Returnal ถือเป็นหนึ่งในเกมจากค่าย Sony ที่อาจไม่โด่งดังระดับตัวเต็งอย่าง The Last of Us หรือ Ghost of Tsushima แต่ก็ถือว่าตอนวางขายบน PS5 ในปี 2021 ก็ทำให้มีเกมเมอร์สนใจ และชอบกันเยอะพอสมควร โดยล่าสุดนี้เกมก็ได้มาวางขายบ้างบนฝั่ง PC แล้วนะ มาดูกันว่าเกมนี้จะเป็นยังไง และพอร์ทได้ดีสมการรอคอยหรือไม่!!!คลิปโหมโรงก่อนชมรีวิวเนื้อเรื่องที่ทำมาเข้ากับเกมแนว Roguelike อย่างมากReturnal คือเกมที่เปิดเรื่องมาแบบง่ายๆ เลยคือเกมจะอยู่ในยุคอนาคต และเราจะได้สวมบทสาวนักบินยานอวกาศที่เผลอเจอปัญหา ก่อนที่จะตกลงมาบนดาวเต็มไปด้วยเอเลี่ยน ทำให้เรานั้นต้องจับปืนไล่ยิงเพื่อเอาชีวิตรอด และหาวิธีหนีไปจากดาวแห่งนี้ให้ได้ แต่ยิ่งคุณเล่นไปเยอะเท่าไหร่ คุณจะรู้สึกว่าเอ้ะ มันดูมีเรื่องไม่สมเหตุสมผลเต็มไปหมดแปลกๆ โดยเราก็คงเล่าให้ฟังเยอะไม่ได้ เนื่องจากมันจะเป็นการสปอยล์ แต่เอาเป็นว่าเกมมีเนื้อเรื่องหักมุมได้น่าสนใจมากๆ และที่เจ๋งสุดคือมันเล่าเรื่องได้เข้ากับความเป็นเกมแนว Roguelike แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าแม้คุณจะเล่นครบ 100% คุณก็จะไม่สามารถเข้าใจทุกอย่างในเกมได้แบบง่ายๆ เพราะต้องเอาเรื่องจิตวิทยามาตีความสิ่งต่างๆ ด้วย ส่งผลให้ใครที่ชอบเกมแนวเนื้อเรื่องแปลกๆ ต้องถูกใจแน่นอนอย่างไรก็ตาม ในส่วนของเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็มีส่วนให้ผิดหวังเหมือนกัน แม้ที่เล่ามาจะดูยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่ปัญหาที่พบเจอคือเนื้อเรื่องมันดูสเกลเล็กไปหน่อย ยกตัวอย่างจักรวาลหรือเอเลี่ยนในเกมที่ทำออกมาได้ไม่สุด แม้มันจะมีความเจ๋งมากๆ หลังคุณเข้าใจเนื้อเรื่องในเกมแล้ว แต่ท้ายที่สุดคุณก็จะรู้สึกว่ามันก็ทำได้แค่นี้เองหรอ? โดยก็น่าจะเพราะทาง Sony ไม่ได้ให้ทุนสร้างเกมนี้แบบสุดกำลัง และมุกของผู้สร้างเกมนี้มันก็ไม่ได้เจ๋งยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้น ทำให้ด้านเนื้อเรื่องเป็นส่วนหนึ่งที่หลายๆ คนจะรู้สึกว่างั้นฉันไปเล่นเกม Sony ตัวเต็งๆ ก่อนแล้วค่อยมาเล่นเกมนี้แล้วกัน เพราะราคามันก็พอๆ กัน แต่เกมอื่นได้เนื้อเรื่องที่สเกลใหญ่กว่า* การที่เนื้อเรื่องมันดูสเกลเล็กก็ยังทำให้พวกเกมเพลย์มันดูสเกลเล็กตามไปด้วยทำให้แม้เราจะได้เนื้อเรื่องหักมุมดีๆ แต่มันก็ดูยังไม่น่าสนใจให้ควักเงินมาซื้อเหมือนเกม Sony อื่น *นี่คือเกมที่แตกต่างจากทุกเกมของ Sonyเกมนี้จะเน้นขายระบบการเล่นแบบเกมแนว Roguelike เป็นหลัก โดยการเล่นก็คือเราจะได้จับปืนยิงเอเลี่ยนผ่านฉากไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอวิธีออกไปจากดาวดวงนี้ แต่เกมนั้นก็จะยากท้าทายมากๆ และถ้าเราตายจะส่งผลให้ต้องไปเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้น พร้อมกับเสียไอเทมทุกอย่างที่เคยเก็บหรือฟาร์มทั้งหมด จะมีแค่บางรูปแบบไอเทมเท่านั้นที่อยู่ติดตัวเราไปตลอดถาวร ซึ่งก็แน่นอนว่านี่คือสูตรความสนุกของเกมแนวสไตล์ Roguelike แต่ Returnal ก็จะต่างจากเกมอื่นๆ ตรงที่ภาพในเกมจะเป็น 3 มิติดูฟอร์มยักษ์กว่าเกมอื่นแบบเห็นได้ชัด เกมจะมีพวกรายละเอียดฉากดูสวยสมจริง และยังมีเอฟเฟ็กต์แบบตระกาลตามาก และก็ต้องพูดตามตรงว่าตอนนี้เราก็ยังไม่ค่อยเห็นเกมแนว Roguelike ที่ถูกทำฟอร์มยักษ์ได้เท่านี้เลย* ฉากในเกมช่วงแรกๆ แม้จะดูมืดๆ มองไม่ค่อยเห็นอะไรแต่ถ้าสังเกตุฉากจะเห็นว่ามีรายละเอียดต่างๆ ดูดีเลย ** พวกเอฟเฟ็กต์ตอนสู้ศัตรูถือว่าสวยงามจัดเต็มทำให้ตอนสู้กันก็ดูเพลินเอาเรื่อง *ในระหว่างการผจญภัย เราจะได้เจอพวกไอเทมอย่างชนิดปืนใหม่ๆ หรือไอเทมช่วยในการต่อสู้ โดยส่วนใหญ่ก็จะมีระดับความแข็งแกร่งต่างกันเรื่อยๆ ทำให้ผู้เล่นจะอยากมาฟาร์มก่อนไปสู้กับศัตรูที่โหดระดับบอส ซึ่งเกมก็ยังมีลูกเล่นไอเทมพวกนี้หลายระบบเอาเรื่อง และบางระบบก็มีความเจ๋งคือมันจะต้องแลกอะไรกับตัวของผู้เล่น ทำให้เกมนี้ก็จะท้าทาย และมีลูกเล่นเทพระดับเกม Roguelike อื่นๆ แน่นอน* ปืนจะมีประมาณ 10 ชนิด โดยก็ไม่ค่อยหลากหลายแต่ว่าทุกปืนจะยังมีสกิลพิเศษให้ใช้โจมตีต่างกันอยู่ ** ไอเทมจะมีทั้งแบบใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบ หรือเพิ่มความสามารถตัวละครโดยบางไอเทมจะต้องมอบข้อเสียให้เรา ยกตัวอย่างต้องเลือดน้อยลง แต่บางอันก็มีเควสให้ทำลบข้อเสียทิ้งได้ ** ยังมีลูกเล่นเจ๋งๆ อย่างการที่เกมจะค่าเงินให้เราเก็บสะสมไว้แล้วสามารถเอาไปแลกเป็นไอเทม หรือทำให้ตายแล้วไม่ต้องไปเริ่มใหม่หมดได้ 1 รอบ *อีกจุดน่าสนใจของการนำเสนอเกมนี้คือทุกๆ การตายแล้วเริ่มใหม่ของเรา แผนที่ในเกมจะมีรูปลักษณ์ต่างกันไปอีกต่างหาก!!! ยกตัวอย่างช่วงแผนที่จุดแรกๆ จะเป็นทางเดินยาวปกติ แต่ถ้าเราตายแล้วเริ่มใหม่ก็จะเจอเป็นเขาวงกตแทน ทำให้เกมนี้จะเล่นได้แบบไม่รู้สึกซ้ำซากเลย แต่ท้ายที่สุด ปัญหาของเกมนี้ก็คือมันก็ไม่ได้ให้ความต่างจากเกมแนว Roguelike อื่นๆ หรือมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองขนาดนั้น แม้จะเป็นเกมที่ดูลงทุนสร้างได้ออกมาฟอร์มยักษ์ที่สุดก็ตาม รวมทั้งฉากสภาพแวดล้อมในเกมมันก็มีต่างกันไม่กี่แบบ แถมช่วงแรกๆ ผู้เล่นก็จะต้องมาตายวนเวียนอยู่ในฉากป่ามืดๆ ตลอดเวลา จนรู้สึกว่าแม้แผนที่เปลี่ยนแต่สภาพแวดล้อมไม่เปลี่ยนแบบนี้ มันก็รู้สึกน่าเบื่ออยู่เหมือนกันนะ* ต้องเล่นไปนานพอสมควรเลย ถึงจะได้เจอฉากสภาพแวดล้อมใหม่จากป่ามืดๆ บ้าง ** แต่ก็จะเห็นได้ว่าเกมนี้ต่างจากเกมของ Sony อื่นๆ ที่จะเน้นเปิดเนื้อเรื่องมาแบบคัทซีนอลังๆขณะที่เกมนี้ดูจะเน้นนำเสนอเกมเพลย์เป็นหลักล้วนๆ เลย  *เกมเพลย์ที่ทำได้ดีเอาเรื่องเกมนี้อาจดูแหวก และนำเสนออย่างซับซ้อน แต่ระบบการเล่นนั้นจะไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย ผู้เล่นจะมีปืนให้กดยิงๆ และปืนแต่ละกระบอกจะมีสกิลโจมตีพิเศษ ยกตัวอย่างยิงเป็นมิซไซล์หลายๆ ลูก หรือยิงเป็นไฟฟ้าออกมาใส่ศัตรูใกล้ๆ แล้วสกิลพวกนี้เมื่อใช้แล้วจะต้องรอคูลดาวน์ ส่วนการยิงปกติจะมีแม็กกาซีนหมด แต่เกมจะรีโหลดให้เมื่อไม่ยิงชั่วขณะ และกระสุนก็จะไม่มีจำกัด ส่วนพวกเอเลี่ยนก็จะไม่ได้โจมตีเราแบบเกมทั่วไป แต่บางตัวจะมีท่าโจมตีเหมือนเกมสไตล์คลาสสิก หรือเกมสไตล์ Roguelike อื่นๆ ยกตัวอย่างศัตรูที่ปล่อยพลังลูกบอลหลายๆ ลูกออกมาโจมตี โดยการโจมตีพวกนี้จะทำให้ผู้เล่นต้องศึกษา และคิดหาวิธีรับมือกับศัตรูแต่ละชนิดเหมือนกัน เพราะถ้าเราโดนมันก็รุนแรงอยู่ และถ้าตายก็ต้องไปเริ่มตั้งแต่แรก ทำให้ใครที่ชอบเกมยิงแบบไม่ไร้สมองจะชอบเป็นพิเศษ แต่ใครที่ชอบเกมยิงไม่คิดมาก เอาจริงๆ ก็อาจมีปัญหาหน่อยเพราะตอนยิงกันมันไม่ได้รู้สึกมันส์แบบระเบิดภูเขาเผ่ากระท่อม* บางชนิดก็เก่งระดับมินิบอสเลย เพราะมันจะอึด และโจมตีเรา 3-4 ทีก็ลงไปนอนแล้ว *นอกจากการจับปืนยิงเอเลี่ยน เกมก็ยังมีให้เราต้องหาอุปกรณ์มาแก้ปริศนาเพื่อไปพื้นที่ใหม่ๆ ได้มากขึ้นในแต่ละรอบหลังตาย ยกตัวอย่างไปได้ดาบมาให้ตัดต้นกิ่งไม้เข้าไปเอาไอเทมได้ หรือได้วิธีเข้าประตูวาร์ปไปโผล่จุดอื่น แล้วบางทีถ้าเรายังไม่มีอุปกรณ์แก้ปริศนานั้นๆ บางทีเราก็อาจใช้ประโยชน์จากฉากในเกมเพื่อผ่านไปได้เช่นกัน ยกตัวอย่างมีไอเทมอยู่ที่สูงๆ แล้วเราปีนขึ้นไปไม่ได้ แต่ถ้าตรงนั้นมีเอเลี่ยนเถาวัลย์ดูดเราขึ้นไปที่สูง เราก็ใช้มันให้เป็นประโยชน์นั่นเอง* อุปกรณ์แก้ปริศนาอาจจะไม่ได้มีหลายแบบแต่พอเราได้มาก็สุขใจ เพราะเท่ากับเราฟาร์มให้ตัวละครเก่งก่อนไปสู้บอสได้มากขึ้น *อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดของด้านเกมเพลย์มันก็ยังตามสูตรปกติของเกมแนว Roguelike อื่นๆ อยู่ดี และมันก็อาจทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าด้วย เพราะเกมนี้ทั้งพวกอาวุธ, อุปกรณ์ และไอเทมมันไม่ได้มีอะไรแตกต่างหลากลายชนิดเยอะขนาดนั้น อย่างปืนมันก็มีเพียงแค่ประมาณ 10 ชนิด แต่ของเกม Roguelike อื่นๆ ส่วนใหญ่มันมีกันถึง 100 ชนิดเลยนะ แต่ถ้าเรามองว่ามันเกมยิงปกติทั่วไปเน้นขายอย่างอื่น แค่นี้ก็ถือว่าเยอะเอาเรื่องแล้ว* ความต่างของปืนก็อย่างพวกปืนพก, ปืนกล หรือปืนลูกซองอะไรงี้แต่ว่าปืนทุกกระบอกยังดีหน่อย มีต่างเรื่องพลังโจมตีหรือความคล่องแคล่วด้วย *อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพูดถึง เพราะมันทำให้เกมกลับมาเล่นวนได้หลายๆ รอบคือระบบ Coop และระบบ 'หอคอยสุดโหด' อีกด้วย โดยระบบ Coop ก็จะให้ผู้เล่นมาร่วมผจญภัยด้วยกันได้จนจบเนี่ยแหละ แต่โหมดหอคอยสุดโหดจะน่าสนใจมาก เพราะผู้เล่นจะได้ไต่หอคอยสู้ศัตรูไปเรื่อยๆ แบบไม่มีสิ้นสุดจนกว่าจะตาย เพื่อเก็บคะแนนไปแข่งกับผู้เล่นคนอื่นๆ แล้วเกมก็ยังมีให้ทำกิจกรรมกับผู้เล่นหลายคนอีกเยอะ ส่งผลให้ถ้าคุณไม่ชอบเล่นเกมแบบเหงาๆ สิ่งพวกนี้ก็จะตอบโจทย์ให้คุณเล่นเพลินหลายชั่วโมงเอาเรื่องเลยการพอร์ทที่ยอดเยี่ยมไปอีกขั้นนับวันค่าย Sony พอร์ทเกมออกมาลงบน PC ได้ดีขึ้นตลอดจริงๆ และเกมนี้อาจถึงขั้นทำให้คู่แข่งสั่นสะเทือนเลย โดยต้องบอกก่อนว่ารีวิวนี้เราพูดถึงตอนหลังอัปเดต 9 มีนาคม 2023 ที่เกมจะเล่นลื่นกว่าตอนวางขายใหม่ๆ อย่างมาก ซึ่งเสปค PC ของผู้เขียนคือ i5-12400f & GTX 3070Ti 8GB แต่การเล่นเกมนี้สามารถปรับภาพได้ที่ระดับสูงสุด 1440p พร้อม Ray Tracing แบบจัดเต็ม และก็สามารถเล่นได้ 60FPS สบายๆ เลย!!! (เกมอื่นส่วนใหญ่ของเสปคนี้เปิด Ray Tracing มักไม่ถึง 60FPS)ส่วนด้านการปรับแต่งกราฟิกนั้นก็ทำมาจัดเต็มเลย เราสามารถปรับส่วนยิบย่อยได้หลายแบบ และก็ยังไปปรับพวก FoV หรือพวก UI หรือปุ่มกดต่างๆ บนคีย์บอร์ดได้ตามใจชอบ พร้อมเกมก็มีรองรับ DLSS หรือ FSR ให้คุณเล่นได้ลื่นกว่าเดิม แต่ถ้าคอมของใครที่เก่าแล้วหรือไม่แรง เกมก็ยังมีบอกเลยว่าถ้าปรับส่วนกราฟิกต่างๆ จะกิน CPU หรือ GPU หรือ VRAM เยอะขนาดไหนบ้าง ทำให้ตรงนี้ก็จะช่วยคุณรีดประสิทธิภาพปรับกราฟิกได้สูงสุดตามเสปคนอกจากนี้ เกมยังรองรับให้ปรับระบบเสียงให้ประสบการณ์ดีสุดตามเครื่องเล่นเสียงของคุณ และรองรับให้เล่นแบบจอ Ultrawide ได้แบบ Cinematic รวมทั้งในเกมยังมีโปรแกรมให้เราเปิดดูตลอดได้ว่าตอนเล่น CPU หรือ GPU กับพวกแรมทำงานอยู่ที่กี่ % หรือมีความร้อนกี่องศา ซึ่งมันทำให้เป็นเกมที่พอร์ทลง PC ได้ใส่ใจสุดๆ เลยอ่ะ อยากให้หลายๆ เกมใส่ใจพอร์ทลง PC แบบนี้!!!สรุปReturnal ถือเป็นเกมที่ก็ทำออกมาดีตามสูตรเกมแนว Roguelike แต่เจ๋งกว่าเกมอื่นคือภาพมันสวย 3 มิติ มีความอลังให้พบเจอเยอะกว่าเนื่องจากเกมอื่นๆ แนวนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพ 8 บิทเสียมากกว่า แถมยังมาพร้อมความแหวกด้านเนื้อเรื่องที่จะเซอร์ไพร์สคุณแน่นอน แต่มันก็ไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ๆ ต่างจากเกม Roguelike อื่นมาก แถมพวกลูกเล่นเอาจริงๆ ก็ไม่ได้ทำได้หลากหลาย ยกตัวอย่างปืนของเกมมีประมาณ 10 ชนิด แต่เกมอื่นเขาทำได้เกินทะลุ 100 ชนิด ทำให้แม้เกมมันจะพอร์ทบน PC มาดีมากๆ แต่ท้ายที่สุดแล้วถ้าคุณไม่ใช่แฟนเกม Roguelike คุณก็อาจจะมีความสนใจเกมนี้ก็ตอนเล่นเกมตัวเต็งจากค่าย Sony มาหมดไปแล้วนั่นเอง แต่แฟนเกม Roguelike แค่ได้อ่านผมก็มองว่าต้องซื้อมาเล่นให้ได้แล้วแหละ* ขอบคุณทาง Sony ด้วยที่ส่งเกมนี้มาให้พวกเราได้รีวิว *

Returnal เกมชื่อดังจากทาง PlayStation โดยเคยวางจำหน่ายบนฝั่ง PS5 ไปตอนปี 2021 แต่ล่าสุดก็ปล่อยคลิปประกาศว่าเกมจะลงบน PC แน่นอนแล้วนะ!!! โดยเกมบน PC มีแผนจะวางขายตอนปี 2023 โดยเกมนี้เป็นแนวยิง Roguelike มาพร้อมระบบการเล่นสุดแหวกหลายอย่างให้ผจญภัยบนดาวเอเลี่ยน แถมตัวเกมบน PC ก็จะมีลูกเล่นให้ปรับได้เยอะกว่าบน PS5 เหมือนตอนของเกม Sony อื่นๆ นั่นเอง!!! ใครสนใจเกม Returnal บน PC ก็ตามข่าวไว้ได้เลยอ้างอิง : youtube

