies เป็นตัวละครสาย Int โจมตีจากระยะไกล ที่ไม่ได้มี Stat สูงนักมีเลือดที่น้อย พลังโจมตีที่ต่ำ เกราะที่น้อยทำให้ตัวละครตัวนี้อ่อนแอมาก ในการต่อสู้กับตัวละครอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเข้าถึงตัวละครเหล่านี้ได้ แทบจะไม่รอดชีวิต แต่ถึงกระนั้นจุดเด่นจริง ๆ ของตัวละครนี้คือสกิลต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนต่อบรรดาเหล่าศัตรู รวมถึงความสามารถในการ Burst ดาเมจที่สูงชนิดที่ว่าหากอีกฝ่ายไม่ระวังตัวอาจจะเกมพลิกได้ง่าย ๆ โดยอธิบายสกิลต่าง ๆ ดังนี้ Proximity Mines วางระเบิดล่องหนซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้โดย True Sight แต่มองเห็นได้หากศัตรูเข้ามาอยู่ภายในพื้นที่ทำงาน 400 หน่วยของระเบิด ระเบิดจะทำงานเมื่อศัตรูยืนอยู่ภายในพื้นที่ทำงานเป็นเวลา 1.6 วินาที การระเบิดสร้างความเสียหายเต็มจำนวนรัศมีระเบิด และสร้างความเสียหาย 25% ต่อสิ่งก่อสร้าง สำหรับสกิลนี้เป็นสกิลสุดป่วนที่สามาถใช้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการวางไว้ในจุดสำคัญ ดัน Creep ในเลน ดันป้อม ไปจนถึงการทำดาเมจอย่างรุนแรงที่ทำให้ตัวละครเลือดน้อย ๆ ต้องลงไปนอนได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งยังทำให้เหล่าตัวละคร Support ต้องเสียเงินในการซื้อทั้ง Ward และ Gem ในการกำจัดระเบิด Stasis Trap วางกับดักล่องหนที่จะทำให้ยูนิตศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงติดรากทันที เมื่อกับดักทำงาน สกิลนี้แม้ว่าจะไม่ทำดาเมจ แต่ก็สร้างความรำคาญให้กับอีกฝ่ายไม่น้อย เพราะว่าการที่ถูกระเบิดนี้จะทำให้ศัตรูขยับไม่ได้ ทำให้เพื่อนร่วมทีมของเรารุมสกำได้อย่างง่ายดาย   Blast Off! Techies พุ่งตัวของพวกเขาเข้าไปท่ามกลางศัตรู ชาร์จแล้วพุ่งเข้าไประเบิด สร้างความเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ในพื้นที่และใบ้ศัตรู เมื่อลงถึงพื้นที่เป้าหมาย การระเบิดจะสร้างความเสียหายต่อ Techies เท่ากับ 50% ของพลังชีวิตสูงสุดของพวกเขา หนึ่งในสกิลที่รุนแรงมากในเกมสกิลหนึ่ง อีกทั้งยังทำให้ศัตรูไม่สามารถใช้สกิลได้ในชั่วขณะหนึ่ง ทำให้สกิลนี้สามารถให้ได้ทั้งเปิดและปิดศัตรู Remote Mines วางระเบิดล่องหนที่จะระเบิดหลังจากดีเลย์สั้น ๆ เมื่อถูกจุดชนวนเท่านั้น ไม่สร้างความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้าง อัปเกรดได้ด้วย Aghanims Scepter หนึ่งในสกิลสุดเลือดเย็นประจำเกม Dota 2 ที่ทำให้เราได้รับสมญานามมือวางระเบิดที่แท้ทรู ด้วยความสามารถในการวางระเบิดชนิดใหม่ที่ให้เราเลือกได้ว่าจะกดเมื่อไหร่ก็ได้ อีกทั้งยังสามารถวางซ้อนกันได้ ทำให้ดาเมจของสกิลนี้สูงมากและส่งศัตรูกับบ่อน้ำได้อย่างไม่ยากเย็น นอกจากนี้เมื่ออัปเกรดด้วย Aghanim’s Scepter เราจะได้สกิลอย่าง Minefield Sign ที่เพิ่มความปั่นป่วนให้กับอีกฝ่ายด้วยการที่เราจะปักป้ายเตือน ซึ่ง Gem รวมถึง Ward ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ ทำให้ต้องเกิดการวัดใจไม่ก็ต้องย้ายเลนหนี Talent จะเห็นได้ว่า Talent ของตัวละครนี้ออกแบบมาเพื่อการทำให้ Techies เก่งตลอดทั้งเกมไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Exp , การรีมานา ,การได้รับเงิน โดยทีเด็ดคือเลเวล 25 ที่จะสร้างความบันเทิงอย่างมาก ทั้งระเบิดเดินได้หรือเลือกเอาพลังโจมตีฟรี ๆ 250 ซึ่งเกือบเท่ากับ Divine Rapier ไอเทมเพิ่มพลังโจมตีสูงที่สุดในเกม การ Techies กับการเล่นทั่วไป หากเพื่อน ๆ อ่านสกิลที่ผ่านของ Techies จะเห็นได้ว่าตัวละครตัวนี้ไม่ได้เก่งในเรื่องของการบุกโจมตีหรือการกดดันเลานเท่าไหร่ แต่มีความสามารถในการป้องกันสูงมากจนในบางครั้งสามารถซื้อเวลามากพอให้กับทีมได้ ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นที่รำคาญสำหรับตรงข้ามที่หัวเสียทุกครั้งที่เจอ ต้อง Play Around (เล่นอย่างระมัดระวัง) อีกทั้งต้องรีบที่จะดันบ้านเพราะหากปล่อยให้ Techies สามารถสะสมระเบิดมากพอ การตีป้อมจะเป็นเรื่องยากมาก ๆ ในขณะเดียวกันตัวละครนี้หากจะเล่นให้เก่งก็ต้องใช้ฝีมือสูงเช่นกัน เนื่องจากอย่างที่ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ตัวละครนี้ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรกับทีมได้เลยนอกจากการวางระเบิดป้องกันบ้านหรือ Objective ต่าง ๆ ยิ่งหากผู้เล่นที่บังคับตัวละครไม่มีประสบการณ์หรือความสามารถในการอ่านเกมที่ดีพอ ระเบิดที่วางไว้อาจจะไร้ประโยชน์ไปเลยก็ได้ ด้วยความน่ารำคาญต่อทั้งฝ่ายตัวเองและฝ่ายตรงข้าม ทำให้ตัวละครตัวนี้กลายเป็น Meme ประจำเกม Dota 2 ที่สามารถนำไปเป็นประเด็นในการต่อรองได้อย่าง Mid or Techies (จะให้ผมเล่นเลนกลางหรือให้ผมเลือกเล่น Techies) รวมถึงบรรดาฉากฮา ๆ ของเกมนี้ที่เจอได้ใน YouTube ส่วนใหญ่ก็มีตัวละครนี้ประกอบทั้งสิ้น Techies ในการแข่งขัน Esport   Techies ได้รับการอัปเดทเข้าสู่โหมด CM (Captain Mode) ในเวอร์ชั่น 7.14 เหล่าโปรเพลเยอร์ก็ได้นำมันออกมาใช้งานอย่างทันที โดยตำแหน่งที่ได้รับความนิยมสำหรับตัวละครนี้คือ Offlane และ Semi Support เนื่องจากดาเมจที่สูงรวมถึงความสามารถในการป่วนการเดินเกมของอีกฝั่ง ทำให้ตัวละครนี้น่ากลัวมาก ๆ ยิ่งอยู่กับบรรดาเหล่าผู้เล่นระดับสูงก็ยิ่งดึงเอาศักยภาพของตัวละครตัวนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามมีโปรเพลยเยอร์บางคนที่มองว่าตัวละครตัวนี้เก่งเกินไป และเรียกร้องให้ Valve ลบตัวละครนี้ออกไปจากเกม หนึ่งในนั้นคือผู้เล่นที่มีชื่อว่า Aui_2000 https://twitter.com/Aui_2000/status/614966605638819840 แต่เหมือนว่าโชคชะตากลั่นแกล้งเพราะ Valve ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เขาต้องงัดไม้เด็ดด้วยการนำเอาตัวนี้ไปแข่งเสียเลย ซึ่งผลงานที่ออกมานั้น นับว่าดีมาก ๆ. สามารถเอาชนะทีมต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย ทำให้หลาย ๆ ทีมต้องแบนฮีโร่ตัวนี้ในการเจอกับทีมของเขา (EG) ทำให้แผนการของเขามีหลากหลายมากขึ้น จนทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์โลกได้ในปี 2015 พร้อมขนเงินรางวัลกับบ้านประมาณ 200 ล้านบาท นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Valve ก็ลงดาบเนิร์ฟตัวละครนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับสกิล การ Rework รวมไปถึงการลดศักยภาพต่าง ๆ ของตัวละครตัวนี้ลงอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถที่จะลดความเก่งของตัวละครนี้เท่าไหร่ สรุป Techies เป็นตัวละครที่หลาย ๆ คนรักเนื่องจากการพูดจากที่กวน การทำดาเมจที่แสนรุนแรง รวมถึงการป่วนเกมที่ทำให้อีกฝ่ายต้องกุมขมับ พร้อมกับความสามารถในการดึงเวลาให้ฮีโร่ Carry ของเราเก่งขึ้น ในขณะเดียวกันตัวละครนี้ก็ได้สร้างความน่ารำคาญและความปวดหัวเมื่อต้องรับมือ รวมถึงการต้องทำใจว่าการเจอกับฮีโร่ตัวนี้ต้องเป็นเกมระยะยาวแน่นอนจึงทำให้หลาย ๆ คนเกลียดตัวละครนี้ บางคนถึงกับกดออกไปเลยก็มีเมื่อเจอตัวละครนี้ แหล่งที่มาของข้อมูล Dota 2 และ dota2.gamepedia

คู่ที่ 1 Team Liquid x Royal Never Give up เกมที่ 1 ทั้งสองฝั่ง ใช้การดราฟฮีโร้มาเพื่อทำทีมไฟท์กันอย่างหนักหน่วง ทีมไฟท์มีให้เห็นแทบจะทุกๆ 2 นาทีพอเข้าสูช่วงกลางเกมทั้งสองทีมก็เน้นการฟาร์มมากขึ้นทดแทนในส่วงของต้นเกมที่เอาเวลาไปใช้กับทีมไฟท์ แต่ทางฝั่ง Liquid มีฮีโร่ IO กับ Gyrocopter ทำให้ทางฝั่ง Liquid ใช้ความสามารถของ Relocate ทำเกมได้หนักหน่วงกว่าทำให้ Gyro รวยเป็นอันดับ 1 ของเกมและใช้พลังความต่างของเงินกดดันจนสามารถชนะไปได้ เกมที่ 2 ต้นเกมก็ใส่กันไม่ยั่งเหมือนเดิมเรียกได้ว่าทำเกมกันอย่างหนักหน่วงดุดัน ทางฝั่ง Carry ของทั้งสองทีมก็พยามที่จะหาพื้นที่ฟาร์ม เข้าสู่ช่วงกลางเกมเป็นทางฝั่งของ Liquid ที่สามารถทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าเรื่อยๆ เกมดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงนาทีที่ 40 ยังไม่มีใครสามารถขึ้นบาแร็คของอีกฝั่งได้ เข้าสู่นาทีที่ 70 ที่งสองทีมก็ยังไม่สามารถ END ได้ในนาทีที่ 75 ทางฝั่ง RNG พลาดพยามจะไฟท์เพื่อปิดเกมแต่พลาทำให้แพ้เองไปในที่สุด จบไปด้วย Score Team Liquid 2 - 0 Royal Never Give up คู่ที่ 2 INF x Secret เกมที่ 1 เป็นเกมที่มีการหยิบ RIki ครั้งแรกของทัวร์นี้ แต่เป็น Secret ที่นำออกไปก่อน 6 ต่อ 2 สภาพการเงินของทั้งสองทีมไม่ต่างกันมากยังคงแข่งกันฟาร์มอย่างต่อเนื่อง เข้าสู่ช่วงกลางเกมทางฝั่ง INF ก็เริ่มเดินเกมหนักขึ้นเรื่อยๆแต่แน่นอนว่าทาง Secret ก็ไม่ปล่อยให้ INF ชนะไปง่ายๆ เกมยังคงสูสีเข้าช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 50 เป็นทางฝั่ง Secret ทีทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าจึงชนะเกมแรกไปได้ เกมที่ 2 เปิดเกมที่สองทางฝั่ง INF หยิบ Storm Spirit Safelane และเป็นทางฝั่งของ INF ที่ได้ First Blood ไปก่อนแต่กลับเป็นทางฝั่งของ Secret ที่เดินเกมรุกอย่างหนุกหน่วงในนาทีที่ 13 ทางฝั่งของ Secret ก็ได้มาถีึง 11 Kill และเป็นทีม Secret ที่สร้างจังหวะทีมไฟท์ได้ดีกว่าอย่างต่อเนื่องทำให้ทีม INF ต้องกลับบ้านเป็นทีมต่อไป จบไปด้วย Score Infamouse Gaming 0 - 2 Team Secret คู่ที่ 3 Evil Genius x Team Liquid เกมที่ 1 เป็นทางฝั่งของ Liquid ที่สามารถเก็ฐ First Blood ไปได้เป็นทางฝั่งของ Eg ที่กดดันในช่วงต้นเกมได้ดีแต่ในนาทีที่ 10  ทีม Liquid ทีมไฟท์ชนะทำให้สามารถกู้สภาพการเงินของทีมคืนมาได้ แต่ EG ก็ไม่น้อยหน้าเอาชนะมาได้อีก 1 ไฟท์ทำให้การเงินของ EG กลับมานำอีกครั้ง แต่รูปเกมยังสูสีใครพลาดก่อนทีมนั้นแพ้แต่เป็นทางทีม Liquid ที่ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าและชนะไปในนาที่ 43  เกมที่ 2  ช่วงต้นเกมทีม Liquid มีเงินนำไปก่อนเพราะว่ามี Alchemist และใช้ Ember ทำเกมทำให้ต้นเกมทางทีม Liquid มีเงินนำถึง 2K และเป็นทีม Liquid ที่ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าอย่างต่อเนื่องเป็นทีม Liquid ที่ได้บาแร็คแรกมาในนาทีที่ 27 และนาทีที่ 30 ทาง EG ก็ได้ยอมรับความพ่ายแพ้และต้องกลับบ้านไป จบไปด้วย Score Evil Genius 0 - 2 Team Liquid

คู่ที่ 1 Newbee x Infamous Gaminga เกมที่ 1 ทางฝั่งของ Newbee ดราฟฮีโรมาเพื่อทีมไฟท์ในช่วงกลางเกมแต่โดนกดดันจากทีม INF อย่างหนักหน่วงในช่วงต้นเกมทำให้ WK ของ INF สามารถฟาร์มได้อย่างเต็มที่ พอเข้าสู่ช่วงกลางเกมด้วยความห่างของไอเท็มทำให้ INF เริ่มเดินเกมหนักหน่วงยิ่งขึ้นไปอีก เขาสู่ช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 20 WK ของ INF มีไอเท็มเต็ม 6 ช่องจึงไม่มีใครสามารถหยุด WK ได้และเป็นชัยชนะของ INF ไปในเกมแรก เกมที่ 2 ทางฝั่ง Newbee เลือกดราฟฮีโรมาเล่นในช่วงกลางเกมเหมือนเดิม แต่ต้องบอกว่ารอบนี้เล่นได้รัดกุมยิ่งขึ้นทำให้รูปเกมในช่วงต้นเกมเป็นการแข่งกันฟาร์มไป มีการแลกหมัดกันอย่างต่อเนื่องจนนาทีที่ 27 ทางฝั่ง Newbee ชนะไฟท์ครั้งใหญ่ทำให้รูปเกมเอนเอียงไปทาง Newbee จากนั้นเป็นการกดดันอย่างหนักจากทางฝั่ง Newbee และในช่วง 40 นาที INF พิม GG มาขอยอมแพ้จึงเป็นชัยชนะของ Newbee เกมที่ 3 ทางด้าน INF ดราฟฮีโร่มาแบบดุดันมาก ในช่วงต้นเกมทั้งสองฝั่ง สูสีกันอย่างมากทั้งสองทีมพยามเดินเกมกันอย่างหนักหน่วง และCarry ทั้งสองฝ่ายก็พยามหนีฟาร์มกันอย่างเต็มที่จบช่วงต้นเกมไปที่ 11 ต่อ 10เข้าช่วงกลางเกมทางทีม INF มีเงินที่นำออกไป และความน่ากลัวของ WK INF ก็มาถึงในนาทีที่ 25 ทำให้ทีม INF กดดัน Newbee อย่างหนักหน่วงแทน นาทีที่ 37 INF ได้บาแร็คของ Newbee มาสองทางแลัในนาทีที่ 39 Newbee ก็ต้อแตกพ่ายไป จบไปด้วย Score Newbee 1 - 2 Infamous Gaming คู่ที่ 2 Mineski x Secret เกมที่ 1 Secret หยิบ Meepo หวังเล่นเกมเร็วและเป็นทาง Secret ที่ออกตัวแรงได้ไปก่อน 2 Kill ก่อนครีปออก ทางฝั่ง Mineski โดนกดดันด้วยสภาพเงินที่แตกต่าง ในช่วงกลางเกมกลับเป็น Mineski ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าถึง 2 ครั้งทำให้กลายเป็น Secret โดนกดดันหนักมากแทน แต่ Mineski กลับไปพลาดจังหวะสุดท้ายโดน Secret สวนจังหวะเดียวแพ้ไป เกมแรกเป็นของ Secret เกมที่ 2 เกมนี้ทาง Mineski ก็หยิบมาเป็นฮีโร่ที่เล่นในช่วงกลางเกม ในช่วงต้นเกม Mineski กดดันทีม Secret พอสมควรทำให้เงินนำอยู่ประมาณ 2K เข้าช่วงกลางเกมในนาทีที่ 15 ทาง Mineski เดินเกมได้ดีกว่าเป็นอย่างมาก Secret โดนกดดันเรื่อยๆ 22 นาทีผ่านไป Secret เงินตามอยู่ถึง 15K แต่ทาง Secret ก็พยามหนีฟาร์มอย่างเต็มที่ เกมถูกยื้อออกมาจนถึงนาทีที่ 50 แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ไหวและแพ้ให้กับ Mineski ไป เกมที่ 3 ยังคงเป็นทางฝั่ง Mineski ที่กดดันในช่วงต้นเกมได้อย่างหนักหน่วง ทีม Secret ก็พยามหนีฟาร์มไปเรื่อยๆเข้าสู่ช่วงกลางเกมทางทีม Secret ทำเกมได้ดีกว่าอย่างต่อเนื่องรูปเกมเริ่มเอนเอียงไปทาง Secret ต่อมาในนาทีที่ 33 Mineski สามารถชนะทีมไฟท์ใหญ่ได้ทำให้เกมกลับมาสูสีกัน หลังจากนาทีที่ 40 ก็เป็นเกมที่มีแต่จังหวะไฟท์แลกหมัดกันรัวๆ แต่เป็น Mineski ที่พลาดก่อนเลยทำให้ Secret ชนะไปได้ จบไปด้วย Score Mineski  1 - 2 Team Secret คู่ที่ 3 PSG.LGD x Vici Gaming เกมที่ 1 เมื่อเป็นศึกระหว่างทีมจีนด้วยกัน ทั้งสองทีมจึงดราฟตัวมาแบบกะถร่มทีมไฟท์กันอย่างจริงจัง เป็นทางฝั่ง LGD ที่โดนกดดันอย่างหนักในช่วงต้นเกม จนถึงช่วงกลางเกมไม่มีการเปลี่ยนแปลงของ KIll เลยทั้งสองฝ่ายยังพยามแข่งกันฟาร์ม หลังนาทีที่ 25 จึงเป็นเกมที่ไฟท์กันอย่างสมบูรณ์แต่สภาพเกมโดยรวมทั้งสองทีมยังสูสีกันอยู่ แต่ในนาทีที่ 35 เป็นทางฝั่ง LGD ที่ Carry ของเริ่มเต็มก่อนและใช้จังหวะความได้เปรียบนั้นดันบ้านจนชนะไปได้ เกมที่ 2 เปิดเกมมาด้วยความเสียเปรียบของทางฝั่ง LGD ที่เดินเกมช่วงต้นได้ไม่ดีเท่าทาง Vg ทำให้ช่วงต้นไปจรถึงกลางเกมทาง LGD จำเป็นต้องหนีฟาร์มสุดชีวิต แต่เหตุการเริ่มไม่เหมือนเดิมหลังนาทีที่ 30 ทางฝั่ง LGD กลับทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าเรื่อยๆจนทำให้ VG กลายเป็นฝ่ายที่ถูกกดดันอย่างรุนแรงแทนและในท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานพลังของ Spectre และ Dk มังกรดำได้ทำให้แตกพ่ายไป จบไปด้วย Score PSG.LGD  2 - 0 Vici Gaming คู่ที่ 4 Evil Geniuses x OG เกมที่ 1 เปิดเกมด้วยชัยชนะในการเดินเกมของทางฝั่ง EG เรียกได้ว่า OG ตายกันรัวๆ เขาสู่ช่วงกลางเกมโดยที่สถานการณ์ของทางฝั่ง OG ยังไม่ดีขึ้นเข้าสูนาทีที่ 25 สภาพโดยรวมของทาง OG ก็ยังไม่ดีขึ้นแต่ทางฝั่งของ EG ก็ทำไฟท์ได้สวยงานไปเรื่อยๆและในนาทีที่ 28 OG ก็ยังแพ้ไฟท์ครั้งใหญ่นั้นเป็นการปิดประตูทางชนะของ OG ในเกมแรกไป เกมที่ 2 เป็นทางฝั่ง OG ที่ถูกกดดันเหมือนเคยก็เป็นเกมที่ OG หนีฟาร์มรัวๆเหมือนเดิมเข้าช่วงกลางเกมเป็น OG ที่เริ่มทำจังหวะของเกมได้ดีกว่าเรื่อยๆ ในนาทีที่ 17 สภาพการเงินโดยรวมของทั้งสองทีมก็กลับมาใกล้เคียงกันอีกครั้งแต่หลังนาทีที่ 25 กลับเป็นทางฝั่ง OG ที่ทำทัมไฟท์ได้ดีกว่าและเป็น EG ที่เริ่มพลาดท่าบ่อยขึ้นจนทำให้ OG ชนะไปในเกมที่สอง เกมที่ 3 ทั้งสองทีมไม่มีใครยอมใครกันเลยในเกมนี้ในช่วงต้นเกมก็ยังวิงใส่กันยับ ทั้งสองทีมพยามกดดันอีกฝ่ายทำให้ Carry ของทั้งสองทีมก็ต้องหนีกันฟาร์มจ้าระหวั่นเข้าสูช่วงนาทีที่ 20 ทางฝั่ง OG มีเงินนำอยู่ 5K แต่สภาพเกมโดยรวมสามารถพลิกได้ทุกเมื่อ ต่อมาในช่วงท้ายเกมแต่เป็น OG ที่ได้โรชานตัวแรกและทำจังหวะทีมไฟท์ได้ดีกว่า จนสามารถทำ Mega ครีปได้ก่อนและเอาชนะในเกมนี้ไปได้ จบไปด้วย Evil Genius  1 - 2 OG  

จบไปแล้วกับ Main Event วันที่ 2 ครับวันนี้ก็มีหลายคู่ที่มันมากๆ โดยเฉพาะคู่ของ Team Secret กับ Evil Genius ที่เรียกได้ว่าเชือนกันไปแค่นิดเดียวเท่านั้นเองสวนผลการแขงขันคู่อื่นๆเป็นยังไงติดตามได้ข่างล้างนี้เลยครับ คู่ที่ 1 Newbee x OG เกมที่ 1 OG ยังคงใช้ดราฟ IO Carry มาต่อสู้อยู่ นั้นทำให้ช่วงต้นเกมทาง Newbee ได้เปรียบด้านทีมไฟท์เป็นอย่างมากทางฝั่ง OG จึงจำเป็นต้องหนีฟาร์มในช่วงต้นเกม แต่พอนาทีที่ 16 หลังจาก IO ได้ Aghanim รูปเกมก็เปลี่ยนไปทันทีทางฝั่ง OG รุกอย่างหนักจนสามารถเอาบาแร็คกลางของทาง Newbee มาได้ หลังจากนั้นช่วงท้ายเกม OG ถึงขนาดวิ่งเขาไปไล่ฆ่าภายในบ่อของทางฝั่ง Newbee และไม่มีใครตายทำให้ Newbee พิม GG มาขอยอมแพ้ไปในที่สุด เกมที่ 2  รอบนี้ Newbee ตัดปัญหาด้วยการแบน IO ไป ทางฝั่ง OG จึงได้โอกาศที่จะหยิบคอมโบ Juggernaut กับ Magnus มาในช่วงต้นเกมทางฝั่งของ Newbee พยามใช้การแก๊งที่หนักหน่วงเพื่อสร้างความได้เปรียบของเกมแต่สงผลไม่มากเท่าไหร่ พอเข้าสู่ช่วงกลางเกมการเงินของทั้งสองทีมใกล้ๆกันแต่ทางฝั่ง OG ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าหลายครั้งช่วงท้ายเกมไม่มีใครหยุด Juggernaut ได้อีกและนาทีที่ 34 OG ก็ชนะไปได้ จบไปด้วย Score Newbee 0 - 2 OG คู่ที่ 2 Team Secret  x  Evil Genius เกมที่ 1  ในช่วงต้นเกมเป็นเกมที่รุกและรับกันอย่างหนักหน่วงมากเป็นทาง Secret ที่เสีย First Blood ไปแต่การเงินของทั้งสองทีมก็ไม่ห่างกันมากเป็นการแข่งกันช่วงชิงจังหวะฟาร์มมากกว่าเข้าสู่ช่วงกลางเกมในนามทีที่ 18 ยังคงมีจังหวะทีมไฟท์แบบต่อเนื่องการเงินของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงใกล้ๆกันแต่เป็นทาง EG ที่ได้คิลเยอะกว่าเข้าสู่ช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 36 ทางฝั่ง EG ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่ามากจน Secret เสียบ้านไปถึง 2 ทาง Secret พยามจะยื้อเกมออกไปแต่นาทีที่ 48 ก็ไม่สามารถต้านทานได้ไหว เป็น EG ที่ชนะไป เกมที่ 2  Secret ยังคงดราฟฮีโร่มาเน้นทีมไฟท์เหมืออนเดิม ในช่วงต้นเกมเป็นทาง EG ที่ได้ไปก่อน 2 Kill แต่ Secret ก็มาได้คืนในทีมไฟท์ช่วง 5 นาทีเกมยังคงสูสีจนถึงช่วงกลางเกมก็ยังเป็นการแข่งกันฟาร์มอยู่เหมือนเดิมเหมือนกับว่าทั้งสองทีมพยามจะเล่นให้รัดกุมยิ่งขึ้นทำให้เกมนี้มีจังหวะของทีมไฟท์ที่น้อยมากๆ แต่หลังนาทีที่ 24 ทาง Secret ก็พลาดบ่อยขึ้นจนทำให้ EG ได้เปรียบอยู่เล็กน้อยและ EG ก็เริ่มได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปแต่เกมก็ยังคงยื้อออกไป หลังนาทีที่ 50 เรื่องเงินก็ไม่เกียวอีกแล้วอยู่ที่จังหวะทีมไฟท์อย่างเดียวและก็เป็น Secret ที่ทำจังหวะทีมไฟท์ครั้งสุดท้ายได้ดีกว่าและชนะไป เกมที่ 3 ช่วงต้นเกม Secret ได้ไป 3 Bounty รูนและอีก 2 Kill ทำให้ได้เปรียบในด้านเงินในช่วงต้นเกม ในนาทีที่ 14 Secret ยังทำทีมไฟท์ได้ดีกว่าอย่างมาก ทำให้การเงินของทีม Secret นำออกไปถึง 7K กระแสของเกมจึงไหลมาทาง Secret แต่ในช่วง 30 นาที่กลับเป็นทาง EG ที่จังหวะทีมไฟท์ดีกว่าและเป็น EG ที่ได้บาแร็คเลนล่างก่อนและจังหวะทีมไฟท์ทีเปะกว่าของ EG ก็ทำให้ Secret แพ้ไป จบไปด้วย Score Team Secret 1 - 2 Evil Genius   คู่ที่ 3 Virtus.Pro  x Royal Never Give Up เกมที่ 1  เป็นทาง RNG ที่ดราฟฮีโรมาแบบกะเล่นทีมไฟท์ในช่วงต้น RNG ยังได้ First Blood ไปด้วยทำให้ VP เล่นได้ยากแต่เรื่องการเงินกลับห่างกันไม่มากนักต่อมาในนาทีที่ 14 Vp ทำทีมไฟท์ได้อย่างน่ากลัวมากจนทำให้กระแสของเกมไหลมาทาง Vp แทน แต่เป็น RNG ที่ได้โรชานตัวแรกและทำทีมไฟท์ได้ดีกว่า 3 ครั้งติดกันจนสามารถ ทำรายบาแร็คของ Vp ไปได้สองทาง สุดท้าย VG ไปพลาดนาทีที่ 29อีกครั้งเลยเป็น RNG ที่คว้าชัยไปได้ เกมที่ 2 เกมนี้ VP ดราฟฮีโร่มาให้เหมาะกับการเล่นต้นเกมมากขึ้น ถึงแม้ว่า Vp จะได้ Kill ไปก่อนท างด้านการเงินยังไม่ห่างกันมาก แต่ในาทีที่ 11 Vp ทำทีมไฟท์ได้ดีกว่ามาก ทำให้ RNG ตกที่นั่งลำบากได้แต่นังรอจังหวะไปเรื่อยๆและในนาทีที่ 26 RNG ชนะไฟท์ใหญ่ทำให้จังหวะของเกมกลับเสมอกันอีกครั้งหลังจากนั้นก็เป็นเกม Snowball ของ RNG ได้โรชานและชนะไฟท์อีก 2 ครั้ง สงผลให้ VP ต้องกลับบ้านไป จบไปด้วย Vitrus.Pro 0 - 2 Royal Never Give Up คู่ที่ 4 TNC Predator  x Team Liquid เกมที่ 1 การดราฟของ TNC นั้นมีคอมโบในช่วงต้นเกมที่โหดมากดังนั้นต้นเกม TNC เป็นฝ่ายกดดันอย่างหนักหน่วงมากถึงขนาด Score 10 ต่อ 3 กันเลยที่เดียวแต่ในช่วงกลางเกมกลับเป็นทีม Liquid ที่สามารถสร้างจังหวะทีมไฟท์ได้สวยงามมากกว่าและจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่คือจังหวะไฟท์หน้าโรชานที่ทำให้ Liqiud มีสภาพการเงินทีนำไปไกลมากและใช้ความได้เปรียบในตอนนั้นกดดัน TNC จนสามารชนะเกมนี้ไปได้ เกมที่ 2 ในช่วงต้นเกมต้องบอกว่าทีมไฟท์ของทั้งสองทีมสูสีกันมาก แต่เป็นทาง Team Liquid ที่สามารถหนีฟาร์มได้อย่างต่อเนื่องถึงสภาพการเงินจะไม่ต่างกันมากแต่ดูเหมือนทางทีม Liquid จะได้เปรียบมากกว่าในเรื่องของจังหวะ เข้าสูช่วงกลางเกมในขณะที่เกมยังดำเนินต่อไปแบบนิ่งๆแต่ไอเท็มของทั้งสองทีมก็ยังมาเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของจังหวะไฟท์ว่าทีมไหนจะทำได้ดีกว่ากันและในนาทีที่ 30 Liqiud เริ่มการ Rat บ้านและไม่มีใครสามารถหยุด Anti Mage ของ Miracle ได้ทำให้ TNC ต้องกลับบ้านไปนั้นเอง จบไปด้วย TNC predator 0 - 2 Team Liquid    

ก็ผ่านกันไปแล้วกับการแข่งขัน Dota 2 The International 2019 Main Event ในวันแรกโดยบทความนี้จะสรุปการแข่งขันในวันแรกให้เข้าใจง่ายๆ ครับ คู่ที่ 1 PSG.LGD x Virtus.Pro เกมแรก เป็นเกมที่ช่วงแรกชนเลนกันอย่างปกติแบบ 212 แต่เป็นทางฝั่งของ VP ที่เริ่มเอา ES ไปเดินช่วยเลนกลางแต่เกมก็ยังดำเนินไปแบบนิ่งๆ จนนาทีที่ 12 ที่ LGD แพ้ทีมไฟต์ครั้งแรกไป เกมจึงดูจะไปทาง Vp มากกว่า แต่ LGD ก็ใช้พลังการฟาร์มของ Sven และ Gyro ดึงเกมออกไปแต่นาทีที่ 20 ที VP ได้โรชานตัวแรกไปเกมตึงขึ้นมาทันทีแตนาทีที่ 21 LGD กลับชนะไฟต์ได้จึงทำให้เกมกับมาสูสีอีกครั้งและเกมก็เข้าช่วงแข่งกันฟาร์มอีกครั้ง แต่ในนาทีที่ 29 ทีมไฟต์ของ LGD ชนะและเป็นจุดที่ทำให้เงินของฝั่ง LGD นำห่างออกไปนาทีที่ 32 สามารถจับ Silencer ได้ทำให้ LGD ได้โรชานตัวที่สองมา VG โดนกดดันไปเรื่อยๆ สุดท้าย LGD ได้โรชานตัวที่ 3 แล้วดันบ้าน End ไปได้ในนาทีที่ 45  เกมสอง เกมนี้เป็นเกมที่ทีม LGD ยังคงดราฟตัวที่มีสกิลใน ทีมไฟต์อย่างหนักหน่วงเหมือนเดิม ต้นเกมก็ใช้คอมโบของ Shadow Demon และ MIrana ในการกดดันเกม แต่ฝั่ง VP ก็ใช้ การฟาร์มมาสู้แต่หลังจาก PA ของฝั่ง LGD ได้ Aghanim ตัว PA ก็เหมือนหายออกไปจากเกมเลยเพราะไม่สามารถหาตัวของ PA เจอได้อีกเลยเป็น Assassin ของแท้ค้อยๆฆ่าที่ละตัวๆ เก็บตังไปเรื่อยๆ ถึงแม้ฝั่ง Vp จะใช้ Elder Titan และการฟาร์มของ TB ดึงเกมออกไปได้แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านทีมไฟต์ของทางฝั่งทีม LGD ได้ จบไปด้วย Score PSG.LGD 2 - 0 VP คู่ที่สอง VIci Gaming Victory x TNC Predator เกมแรก ทางด้าน VG ก็ยังคงเป็นดราฟที่เน่นทีมไฟต์ตามสไตน์ทีมจีนเหมือนเดิม ในส่วนของ TNC ก็พยามดราฟตัวมาให้ชนะในเลนและใช้ Tiny เดิน Toss เพื่อทำเกมในช่วงต้น ทางฝั่ง VG ก็พยามหนีฟาร์มเรื่อยๆ จนนาทีที่ 16 ที่ TNC พลาดจังหวะทีมไฟต์ทำทำให้เงินของ Juggernaut นำไปแบบหยุดไม่อยู่ เกมจึงเริ่มไหลไปทาง VG จนนาทีที่ 33 ที่เสียโรชานให้กับ TNC ไปทำให้ VG ต้องเล่นอย่างระวังมากขึ้น แต่ VG ก็พลาดในนาทีที่ 42 อีกครั้งและเสียโรชานตัวที่ 2 ไป จังหวะเกมเริ่มไหลมาทาง TNC แทน แต่ Vg ก็ไม่ยอมง่ายๆไฟต์ได้โรชานตัวที่ 3 มาในนาทีที่ 54 เกมยังคงยื้อต่อไปเรื่อยๆ จน VG พลาดนาทีที่ 75 และ TNC ก็ชนะเกมแรกไป เกมสอง ช่วงต้นเกม safe lane ของทั้ง 2 ทีมเล่นยากมากเพราะโดนฮีโร้แก้ทางแต่เกมดำเนินไปแบบแข่งกันฟาร์มเรื่อยๆ แต่ช่วงนาทีที่ 8 TNC ทำทีมไฟต์ได้ดีกว่าทำให้ VG เสียเปรียบไปอย่างมากแต่ทางฝั่ง VG ก็สามารถฟาร์มแก้เกมไปได้และนาทีที่ 16 Vg ชนะไฟต์จนทำให้สภาพเงินของ VG กลับมาเท่ากันอีกครั้ง  นาทีที่ 30 TNC ได้โรชานไปอีกครั้ง แต่ Vg ก็ยังชนะทีมไฟต์เรื่อยๆ เกมเริ่มตึงเหมือนเกมแรกแต่ในช่วง Vg พยามไรฆ่าที่ละตัวแบบไม่รีบจนถึงนาทีที่ 50 การเงินของ Vg นำถึง 25K และใช้คอมโบ Lifestealer และ Solar Crest ดันบ้านจนชนะไปได้ เกมสาม  เกมนี้ Vg ก็ดราฟตัวมากะเล่นเกมยาว เหมือนเดิมแต่ Safe lane ของฝั่ง VG โดนกดดันหนักมากจนออกมาจากป้อมไม่ได้เลย แต่ทางฝั่งของ TNC ก็โดนกดดันอย่างหนักหน่วงเหมือนกันช่วงต้นเกมสูสีเหมือนเดิม แต่หลังจาก LV 6 VG ก็เริ่มใช้การเดินเกมอย่างกดดันมากขึ้นและเป็นการสร้างสเปซให้กับ Medusa ได้ฟามด้วย  20 นาทีผ่านไปทางฝั่ง TNC ก็ดูยังจะไม่สามารถกู้เกมกลับมาได้ นาทีที่ 30 Medusa ของเยอะจนฆ่าไม่ลงแล้ว VG ก็ดันบ้านชนะไปในนาทีที่ 35  จบไปด้วย Score VG 2 - 1 TNC คู่ที่สาม Alliance x Royal never give up เป็นทางฝั่งของ [A] ที่ได้ไปก่อน 2 คิล แต่จังหวะของเกมก็ดำเนินไปแบบนิ่งๆแต่เหมือนจังหวะของ [A] จะยังดีกว่านิดหน่อย ในนาทีที่ 10 [A] ชนะทีมไฟต์ทำให้การเงินของทางฝั่ง [A] ดีกว่าอยู่มากแต่ในช่วงนาทีที่ 18 มีทีมไฟต์เกิดขึ้นหลายครั้งทำให้ สถาพเกมโดยรวมกลับมาใกล้ๆกัน แต่แล้วนาทีที่ 25 จังหวะทำเกมของ RNG น่ากลัวมากทำให้ได้คิลไปถึง 3 ตัวและทำให้กระแสเกมมาทาง RNG แทน แต่ทีมไฟต์ของ [A] ก็มาเอาคืนได้ในนาทีที่ 30 ทำเกมกลับมาสูสีอีกครั้ง  [A] ไปแพ้ไฟต์อีกครั้งในนาทีที่ 35 ทำให้เสียบาแรคเลนกลางไปแต่จังหวะทีมไฟต์ของ [A] ในช่วง 36 นาทีก็ทำให้กูจังหวะเกมมาได้เป็นเกมจึงกลับมาสูสีอีกครั้ง สุดท้ายจังหวะทีมไฟต์ของ RNG ก็ต้องบอกว่าแม่นกว่ามากในช่วง 40 นาทีเลยกลายเป็นทีม [A] ที่ต้องกลับบ้านไป จบไปด้วย Score RNG 1 - 0 Alliance คู่ที่ 4 Fnatic x Team Liquid ต้นเกม ฝั่งของ fnatic เรียกได้ว่าเล่นยากมากเพราะคู้ฮีโร่ของฝั่ง Liqiud นั้นเป็นคู้ที่โหดมากด่านเลนกลางก็เป็นตัวที่แพ้ทางเช่นกัน แต่ถ้าดูจากฮีโร่แล้วด้านทีมไฟต์ Fnatic ดูดีกว่า  กลางเกมทางด้านของทีมไฟต์นั้นมีพาวเวอร์พอพอกันขึ้นอยู่กับว่าทีมไหนจะสร้างจังหวะในทีมไฟต์ได้ดีกว่ากันแต่ทางด้านของเงินนั้น Fnatic นำอยู่นิดหน่อย ท้ายเกมท่างด้านจังหวะของ Liquid ดีกว่าเรื่อยจนเกมเอียงไปทาง Liquid มากกว่าหลังนาทีที่ 30 Fnatic เสียบาแรคเลนล่างไปจนนาทีที่ 40 Fnatic ด็แตกพ่ายไป จบไปด้วย Score Fnatic 0 - 1 Team Liquid คู่ที่ 5 Keen Gaming x Infamous Gaming ต้นเกม เป็นเกมนิ่งๆที่ผลัดกันฟาร์มและมีการพยามไปแก๊งเลนอื่นๆกันอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แต่ละทีมฟาร์มได้ยากขึ้นนั้นเองก็คือเดือดตั่งแต่ต้นเกมเลยนั้นเองแต่ละฝั่งวิงหาตัว Carry ของอีกฝั่งกันรัวๆ แต่เป็นจังหวะทีมไฟต์ของ KG ที่เหนือกว่า INF ในช่วงต้นเกมส่วนกลางเกม INF เริ่มหนีฟาร์มมากขึ้นถึงแม้ว่าจะแพ้ไฟต์ไปต้นเกมแต่ก็ใช้พลังการฟาร์มทำให้เงินไม่ห่างกันมากโดยเฉพาะเงินของ WK ทีนำมาเป็นที่ 1 เลย ช่วงท้าย พลังการฟาร์มของ INF เริ่มออกผลทำให้ได้เปรียบในเรื่องไอเท็มและกดดัน KG ให้อยู่แต่ในบ้าน และก็เป็น INF ที่ชนะไปในเกมนี้ จบไปด้วย Score Keem Gaming 0 - 1 Infamous Gaming คู่ที่ 6 Mineski x Natus Vincere ทางฝั่งของ Mineski หยิบฮีโร่มาใช้ในทีมไฟต์ได้ดีมาก ในช่วงต้นเป็นเกมแข่งกันฟาร์มตากปกติที่ดำเินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง 7 นาทีแล้ว Wk ได้ Hand of Midas รูปเกมก็เปลี่ยนไปทันทีเพราะทางฝั่ง Navi จำเป็นต้องเปลี่ยนมากดดัน WK แทนแต่ Shadow Demon ก็สร้างสเปชให้กับ WK ได้ดีเข้าสู่ช่วงกลางเกมเป็นทางฝั่งของ Mineski ที่ทำรูปเกมออกมาได้ดีกว่าที่ไฟต์หน้าโรชานแต่ Sven ของ Navi ก็มีเงินเป็นอันดับ 1 อยู่ดีเกมจึงยังสูสีอยู่มาก แต่ในนาทีที่ 27 ทาง Navi ทำทีมไฟต์ได้ดีกว่ารูปเกมจึงเหมือนจะเอนไปทาง Navi และท้ายเกมในช่วง 31 นาที Navi ก็ชนะทีมไฟต์ใหญ่อีกครั้งทำให้ Mineski ต้องเสียบาแรคล่างไป แต่ Mineski ก็สามารถสวนเอาบาแร็คกลางมาได้เกมยื้อออกไปถึงนาทีที่ 60 NaVi พยามจะ Rat บ้านแต่เป็น Mineski ที่คว้าชัยไปได้สำเร็จ จบไปด้วย Mineski 1 - 0 Natus Vincere  

