ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทอื่นๆ กับ Activision Blizzard ดูเหมือนจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ หลังมีข่าวฉาวของคุณ Bobby Kotick ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท ที่ไม่คิดจะยุติพฤติกรรมการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน แถมยังทำเสียเองด้วย จนทำให้ CEO คนปัจจุบันของ PlayStation คุณ Jim Ryan รู้สึกช็อกมากๆ จนทำให้ตัดสินใจที่จะถอยห่างจาก Activision Blizzard ซึ่งกำลังมีปัญหาภายในอยู่หนึ่งในการเคลื่อนไหวแรกที่ถูกทำแล้ว คือการเอาเกม Call of Duty: Vanguard ที่เพิ่งวางขายใหม่ๆ ออกไปจากหน้าแรกในส่วนของ Featured ที่เรียกได้ว่าเด่นที่สุดของเว็บไซต์ เรียกได้ว่าเป็นการแสดงจุดยืนของ PlayStation อย่างชัดเจน ซึ่งทางฝั่ง Xbox คุณ Phill Spencer เองล่าสุดก็ออกมาบอกว่า 'กำลังพิจารณาความสัมพันธ์หลายๆ ด้านระหว่าง Microsoft และ Activision Blizzard อยู่เช่นกัน'การ Sexial Harasment เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในที่ทำงานอยู่แล้ว ยิ่งมีข่าวว่า CEO เองก็มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้รับไม่ได้ไปใหญ่ ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาพนักงาน Activision Blizzard ได้มีการเรียกร้องเพื่อให้คุณ Bobby Kotick ลาออกชดใช้ความผิดของตัวเองเสีย และล่าสุดเช้านี้ก็มีรายงานจาก PCGamer เช่นกันว่าคุณ Bobby กำลังมีความคิดที่จะลาออกเช่นเดียวกัน เรื่องนี้จะจบยังไงคงต้องติดตามชม Credit : GamingBolt, PCGamer

ผู้สื่อข่าววงในชื่อดังอย่าง Jason Schreier แห่ง Bloomburg ได้ออกมาเปิดเผยว่าประธานบริษัท Sony Interactive Entertainment คุณ Jim Ryan ได้แสดงออกถึงความ 'ช๊อกและเหนื่อยใจ' ต่อท่าทีของบริษัท Activision Blizzard ในการรับมือปัญหาวัฒนธรรมองค์กรที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ พร้อมตำหนิคณะผู้บริหารของ Activision Blizzard ว่า 'ยังไม่ได้แสดงออกถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการเหยียมเพศและการคุกคามที่ฝังรากลึกอยู่ในบริษัทเท่าที่ควร' ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องราวของ Activision Blizzard และวิกฤติวัฒนธรรมองค์กรในบริษัทของพวกเขากลายมาเป็นประเด็นอีกครั้งหลังจากที่สื่อดัง Wall Street Journal ทำการตีพิมพ์รายงานใหม่ ซึ่งเปิดเผยถึงความพยายามของ CEO บริษัทคุณ Bobby Kotick ในการปกปิดและเมินเฉยต่อข้อร้องเรียนของพนักงานหญิงในองค์กร โดยรายงานดังกล่าวทำให้กลุ่มคนมากมายทั้งในและนอกบริษัท Activision Blizzard ออกมาเรียกร้องให้คุณ Bobby Kotick ลาออกไปเสีย เพื่อรับผิดชอบต่อวัฒนธรรมอันเป็นพิษขององค์กรภายใต้การดูแลของเขาเอง แม้ว่าคณะผู้บริหารของบริษัทจะยังยืนยันอยู่เคียงข้างคุณ Bobby Kotick ก็ตามจากรายงานของ Bloomburg คุณ Jim Ryan ได้ติดต่อไปยังผู้บริหารของ Activision Blizzard ทันทีที่รายงานดังดล่าวถูกตีพิมพ์ เพื่อสอบถามถึงแผนการของบริษัทในการรับมือกับปัญหาครั้งนี้ โดยเขาได้ออกความเห็นว่า 'พวกเรารู้สึกว่าคำแถลงของบริษัท Activision Blizzard ยังไม่เพียงพอสำหรับสถานการณ์นี้'ทั้งนี้ ค่าย PlayStation และ Activision Blizzard มีความสัมพันธ์อันดีกันมาช้านาน จากการที่ทั้งสองค่ายจะร่วมกันโปรโมตเกมตระกูล Call of Duty หลายภาคที่ผ่านมา การแสดงความเห็นของคุณ Jim Ryan ครั้งนี้จึงถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความ 'ย่ำแย่' ของการรับมือปัญหาจากฝั่ง Activision เอง คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสถานการณ์จะดำเนินต่อไปอย่างไรสำหรับค่ายจัดจำหน่ายเกมที่ใหญ่ที่สุดค่ายหนึ่งแหล่งข่าว: Destructoid

สืบเนื่องต่อจากข่าวการแฉเรื่องราวภายในองค์กร Activision Blizzard ของคุณ Jennifer Oneal ที่พูดความรู้สึก 'ถูกใช้เป็นหัวโขน ถูกเมินเฉย และถูกกดขี่' วันนี้ The Wall Street Journal ได้มีการปล่อยบทความเกี่ยวกับ Bobby Kotick ซึ่งเป็น CEO ของ Activision Blizzard ว่าการที่เขารับรู้ถึงปัญหาการประพฤติผิดทางเพศในบริษัทมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เลือกที่จะเมินเฉย ซึ่งรายงานดังกล่าวได้เปิดเผยว่า แม้แต่ Bobby Kotick เองก็มีพฤติกรรมประพฤติผิดทางเพศเช่นเดียวกัน แถมยังเคยขู่ฆ่าผู้ช่วยคนในปี 2549 ด้วย!ข้อมูลนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานภายในบริษัทเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขาเพิ่งประกาศนโยบายใหม่ในการไม่ยอมรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลให้มีการเรียกร้องให้ CEO คนปัจจุบันลาออก โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ABK (Activision) ) Blizzard King) Workers ผ่าน Twitter รวมถึงยังมีการหยุดงานประท้วงในวันนี้ ทางเว็บไซต์ Kotaku เองได้มีรายงานบอกว่า พนักงาน Activision Blizzard หลายร้อยคนได้ไปรวมตัวกันที่หน้าสำนักงานใหญ่ของ Blizzard Entertainment ที่ Irvine, California เพื่อเรียกร้องให้ Bobby Kotick ลาออก นับว่ากลายเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรเลย ส่วนว่าทางฝั่งผู้บริหารจะมีการเคลื่อนไหวยังไงต้องรอดูกันต่อไปครับ<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='en' dir='ltr'>We have instituted our own Zero Tolerance Policy. We will not be silenced until Bobby Kotick has been replaced as CEO, and continue to hold our original demand for Third-Party review by an employee-chosen source. We are staging a Walkout today. We welcome you to join us.</p>&mdash; ABetterABK ? ABK Workers Alliance (@ABetterABK) <a href='https://twitter.com/ABetterABK/status/1460671347382755329?ref_src=twsrc%5Etfw'>November 16, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>Credit : GamingBolt

แม้ว่า EA มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนการวางจำหน่าย Battlefield 2042 ออกไป แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ Call of Duty: Vanguard ของทาง Activision ที่กำลังวุ่นวายอยู่กับปัญหาการฟ้องร้องคดีความต่างๆ จะยังสามารถวางจำหน่ายตามกำหนดการเดิมที่ตั้งใจเอาไว้ได้ นอกจากนั้นในส่วนของ Open Beta ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสองสามวันก่อน และมีแผนว่าจะมีกำหนดสิ้นสุดในวันนี้เอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อยอีกด้วยโดยทาง Activision ก็ได้ออกมายืนยันผ่านโพสต์ใน Twitter หลักของตัวเกมว่า ตัว Open Beta ของ Call of Duty: Vanguard นั้น จะทำการขยายเวลาออกไปอีกสองวัน หรือก็คือจะเปิดให้เล่นได้จนถึงวันที่ 22 กันยายน 12.00 น. ตามเวลาบ้านเรา เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้ทดลองเล่น ได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของเกม ที่เต็มไปด้วยแผนที่และโหมดมากมายให้ได้เลือกสรรอย่างไรก็ดีตัวเกม Call of Duty: Vanguard มีแผนจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 พฤศจิกายน บน PS5, Xbox Series X/S, PS4, Xbox One และ PC ค่ะ<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='en' dir='ltr'>?BREAKING?: The <a href='https://twitter.com/hashtag/Vanguard?src=hash&amp;ref_src=twsrc%5Etfw'>#Vanguard</a> OPEN BETA has been extended until Wednesday Sept 22 at 10am PT. <br><br>For those that haven&#39;t had a chance to enter the fray, this is your moment ? <a href='https://t.co/dLShw7qUQb'>pic.twitter.com/dLShw7qUQb</a></p>&mdash; Call of Duty (@CallofDuty) <a href='https://twitter.com/CallofDuty/status/1439288151529381888?ref_src=twsrc%5Etfw'>September 18, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>Credit: GamingBolt

