GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "bloodborne"
Masaaki Yamagiwa ผู้สร้าง Bloodborne ได้ย้ายไปอยู่กับผู้สร้าง Nioh
From Software กำลังยุ่งอยู่กับการเข็น Elden Ring ผลงานใหม่ของพวกเราที่ผสมผสานข้อดีของเกมทั้งหมดที่เคยสร้างมา ออกมาขายให้ทันต้นปี 2022 อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกันภาคต่อของ Bloodborne ก็เป็นอีกเกมที่แฟนๆ เหมือนจะอยากได้กันมาตลอดเป็นเวลาหลายปี และยังคงมีความหวังว่าผลงานต่อจาก Elden Ring เนี่ยแหละ อาจเป็นภาคต่อของเกมนักล่าที่รอคอย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบบนั้นจริง Bloodborne ภาคต่อไปอาจแตกต่างจากเกมภาคแรกที่เราได้เล่นกันMasaaki Yamagiwa อดีตโปรดิวเซอร์ของเกม Bloodborne ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่กับ Team Ninja ผู้สร้าง Nioh อีกหนึ่งซีรีส์ Action RPG แนวเดียวกันที่ได้รับความนิยมเป็นเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่มีการยืนยันในตอนนี้ว่า Masaaki จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ไหน ไม่แน่ว่าอาจเป็นเกมใหม่เลยก็ได้ที่เขาจะพัฒนารวมกับ Team Ninja แต่ตอนนี้จุดโฟกัสแรกของบริษัทคงเป็นการเข็น Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ที่มีกำหนดขายปีหน้าออกมาก่อนไม่ว่าผลงานต่อไปของคุณ Masaaki จะเป็นเช่นไร มีบทบาทยังไงใน Team Ninja รวมไปจนถึงอนาคตของซีรีส์ Bloodborne ยังถือเป็นเรื่องไม่แน่ชัด คงต้องติดตามกันต่อไป และหวังว่าเราจะยังได้เล่นเกมดีๆ กันต่อไปครับ<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='ja' dir='ltr'>Team NINJAにBloodborne、TOKYO JUNGLEなどを開発してた山際<a href='https://twitter.com/giwamasa?ref_src=twsrc%5Etfw'>@giwamasa</a> が参加することになりました。よろしくお願いします。 <a href='https://t.co/ClCyOYeR0b'>https://t.co/ClCyOYeR0b</a></p>&mdash; Team NINJA (@TeamNINJAStudio) <a href='https://twitter.com/TeamNINJAStudio/status/1446457936692215810?ref_src=twsrc%5Etfw'>October 8, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>Credit : GamingBolt
11 Oct 2021
Bloodborne ม็อดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
Bloodborne เกมชื่อดังจากค่าย FromSoftware ที่นำพาผู้เล่นไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งนี้ตัวเกมได้มีการขายมาตั้งแต่ 2015 แต่ก็ยังมีใครหลายๆ คนที่ชื่นชอบเกมนี้อยู่และตอนนี้ทาง Garden of Eyes นักพัฒนาม็อดเกมก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างของม็อดที่จะทำให้เกมมีมุมมองบุคคลที่หนึ่งแทน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าอีกไม่นานม็อดนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ดาวน์โหลดกันจากตัวอย่างที่เห็นทำให้เราทราบว่าตัวเกมนั้นจะทำให้เราต้องเล่นแบบท้าทายมากขึ้นเพราะนอกจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวของเรายากขึ้นแล้วเรายังต้องระวังด้านหลังของตัวเองอีกด้วย เราสามารถเปิดใช้งานม็อดได้จากการใส่หมวกที่เพิ่มเข้าไปในเกมที่มีชื่อว่า Great One Hat โดยจะได้รับมาตั้งแต่เริ่มเกม ม็อดนี้จะทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในเกมที่จะทำให้เราตื่นเต้นไปกับการเดินทางครั้งนี้นอกจากนี้ตัวม็อดยังสามารถใช้งานร่วมกับแพทช์ 60 FPS ของ Lance McDonald ได้อีกด้วย ทำให้การเล่นเกมไม่ติดขัดปัญหาที่น่ารำคาญแต่อย่างใด หากใครสนใจม็อดนี้สามารถติดตามได้ที่ Garden of EyesCredit: Kotaku
16 Aug 2021
Bloodborne Remastered ลือ!! เตรียมวางขายให้ PS5 ในปีนี้
จากข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ Bloodborne เกม Action RPG จาก FromSoftware ที่วางจำหน่ายให้กับเครื่อง PS4 ที่กำลังจะมีการรีมาสเตอร์สำหรับ PS5 จากข่าวลือตั้งแต่มิถุนายน 2020 ระบุไว้ว่าทาง QLOC กับ Bluepoint กำลังร่วมกันพัฒนา Bloodborne Remaster และในเดือนกันยายน 2020 มีข่าวลืออีกเรื่องหนึ่งบอกว่าการรีมาสเตอร์นั้นคืบหน้ามากและจะมีคอนเทนต์ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาด้วยแน่นอนว่ายังไม่มีใครได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเลยหลังจากนั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้นักปล่อยข่าวลือบน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า SoulsHunt ผู้ที่ปล่อยรายละเอียดเกี่ยวกับ Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ลง Twitter ว่า (ใช้ DeepL ในการแปล) Bloodborne Remastered กำลังจะวางขายในปีนี้สำหรับ PS5 ส่วนของ PC จะมาในภายหลังลิงก์ Twitter : Beaucoup attendent une suite à Bloodborne mais cela n'arrivera pas. FS préfère se focaliser sur de nouvelles IPsCependant, Bloodborne sortira bien cette année sur PS5 (plus tard sur PC) ! Le remaster n'est pas développé par Bluepoint ni FS mais est ambitieux pic.twitter.com/zX2aBEkMAC— SoulsHunt (@SoulsHunts) June 19, 2021 อย่างไรก็ตามในโพสต์ของ SoulsHunt ยังบอกอีกว่าภาคใหม่นี้ไม่ได้พัฒนาโดย Bluepoint Games หรือ FromSoftware แต่เป็นฝีมือของ QLOC ในการพัฒนาทั้งหมดแทน และยังมีบอกอีกว่าเป็นเกมที่มีความทะเยอทะยานสูง ซึ่งอาจตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาถึงแม้ว่าข้อมูลของ SoulsHunt จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อข่าวลือทั้งหมด เราก็แค่รอการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเดียว อย่างไรก็ตามระหว่างนี้สามารถเล่น Bloodborne บน PS5 ได้ แต่ทำงานที่ 30 FPS เท่านั้นCredit : https://gamingbolt.com/bloodborne-remaster-is-out-this-year-on-ps5-later-for-pc-rumor
22 Jun 2021
ลือ! Sony จะเอาเกม Exclusive ที่ลงให้กับ PC อีกหลัง Days Gone วางขาย
CrazyLeaksOnATrain จอมปล่อยข่าวลือ ที่มีความถูกต้องสูง ได้โพสต์ข้อความใหม่บน Twitter หลังจากไม่ได้ทำมานาน ประกาศว่า Sony จะเอาเกม BloodBorne, Uncharted Collection, God of War และ Ghost of Tsushima ลงให้กับ PC หลังจากนี้ พอมีคนถามไปว่าเกมพวกนี้จะลงให้กับ PC จริงๆ เมื่อไหร่? CrazyLeaksOnATrain ก็ได้ตอบว่า ประกาศจะมาในช่วงปลาย เมษา ต้น พฤษภา หลังจากที่ Days Gone วางขาย ซึ่งจะทยอยลงให้กับ PC ทุกๆ 2 - 3 เดือน แต่เขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ลำดับ จะเป็นยังไง BloodBorne ถือได้ว่าเป็นเกมที่มีข่าวลือว่าจะลงให้กับ PC มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นเกมนี้ที่ลงให้กับ PC ก่อน แต่อะไรๆ ก็เป็นไปได้ เพราะคิดว่าน่าจะมีผู้เล่นไม่น้อยเช่นกันที่รอการมาของ God of War ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงขนาดไหนครับ Announcements will come after days gone release ( should be released April or early may). It will then be a release every 2 to 3 months there on ish unsure exactly nl which one is next but that is the list of next games coming — CrazyLeaksOnATrain (@CrazyLeaksTrain) March 5, 2021 Credit: GameRadar+
08 Mar 2021
ชวนนั่งคิด เป็นไปได้หรือไม่ที่จักรวาล Soulsborne ทั้งหมดจะเชื่อมโยงกัน?
