GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Asus"
ASUS เผยโฉม RTX 3070 โมเดลพิเศษที่ใช้พัดลมจาก Noctua
กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างถึงที่สุดเมื่อสุดยอดแบรนด์ผลิตการ์ดจออย่าง Asus ได้ประกาศจับมือกับสุดยอดแบรนด์ระบายความร้อนอย่าง Noctua เพื่อผลิตการ์ดจอ RTX 3070 ฉบับพิเศษ ประสิทธิภาพที่ได้จะขนาดไหนเป็นเรื่องที่เกิดคาดเดา แต่วันนี้เรามีโอกาสได้เห็นหน้าตาดีไซน์ของเจ้า RTX 3070 รุ่นพิเศษนี้ก่อนแล้ว!ดีไซน์โดยรวมไม่ได้แตกต่างจาก RTX 3070 รุ่นสองพัดลม ที่เราเคยเห็นกันมาแล้วเท่าไหร่นัก แต่จุดที่แตกต่างออกไปคือพัดลมที่ใช้ในการระบายความร้อนครั้งนี้เป็นของที่ผลิตโดย Noctua และมีการเปลี่ยนสีโดยรวมของการ์ดให้เป็นสีทราย กับน้ำตาล พร้อมกับโลโก้ยืนยันว่า RTX 3070 รุ่นพิเศษนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Asus และ Noctuaการที่ระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น ย่อมหมายถึงการดึงประสิทธิภาพของการ์ดออกมาได้มากยิ่งขึ้น การ Overclock สามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าเหล่านัก OC ทั้งหลาย จะต้องอยากสัมผัสกับการ์ดรุ่นพิเศษนี้กันสักครั้งอย่างแน่นอน โดยยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะสามารถหาซื้อได้ในบ้านเราหรือไม่Credit : VideoCardZ
01 Oct 2021
หลุดข้อมูล Z690 จากทาง Asus ไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะใส่แรม DDR5 ได้
เป็นเรื่องที่แทบจะแน่นอนแล้วว่า Motherboard รุ่นต่อไป Z690 สำหรับ intel Alder Lake จะมาพร้อมกับการรองรับ DDR5 รวมถึง PCie 5.0 ด้วย แน่นอนว่าเทคโนโลยีเจนใหม่นี้ จะทำให้ประสบการณ์ใช้งาน PC ของเรารวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดดูเหมือนไม่ใช่ Motherboard ทุกราคา ที่จะสามารถใช้งานแรม DDR5 กับ PCie 5.0 ได้!ข้อมูลหลุดล่าสุดเผยว่ามีเพียงแค่ Maximus, ProART และ Prime บางรุ่นเท่านั้นที่จะสามารถใช้งาน DDR5 กับ PCie 5.0 ได้ ซึ่งน่าแปลกใจที่ไม่มี ROG Strix กับ TUF Gaming อยู่ในรายชื่อบอร์ดที่รองรับ DDR5 ด้วย! ในขณะที่ Prime มีการออกทั้งโมเดลที่รองรับ DDR5 และ DDR4 มาให้ทั้งคู่ อย่างไรก็ตามหลังจากช่วงแรกที่วางขาย Asus น่าจะปล่อยรหัส Apex กับ Impact ตามมาในภายหลังด้วย ซึ่งคาดว่าอาจเป็นอีกรุ่นที่รองรับ DDR5ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริงหมายความว่าการ จะประกอบคอมให้ใช้ DDR5 ได้จำเป็นต้องจ่ายเงินแพงขึ้นพอสมควร แถมตัว Ram รุ่นใหม่เองก็เชื่อว่าคงมีราคาสูงไม่ต่างกัน อาจต้องรอกันไปอีกสักพักเพื่อรอให้ราคาถูกลงCredit : Tom's Hardware
15 Sep 2021
Adata จับมือกับ Asus เปิดตัว RAM DDR4 ที่มาพร้อมลายการ์ตูนสุดน่ารัก!
สายแต่งคอมที่ชื่นชอบ Anime ต้องดีใจกับสิ่งนี้ เมื่อล่าสุด Adata ได้จับมือกับ Asus ออก RAM DDR4 รุ่นพิเศษ XPS D50 'Long Yao' ROG STRIX ในตลาดประเทศจีน โดยใช้โมเดลของ XPS D50 ในสีขาวพร้อมกับไฟ RGB และภาพตัวการ์ตูน น้องแมวสีฟ้าสุดน่ารัก ในราคาเริ่มต้น 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,500 บาทพูดถึงเรื่องความแรง กับความจุของ XPS D50 'Long Yao' ROG STRIX จะมีสองราคาให้เลือกคือ 16GB (8GB x 2) และ 32GB (16GB x 2) มี Bus อยู่ที่ 3600 - 3733Mhz และมีการยืนยันอีกว่าจะมีการออกรุ่น Bus ที่หลากหลายกว่านี้อย่าง 3200Mhz กับ 3800 - 4000Mhz ตามมาในภายหลัง ในส่วนของโลโก้ ROG ที่อยู่ขวาบน มีการเขียนข้อความภาษาจีนที่แปลว่า SnowStorm ไว้ด้วย โดยไม่แน่ใจว่ามีความหมายอะไรเป็นพิเศษรึเปล่านับตั้งแต่การวางขายสินค้าลายพิเศษในซีรีส์ Gundam ในช่วงปีที่ผ่านมา Asus ประเทศจีน ได้มีการทำสินค้า Hardware จากการ์ตูนดัง หรือรายพิเศษออกมาวางขายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเชื่อว่าสินค้าเหล่านี้ได้รับความนิยมมากพอสมควรทั้งใน และนอกประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าเราคงจะได้เห็นสินค้าแบบนี้มากขึ้นต่อไปในอนาคตด้วยCredit : Tom's Hardware
13 Sep 2021
Asus จดสิทธิบัตร RTX 3070 Noctua บอกใบ้ถึงการร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์
Asus เป็นหนึ่งในผู้ผลิตการ์ดจอที่มีชื่อเสียง สินค้ามีคุณภาพสูงโดยเฉพาะในเรื่องความแรงของชิป และการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แต่หลังจากนี้เราอาจได้เห็นการ์ดจอจากทาง Asus ในรุ่นที่สามารถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อล่าสุดเหมือนว่าจะมีการจับมือกับ Noctua เพื่อออก RTX 3070 รุ่นใหม่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Noctua พวกเขาคือแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์ระบายความร้อนภายใน PC ที่ยอดเยี่ยมเจ้าหนึ่งของโลก ถ้าหากว่าพูดถึงพัดลมเคสที่มีรอบสูงๆ หรือ Heatsink ลมอันดับต้นๆ ของโลก หนึ่งในนั้นจะต้องมีสินค้าของ Noctua อยู่ด้วยอย่างแน่นอน มันจึงทำให้การร่วมงานครั้งนี้หมายถึงการ์ดจอแรงดีกรีระดับ Asus ที่ระบายความร้อนได้ดีระดับ Noctuaแต่คำถามที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็น RTX 3070 เนื่องจากการระบายความร้อนของ Asus ในการ์ดจอซีรีส์ 30 ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ อยู่แล้ว มันดูไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องไปจับมือกับแบรนด์เชี่ยวชาญการระบายความร้อนในครั้งนี้ ถ้าหากว่ารุ่นที่ทำเป็น 3080Ti หรือ 3090 ก็ยังพอเข้าใจได้ ในจุดนี้คิดว่าต้องรอดูข้อมูลกันต่อไปCredit: Tom's Hardware 
05 Aug 2021
เปิดตัว ROG Phone 5 มาพร้อมกับ Snapdragon 888 เริ่มต้นที่ 30,000 บาท
เปิดตัวแล้ววันนี้ กับโทรศัพท์สำหรับเหล่าเกมเมอร์ตัวจริงเครื่องใหม่จากทาง Asus กับ ROG Phone 5 ที่มาพร้อมกับชิป Snapdragon 888 ซึ่งแรงเป็นอันดับ 2 ของโลกอยู่ในตอนนี้ และมี RAM สูงสุดถึง 18 GB เทียบเท่ากับ PC ในปัจจุบันเลยทีเดียว ที่ผ่านมา Asus ROG Phone ถือได้ว่าเป็นมือถือที่มีฟังก์ชันมากมายตอบโจทย์สำหรับเกมเมอร์อย่างแท้จริง ซึ่งแน่นอนว่าอะไรดีๆ ที่รุ่นก่อนหน้า Rog Phone 3 มี ก็ถูกเอามาใส่ไว้ในรุ่นใหม่นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม L1 / R1 ระบบ Macro ที่สามารถตั้งค่าได้เอง หรือกระทั่งอุปกรณ์เสริมพัดลมระบายความร้อน จุดที่แตกต่างกับ ROG Phone 3 ไม่ใช่เพียงแค่ชิปที่แรงขึ้นเท่านั้น แต่มีการใส่ปุ่ม L2 / R2 มาให้ด้วย (อยู่บริเวณด้านหลังเครื่องด้านล่าง) รวมถึงกล่องที่มีความคมชัดมากขึ้น โดยรอบนี้จะมี 5 รุ่นให้เลือกซื้อคือ ROG Phone 5 (8GB/128GB) : 799 ยูโร หรือประมาณ 29,230 บาท ROG Phone 5 (12GB/256GB) : 899 ยูโร หรือประมาณ 32,900 บาท ROG Phone 5 (16GB/256GB) : 999 ยูโร หรือประมาณ 36,550 บาท ROG Phone 5 Pro (16GB/512GB) : 1,199 ยูโร หรือประมาณ 43,860 บาท ROG Phone 5 Ultimate (18GB/512GB) : 1,299 ยูโร หรือประมาณ 47,520 บาท เบื่องต้นยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่ หรือราคายังไง แต่งานนี้บอกเลยว่าใครกำลังหามือถือเล่นเกมใหม่อยู่ไม่ควรพลาดครับ
11 Mar 2021
อัปเดตรายชื่อ Smart Phone ที่เหมาะจะซื้อมาเล่นเกมมากที่สุด (ต้นปี 2021)
ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยนะครับว่าเกมมือถือเข้ามามีบทบาทในวงการเรามากมายจริงๆ (เผลอๆ จะตลาดใหญ่เท่ากับวงการเกม Console แล้วด้วย) โดยเฉพาะฝั่งกี่ฬา Esport ที่แข่งขันกันอย่างจริงจังในบ้านเรา และมีเงินรางวัลมากกว่าเงินเดือนของผมทั้งปีเสียอีก (แหม่พูดแล้วก็เศร้า) ด้วยความที่ตลาดนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกวันๆ ทางฝั่งผู้พัฒนาเองก็หันมาให้ความสนใจแข่งกันพัฒนาเกมดีๆ มาลงให้กับฝั่งมือถือมากมายไปด้วย ส่งผลในปัจจุบันเกมมือถือเริ่มใช้สเปคที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เริ่มเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะเล่นเกมในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา ที่นี้เราจะได้รู้ได้ยังไงว่าควรซื้อมือถือเครื่องไหน ถึงจะสามารถเล่นเกมที่เราอยากเล่นได้ทั้งหมด? ไอ้ครั้นจะให้ไปนั่งเทียบสเปคของแต่ละรุ่น ก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากอีก ดังนั้นวันนี้ผมจะมีชี้เป้าให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันว่าปัจจุบันในตลาดบ้านเรา มือถือรุ่นไหนเหมาะจะซื้อมาใช้เล่นเกมมากที่สุดครับ! แต่ก่อนจะไปเริ่มกัน ผมขอออกตัวก่อนว่าการจัดอันดับใน บทความนี้ จะวัดจาก ความสามารถของตัวเครื่อง, จำนวนชั่วโมงที่สามารถใช้งานได้, ฟังก์ชั่นสำหรับเกมเมอร์ และราคาเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับความแรงของ CPU และ GPU ผมอ้างอิงจาก 2 แหล่งคือ Nanoreview กับ Techcenturion ส่วนราคาจะมาจากเว็บ Siamphone ครับ มือถือ Gaming ที่โดยรวมยอดเยี่ยมมากที่สุด : Asus ROG Phone 3 หน้าจอขนาด : 6.59 นิ้ว  (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 270 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว) CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Plus Octa Core (แรงอันดับ 8 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) ,หน่วยความจำ : RAM 12 GB / ROM 512 GB, แบตเตอรี่ : 6,000 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 26,000 บาท หน้าจอไม่ใหญ่เกินไป, มี Refresh Rate สูงถึง 144Hz, ใช้ชิปประมวลผลที่แรง 8 ของโลก, แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นาน, มาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม, ทั้งยังสามารถตั้งค่า Macro หรือ ชุดคำสั่งเพื่อให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้น คงต้องบอกว่าไม่มีโทรศัพท์เครื่องไหนในโลกจะตอบโจทย์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ในเรื่องของราคา 26,000 ก็ถือว่าไม่แพงเกินไปเช่นกัน จุดเด่นหลักๆ ของ ROG Phone 3 คือเรื่องของ AeroActive Cooler 3 อุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการระบายความร้อน กับ Airtrigger 3 บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง ที่ทำงานเหมือนปุ่ม L1, R1 ของจอยเครื่อง Console แต่ต่างกันตรงที่บนมือถือนี้จะเป็นเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ใช้รับสัมผัสแทน โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเองได้เลยว่าจะให้การสัมผัสแบบไหน ส่งผลแบบไหนในเกม พูดแล้วอาจจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าดูในวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลยครับ มือถือ Gaming ที่มีราคาย่อมเยาที่สุด : Nubia Red Magic 5G หน้าจอขนาด : (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 320 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 865 5G Octa Core (แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 8 - 16 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,500 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 17,900. บาท Red Magic 5G อาจไม่ใช่รุ่นที่ได้รับความนิยมมากนักในบ้านเรา แต่เจ้าตัวนี้ก็เรียกได้ว่ามาพร้อมกับสเปคที่แรงน้อยกว่า ROG Phone 3 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ได้ Touch Sampling Rate ที่สูงกว่ามาแทน กับ RAM ของเครื่องที่ให้มาแบบเยอะถึง 16 GB แต่จุดที่น่าสนใจมากที่สุดคงเป็นเรื่องของราคาที่ถือว่าถูกมากๆ หากเทียบกับสเปคครับ ในเรื่องของการระบายความร้อน Red Magic 5G ก็มาพร้อมกับ Active Liquid-Cooling with Turbo Fan 3.0 ที่ทำให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่ารุ่นทั่วไปที่มีในตลาด แน่นอนว่าเจ้าเครื่องนี้เองก็มี Trigger หรือปุ่มสำหรับใส่ชุดคำสั่งสำหรับการเล่นเกมก็มีมาให้ 2 ปุ่มเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถตั้งคำสั่งความละเอียดสูงแบบ เขย่าหน้าจอ หรือสไลด์ซ้าย กับขวา แบบเดียวกับ ROG Phone 3 ได้ครับ มือถือ Gaming ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมยอดเยี่ยมที่สุด : Xiaomi Black Shark 3 Pro หน้าจอขนาด : (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 270 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว),  CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core (แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) หน่วยความจำ : RAM 8 - 12 GB / ROM 256 - 512 GB, แบตเตอรี่ : 5,000 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 19,900. บาท Black Shark ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น Gaming จากทาง Xiaomi ที่อยู่คู่วงการมานานแล้ว โดยในเรื่องของความแรงเจ้า Black Shark 3 Pro จะเทียบเท่ากันกับ Red Magic 5G เลย แต่ได้ในเรื่องของอุปกรณ์เสริม ที่เยอะกว่ามาแทน ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, ชุดระบายความร้อน, จอยควบคุมสำหรับต่อใช้งาน, คีย์บอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย ในส่วนของปุ่มคำสั่งพิเศษ รุ่นนี้ก็มีมาให้ทางด่านขวาบน กับขวาล่างเช่นกัน เพียงแต่ของ Black Shark 3 Pro จะเป็นปุ่มที่อยู่ภายในหน้าจอ Touch Screen ทำให้อาจใช้งานได้ยากกว่า 2 รุ่นข้างบนเล็กน้อย ส่วนเรื่องระบายความร้อนก็สามารถทำได้ดีมากๆ เช่นกันด้วย Sandwich Liquid Cooling และจะดีขึ้นไปอีกเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมครับ มือถือทั่วไปที่เหมาะจะเอามาเล่นเกมมากที่สุด แม้ว่ามือถือ Gaming จะเกิดมาเพื่อเล่นเกมอย่างแท้จริง แต่ในเรื่องของดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวเกินไปเลยอาจทำให้หลายคนอาจรู้ไม่ชอบเครื่อง 3 รุ่นข้างต้นนี้ ดังนั้นผมจึงได้จัดอันดับมือถือทั่วไป ที่เหมาะสำหรับเล่นเกมมากที่สุดมาให้ด้วย ซึ่งในกลุ่มนี้มักจะได้ในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานทั่วไปที่ดีกว่ามาทดแทนครับ Mi 11 หน้าจอขนาด : 6.81 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 480 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core (แรงอันดับ 2 ของโลก), GPU : Adreno 660 (แรงอันดับ 2 ของโลก) หน่วยความจำ : RAM 8 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,600 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 22,300. บาท เรือธงตัวใหม่จากทาง Xiaomi ที่เพิ่งวางขายไปเลยช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ จุดเด่นของเจ้าเครื่องนี้คือหน่วยประมวลผลที่แรงเป็นอันดับ 2 ของโลกในตอนนี้ทั้ง CPU และ GPU กับ Touch Sampling Rate ที่สูงแบบอลังการงานสร้าง 480 Hz แต่กลับมีราคากลางเพียงแค่ 22,300 บาท ซึ่งถูกกว่า ROG Phone 3 เสียอีก แม้จะไม่มีฟังก์ชันหรืออุปกรณ์เสริมดีๆ สำหรับ Gaming โดยเฉพาะมาด้วย แต่ในเรื่องของการระบายความร้อน Mi 11 ถือว่าทำได้ดีมาก อุณหภูมิเครื่องจะอยู่ที่ 35 - 37 องศาเท่านั้นหากเล่น ROV ในห้องแอร์ 25 องศา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากๆ ครับ Samsung S21 Plus (S21+) หน้าจอขนาด : 6.7 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 240 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Exynos 2100 Octa Core (แรงอันดับ 3 ของโลก), GPU : Mali-G78 MP14 (แรงอันดับ 7 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 8 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,800 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 31,800. บาท อีกหนึ่งเรือธงใหม่จากทาง Samsung ที่มาพร้อมกับ CPU ที่แรงอันดับ 3 กับ GPU ที่อยู่อันดับ 7 ทำให้ เจ้า S21+ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากๆ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เหมือนจะมีปัญหาในเรื่องของ แบตเตอรี่ ที่จากปากผู้ใช้งานเหมือนจะหมดเร็วมากๆ แม้จะมีขนาดถึง 4,800 mAh ก็ตาม โชคยังดีที่รุ่นนี้สามารถชาร์จได้เร็วมากครับ อีกหนึ่งข้อเสียของ S21+ คือเรื่องการระบายความร้อนที่ทำออกมาได้ไม่ดีนัก จากคำรีวิวของผู้ใช้งานดูเหมือนว่าแค่เปิดใช้งานกล้องเป็นเวลานานตัวเครื่องก็จะร้อนมากๆ แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อร้อนมากๆ CPU / GPU ก็จะลดความสามารถในการทำงานลง แต่ถ้าหากใช้งานในห้องแอร์ และสามารถชาร์จไฟได้ตลอดเวลา S21+ ถือเป็นอีกหนึ่งมือถือดีไซน์สวยที่ไม่ควรพลาดครับ iPhone 12 Pro หน้าจอขนาด : 6.1 นิ้ว (Refresh Rate 60Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 120 Hz หน่วย (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว) ,CPU : Apple A14 Bionic Hexa Core (แรงอันดับ 1 ของโลก), GPU : A14 Bionic’s GPU (แรงอันดับ 1 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 6 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : Li-Ion 2815 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 36,400. บาท เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับ CPU และ GPU แรงอันดับ 1 ของโลกแล้วสำหรับ iPhone 12 แต่น่าเสียดายที่หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับ Refresh Rate เพียงแค่ 60 Hz กับ Touch Sampling Rate แค่ 120 Hz ทำให้อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่มือถือที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมขนาดนั้น ในเรื่องของการระบายความร้อนเอง ก็ถือได้ว่ายังมีปัญหาอยู่เช่นกัน จากคำรีวิวของผู้ใช้งานเหมือนว่าจะร้อนมากๆ หากใช้เล่นเกมไประยะเวลาหนึ่ง และในเรื่องของแบตเตอรี่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และเล่นเกมทั้งวันเช่นกัน ข้อดีก็คือมีฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะมากๆ (โดยเฉพาะการอัดวิดีโอ และการถ่ายภาพ) หากปกติเป็นคนที่ใช้งานทั่วไปเยอะ และเล่นเกมเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น iPhone 12 ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ One Plus 8 Pro หน้าจอขนาด : 6.1 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 240 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core(แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก), หน่วยความจำ : RAM 8 - 12 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,510 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 28,100. บาท แม้จะไม่ได้มาพร้อมกับ CPU / GPU ที่แรงเมื่อเทียบกับราคา แต่ One Plus อาจเรียกได้ว่าเป็นมือถือที่มีระบบปฏิบัติการ Android ที่เสถียรมากที่สุด (OxygenOS 10.0 based on Android 10.0) ส่งผลให้เป็นโทรศัพท์ที่จะเกิดบัค หรือเหตุการณ์แบบเกมปิดตัวดื้อๆ น้อยครั้งที่สุดครับ ในส่วนของการระบายความร้อนก็ทำได้แบบปานกลาง ไม่ได้ดีเทียบเท่ากับมือถือ Gaming แต่ถือว่าดีในระดับหนึ่ง โดยที่หลุดมาไกลถึงตรงนี้ เป็นเพราะเรื่องราคาที่สูงไปนิด เมื่อเทียบกับ MI 11 แล้วเจ้าตัวนี้เลยน่าซื้อน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ
08 Mar 2021
แนะนำ 3 สมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” แบรนด์ดังที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยตอนนี้
ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” เพราะแบรนด์มือถือชื่อเสียงหลายเจ้าถือได้ว่าตีตลาดหนักเป็นอย่างมาก ทำให้เกมเมอร์ที่ต้องการมือถือเอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น แถมเราไม่ต้องซื้อเครื่องหิ้วเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้เกวลินเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมมิ่งโฟนที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยกันค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าทุกรุ่นเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปทั้งหมดเลย จะแตกต่างก็ประสิทธิภาพ, ลูกเล่นแต่ละแบรนด์ แล้วก็ราคา เมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ รุ่นแรกที่เกวลินขอแนะนำก็คือ “ASUS ROG Phone 3” จะเรียกว่าเป็นสุดยอดเกมมิ่งโฟนอันดับต้น ๆ ที่มีขุนพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” ที่ทาง ASUS ยังได้ดันประสิทธิภาพด้วยการ OC ตัวชิปเซ็ต CPU และ GPU ให้มีความเร็วมากกว่าเกมมิ่งโฟนแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด แล้วความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือมีการแถมตัวระบายความร้อนรุ่นใหม่อย่าง “GameCool 3” ที่ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนมือ แล้วด้วยความที่เป็น ASUS ก็มีการดีไซน์ตัวเครื่องในส่วนต่าง ๆ เช่น มีตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แม่นยำ, ตัวรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน, เพิ่มปุ่ม AirTriggers 3 เข้ามาด้านข้างเครื่องเพื่อใช้ในการเล่นเกมประเภท FPS ได้ดีมากกว่าเดิม, ลำโพงที่จัดมาให้เต็ม ๆ รวมไปถึงเรายังสามารถที่จะชาร์จขนาดเล่นพร้อมเชื่อมต่อในการถ่ายทอดสดได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ASUS ยังได้ออกแบบอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ออกมาเพียบเลย สุดท้ายนี้ก็ยังสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G