ท่ามกลางกระแสความเดือดดาลอย่างไม่หยุดยั้ง ของประเด็นการฟ้องร้องเรื่องการกดขี่ เลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงาน และการล่วงละเมิดทางเพศ ที่ทาง Blizzard Entertainment กำลังเผชิญอยู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงในเร็ววันนั้น ทางบริษัทเองก็ยังคงต้องพยายามผลักดันและพัฒนาเกมต่างๆ ในความดูแลออกมาอย่างสุดความสามารถ แฟนๆ ส่วนใหญ่ก็ยังต้องเผชิญกับความผิดหวัง เกี่ยวกับความคืบหน้าของ Overwatch 2 ที่มีข่าวลือหลุดออกมาว่า กำลังดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเป็นอย่างมาก...จนอาจคาราคาซังข้ามปี 2022 ไปเลยก็เป็นได้อยู่ดีอย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ และความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวก็อาจกำลังจะมาถึงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวเกี่ยวกับเบื้องหลังของ Overwatch League ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Dexerto ที่พูดคุยกับทาง Activision Blizzard ซึ่งกล่าวว่า “เรารู้เสียยิ่งกว่ารู้อีกว่า เราจะต้องปล่อยเกมออกมา ดังนั้นเป้าหมายของทีมพัฒนาเลยก็คือ การมุ่งเป้าไปยังการปรับแก้ฟีเจอร์ของเกม และทำให้เกมสามารถปล่อยออกมาให้ได้ในช่วงฤดูร้อน 2022”โดยสมาชิกผู้บริหารแฟรนไชส์เองก็ยังมีการพูดถึง กลุ่มเป้าหมายของเกมที่แตกต่างออกไปจากครั้งก่อนๆ อีกว่า “เราได้รับแจ้งว่าตัวเกมตั้งใจจะปล่อยในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 ซึ่งจังหวะเวลาที่เปิดตัวก็เป็นปัจจัยหลักในการกำหนดเวลาลีกเลย เพราะมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าผู้เล่นไม่ต้องการให้เกมเปลี่ยนเวอร์ชันไปช่วงกลางฤดูกาลแน่นอน” ซึ่งแน่นอนเราในฐานะผู้เล่นเองก็คาดหวังเช่นนั้น...อย่างไรก็ดีก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า Overwatch 2 จะเปิดตัวพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทั้งกับฟีเจอร์ PvP การเพิ่มโหมดแคปเปญเนื้อเรื่อง ไปจนถึงการเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย แม้จะยังฟันธงอะไรไปไม่ได้อย่างแน่นอนนัก แต่ผู้พัฒนาเองก็ยังออกมายืนยันอีกว่า ตัวเกมจะปรับรูปแบบการเล่นเป็น 5v5 โดยจะเหลือ Tank เพียงคนเดียว ในขณะที่ตัดโหมด Assault ออกไปเลย และรายละเอียดหลังจากนี้เราก็ต้องติดตามความเคลื่อนไหวกันต่อไป (อย่างไม่คาดหวังนัก) ว่าเราจะได้เห็น Overwatch 2 ในช่วงฤดูร้อน 2022 นี้จริงๆ เสียทีCredit: GamingBolt

จากข่าวลือมากมายในช่วงที่ผ่านมาทำให้หลายๆ คนคาดหวังว่าเกม Call of Duty: Vanguard จะมาในเร็วๆ นี้ และในที่สุดทาง Activision ก็ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าเกมจะมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน พร้อมกับปล่อยวิดีโอตัวอย่างของเกม สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ลิงก์นี้Call of Duty: Vanguard จะเป็นการอ้างอิงจากเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีแคมเปญหลักเป็นการเล่าถึงเรื่องราวจุดกำเนิดของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จะมีตัวละครหลักให้เล่น 4 ตัวได้แก่ พลทหาร Lucas Riggs สิบเอก Arthur Kingsley ร้อยโท Wade Jackson และ ร้อยโท Polina Petrova .ในส่วนของแคมเปญนั้นถูกระบุเอาไว้ว่า “เป็นเรื่องราวของเหล่าวีรบุรุษที่ทำให้กำเนิดหน่วย Task Force One” ผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ราวกับว่าอยู่ในโรงหนังที่แสดงให้เห็นถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากทั่วทุกมุมโลกทางด้าน Multiplayer ตัวเกมจะมีแมพให้เลือกมาถึง 20 อัน โดยจะมี 4 แมพเป็นโหมด Champion Hill ซึ่งเป็นโหมดที่ได้รับการพัฒนามาจากโหมด 2v2 ใน Call of Duty: Modern Warfare(2019) ซึ่งจะเป็นการแข่งขันแบบ 8 ทีม ทีมไหนที่รอดเป็นทีมสุดท้ายก็จะเป็นผู้ชนะ ส่วนโหมด Zombie ที่ถูกพัฒนาโดย Treyarch ก็จะดำเนินเนื้อเรื่องของ Dark Aether และเน้นไปที่ความสยองที่เคยเกิดขึ้นใน Black Ops Cold War Zombiesสำหรับ Call of Duty: Warzone นั้นก็ได้มีการคอนเฟิร์มแล้วว่าจะมีการรวมตัวกับภาคใหม่ของปีนี้ในภายหลัง โดยที่ผู้เล่นจะสามารถนำของและความคืบหน้าต่างๆ ติดตัวไปได้ด้วย นอกจากนี้ตัวเกมก็จะได้รับโปรแกรมป้องกันการโกงตัวใหม่ในเร็วๆ นี้ ที่สำคัญ Call of Duty: Vanguard นั้นสามารถเล่น Cross Play และ Cross Progression ได้เช่นกันCall of Duty: Vanguard จะวางขายในวันที่ 5 พฤศจิกายนบน Xbox One, PS4, Xbox Series X/s, PS5 และ PCCredit: Gamingbolt

หลังจากมีข่าวลือหลุดรั่วไหลออกมาตลอดหลายเดือนมานี้ ในที่สุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง Activision ก็ได้ทำการประกาศถึงเกม Call of Duty: Vanguard ออกมาอย่างเป็นทางการ พร้อมวิดีโอตัวอย่างใหม่...ที่แม้จะไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรกับเรามากมาย แต่ก็พอจะทำให้เห็นภาพคอนเซ็ปคร่าวๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของสงครามโลกได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน Activision ก็ได้ทำการยืนยันเพิ่มเติมเข้ามาอีกว่า ตัวเกมจะได้รับการเปิดเผยอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ 0.30 น. ตามเวลาบ้านเรา โดยมันจะเกิดขึ้นใน Call of Duty: Warzone ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับ Black Ops Cold War ที่เปิดตัวไปในปีที่แล้วโดย Call of Duty: Vanguard นั้นเป็นเกมที่กำลังถูกพัฒนาโดย Sledgehammer Games ที่มีผลงานสุดท้ายในซีรีส์ออกมาเป็น Call of Duty: WW2 ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งจากข่าวลือที่หลุดออกมาก็ดูเหมือนตัวเกมจะมีโหมดซอมบี้ ที่ถูกพัฒนาโดย Treyarch นอกจากนั้นก็ยังมีการกล่าวอ้างอีกว่า Call of Duty: Vanguard จะมีแผนที่สำหรับผู้เล่นหลายคน 24 แผนที่ โดย 16 แผนที่ในนั้นจะเป็นส่วนที่รองรับการเล่น 6v6 ข่าวลือดังกล่าวนี้ยังมีการระบุอีกด้วยว่า Call of Duty: Vanguard จะเปิดตัวในวันที่ 5 พฤศจิกายนสำหรับ PS5, Xbox Series X/S, PS4, Xbox One และ PC ค่ะ <iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/GYeaKjAahjA' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: GamingBolt

หลังจากมีดราม่ามากมายเกี่ยวกับ Activision Blizzard เรื่องวัฒนธรรมล่วงละเมิดทางเพศภายในบริษัทจนทำให้มีผู้คนออกมาประท้วงเป็นจำนวนมากจนส่งผลให้เมื่อวาน J. Allen Brack ประธาน Blizzard ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว แต่เรื่องมันก็ยังไม่จบแค่นี้นอกจากเรื่องดราม่าเหล่านี้จะส่งผลต่อ Activision Blizzard เป็นอย่างมากแล้ว ยังส่งผลให้ผู้จัดจำหน่ายเกม Overwatch กับ Call of Duty เริ่มทยอยหยุดสนับสนุน Blizzard แล้วด้วย จากที่เราเห็นจากเว็บไซต์ของ Dexerto เราจะเห็นได้ว่า T-Mobile ได้หยุดสนับสนุนการแข่งขัน League ของทั้ง 2 เกมแล้ว Dexerto ชี้ให้เราได้เห็นว่าในการแข่งขัน Overwatch League กับ Call of Duty Leagues และในเว็บไซต์หลักของเกมทั้ง 2 นี้ได้ลบการอ้างอิงถึง T-Mobile ไปแล้ว อย่างที่ผมได้บอกไว้ว่า J. Allen Brack ประธาน Blizzard ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว ตำแหน่งนี้จะถูกแทนที่ด้วยผู้นำร่วมสองคน Jen Oneal และ Mike Ybarra ซึ่งทั้งคู่พึ่งร่วมงานกับบริษัทนี้มาได้ไม่ถึงสองปีก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของ Activision Blizzard จะเป็นยังไงต่อไป แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าผู้สนับสนุนรายอื่นๆ ของ Blizzard วางแผนที่จะหยุดการสนับสนุนงานแข่ง E-sports ของ Activision Blizzard หรือไม่เราก็ต้องรอติดตามกันต่อในอนาคตCredit : Kotaku

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงนี้ Activision กำลังเผชิญกับมรสุมขนาดหนัก ทั้งประเด็นการฟ้องร้องข้อหาการล่วงละเมิดทางเพศ และวัฒนธรรมการกดขี่ในที่ทำงาน ซึ่งส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเกมเป็นวงกว้าง แต่เหล่าผู้บริหารก็ยังพยายามประคับประคองบริษัทกันต่อไป และในวันนี้เราก็ได้รับการยืนยันที่ชวนให้อุ่นใจขึ้นมาได้บ้างมาเรื่องหนึ่งโดยอ้างอิงจากข้อมูลของ VGC ทางประธานและ COO ของ Activision อย่าง Daniel Alegre ก็ได้ออกมายืนยันว่ารายการล่าสุดในแฟรนไชส์ Call Of Duty จะยังเปิดตัวตามแผนเดิมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 และจะสามารถเล่นแบบข้ามเครื่องได้ โดยที่ตัวเกมจะกลับไปเป็น Call Of Duty ที่แฟนๆ เกมรักอีกครั้ง“ทีมงานของเรากำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อเปิดตัว Call Of Duty ภาคใหม่ให้ทันในช่วงไตรมาสที่สี่นี้ โดยที่จะทำให้ตัวเกมเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แฟนๆ เกมคิดถึงและชื่นชอบ รวมถึงทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นแบบข้ามเครื่องได้ นอกจากนั้นพวกเราก็ยังมุ่งเน้นในการพัฒนาเกี่ยวกับ Warzone อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์แสนยอดเยี่ยมอีกด้วย”ในปัจจุบันมีข่าวลือออกมาว่าตัวเกมจะถูกปล่อยออกมาในช่วงปลายเดือนนี้ และอาจจะถูกใช้ชื่อว่า Vanguard โดยพื้นหลังของเกมจะถูกนำเสนออยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการพัฒนาโดย Sledgehammer Games ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Call of Duty: WWII นั่นเองแต่อย่างไรก็ดีข่าวลือก็ยังคงเป็นข่าวลือ สำหรับพวกเราชาวแฟนเกมแล้ว ก็คงทำได้เพียงเกาะจอรอความคืบหน้ากันต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้นค่ะCredit: GamingBolt

