GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "ระบบเกม"
มือดีทำ Mod ขนาด 11 GB แก้ปัญหาเรื่องเสียงทั้งหมดภายใน Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายมาได้เกือบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะมีโอกาสได้เล่นกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดยในขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนที่เจอกับปัญหาเรื่องเสียงภายในเกม ที่บางครั้งก็ดังจนเกินไป และบางครั้งก็เบาจนเกินไป จนบางที่ก็ไม่ได้เสียงการสนทนาที่สำคัญๆ แต่ดีใจได้เลย เพราะวันนี้ผมมี Mod ขนาด 11 GB ที่แก้ปัญหาเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้รู้จักกัน Modder ที่ชื่อว่า Floyd2099 ได้ปล่อย Mod ตัวใหม่ที่มีขนาด 11 GB ซึ่งช่วยปรับระดับความสมดุลของไฟล์เสียงกว่า 800 ตัวในเกมออกมา โดยมันจะปรับระดับความเหมาะสมของเสียงเพลงในฉากต่างๆ ของเกมรวมไปถึงฉากต่อสู้ให้ไม่ดัง หรือเบาจนเกินไปครับ ขอออกตัวก่อนเลยว่า Mod ตัวนี้ไม่ได้เอาไฟล์เสียงอะไรออกไป เพียงแค่ปรับระดับความดังของมันเท่านั้น ดังนั้นไม่มีความเสียหายต่อไฟล์เกมแน่นอน Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
08 Feb 2021
Cyberpunk 2077 ปล่อยอัปเดต Hotfix 1.12 ให้เรากลับมาลง Mod ได้แล้ว!
หลังจากมีข่าวเรื่องไฟล์ DLSS ตัวหนึ่งในไฟล์เกม Cyberpunk 2077 ที่อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นถูกโจมตีจากเหล่าแฮกเกอร์ได้ ทางเราก็แนะนำให้ทุกคน Uninstall Mod ทั้งหมดที่ลงไว้ก่อน หรือถ้าจะให้ดีลบลงใหม่ไปเลยหนึ่งรอบ วันนี้ทาง CD Projekt Red ก็ได้ปล่อยอัปเดต Hotfix 1.12 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ออกมาแล้ว! ประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของเกมวันนี้ว่าอัปเดต Hotfix 1.12 ได้ถูกปล่อยออกมาแล้วตอนนี้ ซึ่งมีการแก้ไข 2 ปัญหาในอัปเดตครั้งนี้คือหนึ่งเรื่องไฟล์ DLSS ที่อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นโดนแฮกจากผู้ไม่ประสงค์ดี และการทำงานของ Buffer มากเกินความจำเป็น ดังนั้นหมายความว่าใครอยากลง Mod ในเกม Cyberpunk 2077 สามารถทำได้อย่างอิสละเลยครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Hotfix 1.12 is now available on PC! This update addresses the vulnerability that could be used as part of remote code execution (including save files): - Fixed a buffer overrun issue. - Removed/replaced non-ASLR DLLs. pic.twitter.com/LAkBfVpnXf — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) February 5, 2021 Credit: GamingBolt
08 Feb 2021
การโหลด Mod มาใช้ใน Cyberpunk 2077 อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นถูกแฮ็กได้!
CD Projekt Red ออกมาเตือนผู้เล่นผ่านทาง Twitter เมื่อคืนนี้ว่า "แนะนำให้ผู้เล่นทุกคนที่โหลด Mod หรือไฟล์เซฟเกม Cyberpunk 2077 ของคนอื่นมาให้ดี เนื่องจากมันอาจทำให้เครื่อง PC หรือ PS4 ของผู้เล่น อาจถูกแฮ็กโดยมิจฉาชีพได้" ซึ่งสาเหตุของความเสี่ยงดังกล่าวเหมือนจะมาจากไฟล์นามสกุล DLL ตัวหนึ่งของเกม ที่สามารถใช้ในการรันโค้ดบนเครื่อง PC หรือ PS4 และควบคุมจากระยะไกลได้ เรื่องนี้เหมือนจะถูกค้นพบโดยผู้ใช้งาน Reddit ที่ชื่อว่า Romulus_Is_Here โดยเขายืนยันว่าไฟล์ DLL ดังกล่าวสามารถใช้ควบคุมเครื่อง PS4 และ PC ได้จริงๆ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้เล่นอย่างมาก จากรายงานของ Eurogamer ทาง CDPR เหมือนจะทราบถึงปัญหานี้ และกำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเร็วที่สุดอยู่ โดยก่อนที่จะมีการปล่อยอัปเดตแก้ไขออกมา ผู้พัฒนาอยากให้ผู้เล่นระวังการโหลด Mod จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ก่อนครับ If you plan to use @CyberpunkGame mods/custom saves on PC, use caution. Weve been made aware of a vulnerability in external DLL files the game uses which can be used to execute code on PCs. Issue will be fixed ASAP. For now, please refrain from using files from unknown sources. — CD PROJEKT RED CS (@CDPRED_Support) February 2, 2021 แรกเริ่มเดิมที CDPR สนับสนุนให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวเกมได้อย่างอิสระอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ไฟล์ DLL ของพวกเขามีโอกาสสร้างความเสี่ยงให้กับผู้เล่น จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ครับ และหวังว่าเราจะได้เห็นอัปเดตที่แก้ไขเรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาโดยเร็ว ส่วนสำหรับใครที่มีการลง Mod หรือโหลดไฟล์เซฟเกมของคนอื่นมา ผมแนะนำให้เอาออก หรือลบเกมลงใหม่ก่อนเลยดีกว่าครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
03 Feb 2021
Cyberpunk 2077 อัปเดต 1.1 แก้ไขบัคเควส Down On The Street แล้ว!