Returnal คือเกม First Person Shooter แนว Rogue-Like จากทาง Housemarque  ที่จะให้คุณได้รับบทเป็นนักสำรวจที่ติดอยู่ในลูกเวลาของดาวเคราะห์มนุษย์ต่างดาวแห่งหนึ่ง และเธอจะต้องผ่านไปในแต่ละด่านให้ได้ ซึ่งถ้าหากว่าเราตายทุกอย่างก็จะเริ่มใหม่หมด และการเล่นแต่ละครั้งแผนที่ก็จะแตกต่างกันไปทุกครั้งด้วย โดยตัวเกมวางจำหน่ายออกมาบนเครื่อง PlayStation 5 เมื่อปี 2021 และดูเหมือนว่าชาว PC อาจจะได้สัมผัสกันบ้างแล้วเพราะภายในเว็บไซต์ Steam DB ได้มีคนพบเจอข้อมูลไฟล์ที่มีชื่อคล้าย ๆ กับเกม Returnal นี้อย่างเช่นชื่อ Atropos (ชื่อดาวภายในเกม), Helios (ยานของตัวเอก หรือ Tower of Sisyphus โหมดหนึ่งภายในเกมนอกจากนี้ตัว Tags ในการค้นหายังมีข้อมูลอย่าง Bullet Hell, Roguevania, Rogue-lite, Rogue-like, Third-Person Shooter หรือ Female Protagonist ซึ่งมันก็แทบจะเป็นเกมอื่นไปไม่ได้แล้วแต่ถึงอย่างนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไมไ่ด้ประกาศใด ๆ ออกมาซึ่งเราก็ต้องรอดูกัน

วันพรุ่งนี้แล้วสำหรับการวางจำหน่ายของ Returnal เกม Exclusive PS5 ใหม่ ที่ผสมผสานความเป็น Rogue-Lite เข้าไปเป็นองค์ประกอบหลัก ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เราได้ทราบเกี่ยวกับระบบของเกมไปมากมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการ Random ภูมิประเทศใหม่ทุกครั้งที่ตาย, เนื้อเรื่องของเกมที่จะมีความลึกลับเป็นอย่างมาก, ศัตรูที่น่ากลัวเหมือนออกมาจากหนังสือของ H. P. Lovecraft แต่ถ้าหากคุณพลาดทุกอย่างที่ผมกล่าวมา วิดีโอใหม่นี้ได้รวมทุกอย่างไว้ให้แล้วใน Launch Trailer ถือได้ว่าเป็นวิดีโอที่อธิบายทุกอย่างให้เราเข้าใจได้โดยง่าย ในขณะที่ความทรงจำของ Selene ดูจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในเนื้อเรื่อง เชื่อว่าจะต้องมีการเอาความมืดในจิตใจของตัวละครมาเล่นด้วยอย่างแน่นอน รับชมตัวอย่างใหม่ได้ข้างล่างนี้ระบบของเกมที่เปิดเผยออกมาแล้วมีทั้ง Daily Challenges, Leaderboards และการส่งข้อความหาผู้เล่นคนอื่น ทำให้แม้ Returnal จะเป็นเกมเล่นคนเดียว แต่เราก็ยังสามารถสนทนากับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สำหรับคนที่สนใจเกมนี้จะวางขาย พรุ่งนี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น เจ้าของเกมสามารถ Pre-Load ได้เลยวันนี้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/lL2Qa0MQyuE' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/returnal-launch-trailer-is-full-of-action-and-mystery

อีกเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นสำหรับการวางขายอย่างเป็นทางการของ Returnal ขอยืนยันอีกครั้งว่าเกมนี้จะลงให้กับ PS5 เท่านั้น และมีการเปิดให้สามารถ Pre-Load ได้แล้ววันนี้ด้วยขนาดไฟล์เกม 56 GB สำหรับผู้ที่สนใจผมแนะนำให้เพื่อพื้นที่ไว้อีกนิดสำหรับอัปเดตวันแรกของเกมด้วยครับสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เล่นเกมแนว Roguelike หรือ Roguelite อาจยังงงกับระบบของเกมอยู่ไม่มากก็น้อย วันนี้ทาง IGN ได้มีการปล่อยวิดีโอใหม่ที่อธิบายให้เราเข้าใจระบบดังกล่าวมากขึ้นออกมาเช่นกัน วิดีโอดังกล่าวได้สอนให้รู้ว่าการตายในเกมนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเหมือนจะถูกออกแบบมาให้ยังไงก็มีตายแน่ๆ ครับทุกครั้งที่ตาย ผู้เล่นจะกลับมายังจุดเริ่มต้นเพื่อออกสำรวจใหม่อีกครั้ง แต่ละครั้งหน้าตาของ Biome จะเปลี่ยนไป รวมถึงศัตรูที่เจอก็อาจแตกต่างกันออกไป ตามจุดต่างๆ ของแผนที่ผู้เล่นอาจได้พบกับตัวเกาะแขนแปลกๆ ที่จะให้ Buff กับ Debuff ตลอดการเดินทางเราจะได้พบอาวุธใหม่มากมายสำหรับใช้ต่อกรกับเหล่าเอเลี่ยนเมื่อเดินทางมาถึงปลายสุดของ Biome เราจะได้พบกับบอสประจำ Biome นั้น เมื่อเอาชนะมันได้ ผู้เล่นจะได้รับกุญแจสำหรับเปิดประตูวาร์ปไปยัง Biome ต่อไป หรือ Keyitem สำคัญที่จะต้องใช้ต่อเนื่องไปทั้งเกม (ภายในวิดีโอยกตัวอย่างเป็นดาบที่ใช้ฟันกำแพงแสง)Returnal วางจำหน่าย 30 เมษายน 2021 บน PS5 เท่านั้นCredit : https://gamingbolt.com/returnals-time-loop-mechanic-gets-breakdown-explanation

เว็บไซต์ PlayStation Blog ได้เปิดเผยรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับ Returnal เกม Exclusive PS5 ใหม่ที่กำลังจะวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนนี้ ระบบแรกคือ Daily Challenges ที่จะนำคะแนนของผู้เล่นซึ่งได้จากการทำภารกิจไปจัดอันดับใน Leaderboards เพื่อดูว่าใครเก่งที่สุด ภารกิจดังกล่าวจะมีการจำกัดอาวุธที่ใช้ หรือไม่สามารถตายได้รวมอยู่ด้วยต่อมาคือเรื่องของ Level Design ที่แผนที่ภายในเกมไม่ใช่พื้นที่กว้างขนาดใหญ่สำหรับต่อสู้กับเอเลี่ยนเพียงอย่างเดียว แต่มีการสร้างสถานที่ให้มีโครงสร้างซับซ้อนสามารถสำรวจได้ทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังมีการใส่กับดักเข้าไปตามกำแพง กับพื้นเพิ่มความท้าทายให้กับการสำรวจ เรื่องของเสียงก็มีการใช้งานเทคโนโลยี Tempest 3d Audiotech อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับเสียงของพื้นป่า, เหล่าสัตว์, สายลม, ฝน และอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่าแผนที่ภายในเกมจะมี biome ที่หลากหลาย จากข้อมูลในวันนี้ดูเหมือนแต่ละ biome จะมี Boss เฉพาะสถานที่นั้น และเราอาจได้เจอตัวประเภท Elite ของแต่ละ biome ในเขตอื่นได้ด้วย งานนี้บอกเลยว่าการต่อสู้จะเป็นอะไรที่มันมากๆ สุดท้ายคือเกมนี้มีโหมดที่ช่วยคนตาบอดสี ให้สามารถแยกแยะระดับของไอเทมที่ดรอปได้ด้วย<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/ov4fJmGCsZM' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://gamingbolt.com/returnal-features-daily-challenges-color-blind-options-for-hud