ในวงการ DOTA2 ไม่ใช่แค่ผู้เล่นเท่านั้นที่มีความสำคัญกับความสำเร็จของทีม แต่ “โค้ช” ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ทีมไปถึงฝั่งฝัน GameFever เลยจะพาไปดู 5 โค้ชที่นอกจากจะทำหน้าที่ไกด์สมาชิกทีมแล้ว ยังหวนคืนสู่สังเวียน กลับมาช่วยทีมในยามจำเป็นอีกด้วย! ส่วนช่วยแล้วจะรุ่งหรือจะร่วงนั้นติดตามกันได้เลย! ถ้าพูดถึงเรื่องที่โค้ชลงมาเสียบแทน และเล่นในตำแหน่งผู้เล่นจนประสบความสำเร็จแล้วก็คงจะไม่มีใครไม่นึกถึง Ceb หรือชื่อเก่าในวงการคือ “7ckngMad” จากทีม OG แชมป์ TI8 ที่เกิดดราม่า สมาชิกหลักของทีมออกกระทันหันทำให้ผู้เล่นไม่พอ ซึ่งแม้ตอนแรกจะดูเหมือนเป็นการย้ายลงมาเล่นแก้ขัดไปก่อนเพราะว่าน่าจะเป็นคนที่เข้ากับทีมได้ดีที่สุด แต่ว่าการที่พวกเขาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนสามารถครอบครอง Aegis ในการแข่งขัน TI8 ไปได้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า Ceb เองก็สามารถเป็นผู้เล่นที่ดีไม่แพ้ใคร นอกเหนือจากเรื่องฝีมือในการเล่นตำแหน่ง Pos 3 (ออฟเลน) แล้ว Ceb ก็ยังพกพาเอาสกิลโค้ชมาใช้กับเพื่อนร่วมทีมด้วย โดยสกิลที่ว่าก็คือสกิล การให้กำลังใจ และพูดเชียร์เพื่อนๆ อยู่เสมอ เรียกได้ว่าเขาแทบจะเป็นกำลังใจหลักของทีมในเวลาที่การแข่งขันตรึงเครียดเลยก็ว่าได้  ใน TI9 รอบ Group Stage ที่เพิ่งผ่านมา Ceb ก็ยังทำผลงานได้ดี รวมถึงฟอร์มการเล่นของ OG ก็กลับมาดุเดือดเลือดพล่านมากขึ้น เก็บชัยชนะจากทีมอื่นๆ ไปได้เยอะมากจนทำให้เป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม ขึ้นไปเล่นในสายบนแบบหล่อๆ  สุดท้ายนี้ก็อยากบอกว่า Ceeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeb!   Fnatic เป็นทีมขวัญใจของชาวไทย ที่มี Jabz ผู้เล่นมากฝีมือและเป็นชาวไทยในวงการ DOTA 2 หนึ่งเดียวที่ได้ไปโลดแล่นโชว์ฝีมืออยู่ในการแข่งขันระดับโลกในช่วง 5 ปีให้หลัง  แม้ว่าจะเปิดตัวมาได้ค่อนข้างดีกับการแข่งขันเก็บแต้ม DPC ในซีซัน 2018-2019 และสามารถคว้าอันดับที่ 3 ของการแข่ง DreamLeague Season 11 ไปได้ แต่ว่าในช่วงการแข่งโค้งสุดท้ายก่อน TI9 ผลงานของทีมกลับดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทีมต้องเร่งแก้แผน เปลี่ยนไลน์อัพใหม่แบบสายฟ้าแลบ ผู้ที่มาทำหน้าที่เป็น Pos 5 (ซัพทาส) แทน Jabz ที่ย้ายไปเป็น Carry ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ DuBu โค้ชที่ติวเข้ม Fnatic มาเป็นเวลาเกือบปี นอกจากนี้ยังเป็นอดีตสมาชิกทีม MVP Phoenix ที่ได้อันดับ 5-6 ร่วมใน TI 6 อีกด้วย โดยตำแหน่งที่เขาเล่นตอนนั้นก็คือซัพ 5 พ่วงด้วยกับหน้าที่กัปตันเหมือนตอนนี้ไม่มีผิด อะฮึ่มมม แต่ถ้าให้ดูจากผลงานของ Fnatic ในรอบ Group Stage แล้วก็ถือว่าไม่ค่อยรุ่งเท่าไหร่ เพราะว่าเก็บชัยชนะไปได้เพียง 3 เกม และแพ้ไปถึง 4 เกมจนทำให้ไปอยู่ในสายล่าง ต้องรอลุ้นดูฟอร์มในรอบ Main Stage ว่าการที่ DuBu หวนกลับมาลงแข่งในครั้งนี้จะทำให้ Fnatic ไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ แล้ว DuBu เองจะยังมีของอยู่หรือเปล่า   Team Liquid แชมป์ TI7 ก็เคยมีเหตุการณ์ที่ต้องให้โค้ชมาลง Stand-in เหมือนกัน โดย Heen โค้ชชาวเกาหลีใต้ที่คอยให้คำแนะนำกับม้าน้ำมาตั้งแต่ปี 2016 ต้องมาเล่นเป็นซัพพอร์ตในรายการ DreamLeague Season 9 แทน Miracle- ที่ไม่อยู่  ในคราวนั้นสลับเอากัปตันในตำนานอย่าง KuroKy ไปเล่นในตำแหน่ง Carry แทน ซึ่งฮีโร่ที่ Heen เลือกมาใช้แข่งบ่อยๆ ก็คือ Ancient Apparition (AA) โดยพอจบการแข่ง Team Liquid สามารถคว้าอันดับสามไปได้  ที่สำคัญคือ Heen ยังได้ตำแหน่ง MVP ของทัวร์นาเมนต์ไปครอง แต่!!! ไม่ได้เป็นเพราะว่าเขามีผลงานการเล่นที่น่าประทับใจ กลับกันคือสาเหตุของการที่ได้ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม (กระเทียมดอง) นี้ เป็นเพราะโดนแฟนๆ ในช่อง Twitch โหวตแบบประชด จนกลายเป็น Meme และติด #Heen กันอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว  แม้ Heen อาจจะไม่ได้เป็นผู้เล่นที่มีผลงานดีหรือมีสกิลเพลย์ขั้นสูง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ดีไม่แพ้ใครคือหน้าที่โค้ช ที่ทำให้ Team Liquid ได้แชมป์ TI7 ไปได้ ที่สำคัญคือพอย้ายมาคุม TNC Predator ใน TI9 ครั้งนี้แล้ว ก็ทำให้ TNC มีผลงานที่ดี อยู่ในสายบนของการแข่งขันอีกด้วย   EG ทีมราชันย์อันดับสาม ที่ไม่ว่าจะไปแข่งอะไรก็มักจะได้อันดับสามอยู่เสมอก็มีช่วงเวลาที่ให้โค้ชอย่าง BuLba มาเสียบแทบเป็น Stand-in เหมือนกัน โดยตอนนั้นต้องลงมาเล่นแทน Fly ซึ่งเป็นกัปตันทีม โดยโค้ชก็ไม่ทำให้ลูกทีมผิดหวัง (??) เพราะว่าในการแข่งขัน Adrenaline Cyber League โค้ชที่ติวเข้มให้ทีมมาตลอดตั้งแต่ปี 2017 ก็พาทีมร่วง ตกรอบไปตั้งแต่นัดแรก โดยแพ้ทีม Spirit ไป 2-0 เกม ทำให้ทีมจบอันดับที่ 3-4 ของรายการ สมกับฉายาที่แฟนๆ ขนานนามให้ว่าเป็น “MMR Assassin” (นักฆ่าดับฝันทีมตัวเอง) พอฟังแบบนี้แล้วอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ของ BuLba ติดลบไปซักหน่อย แต่อย่างไรเขาก็เป็นถึงโค้ชผู้ปูทาง และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ EG ที่ถึงแม้จะแทบไม่ได้อันดับที่ 1 หรือ 2 ในการแข่งขันอะไรเลย แต่ว่าก็ทำให้ EG เป็นอีกหนึ่งทีมที่น่ากลัว ฟอร์มการเล่นดี และเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของโลก  โดยก่อนที่จะผันตัวมาเป็นโค้ช BuLba เองก็เคยเป็นผู้เล่นในทีมดังๆ มาแล้วหลายทีม ตั้งแต่ Team Liquid, Team Secret และ Evil Geniuses ด้วย   ในการแข่งขันโปรซีนของ Team Secret โค้ชยอดฝีมือที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทีมมาตั้งแต่ปี 2017 อย่าง SunBhie แทบไม่ได้ลงแข่งขันแทนเลย แต่ว่าโค้ชชาวเกาหลีใต้คนนี้ดันไปหน้าตาเหมือนผู้เล่นสุดโหด Midlane ของทีมอย่าง MidOne จนได้ฉายาว่า MidTwo  ช็อตที่บังเกิดเป็นความฮาคือตอนนี่ Team Secret ได้แชมป์ในงาน MDL Disneyland Paris Major และกำลังขึ้นสัมภาษณ์กับพิธีกรสายฮาขาประจำการแข่ง DOTA2 อย่าง SirActionSlacks ซึ่ง Slacks ก็เริ่มพูดว่า “ยินดีด้วยครับ! เราจะเริ่มสัมภาษณ์จากคุณก่อนเลย มิสเตอร์ MidOne” โดยที่หารู้ไม่ว่าตัวเองได้เดินเข้าไปหา SunBhie โค้ชชาวเกาหลีใต้!  พอถูกคิดว่าตัวเองเป็นผู้เล่นในทีม โค้ชก็ออกอาการเหวอ ไม่รู้ว่า Slacks เล่นมุกหรือสับสนจริงๆ ได้แต่เดินหลบฉากถอยไปข้างหลัง ส่วน YapzOr ผู้เล่นที่ยืนข้างๆ โค้ชก็ต้องออกมาชี้แจง ทำมือทำไม้ แล้วชี้ไปเหมือนจะบอกว่า “โน้นนนน MidOne ยืนอยู่ตรงน้านนน” ใครอยากดูว่าสองคนนี้หน้าตาเหมือนกันขนาดไหน แล้วเหตุการณ์จริงเป็นยังไง ดูได้จากลิงก์นี้เลย >>> https://clips.twitch.tv/EnticingCrackyRadicchioFloof  

พึ่งผ่านกันไปกับ The International 9 : Group Stage ต้องบอกว่าเป็นปีที่มันมากๆเลยที่เดียวสำหรับปีนี้ เราได้เห็นแผนการเล่นที่สุดยอด กับ สไตล์การเล่น Hero ที่หลากหลายทำให้ผมมานั่งคิดว่า Hero ตัวไหนบ่างที่ถูกหยิบมาเล่นบ่อยที่สุดและทำไมถึงเป็น Hero ตัวนี้ และ Hero ตัวไหนที่ถูกแบนบ่อยที่สุด วันนี้เราจะพาไปดูกันครับ TOP 5 ที่ถูกหยิบมาบ่อยที่สุดในรอบ Group Stage อันดับ 1 Elder Titan (54 Pick 37.5% of game) แน่นอนว่าถ้าพูดถึง Hero ที่มีความสามารถด้านระยะและเวลาของการสตั๊นท์ทั้งยังใช้สกิล 2 เพื่อเปิดแมพให้กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย  ทั้ง Passive ของ Elder ที่ทำให้เกราะกับกันเวทของ Hero ศัตรูต้วอื่นรอบๆตัวลดลงแถมด้วยสกิลอันติเมทที่ทำดาเมจเป็น %เลือดของตัวที่โดน แต่ Hero ตัวนี้ก็เป็นตัวที่จำเป็นต้องสื่อสารกับทีมแทบจะตลอดเวลาด้วยเช่นกัน เพราะระยะสกิลที่ไกลมากจึงจำเป็นต้องใช้การสือสารเป็นอย่างมากในเรื่องของจังหวะ จึงไม่นิยมเล่นกันหากไม่ได้มาเป็นทีมนั้นเอง อันดับ 2 ร่วม Shadow Demon (51 Pick 35.42% of game) Hard Support Hero ที่มีความสามารถในการทำดาเมจที่สูงมากในช่วงต้นเกมและยังเป็นตัวที่สามารถใช้สกิลเพื่อเซฟเพื่อนหรือตัวเองได้ยามจำเป็นหรือจะใช้สกิลเดียวกันเพื่อเซ็ตสร้างจังหวะให้ทีม ตามมมาได้ทั้งยังมีความสามารถในการทำดาเมจเป็น %เลือดอีก ทำให้ Shadow Demon เป็นฮีโร่ที่โปรเพลเยอร์มักจะเลือกมาเล่นกันเป็นอย่างมากแต่ก็จำเป็นต้องใช้การสื่อสารเป็นอย่างมากด้วยเช่นกันเพราะถ้าจังหวะไม่ดีจะกลายเป็นการขัดขากันเองไปแทน อันดับ 2 ร่วมOrge Magi (51 Pick 35.42% of game) ถ้าบอกว่าเป็น Hero ที่ โกงที่สุดในเกมตอนนี้ก็ดูไม่เกินจริงเท่าไหร่เพราะมีค่าเกราะที่สูงมากและมี Hp ที่เยอะมากรวมทั้งยังสามารถทำดาเมจได้จาก Multicast ที่มีโอกาศ *2 ถึง 75% ในตอนนี้และสกิล 3 ที่เหมือนได้ Yasha ฟรีมาอีก ทำ Orge Magi จึงมี Pick Rate ที่สูงเป็นอันดับ 2 คู้กับ Shadow Demon อันดับ 3 Gyrocopter (40 Pick 27.78% of game) Core Hero ที่มีความสามารถในการนเดินเกมและฟาร์มที่สูงมากด้วยสกิลที่ยิ่งทุกเป้าในแอเรียและดาเมจสกิลที่รุนแรงทำให้ Hero ตัวนี้ถูกหยิบมาเล่นบ่อยเป็นอันดับ 3 จังหวะบุกเน้นเดินเกมก็สามารถเล่นได้จังหวะเสียเปรียบจำเป็นต้องฟาร์มก็ทำได้อย่างรวดเร็วมาก อันดับ 4 Tiny (39 Pick 27.08% of game) Tiny เป็น Hero ที่นิยมเล่นในตำแหน่ง Pos 2 ในปัจจุบันเพราะเป็นตัวที่มีความสามารถในการไปช่วยหรือไล่ฆ่าที่สูง จากสกิล Toss และยังมี Avalanche ที่สตั่นเป็นวงกว่างได้ รวมถึงความเร็วในการวิ่งที่สูงและยังมีความสามารถในการดันป้อมที่สูงมากจากสกิลต้นไม้ทำให้ Tiny เองก็ถูกหยิบมาเล่นบ่อยมากเป็นอันดับ 4 อันดับ 5 Leshrac (36 Pick 25% of game) สุดยอด Hero ที่มีค่าโจมตีเวทหมู่หนักที่สุดในเกม บวกกับความเร็วในการวิ่งที่ทำให้สามารถไปช่วยเลนอื่นได้อีกด้วยและความสามารถในการดันป่อมจากสกิล Diabolic Edict ทั้งยังเป็น Hero ที่สามารถสตั๊นหมู่ได้อีกด้วยทำให้ถูกหยิบมาเล่นเป็นอันดับต้นๆของลีคนี้เลย Hero ที่ถูกแบนบ่อยที่สุดในรอบ Group Stage อันดับ 1 ร่วม Alchemist (99 Ban 68.75% of game) สุดยอด Hero ที่มีความสามารถในการฟาร์มที่สูงสุดในเกมความน่ากลัวก็อยู่ตรงที่ความสามารถในการออก Aghanim ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้และด้วยความเร็วในการฟาร์มจะทำให้สร้างความได้เปรียบในการที่มากขึ้นตามไปกด้วยนั้นเอง อันดับ 1 ร่วม Enchantress (99 Ban 68.75% of game) Hero Offlane ที่สตรองที่สุดในเกมตัวหนึ่งตอนนี้ เพราะสกิล Untouchable ที่ทำแทบไมู่กโจมตีเลยและสกิล Natures Attendants ที่ทำให้ตัวเองและเพื่อนรอบๆตัว Heal อยู่ตลอดเวลาทำให้ตายยากขึ้นไปอีกและพอมีเลเวลถึง 6 ก็จะสามารถทำดาเมจได้อย่างหนักมากด้วยทำให้ตัวนี้ถูกแบนบ่อยๆ อันดับ 2 Enchantress (74 Ban 51.39% of game) Hero ที่เล่นได้แทบทุก Pos ในเกมและด้วยระยะสตั๊นที่ไกลมากๆ บวกกับความสามารถในการหนีที่เก่งอันดับต้นๆของเกมและสกิลอันติเมทที่ทำให้ทั้งทีมหายตัวได้เป็นสกิลที่สร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมากทั้งจังหวะเข้าหรือถอยไม่แปลกเลยที่ Mirana จะถูกแบนบ่อย อันดับ 3 Shadow Demon(65 Ban 45.14% of game) นอกจากโดนหยิบบ่อยแล้วยังโดนแบนเป็นประจำด้วยอย่างที่กล่าวไว้ข่างต้น ด้วยความสามารถในการทำดาเมจที่สูงมากในช่วงต้นเกมและสามารถเซฟเพื่อนหรือตัวเองได้ทำให้เป็นตัวที่น่ารำคาญมากๆเลยมักจะถูกแบนไปด้วยเช่นกัน อันดับ 4 Chen (62 Ban 43.06% of game) Hero ที่สามารถฮีลเพื่อนทั้งทีมได้ไม่จำกัดระยะทางและยังมีความสามารถในการควบคุมครีปป่าได้ถึง 4 Unit ทำให้เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่กดเลนได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังสามารถดันบ้านได้รวดเร็วมากจาก Unit 4 ตัวที่ออกมาจากป่า ทำให้ถูกแบนบ่อยๆเช่นกัน อันดับ 5 Kunkka (60 Ban 41.67% of game) Hero Midlane ที่แทบไม่แพ้ตัวไหนเลยในเกมทั้งความสามารถในการโจมตีหมู่ที่สูงและความสามารถในการไปช่วยเลนอื่นๆได้แทบตลอดเวลาด้วย ยังมีอันติเมทที่ทำดาเมจเป็นวงกว่าง สตั๊น และทำให้ทีมเราโดนดาเมจเบาลงอีก ไม่แปลกเลยที่จะโดนแบนบ่อยๆ สรุป Hero ส่วนใหญ่ที่ถูกหยิบหรือถูกแบนนั้นมักจะเป็นตัวที่สตรองมากๆจนหาทางแก้ลำบาก ตัวที่สตรองมากๆในแพทช์ หรือเป็นตัวที่เก่งมากๆในจังหวะทีมไฟต์ เพราะในการเล่นของระดับ Pro Player แล้วเลิกพูดถึงเรื่องฝีมือไปได้เลยถ้าตัวที่หยิบมาเล่นไม่ได้แพ้ทางตัวอีกฝ่ายแบบสุดๆจะเป็นเรื่องของจังหวะทีมไฟต์มากกว่าที่เป็นตัวตัดสินผลแพ้ชนะนั้นเอง    

จัดมาให้แล้วจ้า เปรียบเทียบฮีโร่สายเดียวกันจาก 3 เกมดัง Underlords, Auto Chess และ Chess Rush ในบทความนี้เราเริ่มจากสาย Mech ทั้งหลายเช่น สายซ่า, ก็อบลิน, จักรกล มีตัวไหนเหมือนหรือต่างกันขนาดไหนไปดูกันเลย! Timbersaw, Ripper, Smasher Techies, Devastator, The Ultimate Weapon Bounty Hunter, Soul Breaker, Cyborg Blademaster Clockwerk, Sky Breaker, Steel Fist Alchemist, Venomancer ติดตามข่าวสาร, ไกดเกม, บทความ และรีวิวได้ที่ Facebook : GameFever TH YouTube : GameFever TH กลับสู่หน้าหลัก : GameFever TH  

เกม DOTA Underlords อาจดูเหมือนเป็นเกมที่เน้นการพึ่งฮีโร่เก่งๆ ดาเมจแรงๆ เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ทว่าเอาเข้าจริงแล้วตัวเกมกลับต้องอาศัยการวางแผนพอสมควร เพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อรูปเกม ทั้งจำนวนยูนิต ฮีโร่ที่เลือกใช้ เอฟเฟกต์ของประเภทฮีโร่ หรือแม้แต่กระทั่งเรื่องเงิน ดังนั้น GameFever จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับระบบของเกมและสิ่งที่ผู้เล่นมือใหม่ควรรู้ก่อนเริ่มลุยศึก 1.ทำความเข้าใจการคำนวณดาเมจของเกม DOTA Underlords เป็นเกมที่เราและผู้เล่นอีก 7 คน (รวมแล้วมีผู้เล่น 8 คน) แข่งขันกันด้วยการวางฮีโร่บนกระดานหมากรุก แล้วให้ฮีโร่ฟาดฟันกัน ใครกำจัดฮีโร่บนกระดานของอีกฝั่งหมดก่อน หรือเหลือฮีโร่จำนวนมากกว่าบนกระดาน จะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ โดยจะแข่งกันเป็นรอบๆ ไป ในแต่ละรอบ หากใครแพ้จะถูกลงโทษด้วยการหัก HP (เริ่มเกมมาผู้เล่นจะมีอยู่เท่ากัน ก็คือ 100 หน่วย) ใครเหลือ 0 ก่อนจะ Game Over ทันที วิธีการคำนวณดาเมจของเกม คือ เกมจะนับจำนวนดาวของฮีโร่ทีมที่เราแพ้ แล้วหักเป็นดาเมจ ยิงเข้า HP ของเรา ตัวอย่างเช่น ฮีโร่บนกระดานของเราถูกกำจัดไปจนหมด แล้วยังเหลือฮีโร่ของฝั่งตรงข้ามอยู่บนกระดานเรา ได้แก่ ทัสก์ (2 ดาว) และ แอนติเมจ (1 ดาว) เราจะโดนดาเมจยิงเข้า HP ทั้งหมด 2+1 = 3 แต้ม หมายความว่ายิ่งถ้าเราแพ้ขาดมากเท่าไหร่ เราก็จะโดนดาเมจเข้า HP มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ในทุกๆ รอบเราจะโดนยิงดาเมจเพิ่มเป็นจำนวนดังนี้ รอบที่ 0 - 9 โดนยิงดาเมจเพิ่ม 0 รอบที่ 10 - 19 โดนยิงดาเมจเพิ่ม 1 รอบที่ 20 - 29 โดนยิงดาเมจเพิ่ม 2 รอบที่ 30 - 39 โดนยิงดาเมจเพิ่ม 3 ตัวอย่าง: แพ้และมีฮีโร่ศัตรูเหลือบนกระดานทั้งหมด 5 ตัว รวมแล้วได้ 9 ดาว เป็น ดาเมจ - 9 และลดเพิ่มอีก - 1 จากการที่แพ้ในรอบที่ 13 (ตามกฎด้านบน)   2.จัดทีมโดยคำนึงถึงพลังผสาน ฮีโร่ใน DOTA Underlords แต่ละตัวจะมีพลังผสานติดตัวอยู่ ซึ่งจะเป็นทั้งเผ่าและประเภทของฮีโร่ มีทั้งหมด 23 แบบ โดยพลังผสานแต่ละแบบจะมีเอฟเฟกต์ของออร่าแตกต่างกันไป หากเรามีจำนวนฮีโร่ที่มีพลังผสานนั้นๆ ครบตามที่กำหนด จะได้รับผลของออร่าหรือบัฟพิเศษซึ่งจะเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ทีมของเรา ในการจัดทีมฮีโร่ เราควรจัดโดยการคำนึงถึงเอฟเฟกต์ออร่าที่เราจะได้จากการมีฮีโร่ประเภทเดียวกัน หลายๆ ตัวในทีม ซึ่งเอฟเฟกต์ก็มีหลายรูปแบบ ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของเราและสถานการณ์มากที่สุด ตัวอย่างพลังผสาน:   3.อัพเกรดตัวละครเป็นเรื่องสำคัญ การอัพเกรดตัวละครให้ขึ้น 2 ดาวสำคัญมากในเกม โดยฮีโร่ที่มี 2 ดาว จะยิงแรงขึ้น สเตตัสสูงขึ้น อีกเท่าตัว และยังเป็นการช่วยประหยัดพื้นที่ลงยูนิตบนกระดาน ทำให้สามารถเลือกยูนิตตัวอื่นๆ ที่มีพลังผสานเหมือนกันมาลงได้มากขึ้นเพื่อรับออร่า นอกจากนี้การที่เรามีฮีโร่ที่มีดาวสูงๆ หลายตัว จะช่วยทำให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่แพ้ทีมของเรา โดนดาเมจเข้า HP ของผู้เล่นแรงขึ้น เนื่องจากพื้นฐานการคำนวณดาเมจจะคำนวณจาก จำนวนดาวของฮีโร่ที่เหลืออยู่บนกระดาน รวมกับดาเมจประจำรอบของเกม ทั้งนี้การอัพเกรดตัวละครทำได้โดยการที่เรามีฮีโร่ตัวเดียวกัน และระดับเดียวกันอยู่บนกระดาน 3 ตัว เช่น เรามีฮีโร่ที่ชื่อทัสก์ 1 ดาว อยู่บนกระดาน 3 ตัว เกมจะอัพเกรดทัสก์ของเรา ให้กลายเป็น ทักส์ (2 ดาว) ทัสก์ (1 ดาว) + ทัสก์ (1 ดาว) + ทัสก์ (1 ดาว) = ทัสก์ (2 ดาว) ทัสก์ (2 ดาว) + ทัสก์ (2 ดาว) + ทัสก์ (2 ดาว) = ทัสก์ (3 ดาว) โดยระดับสูงสุดของฮีโร่ในเกมนี้คือ 3 ดาว แต่ว่าการที่เราจะเก็บได้ฮีโร่ 3 ดาวก็ทำได้ค่อนข้างยากอยู่พอสมควร เพราะว่าฮีโร่ในเกมมีค่อนข้างเยอะ ต้องอาศัยจังหวะและการบริหารเงินที่จะกด Reroll (สุ่มตัวละครใหม่) ให้เจอฮีโร่ที่เราต้องการ   4.เงินคือคีย์หลัก ในเกมที่ต้องใช้การวางแผน เรื่องเงินเป็นเรื่องที่เราจะมองข้ามไม่ได้ ซึ่งระบบเงินในเกมนี้ค่อนข้างจะซับซ้อนและเอื้อประโยชน์ให้แก่คนที่เก็บเงินได้มากกว่า เพราะว่ามี "ดอกเบี้ย" คล้ายกับดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคาร ทำให้ยิ่งเราถือเงินไว้เยอะเท่าไหร่ ก็จะได้เงินเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น พอเอาดอกเบี้ยที่ว่าไปรวมกับเงินที่ได้ในแต่ละรอบแล้ว จะทำให้เรามีเงินเยอะกว่าชาวบ้านเขา เอาไว้อัพเลเวล และซื้อตัวละครช่วงท้ายกลางเกม-ท้ายเกมได้แบบไม่ลำบาก ตัวอย่างการบริหารเงิน:   5.ไอเทมกับการเดินเกม ไอเทม เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับฮีโร่ที่เป็นตัวคีย์หลักของทีมได้ ซึ่งไอเทมจะดรอปก็ต่อเมื่อเราสามารถเอาชนะครีปของเกมได้ (ครีปจะออกมาในรอบที่ 1,2,3 และ ทุกๆ รอบที่ 5 และ 10) โดยเมื่อจบรอบ เกมจะให้เราเลือกไอเทม 1 ชิ้นนั่นเอง เมื่อเราได้ไอเทมมาแล้ว เราสามารถเลือกใส่ไอเทมให้กับฮีโร่ตัวใดก็ได้ 1 ตัว ฮีโร่แต่ละตัวจะสามารถสวมใส่ไอเทมได้เพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งหากเราเปลี่ยนใจ อยากเปลี่ยนไอเทม หรืออยากเอาไอเทมนี้ไปใส่ให้ฮีโร่ที่เหมาะสมกว่าก็สามารถทำได้ นอกจากไอเทมที่เป็นชิ้นๆ แล้ว บัฟ ในเกมนี้ก็ถือว่าจัดอยู่ในประเภทไอเทมเช่นกัน หากเราไม่อยากใส่ไอเทม ตอนที่เลือกไอเทมหลังจบเทิร์นที่สู้กับครีปป่าก็สามารถเลือกบัฟมาแทนได้ โดยบัฟก็จะมีหลายหลายประเภท เช่น บัฟที่เพิ่มเงินให้ 1 โกลด์เมื่อแพ้ รวมไปถึงบัฟที่ให้เอฟเฟกต์พิเศษกับเผ่าใดเผ่าหนึ่งในเกม ข้อควรระวัง: เราควรดูว่าเหมาะกับฮีโร่ที่เรามีอยู่หรือไม่ เช่น ไม่ควรเลือกบัฟเผ่าที่เราไม่มี หรือไม่ได้เล่นมา และควรใส่ไอเทมให้เหมาะกับฮีโร่ เช่น ไม่ควรใส่ไอเทมเพิ่มมานาให้กับฮีโร่ที่ไม่มีมานา เป็นต้น ข้อแตกต่างระหว่าง DOTA Underlords และ Auto Chess  ไอเทมเกมนี้ได้ทุกรอบที่สู้กับครีป การันตีว่าจะได้ชัวร์ 100% (Auto Chess จะสุ่มเอาจากการเจอครีป) สามารถโยกย้ายไอเทมได้ ไม่ต้องขายฮีโร่ ฮีโร่ 1 ตัวสามารถใส่ไอเทมได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น (ใน Auto Chess ใส่ได้ 6 ชิ้นพร้อมกัน   แนะนำเพิ่มเติม - การแพ้ก็ไม่ได้แย่เสมอไป การแพ้ในเกมอาจฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่แย่ เพราะว่าจุดประสงค์หลักของการเล่นเกมก็เพื่อที่จะคว้าชัยชนะ แต่ว่าในเกมนี้ เราสามารถแพ้ได้ และการแพ้ก็เป็นเรื่องที่ดีในช่วงต้นเกม เพราะเป็นช่วงที่เราสามารถลองผิดลองถูกได้แบบไม่เสีย HP ในเกมมากนัก นอกจากนี้การแพ้ติดๆ กัน จะทำให้ได้เงินพิเศษที่เรียกว่า "แพ้ต่อเนื่อง" หรือ "ชนะต่อเนื่อง" เป็นโบนัสเพิ่มให้ จบไปแล้วกับไกด์เบื้องต้นของ DOTA Underlords เพื่อนๆ คิดเห็นยังไง อยากได้ไกด์ไหนเพิ่มเติมก็สามารถบอกเราได้ด้วยการพิมพ์คอมเมนต์ที่ด้านล่างเลย!

Fnatic ทีมแข่ง DOTA 2 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่ง SEA ตั้งต้นในการแข่งขันเมเจอร์ที่ 3 ของปี อย่าง DreamLeague Season 11 มาได้ค่อนข้างดี ในรอบแบ่งกลุ่มสามารถครองอันดับที่ 2 ของกลุ่ม B ขึ้นสู่สายบนของการแข่งขัน ซึ่งเส้นทางก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อรอบแรกของการแข่ง Playoffs ต้องเจอกับ Virtus.pro ทีมอันดับที่ 2 ของโลก ซึ่ง 7 แมตช์ล่าสุดที่คู่นี้แข่งกัน สถิติคือ Fnatic แพ้รวดทั้ง 7 นัด หลังจากเว้นวรรคการแข่งขันมาถึง 5 วันเต็ม Fnatic ก็ได้ขึ้นเวทีแข่งอีกครั้ง โดยเจอกับ Keen Gaming ทีมจีนฝีมือร้ายกาจที่สามารถคว่ำ Evil Geniuses มาได้ [caption id="attachment_20686" align="alignnone" width="1024"] เครดิต | Liquidpedia[/caption] ในช่วง 15 นาทีแรกของเกม ทั้ง Fnatic และ Keen Gaming ต่างก็สู้กันอย่างสูสี แต่หลังจากนั้น ทีมของกัปตัน Jabz เริ่มเป็นฝ่ายไล่หวดและเก็บป้อมไปได้ แถม 3ice ยังล่อซื้อ คาบศัตรูมาให้เพื่อนกิน ต่อจากนั้นก็ไปเก็บ Roshan ล่า Aegis ฟาร์มครีปป่าฝั่งตรงข้ามแล้วเก็บป้อมไปได้เรื่อยๆ ฝั่ง Fnatic ดันขึ้นบ้าน Keen ด้านทีมจีนก็สวนกลับ กะจะคิล Fnatic เป็นการเอาคืนแต่ว่าก็โดน Winter Wyvern ของ Jabz ใช้อัลติเมตขัดจังหวะ ช่วยเพื่อนเอาไว้ได้ แล้วดันบ้านต่อ ในที่สุด Keen รับการบุกต่อไปไม่ไหวเมื่อป้อมเทียร์ 3 แตกหมดทุกทาง แถมยังโดนไล่ฆ่าเรื่อยๆ ตัดสินใจกด GG ไปแก้ตัวใหม่ในเกมต่อไป จบเกมที่นาที 29 Fnatic มีแต้มคิลนำ 25 - 8 เงินนำ 14K ช่วง 15 นาทีแรกของเกม 2 ต้องบอกเลยว่าเกมดุเดือดมาก มีทีมไฟต์กันแทบจะตลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าแต้มจะสูสี เพราะว่า Fnatic เป็นฝ่ายเปิดตัวไปได้ก่อนด้วยแต้มคิล 12 - 2 หลังจากนั้นไม่นาน Keen ตัดสินใจรวมพลแล้วไล่เก็บไปทีละเลนๆ ค่อยๆ เอาชนะได้ จนตีตื้นขึ้นมา พอเริ่มชนะเลน ก็เริ่มชนะทีมไฟต์ ในนาทีที่ 27 มีแต้มพุ่งขึ้นมา 16-19 แถม Keen ยังมีเงินนำอยู่ประมาณ 1K ดีใจได้อยู่แค่แปปเดียว Keen เห็น Fnatic กำลังเก็บ Roshan เลยรีบสโมค แล้วกะไปตุ๋ย แต่ดันแพ้ไฟต์จนโดน Fnatic ไล่หวดกลับมา ตายไปรัวๆ 4 คน ส่งผลให้ทางทีมกัปตัน Jabz เป็นฝ่ายได้เปรียบในเรื่องของสิ่งก่อสร้าง โดยในขณะที่ป้อมเทียร์ 2 ของ Keen หายหมดทุกทาง ป้อมของทีม SEA ยังเหลืออยู่เกือบครบ จะหายไปก็มีแค่ป้อมเทียร์ 1 ในเลนบนเลนเดียวเท่านั้น แถมเงินก็กลับมานำ เรียกได้ว่า Keen เริ่มเข้าตาจนอีกครั้ง ในนาทีที่ 41 ทาง Fnatic เก็บ Roshan ไปได้อีกรอบ ตัดสินใจจบเกม บุกขึ้นบ้าน ชนะไฟต์ เก็บบาร์แร็ค แม้ Keen จะทุ่มกันบ้านสุดตัวแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อผู้เล่นคนที่ 3 ของทีมจีนตายแล้วไม่มี Buyback กลับมา ก็ตัดสินใจยอมแพ้ กด GG ทำให้ Fnatic การันตีตำแหน่ง Top 3 ของทัวร์นาเมนต์ไปแล้ว GG @Fnatic! They advance to play again @ViCi in the Upper Bracket Finals!#DreamLeagueMajor pic.twitter.com/gYoYpZBYlV — DreamHack Dota (@DreamHackDota) 22 มีนาคม 2562 รอบต่อไป Fnatic จะเข้าไปเจอกับ Vici Gaming เพื่อชิงว่าใครจะได้เข้าไปรอในรอบ Grand Finals หากแพ้จะลงไปเล่นในสายล่างเพื่อลุ้นเข้ามาเล่นรอบชิงอีกรอบ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ที่แน่ๆ ตอนนี้ Fnatic กลายเป็นทีมอันดับที่ 4 ของโลก มีแต้ม DPC อย่างน้อย 3450 แต้ม เกณฑ์คะแนนที่จะได้สล็อตเข้าแข่ง TI9 คือ 4271 คะแนน เรียกได้ว่าฝันที่จะได้เข้าไปเล่น TI 9 อยู่แค่เอื้อมเท่านั้น  