วันที่ทุกคนจะได้เล่น Cyberpunk 2077 อย่างสบายใจบนทุกแพลท์ฟอร์มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ด้วยการออกแพตช์ 1.1 มาก่อนหน้านี้ก็ทำให้ตัวเกมเล่นได้ราบรื่นขึ้นบน PS4 กับ Xbox One ที่มีปัญหา อย่างไรก็ตามแพตช์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดบัค ซึ่งทำให้ไม่สามารถเล่นเนื้อเรื่องของเกมเควส "Down On The Street" ในช่วงท้ายได้ สร้างความรู้สึกสับสนให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก โดนวันนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วครับ มีการประกาศอัปเดตแพตช์ Hotfix 1.11 ออกมาผ่านหน้าเว็บไซต์ของเกมวันนี้ ซึ่งอัปเดตด่วนนี้ได้แก้ปัญหาบัคช่วงท้ายของเควส Down On The Street และปัญหาไอเทมย้ายช่องเองภายในห้องเก็บของ ก่อนหน้านี้ทาง CDPR เคยประกาศออกมาว่าอัปเดต 1.2 จะมาภายในเดือน กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยหลังจากแพตช์นี้ถูกปล่อยออกมา ตัวเกมจะสามารถเล่นได้บนทุกเครื่องอย่างลื่นไหล่แล้ว อดใจรอกันอีกไม่นานครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
29 Jan 2021
Cyberpunk 2077 ปล่อย Official Modding Tools สำหรับปรับแต่งเกมแล้ว
หลังจากวางจำหน่ายออกมาไม่กี่วัน Cyberpunk 2077 ก็มี Mod มากมายที่ทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรันเกมจากผู้เล่น และ Mod ที่ปรับแต่งโครงสร้างของเกม (เช่นไม่จำกัดเพศในการจีบตัวละคร) ออกมามากมาย และหลังจากนี้เราอาจจะได้เห็น Mod ที่ปรับแต่งเกมจัดเต็มกว่านี้มากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจาก Official Modding Tools จากทาง CDPR เพิ่งถูกปล่อยออกมาวันนี้ครับ! การที่ผู้พัฒนาปล่อย Tools ออกมาเองแบบนี้ จะทำให้เหล่า Modder สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก และคงส่งผลให้เราเห็น Mod ที่มีความหลากหลายมากกว่านี้ในอนาคต ไม่แน่ว่าอาจถึงขนาดมีซีรีส์เควสรองชุดใหม่ หรือสกิลสายใหม่ขึ้นมาให้เราอัพเลยก็เป็นได้ (เช่นเดียวกับเกม Skyrim) ซึ่งมันจะทำให้การเล่น Cyberpunk 2077 อาจมีความหลากหลายมากขึ้นหลังจากนี้ครับ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจจะเริ่มลง Mod ในเกม ด้วยความที่หากลงแบบยุ่งกับไฟล์เกมโดยตรง จะเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ หากวันหนึ่งต้องการจะเอาออก ผมจึงแนะนำให้เข้าไปศึกษาวิธีการใช้ Nexus Mods Manager ไว้ครับ เพราะมันจะทำให้ชีวิตของเพื่อนๆ ง่ายขึ้นเยอะเลยเวลาต้องการจะลง Mod ในเกม Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
27 Jan 2021
Cyberpunk 2077: Mod ใหม่เอาใจสายขี้เหงา ทำให้ V มีเพื่อน NPC ติดตามตลอดเวลา
ในเกม Cyberpunk 2077 แม้ว่าจะมี NPC บางตัวมาร่วมทำภารกิจด้วยแบบประปราย แต่ตัวเอก V ของเราก็มักจะต้องฉายเดี่ยวซะส่วนใหญ่ อาจทำให้เกมเมอร์สายขี้เหงาหลายคนรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจขึ้นมาได้ไม่น้อย แต่ความเหงาของคุณจะหมดไปเมื่อใช้ Mod เกมตัวใหม่ที่พัฒนาโดยคุณ SiJiaoCunDeDaZhuangJi จากเว็บ NexusMod เพราะจะทำให้เหล่า NPC เพื่อนร่วมทางทั้งหมด (River, Saul, Judy, Takemura) ร่วมเดินทางและทำภารกิจไปกับคุณพร้อมๆ กันตลอดเวลา! สำหรับ Mod ตัวนี้จะมาในรูปแบบของไฟล์เซฟเกม ซึ่งจะทำให้ Cyberpunk 2077 รู้สึกเหมือนเกม Mass Effect ที่มีเพื่อนๆ เดินตามหลังคุณตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Mod ตัวนี้ก็ยังมีข้อจำกัดแปลกๆ อยู่หลายข้อ เช่นในกรณีที่ทำการ Fast Travel จะมีเพียง Saul เท่านั้นที่จะวาร์ปตามผู้เล่นไป ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ จะยืนรอผู้เล่นอยู่เฉยๆ ตรงจุดที่กด Fast Travel (สามารถเดินทางกลับไปรับมาร่วมทีมอีกครั้งได้) นอกจากนี้ หากผู้เล่นทำภารกิจเนื้อเรื่องประจำตัวละครนั้นๆ จบ (ทั้งภารกิจหลักและภารกิจเสริม) จะทำให้ตัวละครตัวหยุดติดตามผู้เล่นไปเลย โดยภารกิจของตัวละครแต่ละตัวประกอบไปด้วย: Judy: ภารกิจเสริม Ex-factor River: ภารกิจเสริม I Fought the Law Takemura: ภารกิจเนื้อเรื่อง Room 303 Saul: ภารกิจเสริม Riders on the Storm ที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นจะไม่สามารถสร้างตัวละครใหม่จองตัวเองได้ และ Mod จะบังคับให้ต้องเล่นเป็นตัวละคร V ชายเลเวล 50 ที่ปลดล๊อค Perk ทั้งหมดมาแล้วเท่านั้น นับว่าเป็น Mod ที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งที่น่าจะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกม Cyberpunk 2077 ของผู้เล่นหลายๆ คนมีความหลากหลายมากขึ้น ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีเกมเมอร์มือดีทำ Mod แปลกๆ อะไรออกมาให้เราได้ลองเล่นกันอีกในอนาคต Credit: Polygon
15 Jan 2021
Cyberpunk 2077 บน PS5 กับ Xbox Series X จะมีอัปเดตให้สามารถใช้งานฟังก์ชันของเครื่องได้
Cyberpunk 2077 ได้วางจำหน่ายแล้ว แน่นอนว่าในเมื่อมาหลังการวางขายของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S ตัวเกมเลยได้ลงให้กับเครื่องทั้ง 2 เครื่องด้วย ซึ่งแม้จะลงให้กับเครื่องเจนใหม่แล้ว แต่ตัวเกมก็ยังไม่ได้นำระบบใหม่ๆ ที่มากับเครื่องดังกล่าวมาใช้งานเลย (Haptic Feedback, Adaptive Triggers, Tempest 3D Audio, ฯลฯ) โดยดูเหมือนหลังจากนี้ทางผู้พัฒนาจะอัปเดตให้ตัวเกมใช้งานระบบดังกล่าวได้ทีหลังครับ จากบทสัมภาษณ์กับคุณ Marcin Iwiński หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท CD Projekt Red จาก PushSquare เขาได้กล่าวว่า "อัปเดตของตัวเกมบนเครื่องเจนใหม่หลังจากนี้ จะมีการนำระบบ และฟังก์ชั่นพิเศษของตัวเครื่องใส่เข้าไปในเกมด้วย" ดังนั้นคิดว่า Ray Tracing เองก็น่าจะถูกทำให้เปิดได้บนเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S เช่นกัน ในอัปเดตหลังจากนี้ ซึ่งคิดว่าน่าจะมาพร้อมๆ กับอัปเดตใหญ่ช่วงต้นปีหน้าครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
17 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีช่วยชีวิต Takemura
Cyberpunk 2077 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีภารกิจหลัก ภารกิจเสริมที่เยอะมากๆ และแต่ละภารกิจนั้นก็น่าสนใจมากเช่นกันเพราะแต่ละภารกิจนั้นผู้เล่นสามารถเลือกตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปได้ โดยการตัดสินใจในแต่ละครั้งนั้นจะมีผลกระทบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ภารกิจ Search And Destroy ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะช่วยหรือจะหนี ในวันนี้พวกเรา GameFever จะพาทุกคนมาดูทางเลือกของภารกิจนี้กันว่าทำอย่างไหนคือการช่วยชีวิต Takemura และแบบไหนคือการปล่อยให้เขาตาย. 1.ช่วงเริ่มก่อนภารกิจ ในภารกิจหลัก Search And Destroy นั้นผู้เล่นจะมีโอกาสในการช่วยชีวิตทาเคมูระ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าการโฟกัสหาตัวเขานั้นทำได้ยาก และไม่มีตัวเลือกให้เราตัดสินใจต้องใช้ผลของการกระทำเท่านั้น โดยในช่วงก่อนเริ่มภารกิจนั้น ช่วงที่ผู้เล่นอยู่กับทาเคมูระที่เซฟเฮาส์ จะมีการบุกโจมตีโดยกลุ่มลูกน้องของอาราซากะ และผลของการบุกถล่มในครั้งนี้ทำให้พื้นถล่มจนผู้เล่นตกลงไปที่โถงทางเดินด้านล่างของอพาร์ทเมนท์ จากนั้นถูกผู้เล่นจะฟื้นขึ้นมาจากการปลุกของ Johny Silverhand และเราต้องกลับไปหาทาเคมูระโดยเร็วที่สุด 2.