GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Warcraft"
อดีตพนักงาน Blizzard ชี้ Warcraft 4 กำลังจะเกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์
David Fried อดีตพนักงานของ Blizzard ผู้เคยนั่งตำแหน่งผู้นำการออกแบบแคมเปญของเกม Warcraft 3 ทั้งยังเคยมีส่วนร่วมใน World of Warcraft ได้ออกมาถ่ายทอดสอบพร้อมนั่งถาม-ตอบ ระหว่างแฟน ๆ เกมของค่าย Blizzard เกี่ยวกับเรื่องราวในอนาคตซึ่งในช่วงที่ Activision Blizzard กำลังประสบปัญหานั้น ไม่ได้มีแค่ Fried คนเดียวที่ลาออก แต่มีพนักงานที่เคยอยู่ทำงานกับ Blizzard มานานนมได้แห่กันลาออกตาม ๆ กันไปด้วย ทว่าท่ามกลางการลาออกเหล่านั้น ได้มีพนักงานบางส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบตัวเกม Warcraft 3 ยังคงกัดฟันสู้อยู่ นั่นคือ Samwise Didier ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Blizzard นั่นเองซึ่งทาง Fried ได้กล่าวว่า Didier เกือบได้ทำเกม Warcraft 4 แล้ว เพียงแต่เกิดการเข้าซื้อกิจการของทาง Microsoft เข้าเสียก่อนทั้งนี้หากการเข้าซื้อกิจการจบลง Didier น่าจะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมโปรเจกต์ Warcraft 4 อีกครั้ง นอกจากนี้ทาง Fried ยังกล่าวหยอกล้อไปว่า หาก Didier มาชวนเขาทำ Warcraft 4 ล่ะก็ เขาคงตอบรับไปทันที ไม่รีรอเลย และหวังว่า Chris Metzen บิดาแห่ง Warcraft ก็จะตอบรับงานนี้เหมือนกันกับผมนะดูท่าว่า Fried จะค่อนข้างเชื่อมั่นในตัว Microsoft ถึงการนำสิ่งดี ๆ และสิ่งใหม่ ๆ มาให้ Blizzard ระดับหนึ่งเลยทีเดียวทั้งนี้เรายังต้องรอดูกันต่อไปถึงการประากาศตัวเกม Warcraft 4 ว่าจะมาจริงดั่งคำกล่าวของอดีตพนักงานคนนี้หรือไม่แหล่งข้อมูล: gamerant
15 Feb 2022
เปิดตัว World of Warcraft Chain of Domination พบกับเนื้อเรื่องต่อ / Raid ใหม่
World of Warcraft ประกาศเปิดตัว Chain of Domination ซึ่งจะเป็นอัปเดตตัวที่สองของ Shadowlands ซึ่งภายในส่วนเสริมนี้จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องเพิ่มเติมทางฝั่งของ Jailer, Sylvanas รวมถึง Anduin Chain of Domination ยังมาพร้อมกับอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่ม Region ใหม่ให้เหล่าผู้เล่นได้เข้าสำรวจ และ Raid ระดับบอส 10 ตัว และ Raid ระดับบอส 8 ตัวใหม่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งหมายความว่าจะมีอาวุธ รวมถึงชุดเกราะแบบใหม่ให้เพื่อนๆ ได้หากันอีกครั้ง และแน่นอนว่ามีของรางวัลใหม่, สัตว์ขี่ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นในอัปเดตนี้ คือการปรับสมดุลระหว่างอาชีพ, และการเริ่มบินได้ในโซนแรกของ Shadowlands โดยจะส่งผลให้สามารถทำเควสเนื้อเรื่อง รวมถึงเควสเสริมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รับชมวิดีโอเปิดตัว รวมถึงวิดีโอข้อมูลอัปเดตได้ข้างล่างนี้ครับ
20 Feb 2021
เปิดตัว World of Warcraft Chain of Domination พบกับเนื้อเรื่องต่อ / Raid ใหม่
World of Warcraft ประกาศเปิดตัว Chain of Domination ซึ่งจะเป็นอัปเดตตัวที่สองของ Shadowlands ซึ่งภายในส่วนเสริมนี้จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องเพิ่มเติมทางฝั่งของ Jailer, Sylvanas รวมถึง Anduin Chain of Domination ยังมาพร้อมกับอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่ม Region ใหม่ให้เหล่าผู้เล่นได้เข้าสำรวจ และ Raid ระดับบอส 10 ตัว และ Raid ระดับบอส 8 ตัวใหม่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งหมายความว่าจะมีอาวุธ รวมถึงชุดเกราะแบบใหม่ให้เพื่อนๆ ได้หากันอีกครั้ง และแน่นอนว่ามีของรางวัลใหม่, สัตว์ขี่ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นในอัปเดตนี้ คือการปรับสมดุลระหว่างอาชีพ, และการเริ่มบินได้ในโซนแรกของ Shadowlands โดยจะส่งผลให้สามารถทำเควสเนื้อเรื่อง รวมถึงเควสเสริมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รับชมวิดีโอเปิดตัว รวมถึงวิดีโอข้อมูลอัปเดตได้ข้างล่างนี้ครับ
20 Feb 2021
Blizzard ยืนยัน !! มีเกมมือถือจาก Warcraft หลายเกม แถมเปิดให้เล่นฟรีไม่เสียเงิน
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าทาง Blizzard นั้นกำลังซุ่มทำเกมมือถือจากซีรีส์ World of Warcraft อยู่ และล่าสุดมีการยืนยันออกมาแล้วจากทางคุณ Bobby Kotick ซีอีโอของทางบริษัทโดยตรง ว่าเกมมือถือจากซีรีส์นี้จะมีหลายตัวและจะเปิดให้เล่นกันแบบฟรีๆ แน่นอน ในระหว่างการคุยเรื่องรายได้ทางการเงินครั้งล่าสุด ทางคุณ Kotick ได้พูดคุยกับเหล่านักลงทุนและพูดถึงแผนการที่จะขยายแฟรนไชส์ Warcraft ด้วยการปล่อยเนื้อหาระดับเกรดพรีเมียมที่บ่อยขึ้น "ในแฟรนไชส์ Warcraft ของเรา เราตั้งใจที่จะเผยเนื้อหาพรีเมียมที่บ่อยขึ้น เพื่อรักษาและขยายชุมชนของเกม World of Warcraft และเราก็ได้ทำเกมมือถือจากซีรีส์นี้พร้อมมอบประสบการณ์แบบ Free-to-Play ซึ่งนักพัฒนากำลังทำงานกันเต็มที่" รวมถึงยังมีข่าวว่าทาง Blizzard เองก็อาจจะมีแผนในการเปิดให้บริการเกม Diablo Immortal ในปี 2021 นี้อีกด้วย
05 Feb 2021
รายงานเผย Blizzard ได้ยุบทีมพัฒนา Warcraft 3: Reforged ไปแล้วช่วงปลายปี 2020
ในช่วงปี 2020 คงต้องยอมรับว่า Warcraft 3: Reforged ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังมากที่สุดของปีเลยจริงๆ ในช่วงนั้นเรียกได้ว่าเกิดดราม่าใหญ่โตมากๆ (สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถเข้าไปอ่านได้ในลิงก์นี้ครับ) ซึ่งผลจากการเปิดตัวอย่างเลวร้าย เลยทำให้ Team 1 (พัฒนา StarCraft 2, Heroes of the Storm, และ StarCraft Remastered) ซึ่งรับผิดชอบต้องถูกยุบทีมไปช่วงปลายปี 2020 จากรายงานของ Jason Schreier ดูเหมือนจริงๆ แล้วทีมนี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ Diablo 2 Remake (ปัจจุบันส่งต่อให้ทีม Diablo 4 แล้ว) แต่ด้วยความที่การพัฒนา Warcraft 3: Reforged มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผิดพลาด, การจัดการที่ผิดพลาด กับการเปิดตัวที่เร่งรีบเนื่องจากแรงกดดันทางการเงิน แถมตัวเกมยังเปิดให้ Pre-Orders โดยไม่ถามความเห็นจากผู้พัฒนาเลย จึงทำให้สุดท้ายเกมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในเดือน ตุลาคม ปี 2020 Blizzard ก็ได้ยุบทีม 1 รวมถึงทำการรื้อแผนกทั้งหมดครับ ผู้พัฒนาหลายคนภายในทีมได้โอกาสในการเข้าสัมภาษณ์ในตำแหน่งอื่นๆ ภายในบริษัท แต่ก็มีนักพัฒนาหลายคนที่เลือกจะไปเข้าร่วมกับ Dream Haven หรือไม่ก็ Frost Giant ซึ่งมีนักพัฒนารุ่นเก่าจาก Blizzard อยู่มากมาย ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า การออกไปอยู่กับบริษัทอื่นอาจทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้มากกว่าจริงครับ อย่างไรก็ตาม การยุบทีมในครั้งนี้อาจหมายความว่า Blizzard จะไม่ทำเกมแนว RTS ออกมาอีกแล้วหลังจากนี้ด้วย เนื่องจาก Team 1 คือผู้รับผิดชอบเกมแนวนี้ทั้งหมดมาหลายปีแล้ว แต่ไม่แน่ว่าอาจจะมีการตั้งทีมใหม่ขึ้นมารับผิดชอบทางฝั่งนี้เช่นกัน เนื่องจากทางค่ายยังจำเป็นต้องอัปเดต Warcraft 3: Reforged อยู่เรื่อยๆ หลังจากนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
25 Jan 2021
FF14 ร่วมแสดงความยินดีกับ WOW กับการมาของ Shadowlands ผ่าน Twitter
การเป็นเกมคู่แข่งในตลาดเดียวกันไม่จำเป็นต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันเสมอไป บางครั้งการแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเมื่อพวกเขาทำอะไรบางอย่างสำเร็จ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มาจากอีกเกมได้เช่นกัน เหมือนที่ Final Fantasy 14 ร่วมแสดงความยินดีกับการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands ของ World of Warcraft ครับ Final Fantasy 14 ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองพร้อมแท็ก World of Warcraft ด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด" (Expansion ล่าสุดของ FF14 มีชื่อว่า "Shadowbringers") และข้อความสั้นที่แสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยกับการวางจำหน่าย Shadowlands อย่างเป็นทางการ" ซึ่งข้อความนี้ดูจะทำให้แฟนๆ จากทั้งสองเกมดูมีความสุขกันมากๆ เนื่องจากมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 เกมจะมี Collaboration ร่วมกันเร็วๆ นี้ครับ! Welcome to the Shadows, @Warcraft. Happy #Shadowlands launch! pic.twitter.com/0aj7EXxFrf — FINAL FANTASY XIV (@FF_XIV_EN) November 23, 2020 ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีแฟนเกมหลายคนเลยที่เรียกร้องให้ทั้งสองมี Crossover หรือ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่จากแฟน WOW ดูพวกเขาจะอยากได้นก Chocobo ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ FF มากๆ ในเกม WOW โดยตอนนี้ยังไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาจาก Twitter ของทาง WOW ต้องรอดูต่อไปว่าทั้งสองจะมีกิจกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคตหรือไม่ครับ! Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PC ส่วน World of Warcraft ก็วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: GameRant
25 Nov 2020
เกมเมอร์สุดโหด! ผ่านดันเจี้ยนในเกม World of Warcraft ได้โดยใช้เปียโน
ทุกคนเคยเล่นเกม World of Warcraft (WOW) ไหมครับ? WOW เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่มีผู้เล่นมากที่สุดของโลก โดยจุดขึ้นชื่อของเกมนี้ก็การลงดันเจี้ยน ที่มีความยาก และจำเป็นต้องใช้ความชำนาญในการเล่นที่สูง ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะมาคนเล่นเกมนี้ผ่านดันเจี้ยนได้ โดยใช้เปียโนเป็น Controller ครับ! จากประสบการณ์ส่วนตัว การเล่นเกมนี้จำเป็นต้องเดิน และกดสกิลให้ถูกจังหวะในแต่ละเวลา ซึ่งมันจะเป็นเรื่องยากมาก ถ้าหากจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการกดปุ่ม แต่เกมเมอร์ผู้มีความสามารถทำอะไรที่มันสุดยอดกว่านั้น เขาได้นำเปียโนมาทำเป็น Controller แถมยังใช้ลงดันเจี้ยนในเกมจนผ่านได้ด้วย! เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อครับ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ World of Warcraft วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit: GameRant
10 Nov 2020
World of Warcraft: Shadowlands ประกาศเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด
World of Warcraft นับเป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่มีอายุเยอะอันดับต้นๆ ของโลก และจนถึงตอนนี้ตัวเกมก็ยังคงได้รับความนิยมจากเหล่าผู้เล่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ดังนั้นการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands จึงเป็นอะไรที่ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่ล่าสุดก็มีข่าวที่น่าเสียใจครับ เพราะทาง Blizzard ออกมาประกาศแล้วว่า จำเป็นต้องเลื่อนวันอัปเดต Shadowlands ออกไปแบบไม่มีกำหนดในตอนนี้ครับ! แรกเริ่มเดิมที่ Shadowlands มีกำหนดจะอัปเดตเข้ามาในเกมวันที่ 27 ตุลาคม 2020 นี้ แต่จากความคิดเห็นของผู้เล่นในช่วงทดลองหลายเดือนที่ผ่านมา มันเลยทำให้ผู้พัฒนารู้ว่าพวกเขายังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อพัฒนา ส่วนเสริ่มใหม่นี้ให้สมบูรณ์ ดังนั้นจึงต้องมีการเลื่อนวันอัปเดตออกนั้นเอง อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า วันอัปเดตใหม่จะเป็นช่วงไหน แต่จะมาในปีนี้อย่างแน่นอนครับ! World of Warcraft: Shadowlands จะอัปเดตเข้าเกมในช่วงปลายปีนี้ Credit: IGN
02 Oct 2020
World of Warcraft: Shadowlands ปล่อยวิดีโอโชว์ดินแดน Bastion และเรื่องราวหลังความตายของ Uther
ในงาน Gamescom 2020 ได้มีการเปิดตัววิดีโอใหม่จากทาง Blizzard เกียวกับ Expansion ใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในเกม World of Warcraft ซึ่ง วิดีโอดังกล่าวเป็นการกล่าวถึงดินแดนที่ชื่อว่า Bastion แต่ที่น่าสนใจไม่ใช่ตรงนั้นครับ เพราะในวิดีโอตัวนี้ได้มีการนำพาลาดินในตำนานอย่าง Uther กับอดีต Lich King อาทัส กลับมาด้วย! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวถึง 6.51 นาที โดยเป็นเรื่องราวหลังความตายของอูเธอร์ ซึ่งเรื่องราวจะกล่าวถึงการกลายเป็น Aspirant ของเขา หากแต่การเป็น Aspirant หมายถึงเขาต้องละทิ้งชีวิตเก่าไป ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขามาก หลังจากที่ต้องสูญเสียทุกอย่างไปด้วยฝีมือของลูกศิษย์ที่ตนรัก ซึ่งในช่วงท้ายของวิดีโอจะมีการพูดถึง อาทัส หรืออดีต Lich King ด้วย ไม่แน่ว่าเขาทั้ง 2 อาจจะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งใน Expansion นี้ด้วยก็เป็นได้ครับ World of Warcraft: Shadowlands จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ตุลาคม 2020 นี้ครับ
27 Aug 2020
อีเวนต์ใหม่เกม World of Warcraft จะให้ปกป้องเมือง Azeroth จากซอมบี้
เกมแนว MMORG ฟอร์มยักษ์อย่าง World of Warcraft: Shadowlands ได้มีการเปิดเผยอีเวนต์ใหม่ที่กำลังเข้าตัวเกมจริงบน เทสเซิฟเวอร์ เพื่อทดสอบความสเถียรของระบบ ซึ่งดูเหมือนว่าอีเวนต์นี้จะให้ผู้เล่นปกป้องเมือง Azeroth จากฝูงซอมบี้ที่มาบุกเมืองหลวงของ Azeroth ค่ะ !! ทาง Blizzard ได้ปล่อยแพทช์ใหม่ให้สามารถเข้าไปทดลองเล่นบนเทสเซิฟเวอร์ได้แล้วตอนนี้ การอัปเดตในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มอีเวนต์ซอมบี้เข้ามาเท่านั้น แต่ยังเพิ่มระดับเลเวลจากเดิมที่สูงสุดที่ 50 ขยายเพิ่มเป็นที่ 60 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่สุดมันส์ให้ผู้เล่นอีกครั้ง บนเว็บไซต์ Reddit ได้มีผู้เล่นได้โพสต์วิดีโอว่าตนเองค้นพบว่ามีเหล่าซอมบี้ระบาดไปถึงนอกเมืองด้วยกัน ถือว่าตัวเกมทำการจำลองสถานะการณ์การแพร่ระบาดของพวกซอมบี้ที่เราได้เห็นในหนังออกมาในเกมได้ดีเลยทีเดียว เพราะเหล่า NPC ก็สามารถถูกกัด และกลายเป็นซอมบี้ได้เช่นกัน So this was about...An hour after people discovered this? The results were hilarious. from r/wow ซึ่งรายละเอียดของวันที่จะอัปเดตตัวเกมยังไม่มีออกมาอย่างชัดเจนแต่คาดว่าเร็วๆ นี้อาจจะได้เห็นประกาศอย่างเป็นทางการของทาง Blizzard  แน่นอนค่ะ Credit: Pcgamer  
13 Aug 2020
ผู้เล่น WoW นับพันเข้าร่วมไว้อาลัยให้กับ Reckful
ผู้เล่น World of Warcraft หลายพันคน รวมตัวกันในเกมเนื่องจากพวกเขาเสียใจกับการจากไปของ Reckful หนึ่งในสตรีมเมอร์ชาวอิสราเอลชื่อดังบนแพลตฟอร์ม Twitch ผู้เล่นทั่วทุกเซิฟเวอร์จะเข้าไปที่ Stormwind Cathedral (สถานที่ในเกม) เพื่อคุกเข่า และลำลึกถึงการจากไปของ Reckful  ภายในเกมมีจำนวนผู้เล่นเข้าเซิฟเวอร์จำนวนมาก และจะไปรวมตัวกันที่ Stormwind Cathedral เพื่อไว้อาลัยอย่างหนาแน่น สาเหตุของเรื่องน่าเศร้าในครั้งนี้เกิดขึ้นจาก Reckful ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงด้วยการฆ่าตัวตายจากคำให้การณ์ของเพื่อนเขา ทราบว่าเขามีอาการป่วยทางจิต ในโรคซึมเศร้า โดยก่อนที่เขาจะเสียชีวิตได้กล่าวลาถึงคนที่คอยสนับสนุนเขารวมถึงกลุ่มของผู้รับชม Twitch ด้วย The WoW community is coming together across many servers to hold in-game memorials for Reckful and mourn the loss of a legend:https://t.co/bNtZRh1Q5k pic.twitter.com/xBp1jIPW97 — Wowhead (@Wowhead) July 2, 2020 ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของสื่อในโลกออนไลน์ที่เราพบเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ ทางเราจึงขอร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของ Reckful ในครั้งนี้ด้วย Credit: Pcgamer
03 Jul 2020
10 เกมที่กลับมาได้หลังจากการเปิดตัวที่ย่ำแย่
เกมบางเกมสร้างขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก บางเกมค่อยๆ ดังตามกาลเวลา แต่มีเกมอีกประเภทหนึ่งครับที่เปิดตัวปุ๊ปเจอปัญหาเพียบ และถูกผู้เล่นวิจารณ์กันในด้านแย่ๆ แต่เชื่อมั้ยครับเกมเหล่านั้นได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรับปรุงแก้ไข จนทำให้มันกลับมาผงาดในโลกของวงการเกม ซึ่งเรามาดูกันครับว่าจะมีเกมอะไรบ้างที่เปิดตัวได้ย่ำแย่แต่ก็กู้ฐานแฟนคลับและแสดงสปริตของนักพัฒนากลับมาได้! Final Fantasy XIV Final Fantasy XIV เป็นอีกหนึ่งเกมที่จะเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาถึงความผิดพลาดที่บริษัท Square Enix เคยสร้างเกมซีรี่ส์นี้ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรกที่ออกมาในปี 2010 นั้น เกมนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบเป็นวงกว้างทั้งจากนักวิจารณ์และเหล่าเกมเมอร์ มากขนาดที่บริษัทยอมเลื่อนวันจ่ายค่าบริการรายเดือนสำหรับสมาชิกเกมนี้ออกไปและยังทำการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในเกม เช่น ปัญหาของเพลง ระบบการต่อสู้ ระบบอื่นๆ อีกมาก แต่สุดท้ายแล้วทีมพัฒนาจึงคิดได้ว่าปัญหาต่างๆ นั้นมันไม่ได้อยู่ที่ปลายเหตุ แต่อยู่ที่ต้นเหตุพวกเขาจึงโละทุกอย่าง เริ่มทำโครงการนี้และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จนกระทั่ง 3 ปีต่อมาครับ พวกเขาได้กลับมาโดยมีการใส่ชื่อเพิ่มมาว่า "A Realm Reborn" แต่ผลก็คือมันดีเกินคาดมากๆ Square Enix ได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อเกมเมอร์ และผู้กำกับผู้อำนวยการอย่าง Naoki Yoshida ก็กลายเป็นตำนาน. World of Warcraft ในหัวข้อนี้ถือเป็นข้อที่หลายๆ คนมักจะบอกได้เต็มปากว่า ค่าย Blizzard มักจะทำให้เกมของพวกเขามีปัญหาบ่อยในช่วงเปิดตัว แต่พวกเขาก็เก่งในเรื่องก้ไขใส่ใจกับเกมเมอร์ทุกคน อย่างเกม“ World of Warcraft” เกมที่เปิดตัวในปี 2004 และมาด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ที่รับผู้เล่นไม่ไหวถูกดีดออกกันเกือบครึ่ง เกมเพลย์ที่ดูจะล้าสมัย หรือการถูกดีดออกจากเกมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสำหรับประสบการณ์เรื่องปัญหาเหล่านี้ ผมขอชมเลยว่า ค่าย Blizzard มีภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถรับมือกับปัญหาเหล้านั้นได้ โดยพวกเขาได้ทำการปรับปรุงแก้ไขทุกอย่างจนเกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งยังเป็นจุดกำเนิด ต้นกำเนิดของเกมดังหลายๆ เกมอีกด้วย หลักฐานยืนยันก็คือมีผู้ลงทะเบียนเกือบ สิบล้านคนในปี 2009 และไปแตะยอดนึ่งร้อยล้านคนในปี 2014. Warframe Warframe เป็นเกมที่เปิดตัวในปี 2013 ซึ่งตัวเกมก็ไม่ได้ดังมากในช่วงนั้นครับ ทั้งยังได้รับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์และผู้เล่นจำนวนมาก ในตอนนั้นผมก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปเล่นครับตัวเกมจะไม่ได้มีความหลากหลายอะไรมาก เพียงแค่เราเลือกดาว เลือกด่านและจอยเข้าไปเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ สูงสุด 4 คนหน้าที่หลักๆ ก็คือกำจัดศัตรูและไปให้ถึงจุดหมายของเกม มันมีเท่านี้จริงๆ ครับในช่วงนั้น แต่พอเวลาผ่านไปผมกลับเข้าไปเล่นอีกครั้ง สิ่งที่ตกใจคือเกมมีอะไรที่เพิ่มเข้ามาเยอะมาทั้งระบบ PVP ระบบสู้ BOSS หรือดาวที่สามารถลงไปเพื่อพบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ ซึ่งล่าสุดด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งการโฆษณาและงานคุณภาพของเกมทำให้ในปี 2019 Warframe กลายเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมบน Steam และมีผู้เล่นมากถึงห้าสิบล้านคน! No Mans Sky เรียกได้ว่าในช่วงนั้นตัวอย่างการเปิดตัวของเกม No Mans Sky นั้นสร้างความผิดหวังให้กับเหล่าเกมเมอร์มากๆ หลังจากเกมวางจำหน่าย เพราะเกมนี้มีแต่โฆษณาที่เกินจริง สิ่งที่ขาดๆ เกินๆ มากมาย เช่น ไม่มีระบบออนไลน์แต่ตัวอย่างเหมือนจะมีระบบนั้น บั๊คเกมมหาศาล ระบบเกมที่ซ้ำๆ จำเจ ทำให้ช่วงนั้นกระแสด้านลบคะแนนใน Steam ลดลงเรื่อยๆ แต่แล้วผู้พัฒนาก็ไม่ยอมแพ้ครับ พวกเขาพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเช่น ใส่ระบบออนไลน์ ปรับปรุงเกมเพลย์ ยังมีการอัพเดทลูกเล่นต่างๆ อีกมากมาย ล่าสุดได้มีการรองรับระบบ VR ด้วยครับ บอกเลยว่าถึงแม้พวกเขาจะโฆษณาเกินจริงในช่วงแรก แต่ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนเป็นใช้คำว่าดีเกินกว่าที่โฆษณาไว้! Star Wars Battlefront II ทุกคนน่าจะรู้จักกับคนว่า Free To Win / Pay To Win ใช่มั้ยครับซึ่งผมจะสรุปดราม่าของเกมนี้ให้สั้นๆ นะครับคือเกมนี้นอกจากเราจะต้องเสียเงินเพื่อเข้าไปเล่นเกมแล้ว ซึ่งมันก็ดูน่าจะเป็น Free To Win แต่เกมดังมีระบบสุ่มกล้องในเกมอีก! จนทำให้ผู้เล่นรวมตัวกันกล่าวหาเกมในแง่ลบในจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้ส่งผลหนักไปถึงค่ายเจ้าของภาพยนต์ การเมืองเรื่องการออกกฏหมายจะห้ามมีการซื้อขายในเกม ( ในกรณีเราซื้อเกมมาแล้ว! ) จนในปัจจุบันทาง EA ก็น้อมรับคำติเหล่านั้นและปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างเช่น ระบบ Lootbox จะเป็นเพียงไว้สุ่มของตกแต่งเท่านั้น และปล่อยให้มีการอัพเดทฟรี! Halo: The Master Chief Collection ชุดเกม Halo ภาค1-4 นี้มีปัญหาที่หนักมากๆ ในช่วงแรกคือ การเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรเลยและหลุดบ่อยมาก การจับคู่หาทีมก็ช้ามากๆ จนทำให้ทาง Microsoft  ต้องมาไถ่โทษลูกค้าด้วยการให้ Xbox Live Gold ฟรีหนึ่งเดือน และแถม DLC อย่าง Halo 3: ODST มาให้ฟรีๆ และหลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามแก้ปัญหาการเชื่อมต่อจนสำเร็จและผู้เล่นก็กลับมาเล่นกันอย่างหนาแน่น ล่าสุดพวกเขาก็ทำการแฟลตข้ามไปยังร้านค้าอย่าง Steam  ( อย่าลืมนะครับว่าบางเกมพี่ Microsoft เขาจะวางขายแค่ร้านของพวกเขาเท่านั้น ) ที่สำคัญพวกเขาใส่ Halo Reach เข้าไปในคอลเลกชั่นอีกด้วย. Street Fighter V การสร้าง Street Fighter V ในช่วงนั้นเรียกได้ว่ามีความคาดหวังจากแฟนๆ ที่สูงมากครับ แต่ด้วยความกดดันและรีบร้อนในการทำเกมทำให้ช่วงแรกเกมทำออกมาได้ไม่ได้ ตัวเกมเหมือนจะขาดเนื้อหาของโหมดเนื้อเรื่องมากพอสมควร ไหนจะเซิร์ฟชอบมีปัญหาอีกและ DLC ที่ราคาแพงเกินไป สิ่งนี้ทำให้ผู้ผลิตเกมอย่าง Yoshinori Ono ออกมายอมรับถึงเกมนี้ว่ามันไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาไม่ใช่เพียงออกมายอมรับ พวกเขายังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาของเกมในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มโหมดเนื้อเรื่องให้มากขึ้น และใส่ตัวละครใหม่ๆ เข้ามา จนได้เปิดตัวภาค “Arcade Edition” ออกมาให้เราเห็นกันครับ. Sea of Thieves อีกเกมที่ไม่น่าจะทำออกมาพลาดได้อย่างเกม Sea of Thieves ของค่ายพัฒนา Rare เกมได้รับกระแสด้านลบจากนักวิจารณ์และเกมเมอร์ว่าขาดเนื้อหาและมีเจอปัญหาเยอะ ทำให้ช่วงแรกๆ เกมถูกผู้เล่นหลายๆ คนเบื่ออย่างรวดเร็ว เพราพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร ยังมีปัญหาด้านเซิร์ฟเวอร์ที่ล่มบ่อยด้วย แต่แล้วผู้พัฒนาได้เพิ่มลูกเล่นด้วยโหมดใหม่ Tall Tales, Arena และ Hunters Call ทำให้เกมมีความาหลากหลายในการเล่นมากขึ้น และยังมีการอัพเดทเรื่อยๆ ในอนาคตแน่นอน. Diablo III เกมตำนานภาคต่อที่เปิดตัวในปี 2012 ค่าย Bizzard อีกแล้วครับท่านเปิดตัวมาก็โดนเลยครับ ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้าเกมกันไม่ได้ และที่สำคัญระบบบางอย่างที่เป็นสเนห์ของเกมทางค่ายก็ดันไปตัดออกเฉยเลย ด้วยเหตุนี้ทำให้เกมถูกร้องเรียน แต่ทางค่ายก็ดื้อดึงที่จะยังไม่ทำการคืนเงินแก่ผู้เล่นที่เจอปัญหาเหล่านี้ พวกเขาเร่งแก้ไขและเพิ่มระบบใหม่ๆ ( ของเดิมที่ลบไปก็เอากลับเข้ามาครับ55 ) จนทำให้ผู้เล่นหน้าเก่าต้องกลับมาเล่นอีกครั้ง และดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ ได้ ซึ่งในปี 2015 เกมสามารถวางขายได้มากถึง 30 ล้านฉบับเลยทีเดียวครับ.