ประเด็นที่ว่าจักวาล SoulBorne ทั้งหมด (Demons Souls, Dark Souls 1 - 3, และ BloodBorne) ซึ่งบ้างก็บอกว่าทั้งสามไม่น่าเป็นเกมที่อยู่ในจักรวาล หรือ Timeline เดียวกับ แต่ก็ยังมี Youtuber และนักเขียนหลายคนที่นำเสนอทิศดีที่ชื้ให้เห็นว่า ทั้ง 3 เกมอยู่ในจักรวาล และ Timeline เดียวกัน ซึ่งทาง From Software ก็ไม่เคยออกมายืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่งผลให้แม้ในปัจจุบันเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงพูดคุยในหมู่แฟนเกม โดยส่วนตัวผมเองแล้ว เชื่ออย่างยิ่ง ว่าทั้ง 3 เกม อยู่ในจักวาลเดียวกัน โดยมี Demons Souls เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล ต่อมาด้วยประเด็นความขัดแย้งเรื่องว่า โลกควรจะมีพลังของไฟอยู่หรือไม่ใน Dark Souls ก็เป็นจุดเริ่นต้นของเรื่องราวในโลกของ Bloodborne ซึ่งวันนี้ผมจะขออธิบายทฤษฎีของผมให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ ป.ล "บทความนี้มีการสรุปเนื้อเรื่องของตัวเกม SoulBorn ทั้งหมดเอาไว้แบบพอสังเขป และมีการสปอยเนื้อเรื่องบางส่วนด้วย" เรื่องราวของ Demon’s Souls เกี่ยวกับอะไร ? บทเริ่มต้นของ Demons Souls ได้กล่าวว่า   "ในวันแรกมนุษย์ได้รับดวงวิญญาณ / สติความนึกคิดมา และในวันที่สองแผนดินของถูกปลูกด้วยพิษร้ายแรง ปิศาจที่กัดกินดวงวิญญาณทั้งปวง" เรื่องราวของ Demon’s Soul จะกล่าวถึง The Old One สิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณ มารดาแห่งปีศาจทั้งปวง ที่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และต้องการจะกลืนกินดวงวิญญาณทั้งหมดบนโลก ในโลกของเกมนี้ Souls (วิญญาณ) คือตัวแทนของสติปัญญา และความนึกคิดของสิ่งมีชีวิต หากเป็นร่างกายที่ปราศจาก Souls สิ่งจะไร้สติปัญญา ไม่สามารถตอบสนองสิ่งรอบตัวได้อย่างปกติ (ดังนั้นในโลกนี้ Souls จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ) การตื่นของ The Old One ยังทำเกิดการกระจาย Deep Fog (หมอกหนาที่พบในเกม) ไปยังทั่วทุกแผ่นดินของโลก หมอกนี้ไม่สามารถมองทะลุได้ ทั้งยังมีความสามารถในการสูบ Souls เช่นกัน ใครก็ตามที่เข้าไปในหมอกนี้จะไม่มีวันได้กลับออกมา ซึ่งถ้าหากคิดตาม Logic ของโลกแล้ว อาจกล่าวได้ว่า Deep Fog คือขั้วตรงกันข้ามของ Souls เมื่อมันถูกกระจ่ายไปทั่วโลก ย่อมหมายถึงการที่ Souls เริ่มถูกแย่งชิงไปจตากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเช่นเดียวกัน เมื่อพื้นฐานของทุกสิ่งมีชีวิตถูกช่วงชิงไป สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เหตุผล กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมประกอบ และโหยหา Souls เพื่อให้ตัวเองสมบูรณ์ จนถึงขนาดที่ต้องพยายามแย่งชิงมาจากสิ่งมีชีวิตอื่น เรื่องนี้สามารถสังเกตได้จากคำพูดของ สตรีผู้ขายของอยู่ในคุกหอคอยในประโยคที่ว่า   "ฉันยินดีที่จะยกไอเทมเหล่านี้ให้กับเธอ เพื่อแลกกับ Souls จำนวนที่เท่าเทียม เธอก็รู้ว่าฉันต้องการ Souls เพื่อให้ตัวเองยังคงมีสติอยู่"  เลือก Evil End เนื้อเรื่องดูจะโยงไปถึง Dark Souls ภาคแรก ในฉากจบแบบ Evil Ending ตัวละครเราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ The Old One และกระจายหมอกขนาดใหญ่ออกไปปกคลุมโลก พร้อมทั้งกลืนกืน Souls เกือบทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสอ่าน Lore ของ Dark Souls ในช่วงเปิดเกมของภาคแรก จะสังเกตุได้ว่าโลกถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา คือเรียกได้ว่าเป็นการส่งต่อที่สมเหตุสมผลมากๆ ครับ เรื่องราวของ Dark Souls โศกนาฏกรรมการจุดไฟที่ไม่จบสิ้น ในยุคโบราณของ Dark Souls สิ่งมีชีวิตที่เข้มแข็งที่สุดของโลกคือเหล่ามังกร แต่การค้นพบเปลวเพลิง ได้ทำให้ลำดับชั้นของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อ Hollow สี่ตนได้พบกับเปลวเพลิง และพบกับ Soul of the Lord ในนั้น Hollow ทั้งต่อมาได้ถูกกล่าวขานว่า Gravelord Nito , Gwyn Lord of Cinder, Witch of Izalith ที่เป็นเผ่ายักษ์ กับ Pygmy ที่เป็นมนุษย์ ในจุดนี้ต้องขออธิบายก่อนว่า พลังที่ Pygmy ได้รับมาแตกต่างจากที่เหล่ายักษ์ได้ เนื่องจากมันเป็นพลังแห่งความมืด ซึ่งเป็นขั้วตรงกันข้ามกับเปลวเพลิง อันเป็นต้นกำเนิดพลังแห่งแสงของยักษ์ทั้งสาม ต่อมาเหล่ายักษ์ได้ท้าทายกับมังกร และสามารถเอาชนะมาได้ ทำให้อารยธรรมกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ยุคแห่งไฟที่สงบสุขได้เริ่มต้นขึ้น (Age of Fire) แต่ทุกอย่างย่อมมีสมดุลของมันเอง Pygmy อันเป็นบิดา ของมนุษย์ทั้งปวงได้ส่งมอบพลังแห่งความมืดที่เขามี ต่อมาให้มนุษย์ยุคหลังๆ โดยที่ไม่รู้ตัว และมันก็ถูกรู้จักในชื่อ "Humanity" ยิ่งเวลาผ่านไปพลังแห่งความมืดก็เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตามการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ แต่ในทางตรงกันข้ามกองไฟ The First Flame อันเป็นต้นกำเนิดของพลังแห่งแสงสว่างกลับค่อยๆ มอดดับลง เมื่อพลังแห่งความมืดเข้มแข็งกว่า การตายของมนุษย์จึงไม่ทำให้พวกเขาตาย แต่ได้รับ Dark Sign มา โดยแลกกับ Humanity ที่ตัวเองมี และทำให้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในฐานะ Undead และยิ่ง Undead ต้นนั้นตายซ้ำตายซากมากขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็จะสูญเสียความนึกคิดกับสติปัญญาไปมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้เมื่อถึงจุดหนึ่ง เหล่า Undead จะกลายเป็น Hollow ที่ไม่มีความนึกคิด ไม่มีจุดหมาย ลืมกระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร Hollow บางตัวก็อยู่นิ่งเฉยๆ แต่ Hollow บางตัวก็โจมตีผู้อื่นไปทั่ว (ซึ่งนี่อาจเป็นความหมายที่แท้จริงของ Lore ช่วงแรกจากเกม Demons Soul ที่กล่าวว่าถึงพิษที่ถูกปลูกลงมายกพื้นโลก เพราะถ้าหากเข้าใจว่า Souls และ ไฟ คือพลังของมนุษย์ Deep Fog กับพลังแห่งความมืด ก็คือสิ่งที่อยู่ขั้วตรงกันข้ามครับ) เพื่อให้เหตุการณ์นี้จบลง และต่ออายุยุคแห่งไฟให้ยาวนานขึ้น Witch of Izalith ได้ทำการทดลองต่างๆ เพื่อที่จะจุดกองไฟ The First Flame ให้กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง แต่การทดลองที่ผิดพลาด ได้เปลี่ยนเหล่าลูกหลาน ของเธอบางคนให้กลายเป็นปีศาจ (Demon) ซึ่งตัวเธอเองก็ได้กลายเป็น Bed of Chaos ปีศาจที่สูญเสียสติ นี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่าง Demon กับ มนุษย์ และยักษ์ ที่ดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งในตอนนั้น Gwyn Lord of Cinder ได้ตระหนักแล้วว่ายุคแห่งไฟกำลังจะสิ้นสุดลง Gwyn Lord of Cinder ตัดสินใจที่จะเดินทางไปยัง Kiln of The First Flame เพื่อที่สละร่างกาย และวิญญาณของตนเพื่อจุดให้ The First Flame กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง แต่ไม่ว่าไฟจะร้อนแรงขนาดไหนวันก็ย่อมมีวันมอดดับ เนื้อเรื่องของ Dark Souls จึงจะวนเวียนอยู่กับการจุดไฟ The First Flame เพื่อต่ออายุของ Age of Fire ในทุกๆ ภาค ซึ่งมีเพียงผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ (The Chosen Undead, Bearer of the Curse, Ashen One) เนื้อเรื่องของ Dark Souls 3 และโลกแห่งภาพวาด Ariandel  เรื่องราวของ Dark Souls 3 จะเป็นช่วงเวลาหลายพันหลายหมื่นปีหลังจากภาคแรก ยุคแห่งไฟได้ถูกต่อมาหลายต่อหลายครั้งจน Lord of Cinder (ผู้ต่ออายุให้กับกองไฟ) มีมากมาย 6 - 7 คนแล้ว โดยแน่นอนว่าเนื้อเรื่องก็ยังคงเกี่ยวกับการจุดไฟอยู่เหมือนเดิม ในภาคนี้เราจะได้ทราบว่าทุกครั้งที่ The Fire Flame กำลังจะมอดดับลง และ The Chosen Undead (ซึ่งภาคนี้เรียกว่า Ashen One) จำเป็นต้องจุดไฟขึ้นมาอีกครั้ง โลกจะจะอยู่ในยุคที่เสื่อมโทรมถึงขีดสุดเช่นกัน และมันมักจะนำพาการต่อสู้ระหว่าง แสงสว่างกับความมืดมาด้วย (เนื่องจากในเกมมีตัวละครฝั่ง Undead กับ Hollow ที่อยากให้ยุคของไฟจบลงเช่นกัน) โดย0ความจริงแล้ว Ashen One ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวด้วย ใน DLC ตัวแรกของเกม Ashes of Ariandel ได้อธิบายถึงจุดนี้ไว้ชัดเจน เนื้อเรื่องจะเล่าถึง Ashen One ที่เหนื่อยหน่ายกับวัฏจักรการจุดไฟ การต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืดที่ไม่จบสิ้น เธอเลือกที่จะละทิ้งหน้าที่จุดไฟ และเดินทางไปยังโลกแห่งภาพวาด Ariandel (The Painted World of Ariandel) และเล่าเรื่องของวัฏจักรการจุดไฟ กับโศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกับไฟให้ Father Ariandel ชายผู้ปกครองโลกนี้ ซึ่งเธอมีชื่อว่า Elfriede หลังจากฟังเรื่องราวของไฟแล้ว Father Ariandel ก็ได้ตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของ  Elfriede เขาเฆี่ยนตัวเองด้วยแส้ เพื่อใช้ เลือด ของตัวเองในการสยบกองไฟไม้ให้โชติช่วงขึ้นมาในโลกแห่งนี้ ในจุดนี้เราจึงได้ทราบว่า เลือด คือสิ่งที่มีพลังมากพอจะสยบประกายของ กองไฟ ได้ครับ อีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เลือด มีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าไฟ คือในฉากที่เลือดของเหล่า The Abyss Watcher ไปรวมกันที่ร่างเดียว และหลอมรวม Soul ของพวกเขาทั้งหมดให้เป็นหนึ่ง ก่อให้กำเนิดร่างที่มีพลังมหาศาลขึ้นมา หรือตอนจบของ DLC The Ringed City ที่ Slave Knight Gael ดื่มเลือดของราชาแห่ง Pygmy เข้าไป และได้รับพลังแห่งความมืดมา รวมถึงประโยคที่เขาพูดว่าหลังเลือดลดไปได้ครึ่งหลอดที่บอกว่า "นี้คือเลือด เลือดที่มีพลังของ Dark Souls" กล่าวคือนอกจาก เลือด จะเป็นสิ่งที่มีพลังมหาศาลแล้ว มันยังเป็นสิ่งที่ใช้ส่งต่อพลังให้กับคนอื่นได้ด้วย ในขณะเดียวกัน เลือด ก็เป็นต้นกำเนิดของ ไฟ ได้เช่นกันสามารถสังเกตได้ในตอนที่ Father Ariandel ใช้ ถ้วยทองขนาดใหญ่ ทุบลงไปที่เลือดของ Elfriede ที่นองอยู่บนพื้นจนทำเกิดเปลวไฟขึ้นมา (ให้ไปนาทีที่ 3.19 ในคลิปด้านบน) ในจุดนี้ผมจึงคิดว่า เลือด เปรียบเสมือนภาชนะที่ใช้ในการกักเก็บพลังของแสงสว่าง หรือความมืดก็ได้ ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ใน DLC Ashes of Ariandel เราจะได้พบกับหญิงสาวผมขาวที่ต้องการจะวาดภาพโลกที่ มืดมิด หนาวเหน็บ และอ่อนโยน และเธอหวังว่ามันจะเป็นบ้านที่แสนสุขให้กับใครสักคน ซึ่งภาพวาดของเธอถูกวาดขึ้นมาด้วย "เลือด" เพื่อที่จะวาดภาพนี้ให้สำเร็จเธอกล่าวว่าเธอต้องการที่จะเห็น ไฟ (ซึ่งผมเข้าใจว่า เพื่อเธอจะไม่เผลอวาดพลังของ ไฟ เข้าไปในโลกใบนี้ด้วย) ในตอนจบหลังจากเอาชนะ Father Ariandel กับ Friede ได้ ไฟจะถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งในโลกแห่ง Ariandel ถ้าหากกลับไปคุยกับเธอ เธอจะขอบคุณเรา และเริ่มวาดภาพต่อ โดยถ้าหากอ้างอิงว่าภาพที่ถูกวาดด้วยเลือดคือโลกหนึ่งใบ ภาพที่หญิงสาวผมขาววาดขึ้นมาด้วยเลือด เป็นไปได้สูงที่จะเป็นโลกของ BloodBorne ครับ โลกของ BloodBorne เรื่องราวของเหล่ามนุษย์ที่โง่เขลา ซึ่งต้องการจะวิวัฒนาการ BloodBorne จะกล่าวถึงโลกที่มนุษย์ทุกคนสามารถกลายเป็น Hunter ได้ เพียงแค่รับเลือด "PaleBlood" เข้าไป โดยโลกของเกมไม่มีการกล่าวถึงคอนเซ็ปต์เรื่อง Souls หรือ ไฟ และความมืดอีกเลย ราวกับว่าเป็นโลกที่มนุษย์ลืมพลังเหล่านั้นและหันมาพึ่งพาเพียงแค่พลังของ เลือด อย่างเดียว แม้ว่าจะเลิกพึ่งพาพลังของ Souls, ไฟ, หรือความมืด ไ ปแล้วแต่ในโลกของ BloodBorne ก็ยังคงมีตัวตนที่มนุษย์เทิดทูนเปรียบเสมือนเหล่าเทพอยู่เหมือนเดิม