อีกด้วยค่ะ สเปกเครื่อง ASUS ROG Phone 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย ROG UI หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.59 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ ที่รองรับการแสดงผลในรูปแบบ HDR10+ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz แถมที่มีค่าดีเลยเพียงแค่ 1ms เท่านั้น รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus และ Snapdragon 865 สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1 ( ไม่สามารถเพิ่มความจุได้ ) กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682], เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP, เลนส์ Macro ความละเอียดสูงถึง 5MP กล้องหน้า: ความละเอียด 24MP การเชื่อมต่อ: WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax Bluetooth 5.1, USB-C 3.1 กับ ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ระบบเสียง: เป็นระบบเสียง DTS X Sound เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบตเตอรี่: 6,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30 วัตต์ สำหรับ ASUS ROG Phone 3 วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันค่ะ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกันมีดังต่อไปนี้ค่ะ ASUS ROG Phone 3 ในรุ่น Ram 12GB. และ Rom 512GB. สนนราคาอยู่ที่ 32,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ASUS ROG Phone 3 Strix Edition ในรุ่น Ram 8GB. และ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 24,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ROG Phone 3 Lighting Armor Case - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Clip - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Kunai 3 Gamepad - ราคาอยู่ที่ 3,990 บาท TwinView Dock 3 - ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท โดย ASUS ROG Phone 3 สามารถหาซื้อได้ทั้ง ASUS Exclusive Store, ASUS Official Store ผ่านช่องทาง Shopee กับ lazada นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ที่มีโปรโมชั่นลดราคาในแพ็คเกจพิเศษแล้วก็ยังสามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้าชื่อดังทั้ง JIB Computer หรือ Banana ก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกันค่ะ ใครที่อยากจะได้สุดยอดเกมมิ่งโฟนห้ามพลาดเลยค่ะ! รุ่นต่อมาพึ่งประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราแบบสด ๆ ร้อน ๆ กันเลยกับ “Legion Phone Duel” จากแบรนด์ Lenovo ที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของ ASUS ROG Phone 3 เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดย Legion Phone Duel ก็ถูกจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่ใช้ซิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” เหมือนกัน แล้วจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ตรงที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเกมที่เล่นแบบแนวนอนเป็นหลัก ( ส่วนใหญ่เกมก็มักจะเป็นแนว ๆ นี้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ) ที่น่าสนใจอีกข้อก็คือมีการปรับปรุงปุ่ม Trigger ทั้งซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่แม่นยำขึ้น ใครที่ชอบเล่นเกมแนว FPS หรือ บางคนจะนำไปใช้กับเกมแนว MOBA ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยสองปุ่มนี้จะเป็นปุ่มที่เพิ่มคำสั่งต่าง ๆ ภายในเกมขึ้นอยู่กับว่าตัวผู้เล่นต้องการตั้งค่าเพื่อให้ใช้งานรูปแบบไหน ที่เด็ดสุดก็คือทาง Lenovo ได้ออกแบบระบบสั่นเป็นมอเตอร์คู่อยู่ฝั่งซ้าย กับ ขวาของตัวเครื่องที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมบนมือถือแบบใหม่ซะด้วยค่ะ เช่นเดียวกันค่ะ รุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยี 5G ด้วยเช่นกันค่ะ สเปกเครื่อง Legion Phone Duel ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Legion OS และ ZUI12 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.65 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus  GPU: Adreno 650 RAM: 12GB. และ 16GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1  กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.89, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16MP กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เป็นรูปแบบป๊อปอัพด้านข้าง การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, มี USB-C ถึง 2 ช่องส่งผลทำให้เราสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และ มีระบบระบายความร้อนแบบ Dual-Liquid และ Mid-Thermal แบตเตอรี่: 5,000 mAh ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาให้เป็น 2 ส่วนคือข้างละ 2,500 mAh เหตุผลก็เพราะเพื่อลดความร้อนระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ หรือ ลดความร้อนจากการที่เครื่องทำงานอย่างหนัก แล้วเด็ดที่สุดคือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 90 วัตต์ที่เครมกันว่าสามารถชาร์จจาก 0 ไป 100% ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น! โดย Legion Phone Duel วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกมี Ram 12GB. แล้วก็ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 23,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีน้ำเงินเท่านั้น และ รุ่นต่อมา Ram 16GB. แล้วก็ Rom 512GB. ราคาอยู่ที่ 30,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีแดงเท่านั้น ซึ่งถ้าใครที่อยากจะได้ในแพ็คเกจราคาพิเศษก็ซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ได้เลยค่ะ เพราะราคาถูกมาก ๆ เลย แล้วถ้าใครที่ใช้เบอร์ของ AIS มานานก็จะได้รับสิทธิ์ในการลดราคาเพิ่มเติมอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกเหนือจากนี้ยังมีการวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น ๆ อาทิเช่น IT City, JD.co.th, JIB Computer, Speed Computer, Banana และ BlueShop เป็นต้นค่ะ มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่เริ่มตีตลาดในบ้านเราได้ราว ๆ 2 ปีแล้วค่ะ กับ “Black Shark 3, Black Shark 3 Pro หรือ Black Shark 3S” หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Xiaomi ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากเกมเมอร์เป็นอย่างดีเลยค่ะ เห็นชื่อแบรนด์หลายคนก็คงจะทราบเลยว่ามันคือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดา 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างนั้นนะคะ โดยต้องอธิบายก่อนว่าปัจจุบันทาง Xiaomi มีแค่ 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราก็คือ Black Shark 2 กับ Black Shark 3 ส่วน Black Shark 3 Pro กับ Black Shark 3S ที่เป็นรุ่นอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพยังไม่มีตารางการนำเข้ามาวางจำหน่าย สำหรับ Black Shark 3 ทาง Xiaomi เลือกใช้ชิปเซ็ต “Snapdragon 865” แม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ได้แตกต่างจากชิปเซ็ตตัวท็อป “Snapdragon 865 Plus” ก็ตาม แต่ตัวนี้ก็สามารถรองรับเทคโนโลยี 5G และ Wi-Fi 6 ได้ด้วย มีการดีไซน์มีปุ่ม Shoulder Button ที่อยู่ทางซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องเหมือนกับ 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้ค่ะ ความเก๋ของมันก็คือเมื่อเวลาเล่นเกมปุ่มนี้จะเด้งขึ้นมาเพื่อให้ใช้งาน แต่เมื่อใดที่เราใช้งานแบบปกติมันก็จะกลับไปอยู่ในสภาพตามปกติค่ะ อีกทั้งยังเครมอีกว่ามันทนต่อแรงกด และ การหดตัวเวลาเก็บได้ถึง 300,000 ครั้ง ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ Black Shark 3 ยังมีลำโพงคู่ในรูปแบบระบบสเตริโอ รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res อีกด้วยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอใครที่ใช้ชอบหูฟังที่เป็นรูปแบบ 3.5 มม. รุ่นนี้ก็กลับมาให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง แถมตัวนี้ยังมีการชาร์จแบบแม่เหล็กที่แตะด้านหลังเครื่องได้ด้วย รวมไปถึงยัง สเปกเครื่อง Black Shark 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Joy UI 11 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.67 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 90Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz  CPU: Snapdragon 865 GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR4x ความจุ: 125GB. และ 256GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.0 กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.8, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.3 และ เลนส์ Depth ความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2  กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB-C ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบตเตอรี่: 4,720 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 65 วัตต์ การชาร์จแบบแม่เหล็กด้านหลังเครื่อง 18 วัตต์ สำหรับ Black Shark 3 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง Black Shark Official Store แพลตฟอร์ม lazada เท่านั้น! โดยสนนราคาอยู่ที่ 21,900 บาท ก็จะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเป็นระยะ ๆ ซึ่งในตอนที่เขียนบทความนี้ลดราคาเหลืออยู่ที่ 18,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Black Shark 3 เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคส, พัดลมระบายความร้อน, หูฟัง, คีย์บอร์ดมือถือ หรือ คอนโทรลเลอร์ เป็นต้น ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ที่ ( คลิกที่นี่ )  นี่คือมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ไม่นับแบรนด์อื่น ๆ ที่วางจำหน่ายแล้วมีร้านค้าที่หิ้วนำเข้ามาขายในบ้านเรานะคะ ซึ่ง 3 แบรนด์นี้เกมเมอร์สามารถซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการประกันจากผู้ผลิต หรือใครที่ต้องการอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ว่าอยากจะซื้อแบรนด์ไหนมาใช้งานกัน เพราะแต่ละรุ่นก็มีลูกเล่น, ประสิทธิภาพ แล้วก็ราคาที่แตกต่างกันออกไป เรียกว่าจะไปให้สุดแล้วหยุดที่สุดยอด หรือ จะเลือกประหยัดแต่ก็เล่นเกมได้เหมือนกันอยู่ที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ!