29 Jun 2020
Gabe Newell เผย: เคยใช้ชีวิตขาย M ในเกม World of Warcraft ได้เงินชั่วโมงเกือบ 700 บาท
ถ้าให้พูดถึงบุคคลสำคัญในวงการเกมยุคปัจจุบัน เชื่อว่าชื่อของคุณ Gabe Newell ผู้ก่อตั้งบริษัท Valve (ผู้ให้บริการร้านค้า Steam และผู้พัฒนาเกมอย่าง Half-Life, Left 4 Dead) น่าจะต้องไปอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน จากความสำเร็จอันล้มหลามของเกมที่ค่ายพัฒนา รวมไปถึงความสำเร็จของร้านค้า Steam ที่ครองตลาดเกม PC มาช้านาน จนทำให้ตัวคุณ Gabe เองได้รับรางวัล BAFTA Fellowship Award (รางวัลที่มอบให้ "ผู้ที่สร้างผลงานภาพเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยม" โดยองค์กรภาพยนตร์และโทรทัศน์ประเทศอังกฤษ) ในปี 2013 แต่รู้หรือไม่ว่า ท่ามกลางความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของคุณ Gabe นั้น เค้ายังเคยประสบความสำเร็จในฐานะคนขาย Gold ในเกม World of Warcraft อีกด้วย โดยเขาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร Edge Magazine ในขณะที่กำลังพูดถึงพัฒนาการของ Steam และแนวคิดของ Valve ที่ต้องการให้เกมเป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์ที่สร้างประโยชน์ได้จริง มากกว่าแค่เพียงสื่อบันเทิงอีกแบบหนึ่ง "เพื่อพิสูจน์แนวคิดนี้กับตัวเอง ผมเลยลองใช้ชีวิตเป็นคนขาย Gold (เทียบเท่ากับการขายเงิน M ในภาษาบ้านเรา) ในเกม World of Warcraft อยู่ช่วงหนึ่ง" คุณ Gabe กล่าวต่อผู้สัมภาษณ์ โดยเขาสามารถทำเงินได้สูงสุดถึง $20 (ราวๆ 600-700 บาทไทย) ต่อชั่วโมง ซึ่งเขามองว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยในหลายแห่งทั่วโลก การทดลองและแนวคิดของคุณ Gabe นำไปสู่การสร้างตลาด Steam Workshop ขึ้น ซึ่งเปิดให้ผู้เล่นจากทั่วโลกสามารถสร้างไอเทมต่างๆ ในเกมมาขายให้ผู้เล่นคนอื่น (เช่นสกินตัวละครใน Team Fortress หรือสกินปืนใน CS:GO) ซึ่งสุดท้ายแล้ว สามารถสร้างรายได้ให้ผู้เล่นมากกว่าชั่วโมงละ $20 เสียอีก "มันมีอยู่ทีหนึ่ง ที่เราได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง ที่สงสัยว่าพวกเราใช้ลูกเขาขายยาเสพติดหรือเปล่า เพราะพวกเขาได้รับทราบจาก PayPal ว่ามีเงินจำนวนมากถูกโอนเข้าสู่บัญชีของลูกของเขาในระยะเวลาอันสั้น จึงน่าสงสัยว่าเขาอาจจะกำลังค้าขายยาเสพติดหรือสินค้าผิดกฏหมายอื่นๆ" ผมจึงอธิบายไปว่าลูกของพวกเขาได้สร้างไอเทมจากเกม Team Fortress ขาย โดยเขาทำเงินไปได้ถึง $500,000 แล้วในปีเดียว (ราว 16 ล้านบาท) เหตุการครั้งนี้ทำให้พวกเรามั่นใจว่าแนวคิดของพวกเรา ในการสร้างเกมให้เป็นพื้นที่แสดงออกมันได้ผล และมันก็มีอิทธิพลต่อการสร้างเกมของเราด้วย" Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
30 Mar 2020
Epidemiology ปราการด่านหน้า ของการศึกษาโรคร้าย และผลกระทบต่อวงการเกม
ยอดผู้ติดเชื้อที่ 85,397 คน ยอดผู้เสียชีวิตที่ 2,923 ราย ชื่อจำนวนอย่างเป็นทางการของกรณีไวรัสร้าย Covid-19 ณ ขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้ จากเว็บไซต์นับยอด Wuhan Virus ที่รันไปตลอด 24 ชั่วโมง ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงไปอย่างง่ายๆ จัดได้ว่าเป็นวิกฤติระดับโลกที่ทางหน่วยงานต่างๆ กำลังเร่งหาทางรับมือกันอย่างสุดความสามารถ แน่นอนว่า เราจะยังคงต้องอยู่กับเชื้อร้าย Covid-19 กันด้วยความระวังกันอีกระยะใหญ่ๆ แต่อย่างน้อยที่สุด วิทยาการสมัยใหม่ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์ของบุคลากรทางการแพทย์ ดังเช่น ศาสตร์แห่งระบาดวิทยา (Epidemiology) ก็เป็นปราการด่านหน้า ที่จะทำให้เรามีความเข้าใจถึงสถานการณ์ และหาทางรับมือได้อย่างถูกต้องภายใต้สภาวะที่น่าตื่นตระหนกเหล่านี้ แล้วศาสตร์แห่งระบาดวิทยาคืออะไร? มันได้รับการพัฒนาต่อยอดมาในทางไหน? และที่สำคัญ มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับแวดวงวิดีโอเกม คำถามทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ต่างอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราจะคาดคิด เพราะไม่เพียงแต่มันจะเคยมีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง แต่ชิ้นงานวิดีโอเกมเองก็ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยให้เข้าใจศาสตร์นี้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราจะขอนำเสนอให้คุณได้รับทราบกัน ระบาดวิทยา: ความหมาย และที่มา ในเบื้องต้น เราอาจจะต้องทำความเข้าใจในนิยามของศาสตร์แห่งระบาดวิทยากันในเบื้องต้น นั่นคือ ศาสตร์ที่ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพและความเจ็บป่วยของประชากร ที่จะต่อยอดไปยังกระบวนการทางสาธารณสุขและเวชศาสตร์การป้องกันที่อิงหลักฐาน (Evidence-Based Medicine) พร้อมทั้งหาปัจจัยเสี่ยงของโรคและประเมินพร้อมออกแบบการป้องกันที่เหมาะสมสำหรับกรณีนั้นๆ และถือได้ว่าเป็นวิทยาศาสตร์สายประยุกต์ (Applied Sciences) เพราะต้องผนวกกับความรู้ทางด้านชีววิทยา สังคมศาสตร์ คณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ มานุษยวิทยา จิตวิทยา ที่จะผันแปรความสัมพันธ์เกี่ยวกับสาเหตุ (Causal Relationships) ที่จะบอกได้ว่า โรคที่เกิดขึ้นนั้น จะสามารถเป็นโรคระบาดได้หรือไม่ แนวคิดแห่งระบาดวิทยานี้ สืบย้อนกลับไปได้ยังสมัยโบราณกาล ที่ ฮิปโปเครติส (Hippocrates) ปราชญ์ชาวกรีก ได้ถูกถือว่าเป็นบิดาแห่งวิชาระบาดวิทยา เป็นการผสมกันของคำว่า Epi (บน), Demos (ประชาชน, เขต) และ Logos (คำ, การบรรยาย) เพราะเป็นคนแรกที่พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดโรคและอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้บัญญัติศัพท์ที่สำคัญอย่างมากในทางการแพทย์นั่นคือ โรคเฉพาะถิ่น (Endemic) ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่แต่ไม่พบในที่อื่น และ โรคระบาด (Epidemic) ที่เกิดขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาหนึ่ง ดังเช่นไวรัส Covid-19 ครั้งนี้   ศาสตร์แห่งระบาดวิทยาถูกพัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงศตวรรษที่ 19 พี.เอ.ชไลส์เนอร์ (P.A.Schleisner) ได้บุกเบิกศาสตร์แห่งระบาดวิทยามาใช้อย่างจริงจังในการป้องกันโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด (Tetanus Neonatorum) บนเกาะเวสท์แมนนา (Vestmanna Islands) ประเทศไอซ์แลนด์ในปี 1849 ก่อนที่จะมาถึงศตวรรษที่ 20 ที่ โรนัลด์ รอสส์ (Ronald Ross) และ แอนเดอร์สัน เกรย์ แม็คเคนดริค (Anderson Gray McKendrick) จะผนวกเอาหลักคณิตศาสตร์เข้าไปในระบาดวิทยา เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการคาดคะเนปรากฏการณ์การแพร่ระบาดยิ่งขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแวดวงวิดีโอเกมจากไวรัส Covid-19 สำหรับแวดวงวิดีโอเกม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้นรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จากสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอน ตั้งแต่การยกเลิกการจัดแสดงโชว์ของ Sony ในงาน PAX East 2020 ที่กรุงบอสตัน พร้อมการยกเลิกงาน Game Developers Conference 2020 ที่เลื่อนกำหนดออกไปเป็นช่วงซัมเมอร์ (แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับสถานการณ์ในขณะนั้นๆ ซึ่งต้องมาพิจารณากันต่อไป) นอกเหนือจากนั้น แวดวง e-Sport เองก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ลีกการแข่งขันที่เคยมีแปลนเอาไว้ในปี 2020 ไม่ว่าจะเป็น OWL, LCK, PSG และ LJL ต่างต้องยกเลิก เมื่อไวรัส Covid-19 ได้แพร่ระบาดจากประเทศจีนไปสู่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะประเทศหลัง ที่ยกระดับการแพร่ระบาดขึ้นไปสู่ระดับที่ 3 ซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนต้องได้รับการตรวจสุขภาพและจำกัดตัวเองอยู่ในบ้าน สำหรับสายการผลิตเกมก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน เมื่อกำหนดการวางจำหน่ายของชิ้นงานจากหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และการโรงงานผลิตชิ้นส่วนของฮาร์ดแวร์อย่าง Playstation 5 และ Xbox Series X ก็ต้องเลื่อนและลดกำลังการผลิตลงไปเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน แต่ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ดูจะเป็นนักพัฒนาเกมจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ต้องอยู่ภายใต้การกักกันตัวเอง 14 วัน ที่สร้างความลำบากให้กับกระบวนการผลิตของค่ายเล็กๆ ทั้งในเรื่องของเวลา ค่าใช้จ่าย และการกำหนดทิศทางเป้าหมายในการพัฒนาเกมของตนเอง ผู้พัฒนาเกมอินดี้กว่า 150 คน ไม่สามารถเข้าร่วมงาน PAX East 2020 ซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ชิ้นงานเกมที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ระบาดวิทยา อนึ่ง ในโลกแห่งวิดีโอเกมนั้น ก็มีผลงานที่สำคัญสำหรับศึกษาเกี่ยวกับระบาดวิทยาที่วางจำหน่ายมาได้แล้วหลายปีที่ยังคงน่าสนใจ (และทวีความน่าสนใจ) ขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวนั่นคือ Plague Inc. จากทีม Ndemic Studios ที่วางจำหน่ายบนระบบโมบายล์มาตั้งแต่ปี 2012 ก่อนจะพอร์ทลงสู่ระบบพีซีและแมคในอีกสามปีถัดมา ระบบของเกมนั้นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ที่ผู้เล่นจะได้เลือกประเภทของเชื้อโรคร้าย ทำการพัฒนาสายพันธุ์ ปรับตัวอยู่รอดตามสถานการณ์โลก โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การทำลายล้างมนุษยชาติให้หมดสิ้นไป แน่นอนว่า ภายใต้สภาวะวิกฤติแห่ง Covid-19 นั้น ช่วยให้ความสนใจของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงานคลาสสิคนี้พุ่งขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ยอดขายบนแพลทฟอร์ม Steam พุ่งสูงขึ้นถึง 75% รวมถึงสำนักงานป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกาหรือ CDC ก็ใช้เกมนี้เพื่อจำลองสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นจริงบนโลก ในงาน Global Game Jam 2020 เองก็มีความเคลื่อนไหวที่ล้อไปกับการแพร่ระบาดของเชื้อร้าย Covid-19 ด้วยเช่นกัน เพราะผลงานจากทีมพัฒนาจากไต้หวันอย่าง 2019-nCOV Stole My DNA และ Novel Containment ของ Mike Ren จากประเทศจีนก็เป็นสีสันหลักของงาน (แม้ว่าเกมจะถูกพัฒนาภายใต้สภาวะที่จำกัดอย่างถึงขีดสุดก็ตาม) Corrupted Blood Incident: กรณีศึกษาระบาดวิทยาจากเกม World of Warcraft แต่คงไม่มีกรณีการแพร่ระบาดใดในโลกวิดีโอเกมจะถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง และถูกยกมาเป็นกรณีศึกษาสำหรับศาสตร์แห่งระบาดวิทยาได้เท่ากับ ‘Corrupted Blood Incident’ ที่เกิดขึ้นกับเกม World of Warcraft ในวันที่ 13 กันยายน 2005 ที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้เล่น และถูกแก้ไขด้วยมาตรการอย่างเด็ดขาดจากทาง Blizzard Entertainment เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นขึ้นจากการต่อสู้ของผู้เล่นกับ Hakkar the Soulflayer บอสประจำ Zul’Gurub หนึ่งในดันเจี้ยน Raid สำคัญของเกม ที่มีความสามารถ Corrupted Blood ที่จะทำความเสียหายอย่างมากในทุกๆ สองวินาที และสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสกันของผู้เล่น ทั้งหมด ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะทาง Blizzard Entertainment ก็กำหนดขอบเขตของความสามารถดังกล่าวของบอสให้จำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ต่อสู้ เป็นหนึ่งใน Mechanic ของเกมเท่านั้น แต่ทุกอย่างเริ่มบายปลาย เมื่อ Glitch ของตัวเกม ทำให้บรรดาสัตว์เลี้ยงหรือ Pet ของคลาส Warlock และ Hunter ติดเชื้อ และแพร่ออกไปนอกพื้นที่ ส่งผลให้ผู้เล่นเลเวลต่ำนั้นตายในทันทีที่ได้รับการสัมผัส รวมไปถึงเหล่า NPC ที่แม้จะไม่มีอาการอะไร แต่ก็ทำหน้าที่เป็น ‘พาหะแพร่เชื้อ’ ใส่ผู้เล่นในพื้นที่ให้กระจายวงกว้างออกไปอย่างที่ไม่อาจควบคุม และไม่มีจุดที่จะหยุดยั้ง เริ่มแรก ผู้เล่นส่วนใหญ่คิดว่านี่เป็นเพียง World Events หรือเหตุการณ์พิเศษระดับโลก แต่เมื่อทุกอย่างแพร่กระจายราวกับไฟลามทุ่ง ซากศพของผู้เล่นกองพะเนินในเขตพื้นที่เมืองใหญ่ และส่งผลกระทบต่อสามเซิร์ฟเวอร์หลัก ก็กลายเป็นปัญหาที่ทาง Blizzard ต้องเข้ามาแก้ไข และใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ แพทช์อีกหลายตัว บวกกับการรีเซตโลกครั้งใหญ่ จึงสามารถยุติการแพร่ระบาดของเชื้อเสมือนเหล่านี้ลงได้ เหตุการณ์นี้ ถูกอ้างอิงในวารสารทางการแพทย์ Epidemiology ของ Ran D.Balicer นักระบาดวิทยาจากสถาบัน Ben-Gurion University of Negev แห่งประเทศอิสราเอล เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในกรณีที่เกิดการระบาดของเชื้อโรค โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้เข้ากับการระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก รวมถึงถูกใช้อ้างอิงเป็นกรณีศึกษาเรื่องระบาดวิทยาในงาน Games for Health Conference และ Game Developers Conference ถึงตัวอย่างในโลกเสมือนที่ใช้สำหรับการแก้ปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งทาง Blizzard Entertainment ยังศึกษาพฤติกรรมของผู้เล่น เพื่อใช้สำหรับสร้าง World Events ที่ตามมาในภาคเสริมอีกหลายตัว ระยะทางที่ยังเหลืออยู่ และปราการด่านแรกรับมือโรคร้าย คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า วิกฤติการณ์ไวรัส Covid-19 ครั้งนี้ คือมหันตภัยร้ายแรงที่กำลังเข้าคุกคามชีวิตของทุกคนบนโลก ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางหนึ่ง การสาธารณสุข เวชศาสตร์การป้องกัน และการตอบสนองที่ฉับพลันต่อสถานการณ์ของนานาประเทศ รวมถึงชิ้นงานวิดีโอเกมที่ให้ความรู้ความเข้าใจ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่า วันข้างหน้า ยังคงไม่มืดมนจนเกินไปนัก เพราะมนุษยชาติต่างเคยเผชิญวิกฤติโรคร้ายมานับไม่ถ้วน และสามารถผ่านพ้นมาได้ ครั้งนี้เองก็คงจะไม่ต่างกัน ข้อมูลอ้างอิงประกอบการเขียน -Coronavirus Counter (https://multimedia.scmp.com/widgets/china/wuhanvirus/) -วิทยาการระบาด, วิกิพีเดีย (https://th.wikipedia.org/wiki/วิทยาการระบาด) -Coronavirus has video game giants rethinking their trade show plan, Chriss Morris, Fortune (https://fortune.com/2020/02/24/coronavirus-video-games-sony-gdc-pax/) -Games industry faces major disruption across all sectors as coronavirus spreads, Haydn Taylor, gamesindustry (https://www.gamesindustry.biz/articles/2020-02-06-nintendo-switch-hit-by-unavoidable-production-delay-amid-coronavirus-outbreak) -‘Final Fantasy 14, Cyberpunk 2077, & PUBG Devs Pull Out of Pax East, Hypebeast (https://hypebeast.com/2020/2/square-enix-pax-east-coronavirus-fears-scaling-back) -Novel Coronavirus Affects Esports in South Korea and Japan, Hongyu Chen, esportsobserver (https://esportsobserver.com/china-esports-recap-feb26-2020/) -Making indie games under the coronavirus quarantine, Alexis Ong, Rock Paper Shotgun (https://www.rockpapershotgun.com/2020/02/24/indie-games-in-the-time-of-coronavirus/) -Corrupted Blood Incident, Wikipedia (https://en.wikipedia.org/wiki/Corrupted_Blood_incident)
05 Mar 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
Nostalgia Effect: ความคะนึงหา และคุณค่าของเวลาที่ผ่านเลย
