GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "ZeniMax"
Elder Scroll Online ผู้กำกับเผย เกือบได้ทำ Fallout ฉบับ MMO ก่อนที่ทาง Zenimax จะได้ IP ไป
Matt Firor นักพัฒนาเกม MMO ชั้นอาวุโส ซึ่งทำหน้าที่เป็น ผู้กำกับของเกม The Elder Scroll Online อยู่ในขณะนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ IGN เล่าถึงความชอบในซีรีสฺ์ Fallout ของเขา พร้อมเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เขาเคยเกือบหยิบมันมาทำเป็นเกม MMO ด้วย!Firor ได้พูดว่า ' มีเรื่องตลกที่ผมไม่เคยพูดออกสื่อมาก่อนคือ ในปีที่ผมกำลังพักผ่อนหลัง Mythic โดนซื้อสตูดิโอไป ผมติด Fallout มากๆ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังชอบมันอยู่ แต่ชอบน้อยกว่า Elder Scrolls นะ แต่ผมก็รัก Fallout ทุกๆ ปีผมจะเล่น Fallout 1 เสมอ อย่างน้อยซักหนึ่งครั้งในช่วงกลางปี เชื่อไหมว่าผมเคยพยายามขอสิทธิ์ในการเอา Fallout มาทำ MMO ด้วยซ้ำ ' ' ผมกำลังพูดกับคนที่ถือลิขสิทธิ์แล้วพวกเขาก็แบบ 'สุดยอด!' แถมผมยังดึงผู้จัดจำหน่ายอย่าง Brash Entertainment ที่กำลังมีชื่อเสียงในตอนมาคุยกันเรียบร้อยแล้วด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็หยุดรับสายของผมไป ต่อมาอีก 3 สัปดาห์ก็มีประกาศว่า 'Bethesda ได้สิทธิ์ในการทำเกม Fallout แล้ว!' ผมก็แบบ 'โถ่เว้ย...' โดนชิงตัดหน้าไปซะแล้ว และนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมเข้าร่วมกับ Bethesda ในเวลาต่อมา'Firor ทราบดีว่างานที่เขาจะได้รับคือการสร้างเกม Elder Scrolls Online ไม่ใช่ Fallout แต่ตัวเขาเองก็เคยพยายามยื่นเรื่องขอไปทำเกม Fallout หลังจากที่เข้ามาทำงานให้กับ Bethesda ดูซักครั้งเช่นกัน ' ผมเคยพยายามขอให้เปลี่ยนไปทำ Fallout แต่พวกเขาก็ไม่เอาด้วย และ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานั้นที่เป็นการยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ'Firor ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเข้าทำงานที่ Zenimax ด้วยว่า ' สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทาง EA ได้เข้าซื้อ Mythic ซึ่งผมเองก็ทำงานที่นั่นมานาน ผมเลือกลาออกจากที่นั่นก็เพราะผมได้เจอกับภรรยา และเธออาศัยอยู่ที่ Baltimore ผมก็คิดอยู่นานก่อนที่ผมจะตัดสินใจได้ ในตอนที่ทางสตูดิโอโดนซื้อไปผมก็เลยคิดที่จะวางมือ'' หลังจากที่ผมเกษียณตัวเองมาได้ซักปีนึง ทาง Bethesda ก็เริ่มมีแผนที่จะทำ MMO Elder Scrolls และกำลังหาคนในอุตสาหกรรมเกมมาทำเกมนี้ ในตอนนั้น Todd Howard ก็พูดว่า 'ทำไมเราไม่ถาม Matt ดูล่ะ? เขาอยู่ใกล้ๆ นี่เอง' พวกเขาก็เลยโทรหาผม เป็นอะไรที่ถูกจังหวะ, ถูกเวลา และ ผมคิดมันดีแล้วที่บริษัทนี้เป็นคนถือลิขสิทธิ์'เครดิต: https://www.ign.com/articles/eso-director-almost-made-a-fallout-mmo-before-zenimax-acquired-ip
17 Jun 2021
Valve และ Publishers หลายเจ้าถูกปรับรวม €7.8 ล้าน จาก EU ประเด็น "ปิดกั้นทางภูมิศาสตร์" ในการซื้อเกม PC