12 Nov 2020
Asus เปิดตัว RTX 3090 ที่มาในธีม Gundam ด้วยสีขาวลายน้ำเงินแดง
RTX 3090 คือการ์ดจอตัวท็อปใหม่ของ Nvidia ซึ่งเป็นที่ต้องการของเหล่าเกมเมอร์ชาว PC อยู่ในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะมีการโชว์รูปร่างหน้าตาของตัวเรือธงจากค่ายต่างๆ ออกมาแล้ว แต่หลายๆ ค่ายยังคงไม่มีการเอาสินค้าออกมาวางจำหน่ายเลยแม้ตอนนี้ และล่าสุดก็เหมือนว่า Asus จะมีตัว RTX 3090 ROG Strix เวอร์ชันพิเศษ ที่ทำออกมาในธีม Gundam จากซีรีส์การ์ตูนหุ่นยนต์ชื่อดังของญี่ปุ่นด้วยครับ! Asus ได้ทำการเปิดตัวสินค้า Hardware เซตพิเศษ (ซึ่งรวมถึงการ์ดจอด้วย) ที่มาในธีม Gundam ภายในงานอีเวนต์ล่าสุดของ Republic of Gamers ที่น่าสนใจก็คือ Hardware เซตนี้ใช้สีขาวเป็นพื้น และใช้สีแดงกับน้ำเงินสำหรับตกแต่ง โดยเฉพาะตัวการ์ดจอที่มีความสวยงามมากๆ อย่างไรก็ตามเหมือนว่าสินค้าชุดนี้จะมีวางขายแค่ในประเทศจีน กับญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีการนำออกไปวางจำหน่ายที่ประเทศอื่นในอนาคตด้วยหรือไม่ โดยตัวผมเองคิดว่าถ้าหากมีความต้องการของตลาดมากพอ ก็คงมีการเอาออกไปวางขายเพื่อทำกำไรเพิ่มแน่นอนครับ ASUS ROG STRIX GeForce RTX 3090 GUNDAM จะมีราคาอยู่ที่ $2,500 หรือประมาณ 80,000 บาทครับ Credit: PCGamer
20 Oct 2020
Asus จับมือกับ IKEA เตรียมปล่อยเฟอร์นิเจอร์สำหรับเราเกมเมอร์เร็วๆ นี้!
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เหล่าเกมเมอร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับเครื่อง PC หรือโซฟาดีๆ สำหรับนอนเล่นเกมมือถือ ไม่ก็เกมคอนโซล บางครั้งก็เป็นเรื่องยากถ้าจะหาเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถตอบโจทย์ของเหล่าเกมเมอร์ได้ทั้งหมด แต่อะไรๆ มันจะเปลี่ยนไปแล้วครับ เมื่อล่าสุดได้มีข่าวว่า Asus กำลังทำงานกับ IKEA เพื่อออกเฟอร์นิเจอร์สำหรับเราเกมเมอร์โดยเฉพาะอยู่! ได้มีการประกาศผ่านทาง Twitter ของ Asus ด้วยขอความว่า "เร็วๆ นี้" พร้อมกับรูปภาพที่แสดงให้รู้ว่ากำลังทำงานร่วมกับ IKEA อยู่ ซึ่งจายงานของ GameRant เหมือนว่าสินค้าชุดดังกล่าวจะถูกวางขายครั้งแรกในจีนช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2021 ในจีน ก่อนที่จะมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในเดือน ตุลาคม ปีเดียวกัน งานนี้เราอาจจะได้เห็นชุด ชุดโต๊ะคอมที่ยอดเยี่ยม หรือไม่ก็โซฟาที่ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์สุดๆ ก็เป็นได้ครับ Coming soon.#IKEA #ROG #GAMING #WELCOMEGAMINGHOME pic.twitter.com/mKR02Xq0Rb — ROG Global (@ASUS_ROG) September 14, 2020 Credit: GameRant
15 Sep 2020
หลุด! หน้าตาของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti การ์ดจอเจนใหม่จาก Asus!
ในปี 2020 เป็นปีที่เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากเครื่องเล่นเกม Console เจนเนอเรชั่นต่อไปมากมาย และในปีเดียวกันยังเป็นปีที่เราน่าจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ของการ์ดจอบนเครื่อง PC ด้วยเช่นกัน เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายบอกว่า "ทาง Nvidia จะเปิดตัวการ์ดจอ Geforce RTX ซีรีส์ 30 ในช่วง Q3 ของปี 2020" แต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุดดูเหมือนว่าเราจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของมันก่อนแล้วครับ! เว็บไซต์ Videocardz ได้รายงานว่า มีการพบภาพที่แสดงถึงรูปร่างหน้าต่าของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti หลุดออกมา ซึ่งในภาพดังกล่าว ดูเหมือนจะเป็นสไลด์ที่ถูกถ่ายด้วยมือถือจากงานสัมมนาแห่งหนึ่ง โดยเหตุผลที่ทำให้คิดว่า การ์ดจอที่อยู่ในรูปคือ 3080 TI มาจากการที่ตัวอักษรข่างบนของรูปภาพนั้นแปลได้ว่า "Next-Generation ROG STRIX" ทำให้คิดว่าภาพนี้น่าจะได้มาจากการประชุมเกี่ยวกับดีไซน์ของการ์ดจอตัวใหม่ภายใน Asus เองครับ ถ้าหากว่ารูปภาพดังกล่าวได้มาจากการประชุมเกี่ยวกับดีไซน์ของการ์ดจอตัวใหม่ภายใน Asus เองจริง หมายความว่ารูปร่างหน้าตาของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti อาจไม่ใช้แบบนี้จริงๆ เพราะจะสังเกตุได้ว่า หน้าตาของการ์ดจอในภาพนี้ แตกต่างจากดีไซน์ที่ Strix ใช้ในซีรีส์ 10 และ 20 อยู่มากทีเดียวครับ แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพ เชื่อได้ว่าแรงกว่าตัวซีรีส์ปัจจุบันอย่างแน่นอนครับ Credit: GameRant  
09 Jul 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Asus"
ASUS เผยโฉม RTX 3070 โมเดลพิเศษที่ใช้พัดลมจาก Noctua
กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างถึงที่สุดเมื่อสุดยอดแบรนด์ผลิตการ์ดจออย่าง Asus ได้ประกาศจับมือกับสุดยอดแบรนด์ระบายความร้อนอย่าง Noctua เพื่อผลิตการ์ดจอ RTX 3070 ฉบับพิเศษ ประสิทธิภาพที่ได้จะขนาดไหนเป็นเรื่องที่เกิดคาดเดา แต่วันนี้เรามีโอกาสได้เห็นหน้าตาดีไซน์ของเจ้า RTX 3070 รุ่นพิเศษนี้ก่อนแล้ว!ดีไซน์โดยรวมไม่ได้แตกต่างจาก RTX 3070 รุ่นสองพัดลม ที่เราเคยเห็นกันมาแล้วเท่าไหร่นัก แต่จุดที่แตกต่างออกไปคือพัดลมที่ใช้ในการระบายความร้อนครั้งนี้เป็นของที่ผลิตโดย Noctua และมีการเปลี่ยนสีโดยรวมของการ์ดให้เป็นสีทราย กับน้ำตาล พร้อมกับโลโก้ยืนยันว่า RTX 3070 รุ่นพิเศษนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Asus และ Noctuaการที่ระบายความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น ย่อมหมายถึงการดึงประสิทธิภาพของการ์ดออกมาได้มากยิ่งขึ้น การ Overclock สามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าเหล่านัก OC ทั้งหลาย จะต้องอยากสัมผัสกับการ์ดรุ่นพิเศษนี้กันสักครั้งอย่างแน่นอน โดยยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะสามารถหาซื้อได้ในบ้านเราหรือไม่Credit : VideoCardZ
01 Oct 2021
หลุดข้อมูล Z690 จากทาง Asus ไม่ใช่ทุกรุ่นที่จะใส่แรม DDR5 ได้
เป็นเรื่องที่แทบจะแน่นอนแล้วว่า Motherboard รุ่นต่อไป Z690 สำหรับ intel Alder Lake จะมาพร้อมกับการรองรับ DDR5 รวมถึง PCie 5.0 ด้วย แน่นอนว่าเทคโนโลยีเจนใหม่นี้ จะทำให้ประสบการณ์ใช้งาน PC ของเรารวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดดูเหมือนไม่ใช่ Motherboard ทุกราคา ที่จะสามารถใช้งานแรม DDR5 กับ PCie 5.0 ได้!ข้อมูลหลุดล่าสุดเผยว่ามีเพียงแค่ Maximus, ProART และ Prime บางรุ่นเท่านั้นที่จะสามารถใช้งาน DDR5 กับ PCie 5.0 ได้ ซึ่งน่าแปลกใจที่ไม่มี ROG Strix กับ TUF Gaming อยู่ในรายชื่อบอร์ดที่รองรับ DDR5 ด้วย! ในขณะที่ Prime มีการออกทั้งโมเดลที่รองรับ DDR5 และ DDR4 มาให้ทั้งคู่ อย่างไรก็ตามหลังจากช่วงแรกที่วางขาย Asus น่าจะปล่อยรหัส Apex กับ Impact ตามมาในภายหลังด้วย ซึ่งคาดว่าอาจเป็นอีกรุ่นที่รองรับ DDR5ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงมากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริงหมายความว่าการ จะประกอบคอมให้ใช้ DDR5 ได้จำเป็นต้องจ่ายเงินแพงขึ้นพอสมควร แถมตัว Ram รุ่นใหม่เองก็เชื่อว่าคงมีราคาสูงไม่ต่างกัน อาจต้องรอกันไปอีกสักพักเพื่อรอให้ราคาถูกลงCredit : Tom's Hardware
15 Sep 2021
Adata จับมือกับ Asus เปิดตัว RAM DDR4 ที่มาพร้อมลายการ์ตูนสุดน่ารัก!