ถึง ตัวฉันเมื่อ 18 ปีที่แล้ว… นายเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือเปล่า? เรารู้ว่ามันเป็นคำถามพื้นๆ แสนสามัญ ที่ตัวเราก็พอจะทราบดี ว่านายในวัย 17 ปี กำลังต่อสู้กับอะไรบ้าง เราอยากบอกว่านายไม่ต้องเป็นห่วง เพราะไม่ว่าจะด้วยความสับสนในหนทาง ความไม่เข้าใจ ความไม่แน่ใจ ทั้งหลายเหล่านี้ เชื่อเถอะว่ามันเป็นเพียงด่านที่หนึ่งในเกมชีวิตที่นายมีความสามารถที่จะฝ่าฟันมันไปได้ แต่นี่แน่ะ เราเขียนถึงนาย ไม่ใช่ว่าจะมาบ่นอะไร แต่อยากจะชวนคุยกันในเรื่องที่นายก็มีความสุขกัน ใช่แล้ว เรื่องของวิดีโอเกมยังไงล่ะ เชื่อว่าตอนนี้นายน่าจะสนุกกับเกมวางแผนอย่าง Warcraft 3: Reign of Chaos และภาคเสริม The Frozen Throne ของค่าย Blizzard Entertainment ที่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับแนวเกม ที่ผสมผสานปัจจัยของเกม RPG เข้ากับการวางแผนแบบ Real-Time ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งใหม่มากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นายรู้มั้ย เวลาผ่านไป 18 ปี ค่าย Blizzard นำผลงานอันทรงคุณค่านี้กลับมาปัดฝุ่น ปรับโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Reforged’ และออกวางขายให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้ซื้อมาเล่นกันอีกครั้ง (อ้อ แล้วถ้านายสงสัย Starcraft 2 ก็วางจำหน่ายไปแล้วได้หลายปี ปิดตำนานแห่งสงครามอวกากศในแบบที่ไม่มีอะไรให้ค้างคาใจ พร้อม Diablo ที่ภาค 4 กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า) แต่สำหรับกรณีนี้ เรามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย นายอยากจะฟังข่าวไหนก่อน? เราขอเริ่มที่ข่าวร้าย เพราะการ ‘Reforged’ ที่ควรจะเป็นการปัดฝุ่น พัฒนา และต่อยอดตามยุคสมัย กลับกลายเป็นชิ้นงานอันสุดแสนอัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เวลากว่าสามทศวรรษของบริษัท Blizzard อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ นายคงจะรู้สึกตกใจระคนประหลาดใจ ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรือ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าวันเวลาสามารถเปลี่ยนคนได้ฉันใด สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไปอยู่ใต้ปีกของ Activision ผู้จัดจำหน่ายหน้าเลือดก็สามารถเปลี่ยนได้ฉันนั้น (นี่คงเป็นอีกข้อที่น่าสงสัย เพราะยุคสมัยของนาย ชื่อของ Activision นั้นดีงามไม่เคยมีรอยด่างพร้อยใดๆ ให้เห็น แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายจะได้รับรู้ในไม่ช้า…) ความพังพินาศของ Warcraft 3: Reforged นั้น ร้ายแรงจนเกินจะเยียวยา ทั้งปัญหาทางเทคนิค ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ปัญหาด้านกราฟิก ปัญหาการโฆษณาเกินจริง และเมื่อ CEO หัวเรือใหญ่ออกมาปัดความรับผิดชอบ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่สนใจ ช่วยซ้ำรอยบาดแผลนี้ให้ลึกเกินกว่าจะสมาน อย่างน้อยยังดี ที่ทางบริษัทยังใจดี ให้ผู้ที่ไม่พอใจสามารถทำการ Refund เงินคืนได้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ (นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศัพท์ใหม่ที่นายจะได้คุ้นเคยกับมันในเวลาข้างหน้า และเชื่อเถอะว่า มันจะทำให้ชีวิตการเล่นเกมของนายนั้นสะดวกสบายขึ้นอีกโขเลย…) กล่าวมาถึงตรงนี้ นายอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นอนาคตที่ไม่น่าพิสมัย ไม่น่าเข้าใกล้ และไม่น่าเดินทางมาถึง (ใช่ มันเป็นห้วงเวลาอันโหดร้าย และนี่ยังไม่ได้นับถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่จะเกี่ยวพันกับชีวิตของนายในไม่ช้านี้อีกนะ) แต่ถ้าจะมีข่าวดีอะไรที่เราอยากจะบอกนาย เราก็คงกล่าวอย่างสั้นๆ ง่ายๆ ว่า …. ‘ขอบคุณ’ ขอบคุณในเรื่องอะไร? นายคงจะสงสัยอยู่ภายในใจ แต่เราก็ยังบอกอย่างง่ายๆ อีกครั้งว่าขอบคุณ ขอบคุณที่ยังรักที่จะเล่นวิดีโอเกม ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นในวงการ ขอบคุณที่ยังหลงใหลในชิ้นงาน ที่นำมาซึ่งเรื่องที่ดีในเวลาอีกสิบแปดปีข้างหน้า ในเวลานี้ วงการเกมขยายตัวใหญ่โตกว้างขวาง ผสมผสานงานศิลป์เข้ากับงานฝีมือได้อย่างเต็มศักยภาพ และแน่นอนว่า เมื่อเทคโนโลยีเดินทางมาถึง บวกรวมกับความคิดคำนึงถึงชิ้นงานเก่าๆ ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เราจึงยังเห็นผลงานสุดคลาสสิคที่กลับมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ High-Definition Edition, Remaster ไปจนถึงที่สำคัญที่สุดคือ การ Remake กลับมาสร้างใหม่ ภายใต้ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงผ่านไปอย่างก้าวกระโดด (ขอโทษอีกครั้ง ที่จดหมายฉบับนี้อาจจะมีศัพท์แสงที่ยากต่อการเข้าใจ แต่ยังย้ำว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่นายได้คุ้นเคยแน่ๆ ในอนาคตภายภาคหน้า) ผลงานเกมคลาสสิคที่กลับมาใหม่นั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะด้วยซีรีส์ซอมบี้สยอง Resident Evil ที่ Remake ไปแล้วถึงสามภาค, เกมวางแผนสุดคลาสสิค Command and Conquer ที่จะ Remastered ให้ภาพสดสวยความละเอียดคมชัดลึกถึงอณู หรือแม้แต่เกมที่เราและนายรัก อย่าง Final Fantasy VII ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการ Remake ให้กับระบบ Playstation 4 และจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ที่กำลังจะมาถึง (ใช่แล้วล่ะ Playstation ยังคงยืดหยัดท้ากาลเวลามาได้ถึงสี่รุ่นเชียวนะ!!) ทุกสิ่งที่กล่าวไปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ความคิดคะนึงหา หรือที่เราขออนุญาตเรียกว่า ‘Nostalgia Effect’ ของเหล่าแฟนๆ ที่ยังคงมุ่งหวังจะได้เห็นผลงานเกมที่ตนรัก ได้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ กลับมามอบความสนุก และกลับมาถูกบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสำเนียงที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัยและวันเวลา มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากๆ ที่สามารถขับเคลื่อนได้แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเสียงแห่งความต้องการดังกล่าว ปีนี้ … ค.ศ.2020 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของวงการเกม เรามีผลงานชั้นยอดมากมายที่พร้อมจะวางจำหน่ายในตลอดปี เรามีผลงานที่ชวนให้คิดถึงวันวานอันแสนหวานสมัยกระโปรงบานขาสั้น และเรามีวงการที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในแต่ละวันที่ผันผ่าน และถ้านั่นไม่เรียกว่าข่าวดี แล้วเราจะเรียกว่าอะไรได้? อีกครั้ง เราขอบคุณนาย จากใจจริง รวมถึงทุกคนที่ยังเชื่อมั่น และส่งพลังแห่งการคะนึงหาให้สิ่งที่ดีๆ ได้กลับมาอีกครั้ง และแม้จะมีความผิดพลาดที่เกิดจาก Warcraft 3: Reforged แต่มันก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังจะตามมา ดังนั้น เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ให้ดี มันจะมีคุณค่าสำหรับนายอย่างแน่นอน ด้วยรักและยังคะนึงถึง ตัวนายในอีก 18 ปีข้างหน้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Feb 2020
สรุปดราม่า Warcraft 3 Reforged หนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020!
Warcraft 3 กับ Warcraft 3: Frozen Throne อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Blizzard เป็นอย่างมากในช่วงปี 2002 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของเกมที่สนุกมาก ๆ ระบบเกมเพลย์ที่ดี และมีเกมชื่อดังมากมาย ที่ได้ถือกำเนิดมาจากเกมนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft หนึ่งในเกม MMO ที่ดีที่สุดในโลก หรือ DOTA 2 เกม MOBA ที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็ล่วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจาก Warcraft 3 ทั้งนั้น ดังนั้นถ้าจะบอกว่านี้คือหนึ่งในเกมระดับตำนาน ก็คงจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้กำลังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับเกม Warcraft 3 Reforged ที่เป็นเหมือนเวอร์ชั่น Remastered ของเกมอยู่ แล้วดราม่านี้เริ่มได้ยังไง? , ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตสะเทือนวงการเกมขนาดนี้? วันนี้พวกเรา GameFever Th จะพาไปดูกันครับ จุดเริ่มต้นของดร่าม่าครั้งนี้ อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้นว่า Warcraft 3 นั้นถือเป็นต้นกำเนิดของเกมฟอร์มยักษ์มากมายในปัจจุบัน ทำให้ตอนที่ Blizzard บอกว่าจะเอาเกมนี้มา Remake และวางจำหน่ายอีกครั้งในชื่อ Warcraft 3 Reforged พร้อมกับปล่อย Trailer แรกของเกมในงาน Blizzcon ปี 2018 มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะนี้หมายถึงเกมระดับตำนานจะกลับมาให้เราเล่นอีกครั้ง แต่มีภาพ กราฟิก ที่สวยเหมือนเกมในยุคใหม่ อย่างที่เห็นในวิดีโอข้างบนว่า กราฟิกของตัวเกมมันมีความสวยงามขึ้นอยางมากจริง ๆ ทำให้เหล่าแฟน ๆ แทบจะรอไม่ไหว ยิ่งช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2019 ที่มี วิดีโอเกมเพลย์ของ Warcraft 3 Reforged ออกมาทาง Channel Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Book of Flames แต่กลับไม่มีใครที่ออกมารีวิวเกมแบบ เสีย ๆ หาย ๆ เลย ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นมั่นใจว่า พอตัวเกมวางจำหน่ายจริง ๆ ทุกอย่างมันจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน และในวันที่ 28 มกราคม 2020 ตัวเกมก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่แทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เล่นคาดหวังจะได้เห็นในเกมเวอร์ชั่นนี้ มันกลับไม่เหมือนที่คิดครับ ฉาก Cinematic ของเกมที่หายไป และ Ui ไม่เหมือนที่เคยโฆษณาเอาไว้ ตอนเกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Blizzcon 2018 ได้มีการโชว์ฉากที่ Arthas ต้องเข้าไปทำลายเมืองที่มีผู้ติดเชื่อ ซึ่งได้มีการทำ Cinematic ในเกมใหม่อย่างสวยงาม แต่พอตัวเกมจริง ๆ ออกมา ไอ้ฉากดังกล่าวมันกลับถูกทำออกมาในอีกแบบหนึ่ง จนทำเอาผ้เล่นงงเป็นไก่ตาแตกว่า "อ่าวแล้วฉากที่เคยได้เห็นในงาน Blizzcon หายไปไหน?" อีกทั้งตัว UI ของเกม ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับที่เอามาโชว์ในงาน เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกโกรธมาก ๆ ครับ กราฟิกของเกมถูกเปลี่ยนแค่ Model ของตัวละครเท่านั้น ระยะเวลาระหว่าง Warcraft 3 กับ Warcraft 3 Reforged นั้นห่างกันถึง 18 ปี บวกกับคำพูดของทาง Blizzard เองว่านี้คือการ Remake ไม่ใช้ Remastered ทำให้แฟน ๆ คาดหวังที่จะได้เห็นเกมใหม่ที่มีภาพสวยงามสมกับที่ออกในปี 2020 แต่ความจริงก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะตัวเกมจริง ๆ ที่ออกมา นอกจาก Model ของตัวละคร ที่มีการทำใหม่แล้ว ตัวแมพแทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย มีแค่ Texture เท่านั้นที่ดูสวยขึ้น เหมือนกับว่านี้เป็นเพียงแค่ Pack เอาไว้อัปเดต Model ของตัวละคร กับปรับ Texture ในเกมให้ส่วยขึ้น แต่กลับมีราคาถึง $29.99 มากกว่า ส่งผลให้นี้เป็นอีกเรื่องที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนไม่พอใจอย่างมากครับ bug ของเกมที่มีเยอะมาก ๆ จนเป็นเหมือนเกมยังทำไม่เสร็จดี หลังจากประกาศเปิดตัว ข่าวคราวของเกมก็เงียบหายไปเลย บวกกับสิ่งที่ถูกเพิ่ม หรืออัพเกรดจริง ๆ มีแค่ไม่กี่อย่างดังที่กล่าวมาข้างบน ซึ่งมันควรจะหมายความว่าระบบหลังบ้านของเกม และอื่น ๆ มันควรจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนมาก ที่ต้องหงุดหงิดกับ bug มากมายที่มีในเกม บางรายหนักถึงขนาดที่ว่าตัวเกมไม่มีเสียง จนต้องทำการเปิดปิดใหม่เป็น 10 รอบถึงจะหายเลยด้วย Blizzard ไม่อณุญาติให้ Refuned แน่นอนว่าพอเกมไม่ถูกใจผู้เล่นขนาดนี้ ก็มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขอ Refunds เกม ซึ่งทาง Blizzard ก็ตอบกลับได้การไม่อนุญาตให้ Refunded เกม แถมยังแบน User ที่ตั้ง Forum "วิธีการขอ Refunded เกม" อีกด้วยงานนี้ก็ยิ่งสร้างความไ่พอใจให้กับแฟน ๆ มากขึ้นไปอีก บทสรุปของดราม่า จนในเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ทาง Blizzard ก็เหมือนจะไม่สามารถ ทนต่อเสียงด้านลบจำนวนมาก แรงกดดัน และการคอมเพลนจากผู้เล่นไหว สุดท้ายจึงมีการเปิดให้สามารถขอ Refunded เกมได้ เป็นการปิดม่านดราม่าในครั้งนี้ ตัวผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับเกม Warcraft 3 Reforged มากเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง Blizzard ก็ยังเป็นชื่อของหนึ่งในผู้สร้างเกมยอดเยี่ยมมาโดนตลอดเหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่าผลงานต่อ ๆ ไปของพวกเขา มันจะดีมากขึ้นครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft III: Reforged ไกด์แนะนำแต่ละเผ่า สำหรับมือใหม่
กลับมาอีกครั้งสำหรับเกมในตำนานอย่าง Warcraft 3 ที่ตอนนี้ทางค่าย Blizzards ได้นำกลับมาทำเป็นเวอร์ชั่น Remaster ให้เหล่าแฟนๆได้รำลึกความหลังกันอีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า Warcraft เป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับ Blizzard เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีเกมอย่าง Starcraft ที่สร้างชื่อเสียงให้ไม่แพ้กัน แต่เกมอย่าง Warcraft 3 น่าจะเป็นเกมที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักกับค่ายนี้ และยังไม่พูดถึง World of Warcraft ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์อย่างนึงของเกมเมอร์ MMORPG ในยุคนั้นเลยล่ะและในวันที่ทาง Gamefever TH จะมาบอกถึงไกด์และคำแนะนำต่างๆสำหรับมือใหม่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย การเลือกเล่นของแต่ละเผ่า ผู้เล่นหน้าใหม่คงจะสับสนกันว่าจะเลือกเล่นเผ่าไหนดี และง่ายต่อการเลือกมาเล่นเป็นเผ่าแรกโดยในเกมนี้ความสามารถของแต่ละเผ่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และมีความยากง่ายแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับสไตล์ของผู้เล่นว่าจะชอบยิงอย่างเผ่า Elf หรือบู้ล้างผลาญของเผ่า Orc รวมไปถึงถ้าใครพึ่งได้เข้ามาเล่นเกมนี้แนะนำให้เล่นเป็นเผ่า Human จะง่ายที่สุดครับ เนื่องจากการอัพเกรดสิ่งก่อสร้างต่างๆนั้นไม่ซับซ้อนมากเท่ากับเผ่าอื่นๆภายในเกมขณะที่เผ่าอย่าง Night Elf , Undead จะมีความท้าทายมากกว่าเท่าตัว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มาพอสมควรและจำเป็นต้องใช้เวลาฝึกฝนถึงจะสามารถเล่นสองเผ่านี้ได้อย่างชำนาญโดยจะแยกข้อมูลการเล่นของแต่ละเผ่าดังนี้ เผ่า HUMAN เผ่าพันธุ์ที่เป็นเผ่าแรกเริ่มของเกม ในภาคเนื้อเรื่อง จะมีตัวละครหลักเป็นอาร์ธัส [Prince Arthas] บุตรของราชาเทเรนัสแห่ง Lordaeron เผ่า Human ผู้เล่นสามารถมีกองทัพหรือจำนวนยูนิตที่เยอะได้ไม่ยาก ในช่วงต้นเกมก่อนที่จะมีการสร้างฟาร์มเสียอีกมันจึงเป็นเผ่าที่ผู้เล่นหน้าใหม่ควรที่จะฝึกก่อนเผ่าอื่นๆ แต่ข้อเสียของพวกเขาคือมีพลังชีวิตที่น้อยกว่าเผ่าอื่นๆอย่างมากและมีจุดเด่น ที่เราสามารถจะอัพเกรดชุดเกราะเพื่อกลบจุดด้อยนี้ได้คุณลักษณะของเผ่านี้คือจะมีค่าเกราะที่สูงกว่าพลังชีวิตและสามารถบูทพลังโจมตี และค่าป้องกันบวกกับปั้มจำนวนยูนิตได้ง่ายๆรวมถึงยังมีนักเวทย์ที่โกงเป็นอันดับต้นๆของเกม ซึ่งเป็นไผ่ตายของเผ่ามนุษย์นั้นเองเป็นเผ่าที่แนะนำให้เล่นเป็นอันดับแรกเลยครับเทคนิคของเผ่านี้คือเน้นสร้างเป็นกองทัพเยอะๆ และวางจำนวนยูนิตให้ถูกตำแหน่งพร้อมทั้งปั้มนักเวทย์ด้วยรับรองเอาลงยากแน่นอน เผ่า ORCS Orcs เผ่าสุดแกร่งถึกตายยากมีพลังโจมตีระยะประชิดที่รุนแรง ที่สุดกว่าเผ่าอื่นๆภายในเกมโดยมีนักเวทย์ประจำเผ่าอย่าง Shaman ที่คอยบูทพลังโจมตีที่หนักหน่วงเข้าไป และเพิ่มความเร็วในการโจมตี และยังมี Witch Doctors สายฮิลที่คอยซัพพอตให้เพื่อนร่วมทีมเผ่านี่ถือว่าเล่นได้ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นักมีความง่ายพอๆกับเผ่า Human เหมาะสำหรับคนที่ชอบบู้ฟันแหลก และมียูนิตที่ตายยากนับว่าเป็นเผ่าที่เล่นสนุกไม่มีเบื่อในอดีตเป็นเผ่าพันธุ์ที่บ้าคลั่ง ด้วยฝีมือของกองกำลังปิศาจ Burning Legion ที่ถูกเรียกมาด้วยพลังของคนทรยศนาม Ner’zhul [หรือก็คือLich Kingแห่งอันเดต] เดิมมีเมืองเป็นหลักแหล่งแต่ถูกกองกำลัง Burning Legion ทำลายล้าง ปัจจุบันมีเพียงออร์คบางพวกที่หลุดพ้นจากเวทมนตร์ได้ ในภาคนี้ เนื้อเรื่องจะมีตัวหลักเป็นทรอลล์ [Thrall] บุตรของดูราทาน [Duratan] มีศักดิ์เป็น Warchief of the horde เผ่า UNDEAD กองกำลังผีดิบ ในเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เรียกกันว่า Burning Legion และ Scourge เป็นปิศาจที่หมายจะกำจัดทุกสิ่ง มีเวทมนตร์อันตรายมากมาย และแข็งแกร่งจนน่ากลัว ตัวละครหลักคืออาร์ธัสเช่นกัน หากแต่เป็นอาร์สผู้เลือดเย็น อัศวินแห่งความตายแห่งอันเดตUndead เป็นเผ่าที่มีดาเมจสูงจัดจ้านไม่แพ้เผ่าอื่นๆ เน้นที่สกิลเพลย์ของผู้ล่นล้วนๆไสตล์การเล่นคือ ยิงแล้ววิ่งมีฮีโร่ที่คอมโบกันอย่างลงตัวอย่าง Death Knight และ Lich เป็นเผ่าที่เล่นยากสำหรับมือใหม่เหมาะสำหรับคนที่เล่นเป็นมาบ้างแล้ว และมีพื้นฐานของตัวเกมเป็นเผ่าที่ตายยากมากๆและมีวิธีการเล่นที่หลากหลาย เผ่า Night Elf เป็นเผ่าที่อ่อนแอในช่วงต้นเกมที่เริ่มสร้างฐานเน้นโจมตีที่ระยะไกล แต่แลกมาด้วยพลังชีวิตที่มีน้อยเน้นไปที่การควบคุมโซนภายในแผนที่ พวกเขาจะมีดาเมจที่รุนแรงที่สุดในคลาส 3 ของยูนิตนั่นคือถ้าอยากได้ดาเมจแรงๆต้องอัพเกรดไปจนเวลตันเท่านั้น ถึงจะสามารถเรียกปั้มยูนิตที่มีดาเมจรุนแรงได้ รวมถึงพวกเขาจะแสดงพลังอย่างแท้จริงในช่วงของเลทเกมเท่านั้น เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์มากพอและเล่นเกมนี้จนชำนาญแล้วเท่านั้น เนื่องจากเป็นเผ่าที่เล่นยากอันดับต้นๆของตัวเกมเลยก็ว่าได้ไนท์เอลฟ์ ที่จริงแบ่งแยกได้หลายสายพันธุ์ [เช่น High Elf] แต่หลักๆจะเน้นที่ Night Elf ที่นับถือเทพแห่งดวงจันทร์นามอีลูน [Elune] นั่นคือกลุ่มเซนติเนล [Sentinel] นำโดย ทายเรนเดอ วิสเปอร์วินด์ [Tyrande Whisperwind] ศักดิ์คือ แม่ชี แห่ง ดวงจันทร์[Priestess of the Moon] และอีกกลุ่มที่สำคัญคือดรูอิด [Druid] ที่นำโดยฟูเรี่ยน สตรอมเรจ [Furion Stormrage] คนรักของทายเรนเดอ หากแต่ในภาคก่อนๆนั้น ได้ระบุเอาไว้ว่าฟูเรี่ยนและเหล่าดรูอิดได้ทำพิธีผนึกตัวเองเอาไว้ ก็จบกันไปแล้วสำหรับการเลือกเล่นเผ่าต่างๆทั้ง 4 เผ่าหลักในเกมที่แต่ละเผ่าก็มีความยากง่ายแตกต่างกันออกไปโดยแนะนำให้ไล่ที่ Human > Orcs > Undead > Night Elf ง่ายไปยากตามนี้ครับถ้าหากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับไว้เจอกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นรอติดตามได้ทาง GameFever TH ได้เลย
04 Feb 2020
Blizzard เปิดให้สามารถขอ Refunds เกม Warcraft 3: Reforged ได้แล้ว!
กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020 ไปแล้วกับ Warcraft 3: Reforged เพราะหลังจากตัวเกมวางจำหน่ายได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็โดนแฟน ๆ และเกมเมอร์มากมายที่ซื้อไป ให้คะแนนรีวิวแบบต่ำติดดิน แถมยังโดนคอมเพลนอย่างหนักหน่วงมาก ถึงขนาดได้คะแนน User Score เพี่ยงแค่ 0.5 บนเว็บไซต์ Metacritic เลยทีเดียว และเหมือนว่าทาง Blizzard จะเริ่มทนกระแสด้านลบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะล่าสุดก็ได้มีการเปิดให้คนที่ซื้อเกมไปสามารถขอ Refunds ได้แล้วครับ! เว็บไซต์ GameRant ได้รางงานว่า มีผู้เล่นมากมายที่ได้รับการ Refunds จากทาง Blizzard Support เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะขอ Refunds ไปกี่ครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับมา แต่ดูเหมือนตอนนี้จะสามารถขอเงินคืนได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ ถ้าหากใครที่ซื้อตัวเกมมาแล้วไม่พอใจ และมีความต้องการจะขอเงินคืน ก็สามารถทำได้แล้วตอนนี้เลยครับ Warcraft 3: Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC เท่านั้น Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft 3 Reforged กลายเป็นเกมที่ได้ User Score ต่ำที่สุดในเว็บ Metacritic!
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่กำลังหนักหน่วงอยู่ในช่วงนี้กับเกม Warcraft 3 Reforged ที่ดูเหมือนว่า ตัวเกมที่วางจำหน่ายจริง ๆ จะไม่เหมือนที่ Blizzard เคยได้โฆษณาไว้เลย ขนาดเว็บไซต์ IGN เองก็ได้ทำการปล่อยวิดีโอโชว์ความแตกต่างระหว่าง ตัวเกมที่ได้ถูกโฆษณาในงาน Blizzcon 2018 กับตัวเกมจริง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันขนาดไหน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ยังไม่ใช้แค่นั้น ในเว็บไซต์ Metacritic ตัวเกมยังได้คะแนนรีวิว User Score ต่ำที่สุดที่ 0.5 คะแนนอีกด้วย (ตำกว่า Metal Gear Survive ที่ตอนนี้มีคะแนน 1.2 ซะอีก) คอมเม้นต์แทบทั้งหมดกว่า 19,000 คอมเม้นต์ ก็เป็นในเชิงที่ลบมาก ๆ บ้างก็ว่า "นี้คือเกม Remastered ที่แย่ที่สุด" บ้างก็ว่า "ทำยังไงถึงพัฒนาเกมที่มันดีอยู่แล้วให้แย่ลงได้ขนาดนี้" ถึงขนาดมีคนตั้งชื่อเล่นให้กับเกมใหม่ว่า Warcraft 3 Refund เลยทีเดียวครับ Warcraft 3 Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit : PCgamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Feb 2020
10 เกม PC / Console น่าเล่นประจำเดือนมกราคม 2020
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่กับเหล่าเกมเมอร์และแฟน ๆ ของเว็บไซต์ Gamefever ทุก ๆ คน ขอให้ปีนี้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความสุขในการเล่นเกมครับผม สำหรับปี 2020 ถือว่าเป็นหนึ่งปีที่มีเกมน่าเล่นมากมายให้เราได้เลือกเล่น ตั้งแต่ต้นปีและนี่คือ 10 PC/Console เกมน่าเล่นประจำเดือนมกราคม 2020 1.Monster Hunter World: Iceborn  10 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PC เปิดมาเกมแรกกับ DLC สุดยิ่งใหญ่ของเกม Monster Hunter ที่จะให้คุณออกไปตะลุยยังดินแดนหิมะ Iceborn ได้เพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับโลกของ Monster Hunter มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Move ใหม่ ๆ ให้กับอาวุธ เพิ่มเควสระดับ Master Rank และที่เด็ดที่สุดคือดินแดน Hoarfrost Reach ที่เต็มไปด้วย Monster ใหม่ ๆ ให้เหล่านักล่าได้นำมาสร้างอาวุธถือว่าเป็น DLC ที่คุ้มมาก ๆ และสาวก Monster Hunter ชาว PC ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด 2.Yakuza: Like A Dragon 16 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PlayStation 4 Yakuza ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมจากดินแดนตะวันตกที่แต่เดิมนั้นพัฒนามาเพื่อให้คนญี่ปุ่นเล่นเท่านั้น แต่แล้วด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครที่น่าสนใจ ทำให้เกมนี้ได้รับการนำออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก Yakuza: Like A Dragon ถือว่าเป็นภาคล่าสุดของเกมตระกูลนี้ ที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศมายัง Isezaki Ijincho ซึ่งเป็นเขตหนึ่งของ Yokohama เราจะได้รับบทเป็น Ichiban Kasuga ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกอาชญากรรมของญี่ปุ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมไปอีกตลอดกาล ตัวเกมได้พัฒนาระบบหลาย ๆ อย่างให้น่าเล่นมากขึ้น รวมถึงกราฟิกในเกมมีการพัฒนาขึ้นเช่นกัน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เกมนี้ประกาศลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น 3.Dragon Ball Z: Kakarot 17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PlayStation 4, Xbox One , PC กลับมาอีกครั้งกับเกมดังจากการ์ตูนขวัญใจชาวโลก DRAGON BALL Z กับภาคใหม่ Kakarot ที่จะเล่าเรื่องราวของซุนโกคุงในการต่อสู้กับเหล่าร้ายจากจักรวาล Z ทั้ง ฟรีเซอร์ , เซลและจอมมารบู ตัวเกมมาพร้อมกับการฟิกที่สวยงาม ระบบการเล่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าน่าเล่นสุด ๆ ไปเลยสำหรับเกมนี้ 4.Tokyo Mirage Sessions #FE Encore 17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch เมื่อตัวละครจาก Fire Emblem กับ Persona มารวมกันคามสนุกจึงบังเกิด Tokyo Mirage Sessions #FE Encore เดิมทีเป็นเกมจากเครื่อง Wii U แต่ได้รับการพอร์ทให้กับเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งตัวเกมมีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นที่น่าตื่นใจ เสียงดนตรีที่สนุกและลายเส้นแบบการ์ตูนญี่ปุ่นที่คุณเห็นแล้วจะต้องชอบ 5.Arc of Alchemist 20 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch , PlayStation 4 หลังจากที่เปิดให้เล่นในประเทศญี่ปุ่นมานานในที่สุด Arc of Alchemist ก็ได้เดินทางมาถึงเกมเมอร์ทั่วโลกเสียที โดยเรื่องราวของตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นสาวน้อยน่ารัก ในการออกผจญภัยในทะเลทรายอันกว้างใหญ่เพื่อไขปริศนาในการปกป้องมวลมนุษยชาติ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป 6.Mega Man Zero/ZX Legacy Collection 21 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch , PlayStation 4, Xbox One , PC Mega Man Zero ถือว่าเป็นหนึ่งในเนื้อเรื่องแยกของ Mega Man แต่ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยทาง Capcom ได้ทำการเอาตัวเกม 6 ภาคมาขายรวมกันใน Mega Man Zero/ZX Legacy Collection พร้อมกับ Feature ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Save-Assist Point ที่ทำให้เราสามารถเซฟเกมระหว่างฉากได้ ระบบ Filter ที่ทำให้เราสามารถปรับภาพเป็นรูปแบบ Original ได้ หากคุณเป็นแฟนของ Mega Man Zero ก็ห้ามพลาดเกมนี้ 7.The Walking Dead: Saints & Sinners 23 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ย้ายมาเอาใจเกมเมอร์สาย VR กันบ้างกับเกม The Walking Dead: Saints & Sinners จากทีมงาน Skydance Interactive โดยเราจะได้รับบทเป็นผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ Zombie Apocalypse ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด รวมถึงต้องร่วมมือกับตัวละครต่าง ๆ เพื่อที่จะฟันความยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้ 8.Warcraft III: Reforged 28 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ย้อนกลับไป 18 ปีที่แล้ว Blizzard ได้นำเสนอเกม RTS ฟอร์มยักษ์ที่สามารถเอาชนะทุกเกมในตลาดได้ในชื่อของ Warcraft III : Region พร้อมทั้งเป็นต้นกำเนิดของเกมยอดนิยมในปัจจุบันอย่าง Dota 2 โดยรอบนี้ตัวเกมกลับมาในเวอร์ชัน Reforged ที่ได้ทำการ Rework Model ให้ดีขึ้น พัฒนาระบบต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคปัจจุบันแต่ยังคงเสน่ห์แบบเดิม ๆ ไว้ เป็นอีกหนึ่งเกม RTS ที่ควรหามาลอง 9.Coffee Talk 30 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PC, Mac, Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One หลาย ๆ คนอาจจะมีความฝันที่อยากจะเปิดร้านกาแฟสักร้าน พร้อมกับชงกาแฟรสเลิศให้ลูกค้าได้ดื่มเกม Coffee Talk น่าจะถูกใจคุณ ตัวเกมได้รับการพัฒนาโดย Toge Productions จากประเทศอินโดนีเซีย ระบบการเล่นนั้นเราจะได้รับบทเป็น Barista ในการชงกาแฟและแก้ปัญหาต่าง ๆ ของลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ตัวเกมทำออกมาได้บรรยากาศของร้านกาแฟอย่างมากใครที่อยากจะลองเปิดร้านกาแฟแนะนำให้เล่นเกมนี้ก่อน 10.Through the Darkest of Times 31 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ปิดท้ายกันด้วยเกมอินดี้สุดดาร์กที่กับเกม Through the Darkest of Times ที่จะให้เรารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยต่อต้าน Nazi กลุ่มเล็ก ๆ ในกรุงเบอร์ลิน โดยเราจะต้องวางแผนรวมถึงตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เพื่อที่จะเอาชนะนาซีที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ แม้ว่าจะสิ่งเหล่านี้อาจจะกระทบไปถึงคนรักของเราก็ตาม มกราคม 2020 ถือว่าเป็นเดือนของการชิมลางของเหล่าเกมเมอร์ ที่แม้ว่าเกมส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายจะเป็นเกมอินดี้แต่ก็มีความน่าเล่นไม่ต่างจากเกม AAA แล้วเพื่อน ๆ มีเกมไหนในดวงใจสามารถบอกกันมาได้เลย
02 Jan 2020
World of Warcraft เปิดตัวส่วนเสริมใหม่ Shadowlands
World of Warcraft ถือว่าเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์คู่บุญของทาง Blizzard มาอย่างยาวนาน การันตีจำนวนผู้เล่นหลายหมื่นคนทั่วโลก ที่ยังคงเล่นเกมนี้กันอย่างไม่ขาดสายและปีนี้ทาง Blizzard ยังคงนำเสนอส่วนเสริมใหม่ ๆ ตามธรรมเนียมของเกมทุกปี World of Warcraft: Shadowlands คือส่วนเสริมใหม่ล่าสุดของเกม ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Sylvanas Windrunner ที่ได้ออกไปต่อสู้กับ Lich King ที่สิงอยู่ในร่างของ Bolvar Fordragon จนเธอสามารถที่จะทำลายหมวกและปลดปล่อยพลังออกมาได้ โดยใยส่วนเสริมใหม่จะเป็นเรื่องราวของ Shadowlands และมีการเพิ่มโซนในเกมใหม่อย่าง Revendreth , Ardenweald , Maldraxxus , Bastion นอกจากนี้ยังมีระบบการเลือก Covenant และดันเจี้ยนใหม่ ๆ ให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัส World of Warcraft: Shadowlands มีกำหนดการที่จะอัปเดตในปี 2020 แฟน ๆ ของเกมนี้เก็บเงินรอกันได้เลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
02 Nov 2019
World of Warcraft เพิ่ม NPC หน้าคล้าย Stan Lee เข้ามาในเกม !!
เมื่อไม่นานมานี้หนึ่งในบุคลากรระดับโลกผู้ให้กำเนิดการ์ตูนซีรี่ส์ Marvel อย่างคุณ Stan Lee ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 95 ปี ซึ่งทั่วโลกก็ต่างไว้อาลัยและสรรเสริญถึงผลงานที่เจ้าตัวเคยสร้าง รวมถึงวงการเกมเองก็เชิดชูผลงานของเขาคนนี้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดใน World of Warcraft เกม MMORPG สุดฮิตทั่วโลกจากทาง Blizzard ได้ปล่อยแพทใหม่ 8.1.5 ในเซิร์ฟเวอร์ทดลอง (PTR) สร้างตัวละคร NPC ที่มีหน้าตาและชื่อที่คล้ายคุณ Stan Lee ขึ้นมาภายในเกมด้วย ซึ่ง NPC ตัวนี้จะอยู่ในฐานที่มั่นเมือง Stormwind โดยจะใช้ชื่อว่า Stanley ที่คล้ายๆ กับชื่อคุณ Stan Lee รวมถึงหน้าตาหนวดขาวก็จะคล้ายๆ กันพร้อมทั้งในบางครั้ง NPC ตัวนี้จะพูดออกมาว่า “Excelsior!” ที่เป็นวลีฮิตติดปากของคุณ Stan Lee ด้วย รวมถึงในแพทนี้ยังมีตัว Model ของ NPC แบบนี้อีกสองตัวแต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน ที่มา
11 Jan 2019
ผู้กำกับหนัง Warcraft เข้าพบผู้สร้าง God of War แย้ม: ถ้าคิดว่า God of War เจ๋งแล้ว เตรียมเจอเกมต่อไปได้เลย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้กำกับภาพยนตร์ Warcraft คุณ Duncan Jones ได้เข้าพบกับคุณ Cory Barlog ผู้กำกับเกม God of War ภาคล่าสุด โดยคุณ Duncan ได้ทำการโพสต์ภาพคู่กับคุณ Cory ทางทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ ให้แฟนเกมตื่นเต้นกันว่า ถ้าคุณคิดว่า God of War คือที่สุดแล้ว คุณเตรียมตัวเอาไว้ได้เลย On a positive note, @corybarlog turns out to be as sweet, thoughtful & intelligent as I’d grown to think he is from our online interactions. And if you think that God of War is his magnum opus, just you wait! ??❤️✌? — Duncan Jones (@ManMadeMoon) November 21, 2018 จริงๆ แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่เกมต่อไปของทีมผู้สร้าง God of War จะต้องพยายามสร้างผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงว่า God of War (2018) เองก็เป็นเกมที่สร้างมาได้อย่างปราณีตและยิ่งใหญ่ในระดับที่หาเกมมาเปรียบเทียบยากอยู่แล้ว ถ้าผลงานต่อไปของค่ายจะยังสุดยอดกว่าเดิมก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เกมต่อไปที่คุณ Cory สร้างก็คงหนีไม่พ้นเกม God of War ภาคต่อแน่นอนอยู่แล้ว ดูจากที่ค่ายประกาศรับสมัครผู้พัฒนาตำแหน่ง Concept Artist ให้มาช่วยสร้างเกมภาคต่อตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่จะออกมาสุดยอดกว่าภาคหนึ่งหรือไม่ แค่ไหน คงต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ!