สหภาพยุโรปได้ทำการปรับเงิน Valve และ Publishers ชื่อดัง 5 เจ้าได้แก้ Bandai Namco, Capcom, Focus Home, Koch Media และ ZeniMax (Bethesda) ในข้อหา "ปิดกั้นผู้เล่นทางภูมิศาสตร์" เวลาจะซื้อเกม PC ผ่าน Steam ซึ่งสรุปให้เขาใจง่ายว่า ผู้เล่นในแต่ละประเทศจะต้องทำการซื้อเกมตามราคาที่กำหนดในประเทศตัวเองเท่านั้น (โดยสำหรับบางประเทศหากซื้อเกมเดียวกันจากประเทศอื่นใน EU จะทำให้ได้มาในราคาที่ถูกกว่า) ซึ่งละเมิดกฎหมายการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป Publishers ถูกปรับรวมกันเป็นเงิน €6.2 ล้าน ในขณะที่เจ้าของ Steam อย่าง Valve ที่ไม่ให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกถูกปรับเป็นเงิน €1.6 ล้าน รวมเป็น €7.8 ล้าน (ประมาณ 283 ล้านบาท) โดยมีข้อความจากสหภาพยุโรปว่า "การลงโทษปรับเงินในครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้มีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายการแข่งขันของสหภาพยุโรปห้ามมิให้ บริษัท ต่างๆ จำกัด การขายข้ามพรมแดน" ซึ่งรองประธานบริหารด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรปกล่าวว่า "การกระทำของทั้ง 5 บริษัท และ Valve เป็นการกีดกันผู้บริโภคในยุโรปจากผลประโยชน์ของ EU Digital Single Market และโอกาสในการจับจ่ายเพื่อรับข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุดในสหภาพยุโรป” ครับ จริงๆ แล้วการจำกัด และ "ปิดกั้นผู้เล่นทางภูมิศาสตร์" ดูเป็นผลเสียต่อเหล่าผู้เล่นจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจะปิดกั้น ก็ควรทำให้ราคาเกมของทั้งโลกเท่ากันทั้งหมดแบบ Real Time หรือเปลี่ยนแปลงตามค่าเงินในแต่ละวันไปเลย จะเป็นอะไรที่แฟร์มากที่สุดครับ Credit: Kotaku
21 Jan 2021
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "ZeniMax"
Elder Scroll Online ผู้กำกับเผย เกือบได้ทำ Fallout ฉบับ MMO ก่อนที่ทาง Zenimax จะได้ IP ไป
Matt Firor นักพัฒนาเกม MMO ชั้นอาวุโส ซึ่งทำหน้าที่เป็น ผู้กำกับของเกม The Elder Scroll Online อยู่ในขณะนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ IGN เล่าถึงความชอบในซีรีสฺ์ Fallout ของเขา พร้อมเปิดเผยว่า ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว เขาเคยเกือบหยิบมันมาทำเป็นเกม MMO ด้วย!Firor ได้พูดว่า ' มีเรื่องตลกที่ผมไม่เคยพูดออกสื่อมาก่อนคือ ในปีที่ผมกำลังพักผ่อนหลัง Mythic โดนซื้อสตูดิโอไป ผมติด Fallout มากๆ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังชอบมันอยู่ แต่ชอบน้อยกว่า Elder Scrolls นะ แต่ผมก็รัก Fallout ทุกๆ ปีผมจะเล่น Fallout 1 เสมอ อย่างน้อยซักหนึ่งครั้งในช่วงกลางปี เชื่อไหมว่าผมเคยพยายามขอสิทธิ์ในการเอา Fallout มาทำ MMO ด้วยซ้ำ ' ' ผมกำลังพูดกับคนที่ถือลิขสิทธิ์แล้วพวกเขาก็แบบ 'สุดยอด!' แถมผมยังดึงผู้จัดจำหน่ายอย่าง Brash Entertainment ที่กำลังมีชื่อเสียงในตอนมาคุยกันเรียบร้อยแล้วด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็หยุดรับสายของผมไป ต่อมาอีก 3 สัปดาห์ก็มีประกาศว่า 'Bethesda ได้สิทธิ์ในการทำเกม Fallout แล้ว!' ผมก็แบบ 'โถ่เว้ย...' โดนชิงตัดหน้าไปซะแล้ว และนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผมเข้าร่วมกับ Bethesda ในเวลาต่อมา'Firor ทราบดีว่างานที่เขาจะได้รับคือการสร้างเกม