จากเหตุการณ์อื้อฉาวของ Activision Blizzard ในช่วงนี้ทำให้บุคลากรระดับหัวหน้าของ HR ลาออกอีกไปคนเพราะการยื่นฟ้องและโดนประนาม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อจากการที่ J. Allen Brack ประธานบริษัท Blizzard ออกจากตำแหน่งเพื่อหา "โอกาศครั้งใหม่"จากรายงานแรกของ Bloomberg ทำให้ทราบว่า Jesse Meschuk หัวหน้าแผนก HR ได้ลาออกจากบริษัทแล้วในช่วงตั้นของสัปดาห์นี้ ซึ่งการลาออกในครั้งนี้สามารถเข้าใจได้เพราะมีการคุกคามทางเพศและมีการปฎิบัติกับผู้หญิงอย่างไม่เป็นธรรม รวมไปถึงเหตุการณ์ที่แผนก HR ไม่ได้ช่วยปกป้องพนักงานจากเหตุการ์ครั้งนี้ด้วยจากคำให้การของ Axios พนักงานและอดีตพนักงานมากมายของ Activision Blizzard ไม่สามารถเชื่อใจแผนก HR ว่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้อีกต่อไป เหตุมาจากการที่มีพนักงานเคยส่งเรื่องนี้ไปยังแผนก HR แต่ก็ถูกตีกลับมาแทน“หลังจากที่ฉันส่งเรื่องให้แผนก HR และโดนตีกลับมาไม่ได้ทำให้ฉันโกรธหรือเสียใจเลย มันทำให้ฉันแปลกใจมากกว่าที่ไม่รับเรื่องของฉัน” หนึ่งในพนักงานเล่าเรื่องราวที่เธอโดนลวนลามและแจ้งเรื่องไปยังแผนก HR ให้ทาง Axios ฟัง“เขารู้สึกขอโทษจริงๆ เขาอยากจะทำงานที่ Blizzard จริงๆ อีกอย่างเขาบอกว่าคุณเป็นมิตรกับเขาจริงๆ” คือสิ่งที่ HR ตอบกลับให้กับเธอก่อนที่จะปฎิเสธการรับเรื่อง“พวกเราจะไม่ทนกับการกระทำที่มาจากการใช้อำนาจหน้าที่ในการทำสิ่งที่ไม่สมควรแบบนี้” โฆษกของ Activision Blizzard กล่าวให้กับทาง Axios “หากพนักงานคนใหนกังวลเกี่ยวกับ HR เรามีตัวเลือกอื่นอยู่ รวมไปถึงแบบที่ไม่เปิดเผยตัวบุคคลด้วย”ในตอนนี้พนักงานของ Activision Blizzard ได้ก่อตั้งกลุ่มขึ้นมาในชื่อ ABK Workers Alliance ที่คอยกลักดันการเปลี่ยนแปลงของบริษัทให้ "ทำมากกว่าฟัง" และตอนนี้ Bobby Kotick ผู้เป็น CEO ก็ได้ให้สัญญาว่าข้อเรียกร้องต่างๆ จะถูกเพิ่มให้อย่างแน่นอน“พวกเราอยากเรียกร้องให้คุณและหัวหน้าของหลายๆ แผนกให้รับมือกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง” กลุ่มประท้วงกล่าว. “พวกเราจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจของพวกเรา คนที่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงกำลังมารวมตัวกันจากทั่วโลก”Credit: Kotaku

Guitar Hero เกมจากสตูดิโอผู้พัฒนาอย่าง Harmonix เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่สร้างปรากฏการณ์อันน่าประทับใจเอาไว้ในวงการเกมมาก่อน ในช่วงยุคกลางปี 2000 ด้วยความโด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ ก็ทำให้ตัวเกมได้สร้างภาคต่อ และภาคแยกออกมาอีกมายมาย นอกจากเพลงใหม่ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้ว อีกหนึ่งความสร้างสรรค์ที่แฟนๆ เกมทำกันมาอย่างช้านานเลยก็คือ การสร้างจอยเกมของตัวเอง จากอุปกรณ์แปลกๆ เช่น การใช้กีต้าร์จริงๆ มาแทนจอยเกม เป็นต้น ซึ่งล่าสุดก็ได้มีแฟนเกมสุดสร้างสรรค์คนหนึ่ง ได้สร้างจอยเกมของตัวเองขึ้นมา ผ่านอุปกรณ์อย่างไม้ตียุง!จากโพสต์ของผู้ใช้งาน Reddit ในชื่อ Tominator2000 ได้เล่าว่าในตอนที่พวกเขาเริ่มเล่นเกมใน PS2 เป็นครั้งแรก พวกเขาไม่มีจอย Guitar Hero มาก่อน ทำให้เขาตัดสินใจสร้างจอยเกมของตัวเองขึ้นมา พร้อมโพสต์ภาพประกอบ ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ DualShock ของเครื่อง PS2 เวอร์ชัน knock-off ร่วมกับไม้ตียุง และส่วนของสวิตช์ไฟฟ้า(สวิตช์ปรอท) เพื่อใช้ Star Power ของ Guitar Heroเมื่อลองพิจารณาจากรูปดังกล่าวแล้ว ก็เรียกได้ว่ามันเป็นการประยุกต์ใช้ที่สร้างสรรค์เป็นอย่างมาก และสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ใช้งาน Reddit เป็นจำนวนมาก โดยมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ด้านวิศวกรรม ผสมกับคำพูดติดตลกในเชิงที่ว่า คงจะมีแมลงที่น่าสงสารถูกตีมากมายตลอดการเล่น Guitar Hero ของเขาเป็นแน่ถึงแม้ว่าในตอนนี้ Activision จะระงับการพัฒนาแฟรนไชส์ไป แต่แฟนๆ เกมก็ยังคงรักและเล่นเกมในแฟรนไชส์นี้อยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความหวังที่ว่าตัวเกมจะมีการสร้างภาคใหม่ๆ หรือรีมาสเตอร์ภาคเดิมออกมาบ้าง อย่างไรก็ดีทาง Ubisoft ก็พร้อมจะพัฒนาซีรี่ส์ Guitar Hero ในรูปแบบของภาคต่อของ Rocksmith ภายใต้ทีมพัฒนาเดิมอย่าง Harmonix นั่นเองค่ะCredit: GameRant

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีดราม่าเกี่ยวกับ Activision Blizzard มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกมาประท้วงเรื่องปัญหาการคุกคามทางเพศกันในบริษัท หรือแม้แต่การเลือกปฎิบัติ โดยสุดท้ายแล้วทาง Activision Blizzard ก็ได้ตัดสินใจจ้างสำนักงานกฏหมาย WIlmerHale เพื่อมาแก้ปัญหาเหล่านี้พร้อมกับบอกวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ว่า “จะให้พนักงานระดับสูงมารับฟังปัญหาส่วนตัวของเหล่าพนักงานเพื่อนำมาแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้” ซึ่งเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีแต่สุดท้ายแล้วปัญหาก็เกิดขึ้นอีกจนได้ ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ก่อปัญหาใหม่นี้ขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ก่อปัญหาให้ Activision Blizzard เสียชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก ตั้งแต่การที่อีเมลไปหาเจ้าหน้าที่จาก DFEH (California Department of Fair Employment and Housing) ที่ฟ้องร้อง Activision Blizzard เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศว่า “ไร้ค่า” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง มาจนถึงเหตุการณ์ที่พนักงานของ Activision ตัดสินใจประท้วงด้วยการหยุดทำงานในช่วงวันพุธที่ผ่านมา ก็ทำให้มีการเรียกร้องให้ถอดเธอออกจากตำแหน่งในฐานะผู้สนับสนุนเครือข่ายสตรีเพิ่มมากขึ้นบทบาทของเธอในครั้งนี้คือการที่ Blizzard แต่งตั้งเธอให้เป็นหัวหน้าฝ่ายรับฟังปัญหาของพนักงาน แต่เธอกลับทำการบล็อคบัญชี Twitter ของพนักงาน Activision ทิ้ง พอลองพิจารณาตำแหน่งของเธอกับการกระทำของเธอพร้อมกับจังหวะแล้วทำให้ปฏิกิริยาต่อสาธารณะอยู่ในเชิงลบ จนทำให้มีหลายคนที่ทวีตข้อความที่ไม่ดีตอบกลับไปบ้าง แต่บทบาทของเธอยังไม่หมดแค่นี้ เธอยังทวีตด่าคอมเมนต์ที่ต่อว่าเธอ ลบทวีต พร้อมบล็อก Twitter คนเหล่านั้น แถมยังเพิกเฉยต่อคำวิจารณ์จากเหล่าพนักงานที่มาเล่าปัญหาส่วนตัวด้วย ช่วงสุดสัปดาห์เธอเริ่มบล็อกใครก็ตามที่มาวิจารณ์คำตัดสินใจของเธอซึ่งรวมถึงนักข่าวและนักพัฒนาหลายคนจากบริษัทนอก รวมถึงพนักงานปัจจุบันและอดีตของ Activision Blizzard อีกด้วย ตอนนี้ปัญหาต่างๆ ของ Activision Blizzard ได้ถูกนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะมากมาย จนกลายเป็นดราม่าทั่วโลก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรายังต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกในอนาคต เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อนๆ ควรใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวดราม่านี้ด้วยนะครับCredit : Kotaku

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงที่ผ่านมาเราในฐานะผู้ติดตามข่าวสารภายในวงการเกม ก็น่าจะผ่านตากับประเด็นการฟ้องร้องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานของทาง Activision Blizzard กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเกมในวงกว้าง และหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลนั้นเลยก็คือผู้พัฒนาค่ายดังอย่าง Ubisoft นั่นเองจากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ที่พนักงานงานของทาง Ubisoft หลายคนได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ รวมไปถึงวัฒนธรรมการรังแกกันที่เกิดขึ้นภายในองค์กร และได้รับการคำมั่นจากทีมผู้บริหารว่าจะลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งส่วนทางกับผลที่ตามมา เพราะมีพนักงานส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกไล่ออก ในขณะที่ผู้กระทำผิดอีกหลายคนก็เพียงแค่โดนย้ายงาน หรือเลวร้ายที่สุดก็คือได้รับการเลื่อนตำแหน่งทำให้ในที่สุดเมื่อสองวันก่อน ทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของทาง Ubisoft จำนวนกว่า 500 คนก็ได้รวมตัวกันลงนามในจดหมายเปิดผนึก เพื่อแสดงจุดยืน ว่าเป็นหนึ่งในเสียงที่สนันสนุนฝ่ายพนักงานของ Activision Blizzard ที่ออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิด และชี้ให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการกับกรณีการล่วงละเมิด ที่ไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งจดหมายฉบับนี้ก็ไม่เรียกร้องให้เพียง Activision Blizzard ที่เดียวเท่านั้น ทำการปรับปรุงและแก้ไขต่อไปในอนาคต หากแต่หมายรวมไปถึงต้องการให้บริษัทอื่นๆ หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ และการรังแกกันภายในองค์กร ในระดับโครงสร้างของอุตสากรรมการพัฒนาเกมด้วยหลักจากนั้น Yves Guillemot ซีอีโอของทาง Ubisoft ก็ได้ออกจดหมายตอบกลับมา โดยจดหมายฉบับสมบูรณ์นั้นก็ได้รับการโพสต์ลงใน Twitter ในใจความที่ว่า Guillemot และ Ubisoft จะยกประเด็นดังกล่าวนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจัง และบริษัทตั้งใจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มั่นคง ยั่งยืนต่อไป นอกจากนั้นก็ยังมีการระบุถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบริษัท เช่น การปรับปรุงการทำงานของ HR และการที่พนักงานไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนอีกต่อไป ในการรายงายปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท ซึ่งในขณะที่เนื้อความในจดหมายลงลึกถึงประเด็นความเปลี่ยนแปลงที่ Ubisoft ได้ทำไปแล้ว การร้องเรียนจากจดหมายต้นฉบับก็ยังสมเหตุสมผลอยู่ เพราะไม่ว่าบริษัทจะมีโครงสร้างภายในที่ดีเพียงใด หากผู้บริหารไม่ได้ให้ความสนใจที่จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ทำอะไรให้ดูเป็นรูปธรรม ก็ย่อมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้นอยู่ดี นอกจากนี้จดหมายของ Guillemot ก็ยังไม่ได้ระบุข้อมูลใดเกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในอนาคตเลย ซึ่งแตกต่างกับจดหมายฉบับล่าสุดของ Bobby Kotick ซีอีโอของทาง Activision Blizzardที่จดหมายดังกล่าวนั้นมีการพูดถึงโปรเจกต์ราคาแพงที่กำหนดไว้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2021 ซึ่งจะส่งมอบแผนงานดังกล่าวให้กับทางพนักงานเพื่อสรุปการพัฒนา ความเปลี่ยนแปลง และการอัปเดตทาง HR ใหม่ ซึ่งทางพนักงานเองก็สามารถติดต่อกับ Guillemot ได้โดยตรงเลย หากมีข้อกังวลหรือเกิดปัญหาใดขึ้นแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับการสนับสนุนจากชุมชนเกมเอง แทนที่จะไปหวังพึ่งให้บริษัทต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง และเราก็ได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นจากการฟ้องร้องในครั้งนี้ รวมถึงการประท้วงที่เกิดขึ้นของผู้คนจำนวนมาก จะสามารถช่วยพลิกอุตสาหกรรมเกม และเยียวยาปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการกดขี่ภายในองค์กรที่เรื้อรังมาเป็นเวลานานได้ในสักวันค่ะCredit: GameRant

จากข้อกล่าวหาในเรื่องฉาวโฉ่ของ Activision Blizzard ทำให้ตอนนี้มีพนักงานนับร้อยคนของบริษัทส่งจดหมายประณามฝ่ายบริหารและจัดการของบริษัทซึ่งประเด็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องการคุกคามทางเพศและการเลือกปฎิบัติ“จากการประกาศของ Activision Blizzard และข้อมูลภายในที่มาจาก Frances Townsend ทำให้พนักงานนับ 800 คนจากบริษัท Activision Blizzard ทั่วโลกต้องออกมาเคลื่อนไหว” ตัวแทนของกลุ่มบอกให้กับทาง Kotaku “จากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราได้รวบรวมจดหมายพร้อมลายเซ็นจากทุกที่ไปให้หัวหน้าของพวกเราและเรากำลังจะมุ่งหน้าทำตามขั้นตอนที่เราวางเอาไว้ต่อไป”จดหมายฉบับนี้คือจดหมายที่ส่งให้กับฝ่ายบริหารและจัดการในวันนี้ ซึ่งทาง Kotaku เองก็ได้จดหมายฉบับเดียวกันมาเหมือนกัน โดยเนื้อหามีดังนี้:ถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Activision Blizzardพวกเราได้ทำการเซ็นสัญญาในข้อตกลงจากการประกาศของทาง Activision Blizzard และคู่กรณี DFEH ที่เป็นผู้ยื่นฟ้อง รวมไปถึงคำกล่าวของ Frances Townsend ที่มีในบริษัทนั้นทำให้พวกเรารู้สึกรับไม่ได้และเป็นเหมือนการเหยียบย่ำสิ่งที่เราเชื่อมามาตลอด หรือถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือพวกเราพนักงานนั้นไม่เห็นด้วยกับคำพูดคำจาและการกระทำของพวกคุณที่เป็นผู้นำของบริษัทพวกเราเชื่อว่าคำกล่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ในความเท่าเทียมของพวกเราเสียหาย รวมไปถึงการอ้างว่าข้อมูลนั้นถูกบิดเบือน ทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าอึดอัดในบริษัท รวมไปถึงทำให้ตัวบริษัทดูไม่น่าไว้ใจเพราะการกระทำที่คอยเกื้อหนุนผู้กระทำความผิด เห็นได้ชัดว่าผู้นำในบริษัทของเราไม่ได้เห็นคุณค่าของเราเลย ฉะนั้นเราต้องจัดการเรื่องนี้โดยด่วนหัวหน้าระดับสูงได้กล่าวว่าจะทำการปกป้องพวกเรา แต่เอาจริงๆ ก็คือ พวกเราไม่สามารถไว้ใจให้พวกหัวหน้ามาดูแลความปลอดภัยของพนักงานโดยไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวได้ การจะบอกว่า “การยื่นฟ้องที่ไม่มีผลประโยชน์และไร้ความรับผิดชอบ” โดยขณะเดียวกันก็มีอดีตพนักงาน รวมไปถึงพนักงานในปัจจุบันก็ได้ออกมาเล่าเรื่องที่โดนคุกคาม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้พวกเราได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเราจริงจังกับข้อกล่าวหานี้และพวกเราเห็นใจเหยื่อที่โดนคุกคาม พวกเราได้เรียก Frances Townsend ออกมาเพื่อยืนยันคำพูดที่ทำให้ภาพลักษณ์ต้องเสียหาย พวกเราอยากจะให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมาช่วยยืนยันว่าพนักงานจะมีพื้นที่ปลอดภัยในการออกความเห็นพวกเราจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างเพื่อน เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงสมาชิกทุกท่านที่โดนคุกคาม พวกเราจะไม่ยอมอยู่เฉย พวกเราจะไม่หันห้าหนี พวกเราจะไม่ยอมแพ้ จนกว่าที่ทำงานของพวกเราเคยภูมิใจจะกลับมาในวันที่ 20 กรกฎาคม กรมการจัดหางานและเคหสถานแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (DFEH) ได้ยื่นฟ้อง Activision Blizzard ในเรื่องของ "วัฒนธรรมที่กดขี่พนักงาน" จากการตรวจสอบมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนทาง Activision ก็กล่าวว่า DFEH ในเรื่องที่ "บิดเบือนและกล่าวหาเรื่องต่างๆ ของบริษัทในอดีต" และเรียกการกระทำแบบนี้ว่า "การทำงานของภาครัฐที่ไม่มีการรับผิดชอบที่ควรจะมีซึ่งในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทก็ได้ออกมาเสนอความคิดเห็นของตัวเอง ซึ่งบางคนก็บอกว่าการกล่าวหาครั้งนี้นั้น "น่ากังวล" นอกจากนี้ก็มีคนอื่นอย่าง Frances Townsend ผู้เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลกฎหมายของ Activision Blizzard ก็ได้ออกมาบอกว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้นั้น "ไม่มีผลประโยชน์" ก่อนที่จะตำหนิพนักงานของ Activision ทำให้พนักงานจำนวนมากเริ่มออกมาตีตัวออกห่างเพื่อปฎิเสธทางบริษัทและหัวหน้าระดับสูงทำในการจัดการปัญหาครั้งนี้จากรายงานที่ทาง UppercutCrit มีในวันนี้กล่าวว่า Joshua Taub หัวหน้าพนักงาน Activision ได้จัดงานประชุมที่มีพนักงานร่วมกัน 500 คนได้ออกมาปรึกษาพูดคุยกันถึงเรื่องในครั้งนี้และยังสนับสนุนให้จัดการเรื่องนี้ให้เป็นความลับภายในเท่านั้น โดย Taub ได้กล่าวเสริมอีกว่า “วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการไปติดต่อกับหัวหน้าของคุณ หาสายตรงหรือเตรียมลู่ทางอื่นเอาไว้”ในขณะนี้ Activision Blizzard ยังไม่มีการตอบคำร้องอะไรทั้งสิ้น“พวกเราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนในการทำงานของพวกเรา อดีตพนักงาน และ ตอมมูนิตี้ของพวกเราในช่วงเวลานี้” ตัวแทนของกลุ่มพนักงานที่ส่งจดหมายลาออกในวันนี้กล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะพวกเราต้องการความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้และทำให้บริษัทและหัวหน้าต้องรับผิดชอบ พวกเราทราบดีถึงความเสี่ยงที่ตามมา”Credit: Kotaku

    กรมการจัดหางานและเคหะแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (Department of Fair Employment and Housing: DFEH) ได้ทำการยื่นฟ้อง Activision Blizzard ในเรื่องของพนักงานที่โดนคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นทางด้านวาจาหรือการกระทำ และ วัฒนธรรมในการทำงานที่คอยกดขี่พนักงานอยู่เสมอ     การฟ้องในครั้งนี้มาจากการตรวจสอบและเก็บหลักฐานเป็นเวลากว่า 2 ปี นอกจากนี้ผู้หญิงที่ทำงานในบริษัทยังได้รับค่าจ้างและการเลื่อนขั้นน้อยกว่าผู้ชายในตำแหน่งเดียวกันด้วย ถึงแม้ว่าตอนนี้ทาง Activision Blizzard จะปฏิเสธการกล่าวหาในครั้งนี้ไปแล้วก็ตาม    ใน เอกสารยื่นฟ้อง ได้กล่าวเอาไว้ว่า "ผู้หญิงถูกวาจาแทะโลมอยู่หลายครั้ง รวมไปถึงการแตะเนื้อต้องตัวและการคุกคามอื่นๆ อีกมากมาย" ในสตูดิโอนั้น นอกจากนี้ก็มีเรื่องของ "พนักงานหญิงที่ทำงานให้กับทีมเกม World of Warcraft นั้นถูกพนักงานชายรวมถึงหัวหน้าเข้ามาจีบและข่มขู่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืนหรือการแสดงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้หญิง" จากคำร้องเรียนที่ผ่านมา อดีตหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีเองก็เคยถูกกล่าวหาเรื่อง "แตะเนื้อต้องตัวพนักงานหญิงในงานของบริษัทต่างๆ และรับพักงานหญิงเข้าทำงานจากหน้าตา"นอกจากนี้ก็มีอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเหตุการณ์ที่พนักงานฆ่าตัวตายเนื่องมาจากการคุกคามอีกด้วย    คำร้องเรียนที่เคยส่งไปยังแผนก HR ของ Activision Blizzard รวมไปถึง J. Allen Brack ผู้เป็นประธานของ Blizzard ก็ถูกปฏิเสธไปเพราะ "คำร้องถูกเมินเฉยและนับว่าไม่เหมาะสม แถมไม่ได้เก็บเป็นความลับอีกด้วย" ซึ่งทำให้พนักงานที่ส่งคำร้องเรียนไปโดน 'รังแกสารพัดอย่างไม่ว่าจะเป็น การจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงงานโปรเจกต์, โดนสั่งย้ายแผนกอย่างไม่เต็มใจ และ ถูกสั่ง Layoff'   ในหมายศาลได้กล่าวอีกว่าโดยเฉพาะหญิงสาวผิวสีใน Activision Blizzard นั้น 'ตกเป็นเหยื่อ' ของการรังแกเช่นกันอย่าง พนักงานชาวแอฟริกัน อเมริกันที่เคยทำงานให้กับแผนก IT ก็เคยถูกหัวหน้าสั่งให้ทำ 'หนึ่งหน้าสรุป' เรื่องช่วงเวลาพักทำอะไรบ้าง ซึ่งในแผนกก็ไม่เคยมีใครได้ทำอะไรแบบนี้มาก่อนส่วนผู้หญิงคนอื่นก็โดนจับไปอยู่ในตำแหน่งระดับต่ำ, ได้ค่าจ้างน้อยกว่า และ ไม่สามารถเลื่อนขั้นได้ เมื่อเทียบกับพนักงานชายที่มีประสบการณ์และความสามารถที่เท่ากันแต่ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมแล้ว'"หัวหน้าที่พึ่งได้เลื่อนขั้นมาเคยผลักงานให้กับลูกน้องที่เป็นพนักงานหญิงไปทำแทนเพื่อที่ตัวเองจะได้ไปนั่งเล่น Call of Duty" หนึ่งในคำร้องเรียนได้กล่าวเอาไว้    ก่อนหน้าที่จะมีการฟ้องร้องครั้งนี้ก็เคยมีวิธีแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวเพราะ 'กลุ่มที่เกี่ยวข้องไม่สามารถแก้ปัญหาคำร้องจากฝ่ายผู้บริหารได้' เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องทุกข์ ทาง DFEH ได้เสนอขอค่าเสียหาย, เงินค่าจ้างที่ค้างจ่าย และจ่ายค่าชดใช้ที่ทางศาลตัดสินมาผู้พูดแทน Activision Blizzard ได้ออกมาตอบโต้กับการกล่าวหาครั้งนี้โดยการส่งการพูดกับ PC Gamer ว่าการกล่าวหาครั้งนี้ 'มีการดัดแปลงและใส่ความมากมายให้กับ Blizzard' และยังกล่าวอีกว่าทาง DFEH ที่มี "กฏหมายกำหนดให้สอบสวนมากพอและพูดคุยปรับความเข้าใจให้ดีขึ้นและแกไข้ข้อเรียกร้องหรือข้อกังวลใดๆ ก่อนที่จะดำเนินคดี แต่กลับยื่นส่งคำร้องที่ไม่ถูกต้องให้กับทางศาล โดยเราจะแสดงให้เห็นในวันขึ้นศาลเอง"Activision เองก็ได้พูดเจาะจงเรื่องที่พนักงานฆ่าตัวตายอีกว่า "เราเบื่อที่จะเห็น DFEH ดึงโศกนาฏกรรมดังกล่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความในครั้งนี้มาใช้งาน โดยไม่เห็นแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเลย"นอกจากนั้นก็มีการขยายความอีกว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของ Activision Blizzard นั้นแย่ลงกว่าที่เคยเป็นมา "พวกเราได้มีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมในองค์กรหรือวิศัยทัศน์ที่หัวหน้าทีมต่างๆ มีให้กับการทำงาน หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นจนทำให้เกิดการสอบสวนเมื่อหลายปีก่อนแล้ว" ไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ขอความกรุณาใช้วิจารณญาณและคิดวิเคราะห์ในการอ่านข่าวครั้งนี้ด้วยครับCredit: PC Gamer

ตอนนี้ได้มีโปรแกรมโกงตัวใหม่กำลังมาแรงในช่วงนี้ และที่น่ากลัวก็คือมันอ้างว่าสามารถทำงานได้บนทุกแพลตฟอร์ม ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ทราบรายละเอียดหรือชื่อของโปรแกรมโกงนี้ แต่ทางทวิตเตอร์ของ Anti-Cheat Police Department ก็ได้โพสวิดีโอโปรแกรมโกงที่ทางคนทำได้โปรโมทออกมาพร้อมกับกล่าวว่าการแกะรอยโปรแกรมโกงนี้ทำได้ยากที่น่าสนใจที่สุดก็คือโปรแกรมโกงนี้สามารถใช้งานบนคอนโซลได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น PlayStation หรือ Xbox ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็สามารถเจอโปรแกรมโกงนี้เล่นงานได้ ตัวอัลกอริธึมของโปรแกรมนี้จะทำการยิงและเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติทำให้ผู้พัฒนาตามหาคนใช้โปรแกรมโกงได้อย่างยากลำบากบวกเข้ากับการที่เกมเปิดให้เล่นฟรีจำนวนมากในตอนนี้ ทำให้ปัญหาการโกงพบเจอได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นเกมของค่าย Activision, Epic Games, Respawn และอีกมากมายที่จะต้องจัดการปัญหาโปรแกรมโกงและแฮกเกอร์ต่างๆ พร้อมกับการที่โปรแกรมโกงใหม่นี้ สามารถใช้งานบนคอนโซลได้ทำให้ดูเหมือนว่า เกมต่างๆ จะต้องเจอกับปัญหาการโกงที่ต้องรับมือไปอีกนาน Credit: Gamingbolt

สืบเนื่องจากดร่ามาการ Layoff พนักงานจำนวนมาก แต่จ่ายเงินโบนัสก่อนใหญ่ให้ CEO ช่วงต้นปี วันนี้มีความคืบหน้าอีกเล็กน้อยครับในเดือนมิถุนายนปี 2020 ทาง CtW Investment Group ซึ่งทำงานร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้นในระยะยาวได้เรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นของ Activision ลงคะแนนเสียงคัดค้านเรื่องข้อเสนอค่าตอบแทนสำหรับ CEO คุณ Bobby Kotick เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 พันล้านไทย) เนื่องจากมันดูมากผิดสังเกต โดยคุณ Dieter Waizenegger ได้กล่าวไว้ว่าจำนวนเงินที่คุณ Kotick ได้นั้นมากกว่าค่าจ้างทั้งหมด(รวมเงินเดือนทั้งปี, โบนัสประจำปีและค่าหุ้น) ของ CEO ในบริษัทที่คล้ายกันไปหลายเท่าในเดือน เมษายน ของปีนี้คุณ Kotick ได้ลงนามข้อตกลงในการขยายการจ้างงานฉบับใหม่กับทาง Activision ซึ่งเขาตกลงที่จะลดรายได้ กับโบนัสลงครึ่งหนึ่งซึ่งทางบริษัทก็ได้กล่าวว่าการกระทำของเขาสะท้อนกับความคิดเห็นจากทางผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม CtW Investment Group ยังคงมองว่า ต่อให้ลดรายได้ของคุณ Kotick ลงครึ่งหนึ่งฐานรายได้ของเขาก็ยังสูงถึง 875,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 27 ล้านบาทไทย) ซึ่งนับว่ามากเกินไปอยู่ดี นอกจากนี้โบนัสก็ยังสามารถทำให้คุณ Kotick ได้รับเงินเพิ่มอีก 1.75 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 54 ล้านบาทไทย) ทั้งยังมีโอกาสได้รับเงินเพิ่มจากการจ่ายโบนัสครั้งก่อนด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่จบแค่นั้น เพราะ CtW Investment Group ได้กล่าวไว้ว่า ข้อตกลงของคุณ Kotick ที่ว่าขยายเวลาการจ้างงานเป็นเวลา 2 ปีมันสั้นเกินไปเป็นผลให้ทางผู้ถือหุ้นลงเสียงคัดค้านข้อเสนอ Say On Pay รวมถึงการเลือกตั้งประธานคณะกรรมการค่าตอบแทนของ Activision อีกด้วย<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='en' dir='ltr'><a href='https://twitter.com/search?q=%24ATVI&amp;src=ctag&amp;ref_src=twsrc%5Etfw'>$ATVI</a> still at it...<br><br>We&#39;ve launched another vote no on their <a href='https://twitter.com/hashtag/execpay?src=hash&amp;ref_src=twsrc%5Etfw'>#execpay</a> and also their Compensation Committee Chair. Read more here.?<a href='https://twitter.com/hashtag/corpgov?src=hash&amp;ref_src=twsrc%5Etfw'>#corpgov</a> <a href='https://t.co/EfY4QKXyaN'>https://t.co/EfY4QKXyaN</a> <a href='https://t.co/MzNneXSoNL'>pic.twitter.com/MzNneXSoNL</a></p>&mdash; CtW Investment Group (@CtWInvGrp) <a href='https://twitter.com/CtWInvGrp/status/1402054968933326853?ref_src=twsrc%5Etfw'>June 8, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>ระยะเวลาในการขยายการจ้างงานของ Kotick หมายความว่าเรื่องค่าจ้างของเขาสามารถมีการพูดคุยตกลงกันใหม่ได้ในระยะเวลาดังกล่าว และรายได้ของเขาจะเพิ่มขึ้นทันทีในเดือน เมษายน ปี 2023 จากโปรแกรม “การสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น” ของทาง Activision นั่นหมายความว่ามันจะเป็นเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้นที่คุณ Kotick ที่การลดค่าจ่างของเขาจะมีผลจริงๆ คือในปี 2022 ทาง CtW Investment Group ยังได้กล่าวอีกว่า “ระยะเวลาของสัญญาใหม่ไม่ยาวนานพอที่ทำให้ Kotick ได้แสดงศักยภาพการเป็น CEO ที่สมควรที่จะได้รับเงินที่มากกว่าเงินค่าเฉลี่ยของ CEO ในบริษัทที่มีขนาดเท่ากัน” Credit : https://www.pcgamer.com/activision-ceo-bobby-kotick-still-gets-paid-way-too-much-investment-group-says/

กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เหล่าแฟนๆ รอการวางจำหน่ายภาคใหม่ทุกปีไปแล้วสำหรับ Call of Duty ซึ่งสำหรับปีนี้ตัวเกมภาคใหม่จะพาเราย้อนไปไกลถึงยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยใช้ชื่อภาคว่า WWII: Vanguard พัฒนาโดย Sledgehammer Games ครับรายงานนี้มาจากทาง Modern Warzone กับ Eurogamer และต่อโดย Polygon ทำให้มันมีความน่าเชื่อถือสูงมาก แม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันจากทาง Activision ก็ตาม โดยเนื้อเรื่องของภาคนี้จะอยู่ในช่วงปี 1950 หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลงเล็กน้อย ซึ่งตรงกับช่วงสงครามเกาหลีพอดี จึงเป็นไปได้ที่ฉากของเกมอาจเป็นประเทศเกาหลีในครั้งนี้Modern Warzone ได้เปิดเผยว่า WWII: Vanguard เป็นเพียงชื่อชั่วคราวของภาคนี้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงชื่อของเกมจริงที่จะวางขาย Activision เคยยืนยันแล้วว่าเราจะได้เล่น COD ภาคใหม่ในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปี เหมือนสองภาคก่อนหน้า ดังนั้นช่วงกลางปีเราน่าจะได้เห็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันครับThe next #CallOfDuty title is 100% being developed by @SHGames. While this information isn’t official, it doesn’t need to be taken with a grain of salt. https://t.co/4kHqmbaiAs— ModernWarzone (@ModernWarzone) February 9, 2021

Bloomberg ได้รายงานว่า Activision-Blizzard ได้ ปลดพนักงาน 2% ของบริษัท (คิดได้เป็นประมาณ 190 คน) โดยพนักงานที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ได้รับค่าชดเชยเป็นเงิน 3 เดือน กับผลประโยชน์ด้านสุขภาพเป็นเวลา 1 ปี และบัตรของขวัญมูลค่า $200 สำหรับใช้ใน Battle.netSports Business Journal ได้รายงานว่าการปลดพนักงานทางฝั่ง Esports ทั้ง 50 คน เป็นหนึ่งในการปฏิรูปแนวทางการจัดการแข่งขันให้เหมาะสมกับช่วงวิกฤต COVID-19 ให้มีความแตกต่างออกไป และ 'มีความเป็น Digital หรือ Online มากขึ้น' Activision กล่าวว่าพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานจะได้รับ 'ค่าชดเชยที่เหมาะสม' ในปีที่ผ่านมา Overwatch League กับ Call of Duty League ที่เปลี่ยนไปจัดงานแบบ Online-Only Events แล้ว แต่คุณ Petitti ซึ่งเป็น Activision Blizzard President of Sports & Entertainment ได้ยืนยันว่า 'นี้ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะเลิกจัดงามแบบปกติไปเลย'Petitti ยังยอมรับอีกด้วยว่า การปลดพนักงาน 50 คนออก เพราะต้องการลดต้นทุน และอีกส่วนหนึ่งหมายถึงการเพิ่มทรัพยากรเพื่อจัดสรรใหม่ไปยังส่วนอื่น ๆ ของบริษัท จากประกาศนี้เหมือนจะเป็นการบอกเราอ้อมๆ ว่า มีบางส่วนของบริษัทที่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากอยู่ โดยคิดว่าน่าจะไม่พ้น Overwatch 2 กับ Diablo 4 ครับCredit: https://www.ign.com/articles/activision-blizzard-has-reportedly-laid-off-nearly-190-employees.#Blizzard #GameFever

ในปี 2020 พวกเราได้พบกับการกลับมาของ Call of Duty Black Ops Cold War ที่เป็นการ Reboot เกมได้อย่างยอดเยี่ยม พอรวมกับข่าวที่ก่อนหน้านี้บอกว่า ตัวซีรีส์มีผู้เล่นเฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านคนในปี 2020 แล้ว มันเลยทำให้การมาของ Call of Duty ภาคใหม่ในปี 2021 เป็นที่จับตามองของแฟนซีรีส์มากๆ โดยล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าตัวเกมจะมาช่วงปลายปีเช่นเดิม จากรายงานกำไรที่ทำได้ในช่วง Q4 2020 คุณ Dennis Durkin ที่เป็น Chief Financial Officer ได้ยืนยันว่า Call of Duty ภาคต่อไปจะวางจำหน่ายในช่วง Q4 ของปี 2021 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2021 ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2021 เพื่อใช้ประโยชน์จาก กำลังซื้อของผู้เล่นช่วงเทศกาลส่งท้ายปีครับ ยังไม่มีการยืนยันว่าภาคใหม่ที่กำลังจะมาในปีนี้จะเป็นการสานต่อเรื่องราวของภาค Modern Warfare ที่ทิ้งไว้ช่วงปี 2019 หรือจะเป็นภาคต่อของ Black Ops ที่เพิ่งจบไปเลย มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นภาคใหม่เลย ไม่ก็การกลับมาของ World War ที่หายไปนานเช่นกัน ต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: GamingBolt

ในที่สุดภาคต่อของแฟรนไชส์ Call of Duty สุดฮิตครองใจแฟนๆ เกมเมอร์ชาวไทยมาอย่างยาวนานก็ได้ยืนยันภาคใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว ในภาคนี้มีชื่อว่า Call of Duty: Black Ops - Cold War  ในวันที่ 26 สิงหาคม บน Twitter ทางการของ Treyarch Studio ได้โพสต์รูปภาพออกมายั่วแฟนๆ กัน ซึ่งในภาพนั้นไม่ได้บอกอะไรกับเรามากนักนอกเหนือจากการบอกใบ้ว่าจะมีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต การมีสองตัวละครในรูปภาพดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นการบ่งบอกว่าเราสามารถเล่นเนื้อเรื่องได้ทั้งสองฝ่าย สำหรับเกม Call of Duty แล้วมักจะนำเสนอตัวละครที่เล่นได้หลายตัวละครตั้งแต่เริ่ม ดังนั้นเราก็ต้องมารอดูกันครับว่าในภาคนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับแพลตฟอร์มที่เกม Call of Duty: Black Ops - Cold War จะลงให้นั้นยังไม่มีการเปิดเผย แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะลงให้กับ PlayStation 5 กับ Xbox Series X ครับ แน่นอนว่าชาว PC เองก็มีหวังกันอยู่แล้ว #BlackOpsColdWar 8.26.2020 pic.twitter.com/UFV2YfZMtK — Treyarch Studios (@Treyarch) August 20, 2020 Credit: Gamingbolt

ในเดือนมิถุนายน CtW Investment Group ซึ่ง ทำธุรกิจถือหุ้นระยะยาวกับบริษัทต่างๆ เพื่อรับเงินปันผล ได้โทรไปหาผู้ถือหุ้นของ Activision เพื่อปฏิเสธแผนการจ่ายผลตอบแทนที่เสนอให้กับ Bobby Kotick ผู้มีตำแหน่งเป็น CEO ของ Activision โดยกล่าวอ้างว่าจำนวนเงินนี้ขัดกับผลประกอบการที่บริษัททำได้ และมีผู้ถือหุ้นกว่า 43 เปอร์เซ็นต์โหวตไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ ซึ่งจำนวนเงินที่ Activision เสนอนั้นถือว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท แต่ด้วยจำนวนผู้โหวตไม่เห็นด้วยนั้นไม่ถึงครึ่งของจำนวนผู้ถือหุ้น ทำให้แผนการจ่ายเงินนี้สามารถดำเนินต่อไปได้ ในเดือนกรกฏาคม CtW Investment Group ก็ได้ร้องเรียนเรื่องเดียวกันนี้กับบริษัท Electronic Arts โดยกล่าวว่าผู้บริหารของบริษัทโดยเฉพาะ Blake Jorgensen ผู้ดำรงตำแหน่งเป็น CFO และ Kenneth Moss ผู้ดำรงตำแหน่งเป็น CTO นั้นได้เงินมากกว่าที่ควรจะเป็น ในขณะที่บริษัททำผลประกอบการได้ต่ำจนต้อง ปลดพนักงานออก แต่ในครั้งนี้การร้องเรียนให้ยกเลิกแผนการจ่ายผลตอบแทนนั้นสำเร็จ ด้วยผลโหวตไม่เห็นด้วยจากผู้ถือหุ้นประมาณ 74 เปอร์เซ็นต์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะการปฏิเสธแผนการจ่ายผลตอบแทนนั้นหายากมาก ต้นเหตุของการยื่นคำร้องเรียนส่วนหนึ่งก็มาจากการเพิ่มจำนวนเงินที่จะจ่ายให้กับผู้บริหารของ EA นั้นมีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก และการยื่นฟ้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเดือนมิถุนายน (ผ่าน Ars Technica) ได้ระบุว่าจำนวนเงินทั้งหมดที่เสนอให้กับ Jorgensen สำหรับงบประมาณปี 2020 ซึ่งรวมจากเงินเดือน เงินปันผลของหุ้น และค่าตอบแทนในรูปแบบอื่นๆ อยู่ที่ 19.5 ล้านดอลลาร์ (หกร้อยห้าล้านบาท) เพิ่มขึ้นมาจาก 9.4 ล้านดอลลาร์ (สองร้อยเก้าสิบล้านบาท) ของปีที่แล้ว ในขณะที่ Moss ได้รับผลตอบแทนรวม 14.3 ล้านดอลลาร์ (สี่ร้อยสี่สิบสามล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านดอลลาร์ (สองร้อยสิบเจ็ดล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา Dieter Waizenegger ผู้อำนวยการบริหารของ CtW Investment Group ได้กล่าวในงานแถลงการณ์ว่า ผู้ถือหุ้นได้ออกมาตำหนิแนวทางการจ่ายเงินของผู้บริหารที่มีข้อบกพร่องอย่างมากของ Electronic Arts การโหวตไม่เห็นด้วยในครั้งนี้เป็นการเรียกร้องให้คณะกรรมการตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทจะจ่ายเงินตามจำนวนที่เหมาะสมจริงๆ เพื่อที่จะรักษาผู้มีความสามารถเอาไว้ในบริษัท แม้ CtW จะร้องเรียนเรื่อง ผลตอบแทนที่ย่ำแย่ ของ EA แต่จากรายงานผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดนั้นเมื่อเทียบกับช่วง 12 เดือนก่อนหน้ามันก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ และรายรับสุทธิสำหรับไตรมาสล่าสุดนั้นคือ 1.46 พันล้านดอลลาร์ (สี่หมื่นห้าพันสามร้อยล้านบาท) เพิ่มขึ้นจาก 1.2 พันล้านดอลลาร์ (สามหมื่นเจ็ดพันสองร้อยล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 การลงคะแนนโหวตไม่เห็นด้วยต่อแผนการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้บริหารนั้นอาจเป็นข่าวดังแต่ก็ไม่มีผลอะไรอยู่ดี สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารของ EA ว่าจะอนุมัติหรือปฏิเสธแผนดังกล่าว Credit: PCGAMER