พวกเขาถูกเรียกว่า The Great Ones แต่แตกต่างจาก Demons Souls กับ Dark Souls ตรงที่ว่า The Great One ดูมีความใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวมากกว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาบนโลกตั้งแต่แรกเลย (ในประเด็นว่า The Great One คืออะไรกันแน่ อันนี้ผมไม่ขอสรุปนะ เพราะมีหลายทฤษฎีเกินไป) เพื่อที่จะเข้าใกล้ The Great One หรือเป็น The Great One เอง มนุษย์ได้ทำการทดลองสุดโหดร้ายมากมาย หนึ่งในนั้นคือการนำเลือดของ The Great One มาทดลองถ่ายให้กับมนุษย์ ความสำเร็จที่ได้คือมนุษย์เหล่านั้นได้พละกำลังที่ยอดเยี่ยมมา แต่ก็แลกกับการกลายเป็นปีศาจอย่างช้าๆ ซึ่งหลังจากกลายเป็นปีศาจเต็มตัว มนุษย์ก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเริ่มโจมตีสิ่งมีชีวิตอื่น ส่งผลให้เกิดเหล่าฮันเตอร์ขึ้นมาเพื่อหยุดปีศาจเหล่านี้ ที่นี่หลายคนน่าจะตั้งคำถามว่า "แล้วมันเชื่อมโยงกับเกมก่อนหน้านี้ยังไง?" จุดเชื่อมโยงที่น่าสนใจของ BloodBorne กับ Dark Souls จริงๆ แล้วมีอยู่หนึ่งจุดครับ นั้นคือการที่เลือดของ Lady Maria ที่ใช้โจมตีเราใน DLC The Old Hunter มันสามารถติด ไฟ ได้!!!! อย่างที่ผมเคยกล่าวไปแล้วว่าในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เลือด สามารถเป็นต้นกำเนิดของ ไฟ ได้เช่นกัน ที่นี่ผมก็คิดขึ้นมาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ " โลกของภาพวาดจริงๆ แล้วไม่ใช้โลกอีกหนึ่งใบที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เป็นอุโมงค์ที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่พิเศษแห่งหนึ่งบนโลกที่ไม่สามารถไปด้วยการเดินทางปกติได้ ? " (เหมือน Greed Island ในการ์ตูนเรื่อง Hunter X Hunter)   อีกหนึ่งหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ของผม คือบทพูดของ NPC ที่ชื่อว่า Marvellous Chester ที่เมือง Oolacile ในภาคแรกที่มีใจความว่า   "อืม ขอฉันเดานะ เดินเข้าไปในความมืด แล้วรู้ตัวอีกที่ก็มาโผล่อยู่ในอดีตสินะ? เพราะมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน เราทั้งสองเป็นคนต่างถิ่น ที่มาอยู่ในแดนประหลาด" บวกกับแต่งตัวเหมือนมาจากเมือง Yharnam มากกว่า Oolacile แถมยังถือมีดที่โจมตีติดเลือดไหล กับหน้าไม้ในมืออีกข้าง (ดูยังไงก็เป็นรูปแบบการใช้อาวุธของ Hunter ในเกม BloodBorne) ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่าเรื่องราวของ BloodBorne คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอันห่างไกลจาก Dark Souls ซึ่งมันยิ่งทำให้คิดแบบนั้นมากขึ้นไปอีกเมื่อผมพบว่า ใต้เมืองของ Yharnam มีซากชุดเกราะจากยุคอดีตที่เหมือนกับตัวละครของเราใน Dark Souls ดังนั้นผมคิดว่าเป็นไปได้สูงที่เมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของ Oolacile ความเป็นไปได้ของ Elden Ring ในเมื่อมาจนถึงขนาดนี้แล้ว มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ครับว่าเนื้อเรื่องของเกมต่อไป Elden Ring เองก็อาจจะเกี่ยวข้องกับผลงานทั้ง 3 ของ From Software ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้าถามว่า "มันจะไปเชื่อมโยงกับตรงไหน" ส่วนตัวเลยผมคิดว่า BloodBorne เป็นเกมที่เนื้อเรื่องสมบูรณ์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ถ้าหากจะมีจุกที่เป็นปริศนาเลย ผมคิดว่าคงเป็นเนื้อเรื่องหลังจากเลือกฉากจบ Dark Lord หรือการไม่ต่อยุคแห่งไฟของ Dark Souls ที่ยังไม่เคยถูกหยิบมาเล่าเลยสักครั้งมากกว่า แต่ก็ยังมีสิทธิที่เกมใหม่นี้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยเช่นกันครับ เป็นอย่างไรกันบ้างกับทฤษฎีเนื้อเรื่องของผม? ขอยืนยันเป็นครั้งสุดท้ายว่า ทั้งหมดที่เพื่อนๆ ได้อ่านมา เป็นการคิด วิเคราะห์ และสรุปจากหลักฐานที่ผมมี หมายความว่า มันอาจจะไม่ถึงต้องเลยแม้แต่นิดเดียวก็ได้ แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องที่ทั้ง 3 เกม อาจอยู่บนจักรวาล และ Timeline เดียวกัน? คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่? คอมเม้นต์พูดคุยกันได้ครับ
03 Mar 2021
เราสามารถเล่น Bloodborne แบบ 60 FPS ได้แล้ววันนี้โดยใช้ Mod
การได้เล่น Bloodborne แบบ 60 FPS เชื่อว่าน่าจะเป็นความฝันของใครหลายคนในตอนนี้ ซึ่งหลังจากผ่านไป 6 ปี วันนี้เราสามารถทำแบบนั้นได้แล้ว โดยการลง Mod ที่ไม่ใช่ของ Official โดยจำเป็นต้องแลกกับความละเอียดของภาพที่เหลือเพียงแค่ 1280*720 บน PS4 ครับ McDonald คือชื่อของ Modder ที่สร้าง Mod ตัวนี้ขึ้นมา ทุกคนสามารถเข้าไปโหลดได้เลยผ่านลิงก์นี้ ซึ่งเขาได้เคยโพสต์วิดีโอโชว์เกมเพลย์บน Twitter ของเขาในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย โดยต้องบอกเลยว่าเกมเพลย์ในแบบ 60 FPS ทำให้ Bloodborne ดูเป็นเกมที่น่าเล่นมาก ทำเอาคิดเลยว่าถ้าข่าวลือก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ตัวเกมกำลังจะมาลงให้ PS5 เป็นความจริง ก็คงจะดีไม่น้อยเลยครับ Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247 
10 Feb 2021
แฟนเกมสุดโหดทำ Bloodborne แบบ Demake ให้หน้าตาเหมือนเกม PS1
Bloodborne คือเป็นหนึ่งใน IP สำคัญของ From Sofware ที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 และยังคงอยู่ในใจของเหล่าผู้เล่นที่ชอบ Action RPG สุดท้าทาย จนส่งผลให้เราได้เห็นคนเอามาเกมนี้มาทำใหม่เป็นแนว RPG แบบคลาสสิค และวันนี้ก็มีแฟนเกมอีกกลุ่มที่ทำการ Demake เกมนี้ให้มีหน้าตาเหมือนมาจากเครื่อง PS1 ครับ Bloodborne PSX คือชื่อของโปรเจกต์ที่เหล่าแฟนเกมตั้ง และทำกันขึ้นมาเอง โดยล่าสุดมีการปล่อยคลิปวิดีโอเกมเพลย์ของ เกมนักล่าในโลกความฝันนี้ออกมาแล้วผ่านทาง Twitter หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ข้างล่างนี้ For todays Bloodborne PSX Dev thread were starting with further polish on the visceral attacks. Made the animation a little more punchy and also made visceral attacks survivable (before they were a guaranteed death. Now they do a set amount of damage) ? pic.twitter.com/B9wbBDW09e — Lilymeister ✨?️‍⚧️ BLACK LIVES STILL MATTER (@b0tster) January 15, 2021 มาจนถึงจุดนี้ชื่อว่าคงไม่ต้องอธิบายแล้วว่าเกม Dark Fatasy ของทาง From Software เป็นที่รักของเหล่าเกมเมอร์มากขนาดไหน สำหรับคนที่รอการมาของ Bloodborne Remastered อยู่ อาจไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ในเมื่อก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายที่บอกว่าโปรเจกต์ดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริง อย่างไรก็ตามคงไม่วางจำหน่ายก่อน Elden Ring ซึ่งเป็นเกมใหม่ของพวกเขาในตอนนี้แน่นอนครับ Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247
18 Jan 2021
โปรดิวเซอร์ Bloodborne กับ Demon’s Souls Remake ประกาศลาออกจาก SIE
Bloodborne กับ Demon’s Souls Remake เรียกได้ว่าเป็นเกมฟอร์มยั้ากษ์ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation และทำเงินให้กับ Sony ได้เยอะมากๆ ซึ่งเกมทั้ง 2 จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดการนำทีมโดยโปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่างคุณ Teruyuki Toriyama วันนี้มีข่าวน่าใจหายสำหรับแฟนๆ ทั้ง 2 เกม เพราะคุณ Toriyama เพิ่งจะประกาศว่าเขาจะเลิกทำงานให้กับ SIE Japan Studio แล้วหลังจากหมดเดือนนี้ การประกาศลาออกครั้งนี้ส่งผลให้เกิดคำถามกับแฟนที่รอการมาของ Bloodborne Remaster ที่มีข่าวลือหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่า "แล้วอนาคตของซีรีส์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?" แต่มันก็สามารถคิดได้ว่าโปรเจกต์ดังกล่าวอาจใกล้พัฒนาเสร็จแล้ว หรืองานที่ต้องมีคุณ Teruyuki Toriyama ได้สําเร็จลุล่วงไปหมดแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนั้น หมายความว่าเราอาจจะได้เล่นภาค Remaster เร็วๆ นี้ครับ [Notice] I will be leaving SIE WWS JAPAN Studio at the end of Dec. To all the users who have supported JAPAN Studio so far,thank you so much! I will continue to take on the challenge of creating new game IPs in my new company, and I ask for your continued support. #JAPANStudio — 鳥山晃之 (Teruyuki Toriyama) | SIE JAPAN Studio (@TORIYAMA_SIE) December 24, 2020 อย่างไรก็ตามการออกของคุณ Teruyuki Toriyama ไม่น่าจะส่งผลอะไรถึง Elden Ring ที่กำลังจะออกในเป็นเกมต่อไปของ From Software แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: VGC
25 Dec 2020
ข่าวลือใหม่ยืนยันว่า Bloodborne จะ Remastered ลง PS5 กับ PC จริง
ในช่วงเดือน มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา มีข่าวลือที่บอกว่า Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remastered เพื่อลงให้กับ PS5 และ PC อยู่ โดยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เงียบหายไปเลย จนกระทั้งในวันที่ 18 กันยายน 2020 ขาวลือนี้กลับมาอีกครั้ง โดยยังคงยืนยันว่าเกมนี้จะถูก Remastered ลงให้กับ PS5 และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวลือที่ยืนยันว่า Bloodborne จะ Remastered ลง PS5 กับ PC จริงครับ! RedGamingTech ได้โพสต์วิดีโอใหม่ที่พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของ GPU ซึ่งในช่วง 18.35 ก็ได้มีการพูดถึงเรื่องที่ว่า Bloodborne จะลงให้กับ PS5 และ PC ด้วย โดย RedGamingTech ได้ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมกับบอกอีกด้วยว่า ในเวอร์ชั่นนี้จะมีการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ที่ไม่มีในเวอร์ชั่น Original ด้วยเช่นกัน RedGamingTech เรียกได้ว่าเป็นอีกช่องที่ข้อมูลของเขา ส่วนใหญ่จะถูกต้องจริง ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่ Bloodborne จะ Remastered เพื่อลงให้ PS5 กับ PC จริง แต่คงต้องดูต่อไปอยู่ดีว่าข่าวนี้จะเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องหลอกกันต่อไปครับ Credit: GamingBolt
24 Sep 2020
Bloodborne อาจเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับการ Remastered ลงเครื่อง PS5
การกลับมาของ Demons Souls บนเครื่อง PS5 ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟนๆ เกมของ FromSoftware เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเกมนี้จะสามารถเล่นได้แค่บนเครื่อง PlayStation เท่านั้น และล่าสุดอีกหนึ่งเกมจากค่ายเดียวกันที่เล่นได้แค่บน PlayStation อย่าง Bloodborne ก็ดูอาจจะได้ทำเป็นภาค Remastered ลงให้กับ PS5 เช่นกันครับ Fnac ซึ่งเป็นร้านขายเกมของประเทศฝรั่งเศส ได้มีชื่อของ Bloodborne Remaster อยู่ในลิสเกมที่กำลังจะลงให้กับเครื่อง PS5 โดย Fnac ยังเป็นร้านที่ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับงาน PS5 Showcase ก่อนหน้านี้ออกมา และตัวงานก็ถูกจัดขึ้นจริงด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เกม Bloodborne Remastered อาจกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาจริงครับ Credit: GamesRadar+
18 Sep 2020
จะเป็นอย่างไร ถ้าหาก Bloodborne เป็นเกม RPG แบบคลาสสิค!