Evil Geniusesมีฉายาว่าเป็นราชันย์อันดับ 3 ที่ไม่ว่าจะไปแข่งรายการไหนๆ ก็มักจะได้อันดับที่ 3 ตลอด ไม่ว่าจะเป็นอันดับที่ 3 ของ TI 8, อันดับที่ 3 ของ The Kuala Lumpur Major หรือ อันดับที่ 3 ของ The Chongqing Major ก็ล้วนตกเป็นของ EG แม้จะไม่เคยได้ครองแชมป์ของการแข่งขัน แต่ว่าการที่เป็นทีมอันดับ 3 ของหลายๆ การแข่งขันก็ทำให้ EG ได้มีแต้ม DPC เพียงพอในการการรันตีว่าจะได้เข้าร่วมการแข่ง The International 2019 งานแข่งอีสปอร์ตที่ใหญ่ที่สุดของเกม DOTA 2โดยตอนนี้ EG มีแต้มอยู่ที่ 4650 แต้ม (เกณฑ์ใช้ 4591 แต้ม) ทำให้ทีมปีศาจเป็นทีมที่มีแต้มสูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกอยู่ในขณะนี้ (อันดับ 3 อีกแล้ว) แต้มที่ช่วยมาเติมก็ไม่ได้มาจากไหนไกล แต่เป็นแต้มที่การันตีว่าจะได้จากการแข่ง DreamLeague Season 11 การแข่งเมเจอร์ที่ 3 ของปีซึ่งกำลังดำเนินอยู่ใน ณ ขณะนี้ โดยเมื่อวาน EG ได้คว่ำ Chaos Esport Club ไป 2-1 เกม เข้าไปแข่งเอาชีวิตรอดต่อโดยจะเจอกับ Virtus.pro ทีมอันดับที่ 2 ของโลกในสายล่าง เพื่อนๆ คนไหนเป็นแฟนทีมนี้ก็สามารถเข้าไปร่วมส่งแรงเชียร์ได้ตอน 22.30 น. Even with such low health @arteezy goes in to help win game 1! ? https://t.co/sl3BSJGveF #DreamLeagueMajor pic.twitter.com/fuvKXKM3Cv — DreamHack Dota (@DreamHackDota) 19 มีนาคม 2562

การแข่งขันระดับ Major ที่สามของเกม DOTA 2 กำลังจะเริ่มปะทุในวันที่ 14 มีนาคมนี้แล้ว โดยทัวร์นาเมนต์ DreamLeague Season 11 จะเป็นการเก็บแต้ม DPC ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมที่จะได้เข้าไปเล่นใน TI 9 มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 16 ทีม ถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้ Its almost time! 2 days until CORSAIR DreamLeague Major starts and you get to see these handsome Swedes play on their home turf! ??#DreamLeagueMajor pic.twitter.com/QF8JkUbFU6 — DreamHack Dota (@DreamHackDota) 12 มีนาคม 2562 กลุ่ม A Team Secret Team Liquid J.Storm Keen Gaming กลุ่ม B PSG.LGD Fnatic Ninjas in Pyjamas Infamous กลุ่ม C Virtus.pro EHOME Mineski Forward Gaming กลุ่ม D Evil Geniuses Vici Gaming Chaos Esports Club Natus Vincere ทีมที่น่าสนใจของกลุ่ม A คงหนีไม่พ้น Team Secret ที่มีคะแนน DPC นำโด่งอยู่เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ได้สิทธิ์เข้าแข่ง TI 9 แน่ๆ แบบไม่ต้องง้อใคร เรียกได้ว่าการแข่งครั้งนี้มาแข่งเพื่อเก็บชัยชนะและเงินรางวัลเท่านั้น ส่วนอีกทีมคือทีมของเพื่อนรัก กัปตัน KuroKy จาก Team Liquid อดีตแชมป์ TI 7 ที่แม้จะยังทำผลงานได้ไม่ดุเดือดมาก แต่ว่าก็มองข้ามไปไม่ได้ . กลุ่ม B ก็มีทีมของผู้เล่นไทย กัปตัน Jabz จากทีม Fnatic และเทพจีน PSG.LGD รองแชมป์ TI 8 ที่จะมาโชว์ฝีไม้ลายมือให้พวกเราได้ดูกัน ด้านกลุ่ม C มี Virtus.pro พี่หมีเดือด ตำแหน่งอันดับ 2 ของโลก ถือเป็นทีมที่ตั้งแต่เปิดซีซันกันแข่งขันมาก็ทำผลงานได้ดีแบบน่าจดจำมาตลอด ได้ที่หนึ่งในการแข่ง The Kaula Lumpur Major และได้อันดับ 2 ของ The Chongqing Major ผลัดกันแพ้ชนะกับ Team Secret . ส่วนกลุ่ม D มี Evil Geniuses และ Vici Gaming ที่เพิ่งได้แชมป์ StarLadder ImbaTV Dota 2 Minor จนสามารถทะลุมาแข่ง Major นี้ได้ เรียกได้ว่ามีแต่ทีมที่น่าจับตามองทั้งนั้น . ทั้งนี้การแข่งขัน DreamLeague Season 11 จะแข่งตั้งแต่วันที่ 14 - 24 มีนาคม โดยในรอบแบ่งกลุ่มจะเป็นการตัดสินว่าใครจะได้ไปอยู่สายไหน หากได้อันดับที่ 1 - 2 จะเข้าไปแข่งสายบน ส่วนสองอันดับล่างของกลุ่มจะเด้งลงไปอยู่สายล่าง จากนั้นจะแข่งกันแบบ Double Elimination เฟ้นหาแชมป์ที่จะได้แต้ม DPC 4,950 แต้มและเงินรางวัล 350,000 USD หรือกว่า 11 ล้านบาทไปครอง

OG แชมป์ TI 8 ประกาศปล่อยตัว Igor iLTW Filatov ผู้เล่นที่ถูกยืมตัวมาเพื่อเสริมทัพหลังจากสมาชิกทีมคนสำคัญอย่าง Ana อำลาวงการไปทำตามความฝัน โดยสาเหตุที่ทีมแยกทางกับ iLTW ในครั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่ได้ผลลัพธ์ของการแข่งขันตามที่คาดหวังเอาไว้นั่นเอง อาจไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้แฟนทีมประหลาดใจ ในเมื่อตั้งแต่เปิดซีซั่นการแข่งขันเก็บแต้ม DPC 2018-2019 มา OG ยังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบลึกๆ ของการแข่งขัน ไม่เคยได้แชมป์ Minor และไม่ได้เข้าไปเล่นในการแข่งขันระดับ Major เพราะว่าไม่ผ่านรอบคัดเลือก ถือว่าเป็นจุดต่ำของทีมที่ได้ชื่อว่าเป็นราชันย์ของการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของอีสปอร์ต ล่าสุดใน StarLadder ImbaTV Dota 2 ทีม OG จบอยู่แค่ที่อันดับ 6 จากทั้งหมด 8 ทีมเท่านั้น "ผมอยากของคุณ OG สำหรับโอกาสที่พวกเขามอบให้ผมในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก และผมเองก็ได้เรียนรู้มาเยอะเหมือนกัน ขอบคุณ Johan, Seb, Jesse และ Topias สำหรับการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี" iLTW กล่าว แม้จะยังไม่มีประกาศจากทีมอย่างเป็นทางการว่าใครจะได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม แต่คาดว่าเราน่าจะได้ทราบกันภายใน 2 - 3 วันนี้ ด้านแฟนทีมบางคนสันนิษฐานว่าอาจได้เห็น Anathan Ana Pham ผู้เล่นฟอร์มเด็ดหวนกลับมาลงสนาม หลังจากประกาศพักจากวงการแข่งขันไปเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว

ทีมอีสปอร์ตจีน Vici Gaming ถูกมองว่าเป็นทีมรองที่ไม่ค่อยน่าสนใจตั้งแต่มีการแข่งขันเปิดซีซั่นมา นั่นรวมไปถึงการแข่งขันระดับไมเนอร์ อย่าง StarLadder ImbaTV Dota 2 Minor ที่เพิ่งแข่งขันจบไปด้วยเช่นกัน แต่ว่าตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ VG ก็ขึ้นเป็นที่หนึ่งของกลุ่ม B แบบไร้พ่าย คว่ำ Demolition Boys และ Gambit Esports ที่มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์การแข่ง ESL One Katowice 2019 ไปได้ จนได้เข้าไปเล่นในรอบ Playoffs สายบน รอบแรกของการแข่ง Playoffs เขาต้องเจอกับ Old but Gold ทีมสุดเก๋าที่เขี่ย OG แชมป์ TI 8 ตกรอบ กลับบ้านไปแบบไม่ให้โอกาสเข้ามาแข่งในรอบลึกๆ ซะด้วยซ้ำ โดย VG เก็บไปได้หมดทั้ง 2 เกม ในรอบชิงชนะเลิศ VG ต้องหวนกลับมาเจอกับ Gambit Esports ที่เคยวัดกันไปตอนแบ่งกลุ่มไปแล้ว งานนี้จัดไป 3 - 0 เกม แถมสองเกมแรกหวดป้อมจนเอาชนะได้ตั้งแต่นาทีที่ 25 .@ViCi_Gaming take the first game of the grand final!#dota2 #sldota2 #KievMinor #SLIMinor pic.twitter.com/VeEqGUXwxy — StarLadder Dota 2 (@dotasltv) 10 มีนาคม 2562 ชัยชนะครั้งนี้ให้ทาง Vici Gaming ได้แต้ม DPC ไป 120 แต้ม เงินรางวัลอีก 125,000 USD (ประมาณเกือบ 4 ล้าน) และยังได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน DreamLeague Season 11 ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับเมเจอร์ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 - 24 มีนาคมนี้ด้วย ทั้งนี้ Vici Gaming มีแต้ม DPC รวมทั้งหมด 1020 แต้ม อยู่อันดับที่ 7 ของโลก หากยังรักษาระดับเอาไว้ได้ก็จะมีสิทธิ์เข้าแข่ง The International 2019 ในขณะที่แชมป์ปีที่แล้วอย่าง OG มีคะแนน 48 แต้ม และอยู่ที่อันดับ 27 ของโลก

หลังจากการแข่งขันเก็บแต้ม DPC ประจำปี 2018 - 2019 ของเกม DOTA 2 ผ่านไปเกือบจะครึ่งทางแล้ว งานนี้ทาง Valve ก็มีเรื่องมาเซอร์ไพรซ์แฟนเกม ด้วยการจัดเมเจอร์ MDL DOTA 2 Major ที่ดินแดนในฝันของใครหลายคนอย่าง Disneyland Paris การแข่งขันเมเจอร์ที่ 4 ของปีนี้ จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 - 12 พฤษภาคม จะมีทีมเข้าแข่งทั้งหมด 16 ทีมมาร่วมชิงแต้ม DPC กว่า 1,500 แต้ม พร้อมกับเงินรางวัลอีก 1,000,000 USD (ประมาณ 31.8 ล้านบาท) ถือเป็นครั้งแรกที่ DOTA 2 จะจัดแข่งในเมืองหลวงของฝรั่งเศส บ้านเกิดของ Sebastian “7ckngMad” Debs โค้ชที่ผันตัวมาเป็นผู้เล่นให้กับทีม OG แชมป์ The International 2018 https://www.youtube.com/watch?v=w_yL-rttTyQ ทั้งนี้การแข่งขันระดับเมเจอร์ที่จัดไปแล้วได้แก่ The Kuala Lumpur Major และ The Chongqing Major ใครที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันครั้งต่อไปก็เตรียมตัวไว้ให้ดี เพราะเมเจอร์ที่ 3 อย่าง DreamLeague Season 11 กำลังจะเริ่มแข่งขันในวันที่ 14 มี.ค. ที่จะถึงนี้แล้ว   เรื่องที่คุณอาจสนใจ: ส่องแต้ม DPC – ทีม DOTA 2 ทีมไหน อยู่อันดับที่เท่าไหร่ของโลก?

ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อ Vavle ปล่อยแพทช์ใหม่ของเกม DOTA 2 ก่อนการแข่งขันระดับไมเนอร์ อย่าง StarLadder ImbaTV Dota 2 Minor ที่เก็บแต้ม DPC แม้ว่าเมื่อเทียบกับแพทช์ที่ถูกปล่อยออกมาในเดือนก่อนหน้า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแพทช์ 7.21c เหมือนแทบจะไม่สำคัญอะไร แต่เอาเข้าจริงแล้วเหมือนว่าจุดประสงค์ของการอัพเดทครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนเมต้าของฮีโร่ต่างๆ ก่อนการแข่งไมเนอร์และเมเจอร์ที่จะตามมาg Viper ฮีโร่ตัวเก่งที่ทำให้ Team Secret กุมชัยชนะในการแข่ง ESL One Katowice มาได้ โดนเนิร์ฟไป ลดค่า Agilityจาก 3.3 เป็น 2.8 แถมสกิลที่สำคัญช่วงเลทเกม อย่าง Nethertoxin ก็ถูกเพิ่มการใช้มานาจาก 75 เป็น 70/80/90/100 แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้คนเลิกเล่นเจ้า Viper ไปเลย แต่ว่าก็ต้องอาศัยการวางแผนและเล่นเกมรัดกุมขึ้น ด้านฮีโร่สุดพลิ้วอย่าง Monkey King จะไม่สามารถใช้สกิล Mischief หนีออกมาได้อีกแล้ว เพราะว่าเมื่อกดใช้สกิลจะทำให้ Immune อยู่แปปนึง แต่จะไม่เป็นอมตะ ส่วน Ursa ก็โดนความเร็วในการเคลื่อนที่ลงไป 5 หน่วย ส่วนฮีโร่ที่เราอาจได้เห็นคนหยิบขึ้นมาเล่นอีกรอบอาจจะเป็น Alchemist ที่ได้บัฟ โดยสกิลแรก Acid Spray มีระยะการโจมตีไกลขึ้นจาก 400/475/550/625 เป็น 475/525/575/625 ทำให้สามารถยืนเลนได้ง่ายขึ้น ฮีโร่ที่โดนเนิร์ฟหนักๆ เลยก็คือ Kunkka ที่สกิล Tidebringer จะไม่ให้โบนัสตอนที่ Deny ครีปแล้ว ทำให้ไม่ค่อยได้เปรียบต่อการเล่นทั้งในตำแหน่ง Mid และ Offlane นอกจากนี้ยังทำให้เล่นได้ในสถานการณ์ที่น้อยลงและเฉพาะเจาะจงไปอีก ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงในแพทช์ 7.21c จะเริ่มมาเห็นผลก็ตอนแข่ง ImbaTV Dota 2 Minor ที่จะแข่งขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 - 10 มี.ค. แล้วจะเห็นกันชัดขึ้นไปอีกตอนที่มีแข่ง DreamLeague Season 11 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 14 มี.ค. นี้

หลังที่แชมป์ The International 2018 อย่าง OG ได้หายหน้าหายตาไปจากการแข่งขันใหญ่ๆ ระดับเมเจอร์ เพราะว่าไม่ผ่านการคัดเลือก แถมพอไปแข่งทัวร์นาเมนต์ไมเนอร์ก็ไม่ชนะ จนพักหลังมาไม่ได้ฟาดกับทีมใหญ่ๆ ที่เคยแข่งกันใน TI 8 เลย แต่วันนี้ เราจะได้เห็น OG ในงัดกับ Team Secret ในการแข่งขัน ESL One Katowice 2019 นอกจาก Team Secret ดีกรีแชมป์ The Chongqing Major แล้ว ยังมีทีมระดับท็อปๆ อีกหลายทีมเข้าแข่ง เพื่อชิงเงินรางวัลรวม 300,000 USD (ประมาณ 9 ล้านกว่าบาท) โดยจะแข่งกันตั้งแต่วันที่ 19 - 21 ก.พ. มีทีมที่ร่วมชิงชัยทั้งสิ้นกว่า 12 ทีม ซึ่ง 8 ทีมมาจากการเชิญ อีก 4 ทีมมาจากการคัดเลือกของแต่ละภูมิภาค แม้จะไม่ใช่การแข่งขันที่เก็บแต้ม DPC ทว่าการแข่งขันครั้งนี้ก็มีเหล่าทีมดังเข้าแข่ง เป็นโอกาสของ OG ที่จะได้เล่นให้แฟนๆ ได้ชมกัน การปะทะกับทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในทัวร์นาเมนต์อาจช่วยฉุดฟอร์มของแชมป์ TI 8 กลับมาได้บ้างเพราะตั้งแต่เปิดซีซันเก็บแต้ม DPC ที่เฟ้นหาสุดยอดทีมเข้าแข่ง TI 9 มา OG แทบไม่มีแต้มเก็บเลย อยู่อันดับที่ 26 ของตาราง มีแต้มเก็บเพียงแค่ 24 แต้มเท่านั้น ในขณะที่ Team Secret มีแต้มถึง 7950 เป็นอันดับหนึ่งของตาราง และยังได้รับการการันตีว่ายังไงก็ได้เข้าแข่งใน TI 9 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ OG และ Team Secret จะเริ่มแข่งขันกันในเวลา 18.00 น. สามารถรับชมได้ ที่นี่ ส่องแต้ม DPC – ทีม DOTA 2 ทีมไหน อยู่อันดับที่เท่าไหร่ของโลก?   ESL One Katowice 2019 (DOTA 2) รายชื่อทีมทั้งหมดที่เข้าแข่งขัน Team Secret (ทีมรับเชิญ) Ninjas in Pyjamas (ทีมรับเชิญ) OG (ทีมรับเชิญ) Chaos Esports Club (ทีมรับเชิญ) Fnatic (ทีมรับเชิญ) Alliance (ทีมรับเชิญ) Team Aster (ทีมรับเชิญ) Forward Gaming (ทีมรับเชิญ) Gambit Esports (ตัวแทนจาก EU) compLexity Gaming (ตัวแทนจาก NA) For The Dream (ตัวแทนจาก CN) Mineski (ตัวแทนจาก SEA)   รูปแบบการแข่ง รอบ Group Stage แข่งกันตั้งแต่วันที่ 19 - 21 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มมี 6 ทีม แข่งกันแบบ Best Of 2 (เก็บคะแนน) ทีมที่ได้อันดับที่ดีที่สุด 2 ทีมแรกของแต่ละกลุ่มจะได้เข้าไปอยู่ใน Upper Bracket ในรอบ Playoffs ทีมที่ได้อันดับที่ 3 - 4 ของกลุ่ม จะลงไปเล่นใน Lower Bracket รอบ Playoffs 2 ทีมสุดท้ายของแต่ละกลุ่มจะโดนกำจัดออกจากการแข่งขัน รอบ Playoffs จะเริ่มแข่งวันที่ 22 - 24 และจะเปิดให้แฟนเกมเข้าชม แข่งกันในระบบ Double Elimination คือมีการแบ่ง Upper Bracket กับ Lower Bracket รอบ Grand Finals จะแข่งกันแบบ Best of 5 รอบอื่นๆ จะแข่งกันแบบ Best of 3

หลังจากที่มีการอัพเดตแพทช์ 7.20 ไป แฟนเกมก็แซวว่า DOTA 2 กลายเป็น DOTA 3 ไปแล้ว ล่าสุดทาง Valve ก็ได้อัพแพทช์ใหม่ 7.21 อีกรอบ เรามาดูรายละเอียดของแพทช์กันดีกว่าว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปมากแค่ไหน   การเปลี่ยนแปลงทั่วไป ครีป Melee ให้เงินน้อยลง 3 โกลด์ ครีป Range อัพเกรดให้เงินแต่ละ Cycle มากขึ้นจาก +3 ไป +6 แทนที่ครีปป่า Ancient ด้วยครีปแคมป์ใหญ่ (ตัวฟาร์มจะฟาร์มได้ช้าลง) ฮีโร่จะไม่ได้สถานะพิเศษ 25% จากค่าสถานะพื้นฐานของตัวเองแล้ว(ส่งผลต่อทั้งไอเทมและฮีโร่) เช่น แพทช์เก่าฮีโร่สาย Agi จะ Speed เพิ่มขึ้น ฮีโร่ในสายต่างๆ จะได้ค่าสถานะพื้นฐานของสายตัวเองเพิ่มมากขึ้น 15% จำนวนเลือดต่อค่า Stregth เพิ่มขึ้นจาก 18 เป็น 20 XP ที่ใช้ในการอัพเลเวลจาก Lv.7 > Lv.12 เปลี่ยนจาก 640/660/680/800/820/840 เป็น 720/750/780/810/840/870 (ใช้ XP ต่างจากเดิม +80/90/100/10/20/30) ฮีโร่ Melee ต่อไปนี้จะได้รับค่า movement speed +5 ได้แก่ Naga Siren, Underlord, Monkey King, Nyx Assassin, Bloodseeker และ Riki ฮีโร่ Melee ต่อไปนี้จะได้รับค่า movement speed + 10 ได้แก่ Alchemist, Dragon Knight และ Meepo ฮีโร่ Melee ต่อไปนี้จะได้รับค่า movement speed + 15 ได้แก่ Legion Commander, Lifestealer, Lycan, Sven, Ursa และ Wraith King ฮีโร่ Ranged ตัวไหนที่มีค่า movement speed เกิน 295 จะถูกลด movement speed -5 เกราะของป้อม Tier 2 เพิ่มขึ้นจาก 14 เป็น 15 เกราะของป้อม Tier 3 เพิ่มขึ้นจาก 14 เป็น 16 เกราะของ Melee Barracks เพิ่มขึ้นจาก 13 เป็น 15 ค่าโบนัสเกราะที่ยูนิตจะได้รับจากการอยู่ใกล้กับ Tower Tier 2/3/4 จะลดลงจาก 3 เป็น 4   ITEMS Animal Courier เพิ่มความเร็วในการบินจาก 460 เป็น 470 Aeon Disk เพิ่ม status resistance จาก 50% เป็น 75% ราคาส่วนผสมลดลงจาก 1350 เป็น 1250 Battle Fury (โดนเนิร์ฟหนักมาก) เปอร์เซ็นต์ของโบนัสดาเมจที่ทำต่อยูนิตที่ไม่ใช่ฮีโร่เปลี่ยนไปแบบ fixed แบบ Quelling Blade (ฟาร์มครีปป่าได้ช้าลง - ตีครีปได้แรงน้อยลง เหมาะกับฮีโร่ที่ตีแรงอยู่แล้ว) Bloodstone Bloodpact เปลี่ยนจาก 60% ของมานาที่มีอยู่ปัจจุบัน เป็น 30% ของค่ามานาสูงสุด (Max Mana) Bloodthorn Cooldown ลดลงจาก 18 เปฺ็น 15 Boots of Travel เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Lv.2 จาก +32% เป็น +35% Buckler ลดระยะเวลาที่กดบวกเกราะให้กับฮีโร่ฝ่ายเดียวกันจาก 25 เป็น 15 Crimson Guard ราคาส่วนผสมแพงขึ้น จาก 600 เป็น 750 Drum of Endurance ความสามารถ Passive เปลี่ยนจาก ฮีโร่ฝ่ายเดียวกันได้ออร่าเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 6% เป็นเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้กับตนเอง +20 แทน Ethereal Blade ทำให้ฮีโร่ฝั่งตรงข้ามติดตัวเขียนนานขึ้นจาก 3 เป็น 4 (ระยะเวลาเท่ากับการใช้ไอเทมใส่ฮีโร่ฝั่งเดียวกัน) Euls Scepter of Divinity โบนัสของความเร็วในการเคลื่อนที่เปลี่ยนจาก +6% เป็น +20 (ไม่ได้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว) Holy Locket ใช้ Energy Booster แทนการใช้ Void Stone (มานา +325) Iron Branch  ระยะปักต้นไม้ไกลขึ้นจาก 200 เป็น 400 Manta Style โบนัส Movement Speed ลดลงจาก +25 เป็น +20 Mask of Madness Lifesteal (ดูดเลือด) เพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 20% Mekansm Stack เยอะเท่าไหร่ Cooldown ก็นานเท่านั้น Meteor Hammer รัศมีเพิ่มขึ้นจาก 300 เป็น 315 Necronomicon เพิ่มดาเมจของ Last Will จาก 500/675/800 เป็น 600/700/800 Nullifier ระยะเวลาเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 6 Phase Boots เปลี่ยนส่วนผสมจากเดิมที่ใช้ Gloves of Haste เป็น Blades of Attack โบนัสเกราะเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 6 เพิ่มดาเมจสำหรับฮีโร่ melee +18 และ range +12 แทนการเพิ่ม attack Speed +20 เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้แก่ฮีโร่ Melee จาก 20% เป็น 22% Power Treads เปลี่ยนส่วนผสมจากเดิมที่ใช้ Blades of Attack เป็น Gloves of Haste ลดค่าสเตตัสพื้นฐานลงจาก 14 เหลือ 10 เพิ่ม attack speed +20 แทนการเพิ่มดาเมจ +12 Sange and Yasha โบนัสการเคลื่อนที่ลดลงจาก +35 เหลือ +30 Solar Crest โบนัสการเคลื่อนที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเพิ่ม +6% เป็น +20 (แบบไม่ใช่เปอร์เซ็นต์) Spirit Vessel ดาเมจที่คิดจากค่าเลือดเพิ่มขึ้นจาก 4.5% เป็น 5% โบนัสการเคลื่อนที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเพิ่ม +6% เป็น +20 (แบบไม่ใช่เปอร์เซ็นต์) Tranquil Boots movement speed แบบ Active เพิ่มขึ้นจาก 24% เป็น 26% movement speed แบบไม่ Active (ถ้าเราโดนโจมตี) ลดลงจาก 20% เป็น 18% Vladmirs Offering ไม่ใช้ Headdress เป็นส่วนผสมและไม่ให้ค่า hp regen/stats ราคาส่วนผสมเป็น 525 โกลด์ Wind Lace โบนัสการเคลื่อนที่เปลี่ยนไปจากที่เคยเพิ่ม +6% เป็น +20 (แบบไม่ใช่เปอร์เซ็นต์) Yasha  โบนัส Movement Speed ลดลงจาก +25 เป็น +20 Yasha and Kaya โบนัส Movement Speed ลดลงจาก +35 เป็น +30   HEROES Abaddon ระยะเวลาของสกิล Curse of Avenrnus cyrse เพิ่มขึ้นจาก 4 เป็น 4.5 Alchemist ความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐานเพิ่มขึ้นอีก 10 ค่า Agility เริ่มต้นเพิ่มจาก 16 เป็น 22 ระยะเวลาของสกิล Chemical Rage เปลี่ยนจาก 1.3/1.5/1.0 เป็น 1.2/1.1/1.0 Talent เลเวล 10: ลด Cooldown สกิล Unstable Concoction จาก -8s เหลือ -7s Talent เลเวล 20:  Concoction จะบวกดาเมจขึ้นสูงสุด แทนขึ้นต่ำสุด Ancient Apparition เพิ่มดาเมจของสกิล Chilling Touch จาก 50/85/120/155 เป็น 50/90/130/170 ลดการใช้มานาของสกิล Ice Vortex จาก 65/80/95/100 เป็น 50/70/90/110 Talent เลเวล 25: ลดระยะของสกิลแบบ AOE ของ Cold Feet จาก 900 เป็น 700 Talent เลเวล 25: เพิ่มเงื่อนไขเลือดของการใช้สกิล Ice Blast จาก 4% เป็น 5% Anti-Mage แก้บัคเวลาใช้ Conterspell แล้วได้ Magic Resistance Arc Warden ดาเมจของสกิล Spark Wraith เพิ่มขึ้นจาก 100/160/220/280 เป็น 100/170/240/310 ระยะเวลาของสกิล Tempest Double เพิ่มขึ้นจาก 14/16/18 เป็น 16/18/20 Telent เลเวล 10: เพิ่ม Attack Speed จาก +25 เป็น +30 Bane สกิล Enfeeble ลดความเร็วของ Attack Speed จาก 40/60/80/100 เป็น 50/75/100/125 สกิล Enfeeble ลดการใช้มานาจาก 70/90/110/130 เป็น 50/75/100/125 ระยะเวลาการใช้สกิล Fiends Grip เพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 6 Talent เลเวล 10: เพิ่มเกราะจาก +6 เป็น +7 Batrider สกิล Firefly เพิ่มโบนัสของ Movement speed เป็น 4/7/10/13% ลดระยะเวลาของสกิล Firefly จาก 18 เป็น 15 ลด Cooldown สกิล Firefly จาก 40 เป็น 34 Beastmaster ลด Attack Speed ของสกิล Inner Beast จาก 15/25/35/45 เป็น 10/20/30/40 Hawk เลือดลดลงจาก 300/450/600/750 เป็น 150/200/250/300 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการเพิ่มดาเมจของ Boar +40 เป็นเพิ่มดาเมจของ Wild Axes +65 Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจากเพิ่มดาเมจของ Wild Axes +80 เป็น Boar +50 Talent เลเวล 25: เพิ่ม Cooldown ของ Hawks จาก -15s เป็น -20s Talent เลเวล 25: ลด Attack Speed ของ Inner Beast จาก +30 เป็น +25 Bloodseeker ความเร็วในการเคลื่อนที่แบบพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 5 Bounty Hunter ลด Cooldown ของสกิล Shuriken Toss จาก 10 เป็น 9 การขโมยตังค์ของสกิล Jinada เพิ่มขึ้นจาก 12/18/24/30 เป็น 12/20/28/36 สกิล Track ตี Critical แรงขึ้นจาก 140/160/180% เป็น 140/170/200% Brewmaster ลดความแรงของการติด Critical สกิล Drunken Brawler จาก 170/200/230/260% เป็น 140/180/220/260% ระยะเวลาของสกิล Cinder Brew ลดลงจาก 7 เป็น 5 วินาที สกิล Cinder Brew จะถูกรีเฟรชเมื่อจุดไฟ หากจุดไฟดาเมจของสกิล Cinder Brew จะเพิ่มขึ้นจาก 20/25/30/35 เป็น 20/30/40/50 Talent เลเวล 10: ลดดาเมจจาก +20 เป็น +15 Bristleback ลดการใช้มานานของสกิล Viscous Nasal Goo จาก 25 เป็น 12/16/20/24 Broodmother Talent เลเวล 10: เพิ่มดาเมจของสกิล Spawn Spiderlings จาก +75 เป็น +125 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการได้ XP +35% เป็นเพิ่ม Agility +15 Talent เลเวล 20: เพิ่มดาเมจของ Spiders จาก +20 เป็น +30 Talent เลเวล 25: เพิ่มเลือดของ Spiders จาก +350 เป็น +450 Centaur Warrunner สกิล Retaliate จะไม่ได้ชาร์จตอนกดใช้สกิลแล้ว Chaos Knight สกิล Chaos Strike ลด Cooldown ลงจาก 7/6/5/4 เป็น 4 ลดการดูเลือดของสกิล Chaos Strike จาก 50/55/60/65% เป็น 40/50/60/70% เพิ่มดาเมจสูงสุดของสกิล Chaos Strike จาก 160/190/220/250% เป็น 160/195/230/265% เพิ่มระยะเวลา Slow ของสกิล Reality Rift จาก 2 เป็น 3 ลดการ slow ของสกิล Reality Rift จาก 15/25/35/45% เป็น 10/20/30/40% Chen ลดโบนัสดาเมจของสกิล Divine Favor จาก 10/20/40/80 เป็น 12/24/36/48 สกิล Divine Favor จะเพิ่มโบนัสดาเมจเป็นสองเท่า หากใช้กับยูนิตที่ไม่ใช่ฮีโร่ ระยะเวลาของสกิล Divine Favor เพิ่มขึ้นจาก 12 เป็น 14 ลดการใช้มานาของสกิล Divine Favor จาก 110 เป็น 70/80/90/100 เพิ่มความแรงของการฮีลจากสกิน Hand of God จาก 250/400/550 เป็น 300/450/600 Talent เลเวล 15: ลด Cooldown สกิล Divine Favor จาก -10s เหลือ -7s Talent เลเวล 25: ลดความแรงของการฮีลจากกิล Hand of God จาก +400 เป็น +350 Talent เลเวล 25: เพิ่มยูนิตของสกิล Holy Persuasion จาก +4 เป็น +5 Clinkz Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจาก +20% Evasion เป็น +15 Strength Clockwerk เอาระยะการร่ายก่อนใช้สกิล Battery Assault ออก ลดการใช้มานาของสกิล Rocket Flare ลงจาก 50 เป็น 35/40/45/50 Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจาก +20% Magic Resistance (ต้านเวทย์) เป็นได้ True Sight จากสกิล Rocket Flare แทน Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจากการได้ True Sight จากสกิล Rocket Flare เป็น +50% Magic Resistance Crystal Maiden หากใช้สกิล Freezing Field จะบวกโบนัสเกราะเพิ่มอีก 10 ระหว่างการ Channeling เมื่อใช้สกิล Arcane Aura การรีมานาจะลดลง 1.2/1.7/2.2/27 เป็น 1/1.5/2/2.5 เมื่อใช้สกิล Arcane Aura เพิ่มการรีมานาของฮีโร่เรา จาก 2.4/4.4/6.4/8.4 เป็น 2.5/4.5/6.5/8.5 Dark Willow ลดการใช้มานาของสกิล Bramble Maze จาก 140/150/160/170 เป็น 100/120/140/160 ลด Cooldown ของสกิล Bramble Maze จาก 34/31/28/25 เป็น 25 Dazzle ลดการใช้มานาของสกิล Poison Touch จาก 95/110/125/140 เป็น 110/120/130/140 ลดระยะความไกลในการร่ายของสกิล Shadow Wave จาก 900 เป็น 800 Death Prophet เพิ่มดาเมจพื้นฐาน 3 Disruptor เพิ่มเกราะพื้นฐาน 1 Doom ลด Cooldown ของสกิล Scorched Earth ลงจาก 55/50/45/40 เป็น 50/45/40/35 เพิ่มการการรีเลือด เมื่อใช้สกิล Devour จาก 4/8/13/18 เป็น 3/8/13/18 Dragon Knight เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 10 เพิ่มการรีเลือดของสกิล Dragon Blood จาก 4/7/10/13 เป็น 4/8/12/16 Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจาก 2x Dragon Blood เป็น +25 Strength Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจาก +40 Strength เป็น 2x Dragon Blood Drow Ranger เปลี่ยนจาก +25 Attack Speed เป็น +10 Agility Earthshaker ลดมานาการใช้สกิล Fissure ลงจาก 125/140/155/170 เป้น 110/130/150/170 Earth Spirit ลดเดเมจของสกิล Rolling Boulder ลงจาก 100 เหลือ 70/80/90/100 ลดการ Slow ของสกิล Boulder Smash จาก 80% เป็น 60% Talent เลเวล 15: ลดดาเมจสกิล Rolling Boulder ลงจาก +200 เป็น +150 Elder Titan Talent เลเวล 10: ลด Movement Speed จาก +25 เป็น +20 Ember Spirit ลด Cooldown ของสกิล Sleight of Fist จาก 30/22/14/6 เป็น 18/14/10/6 เพิ่มค่าดาเมจพื้นฐาน 3 Enchantress ลด Cooldown สกิล Enchant จาก 55/40/25/10 เป็น 22/18/14/10 ลดระยะเวลาของครีปจากสกิล Enchant 50/60/70/80 เป็น 26/44/62/80 ลดการใช้มานาของสกิล Enchant จาก 65 เป็น 40/50/60/70 Enigma ลดการใช้มานาของสกิล Midnight Pulse จาก 75/95/115/135 เป็น 50/80/110/140 Faceless Void เพิ่มระยะ AoE ของสกิล Time Dilation จาก 725 เป็น 775 Talent เลเวล 10: บวกค่า Strength จาก +8 เป็น +10 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากเพิ่มเลือด +300 เป็นลด Cooldown สกิล Time Walk -1s Grimstroke ลดดาเมจของสกิล Phantoms Embrace จาก 120/200/280/360 เป็น 75/150/225/300 เพิ่มการใช้มานาของสกิล Ink Swell จาก 90/100/110/120 เป็น 120/130/140/150 ลด Movement Speed ของ Ink Swell จาก 18% เป็น 12/14/16/18% Gyrocopter เพิ่มค่า Strength พื้นฐานจาก 19 เป็น 22 Huskar Attack point สั้นลงจาก 0.4 เป็น 0.3 ตีได้ไวขึ้น ลด Max attack Speed ของสกิล Berserkers Blood จาก 220/260/300/340 เป็น 160/220/280/340 ดาเมจของสกิล Life Break ลดลงจาก 34/39/44% เป็น 32/38/44% Talent เลเวล15: ลดดาเมจของสกิล Burnung Spears จาก +15 เป็น +10 Invoker ดาเมจพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3 โบนัสดาเมจของสกิล Exort ลดลงจาก 4 - 28 เป็น 3 - 27 ต่อลูกแก้วลูกหนึ่ง Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจาก Tornado Lift Time +1.25s เป็นลด Cooldown ของสกิล Ghost Walk ลง -30s Io จะไม่มีฮีโร่ตัวนี้ให้เล่นในโหมดกัปตัน ชั่วคราว สกิล Tether จะยังเพิ่มเลือดและมานาให้เพื่อนแม้ Io จะมีเลือดและมานาเต็มอยู่ก็ตาม สกิล Overcharge เปลี่ยจากการใช้แบบเปิด-ปิด เป็นการกดใช้ที่มี Cooldown 18 วินาที สกิลอยู่ได้นาน 8 วินาที สกิล Overcharge จะใช้มานาในการร่าย 40/60/80/100 แทนการใช้เลือด 6% และคิดมานาเป็นวินาที สกิล Overcharge จะได้โบนัส Attack Speed เพิ่มขึ้นจาก 40/50/60/70 เป็น 50/80/110/140 ดาเมจของสกิล Overcharge เพิ่มขึ้นจาก 5/10/15/20% เป็น 15/20/25/30% เพิ่มดีเลย์ของสกิล Relocate จาก 2.7/2.35/2 เป็น 3.5/3.25/3 ลด Cooldowm ของสกิล Relocate จาก 130/110/90 เป็น 90/75/60 เปลี่ยนการใช้สกิล Relocate มาเป็น Cast Delay แทน จากเดิมที่เป็นการ Channeling (หากถูกขัดจังหวะ ใบ้ หรือติด ราก สกิลจะถูกยกเลิก แต่จะไม่เสีย Cooldown) Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจากการลด Cooldown ของสกิล Relocate -60s เป็น -30s Jariko Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจาก ได้ XP เพิ่ม +30% เป็นเพิ่มระยะการโจมจี +300 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการเพิ่มระยะการโจมตี +300 เป็น ได้ XP เพิ่ม 40% Juggernaut ลดค่าเกราะเริ่มต้น 1 หากใช้สกิล Omnislash จะไม่สามารถใช้ Teleport ได้อีกต่อไป ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของสกิล Healing Ward ลงจาก 420 เป็น 400 เพิ่ม Cooldown ของสกิล Omnislash จาก 130/120/110 เป็น 130 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการเพิ่มเวลา Blade Fury +1s เป็นการเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของสกิล Blade Fury +50 Keeper of the Light Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจากการเพิ่มความแรงในการดูดเลือดสกิล Spell Lifesteal 8% เป็นการได้ XP เพิ่ม 30% Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการได้ XP เพิ่ม +30% เป็น +1 Will-O-Wisp Health Count Kunkka Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจากการลด Cooldown สกิล Tidebringer -1.5s เป็น +60% กับสกิล Tidebringer Cleave Legion Commander เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่พื้นฐาน 15 Talent เลเวล 20: ลดความเร็วในการเคลื่อนที่จาก +40 เป็น +35 Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจากลด Cooldown สกิล Press The Attack -10s เป็นเพิ่มระยะของ AoE สกิล Press The Attack แทน Leshrac สกิล Diabolic Edict เพิ่มจาก 9/18/27/36 เป็น 11/22/33/44 Talent เลเวล 25: ลดการระเบิดของสกิล Diabolic Edict จาก +50 เป็น +40 Lich ลดการ slow ของสกิล Frost Shield จาก 35% เป็น 20/25/30/35% ลดดาเมจของสกิล Chain Frost ลงจาก 300/400/500 เป็น 250/375/500 Talent เลเวล 25: เพิ่มการ slow จาก +40% เป็น +50% Lifestealer เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 15 เพิ่มค่าเกราะ 2 Talent เลเวล 15: ลดความเร็วในการเคลื่อนที่จาก +30 เป็น +25 Lina ดาเมจพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3 Lion Talent เลเวล 10: เพิ่มระยะการร่ายจาก +75 เป็น +100 Talent เลเวล 15: เพิ่มความสามารถในการเร่งเงินจาก +120 โกลด์/นาที เป็น +150 Lone Druid เพิ่มความเร็วของ Spirit Bear จาก 340/355/370/385 เป็น 340/360/380/400 Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจาก 0.3 ของเวลาการโจมตี Spirit Bear เป็นสกิล Entangle ไม่มี Cooldown Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจากสกิล Erangle มี Cooldown 0 วินาทีเป็น -0.5s Spirit Bear Attack Time Luna Talent เลเวล 10: เพิ่มระยะการร่ายจาก +200 เป็น +300 Lycan เพิ่มความเร๋วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 15 เกราะของ Wolves ลดลงจาก 1 เหลือ 0 ค่า Magic Resistance ของ Wolves ลดลงจาก 80% เหลือ 70% เลือดของ Wolves เพิ่มขึ้นจาก 230/260/290/320 เป็น 300/350/400/450 การรีเลือดของ Howl เพิ่มขึ้นจาก 4/6/8/10 เป็น 4/8/12/16 Medusa แก้บัคที่งูของสกิล Mystic Snake จะชิ่งไปหาศัตรูที่ Immune Talent เลเวล 10: ลดดาเมจจาก +20 เป็น +15 Talent เลเวล 15: ลดการขโมยมานาของสกิล Mystic Snake จาก +35% เป็น 30% Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจากการเพิ่มมานา +700 เป็นลด Cooldown ของสกิล Mystic Snake -4 วินาที Talent เลเวล 25: เปลี่ยนจาก +7 เป้าหมายสกิล Split Shot เป็นเพิ่มค่ามานา +1000 Meepo เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 10 Mirana เพิ่มความเร็วของลูกธนูศักดิ์สิทธิ์จาก 857 เป็น 950 Monkey King เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 5 เปลี่ยนเรทโจมตีของสกิล Wukongs Command จาก 1.3 เป็น 1.2 Morphling ได้ค่า Strength จาก 2.3 เป็น 2.6 Talent เลเวล 15: เพิ่มระยะเวลาสกิล Morph จาก +15s เป็น +20s Naga Siren เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ขั้นพื้นฐาน 5 เพิ่มระยะเวลาของสกิล Mirror Image จาก 24 เป็น 25 ลดดาเมจที่ได้รับลงจาก 475/450/425/400% เป็น 400% Talent เลเวล 20: ลด Cooldown ของสกิล Ensnare จาก -5s เป็น -7s (ใช้สกิลได้เร็วขึ้น 2 วินาที) Natures Prophet ถ้าใช้ Tango กับกิ่งไม้ที่ปักเลือดจะรีไวขึ้น 2 เท่า Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจากการลด Cooldown สกิล Sprout -4s เป็น Cooldown ทั่วไปจะเร็วขึ้น 25% Necrophos เพิ่มดาเมจของสกิล Death Pulse จาก 100/140/180/220 เป็น 100/150/200/250 Talent เลเวล 15: เพิ่ม Slow ของสกิล Ghost Shroud จาก 20% เป็น 30% Night Stalker เพิ่มโบนัสความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Hunter in the Night จาก 20/25/30/35 เป็น 22/28/34/40% เอาคทาฟ้าออก อัลติเมท Dark Ascension ให้ Unobstructed Vision แทนที่จะทำให้มองได้เห็นในระยะ 900 เหมือนแพทช์ก่อน Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากระยะการร่าย +150 เป็นเพิ่มอัตรการดูดเลือด +15% Nyx Assassin เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 5 ได้ Strength เพิ่มขึ้นจาก 2.3 เป็น 2.5 Talent เลเวล 10: เพิ่ม GPM จาก +60 เป็น +90 Talent เลเวล 10: เพิ่ม Spell Amp จาก 6% เป็น 8% Ogre Magi ลด Cooldown สกิล Fireblast ลงจาก 12/11/10/9 เหลือ 11/10/9/8 โอกาสติดคูณ 2 ของสกิล Muticast เพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 70% Omniknight ลดการต้านสถานะของ Heavenly Grace จาก 50/60/70/80% เป็น 50% เพิ่มระยะเวลาของ Heavenly Grace จาก 8 เป็น 10 ได้โบนัส Strength เพิ่มขึ้นจากสกิล Heavenly Grace จำนวน 7/14/21/28 เพิ่มการใช้มานาของ Heavenly Grace จาก 75 เป็น 80/90/100/110 Outworld Devourer อัลติเมท Sanitys Eclipse เบาลง เพราะมีตัวคูณน้องลงจาก 9/10/11 เป็น 8/9/10 Talent เลเวล 15: ความเร็วในการเคลื่อนที่เปลี่ยนจาก +30 เป็น +25 Pangolier ค่าดาเมจพื้นฐานเพิ่มขึ้น 4 Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจากเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ +20 เป็น เพิ่มระยะของสกิล Swashbuckle Slash Range +300 Phantom Assassin ปรับ Talent ใหม่เกือบหมด Talent เลเวล 15: +25% Cleave (ตีกระจาย) VS +15% Lifesteal Talent เลเวล 20: +20% Blur Evasion VS ลดเกราะ -4 Talent เลเวล 25: +5% Coup de Grace VS Triple Strike Stifling Dagger Phantom Lancer Talent เลเวล 10: เพิ่มอัตรา Evation จาก +10% เป็น +15% Talent เลเวล 20: เพิ่มค่าจำกัดของ Max Juxtapose Illusion +4 เป็น +5 Phoenix ไม่สามารถใช้สกิล Sunray เพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเมื่อติดรากได้แล้ว Pudge ดาเมจพื้นฐานเพิ่มขึ้น 6 Queen of Pain ลดค่ามานาในการใช้สกิล Scream of Pain จาก 95/110/125/140 เป็น 80/100/120/140 เพิ่มดาเมจสกิล Shadow Strike มากขึ้นจาก 30/45/60/75 เป็น 30/50/70/90 Razor ลด Attack Backswing ลงจาก 0.7 เป็น 0.4 Talent เลเวล 10: เพิ่มเลือดจาก +200 เป็น +225 Riki เพิ่มค่าดาเมจพื้นฐาน 4 เพิ่มค่าความเร็วพื้นฐาน 5 เพิ่มตัวคูณสกิล Backstab จาก +0.2 เป็น +0.3 Rubick ระยะเวลาการยกของสกิล Telekinesis ลดลง 1/1.4/1.8/2.2 เป็น 0.8/1.2/1.6/2.0 Talent เลเวล 15: ลบดาเมจของสกิล Fade Bolt มากขึ้นจาก -45 เป็น -60 Sand King ดาเมจสกิล Burrowstrike เพิ่มขึ้นจาก 85/150/215/280 เป็น 100/160/220/280 ระยะ AoE ของสกิล Sand Storm เพิ่มขึ้นจาก 350/450/550/650 เป็น 425/500/575/650 Shadow Demon ลดการใช้มานาของสกิล Soul Catcher ลงจาก 110 เป็น 50/70/90/110 ลดการใช้มานาของสกิล Shadow Poison จาก 50 เป็น 35/40/45/50 Shadow Fiend การลดเกราะของสกิล Presence of The Dark Lord เพิ่มขึ้นจาก 3/4/5/6 เป็น 4/5/6/7 Shadow Shaman Talent เลเวล 20: ลดระยะเวลาของสกิล Shackles จาก +3s เป็น +2.5s Silencer ลด Cooldown สกิล Last Word จาก 28/22/16/10 เป็น 22/18/14/10 Talent เลเวล 10: เพิ่มเกราะจาก +5 เป็น +6 Skywrath Mage สกิล Mystic Flare จะทำดาเมจกับครีปหากไม่มีฮีโร่อยู่รอบๆ Slardar Talent เลเวล 25: ลดเวลาสตั๊นของสกิล Slithereen Crush จาก +1.5s เป็น +1.25s Slark สกิล Pounce จะไม่ทำดาเมจ 30/60/90/120 อีกต่อไปแล้ว Sniper สกิล Headshot จะมีผลผลักศัตรู 10 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการทำดาเมจของสกิล Shrapnel +35 เป็นเพิ่มการ slow จากสกิลเดียวกัน +15% Spectre เพิ่มค่า Str จาก 2.3 เป็น 2.5 เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ของสกิล Spectral Dagger จาก 8/12/16/20% เป็น 10/14/18/22% Talent เลเวล 20: ลดเปอร์เซ็นต์ของสกิล Spectral Dagger จาก +20% เป็น +18% Storm Spirit ลดการใช้มานาของสกิล Electric Vortex จาก 85 เป็น 60/70/80/90 Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจากการเพิ่มดาเมจ +20 เป็น เพิ่มดาเมจของสกิล Overload +30 Sven เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐาน 15 สกิล Warcry เปลี่ยนเลือดของโล่จาก 110/220/330/440 เป็น 80/110/140/170 + 1/1.5/2/2.5 คูณกับค่า Str ที่เรามี สกิล Storm Hammer เพิ่ม Cooldown จาก 13 เป็น 16/15/14/13 ดาเมจของสกิล Storm Hammer ลดลงจาก 100/175/250/325 เป็น 80/160/240/320 Techies ลดการใช้มานาของสกิล Remote Mines จาก 200/240/300 เป็น 120/180/240 Templar Assassin สกิล Meld จะลดเกราะก่อนแล้วค่าคิดดาเมจ แก้ไขสกิล Meld ที่โบนัสดาเมจได้มาจากการเพิ่มความแรงของเวทย์ Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจากสกิล Psionic Traps +3 เป็น +15% Evasion Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากเพิ่มเกราะ +7 เป็นเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ +25 Terroblade ลดค่า Str จาก 16+1.7 เป็น 15+1.5 Tidehunter สกิล Anchor Smash ลดดาเมจของศัตรูลดลง จาก -45/50/55/60 เป็น -30/40/50/60% Timbersaw โบนัสเกราะของสกิล Reactive Armor ลดลงจาก 1.3/1.4/1.5/1.6 เป็น 1/1.1/1.2/1.3 โบนัสอัตราการฟื้นฟูเลือดของสกิล Reactive Armor ลดลงจาก 1/1.2/1.4/1.6 เป็น 1/1.1/1.2/1.3 เพิ่มการ Stack สูงสุดของสกิล Reactive Armor จาก 5/10/15/20 เป็น 6/12/18/24 เพิ่มโบนัสดาเมจต้นไม้ของสกิล Whirling Death จาก 10/15/20/25 เป็น 12/18/24/30 Talent เลเวล 20: เพิ่มการลด Cooldown จาก +10% เป็น 15% Tiny ความกว้าง AoE ของสกิล Avalanche ลดลงจาก 400 เป็น 325/350/375/400 Cooldown ของสกิล Avalanche เพิ่มขึ้นจาก 23/20/17/14 เป็น 26/22/18/14 Talent เลเวล 15: ลดดาเมจของสกิล Avalanche ลงจาก +125 เป็น +100 Talent เลเวล 15: เพิ่มเลือดจาก +350 เป็น +400 Treant Protector เพิ่มการบล็อคดาเมจของสกิล Living Armor จาก 20/40/60/80 เป็น 25/50/75/100 สกิล Scepter ตอนนี้ทำให้สกิล Overgrowth ทำดาเมจได้แล้วเหมือนกัน นอกเหนือจาก Enchanted Trees ระยะเวลาของสกิล Overgrowth เพิ่มขึ้นจาก 3/3.75/4.5 เป็น 3.25/4/4.75 Talent เลเวล 20: เพิ่มดาเมจและฮีลของสกิล Leech Seed จาก +40 เป็น +50 Troll Warlord Talent เลเวล 15: เพิ่มดาเมจของสกิล Whirling Axes จาก +75 เป็น +90 Talent เลเวล 20: เพิ่มการ Evasion จาก +20% เป็น +25% Tusk ระยะเวลาการ slow ของสกิล Tag Team ลดลงจาก 0.5 เป็น 0.4 เพิ่มการใช้มานาของสกิล Tag Team จาก 40/50/60/70 เป็น 70 เพิ่ม Cooldown ของสกิล Tag Team จาก 15 เป็น 24/21/18/15 Underlord เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ 5 Undying Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจาก Tombstone On Death เป็นเพิ่มดาเมจ +30 ให้กับสกิล Tombstone Zombie แทน Talent เลเวล 20: เปลี่ยนจากดาเมจ +30 ของสกิล Tombstone เป็น Tombstone On Death Ursa เพิ่มความเร็วพื้นฐานในการเคลื่อนที่ 15 ลดดาเมจของสกิล Fury Swipes จาก 10/16/22/28 เป็น 7/14/21/28 Vengeful Spirit Talent เลเวล 20: ลด Cooldown ของสกิล Magic Missle จาก -5s เป็น -6s Venomancer เพิ่ม Str จาก 1.9 เป็น 2.1 Viper ความกว้าง AoE ของสกิล Nethertoxin เพิ่มขึ้นจาก 350 เป็น 380 ดาเมจของสกิล Nethertoxin เพิ่มขึ้นจาก 20/35/50/65 เป็น 30/45/60/75 Visage Talent เลเวล 10: ลดความไกลในการร่ายสกิลจาก +125 เป็น +100 Talent เลเวล 20: ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของสกิล Familiars จาก +60 เป็น +50 Talent เลเวล 20: เพิ่มความแรงดาเมจต่อชาร์จของสกิล Soul Assumption จาก +15 เป็น +20 Warlock เพิ่มค่า Str 2 เพิ่มความแรงของสกิล Chaotic Offering จาก 75/125/175 เป็น 100/150/200 Golem ตีเร็วขึ้นจาก 0.74 เป็น 0.57 Weaver Talent เลเวล 10: เปลี่ยนจากการเพิ่ม Str +7 เป็นเพิ่มดาเมจของสกิล Shukuchi +75 Talent เลเวล 15: เปลี่ยนจากการเพิ่มดาเมจสกิล Shukichi +75 เป็นเพิ่ม Str +14 Windranger Talent เลเวล 15: ระยะการโจมตีเพิ่มขึ้นจาก +100 เป็น +125 Talent เลเวล 15: ดาเมจของสกิล Powershot เพิ่มขึ้นจาก +100 เป็น +125 Winter Wyvern เพิ่มการรีเลือดของสกิล Cold Embrace จาก 15 เป็น 14/18/22/26 ลดการใช้มานาของสกิล Cold Embrace จาก 75 เป็น 50/60/70/80 Witch Doctor ลด Cooldown สกิล Maledict เปลี่ยนจาก 50/40/30/20 เป็น 30/26/22/18 Talent เลเวล 10: เพิ่มเกราะจาก +5 เป็น +6 Wraith King เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 15 Zeus สกิล Static Field จะไม่ช็อตตัวอื่นแล้ว แต่จะช็อตตัวที่โดนสกิลโดยตรงแทน   ทั้งนี้หากส่องดูจากอัพเดตแล้วก็อาจจะพอเดาๆ ได้ว่าตัวไหนจะมีคนเล่นมากขึ้น ทว่าถ้าจะให้เดาเมต้าเลยก็น่าจะต้องรอดูซักพัก ว่าจะเปลี่ยนเกมไปได้มากแค่ไหน ถ้ามีอะไรคืบหน้าเราจะมาอัพเดตให้เพื่อนๆ รู้กันอย่างแน่นอน

หลังจากจบการแข่งขัน The International 2018 ทางผู้พัฒนาเกม DOTA 2 อย่าง Valve ก็ได้เปลี่ยนกฎการนับแต้ม Dota Pro Circuit (DPC) ที่เป็นเกณฑ์ตัดสินว่าทีมไหนจะได้เข้าไปแข่งในทัวร์นาเมนต์อีสปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแบบพลิกโฉมไปเลย ไม่เหมือนปีก่อนๆ ที่แจกให้กับผู้เล่นแล้ววัดแต้มของทีมจากการเอา DPC ที่มากที่สุดของผู้เล่นแต่ละคนในทีมมารวมกัน เพื่อป้องกันปัญหาเหมือนเหมือนดราม่า EG และ OG ที่การเปลี่ยนผู้เล่นที่มีแต้มมาก ทำให้ทีมอดไปแข่ง ต้องไปผ่านการคัดเลือกแบบเลือดตาแทบกระเด็นแทน ครั้งนี้แต้มจะถูกแจกให้กับทีม ระหว่างซีซันแข่ง 2018-2019 หากทีมไหนที่เปลี่ยนผู้เล่นจะโดนหักแต้มของ DPC ที่ได้มา ถือว่าเป็นบทลงโทษที่โหดหินเอาการ GameFever จะมาอัพเดตให้ดูกันว่า ตอนนี้ทีมไหนอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ แล้วใกล้กับความฝันในการไปแข่ง DOTA 2 ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแล้วหรือยัง   โฉมหน้า Top 12 ทีมหลังจบ The Chongqing Major ตารางข้างล่างเป็นตาราง Ranking ของแต้ม DPC ที่ประกอบไปด้วยทีมที่อยู่ 12 อันดับแรก หากจบการแข่งเมเจอร์และไมเนอร์ทั้งหมด 12 ทีมนี้ยังรักษาที่มั่นเอาไว้ได้ก็มีสิทธิเข้าไปแข่ง TI ในฐานะทีมรับเชิญ ส่วนตารางช่องสุดท้าย คือคะแนนที่แต่ละทีมยังขาด (เกณฑ์ตอนนี้คือต้องมีอย่างน้อย 5,125 แต้ม) No. ทีม แต้ม อีกไกลมั้ย? 1 7950 3000 - 4950 + 2825 2 7950 4950 -  3000 + 2825 3 4200 2100 - 2100 - 925 4 2250 900 - 1350  - 2875 5 1420 1350 70 - - 3705 6 1350 450 - 900 - 3775 7 900 - 120 900 - 4225 8 900 450 - 450 - 4225 9 870 900 - 150 - 4255 10 270 150 - 150 - 4855 11 270 - - 270 - 4855 12 225 150 - 75 - 4900   Team Secret และ Virtus.pro ได้เข้าแข่ง TI9 ชัวร์! สองอันดับแรกของทีมที่มาแรงที่สุดคือ Team Secret และทีม Virtus.pro ที่โกยแต้มจากการที่ผลัดกันชนะทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ โดย VP เก็บ 4950 แต้มไปได้จากการเป็นที่หนึ่งใน The Kuala Lumpur Major ด้านทีมของกัปตัน Puppey ก็เพิ่งได้แชมป์จาก The Chongqing Major ที่เพิ่งจบไป ส่วนอีก 3000 แต้มของทั้งสองทีมก็มาจากการเป็นที่สองของทั้งสองเมเจอร์นั่นเอง เรียกได้ว่าการแข่ง 2 ครั้งที่ผ่านมา มีแค่ 2 ทีมนี้ที่เหมาเข้าไปชิงชัยกันเองในรอบ Grand Finals เก็บแต้มกันไปเพลินๆ การันตีว่ายังไงก็ได้เข้าไปแข่งใน The International 2019 แน่นอน #MondayMotivation pic.twitter.com/XKD4N2zSAE — Team Secret (@teamsecret) 28 มกราคม 2562 Both Majors of the season have brought us great results! We have guaranteed ourselves a slot in TI9, and now are heading off to prepare for the upcoming tournaments. Thank you for standing together with us during these exciting moments! ❤️ #GOGOVP #ChongqingMajor pic.twitter.com/Nbtn7MGmtX — Virtus.pro (@virtuspro) 27 มกราคม 2562 EG ราชันย์อันดับ 3 ด้าน Evil Geniuses ครองอันดับที่ 3 ในตารางแต้ม DPC สมกับฉายา King of Third หรือ ราชันย์อันดับสาม ที่ไม่ว่าจะไปแข่งงานไหนก็ล้วนแต่ได้อันดับที่ 3 ตลอดๆ ไม่ว่าจะเป็นอันดับที่ 3 ของ TI 8, อันดับที่ 3 ของ The Kuala Lumpur Major และอันดับที่ 3 ของ The Chongqing Major ด้วย 1 2 EG 4 5. — Sumail (@SumaaaaiL) 27 มกราคม 2562 แต่ถึงแม้จะไม่ได้ชนะเมเจอร์ไหนเลย ทว่าการได้อันดับที่ 3 ของเมเจอร์นั้นก็ไม่ใช่หมูๆ แถมยังได้แต้ม DPC เยอะมากอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า EG สามารถเก็บ 2100 แต้ม จากการเป็นที่ 3 ของทั้งสองเมเจอร์ไปได้ (รวมได้แต้ม 2100 x 2 = 4200) ทำให้ขาดคะแนนอีกแค่ 925 แต้ม ก็จะสามารถเข้าไปเล่นใน TI 9 ได้ ซึ่งยังเหลือการแข่งระดับเมเจอร์อีกถึง 3 ครั้ง แอบการันตีได้ว่ายังไงก็ผ่านไปเล่นใน TI 9 แน่นอน เพราะหากได้ที่ 3 อีกครั้งในการแข่งขันครั้งต่อไปก็จะมีแต้มเพียงพอแล้ว [caption id="attachment_18162" align="alignnone" width="1024"] Arteezy ผู้ไม่เคยได้อันดับ 1 หรือ 2 - Credit: Anomalina89[/caption]   ทีมที่เหลือเป็นยังไงกันบ้าง? แม้ว่าเริ่มต้นซีซันมา PSG.LGD จะยังไปไม่ถึงที่ 1 - 3 ของการแข่งเมเจอร์ไหนๆ เลย ทว่าทีมจีนดีกรีรองแชมป์ TI8 ก็ยังสามารถเกาะการแข่งเอาไว้ได้ กวาด 900 คะแนนจากการได้อันดับที่ 5 ของ KL Major และ 1350 จากการได้อันดับ 4 ของ CQ Major ขาดอีก 2875 คะแนน ด้านทีมของกัปตัน Jabz ผู้เล่นชาวไทยครองอันดับที่ 6 ในตารางได้แต้มจากการแข่งเมเจอร์ทั้ง 2 ครั้ง โดยใน The Chongqing Major ก็ทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจ โชว์ฟอร์มดุคว่ำทีมดีกรีแชมป์อย่าง Team Liquid ไปได้ จบอันดับที่ 5 - 6 ได้แต้มไป 900 คะแนน ตอนนี้ Team Liquid กำลังขาดคะแนนอย่างหนัก อยู่อันดับที่ 11 เนื่องจากไม่ได้เข้าร่วมการแข่งในเมเจอร์แรก แล้วใน CQ Major ก็ยังได้แค่อันดับ 7-8 เป็นผลมาจากการขาดผู้เล่นแครี่หลักอย่าง Miracle- รวมถึง shadow ผู้เล่นที่เอามาเติมแทนก็ยังสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ซึ่งส่งผลต่อการคอลไฟต์และกลยุทธ์อยู่ไม่น้อย แถมยังทำให้โดนหักแต้มไปอีก 20% ที่ไม่เห็นวี่แวว และยังไม่แม้แต่จะอยู่ในอันดับ 1-20 เลยก็คือแชมป์ TI 8 ทีม OG ที่ไม่ผ่านการแข่งคัดเลือกไปเมเจอร์ รวมถึงมีแต้มแค่ 40 คะแนนจากการได้อันดับที่ 5 - 6 ของ The Bucharest Minor ดูเหมือนว่าการขาด Ana สมาชิกที่เป็นอีกหนึ่งหัวใจของทีมจะส่งผลอย่างรุนแรงต่อฟอร์มการเล่น ต้องมาลุ้นว่าปีนี้ OG จะได้เข้าไปเล่นใน TI 9 หรือไม่ หากจบการแข่งขันเก็บคะแนน DPC แล้วยังไม่เห็นเงาของทีมแชมป์ ก็น่าจะต้องไปวัดดวงกันในรอบคัดเลือกที่ต้องแข่งแบบเลือดตาแทบกระเด็นแทน ที่สำคัญคือต้องรีบหาผู้เล่นใหม่ที่เล่นเข้าขากันมาให้ได้   กุญแจสำคัญของการได้แต้ม DPC ทางที่จะทำให้ได้แต้ม DPC ได้เร็วที่สุด คือการผ่านรอบคัดเลือก และได้เข้าร่วมการแข่งที่ใหญ่ระดับเมเจอร์ ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 ครั้งด้วยกัน แน่นอนว่าการแข่งไมเนอร์ก็อาจสำคัญสำหรับทีมที่ไม่สามารถผ่านการคัดเลือกไปแข่งเมเจอร์ได้ ทว่าการแข่งระดับไมเนอร์ให้คะแนนน้อยกว่ามากๆ อันดับที่ 1 ได้คะแนนเพียง 120 แต้ม ในขณะที่อันดับที่ 1 ของเมเจอร์ได้คะแนน 4950 แต้ม ทั้งนี้ก็ไม่ได้แปลว่าการแข่งขันระดับไมเนอร์จะไม่สำคัญซะทีเดียว เพราะหากสามารถเป็นแชมป์ได้ จะได้โอกาสเข้าแข่งเมเจอร์ ถือเป็นโอกาสแก้ตัวครั้งที่ 2 เหมือนอย่างที่ทีมจีนแบบ EHOME ทำสำเร็จ ชนะ The Bucharest Minor แล้วได้เข้ามาแข่งใน The Chongqing Major ซึ่งก็กวาดคะแนนไปได้ 900 แต้ม   งานนี้ต้องดูกันยาวๆ ว่าจะมีทีมไหนสามารถเปลี่ยนฟอร์มการเล่น แล้วเก็บแต้มจากการชนะทัวร์นาเมนต์ได้หรือเปล่า ทั้งนี้ยังเหลือการแข่งอีก 3 เมเจอร์ และ 3 ไมเนอร์ให้ได้แก้ตัวกันอยู่ โดยทัวร์นาเมนต์ที่แจกแต้ม DPC ครั้งหน้าได้แก่ StarLadder ImbaTV Invitational Season 6 การแข่งระดับไมเนอร์ที่จะเริ่มแข่งกันในวันที่ 4 - 10 มีนาคมนี้

จบไปแล้วกับการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ The Chongqing Major ของเกม DOTA 2 ในรอบชิงชนะเลิศเป็นการหวนกลับมาเจอกันระหว่าง Virtus.pro และ Team Secret ซึ่งเป็นสองทีมเดิมที่ได้เข้ารอบชิงของเมเจอร์ที่แล้วด้วย ถือเป็นนัดล้างตา ที่ Team Secret สามารถแก้แค้นคืนไปได้ จบเกมที่สกอร์ 3 - 1 เกม ในสองเกมแรกทาง Team Secret สามารถเอาชนะ ออกนำไปได้ก่อน เล่นเกมเร็ว จบเกมที่นาที 21 และ 17 (ซึ่งถือว่าเร็วมากๆ) พอมาเกมที่ 3 ทาง Virtus.pro สามารถเอาชนะ และต่อชะตาชีวิตตัวเองไปได้ จนต้องไปเล่นกันต่อในเกมที่ 4 ซึ่งก็โดนกดยับจบเกมไปได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 31 อย่างไม่มีทางสู้ เส้นทางแชมป์เมเจอร์ของ Team Secret ในครั้งนี้ก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลายเสียเท่าไหร่ แม้จะแข่งขันอยู่สายบนมาตลอด ทว่าก่อนหน้านัดชิงก็มาเจอกับทีมพี่หมี แล้วโดนตบร่วงลงไปยังสายล่าง ก่อนหน้านัดนี้ต้องรอไปเจอกับทีม Evil Genuises ซึ่งก็สามารถเอาชนะมาได้ ชัยชนะครั้งนี้จะทำให้ Team Secret ได้แต้ม DPC 4,950 แต้ม พร้อมกับเงินรางวัล 350,000 การันตีว่ายังไงก็ได้เข้าแข่ง The International 2019 แน่นอน โดยรวมแล้วได้คะแนนทั้งหมด 7,950 คะแนน เท่ากับ Virtus.pro ตามลงมาด้วย Evil Geniuses ที่มีอยู่ 4,200 คะแนน เป็นทีมที่ครองอันดับที่ 3 ของทั้ง The Kuala Lumpur Major และ The Chongqing Major นี้ด้วย ส่วนทีม Fnatic ตอนนี้อยู่อันดับที่ 6 ของโลก (อันดับที่ 1 - 12 จะได้เป็นทีมรับเชิญใน TI)

สำหรับเพื่อนๆ ที่ติดตามชม The Bucharest Minor ของเกม DOTA 2 มาตั้งแต่รอบ Group Stage อาจไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ เมื่อทีมจีนอย่าง EHOME ได้รับชัยชนะ ครองอันดับหนึ่งของการแข่งขันแบบไม่แพ้ใคร นอกจากจะกวาดเงินรางวัลและแต้ม DPC ไปแล้ว ยังได้ที่นั่งเข้าไปร่วมแข่งใน The Chongqing Major ทัวร์นาเมนต์เมเจอร์อีกด้วย ในการแข่งขันระดับไมเนอร์ครั้งที่ 2 ของการเก็บ DPC ซีซัน 2018-19 นี้ EHOME ทำทุกอย่างให้ดูเป็นเรื่องง่ายไปเสียหมด ก่อนจะมาถึงรอบ Grand Final เอาชนะไปได้ทั้งหมด 8-0 เกม ไม่แพ้ใครเลยแม้แต่แมทช์เดียว ด้านคู่แข่งในรอบชิงอย่าง Gambit ที่ถูก EHOME กวาดลงไปสายล่าง ต้องไปเจอกับทีมจีนอีกทีมหนึ่งอย่าง Keen Gaming หลังจากเล่นเกมแรกไป 71 นาที ก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จ ทำให้เข้ารอบไปแข่งรอบชิงชนะเลิศในฐานะตัวแทนสายล่าง ซึ่งต้องเจอกับ EHOME อีกรอบ โดยแข่งแบบ BO5 เว็บไซต์ DOT Esports รายงายว่าก่อนการแข่งเกม ผู้ที่แฟนๆ โหวต หวังให้ชนะทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ใช่ทีมจีน แต่เป็นทีม CIS อย่าง Gambit ทว่าผลที่ออกมาคือ EHOME โชว์ฟอร์มเก๋า เอาชนะไปได้ก่อน 1-0 เกม พอแข่งเกมที่สอง ทาง Gambit มีอัตรา K/D 31-21 นอกจากนี้ยังคุมโซนได้ดี สามารถพลิกเอาชนะ EHOME ไปได้ ทำให้มีแต้มเสมอกันเป็น 1-1 เกม ถือเป็นเกมแรกที่ EHOME พ่ายในการแข่ง The Bucharest Minor และด้วยการเสมอในครั้งนี้ ทำให้แฟนเกมนั่งลุ้นกันว่าใครกันแน่ที่จะได้ครองแชมป์ Impressive #Dota here, guys. @GambitEsports won match 2. 1️⃣-1️⃣ @EHOMECN #pgldota2 #BucharestMinor #esports Tune in for match 3 ? https://t.co/Icsf0JF22U ? https://t.co/usnIgMqXc5 ? https://t.co/sOUKvWfzp0 ? https://t.co/FSFAcy6ajV pic.twitter.com/1U2jnEjcaJ — PGL (@pglesports) 13 มกราคม 2562 ลุ้นกันอยู่ได้ไม่นาน ปรากฎว่าทาง EHOME สามารถเก็บเกมไปได้อีกรอบ ทำให้ขึ้นนำ 2-1 ยังเหลือการแข่งขันให้ทาง Gambit เร่งขึ้นมาเสมออีก 1 เกม หากทำไม่ได้ ทีม CIS จะได้ที่สอง แล้วทีมจีนจะเดินขึ้นสู่บัลลังก์การแข่งไมเนอร์อย่างสง่างาม The ??team is one game closer of winning The #BucharestMinor ?#EHOME 2⃣- @GambitEsports 1⃣#pgldota2 #esports #dota2 Game 4 starts now: ? https://t.co/Icsf0JF22U ? https://t.co/usnIgMqXc5 ? https://t.co/sOUKvWfzp0 ? https://t.co/FSFAcy6ajV pic.twitter.com/Xys9HjZC0y — PGL (@pglesports) 13 มกราคม 2562 พอเริ่มแข่งเกมที่ 4 ฝั่ง Gambit เล่นอย่างดุเดือด ซึ่ง EHOME ใช้จุดนี้เป็นตัวนำชัยชนะมาสู่ทีม เอาชนะไปได้ 3-1 เกม กวาดเงินรางวัลกลับบ้าน 125,000 USD และแต้ม DPC 120 แต้ม ที่สำคัญยังได้เข้าไปแข่งใน The Chongqing Major ที่มีเงินรางวัล Prize Pool กว่า 1 ล้านดอลลาร์ การก้าวขาสู่เมเจอร์นี้ ทำให้มีทีมจีนร่วมแข่ง The Chongqing Major ทั้งหมด กว่า 4 ทีม จาก 16 ทีมด้วยกัน ทั้งนี้ The Chongqing Major จะจัดแข่งขันขึ้นในวันที่ 19 - 27 มกราคมนี้ เพื่อนๆ ที่เป็นแฟนเกม DOTA 2 ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะจะมีทีมมากฝีมือ อย่าง Team Liquid, EG, Alliance, Team Secret และ Fnatic (ที่มี Jabz อยู่) มาร่วมประดวลฝีมือกัน   ที่มา: DOT ESPORTS | Liquidpedia 1, 2

ก่อนการแข่งขันในสายล่างที่ OG ต้องเจอกับ Ninjas in Pyjamas ทางผู้จัดการแข่งขัน PGL เปิดให้แฟนๆ โหวตทายผลว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะครั้งนี้ไปครอง ซึ่งแฟนเกม 51% คิดว่า OG แชมป์ TI8 จะสามารถคัมแบ็ค เอาชนะ NiP และได้ไปต่อในการแข่งขันวันที่ 4 ได้สำเร็จ   Who will stay in The #BucharestMinor and who will go home? Vote and let us know ?@OGesports vs @NiPGaming #pgldota2 #esports #dota2 #DreamOG #GONINJAS #poll — PGL (@pglesports) 12 มกราคม 2562 พอแข่งเกมแรกจบ แฟนบอยทีม OG ก็มีเฮ เมื่อทางทีมสามารถเก็บไปได้ก่อน 1-0 เกม ทว่ากลับมาผิดหวังหลังจากที่ NiP พลิกชนะได้ในเกมที่สอง เสมอกันไป 1-1 เกม ทำให้หลังจากนั้นโมเมนตัมก็ตกเป็นของทางทีมนินจาในชุดนอน มีสกอร์ K/D 32-14 เอาชนะ OG 2-1 ในการแข่งขัน The Bucharest Minor ดับฝันการหวนคืนกลับมาสู่ฟอร์มเดิมของแชมป์โลก การพ่ายแพ้ของ OG ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการแพ้แบบช็อคโลก เพราะตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขันเก็บแต้ม DPC ในซีซัน 2018-19 ทีม OG กลับทำผลงานได้ไม่ค่อยดี ไม่เคยได้เข้าแข่งในการแข่งขันใหญ่ระดับ Major ไม่แม้กระทั่งจะติดอันดับ 1 ใน 3 ของการแข่งขันเล็กๆ แบบ Minor เลยเสียด้วยซ้ำ   EHOME เข้าไปรอในรอบ Grand Final ในทัวร์นาเมนต์นี้ EHOME ถือเป็นทีมที่มาแรง ตั้งแต่แข่งมา ไม่ว่าจะเป็นรอบ Group Stage หรือ Playoff ก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้แบบใสๆ ไม่เคยแพ้ให้กับทีมไหนซักเกมเดียว ในรอบ Playoff ของสายบนเมื่อวานถึงกับทำคนดูช็อคเอาอยู่เหมือนกัน เพราะว่าเกมที่เจอกับ Gambit เล่นกันยาวนานถึง 72 นาที โดยทั้งสองทีมไม่มีวี่แววว่าจะยอมแพ้ ให้อีกทีมขึ้นนำก่อนได้ แม้ทาง Gambit จะเล่นได้ดุดันกว่า แต่ว่าแนวตั้งรับของ EHOME ก็เหนียว ทำให้สามารถเอาตัวรอดมาได้ จนสามารถเลทเกมแล้วเอาชนะได้ในที่สุด     ในเกมที่สอง ทั้งคู่ก็ยังใช้แผนเดิม EHOME เล่นแบบเน้นการป้องกัน และฟาร์มสร้างเนื้อสร้างตัว ในขณะที่ Gambit เน้นการบุก ทั้งคู่ผลัดกันรุกและรับ จนกระทั่งตัวแทนจาก CIS พลาดพลั้ง และพ่ายให้กับทีมจีนไป 2-0 เกม ทำให้ EHOME ไร้พ่าย เดินหน้าเข้าไปรอเล่นในรอบ Grand Final ส่วน Gambit ลงไปเล่นสายล่าง เจอกับ Keen Gaming ที่เอาชนะ NiP มาได้ หากทีมไหนชนะจะได้กลับขึ้นไปเจอกับ EHOME ต่อในรอบ Grand Final วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะมีการแข่งขัน The Bucharest Minor เราจะได้รู้กันแล้วว่าทีมไหนจะสามารถครองแชมป์ Minor นี้ กวาดเงินรางวัล 125,000 USD และแต้ม DPC อีกกว่า 120 แต้มกลับบ้านไป ที่สำคัญยังได้เข้าไปเล่นใน Major อย่าง The Chongqing Major ที่กำลังจะแข่งในวันที่ 19-27 มกราคมนี้ด้วย!   ที่มา: DOT ESPORTS 1 | 2  Liquidpedia

ในการแข่งขันรอบ Playoffs ของ The Bucharest Minor ทีมจีน EHOME ที่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม A แบบไร้พ่าย (4 -0) ก็ยังคงฟอร์มการเล่นเอาไว้ได้ดี กำจัดทีมร่วมประเทศ อย่าง Keen Gaming ลงไปอยู่สายล่างได้สำเร็จ ที่สำคัญทีมแชมป์ TI8 อย่าง OG ร่วงลงไปอยู่สายล่าง ซึ่งเสี่ยงต่อการแพ้และถูกกำจัดออกจากทัวร์นาเมนต์   EHOME vs KEEN Gaming ในแมทช์ที่สองทีมจีนเจอกัน EHOME ปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว เริ่มต้นด้วยการเป็นทีมที่ได้เปรียบและคุมเกมแรกเอาไว้ได้อน่างอยู่หมัด ส่วนเกมที่สองก็สามารถป้องกันการเลทเกมของ Keen เอาไว้ได้ ทำให้ทาง EHOME ไร้พ่าย ชนะไปอย่างสวยๆ รวมทั้งทัวร์นาเมนต์ 6-0 เกมแบบไม่แพ้ใคร เข้าไปรอในสายบน การันตีว่ายังไงพวกเขาก็สามารถจบอันดับ 1 ใน 3 อย่างแน่นอน ซึ่งหากชนะก็จะได้เข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ OG vs Gambit Esports ในขณะที่อีกคู่หนึ่ง เราได้เห็นนัดล้างตาจากการแข่งขัน WePlay! Winter Madness รอบไฟนอล ที่ทาง Gambit Esports และ OG หวนกลับมาเจอกัน ต้องบอกเลยว่างานนี้ทาง Gambit เล่นได้อย่างเหนือชั้นในชนิดที่ OG สู้ไม่ได้ เกมแรกสามารถเอาชนะ OG ไปได้ภายใน 29 นาที ส่วนเกมที่สองจบลงภายใน 19 นาทีเท่านั้น การเล่นของ Gambit ทำให้พวกเขาพาตัวเองไปต่อในสายบน นัดต่อไปเจอกับทีมจีนไร้พ่าย EHOME ส่วน OG ร่วงลงไปอยู่ในสายล่าง และจะต้องเจอกับ Ninjas in Pyjamas ซึ่งหากแพ้อีกรอบ แชมป์ TI 8 จะต้องแพ็คกระเป๋า กลับบ้านไป   การแข่งขันสายล่าง (Lower Bracket) เมื่อพูดถึงการแข่งขันสายล่าง เมื่อวาน NiP เจอกับ Playmakers เอาชนะมาได้ 2-0 เกม ปัด ทีมจาก SA (เช็คอีกที) ออกจากการแข่งขันไปอย่างไม่ปรานี ด้านทีมอินโด BOOM ID ที่ต้องเจอกับ Team Team ตัวแทนจาก NA แพ้ตกรอบไปด้วยสกอร์ 2-1 เกม แมทช์นี้ เป็นแมทช์ที่แฟนเกมและผู้ชมต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า เป็นหนึ่งในเกมที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา   สรุป: EHOME vs Gambit ผู้ชนะจะได้เข้าไปรอในรอบชิง ส่วนผู้แพ้จะได้โอกาสเข้าสู่รอบชิง โดยการไปเล่นในสายล่าง หากแพ้ จะจบอันกับที่ 3 ของการแข่งขัน Keen Gaming vs TEAM TEAM ใครชนะจะได้โอกาสแข่งรอบต่อไป ส่วนผู้แพ้ ต้องออกจากการแข่งขัน OG vs Ninjas in Pyjamas หากรอบนี้ OG แพ้ ต้องออกจากการแข่งขัน ส่วนถ้าชนะจะได้โอกาสแก้ตัวด้วยการเล่นรอบต่อไป ซึ่งถือว่ายังมีโอกาส Comeback อยู่   ที่มา: DOT ESPORTS