สายแต่งคอมที่ชื่นชอบ Anime ต้องดีใจกับสิ่งนี้ เมื่อล่าสุด Adata ได้จับมือกับ Asus ออก RAM DDR4 รุ่นพิเศษ XPS D50 'Long Yao' ROG STRIX ในตลาดประเทศจีน โดยใช้โมเดลของ XPS D50 ในสีขาวพร้อมกับไฟ RGB และภาพตัวการ์ตูน น้องแมวสีฟ้าสุดน่ารัก ในราคาเริ่มต้น 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,500 บาทพูดถึงเรื่องความแรง กับความจุของ XPS D50 'Long Yao' ROG STRIX จะมีสองราคาให้เลือกคือ 16GB (8GB x 2) และ 32GB (16GB x 2) มี Bus อยู่ที่ 3600 - 3733Mhz และมีการยืนยันอีกว่าจะมีการออกรุ่น Bus ที่หลากหลายกว่านี้อย่าง 3200Mhz กับ 3800 - 4000Mhz ตามมาในภายหลัง ในส่วนของโลโก้ ROG ที่อยู่ขวาบน มีการเขียนข้อความภาษาจีนที่แปลว่า SnowStorm ไว้ด้วย โดยไม่แน่ใจว่ามีความหมายอะไรเป็นพิเศษรึเปล่านับตั้งแต่การวางขายสินค้าลายพิเศษในซีรีส์ Gundam ในช่วงปีที่ผ่านมา Asus ประเทศจีน ได้มีการทำสินค้า Hardware จากการ์ตูนดัง หรือรายพิเศษออกมาวางขายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเชื่อว่าสินค้าเหล่านี้ได้รับความนิยมมากพอสมควรทั้งใน และนอกประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าเราคงจะได้เห็นสินค้าแบบนี้มากขึ้นต่อไปในอนาคตด้วยCredit : Tom's Hardware
13 Sep 2021
Asus จดสิทธิบัตร RTX 3070 Noctua บอกใบ้ถึงการร่วมมือกันระหว่างสองแบรนด์
Asus เป็นหนึ่งในผู้ผลิตการ์ดจอที่มีชื่อเสียง สินค้ามีคุณภาพสูงโดยเฉพาะในเรื่องความแรงของชิป และการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แต่หลังจากนี้เราอาจได้เห็นการ์ดจอจากทาง Asus ในรุ่นที่สามารถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เมื่อล่าสุดเหมือนว่าจะมีการจับมือกับ Noctua เพื่อออก RTX 3070 รุ่นใหม่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Noctua พวกเขาคือแบรนด์ที่ทำอุปกรณ์ระบายความร้อนภายใน PC ที่ยอดเยี่ยมเจ้าหนึ่งของโลก ถ้าหากว่าพูดถึงพัดลมเคสที่มีรอบสูงๆ หรือ Heatsink ลมอันดับต้นๆ ของโลก หนึ่งในนั้นจะต้องมีสินค้าของ Noctua อยู่ด้วยอย่างแน่นอน มันจึงทำให้การร่วมงานครั้งนี้หมายถึงการ์ดจอแรงดีกรีระดับ Asus ที่ระบายความร้อนได้ดีระดับ Noctuaแต่คำถามที่น่าสนใจคือทำไมถึงเป็น RTX 3070 เนื่องจากการระบายความร้อนของ Asus ในการ์ดจอซีรีส์ 30 ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ อยู่แล้ว มันดูไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องไปจับมือกับแบรนด์เชี่ยวชาญการระบายความร้อนในครั้งนี้ ถ้าหากว่ารุ่นที่ทำเป็น 3080Ti หรือ 3090 ก็ยังพอเข้าใจได้ ในจุดนี้คิดว่าต้องรอดูข้อมูลกันต่อไปCredit: Tom's Hardware 
05 Aug 2021
เปิดตัว ROG Phone 5 มาพร้อมกับ Snapdragon 888 เริ่มต้นที่ 30,000 บาท
เปิดตัวแล้ววันนี้ กับโทรศัพท์สำหรับเหล่าเกมเมอร์ตัวจริงเครื่องใหม่จากทาง Asus กับ ROG Phone 5 ที่มาพร้อมกับชิป Snapdragon 888 ซึ่งแรงเป็นอันดับ 2 ของโลกอยู่ในตอนนี้ และมี RAM สูงสุดถึง 18 GB เทียบเท่ากับ PC ในปัจจุบันเลยทีเดียว ที่ผ่านมา Asus ROG Phone ถือได้ว่าเป็นมือถือที่มีฟังก์ชันมากมายตอบโจทย์สำหรับเกมเมอร์อย่างแท้จริง ซึ่งแน่นอนว่าอะไรดีๆ ที่รุ่นก่อนหน้า Rog Phone 3 มี ก็ถูกเอามาใส่ไว้ในรุ่นใหม่นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม L1 / R1 ระบบ Macro ที่สามารถตั้งค่าได้เอง หรือกระทั่งอุปกรณ์เสริมพัดลมระบายความร้อน จุดที่แตกต่างกับ ROG Phone 3 ไม่ใช่เพียงแค่ชิปที่แรงขึ้นเท่านั้น แต่มีการใส่ปุ่ม L2 / R2 มาให้ด้วย (อยู่บริเวณด้านหลังเครื่องด้านล่าง) รวมถึงกล่องที่มีความคมชัดมากขึ้น โดยรอบนี้จะมี 5 รุ่นให้เลือกซื้อคือ ROG Phone 5 (8GB/128GB) : 799 ยูโร หรือประมาณ 29,230 บาท ROG Phone 5 (12GB/256GB) : 899 ยูโร หรือประมาณ 32,900 บาท ROG Phone 5 (16GB/256GB) : 999 ยูโร หรือประมาณ 36,550 บาท ROG Phone 5 Pro (16GB/512GB) : 1,199 ยูโร หรือประมาณ 43,860 บาท ROG Phone 5 Ultimate (18GB/512GB) : 1,299 ยูโร หรือประมาณ 47,520 บาท เบื่องต้นยังไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่ หรือราคายังไง แต่งานนี้บอกเลยว่าใครกำลังหามือถือเล่นเกมใหม่อยู่ไม่ควรพลาดครับ
11 Mar 2021
อัปเดตรายชื่อ Smart Phone ที่เหมาะจะซื้อมาเล่นเกมมากที่สุด (ต้นปี 2021)
ในปัจจุบันต้องยอมรับเลยนะครับว่าเกมมือถือเข้ามามีบทบาทในวงการเรามากมายจริงๆ (เผลอๆ จะตลาดใหญ่เท่ากับวงการเกม Console แล้วด้วย) โดยเฉพาะฝั่งกี่ฬา Esport ที่แข่งขันกันอย่างจริงจังในบ้านเรา และมีเงินรางวัลมากกว่าเงินเดือนของผมทั้งปีเสียอีก (แหม่พูดแล้วก็เศร้า) ด้วยความที่ตลาดนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นทุกวันๆ ทางฝั่งผู้พัฒนาเองก็หันมาให้ความสนใจแข่งกันพัฒนาเกมดีๆ มาลงให้กับฝั่งมือถือมากมายไปด้วย ส่งผลในปัจจุบันเกมมือถือเริ่มใช้สเปคที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เริ่มเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะเล่นเกมในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา ที่นี้เราจะได้รู้ได้ยังไงว่าควรซื้อมือถือเครื่องไหน ถึงจะสามารถเล่นเกมที่เราอยากเล่นได้ทั้งหมด? ไอ้ครั้นจะให้ไปนั่งเทียบสเปคของแต่ละรุ่น ก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากอีก ดังนั้นวันนี้ผมจะมีชี้เป้าให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันว่าปัจจุบันในตลาดบ้านเรา มือถือรุ่นไหนเหมาะจะซื้อมาใช้เล่นเกมมากที่สุดครับ! แต่ก่อนจะไปเริ่มกัน ผมขอออกตัวก่อนว่าการจัดอันดับใน บทความนี้ จะวัดจาก ความสามารถของตัวเครื่อง, จำนวนชั่วโมงที่สามารถใช้งานได้, ฟังก์ชั่นสำหรับเกมเมอร์ และราคาเป็นหลัก ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับความแรงของ CPU และ GPU ผมอ้างอิงจาก 2 แหล่งคือ Nanoreview กับ Techcenturion ส่วนราคาจะมาจากเว็บ Siamphone ครับ มือถือ Gaming ที่โดยรวมยอดเยี่ยมมากที่สุด : Asus ROG Phone 3 หน้าจอขนาด : 6.59 นิ้ว  (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 270 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว) CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Plus Octa Core (แรงอันดับ 8 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) ,หน่วยความจำ : RAM 12 GB / ROM 512 GB, แบตเตอรี่ : 6,000 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 26,000 บาท หน้าจอไม่ใหญ่เกินไป, มี Refresh Rate สูงถึง 144Hz, ใช้ชิปประมวลผลที่แรง 8 ของโลก, แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นาน, มาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม, ทั้งยังสามารถตั้งค่า Macro หรือ ชุดคำสั่งเพื่อให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้น คงต้องบอกว่าไม่มีโทรศัพท์เครื่องไหนในโลกจะตอบโจทย์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว ในเรื่องของราคา 26,000 ก็ถือว่าไม่แพงเกินไปเช่นกัน จุดเด่นหลักๆ ของ ROG Phone 3 คือเรื่องของ AeroActive Cooler 3 อุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการระบายความร้อน กับ Airtrigger 3 บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง ที่ทำงานเหมือนปุ่ม L1, R1 ของจอยเครื่อง Console แต่ต่างกันตรงที่บนมือถือนี้จะเป็นเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ใช้รับสัมผัสแทน โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเองได้เลยว่าจะให้การสัมผัสแบบไหน ส่งผลแบบไหนในเกม พูดแล้วอาจจะไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าดูในวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลยครับ มือถือ Gaming ที่มีราคาย่อมเยาที่สุด : Nubia Red Magic 5G หน้าจอขนาด : (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 320 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 865 5G Octa Core (แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 8 - 16 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,500 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 17,900. บาท Red Magic 5G อาจไม่ใช่รุ่นที่ได้รับความนิยมมากนักในบ้านเรา แต่เจ้าตัวนี้ก็เรียกได้ว่ามาพร้อมกับสเปคที่แรงน้อยกว่า ROG Phone 3 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ได้ Touch Sampling Rate ที่สูงกว่ามาแทน กับ RAM ของเครื่องที่ให้มาแบบเยอะถึง 16 GB