From Software ถือเป็นค่ายที่ให้กำเนิดเกมแนว RPG Dungeon Crawler มากมายในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในเกมที่โดงดังมากๆ ของพวกเขาคือ Bloodborne ที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็น Hunter ออกตามล่าเหล่าสัตว์ประหลาดในโลกแห่งความฝัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราสามารถเล่นเกมนี้ในแบบ RPG สุดคลาสสิคได้?     ผู้ใช้งาน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า Max Mraz ได้โพสต์ข้อความว่า เขาได้สร้างเกม RPG แบบคลาสสิคที่มีชื่อว่า Yarntown ขึ่นมา ซึ่งมันคือเกม Bloodborne ที่ใช้มุมกล้องจากด้านบน และเล่นในแบบ RPG ยุคคลาสสิคนั้นเอง พร้อมทั้งปล่อยวิดีโอโชว์ Footage ภายในเกมประมาณ 12 วินาที ซึ่งมีการโชว์บอสสองตัวแรกของ Bloodborne ให้เราดูด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย     Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น     So I made Bloodborne but its super cute and its also kinda Zelda. And its out!:https://t.co/cjx5zz5lvC#screenshotsaturday #pixelart #indiegame #bloodborne#solarus pic.twitter.com/033IVYfHlp — Max Mraz (@11Mraz) July 18, 2020 Credit: VG247
20 Jul 2020
ลือ Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remaster เพื่อลงให้กับ PS5 กับ PC
Bloodborne เป็นอีกหนึ่งเกม Action-RPG จากทาง From Software ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากอีกเกมหนึ่ง ตัวเกมว่าจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัสเกมนี้บนเครื่อง PC เลย แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นอาจจะจบลงในปีหน้าครับ เพราะล่าสุดได้มีช่าวลือออกมาว่า กำลังมีการพัฒนาเกม Bloodborne Remaster เพื่อลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC ครับ! สตรีมเมอร์ CaseyExplosion ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ว่า เธอได้รับข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าเกม Bloodborne Remaster กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา ซึ่งเคยมีกำหนดจะประกาศเปิดตัวในงานอีเวนท์ PS5 ที่เพิ่งถูกเลื่อนวันออกไป นอกจากนี้ช่อง Youtube ที่ใช้ชื่อว่า PC Gaming Inquisition ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอใหม่ที่บอกว่า Bloodborne Remaster กำลังถูกพัฒนาโดย Bluepoint Games กับ QLOC และจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่าทาง Sony จะมีการนำเกมมาลงให้กับเครื่อง PC มากขึ้น ถึงขนาดมีการเปิดตัว PlayStation Studios ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะเลยด้วย ดังนั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remaster และจลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC จริงครับ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ต้องรอดูประกาศจากทาง From Software อีกทีครับ Credit: PCGameN สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
08 Jun 2020
Sony ยืนยัน "P5R, Days Gone และ Bloodborne จะลง PC" เป็นเรื่องเข้าใจผิด!
PlayStation 4 เป็นชื่อของเครื่องเล่นเกม ที่มีเกม Exclusive ดีๆ อยู่มากมาย ในช่วงหลังๆ มานี้ เราก็เริ่มได้เห็นเกมที่เคยประกาศว่าจะเป็น Exclusive ให้กับเครื่อง PS4 เริ่มถูกพอร์ตมาลงให้กับเครื่องอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งมันได้สร้างความหวังให้กับเหล่าผู้เล่นบนเครื่อง Xbox หรือ PC มากๆ ว่า สักวันเราจะมีโอกาศได้เล่นเกมเหล่านั้นบ้าง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า ข่าวที่บอกว่า "Persona 5 Royal, Days Gone และ Bloodborne จะลง PC" จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ! เมื่อคืนนี้ บนเว็บไซต์ Amazon ฝรั่งเศส ได้มีการโพส์สินค้า ที่เป็นเกม PS4 Exclusive อย่าง Days Gone, Bloodborne หรือ P5R แต่มี Plate-Forme เป็น Windows ซึ่งมันทำให้เหล่าเกมเมอร์คาดหวังไปว่าเกมดังกล่าวจะลงให้กับเครื่อง PC จริงๆ แต่ล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาจากทางผ่านทาง IGN โดยได้รับการยืนยันจาก Sony แล้วว่า Days Gone กับ Bloodborne ไม่ได้จะลงให้กับเครื่อง PC นี้ต้องเป็นเรื่องผิดพลาดอะไรบางอย่างแน่นอน และในส่วนของเกม P5R เองก็ได้มีข่าวออกมาจากทาง PCGamer แล้วว่า Sega ก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน และพวกเขากำลังหาทางนำหน้าดังกล่าวออกไปจากเว็บไซต์ Amazon ฝรังเศสอยู่เช่นกันครับ Credit: PCGamer , IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
16 Apr 2020
ทีมสร้าง Bloodborne เผยภาคใหม่จะมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับ Sony
Bloodborne ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมยอดเยี่ยมจากทาง FromSoftware ที่เน้นในเรื่องของความยากแต่ท้าทาย จึงทำให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมขวัญใจของชาว PlayStation ทำให้แฟน ๆ หลาย ๆ คนต่างรอคอยภาคต่อของเกมนี้ซึ่งก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าภาคใหม่จะออกมาสักที ล่าสุดคุณ Hidetaka Miyazaki ประธานของ FromSoftware ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง gamespot ของประเทศบราซิลเกี่ยวกับเกม Bloodborne ภาคที่ 2 โดยเขาหัวเราะพร้อมทั้งกล่าวว่า "ช่างน่าเสียดายจริง ๆ สำหรับเกม Bloodborne 2 ผมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้" [caption id="attachment_31135" align="alignnone" width="1024"] Hidetaka Miyazaki[/caption] โดยเรื่องนี้หลาย ๆ คนอาจจะงงแต่หากจะอธิบายให้เข้าใจคือทาง Sony ได้จ้างทีมงาน FromSoftware ในการพัฒนาเกม Bloodborne ทำให้ลิขสิทธิ์ของตัวเกม (IP) เป็นของทาง Sony ซึ่งทางทีมงาน FromeSoftware ไม่ใช่เจ้าของเกมอย่างที่หลาย ๆ คนคิด ทำให้การที่จะสร้างเกมภาคต่อต้องให้ทาง Sony เป็นผู้ที่ยืนยันเรื่องนี้ ในตอนนี้ทางคุณ Hidetaka Miyazaki และทาง FromSoftware กำลังพัฒนาเกมใหม่นามว่า "Elden Ring" แฟน ๆ ท่านไหนที่รอเกม Bloodborne 2 อาจจะต้องรอไปอีกนาน ที่มา:www.dualshockers.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
14 Oct 2019
Amazon Italy หลุดข้อมูลเกมเพียบ ทั้ง Sunset Overdrive 2, Bloodborne 2, Splinter Cell
คงต้องฟังหูไว้หูกันให้หนักๆ เลยกับข่าวนี้ เมื่อเกมเมอร์จากเว็บบอร์ด Resetera ขาประจำได้โพสต์รายงานถึง Amazon Italy ที่ล่าสุดได้เพิ่มหน้าสินค้าสำหรับเกมมากมาย ตั้งแต่ Bloodborne 2, Sunset Overdrive 2 และSpinter Cell ภาคใหม่ แถมยังเฉลยวันวางจำหน่ายเกม Dreams และ Dark Souls Remastered สำหรับ Switch อีกด้วย   สำหรับเกม Bloodborne 2 และ Sunset Overdrive 2 นั้นเรียกว่าเชื่อยากทั้งสองเกม เพราะทาง From Software ผู้พัฒนา Bloodborne ก็มีงานเต็มมือทั้ง Sekiro: Shadows Die Twice และเกม PSVR Deracine ส่วนผู้พัฒนาเกม Sunset Overdrive อย่าง Insomniac ก็เคยประกาศชัดเจนว่าไม่มีแผนจะสร้างภาคต่อ (เกมภาคแรกเวอร์ชั่น PC ที่รับปากมานานยังไม่ออกด้วยซ้ำ)   ส่วน Splinter Cell นั้นมีข่าวแว่วๆ มาว่าจะเปิดตัวในงาน E3 หลังจากที่ Ubisoft ได้ปล่อย DLC ที่พาพระเอก Sam Fisher ไปเป็นแขกรับเชิญในเกม Ghost Recon: Wildlands แม้ว่าสุดท้ายเกมจะไม่ได้เปิดตัวในงานอย่างที่คาดกัน แต่ในปีนี้ก็ยังมีงานเกมใหญ่ๆ อย่าง Gamescom อยู่ซึ่งเป็นงานใหญ่สำหรับค่ายฟังยุโรป จึงเป็นไปได้ว่า Ubisoft อาจจะกั๊กเกมไว้เปิดตัวในงานนั้น (เดือนสิงหาคม) ก็ได้   สำหรับเกม Dreams เกม Playstation Exclusive จากผู้สร้างเกม Little Big Planet นั้นเคยเปิดตัวกันไปแล้ว แต่ไม่เคยประกาศวันวางจำหน่ายมาก่อน ในเว็บ Amazon Italy บอกว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งจะชนกับเกมเรือธงของโซนี่อย่าง Days Gone และเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Anthem และ Metro: Exodus จึงดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ (แถมผู้พัฒนาเคยรับปากว่าจะวางจำหน่ายปีนี้)   เกม Dark Souls Remastered ดูจะเป็นเกมเดียวที่อาจจะมีความเป็นไปได้ โดยใน Amazon Italy ลงวันวางจำหน่ายไว้เป็นวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Nintendo จะวางจำหน่าย Amiibo Solaire of Astora จึงดูจะสมเหตุสมผลที่สุดในเกมที่หลุดออกมา
02 Jul 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "bloodborne"
Masaaki Yamagiwa ผู้สร้าง Bloodborne ได้ย้ายไปอยู่กับผู้สร้าง Nioh