เป็นเวลากว่าสี่ทศวรรษแล้ว ที่โลกแห่ง ‘วิดีโอเกม’ ได้เติบโต ต่อยอด และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านเทคนิค จนถึงรูปแบบการนำเสนอ แน่นอนว่า วิดีโอเกมในทุกวันนี้ มันยากที่จะจำแนกจากความหลากหลายที่มากมาย และศัพท์แสงที่หลากหลายที่พร้อมใจกันถูกประดิษฐ์ขึ้นมาชนิดแทบจะเป็นรายวัน และชิ้นงานเกมแปลกๆ จนถึงบ้าบอคอแตกก็ได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาลืมตาอ้าปากจากหล่มหลุมที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ ไม่เว้นแม้แต่ PUBG หรือ Playerunknown's Battleground ที่เป็นอีกแขนงของเกม 'เดินหน้ายิง' ที่เล่นกันทุกทั่วหัวระแหงกระนั้นแล้ว เกมแนว ‘เดินหน้ายิง’ หรือ ‘Shooters’ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First-Person) หรือมุมมองบุคคลที่สาม (Third-Person) ก็ยังคงยืนหยัดเป็นแถวหน้ามาได้อย่างยาวนาน สมศักดิ์ศรี จากประดิษฐกรรมเริ่มต้นของสองอัจฉริยะอย่าง John Romero และ John Carmack มาสู่หนึ่งในเสาหลักแนวเกมที่เคียงคู่แวดวงมาโดยตลอด ไม่เคยห่างหายไปไหนสำหรับผู้เขียน ได้มีโอกาสทดลองเดโมเกมเดินหน้ายิง ‘Looter-Shooter’ มุมมองบุคคลที่สามล่าสุดอย่าง ‘Outriders’ ของ People Can Fly ทีมพัฒนาเกมยิงสุดเฮี้ยนอย่าง Painkiller และ Bulletstorm ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษายนที่จะถึงนี้ และยอมรับว่า แม้ตัวเดโมจะยังมีจุดที่ให้ติติงอยู่บ้างประปราย แต่ในแง่ของการเป็นเกมแนว Looter-Shooter นั้น พวกเขาทำมันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม มีลูกเล่นที่หลากหลาย และจัดเป็นผลงานระดับคุณภาพที่ผ่านการคิดมาอย่างดีไม่น้อย (ขอเว้นเรื่อง Cinematic สั่นเป็นผีสิงเอาไว้ข้อหนึ่ง คือจะทำให้สั่นในทุกครั้งเหมือนบันทึกด้วยกล้อง GoPro ไปทำไม มันเวียนหัว…) จั่วหัวน่าโดนเหยียบ แต่ชะลออารมณ์ไว้ก่อน เพราะเนื้อหาข้างใน มันคนละเรื่องกันเลย...แต่ในขณะที่ยังรู้สึกสนุกกับการเล่น และเพลิดเพลินกับคุณภาพชิ้นงานที่ Outriders นำเสนอออกมานั้น ผู้เขียนพลันสะดุดสายตาเข้ากับพาดหัวข่าวอันหนึ่งที่ทำให้ถึงกับต้องเลิกคิ้วขึ้นมาทันที เมื่อทีมพัฒนากล่าวเอาไว้ว่า เกมแนวเดินยิงนั้น ‘ไม่จำเป็นต้องมีเนื้อเรื่องง่าวๆ ก็ได้ (Shooters don’t have to have a stupid story)’ ดูเหมือนว่าทีมสร้างจะมั่นใจอย่างมาก ว่าโลกแห่ง Enoch ของ Outriders นั้น จะน่าติดตามด้าน 'เนื้อหา' และดึงดูดผู้เล่นได้อย่างไม่ยากเย็นมันเป็นพาดหัวที่ชวนให้รู้สึกหมั่นหน้าทีมพัฒนาเอาเรื่องอยู่ พวกเขาพกความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน จนอดไม่ได้ที่จะต้องกดเข้าไปอ่าน และรู้ตัวทันทีว่าตกเป็นเหยื่อของการพาดหัว ‘Clickbait’ เข้าให้ เพราะเนื้อหาจริงๆ นั้น พวกเขาไม่ได้ด่าหรือว่ากล่าวเนื้อเรื่องในเกมเดินยิงเป็นสิ่งที่ไม่ดี พวกเขาแค่รู้สึกว่า มันไม่ต้องอารัมภบท หรือยัดทะนานเรื่องราวเกินจำเป็นอะไรให้มากความ การสร้างโลกของเกม (World-Building) ที่ดีและน่าสนใจ ให้ผู้เล่นสำรวจ และเรียนรู้ความเป็นไประหว่างทาง ก็ถือเป็นการบอกเล่าเนื้อหาที่ดีอีกทางหนึ่ง ซึ่งพวกเขามั่นใจว่า Outriders จะประสบความสำเร็จในแง่นั้น (คุณสามารถอ่านบทความ ‘พาดหัวชวนคิ้วขมวด’ ได้ ที่นี่)แต่ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นคนขี้สงสัยอยู่นิดๆ ก็เลยลองมาตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า ‘การบอกเล่าเนื้อหา (Storytelling)’ นั้น มันจำเป็นกับเกมแนว Shooters ทั้งหลายหรือไม่? แวดวงวิดีโอเกมกำลังทำเรื่องง่าย ให้กลายเป็นความซับซ้อนเกินความจำเป็นหรือไม่ กับแนวเกมที่เป้าประสงค์มีเพียงแค่ลากเมาส์ เคลื่อนเป้า Crosshair แล้วสาดกระสุนใส่อะไรก็ได้ตรงหน้าให้ตายกลายเป็นซาก? มากมายหลากหลายความสงสัย จนต้องไล่ไปเปิดอ่านบทความ งานเขียน บทวิจัยไปตามเรื่องตามราว จนได้บทความชิ้นนี้ออกมากล่าวโดยสรุป ผู้เขียนพบว่า บางที คำถามเรื่อง ‘การบอกเล่าเนื้อหา’ จำเป็นกับเกมแนวเดินหน้ายิงหรือไม่ อาจจะเป็นคำถามที่ผิดมาตั้งแต่ต้น และบางสิ่ง อาจจะอยู่คู่กับเรามาตลอด โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำก็เป็นได้จากวันแรกแห่ง ‘2.5D’ Shooters ที่เนื้อหา ‘ยังเป็นรอง’ในช่วงเริ่มต้นของการถือกำเนิดแห่งเกมแนว Shooter ช่วงทศวรรษที่ 90s นั้น แน่นอนว่าเทคโนโลยีทางด้านกราฟิกยังคงเป็นข้อจำกัดหลักที่ยังเป็นปริศนาที่ไม่มีใครตีแตก และภาพมุมมองบุคคลที่หนึ่งหรือ First-Person ก็เป็นการผสมและจัดเรียงกันของ ‘Sprites’ หรือกราฟิกเดียวกันมาวางต่อเนื่อง และศัตรูที่อยู่ตรงหน้าถูกทำให้เป็นวัตถุ (Object) ที่ไม่มีมิติ เป็นงาน ‘กึ่งสามมิติ’ หรือ ‘2.5D’ ที่เหมือนเอาแนวระนาบมาเปลี่ยนมุมมองหรือ Perspective ในการเล่นแต่เพียงเท่านั้น เห็นภาพชวนเหวอแบบนี้ นี่งานระดับ 'นวัตกรรม' ของปี 1992 เลยนะครับ~แน่นอนว่า ข้อจำกัดเหล่านี้ คือโจทย์หลักของทีมพัฒนาเกมแนวเดินหน้ายิง ที่พยายามจะทลายมันออกไป และ/หรือ เพิ่มเติมลูกเล่นใหม่ๆ อย่าวัตถุที่ระเบิดได้ อาวุธที่น่าสนใจ และการออกแบบศัตรูชนิดต่างๆ เข้าไปในชิ้นงาน เกมแนวเดินหน้ายิงในพีเรียดนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยิง ทำลายล้าง แก้ปริศนาหากุญแจในแผนที่ เพื่อไปสู่ด่านต่อไป ไม่ว่าจะทั้ง Wolfenstein 3D, Duke Nukem 3D หรือแม้แต่เกมรองบ่อนที่กลายเป็นเกมคัลท์อย่าง Heretic, Shadow Warrior หรือ Blood เป็นต้น แต่ถามว่ามันปราศจากซึ่งเนื้อหา หรือความพยายามที่จะใส่การบอกเล่าเรื่องราวเลยหรือไม่ คำตอบคือ … ไม่ใช่ ไอ้เกมยิง 'จกเปรต' เตะตูดเอเลี่ยน และมุขตลกแบบอเมริกันในยุค 90s นี่ต้องยกให้ Duke Nukem 3D เลยเรารู้จักตัวตนของ B.J. Blazkowicz สุดยอดทหารผู้ล้างผลาญกองทัพนาซีแห่งซีรีส์ Wolfenstein มาโดยตลอด เรารับรู้การผจญภัยของ ‘Marine