23 Nov 2018
Warcraft III: Reforged จะเริ่ม BETA ในช่วงต้นปี 2019
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความฮือฮาภายในงาน BlizzCon 2018 กับ Warcraft III: Reforged ที่จะเป็นการ Remaster เกม Warcraft III พร้อมเนื้อหา DLC รวมครบทุกภาคอีกด้วย และล่าสุดทางโปรดิวเซอร์อย่าง Pete Stilwell ได้ออกมาพูดเชิงหวังว่าตัวเกมนี้อาจะเปิดให้เล่น BETA ในช่วงต้นปี 2019 นั่นเอง แต่ทางผู้พัฒนาเองก็ไม่ได้เจาะจงวันที่มาอย่างแน่ชัด โดยตัว BETA ที่ว่านั่นจะคล้ายๆ กับการ Pre-Alpha โดยทางผู้พัฒนาจะทดสอบระบบต่างๆ ให้มีความพร้อมขึ้น และถ้าคุณนั้นอยากจะทดสอบเล่นเกมนี้ในช่วง BETA คุณสามารถเข้า LINK พร้อม Login เข้าไปหน้า Profile และกดขอรับรหัส BETA ได้เลย พอใกล้ถึงวันเล่นจริงๆ ทางตัวเกมจะทำการสุ่มผู้เล่นให้สามารถเข้าร่วมได้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=M6_WXl4x-ik โดยเกม Warcraft III: Reforged จะสามารถเล่นโหมด Multiplayer กับเวอร์ชั่น Original ได้และมีแพลนจะวางจำหน่ายจริงในช่วง Summer ปี 2019 หรือน่าจะราวๆ 8-10 เดือน หลังจากนี้ โดยตัวเกมลงให้กับเครื่อง PC เท่านั้น ขอบคุณข้อมูลจาก Gamingbolt
12 Nov 2018
Blizzard เผย ยังไม่มีแผนจะสร้างเกม Warcraft IV
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกปลื้มปิติที่ได้รู้ว่าเกมวัยเด็กสุดคลาสสิคประจำยุคร้านเน็ตอย่าง Warcraft III กำลังจะกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในนาม Warcraft III: Reforged เกม Remake ของ Warcraft III และ Warcraft III: Frozen Throne ที่ขนเอากราฟิคระดับ 4K และการปรับสมดุลเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด พร้อมกับเครื่องมือสร้างแผนที่ Map Editor ในตำนาน ที่ให้กำเนิดมินิเกมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของเกมแนว MOBA อย่าง DOTA ภาคดั้งเดิมอีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 แน่นอนว่าการประกาศครั้งนี้ทำให้แฟนๆ ต่างคาดหวังว่า Blizzard จะกลับมาพัฒนาเกม Warcraft IV แนววางแผนอีกหรือไม่ในอนาคต โดยล่าสุดเว็บข่าว Gamespot ได้รายงานบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งโปรดิวเซอร์อาวุโสคุณ Pete Stilwell ซึ่งผู้พํฒนาได้เผยว่าการพัฒนาเกม Warcraft IV มีความเป็นไปได้แน่นอนในอนาคต แม้ในปัจจุบันค่ายยังไม่มีแผนการจะสร้างเกมภาคต่อที่แฟนๆ รอคอย "ว่ากันตามตรงว่าค่ายคงไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการสร้างเกม Warcraft IV แน่นอน แต่อาจจะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ เพราะเราต้องการจะมุ่งมั่นพัฒนา Warcraft III: Reforged ให้สมบูรณ์ที่สุดซะก่อนค่อยว่ากัน" ในปัจจุบัน เนื้อเรื่องของเกมซีรี่ย์ Warcraft ได้ถูกเล่าต่อไปไกลมากๆ แล้วในเกม MMORPG ในตำนานของค่ายอย่าง World of Warcraft ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ค่ายยังคงไม่มีความคิดจะสร้างเกม Warcraft IV เนื่องจากเกรงว่าเนื้อหาในเกมจะซ้ำกับใน World of Warcraft ซึ่งดำเนินเนื้อเรื่องต่อมานับสิบปีแล้ว Warcraft III: Reforged จะวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PC โดยเกมเปิดให้ทำการ Pre-order ผ่านโปรแกรม Battle.net แล้วในขณะนี้
06 Nov 2018
Blizzard จับ Warcraft III รีมาสเตอร์ ภาพสวยระดับ 4K
ใครเป็นแฟน Warcraft III ก็น่่าจะดีใช่มิใช่น้อยเพราะล่าสุดในงาน BlizzCon 2018 ทางผู้พัฒนาอย่าง Blizzard เองได้เปิดตัวเกมภาค Remaster โดยใช้ชื่อว่า Warcraft 3: Reforged โดยตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีการรีโมเดลของตัวละครและแอนิเมชั่นต่างๆ, ปรับกราฟิกได้สูงในระดับ 4K, ปรับเปลี่ยนแผนที่และโหมด Campaign เนื้อเรื่องของเกม พร้อมอัพเกรด UI และ World Editor อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=Q2zfx5hQ3CE รวมถึงทางผู้พัฒนาเองก็ได้ยืนยันด้วยว่าตัวเนื้อหาเสริมอย่าง Forzen Throne นั้นก็จะอยู่ในเกมเวอร์ชั่นนี้ พร้อมทั้งเรายังสามารถเล่นโหมด Online Multiplayer ได้อย่างในเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งอย่างนี้เราสามารถเล่นเกม DotA 1 ได้ในเวอร์ชั่นภาพสวยขึ้นแน่นอน แถมเกมภาคนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ที่ใช้เกมเวอร์ชั่นเก่าเล่นได้อีกด้วย โดย Blizzard บอกว่าตัวเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 ขอบคุณข้อมูลจาก pcgamer
03 Nov 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Warcraft"
อดีตพนักงาน Blizzard ชี้ Warcraft 4 กำลังจะเกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์
David Fried อดีตพนักงานของ Blizzard ผู้เคยนั่งตำแหน่งผู้นำการออกแบบแคมเปญของเกม Warcraft 3 ทั้งยังเคยมีส่วนร่วมใน World of Warcraft ได้ออกมาถ่ายทอดสอบพร้อมนั่งถาม-ตอบ ระหว่างแฟน ๆ เกมของค่าย Blizzard เกี่ยวกับเรื่องราวในอนาคตซึ่งในช่วงที่ Activision Blizzard กำลังประสบปัญหานั้น ไม่ได้มีแค่ Fried คนเดียวที่ลาออก แต่มีพนักงานที่เคยอยู่ทำงานกับ Blizzard มานานนมได้แห่กันลาออกตาม ๆ กันไปด้วย ทว่าท่ามกลางการลาออกเหล่านั้น ได้มีพนักงานบางส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบตัวเกม Warcraft 3 ยังคงกัดฟันสู้อยู่ นั่นคือ Samwise Didier ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Blizzard นั่นเองซึ่งทาง Fried ได้กล่าวว่า Didier เกือบได้ทำเกม Warcraft 4 แล้ว เพียงแต่เกิดการเข้าซื้อกิจการของทาง Microsoft เข้าเสียก่อนทั้งนี้หากการเข้าซื้อกิจการจบลง Didier น่าจะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมโปรเจกต์ Warcraft 4 อีกครั้ง นอกจากนี้ทาง Fried ยังกล่าวหยอกล้อไปว่า หาก Didier มาชวนเขาทำ Warcraft 4 ล่ะก็ เขาคงตอบรับไปทันที ไม่รีรอเลย และหวังว่า Chris Metzen บิดาแห่ง Warcraft ก็จะตอบรับงานนี้เหมือนกันกับผมนะดูท่าว่า Fried จะค่อนข้างเชื่อมั่นในตัว Microsoft ถึงการนำสิ่งดี ๆ และสิ่งใหม่ ๆ มาให้ Blizzard ระดับหนึ่งเลยทีเดียวทั้งนี้เรายังต้องรอดูกันต่อไปถึงการประากาศตัวเกม Warcraft 4 ว่าจะมาจริงดั่งคำกล่าวของอดีตพนักงานคนนี้หรือไม่แหล่งข้อมูล: gamerant
15 Feb 2022
เปิดตัว World of Warcraft Chain of Domination พบกับเนื้อเรื่องต่อ / Raid ใหม่
World of Warcraft ประกาศเปิดตัว Chain of Domination ซึ่งจะเป็นอัปเดตตัวที่สองของ Shadowlands ซึ่งภายในส่วนเสริมนี้จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องเพิ่มเติมทางฝั่งของ Jailer, Sylvanas รวมถึง Anduin Chain of Domination ยังมาพร้อมกับอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่ม Region ใหม่ให้เหล่าผู้เล่นได้เข้าสำรวจ และ Raid ระดับบอส 10 ตัว และ Raid ระดับบอส 8 ตัวใหม่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งหมายความว่าจะมีอาวุธ รวมถึงชุดเกราะแบบใหม่ให้เพื่อนๆ ได้หากันอีกครั้ง และแน่นอนว่ามีของรางวัลใหม่, สัตว์ขี่ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นในอัปเดตนี้ คือการปรับสมดุลระหว่างอาชีพ, และการเริ่มบินได้ในโซนแรกของ Shadowlands โดยจะส่งผลให้สามารถทำเควสเนื้อเรื่อง รวมถึงเควสเสริมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รับชมวิดีโอเปิดตัว รวมถึงวิดีโอข้อมูลอัปเดตได้ข้างล่างนี้ครับ
20 Feb 2021
เปิดตัว World of Warcraft Chain of Domination พบกับเนื้อเรื่องต่อ / Raid ใหม่
World of Warcraft ประกาศเปิดตัว Chain of Domination ซึ่งจะเป็นอัปเดตตัวที่สองของ Shadowlands ซึ่งภายในส่วนเสริมนี้จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องเพิ่มเติมทางฝั่งของ Jailer, Sylvanas รวมถึง Anduin Chain of Domination ยังมาพร้อมกับอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่ม Region ใหม่ให้เหล่าผู้เล่นได้เข้าสำรวจ และ Raid ระดับบอส 10 ตัว และ Raid ระดับบอส 8 ตัวใหม่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งหมายความว่าจะมีอาวุธ รวมถึงชุดเกราะแบบใหม่ให้เพื่อนๆ ได้หากันอีกครั้ง และแน่นอนว่ามีของรางวัลใหม่, สัตว์ขี่ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นในอัปเดตนี้ คือการปรับสมดุลระหว่างอาชีพ, และการเริ่มบินได้ในโซนแรกของ Shadowlands โดยจะส่งผลให้สามารถทำเควสเนื้อเรื่อง รวมถึงเควสเสริมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รับชมวิดีโอเปิดตัว รวมถึงวิดีโอข้อมูลอัปเดตได้ข้างล่างนี้ครับ
20 Feb 2021
Blizzard ยืนยัน !! มีเกมมือถือจาก Warcraft หลายเกม แถมเปิดให้เล่นฟรีไม่เสียเงิน
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าทาง Blizzard นั้นกำลังซุ่มทำเกมมือถือจากซีรีส์ World of Warcraft อยู่ และล่าสุดมีการยืนยันออกมาแล้วจากทางคุณ Bobby Kotick ซีอีโอของทางบริษัทโดยตรง ว่าเกมมือถือจากซีรีส์นี้จะมีหลายตัวและจะเปิดให้เล่นกันแบบฟรีๆ แน่นอน ในระหว่างการคุยเรื่องรายได้ทางการเงินครั้งล่าสุด ทางคุณ Kotick ได้พูดคุยกับเหล่านักลงทุนและพูดถึงแผนการที่จะขยายแฟรนไชส์ Warcraft ด้วยการปล่อยเนื้อหาระดับเกรดพรีเมียมที่บ่อยขึ้น "ในแฟรนไชส์ Warcraft ของเรา เราตั้งใจที่จะเผยเนื้อหาพรีเมียมที่บ่อยขึ้น เพื่อรักษาและขยายชุมชนของเกม World of Warcraft และเราก็ได้ทำเกมมือถือจากซีรีส์นี้พร้อมมอบประสบการณ์แบบ Free-to-Play ซึ่งนักพัฒนากำลังทำงานกันเต็มที่" รวมถึงยังมีข่าวว่าทาง Blizzard เองก็อาจจะมีแผนในการเปิดให้บริการเกม Diablo Immortal ในปี 2021 นี้อีกด้วย
05 Feb 2021
รายงานเผย Blizzard ได้ยุบทีมพัฒนา Warcraft 3: Reforged ไปแล้วช่วงปลายปี 2020
ในช่วงปี 2020 คงต้องยอมรับว่า Warcraft 3: Reforged ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังมากที่สุดของปีเลยจริงๆ ในช่วงนั้นเรียกได้ว่าเกิดดราม่าใหญ่โตมากๆ (สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สามารถเข้าไปอ่านได้ในลิงก์นี้ครับ) ซึ่งผลจากการเปิดตัวอย่างเลวร้าย เลยทำให้ Team 1 (พัฒนา StarCraft 2, Heroes of the Storm, และ StarCraft Remastered) ซึ่งรับผิดชอบต้องถูกยุบทีมไปช่วงปลายปี 2020 จากรายงานของ Jason Schreier ดูเหมือนจริงๆ แล้วทีมนี้จะเป็นผู้รับผิดชอบ Diablo 2 Remake (ปัจจุบันส่งต่อให้ทีม Diablo 4 แล้ว) แต่ด้วยความที่การพัฒนา Warcraft 3: Reforged มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผิดพลาด, การจัดการที่ผิดพลาด กับการเปิดตัวที่เร่งรีบเนื่องจากแรงกดดันทางการเงิน แถมตัวเกมยังเปิดให้ Pre-Orders โดยไม่ถามความเห็นจากผู้พัฒนาเลย จึงทำให้สุดท้ายเกมนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และในเดือน ตุลาคม ปี 2020 Blizzard ก็ได้ยุบทีม 1 รวมถึงทำการรื้อแผนกทั้งหมดครับ ผู้พัฒนาหลายคนภายในทีมได้โอกาสในการเข้าสัมภาษณ์ในตำแหน่งอื่นๆ ภายในบริษัท แต่ก็มีนักพัฒนาหลายคนที่เลือกจะไปเข้าร่วมกับ Dream Haven หรือไม่ก็ Frost Giant ซึ่งมีนักพัฒนารุ่นเก่าจาก Blizzard อยู่มากมาย ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า การออกไปอยู่กับบริษัทอื่นอาจทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้มากกว่าจริงครับ อย่างไรก็ตาม การยุบทีมในครั้งนี้อาจหมายความว่า Blizzard จะไม่ทำเกมแนว RTS ออกมาอีกแล้วหลังจากนี้ด้วย เนื่องจาก Team 1 คือผู้รับผิดชอบเกมแนวนี้ทั้งหมดมาหลายปีแล้ว แต่ไม่แน่ว่าอาจจะมีการตั้งทีมใหม่ขึ้นมารับผิดชอบทางฝั่งนี้เช่นกัน เนื่องจากทางค่ายยังจำเป็นต้องอัปเดต Warcraft 3: Reforged อยู่เรื่อยๆ หลังจากนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
25 Jan 2021
FF14 ร่วมแสดงความยินดีกับ WOW กับการมาของ Shadowlands ผ่าน Twitter
การเป็นเกมคู่แข่งในตลาดเดียวกันไม่จำเป็นต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันเสมอไป บางครั้งการแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเมื่อพวกเขาทำอะไรบางอย่างสำเร็จ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มาจากอีกเกมได้เช่นกัน เหมือนที่ Final Fantasy 14 ร่วมแสดงความยินดีกับการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands ของ World of Warcraft ครับ Final Fantasy 14 ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองพร้อมแท็ก World of Warcraft ด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด" (Expansion ล่าสุดของ FF14 มีชื่อว่า "Shadowbringers") และข้อความสั้นที่แสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยกับการวางจำหน่าย Shadowlands อย่างเป็นทางการ" ซึ่งข้อความนี้ดูจะทำให้แฟนๆ จากทั้งสองเกมดูมีความสุขกันมากๆ เนื่องจากมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 เกมจะมี Collaboration ร่วมกันเร็วๆ นี้ครับ! Welcome to the Shadows, @Warcraft. Happy #Shadowlands launch! pic.twitter.com/0aj7EXxFrf — FINAL FANTASY XIV (@FF_XIV_EN) November 23, 2020 ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีแฟนเกมหลายคนเลยที่เรียกร้องให้ทั้งสองมี Crossover หรือ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่จากแฟน WOW ดูพวกเขาจะอยากได้นก Chocobo ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ FF มากๆ ในเกม WOW โดยตอนนี้ยังไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาจาก Twitter ของทาง WOW ต้องรอดูต่อไปว่าทั้งสองจะมีกิจกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคตหรือไม่ครับ! Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PC ส่วน World of Warcraft ก็วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: GameRant
25 Nov 2020
เกมเมอร์สุดโหด! ผ่านดันเจี้ยนในเกม World of Warcraft ได้โดยใช้เปียโน
ทุกคนเคยเล่นเกม World of Warcraft (WOW) ไหมครับ? WOW เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่มีผู้เล่นมากที่สุดของโลก โดยจุดขึ้นชื่อของเกมนี้ก็การลงดันเจี้ยน ที่มีความยาก และจำเป็นต้องใช้ความชำนาญในการเล่นที่สูง ซึ่งล่าสุดเพิ่งจะมาคนเล่นเกมนี้ผ่านดันเจี้ยนได้ โดยใช้เปียโนเป็น Controller ครับ! จากประสบการณ์ส่วนตัว การเล่นเกมนี้จำเป็นต้องเดิน และกดสกิลให้ถูกจังหวะในแต่ละเวลา ซึ่งมันจะเป็นเรื่องยากมาก ถ้าหากจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการกดปุ่ม แต่เกมเมอร์ผู้มีความสามารถทำอะไรที่มันสุดยอดกว่านั้น เขาได้นำเปียโนมาทำเป็น Controller แถมยังใช้ลงดันเจี้ยนในเกมจนผ่านได้ด้วย! เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อครับ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ World of Warcraft วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit: GameRant
10 Nov 2020
World of Warcraft: Shadowlands ประกาศเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด
World of Warcraft นับเป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่มีอายุเยอะอันดับต้นๆ ของโลก และจนถึงตอนนี้ตัวเกมก็ยังคงได้รับความนิยมจากเหล่าผู้เล่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ดังนั้นการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands จึงเป็นอะไรที่ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่ล่าสุดก็มีข่าวที่น่าเสียใจครับ เพราะทาง Blizzard ออกมาประกาศแล้วว่า จำเป็นต้องเลื่อนวันอัปเดต Shadowlands ออกไปแบบไม่มีกำหนดในตอนนี้ครับ! แรกเริ่มเดิมที่ Shadowlands มีกำหนดจะอัปเดตเข้ามาในเกมวันที่ 27 ตุลาคม 2020 นี้ แต่จากความคิดเห็นของผู้เล่นในช่วงทดลองหลายเดือนที่ผ่านมา มันเลยทำให้ผู้พัฒนารู้ว่าพวกเขายังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อพัฒนา ส่วนเสริ่มใหม่นี้ให้สมบูรณ์ ดังนั้นจึงต้องมีการเลื่อนวันอัปเดตออกนั้นเอง อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า วันอัปเดตใหม่จะเป็นช่วงไหน แต่จะมาในปีนี้อย่างแน่นอนครับ! World of Warcraft: Shadowlands จะอัปเดตเข้าเกมในช่วงปลายปีนี้ Credit: IGN
02 Oct 2020
World of Warcraft: Shadowlands ปล่อยวิดีโอโชว์ดินแดน Bastion และเรื่องราวหลังความตายของ Uther
ในงาน Gamescom 2020 ได้มีการเปิดตัววิดีโอใหม่จากทาง Blizzard เกียวกับ Expansion ใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในเกม World of Warcraft ซึ่ง วิดีโอดังกล่าวเป็นการกล่าวถึงดินแดนที่ชื่อว่า Bastion แต่ที่น่าสนใจไม่ใช่ตรงนั้นครับ เพราะในวิดีโอตัวนี้ได้มีการนำพาลาดินในตำนานอย่าง Uther กับอดีต Lich King อาทัส กลับมาด้วย! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวถึง 6.51 นาที โดยเป็นเรื่องราวหลังความตายของอูเธอร์ ซึ่งเรื่องราวจะกล่าวถึงการกลายเป็น Aspirant ของเขา หากแต่การเป็น Aspirant หมายถึงเขาต้องละทิ้งชีวิตเก่าไป ซึ่งมันเป็นเรื่องยากสำหรับเขามาก หลังจากที่ต้องสูญเสียทุกอย่างไปด้วยฝีมือของลูกศิษย์ที่ตนรัก ซึ่งในช่วงท้ายของวิดีโอจะมีการพูดถึง อาทัส หรืออดีต Lich King ด้วย ไม่แน่ว่าเขาทั้ง 2 อาจจะกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งใน Expansion นี้ด้วยก็เป็นได้ครับ World of Warcraft: Shadowlands จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ตุลาคม 2020 นี้ครับ
27 Aug 2020
อีเวนต์ใหม่เกม World of Warcraft จะให้ปกป้องเมือง Azeroth จากซอมบี้
เกมแนว MMORG ฟอร์มยักษ์อย่าง World of Warcraft: Shadowlands ได้มีการเปิดเผยอีเวนต์ใหม่ที่กำลังเข้าตัวเกมจริงบน เทสเซิฟเวอร์ เพื่อทดสอบความสเถียรของระบบ ซึ่งดูเหมือนว่าอีเวนต์นี้จะให้ผู้เล่นปกป้องเมือง Azeroth จากฝูงซอมบี้ที่มาบุกเมืองหลวงของ Azeroth ค่ะ !! ทาง Blizzard ได้ปล่อยแพทช์ใหม่ให้สามารถเข้าไปทดลองเล่นบนเทสเซิฟเวอร์ได้แล้วตอนนี้ การอัปเดตในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มอีเวนต์ซอมบี้เข้ามาเท่านั้น แต่ยังเพิ่มระดับเลเวลจากเดิมที่สูงสุดที่ 50 ขยายเพิ่มเป็นที่ 60 เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่สุดมันส์ให้ผู้เล่นอีกครั้ง บนเว็บไซต์ Reddit ได้มีผู้เล่นได้โพสต์วิดีโอว่าตนเองค้นพบว่ามีเหล่าซอมบี้ระบาดไปถึงนอกเมืองด้วยกัน ถือว่าตัวเกมทำการจำลองสถานะการณ์การแพร่ระบาดของพวกซอมบี้ที่เราได้เห็นในหนังออกมาในเกมได้ดีเลยทีเดียว เพราะเหล่า NPC ก็สามารถถูกกัด และกลายเป็นซอมบี้ได้เช่นกัน So this was about...An hour after people discovered this? The results were hilarious. from r/wow ซึ่งรายละเอียดของวันที่จะอัปเดตตัวเกมยังไม่มีออกมาอย่างชัดเจนแต่คาดว่าเร็วๆ นี้อาจจะได้เห็นประกาศอย่างเป็นทางการของทาง Blizzard  แน่นอนค่ะ Credit: Pcgamer  
13 Aug 2020
ผู้เล่น WoW นับพันเข้าร่วมไว้อาลัยให้กับ Reckful
ผู้เล่น World of Warcraft หลายพันคน รวมตัวกันในเกมเนื่องจากพวกเขาเสียใจกับการจากไปของ Reckful หนึ่งในสตรีมเมอร์ชาวอิสราเอลชื่อดังบนแพลตฟอร์ม Twitch ผู้เล่นทั่วทุกเซิฟเวอร์จะเข้าไปที่ Stormwind Cathedral (สถานที่ในเกม) เพื่อคุกเข่า และลำลึกถึงการจากไปของ Reckful  ภายในเกมมีจำนวนผู้เล่นเข้าเซิฟเวอร์จำนวนมาก และจะไปรวมตัวกันที่ Stormwind Cathedral เพื่อไว้อาลัยอย่างหนาแน่น สาเหตุของเรื่องน่าเศร้าในครั้งนี้เกิดขึ้นจาก Reckful ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงด้วยการฆ่าตัวตายจากคำให้การณ์ของเพื่อนเขา ทราบว่าเขามีอาการป่วยทางจิต ในโรคซึมเศร้า โดยก่อนที่เขาจะเสียชีวิตได้กล่าวลาถึงคนที่คอยสนับสนุนเขารวมถึงกลุ่มของผู้รับชม Twitch ด้วย The WoW community is coming together across many servers to hold in-game memorials for Reckful and mourn the loss of a legend:https://t.co/bNtZRh1Q5k pic.twitter.com/xBp1jIPW97 — Wowhead (@Wowhead) July 2, 2020 ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีตัวอย่างของสื่อในโลกออนไลน์ที่เราพบเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ ทางเราจึงขอร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของ Reckful ในครั้งนี้ด้วย Credit: Pcgamer
03 Jul 2020
10 เกมที่กลับมาได้หลังจากการเปิดตัวที่ย่ำแย่
เกมบางเกมสร้างขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก บางเกมค่อยๆ ดังตามกาลเวลา แต่มีเกมอีกประเภทหนึ่งครับที่เปิดตัวปุ๊ปเจอปัญหาเพียบ และถูกผู้เล่นวิจารณ์กันในด้านแย่ๆ แต่เชื่อมั้ยครับเกมเหล่านั้นได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรับปรุงแก้ไข จนทำให้มันกลับมาผงาดในโลกของวงการเกม ซึ่งเรามาดูกันครับว่าจะมีเกมอะไรบ้างที่เปิดตัวได้ย่ำแย่แต่ก็กู้ฐานแฟนคลับและแสดงสปริตของนักพัฒนากลับมาได้! Final Fantasy XIV Final Fantasy XIV เป็นอีกหนึ่งเกมที่จะเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาถึงความผิดพลาดที่บริษัท Square Enix เคยสร้างเกมซีรี่ส์นี้ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรกที่ออกมาในปี 2010 นั้น เกมนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบเป็นวงกว้างทั้งจากนักวิจารณ์และเหล่าเกมเมอร์ มากขนาดที่บริษัทยอมเลื่อนวันจ่ายค่าบริการรายเดือนสำหรับสมาชิกเกมนี้ออกไปและยังทำการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในเกม เช่น ปัญหาของเพลง ระบบการต่อสู้ ระบบอื่นๆ อีกมาก แต่สุดท้ายแล้วทีมพัฒนาจึงคิดได้ว่าปัญหาต่างๆ นั้นมันไม่ได้อยู่ที่ปลายเหตุ แต่อยู่ที่ต้นเหตุพวกเขาจึงโละทุกอย่าง เริ่มทำโครงการนี้และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จนกระทั่ง 3 ปีต่อมาครับ พวกเขาได้กลับมาโดยมีการใส่ชื่อเพิ่มมาว่า "A Realm Reborn" แต่ผลก็คือมันดีเกินคาดมากๆ Square Enix ได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อเกมเมอร์ และผู้กำกับผู้อำนวยการอย่าง Naoki Yoshida ก็กลายเป็นตำนาน. World of Warcraft ในหัวข้อนี้ถือเป็นข้อที่หลายๆ คนมักจะบอกได้เต็มปากว่า ค่าย Blizzard มักจะทำให้เกมของพวกเขามีปัญหาบ่อยในช่วงเปิดตัว แต่พวกเขาก็เก่งในเรื่องก้ไขใส่ใจกับเกมเมอร์ทุกคน อย่างเกม“ World of Warcraft” เกมที่เปิดตัวในปี 2004 และมาด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ที่รับผู้เล่นไม่ไหวถูกดีดออกกันเกือบครึ่ง เกมเพลย์ที่ดูจะล้าสมัย หรือการถูกดีดออกจากเกมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสำหรับประสบการณ์เรื่องปัญหาเหล่านี้ ผมขอชมเลยว่า ค่าย Blizzard มีภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถรับมือกับปัญหาเหล้านั้นได้ โดยพวกเขาได้ทำการปรับปรุงแก้ไขทุกอย่างจนเกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งยังเป็นจุดกำเนิด ต้นกำเนิดของเกมดังหลายๆ เกมอีกด้วย หลักฐานยืนยันก็คือมีผู้ลงทะเบียนเกือบ สิบล้านคนในปี 2009 และไปแตะยอดนึ่งร้อยล้านคนในปี 2014. Warframe Warframe เป็นเกมที่เปิดตัวในปี 2013 ซึ่งตัวเกมก็ไม่ได้ดังมากในช่วงนั้นครับ ทั้งยังได้รับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์และผู้เล่นจำนวนมาก ในตอนนั้นผมก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปเล่นครับตัวเกมจะไม่ได้มีความหลากหลายอะไรมาก เพียงแค่เราเลือกดาว เลือกด่านและจอยเข้าไปเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ สูงสุด 4 คนหน้าที่หลักๆ ก็คือกำจัดศัตรูและไปให้ถึงจุดหมายของเกม มันมีเท่านี้จริงๆ ครับในช่วงนั้น แต่พอเวลาผ่านไปผมกลับเข้าไปเล่นอีกครั้ง สิ่งที่ตกใจคือเกมมีอะไรที่เพิ่มเข้ามาเยอะมาทั้งระบบ PVP ระบบสู้ BOSS หรือดาวที่สามารถลงไปเพื่อพบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ ซึ่งล่าสุดด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งการโฆษณาและงานคุณภาพของเกมทำให้ในปี 2019 Warframe กลายเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมบน Steam และมีผู้เล่นมากถึงห้าสิบล้านคน! No Mans Sky เรียกได้ว่าในช่วงนั้นตัวอย่างการเปิดตัวของเกม No Mans Sky นั้นสร้างความผิดหวังให้กับเหล่าเกมเมอร์มากๆ หลังจากเกมวางจำหน่าย เพราะเกมนี้มีแต่โฆษณาที่เกินจริง สิ่งที่ขาดๆ เกินๆ มากมาย เช่น ไม่มีระบบออนไลน์แต่ตัวอย่างเหมือนจะมีระบบนั้น บั๊คเกมมหาศาล ระบบเกมที่ซ้ำๆ จำเจ ทำให้ช่วงนั้นกระแสด้านลบคะแนนใน Steam ลดลงเรื่อยๆ แต่แล้วผู้พัฒนาก็ไม่ยอมแพ้ครับ พวกเขาพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเช่น ใส่ระบบออนไลน์ ปรับปรุงเกมเพลย์ ยังมีการอัพเดทลูกเล่นต่างๆ อีกมากมาย ล่าสุดได้มีการรองรับระบบ VR ด้วยครับ บอกเลยว่าถึงแม้พวกเขาจะโฆษณาเกินจริงในช่วงแรก แต่ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนเป็นใช้คำว่าดีเกินกว่าที่โฆษณาไว้! Star Wars Battlefront II ทุกคนน่าจะรู้จักกับคนว่า Free To Win / Pay To Win ใช่มั้ยครับซึ่งผมจะสรุปดราม่าของเกมนี้ให้สั้นๆ นะครับคือเกมนี้นอกจากเราจะต้องเสียเงินเพื่อเข้าไปเล่นเกมแล้ว ซึ่งมันก็ดูน่าจะเป็น Free To Win แต่เกมดังมีระบบสุ่มกล้องในเกมอีก! จนทำให้ผู้เล่นรวมตัวกันกล่าวหาเกมในแง่ลบในจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้ส่งผลหนักไปถึงค่ายเจ้าของภาพยนต์ การเมืองเรื่องการออกกฏหมายจะห้ามมีการซื้อขายในเกม ( ในกรณีเราซื้อเกมมาแล้ว! ) จนในปัจจุบันทาง EA ก็น้อมรับคำติเหล่านั้นและปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างเช่น ระบบ Lootbox จะเป็นเพียงไว้สุ่มของตกแต่งเท่านั้น และปล่อยให้มีการอัพเดทฟรี! Halo: The Master Chief Collection ชุดเกม Halo ภาค1-4 นี้มีปัญหาที่หนักมากๆ ในช่วงแรกคือ การเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรเลยและหลุดบ่อยมาก การจับคู่หาทีมก็ช้ามากๆ จนทำให้ทาง Microsoft  ต้องมาไถ่โทษลูกค้าด้วยการให้ Xbox Live Gold ฟรีหนึ่งเดือน และแถม DLC อย่าง Halo 3: ODST มาให้ฟรีๆ และหลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามแก้ปัญหาการเชื่อมต่อจนสำเร็จและผู้เล่นก็กลับมาเล่นกันอย่างหนาแน่น ล่าสุดพวกเขาก็ทำการแฟลตข้ามไปยังร้านค้าอย่าง Steam  ( อย่าลืมนะครับว่าบางเกมพี่ Microsoft เขาจะวางขายแค่ร้านของพวกเขาเท่านั้น ) ที่สำคัญพวกเขาใส่ Halo Reach เข้าไปในคอลเลกชั่นอีกด้วย. Street Fighter V การสร้าง Street Fighter V ในช่วงนั้นเรียกได้ว่ามีความคาดหวังจากแฟนๆ ที่สูงมากครับ แต่ด้วยความกดดันและรีบร้อนในการทำเกมทำให้ช่วงแรกเกมทำออกมาได้ไม่ได้ ตัวเกมเหมือนจะขาดเนื้อหาของโหมดเนื้อเรื่องมากพอสมควร ไหนจะเซิร์ฟชอบมีปัญหาอีกและ DLC ที่ราคาแพงเกินไป สิ่งนี้ทำให้ผู้ผลิตเกมอย่าง Yoshinori Ono ออกมายอมรับถึงเกมนี้ว่ามันไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาไม่ใช่เพียงออกมายอมรับ พวกเขายังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาของเกมในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มโหมดเนื้อเรื่องให้มากขึ้น และใส่ตัวละครใหม่ๆ เข้ามา จนได้เปิดตัวภาค “Arcade Edition” ออกมาให้เราเห็นกันครับ. Sea of Thieves อีกเกมที่ไม่น่าจะทำออกมาพลาดได้อย่างเกม Sea of Thieves ของค่ายพัฒนา Rare เกมได้รับกระแสด้านลบจากนักวิจารณ์และเกมเมอร์ว่าขาดเนื้อหาและมีเจอปัญหาเยอะ ทำให้ช่วงแรกๆ เกมถูกผู้เล่นหลายๆ คนเบื่ออย่างรวดเร็ว เพราพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร ยังมีปัญหาด้านเซิร์ฟเวอร์ที่ล่มบ่อยด้วย แต่แล้วผู้พัฒนาได้เพิ่มลูกเล่นด้วยโหมดใหม่ Tall Tales, Arena และ Hunters Call ทำให้เกมมีความาหลากหลายในการเล่นมากขึ้น และยังมีการอัพเดทเรื่อยๆ ในอนาคตแน่นอน. Diablo III เกมตำนานภาคต่อที่เปิดตัวในปี 2012 ค่าย Bizzard อีกแล้วครับท่านเปิดตัวมาก็โดนเลยครับ ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้าเกมกันไม่ได้ และที่สำคัญระบบบางอย่างที่เป็นสเนห์ของเกมทางค่ายก็ดันไปตัดออกเฉยเลย ด้วยเหตุนี้ทำให้เกมถูกร้องเรียน แต่ทางค่ายก็ดื้อดึงที่จะยังไม่ทำการคืนเงินแก่ผู้เล่นที่เจอปัญหาเหล่านี้ พวกเขาเร่งแก้ไขและเพิ่มระบบใหม่ๆ ( ของเดิมที่ลบไปก็เอากลับเข้ามาครับ55 ) จนทำให้ผู้เล่นหน้าเก่าต้องกลับมาเล่นอีกครั้ง และดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ ได้ ซึ่งในปี 2015 เกมสามารถวางขายได้มากถึง 30 ล้านฉบับเลยทีเดียวครับ.