Elder Scrolls Online ไม่ใช่ Fallout แต่ตัวเขาเองก็เคยพยายามยื่นเรื่องขอไปทำเกม Fallout หลังจากที่เข้ามาทำงานให้กับ Bethesda ดูซักครั้งเช่นกัน ' ผมเคยพยายามขอให้เปลี่ยนไปทำ Fallout แต่พวกเขาก็ไม่เอาด้วย และ มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานั้นที่เป็นการยืนยันว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ'Firor ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ทำให้เขาเข้าทำงานที่ Zenimax ด้วยว่า ' สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทาง EA ได้เข้าซื้อ Mythic ซึ่งผมเองก็ทำงานที่นั่นมานาน ผมเลือกลาออกจากที่นั่นก็เพราะผมได้เจอกับภรรยา และเธออาศัยอยู่ที่ Baltimore ผมก็คิดอยู่นานก่อนที่ผมจะตัดสินใจได้ ในตอนที่ทางสตูดิโอโดนซื้อไปผมก็เลยคิดที่จะวางมือ'' หลังจากที่ผมเกษียณตัวเองมาได้ซักปีนึง ทาง Bethesda ก็เริ่มมีแผนที่จะทำ MMO Elder Scrolls และกำลังหาคนในอุตสาหกรรมเกมมาทำเกมนี้ ในตอนนั้น Todd Howard ก็พูดว่า 'ทำไมเราไม่ถาม Matt ดูล่ะ? เขาอยู่ใกล้ๆ นี่เอง' พวกเขาก็เลยโทรหาผม เป็นอะไรที่ถูกจังหวะ, ถูกเวลา และ ผมคิดมันดีแล้วที่บริษัทนี้เป็นคนถือลิขสิทธิ์'เครดิต: https://www.ign.com/articles/eso-director-almost-made-a-fallout-mmo-before-zenimax-acquired-ip
17 Jun 2021
Valve และ Publishers หลายเจ้าถูกปรับรวม €7.8 ล้าน จาก EU ประเด็น "ปิดกั้นทางภูมิศาสตร์" ในการซื้อเกม PC
สหภาพยุโรปได้ทำการปรับเงิน Valve และ Publishers ชื่อดัง 5 เจ้าได้แก้ Bandai Namco, Capcom, Focus Home, Koch Media และ ZeniMax (Bethesda) ในข้อหา "ปิดกั้นผู้เล่นทางภูมิศาสตร์" เวลาจะซื้อเกม PC ผ่าน Steam ซึ่งสรุปให้เขาใจง่ายว่า ผู้เล่นในแต่ละประเทศจะต้องทำการซื้อเกมตามราคาที่กำหนดในประเทศตัวเองเท่านั้น (โดยสำหรับบางประเทศหากซื้อเกมเดียวกันจากประเทศอื่นใน EU จะทำให้ได้มาในราคาที่ถูกกว่า) ซึ่งละเมิดกฎหมายการต่อต้านการผูกขาดของสหภาพยุโรป Publishers ถูกปรับรวมกันเป็นเงิน €6.2 ล้าน ในขณะที่เจ้าของ Steam อย่าง Valve ที่ไม่ให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกถูกปรับเป็นเงิน €1.6 ล้าน รวมเป็น €7.8 ล้าน (ประมาณ 283 ล้านบาท) โดยมีข้อความจากสหภาพยุโรปว่า "การลงโทษปรับเงินในครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้มีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายการแข่งขันของสหภาพยุโรปห้ามมิให้ บริษัท ต่างๆ จำกัด การขายข้ามพรมแดน" ซึ่งรองประธานบริหารด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรปกล่าวว่า "การกระทำของทั้ง 5 บริษัท และ Valve เป็นการกีดกันผู้บริโภคในยุโรปจากผลประโยชน์ของ EU Digital Single Market และโอกาสในการจับจ่ายเพื่อรับข้อเสนอที่เหมาะสมที่สุดในสหภาพยุโรป” ครับ จริงๆ แล้วการจำกัด และ "ปิดกั้นผู้เล่นทางภูมิศาสตร์" ดูเป็นผลเสียต่อเหล่าผู้เล่นจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าจะปิดกั้น ก็ควรทำให้ราคาเกมของทั้งโลกเท่ากันทั้งหมดแบบ Real Time หรือเปลี่ยนแปลงตามค่าเงินในแต่ละวันไปเลย จะเป็นอะไรที่แฟร์มากที่สุดครับ Credit: Kotaku
21 Jan 2021