การแข่งขันวันที่สองของทัวร์นาเมนต์ The Bucharest Minor 2019 เกม DOTA 2 ซึ่งเป็นการแข่งขันของกลุ่ม B ก็จบลงไปแล้ว งานนี้แฟนบอยทีม OG น่าจะถูกอกถูกใจกับผลการแข่งขันไม่น้อย เมื่อทีมแชมป์ TI8 สามารถเก็บที่นั่ง ขึ้นไปอยู่สายบนพร้อมกับทีมจีน EHOME ได้สำเร็จ! Playmakers Esports VS EHOME การแข่งขันเริ่มต้นที่ตัวแทนจากจีนอย่าง EHOME และ ตัวแทนจากอเมริกาใต้ Playmakers Esports มาเจอกัน ซึ่งดูเหมือนทีมจีนของกลุ่ม B จะเตรียมตัวมาแล้วอย่างดี เพราะจบเกมแรกได้ภายใน 23 นาที ด้วยสกอร์ 29 - 8 แถมยังเป็นฝ่ายคุมแมพแทบจะทั้งหมดอีกด้วย แม้ในเกมที่สอง Playmakers จะสามารถดึงพลังออกมา และใช้กลยุทธ์ที่ดีขึ้น แต่ว่าช่วงกลางเกม EHOME กลับเป็นฝ่ายได้เปรียบ สิ่งที่ทีมจากอเมริกาใต้ทำได้มีเพียงแค่การเก็บสิ่งก่อสร้าง ทว่าก็ไม่สามารถช่วยชีวิตทีมเอาไว้ได้ เกมจบลงภายใน 33 นาที OG VS BOOM ID คู่ที่สองเป็นแชมป์ TI8 เจอกับตัวแทนจากภูมิภาคบ้านเราอย่าง BOOM ID ในเกมนี้ OG เก็บชัยชนะได้แบบเฉียดฉิว เนื่องจากทางทีมอินโดนีเซียใช้แผนที่เราไม่ค่อยเห็นกันในการเล่น ซึ่งสามารถรับมือสไตล์การเล่นแบบมาตรฐานของ OG ได้เป็นอย่างดี ทว่าอย่างไรก็ดี OG ก็กลับมาพลิกชนะได้สำเร็จ และจากการเล่นเกมแรก ทำให้ OG เริ่มจับทางสไตล์การเล่นของ BOOM ID ไปได้ โดย 2 นาทีหลัง OG สามารถเก็บฮีโร่สำคัญๆ และดันให้ทางทีมอินโดต้องเปลี่ยนเทคนิคการตั้งรับ OG นำไปก่อน 1-0 เกม พอมาในเกมที่สอง OG เล่นได้ดี มีโมเมนต์สวยๆ หลายช็อต เก็บคิลไปได้ 24-8 จบเกมภายใน 20 นาที ชนะไป 2-0 เกม ทำให้ได้เข้าไปแข่งต่อในรอบที่ผู้ชนะจากทั้งสองคู่แรกจะมาเจอกัน โดยจะต้องไปเจอกับ EHOME ในนัดต่อไป EHOME VS OG การแข่งขันนัดนี้ถือเป็นนัดสำคัญ เพราะหากใครชนะจะได้ที่นั่งสายบนไปครอบครอง ทำให้ทั้ง EHOME และ OG ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด โดยในการแข่งรอบเปิดแมทช์ ทั้งสองทีมสามารถทำแต้มคิลรวมกันไปได้ 87 ถึงคิลด้วยกัน เริ่มต้นมาทั้งสองทีมต่างก็เล่นด้วยความมั่นใจหลังจากกวาดทีมคู่แข่งแมทช์ก่อนหน้าไปได้อย่างไร้เยื่อใย โดยทั้ง EHOME ผลัดกันรุกและรับ สกิลการเล่นของ iLTW ตัวสำรองที่เข้ามาช่วย OG เล่นถือว่ามีส่วนช่วยอย่างมาก สามารถช่วยชีวิตเพื่อนจากการสลับตำแหน่งฮีโร่ไปได้หลายครั้งหลายครา หลังจากที่เล่นกันมานานถึง 44 นาที ในที่สุด EHOME ก็เป็นฝ่ายเก็บเกมนี้ไปได้ก่อน ขึ้นนำ 1-0 เกม ช่วงแรกของเกมที่สองก็ยังคงสูสี แต่ก็เหมือนเกมที่แล้ว EHOME เริ่มสร้างโมเมนตัมให้กับทีมของตัวเองช่วงครึ่งเกม ด้าน OG ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการดันเกมของอีกฝั่งหนึ่งได้ จนในที่สุด EHOME สามารถเอาชนะ เก็บแมทช์นี้ไปได้ 2-0 เกม เป็นทีมไร้พ่ายและขึ้นไปนั่งรอในสายบนได้สำเร็จ! A 4-0 group stage and a 2-0 over @OGesports sees us through to the main bracket where well play Keen Gaming tomorrow at the Bucharest Minor. Lets keep that momentum going! — EHOME (@EHOMECN) 10 มกราคม 2562 Playmakers Esports VS BOOM ID การแข่งขันของผู้แพ้จากคู่เปิดเกมกลุ่ม B ก็มาถึง โดยด้าน BOOM ID เป็นฝ่ายควบคุมเกมได้ทั้งหมด ส่วน Playmakers ก็เล่นไม่ค่อยได้ดั่งใจเสียเท่าไหร่ ทำให้ทีมอินโดเก็บไปได้ 2-0 เกม จบเกมแรกภายใน 38 นาที ส่วนเกมที่สองจบเพียงแค่ 21 นาทีเท่านั้น รวมแล้วมีอัตราการ K/D คือ 71-22 OG VS BOOM ID ถึงนัดตัดสินระหว่าง OG และ BOOM ID ว่าใครจะได้ที่นั่งอีกหนึ่งตำแหน่งที่เหลือในสายบนของกลุ่ม B ถือเป็นคู่รีแมทช์หลังจากที่ OG เอาชนะ BOOM ID ไปได้ 2-0 เกมในแมทช์เปิดเกมนัดแรก แม้ BOOM ID จะเป็นฝ่ายนำในช่วงครึ่งเกมแรก แต่พวกเขากลับไม่สามารถรักษาความได้เปรียบเอาไว้ได้จนจบเกม ทำให้แพ้ OG ไปเหมือนเดิม 2-0 เกม Here is the bracket after 2 days of group stages #pgldota2 #bucharestminor #esports #dota2 pic.twitter.com/HjzTL78XdJ — PGL (@pglesports) 10 มกราคม 2562   นัดต่อไป? ในการแข่งขันรอบต่อไปจะเป็นสายบนจากกลุ่ม A เจอกับสายบนของกลุ่ม B โดยคู่แรกสองทีมจีนจะต้องมาปะทะกันเอง เพื่อวัดกันว่าใครจะได้อยู่ในสายบนต่อไป ส่วนใครจะต้องลงไปอยู่ในสายล่าง ด้าน OG เจอกับคู่ปรับเก่า Gambit Esports ที่เคยเฉือนแชมป์กันมาแล้วในการแข่งขัน WePlay! Dota 2 Winter Madness เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนัดล้างตาที่น่ารับชมไม่แพ้คู่ไหนๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้เลย สายล่างทีมจากอินโด BOOM ID จะเจอกับ Team Team ส่วน Ninjas in Pyjamas จะต้องมาวัดกับ Playmakers Esports ทีมไหนแพ้ จะต้องตกรอบไป ส่วนผู้ที่ชนะจะได้เข้าไปเจอกับผู้แพ้จากสายบนเพื่อวัดชะตาชีวิตกันต่อไป   ที่มา: DOT ESPORTS

จบกันไปแล้วกับการแข่งขัน The Bucharest Minor วันแรกรอบ Group Stage ซึ่งเมื่อวานเป็นการแข่งขันของกลุ่ม A โดยเฉพาะ แย่งชิงตำแหน่งกันเพื่อที่จะได้ขึ้นไปสายบนในรอบ Playoff   Keen Gaming VS Ninjas in Pyjamas คู่แรกที่มาเจอกันคือ Keen Gaming ตัวแทนอันดับหนึ่งจากภูมิภาคจีน เจอกับ Ninjas in Pyjamas (NiP) ทีมเด็ดจากฝั่งยุโรป นอกจากจะเป็นคู่เปิดการแข่งขันแล้ว ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันตั้งแต่เริ่มแข่งเก็บแต้ม Dota Pro Circuit ซีซั่น 2018-2019 โดย Keen ดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดีมาก สามารถปิดเกมแรกได้ภายใน 21 นาที ส่วน NiP ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เก็บ Tower ไปได้แค่หอเดียว แถมยังได้แต้มคิลแค่ 4 ตัว ในขณะที่ Keen เก็บฮีโร่ไปถึง 33 ตัว เว็บไซต์ Dot Esports วิเคราะห์ว่าหนึ่งกลยุทธ์ที่มีผลต่อชัยชนะครั้งนี้ของ Keen ก็คือกลวิธีที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ไม่ใช่การใช้เมต้าปกติที่มีอยู่ในเกม ถือเป็นตัวอย่างความแตกต่างของการเล่นในแต่ละภูมิภาค เพราะการบิลด์ฮีโร่ของ Keen เป็นสิ่งที่เห็นได้ในการเล่นสไตล์จีนมากกว่าทางฝั่งยุโรป แม้ว่าจะเล่นมาได้ดี ทว่าการดราฟท์ตัวละครของ NiP ในเกมที่สอง ทำให้ทาง NiP มั่นใจและเล่นได้ง่ายกว่าเกมแรก ตลอดเวลา 26 นาทีของแมทช์สอง ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุก-รับ จนกระทั่งในช่วงสุดท้ายของเกมทาง NiP เป็นฝั่งได้เปรียบ ตีตื้นขึ้นมาได้ 1-1 GGWP @Keen_GamingCN ?? | 1:2 Our next game in the group is at 15:00 CET versus TEAM TEAM ?? / @GambitEsports ?? (losser) ? https://t.co/ocyKQ7PEu7#GONINJAS #DOTA2 #BucharestMinor pic.twitter.com/Qb07j6RN1W — Ninjas in Pyjamas ?? (@NiPGaming) 9 มกราคม 2562 ระหว่างเกมที่สาม เห็นได้ชัดเลยว่า NiP เล่นไม่ได้ในระดับท็อปฟอร์ม แม้จะสามารถยืดเกมให้ยาวออกไปถึง 36 นาที ทว่าฝั่ง Keen กลับเป็นทีมที่คุมเกมอยู่ตลอด จบสกอร์ที่ทีม Keen มีคิลนำถึง 47-14 ด้าน NiP ทำลายสิ่งก่อสร้างได้เพียงหอเดียว Keen กลายเป็นทีมแรกที่ชนะในทัวร์นาเมนต์นี้ไป   Gambit Esports VS Team Team ตัดภาพมาที่ Gambit Esports ทีมจาก CIS ที่เคยคว่ำ OG (แชมป์ TI8) ในการแข่งขันไมเนอร์ WePlay! Dota Winter Madness มาเจอกับ Team Team ตัวแทนจากภูมิภาคอเมริกาเหนือกันบ้าง แม้ Gambit จะเป็นหนึ่งในทีมตัวเต็ง ที่มีแนวโน้มจะชนะมากกว่า ทว่าทาง Team Team ก็เซอร์ไพรส์คนดู ด้วยการเอาชนะ เก็บเกมแรกไปได้ก่อน แม้ว่าจะต่อสู้กันอย่างสูสีจนแมทช์มีความยาวกว่า 35 นาที ทว่า 5 นาทีสุดท้าย ทาง Team Team ก็ฮึดแล้วคว่ำทีมเต็งไปได้ด้วยการกวาดล้างฮีโร่ของ Gambit ไปถึงสองครั้ง เป็นชัยชนะของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ We dominate TEAM TEAM on the second map to tie the score in the series. The winner of the next game will advance to the winners match to face Keen/NiP. #BucharestMinor ? https://t.co/J6jZeIvXIZ pic.twitter.com/1aMh5azs0h — Gambit Esports (@GambitEsports) 9 มกราคม 2562 ในเกมที่สองเรียกได้ว่า Gambit เป็นฝ่ายคุมเกมตลอดระยะเวลาตั้งแต่ตั้นจนจบ สามารถเอาชนะแนวป้องกันของ Team Team ไปได้ ในขณะที่ก็ยังพยายามเล่นเกมแบบเซฟๆ เอาไว้อยู่ ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่คุมทั้งแมพอย่างอยู่หมัด ด้วยอัตรา K/D มากถึง 22-2 จบเกมสองไปอย่างไม่ยากเย็น ส่วนเกมที่สาม Team Team พยายามสู้กลับ แต่ก็ยังทำอะไร Gambit ไม่ได้มาก เกมจบลงภายในเวลา 37 นาที โดย Gambit ชนะการแข่งครั้งนี้ไป 2-1 เกม Keen VS Gambit Esports หลังจากจบแมทช์เปิดทัวร์นาเมนต์ทั้งสองคู่แล้ว ก็ได้เวลาที่ผู้ชนะจากการแข่งทั้งสองทีมจะมาเจอกันเพื่อแย่งที่นั่งในสายบน (Upper Bracket) ตอนแรกดูเหมือนว่า Keen และ Gambit น่าจะสูสีกันแต่สุดท้ายแล้วเกมก็ตกเป็นฝั่ง Gambit โดยเกมแรกเล่นกันนาน 32 นาที ทั้งผลักันคิล และเริ่มเก็บเงิน เรียกได้ว่าสูสี จนกระทั่งช่วงครึ่งหนึ่งของเกมแรกที่ Gambit เริ่มมีชีวิตชีวา และนำหน้า Keen ไป แม้จะชนะเกมแรกไปได้แล้ว แต่ Gambit ก็ยังโชว์ฟอร์มดุไปตลอดทั้งแมทช์ ในเกมสอง Gambit เก็บคิลได้มากกว่า Keen เกือบครึ่ง (30 -16) และเสียไปแค่ 2 Tower เท่านั้น   NiP VS Team Team หลังจากจบ Winners Match ที่ Keen เจอกับ Gambit ก็เป็นรอบที่ผู้แพ้จากทั้งสองคู่ก่อนหน้า คือ NiP และ Team Team จะต้องมาเจอกันบ้าง หากใครแพ้จะได้เป็นทีมแรกที่ร่วงลงไปอยู่ในสายล่างของการแข่งขัน ทั้งสองทีมถือว่าเป็นทีมที่มีสูสีกัน ไม่ว่าใครก็อาจจะเป็นผู้ชนะและผลักอีกทีมลงเหวไปก่อนได้ ทว่าในที่สุด Team Team ก็เป็นฝ่ายพ่ายไป GGWP @Keen_GamingCN ?? Two very close games, sadly we could not close any of them. Our next game is on Friday 18:00 CET. Back to practice!#GONINJAS #DOTA2 #BucharestMinor pic.twitter.com/jFP4j4mI7g — Ninjas in Pyjamas ?? (@NiPGaming) 9 มกราคม 2562 Keen VS NiP (Rematch) ต่อมา NiP จ้องมาเจอกับ Keen ทาง NiP อีกรอบ หลังจากเล่นรอบเปิดทัวร์นาเมนต์กันไปแล้ว โดยคราวนี้ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ Keen เก็บไปได้ 2 เกมรวด ทั้งนี้ก็เพราะทาง NiP ใช้แผนการเล่นแบบตั้งรับ เน้นการป้องกันเป็นหลัก แล้วคอยหาจังหวะที่จะสวนทาง Keen ส่วนทีมจีนเน้นการฟาร์ม หวังเก็บเงินเพื่อที่จะได้เลทเกมได้แบบสบายๆ ซึ่งก็ส่งผลในช่วงหลังเกม เพราะ Keen เก็บสิ่งก่อสร้างไปได้มากกว่า ตำแหน่งดีกว่า ทำให้ NiP เล่นท้ายเกมได้ยากขึ้น จนกระทั่งแพ้ไป 2 - 0 เกม ครองอันดับสองของกลุ่ม A ไปได้ อย่างสวยงาม   สรุป: Gambit Esports เป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม A ได้ที่นั่งในสายบน (Upper Bracket) Keen Gaming ได้อันดับที่ 2 ของกลุ่ม A ได้ที่นั่งในสายบน (Upper Bracket) Ninjas in Pyjamas และ Team Team ครองอันดับ 3 และ 4 ร่วงลงไปอยู่ในการแข่งขันสายล่าง (Lower Bracket) ทั้งนี้การแข่งขันยังคงไม่จบ วันนี้จะเริ่มการแข่งขันของ Group B ที่น่าดูและน่าลุ้นไม่แพ้กัน มีแชมป์ TI8 - OG และมีทีมอื่นๆ อย่าง EHOME, BOOM ID และ Playmakers Esports ที่จะแย่งกันขึ้นไปสายบน   ที่มา: DOT ESPORTS, Liquidpedia 

หลังจากที่ประกาศพักหลังจากได้ตำแหน่งสุดยอดทีมที่เก่งที่สุดระดับโลกในการแข่งขัน TI 8 ทีม OG ก็ประกาศพักผ่อน แม้จะลงสู่สังเวียนการเก็บแต้ม DPC อีกครั้ง ทว่าในซีซัน 2018/19 ทีมเทพของเรากลับทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ผ่านการคัดเลือกโดยตรงของทัวร์นาเมนต์ระดับ Major อย่าง The Chongqing Major ซึ่งในการแข่งขัน The Bucharest Minor ในวันที่ 9 - 13 มกราคมนี้ อาจช่วยพลิกสถานการณ์ของทีม OG ได้บ้าง The Bucharest Minor เป็นการแข่งขันระดับ Minor ของเกม DOTA 2 อีเวนท์ที่สองของซีซัน 2018/19 เราจะได้เห็น 8 ทีมจากทั่วโลกห้ำหั่นกัน ชิงเงินรางวัลรวม หรือ Prize Pool จำนวน 300,000 USD (ประมาณ 9.6 บาท) และแต้ม Dota pro circuit (DPC) 500 แต้ม เพื่อเก็บคะแนนเข้าไปเล่นใน The International 2019 โดยการแข่งครั้งนี้จะจัดที่เมืองบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ซึ่งจะมีทีมร่วมเข้าแข่งขันทั้งหมด 8 ทีมด้วยกัน ได้มาจากการคัดเลือกผ่านภูมิภาคต่างๆ ดังนี้ OG - ตัวแทนจากภูมิภาคยุโรป Ninjas in Pyjamas - ตัวแทนจากภูมิภาคยุโรป TEAM TEAM - ตัวแทนจากภูมิภาคอเมริกาเหนือ (NA) Playmakers Esports - ตัวแทนจากภูมิภาคอเมริกาใต้ (SA) Gambit Esports - ตัวแทนจากภูมิภาค CIS BOOM ID - ตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) Keen Gaming - ตัวแทนจากประเทศจีน EHOME - ตัวแทนจากประเทศจีน ทั้ง 8 ทีมถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มด้วยกัน โดยกลุ่ม A มีทีม Keen Gaming, Ninjas in Pyjamas, Gambit Esports และ TEAM TEAM ส่วนกลุ่ม B ได้แก่ OG, EHOME, BOOM ID และ Playmakers Esports โดยผู้ที่ได้อันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มจะได้ขึ้นไปอยู่ในสายบน (Upper Bracket) ส่วนทีมที่ได้อันดับที่ 3 - 4 จะลงไปอยู่สายล่าง หรือก็คือ Lower Bracket นั่นเอง ซึ่งในรอบ Group Stage นี้จะแข่งขันกันแบบ BO3 (แข่งขันกันทั้งหมด 3 เกม) ส่วนรอบชิงจะแข่งแบบ BO5   The Bucharest Minor format#dota2 #dotasltv #BucharestMinor pic.twitter.com/r4zud9mnns — StarLadder Dota 2 (@dotasltv) 7 มกราคม 2562 ตารางการแข่งขันวันที่ 9 มกราคม 2019 (GROUP A) เวลา คู่แข่งขัน รูปแบบ 15:00  Gambit vs TEAM TEAM BO5 15:00 KG vs NiP BO5 18:00 TBD vs TBD BO5 21:00 TBD vs TBD BO5 00:00 TBD vs TBD BO5   ตารางการแข่งขันวันที่ 10 มกราคม 2019 (GROUP B) เวลา คู่แข่งขัน รูปแบบ 15:00 OG vs BOOM ID BO5 15:00 Playmakers vs EHOME BO5 18:00 TBD vs TBD BO5 21:00 TBD vs TBD BO5 00:00 TBD vs TBD BO5   หลังจากที่ Ana ผู้เล่นฝีมือดีของทีมประกาศพักการแข่งขัน ทาง OG ได้ดึงตัวผู้เล่นจากทีม Espada อย่าง iLTW เข้ามาเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นแทน Ana โดยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเล่นด้วยกัน ก่อนหน้านี้ iLTW ได้ร่วมเล่นกับทีมในการแข่งขัน WePlay! Dota 2 Winter Madness และจบอันดับโดยครองที่ 2 ของการแข่งขัน Добро пожаловать Игорь! Were glad to welcome iLTW, standing in as our pos 1 player. See you at 17:00 CET for our #WePlayDota2 match today against @VegaSquadron#DreamOG pic.twitter.com/lthbZxbtlT — OG (@OGesports) 4 มกราคม 2562 การแข่งขัน The Bucharest Minor อาจเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ OG กลับสู่เส้นทางของการแข่ง The International 2019 เก็บแต้มเพื่อไปแข่งงานใหญ่ และหากชนะได้อันดับที่ 1 ของทัวร์นาเมนต์นี้ ยังจะได้ที่นั่งไปแข่งใน The Chongqing Major การแข่งขันใหญ่ทัวร์นาเมนต์ที่ 2 ของซีซั่นนี้ หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจติดตามการแข่งขัน GameFever จะมาอัพเดทกันให้เรื่อยๆ อย่างแน่นอน ส่วนสำหรับคนที่อยากชมการแข่งขันแบบสดๆ ติดตามรับชมได้ที่ Twitch ของนักแคสเกมชื่อดัง Cyberclasher  กันได้เลย!   ที่มา: DOT ESPORTS

การแข่งขันอีสปอร์ตของเกม DOTA 2 ทัวร์นาเมนต์ ESL One Hamburg 2018 จบรอบ Group Stage ที่เริ่มแข่งตั้งแต่วันที่ 23 - 25 ตุลาคมกันไปแล้ว รอบต่อไปคือรอบ Playoffs ที่มีบางคู่เริ่มแข่งไปแล้วด้วยเหมือนกัน งานนี้มีทีมไหนอยู่รอด เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบ้าง ไปดูกันเลย! สำหรับกลุ่ม A ในที่สุด Team Secret ก็พุ่งขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง ด้วยการเอาชนะ paiN Gaming ไปได้ในการแข่งขัน เก็บแต้มสวยๆ เบียด Vici Gaming ที่เคยอยู่หัวตารางร่วงลงมาเป็นอันดับสอง ทว่าก็ยังคงจับมือกันเข้ารอบไปแข่งใน Playoffs ในฐานะสายบนอยู่ดี ทีมที่มีปัญหาจริงๆ คือ Alliance และ Mineski ที่ต้องจูงมือกันกลับบ้านไปเพราะทำผลงานได้ไม่ค่อยดี อยู่ 2 อันดับสุดท้ายของตาราง โดยที่ทั้งสองทีมไม่เคยเอาชนะใครได้เลย ทำดีสุดคือการได้แต้มจากการเสมอกันเท่านั้น   ด้านกลุ่ม B ทีมจีนอย่าง Team Aster ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้อย่างมั่นคง เก็บคะแนนไปถึง 9-1 ชนะรวด มีเกมเดียวที่เสมอกันคือตอนที่เจอกับ Forward Gaming ส่วนอันดับสองที่พากันขึ้นไปอยู่ในสายบนก็คงจะหนีไม่พ้นพี่หมี Virtus.pro ที่ตามมาติดๆ นั่นเอง สองทีมของกลุ่ม B ที่ถูกคัดออกจากการแข่งขันคงไม่พ้น Ninja in Pyjamas ที่เอาชนะไปได้แค่แมทช์เดียว และมีทีมที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างตัวแทนจากภูมิภาค SEA ได้แก่ EVOS Esports ที่แพ้รวด มีเสมอแค่นัดเดียวเท่านั้น ทีมที่เหลือได้แก่ Evil Geniuses, paiN Gaming จากกลุ่ม A และ Forward Gaming กับ compLexity Gaming จะได้ไปเจอกันในสายล่าง   Playoffs ในรอบ Playoffs จากการที่ทีมอันดับ 1 ของกลุ่ม A ไปเจอกับทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม B ทำให้ Team Secret ไปเจอกับ Virtus.Pro แบบ Best of 3 (BO3) ทางทีมพี่หมีก็เขี่ย Team Secret ร่วงไปอย่างไม่ใยดี โดยเป็นฝ่ายออกนำไปก่อนในเกมแรก ทว่าก็ตามมาเก็บเกมที่ 2 ได้ และสู้กันอย่างดุเดือดยื้อไปถึงเกมที่ 3 จบเกมด้วยการเล่นกันนานถึง 42 นาที สายบน (Upper Bracket) คู่ที่สอง ทีมจีนฟอร์มดุ Team Aster เจอกับทีมเพื่อนร่วมชาติ Vici Gaming แม้ว่า Team Aster จะเก็บเกมแรกไปได้ก่อน ทว่าพอเกมที่สองและเกมที่สาม กลับพ่ายให้กับ VG ยิ่งเกมที่สาม VG ปิดเกมได้เร็วมาก ยื้อไปได้เพียง 26 นาทีเกมก็จบลงแล้ว การพ่ายแพ้ครั้งแรกและครั้งเดียวของ Team Aster นี้ส่งผลให้ต้องร่วงลงไปอยู่สายล่าง (Lower Bracket) คู่ต่อไปของสายบนคือ Virtus.pro เจอกับ Vici Gaming แข่งกันแบบ BO3 ใครชนะก็เข้าไปรอในรอบ Grand Finals เลย แม้สายล่างจะยังไม่ได้เริ่มแข่ง (จะเริ่มในวันนี้) แต่ก็น่าลุ้นเหมือนกันว่าทีมไหนจะอยู่หรือทีมไหนจะต้องกลับบ้านไป ถึงจะไม่ได้แต้ม DPC เหมือนทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ทว่าการได้แชมป์ในการแข่งขัน พร้อมกลับบ้านกับเงินรางวัลก็ยังถือเป็นอะไรที่น่าล่อตาล่อใจ ที่สำคัญมันคือศักดิ์ศรีของนักกีฬาอีสปอร์ต หากมีอะไรคืบหน้า GameFever จะมารายงานให้เพื่อนๆ ทราบกันอย่างใกล้ชิดแน่นอน

จบไปแล้วกับการแข่งเกม DOTA 2 ทัวร์นาเมนต์ ESL One Hamburg 2018 รอบ Group Stage Day 2 มาเช็คกันดีกว่าว่าทีมไหนอยู่ทีมไหนไป ทีมที่นำอยู่อันดับหนึ่งของทั้งกลุ่ม A และ B ก็ยังคงเป็น 2 ทีมจีน อย่าง Vici Gaming จากกลุ่ม A และ Team Aster จากกลุ่ม B อยู่เหมือนเคย โดยทาง Team Aster ที่เป็นตัวแทนจากจีนยังคงฟอร์มดุไร้พ่าย ชนะการแข่งขันรวดทั้ง 8 แมทช์ แม้การแข่งรอบ Group Stage จะยังไม่สิ้นสุดดี (จบคืนนี้) ทว่าเราก็พอทราบคร่าวๆ แล้วว่ากลุ่ม B มีทีมที่เข้ารอบแน่ๆ คืออันดับที่ 1-2 ได้แก่ Team Aster และ Virtus.pro ส่วนทีมที่ได้อันดับสุดท้ายตกรอบแบบไม่มีทางผงาดขึ้นมาได้อีก คือ EVOS Esports ตัวแทนจาก SEA เนื่องจากแพ้ไปทั้งสิ้น 7 แมทช์ จากทั้งหมด 8 แมทช์ สำหรับกลุ่ม A ยังต้องรอดูอีกทีว่าทีมไหนจะไปจบอันดับที่เท่าไหร่ในคืนนี้ ที่น่าจะรอดจากการตกรอบน่าจะเป็น Vici Gaming และ Team Secret ที่อยู่อันดับ 1 และ 2 ของตาราง ณ ตอนนี้ ส่วน Mineski และ Alliance ก็มีสิทธิ์ตกรอบสูงอยู่เหมือนกัน  

จบไปแล้วกับการแข่งขัน Group Stage วันแรกของทัวร์นาเมนต์ ESL One Hamburg 2018 แม้จะเพิ่งแข่งกันไปได้วันเดียวทว่าเราก็ได้เห็นหลายทีมโชว์ฟอร์มดุกันไป มีคู่แข่งขันมันส์ๆ ให้เราชมกันหลายคู่เลยทีเดียว และนี่ก็คือผลการแข่งขันแบบสรุปของการแข่งวันแรก ทีมที่ทำฟอร์มได้ดีสุดๆ คือสองทีมจีน อย่าง Vici Gaming (Group A) ที่หวดเอาชนะ paiN Gaming และ Alliance ไปได้ ทำให้มีแต้มขึ้นนำ 4 แต้ม เป็นที่หนึ่งของกลุ่ม อีกทีมจากจีนที่โชว์ฟอร์มแรงใน Group B และชิงอันดับหนึ่งของกลุ่มไปได้คือ Team Aster ที่มาจากรอบคัดเลือก China Quilifier ชนะรวดไปถึง 2 เกมโดยแข่งกับทีมพี่หมี Virtus.pro และ Ninjas in Pyjamas ทีมที่รั้งท้ายอยู่ตอนนี้คือ Mineski และ paiN Gaming (Group A) นอกจากนี้ยังมี Forward Gaming และ EVOS Esports (Group B) ทว่านี่เพิ่งเป็นการแข่งขันวันแรก ยังต้องรอดูอีกยาวๆ ว่าหากจบการแข่งขันรอบ Group Stage ทั้งสามวันแล้ว (23-25 ต.ค.) ทีมไหนจะอยู่ หรือทีมไหนจะไป ทั้งนี้ทีมที่รั้งท้าย 2 อันดับล่างของแต่ละกลุ่มจะะถูกกำจัดออกจากการแข่งขัน ส่วนสองทีมที่ได้อันดับต้นของแต่ละกลุ่มจะได้เข้าไปอยู่สายบนในการแข่งรอบ Playoffs โดยอัตโนมัติ ทีมไหนที่สามารถอยู่รอดและคว้าแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 125,000 USD หรือกว่า 4.1 ล้านบาทไปครอง

การแข่งขัน ESL หรือ Electronic Sports League มีมาตั้งแต่ปี 1997 ถือเป็นหนึ่งในลีกการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยตั้งแต่ปี 2014 มีการจัดแข่งขันเกม DOTA 2 ประมาณปีละสองครั้ง ทว่าปี 2018 เป็นปีพิเศษเพราะมีการจัดการแข่งขันมากถึง 4 ครั้งด้วยกัน 3 ครั้งแรกของการแข่งขันผ่านพ้นไปแล้ว ได้แก่ ESL One Genting 2018, ESL One Katowice 2018, ESL One Birmingham 2018 และที่กำลังจะมาถึงคือทัวร์นาเมนต์ ESL One Hamburg 2018 ESL One Hamburg 2018 จะแข่งขันกันที่เมืองแฮมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในวันที่  23-28 ตุลาคม 2018 แม้จะมีเงินรางวัลค่อนข้างสูง แต่ครั้งนี้จะไม่ถือเป็นการเก็บแต้ม Dota Pro Circuit (DPC) ที่เป็นแต้มสะสมคัดเลือกทีมเก่งๆ เข้าไปแข่งในงาน The International 2019   รูปแบบการแข่งขัน เป็นการแข่งขันแบบ Offline จะมีทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 12 ทีมด้วยกัน โดย 8 ทีมเป็นทีมที่ได้รับเชิญ ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือจะมาจากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกของแต่ละภูมิภาค รอบ Group Stage จะเริ่มแข่งในวันที่ 24 - 26 ตุลาคม 12 ทีมจะแบ่งกันเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม เป็นการแข่งขันแบบ Best of 2 (Bo2) สองทีมที่ได้อันดับสุดท้ายจากแต่ละกลุ่มจะถูกคัดออกจากการแข่งขัน รอบ Playoffs จะเริ่มแข่งในวันที่ 27 - 29 ตุลาคม เป็นระบบ Double Elimination (มีการแบ่งสายบน สายล่าง) 2 ทีมที่ได้อยู่อันดับหนึ่งของแต่ละกลุ่มในรอบ Group Stage จะได้ขึ้นไปอยู่ในสายบน (Upper Bracket) โดยอัตโนมัติ ทีมที่ได้อันดับ 3 และ 4 ของแต่ละกลุ่มจะเริ่มต้นด้วยการไปอยู่ในสายล่าง (Lower Bracket) ในรอบนี้จะเล่นกันแบบ Best of 3 (Bo3) รอบ Grand Finals จะเล่นกันแบบ Best of 5 (Bo5)   [caption id="attachment_9005" align="alignnone" width="1200"] ตารางการแข่งรอบ Group Stage[/caption]   ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ESL One Hamburg 2018 ทีม ชื่อทีม ประเภท Virtus.pro ทีมรับเชิญ Evil Geniuses ทีมรับเชิญ Team Secret ทีมรับเชิญ Mineski ทีมรับเชิญ Ninjas in Pyjamas ทีมรับเชิญ Forward Gaming ทีมรับเชิญ paiN Gaming ทีมรับเชิญ Vici Gaming ทีมรับเชิญ Alliance ทีมผ่านการคัดเลือก (EU) compLexity Gaming ทีมผ่านการคัดเลือก (NA) Team Aster ทีมผ่านการคัดเลือก (CN) EVOS Esports ทีมผ่านการคัดเลือก (SEA)   ตอนนี้นักกีฬาอยู่ที่เยอรมนีเตรียมพร้อมลงแข่งแล้ว   The @ESLDota2 Hamburg media day is underway. ? pic.twitter.com/rXskpAgFoe — Team Secret (@teamsecret) 22 ตุลาคม 2561 นักพากย์ชื่อดังอย่าง PPD แซวทีมคัดเลือกจากภูมิภาค SEA ว่าเขาไม่รู้จักผู้เล่นในทีมนี้เลยซักคน Thanks @Peterpandam ??? #ESLOne #EVOSROAR pic.twitter.com/Mt2tYzZrds — EVOS ESPORTS (@evosesports) 22 ตุลาคม 2561   Funfact: ตั้งแต่มีการแข่งขัน ESL One มาทั้งหมด 12 ครั้ง ทีมที่เป็นแชมป์เยอะที่สุดคือ Virtus.Pro โดยได้ครองถ้วยทั้งหมดกว่า 3 ครั้งด้วยกัน น่าลุ้นว่าปีนี้ทีมพี่หมีจะได้แชมป์อีกหรือเปล่า

ทีมแข่งเกม DOTA 2 ชื่อดังอย่าง Team Liquid ดีกรีแชมป์เก่าประจำการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุด The International 2017 ของเกมโดต้า 2 ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมแข่งขัน DreamLeague ซีซั่น 10 ซึ่งเป็น Minor แรกของการเก็บแต้ม Dota Pro Circuit ที่จะเป็นตัวชี้ว่าใครจะได้เข้าไปร่วมแข่งใน TI 9 ที่จะจัดขึ้น ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนในปีหน้า แม้จะผิดหวัง ตกรอบคัดเลือกของเมเจอร์หลักและเมเจอร์แรกของปี The Kuala Lumpur Major ทว่าพอตอนแข่งขันทัวร์นาเมนต์ไมเนอร์ DreamLeauge ซีซั่น 10 รอบคัดเลือก Team Liquid ก็คืนฟอร์ม จบอันดับที่ 2 และชิงตำแหน่งว่างเข้าไปแข่งต่อในรอบหลักได้ แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อ Team Liquid เปิดเผยว่าจะถอนตัวออกจากการแข่งเนื่องจากเหตุผลทางสุขภาพ Unfortunately we will not be attending the DreamLeague Minor at the end of this month for health-related reasons. GLHF to the teams still attending! — Team Liquid (@TeamLiquid) 11 ตุลาคม 2561 Due to the unfortunate nature of Team Liquid not being able to attend the #DHDreamLeague Minor, we are thankful for Team Lithium for standing in at such short notice! — DreamHack Dota (@DreamHackDota) 11 ตุลาคม 2561 ต่อมาไม่นานหลังทาง DreamHack ผู้จัดการแข่งก็ได้เปิดเผยว่าทีมที่ได้อันดับ 3 คือ Team Lithium จะได้เก้าอี้ของ Team Liquid เข้าไปชิงชัยในการแข่งรอบต่อไปแทน ทำให้ตอนนี้มีตัวแทนเข้าไปแข่งขันทั้งหมด 8 ทีมด้วยกัน ดังนี้ SEA: Tigers CN: Royal Never Give Up CIS: Natus Vincere (Na Vi) EU: The Final Tribe EU: MangoBay SA: Infamous NA: CompLexity Gaming NA: ROONS ทั้งนี้ DreamLeague Season 10 มีเงินรางวัลถึง 300,000 USD คิดเป็นเงินไทยกว่า 9.8 ล้านบาท เป็นการแข่งขันแบบ Bo3 โดยในรอบต่อไปที่จะจัดขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคมจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2018 จะเป็นรอบ Grand Finals แข่งขันกันในระบบ Bo5 ทีมที่ได้แชมป์จะได้สิทธิในการเข้าแข่งขัน The Kuala Lumpur Major และได้แต้ม DPC 120 แต้ม รวมถึงเงินรางวัลกว่า 125,000 USD (4 ล้านบาท)   บทความที่เกี่ยวข้อง Valve เปลี่ยนวิธีนับแต้ม DPC ส่งผลยังไงต่อการแข่ง DOTA 2? ใกล้กว่านี้ก็ไทยแล้ว! Valve ประกาศจัด Dota Pro Circuit 2018-2019 รอบแรกที่กัวลาลัมเปอร์  

ผู้ผลิตมีดโกน Gillette ปล่อยเคมเปญโฆษณาตัวใหม่ที่มีนักกีฬาอีสปอร์ต Alexey "Solo" Berezin จากทีมแข่งเกม DOTA 2 ของรัสเซีย Virtus.pro มาร่วมแสดงด้วย โดยจะเผยแพร่ผ่าน VK โซเชียลมีเดียของรัสเซีย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เล่นจากทีม Virtus.pro ได้เล่นโฆษณา ก่อนหน้านี้ไม่นาน RAMZES666 ก็เพิ่งได้เป็นตัวแทนแบรนด์ให้กับ Head & Shoulder ไปเหมือนกัน ที่แตกต่างกันก็คือ Gillette เป็นแบรนด์ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงอีสปอร์ตอยู่แล้ว ซึ่งทางบริษัทเองก็เคยจับมือกับ Team SoloMid และทีมใน Overwatch League อย่าง Boston Uprising รวมถึงยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับหลีก League of Legends ในประเทศบราซิลด้วย   ? @dotaSolo is the new face of Gillette commercial! pic.twitter.com/SisViyz87x — Virtus.pro (@virtuspro) 2 ตุลาคม 2561   ทั้งนี้การที่ทาง Gillette ดึงตัวผู้เล่นอย่าง Solo มาในครั้งนี้ก็แสดงว่าทางแบรนด์เองอยากขยายฐานการตลาดไปยังแฟนเกม DOTA 2 มากขึ้น ซึ่ง Virtus.pro ก็ถือเป็นทีมอันดับหนึ่งในภูมิภาค CIS จบการแข่งขัน DOTA 2 ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง The International 2018 (TI 8) ด้วยอันดับ 6 คว้าเงินรางวัลกลับไปได้ถึง 1.1 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 35 ล้านบาทไทย บทความที่เกี่ยวข้อง: RAMZES666 โปร DOTA 2 โผล่ในโฆษณาแชมพู Head & Shoulder ของรัสเซีย เมื่อสตรีมเมอร์ชื่อดัง “Ninja” โผล่ในโฆษณาของ Samsung Galaxy (ชมคลิป)    