ข่าวดีสำหรับชาว PlayStation อีกแล้ว เพราะล่าสุดทาง Sony ประกาศแจกเกม Call of Duty: WWII ฟรีๆ สำหรับผู้ใช้งาน PlayStation Plus ในเดือนมิถุนายน แต่ทุกคนสามารถกดรับเกมได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป (27 มิถุนายน 2020 ตามเวลาบ้านเรา) ส่วนเกมฟรีอื่นๆ จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ PS Plus members: Call of Duty: WWII is part of the monthly games lineup for June, and will be available for download starting May 26. We’ll share additional details of our monthly lineup later this week. Enjoy! pic.twitter.com/ECVwca1cXq — PlayStation (@PlayStation) May 25, 2020 โดย Call of Duty: WW2 เป็นเกมที่วางจำหน่ายออกมาในปี 2017 พัฒนาโดย Sledgehammer Games และเป็นเกมที่ได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดีมากๆ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Activision เป็นค่ายเกมที่มีเกมดังๆ อยู่ในมือมากมายอาทิเช่นเกมซีรีส์ Call of Duty และเกมในเครือของค่าย Blizzard ซึ่งในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์เกี่ยวกับรายรับในช่วงไตรมาสน์แรกของปี 2020 โดย CFO ของบริษัทอย่างคุณ Dennis Durkin ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งจะมีตัว Explansion ของเกม World of Warcraft  และ Call of Duty ภาคใหม่แน่นอนเพราะเป็นรายได้ในส่วนหลักของบริษัท แต่ทางผู้พัฒนาเองก็ยังแง้มออกมาว่าจะมีการปล่อยเกมใหม่อีกสองเกมภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นเกมที่อ้างอิงจากซีรีส์เกมที่มีอยู่แต่สองเกมที่ว่าก็ยังไม่เคยถูกประกาศมาก่อน ซึ่งตอนนี้เราเองก็ยังไม่ทราบว่าสองเกมใหม่ที่จะออกมาคืออะไรบ้าง แต่ถ้าจะให้เดาอ้างอิงจากข่าวลือเก่าๆ สองเกมที่ว่าก็อาจจะเป็น Crash Bandicoot ภาค Remake ที่ตอนนี้ลิขสิทธิ์อยู่กับ Activision ก็ได้ หรือจะเป็น Tony Hawk ที่ลือว่าจะมีภาคใหม่ก็เป็นได้ ที่มา สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  

Call of Duty: Modern Warfare วางจำหน่ายมาได้หลายเดือนแล้ว เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ก็เรียกได้ว่า ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม ยิ่งฉากจบของเกมที่กัปตัน Price ได้ประกาศก่อตั้งหน่วย Task Force 141 ก็เรียกได้ว่าทำเอาแฟน ๆ รอ ภาคต่อไปกันไม่ไหวเลยทีเดียว ซึ่ง Activision ก็ไม่ปล่อยให้รอนาน ประกาศว่าภาคต่อของเกมนี้จะมาภายในปลายปีนี้! แต่ยังไงก็ยังอีกหลายเดือนกว่าจะถึงช่วงปลายปี แต่วันนี้ดูเหมือนเราจะเข้าไปเล่น Season 2 ของเกมได้แล้วครับ! Call of Duty News ได้ โพสต์ข้อความพร้อมวิดีโอ Trailer ใหม่ล่าสุดของเกม Call of Duty: Modern Warefare ภายใน Trailer จะโชว์ให้เห็นว่าเราจะได้เห็นอะไรบ้างใน Season 2 ที่จะมาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2020 นี้ ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาของด่านเก่า ๆ อย่าง Rust , ด่านใหม่ในโหมดต่าง ๆ , ปืนใหม่ ๆ , รวมไปจนถึงตัวละครที่น่าจะเป็น Operator คนใหม่ ที่จะมาใน Season นี้ด้วย สามารถรับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Call of Duty: Modern Warefare วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC https://twitter.com/charlieINTEL/status/1226666356763959296?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1226666356763959296&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fcall-of-duty-modern-warfare-season-two-trailer-leaks-rust-confirmed Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

การกลับมาของ Call of Duty Modern Warfare ในปี 2019 ที่ผ่านมาเรียกได้ว่าถูกใจแฟน ๆ เป็นอย่างมาก ด้วยเกมเพลย์ที่มันสุด ๆ และเนื้อเรื่องของเกมที่ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม ยิ่งในฉากจบที่กัปตัน Price กำลังจะก่อตั้งทีม Task Force 141 และกำลังมีการเลือกเพื่อนร่วมหน่วย เราก็ได้เห็นชื่อของตัวละครที่แสนคิดถึงไม่ว่าจะเป็น Soap , Ghost หรือ Gas จนทำให้แฟน ๆ รู้เลยว่า"มันจะต้องมีภาคต่ออย่างแน่นอน" และเหมือนว่าภาคต่อที่ว่านั้น มันจะมาภายในปีนี้เลยครับ! เว็บไซต์ Gamingbolt รายงานว่า "ทาง Activision ได้บอกออกมาในการเปิดเผยผลลัพธ์ทางการเงินของ พวกเขายืนยันว่า Call of Duty ภาคต่อไปจะมาในช่วง Q4 ของปี 2020 นี้ (ตุลาคม - ธันวาคม)" นับว่าทาง Activision สามารถพัฒนาเกมออกมาได้เร็วมากจริง ๆ ครับ ต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Call of Duty ภาคต่อไปจะเป็นยังไง Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

กลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการเกมในวันนี้ เมื่อค่ายพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมยักษ์ใหญ่ Activision Blizzard ได้สั่งปลดพนักงานในบริษัทไปถึง 8% นับเป็นจำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานกว่า 800 ชีวิต! ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมาในระหว่างการประชุมรายงานผลกำไรต่อนักลงทุนของค่าย โดย CEO ของค่ายคุณ Bobby Kotick ได้รายงานว่าแม้ว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ค่ายทำกำไรได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่าย ด้วยตัวเลขกำไรกว่า $7.26 พันล้านเหรียญ (สูงขึ้นกว่าปี 2017 ถึง $100 ล้านเหรียญ) แต่ก็ยังต่ำกว่าความคาดหวังของบริษัท คณะผู้บริหารจึงมีมติที่จะปลดพนักงานที่ไม่ได้มีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกม เพื่อให้บริษัทสามารถทุ่มงบประมาณและเวลาไปกับการพัฒนาเกมใหญ่ๆ ของค่ายได้อย่างเต็มที่ สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ค่ายตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้มีอยู่หลายประการ อย่างแรกมาจากยอดขายของในเกมใหญ่ๆ ของค่ายอย่าง Overwatch และ Hearthstone ที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีการที่ค่ายพัฒนา Bungie ตัดสินใจแยกทางกับ Activision และนำเกมซีรี่ย์ Destiny ไปพัฒนาต่อเอง โดยซีรี่ย์นี้ก็ยังถือเป็นหนึ่งในตัวทำเงินใหญ่ของค่าย จึงทำให้ตัวเลขผลกำไรของค่ายที่สามารถคาดหวังได้ในปี 2019 ต่ำลงไปด้วย นอกจากนี้ ผู้บริหารตำแหน่ง CFO คุณ Dennis Durkin ก็ยังยืนยันด้วยว่า Blizzard ไม่มีแผนจะวางจำหน่ายเกมสายหลักใดๆ ในปีนี้ รวมไปถึงเกม Diablo ภาคใหม่ด้วย (ไม่รวมเกม Diablo: Immortal ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้) ซึ่งก็ส่งผลต่อความคาดหวังผลกำไรของค่ายเช่นกัน สำหรับแผนการของค่ายในปี 2019 นั้น จะเน้นไปที่การขยายทีมพัฒนาสำหรับเกมเรือธงต่างๆ ของค่าย (อย่างเช่น Call of Duty และ Overwatch) ขึ้นอีก 20% และยืนยันว่า Call of Duty ภาคล่าสุดนี้จะมีระบบเนื้อเรื่องหรือ Campaign ที่หายไปในภาค Black Ops 4 อีกครั้ง โดยจะนำงบประมาณสำหรับการขยายทีมนี้มาจากการยกเลิกโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จตามความคาดหวัง และการลดรายจ่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมโดยตรงอีกด้วย เช่นการยกเลิกการสนับสนุนงานแข่ง Esports ของเกม Heroes of the Storm ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ค่ายจะยังคงสนับสนุนพนักงานทุกคนที่ถูกปลดออกด้วยการให้เงินค่าเลิกจ้าง รวมไปถึงการช่วยเหลือในเรื่องของสิธิประโยชน์สำหรับลูกจ้างและการจัดหางานในอนาคตอีกด้วย ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้จะส่งผลให้เราเห็นเกมดีๆ จากค่ายเพิ่มขึ้นนะ! (ขอบคุณข้อมูลจาก Polygon)

เป็นเรื่องที่งงกันหนักมาก สำหรับค่ายเกมอย่าง Activision ผู้สร้างซีรีส์ Call of Duty และ Destiny ซึ่งล่าสุดทางผู้พัฒนาเองก็พึ่งจะปล่อย Call of Duty: Black Ops 4 มาไม่นานและก็ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก แต่ล่าสุดทาง Yahoo Finance รายงานว่า หุ้นของ Activision นั้นตกลงมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนว่านักลงทันเองก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ทั้งที่ตัวเกมสามารถทำรายได้ถึง 500 ล้านดอลล่าห์ภายใน 3 วันเท่านั้น โดยมีคนคาดว่าผู้เล่นรวมกันของตัวเกม Call of Duty ในไตรมาสนี้น้อยลงกว่า 7 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งมันอาจจะมีผลบ้างไม่มากก็น้อยสำหรับนักลงทุน https://www.youtube.com/watch?v=GwTNL83DTps โดยเกม Call of Duty: Black Ops 4 เป็นเกมแนว FPS ที่ภาคนี้ได้ใส่โหมด Battle Royale เข้ามาและมีผู้ให้ความสนใจมากมายเลยทีเดียว ซึ่งตัวเกมวางจำหน่ายบนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคา 60$ ดูรายละเอียด LINK  