นิรนาม’ ที่จะกลายมาเป็น ‘Doom Slayer’ ผู้ไร้เทียมทานแห่ง Doom และเรารู้จักกับพ่อยอดชาย Duke Nukem ผู้พร้อมไล่กระทืบเหล่าเอเลียนไปพร้อมกับอัดควันซิการ์ด้วยลีลายียวนเป็นเอกลักษณ์ เราจะไม่มีทางรู้จักพวกเขาได้เลย ถ้า ‘การบอกเล่าเนื้อหา’ หรือ Storytelling ไม่ได้ดำรงอยู่ในตัวเกม ใช่ มันยังคงอยู่ เพียงแต่มัน ‘ถูกให้ความสำคัญที่รองลงมา’ และไม่นับเกมแนว Third-Person ที่แทบจะเรียกว่ายังไม่ถือกำเนิดเลยด้วยซ้ำ จากข้อจำกัดดังที่กล่าวไปตราบจนปี 1998 ที่โลกแห่งเกมเดินหน้ายิงได้ ‘วิวัฒน์’ สู่ก้าวสำคัญชนิดพลิกโลกแห่งการสร้างไปตลอดกาล…Half-Life: แบ่งคนละครึ่ง ส่วนหนึ่งเกมเพลย์ ส่วนหนึ่ง ‘เนื้อหา’ในปี 1996 โจทย์ทางด้านกราฟิกที่เคยเป็นข้อจำกัดถูกทลายล้างลงได้ในที่สุด จากการมาถึงของเทคโนโลยีกราฟิกการ์ด และการพัฒนาโปรแกรม API โดย John Carmack กับผลงานอย่าง ‘Quake’ ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่านี่คือเกม ‘เดินหน้ายิง 3D สมบูรณ์แบบ’ เกมแรกของโลก ไม่มีอีกแล้วกับการใช้ Sprites หลอกตา ทุกอย่างคือวัตถุที่มีมิติ มีระนาบ สัมผัสได้ และส่งผลให้การพัฒนาเกมแนวเดินหน้ายิงก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ในทันที ปิดฉากภาพ 2.5 มิติหลอกตา เข้าสู่ยุคสมัยแห่งเกมเดินยิงแบบ 3 มิติเต็มรูปแบบ กับ Quake ในปี 1996แต่มันกลับต้องใช้เวลาอีกสองปี ที่ ‘การบอกเล่าเนื้อหา’ จะเริ่มกลายมาเป็นอีกปัจจัยสำคัญของเกมแนวนี้อย่างชัดเจน เมื่อ Valve บริษัทพัฒนาเกมขนาดย่อมในเวลานั้น ใช้เอนจิ้นของ Quake มาต่อยอด จนกลายเป็นผลงานที่สะท้านวงการและกลายเป็นตำนานอีกหน้าหนึ่งของเกมเดินหน้ายิงอย่าง ‘Half-Life’ ที่ๆ ทุกเกมเพลย์ถูกยกเครื่อง ที่ๆ เนื้อเรื่องถูกนำเสนอในมิติใหม่ ไม่มีอีกแล้วกับแผนที่ซ้ำๆ กับการหากุญแจ ทุกฉาก ทุกเหตุการณ์ นำเสนอออกมาเป็นเรื่องราวใน ‘วันซวยๆ’ ของ Gordon Freeman นักฟิสิกส์ดวงกุด ที่ต้องมากลายเป็นวีรบุรุษกู้โลก เกมเพลย์สุดมันส์สร้างสรรค์ เนื้อเรื่องแบบ ‘Show, Don’t Tell’ ที่แปลกใหม่ ส่งให้เกมนี้กวาดรางวัล Game of the Year ในปีนั้นไปแบบไม่ผิดความคาดหมาย วันนั้น ทุกคนต่างตะลึงกับเทคนิค 'การบอกเล่าเนื้อหา' ของ 'Half-Life' .... มาวันนี้ ... ทุกคนถามหาภาคสาม - -'การปฏิวัติการบอกเล่าเนื้อหาเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นของที่ใหม่มากๆ ในเวลานั้น และเป็นเสาหลักที่นักทำเกมเดินหน้ายิงทั้งหลายใช้เป็นวัตรปฏิบัติ และเริ่มให้ความสำคัญกับ ‘เนื้อหา’ กับ ‘การบอกเล่าเรื่องราว’ มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีแบบเดียวกับ Half-Life แต่ใช้วิธีแทรก Cutscene ลงไปก็ตาม เช่น Turok, Unreal, Shogo: Mobile Armor Division และ SiN และต้องนับอีกหนึ่งเกมที่ได้อิทธิพลจากการปฏิวัติทางการบอกเล่าเนื้อหา เมื่อ Bungie บริษัทเล็กๆ (อีกเช่นเคย…) ฝันใหญ่ ส่งผลงานอย่าง Halo: Combat Evolved ที่ได้ Microsoft Game Studios มาเป็นลมใต้ปีก จนกลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ยืนยงคงกระพันไม่มีวันตาย (พอๆ กับความอึดของ Master Chief…) จนกลายเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของเกมเดินหน้ายิงสาย ‘คอนโซล’ ไปในที่สุด (แต่สิทธิ์ในเกม Halo ยังเป็นของXbox Game Studios ในขณะที่ Bungie ยังคงสาละวนอยู่กับ Destiny 2 ในแบบที่น่าจะไม่เลิกง่ายๆ ในเร็ววัน…) จากวันที่ Bungie ยังเป็นค่ายโนเนม สู่การเดิมพันครั้งสำคัญที่ทำให้โลกได้รู้จักสปาร์ตันรหัส John-117 'Master Chief' และซีรีส์ Halo ที่คงกระพันไร้ทางตายคู่บุญค่าย Xbox Game StudiosContext (บริบท) ที่รอ Content (เนื้อหา)ผู้เขียนขอรวบขมวดตึงมาที่ห้วงเวลา ณ ปัจจุบัน ที่ๆ เราต่างคุ้นเคยกับเกมเดินยิงในรูปแบบและซีรีส์ต่างๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมานับไม่ถ้วน (การแสดงผล, ระบบฟิสิกส์) เหล่านี้มันกำลังบอกอะไรกับเรา? อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าข้างต้น ‘การบอกเล่าเนื้อหา’ ในเกมแนวเดินหน้ายิงไม่ใช่ไม่เคยมี แต่มันเป็น ‘ความสำคัญลำดับรอง’ ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างยังมีช่องว่างสำหรับการพัฒนา ดังที่ผู้เขียนเคยเขียนไว้ในบทความที่ว่าด้วยความเข้าใจที่มีต่อเนื้อหาสำคัญหรือไม่ต่อการเล่นเกม เกมแนวเดินยิง ไม่ว่าจะ First-Person หรือ Third-Person เองก็ไม่พ้นกฎข้อนี้ Returnal เกมแนว Roguelike Third-Person Shooter ระบบ PS5 ที่น่าสนใจทั้งเกมการเล่น และการบอกเล่าเนื้อหามันคือ Context (บริบท) ที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว ขาดแค่เพียงเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ผู้สร้างจะใช้สำหรับการรังสรรค์เนื้อหา (Content) ให้เป็นรูปร่างที่สมบูรณ์เพราะไม่ว่าจะ Cutscene, In-Game Cinematic, ระบบ Tutorial แบบอ้อมๆ, ระบบฟิสิกส์ภายในเกม, การแสดงผลที่สวยงามสมจริงจนแทบจับต้องได้, ระบบ A.I. สุดฉลาด จนถึง ‘เกมเพลย์’ ที่สร้างสรรค์ มันคือเครื่องมือที่ผู้สร้าง ใช้สำหรับขยายขอบเขตในการนำเสนอ ‘เนื้อหา’ ให้เป็นไปอย่างที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะสร้างโลกพื้นหลังเรื่องราว (World-Building) ระบบการเล่นที่แทรกนัยยะของการบอกเล่าเนื้อเรื่อง (เช่น Returnal ผลงานเกมแนว Roguelike แบบ Exclusive บนระบบ PS5 ที่ทางเว็บไซต์ได้สัมภาษณ์ผู้พัฒนาเอาไว้เมื่อเร็วๆ นี้) จนถึงความฉลาดของ A.I. ที่ก่อให้เกิดรูปแบบของการนำเสนอเนื้อเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้สามารถเป็นไปได้ (เช่น Deathloop ของทีม Arkane Studios ที่จะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ที่ระบบ AI พฤติกรรมของศัตรู ก่อให้เกิดเกมเดินหน้ายิงซุ่มซ่อนกึ่ง Sandbox