ตัดสินใจว่าจะช่วยหรือจะหนี! การที่เราจะกลับไปหาทาเคมูระได้นั้นตัวเกมจะไม่ได้บอกตำแหน่งที่ชัดเจน ซึ่งในขณะที่ผู้เล่นเดินมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายไฟนีออนสีฟ้า ( ตรงนี้แล้วแต่คนจะมองนะครับเพราะบางคนบอกว่ามันคือป้ายสัญลักษณ์บวก บางคนก็ว่ามันคือสัญลักษณ์ไม้กางเขน ) ตรงจุดนี่แหละผู้เล่นจะพบกับทางแยก 2 แขนง ซึ่งการตัดสินใจด้วยการกระทำต่อไปนี้จะมีผลอันใหญ่หลวงต่อผู้เล่นในอนาคต ดังนี้ : เลือกทางขวา - เพียงเดินไปเรื่อยๆ และผ่านเส้นทางนี้ออกไปจะเป็นการทิ้งทาเคมูระและปล่อยให้เขาตาย เลือกทางซ้าย - การเข้าไปในรอยแตกเล็กๆ ถือเป็นการกลับเข้าไปในอพาร์ทเมนท์และนี่คือ วิธีช่วยชีวิตทาเคมูระ! 3.ห้อง 303 คือคำตอบ! ถ้าเลือกทางซ้ายเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้เล่นจะต้องจัดการกับบรรดาลูกน้องของอาราซาระ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปสองชั้น เดินไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวขวาจะพบห้องหมายเลข 303 เมื่อเข้าไปให้จัดการกับทหารภายในนั้นและช่วยทาเคมูระออกจาก ตรงนี้ผู้เล่นห้ามกลับทางเดิมเพราะจะเป็นการทำให้ทาเคมูระตาย ให้เราไปยังทางเดินยาวๆ อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าทาเคมูระตายเขาจะไม่มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ตลอดไปจนจบเกม แต่ถ้าผู้เล่นช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ เขาจะมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของเส้นทางฮานาโกะ. Credit : Thegamer  
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีซื้อรถในเกม
ในตอนนี้เกม Cyberpunk 2077 ถือเป็นเกม RPG โลกเปิดที่มอบประสบการณ์มากมายให้กับเกมเมอร์ทุกท่านด้วยระบบมากมายที่ทำให้เราหลงใหล และหนึ่งในนั้นก็คือระบบการขับรถที่จะช่วยให้เราสามารถขับขี่ไปทำเคสวต่างๆ และใช้ชมบรรยากาศต่างๆ ของเกมได้อีกดี แต่ว่าที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้นั่นคือ รถทุกคันที่ผู้เล่นทำการขโมยมานั้นจะไม่สามารถเก็บไว้ใช้ตลอดได้ มันจะหายไป! ดังนั้นในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะขอพาทุกคนมาดูกับวิธีซื้อรถในเกมนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.จะหารถได้ที่ไหน? เมื่อผู้เล่นดำเนินเรื่องไปจนถึง Act 2 ของเกมแล้วจะสามารถเริ่มหายานพาหนะมาใช้ขับเพื่อท่องเที่ยวไปตามพื้นที่ต่างๆ ของเมือง Night City โดยผู้ให้บริการจะส่งข้อความเกี่ยวกับรถที่อยู๋ใกล้ๆ มาให้กับ V ข้อความเหล่านี้จะเป็นข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถ โดยสามารถเข้าไปดูข้อความเหล่านี้ได้ที่แท็บ Rides บริเวณข้อความของเมนูบันทึกประจำวันและจะมีข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นของรถต่างๆ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น. 2.วิธีการซื้อรถยนต์ หลังจากที่ผู้เล่นได้อ่านรายละเอียดข้อมูลของรถที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเจอรถที่สนใจก็สามารถปักหมุดเส้นทางเพื่อไปยังตำแหน่งที่ตั้งของรถคันนั้น เมื่อไปถึงเราสามารถทำการสั่งซื้อรถคันนั้นได้เลยและจะถูกเพิ่มไปในรายการเรียกรถ โดยผู้ให้บริการขายรถจะทำการส่งข้อความมาที่ตัวผู้เล่นเพื่อให้ทำการยืนยันคำสั่งซื้อและเมื่อกดยืนยันรถก็จะเป็นของเราทันที โดยหลังจากซื้อรถแล้วมันจะสามารถเรียกใช้งานได้และไม่หายไปหากเราลืมไว้หรือเข้าฉากคัตซีนแล้วไปโผล่ที่จุดอื่น เรียกได้ว่าดีกว่าการขโมยรถมากๆ   3.วิธีเลือกและวิธีเรียกรถ หลังจากที่ผู้เล่นทำการซื้อรถเรียบร้อยแล้วจะสามารถทำการเรียกรถให้มาหาเราได้ด้วยการกดปุ่มที่แต่ละแพลตฟอร์มกำหนดมาให้ ( สำหรับ PC นั้นให้กด V ) ซึ่งถ้าเป็นเจ้าของรถหลายคันการกดปุ่มดังกล่าวจะเป็นการเรียกลิสต์รถทั้งหมดขึ้นมาให้เราเลือก สิ่งนี้จะมีประโยชน์มากๆ เพราะว่าจะช่วยให้เราสามารถเลือกได้ว่าในภารกิจแบบนี้ควรใช้รถประเภทไหนในการนำมาใช้งานและไม่ต้องเสียเวลาไปหาขโมยจากที่ไหนเลย   4.