From Software กำลังยุ่งอยู่กับการเข็น Elden Ring ผลงานใหม่ของพวกเราที่ผสมผสานข้อดีของเกมทั้งหมดที่เคยสร้างมา ออกมาขายให้ทันต้นปี 2022 อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกันภาคต่อของ Bloodborne ก็เป็นอีกเกมที่แฟนๆ เหมือนจะอยากได้กันมาตลอดเป็นเวลาหลายปี และยังคงมีความหวังว่าผลงานต่อจาก Elden Ring เนี่ยแหละ อาจเป็นภาคต่อของเกมนักล่าที่รอคอย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบบนั้นจริง Bloodborne ภาคต่อไปอาจแตกต่างจากเกมภาคแรกที่เราได้เล่นกันMasaaki Yamagiwa อดีตโปรดิวเซอร์ของเกม Bloodborne ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่กับ Team Ninja ผู้สร้าง Nioh อีกหนึ่งซีรีส์ Action RPG แนวเดียวกันที่ได้รับความนิยมเป็นเช่นกัน อย่างไรก็ตามไม่มีการยืนยันในตอนนี้ว่า Masaaki จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ไหน ไม่แน่ว่าอาจเป็นเกมใหม่เลยก็ได้ที่เขาจะพัฒนารวมกับ Team Ninja แต่ตอนนี้จุดโฟกัสแรกของบริษัทคงเป็นการเข็น Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ที่มีกำหนดขายปีหน้าออกมาก่อนไม่ว่าผลงานต่อไปของคุณ Masaaki จะเป็นเช่นไร มีบทบาทยังไงใน Team Ninja รวมไปจนถึงอนาคตของซีรีส์ Bloodborne ยังถือเป็นเรื่องไม่แน่ชัด คงต้องติดตามกันต่อไป และหวังว่าเราจะยังได้เล่นเกมดีๆ กันต่อไปครับ<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='ja' dir='ltr'>Team NINJAにBloodborne、TOKYO JUNGLEなどを開発してた山際<a href='https://twitter.com/giwamasa?ref_src=twsrc%5Etfw'>@giwamasa</a> が参加することになりました。よろしくお願いします。 <a href='https://t.co/ClCyOYeR0b'>https://t.co/ClCyOYeR0b</a></p>&mdash; Team NINJA (@TeamNINJAStudio) <a href='https://twitter.com/TeamNINJAStudio/status/1446457936692215810?ref_src=twsrc%5Etfw'>October 8, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>Credit : GamingBolt
11 Oct 2021
Bloodborne ม็อดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง
Bloodborne เกมชื่อดังจากค่าย FromSoftware ที่นำพาผู้เล่นไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยอันตราย ทั้งนี้ตัวเกมได้มีการขายมาตั้งแต่ 2015 แต่ก็ยังมีใครหลายๆ คนที่ชื่นชอบเกมนี้อยู่และตอนนี้ทาง Garden of Eyes นักพัฒนาม็อดเกมก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างของม็อดที่จะทำให้เกมมีมุมมองบุคคลที่หนึ่งแทน ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าอีกไม่นานม็อดนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ดาวน์โหลดกันจากตัวอย่างที่เห็นทำให้เราทราบว่าตัวเกมนั้นจะทำให้เราต้องเล่นแบบท้าทายมากขึ้นเพราะนอกจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวของเรายากขึ้นแล้วเรายังต้องระวังด้านหลังของตัวเองอีกด้วย เราสามารถเปิดใช้งานม็อดได้จากการใส่หมวกที่เพิ่มเข้าไปในเกมที่มีชื่อว่า Great One Hat โดยจะได้รับมาตั้งแต่เริ่มเกม ม็อดนี้จะทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในเกมที่จะทำให้เราตื่นเต้นไปกับการเดินทางครั้งนี้นอกจากนี้ตัวม็อดยังสามารถใช้งานร่วมกับแพทช์ 60 FPS ของ Lance McDonald ได้อีกด้วย ทำให้การเล่นเกมไม่ติดขัดปัญหาที่น่ารำคาญแต่อย่างใด หากใครสนใจม็อดนี้สามารถติดตามได้ที่ Garden of EyesCredit: Kotaku
16 Aug 2021
Bloodborne Remastered ลือ!! เตรียมวางขายให้ PS5 ในปีนี้
จากข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ Bloodborne เกม Action RPG จาก FromSoftware ที่วางจำหน่ายให้กับเครื่อง PS4 ที่กำลังจะมีการรีมาสเตอร์สำหรับ PS5 จากข่าวลือตั้งแต่มิถุนายน 2020 ระบุไว้ว่าทาง QLOC กับ Bluepoint กำลังร่วมกันพัฒนา Bloodborne Remaster และในเดือนกันยายน 2020 มีข่าวลืออีกเรื่องหนึ่งบอกว่าการรีมาสเตอร์นั้นคืบหน้ามากและจะมีคอนเทนต์ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาด้วยแน่นอนว่ายังไม่มีใครได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเลยหลังจากนั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้นักปล่อยข่าวลือบน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า SoulsHunt ผู้ที่ปล่อยรายละเอียดเกี่ยวกับ Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ลง Twitter ว่า (ใช้ DeepL ในการแปล) Bloodborne Remastered กำลังจะวางขายในปีนี้สำหรับ PS5 ส่วนของ PC จะมาในภายหลังลิงก์ Twitter : Beaucoup attendent une suite à Bloodborne mais cela n'arrivera pas. FS préfère se focaliser sur de nouvelles IPsCependant, Bloodborne sortira bien cette année sur PS5 (plus tard sur PC) ! Le remaster n'est pas développé par Bluepoint ni FS mais est ambitieux pic.twitter.com/zX2aBEkMAC— SoulsHunt (@SoulsHunts) June 19, 2021 อย่างไรก็ตามในโพสต์ของ SoulsHunt ยังบอกอีกว่าภาคใหม่นี้ไม่ได้พัฒนาโดย Bluepoint Games หรือ FromSoftware แต่เป็นฝีมือของ QLOC ในการพัฒนาทั้งหมดแทน และยังมีบอกอีกว่าเป็นเกมที่มีความทะเยอทะยานสูง ซึ่งอาจตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาถึงแม้ว่าข้อมูลของ SoulsHunt จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อข่าวลือทั้งหมด เราก็แค่รอการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเดียว อย่างไรก็ตามระหว่างนี้สามารถเล่น Bloodborne บน PS5 ได้ แต่ทำงานที่ 30 FPS เท่านั้นCredit : https://gamingbolt.com/bloodborne-remaster-is-out-this-year-on-ps5-later-for-pc-rumor
22 Jun 2021
ลือ! Sony จะเอาเกม Exclusive ที่ลงให้กับ PC อีกหลัง Days Gone วางขาย
CrazyLeaksOnATrain จอมปล่อยข่าวลือ ที่มีความถูกต้องสูง ได้โพสต์ข้อความใหม่บน Twitter หลังจากไม่ได้ทำมานาน ประกาศว่า Sony จะเอาเกม BloodBorne, Uncharted Collection, God of War และ Ghost of Tsushima ลงให้กับ PC หลังจากนี้ พอมีคนถามไปว่าเกมพวกนี้จะลงให้กับ PC จริงๆ เมื่อไหร่? CrazyLeaksOnATrain ก็ได้ตอบว่า ประกาศจะมาในช่วงปลาย เมษา ต้น พฤษภา หลังจากที่ Days Gone วางขาย ซึ่งจะทยอยลงให้กับ PC ทุกๆ 2 - 3 เดือน แต่เขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ลำดับ จะเป็นยังไง BloodBorne ถือได้ว่าเป็นเกมที่มีข่าวลือว่าจะลงให้กับ PC มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นเกมนี้ที่ลงให้กับ PC ก่อน แต่อะไรๆ ก็เป็นไปได้ เพราะคิดว่าน่าจะมีผู้เล่นไม่น้อยเช่นกันที่รอการมาของ God of War ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าข่าวลือนี้จะเป็นจริงขนาดไหนครับ Announcements will come after days gone release ( should be released April or early may). It will then be a release every 2 to 3 months there on ish unsure exactly nl which one is next but that is the list of next games coming — CrazyLeaksOnATrain (@CrazyLeaksTrain) March 5, 2021 Credit: GameRadar+
08 Mar 2021
ชวนนั่งคิด เป็นไปได้หรือไม่ที่จักรวาล Soulsborne ทั้งหมดจะเชื่อมโยงกัน?
ประเด็นที่ว่าจักวาล SoulBorne ทั้งหมด (Demons Souls, Dark Souls 1 - 3, และ BloodBorne) ซึ่งบ้างก็บอกว่าทั้งสามไม่น่าเป็นเกมที่อยู่ในจักรวาล หรือ Timeline เดียวกับ แต่ก็ยังมี Youtuber และนักเขียนหลายคนที่นำเสนอทิศดีที่ชื้ให้เห็นว่า ทั้ง 3 เกมอยู่ในจักรวาล และ Timeline เดียวกัน ซึ่งทาง From Software ก็ไม่เคยออกมายืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่งผลให้แม้ในปัจจุบันเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงพูดคุยในหมู่แฟนเกม โดยส่วนตัวผมเองแล้ว เชื่ออย่างยิ่ง ว่าทั้ง 3 เกม อยู่ในจักวาลเดียวกัน โดยมี Demons Souls เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล ต่อมาด้วยประเด็นความขัดแย้งเรื่องว่า โลกควรจะมีพลังของไฟอยู่หรือไม่ใน Dark Souls ก็เป็นจุดเริ่นต้นของเรื่องราวในโลกของ Bloodborne ซึ่งวันนี้ผมจะขออธิบายทฤษฎีของผมให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ ป.ล "บทความนี้มีการสรุปเนื้อเรื่องของตัวเกม SoulBorn ทั้งหมดเอาไว้แบบพอสังเขป และมีการสปอยเนื้อเรื่องบางส่วนด้วย" เรื่องราวของ Demon’s Souls เกี่ยวกับอะไร ? บทเริ่มต้นของ Demons Souls ได้กล่าวว่า   "ในวันแรกมนุษย์ได้รับดวงวิญญาณ / สติความนึกคิดมา และในวันที่สองแผนดินของถูกปลูกด้วยพิษร้ายแรง ปิศาจที่กัดกินดวงวิญญาณทั้งปวง" เรื่องราวของ Demon’s Soul จะกล่าวถึง The Old One สิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณ มารดาแห่งปีศาจทั้งปวง ที่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และต้องการจะกลืนกินดวงวิญญาณทั้งหมดบนโลก ในโลกของเกมนี้ Souls (วิญญาณ) คือตัวแทนของสติปัญญา และความนึกคิดของสิ่งมีชีวิต หากเป็นร่างกายที่ปราศจาก Souls สิ่งจะไร้สติปัญญา ไม่สามารถตอบสนองสิ่งรอบตัวได้อย่างปกติ (ดังนั้นในโลกนี้ Souls จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ) การตื่นของ The Old One ยังทำเกิดการกระจาย Deep Fog (หมอกหนาที่พบในเกม) ไปยังทั่วทุกแผ่นดินของโลก หมอกนี้ไม่สามารถมองทะลุได้ ทั้งยังมีความสามารถในการสูบ Souls เช่นกัน ใครก็ตามที่เข้าไปในหมอกนี้จะไม่มีวันได้กลับออกมา ซึ่งถ้าหากคิดตาม Logic ของโลกแล้ว อาจกล่าวได้ว่า Deep Fog คือขั้วตรงกันข้ามของ Souls เมื่อมันถูกกระจ่ายไปทั่วโลก ย่อมหมายถึงการที่ Souls เริ่มถูกแย่งชิงไปจตากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเช่นเดียวกัน เมื่อพื้นฐานของทุกสิ่งมีชีวิตถูกช่วงชิงไป สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เหตุผล กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมประกอบ และโหยหา Souls เพื่อให้ตัวเองสมบูรณ์ จนถึงขนาดที่ต้องพยายามแย่งชิงมาจากสิ่งมีชีวิตอื่น เรื่องนี้สามารถสังเกตได้จากคำพูดของ สตรีผู้ขายของอยู่ในคุกหอคอยในประโยคที่ว่า   "ฉันยินดีที่จะยกไอเทมเหล่านี้ให้กับเธอ เพื่อแลกกับ Souls จำนวนที่เท่าเทียม เธอก็รู้ว่าฉันต้องการ Souls เพื่อให้ตัวเองยังคงมีสติอยู่"  เลือก Evil End เนื้อเรื่องดูจะโยงไปถึง Dark Souls ภาคแรก ในฉากจบแบบ Evil Ending ตัวละครเราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับ The Old One และกระจายหมอกขนาดใหญ่ออกไปปกคลุมโลก พร้อมทั้งกลืนกืน Souls เกือบทั้งหมด ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสอ่าน