ที่มีพลวัตไม่ตายตัว)ทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ว่าผู้สร้างเกม ไม่ว่าจะแนวใด ต่างก็ไม่เคยละปัจจัยทางด้าน ‘เนื้อหา’ ไม่เว้นแม้แต่เกมแนว ‘เดินหน้ายิง’ ที่ดูเหมือนว่าสองอย่างนี้จะไปด้วยกันไม่ได้ แต่มันคือปฏิภาคที่ไปพร้อมกันโดยตลอดมา และยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ กำแพงในการนำเสนอ Content หรือเนื้อหาเพื่อรับใช้ Context หรือบริบทที่ผู้สร้างมุ่งหวังใจเอาไว้ ก็ยิ่งเปิดกว้างและสูงตามขึ้นไปด้วย เอาแค่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเกมเดินหน้ายิงแบบทุนสูงลิบมหาศาลระดับ AAA หรือเกมยิงอินดี้ทุนสร้างต่ำ เพดานการสร้างสรรค์เหลือแค่เพียง ‘จินตนาการ’ เท่านั้น หาใช่ขอบเขตอื่นใด หรือต่อให้เป็นเกมเนื้อเรื่องผีบ้าแบบ Borderlands 3 ก็ได้รับคุณูปการจากการมาถึงของเทคโนโลยีเพื่อบอกเล่าเรื่องราวด้วยเช่นกัน สมดุลในการบอกเล่าและเกมการเล่นเมื่อเครื่องมือที่ใช้สร้างการบอกเล่าเรื่องราวในเกมเดินหน้ายิงมีพร้อมสำหรับผู้พัฒนา คำถามถัดมาคือ เราควรจะให้สัดส่วนมันแค่ไหน? นี่อาจจะเป็นโจทย์ใหม่สำหรับเกมเดินยิงในช่วงเวลาถัดจากนี้ เพราะแน่นอนว่า หัวใจหลักของเกมคือ ‘ความสนุก’ และเกมเดินหน้ายิงนั้น ‘ต้องสนุก’ แต่ความสนุกนั้นเป็นอัตวิสัย ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าแบบใดที่จะเป็นสิ่งสนุกอย่างเป็นสากล เกมเดินหน้ายิงก็เช่นกัน ในแต่ละประเภทของมันก็ย่อมต้องชั่งตวงอัตราส่วนเหล่านี้อย่างพอเหมาะ เพื่อให้บรรลุถึงเป้าประสงค์ตามที่ต้องการ เช่น เราคงไม่ได้อยากได้เนื้อหาอะไรมากมายนอกจากพื้นหลังตัวละครฮีโร่ใน Overwatch หรือ Tom Clancy’s Rainbow Six Siege ที่เป็นเกมเดินหน้ายิงแบบ Competitive Multiplayer, เราคงต้องการความเปิดกว้างที่ยังคงความสยองแห่งสถานีอวกาศกับสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ปลอมแปลงเป็นอะไรก็ได้ในเกมอย่าง Prey หรือเกมอย่าง Doom Eternal กับ DLC ‘The Ancient Gods’ ทั้งสองชุด ที่แม้จะเนื้อหาอลังการอภินิหารสะท้านโลก แต่การฆ่าและอาวุธที่ใช้เพื่อให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าตายไวที่สุดก็น่าจะสำคัญไม่แพ้กัน คุณปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่าหัวใจหลักของ 'Doom Eternal' คือการ 'ฆ่าให้สะใจที่สุด เร็วที่สุด เลือดสาดที่สุด' แม้เนื้อเรื่องมันจะกลายเป็นหนังอภินิหารไปแล้วก็ตามทีเถอะ...และไม่ใช่กับทุกเกมที่จะสามารถจัดสรรปัจจัยระหว่าง ‘การเล่น’ กับ ‘การบอกเล่าเนื้อหา’ ได้อย่างลงตัว ถ้าหนักไปทางใดทางหนึ่ง อีกทางก็อาจจะแผ่วปลาย เช่น Destiny 2 เองก็ใช่ว่าจะมีเนื้อหาที่น่าติดตามมากนัก (ไม่นับตัวละครบางตัวที่ค่อนข้างจะน่ารำคาญอยู่ไม่น้อย…), Bioshock Infinite กับ DLC ‘Burial at Sea’ ทั้งสองตัว ที่แม้เกมเพลย์จะยอดเยี่ยม แต่เนื้อหาที่เล่นกับกฎของอภิปรัชญา (Metaphysics) ก็ค่อนข้างจะสุดโต่งเข้าถึงได้ยากสำหรับผู้เล่น, ซีรีส์ Far Cry ที่นับวันจะยิ่งกลายเป็นเกม Carbon-Copy ตามสูตรเข้าไปทุกขณะ (แม้ตัวร้ายแต่ละภาคมันจะน่าสนใจก็เถอะ…) หรืออย่างล่าสุด Cyberpunk 2077 ที่มีตัวละครน่าสนใจ และมีเนื้อเรื่องที่ดี แต่ทั้งหลายมันคงไม่ช่วย ถ้าเกมเพลย์หลักมันห่วย และชิ้นงานอุดมไปด้วยบั๊กส์ที่ต้องตามแก้กันอีกกันเป็นปีๆ 'เฮ้ย เกมออกมาพินาศขนาดนี้ แผนของไอ้พวก Arasaka ใช่มั้ยวะ!!!!?' (เอ่อ... ไม่ใช่ครับ...)ท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่า Outriders ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษายนจะประสบความสำเร็จในการสร้างโลกแห่ง Enoch เพื่อเหล่านักผจญภัยได้มากน้อยหรือไม่, ไม่ว่า DLC ตัวสุดท้ายของ The Outer Worlds อย่าง ‘Murder on Eridanos’ จะตลกผีบ้าสักเท่าไหร่, ไม่ว่า Cyberpunk 2077 จะเอาชีวิตรอดจากปี 2021 หลังจากถูกยำจนเละไม่เหลือซากด้วยกระบวนท่าใด หรือ Doom Eternal กับ DLC ตัวสุดท้ายอย่าง Ancient Gods Part 2 จะแสดงกฤษฏาภินิหารฟาดฟันสวรรค์สะท้านนรกสะเทือนแค่ไหน แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่กับเรา และเกมแนว ‘เดินหน้ายิง’ ไม่ว่าจะแบบ First-Person หรือ Third-Person นั้นคือ ปัจจัยทาง ‘การบอกเล่าเรื่องราว’ ได้ถูกผนวกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฐานคิดในการสร้างแล้วเป็นที่เรียบร้อย และมันจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่หายไปไหน และจะค่อยๆ ดีขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป“นั่นเพราะเมื่อกระสุนทุกนัด ได้ถูกหยอดน้ำมันที่เรียกว่า ‘เนื้อหา’ ก่อนระเบิดออกจากรังเพลิงแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่ผู้เล่นต่างมองหา และวาดหวังเอาไว้ ไม่มากก็น้อยนั้นเอง”

แม้จะเป็นเกมที่ปล่อย Trailer ออกมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเป็นเกมที่มีปริศนาอยู่เยอะมากๆ สำหรับ Returnal สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะเข้าใจเนื้อเรื่องของเกมมากกว่านี้ ดีใจได้เลยครับ เพราะล่าสุด PlayStation เพิ่งจะปล่อย Story Trailer ตัวใหม่ออกมาเรื่องราวของเกมเหมือนจะไม่ได้เริ่มที่ยานตกครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 2 ไม่ก็ 3 เพราะจากวิดีโอ Selene จะได้พบกับศพของตัวเองที่ตายจากการต่อสู้กับปีศาจหนวดปลาหมึก ซึ่งนี้จะเป็นศพของ Selene ของผู้เล่นอื่นที่ตาย หรือไม่่ก็ของเราเอง รวมถึงในการเดินทางจะสามารถพบกับไฟล์เสียงที่ Selene คนอื่นทิ้งไว้ ซึ่งเธอจะจำไม่ได้ว่าเคยบันทึกมัน (น่าจะเป็นแบบเดียวกับ Dark Souls ที่ทิ้งข้อความบอกคนอื่นได้)ทุกครั้งที่เธอตาย Selene จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนยาวของเธอก่อนที่มันจะตก และพบว่าสภาพแวดล้อมที่เคยพบมันไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้การเดินทางของเธอในแต่ละครั้งแตกต่างกันออกไป ต่อมาเหมือนจะเป็นเหตุการณ์ในความทรงจำของเธอ และความหลังดำมืดที่ตามหลอกหล่อนเธออยู่ ในจุดนี้เอาตรงๆ คือดูแล้วยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าสนใจมากๆ ตรงที่มันดูน่ากลัวสุดๆ ครับCredit:  https://www.vg247.com/2021/03/17/returnal-trailer-story/