รถบางคันสามารถปลดล็อคได้จากเควสเสริม ขอเสริมอีกนิดหน่อยว่ารถบางคันนั้นผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคและทำการซื้อได้ผ่านการทำเควสเสริมเท่านั้น ซึ่งการทำเช่นนี้ถือเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้ผู้เล่นอยากเล่นเควสเสริมมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้สนุกกับเรื่องราวของเควสเสริม ได้เงิน ได้แต้มแล้ว ยังสามารถปลดล็อครถเท่ๆ ให้เราได้อีกด้วย. Credit : Gamerant Gamepressure
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีรับอาวุธ Mantis Blade ฟรี !! ไม่ต้องเสียเงินซื้อ
หนึ่งในอาวุธที่หลายๆ คนสนใจเป็นอย่างมากในเกม Cyberpunk 2077 นั่นก็คืออาวุธอย่าง Mantis Blade แต่การที่จะซื้ออาวุธชิ้นนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันค่อนข้างมีราคาที่สูงอยู่พอสมควร ซึ่งราคาอยู่ที่ 15000 ยูโรดอลลาร์ (ขั้นต่ำสุด) แต่ว่าทางเรา GameFever TH เองมีจุดที่คุณจะสามารถไปหาอาวุธ Mantis Blade ได้ฟรีๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อซักบาท วิธีรับ เริ่มแรกให้เรานั้นไปที่ย่าน "ซิตี้ เซ็นเตอร์" ก่อนครับ ให้เดินมาตรงจุดตรงกลางของย่านนี้ โดยท่านสามารถดูได้จากจุดตำแหน่งเขียวจากรูปด้านล่างได้เลย ซึ่งถ้าท่านมาถึงตามจุดที่พิกัดแล้ว มันจะอยู่ตรงหน้าห้องโถงตรงนี้พอดีครับ ** และแนะนำให้ทุกท่าน Save Game เอาไว้ก่อนนะครับ สำคัญมากๆ ** พอเสร็จให้เรา "ค่อยๆ ย่องเข้าไปข้างในเลยครับ" ข้อควรระวังคืออย่าพยายามให้ศัตรูเห็นคุณเด็ดขาด เพราะศัตรูในจุดนี้ค่อนข้างที่จะโหดมากครับ สามารถจัดการคุณได้ในการโจมตีเพียงไม่กี่ที และพอเดินเข้ามา ผ่านถังขยะทางขวาท่านจะพบกับกล่องๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ สามารถดูจุดได้จากภาพด้านล่างครับ ซึ่งมาเดินเข้าไปดูท่านจะพบกับ Mantis Blade อยู่ในกล่องนี้ครับ แต่ถ้าหากไม่พบให้ท่านทำการ Load Save ใหม่ในจุดที่ท่านพึ่งเซฟไป และเข้าไปที่กล่องเดิมทำจนกว่าจะมี Mantis Blade อยู่ในนั้นครับ และพอได้ของมาแล้ว ให้ท่านไปที่ร้านติดตั้ง Cyberware ที่อยู่ทางซ้ายของ ซิตี้เซ็นเตอร์ที่ชื่อว่า "ริปเปอร์ด็อค" ซึ่งให้ท่านทำการติดตั้งได้เลยครับ เห็นว่าเราจะไม่ต้องเสียเงินเพื่อติดตั้งแต่อย่างใด แค่นี้เราก็มีอาวุธ Mantis Blade เจ๋งๆ ใช้แล้วครับ v v
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 แนะนำวิธีการหาเงินแบบง่าย (รีบทำก่อนโดนลบ)
Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ค่อนข้างหาเงินยากอยู่พอสมควรเลยนะครับ เราจะต้องไล่ทำภารกิจต่างๆ จากงานเสริมต่างๆ เพื่อเก็บหอมรอบริบทีละเล็กทีละน้อยมาซื้อของซักชิ้น แต่ในบทความนี้ทางเรา GameFever TH มีวิธีการหาเงินแบบง่าย ใช้เวลาแปปเดียวก็มีเงินหลักหมื่นมาใช้แล้ว ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย เงื่อนไข เราต้องมี Perk ที่ชื่อว่า "นายช่าง" เสียก่อน โดยจะอยู่ในหมวดหมู่ ความสามารถทางเทคนิค -----> การคราฟต์ ให้เรานั้นขับรถมาตามจุดในแผนที่ด้านล่าง ซึ่งจะเป็นสถานที่ๆ อยู่ในเขตวัตสัน(ตรงสี่เหลี่ยมสีฟ้า) ซูมมาใกล้หน่อยก็จะมีประมาณนี้ ซึ่งเราจะมาอยู่ในสถานที่นี้พอดีครับ จะเป็นแหล่งที่มีตู้กดน้ำเยอะๆ ต่อมาให้เรานั้นหาตู้กดน้ำที่จำหน่ายเครื่องดื่ม นิโคลา (Nicola) หรือตู้กดน้ำที่จำหน่ายเครื่องดื่ม "เถียนฉา" (ตามรูปด้านล่าง) นิโคลา เถียนฉา (สำคัญ) ให้เราเอาเมาส์ของเราชี้ไปที่เครื่องดื่มในตู้อันซ้ายสุดครับ ถ้าเป็นนิโคลาคือเป็นรุ่นธรรมดา ถ้าเป็นเถียนฉาคือกระป๋องเขียว และให้ทำการกดเครื่องดื่มออกมาให้เยอะที่สุดเลยครับ ถ้าหมดก็เปลี่ยนตู้ไล่ทำไปเรื่อยๆ กดมาให้ได้มากที่สุด (ในวิธีนี้จะเสียเงินนิดหน่อยนะครับ กดน้ำกระป๋องละ 10 ยูโรดอลลาร์ แนะนำให้เตรียมเงินไปซัก 5000 ยูโรดอลลาร์ ครับเผื่อไว้) อย่าลืมเก็บกระป๋องที่ตกลงมาบนพื้นด้วยนะ XD อย่างที่บอกว่าตู้มีเยอะมาก ไล่เก็บให้หมดนะ พอเสร็จแล้วให้ท่านกดไปที่ "กระเป๋าเป้" เลือกหาน้ำที่ท่านกดมา และทำการกด "(จับ) แยกชิ้นส่วนไอเท็ม" ซึ่งแยกให้หมดเลยครับ (กระป๋อง "เถียนฉา"ก็ต้องแยกชิ้นส่วนเช่นเดียวกันนะ) พอแยกชิ้นส่วนแล้วท่านจะได้ไอเท็มสองอย่างนี้ครับนั่นคือ "ส่วนประกอบไอเท็มทั่วไป" กับ "ส่วนประกอบไอเท็มระดับไม่ธรรมดา" ต่อมาให้ท่านทำการนำวัสดุสองชิ้นนี้ไปขายที่ตามร้านคาได้เลย โดยรอบนี้ผมนำ "ส่วนประกอบไอเท็มทั่วไป" ไปขายประมาณ 2400 ชิ้น ได้เงินประมาณ 12000 ยูโรดอลลาร์ และนำ "ส่วนประกอบไอเท็มระดับไม่ธรรมดา" ไปขายประมาณ 1100 ชิ้นได้เงินประมาณ 8900 ยูโรดอลลาร์ ซึ่งรวมกันแล้วตัวผมนั้นได้เงินไปประมาณ 21000 ยูโรดอลลาร์ แต่ใช้ทุนในการกดน้ำไปประมาณ 5000 ซึ่งมันได้กำไรประมาณ 16000 เลยทีเดียว
15 Dec 2020
Cyberpunk 2077 แนะนำ Cyberware สำหรับสายการเล่นต่างๆ
Cyberware ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในเกม Cyberpunk 2077 เพราะมันเป็นเหมือนอุปกรณ์ปรับแต่เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครของเรา ซึ่งในเกมนี้มีไซเบอร์แวร์เยอะมากมายให้เราเลือกใช้ ดังนั้นผู้เล่นจึงสามารถนำมาเลือกใช้ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเองได้ โดยสายของผู้เล่นนั้นสามารถสรุปออกมาได้ทั้งหมด 8 สาย ในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะพาทุกคนมาดูว่าไซเบอร์แวร์อะไรบ้างที่เหมาะกับสายและสไตล์ไหนของเกมเมอร์ทุกท่าน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.สายยิงระยะไกล (สไนเปอร์) Sharpshooters คือ นักแม่นปืนนักซุ่มยิงที่เน้นการต่อสู้จากระยะไกล เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้ใช้ไซเบอร์แวร์ที่จะเสริมประสิทธิภาพและลำกล้องของปืนผู้เล่นเป็นหลัก รวมถึงไซเบอร์แวร์ที่จะช่วยเราจากการอยู่ในระยะไกล ดังนี้ อาวุธ - ปืนสไนเปอร์ Bioplastic Blood Vessels - ช่วยเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดได้ 50% / วินาทีเมื่ออยู่นอกการระยะต่อสู้ เพราะว่าโดยปกติแล้วนักแม่นปืนนั้นจะเว้นระยะห่างของตัวเองกับศัตรู เน้นการอยู่ไกลๆ จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในระยะใกล้ดังนั้น การมีไซเบอร์แวร์นี้จึงจะช่วยให้เราสามารถหลบหนีออกจาการต่อสู้ชั่วครู่เพื่อให้ HP ได้รับการฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งได้. Kiroshi Optics - สามารถเปิดใช้งานการซูมเลนกล้องแบบพิเศษ และเพิ่มช่อง Mod ไว้ปรับแต่งปืนได้สูงสุด 3 ช่อง Bionic Joints - ช่วยลดแรงถีบของอาวุธระยะไกลได้ 25% นอกจากนี้ยังมีไซเบอร์แวร์อื่นๆ ที่มีความสามารถคล้ายคลึงกันที่เหมาะสำหรับนักแม่นปืน ซึ่งจะมาช่วยในเรื่องของการลดแรงถีบและการส่ายของกระสุน ดังนี้ : Moore Tech Berserk Zetatech Berserk Biodyne Berserk Militech Berserk 2.Gunslingers Gunslingers นั้นก็คือ นักแม่นปืนเช่นกันแต่จะเป็นมือปืนที่เน้นระยะใกล้และระยะกลางมากกว่า ซึ่งสายนี้จะเน้นการใช้อาวุธเป็นหลัก ดังนั้นการใช้ไซเบอร์แวร์เหล่านี้สามารถช่วยผู้เล่นให้เล่นสายนี้ได้ ดังนี้ อาวุธ - ปืนพก ปืนลูกซอง Feedback Circuit - ช่วยให้ผู้เล่นได้รับ 10% ของพลังชีวิตสูงสุดหลังจากการยิงกระสุนปืนที่ชาร์จเต็มแล้ว นั่นหมายความว่าสามารถใช้ได้กับพวกอาวุธเทคโนโลยีที่ต้องชาร์จในการยิงเท่านั้น. Kerenzikov - สามารถเข้าสู่โหมดสโลโมชั่นด้วยการลดเวลาลง 90% เป็นเวลา 3.5 วินาที ในขณะที่เคลื่อนตัว Fortified Ankles - ช่วยให้สามารถกระโดดได้แบบ Hover Jump ได้และยังช่วยลดความเสียหายจากการตกจากที่สูงได้ 15% Zetatech Sandevistan - สามารถสโลโมชั่นด้วยการชะลอเวลาลง 50% เป็นเวลา 15 วินาที คูลดาวน์ 30 วินาที และเมื่ออยู่ในสถานะนี้มีโอกาสที่จะโจมตีติดคริติคอล 20% Dynalar Sandevistan - สามารถสโลโมชั่นด้วยการชะลอเวลาลง 70% เป็นเวลา 16 วินาที คูลดาวน์ 30 วินาที และเมื่ออยู่ในสถานะนี้มีโอกาสที่จะเพิ่มดาเมจและโจมตีติดคริติคอล 15% Maneuvering System - สามารถพุ่งหลบขณะที่อยู่กลางอากาศได้และสามารถใช้คอมโบกับ Fortified Ankles ได้อีกด้วย 3. Samurai Samurai คือสายที่เน้นต่อสู้ด้วยความรวดเร็วและเน้นระยะประชิด โดยใช้แนวคิดว่าต้องสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่ง จะขอแนะนำไซเบอร์แวร์ที่เน้นการเอาตัวรอดในดงศัตรู ดังนี้ อาวุธ -Mantis Blades - อาวุธระยะประชิดที่หายากเพราะสามารถใช้  Mod ตกแต่งอาวุธได้มากถึง 3 ช่อง Self-ICE - ป้องกันไม่ให้ Netrunners ของศัตรูแฮ็คเราได้เมื่อเข้าต่อสู้ในระยะประชิด โดยหลังจากใช้จะมีคูลดาวน์ 45 วินาที และจะต้องมีค่าสถานะ Intelligence เท่ากับ 10 เพื่อใช้งาน Limbic System Enhancement - เพิ่มโอกาสในการโจมตีคริติคอลของผู้เล่น 25% Visual Cortex Support- เพิ่มความเสียหายคริติคอลได้สูงสุด  45% Heal-On-Kill - สามารถฟื้นฟู HP 10% หลักจากทำการสังหารสำเร็จทุกครั้ง Monowire -  อาวุธที่มีระยะไกลกว่า Mantis Blades และสามารถชาร์จเพื่อโจมตีได้ โดยความเสียหายจะรุนแรงน้อย-มากตามระยะเวลาการชาร์จ Reflex Tuner - ทำให้เวลาช้าลง 80% เป็นเวลา 4 วินาทีเมื่อ HP ลดลงต่ำกว่า 25% Microrotors - เพิ่มความเร็วในการโจมตีระยะประชิด 25% Microvibration Generator - เพิ่มความเสียหายระยะประชิด 15% Giant Sandevistan - ทำให้เวลาช้าลง 90% เป็นเวลา 8 วินาทีในระหว่างนี้จะเพิ่มความเสียหายเพิ่มขึ้น 15%  โอกาสในการโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 10% และความเสียหายจากการโจมตีคริติคอลจะเพิ่มขึ้น 50% Neofiber - เพิ่มการหลบหลีกโดยรวม 15% 4.Bruisers (หมัดเดียวจอด) Bruisers คือนักสู้ที้เน้นต่อสู่ด้วยความเสียหายหนักๆ เน้นประจัญหน้ากับศัตรูในระยะประชิด ซึ่งจะเชื่องช้ากว่าสายซามูไร ดังนั้นไซเบอร์แวร์ที่แนะนำนั้นจะมุ่งไปที่การเสริมความแข็งแกร่งและการฟื้นฟู HP ที่จะช่วยให้สามารถอยู่รอดในดงศัตรูในนานยื่งขึ้น ดังนี้ : อาวุธ Gorilla Arms - เปลี่ยนมือเปล่าของผู้เล่นให้กลายเป็นหมัดเหล็กยักษ์ ซึ่งสามารถใส่ Mod ปรับแต่งได้ 3 ช่อง Syn-Lungs -  เพิ่มอัตราการฟื้นฟู Stamina +25% Blood Pump - ฟื้นฟูพลังชีวิจสูงสุด 90% ในการต่อสู้ คูลดาวน์ 30 วินาที Biomonitor - ฟื้นฟูค่า HP 100% ให้แก่ผู้เล่นเมื่องมี HP ที่ลดลงต่ำกว่า 15% คูลดาวน์ 2 นาที Adrenaline Booster - คืนค่า Stamina 50% ขอผู้เล่นทุกครั้งที่สามารถจัดการศัตรูได้. Inductor - ถ้าหากโดน EMP ของศัตรูจะทำให้ได้รับเกราะ 50% Pain Editor - ลดความเสียหายที่ได้รับทั้งหมด 10% Shock-n-Awe - มีโอกาส 10% ที่จะปล่อยระเบิดไฟฟ้าที่สร้างความเสียหายเท่ากับ 20% ของ HP ของศัตรูทุกครั้งที่เราโจมตี Endoskeleton - เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 60% Bionic Lungs - เพิ่มความแข็งแกร่งสูงสุด 60% Dense Marrow - เพิ่มความเสียหายระยะประชิด 25% แต่การโจมตีจะใช้ Stamina เพิ่มขึ้น 10% Subdermal Armor - เพิ่มระดับเกราะขึ้น 200 points 5.Assault Assault คือสายจู่โจมไฮบริดที่เน้นอาวุธหนักในการเข้าปะทะ โดยสามารถนำไซเบอร์แวร์ของมือปืนทั้งสองสายด้านบนมาเสริมได้ และต่อไปนี้คือไซเบอร์แวร์ที่แนะนำ : อาวุธ - ปืนกล Microgenerator -  เมื่อพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 15% ผู้เล่นจะปล่อย