29 Jun 2020
Gabe Newell เผย: เคยใช้ชีวิตขาย M ในเกม World of Warcraft ได้เงินชั่วโมงเกือบ 700 บาท
ถ้าให้พูดถึงบุคคลสำคัญในวงการเกมยุคปัจจุบัน เชื่อว่าชื่อของคุณ Gabe Newell ผู้ก่อตั้งบริษัท Valve (ผู้ให้บริการร้านค้า Steam และผู้พัฒนาเกมอย่าง Half-Life, Left 4 Dead) น่าจะต้องไปอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน จากความสำเร็จอันล้มหลามของเกมที่ค่ายพัฒนา รวมไปถึงความสำเร็จของร้านค้า Steam ที่ครองตลาดเกม PC มาช้านาน จนทำให้ตัวคุณ Gabe เองได้รับรางวัล BAFTA Fellowship Award (รางวัลที่มอบให้ "ผู้ที่สร้างผลงานภาพเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยม" โดยองค์กรภาพยนตร์และโทรทัศน์ประเทศอังกฤษ) ในปี 2013 แต่รู้หรือไม่ว่า ท่ามกลางความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของคุณ Gabe นั้น เค้ายังเคยประสบความสำเร็จในฐานะคนขาย Gold ในเกม World of Warcraft อีกด้วย โดยเขาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร Edge Magazine ในขณะที่กำลังพูดถึงพัฒนาการของ Steam และแนวคิดของ Valve ที่ต้องการให้เกมเป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์ที่สร้างประโยชน์ได้จริง มากกว่าแค่เพียงสื่อบันเทิงอีกแบบหนึ่ง "เพื่อพิสูจน์แนวคิดนี้กับตัวเอง ผมเลยลองใช้ชีวิตเป็นคนขาย Gold (เทียบเท่ากับการขายเงิน M ในภาษาบ้านเรา) ในเกม World of Warcraft อยู่ช่วงหนึ่ง" คุณ Gabe กล่าวต่อผู้สัมภาษณ์ โดยเขาสามารถทำเงินได้สูงสุดถึง $20 (ราวๆ 600-700 บาทไทย) ต่อชั่วโมง ซึ่งเขามองว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยในหลายแห่งทั่วโลก การทดลองและแนวคิดของคุณ Gabe นำไปสู่การสร้างตลาด Steam Workshop ขึ้น ซึ่งเปิดให้ผู้เล่นจากทั่วโลกสามารถสร้างไอเทมต่างๆ ในเกมมาขายให้ผู้เล่นคนอื่น (เช่นสกินตัวละครใน Team Fortress หรือสกินปืนใน CS:GO) ซึ่งสุดท้ายแล้ว สามารถสร้างรายได้ให้ผู้เล่นมากกว่าชั่วโมงละ $20 เสียอีก "มันมีอยู่ทีหนึ่ง ที่เราได้รับโทรศัพท์จากผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง ที่สงสัยว่าพวกเราใช้ลูกเขาขายยาเสพติดหรือเปล่า เพราะพวกเขาได้รับทราบจาก PayPal ว่ามีเงินจำนวนมากถูกโอนเข้าสู่บัญชีของลูกของเขาในระยะเวลาอันสั้น จึงน่าสงสัยว่าเขาอาจจะกำลังค้าขายยาเสพติดหรือสินค้าผิดกฏหมายอื่นๆ" ผมจึงอธิบายไปว่าลูกของพวกเขาได้สร้างไอเทมจากเกม Team Fortress ขาย โดยเขาทำเงินไปได้ถึง $500,000 แล้วในปีเดียว (ราว 16 ล้านบาท) เหตุการครั้งนี้ทำให้พวกเรามั่นใจว่าแนวคิดของพวกเรา ในการสร้างเกมให้เป็นพื้นที่แสดงออกมันได้ผล และมันก็มีอิทธิพลต่อการสร้างเกมของเราด้วย" Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
30 Mar 2020
Epidemiology ปราการด่านหน้า ของการศึกษาโรคร้าย และผลกระทบต่อวงการเกม
ยอดผู้ติดเชื้อที่ 85,397 คน ยอดผู้เสียชีวิตที่ 2,923 ราย ชื่อจำนวนอย่างเป็นทางการของกรณีไวรัสร้าย Covid-19 ณ ขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้ จากเว็บไซต์นับยอด Wuhan Virus ที่รันไปตลอด 24 ชั่วโมง ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงไปอย่างง่ายๆ จัดได้ว่าเป็นวิกฤติระดับโลกที่ทางหน่วยงานต่างๆ กำลังเร่งหาทางรับมือกันอย่างสุดความสามารถ แน่นอนว่า เราจะยังคงต้องอยู่กับเชื้อร้าย Covid-19 กันด้วยความระวังกันอีกระยะใหญ่ๆ แต่อย่างน้อยที่สุด วิทยาการสมัยใหม่ที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์ของบุคลากรทางการแพทย์ ดังเช่น ศาสตร์แห่งระบาดวิทยา (Epidemiology) ก็เป็นปราการด่านหน้า ที่จะทำให้เรามีความเข้าใจถึงสถานการณ์ และหาทางรับมือได้อย่างถูกต้องภายใต้สภาวะที่น่าตื่นตระหนกเหล่านี้ แล้วศาสตร์แห่งระบาดวิทยาคืออะไร? มันได้รับการพัฒนาต่อยอดมาในทางไหน? และที่สำคัญ มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับแวดวงวิดีโอเกม คำถามทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ต่างอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราจะคาดคิด เพราะไม่เพียงแต่มันจะเคยมีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง แต่ชิ้นงานวิดีโอเกมเองก็ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยให้เข้าใจศาสตร์นี้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราจะขอนำเสนอให้คุณได้รับทราบกัน ระบาดวิทยา: ความหมาย และที่มา ในเบื้องต้น เราอาจจะต้องทำความเข้าใจในนิยามของศาสตร์แห่งระบาดวิทยากันในเบื้องต้น นั่นคือ ศาสตร์ที่ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพและความเจ็บป่วยของประชากร ที่จะต่อยอดไปยังกระบวนการทางสาธารณสุขและเวชศาสตร์การป้องกันที่อิงหลักฐาน (Evidence-Based Medicine) พร้อมทั้งหาปัจจัยเสี่ยงของโรคและประเมินพร้อมออกแบบการป้องกันที่เหมาะสมสำหรับกรณีนั้นๆ และถือได้ว่าเป็นวิทยาศาสตร์สายประยุกต์ (Applied Sciences) เพราะต้องผนวกกับความรู้ทางด้านชีววิทยา สังคมศาสตร์ คณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ มานุษยวิทยา จิตวิทยา ที่จะผันแปรความสัมพันธ์เกี่ยวกับสาเหตุ (Causal Relationships) ที่จะบอกได้ว่า โรคที่เกิดขึ้นนั้น จะสามารถเป็นโรคระบาดได้หรือไม่ แนวคิดแห่งระบาดวิทยานี้ สืบย้อนกลับไปได้ยังสมัยโบราณกาล ที่ ฮิปโปเครติส (Hippocrates) ปราชญ์ชาวกรีก ได้ถูกถือว่าเป็นบิดาแห่งวิชาระบาดวิทยา เป็นการผสมกันของคำว่า Epi (บน), Demos (ประชาชน, เขต) และ Logos (คำ, การบรรยาย) เพราะเป็นคนแรกที่พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดโรคและอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้บัญญัติศัพท์ที่สำคัญอย่างมากในทางการแพทย์นั่นคือ โรคเฉพาะถิ่น (Endemic) ที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่แต่ไม่พบในที่อื่น และ โรคระบาด (Epidemic) ที่เกิดขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาหนึ่ง ดังเช่นไวรัส Covid-19 ครั้งนี้   ศาสตร์แห่งระบาดวิทยาถูกพัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงศตวรรษที่ 19 พี.เอ.ชไลส์เนอร์ (P.A.Schleisner) ได้บุกเบิกศาสตร์แห่งระบาดวิทยามาใช้อย่างจริงจังในการป้องกันโรคบาดทะยักในเด็กแรกเกิด (Tetanus Neonatorum) บนเกาะเวสท์แมนนา (Vestmanna Islands) ประเทศไอซ์แลนด์ในปี 1849 ก่อนที่จะมาถึงศตวรรษที่ 20 ที่ โรนัลด์ รอสส์ (Ronald Ross) และ แอนเดอร์สัน เกรย์ แม็คเคนดริค (Anderson Gray McKendrick) จะผนวกเอาหลักคณิตศาสตร์เข้าไปในระบาดวิทยา เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการคาดคะเนปรากฏการณ์การแพร่ระบาดยิ่งขึ้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแวดวงวิดีโอเกมจากไวรัส Covid-19 สำหรับแวดวงวิดีโอเกม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั้นรุนแรงและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จากสภาพการณ์ที่ไม่แน่นอน ตั้งแต่การยกเลิกการจัดแสดงโชว์ของ Sony ในงาน PAX East 2020 ที่กรุงบอสตัน พร้อมการยกเลิกงาน Game Developers Conference 2020 ที่เลื่อนกำหนดออกไปเป็นช่วงซัมเมอร์ (แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับสถานการณ์ในขณะนั้นๆ ซึ่งต้องมาพิจารณากันต่อไป) นอกเหนือจากนั้น แวดวง e-Sport เองก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ลีกการแข่งขันที่เคยมีแปลนเอาไว้ในปี 2020 ไม่ว่าจะเป็น OWL, LCK, PSG และ LJL ต่างต้องยกเลิก เมื่อไวรัส Covid-19 ได้แพร่ระบาดจากประเทศจีนไปสู่ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยเฉพาะประเทศหลัง ที่ยกระดับการแพร่ระบาดขึ้นไปสู่ระดับที่ 3 ซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนต้องได้รับการตรวจสุขภาพและจำกัดตัวเองอยู่ในบ้าน สำหรับสายการผลิตเกมก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน เมื่อกำหนดการวางจำหน่ายของชิ้นงานจากหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และการโรงงานผลิตชิ้นส่วนของฮาร์ดแวร์อย่าง Playstation 5 และ Xbox Series X ก็ต้องเลื่อนและลดกำลังการผลิตลงไปเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน แต่ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ดูจะเป็นนักพัฒนาเกมจากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ต้องอยู่ภายใต้การกักกันตัวเอง 14 วัน ที่สร้างความลำบากให้กับกระบวนการผลิตของค่ายเล็กๆ ทั้งในเรื่องของเวลา ค่าใช้จ่าย และการกำหนดทิศทางเป้าหมายในการพัฒนาเกมของตนเอง ผู้พัฒนาเกมอินดี้กว่า 150 คน ไม่สามารถเข้าร่วมงาน PAX East 2020 ซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ชิ้นงานเกมที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ระบาดวิทยา อนึ่ง ในโลกแห่งวิดีโอเกมนั้น ก็มีผลงานที่สำคัญสำหรับศึกษาเกี่ยวกับระบาดวิทยาที่วางจำหน่ายมาได้แล้วหลายปีที่ยังคงน่าสนใจ (และทวีความน่าสนใจ) ขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวนั่นคือ Plague Inc. จากทีม Ndemic Studios ที่วางจำหน่ายบนระบบโมบายล์มาตั้งแต่ปี 2012 ก่อนจะพอร์ทลงสู่ระบบพีซีและแมคในอีกสามปีถัดมา ระบบของเกมนั้นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ที่ผู้เล่นจะได้เลือกประเภทของเชื้อโรคร้าย ทำการพัฒนาสายพันธุ์ ปรับตัวอยู่รอดตามสถานการณ์โลก โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การทำลายล้างมนุษยชาติให้หมดสิ้นไป แน่นอนว่า ภายใต้สภาวะวิกฤติแห่ง Covid-19 นั้น ช่วยให้ความสนใจของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงานคลาสสิคนี้พุ่งขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ยอดขายบนแพลทฟอร์ม Steam พุ่งสูงขึ้นถึง 75% รวมถึงสำนักงานป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกาหรือ CDC ก็ใช้เกมนี้เพื่อจำลองสถานการณ์การแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นจริงบนโลก ในงาน Global Game Jam 2020 เองก็มีความเคลื่อนไหวที่ล้อไปกับการแพร่ระบาดของเชื้อร้าย Covid-19 ด้วยเช่นกัน เพราะผลงานจากทีมพัฒนาจากไต้หวันอย่าง 2019-nCOV Stole My DNA และ Novel Containment ของ Mike Ren จากประเทศจีนก็เป็นสีสันหลักของงาน (แม้ว่าเกมจะถูกพัฒนาภายใต้สภาวะที่จำกัดอย่างถึงขีดสุดก็ตาม) Corrupted Blood Incident: กรณีศึกษาระบาดวิทยาจากเกม World of Warcraft แต่คงไม่มีกรณีการแพร่ระบาดใดในโลกวิดีโอเกมจะถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง และถูกยกมาเป็นกรณีศึกษาสำหรับศาสตร์แห่งระบาดวิทยาได้เท่ากับ ‘Corrupted Blood Incident’ ที่เกิดขึ้นกับเกม World of Warcraft ในวันที่ 13 กันยายน 2005 ที่สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้เล่น และถูกแก้ไขด้วยมาตรการอย่างเด็ดขาดจากทาง Blizzard Entertainment เหตุการณ์นี้ เริ่มต้นขึ้นจากการต่อสู้ของผู้เล่นกับ Hakkar the Soulflayer บอสประจำ Zul’Gurub หนึ่งในดันเจี้ยน Raid สำคัญของเกม ที่มีความสามารถ Corrupted Blood ที่จะทำความเสียหายอย่างมากในทุกๆ สองวินาที และสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสกันของผู้เล่น ทั้งหมด ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เพราะทาง Blizzard Entertainment ก็กำหนดขอบเขตของความสามารถดังกล่าวของบอสให้จำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ต่อสู้ เป็นหนึ่งใน Mechanic ของเกมเท่านั้น แต่ทุกอย่างเริ่มบายปลาย เมื่อ Glitch ของตัวเกม ทำให้บรรดาสัตว์เลี้ยงหรือ Pet ของคลาส Warlock และ Hunter ติดเชื้อ และแพร่ออกไปนอกพื้นที่ ส่งผลให้ผู้เล่นเลเวลต่ำนั้นตายในทันทีที่ได้รับการสัมผัส รวมไปถึงเหล่า NPC ที่แม้จะไม่มีอาการอะไร แต่ก็ทำหน้าที่เป็น ‘พาหะแพร่เชื้อ’ ใส่ผู้เล่นในพื้นที่ให้กระจายวงกว้างออกไปอย่างที่ไม่อาจควบคุม และไม่มีจุดที่จะหยุดยั้ง เริ่มแรก ผู้เล่นส่วนใหญ่คิดว่านี่เป็นเพียง World Events หรือเหตุการณ์พิเศษระดับโลก แต่เมื่อทุกอย่างแพร่กระจายราวกับไฟลามทุ่ง ซากศพของผู้เล่นกองพะเนินในเขตพื้นที่เมืองใหญ่ และส่งผลกระทบต่อสามเซิร์ฟเวอร์หลัก ก็กลายเป็นปัญหาที่ทาง Blizzard ต้องเข้ามาแก้ไข และใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ แพทช์อีกหลายตัว บวกกับการรีเซตโลกครั้งใหญ่ จึงสามารถยุติการแพร่ระบาดของเชื้อเสมือนเหล่านี้ลงได้ เหตุการณ์นี้ ถูกอ้างอิงในวารสารทางการแพทย์ Epidemiology ของ Ran D.Balicer นักระบาดวิทยาจากสถาบัน Ben-Gurion University of Negev แห่งประเทศอิสราเอล เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในกรณีที่เกิดการระบาดของเชื้อโรค โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้เข้ากับการระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก รวมถึงถูกใช้อ้างอิงเป็นกรณีศึกษาเรื่องระบาดวิทยาในงาน Games for Health Conference และ Game Developers Conference ถึงตัวอย่างในโลกเสมือนที่ใช้สำหรับการแก้ปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งทาง Blizzard Entertainment ยังศึกษาพฤติกรรมของผู้เล่น เพื่อใช้สำหรับสร้าง World Events ที่ตามมาในภาคเสริมอีกหลายตัว ระยะทางที่ยังเหลืออยู่ และปราการด่านแรกรับมือโรคร้าย คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า วิกฤติการณ์ไวรัส Covid-19 ครั้งนี้ คือมหันตภัยร้ายแรงที่กำลังเข้าคุกคามชีวิตของทุกคนบนโลก ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางหนึ่ง การสาธารณสุข เวชศาสตร์การป้องกัน และการตอบสนองที่ฉับพลันต่อสถานการณ์ของนานาประเทศ รวมถึงชิ้นงานวิดีโอเกมที่ให้ความรู้ความเข้าใจ ก็น่าจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่า วันข้างหน้า ยังคงไม่มืดมนจนเกินไปนัก เพราะมนุษยชาติต่างเคยเผชิญวิกฤติโรคร้ายมานับไม่ถ้วน และสามารถผ่านพ้นมาได้ ครั้งนี้เองก็คงจะไม่ต่างกัน ข้อมูลอ้างอิงประกอบการเขียน -Coronavirus Counter (https://multimedia.scmp.com/widgets/china/wuhanvirus/) -วิทยาการระบาด, วิกิพีเดีย (https://th.wikipedia.org/wiki/วิทยาการระบาด) -Coronavirus has video game giants rethinking their trade show plan, Chriss Morris, Fortune (https://fortune.com/2020/02/24/coronavirus-video-games-sony-gdc-pax/) -Games industry faces major disruption across all sectors as coronavirus spreads, Haydn Taylor, gamesindustry (https://www.gamesindustry.biz/articles/2020-02-06-nintendo-switch-hit-by-unavoidable-production-delay-amid-coronavirus-outbreak) -‘Final Fantasy 14, Cyberpunk 2077, & PUBG Devs Pull Out of Pax East, Hypebeast (https://hypebeast.com/2020/2/square-enix-pax-east-coronavirus-fears-scaling-back) -Novel Coronavirus Affects Esports in South Korea and Japan, Hongyu Chen, esportsobserver (https://esportsobserver.com/china-esports-recap-feb26-2020/) -Making indie games under the coronavirus quarantine, Alexis Ong, Rock Paper Shotgun (https://www.rockpapershotgun.com/2020/02/24/indie-games-in-the-time-of-coronavirus/) -Corrupted Blood Incident, Wikipedia (https://en.wikipedia.org/wiki/Corrupted_Blood_incident)
05 Mar 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
Nostalgia Effect: ความคะนึงหา และคุณค่าของเวลาที่ผ่านเลย