สำหรับคนที่ชื่นชอบเกมจากผู้พัฒนาอินดี้ โดยเฉพาะในฝั่งของ PlayStation เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อผู้พัฒนา Housemarque เจ้าของผลงานอินดี้ยอดเยี่ยมมากมายอย่าง Dead Nation, Alienation, Resogun และ Matterfall ที่ล้วนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในยุคคอนโซล PS4 / Xbox One ที่ผ่านมา ในส่วนของยุคคอนโซลล่าสุด ทางทีม Housemarque ก็เตรียมส่งผลงานใหม่ของค่ายอย่าง Returnal สู่เครื่อง PlayStation 5 ในวันที่ 30 เมษายนนี้ เกมแนว Roguelike มุมมองบุคคลที่ 3 ซึ่งจะพาผู้เล่นไปผจญภัยในดาวเคราะห์ปริศนา Atropos ในฐานะนักบินอวกาศสาวชื่อ Selene ผู้ซึ่งติดอยู่ในวงจรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดซ้ำไปซ้ำมา โดยเราในฐานะ Selene จะต้องเอาตัวรอดจากเหล่าสิ่งมีชีวิตเอลี่ยนที่น่าสะพรึงกลัว พร้อมกับหาทางหนีออกไปจากดาวเคราะห์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสส่งคำถามสัมภาษณ์ไปยังทีมผู้พัฒนา Housemarque โดยตรง เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลงานเกมใหม่ล่าสุดของพวกเขา ซึ่งถูกตอบโดยคุณ Gregory Louden (ผู้กำกับเนื้อเรื่อง) และคุณ Mikael Haveri (ผู้บริหารฝ่ายการตลาด) เราจึงอยากนำคำตอบดังกล่าวมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อทำความรู้จักกับ "เกมอินดี้ระดับ AAA" ที่น่าสนใจนี้มากขึ้น ถ้าเทียบกับเกมที่ผ่านๆ มาของ Housemarque เช่น Resogun หรือ Matterfall รู้สึกว่า Returnal ดูจะมีสเกลที่ใหญ่และจริงจังกว่ามากๆ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางเกมที่คุณถนัดไปมากขนาดนี้? "ในฐานะบริษัท พวกเรายังคงเติบโตอยู่เรื่อยๆ ซึ่งถึงจุดหนึ่งมันก็ต้องยอมรับว่าตลาดสำหรับเกมขนาดเล็กอย่างที่เราเคยทำมันมีพื้นที่ให้โตได้ค่อนข้างจำกัด เราจึงวางแผนมาซักพักแล้วว่าจะต้องลองสร้างเกมที่ใหญ่ขึ้นบ้างอย่าง Returnal เพื่อการเติบโต และช่วงเวลานี้เป็นโอกาสเหมาะที่เราจะได้ร่วมงานกับบริษัทคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ที่มีความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา" คุณเคยบอกว่า Returnal จะมีเนื้อเรื่องที่ต่อเนื่องให้ติดตาม ซึ่งดูจะขัดแย้งกับแนวเกม Roguelike ที่มักจะเปลี่ยนแปลงแผนที่และสิ่งของในฉากไปเรื่อยๆ คุณมีวิธีอะไรในการเล่าเรื่องให้เหตุการณ์ต่างๆ ยังคงเชื่อมโยงกันได้? "เนื้อเรื่องของ Returnal จะพาผู้เล่นเดินทางไปทั่วดาวเคราะห์ Atropos ซึ่งในการเล่นแต่ละรอบจะสุ่มการจัดเรียงแผนที่และศัตรูในแต่ละฉากใหม่ทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นมีประสบการณ์ที่ต่างกันไปในการเล่นทุกรอบ แต่การสุ่มทั้งหมดจะจำกัดอยู่แค่ใน "พื้นที่" ตายตัวเท่านั้น โดยเกมเต็มๆ จะแบ่งออกเป็นพื้นที่หลายส่วนที่แยกออกจากกัน และเนื้อเรื่องจะเล่าในลักษณะ non-linear (ไม่ได้เล่าเป็นเส้นตรง) ที่มี checkpoint วางไว้ประปรายเพื่อเล่าเรื่อง ฉะนั้นทุกครั้งที่ตัวละคร Selene จะยังคงจำสิ่งที่พบในการเล่นรอบที่ผ่านมาได้ และจะสามารถปะติดปะต่อข้อมูลที่พบเจอมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเล่าเรื่องของดาว Atropos ให้ผู้เล่นเข้าใจมากขึ้น ในบางรอบคุณอาจจะได้รับรู้ถึงเบื้องหลังชีวิตของ Selene เอง และบางครั้งก็อาจจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับอารยธรรมที่ล่มสลายไปของดาว Atropos แต่มั่นใจได้ว่าการเล่นทุกครั้งจะปลดล๊อครายละเอียดใหม่ๆ ให้ได้ติดตามแน่นอน" จากวิดีโอเทรลเลอร์และตัวอย่างมากมายที่คุณปล่อยออกมา ดูเหมือนว่า Returnal จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ใช้อาวุธและพลังพิเศษที่น่าสนใจมากมาย อยากให้พวกคุณลองเล่ารายละเอียดของอาวุธหรือพลังที่พวกคุณชอบหรืออยากให้ผู้เล่นได้ลองใช้เป็นพิเศษหน่อยได้ไหม "ในเกม Returnal จะมีอาวุธชนิดต่างๆ ให้ผู้เล่นได้ใช้มากมายเลย และคุณจะสามารถค้นพบปืนชนิดเดียวกันที่มีความสามารถใหม่ได้ตลอดเวลา ปืนกระบอกหนึ่งอาจจะสามารถมาพร้อมกับคุณสมบัติหรือความสามารถเพิ่มเติมที่ทำให้มันแตกต่างไปจากปืนชนิดเดียวกันที่คุณเก็บได้ก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ตั้งแต่กระสุนระเบิดไปจนถึงความสามารถพิศดารอื่นๆ มากมาย แถมอาวุธแต่ละชนิดจะมีรูปแบบการยิงพิเศษที่ไม่เหมือนเดิมติดมาด้วยเสมอ เพราะฉะนั้นปืนทุกกระบอกที่คุณเก็บได้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งหมด แม้จะเป็นปืนชนิดเดิมๆ ที่คุณคุ้นเคยแล้วก็ตาม มันเลยไม่ใช่ว่าเราตื่นเต้นกับปืนชนิดใดเป็นพิเศษ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละรอบปืนเดิมๆ ที่คุณพบจะได้ลูกเล่นใหม่อะไรติดมาด้วยมากกว่า เช่นปืนที่สามารถปล่อยหนวดปลาหมึกออกมาโจมตีศัตรูได้เป็นต้น..." เท่าที่เห็นจากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมา รวมไปถึงคลิปบทสนทนาของพวกคุณใน YouTube ดูเหมือนว่า Returnal จะพยายามผสมผสานแรงบันดาลใจจากเกมหลายแนวเอาไว้ด้วยกัน คุณพอจะพูดถึงเกมที่เป็นแรงบันดาลใจหลักๆ ในการออกแบบ Returnal บ้างได้หรือไม่ เพื่อให้ผู้เล่นพอจะเห็นภาพว่าพวกเขาจะได้รับประสบการณ์แบบไหนจากเกม? "สำหรับเกม Returnal แรงบันดาลใจหลักของเรามาจากภาพยนตร์และวรรณกรรมแนว Dark Sci-fi เป็นหลัก และมีส่วนผสมของแนว Psychological Horror (สยองขวัญเชิงจิตวิทยา) และแนว Lovecraftian และ Lynchian ด้วย ซึ่งเห็นได้จากการออกแบบสภาพแวดล้อมและศัตรูในเกม ทีมงานของเราทำการบ้านกันหนักมากเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เล่น โดยที่ยังคงให้ความเคารพผลงานที่เป็นอิทธิพลที่ผ่านมา เป้าหมายของเราในเกม Returnal คือการเล่าเรื่องปริศนาที่มีมิติและหลอกหลอน อาจจะไม่ใช่ในความหมายเดียวกับเกม Horror ทั่วไป แต่เป็นความรู้สึกกดดันที่จะค้างอยู่ในใจของผู้เล่นแม้จะวางจอยไปแล้วก็ตาม ทีมงานของเราชอบเนื้อเรื่องที่มักจะทิ้งคำถามไว้ให้ผู้เล่นได้ขบคิด และเราเชื่อว่า Returnal จะตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เป้นอย่างดี ในส่วนของเกมเพลย์ เราคิดว่าแรงบันดาลใจหบักของเราก็คือเกมที่ผ่านๆ มาที่ค่าย Housemarque เคยพัฒนา ซึ่งมักจะเป็นเกมแนว Arcade ที่ส่งอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งที่เรากำลังพยายามทำอยู่ในขณะนี้" พวกคุณเคยบอกว่าเป้าหมายหนึ่งของเกม Returnal คือการมอบประสบการณ์ที่ "เล่นได้เรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด" หมายความว่าคุณมีแผนจะปล่อยเนื้อหาเสริมหรือ DLC ออกมาในอนาคตด้วยไหม? เรายังไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับแผนการหลังการวางจำหน่ายเกมในตอนนี้ แต่เราตั้งใจไว้แต่แรกว่าเกม Returnal จะต้องเป็นเกมที่สามารถกลับมาเล่นได้เรื่อยๆ โดยทีมได้ออกแบบเนื้อหามาในรูปแบบที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถพบกับสิ่งใหม่ๆ ได้ทุกครั้งที่ก้าวเข้าสู่โลก Atropos ของเกม ซึ่งเกมก็จะทำการสุ่มฉากและศัตรูใหม่ๆ มาให้ผู้เล่นต้องเผชิญตลอด เพื่อให้ผู้เล่นสามารถสร้างเรื่องราวการเล่นเกมของตัวเองที่ไม่เหมือนใครได้ Returnal จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 เมษายนนี้สำหรับ PS5 โดยเฉพาะ

PlayStation ได้ทำการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์เขตต่างๆ รวมถึงกราฟิกของเกม Returnal ซึ่งประกอบไปด้วย Biome สามรูปแบบคือ Overgrown Ruins, Derelict Citadel และ Crimson Wastes โดยในแต่ละเขตมีเอกลักษณ์ที่น่ากลัวแตกต่างกันออกไป จากวิดีโอดังกล่าวเป็นที่ชัดแน่แล้วว่าเอเลี่ยนที่เราจะได้พบในเกมนี้มีความน่ากลัวมากกว่าที่จินตนาการไว้มาก ที่สำคัญคือเหมือนว่าเจ้าเอเลี่ยนเหล่านี้จะสามารถเข้ามาเล่นกับความทรงจำ ความนึกคิด และหัวสมองของ ตัวละครหลัก Selene ได้ด้วย เนื่องจากสังเกตได้ว่า เธอมักจะพูดถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป หรือสิ่งที่ไม่น่าจะมีอยู่บนดาวดวงนี้ได้ตลอดทั้งวิดีโอเลย แม้จะยังไม่เห็นภาพโดยรวม หรือเข้าใจเนื้อเรื่องของเกมนี้เลย แต่คิดว่าจากความเป็นเอกลักษณ์ที่เราได้เห็นรวมถึงสัมผัสในวิดีโอที่ผ่านๆ มา ก็ทำให้เกมนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าสนใจมากๆ ครับ Credit: https://gamingbolt.com/returnal-trailer-reveals-atropos-shifting-biomes

นับเป็นข่าวน่าเศร้าของวันนี้เลย เมื่อมีการประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมอีกแล้ว คราวนี้เป็น Returnal อีกหนึ่งเกมเจนใหม่ที่ประกาศลงให้กับ PS5 เท่านั้นจากทาง Housemarque โดยจากเดิมที่จะวางขายช่วงกลางเดือน 3 ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นช่วงปลายเดือน 4 แทนครับ ทางสตูดิโอ ได้ประกาศข่าวนี้ออกมาทาง Official Twitter ของพวกเขา โดยเหตุผลหลักก็คือต้องการเวลาพัฒนาเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นทุกคนจะสนุกไปกับผลงานใหม่ของพวกเขาจริงๆ การพัฒนายังไม่เสร็จ และนำเกมออกมาขายก่อน ดูเป็นอะไรที่เซนซิทีฟพอสมควร (เนื่องจาก Cyberpunk 2077 เล่นไม่ได้บน PS4 กับ Xbox One) ดังนั้นคิดว่าผู้พัฒนาเองก็คงอยากแน่ใจมากๆ ก่อนว่าเกมของพวกเขาเสร็จ และสามารถเล่นได้จริงครับ Returnal จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 เมษายน 2021 บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Update: Returnal has a new release date of April 30, 2021. SIE and Housemarque have made the decision to move the release date in order to give the team extra time to continue to polish the game to the level of quality players expect from Housemarque. See you in April! pic.twitter.com/xb6IBWJ5TQ — PlayStation (@PlayStation) January 28, 2021 Credit: GamingBolt

ในช่วงกลางปี 2020 ทางนักพัฒนา Housemarque ได้มีการเปิดตัว Returnal เกมใหม่แนว TPS Si-Fi Psychological Horror โดยจะลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้น เซตติ่งของเกมดูเหมือนจะเป็นการผจญภัยในดวงดาวปริศนาสักแห่ง ตัวเกมกำหนดจะวางขายในช่วงกลางเดือน 3 ของปีนี้ ซึ่งล่าสุดได้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ออกมาจากทางผู้พัฒนาครับ! เท่าที่ดูจากวิดีโอเกมเพลย์ดังกล่าว เหมือนว่าโทนสีของเกมค่อนข้างจะมืด และจังหวะการ Action ก็ค่อนข้างเร็ว อาวุธที่ตัวละครหลักใช้เป็นปืนอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนศัตรูที่เราจะได้พบในเกมนี้ ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคือตัวอะไร แต่คิดว่าน่าจะระบุว่าเป็นเอเลี่ยนได้ครับ วิดีโอดังกล่าวไม่ได้มีความยากอะไรมากมาย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลย นับตั้งแต่ที่เครื่อง PS5 วางจำหน่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เรียกได้ว่ามีเกมน้อยมากที่จำเป็นต้องเล่นบนเครื่องดังกล่าวเท่านั้น (Demons Souls, Spiderman Remastered) ดังนั้นการได้เห็นเกมเพลย์ของ โปรเจกต์ที่จะลงให้กับ PS5 จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นพอสมควรเลย ใครสนใจ Returnal ตัวเกมจะวางขายในวันที่ 19 มีนาคม 2021 นี้ครับ Credit: VG247