Lore ของ Dark Souls ในช่วงเปิดเกมของภาคแรก จะสังเกตุได้ว่าโลกถูกปกคลุมด้วยหมอกหนา คือเรียกได้ว่าเป็นการส่งต่อที่สมเหตุสมผลมากๆ ครับ เรื่องราวของ Dark Souls โศกนาฏกรรมการจุดไฟที่ไม่จบสิ้น ในยุคโบราณของ Dark Souls สิ่งมีชีวิตที่เข้มแข็งที่สุดของโลกคือเหล่ามังกร แต่การค้นพบเปลวเพลิง ได้ทำให้ลำดับชั้นของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนไป เมื่อ Hollow สี่ตนได้พบกับเปลวเพลิง และพบกับ Soul of the Lord ในนั้น Hollow ทั้งต่อมาได้ถูกกล่าวขานว่า Gravelord Nito , Gwyn Lord of Cinder, Witch of Izalith ที่เป็นเผ่ายักษ์ กับ Pygmy ที่เป็นมนุษย์ ในจุดนี้ต้องขออธิบายก่อนว่า พลังที่ Pygmy ได้รับมาแตกต่างจากที่เหล่ายักษ์ได้ เนื่องจากมันเป็นพลังแห่งความมืด ซึ่งเป็นขั้วตรงกันข้ามกับเปลวเพลิง อันเป็นต้นกำเนิดพลังแห่งแสงของยักษ์ทั้งสาม ต่อมาเหล่ายักษ์ได้ท้าทายกับมังกร และสามารถเอาชนะมาได้ ทำให้อารยธรรมกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ยุคแห่งไฟที่สงบสุขได้เริ่มต้นขึ้น (Age of Fire) แต่ทุกอย่างย่อมมีสมดุลของมันเอง Pygmy อันเป็นบิดา ของมนุษย์ทั้งปวงได้ส่งมอบพลังแห่งความมืดที่เขามี ต่อมาให้มนุษย์ยุคหลังๆ โดยที่ไม่รู้ตัว และมันก็ถูกรู้จักในชื่อ "Humanity" ยิ่งเวลาผ่านไปพลังแห่งความมืดก็เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตามการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ แต่ในทางตรงกันข้ามกองไฟ The First Flame อันเป็นต้นกำเนิดของพลังแห่งแสงสว่างกลับค่อยๆ มอดดับลง เมื่อพลังแห่งความมืดเข้มแข็งกว่า การตายของมนุษย์จึงไม่ทำให้พวกเขาตาย แต่ได้รับ Dark Sign มา โดยแลกกับ Humanity ที่ตัวเองมี และทำให้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในฐานะ Undead และยิ่ง Undead ต้นนั้นตายซ้ำตายซากมากขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็จะสูญเสียความนึกคิดกับสติปัญญาไปมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้เมื่อถึงจุดหนึ่ง เหล่า Undead จะกลายเป็น Hollow ที่ไม่มีความนึกคิด ไม่มีจุดหมาย ลืมกระทั่งว่าตัวเองเป็นใคร Hollow บางตัวก็อยู่นิ่งเฉยๆ แต่ Hollow บางตัวก็โจมตีผู้อื่นไปทั่ว (ซึ่งนี่อาจเป็นความหมายที่แท้จริงของ Lore ช่วงแรกจากเกม Demons Soul ที่กล่าวว่าถึงพิษที่ถูกปลูกลงมายกพื้นโลก เพราะถ้าหากเข้าใจว่า Souls และ ไฟ คือพลังของมนุษย์ Deep Fog กับพลังแห่งความมืด ก็คือสิ่งที่อยู่ขั้วตรงกันข้ามครับ) เพื่อให้เหตุการณ์นี้จบลง และต่ออายุยุคแห่งไฟให้ยาวนานขึ้น Witch of Izalith ได้ทำการทดลองต่างๆ เพื่อที่จะจุดกองไฟ The First Flame ให้กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง แต่การทดลองที่ผิดพลาด ได้เปลี่ยนเหล่าลูกหลาน ของเธอบางคนให้กลายเป็นปีศาจ (Demon) ซึ่งตัวเธอเองก็ได้กลายเป็น Bed of Chaos ปีศาจที่สูญเสียสติ นี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่าง Demon กับ มนุษย์ และยักษ์ ที่ดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งในตอนนั้น Gwyn Lord of Cinder ได้ตระหนักแล้วว่ายุคแห่งไฟกำลังจะสิ้นสุดลง Gwyn Lord of Cinder ตัดสินใจที่จะเดินทางไปยัง Kiln of The First Flame เพื่อที่สละร่างกาย และวิญญาณของตนเพื่อจุดให้ The First Flame กลับมาโชติช่วงอีกครั้ง แต่ไม่ว่าไฟจะร้อนแรงขนาดไหนวันก็ย่อมมีวันมอดดับ เนื้อเรื่องของ Dark Souls จึงจะวนเวียนอยู่กับการจุดไฟ The First Flame เพื่อต่ออายุของ Age of Fire ในทุกๆ ภาค ซึ่งมีเพียงผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ (The Chosen Undead, Bearer of the Curse, Ashen One) เนื้อเรื่องของ Dark Souls 3 และโลกแห่งภาพวาด Ariandel  เรื่องราวของ Dark Souls 3 จะเป็นช่วงเวลาหลายพันหลายหมื่นปีหลังจากภาคแรก ยุคแห่งไฟได้ถูกต่อมาหลายต่อหลายครั้งจน Lord of Cinder (ผู้ต่ออายุให้กับกองไฟ) มีมากมาย 6 - 7 คนแล้ว โดยแน่นอนว่าเนื้อเรื่องก็ยังคงเกี่ยวกับการจุดไฟอยู่เหมือนเดิม ในภาคนี้เราจะได้ทราบว่าทุกครั้งที่ The Fire Flame กำลังจะมอดดับลง และ The Chosen Undead (ซึ่งภาคนี้เรียกว่า Ashen One) จำเป็นต้องจุดไฟขึ้นมาอีกครั้ง โลกจะจะอยู่ในยุคที่เสื่อมโทรมถึงขีดสุดเช่นกัน และมันมักจะนำพาการต่อสู้ระหว่าง แสงสว่างกับความมืดมาด้วย (เนื่องจากในเกมมีตัวละครฝั่ง Undead กับ Hollow ที่อยากให้ยุคของไฟจบลงเช่นกัน) โดย0ความจริงแล้ว Ashen One ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียวด้วย ใน DLC ตัวแรกของเกม Ashes of Ariandel ได้อธิบายถึงจุดนี้ไว้ชัดเจน เนื้อเรื่องจะเล่าถึง Ashen One ที่เหนื่อยหน่ายกับวัฏจักรการจุดไฟ การต่อสู้ระหว่างแสงสว่างกับความมืดที่ไม่จบสิ้น เธอเลือกที่จะละทิ้งหน้าที่จุดไฟ และเดินทางไปยังโลกแห่งภาพวาด Ariandel (The Painted World of Ariandel) และเล่าเรื่องของวัฏจักรการจุดไฟ กับโศกนาฏกรรมที่มาพร้อมกับไฟให้ Father Ariandel ชายผู้ปกครองโลกนี้ ซึ่งเธอมีชื่อว่า Elfriede หลังจากฟังเรื่องราวของไฟแล้ว Father Ariandel ก็ได้ตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของ  Elfriede เขาเฆี่ยนตัวเองด้วยแส้ เพื่อใช้ เลือด ของตัวเองในการสยบกองไฟไม้ให้โชติช่วงขึ้นมาในโลกแห่งนี้ ในจุดนี้เราจึงได้ทราบว่า เลือด คือสิ่งที่มีพลังมากพอจะสยบประกายของ กองไฟ ได้ครับ อีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า เลือด มีความสามารถไม่ด้อยไปกว่าไฟ คือในฉากที่เลือดของเหล่า The Abyss Watcher ไปรวมกันที่ร่างเดียว และหลอมรวม Soul ของพวกเขาทั้งหมดให้เป็นหนึ่ง ก่อให้กำเนิดร่างที่มีพลังมหาศาลขึ้นมา หรือตอนจบของ DLC The Ringed City ที่ Slave Knight Gael ดื่มเลือดของราชาแห่ง Pygmy เข้าไป และได้รับพลังแห่งความมืดมา รวมถึงประโยคที่เขาพูดว่าหลังเลือดลดไปได้ครึ่งหลอดที่บอกว่า "นี้คือเลือด เลือดที่มีพลังของ Dark Souls" กล่าวคือนอกจาก เลือด จะเป็นสิ่งที่มีพลังมหาศาลแล้ว มันยังเป็นสิ่งที่ใช้ส่งต่อพลังให้กับคนอื่นได้ด้วย ในขณะเดียวกัน เลือด ก็เป็นต้นกำเนิดของ ไฟ ได้เช่นกันสามารถสังเกตได้ในตอนที่ Father Ariandel ใช้ ถ้วยทองขนาดใหญ่ ทุบลงไปที่เลือดของ Elfriede ที่นองอยู่บนพื้นจนทำเกิดเปลวไฟขึ้นมา (ให้ไปนาทีที่ 3.19 ในคลิปด้านบน) ในจุดนี้ผมจึงคิดว่า เลือด เปรียบเสมือนภาชนะที่ใช้ในการกักเก็บพลังของแสงสว่าง หรือความมืดก็ได้ ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ใน DLC Ashes of Ariandel เราจะได้พบกับหญิงสาวผมขาวที่ต้องการจะวาดภาพโลกที่ มืดมิด หนาวเหน็บ และอ่อนโยน และเธอหวังว่ามันจะเป็นบ้านที่แสนสุขให้กับใครสักคน ซึ่งภาพวาดของเธอถูกวาดขึ้นมาด้วย "เลือด" เพื่อที่จะวาดภาพนี้ให้สำเร็จเธอกล่าวว่าเธอต้องการที่จะเห็น ไฟ (ซึ่งผมเข้าใจว่า เพื่อเธอจะไม่เผลอวาดพลังของ ไฟ เข้าไปในโลกใบนี้ด้วย) ในตอนจบหลังจากเอาชนะ Father Ariandel กับ Friede ได้ ไฟจะถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งในโลกแห่ง Ariandel ถ้าหากกลับไปคุยกับเธอ เธอจะขอบคุณเรา และเริ่มวาดภาพต่อ โดยถ้าหากอ้างอิงว่าภาพที่ถูกวาดด้วยเลือดคือโลกหนึ่งใบ ภาพที่หญิงสาวผมขาววาดขึ้นมาด้วยเลือด เป็นไปได้สูงที่จะเป็นโลกของ BloodBorne ครับ โลกของ BloodBorne เรื่องราวของเหล่ามนุษย์ที่โง่เขลา ซึ่งต้องการจะวิวัฒนาการ BloodBorne จะกล่าวถึงโลกที่มนุษย์ทุกคนสามารถกลายเป็น Hunter ได้ เพียงแค่รับเลือด "PaleBlood" เข้าไป โดยโลกของเกมไม่มีการกล่าวถึงคอนเซ็ปต์เรื่อง Souls หรือ ไฟ และความมืดอีกเลย ราวกับว่าเป็นโลกที่มนุษย์ลืมพลังเหล่านั้นและหันมาพึ่งพาเพียงแค่พลังของ เลือด อย่างเดียว แม้ว่าจะเลิกพึ่งพาพลังของ Souls, ไฟ, หรือความมืด ไ ปแล้วแต่ในโลกของ BloodBorne ก็ยังคงมีตัวตนที่มนุษย์เทิดทูนเปรียบเสมือนเหล่าเทพอยู่เหมือนเดิม พวกเขาถูกเรียกว่า The Great Ones แต่แตกต่างจาก Demons Souls กับ Dark Souls ตรงที่ว่า The Great One ดูมีความใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวมากกว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาบนโลกตั้งแต่แรกเลย (ในประเด็นว่า The Great One คืออะไรกันแน่ อันนี้ผมไม่ขอสรุปนะ เพราะมีหลายทฤษฎีเกินไป) เพื่อที่จะเข้าใกล้ The Great One หรือเป็น The Great One เอง มนุษย์ได้ทำการทดลองสุดโหดร้ายมากมาย หนึ่งในนั้นคือการนำเลือดของ The Great One มาทดลองถ่ายให้กับมนุษย์ ความสำเร็จที่ได้คือมนุษย์เหล่านั้นได้พละกำลังที่ยอดเยี่ยมมา แต่ก็แลกกับการกลายเป็นปีศาจอย่างช้าๆ ซึ่งหลังจากกลายเป็นปีศาจเต็มตัว มนุษย์ก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเริ่มโจมตีสิ่งมีชีวิตอื่น ส่งผลให้เกิดเหล่าฮันเตอร์ขึ้นมาเพื่อหยุดปีศาจเหล่านี้ ที่นี่หลายคนน่าจะตั้งคำถามว่า "แล้วมันเชื่อมโยงกับเกมก่อนหน้านี้ยังไง?" จุดเชื่อมโยงที่น่าสนใจของ BloodBorne กับ Dark Souls จริงๆ แล้วมีอยู่หนึ่งจุดครับ นั้นคือการที่เลือดของ Lady Maria ที่ใช้โจมตีเราใน DLC The Old Hunter มันสามารถติด ไฟ ได้!!!! อย่างที่ผมเคยกล่าวไปแล้วว่าในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เลือด สามารถเป็นต้นกำเนิดของ ไฟ ได้เช่นกัน ที่นี่ผมก็คิดขึ้นมาว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ " โลกของภาพวาดจริงๆ แล้วไม่ใช้โลกอีกหนึ่งใบที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่เป็นอุโมงค์ที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่พิเศษแห่งหนึ่งบนโลกที่ไม่สามารถไปด้วยการเดินทางปกติได้ ? " (เหมือน Greed Island