แต่จุดที่น่าสนใจมากที่สุดคงเป็นเรื่องของราคาที่ถือว่าถูกมากๆ หากเทียบกับสเปคครับ ในเรื่องของการระบายความร้อน Red Magic 5G ก็มาพร้อมกับ Active Liquid-Cooling with Turbo Fan 3.0 ที่ทำให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดีกว่ารุ่นทั่วไปที่มีในตลาด แน่นอนว่าเจ้าเครื่องนี้เองก็มี Trigger หรือปุ่มสำหรับใส่ชุดคำสั่งสำหรับการเล่นเกมก็มีมาให้ 2 ปุ่มเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถตั้งคำสั่งความละเอียดสูงแบบ เขย่าหน้าจอ หรือสไลด์ซ้าย กับขวา แบบเดียวกับ ROG Phone 3 ได้ครับ มือถือ Gaming ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมยอดเยี่ยมที่สุด : Xiaomi Black Shark 3 Pro หน้าจอขนาด : (Refresh Rate 144Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 270 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว),  CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core (แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก) หน่วยความจำ : RAM 8 - 12 GB / ROM 256 - 512 GB, แบตเตอรี่ : 5,000 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 19,900. บาท Black Shark ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น Gaming จากทาง Xiaomi ที่อยู่คู่วงการมานานแล้ว โดยในเรื่องของความแรงเจ้า Black Shark 3 Pro จะเทียบเท่ากันกับ Red Magic 5G เลย แต่ได้ในเรื่องของอุปกรณ์เสริม ที่เยอะกว่ามาแทน ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, ชุดระบายความร้อน, จอยควบคุมสำหรับต่อใช้งาน, คีย์บอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย ในส่วนของปุ่มคำสั่งพิเศษ รุ่นนี้ก็มีมาให้ทางด่านขวาบน กับขวาล่างเช่นกัน เพียงแต่ของ Black Shark 3 Pro จะเป็นปุ่มที่อยู่ภายในหน้าจอ Touch Screen ทำให้อาจใช้งานได้ยากกว่า 2 รุ่นข้างบนเล็กน้อย ส่วนเรื่องระบายความร้อนก็สามารถทำได้ดีมากๆ เช่นกันด้วย Sandwich Liquid Cooling และจะดีขึ้นไปอีกเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมครับ มือถือทั่วไปที่เหมาะจะเอามาเล่นเกมมากที่สุด แม้ว่ามือถือ Gaming จะเกิดมาเพื่อเล่นเกมอย่างแท้จริง แต่ในเรื่องของดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวเกินไปเลยอาจทำให้หลายคนอาจรู้ไม่ชอบเครื่อง 3 รุ่นข้างต้นนี้ ดังนั้นผมจึงได้จัดอันดับมือถือทั่วไป ที่เหมาะสำหรับเล่นเกมมากที่สุดมาให้ด้วย ซึ่งในกลุ่มนี้มักจะได้ในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานทั่วไปที่ดีกว่ามาทดแทนครับ Mi 11 หน้าจอขนาด : 6.81 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 480 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core (แรงอันดับ 2 ของโลก), GPU : Adreno 660 (แรงอันดับ 2 ของโลก) หน่วยความจำ : RAM 8 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,600 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 22,300. บาท เรือธงตัวใหม่จากทาง Xiaomi ที่เพิ่งวางขายไปเลยช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ จุดเด่นของเจ้าเครื่องนี้คือหน่วยประมวลผลที่แรงเป็นอันดับ 2 ของโลกในตอนนี้ทั้ง CPU และ GPU กับ Touch Sampling Rate ที่สูงแบบอลังการงานสร้าง 480 Hz แต่กลับมีราคากลางเพียงแค่ 22,300 บาท ซึ่งถูกกว่า ROG Phone 3 เสียอีก แม้จะไม่มีฟังก์ชันหรืออุปกรณ์เสริมดีๆ สำหรับ Gaming โดยเฉพาะมาด้วย แต่ในเรื่องของการระบายความร้อน Mi 11 ถือว่าทำได้ดีมาก อุณหภูมิเครื่องจะอยู่ที่ 35 - 37 องศาเท่านั้นหากเล่น ROV ในห้องแอร์ 25 องศา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากๆ ครับ Samsung S21 Plus (S21+) หน้าจอขนาด : 6.7 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 240 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Exynos 2100 Octa Core (แรงอันดับ 3 ของโลก), GPU : Mali-G78 MP14 (แรงอันดับ 7 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 8 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,800 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 31,800. บาท อีกหนึ่งเรือธงใหม่จากทาง Samsung ที่มาพร้อมกับ CPU ที่แรงอันดับ 3 กับ GPU ที่อยู่อันดับ 7 ทำให้ เจ้า S21+ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมมากๆ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เหมือนจะมีปัญหาในเรื่องของ แบตเตอรี่ ที่จากปากผู้ใช้งานเหมือนจะหมดเร็วมากๆ แม้จะมีขนาดถึง 4,800 mAh ก็ตาม โชคยังดีที่รุ่นนี้สามารถชาร์จได้เร็วมากครับ อีกหนึ่งข้อเสียของ S21+ คือเรื่องการระบายความร้อนที่ทำออกมาได้ไม่ดีนัก จากคำรีวิวของผู้ใช้งานดูเหมือนว่าแค่เปิดใช้งานกล้องเป็นเวลานานตัวเครื่องก็จะร้อนมากๆ แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อร้อนมากๆ CPU / GPU ก็จะลดความสามารถในการทำงานลง แต่ถ้าหากใช้งานในห้องแอร์ และสามารถชาร์จไฟได้ตลอดเวลา S21+ ถือเป็นอีกหนึ่งมือถือดีไซน์สวยที่ไม่ควรพลาดครับ iPhone 12 Pro หน้าจอขนาด : 6.1 นิ้ว (Refresh Rate 60Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 120 Hz หน่วย (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว) ,CPU : Apple A14 Bionic Hexa Core (แรงอันดับ 1 ของโลก), GPU : A14 Bionic’s GPU (แรงอันดับ 1 ของโลก) , หน่วยความจำ : RAM 6 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : Li-Ion 2815 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 36,400. บาท เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับ CPU และ GPU แรงอันดับ 1 ของโลกแล้วสำหรับ iPhone 12 แต่น่าเสียดายที่หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับ Refresh Rate เพียงแค่ 60 Hz กับ Touch Sampling Rate แค่ 120 Hz ทำให้อาจกล่าวได้ว่าไม่ใช่มือถือที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมขนาดนั้น ในเรื่องของการระบายความร้อนเอง ก็ถือได้ว่ายังมีปัญหาอยู่เช่นกัน จากคำรีวิวของผู้ใช้งานเหมือนว่าจะร้อนมากๆ หากใช้เล่นเกมไประยะเวลาหนึ่ง และในเรื่องของแบตเตอรี่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และเล่นเกมทั้งวันเช่นกัน ข้อดีก็คือมีฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะมากๆ (โดยเฉพาะการอัดวิดีโอ และการถ่ายภาพ) หากปกติเป็นคนที่ใช้งานทั่วไปเยอะ และเล่นเกมเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น iPhone 12 ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ One Plus 8 Pro หน้าจอขนาด : 6.1 นิ้ว (Refresh Rate 120Hz), ความเร็วตอบสนองหน้าจอ (Touch Sampling Rate) : 240 Hz (ยิ่งเยอะหน้าจอยิ่งตอบสนองเร็ว), CPU : Qualcomm Snapdragon 865 Octa Core(แรงอันดับ 9 ของโลก), GPU : Adreno 650 (แรงอันดับ 6 ของโลก), หน่วยความจำ : RAM 8 - 12 GB / ROM 128 - 256 GB, แบตเตอรี่ : 4,510 mAh, ราคากลางปัจจุบัน : ประมาณ 28,100. บาท แม้จะไม่ได้มาพร้อมกับ CPU / GPU ที่แรงเมื่อเทียบกับราคา แต่ One Plus อาจเรียกได้ว่าเป็นมือถือที่มีระบบปฏิบัติการ Android ที่เสถียรมากที่สุด (OxygenOS 10.0 based on Android 10.0) ส่งผลให้เป็นโทรศัพท์ที่จะเกิดบัค หรือเหตุการณ์แบบเกมปิดตัวดื้อๆ น้อยครั้งที่สุดครับ ในส่วนของการระบายความร้อนก็ทำได้แบบปานกลาง ไม่ได้ดีเทียบเท่ากับมือถือ Gaming แต่ถือว่าดีในระดับหนึ่ง โดยที่หลุดมาไกลถึงตรงนี้ เป็นเพราะเรื่องราคาที่สูงไปนิด เมื่อเทียบกับ MI 11 แล้วเจ้าตัวนี้เลยน่าซื้อน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ
08 Mar 2021
แนะนำ 3 สมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” แบรนด์ดังที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยตอนนี้
ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” เพราะแบรนด์มือถือชื่อเสียงหลายเจ้าถือได้ว่าตีตลาดหนักเป็นอย่างมาก ทำให้เกมเมอร์ที่ต้องการมือถือเอาไว้เล่นเกมโดยเฉพาะมีตัวเลือกมากยิ่งขึ้น แถมเราไม่ต้องซื้อเครื่องหิ้วเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มาอีกแล้ว วันนี้เกวลินเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักเกมมิ่งโฟนที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยกันค่ะ แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าทุกรุ่นเป็นชิปเซ็ตตัวท็อปทั้งหมดเลย จะแตกต่างก็ประสิทธิภาพ, ลูกเล่นแต่ละแบรนด์ แล้วก็ราคา เมื่อพร้อมกันแล้วไปดูกันเลยค่ะ รุ่นแรกที่เกวลินขอแนะนำก็คือ “ASUS ROG Phone 3” จะเรียกว่าเป็นสุดยอดเกมมิ่งโฟนอันดับต้น ๆ ที่มีขุนพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” ที่ทาง ASUS ยังได้ดันประสิทธิภาพด้วยการ OC ตัวชิปเซ็ต CPU และ GPU ให้มีความเร็วมากกว่าเกมมิ่งโฟนแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาด แล้วความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือมีการแถมตัวระบายความร้อนรุ่นใหม่อย่าง “GameCool 3” ที่ทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนมือ แล้วด้วยความที่เป็น ASUS ก็มีการดีไซน์ตัวเครื่องในส่วนต่าง ๆ เช่น มีตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แม่นยำ, ตัวรับเสียงพูดของผู้ใช้งาน, เพิ่มปุ่ม AirTriggers 3 เข้ามาด้านข้างเครื่องเพื่อใช้ในการเล่นเกมประเภท FPS ได้ดีมากกว่าเดิม, ลำโพงที่จัดมาให้เต็ม ๆ รวมไปถึงเรายังสามารถที่จะชาร์จขนาดเล่นพร้อมเชื่อมต่อในการถ่ายทอดสดได้อีกด้วย ยังไม่หมดแค่นั้นนะคะ ASUS ยังได้ออกแบบอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ออกมาเพียบเลย สุดท้ายนี้ก็ยังสามารถรองรับเทคโนโลยี 5G อีกด้วยค่ะ สเปกเครื่อง ASUS ROG Phone 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย ROG UI หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.59 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ ที่รองรับการแสดงผลในรูปแบบ HDR10+ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz แถมที่มีค่าดีเลยเพียงแค่ 1ms เท่านั้น รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus และ Snapdragon 865 สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. สำหรับรุ่น ROG Phone 3 Strix Edition และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1 ( ไม่สามารถเพิ่มความจุได้ ) กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682], เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP, เลนส์ Macro ความละเอียดสูงถึง 5MP กล้องหน้า: ความละเอียด 24MP การเชื่อมต่อ: WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax Bluetooth 5.1, USB-C 3.1 กับ ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ระบบเสียง: เป็นระบบเสียง DTS X Sound เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ แบตเตอรี่: 6,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30 วัตต์ สำหรับ ASUS ROG Phone 3 วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันค่ะ รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกันมีดังต่อไปนี้ค่ะ ASUS ROG Phone 3 ในรุ่น Ram 12GB. และ Rom 512GB. สนนราคาอยู่ที่ 32,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ASUS ROG Phone 3 Strix Edition ในรุ่น Ram 8GB. และ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 24,990 บาท ภายในกล่องแถมตัวระบายความร้อน AeroActive Cooler 3 มาให้ด้วย ROG Phone 3 Lighting Armor Case - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Clip - ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท ROG Kunai 3 Gamepad - ราคาอยู่ที่ 3,990 บาท TwinView Dock 3 - ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท โดย ASUS ROG Phone 3 สามารถหาซื้อได้ทั้ง ASUS Exclusive Store, ASUS Official Store ผ่านช่องทาง Shopee กับ lazada นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ที่มีโปรโมชั่นลดราคาในแพ็คเกจพิเศษแล้วก็ยังสามารถสั่งซื้อผ่านร้านค้าชื่อดังทั้ง JIB Computer หรือ Banana ก็มีวางจำหน่ายด้วยเช่นกันค่ะ ใครที่อยากจะได้สุดยอดเกมมิ่งโฟนห้ามพลาดเลยค่ะ! รุ่นต่อมาพึ่งประกาศวางจำหน่ายในบ้านเราแบบสด ๆ ร้อน ๆ กันเลยกับ “Legion Phone Duel” จากแบรนด์ Lenovo ที่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของ ASUS ROG Phone 3 เลยก็ว่าได้ค่ะ ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันเล็กน้อย แต่ประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน โดย Legion Phone Duel ก็ถูกจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่ใช้ซิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง “Snapdragon 865 Plus” เหมือนกัน แล้วจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ตรงที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเกมที่เล่นแบบแนวนอนเป็นหลัก ( ส่วนใหญ่เกมก็มักจะเป็นแนว ๆ นี้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ) ที่น่าสนใจอีกข้อก็คือมีการปรับปรุงปุ่ม Trigger ทั้งซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่แม่นยำขึ้น ใครที่ชอบเล่นเกมแนว FPS หรือ บางคนจะนำไปใช้กับเกมแนว MOBA ก็ได้เหมือนกันค่ะ โดยสองปุ่มนี้จะเป็นปุ่มที่เพิ่มคำสั่งต่าง ๆ ภายในเกมขึ้นอยู่กับว่าตัวผู้เล่นต้องการตั้งค่าเพื่อให้ใช้งานรูปแบบไหน ที่เด็ดสุดก็คือทาง Lenovo ได้ออกแบบระบบสั่นเป็นมอเตอร์คู่อยู่ฝั่งซ้าย กับ ขวาของตัวเครื่องที่จะมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมบนมือถือแบบใหม่ซะด้วยค่ะ เช่นเดียวกันค่ะ รุ่นนี้ก็รองรับเทคโนโลยี 5G ด้วยเช่นกันค่ะ สเปกเครื่อง Legion Phone Duel ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Legion OS และ ZUI12 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.65 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 144Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz รวมไปถึงตัวหน้าจอยังเป็น Corning Gorilla Glass 6  CPU: Snapdragon 865 Plus  GPU: Adreno 650 RAM: 12GB. และ 16GB. เป็นรูปแบบ LPDDR5 ความจุ: 256GB. และ 512GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.1  กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.89, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 16MP กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.2 เป็นรูปแบบป๊อปอัพด้านข้าง การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, มี USB-C ถึง 2 ช่องส่งผลทำให้เราสามารถที่จะชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และ มีระบบระบายความร้อนแบบ Dual-Liquid และ Mid-Thermal แบตเตอรี่: 5,000 mAh ที่ทาง Lenovo ออกแบบมาให้เป็น 2 ส่วนคือข้างละ 2,500 mAh เหตุผลก็เพราะเพื่อลดความร้อนระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ หรือ ลดความร้อนจากการที่เครื่องทำงานอย่างหนัก แล้วเด็ดที่สุดคือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 90 วัตต์ที่เครมกันว่าสามารถชาร์จจาก 0 ไป 100% ในระยะเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น! โดย Legion Phone Duel วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน รุ่นแรกมี Ram 12GB. แล้วก็ Rom 256GB. ราคาอยู่ที่ 23,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีน้ำเงินเท่านั้น และ รุ่นต่อมา Ram 16GB. แล้วก็ Rom 512GB. ราคาอยู่ที่ 30,990 บาท ที่ตัวเครื่องจะมีแค่สีแดงเท่านั้น ซึ่งถ้าใครที่อยากจะได้ในแพ็คเกจราคาพิเศษก็ซื้อผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือชื่อดังอย่าง “AIS” ได้เลยค่ะ เพราะราคาถูกมาก ๆ เลย แล้วถ้าใครที่ใช้เบอร์ของ AIS มานานก็จะได้รับสิทธิ์ในการลดราคาเพิ่มเติมอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกเหนือจากนี้ยังมีการวางจำหน่ายผ่านช่องทางอื่น ๆ อาทิเช่น IT City, JD.co.th, JIB Computer, Speed Computer, Banana และ BlueShop เป็นต้นค่ะ มาถึงอีกหนึ่งรุ่นที่เริ่มตีตลาดในบ้านเราได้ราว ๆ 2 ปีแล้วค่ะ กับ “Black Shark 3, Black Shark 3 Pro หรือ Black Shark 3S” หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Xiaomi ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากเกมเมอร์เป็นอย่างดีเลยค่ะ เห็นชื่อแบรนด์หลายคนก็คงจะทราบเลยว่ามันคือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่มีราคาถูกที่สุดในบรรดา 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้เลยค่ะ แต่ก็ใช่ว่าประสิทธิภาพของเขาจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอย่างนั้นนะคะ โดยต้องอธิบายก่อนว่าปัจจุบันทาง Xiaomi มีแค่ 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราก็คือ Black Shark 2 กับ Black Shark 3 ส่วน Black Shark 3 Pro กับ Black Shark 3S