ถึง ตัวฉันเมื่อ 18 ปีที่แล้ว… นายเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือเปล่า? เรารู้ว่ามันเป็นคำถามพื้นๆ แสนสามัญ ที่ตัวเราก็พอจะทราบดี ว่านายในวัย 17 ปี กำลังต่อสู้กับอะไรบ้าง เราอยากบอกว่านายไม่ต้องเป็นห่วง เพราะไม่ว่าจะด้วยความสับสนในหนทาง ความไม่เข้าใจ ความไม่แน่ใจ ทั้งหลายเหล่านี้ เชื่อเถอะว่ามันเป็นเพียงด่านที่หนึ่งในเกมชีวิตที่นายมีความสามารถที่จะฝ่าฟันมันไปได้ แต่นี่แน่ะ เราเขียนถึงนาย ไม่ใช่ว่าจะมาบ่นอะไร แต่อยากจะชวนคุยกันในเรื่องที่นายก็มีความสุขกัน ใช่แล้ว เรื่องของวิดีโอเกมยังไงล่ะ เชื่อว่าตอนนี้นายน่าจะสนุกกับเกมวางแผนอย่าง Warcraft 3: Reign of Chaos และภาคเสริม The Frozen Throne ของค่าย Blizzard Entertainment ที่สร้างกระแสความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับแนวเกม ที่ผสมผสานปัจจัยของเกม RPG เข้ากับการวางแผนแบบ Real-Time ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งใหม่มากๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นายรู้มั้ย เวลาผ่านไป 18 ปี ค่าย Blizzard นำผลงานอันทรงคุณค่านี้กลับมาปัดฝุ่น ปรับโฉมใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Reforged’ และออกวางขายให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้ซื้อมาเล่นกันอีกครั้ง (อ้อ แล้วถ้านายสงสัย Starcraft 2 ก็วางจำหน่ายไปแล้วได้หลายปี ปิดตำนานแห่งสงครามอวกากศในแบบที่ไม่มีอะไรให้ค้างคาใจ พร้อม Diablo ที่ภาค 4 กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า) แต่สำหรับกรณีนี้ เรามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย นายอยากจะฟังข่าวไหนก่อน? เราขอเริ่มที่ข่าวร้าย เพราะการ ‘Reforged’ ที่ควรจะเป็นการปัดฝุ่น พัฒนา และต่อยอดตามยุคสมัย กลับกลายเป็นชิ้นงานอันสุดแสนอัปยศที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เวลากว่าสามทศวรรษของบริษัท Blizzard อย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้ นายคงจะรู้สึกตกใจระคนประหลาดใจ ว่าเรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรือ แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าวันเวลาสามารถเปลี่ยนคนได้ฉันใด สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไปอยู่ใต้ปีกของ Activision ผู้จัดจำหน่ายหน้าเลือดก็สามารถเปลี่ยนได้ฉันนั้น (นี่คงเป็นอีกข้อที่น่าสงสัย เพราะยุคสมัยของนาย ชื่อของ Activision นั้นดีงามไม่เคยมีรอยด่างพร้อยใดๆ ให้เห็น แต่นั่นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นายจะได้รับรู้ในไม่ช้า…) ความพังพินาศของ Warcraft 3: Reforged นั้น ร้ายแรงจนเกินจะเยียวยา ทั้งปัญหาทางเทคนิค ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ ปัญหาด้านกราฟิก ปัญหาการโฆษณาเกินจริง และเมื่อ CEO หัวเรือใหญ่ออกมาปัดความรับผิดชอบ ไม่รู้ ไม่เห็น และไม่สนใจ ช่วยซ้ำรอยบาดแผลนี้ให้ลึกเกินกว่าจะสมาน อย่างน้อยยังดี ที่ทางบริษัทยังใจดี ให้ผู้ที่ไม่พอใจสามารถทำการ Refund เงินคืนได้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ (นี่ก็เป็นอีกหนึ่งศัพท์ใหม่ที่นายจะได้คุ้นเคยกับมันในเวลาข้างหน้า และเชื่อเถอะว่า มันจะทำให้ชีวิตการเล่นเกมของนายนั้นสะดวกสบายขึ้นอีกโขเลย…) กล่าวมาถึงตรงนี้ นายอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นอนาคตที่ไม่น่าพิสมัย ไม่น่าเข้าใกล้ และไม่น่าเดินทางมาถึง (ใช่ มันเป็นห้วงเวลาอันโหดร้าย และนี่ยังไม่ได้นับถึงปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่จะเกี่ยวพันกับชีวิตของนายในไม่ช้านี้อีกนะ) แต่ถ้าจะมีข่าวดีอะไรที่เราอยากจะบอกนาย เราก็คงกล่าวอย่างสั้นๆ ง่ายๆ ว่า …. ‘ขอบคุณ’ ขอบคุณในเรื่องอะไร? นายคงจะสงสัยอยู่ภายในใจ แต่เราก็ยังบอกอย่างง่ายๆ อีกครั้งว่าขอบคุณ ขอบคุณที่ยังรักที่จะเล่นวิดีโอเกม ขอบคุณที่ยังเชื่อมั่นในวงการ ขอบคุณที่ยังหลงใหลในชิ้นงาน ที่นำมาซึ่งเรื่องที่ดีในเวลาอีกสิบแปดปีข้างหน้า ในเวลานี้ วงการเกมขยายตัวใหญ่โตกว้างขวาง ผสมผสานงานศิลป์เข้ากับงานฝีมือได้อย่างเต็มศักยภาพ และแน่นอนว่า เมื่อเทคโนโลยีเดินทางมาถึง บวกรวมกับความคิดคำนึงถึงชิ้นงานเก่าๆ ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง เราจึงยังเห็นผลงานสุดคลาสสิคที่กลับมาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ High-Definition Edition, Remaster ไปจนถึงที่สำคัญที่สุดคือ การ Remake กลับมาสร้างใหม่ ภายใต้ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงผ่านไปอย่างก้าวกระโดด (ขอโทษอีกครั้ง ที่จดหมายฉบับนี้อาจจะมีศัพท์แสงที่ยากต่อการเข้าใจ แต่ยังย้ำว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่นายได้คุ้นเคยแน่ๆ ในอนาคตภายภาคหน้า) ผลงานเกมคลาสสิคที่กลับมาใหม่นั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะด้วยซีรีส์ซอมบี้สยอง Resident Evil ที่ Remake ไปแล้วถึงสามภาค, เกมวางแผนสุดคลาสสิค Command and Conquer ที่จะ Remastered ให้ภาพสดสวยความละเอียดคมชัดลึกถึงอณู หรือแม้แต่เกมที่เราและนายรัก อย่าง Final Fantasy VII ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการ Remake ให้กับระบบ Playstation 4 และจะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ที่กำลังจะมาถึง (ใช่แล้วล่ะ Playstation ยังคงยืดหยัดท้ากาลเวลามาได้ถึงสี่รุ่นเชียวนะ!!) ทุกสิ่งที่กล่าวไปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ความคิดคะนึงหา หรือที่เราขออนุญาตเรียกว่า ‘Nostalgia Effect’ ของเหล่าแฟนๆ ที่ยังคงมุ่งหวังจะได้เห็นผลงานเกมที่ตนรัก ได้กลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ กลับมามอบความสนุก และกลับมาถูกบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสำเนียงที่แตกต่างออกไปตามยุคสมัยและวันเวลา มันเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากๆ ที่สามารถขับเคลื่อนได้แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเสียงแห่งความต้องการดังกล่าว ปีนี้ … ค.ศ.2020 น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของวงการเกม เรามีผลงานชั้นยอดมากมายที่พร้อมจะวางจำหน่ายในตลอดปี เรามีผลงานที่ชวนให้คิดถึงวันวานอันแสนหวานสมัยกระโปรงบานขาสั้น และเรามีวงการที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในแต่ละวันที่ผันผ่าน และถ้านั่นไม่เรียกว่าข่าวดี แล้วเราจะเรียกว่าอะไรได้? อีกครั้ง เราขอบคุณนาย จากใจจริง รวมถึงทุกคนที่ยังเชื่อมั่น และส่งพลังแห่งการคะนึงหาให้สิ่งที่ดีๆ ได้กลับมาอีกครั้ง และแม้จะมีความผิดพลาดที่เกิดจาก Warcraft 3: Reforged แต่มันก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังจะตามมา ดังนั้น เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ให้ดี มันจะมีคุณค่าสำหรับนายอย่างแน่นอน ด้วยรักและยังคะนึงถึง ตัวนายในอีก 18 ปีข้างหน้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Feb 2020
สรุปดราม่า Warcraft 3 Reforged หนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020!
Warcraft 3 กับ Warcraft 3: Frozen Throne อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Blizzard เป็นอย่างมากในช่วงปี 2002 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องของเกมที่สนุกมาก ๆ ระบบเกมเพลย์ที่ดี และมีเกมชื่อดังมากมาย ที่ได้ถือกำเนิดมาจากเกมนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น World of Warcraft หนึ่งในเกม MMO ที่ดีที่สุดในโลก หรือ DOTA 2 เกม MOBA ที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็ล่วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจาก Warcraft 3 ทั้งนั้น ดังนั้นถ้าจะบอกว่านี้คือหนึ่งในเกมระดับตำนาน ก็คงจะไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างที่รู้กันว่าช่วงนี้กำลังมีกระแสดราม่าเกี่ยวกับเกม Warcraft 3 Reforged ที่เป็นเหมือนเวอร์ชั่น Remastered ของเกมอยู่ แล้วดราม่านี้เริ่มได้ยังไง? , ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตสะเทือนวงการเกมขนาดนี้? วันนี้พวกเรา GameFever Th จะพาไปดูกันครับ จุดเริ่มต้นของดร่าม่าครั้งนี้ อย่างที่ได้กล่าวมาในข้างต้นว่า Warcraft 3 นั้นถือเป็นต้นกำเนิดของเกมฟอร์มยักษ์มากมายในปัจจุบัน ทำให้ตอนที่ Blizzard บอกว่าจะเอาเกมนี้มา Remake และวางจำหน่ายอีกครั้งในชื่อ Warcraft 3 Reforged พร้อมกับปล่อย Trailer แรกของเกมในงาน Blizzcon ปี 2018 มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะนี้หมายถึงเกมระดับตำนานจะกลับมาให้เราเล่นอีกครั้ง แต่มีภาพ กราฟิก ที่สวยเหมือนเกมในยุคใหม่ อย่างที่เห็นในวิดีโอข้างบนว่า กราฟิกของตัวเกมมันมีความสวยงามขึ้นอยางมากจริง ๆ ทำให้เหล่าแฟน ๆ แทบจะรอไม่ไหว ยิ่งช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2019 ที่มี วิดีโอเกมเพลย์ของ Warcraft 3 Reforged ออกมาทาง Channel Youtube ที่ใช้ชื่อว่า Book of Flames แต่กลับไม่มีใครที่ออกมารีวิวเกมแบบ เสีย ๆ หาย ๆ เลย ก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นมั่นใจว่า พอตัวเกมวางจำหน่ายจริง ๆ ทุกอย่างมันจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน และในวันที่ 28 มกราคม 2020 ตัวเกมก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่แทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เล่นคาดหวังจะได้เห็นในเกมเวอร์ชั่นนี้ มันกลับไม่เหมือนที่คิดครับ ฉาก Cinematic ของเกมที่หายไป และ Ui ไม่เหมือนที่เคยโฆษณาเอาไว้ ตอนเกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Blizzcon 2018 ได้มีการโชว์ฉากที่ Arthas ต้องเข้าไปทำลายเมืองที่มีผู้ติดเชื่อ ซึ่งได้มีการทำ Cinematic ในเกมใหม่อย่างสวยงาม แต่พอตัวเกมจริง ๆ ออกมา ไอ้ฉากดังกล่าวมันกลับถูกทำออกมาในอีกแบบหนึ่ง จนทำเอาผ้เล่นงงเป็นไก่ตาแตกว่า "อ่าวแล้วฉากที่เคยได้เห็นในงาน Blizzcon หายไปไหน?" อีกทั้งตัว UI ของเกม ก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนกับที่เอามาโชว์ในงาน เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้สึกโกรธมาก ๆ ครับ กราฟิกของเกมถูกเปลี่ยนแค่ Model ของตัวละครเท่านั้น ระยะเวลาระหว่าง Warcraft 3 กับ Warcraft 3 Reforged นั้นห่างกันถึง 18 ปี บวกกับคำพูดของทาง Blizzard เองว่านี้คือการ Remake ไม่ใช้ Remastered ทำให้แฟน ๆ คาดหวังที่จะได้เห็นเกมใหม่ที่มีภาพสวยงามสมกับที่ออกในปี 2020 แต่ความจริงก็ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะตัวเกมจริง ๆ ที่ออกมา นอกจาก Model ของตัวละคร ที่มีการทำใหม่แล้ว ตัวแมพแทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย มีแค่ Texture เท่านั้นที่ดูสวยขึ้น เหมือนกับว่านี้เป็นเพียงแค่ Pack เอาไว้อัปเดต Model ของตัวละคร กับปรับ Texture ในเกมให้ส่วยขึ้น แต่กลับมีราคาถึง $29.99 มากกว่า ส่งผลให้นี้เป็นอีกเรื่องที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนไม่พอใจอย่างมากครับ bug ของเกมที่มีเยอะมาก ๆ จนเป็นเหมือนเกมยังทำไม่เสร็จดี หลังจากประกาศเปิดตัว ข่าวคราวของเกมก็เงียบหายไปเลย บวกกับสิ่งที่ถูกเพิ่ม หรืออัพเกรดจริง ๆ มีแค่ไม่กี่อย่างดังที่กล่าวมาข้างบน ซึ่งมันควรจะหมายความว่าระบบหลังบ้านของเกม และอื่น ๆ มันควรจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ก็มีผู้เล่นจำนวนมาก ที่ต้องหงุดหงิดกับ bug มากมายที่มีในเกม บางรายหนักถึงขนาดที่ว่าตัวเกมไม่มีเสียง จนต้องทำการเปิดปิดใหม่เป็น 10 รอบถึงจะหายเลยด้วย Blizzard ไม่อณุญาติให้ Refuned แน่นอนว่าพอเกมไม่ถูกใจผู้เล่นขนาดนี้ ก็มีผู้เล่นจำนวนมากที่ขอ Refunds เกม ซึ่งทาง Blizzard ก็ตอบกลับได้การไม่อนุญาตให้ Refunded เกม แถมยังแบน User ที่ตั้ง Forum "วิธีการขอ Refunded เกม" อีกด้วยงานนี้ก็ยิ่งสร้างความไ่พอใจให้กับแฟน ๆ มากขึ้นไปอีก บทสรุปของดราม่า จนในเช้าของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2020 ทาง Blizzard ก็เหมือนจะไม่สามารถ ทนต่อเสียงด้านลบจำนวนมาก แรงกดดัน และการคอมเพลนจากผู้เล่นไหว สุดท้ายจึงมีการเปิดให้สามารถขอ Refunded เกมได้ เป็นการปิดม่านดราม่าในครั้งนี้ ตัวผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกผิดหวังกับเกม Warcraft 3 Reforged มากเหมือนกัน แต่ไม่ว่ายังไง Blizzard ก็ยังเป็นชื่อของหนึ่งในผู้สร้างเกมยอดเยี่ยมมาโดนตลอดเหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่าผลงานต่อ ๆ ไปของพวกเขา มันจะดีมากขึ้นครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft III: Reforged ไกด์แนะนำแต่ละเผ่า สำหรับมือใหม่
กลับมาอีกครั้งสำหรับเกมในตำนานอย่าง Warcraft 3 ที่ตอนนี้ทางค่าย Blizzards ได้นำกลับมาทำเป็นเวอร์ชั่น Remaster ให้เหล่าแฟนๆได้รำลึกความหลังกันอีกครั้ง ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า Warcraft เป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับ Blizzard เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีเกมอย่าง Starcraft ที่สร้างชื่อเสียงให้ไม่แพ้กัน แต่เกมอย่าง Warcraft 3 น่าจะเป็นเกมที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักกับค่ายนี้ และยังไม่พูดถึง World of Warcraft ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์อย่างนึงของเกมเมอร์ MMORPG ในยุคนั้นเลยล่ะและในวันที่ทาง Gamefever TH จะมาบอกถึงไกด์และคำแนะนำต่างๆสำหรับมือใหม่ว่าจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย การเลือกเล่นของแต่ละเผ่า ผู้เล่นหน้าใหม่คงจะสับสนกันว่าจะเลือกเล่นเผ่าไหนดี และง่ายต่อการเลือกมาเล่นเป็นเผ่าแรกโดยในเกมนี้ความสามารถของแต่ละเผ่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และมีความยากง่ายแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับสไตล์ของผู้เล่นว่าจะชอบยิงอย่างเผ่า Elf หรือบู้ล้างผลาญของเผ่า Orc รวมไปถึงถ้าใครพึ่งได้เข้ามาเล่นเกมนี้แนะนำให้เล่นเป็นเผ่า Human จะง่ายที่สุดครับ เนื่องจากการอัพเกรดสิ่งก่อสร้างต่างๆนั้นไม่ซับซ้อนมากเท่ากับเผ่าอื่นๆภายในเกมขณะที่เผ่าอย่าง Night Elf , Undead จะมีความท้าทายมากกว่าเท่าตัว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์มาพอสมควรและจำเป็นต้องใช้เวลาฝึกฝนถึงจะสามารถเล่นสองเผ่านี้ได้อย่างชำนาญโดยจะแยกข้อมูลการเล่นของแต่ละเผ่าดังนี้ เผ่า HUMAN เผ่าพันธุ์ที่เป็นเผ่าแรกเริ่มของเกม ในภาคเนื้อเรื่อง จะมีตัวละครหลักเป็นอาร์ธัส [Prince Arthas] บุตรของราชาเทเรนัสแห่ง Lordaeron เผ่า Human ผู้เล่นสามารถมีกองทัพหรือจำนวนยูนิตที่เยอะได้ไม่ยาก ในช่วงต้นเกมก่อนที่จะมีการสร้างฟาร์มเสียอีกมันจึงเป็นเผ่าที่ผู้เล่นหน้าใหม่ควรที่จะฝึกก่อนเผ่าอื่นๆ แต่ข้อเสียของพวกเขาคือมีพลังชีวิตที่น้อยกว่าเผ่าอื่นๆอย่างมากและมีจุดเด่น ที่เราสามารถจะอัพเกรดชุดเกราะเพื่อกลบจุดด้อยนี้ได้คุณลักษณะของเผ่านี้คือจะมีค่าเกราะที่สูงกว่าพลังชีวิตและสามารถบูทพลังโจมตี และค่าป้องกันบวกกับปั้มจำนวนยูนิตได้ง่ายๆรวมถึงยังมีนักเวทย์ที่โกงเป็นอันดับต้นๆของเกม ซึ่งเป็นไผ่ตายของเผ่ามนุษย์นั้นเองเป็นเผ่าที่แนะนำให้เล่นเป็นอันดับแรกเลยครับเทคนิคของเผ่านี้คือเน้นสร้างเป็นกองทัพเยอะๆ และวางจำนวนยูนิตให้ถูกตำแหน่งพร้อมทั้งปั้มนักเวทย์ด้วยรับรองเอาลงยากแน่นอน เผ่า ORCS Orcs เผ่าสุดแกร่งถึกตายยากมีพลังโจมตีระยะประชิดที่รุนแรง ที่สุดกว่าเผ่าอื่นๆภายในเกมโดยมีนักเวทย์ประจำเผ่าอย่าง Shaman ที่คอยบูทพลังโจมตีที่หนักหน่วงเข้าไป และเพิ่มความเร็วในการโจมตี และยังมี Witch Doctors สายฮิลที่คอยซัพพอตให้เพื่อนร่วมทีมเผ่านี่ถือว่าเล่นได้ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นักมีความง่ายพอๆกับเผ่า Human เหมาะสำหรับคนที่ชอบบู้ฟันแหลก และมียูนิตที่ตายยากนับว่าเป็นเผ่าที่เล่นสนุกไม่มีเบื่อในอดีตเป็นเผ่าพันธุ์ที่บ้าคลั่ง ด้วยฝีมือของกองกำลังปิศาจ Burning Legion ที่ถูกเรียกมาด้วยพลังของคนทรยศนาม Ner’zhul [หรือก็คือLich Kingแห่งอันเดต] เดิมมีเมืองเป็นหลักแหล่งแต่ถูกกองกำลัง Burning Legion ทำลายล้าง ปัจจุบันมีเพียงออร์คบางพวกที่หลุดพ้นจากเวทมนตร์ได้ ในภาคนี้ เนื้อเรื่องจะมีตัวหลักเป็นทรอลล์ [Thrall] บุตรของดูราทาน [Duratan] มีศักดิ์เป็น Warchief of the horde เผ่า UNDEAD กองกำลังผีดิบ ในเนื้อเรื่องจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เรียกกันว่า Burning Legion และ Scourge เป็นปิศาจที่หมายจะกำจัดทุกสิ่ง มีเวทมนตร์อันตรายมากมาย และแข็งแกร่งจนน่ากลัว ตัวละครหลักคืออาร์ธัสเช่นกัน หากแต่เป็นอาร์สผู้เลือดเย็น อัศวินแห่งความตายแห่งอันเดตUndead เป็นเผ่าที่มีดาเมจสูงจัดจ้านไม่แพ้เผ่าอื่นๆ เน้นที่สกิลเพลย์ของผู้ล่นล้วนๆไสตล์การเล่นคือ ยิงแล้ววิ่งมีฮีโร่ที่คอมโบกันอย่างลงตัวอย่าง Death Knight และ Lich เป็นเผ่าที่เล่นยากสำหรับมือใหม่เหมาะสำหรับคนที่เล่นเป็นมาบ้างแล้ว และมีพื้นฐานของตัวเกมเป็นเผ่าที่ตายยากมากๆและมีวิธีการเล่นที่หลากหลาย เผ่า Night Elf เป็นเผ่าที่อ่อนแอในช่วงต้นเกมที่เริ่มสร้างฐานเน้นโจมตีที่ระยะไกล แต่แลกมาด้วยพลังชีวิตที่มีน้อยเน้นไปที่การควบคุมโซนภายในแผนที่ พวกเขาจะมีดาเมจที่รุนแรงที่สุดในคลาส 3 ของยูนิตนั่นคือถ้าอยากได้ดาเมจแรงๆต้องอัพเกรดไปจนเวลตันเท่านั้น ถึงจะสามารถเรียกปั้มยูนิตที่มีดาเมจรุนแรงได้ รวมถึงพวกเขาจะแสดงพลังอย่างแท้จริงในช่วงของเลทเกมเท่านั้น เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์มากพอและเล่นเกมนี้จนชำนาญแล้วเท่านั้น เนื่องจากเป็นเผ่าที่เล่นยากอันดับต้นๆของตัวเกมเลยก็ว่าได้ไนท์เอลฟ์ ที่จริงแบ่งแยกได้หลายสายพันธุ์ [เช่น High Elf] แต่หลักๆจะเน้นที่ Night Elf ที่นับถือเทพแห่งดวงจันทร์นามอีลูน [Elune] นั่นคือกลุ่มเซนติเนล [Sentinel] นำโดย ทายเรนเดอ วิสเปอร์วินด์ [Tyrande Whisperwind] ศักดิ์คือ แม่ชี แห่ง ดวงจันทร์[Priestess of the Moon] และอีกกลุ่มที่สำคัญคือดรูอิด [Druid] ที่นำโดยฟูเรี่ยน สตรอมเรจ [Furion Stormrage] คนรักของทายเรนเดอ หากแต่ในภาคก่อนๆนั้น ได้ระบุเอาไว้ว่าฟูเรี่ยนและเหล่าดรูอิดได้ทำพิธีผนึกตัวเองเอาไว้ ก็จบกันไปแล้วสำหรับการเลือกเล่นเผ่าต่างๆทั้ง 4 เผ่าหลักในเกมที่แต่ละเผ่าก็มีความยากง่ายแตกต่างกันออกไปโดยแนะนำให้ไล่ที่ Human > Orcs > Undead > Night Elf ง่ายไปยากตามนี้ครับถ้าหากข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับไว้เจอกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นรอติดตามได้ทาง GameFever TH ได้เลย
04 Feb 2020
Blizzard เปิดให้สามารถขอ Refunds เกม Warcraft 3: Reforged ได้แล้ว!
กลายเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2020 ไปแล้วกับ Warcraft 3: Reforged เพราะหลังจากตัวเกมวางจำหน่ายได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็โดนแฟน ๆ และเกมเมอร์มากมายที่ซื้อไป ให้คะแนนรีวิวแบบต่ำติดดิน แถมยังโดนคอมเพลนอย่างหนักหน่วงมาก ถึงขนาดได้คะแนน User Score เพี่ยงแค่ 0.5 บนเว็บไซต์ Metacritic เลยทีเดียว และเหมือนว่าทาง Blizzard จะเริ่มทนกระแสด้านลบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะล่าสุดก็ได้มีการเปิดให้คนที่ซื้อเกมไปสามารถขอ Refunds ได้แล้วครับ! เว็บไซต์ GameRant ได้รางงานว่า มีผู้เล่นมากมายที่ได้รับการ Refunds จากทาง Blizzard Support เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะขอ Refunds ไปกี่ครั้งก็ถูกปฏิเสธกลับมา แต่ดูเหมือนตอนนี้จะสามารถขอเงินคืนได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ ถ้าหากใครที่ซื้อตัวเกมมาแล้วไม่พอใจ และมีความต้องการจะขอเงินคืน ก็สามารถทำได้แล้วตอนนี้เลยครับ Warcraft 3: Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC เท่านั้น Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
04 Feb 2020
Warcraft 3 Reforged กลายเป็นเกมที่ได้ User Score ต่ำที่สุดในเว็บ Metacritic!
กลายเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่กำลังหนักหน่วงอยู่ในช่วงนี้กับเกม Warcraft 3 Reforged ที่ดูเหมือนว่า ตัวเกมที่วางจำหน่ายจริง ๆ จะไม่เหมือนที่ Blizzard เคยได้โฆษณาไว้เลย ขนาดเว็บไซต์ IGN เองก็ได้ทำการปล่อยวิดีโอโชว์ความแตกต่างระหว่าง ตัวเกมที่ได้ถูกโฆษณาในงาน Blizzcon 2018 กับตัวเกมจริง ๆ ว่ามีความแตกต่างกันขนาดไหน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ยังไม่ใช้แค่นั้น ในเว็บไซต์ Metacritic ตัวเกมยังได้คะแนนรีวิว User Score ต่ำที่สุดที่ 0.5 คะแนนอีกด้วย (ตำกว่า Metal Gear Survive ที่ตอนนี้มีคะแนน 1.2 ซะอีก) คอมเม้นต์แทบทั้งหมดกว่า 19,000 คอมเม้นต์ ก็เป็นในเชิงที่ลบมาก ๆ บ้างก็ว่า "นี้คือเกม Remastered ที่แย่ที่สุด" บ้างก็ว่า "ทำยังไงถึงพัฒนาเกมที่มันดีอยู่แล้วให้แย่ลงได้ขนาดนี้" ถึงขนาดมีคนตั้งชื่อเล่นให้กับเกมใหม่ว่า Warcraft 3 Refund เลยทีเดียวครับ Warcraft 3 Reforged วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC เท่านั้น Credit : PCgamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Feb 2020
10 เกม PC / Console น่าเล่นประจำเดือนมกราคม 2020
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่กับเหล่าเกมเมอร์และแฟน ๆ ของเว็บไซต์ Gamefever ทุก ๆ คน ขอให้ปีนี้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีความสุขในการเล่นเกมครับผม สำหรับปี 2020 ถือว่าเป็นหนึ่งปีที่มีเกมน่าเล่นมากมายให้เราได้เลือกเล่น ตั้งแต่ต้นปีและนี่คือ 10 PC/Console เกมน่าเล่นประจำเดือนมกราคม 2020 1.Monster Hunter World: Iceborn  10 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PC เปิดมาเกมแรกกับ DLC สุดยิ่งใหญ่ของเกม Monster Hunter ที่จะให้คุณออกไปตะลุยยังดินแดนหิมะ Iceborn ได้เพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ ให้กับโลกของ Monster Hunter มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Move ใหม่ ๆ ให้กับอาวุธ เพิ่มเควสระดับ Master Rank และที่เด็ดที่สุดคือดินแดน Hoarfrost Reach ที่เต็มไปด้วย Monster ใหม่ ๆ ให้เหล่านักล่าได้นำมาสร้างอาวุธถือว่าเป็น DLC ที่คุ้มมาก ๆ และสาวก Monster Hunter ชาว PC ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด 2.Yakuza: Like A Dragon 16 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PlayStation 4 Yakuza ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมจากดินแดนตะวันตกที่แต่เดิมนั้นพัฒนามาเพื่อให้คนญี่ปุ่นเล่นเท่านั้น แต่แล้วด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและตัวละครที่น่าสนใจ ทำให้เกมนี้ได้รับการนำออกไปจำหน่ายยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก Yakuza: Like A Dragon ถือว่าเป็นภาคล่าสุดของเกมตระกูลนี้ ที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศมายัง Isezaki Ijincho ซึ่งเป็นเขตหนึ่งของ Yokohama เราจะได้รับบทเป็น Ichiban Kasuga ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกอาชญากรรมของญี่ปุ่นที่เขาจะไม่มีวันลืมไปอีกตลอดกาล ตัวเกมได้พัฒนาระบบหลาย ๆ อย่างให้น่าเล่นมากขึ้น รวมถึงกราฟิกในเกมมีการพัฒนาขึ้นเช่นกัน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เกมนี้ประกาศลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น 3.Dragon Ball Z: Kakarot 17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PlayStation 4, Xbox One , PC กลับมาอีกครั้งกับเกมดังจากการ์ตูนขวัญใจชาวโลก DRAGON BALL Z กับภาคใหม่ Kakarot ที่จะเล่าเรื่องราวของซุนโกคุงในการต่อสู้กับเหล่าร้ายจากจักรวาล Z ทั้ง ฟรีเซอร์ , เซลและจอมมารบู ตัวเกมมาพร้อมกับการฟิกที่สวยงาม ระบบการเล่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าน่าเล่นสุด ๆ ไปเลยสำหรับเกมนี้ 4.Tokyo Mirage Sessions #FE Encore 17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch เมื่อตัวละครจาก Fire Emblem กับ Persona มารวมกันคามสนุกจึงบังเกิด Tokyo Mirage Sessions #FE Encore เดิมทีเป็นเกมจากเครื่อง Wii U แต่ได้รับการพอร์ทให้กับเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งตัวเกมมีความน่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นที่น่าตื่นใจ เสียงดนตรีที่สนุกและลายเส้นแบบการ์ตูนญี่ปุ่นที่คุณเห็นแล้วจะต้องชอบ 5.Arc of Alchemist 20 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch , PlayStation 4 หลังจากที่เปิดให้เล่นในประเทศญี่ปุ่นมานานในที่สุด Arc of Alchemist ก็ได้เดินทางมาถึงเกมเมอร์ทั่วโลกเสียที โดยเรื่องราวของตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นสาวน้อยน่ารัก ในการออกผจญภัยในทะเลทรายอันกว้างใหญ่เพื่อไขปริศนาในการปกป้องมวลมนุษยชาติ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป 6.Mega Man Zero/ZX Legacy Collection 21 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : Nintendo Switch , PlayStation 4, Xbox One , PC Mega Man Zero ถือว่าเป็นหนึ่งในเนื้อเรื่องแยกของ Mega Man แต่ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยทาง Capcom ได้ทำการเอาตัวเกม 6 ภาคมาขายรวมกันใน Mega Man Zero/ZX Legacy Collection พร้อมกับ Feature ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Save-Assist Point ที่ทำให้เราสามารถเซฟเกมระหว่างฉากได้ ระบบ Filter ที่ทำให้เราสามารถปรับภาพเป็นรูปแบบ Original ได้ หากคุณเป็นแฟนของ Mega Man Zero ก็ห้ามพลาดเกมนี้ 7.The Walking Dead: Saints & Sinners 23 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ย้ายมาเอาใจเกมเมอร์สาย VR กันบ้างกับเกม The Walking Dead: Saints & Sinners จากทีมงาน Skydance Interactive โดยเราจะได้รับบทเป็นผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ Zombie Apocalypse ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด รวมถึงต้องร่วมมือกับตัวละครต่าง ๆ เพื่อที่จะฟันความยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้ 8.Warcraft III: Reforged 28 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ย้อนกลับไป 18 ปีที่แล้ว Blizzard ได้นำเสนอเกม RTS ฟอร์มยักษ์ที่สามารถเอาชนะทุกเกมในตลาดได้ในชื่อของ Warcraft III : Region พร้อมทั้งเป็นต้นกำเนิดของเกมยอดนิยมในปัจจุบันอย่าง Dota 2 โดยรอบนี้ตัวเกมกลับมาในเวอร์ชัน Reforged ที่ได้ทำการ Rework Model ให้ดีขึ้น พัฒนาระบบต่าง ๆ ให้เข้ากับยุคปัจจุบันแต่ยังคงเสน่ห์แบบเดิม ๆ ไว้ เป็นอีกหนึ่งเกม RTS ที่ควรหามาลอง 9.Coffee Talk 30 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม :  PC, Mac, Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One หลาย ๆ คนอาจจะมีความฝันที่อยากจะเปิดร้านกาแฟสักร้าน พร้อมกับชงกาแฟรสเลิศให้ลูกค้าได้ดื่มเกม Coffee Talk น่าจะถูกใจคุณ ตัวเกมได้รับการพัฒนาโดย Toge Productions จากประเทศอินโดนีเซีย ระบบการเล่นนั้นเราจะได้รับบทเป็น Barista ในการชงกาแฟและแก้ปัญหาต่าง ๆ ของลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ตัวเกมทำออกมาได้บรรยากาศของร้านกาแฟอย่างมากใครที่อยากจะลองเปิดร้านกาแฟแนะนำให้เล่นเกมนี้ก่อน 10.Through the Darkest of Times 31 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม : PC ปิดท้ายกันด้วยเกมอินดี้สุดดาร์กที่กับเกม Through the Darkest of Times ที่จะให้เรารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยต่อต้าน Nazi กลุ่มเล็ก ๆ ในกรุงเบอร์ลิน โดยเราจะต้องวางแผนรวมถึงตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เพื่อที่จะเอาชนะนาซีที่ยิ่งใหญ่ให้ได้ แม้ว่าจะสิ่งเหล่านี้อาจจะกระทบไปถึงคนรักของเราก็ตาม มกราคม 2020 ถือว่าเป็นเดือนของการชิมลางของเหล่าเกมเมอร์ ที่แม้ว่าเกมส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายจะเป็นเกมอินดี้แต่ก็มีความน่าเล่นไม่ต่างจากเกม AAA แล้วเพื่อน ๆ มีเกมไหนในดวงใจสามารถบอกกันมาได้เลย
02 Jan 2020
World of Warcraft เปิดตัวส่วนเสริมใหม่ Shadowlands
World of Warcraft ถือว่าเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์คู่บุญของทาง Blizzard มาอย่างยาวนาน การันตีจำนวนผู้เล่นหลายหมื่นคนทั่วโลก ที่ยังคงเล่นเกมนี้กันอย่างไม่ขาดสายและปีนี้ทาง Blizzard ยังคงนำเสนอส่วนเสริมใหม่ ๆ ตามธรรมเนียมของเกมทุกปี World of Warcraft: Shadowlands คือส่วนเสริมใหม่ล่าสุดของเกม ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Sylvanas Windrunner ที่ได้ออกไปต่อสู้กับ Lich King ที่สิงอยู่ในร่างของ Bolvar Fordragon จนเธอสามารถที่จะทำลายหมวกและปลดปล่อยพลังออกมาได้ โดยใยส่วนเสริมใหม่จะเป็นเรื่องราวของ Shadowlands และมีการเพิ่มโซนในเกมใหม่อย่าง Revendreth , Ardenweald , Maldraxxus , Bastion นอกจากนี้ยังมีระบบการเลือก Covenant และดันเจี้ยนใหม่ ๆ ให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัส World of Warcraft: Shadowlands มีกำหนดการที่จะอัปเดตในปี 2020 แฟน ๆ ของเกมนี้เก็บเงินรอกันได้เลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
02 Nov 2019
World of Warcraft เพิ่ม NPC หน้าคล้าย Stan Lee เข้ามาในเกม !!
เมื่อไม่นานมานี้หนึ่งในบุคลากรระดับโลกผู้ให้กำเนิดการ์ตูนซีรี่ส์ Marvel อย่างคุณ Stan Lee ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 95 ปี ซึ่งทั่วโลกก็ต่างไว้อาลัยและสรรเสริญถึงผลงานที่เจ้าตัวเคยสร้าง รวมถึงวงการเกมเองก็เชิดชูผลงานของเขาคนนี้เช่นกัน ซึ่งล่าสุดใน World of Warcraft เกม MMORPG สุดฮิตทั่วโลกจากทาง Blizzard ได้ปล่อยแพทใหม่ 8.1.5 ในเซิร์ฟเวอร์ทดลอง (PTR) สร้างตัวละคร NPC ที่มีหน้าตาและชื่อที่คล้ายคุณ Stan Lee ขึ้นมาภายในเกมด้วย ซึ่ง NPC ตัวนี้จะอยู่ในฐานที่มั่นเมือง Stormwind โดยจะใช้ชื่อว่า Stanley ที่คล้ายๆ กับชื่อคุณ Stan Lee รวมถึงหน้าตาหนวดขาวก็จะคล้ายๆ กันพร้อมทั้งในบางครั้ง NPC ตัวนี้จะพูดออกมาว่า “Excelsior!” ที่เป็นวลีฮิตติดปากของคุณ Stan Lee ด้วย รวมถึงในแพทนี้ยังมีตัว Model ของ NPC แบบนี้อีกสองตัวแต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน ที่มา
11 Jan 2019
ผู้กำกับหนัง Warcraft เข้าพบผู้สร้าง God of War แย้ม: ถ้าคิดว่า God of War เจ๋งแล้ว เตรียมเจอเกมต่อไปได้เลย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้กำกับภาพยนตร์ Warcraft คุณ Duncan Jones ได้เข้าพบกับคุณ Cory Barlog ผู้กำกับเกม God of War ภาคล่าสุด โดยคุณ Duncan ได้ทำการโพสต์ภาพคู่กับคุณ Cory ทางทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ ให้แฟนเกมตื่นเต้นกันว่า ถ้าคุณคิดว่า God of War คือที่สุดแล้ว คุณเตรียมตัวเอาไว้ได้เลย On a positive note, @corybarlog turns out to be as sweet, thoughtful & intelligent as I’d grown to think he is from our online interactions. And if you think that God of War is his magnum opus, just you wait! ??❤️✌? — Duncan Jones (@ManMadeMoon) November 21, 2018 จริงๆ แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่เกมต่อไปของทีมผู้สร้าง God of War จะต้องพยายามสร้างผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงว่า God of War (2018) เองก็เป็นเกมที่สร้างมาได้อย่างปราณีตและยิ่งใหญ่ในระดับที่หาเกมมาเปรียบเทียบยากอยู่แล้ว ถ้าผลงานต่อไปของค่ายจะยังสุดยอดกว่าเดิมก็น่าตื่นเต้นเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เกมต่อไปที่คุณ Cory สร้างก็คงหนีไม่พ้นเกม God of War ภาคต่อแน่นอนอยู่แล้ว ดูจากที่ค่ายประกาศรับสมัครผู้พัฒนาตำแหน่ง Concept Artist ให้มาช่วยสร้างเกมภาคต่อตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่จะออกมาสุดยอดกว่าภาคหนึ่งหรือไม่ แค่ไหน คงต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ!
23 Nov 2018
Warcraft III: Reforged จะเริ่ม BETA ในช่วงต้นปี 2019
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความฮือฮาภายในงาน BlizzCon 2018 กับ Warcraft III: Reforged ที่จะเป็นการ Remaster เกม Warcraft III พร้อมเนื้อหา DLC รวมครบทุกภาคอีกด้วย และล่าสุดทางโปรดิวเซอร์อย่าง Pete Stilwell ได้ออกมาพูดเชิงหวังว่าตัวเกมนี้อาจะเปิดให้เล่น BETA ในช่วงต้นปี 2019 นั่นเอง แต่ทางผู้พัฒนาเองก็ไม่ได้เจาะจงวันที่มาอย่างแน่ชัด โดยตัว BETA ที่ว่านั่นจะคล้ายๆ กับการ Pre-Alpha โดยทางผู้พัฒนาจะทดสอบระบบต่างๆ ให้มีความพร้อมขึ้น และถ้าคุณนั้นอยากจะทดสอบเล่นเกมนี้ในช่วง BETA คุณสามารถเข้า LINK พร้อม Login เข้าไปหน้า Profile และกดขอรับรหัส BETA ได้เลย พอใกล้ถึงวันเล่นจริงๆ ทางตัวเกมจะทำการสุ่มผู้เล่นให้สามารถเข้าร่วมได้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=M6_WXl4x-ik โดยเกม Warcraft III: Reforged จะสามารถเล่นโหมด Multiplayer กับเวอร์ชั่น Original ได้และมีแพลนจะวางจำหน่ายจริงในช่วง Summer ปี 2019 หรือน่าจะราวๆ 8-10 เดือน หลังจากนี้ โดยตัวเกมลงให้กับเครื่อง PC เท่านั้น ขอบคุณข้อมูลจาก Gamingbolt
12 Nov 2018
Blizzard เผย ยังไม่มีแผนจะสร้างเกม Warcraft IV
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกปลื้มปิติที่ได้รู้ว่าเกมวัยเด็กสุดคลาสสิคประจำยุคร้านเน็ตอย่าง Warcraft III กำลังจะกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในนาม Warcraft III: Reforged เกม Remake ของ Warcraft III และ Warcraft III: Frozen Throne ที่ขนเอากราฟิคระดับ 4K และการปรับสมดุลเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด พร้อมกับเครื่องมือสร้างแผนที่ Map Editor ในตำนาน ที่ให้กำเนิดมินิเกมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเป็นต้นกำเนิดของเกมแนว MOBA อย่าง DOTA ภาคดั้งเดิมอีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 แน่นอนว่าการประกาศครั้งนี้ทำให้แฟนๆ ต่างคาดหวังว่า Blizzard จะกลับมาพัฒนาเกม Warcraft IV แนววางแผนอีกหรือไม่ในอนาคต โดยล่าสุดเว็บข่าว Gamespot ได้รายงานบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งโปรดิวเซอร์อาวุโสคุณ Pete Stilwell ซึ่งผู้พํฒนาได้เผยว่าการพัฒนาเกม Warcraft IV มีความเป็นไปได้แน่นอนในอนาคต แม้ในปัจจุบันค่ายยังไม่มีแผนการจะสร้างเกมภาคต่อที่แฟนๆ รอคอย "ว่ากันตามตรงว่าค่ายคงไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการสร้างเกม Warcraft IV แน่นอน แต่อาจจะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ เพราะเราต้องการจะมุ่งมั่นพัฒนา Warcraft III: Reforged ให้สมบูรณ์ที่สุดซะก่อนค่อยว่ากัน" ในปัจจุบัน เนื้อเรื่องของเกมซีรี่ย์ Warcraft ได้ถูกเล่าต่อไปไกลมากๆ แล้วในเกม MMORPG ในตำนานของค่ายอย่าง World of Warcraft ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ค่ายยังคงไม่มีความคิดจะสร้างเกม Warcraft IV เนื่องจากเกรงว่าเนื้อหาในเกมจะซ้ำกับใน World of Warcraft ซึ่งดำเนินเนื้อเรื่องต่อมานับสิบปีแล้ว Warcraft III: Reforged จะวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PC โดยเกมเปิดให้ทำการ Pre-order ผ่านโปรแกรม Battle.net แล้วในขณะนี้
06 Nov 2018
Blizzard จับ Warcraft III รีมาสเตอร์ ภาพสวยระดับ 4K
ใครเป็นแฟน Warcraft III ก็น่่าจะดีใช่มิใช่น้อยเพราะล่าสุดในงาน BlizzCon 2018 ทางผู้พัฒนาอย่าง Blizzard เองได้เปิดตัวเกมภาค Remaster โดยใช้ชื่อว่า Warcraft 3: Reforged โดยตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีการรีโมเดลของตัวละครและแอนิเมชั่นต่างๆ, ปรับกราฟิกได้สูงในระดับ 4K, ปรับเปลี่ยนแผนที่และโหมด Campaign เนื้อเรื่องของเกม พร้อมอัพเกรด UI และ World Editor อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=Q2zfx5hQ3CE รวมถึงทางผู้พัฒนาเองก็ได้ยืนยันด้วยว่าตัวเนื้อหาเสริมอย่าง Forzen Throne นั้นก็จะอยู่ในเกมเวอร์ชั่นนี้ พร้อมทั้งเรายังสามารถเล่นโหมด Online Multiplayer ได้อย่างในเวอร์ชั่นเก่า ซึ่งอย่างนี้เราสามารถเล่นเกม DotA 1 ได้ในเวอร์ชั่นภาพสวยขึ้นแน่นอน แถมเกมภาคนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ที่ใช้เกมเวอร์ชั่นเก่าเล่นได้อีกด้วย โดย Blizzard บอกว่าตัวเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงปีหน้า https://www.youtube.com/watch?v=72UbFQO5-m0 ขอบคุณข้อมูลจาก pcgamer
03 Nov 2018