ในการ์ตูนเรื่อง Hunter X Hunter)   อีกหนึ่งหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ของผม คือบทพูดของ NPC ที่ชื่อว่า Marvellous Chester ที่เมือง Oolacile ในภาคแรกที่มีใจความว่า   "อืม ขอฉันเดานะ เดินเข้าไปในความมืด แล้วรู้ตัวอีกที่ก็มาโผล่อยู่ในอดีตสินะ? เพราะมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน เราทั้งสองเป็นคนต่างถิ่น ที่มาอยู่ในแดนประหลาด" บวกกับแต่งตัวเหมือนมาจากเมือง Yharnam มากกว่า Oolacile แถมยังถือมีดที่โจมตีติดเลือดไหล กับหน้าไม้ในมืออีกข้าง (ดูยังไงก็เป็นรูปแบบการใช้อาวุธของ Hunter ในเกม BloodBorne) ซึ่งทั้งหมดนี้เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่าเรื่องราวของ BloodBorne คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตอันห่างไกลจาก Dark Souls ซึ่งมันยิ่งทำให้คิดแบบนั้นมากขึ้นไปอีกเมื่อผมพบว่า ใต้เมืองของ Yharnam มีซากชุดเกราะจากยุคอดีตที่เหมือนกับตัวละครของเราใน Dark Souls ดังนั้นผมคิดว่าเป็นไปได้สูงที่เมืองนี้จะถูกสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของ Oolacile ความเป็นไปได้ของ Elden Ring ในเมื่อมาจนถึงขนาดนี้แล้ว มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ครับว่าเนื้อเรื่องของเกมต่อไป Elden Ring เองก็อาจจะเกี่ยวข้องกับผลงานทั้ง 3 ของ From Software ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถ้าถามว่า "มันจะไปเชื่อมโยงกับตรงไหน" ส่วนตัวเลยผมคิดว่า BloodBorne เป็นเกมที่เนื้อเรื่องสมบูรณ์ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ถ้าหากจะมีจุกที่เป็นปริศนาเลย ผมคิดว่าคงเป็นเนื้อเรื่องหลังจากเลือกฉากจบ Dark Lord หรือการไม่ต่อยุคแห่งไฟของ Dark Souls ที่ยังไม่เคยถูกหยิบมาเล่าเลยสักครั้งมากกว่า แต่ก็ยังมีสิทธิที่เกมใหม่นี้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยเช่นกันครับ เป็นอย่างไรกันบ้างกับทฤษฎีเนื้อเรื่องของผม? ขอยืนยันเป็นครั้งสุดท้ายว่า ทั้งหมดที่เพื่อนๆ ได้อ่านมา เป็นการคิด วิเคราะห์ และสรุปจากหลักฐานที่ผมมี หมายความว่า มันอาจจะไม่ถึงต้องเลยแม้แต่นิดเดียวก็ได้ แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องที่ทั้ง 3 เกม อาจอยู่บนจักรวาล และ Timeline เดียวกัน? คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่? คอมเม้นต์พูดคุยกันได้ครับ
03 Mar 2021
เราสามารถเล่น Bloodborne แบบ 60 FPS ได้แล้ววันนี้โดยใช้ Mod
การได้เล่น Bloodborne แบบ 60 FPS เชื่อว่าน่าจะเป็นความฝันของใครหลายคนในตอนนี้ ซึ่งหลังจากผ่านไป 6 ปี วันนี้เราสามารถทำแบบนั้นได้แล้ว โดยการลง Mod ที่ไม่ใช่ของ Official โดยจำเป็นต้องแลกกับความละเอียดของภาพที่เหลือเพียงแค่ 1280*720 บน PS4 ครับ McDonald คือชื่อของ Modder ที่สร้าง Mod ตัวนี้ขึ้นมา ทุกคนสามารถเข้าไปโหลดได้เลยผ่านลิงก์นี้ ซึ่งเขาได้เคยโพสต์วิดีโอโชว์เกมเพลย์บน Twitter ของเขาในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย โดยต้องบอกเลยว่าเกมเพลย์ในแบบ 60 FPS ทำให้ Bloodborne ดูเป็นเกมที่น่าเล่นมาก ทำเอาคิดเลยว่าถ้าข่าวลือก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ตัวเกมกำลังจะมาลงให้ PS5 เป็นความจริง ก็คงจะดีไม่น้อยเลยครับ Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247 
10 Feb 2021
แฟนเกมสุดโหดทำ Bloodborne แบบ Demake ให้หน้าตาเหมือนเกม PS1
Bloodborne คือเป็นหนึ่งใน IP สำคัญของ From Sofware ที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 และยังคงอยู่ในใจของเหล่าผู้เล่นที่ชอบ Action RPG สุดท้าทาย จนส่งผลให้เราได้เห็นคนเอามาเกมนี้มาทำใหม่เป็นแนว RPG แบบคลาสสิค และวันนี้ก็มีแฟนเกมอีกกลุ่มที่ทำการ Demake เกมนี้ให้มีหน้าตาเหมือนมาจากเครื่อง PS1 ครับ Bloodborne PSX คือชื่อของโปรเจกต์ที่เหล่าแฟนเกมตั้ง และทำกันขึ้นมาเอง โดยล่าสุดมีการปล่อยคลิปวิดีโอเกมเพลย์ของ เกมนักล่าในโลกความฝันนี้ออกมาแล้วผ่านทาง Twitter หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ข้างล่างนี้ For todays Bloodborne PSX Dev thread were starting with further polish on the visceral attacks. Made the animation a little more punchy and also made visceral attacks survivable (before they were a guaranteed death. Now they do a set amount of damage) ? pic.twitter.com/B9wbBDW09e — Lilymeister ✨?️‍⚧️ BLACK LIVES STILL MATTER (@b0tster) January 15, 2021 มาจนถึงจุดนี้ชื่อว่าคงไม่ต้องอธิบายแล้วว่าเกม Dark Fatasy ของทาง From Software เป็นที่รักของเหล่าเกมเมอร์มากขนาดไหน สำหรับคนที่รอการมาของ Bloodborne Remastered อยู่ อาจไม่สิ้นหวังเสียทีเดียว ในเมื่อก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายที่บอกว่าโปรเจกต์ดังกล่าวมีตัวตนอยู่จริง อย่างไรก็ตามคงไม่วางจำหน่ายก่อน Elden Ring ซึ่งเป็นเกมใหม่ของพวกเขาในตอนนี้แน่นอนครับ Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247
18 Jan 2021
โปรดิวเซอร์ Bloodborne กับ Demon’s Souls Remake ประกาศลาออกจาก SIE
Bloodborne กับ Demon’s Souls Remake เรียกได้ว่าเป็นเกมฟอร์มยั้ากษ์ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation และทำเงินให้กับ Sony ได้เยอะมากๆ ซึ่งเกมทั้ง 2 จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดการนำทีมโดยโปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่างคุณ Teruyuki Toriyama วันนี้มีข่าวน่าใจหายสำหรับแฟนๆ ทั้ง 2 เกม เพราะคุณ Toriyama เพิ่งจะประกาศว่าเขาจะเลิกทำงานให้กับ SIE Japan Studio แล้วหลังจากหมดเดือนนี้ การประกาศลาออกครั้งนี้ส่งผลให้เกิดคำถามกับแฟนที่รอการมาของ Bloodborne Remaster ที่มีข่าวลือหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่า "แล้วอนาคตของซีรีส์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?" แต่มันก็สามารถคิดได้ว่าโปรเจกต์ดังกล่าวอาจใกล้พัฒนาเสร็จแล้ว หรืองานที่ต้องมีคุณ Teruyuki Toriyama ได้สําเร็จลุล่วงไปหมดแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนั้น หมายความว่าเราอาจจะได้เล่นภาค Remaster เร็วๆ นี้ครับ [Notice] I will be leaving SIE WWS JAPAN Studio at the end of Dec. To all the users who have supported JAPAN Studio so far,thank you so much! I will continue to take on the challenge of creating new game IPs in my new company, and I ask for your continued support. #JAPANStudio — 鳥山晃之 (Teruyuki Toriyama) | SIE JAPAN Studio (@TORIYAMA_SIE) December 24, 2020 อย่างไรก็ตามการออกของคุณ Teruyuki Toriyama ไม่น่าจะส่งผลอะไรถึง Elden Ring ที่กำลังจะออกในเป็นเกมต่อไปของ From Software แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: VGC
25 Dec 2020
ข่าวลือใหม่ยืนยันว่า Bloodborne จะ Remastered ลง PS5 กับ PC จริง
ในช่วงเดือน มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา มีข่าวลือที่บอกว่า Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remastered เพื่อลงให้กับ PS5 และ PC อยู่ โดยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เงียบหายไปเลย จนกระทั้งในวันที่ 18 กันยายน 2020 ขาวลือนี้กลับมาอีกครั้ง โดยยังคงยืนยันว่าเกมนี้จะถูก Remastered ลงให้กับ PS5 และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวลือที่ยืนยันว่า Bloodborne จะ Remastered ลง PS5 กับ PC จริงครับ! RedGamingTech ได้โพสต์วิดีโอใหม่ที่พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับความสามารถของ GPU ซึ่งในช่วง 18.35 ก็ได้มีการพูดถึงเรื่องที่ว่า Bloodborne จะลงให้กับ PS5 และ PC ด้วย โดย RedGamingTech ได้ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความจริง พร้อมกับบอกอีกด้วยว่า ในเวอร์ชั่นนี้จะมีการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ ที่ไม่มีในเวอร์ชั่น Original ด้วยเช่นกัน RedGamingTech เรียกได้ว่าเป็นอีกช่องที่ข้อมูลของเขา ส่วนใหญ่จะถูกต้องจริง ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่ Bloodborne จะ Remastered เพื่อลงให้ PS5 กับ PC จริง แต่คงต้องดูต่อไปอยู่ดีว่าข่าวนี้จะเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องหลอกกันต่อไปครับ Credit: GamingBolt
24 Sep 2020
Bloodborne อาจเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับการ Remastered ลงเครื่อง PS5
การกลับมาของ Demons Souls บนเครื่อง PS5 ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟนๆ เกมของ FromSoftware เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเกมนี้จะสามารถเล่นได้แค่บนเครื่อง PlayStation เท่านั้น และล่าสุดอีกหนึ่งเกมจากค่ายเดียวกันที่เล่นได้แค่บน PlayStation อย่าง Bloodborne ก็ดูอาจจะได้ทำเป็นภาค Remastered ลงให้กับ PS5 เช่นกันครับ Fnac ซึ่งเป็นร้านขายเกมของประเทศฝรั่งเศส ได้มีชื่อของ Bloodborne Remaster อยู่ในลิสเกมที่กำลังจะลงให้กับเครื่อง PS5 โดย Fnac ยังเป็นร้านที่ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับงาน PS5 Showcase ก่อนหน้านี้ออกมา และตัวงานก็ถูกจัดขึ้นจริงด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เกม Bloodborne Remastered อาจกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาจริงครับ Credit: GamesRadar+
18 Sep 2020
จะเป็นอย่างไร ถ้าหาก Bloodborne เป็นเกม RPG แบบคลาสสิค!