Head & Shoulders ยี่ห้อแชมพูดังที่เป็นที่รู้จักกันดี ดึงตัว Roman "RAMZES666" Kushnarev โปรเพลเยอร์ DOTA 2 วัย 19 จากทีมอีสปอร์ตของรัสเซีย Virtus.pro มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassdor) ผ่านทางโซเชียลมีเดียของรัสเซีย VK โดยวิดีโอนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญใหม่และอยู่ในซีรีส์ Man Ultra product series ถือเป็นการก้าวสู่วงการ Esports ครั้งแรกของแบรนด์ ซึ่งวิดีโอก่อนหน้านี้ได้ดึง Daniyar Yekeussinov เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคมาเปิดตัวไปก่อน โดย RAMZES666 เล่าถึงประสบการณ์ในการเป็นแบรด์แอมบาสเดอร์ว่า "ผมรู้สึกดีใจที่ได้เป็นหน้าตาให้กับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Head & Shoulder ผมเรียนรู้จากประสบการณ์ว่า มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราไม่ยอมแพ้และพยายามไปเดินไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นในเกม หรือในชีวิตจริง" การนำผู้เล่นเกม DOTA 2 ชื่อดังอย่าง RAMZES666 มาเป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาก็เป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าวงการ Esports กำลังเติบโตขึ้น เพราะเริ่มมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เห็นว่าผู้เล่นในวงการเกมมีอิทธิพลมากพอที่จะส่งผลต่อการโน้มน้าวใจผู้บริโภค ในอนาคตต่อไปก็มีแนวโน้มเหมือนกันที่เราจะได้เห็นหน้าค่าตาของโปรเพลเยอร์ผ่านโฆษณา ไม่ใช่แค่ในฐานะนักแข่งเกม ทั้งนี้Virtus.pro เป็นหนึ่งในทีมที่เข้าร่วมการแข่งทัวร์นาเมนต์ The International 2018 ที่เป็นการแข่งประจำปีที่ใหญ่ที่สุด และมีเงินรางวัลมากที่สุดในโลกอีสปอร์ตถึง 25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 810 ล้านบาท) จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 6 ได้เงินรางวัลกลับบ้านไป 1,148,948 ดอลลาร์ หรือประมาณ 37 ล้านบาท https://www.youtube.com/watch?v=dFMQeUqVS28

ใกล้เข้ามาแล้ว กับเส้นตายในการลงทะเบียนชื่อผู้เล่นเข้าแข่งขันทัวร์นาเมนต์ Dota Pro Circuit 2018-2019 ที่จะหมดเขตในวันที่ 15 กันยายนนี้ ทว่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าทีม OpTic จะหาผู้เล่นมาเข้าแข่งขัน หลังจากปล่อยผู้เล่นชุดเก่าออกไปหมด ล่าสุดรองประธานฝ่ายอีสปอร์ตออกมาเปิดเผยว่า OpTic จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันในซีซั่นนี้ ข่าวร้ายของแฟนทีม OpTic มีที่มาจาก Reddit โดย Jacob Maelk Toft-Anderson รองประธานฝ่ายอีสปอร์ตของ OpTic เปิดเผยว่า มีโอกาสน้อยมากที่ทางค่ายจะทำทีม DOTA 2 ต่อในซีซั่น 2018 - 2019 "ตอนนี้เรายังไม่ได้เซ็นสัญญากับผู้เล่นคนไหน และยังไม่ได้มองเผื่อถึงอนาคตข้างหน้า" โดย Maelk ให้เหตุผลว่าหากจะมีทีมก็อยากให้เป็นทีมที่มีความสามารถในการเป็นแชมป์รายการแข่งขันได้ ไม่ได้อยากจะมีทีมแค่เพราะให้มีเอาไว้แข่งเฉยๆ "ตั้งแต่การแข่งขัน The International 2018 จบลง เราก็ทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาทีมที่สามารถทำให้พวกเราภาคภูมิใจได้ เราอยากได้ทีม DOTA 2 เฉยๆ แค่นั้นหรอ? คำตอบคือ ไม่ เราอยากได้ทีมที่สามารถเป็นแชมป์ได้ เราต้องการทีมที่เป็นตัวเราและมีฐานแฟนอยู่แล้ว" Maelk อธิบายเพิ่มเติม หลังจากจบอันดับที่ 7-8 ในการแข่งขัน DOTA 2 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก The International 2018 ทีม OpTic ตัดสินใจ ปล่อยผู้เล่นโปรเพลเยอร์เกมโดตา 2 ที่อยู่ในมือออกไปทั้งทีม ซึ่งได้แก่ Pajkatt, CC&C, 33, Zai และ PPD โดยได้โพสต์ข้อความผ่าน Twitter ว่า "เราอยากขอบคุณผู้เล่น 2017-2018 ที่ได้สร้างความทรงจำในการแข่ง TI เราหวังให้พวกเขาเจอกับสิ่งที่ดีที่สุดในการเดินหน้าแข่งขันทัวร์นาเมนต์ DPC ต่อไปในฐานะผู้เล่นของทีมอื่น"   https://twitter.com/OpTicGaming/status/1037354742635216897 เท่าที่ทราบตอนนี้คือ 33 เป็นสมาชิกทีมน้องใหม่อย่าง Shangri-La ส่วน Zai และ PPD ก็ไปเข้าร่วมกับทีมดังอย่าง Team Secret เป็นทื่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ทาง OpTic ก็เคยพยายามหาผู้เล่นมาแล้วตั้งแต่ทีมถูกคัดออกจาก TI 8 และก็ได้เจอผู้เล่นและไลน์อัพใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทว่าด้วยเหตุผลบางประการทำให้ตัวเลือกไลน์อัพดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้ ทาง OpTic จึงตัดสินใจรอโอกาสที่เหมาะสม ดีกว่าสร้างไลน์อัพที่ไม่ตรงกับความคาดหวังของ OpTic Maelk ยังยืนยันกับแฟนๆ ด้วยว่าทางสโมสรเองก็อยากให้มีทีม DOTA 2 และจะไม่ทอดทิ้งการแข่งขัน DOTA 2 อย่างแน่นอน "เราจะพยายามหาทางสร้างไลน์อัพที่ดีที่สุด ที่เหมาะสมกับ OpTic" รองประธานอีสปอร์ตของสโมสร OpTic กล่าว ทั้งนี้ OpTic เป็นสโมสรสัญชาติอเมริกัน นอกจากทีมแข่ง DOTA 2 แล้ว ยังมีผู้เล่นโปรเพลเยอร์ที่แข่งขันในเกม Call of Duty, Halo, Gears of War และ Fortnite ด้วย แม้จะถือว่าจะทำผลงานได้ไม่ค่อยประทับใจแฟนๆ เท่าไหร่ในการแข่งขัน The International 2018 เพราะทำอันดับได้ที่ 7 - 8 แม้ตอนแรกจะอยู่ในกลุ่มสายบน ทว่าดวงไม่ดีเจอ Team Liquid อดีตแชมป์เก่าปัดตกรอบลงไปอยู่สายล่าง ทว่าก็สามารถเอาชนะ Team Serenity ได้ แต่ก็ไปพ่ายให้กับทีมพี่หมี Virtus.pro จนตกรอบไป แต่ถ้าเทียบกับการแข่งขันระดับโลกและเป็นการแข่งขันอีสปอร์ตที่มีเงินรางวัลมากที่สุดแล้ว แบบนี้ก็ทำให้ทีม OpTic กอบโกยเงินไปได้ 638,304 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 20.8 ล้านบาท สำหรับแฟน DOTA 2 เร็วๆ นี้ทาง Vavle ได้ทำการเปลี่ยนแปลงกฎการแข่งขันและการนับแต้มของทัวร์นาเมนต์ DPC รวมถึงยังมีการจัดการแข่งขันรอบแรกที่กัวลาลัมเปอร์ด้วย

ถือว่ามีข่าวดีกันมาไม่หยุดไม่หย่อนสำหรับแฟนเกม DOTA 2 เมื่อล่าสุด Valve ประกาศจัดการแข่งโดต้า 2 ที่ชื่อว่า Dota Pro Circuit 2018-2019 รอบแรกที่กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดย Dota Pro Circuit (DPC) เป็นการจัดการแข่งขันเพื่อวัด Ranking ของเกม Dota 2 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมที่จะได้สิทธิเข้าไปแข่งในการแข่งขัน The International ในฐานะทีมรับเชิญ โดยมีการแข่งทั้งในรูปแบบของ Major และ Minor ใช้กฎเดียวกัน ทว่าทั้งสองแบบจะได้เงินรางวัลที่ต่างกัน หากเป็น Major มีเงินรางวัลเริ่มต้นคือ 500,000 USD และได้แต้ม DPC มากกว่า ส่วน Minor เริ่มต้นที่ 150,000 USD ซึ่ง Valve จะให้แต้มแก่ทีมที่ได้อันดับดีๆ ของแต่ละทัวร์นาเมนต์ ปกติแล้วทีมที่ได้แต้มมากที่สุดจำนวน 8 ทีมจะได้รับเชิญเจ้าไปแข่งใน The International ในฐานะทีมรับเชิญโดยตรง ไม่จำเป็นต้องไปแข่งรอบคัดเลือกให้เสียเวลา ซึ่งใน TI 8 ที่ผ่านมาก็ทำเช่นนั้น https://twitter.com/wykrhm/status/1037486310900953089 ทว่าปีนี้พิเศษกว่าปีไหนๆ เมื่อ Valve ทำให้การแข่ง Dota Pro Circuit 2018 - 2019 เข้มข้นขึ้นไปอีก เนื่องจากทีมที่ได้แต้มมากสุด 12 ทีมจะได้รับเชิญเข้าไปแข่งในงาน TI กล่าวคือมีทีมรับเชิญเพิ่มมาจากปีที่แล้วถึง 4 ทีมด้วยกัน ส่วนอีก 6 ตำแหน่งว่างที่เหลือ จะมาจากรอบคัดเลือกในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ อเมริกาเหนือ (NA), อเมริกาใต้ (SA) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA), ยุโรป (EU), จีน (CN) และ ประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS)   เงินรางวัล Prize Pool ในการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ Dota Pro Circuit 2018-2019 ที่กัวลาลัมเปอร์ครั้งนี้ มีเงินรางวัลรวมทั้งหมด 1,000,000 USD โดยแบ่งให้กับทีมที่ได้อันดับต่างๆ ดังนี้: อันดับที่ 1 ได้เงินรางวัล 350,000 USD อันดับที่ 2 ได้เงินรางวัล 170,000 USD อันดับที่ 3 ได้เงินรางวัล 100,000 USD อันดับที่ 4 ได้เงินรางวัล 80,000 USD อันดับที่ 5-6 ได้เงินรางวัล 60,000 USD อันดับที่ 7-8 ได้เงินรางวัล 40,000 USD อันดับที่ 9-12 ได้เงินรางวัล 15,000 USD อันดับที่ 13-16 ได้เงินรางวัล 10,000 USD แข่งกันเมื่อไหร่และที่ไหน รอบคัดเลือก 16-21 กันยายน รอบ Group Stage 09 - 12 พฤศจิกายน รอบ Playoffs 11 - 18 พฤศจิกายน รอบ Main Event 16 - 18 พฤศจิกายน (เปิดให้เข้าชมได้) การจองที่นั่งและตั๋วเข้าชม แม้ว่าในการแข่งขัน Major รอบนี้จะเปิดให้ผู้ชมสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์กันได้แค่ 3 วัน คือวันที่ 16 - 18 พฤศจิกายน 2018 ทว่าก็ยังถือว่าน่าตื่นเต้นมากๆ อยู่ดี สำหรับใครที่อยากไปชมด้วยตัวเอง ตั๋วจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้ Ancient : เป็นที่นั่งชั้นบน ไม่ได้ล็อคที่นั่ง สามารถเข้างานได้ทั้ง 3 วัน ราคา: 180 MYR ประมาณ 1,425 บาท Divine: เป็นที่นั่งชั้นล่าง ไม่ได้ล็อคที่นั่ง สามารถเข้างานได้ทั้ง 3 วัน ราคา: 330 MYR ประมาณ 2,600 บาท Immortal: เป็นที่นั่งระดับพรีเมี่ยม ที่นั่งจะต้องนั่งตามเลขที่กำหนด สามารถเข้างานได้ทั้ง 3 วัน โดยจะได้รับของที่ระลึกจำนวน 1 ถุง พร้อมสิทธิในการต่อแถว Meet & Greet กระทบไหล่คนดังแบบเร็วเป็นพิเศษ (Priority Lane) ราคา: 330 MYR ประมาณ 2,600 บาท แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลถูกปล่อยออกมามากเท่าไหร่ ทว่านี่ก็ถือเป็นการจัดแข่งขันโดต้า DOTA 2 ครั้งใหญ่ ดีกรีระดับสากล เปิดโอกาสให้แฟนเกมในภูมิภาค SEA ได้เป็นส่วนหนึ่งของทัวร์นาเม้นต์แบบใกล้ชิด หากใครสนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่  ทั้งนี้ในรอบ Dota Pro Circuit 2018 - 2019 จะไม่มีทีมที่ได้รับเชิญให้เข้าไปรอแข่งเหมือนกับปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ทุกทีมจะต้องผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วม Major ถือเป็นการเปลี่ยนระบบการเก็บ DPC เพื่อชิงตั๋วเข้าแข่ง TI 9 แบบอัตโนมัติไปมากเลยทีเดียว

PSG.LGD เพิ่งถูกประกาศว่าเป็นทีมที่ได้รับเชิญให้เข้าแข่งขันรายการ PVP Esports Championship เป็นทีมแรก ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดี ที่ตัวแทนทีมจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์จะได้มีโอกาสกระทบไหล่รองแชมป์ การแข่งขัน DOTA 2 ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อย่าง The International 2018 หรือ TI 8 ที่เพิ่งจบไป โดย Roster ในทีมก็ยังเป็นชุดเดิม ได้แก่ Ame, Somnus M, Chalice, fy และ xNova พร้อมกับโค้ช อย่าง QQQ การแข่ง PVP Esports Championship คืออะไร? PVP Esports Championship เป็นลีคแข่งเกม DOTA 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดขึ้นโดย Singtel Group ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มีเงินรางวัล Prize Pool กว่า 300,000 USD โดยในครั้งนี้งานจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 5-7 ตุลาคม 2018 ที่ Suntech Convention Centre ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยการแข่ง PVP Esports Championship นี้ มีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 5 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินเดีย และไทย ซึ่งแต่ละประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเฟ้นหาผู้ชนะที่เก่งที่สุดเสียก่อน ในประเทศไทยเราตอนนี้กำลังจัดแข่งอยู่ถึงรอบคัดเลือก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. - 6 ก.ย. 2018 ส่วนรอบที่เหลือมีตารางการแข่งขันดังนี้ รอบคัดเลือกออฟไลน์ : วันที่ 8-9 ก.ย. 2561 (แข่งออฟไลน์) ณ Mineski Infinity, รามคำแหง2 รอบชิงแชมป์ประเทศไทย : วันที่ 16 ก.ย. 2561 (แข่งออฟไลน์) ณ เซ็นทรัลเวิร์ล, Zen Event Gallery รอบชิงแชมป์โลก : วันที่ 5 - 7 ต.ค. 2561 (ที่ประเทศสิงคโปร์)   เงินรางวัลในไทย โดยในการแข่งบ้านเรามีเงินรางวัลให้กับทีมที่เข้าแข่งขันดังนี้ อันดับ 1 ได้เงินรางวัล 300,000 หรือ 9,012 USD อันดับ 2 ได้เงินรางวัล 100,000 บาท หรือ 3,004 USD อันดับ 3 - 4 ได้เงินรางวัล 50,000 บาท หรือ 1,502 USD อันดับ 5 - 8 ได้เงินรางวัล 25,000 บาท หรือ 751 USD งานนี้ต้องมาลุ้นกันยาวๆ ว่าทีมไทยทีมไหน ที่จะครองความเป็น 1 ในประเทศ แล้วได้โอกาสไปเข้าแข่งขันกับทีมฝีมือระดับเทพอย่าง PSG.LGD อดีตรองแชมป์งาน TI 8 แล้วยังต้องมาลุ้นกันอีกว่าใครจะได้เป็นสุดยอดทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม DOTA 2 ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และคว้าเงินรางวัลกว่า 300,000 USD หรือราวๆ เกือบ 10 ล้านบาทไทย หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ สามารถรับชมการแข่งขันในไทยที่ AIS เป็นเจ้าภาพได้ที่ทุกช่องทางของ AIS และ Cyber Clasher  ส่วนใครที่เป็นแฟนเกมแล้วอยากไปดูการแข่งกับตาตัวเอง สามารถซื้อตั๋ว PVP Esports Championship ได้ที่นี่

ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Valve เปิดเผยว่าแม้ TI 8 ทัวร์นาเม้นต์แข่งขัน DOTA 2 ปีล่าสุด จะมียอดชั่วโมงการรับชมพุ่งสูงกว่า TI ครั้งไหนๆ ทว่าการรับชมสูงสุด (วัดจากจำนวนผู้รับชมสูงสุดในหนึ่งวินาที) ลดลงจาก TI 7 ที่จัดขึ้นในปีก่อน ตลอดที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 15 - 25 สิงหาคม ที่ TI 8 ได้ถูกจัดขึ้น ยอดการรับชมผ่าน Twitch พุ่งสูงถึง 41.7 ล้านชั่วโมง เพิ่มขึ้นจากทัวร์นาเม้นต์ปีก่อนถึง 12.6% ซึ่งยอดรับชมส่วนมากมาจากช่องภาษาอังกฤษ ทั้งนี้นี่ยังเป็นตัวเลขที่วัดจากช่องทาง Twitch เท่านั้น ยังไม่รวมถึงการชมผ่านช่องทางอื่นๆ เช่น ช่อง Twitch ของแคสเตอร์ DOTA 2 โดย Concurrent Viewers หรือจำนวนการรับชมสูงสุดในหนึ่งวินาทีของ TI8 ปีนี้มียอดอยู่ที่ 630,000 คน ลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 8% อาจเป็นไปได้ว่าเป็นผลมาจากการที่ Valve เผยแพร่การแข่งขัน TI 8 ผ่าน Steam.tv ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้เป็นปีแรก ทั้งนี้แม้การแข่งขัน TI 8 จะจบลงไปแล้ว ทว่าทาง Valve ประกาศทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า TI 9 ปีหน้าจะจัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ถือเป็นโอกาสดีสำหรับแฟนเกม DOTA 2 ชาวไทยรวมถึงภูมิภาคเอเชีย ที่จะได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การแข่งขัน ESPORTS ระดับโลก

สำหรับแฟนเกม DOTA 2 ที่ไม่มีเวลารับชมการแข่งขัน The International 2018 (TI 8) รอบ Main Stage Day 5 วันนี้ GameFever TH มีสรุปเหตุการณ์ในแต่ละแมทช์ มาฝากเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเก็บตกแต่ละแมทช์กันเลย!   5 อันดับฮีโร่ที่ถูกเลือกมากที่สุดประจำวัน Dark Willow (โดนเลือก 3 ครั้ง) Storm Spirit (โดนเลือก 3 ครั้ง) Earthshaker (โดนเลือก 3 ครั้ง) Wraith King (โดนเลือก 3 ครั้ง) Pugna (โดนเลือก 3 ครั้ง) คู่แรก – Lower Bracket | Secret VS Liquid | แต้ม: 2-0 ฮีโร่เกมแรก: Secret - Broodmother, Earth Spirit, Winter Wyvern, Bloodseeker และ Batrider Liquid - Chen, Necrophos, Earthshaker, Storm Spirit และ Alchemist เกมแรก MinD_ContRoL สามารถเก็บ First Blood ไปได้ก่อนในนาทีที่ 1 หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็มีต่อสู้กันบ้างประปรายภายในเลนของตัวเอง แต่ช็อตที่เด็ดคือจังหวะที่ offlane สุดโหดของ Liquid โดน YapzOr และ MidOne ไล่ฆ่า เขาก็สามารถดึงเกมปลิดชีพ MidOne ไปได้เหมือนกัน แลกกันไป 1-1 ในนาทีที่ 10 ระหว่างที่กำลังบวกกันอยู่ Miracle- ที่มีเลือดเหลืออยู่ติ่งเดียวก็สามารถเก็บ 2 ผู้เล่นจากฝั่งตรงข้ามไปได้ เรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มเทพออกมาให้เห็น ทว่าต่อมาไม่ถึง 2 นาที Miracle- กำลังจะเก็บ Fata ทว่ากลับโดน MidOne เข้ามาซ้อน และ Fata เป็นฝ่ายล้างแค้นไปได้บ้าง แม้จะมีการสู้กันเป็นระยะๆ แต่รูปเกมก็ไม่ได้ขาดมาก ช่วง 22 นาที Liquid เป็นฝ่ายนำทั้งแต้มคิลและโกล ทว่าพอมาเป็นนาทีที่ 28 Secret ก็ดึงเกมกลับมาเป็นของตัวเองได้ สกอร์ 21-23 จนกระทั้งนาทีที่ 33 ฝั่ง Liquid เก็บผู้เล่น Secret ไปได้รวดเดียวถึง 4 คน และเริ่มบุกขึ้นบ้านศัตรูอีกรอบ นาทีที่ 44 Liquid ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่หน้าบ้าน Secret มีสกอร์นำ 31-23 และโกลด์นำถึง 15k ถือว่าค่อนข้างได้เปรียบ เก็บ Barrack กลางไปได้แบบไม่ยากเย็นเท่าไหร่ อัด Secret จนเละ พร้อมตี Barrack ล่างต่อ จนในที่สุด Fata เริ่มตั้งตัวได้ เก็บ Triple Kill จาก Liquid ไปได้ ทว่าก็สายไป ในเมื่อนาทีที่ 51 ทีม Secret รับการรุกจากอีกฝ่ายอย่างหนัก โดนนำอยู่ 39-27 เงิน Liquid นำ 31 k ที่สำคัญคือโดนเก็บหมดทีมและไม่เหลือซื้อเกิดแล้วจนต้อง GG ยอมรับชะตากรรมแล้วเริ่มใหม่ในเกมที่สอง   ฮีโร่เกมสอง: Secret - Wraith King, Dark Willow, Winter Wyvern, Broodmother และ Invoker Liquid - Chen, Phantom Lancer, Lina, Monkey King, Pugna KuroKy กัปตัน Team Liquid เป็นฝ่ายเก็บ First blood จาก Fata ไปได้ในช่วงที่เกมเริ่มยังไม่ถึง 1 นาที ทว่าหลังจากนั้นรูปเกมก็คงไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ Liquid มักจะได้คิลนำไปก่อน 2 ตัวเสมอ ทว่าฝ่าย Secret เองก็มีเงินที่มากกว่าเป็นต่อ ต้องบอกว่าเกมเริ่มมาเป็นของ Liquid มากขึ้นก็ตรงช่วงนาทีที่ 14 ที่ MATUMBAMAN เก็บ Triple Kill พร้อมกับได้รับฉายา Killing spree ส่วน KuroKy ก็ได้ Double Kill กลับบ้านไปเช่นกัน ต่อมาช่วงนาทีที่ 23 ในขณะที่ฝ่าย Liquid กำลังง่วนอยู่กับการตี Roshan ด้าน Secret ก็เปิดสกิลเข้ามาเบี่ยงเบนความสนใจ MATUMBAMAN เลยจัดให้สวยๆ เก็บ Puppey และ YapzOR นอกจากนี้ Miracle- ก็เก็บ Fata ไปได้อีก ทำให้ Secret โดนคิลไป 4 ตัวติดๆ กัน นาทีที่ 27 ด้าน Liquid ค่อนข้างเป็นต่อ คิลและเงินขึ้นนำ 10k ทั้ง Miracle- และ MATUMBAMAN ยังโชว์ฟอร์มดุไม่หยุด พอฆ่า Fata ได้ MATUMBAMAN ก็ได้ Monster Kill (ฆ่าติดต่อกัน 8 ตัวโดยไม่ตาย) ไปครอง แสดงถึงความห่างของเกมได้พอสมควร ซึ่งตอนนั้นฝั่ง Secret เหลือฮีโร่ที่รอดชีวิตเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น พอนาทีที่ 39 Liquid บุกบ้าน Secret ทำลาย Barrack บน ช่วง 41 นาที MATUMBAMAN ได้ฉายา beyond GODLIKE ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากที่โดนคิลกันยกแก๊งค์ในนาทีที่ 42 ทาง Secret ก็ "GG" ขอหยุดเกมและจบการแข่งแต่เพียงเท่านี้ Liquid มีสกอร์นำอยู่ 38-18 และเงินนำถึง 40k [caption id="attachment_4092" align="alignnone" width="1024"] Puppey และ KuroKy กอดกันแสดงพลังมิตรภาพ[/caption] ถือเป็นคู่ที่แสดงพลังมิตรภาพระหว่างกัปตันทีม Liquid ที่สามารถผ่านเข้าไปแข่งรอบต่อไปของ TI8 กับกัปตัน Secret อย่าง Puppey ซึ่งทั้งสองคนนี้เคยเป็นเพื่อนซี้และเป็นเพื่อนร่วมฝันเดียวกันมาก่อน ซึ่งในตอนจบเกมที่นักกีฬาจะต้องเดินมาจับมือกัน สองคนนี้ได้สวมกอดกันด้วย เป็นช็อตที่น่าประทับใจจริงๆ   คู่ที่สอง – Upper Bracket | PSG.LGD VS OG | แต้ม: 1-2 ฮีโร่เกมแรก: (OG ชนะ) PSG.LGD - Weaver, Drow Ranger, Winter Wyvern, Witch Doctor และ Huskar OG - IO, Gyrocopter, Enchantress, Pugna และ Wraith King เปิดเกมมา OG ได้ First Blood ไปก่อน โดยแทบจะตลอดทั้งเกมแรก OG เป็นฝ่ายเป็นต่อ มีคิลและโกลด์นำอยู่เรื่อยๆ แม้ช่วงนาทีที่ 38 สกอร์จะนำอยู่ 32 : 43 ทว่าเงินกลับนำแค่ 2k เท่านั้น ทว่าต่อมาไม่นานในนาทีที่ 44 OG กลับมีเงินนำถึง 11k ในระหว่างทีมไฟท์ LGD เป็นฝ่ายเก็บ N0tail ไปได้ก่อน แต่ Ceb ก็มาล้างแค้นด้วยการฆ่า xNova ให้ ซึ่งเข้าก็ซื้อเกิดกลับมาแทบจะทันใด ทั้งสองยังคงนัวกันอยู่ Topson (OG) เก็บ Somnus ได้ ฝั่ง Chalice ก็เก็บ ana (OG) ได้เช่นกัน ต่างคนต่างสาหัสจนตัดสินใจที่จะพอกับศึกครั้งนี้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ในช่วง 45 นาที Topson โชว์ฟอร์มดุ เก็บ Ame ด้วยกันคิลเพียงไม่ถึง 2 วิ ทำเอาแฟนๆ ร้องก้องสนามแข่ง ต่อมานาทีที่ 48 DOTA PLUS ทำนายว่า OG มีโอกาสชนะถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนั้น OG ก็กำลังขึ้นบ้าน LGD อยู่ ไล่เก็บป้อม Barrack และฮีโร่ฝั่งศัตรู จนในที่สุด LGD ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เห็นว่าฮีโร่ทั้ง 2 ตัวที่เหลืออยู่ช่วนกันบ้านไม่ได้ ตัดสินใจ "GG" จบที่นาที 48 สกอร์ 36 : 52 โดน OG มีโกลด์นำ 25k   ฮีโร่เกมสอง: (PSG.LGD ชนะ) PSG.LGD - Enchantress, Earthshaker, Crystal Maiden, Storm Spirit และ Clinkz OG - Silencer, Bloodseeker, Lina, Magnus และ Invoker ไม่น่าเชื่อว่าเปิดเกมมาแค่ 12 วินาที Chalice จาก LGD สามารถเก็บ Firt Blood จาก ana ไปได้แล้ว ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าช่วงต้นเกมเป็นของ LGD จริงๆ ทว่าพอช่วง 21 นาที OG กลับไล่สกอร์ขึ้นมาเท่ากันเป็น 17:17 ในนาทีที่ 26 มีช็อตสวยๆ คือ LGD กำลังตีป้อมในเลนกลางของ OG โดย Ame ก็ได้ป้อมไปตามใจอยาก ทว่าแลกกับ Topson ที่สามารถเก็บ fy ไปได้ ซึ่ง LGD ก็ไม่ยอม ไล่ทุบ Topson คืน ต่อด้วย Ana และ JerAx กวาดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามไปรวดเดียวได้ 4 คน จนกระทั่งผ่านไป 30 นาที PSG.LGD ก็สามารถเก็บ Roshan ได้ โดยให้ Somnus เป็นคนถือ Aegis ต่อด้วยการไล่ล่า ฆ่า ana, Ceb ไปเป็นของแถม ซึ่งผู้เล่น LGD ก็ยังฟอร์มดีไม่มีตก บุกขึ้นบ้านพร้อมเก็ม Topson, ana, JerAx ไปได้ ทว่าที่มันส์ไปยิ่งกว่านั้นคือจังหวะที่ OG ไม่ยอมแพ้ใช้สกิลผลัก Chalice และ Somnus เข้าจุดเกิดของทีมตัวเองจนล้างแค้นได้สำเร็จ ปิดตำนานนักฆ่าจีนไปได้พร้อมกันถึง 2 คน ผ่านไป 36 นาที LGD มีสกอร์นำอยู่ 26 : 40 เงินนำ 21k พร้อมกำลังบุกขึ้นบ้านใหม่อีกรอบ เก็บป้อมบนและ Barrack ไปได้ OG พยายามอย่างหนักในการป้องกันบ้าน ทว่ายังไงก็สู้ไม่ไหว หลังจากโดนเก็บยกแก๊งแล้วไม่มีใครสามารถซื้อเกิดได้ก็ตัดสินใจยอมแพ้ จบเกมที่นาทีที่ 36   ฮีโร่เกมสาม: (OG ชนะ) PSG.LGD - Enchantress, Terrorblade, Bane, Clockwerk และ Mirana OG - Spectre, Silencer, Earthshaker, Pugna และ Arc Warden ต้นเกม LGD ยังคงมาเข้ม เก็บ First blood ไปได้อีกตามเคย ด้วยฝีมือของ Chalice ผ่านไป 15 นาทีมีเงินนำ 7k สกอร์อยู่ที่ LGD นำ 6 : 15 เกมเพิ่งจะเริ่มกลับมาเป็นของฝั่ง OG ได้ก็ช่วง 22 ที่สามารถลดช่องว่าของสกอร์ลงได้ นอกจากนี้ในช่วง 26 นาที DOTA PLUS ทำนายเอาไว้ด้วยว่า OG มีสิทธิ์ชนะเกมนี้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าสกอร์จะยังโดนนำอยู่ ทว่าเงินกลับห่างกันไม่ถึง 1k ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการจะดึงเกมกลับมา ทว่าแฟนๆ ของ OG ก็อาจจะกังขาในคำทำนายของ DOTA PLUS เมื่อผ่านไป 54 นาที LGD ยังคงเป็นฝ่ายนำอยู่อย่างเห็นได้ชัด จากสกอร์ 25 : 36 และเงินก็นำอยู่ถึง 13k นอกจากนี้ก็ยังบุกขึ้นบ้าน OG เก็บ ana ไปได้ ซึ่งตอนนั้น OG เหลือฮีโร่กันบ้านอยู่แค่ 2 ตัว และมีเพียงแค่ 2 คนที่ยังสามารถซื้อเกิดได้ เรียกได้ว่าเหตุการณ์อยู่ในขั้นวิกฤตแบบสุดๆ ซึ่งตอนนั้นเสียงตะโกนเชียร์ LGD เองก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม ในขณะที่ LGD พยายามจะจบเกมด้วยการตีบ้านใหญ่ ด้าน OG ก็สามารถเก็บ LGD ไปได้เหมือนกัน แต่ LGD เห็นว่านี่เป็นโอกาสที่สำคัญในการจะจบเกม เลยซื้อเกิดแล้ววาปมาบวกต่อแบบรัวๆ พอเล่นกับไฟ เลยโดนไฟเล่นกลับ OG สวนด้วยการไล่คิลผู้เล่นฝั่งตรงข้ามแบบไม่ยั้ง ซึ่งในนาทีที่ 56 LGD เหลือฮีโร่กันบ้านอยู่แค่ตัวเดียวคือ Enchantress ที่เหลือคือต้องรอเกิด เวลาต่ำสุดก็คือ 57 วินาที เรียกได้ว่าโดนสวนแบบไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ ขนาดนาทีที่ 57 DOTA PLUS ก็ยังทำนายว่า OG มีโอกาสชนะเพียง 48 เปอร์เซ็น แต่ด้วยผู้เล่นที่เหลืออยู่เพียงสองคนไม่สามารถต้านทานการสวนกลับที่ดุดันของฝั่ง OG ได้ เสียงเชียร์แฟน OG โห่ร้องดีใจเสียงดังไปทั่วทั้งสนาม จนในที่สุด OG ก็ตีป้อมแตกพินาศ ชิงตั๋วเข้าไปรอรอบ Grand Final ได้สำเร็จ!   คู่ที่สอง – Lower Bracket | EG VS Liquid | แต้ม: 2-0 ฮีโร่เกมแรก: EG - Weaver, Ursa, Lich, Storm Spirit และ Dark Willow Liquid - IO, Enchantress, Ogre Magi, Venomancer และ Chaos Knight Liquid เริ่มต้นเกมได้สวยจากการเก็บ s4 ผู้เล่นฝั่ง EG แล้วได้ First blood ไปก่อน ทั้งสองฝ่ายพลัดกันได้คิล แม้จะผ่านไป 30 กว่านาทีทว่าสกอร์ยังอยู่ที่ 20 : 22 แถมโกลด์ยังห่างกันไม่ถึง 1k เสียด้วยซ้ำ ช่วง 42 นาที EG ขึ้นนำ 31 : 27 โกลด์นำอยู่ 9k ในขณะที่ Liquid กำลังตี Roshan อยู่นั้น SumaiL ผู้เล่นตัวจี๊ด (Storm Spirit) ก็พุ่งเข้ามากลางวง ขัดจังหวะการเก็บ Aegis พร้อมกับคิล GH ตัวซัพฝั่ง Liquid ไปได้อย่างสวยงาม ด้าน Arteezy ก็เก็บ MinD_ContRoL ไปได้เช่นกัน ในระหว่างที่ทุกคนกำลังถอยออกจากการต่อสู้ SumaiL ซื้อเกิดและพุ่งเข้ามากลางวง Liquid ทำให้ EG ขาขึ้น s4 เก็บ MATUMBAMAN ไปได้ ส่วน SumaiL เองก็เก็บกัปตันทีม Liquid ไปได้เช่นกัน ด้วยการช่วยเหลือของผองเพื่อน SumaiL ก็สามารถกำจัด Miracle- ได้ แม้ Miracle- จะซื้อเกิดกลับมาแล้วกำลังไล่ล่า Fly ทว่า SumaiL ก็เข้ามาขวาง ทำให้ Fly รอดทว่าตัวเองกลับต้องสังเวยชีวิตแทน ถือเป็นช็อตเด็ด โดต้าดังที่ดูไปแล้วนั่งตัวเกร็งอยู่เหมือนกัน ต่อมาในนาทีที่ 55 EG มีโกลด์นำอยู่ 10k SumaiL ทีมโชว์แก๊งค์ เก็บ GH (IO) ไปได้ นอกจากนี้ Arteezy ยังเก็บ Miracle- ไปได้อีกต่อ ทำให้ทีมมีเงินขึ้นนำถึง 25k ภายในพริบตาเดียว หลังจากเล่นกันมานานกว่า 62 นาที ในที่สุด EG ก็ไล่เก็บ Liquid ไปได้ถึง 4 ตัว พอช่วง 63 นาที EG มีเงินนำมากถึง 38k ทั้งๆ ที่คิลนำอยู่เพียงแค่ 10 ตัวเท่านั้น สถานการณ์ถือว่าได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด ทางด้าน Liquid เหลือผู้เล่นกันบ้านเพียงแค่ 2 คน คือ MinD_ContRoL และ Miracle- แล้วทั้งสองคนก็ซื้อเกิดกลับมากันบ้านต่อ สุดท้ายโดน Sumai1 พุ่งเข้าไปแล้วจับเอาไว้ให้เพื่อนมารุมคิล โดนเก็บหมดทั้งทีม นอกจากนี้ Barrack ทั้งสามทางก็แตกหมดแล้ว มีเงินขึ้นนำ 50k แม้ GH และ KuroKy จะเกิดทัน ทว่าก็ตัดสินใจยุติเกมลงเพียงเท่านี้ จบเกมที่นาที 64 สกอร์ 53 : 40   ฮีโร่เกมสอง: EG - Wraith King, Dark Willow, Spectre, Lich และ Timbersaw Liquid - Vengeful Spirit, Natures Prophet, Brewmaster, Terrorblade และ Viper EG ฟอร์มดุตั้งแต่ต้นเกม เมื่อช่วง 0:30 วินาที สามารถเก็บกัปตันทีม KuroKy ได้ First Blood ออกนำไปก่อน ซึ่งเกมนี้ก็เป็นอีกเกม ที่ทั้งสองทีมคุมเชิงกันอยู่ แถมฝีมือยังสูสีกันมาก สกอร์คะแนนไล่ตามกันมาติดๆ โดยนาทีที่ 22 มีสกอร์เท่ากันเลยคือ 15:15 ทาง Liquid มีเงินนำเพียง 1k เท่านั้น ทว่าต่อมาไม่นาน EG ก็ค่อยๆ เริ่มเก็บ Miracle- ไปก่อน ตามด้วย GH, MATUMBAMAN และ MinD_ContRoL ทำให้ Liquid เริ่มโดนทิ้งห่างจากการเสียฮีโร่ไปพร้อมกัน 4 ตัวในครั้งนี้ ต่อมาในขณะที่ Liquid กำลังตี Roshan กันอยู่ Fly และ SumaiL ที่กำลังดูเชิงก็โดน Liquid เห็นแล้วเปลี่ยนมาพุ่งเป้าไปที่การเก็บฮีโร่ฝั่งตรงข้ามแทน Aegis ทว่าแม้ Miracle- จะเก็บ s4 ไปได้แต่ Arteezy และ SumaiL ก็กำจัด KuroKy และ GH ไปได้เหมือนกัน และหลังจากนั้นอีกไม่นาน MATUMBAMAN และ Miracle- ก็สังเวยชีวิตให้กับความดุของ EG พร้อมตี Roshan ต่อ เก็บ Aegis ไปได้อีกด้วย EG ยังสำแดงฤทธิ์ต่อไปด้วยการตีป้อมและ Barrack กลาง ด้าน MinD_ContRoL พยายามเข้ามาขวางทว่าก็โดน Cr1t- เก็บไปได้ แม้ Liquid จะเหลือผู้เล่นอีก 2 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากมอง EG ตีบ้านของตนเอง จน Barrack ล่างแตกไปอีกเหมือนกัน ในช่วง 33 นาที เกมตกเป็นของฝั่ง EG อย่างเห็นได้ชัด ไล่ซัด Liquid บนบ้านของฝ่ายตรงข้ามแบบรัวๆ Arteezy ได้ Godlike พร้อมกับเก็บ Triple Kill ไปได้อย่างสวยงาม ไม่ว่าจะซื้อเกิดกลับมากี่ครั้งฝั่ง Liquid ก็ยังคงโดนไล่เก็บตลอด จนในที่สุดก็ยอม "GG" ปิดฉากความหวังในการป้องกันแชมป์ TI8 ไปอย่างน่าเสียดาย   [caption id="attachment_4079" align="alignnone" width="960"] Cr.Wykrhm Reddy[/caption]   สรุป: Secret ตกรอบไปตอนที่แข่งกับ Liquid จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 5-6 ได้เงินรางวัล กลับบ้านไป 1,139,484 USD หรือประมาณ 37 ล้านบาทไทย Liquid ต้องจบความหวังของทีมที่จะป้องกันตำแหน่งแชมป์ TI8 ไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยการพ่ายให้กับ EG จบการแข่งที่อันดับ 4  ได้เงินปลอบใจ 1,772,531 USD หรือเกือบ 58 ล้านบาทไทย แม้ PSG.LGD จะพ่ายให้กับ OG ทว่าก็ยังอยู่ในการแข่งขัน ต่อไปจะต้องเจอกับ EG เพื่อแย่งกันเข้าสู่รอบ Grand Final หากใครชนะจะได้ไปแข่งกับ OG แย่งชิงตำแหน่งแชมป์ TI8 OG เข้าไปรอแข่งในรอบ Grand Final หากชนะจะได้เงินรางวัลประมาณ 363 ล้านบาทไทย!   >> ใครที่พลาดไม่ได้ดูรอบ Main Stage Day 4 ย้อนกลับไปอ่านกันได้นะจ๊ะ << >> ใครที่เป็นแฟน Team Liquid สามารถเข้าไปอ่านประวัติของทีมกันได้เลย <<  