ที่เป็นรุ่นอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพยังไม่มีตารางการนำเข้ามาวางจำหน่าย สำหรับ Black Shark 3 ทาง Xiaomi เลือกใช้ชิปเซ็ต “Snapdragon 865” แม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่ได้แตกต่างจากชิปเซ็ตตัวท็อป “Snapdragon 865 Plus” ก็ตาม แต่ตัวนี้ก็สามารถรองรับเทคโนโลยี 5G และ Wi-Fi 6 ได้ด้วย มีการดีไซน์มีปุ่ม Shoulder Button ที่อยู่ทางซ้าย และ ขวาของตัวเครื่องเหมือนกับ 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้ค่ะ ความเก๋ของมันก็คือเมื่อเวลาเล่นเกมปุ่มนี้จะเด้งขึ้นมาเพื่อให้ใช้งาน แต่เมื่อใดที่เราใช้งานแบบปกติมันก็จะกลับไปอยู่ในสภาพตามปกติค่ะ อีกทั้งยังเครมอีกว่ามันทนต่อแรงกด และ การหดตัวเวลาเก็บได้ถึง 300,000 ครั้ง ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยค่ะ นอกจากนี้ Black Shark 3 ยังมีลำโพงคู่ในรูปแบบระบบสเตริโอ รวมไปถึงยังรองรับระบบเสียงแบบ Hi-Res อีกด้วยค่ะ เท่านั้นยังไม่พอใครที่ใช้ชอบหูฟังที่เป็นรูปแบบ 3.5 มม. รุ่นนี้ก็กลับมาให้เราได้ใช้งานกันอีกครั้ง แถมตัวนี้ยังมีการชาร์จแบบแม่เหล็กที่แตะด้านหลังเครื่องได้ด้วย รวมไปถึงยัง สเปกเครื่อง Black Shark 3 ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบทับด้วย Joy UI 11 หน้าจอการแสดงผล: หน้าขอมีขนาด 6.67 นิ้วเป็นรูปแบบ AMOLED ที่มีความละเอียด Full HD+ รองรับ รีเฟรชเรทสามารถดันได้สูงสุด 90Hz ที่มีการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอที่ 240Hz  CPU: Snapdragon 865 GPU: Adreno 650 RAM: 8GB. และ 12GB. เป็นรูปแบบ LPDDR4x ความจุ: 125GB. และ 256GB. เป็นรูปแบบ UFS 3.0 กล้องหลัง: กล้องหลักความละเอียด 64MP [เป็นเซ็นเซอร์ของ Sony IMX682] ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.8, เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 13MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.3 และ เลนส์ Depth ความละเอียด 5MP ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.2  กล้องหน้า: ความละเอียด 20MP ค่ารูรับแสง f/2.0 การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, USB-C ระบบเสียง: ลำโพงคู่ระบบเสียงสเตริโอ เซ็นเซอร์: ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ แบตเตอรี่: 4,720 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสูงถึง 65 วัตต์ การชาร์จแบบแม่เหล็กด้านหลังเครื่อง 18 วัตต์ สำหรับ Black Shark 3 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการผ่านช่องทาง Black Shark Official Store แพลตฟอร์ม lazada เท่านั้น! โดยสนนราคาอยู่ที่ 21,900 บาท ก็จะมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาเป็นระยะ ๆ ซึ่งในตอนที่เขียนบทความนี้ลดราคาเหลืออยู่ที่ 18,990 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ( คลิกที่นี่ ) นอกจากนี้ทาง Xiaomi ยังจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Black Shark 3 เพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเคส, พัดลมระบายความร้อน, หูฟัง, คีย์บอร์ดมือถือ หรือ คอนโทรลเลอร์ เป็นต้น ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้ที่ ( คลิกที่นี่ )  นี่คือมือถือสมาร์ทโฟนประเภท “เกมมิ่งโฟน” ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ไม่นับแบรนด์อื่น ๆ ที่วางจำหน่ายแล้วมีร้านค้าที่หิ้วนำเข้ามาขายในบ้านเรานะคะ ซึ่ง 3 แบรนด์นี้เกมเมอร์สามารถซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการประกันจากผู้ผลิต หรือใครที่ต้องการอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลย งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ว่าอยากจะซื้อแบรนด์ไหนมาใช้งานกัน เพราะแต่ละรุ่นก็มีลูกเล่น, ประสิทธิภาพ แล้วก็ราคาที่แตกต่างกันออกไป เรียกว่าจะไปให้สุดแล้วหยุดที่สุดยอด หรือ จะเลือกประหยัดแต่ก็เล่นเกมได้เหมือนกันอยู่ที่เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลยค่ะ แล้วพบกันใหม่กับบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ!
12 Nov 2020
Asus เปิดตัว RTX 3090 ที่มาในธีม Gundam ด้วยสีขาวลายน้ำเงินแดง
RTX 3090 คือการ์ดจอตัวท็อปใหม่ของ Nvidia ซึ่งเป็นที่ต้องการของเหล่าเกมเมอร์ชาว PC อยู่ในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะมีการโชว์รูปร่างหน้าตาของตัวเรือธงจากค่ายต่างๆ ออกมาแล้ว แต่หลายๆ ค่ายยังคงไม่มีการเอาสินค้าออกมาวางจำหน่ายเลยแม้ตอนนี้ และล่าสุดก็เหมือนว่า Asus จะมีตัว RTX 3090 ROG Strix เวอร์ชันพิเศษ ที่ทำออกมาในธีม Gundam จากซีรีส์การ์ตูนหุ่นยนต์ชื่อดังของญี่ปุ่นด้วยครับ! Asus ได้ทำการเปิดตัวสินค้า Hardware เซตพิเศษ (ซึ่งรวมถึงการ์ดจอด้วย) ที่มาในธีม Gundam ภายในงานอีเวนต์ล่าสุดของ Republic of Gamers ที่น่าสนใจก็คือ Hardware เซตนี้ใช้สีขาวเป็นพื้น และใช้สีแดงกับน้ำเงินสำหรับตกแต่ง โดยเฉพาะตัวการ์ดจอที่มีความสวยงามมากๆ อย่างไรก็ตามเหมือนว่าสินค้าชุดนี้จะมีวางขายแค่ในประเทศจีน กับญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีการนำออกไปวางจำหน่ายที่ประเทศอื่นในอนาคตด้วยหรือไม่ โดยตัวผมเองคิดว่าถ้าหากมีความต้องการของตลาดมากพอ ก็คงมีการเอาออกไปวางขายเพื่อทำกำไรเพิ่มแน่นอนครับ ASUS ROG STRIX GeForce RTX 3090 GUNDAM จะมีราคาอยู่ที่ $2,500 หรือประมาณ 80,000 บาทครับ Credit: PCGamer
20 Oct 2020
Asus จับมือกับ IKEA เตรียมปล่อยเฟอร์นิเจอร์สำหรับเราเกมเมอร์เร็วๆ นี้!
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เหล่าเกมเมอร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของโต๊ะ กับเก้าอี้สำหรับเครื่อง PC หรือโซฟาดีๆ สำหรับนอนเล่นเกมมือถือ ไม่ก็เกมคอนโซล บางครั้งก็เป็นเรื่องยากถ้าจะหาเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถตอบโจทย์ของเหล่าเกมเมอร์ได้ทั้งหมด แต่อะไรๆ มันจะเปลี่ยนไปแล้วครับ เมื่อล่าสุดได้มีข่าวว่า Asus กำลังทำงานกับ IKEA เพื่อออกเฟอร์นิเจอร์สำหรับเราเกมเมอร์โดยเฉพาะอยู่! ได้มีการประกาศผ่านทาง Twitter ของ Asus ด้วยขอความว่า "เร็วๆ นี้" พร้อมกับรูปภาพที่แสดงให้รู้ว่ากำลังทำงานร่วมกับ IKEA อยู่ ซึ่งจายงานของ GameRant เหมือนว่าสินค้าชุดดังกล่าวจะถูกวางขายครั้งแรกในจีนช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2021 ในจีน ก่อนที่จะมีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกภายในเดือน ตุลาคม ปีเดียวกัน งานนี้เราอาจจะได้เห็นชุด ชุดโต๊ะคอมที่ยอดเยี่ยม หรือไม่ก็โซฟาที่ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์สุดๆ ก็เป็นได้ครับ Coming soon.#IKEA #ROG #GAMING #WELCOMEGAMINGHOME pic.twitter.com/mKR02Xq0Rb — ROG Global (@ASUS_ROG) September 14, 2020 Credit: GameRant
15 Sep 2020
หลุด! หน้าตาของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti การ์ดจอเจนใหม่จาก Asus!
ในปี 2020 เป็นปีที่เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากเครื่องเล่นเกม Console เจนเนอเรชั่นต่อไปมากมาย และในปีเดียวกันยังเป็นปีที่เราน่าจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ของการ์ดจอบนเครื่อง PC ด้วยเช่นกัน เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีข่าวลือมากมายบอกว่า "ทาง Nvidia จะเปิดตัวการ์ดจอ Geforce RTX ซีรีส์ 30 ในช่วง Q3 ของปี 2020" แต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ล่าสุดดูเหมือนว่าเราจะได้เห็นรูปร่างหน้าตาของมันก่อนแล้วครับ! เว็บไซต์ Videocardz ได้รายงานว่า มีการพบภาพที่แสดงถึงรูปร่างหน้าต่าของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti หลุดออกมา ซึ่งในภาพดังกล่าว ดูเหมือนจะเป็นสไลด์ที่ถูกถ่ายด้วยมือถือจากงานสัมมนาแห่งหนึ่ง โดยเหตุผลที่ทำให้คิดว่า การ์ดจอที่อยู่ในรูปคือ 3080 TI มาจากการที่ตัวอักษรข่างบนของรูปภาพนั้นแปลได้ว่า "Next-Generation ROG STRIX" ทำให้คิดว่าภาพนี้น่าจะได้มาจากการประชุมเกี่ยวกับดีไซน์ของการ์ดจอตัวใหม่ภายใน Asus เองครับ ถ้าหากว่ารูปภาพดังกล่าวได้มาจากการประชุมเกี่ยวกับดีไซน์ของการ์ดจอตัวใหม่ภายใน Asus เองจริง หมายความว่ารูปร่างหน้าตาของ ROG STRIX GeForce 3080 Ti อาจไม่ใช้แบบนี้จริงๆ เพราะจะสังเกตุได้ว่า หน้าตาของการ์ดจอในภาพนี้ แตกต่างจากดีไซน์ที่ Strix ใช้ในซีรีส์ 10 และ 20 อยู่มากทีเดียวครับ แต่ในเรื่องของประสิทธิภาพ เชื่อได้ว่าแรงกว่าตัวซีรีส์ปัจจุบันอย่างแน่นอนครับ Credit: GameRant  
09 Jul 2020