From Software ถือเป็นค่ายที่ให้กำเนิดเกมแนว RPG Dungeon Crawler มากมายในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในเกมที่โดงดังมากๆ ของพวกเขาคือ Bloodborne ที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็น Hunter ออกตามล่าเหล่าสัตว์ประหลาดในโลกแห่งความฝัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราสามารถเล่นเกมนี้ในแบบ RPG สุดคลาสสิคได้?     ผู้ใช้งาน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า Max Mraz ได้โพสต์ข้อความว่า เขาได้สร้างเกม RPG แบบคลาสสิคที่มีชื่อว่า Yarntown ขึ่นมา ซึ่งมันคือเกม Bloodborne ที่ใช้มุมกล้องจากด้านบน และเล่นในแบบ RPG ยุคคลาสสิคนั้นเอง พร้อมทั้งปล่อยวิดีโอโชว์ Footage ภายในเกมประมาณ 12 วินาที ซึ่งมีการโชว์บอสสองตัวแรกของ Bloodborne ให้เราดูด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย     Bloodborne วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น     So I made Bloodborne but its super cute and its also kinda Zelda. And its out!:https://t.co/cjx5zz5lvC#screenshotsaturday #pixelart #indiegame #bloodborne#solarus pic.twitter.com/033IVYfHlp — Max Mraz (@11Mraz) July 18, 2020 Credit: VG247
20 Jul 2020
ลือ Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remaster เพื่อลงให้กับ PS5 กับ PC
Bloodborne เป็นอีกหนึ่งเกม Action-RPG จากทาง From Software ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากอีกเกมหนึ่ง ตัวเกมว่าจำหน่ายครั้งแรกในปี 2015 ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัสเกมนี้บนเครื่อง PC เลย แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นอาจจะจบลงในปีหน้าครับ เพราะล่าสุดได้มีช่าวลือออกมาว่า กำลังมีการพัฒนาเกม Bloodborne Remaster เพื่อลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC ครับ! สตรีมเมอร์ CaseyExplosion ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ว่า เธอได้รับข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าเกม Bloodborne Remaster กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา ซึ่งเคยมีกำหนดจะประกาศเปิดตัวในงานอีเวนท์ PS5 ที่เพิ่งถูกเลื่อนวันออกไป นอกจากนี้ช่อง Youtube ที่ใช้ชื่อว่า PC Gaming Inquisition ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอใหม่ที่บอกว่า Bloodborne Remaster กำลังถูกพัฒนาโดย Bluepoint Games กับ QLOC และจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่าทาง Sony จะมีการนำเกมมาลงให้กับเครื่อง PC มากขึ้น ถึงขนาดมีการเปิดตัว PlayStation Studios ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะเลยด้วย ดังนั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงว่า Bloodborne กำลังถูกทำภาค Remaster และจลงให้กับเครื่อง PS5 กับ PC จริงครับ อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น ต้องรอดูประกาศจากทาง From Software อีกทีครับ Credit: PCGameN สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
08 Jun 2020
Sony ยืนยัน "P5R, Days Gone และ Bloodborne จะลง PC" เป็นเรื่องเข้าใจผิด!
PlayStation 4 เป็นชื่อของเครื่องเล่นเกม ที่มีเกม Exclusive ดีๆ อยู่มากมาย ในช่วงหลังๆ มานี้ เราก็เริ่มได้เห็นเกมที่เคยประกาศว่าจะเป็น Exclusive ให้กับเครื่อง PS4 เริ่มถูกพอร์ตมาลงให้กับเครื่องอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งมันได้สร้างความหวังให้กับเหล่าผู้เล่นบนเครื่อง Xbox หรือ PC มากๆ ว่า สักวันเราจะมีโอกาศได้เล่นเกมเหล่านั้นบ้าง แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า ข่าวที่บอกว่า "Persona 5 Royal, Days Gone และ Bloodborne จะลง PC" จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ! เมื่อคืนนี้ บนเว็บไซต์ Amazon ฝรั่งเศส ได้มีการโพส์สินค้า ที่เป็นเกม PS4 Exclusive อย่าง Days Gone, Bloodborne หรือ P5R แต่มี Plate-Forme เป็น Windows ซึ่งมันทำให้เหล่าเกมเมอร์คาดหวังไปว่าเกมดังกล่าวจะลงให้กับเครื่อง PC จริงๆ แต่ล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาจากทางผ่านทาง IGN โดยได้รับการยืนยันจาก Sony แล้วว่า Days Gone กับ Bloodborne ไม่ได้จะลงให้กับเครื่อง PC นี้ต้องเป็นเรื่องผิดพลาดอะไรบางอย่างแน่นอน และในส่วนของเกม P5R เองก็ได้มีข่าวออกมาจากทาง PCGamer แล้วว่า Sega ก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน และพวกเขากำลังหาทางนำหน้าดังกล่าวออกไปจากเว็บไซต์ Amazon ฝรังเศสอยู่เช่นกันครับ Credit: PCGamer , IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
16 Apr 2020
ทีมสร้าง Bloodborne เผยภาคใหม่จะมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับ Sony
Bloodborne ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมยอดเยี่ยมจากทาง FromSoftware ที่เน้นในเรื่องของความยากแต่ท้าทาย จึงทำให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมขวัญใจของชาว PlayStation ทำให้แฟน ๆ หลาย ๆ คนต่างรอคอยภาคต่อของเกมนี้ซึ่งก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าภาคใหม่จะออกมาสักที ล่าสุดคุณ Hidetaka Miyazaki ประธานของ FromSoftware ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง gamespot ของประเทศบราซิลเกี่ยวกับเกม Bloodborne ภาคที่ 2 โดยเขาหัวเราะพร้อมทั้งกล่าวว่า "ช่างน่าเสียดายจริง ๆ สำหรับเกม Bloodborne 2 ผมไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้" [caption id="attachment_31135" align="alignnone" width="1024"] Hidetaka Miyazaki[/caption] โดยเรื่องนี้หลาย ๆ คนอาจจะงงแต่หากจะอธิบายให้เข้าใจคือทาง Sony ได้จ้างทีมงาน FromSoftware ในการพัฒนาเกม Bloodborne ทำให้ลิขสิทธิ์ของตัวเกม (IP) เป็นของทาง Sony ซึ่งทางทีมงาน FromeSoftware ไม่ใช่เจ้าของเกมอย่างที่หลาย ๆ คนคิด ทำให้การที่จะสร้างเกมภาคต่อต้องให้ทาง Sony เป็นผู้ที่ยืนยันเรื่องนี้ ในตอนนี้ทางคุณ Hidetaka Miyazaki และทาง FromSoftware กำลังพัฒนาเกมใหม่นามว่า "Elden Ring" แฟน ๆ ท่านไหนที่รอเกม Bloodborne 2 อาจจะต้องรอไปอีกนาน ที่มา:www.dualshockers.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
14 Oct 2019
Amazon Italy หลุดข้อมูลเกมเพียบ ทั้ง Sunset Overdrive 2, Bloodborne 2, Splinter Cell
คงต้องฟังหูไว้หูกันให้หนักๆ เลยกับข่าวนี้ เมื่อเกมเมอร์จากเว็บบอร์ด Resetera ขาประจำได้โพสต์รายงานถึง Amazon Italy ที่ล่าสุดได้เพิ่มหน้าสินค้าสำหรับเกมมากมาย ตั้งแต่ Bloodborne 2, Sunset Overdrive 2 และSpinter Cell ภาคใหม่ แถมยังเฉลยวันวางจำหน่ายเกม Dreams และ Dark Souls Remastered สำหรับ Switch อีกด้วย   สำหรับเกม Bloodborne 2 และ Sunset Overdrive 2 นั้นเรียกว่าเชื่อยากทั้งสองเกม เพราะทาง From Software ผู้พัฒนา Bloodborne ก็มีงานเต็มมือทั้ง Sekiro: Shadows Die Twice และเกม PSVR Deracine ส่วนผู้พัฒนาเกม Sunset Overdrive อย่าง Insomniac ก็เคยประกาศชัดเจนว่าไม่มีแผนจะสร้างภาคต่อ (เกมภาคแรกเวอร์ชั่น PC ที่รับปากมานานยังไม่ออกด้วยซ้ำ)   ส่วน Splinter Cell นั้นมีข่าวแว่วๆ มาว่าจะเปิดตัวในงาน E3 หลังจากที่ Ubisoft ได้ปล่อย DLC ที่พาพระเอก Sam Fisher ไปเป็นแขกรับเชิญในเกม Ghost Recon: Wildlands แม้ว่าสุดท้ายเกมจะไม่ได้เปิดตัวในงานอย่างที่คาดกัน แต่ในปีนี้ก็ยังมีงานเกมใหญ่ๆ อย่าง Gamescom อยู่ซึ่งเป็นงานใหญ่สำหรับค่ายฟังยุโรป จึงเป็นไปได้ว่า Ubisoft อาจจะกั๊กเกมไว้เปิดตัวในงานนั้น (เดือนสิงหาคม) ก็ได้   สำหรับเกม Dreams เกม Playstation Exclusive จากผู้สร้างเกม Little Big Planet นั้นเคยเปิดตัวกันไปแล้ว แต่ไม่เคยประกาศวันวางจำหน่ายมาก่อน ในเว็บ Amazon Italy บอกว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งจะชนกับเกมเรือธงของโซนี่อย่าง Days Gone และเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Anthem และ Metro: Exodus จึงดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ (แถมผู้พัฒนาเคยรับปากว่าจะวางจำหน่ายปีนี้)   เกม Dark Souls Remastered ดูจะเป็นเกมเดียวที่อาจจะมีความเป็นไปได้ โดยใน Amazon Italy ลงวันวางจำหน่ายไว้เป็นวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Nintendo จะวางจำหน่าย Amiibo Solaire of Astora จึงดูจะสมเหตุสมผลที่สุดในเกมที่หลุดออกมา
02 Jul 2018