สำหรับแฟนเกม DOTA 2 ที่ไม่มีเวลารับชมการแข่งขัน The International 2018 (TI 8) รอบ Main Stage Day 4 วันนี้ GameFever TH มีสรุปเหตุการณ์ในแต่ละแมทช์ มาฝากเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปเก็บตกแต่ละแมทช์กันเลย!   3 อันดับฮีโร่ที่ถูกเลือกมากที่สุด Mirana (4 ครั้ง) Necrophos (4 ครั้ง) Clinkz (4 ครั้ง) คู่แรก – Lower Bracket | OpTic Gaming VS Virtus.pro | แต้ม: 1-2 ฮีโร่เกมแรก: (OpTic ชนะ) OpTic - Bane, Necrophos, Clinkz, Elder Titan และ Huskar VP - IO, Gyrocopter, Oracle, Dragon Knight และ Enchantress ช่วงต้นเกมทั้ง OpTic และ VP พยายามเล่นกันแบบเซฟๆ เพิ่งจะมาเก็บ First Blood กันได้ก็ตอนนาทีที่ 5 โดย 9pasha ทั้งสองฝั่งสู้กันอย่างสูสี นาทีที่ 16 แต้มคิลอยู่ที่ 4:6 เงินต่างกันแค่ 1k ระหว่างที่ No[o]ne กำลังฟาร์มครีปป่าอยู่นั้น ทาง OpTic ก็ได้เข้ามาเก็บคิลไปได้ ต่อด้วย 9pasha แต่แต้มก็ยังไม่ห่างกันมากอยู่ดี OpTic พยายามรุก VP อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่กำลังจะไล่เก็บ 9pasha อีกรอบ RodjER เพื่อนร่วมทีมที่เล่น IO ก็เข้ามาช่วยให้รอดจาก OpTic เมื่อเติมเลือดได้พอหายใจหายคอคล่องแล้วก็หันกลับไปสวน เก็บ Peterpandam ของอีกฝั่งไปได้อย่างสวยงาม ฝั่ง VP สังเวยด้วยชีวิตของ Solo และ RodjER ในที่สุด OpTic ก็เก็บ RAMZES666 และ No[o]ne จน VP เหลือผู้เล่นอยู่แค่คนเดียว คิลขึ้นนำ 16:9 เงินเป็นต่ออยู่ 7 k นาทีที่ 29 OpTic มาบุกถึงบ้านของศัตรู แม้จะดูเพลี่ยงพล้ำไปในตอนแรกทว่ากลับพลิกสถานการณ์ขึ้นมาได้ ทว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก จนเมื่อ VP รวมกลุ่มออกตระเวนป่า เจอกับ 33 ของ OpTic สามารถฆ่าไปได้ แต่ 33 ไม่ยอมแพ้ ซื้อ Buyback กลับมาบวกต่อ แม้ VP จะเก็บ Peterpandam ไปได้ แต่เขาซื้อเกิด หลังจากนั้น OpTic ก็เป็นฝ่ายทิ้งห่าง เก็บ VP ไปได้ 3 ตัวรวด จนทั้ง Pajkatt และ CCnC ได้ฉายา beyond GODLIKE ด้าน VP ตัดใจ พิมพ์ "GG" เพื่อยอมแพ้ในที่สุด จบเกมที่ 31 นาที สกอร์ 23:12 มีโกลด์นำ 15k   ฮีโร่เกมสอง: (VP ชนะ) OpTic - Vengeful Spirit, Drow Ranger, Jakiro, Alchemist และฺ Batrider VP - Tiny, Dark Willow, Bane, Broodmother และ Bloodseeker เกมที่ 2 OpTic เป็นฝ่ายเก็บ First Blood ไปได้ก่อน พอนาทีที่ 6 ทีมไฟท์เริ่มเข้มข้นขึ้น 9pasha ของ VP สามารถเก็บ Double kill ไปได้ พอนาทีที่ 18 VP เริ่มทิ้งห่าง OpTic มีสกอร์คิลนำโด่งเป็น 21:9 และยังไล่หวดฮีโร่อีกฝั่งเรื่อยๆ โดย 9pasha ยังมีฟอร์มที่ดุดัน กำจัด zai ไปได้ ต่อด้วย RAMZES666 ที่ฆ่า Pajkatt และ CCnC จนในที่สุดก็สามารถกวาด OpTiC ไปพร้อมกันได้ยกแก๊งค์ นาทีที่ 24 ทาง VP มีเงินนำอยู่ 10 k คิลขึ้นนำเป็น 28:9 แม้ฝั่ง OpTic จะเก็บ RodjER ที่หลงฝูงอยู่ได้ ทว่าก็โดนเอาคืน โดย 33 เป็นผู้สังเวยชีวิตคนแรก ตามด้วย Peterpandam และ zai ซึ่งคนที่เก็บ Triple Kill ในครั้งนี้ไปได้ก็คือ RAMZES666 นั่นเอง ในที่สุด Kill Steak ติดต่อกัน 7 ตัวของ RAMZES666 ก็จบลงที่นาทีที่ 28 ที่ VP ไปบุกถึงบ้านของ OpTic ทั้งสองฝ่ายบวกแลกกันจน VP โดนเก็บไป 4 ตัว ลดช่องว่างระหว่างเงินของทั้งสองทีมลงมา พอบวกกันต่อในช่วง 31 นาที ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้ ซื้อเกิดเพื่อจะกลับมาพลิกโอกาสให้เป็นของฝั่งตน ระหว่างที่ VP กำลังเก็บ Roshan ก็ถูก OpTic เข้ามาแจม VP เลยบุกหนัก จัดเต็ม ล้างบาง OpTic คิลผู้เล่นได้ถึง 4 ตัว แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนอีก 2 นาทีต่อมา (นาทีที่ 35) VP บุกบ้านจัดการ Barrack เรียบ และต้องบอกว่า OpTic พยายามจนหยดสุดท้าย จนถึงนาทีที่ 42 จนสู้ไม่ไหวแล้วจบเกมที่สกอร์ 62:24 เงิน VP นำอยู่ 31k   ฮีโร่เกมสาม: (VP ชนะ) OpTic - Ursa, Bane, Clinkz, Undying และ Lina VP - Dark Willow, Wraith King, Tiny, Natures Prophet และ Necrophos เกมที่สามเป็นเกมที่ค่อนข้างช้า เพราะสองเกมแรก ทั้งสองทีมผลัดกันชนะกันไปคนละเกม ผ่านไป 15 นาทีแต้มคิลอยู่ที่ 10:9 และ DOTA PLUS ทำนายว่า OpTic มีโอกาสชนะ 51 เปอร์เซ็นต์ ถึอว่าใกล้เคียงกันมาก ส่วนจังหวะที่กลายมาเป็นจุดผลิกผันของเกมคือช่วง นาทีที่ 16 ที่มีการแก๊งค์เกิดขึ้น 9pasha ของ VP สามารถเก็บ Triple Kill ไปได้ ส่วน RAMZES666 ก็ได้ double kill ไป ทำให้แต้มนำเป็น 16:12 อีกหนึ่งทีมไฟท์ที่สำคัญคือช่วงนาทีที่ 24 VP กำลังบุกขึ้นบ้านของ OpTic มีโกลด์นำอยู่ 12k พร้อมเก็บ Barrack เลนกลางไปได้ ด้าน OpTic พยายามป้องกันและสู้กลับ ปิดตำนานการฆ่าติดต่อ 5 ตัวโดยไม่ตายของ No[o]ne ฝั่ง VP ไปได้ ทว่า RAMZES666 ก็ไล่เก็บจนได้ฉายา meka kill เก็บฮีโร่ฝั่ง OpTic ไปได้ 3 ตัว นาทีที่ 25 No[o]ne ผู้เล่นฝั่ง VP กด Lakad Matataaaag! Normalin Normalin แบบรัวๆ เป็นสัญญานบอกให้เพื่อนบุกขึ้นบ้าน ทะลวงจนอีกฝ่ายกด GG ยอมแพ้ จบเกมที่นาที 25 และได้ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ในที่สุด   คู่ที่สอง – Lower Bracket | VGJ.S VS Secret | แต้ม: 0-2 ฮีโร่เกมแรก: VGJ.S - Wraith King, Mirana, Undying, Keeper of the Light และ Templar Assassin Secret - Clinkz, Silencer, Earthshaker, Necrophos และ Meepo ตั้งแต่เปิดเกมมาทีม Secret สามารถเก็บ First Blood ไปได้ก่อน ทว่าต่อมาไม่นาน Resolut1on ผู้เล่นของ VGJ.S ก็พุ่งเข้ามาเก็บ Puppey ของ Secret ไปทั้งๆ ที่ตอนนั้นอยู่คนเดียวและต้องเผชิญหน้ากับฝั่งตรงข้ามถึง 3 คน เป็นอีกช็อตหนึ่งที่ได้โชว์ฝีมือให้แฟนๆ เห็น ในช่วง 13 นาที การต่อสู้ระหว่างสองฝั่งยังคงมีมาเรื่อยๆ และยังไม่มีใครนำห่าง แต้มคิลอยู่ที่ 5 ต่อ 4 ส่วนเงิน Secret นำไปไม่ถึง 2k หลังจากนั้น Secret ก็กำจัด VGJ.S ไปได้ถึง 3 คนพร้อมกัน และเริ่มตระเวนไล่เก็บผู้เล่นฝั่งตรงข้ามจากเลนต่างๆ จนนาทีที่ 20 Secret มีแต้มนำไป 14 : 4 เงินนำอยู่ 12k และเริ่มนำโด่งขึ้นไปจากการเอาชนะในการต่อสู้แบบทีม ถือว่าฟอร์มการเล่นดีไม่มีตก เมื่อนาทีที่ 31 ผู้เล่นตัวเด็ดจากฝั่ง Secret อย่าง MidOne สามารถฆ่าฮีโร่ฝ่ายศัตรูติดต่อกันได้โดยไม่ตายถึง 9 ตัว ได้ฉายา Godlike ไปครอง พร้อมบุกขึ้นบ้าน ทำลายป้อมบนจนแตก ส่วน MidOne ก็เอาฉายา Beyond Godlike ไปต่อรัวๆ ทำลาย Barrack บนไปได้อีกรอบ และจุดนั้นทำให้ VGJ.S ตัดสินใจที่จะหยุดเกม จบเกมนาทีที่ 32 สกอร์ 25 : 9 และมีเงินนำอยู่ 25k   ฮีโร่เกมสอง: VGJ.S - Mirana, Dark Willow, Ogre Magi, Tiny และ Medusa Secret - Vengeful Spirit, Silencer, Elder Titan, Clinkz และ Terrorblade เปิดมา VGJ.S ได้ First Blood ไปก่อนตั้งแต่นาทีแรก ในช่วง 18 นาทีแรก เกมไม่ห่างกันมาก ทั้งแต้มคิลและเงินเท่ากันแทบจะตลอด แต่พอช่วง 19 นาทีทีม Secret สามารถเก็บ Aegis ได้โดยให้ Ace เป็นคนถือ ซึ่งต่อมาก็ได้มีการบวกกันระหว่างสองทีม จบลงที่แต่ละทีมเสียผู้เล่นกันไปคนละ 3 ตัว ในขณะที่ YapzOr กำลังหนีจากการไล่ของ Sneyking ทีม Secret ก็มี Fata และ Puppey เข้ามาช่วย ทั้งสามคนเสียเลือดกันไปเยอะอยู่เหมือนกัน ทว่าก็ไม่มีใครตายจากไฟท์นั้น จนช่วง 34 นาที Resolut1on จาก VGJ.S เก็บ Double kill ไปได้ และเริ่มออกฆ่าฮีโร่ของอีกฝั่ง มี MidOne เป็นคนสังเวยชีวิตไป ต่อมาไม่นาน SVG พยายามจะหนีเอาชีวิจรอดจาก ACE แต่เจอสกิล Sacred Arrow ของ Mirana เข้ามาช่วยไว้ และสตัน ACE กลับ ได้ทีสวนเปลี่ยนเป็นฝั่งไล่ล่า Secret แทน ทว่าเมื่อไปถึงป้อมบนของถิ่น Secret กลับบวกแพ้ ช่วงนั้นแต่ละทีมได้ไปคนละ 23 คิล แต่เงินของฝั่ง VGJ.S นำอยู่ถึง 10k ทว่ายังไม่ทันถึงบ้านฝั่ง Secret ก็บุกเข้ามาใหม่ VGJ.S ตายไปหลายคนและซื้อ Buyback กลับมาพร้อมๆ กันถึง 3 คน เช่นเดียวกับฝั่ง Secret ที่ซื้อ buyback กลับมา 2 คน ในการบวกครั้งนี้ VGJ.S โชว์ฟอร์มดุ ทั้งสองฝ่ายต่างทุ่มให้กับทีมไฟท์จนซื้อ Buyback กันไม่ยั้ง แต่ก็ตัดสินใจที่จะหยุดแค่นี้เพราะสาหัสกันทั้งคู่ พอนาทีที่ 45 VGJ.S แก๊งค์แล้วบวกชนะอีกรอบ มีเงินนำไป 21k ต่อมานาทีที่ 49 โดน YapzOr (Vengeful Spirit) ใช้สกิล Nether Swap สลับตำแหน่งลาก MSS ผู้เล่นจาก VGJ.S เข้ามาให้เพื่อนรุมกินโต๊ะ แลกกับการที่เพื่อนร่วมทีม อย่าง Fata ต้องตายแทน จากนั้น Puppey ก็ได้แก้แค้นแทนพร้อมปิดตำนานการฆ่าติดต่อกัน 7 ตัวโดนไม่ตายของ YawaR ไปได้ นาทีที่ 50 Secret บุกมาเอา Roshan พร้อมกับเป็น Ace ที่เก็บ Aegis ไป พร้อมยังได้ Resolut1on ไปเป็นของแถม ต่อด้วย SVG ช่วยลดความห่างของเงินไปได้เหมือนกัน ต่อมานาทีที่ 51 Secret บุกตีบ้าน เอาป้อมกลางและ Barrack บนของ VGJ.S ไปได้ VGJ.S รอจังหวะที่ Secret ขึ้นบ้าน เปิดเกมก่อน ทว่าโดนสวนกลับแทน เก็บฮีโร่ฝั่ง VGJ.S ไปได้ 2 ตัว เหลือคนกันบ้าน แค่ 3 คน Secret ยังคงใส่ไม่ยั้ง กระหน่ำตีป้อม และเก็บผู้เล่นฝั่งตรงข้ามได้เพิ่มเป็น 4 ตัว จนในที่สุดก็สามารถเอาชนะไปได้อย่างสวยงาม จบเกมที่ 55 นาที ปิดสกอร์ที่ 40: 35 โดย Secret มีเงินนำ 22k   คู่ที่สาม – Lower Bracket | Evil Geniuses VS Virtus.pro | แต้ม: 2-0 ฮีโร่เกมแรก: EG - Chen, Drow Ranger, Silencer, Storm Spirit และ Pugna VP - Necrophos, Crystal Maiden, Mirana, Elder Titan และ Tiny ในเกมแรก EG เก็บ Solo ของ VP ได้ First Blood นำไปก่อน ต่อมาก็สามารถเก็บ RAMZES666 จากเลนบนไปได้ และฝั่ง EG ก็เดินหน้าชนะทีมไฟท์เก็บผู้เล่น VP ไปได้สองคน ที่สำคัญคือ s4 ที่มีเลือดเหลือน้อยมากยังสามารถรอดกลับบ้านไปได้อย่างปลอดภัย ทว่าช่วงนาทีที่ 10 VP สวนกลับเก็บผู้เล่นฝั่ง EG ไปได้สองคนคือ Cr1t และ Fly แลกกับชีวิตของ RodjER ต่อมาไม่นาน SumaiL ล้างแค้นไล่ทุบ RAMZES666 แต่โดน 9pasha จาก VP เก็บเพื่อนร่วมทีมไปได้เหมือนกัน ในช่วงนั้นแต้มคิลห่างกันแค่ 1 ตัว EG มีเงินนำ 3k VP เหมือนจะทำได้ดี ไล่เก็บฮีโร่หลงฝูงจาก EG ได้เรื่อยๆ แต่พอต้องบวกแบบทีมกลับแพ้ให้กับ EG ทำให้ SumaiL ได้ Double Kill ไปแบบชิลๆ ทั้งสองทีมยังคงนัวกัน ผลัดกันคิลไปเรื่อยๆ แม้ช่วงนาทีที่ 21 แต้มคิลและโกลด์ก็ยังไม่ห่างกันเท่าไหร่ ช่วงนาทีที่ 32 EG รุก VP อย่างหนัก เก็บคิลฮีโร่ฝั่งตรงข้ามไปได้ก่อน 2 ตัว ในขณะที่ EG กำลังไล่ทุบและจะขึ้นบ้าน VP ก็เหมือนจะมีจังหวะที่ VP สวน ทำให้ Fly, Arteezy และ s4 เกือบตาย แต่แล้วอัศวินม้าขาวอย่าง SumaiL ก็พุ่งเข้ามา ช่วยชีวิตทั้งทีม อีกทั้งยังเก็บ RAMZES666 และ 9pasha ต่อด้วย RodjER ทำให้ฝั่ง VP มีฮีโร่หายไป 4 ตัว ส่วน SumaiL ก็ได้ Triple Kill ไปตามระเบียบ จังหวะจบเกมคือช่วงนาทีที่ 35 VP โดน EG ที่รออยู่หน้าบ้านไล่หวด ตายไป 3 ตัว และไม่มี buyback เหลือแล้ว ทำให้ฝั่ง VP ยอมแพ้ จบเกมไปที่สกอร์ 27-17 ฮีโร่เกมสอง: EG - Vengeful Spirit, Mirana, Lich, Venomancer และ Alchemist VP - Ursa, Bane, Tiny, Pugna และ Winter Wyvern ช่วงต้นเกม VP ได้ First Blood นำไปก่อนในช่วง 2 นาทีแรก หลังจากนั้นก็กด EG ต่อรัวๆ ด้วยการชนะการต่อสู้ในเลนของตนเอง นอกจากนี้ยังชนะทีมไฟท์ไปได้อีก ทว่าฝั่ง EG ก็ตีตื้นขึ้นมาและเปลี่ยนเป็นฝ่ายที่มีโกลด์นำแทน นอกจากนี้ช่วง 15 นาที Arteezy ยังได้ Triple Kill กำจัดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามไปพร้อมกันได้ถึง 3 คน ถือว่าเป็นช่วงเริ่มเปลี่ยนเกม ทำให้ EG กลับมาได้เปรียบมากขึ้น การทำลายล้างคู่ต่อสู้ยังดำเนินต่อไป เมื่อนาทีที่ 17 Vengeful Spirit ของ EG สลับผู้เล่น VP มาให้ทางทีมของตนเก็บคิลไปได้แบบสบายๆ ต่อด้วยการเก็บ Solo, 9pasha ที่สำคัญคือยังช่วยชีวิต SumaiL เอาไว้ได้อย่างสวยงาม ทั้งที่เลือดของ SumaiL เหลือเพียงแค่ 14 สะดุดครีปป่าทีเดียวก็ถึงตาย รวมถึงยังกวาด VP ตายยกทีม ช่วงนาทีที่ 20 ฝั่ง VP โดนเก็บจากการต่อสู้ไปถึง 3 ตัว ฝั่ง EG มีเงินนำไป 9k ต่อมานาทีที่ 28 เกิดทีมไฟท์ครั้งใหญ่ ซึ่งสุดท้ายแล้ว VP ก็ได้ที ล้างบาง EG ยกแก๊ง แม้จะมีสมาชิกในทีมตายบ้างแต่ซื้อ Buy Back กลับมา แถมฆ่า SumaiL ได้เงินกลับบ้านไปเหมือนกัน ส่วนช่วง 30 นาที EG มาเก็บ Roshan เงินนำ 15k ช่วงนาทีที่ 39 Barrack ล่างของฝั่ง VP ก็แตกเป็นที่เรียบร้อย ช่วง 40 นาที EG พยายามไปเก็บ Roshan VP เข้ามาซ้อน เก็บ Cr1t ของ EG ไปได้ ส่วน Arteezy ก็ได้ Aegis ไปตามระเบียบ Cr1t ซื้อ Buyback กลับมาและเริ่มดันขึ้นบ้าน VP นอกจากนี้ Arteezy ยังสามารถเก็บ Double Kill ไปได้อีกด้วย หลังจากที่โดนกำจัด RAMZES666 และ No[o]ne ซื้อเกิดกลับมาบวกต่อ ทว่าก็ไม่สามารถต้านทานได้ ในที่สุดก็ "GG" ยอมแพ้อย่างจำนน จบการแข่งอยู่ที่อันดับ 5-6 [caption id="attachment_3913" align="alignnone" width="960"] Cr: Wykhrm Reddy[/caption] สรุป: EG เข้ารอบไปรอแข่งต่อกับผู้ที่ชนะจากคู่ Liquid และ Secret ที่กำลังจะแข่งกันในวันถัดไป OpTic Gaming และ VGJ.S ตกรอบจบอันดับที่ 7-8 ได้เงินรางวัล 629,662 USD (ประมาณ 20.6 ล้านบาทไทย) Virtus.pro ตกรอบกลับบ้าน จบอันดับที่ 5-6 ของการแข่งขัน ได้เงินรางวัล 1,133,392 USD (ประมาณ 37 ล้านบาทไทย) คู่ต่อไปของสายบนคือ PSG.LGD แข่งกับ OG เพื่อแย่งตำแหน่งเจ้าแห่งสายบน เข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศ Team Liquid (แชมป์เก่า) ต้องเจอกับ Secret ใครแพ้ตกรอบกลับบ้าน ส่วนผู้ชนะจะต้องไปเจอกับ EG   >> สรุป Main Stage Day 5 มาแล้วจ้า เข้าไปอ่านกันได้เลย! การันตีเลยว่ามันส์หยดกันทุกคู่!! <<  

สำหรับแฟนเกม DOTA 2 ที่ไม่มีเวลารับชมการแข่งขัน The International 2018 (TI 8) รอบ Main Stage Day 2 วันนี้ GameFever TH มีสรุปเหตุการณ์มาฝากเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูรายละเอียดของแต่ละแมทช์กันเลย! https://www.youtube.com/watch?v=W0itmu30aaI   คู่แรก - Upper Bracket | VGJ.S vs OG | Score: 0-2 เรียกได้ว่าพลิกล็อก ผิดโผกันตั้งแต่คู่แรกของการแข่งวันที่ 2 กับ VGJ.Storm และ OG โดยทีมที่มีภาษีดี และมีคนเชียร์มากที่สุดอย่าง VGJ.Storm กลับพ่ายให้กับ OG ด้วยสกอร์ 0-2 ฮีโร่เกมแรก: VGJ.Storm - Enchantress, Earthshaker, Jakiro, Dragon Knight และ Weaver OG - Chen, Phantom Lancer, Winter Wyvern, Lina และ Zeus ในช่วงเริ่มเกม OG โดนกดอย่างหนัก เริ่มตั้งแต่ Winter Wyvern (Ceb) โดน First Blood จากการแก๊งค์ของฝั่ง VGJ.S ต่อจากนั้นก็ไล่เก็บเลนกลางของฝั่ง OG อย่าง Zeus (Topson) ต่อ ทว่าก็แลกกับการที่ Jakiro เลนล่างคนเดียวของ VGJ.S โดน Lina และ Winter Wyvern สอย พอช่วง 10 นาทีเงินของ VGJ.S ก็นำไปประมาณ 4k อีก 6 นาทีต่อมาเงินนำไปถึง 6k แม้สกอร์ตอนนั้นจะไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ ( VGJ.S นำอยู่ 11 ต่อ 6) แต่แต้มของ Resolut1on กลับนำโด่งไปถึง 9-1-2 เป็นตัวบอกว่าทาง OG กำลังเจอกับปัญหาอย่างหนัก ยิ่งพอช่วง 30 นาที OG เสียฮีโร่ไปถึง 4 ตัวติดๆ กัน ทำให้เงินของอีกฝั่งนำไปเป็น 10k ทำให้ฝั่ง OG ยิ่งเล่นยากเข้าไปอีก ทาง VGJ.S พยายามดันเกมเข้าบ้าน OG เก็บ Barrack ของ OG ไปได้ แต่ก็ได้ไปแค่นั้น หลังจากนั้น VGJ.S ก็ต้องกลับบ้านไปเหมือนกัน OG แอบมาเก็บ Roshan ทว่าก็โดนทางฝั่ง VGJ.S จับได้ และบุกเข้าตะลุมบอน แม้จะต้องสังเวยชีวิตของ BigDaddyN0tail ไป แต่ทาง ana ของ OG ก็ยังสามารถรักษา Aegis เอาไว้ได้ ทว่าด้วยความที่เกมไฟท์ของ VGJ.S เหนือกว่า สามารถฆ่า Phantom Lancer ของ ana ถึงสองครั้ง (เพราะมี Aegis) จากนั้นเลยได้ทีบุกขึ้นบ้าน เก็บ Barracks กลาง และหอคอยบนของ OG ไปได้ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ทำให้ VGJ.S เป็นฝ่ายมาเหนือแบบสุดๆ จุดเปลี่ยนของเกมมาเริ่มตรงที่ Zeus (Topson) ได้เงินจากการกำจัด Resolut1on ได้ถึง 1145 โกลด์ เสียงเชียร์ดังสนั่น และฝั่ง OG ก็มีทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งความมั่นใจและโมเมนตั้มของเกม จากนั้นเลยรวมตัวกันขึ้นบ้านของอีกฝั่ง ด้าน VGJ Storm ป้องกันได้ไม่ดี โดนบุกตีบ้านรวดเดียว จบเกมในเวลา 44 นาที แต้มคิล 36 - 29 ซึ่ง OG เป็นฝ่ายตาม   ฮีโร่เกมที่สอง:  VGJ.Storm - Natures Prophet, Phoenix, Earth Spirit, Ursa และ Storm Spirit OG - Chen, Lina, Troll Warlord, Winter Wyvern และ Venomancer ช่วงเริ่มเกมทาง OG เริ่มต้นได้ดี โกลด์นำฝั่ง VGJ.S อยู่ นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่ชนะการแก๊งค์แบบสวยๆ จาก Topson ที่เก็ยผู้เล่นอีกฝั่งไปได้ มี Troll Warlord (ana) มาช่วยซ้อน เก็บ Triple kill ไปแบบสบายๆ ต่อมาในช่วง 20 นาที แม้ OG จะมีโกลด์นำไปถึง 9k แต่แต้มคิลทั้งสองฝั่งยังถือว่าสูสีกันอยู่มาก ในนาทีที่ 22 OG แอบย่องมาเอา Aegis จาก Roshan ไปได้ ทว่าเกมก็ยังถือว่าใกล้เคียงกันอยู่ จุดเปลี่ยนและถือเป็นไฮไลท์ของเกมเลยก็คือช็อตในนาทีที่ 27 ที่ Venomancer (Ceb) กำลังโดนทาง VGJ.S แก๊งค์และเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่ Winters Curse (JerAx) เข้ามาช่วยดึงจังหวะ ทำให้ทีมมาช่วยทัน พลิกเกมเก็บ VGJ.S ไปถึง 4 คน และยังทำแต้มต่อด้วยการชนะทีมไฟท์ติดกันอีก จนในที่สุดบุกขึ้นบ้านไล่ทุบป้อมและฮีโร่ฝั่งตรงข้ามจนสามารถพิสูจน์ฝีมือและเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้อย่างสวยงาม ใช้เวลา 35: 49 นาที ไฟนอลสกอร์อยู่ที่ (OG) 36-29 (VGJ.S) ** ทั้งนี้โค้ชของ VGJ.Storm ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาช่วยในช่วงดราฟท์ฮีโร่ เนื่องจากถูกลงโทษอยู่   คู่ที่สอง - Upper Bracket | EG vs Secret | Score: 2-0   ฮีโร่เกมแรก: EG - Vengeful Spirit, Weaver, Phoenix, Alchemist และ Ursa Secret - Mirana, Winter Wyvern, Earth Spirit, Phantom Lancer และ Morphling ทั้ง EG และ Secret เลือกตัวได้ดี ทว่าต้นเกมไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไหร่ เมื่อผ่านไป 10 นาที สกอร์เพิ่งเดินแค่ 4-3 โดยในนาทีที่ 22 เงินของฝั่ง EG นำอยู่ 10 k มีเปอร์เซ็นต์ในการชนะ ( คำนวณจาก Dota plus) อยู่ที่ 71 : 29 มีการบวกที่ใหญ่ๆ ในช่วงนาทีที่ 24 ตอนที่ทีม Secret รวมกลุ่มกันเพื่อจะทำลาย Supernova ของ Pheonix ของฝั่ง EG แต่กลายเป็นว่าโดนสตั๊นของ Suma1L พร้อมกันถึงสามตัว เปลี่ยนให้ EG เป็นฝ่ายได้เปรียบ ทำให้ Phantom Lancer และ Earth Spirit โดนเก็บไป ฝ่าย EG สังเวยด้วยชีวิตของ Vengeful Spirit แทน ในช่วง 30 นาทีหลังจากที่บวกกันเสร็จฝ่าย EG ค่อยๆ บุกขึ้นบ้าน Secret ค่อยๆ เก็บ Barrack กลางและล่าง เมื่อเห็นว่าฮีโร่ฝั่ง Secret กำลังจะเกิดและรวมตัวกันในอีกไม่นาน EG ก็ล่าถอยไป จนกระทั่งนาทีที่ 42:38 EG เอาชนะ Secret ไปได้ในที่สุด แม้สกอร์คิลจะไม่ห่างกันมาก แต่โกลด์ในเกมแรกห่างกันถึง 40 K เลยทีเดียว   ฮีโร่เกมที่สอง:  EG - Vengeful Spirit, Weaver, Undying, Drow Ranger และ Gyrocopter Secret - Mirana, Ogre Magi, Necrophos, Rubick และ Tinker ส่วนเกมที่สองเริ่มมา Necrophos และ Ogre Magi ของ Secret ร่วมมือกันกำจัดคู่ต่อสู้ที่อยู่เลนล่าง แต่ระหว่างที่ Ogre Magi ของ Puppy ไปป้องกันเลนบนอยู่ Necrophos ของ Ace ก็โดน EG เก็บแบบต่อเนื่อง ซึ่งเพื่อนรวมทีมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งพอ Sumai1L ออก Blink Dagger ได้ก็กระโดดเข้าไปเก็บฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงใจ แต่ฝ่าย Secret ก็ไม่ใช่หมูในอวย Rubick และ Tinker ก็ถือเป็นปัญหาสำคัญสำหรับ EG เหมือนกัน ในช่วง 30 นาที ทั้งสองทีมสลับกันขึ้นนำโกลด์ แต่ในนาทีที่ 37 หลังจากการต่อสู้ Suma1L ผู้เล่นฝั่ง EG ก็ทำให้แน่ใจว่าเกมจะเทมาฝั่งตัวเอง แต่รูปเกมก็ไม่ขาดมากขนาดนั้น ทั้งเรื่องของเงินและแต้มคิล แม้ EG จะมีจังหวะเก็บฮีโร่ Secret อยู่บ่อยๆ แต่ตัวทำเกมอย่าง Suma1L ก็ถูก Mirana เก็บแล้วพยายามบุกขึ้นบ้านของ EG ทั้งสองฝ่ายพลัดกันรับ-รุก จนในที่สุด EG ก็บุกบ้าน Secret ตามไล่ทุบจนเอาชนะได้ในที่สุด โดยเกมนี้มีความยาว 58 นาที แข่งกันจนเหนื่อยเลยทีเดียว   คู่ที่สาม - Lower Bracket | OpTic vs Serenity  | Score: 2-0 ฮีโร่เกมแรก: OpTic - Vengeful Spirit, Brewmaster, Jakiro, Storm Spirit และ Spectre Serenity - Mirana, Phantom Lancer, Elder Titan, Silencer, Ember Spirit ในเกมแรกของคู่นี้ ฝั่ง OpTic ค่อนข้างได้เปรียบตั้งแต่การเก็บรูน Bounty ช่วงต้นเกมได้ถึง 3 อัน การยืนเลนฝั่ง OpTic ก็ค่อนข้างได้เปรียบกว่า โดยเลนล่างมี Elder Titan และ Mirana ปะทะ Spectre และ Jakiro ในระหว่างเกมมีทีมไฟท์อยู่หลายครั้ง ทว่าส่วนมาก OpTic จะเป็นฝ่ายเก็บฮีโร่ของ Serenity เกมค่อนข้างขาดพอสมควร แม้ฝั่ง Serenity จะสามารถเก็บ Brewmaster ฮีโร่ที่มีค่าหัวแพงที่สุดของ OpTic ได้ทว่าก็ต้องแลกกับฮีโร่ฝ่ายตัวเองถึง 3 ตัวด้วยกัน หลังจากนั้นยังฆ่า Roshan ครอง Aegis ได้อีก ทำให้ฝั่ง OpTic ได้เปรียบอย่างชัดเจน พอช่วง 30 นาที OpTic มีเงินนำอยู่ 5k และตัดสินใจจัดการ Roshan เพื่อเอา Aegis อีกรอบ ซึ่งในตอนนั้นทาง Serenity ก็เข้ามาซ้อน แต่ไม่สามารถเก็บ Aegis ไปได้ ทำให้ฝ่าย OpTic ได้ทีจัดการกวาดฮีโร่ฝั่งตรงข้ามแล้วทำเงินขึ้นนำไป 13k ต่อด้วยการตัดสินใจบุกขึ้นไปบน High ground จัดการ Barracks ในเลนกลางไปด้วย จนในที่สุด OpTic ก็เป็นฝ่ายชนะไปอย่างใสๆ   ฮีโร่เกมที่สอง:  OpTic - Lich, Tiny, Storm Spirit, Phantom Lancer และ Bloodseeker Serenity - Vengeful Spirit, Phoenix, Nyx Assassin, Alchemist และ Ursa เปิดเกมมาฝั่งที่ได้ First Blood ไปก่อนคือ OpTic ทว่าในช่วงต้นเกมทาง Serenity ก็ทำเกมได้ค่อนข้างดี ชนะการต่อสู้ถึง 2 ใน 3 เลนที่ยืนอยู่ โดยเกมนี้ไม่ขาดเท่ากับเกมแรก (ตอนนั้นสกอร์ 31 - 9) Serenity มีโอกาสเอาชนะได้อยู่เหมือนกัน ผลัดกันรุก-รับ และสกอร์คิลก็ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ แต่ช่วงนาทีที่ 28 เงินของ OpTic นำ Serenity ไปถึง 11k ช่วงนาทีที่ 29 ดูเหมือนว่า Serenity จะพลิกเกมได้จากทีมไฟท์ทว่า CCnC ผู้เล่นจากทีม OpTic สามารถรอดชีวิตและสวนกลับได้ นอกจากนี้ยังได้ Aegis ไปอีกด้วย หลังจากนั้น Pyw ผู้เล่นจาก Serenity ที่พยายามตัดครีปจากเลนบนก็โดน zai และ 33 สอย สถานการณ์เริ่มไม่เป็นใจให้ Serenity ชนะเพราะช่วง 30 นาที Dota plus ทำนายว่า OpTic จะมีโอกาสชนะถึง 75 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้เงินของ OpTic ยังนำถึง 20k และในที่สุด OpTic ก็เป็นฝ่ายชนะไปจริงๆ ทำให้ทีม Serenity ต้องกลับบ้าน แม้จะแพ้ทว่า Serenity ก็ถือว่าทำได้ดี เป็นทีมม้ามืดที่แทบไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน เพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน 2017 เคยเอาชนะ LGD.Forever Young แบะ Invictus Gaming มาแล้วอีกด้วย ทั้งนี้การแข่งขันรอบสองกินเวลาไปทั้งสิ้น 38:48 นาที จบสกอร์ที่ 20-38 (OpTic เป็นฝ่ายนำ)   คู่ที่สี่ - Lower Bracket | VP vs Mineski | Score: 2-0 ฮีโร่เกมแรก: VP - Weaver, Vengeful Spirit, Treant Protector, Clinkz และ Invoker Mineski - Dark Willow, Wraith King, Undying, Necrophos และ Dragon Knight สำหรับการแข่งขันของ VP และ Mineski ในรอบแรก เปิดเกมมา VP ได้ First Blood ไปก่อน ด้วยการเก็บ Ninjaboogie กัปตันทีม Mineski แต่ในช่วง 10 นาที Mineski เก็บป้อมได้มากกว่าอีกฝั่ง และพยายามดันป้อมกลางต่อ ซึ่งถือว่าได้ผลแต่ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของเพื่อนร่วมทีมอย่าง iceiceice ทว่าในเกมก็ยังคงสูสีกัน ตอนประมาณนาทีที่ 20 Mineski มีเงินนำไม่ถึง 1k และทั้งสองคิลห่างกันเพียง 3 ตัวเท่านั้น ในช่วงนาทีที่ 29 ฝั่ง Mineski เสียฮีโร่ไปพร้อมกันถึง 4 ตัวจากการปะทะกับ VP ทำให้ VP ตัดสินใจดันฐาน ทว่าสุดท้าย Mineski ก็ป้องกันบ้านเอาไว้ได้ ช่วง 41 นาทีเป็นทีของ Mineski ที่ดันมาถึงหน้าประตูของ VP แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มาก จุดที่เป็นการเปลี่ยนเกมและนำชัยชนะมาให้ฝั่ง VP ได้จริงๆ ก็คือช่วงนาทีที่ 50 ที่ 9pasha ผู้เล่นของ VP ได้ Triple Kill จากการฆ่าฮีโร่ฝั่งตรงข้าม ส่งผลให้มีเงินขึ้นนำ 11k หลังจากนั้น VP ก็ไล่ทุบ Mineski จนถึงบ้านจนเอาชนะได้ในที่สุด จบเกมที่นาทีที่ 51:37 จบสกอร์ที่ 40-27   ฮีโร่เกมที่สอง:  VP - Silencer, Ursa, Earthshaker, Clinkz และ Enigma Mineski - Dark Willow, Wraith King, Vengeful Spirit, Storm Spirit และ Troll Warlord เกมที่สอง Mineski ทำได้ไม่ดีเท่ากับเกมแรก แม้จะได้ First Blood ไปก่อนทว่ากลับมีจังหวะที่ตายเอาเยอะอยู่เหมือนกัน พอช่วงที่จะต้องแย่งกำจัด Roshan และชิง Aegis ก็บวกไม่ชนะ ช่วงประมาณนาทีที่ 30 ฝั่ง VP มีเงินนำไปแล้วกว่า 10k ซึ่งพอชนะทีมไฟท์ก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาบุกบ้านของ Mineski ทว่าที่ทำให้แพ้จริงๆ ช็อคที่ Mineski รออยู่ในป่าเลนกลาง แล้วโดน VP เก็บรัวๆ ครบทั้งทีมจนไม่มีใครเหลือ Buyback อีกแล้ว จบสกอร์ด้วยคะแนน 38 - 19 เกมนี้กินเวลาไปเพียง 35 นาทีเท่านั้น ส่ง Mineski ตกรบกลับบ้านไป ส่วนรอบหน้า VP จะต้องไปเจอกับ OpTic Gaming   สรุป: OG และ EG ผ่านเข้ารอบและจะไปลุยต่อในสายบน VGJ.Storm และ Team Secret ร่วงลงไปอยู่สายล่าง (หากแพ้อีก 1 รอบก็จะต้องออกจากการแข่ง) Serenity และ Mineski ตกรอบกลับบ้านไป   ฮีโร่ที่ถูกเลือกมากที่สุดประจำวัน:  Vengeful Spirit (5 ครั้ง)   ส่องแมทช์ต่อไปของ DAY 3   ขอบคุณข้อมูลจาก reddit Liquidpedia Wykhrm Reddy