ของฟรีมาแล้วจ้าสำหรับเกม Destiny 2 ที่ล่าสุดทางผู้พัฒนาได้จัดแคมเปญเฉลิมฉลองตัวเกมครบ 1 ปี แจกเกม Destiny 2 ให้กับผู้เล่นฟรีๆ จนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2018 ขั้นตอนการรับง่ายๆ เพียงแค่ท่านกดเข้า LInk นี้และทำการ Login เข้าสู่ระบบท่านก็สามารถรับเกมนี้ไปเล่นได้อย่างฟรีๆ แล้ว แต่ถ้าหากใครที่กดรับไม่ได้ท่านจะต้องทำการไปเปิดใช้ระบบ SMS Protect ซะก่อนจ้า Link แต่ถ้าใครที่มีเกมอยู่แล้วท่านจะได้ Emblem ที่หาไม่ได้ที่ไหนฟรีๆ จ้า https://www.youtube.com/watch?v=hdWkpbPTpmE ใครที่รับเกมไปแล้วก็สามารถเล่นได้ถาวรเลยจ้าไม่คืนกลับแน่นอน เกมดี ขายเป็นพันบาท แต่ตอนนี้ฟรี WOWWW !! โดยเกม Destiny 2 เป็นเกมแนว FPS Action RPG จากทาง Bungie โดยเราสามารถสร้างตัวละครและเลือกคลาสต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้าสู้กับเหล่ามนุษย์ต่างดาวในจักรวาล ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu

นับว่าเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียวสำหรับ Call of Duty: Black Ops 4 เพราะตัวเกมได้ปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นเกม Multiplayer เต็มตัวพร้อมโหมด Battle Royale อย่าง Blackout ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมีรายงานว่าความนิยมของ Blackout ทำให้ภาคนี้สามารถกวาดรายได้ไปได้มากกว่า 500 ล้านเหรียญภายในเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเอง รวมถึงตัวเกมภาคนี้ทำลายสถิติชั่วโมงของผู้เล่นรวมกันภายในสามวันแรกมากกว่าเกม Call of Duty: WWII และ Call of Duty: Black Ops 3 เสียอีก https://www.youtube.com/watch?v=GwTNL83DTps โดยผู้พัฒนาได้บอกเอาไว้ว่า "จำนวนและจำนวนการเล่นของผู้เล่นเกมเรามากขึ้นทุกๆ ปี ผู้ชมเกมเราบน Twitch ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ แสดงให้เห็นว่าโหมด Blackout มีส่วนทำให้การเล่นและการรับชมมันสนุกขึ้น และสุดสัปดาห์มันเลยมีผลทำให้ Call of Duty มีความบันเทิงสูงสุดอีกครั้ง การขายในแบบดิจิตอลมันขายดีทุกแพลตฟอร์ม และมันมีประสิทธิ์ภาพโดยรวมที่แข็งแกร่งมาก เราตื่นเต้นมากสำหรับความนิยมของเกมนี้ มีอะไรอีกมากมายที่จะมาถึง ซึ่งมันพึงเริ่มต้น" https://www.youtube.com/watch?v=6kqe2ICmTxc รวมถึงในเวอร์ชั่น PC เองนั้นตัวเกม Call of Duty: Black Ops 4 มียอดผู้เล่นมากกว่าสองเกมภาคก่อนหน้าที่เปิดตัวได้ดีอย่างภาค Black Ops 3 และ WWII เสียอีก ซึ่งจากสถืติในเกมภาค WWII มีผู้เล่นใน Steam พร้อมกันสูงสุดถึง 56,174 คนในโหมดผู้เล่นหลายคน และ 19,374 คนในโหมดผู้เล่นคนเดียว แต่ในเกมภาค Black Ops 4 ก็ได้มีผู้เล่นสูงสุดมากถึง 1 แสน 5 หมื่นคนเลยทีเดียว โดยตัวเกมวางจำหน่ายในราคา 60$ บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu  pcgamesn

"ตัวอย่างที่สอง" ออกมาแล้วสำหรับโหมด Zombie ด่าน Blood of the Dead ของเกม Call of Duty: Black Ops IIII ใครที่เป็นแฟนโหมดนี้ถ้าได้ดูตัวอย่างก็จะกระตุ้นให้อยากเล่นเข้าไปอีกแน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=FyBVOEqMk4c ก็อย่างที่รู้กันว่าเกม Call of Duty นั้นก็จะมีโหมดซอมบี้เข้ามาให้เราเล่นอยู่เกือบทุกภาค และแต่ละภาคนั้นก็ทำออกมาได้ดีมากพอสมควรเลยทีเดียว และที่พิเศษคือเกมภาคนี้จะมีด่านอยู่ด้วยกัน 3 แบบ 3 สไตล์คือ IX ที่จะอยู่ใน Theme ของเล่า Gladiator ในยุคโรม, Voyage of Despair เรานั้นจะได้อยู่ในเรือ Tinanic และ Blood of the Dead ด่าน Remake จาก Mob of the Dead ใน Black Ops II โดยเกม Call of Duty: Black Ops IIII เป็นเกมแนว FPS จากทาง Activision ซึ่งในเกมภาคนี้ทางผู้พัฒนาได้ปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างกว่าภาคที่แล้วเช่นการเพิ่มระบบ Battle Royale เข้ามาครั้งแรกซึ่งได้รับคำชมเป็นอย่างมาก ระบบเนื้อเรื่องที่เป็นจุดหลักก็ยังไม่มีในช่วงแรก แต่จะเน้นในระบบ Multiplayer หลายโหมดที่คุณจะเล่นได้ไม่เบื่อ โดยตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ในราคา 59.99$ วางจำหน่ายในวันที่ 12 ตุลาคม 2018 เวอร์ชั่น PC จะเล่นผ่าน Battle.net เท่านั้น LINK ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu

ปล่อยออกมาแล้วสำหรับสเปคคอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเกม Shooting ที่น่าจับตามองในปีนี้อย่าง Call of duty: Black Ops 4 ใครที่มีคอมพิวเตอร์ที่ไม่แรงมากก็คงจะปวดขมับอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะตัวเกมก็ใช้สเปคสูงอยู่พอสมควร   สเปคขั้นต่ำ ระบบปฏิบัติการ: Windows 7 ขึ้นไป (64-bit) CPU: Intel Core i3-4340 / AMD FX-6300 RAM: 8 GB การ์ดจอ: GeForce GTX 660 2GB / G3Force GTX 1050 2GB หรือ Radeon HD 7950 2GB ขึ้นไป   สเปคแนะนำ ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 (64-bit) CPU: Intel i5-2500k / Ryzen R5 1600X RAM: 12 GB การ์ดจอ: GeForce GTX 970 4GB / GTX 1060 6GB หรือ Radeon R9 390 / AMD RX 580 ขึ้นไป   รองรับ High Refresh Rate ความละเอียด 1080p ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 (64-bit) CPU: Intel i7-8700K / AMD Ryzen 1800X RAM: 16 GB การ์ดจอ: กราฟิก GeForce GTX 1080 หรือ Radeon RX Vega 64   รองรับ 4K Ultra ระบบปฏิบัติการ: Windows 10 (64-bit) CPU: i7-8700K / AMD Ryzen 2700X RAM: 16 GB การ์ดจอ: GeForce GTX 1080Ti โดยความจุของตัวเกมจะมีเนื้อที่อยู่ที่ 55GB พร้อมทางผู้พัฒนายังได้บอกวันเวลาเปิดตัวเกมอย่างเป็นทางการด้วยคือราวๆ 11 โมงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคม 2561 (ตามเวลาไทย)

บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่ Activision ได้ออกมาประกาศรายชื่อเกมที่จะจัดแสดงในงาน E3 แล้วจ้า มากันแบบเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณเลยทีเดียว Call of Duty: Black Ops 4 (PS4, Xbox One, PC) คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากกับเกมนี้ ที่กลับมาแบบยกเครื่องเลยทีเดียว แม้ว่าเกมจะไม่มีโหมดเนื้อเรื่องให้เล่นคนเดียวอีกต่อไป แต่มาคราวนี้เกมกลับขนโหมดออนไลน์ Multiplayer อย่างโหมด Battle Royale และ Zombie มาแบบจัดเต็ม! ใครชอบเล่นเกมเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ ควรจับตาดูเกมนี้เอาไว้ให้ดีทีเดียว อ่านรายละเอียดเกมภาคใหม่ ที่นี่ Destiny 2: Forsaken (PS4, Xbox One, PC) ภาคเสริมเกม FPS จากค่ายดัง Bungie ที่ดูจะกระท่อนกระแท่นไปบ้างในช่วงหลังๆ โดยในภาคเสริมนี้จะเป็นการปรับปรุงเกมครั้งใหญ่สุดๆ เปลี่ยนระบบอาวุธของเกม รวมไปถึงเพิ่มบอสลับและโหมด PVP ที่ผสมผสานการเล่นแบบ PVE เข้าไปด้วยอย่าง Gambit คงต้องรอดูว่าภาคใหม่นี้จะดึงผู้เล่นเก่าๆ กลับมาได้อย่างที่ผู้พัฒนาหวังหรือเปล่า Spyro Reignited Trilogy (PS4, Xbox One) เกมคลาสสิคตั้งแต่สมัยรุ่น PS1 ที่กลับมากับกราฟิคที่พัฒนามาใหม่ตั้งแต่ต้น ขนมาให้เล่นกันทั้งสามภาคเลยทีเดียว! ใครอยากจะระลึกถึงประสบการณ์เล่นเกมวัยเด็กห้ามพลาด! ดูๆ ไปแล้วอาจจะไม่ได้น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษสำหรับเกมเมอร์หลายๆ คน แต่ก็อย่าลืมว่า Activision เองก็เป็นค่ายจัดจำหน่ายเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก คงไม่แปลกถ้าสุดท้ายแล้วค่ายจะมีเกมเด็ดๆ ไว้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ในงานจริงๆ เลยก็ได้เหมือนกัน ยังไงคงต้องรอติดตามกันในงาน E3 2018 ทีเดียว!