หลังจากที่งานแข่งขัน The International 2018 หรือ TI 8 ทัวร์นาเม้นต์ประจำปีของเกม DOTA 2 เริ่มต้นขึ้น ทีม Mineski ที่มีผู้เล่นชาวไทยเป็นสมาชิกก็ได้เข้าแข่งในฐานะทีมที่ได้รับเชิญ แม้ในการแข่งขันรอบ Group Stage จะกระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง แต่ในที่สุดก็สามารถนำทีมผ่านเข้ารอบไปแข่งใน Main Stage ได้ในที่สุด เราไปทำความรู้จักกับ Pro-player คนไทยหนึ่งเดียวในการแข่งขันครั้งนี้เลยดีกว่า!   1. สุดยอดนักหรอย Aegis ถ้าพูดกันถึงการล่า Roshan เพื่อที่จะเอา Aegis แล้ว ในวงการ DOTA 2 - Jabz ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดอาวุธลับของทีม Mineski ทั้งนี้ก็เพราะ Jabz สามารถกะเวลาได้อย่างแม่นยำในระหว่างที่ศัตรูกำลังตี Roshan แล้วเข้าคลุกวงใน กดแย่ง Aegis ไอเทมจะทำให้ผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ถือเป็นการช่วงชิงจังหวะเกม ช่วยทีมไม่ให้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เราไปดูจังหวะสวยๆ ที่ Jabz ชิง Aegis กันได้เลย! https://www.youtube.com/watch?v=B2KvPQQj44I   2. เป็นโปรเพลยเยอร์และโกอินเตอร์ตั้งแต่อายุ 17 ปี ถือเป็นข่าวลือสนั่นลั่นวงการเกม DOTA 2 อยู่เหมือนกัน เมื่อ Jabz (ตอนนั้นอายุได้ 17 ปี) ได้กลายมาเป็นผู้เล่นไทยคนแรกที่โกอินเตอร์ หลังจากได้เข้าร่วมกับ Iceiceice ใน Team Faceless เมื่อปี 2016 ซึ่งก่อนหน้านี้ Jabz สังกัดอยู่ทีม Signature.Trust ซึ่ง Jabz ก็ได้เล่าเหตุการณ์ประสบการณ์ในการโกอินเตอร์ให้เว็บ Signature ฟังว่า ที่เขาได้เข้าร่วมกับ Team Faceless เป็นเพราะว่าเพื่อนใน Steam แนะนำให้เขาไปคุยกับ warnutz ซึ่งทำให้เขาได้คุยกับผู้เล่นมากความสามารถจาก Singapore อย่าง iceiceice จนในที่สุดก็นำไปสู่การเป็นทีม Mineski จนถึงทุกวันนี้   3. ครั้งแรกกับการแข่งขันในงาน TI  การแข่งขันในทัวร์นาเม้นต์ TI เป็นครั้งแรกที่ Jabz  - Support มากความสามารถจากเมืองไทยเข้าร่วมแข่งขันเป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับทีม Mineski เขาเคยสังกัดอยู่ Team Faceless เล่นตำแหน่งซัพพอร์ทตำแหน่งที่ 4 เป็นเวลานานกว่า 10 เดือน หลังจากนั้นก็ได้เข้าแข่งรอบคัดเลือกเพื่อจะได้ไปแข่ง The International 2017 ทว่าก็ผิดหวัง พลาดท่าตกรอบไปเสียก่อน ใน TI 8 ครั้งนี้ Mineski สามารถเก็บแต้มจนได้เป็นทีมวางในงาน ซึ่งมีเพียงแค่ 8 ทีม (มี Team Liquid แชมป์เก่า และ Newbee อดีตรองแชมป์รวมอยู่ด้วย) ไม่ต้องผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือก แม้จะสะดุดกับการแข่งขันรอบ Group Stage ที่แข่งขันตั้งแต่วันที่ 15-18 สิงหาคมที่ผ่านมา และไม่ได้อยู่ใน 4 อันดับที่ดีที่สุดของ Group A เพื่อที่จะขึ้นไปอยู่ในการแข่งขันรอบ Main Stage สายบนได้ ทว่าทีมก็ยังอยู่ในเกมการแข่งขัน และยังไม่ได้ตกรอบ (21/08/2018)   4. เส้นทางสู่การเป็นสมาชิกทีม Mineski ก่อนหน้าที่จะมาอยู่สังกัด Mineski และได้แข่ง TI 2018 จนถึงตอนนี้ Jabz เคยสังกัดอยู่ในทีม DOTA 2 ของไทยอย่าง Everlast.GameFilling และ Signature.Trust มาก่อน โดยเล่นในตำแหน่ง Mid lane และ Support หลังจากนั้นถึงค่อยได้มีโอกาสเข้าร่วมกับ Team Faceless และย้ายมาอยู่ Mineski พร้อมกับ iceiceice ผู้เล่นเก่าจากทีมเดิม โดย Jabz ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งซัพพอร์ทที่ดีที่สุดของภูมิภาค Sout-East Asia เคยชนะในรายการ PGL Open Burcharest 2017 และ Premier Dota 2 Asia Championships 2018 ซึ่งดูเหมือนว่า Energy ของทีม ทั้งอารมณ์และเคมีของ Mineski จะเข้ากันได้ดี จัดได้ว่าเป็นทีมรวมมือดีของ SEA มีทั้ง Mushi, Moon, iceiceice และ ninjaboogie รวมถึงยังมีโค้ชที่แปลกที่สุดอย่าง 71 มาเป็นคนให้คำแนะนำด้วย เรียกได้ว่า Energy ในทีมดีสุดๆ   5. ถึงจะเป็นคนไทยคนเดียวใน TI 8 แต่ไม่ใช่คนไทยคนแรกในการแข่ง TI ย้อนกลับไปในการแข่งขัน TI ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้นปี 2011 ได้มีทีมคนไทยทั้งทีมคือ MiTH.Trust ตอนนั้นมีทีมผู้เล่นคนไทยได้ทั้งทีมได้แก่ l3nu, TnK, LaKelz, Lookball, aabBAA และ toyz โดยตอนนั้นทีมถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับการแข่งขันระดับโลก เป็น 1 ในทีมที่ได้รับเชิญจากทั้งหมด 16 ทีม โดยได้แข่งอยู่สายล่าง เอาชนะ GosuGamers และ TyLoo จนกระทั่งไปแพ้ให้กับ Meet Your Makers ทีมที่กำลังมาแรงในการแข่ง TI1 ซึ่งตอนนั้น Mineski ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเช่นกัน     ตอนนี้ทีม Mineski และ Jabz ยังไม่ตกรอบ มีร่วมใจกันเชียร์คนไทยหนึ่งเดียวในการแข่งขัน TI 8 กันได้นะจ๊ะ *** อัพเดท: ตอนนี้ Mineski ตกรอบและออกจากการแข่งขันหลังจากพ่ายแพ้ให้กับ Virtus.pro ด้วยสกอร์ 2-0

หากพูดถึงทีมที่น่าจับตามองในการแข่งขัน The International Dota 2 Championship 2018 หรือ TI 8 ก็คงจะหนีไม่พ้น TEAM LIQUID ดีกรีแชมป์เก่าจากการรายการแข่งขันระดับโลกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทัวร์นาเม้นต์ E-Sports ที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลก (ใน TI7 มีเงินรางวัลรวม 24,787,916 ดอลลาร์) ซึ่ง Team Liquid ก็สามารถซิวเงินจากการแข่งไปได้ 10,862,683 ดอลลาร์ คิดเป็น 44% ของเงินรางวัลทั้งหมด โดย Team Liquid เป็นทีมที่รวบรวมโปรเพลเยอร์เอาไว้มากมายหลายเกม เช่น PUBG, FIFA, CS:GO, Heroes of the Storm, Hearthstone, Fortnite และ DOTA 2 ก่อตั้งในปี 2000 ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตอนแรกมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น Clan ในเกม Brood War ก่อนจะเปลี่ยนมาแข่งเกม StarCraft II ถือว่าประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้ตัวเองได้พอสมควรในฝั่งตะวันออก หลังจากนั้นวันที่ 6 ธันวาคม 2012 จะเริ่มประกาศตั้งทีม DOTA 2 อย่างเป็นทางการ https://www.youtube.com/watch?v=AVSphm5ZhGM   ประวัติ Team Liquid DOTA 2 ผู้เล่นชุดแรกของ Team Liquid คือ TC (Carry), Korok (Carry), ixmike88 (Offlane) เคยเป็นโค้ชให้กับทีม Digital Chaos , FLUFFNSTUFF (Support), และ BuLba (Support) ซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ชให้ทีม Evil Geniuses ต่อมาช่วงปี 2013 - 2014ได้มีการผลัดเปลี่ยนผู้เล่นหลายคนอยู่เหมือนกัน โดยมีผู้เล่นเดิมคือ TC และ BuLba ส่วน ixmike88, Korok และ FLUFFNSTUFF ได้ออกจากทีม มี Waytosexy (Support), qojqva (Mid lane) ที่ปัจจุบันเป็นผู้เล่นของทีม Alliance และ DeMoN (Support) เข้ามาเสริม ทีมชุดนี้สร้างความแข็งแกร่งให้กับ Team Liquid อยู่ไม่น้อย โดยการแข่งขัน TI 3 Team Liquid ทำผลงานอยู่ที่อันดับ 7 มีเงินรางวัล 43,116 USD ส่วน TI 4 ได้อันดับที่ 10 คว้าเงินรางวัล 49,158 USD กลับบ้านไป ในช่วง TI 5 ถือเป็นช่วงเวลาที่ว่างเปล่าสำหรับ Team Liquid เพราะผู้เล่นทุกคนต่างทยอยออกจากทีมไปจนหมด เนื่องจากไม่ค่อยพอใจในผลงานช่วง TI 4 ซึ่งหลังจากแข่งจบสองสัปดาห์ DeMoN ก็ได้ออกจากทีม ตามมาติดๆ ด้วย Waytosexy, BuLba และ qojqva ทำให้ TC ซึ่งเป็นสมาชิกที่เหลืออยู่คนเดียวของทีมจำต้องออกไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่ Team Liquid ปราศจากผู้เล่นในทีม จึงไม่ได้เข้าร่วม TI 5 นั่นเอง   ต้นกำเนิดทีมแชมป์ TI 7  วันที่ 9 ตุลาคม 2015 Team Liquid ประกาศที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน DOTA 2 อีกครั้ง ด้วยการเซ็นสัญญา 5Jungz ประกอบไปด้วยผู้เล่น 5 คนได้ MATUMBAMAN (Carry), FATA- (Mid lane), MinD_ContRoL (Off lane), JerAx (Support), และ KuroKy (Support) ซึ่งเป็นกัปตันทีม หลังจากที่แข่ง TI 6 Team Liquid จบทัวร์นาเม้นท์ด้วยอันดับ 8 (เงินรางวัล 519,262 USD) ถือว่าเป็นอันดับที่ไม่ค่อยดีนัก สมาชิกทีมอย่าง FATA- ก็ตัดสินใจออกจากทีมเพื่อพักจากการแข่ง DOTA 2 ชั่วคราว ส่วน JeraX ไปเข้าร่วมกับทีมคู่แข่งของ Liquid อย่าง OG และทาง OG ก็ได้แลกผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Miracle- และ BuLba สมาชิกเก่าของทีมตั้งแต่รุ่นแรกกลับมาให้กับทาง Team Liquid ทว่าผลงานก็ยังไม่ดีนัก จนกระทั่ง GH เกมเมอร์ผู้มี MMR อยู่ที่ 9,000 (เยอะที่สุดในยุโรป) เข้ามาเสียบแทน BuLba ด้วยการฟอร์มทีมครั้งนี้ทำให้ Team Liquid คว้าแชมป์ในรายการ StarSeries Season 3 และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทีมในตอนนี้คือการเป็นแชมป์ TI 7 TI 1 ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน TI 2 ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน TI 3 ได้อันดับ 7 (43,116 USD) TI 4 ได้อันดับ 10 (49,158 USD) TI 5 ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน TI 6 ได้อันดับ 8 (519,262 USD) TI 7 เป็นแชมป์อันดับหนึ่งประจำทัวร์นาเม้นต์ KuroKy เส้นทางแห่งความพยายามสู่การเป็นกัปตันผู้สร้างทีมแชมป์ TI 7 Signature Heroes: Rubick, Visage และ IO ถ้าพูดถึงจุดกำเนิดของ Team Liquid ชุดที่ได้แชมป์จริงๆ แล้ว ก็น่าจะต้องยกเครดิตให้กับ KuroKy กัปตันสุดเจ๋ง ผู้ทำหน้าที่ซัพพอร์ททีมทั้งในเกมและชีวิตจริง โดย KuroKy หรือ Kuro Salehi Takhasomi เป็นเกมเมอร์จากเยอรมัน เริ่มต้นการแข่งขันครั้งแรกคือสมัยที่เล่น DotA ก่อนจะย้ายมาแข่ง DOTA 2 ในทัวร์นาเม้นต์ TI 1 ซึ่งตอนนั้นสังกัดอยู่ทีม GosuGamers.net ทว่าในทัวร์นาเม้นต์นั้น KuroKy แพ้ให้กับ MiTH.Trust (ทีมไทย) ในรอบแรกของการแข่งสายล่าง หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วม TI 2 ในฐานะผู้เล่นสำรองให้กับทีม ComeWithMe ทว่าก็แพ้รอบ Playoff ไปเช่นเดียวกัน จุดเปลี่ยนของ KoroKy คือตอนที่เข้าร่วมกับทีม Natus Vincere ใน TI 3 ที่ต้องเปลี่ยนจากตำแหน่ง Carry มาเป็น Support ซึ่งตอน TI 3 ก็ทำผลงานออกมาได้ดี เพราะเป็นถึงรองแชมป์ ทว่าในช่วง TI 4 ได้แค่อันดับ 7-8 หลังจากนั้น KoroKy ก็ออกจากทีมแล้วไปตั้งทีมใหม่คือ Team Secret แทน โดยในช่วงแรกที่เริ่มต้นทีมใหม่ KoroKy ได้กลับไปเล่น Carry อีกรอบ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในทีมจนต้องเปลี่ยนไปเล่น Support ซึ่งทีมหลังจากที่ KuroKy กลับมาเล่น Support ทีมทำผลงานได้ดีขึ้น และได้ร่วมแข่งขันใน TI 5 ทว่าก็ยังคงไปไกลแค่อันดับ 7-8 เหมือนเดิม หลังจากทัวร์นาเม้นต์นั้นจบลง KoruKy ก็ได้ออกจาก Team Secret แล้วฟอร์มทีมใหม่ 5Jungz นอกจากจะเป็นกัปตันทีมแล้ว เขายังเฟ้นหาและเลือกลูกทีมด้วยตัวเอง เริ่มด้วย FATA- (Mid Lane), MATUMBAMAN (Carry), JerAx (Support) และ MinD_ContRoL (Off lane) ซึ่งทาง Team Liquid เห็นแววและเคมีที่เข้ากันของทีมเลยจัดการเซ็นสัญญาซื้อ 5Jungz ให้มาเป็นผู้เล่นในฐานะ Team Liquid แทน ซึ่งทีมถือว่าทำผลงานได้ดี จนได้รับเชิญให้เข้าร่วมใน TI 6 ทว่าก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝันเสียที จนกระทั่งสลับสับเปลี่ยนผู้เล่น ในที่สุดใน TI 7 KuroKy ก็สมหวัง หลังเอาชนะ Newbee ถึง 3-0 ได้ในรอบ Grand Finals จนได้ครอง Aegis สมใจ ภายใต้การนำของ KuroKy ทำให้ Team Liquid ครองแชมป์ TI 7 ได้สำเร็จ ซึ่งคนที่ดีใจที่สุดก็คงไม่ใช่ใครนอกจากตัวเขาเอง ถึงแม้จะผิดหวังจากการครอบครองตำแหน่งแชมป์ในรายการทัวร์นาเม้นต์ The International Dota 2 Championship มาถึง 6 ครั้ง ตั้งแต่ TI 1- 6 ทว่าก็ยังไม่ย่อท้อ มีความยืดหยุ่นในการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งในการเล่นจาก Carry ไปเป็น Support เพื่อชัยชนะของทีม นอกจากนี้ยังสามารถดึงผู้เล่นมากฝีมือที่มีเคมีเข้ากันมารวบรวมไว้เป็นทีมได้อีกด้วย หลักฐานที่พิสูจน์ว่า KuroKy มีความยืดหยุ่นสูงก็คือเขาเป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นฮีโร่ได้หลากหลายมากที่สุดในการแข่งขัน (23 มี.ค. 2018) https://twitter.com/Spiocder/status/977240541502017538 ในฐานะกัปตันทีมก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดี สามารถปลุกเร้าอารมณ์ร่วมให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ และยังช่วยวางแผน แนะนำการเล่น รวมถึงคอยเตือนสติเพื่อนๆ ได้ โดยหลังจากชนะ TI 7 เพื่อนร่วมทีมต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "You deserved it" หรือ "นายสมควรได้รับ(ชัยชนะ)ในครั้งนี้แล้ว" ซึ่งเขาก็ได้ปล่อยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติออกมาโดยไม่เขินอายเช่นกัน ทั้งนี้ KuroKy ถือเป็นผู้เล่นไม่กี่คนที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน TI ครบทุกครั้งตั้งแต่มีการจัดแข่งขัน ยังเป็นผู้เล่นที่ชนะการแข่งขันได้ 1,000 ครั้งในฐานะผู้เล่นมืออาชีพ และสามารถทำรายได้จากการแข่งขันทัวร์นาเม้นต์ได้สูงที่สุดในวงการ DOTA 2 และ E-Sports (3,740,264)   MATUMBAMAN - จากนักกีฬาเบสบอล สู่หนึ่งใน Carry ที่ฝีมือฉกาจที่สุดใน DOTA 2  Signature Heroes: Lone Druid, Lycan และ Necrophos MATUMBAMAN เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นฟอร์มจัดที่กัปตัน KuroKy ดึงตัวมาเข้าร่วมทีม 5Jungz รับหน้าที่เล่นตำแหน่ง Carry ในทีม มีสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะไม่ได้มีประสบการณ์ในการแข่งมาโชกโชนเท่าไหร่ เพราะเพิ่งเปิดตัวในวงการ DOTA 2 ในปี 2014 (ก่อนหน้าที่จะเข้า 5Jungz เพียงปีเดียว) แต่ก็เคยสังกัดทีม Veni,Vidi,Vici และ 4 Anchors + Sea Captain มาเหมือนกัน ก่อนจะมาเข้าร่วมการแข่งขัน DOTA 2 อย่างจริงจัง MATUMBAMAN - Carry สุดโหดของ Team Liquid เคยแข่งเบสบอล มาก่อนโดยเป็นผู้เล่นที่สามารถไปถึงลีคเบสบอลระดับชาติของฟินแลนด์ได้ ทว่าหลังจากที่ Lasse Aukusti Urpalainen เลิกเล่นเบสบอลก็เหมือนกับเสียจุดมุ่งหมายหลักในชีวิตไป จนกระทั่งได้มาเจอกับเกม DOTA 2 "สำหรับผม DOTA 2 ก็เหมือนกับการเล่นเบสบอล ผมพยายามเล่นให้เก่งและเล่นให้ดีที่สุดในกลุ่มเพื่อน" นอกจากนี้ MATUMBAMAN ก็ยังได้แบ่งปันความคิดในแง่มุมของพัฒนาตัวเองว่า "ผมว่าคำว่าพรสวรรค์มันไม่มีอยู่จริง ที่ผมมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะว่าความพยายาม และผมก็คิดว่าทุกคนสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งเป้าหมายไว้ได้หากมีเวลาและความตั้งใจในการทำสิ่งนั้น" KuroKy กัปตัน Team Liquid และผู้ก่อตั้ง 5Jungz พูดถึง MATUMBAMAN ว่า "เขาเป็นคนที่ไม่เคยกดดันหรือเอาความรู้สึกแย่ๆ มาให้สมาชิกในทีมคนอื่น หรือแม้แต่ตัวผมเองเลย ตอนแรกเขาค่อนข้างเครียดอยู่เหมือนกันในช่วงเริ่มแข่งทัวร์นาเม้นต์แรกๆ แต่เขาก็ได้พยายามอย่างหนักในการพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่น Carry ที่ดีที่สุดในโลก" "การเล่นเกมมันคือการเล่นเพื่อความสนุกด้วย ผมชอบทำเรื่องตลกให้คนอื่นสามารถหัวเราะไปกับผมได้ มันเป็นเรื่องที่ดีนะ ที่เราสามารถทำงานหนักไปพร้อมกับการทำเรื่องฮาๆ (ในเกม) เพื่อคลายความกดดันได้" MATUMBAMAN เล่า ทั้งนี้ MATUMBAMAN ถือเป็นผู้เล่นที่ได้เงินรางวัลจากการแข่งขัน DOTA 2 ในทุกทัวร์นาเม้นต์มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 (3,077,986 USD) เป็นรองแค่เพื่อนทีม อย่าง กัปตัน KuroKy และ Miracle-   Miracle- เด็กมหัศจรรย์แห่งวงการ DOTA 2 Signature Heroes: Invoker, Anti Mage และ Shadow Fiend Amer Al-Barkawi หรือ Miracle- เป็นผู้เล่น Mid lane ฟอร์มเจ๋งอีกคนหนึ่งของ Team Liquid ที่ไม่ได้มีประสบการณ์ในการแข่งขัน DOTA 2 แบบมืออาชีพมาก่อน แต่แฟนเกมก็รู้จักชื่อนี้มานานแล้ว ทั้งนี้ Miracle- เข้ามาแข่งขันแบบจริงจังเมื่อปี 2015 แค่เพียงสองปีก่อนที่จะคว้าแชมป์ TI 7 โดยตอนแรกอยู่ทีม Balkan Bears ก่อนจะถูกถอดออกจากทีม ในระหว่างที่ไม่ได้สังกัดทีมอะไรอยู่นั้น Miracle- ก็ได้สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการไต่แรงค์ MMR จนกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่มีแต้ม MMR สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก (MMR 9,000) หลังจากนั้นจึงถูกชักชวนเข้าทีม (Monkey) Business ในช่วงหลังจาก TI 5 ก่อนที่ทีมจะเปลี่ยนชื่อเป็น OG ในช่วงที่แข่ง TI 6 ทีมก็ได้พ่ายแพ้ให้กับ TnC Gaming ในรอบสองของการแข่งสายล่างรอบ Main Stage ทำให้แฟนทีมผิดหวัง หลังจากที่ FATA- หนึ่งในสมาชิก Team Liquid ถอนตัวออกจากทีม Miracle- ก็ได้เข้ามาเสียบแทน เล่นตำแหน่ง Mid lane ในปี 2016 หลังจากนั้นใน TI 7 ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด ถ้าถามว่าจุดเริ่มต้นของการเป็น "Miracle Boy" คืออะไร ก็คงเป็นการที่ตามพี่ชายไปที่ร้านเกมแล้วก็ได้รู้จักกับเกม DotA นั่นเอง ซึ่งตอนนั้น Miracle- มีอายุได้เพียง 12 ปีเท่านั้น จากนั้นก็กลายเป็น Pub-Star ด้วยการไต่แรงค์ MMR จาก 5.3 k เป็น 7 k และพอขึ้น 8 k (ซึ่งตอนนั้นมีอยู่แค่ 2 คนในโลก อีกคนคือ w33Ha) เจ้าตัวก็เริ่มรู้สึกตัวและคาดหวังว่าจะมีทีมมืออาชีพชักชวนเข้าร่วมทีม ภายใน 2 ปี Miracle- ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่วงการ DOTA 2 อย่างเต็มตัว ด้วย MMR 9K และการเป็นสมาชิก Team Liquid ชุดแชมป์ TI 7 แถมยังครองตำแหน่งผู้เล่นที่มีรายได้สูงที่สุดจากการแข่งขันเป็นอันดับสองรองจาก KuroKy กวาดเงินไปแล้วกว่า 3,311,374 USD   MinD_ContRoL - Off lane สุดโหดของ Team Liquid Signature Heroes: Dark Seer, Natures Prophet และ Beastmaster Ivan Borislavov Ivanov หรือ MinD_ContRoL เป็นผู้เล่นตำแหน่ง off lane ประจำ Team Liquid โดยเขาเข้าสู่วงการมืออาชีพเมื่อปี 2014 ด้วยการเป็นสมาชิกของทีม Vast Cast หลังจากที่เปลี่ยนทีมอยู่ประมาณ 3 ครั้ง ก็ได้รู้จักกับ KuroKy แล้วและก็ถูกชวนให้เข้าร่วมทีม 5JungZ ก่อนจะเซ็นสัญญาและเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Team Liquid MinD_ContRoL ได้เข้าร่วมการแข่งขัน TI 6 ทว่า Team Liquid ไม่สามารถทำผลงานได้โดดเด่นเท่าที่ควรและตกรอบไปในที่สุด นอกจากนี้ในการแข่งขัน TI 7 ทาง Team Liquid ก็แพ้และร่วงลงไปอยู่ในการแข่งขันสายล่าง (Lower Bracket) ทำให้ทีมเข้าสู่จุดวิกฤตอีกครั้ง โดย MinD_ContRoL  เล่าความรู้สึกให้กับ AOC Gaming ฟังว่า "เอาจริงๆ ตอนนั้นที่แพ้ให้กับ Invictus Gaming ผมคิดว่าทีมจะต้องออกจากการแข่งขันแล้วจริงๆ ทว่าหลังจากที่ทั้งทีมนั่งคุยกันและวิเคราะห์ภาพรวมของเกม เราก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามันก็แค่เป็นช่วงเวลาที่แย่เฉยๆ โชคดีที่การแข่งขันรอบถัดไปไม่ได้อยู่ในวันเดียวกัน พอเช้าต่อมาเราก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้กดดันอะไรอีก หลังจากนั้นเราคิดอย่างเดียวว่าต้องชนะให้ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ชนะจริงๆ" [caption id="attachment_3412" align="alignnone" width="786"] Team Liquid ร่วงลงไปอยู่สายล่างของการแข่งขัน TI 7 ก่อนจะชนะ NEWBEE และได้แชมป์ไปครอง[/caption] "ตอนแรกที่เราชนะ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่เราสามารถเอาชนะทีมใหญ่อย่าง Newbee ได้ ซึ่งระหว่างแข่งผมไม่ได้คิดอะไรมากเลย เพราะกำลังโฟกัสอยู่กับเกม ผมเพิ่งมารู้ตัวทีหลังก็หลังจากสองสามวันต่อมา ชัยชนะสำหรับผมมันคือรางวัลที่ตอบแทนความพยายามของหลายปีที่ผ่านมา แต่สำหรับทีมมันเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเรา เราทุกคนต่างก็มีความสุขที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่สุดยอดในครั้งนี้ "   GH - กุญแจสำคัญในการคว้าแชมป์ TI7 Signature Heroes: IO, Keeper of the Light และ Earthshaker Maroun Merhej หรือ GH ถือเป็นผู้เล่นที่เป็นตัวสำคัญทำให้ Team Liquid ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ฝันเอาไว้ นั่นก็คือการเป็นแชมป์ในทัวร์นาเม้นต์ The International Dota 2 Championship โดย GH เป็นเข้าสู่วงการแข่งขันเกมมืออาชีพด้วยการเป็นสมาชิกของ Wired Gaming ในปี 2014 เป็นผู้เล่นที่มีชื่อเสียงมากในเกม Public ด้วยการครองตำแหน่งแรงค์ MMR 9K สูงสุดในยุโรป ตอนแรกเล่น Mid lane ก่อนจะผลิกมาเป็นตำแหน่ง Support ของทีม เข้ามาใน Team Liquid ด้วยการเข้ามาเล่นในตำแหน่ง Support แทนที่ผู้เล่นสุดเก๋าอย่าง BuLba ก่อนจะได้เซ็นสัญญากับทีมอย่างเป็นทางการในปี 2017 ที่บอกว่า GH เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้ทีมคว้าแชมป์ TI 7 ได้นั้นก็เพราะว่า หลังจากที่เขาเข้ามาในทีมก็ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นมาก จากอันดับที่ 7-8 ของ TI 6 ก็ทำให้ Team Liquid ชนะ DreamLeague Season 6 พาทีมเข้าสู่การแข่ง Dota 2 Asia Championships 2017 และ StarSeries Season 3 และชนะในทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้ใน Team Liquid ถือเป็นทีมที่รวบรวมผู้เล่นที่มีแรงค์ MMR 9 K เอาไว้ด้วยกันถึง 3 คน ได้แก่ MATUMBAMAN, Miracle- และ GH น่าสนใจว่าในปีนี้แชมป์เก่า จะสามารถป้องกันแชมป์ใน TI 8 ได้หรือไม่  

สถานที่: Rogers Arena, Vancouver, British Columbia, Canada วันแข่ง: 20 - 25 สิงหาคม 2018 ช่องทางการรับชม: dota2ti   The International Dota 2 Championship หรือรู้จักการในชื่อย่อว่า TI เป็นทัวร์นาเมนต์แข่งเกม Dota2 ระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีผู้จัดคือผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Valve โดยผู้ที่จะเข้าแข่งขันได้จะต้องแข่งเก็บแต้มใน Dota Pro Circuit หากใครคะแนนผ่านเข้ารอบก็จะได้เป็นทีมรับเชิญ ส่วนหากทีมไหนพลาดจะต้องแข่งรอบคัดเลือกเพื่อที่จะได้เข้าแข่ง TI โดยแบ่งเป็นโซนตามภูมิภาค ในปีนี้จะมีทีมสุดแกร่งที่จะร่วมเข้ามาประชันฝีมือกันถึง 18 ทีมด้วยกัน แบ่งเป็นทีมที่ได้รับเชิญ (Invited Teams) จำนวน 8 ทีม และทีมที่ต้องแข่งเพื่อที่จะได้ผ่านเข้ารอบ (Qualified Teams) อีก 10 ทีม งาน TI ครั้งนี้ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ครั้งที่ 8 ซึ่งครั้งแรกถูกจัดขึ้นในงาน GamesCom ที่เมือง Cologne ประเทศเยอรมันนี ในวันที่ 17-18 สิงหาคม 2011 ตอนนั้นมีทีมเข้าร่วมเพียงแค่ 16 ทีมและทุกทีมที่ได้เข้าแข่งขันจะต้องเป็นทีมที่ถูกเชิญเท่านั้น ส่วนเงินรางวัลในตอนนั้นมีมูลค่า 1,600,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ พองาน TI 2 ทาง Valve ก็ย้ายไปจัดงานที่ Benaroya Hall ในเมือง Seattle รัฐ Washington อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งถึงงาน TI 7 ที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว ส่วนงาน TI 8 ที่จะจัดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะย้ายไปจัดที่ประเทศแคนาดา   Prize Pool (เงินรางวัล) TI 1 - 1,600,000 USD | TI 2 - 1,600,000 USD | TI 3 - 2,874,380 USD TI 4 - 10,923,977 USD | TI 5 - 18,429,613 USD | TI 6 - 20,770,460 USD | TI 7 - 24,787,916 USD เมื่อเทียบระหว่างการจัดงานครั้งแรก จนถึงปีที่แล้วพบว่า เงินรางวัลของทัวร์นาเมนต์ที่เฟ้นหาสุดยอดผู้เล่นมากฝีมือประจำเกม Dota 2 ในครั้งนี้เพิ่มขึ้นถึง 23,187,916 USD หรือคิดง่ายๆ คือเงินรางวัลเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่าจาก TI 1 โดยงาน TI 8 ที่จะถึงก็มีแนวโน้มสูงอยู่เหมือนกัน ที่เงินรางวัลจะพุ่งสูงขึ้นไปจากเงินรางวัลของ TI 7 ซึ่งมีมูลค่า 24,787,916 USD โดยทีมแชมป์ที่ซิวเงินรางวัลไปกว่า 10,862,683 คิดเป็น 44% ของเงินรางวัลทั้งหมดในปีนั้นได้ก็คือ Team Liquid นั่นเอง ต้องอธิบายก่อนว่าที่จู่ๆ เงินรางวัลก็เพิ่มขึ้นทั้งนี้เป็นเพราะในงาน TI 2 ครั้งแรกที่จัดขึ้น เงินรางวัล 1,600,000 USD เป็นเงินที่ทาง Valve กำหนดขึ้น ส่วนตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นมา ทาง Valve จะกำหนดเงินรางวัลขั้นพื้นฐานให้จำนวน 1,600,000 USD เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีเงินที่ได้มาจากการขาย Battle Pass ประมาณ 20-25% มาเป็นเงินรางวัลโปะทับเข้าไป สำหรับยอดเงินรางวัล Prize Pool ของ Ti8 ณ ปัจจุบันนี้มียอดทั้งสิ้น 23,770,480 USD และยังมีเวลาที่แฟนเกมจะร่วมซื้อ Battle Pass เพื่อช่วยเพิ่มเงินรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันด้วย   Battle Pass แน่นอนว่าหากพูดถึงงาน TI แล้ว จะขาด Battle Pass ไปไม่ได้เลย เพราะถือเป็นหัวใจหลักในการระดมเงินรางวัลจากเหล่าบรรดาแฟนเกม สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อาจจะไม่เคยเล่น Dota 2 มาก่อน Battle Pass ก็คือ สมุดสะสมแต้ม ที่เราจะสามารถเก็บเลเวลแล้วปลดล็อกของรางวัลในเวลต่างๆ โดยในปีหนึ่งจะออกมาประมาณ 3-4 ครั้ง โดย The International Battle Pass เลเวล 1 จะมีราคาจะอยู่ที่ 9.99 USD ส่วนเลเวล 75 ราคา 36.99 USD ปล่อยออกมาให้ซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม และจะหมดเวลาในวันที่ 1 กันยายนนี้ The International Battle Pass ในปีนี้มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้แฟนเกมได้ร่วมสนุก ตั้งแต่โหมด The Underhollow ที่ผู้เล่นจะต้องฟอร์มทีม 3 คนเพื่อร่วมตะลุยลงไปในรังใต้ดินและขโมยชีสระดับแรร์ของ Roshan ซึ่งหากหลบหนีได้สำเร็จจะได้รับ Battle point ที่พิเศษที่สุดคือโหมดนี้จะเป็นโหมดผสมระหว่าง Battle Royale และ Competitive นอกจากนี้ยังมี Carvern Crawl ที่ให้ผู้เล่นใช้ฮีโร่ที่กำหนดเพื่อเอาชนะเกมต่างๆ หากชนะไปเรื่อยๆ จะได้ไอเทมพิเศษ แต้ม Battle point และ Jade baby Roshan เป็นรางวัล อีกโหมดที่น่าสนุกไม่แพ้กันคือ Mutation Mode ที่เกมจะสุ่มอีเว้นท์พิเศษให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ใหม่ทุกวัน เช่น สามารถชุบชีวิตเพื่อนได้ ทั้งนี้ในยังเพิ่มระบบใหม่อีกมากมายอย่าง In-Game Tipping ที่เราสามารถแจกแต้ม Battle Point ให้กับเพื่อนได้โดยไม่เสียแต้มของตัวเอง รวมถึงยังมีการสะสมการ์ดของทีมโปรดเป็นต้น หากเพื่อนๆ สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่   ARCANA นอกเหนือจาก Battle Pass แล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์คือ การโหวต Arcana ประจำทัวร์นาเมนต์ The International Dota 2 Championship ซึ่งเริ่มมีตั้งแต่ 2014 เป็นต้นมา โดยในแต่ละปีจะเปิดให้ผู้เล่นได้เลือกโหวตว่าอยากให้ฮีโร่ตัวไหนได้มี Arcana หรือก็คือไอเทมสุดแรร์กับเขา โดยฮีโร่ที่ชนะการโหวตตั้งแต่ปี 2014 - 2017 ได้แก่ Phantom Assassin, Zeus, Juggernaut และ Pudge [caption id="attachment_3212" align="alignnone" width="960"] ภาพจาก Wykrhm Reddy[/caption]   ทำไมถึงควรดูการแข่งขัน TI 8 ในครั้งนี้  นอกจากที่ TI 8 จะเป็นการแข่งขันที่ใกล้จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีเงินรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการ E-Sport แล้ว ในครั้งนี้ยังมี Jabz ผู้นักกีฬา Dota 2 จากประเทศไทยเข้าไปร่วมอยู่ในทีม Mineski ซึ่งเป็นถึง 1 ใน 8 ทีมที่ได้รับเชิญอีกด้วย โดย อนุชา จิระวงศ์ หรือ Jabz เคยสังกัดทีม Everlast.GameFilling, Signature Trust และ Team Faceless มาก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกทีม Mineski นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีชาวไทยเข้าไปร่วมแจมกับการแข่งขัน Dota 2 รายการ The International Dota 2 Championship ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากเพื่อนๆ คนไหนมีทีมเชียร์ในใจแล้วก็ขอให้เชียร์กันให้สนุก อย่าลืมกดติดตาม GameFever TH เพราะเราจะคอยมาอัพเดทข่าวสารอย่างใกล้ชิดทุกวันอย่างแน่นอน!

สำหรับเกมเมอร์หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันจัดงาน OpenAI Five Benchmark ซึ่งเป็นวันที่เหล่าผู้พัฒนาของ OpenAI จะนำตัวบอทเวอร์ชั่นล่าสุดมาแข่ง Dota 2 กับทีมผู้เล่นมือโปร เพื่อทดสอบฝีมือของบอทก่อนจะนำไปแข่งแสดงในงาน The International 2018 งานแข่ง Dota 2 ชิงแชมป์โลกที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ (20-25 สิงหา) ผลจากการแข่งทั้งสามเกมปรากฏว่าเจ้า OpenAI สามารถเอาชนะเหล่าโปร (ซึ่งมีฝีมืออยู่ในระดับท๊อป 0.05% ของผู้เล่นทั่วโลก) ไปได้ถึง 2/3 เกม! (ชมวีดีโอการแข่งทั้งสามเกมได้ด้านล่าง) สำหรับเกมแรก เจ้า OpenAI สามารถเอาชนะทีมโปรไปได้ในเวลา 21 นาที 37 วินาที ซึ่งทีมประกอบไปด้วยผู้เล่นระดับพระกาฬอย่าง Blitz, Cap, Fogged, และ Merlini ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอดีตโปร E-Sports ทุกคน โดยเจ้า OpenAI มีการขู่เอาไว้ก่อนเริ่มเกมด้วยว่ามีโอกาสชนะเหล่าโปรถึง 95% ทีเดียว ก่อนจะเอาชนะทีมโปรในเกมที่สองด้วยเวลา 24 นาที 53 วินาที ทีมโปรสามารถเอาชนะเจ้าบอทลงได้ในเกมที่สาม เมื่อผู้พัฒนาปล่อยให้เหล่าผู้ชมใน Twitch เป็นคนเลือกฮีโร่ที่ทีมบอทจะเล่น โดยนักวิเคราะห์ระบบ A.I. หลายคนบอกว่าไม่น่าแปลกใจเพราะเจ้า OpenAI ถูกจำกัดมาให้เล่นฮีโร่เพียง 18 ตัว จาก 115 ตัว (เพื่อช่วยให้บอทสามารถประมวลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น) ทำให้ใช้ฮีโร่ที่ผู้เล่นเลือกมาได้ไม่เต็มที่ (เพราะผู้เล่นเลือกแต่ตัวตำแหน่ง Carry ด้วย) โดยเจ้า OpenAI ประเมินโอกาสชนะของตัวเองในเกมที่ 3 ไว้เพียง 2% เท่านั้น แม้ว่าเหล่าผู้พัฒนาจะเปิดเผยว่าบอทสามารถฝึกตัวเองได้เทียบเท่ากับการเล่นเกมเป็นเวลา 180 ปีทุกๆ วันก็ตาม นอกจากนี้ ผู้พัฒนายังเปิดเผยด้วยว่าเจ้า OpenAI ต้องใช้ CPU และ GPU (การ์ดจอ) ในการประมวลผลเยอะมากๆ โดยเจ้าบอทเวอร์ชั่นล่าสุดต้องใช้การ์ดจอ Nvidia P100 ถึง 256 ตัว และการ์ด CPU Core อีกถึง 128,000 ตัวในการสร้างขึ้นมา