EMP ที่สร้างความเสียหายให้กับศัตรูทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียง 50% ของ HP สูงสุด Ballistic Coprocessor - ทำให้กระสุนสามารถที่จะแฉลบเด้งออกจากพื้นผิวที่แข็งได้ 2 ครั้ง Smart Link - เพิ่มโอกาสในการได้รับกระสุนคืนเมื่อใช้ Smart Weapons 15% และเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีคริติคอล 25% Projectile Launch System - ติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธที่ทรงพลังซึ่งมีช่อง Mod ปรับแต่ง สิ่งนี้จะติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธที่ทรงพลังซึ่งมีช่อง mod สามช่องหากไซเบอร์แวร์เป็นตำนาน 3 ช่อง   6.Hackers Hacker คือสายที่ต้องเน้นการเจาะการเล่นเลห์เล่นเหลี่ยมเน้นความรวดเร็ว ซึ่งไซเบอร์แวร์จึงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของสายนี้มากๆ ดังนี้ : Bioconductor - ลดคูลดาวน์ไซเบอร์แวร์อื่น ๆ ทั้งหมดลง 30% Tyrosine Injector - ลดระยะเวลาของมินิเกม Breach Protocol ลง 100% ซึ่งทำให้ Quickhacking ง่ายขึ้น. Ex-Disk - เพิ่ม RAM สูงสุด 5 หน่วยช่วยเพิ่มศักยภาพในการ Quickhack ของคุณได้อย่างมาก ( RAM ในเกมนี้คล้ายๆ กับ MP ในเกมอื่นๆ ) RAM Upgrade - เพิ่มอัตราการกู้คืน RAM 0.3 / วินาที Memory Boost - ช่วยให้สามารถเพิ่ม RAM 4 หน่วยจากศัตรูทุกตัวที่ผู้เล่นจัดการได้ ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อ Quickhack มีประสิทธิภาพมากขึ้น Camillo RAM Management - ทุก ๆ สี่นาทีจะช่วยให้ได้รับ 30% ของความจุ RAM สูงสุดของคุณทันทีเมื่อจำนวนของคุณลดลงเหลือสองหน่วย   7.Stealth Stealth คือสายลอบเร้นที่ไม่ค่อยจะใช้ไซเบอร์แวร์มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีไซเบอร์แวร์บางตัวที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นถูกศัตรพบตัวได้ยาก และยังสามารถที่จะนำไซเบอร์แวร์ของ Hacker มาปรับใช้ได้ ดังนี้ : Synaptic Accelerator - ทำให้เวลาช้าลง 50% เป็นเวลา 4 วินาที Lynx Paws - ลดเสียงขณะเคลื่อนที่ลง 50% Optical Camo - เปิดใช้งานทำให้ผู้เล่นสามารถพรางตัวได้เป็นเวลา 15 วินาที 8.Cyberware อื่นๆ ที่ควรมี มีไซเบอร์แวร์บางตัวใน Cyberpunk 2077 ที่ดีมากจนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสายอื่นๆ  และนี่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดบางส่วน : Second Heart - ฟื้นฟู HP จนเต็ม เมื่อมี HP เหลือน้อย มีคูลดาวน์ 2 นาที Mechatronic Core - เพิ่มความเสียหายหุ่นยนต์โดรนและหุ่นยนต์สูงสุด 50% Detoxifier - มีภูมิคุ้มกันต่อพิษทั้งหมด Metabolic Editor - ความเสียหายจากพิษจะถูกเปลี่ยนเป็น HP และค่อยๆ ฟื้นฟู 12% ต่อวินาที Heat Converter  - การโจมตีที่ปกติจะทำให้เผาไหม้ศัตรูเพิ่มความเสียหายขึ้น 10% Cataresist  - เพิ่มความต้านทานทั้งหมดขึ้น 35% Titanium Bones - เพิ่มขีดความสามารถของคุณ 60% Reinforced Tendons - สามารถกระโดดได้สองครั้ง Fireproof Coating - มีภูมิคุ้มกันจากการเผาไหม้ Grounding Plating - มีภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายไฟฟ้า Supra-Dermal Weave - มีภูมิคุ้มกันจากสถานะเลือกไหล Militech Falcon Sandevistan - ทำให้เวลาช้าลง 70% เป็นเวลา 20 วินาที ในระหว่างนี้จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 15% โอกาสในการโจมตีคริติคอล 20% และความเสียหายจากการโจมตีคริติคอล 35% Synaptic Signal Optimizer - เพิ่มระยะเวลาของเอฟเฟกต์ไซเบอร์แวร์ Sandevistan และ Kerenzikov ทั้งหมด 2 วินาที Credit : Thegamer
14 Dec 2020
Cyberpunk 2077 เงื่อนไขการมีความรักกับ NPC ภายในเกม
เรียกได้ว่ากระแสของเกม Cyberpunk 2077 นั้นกำลังมาแรงมากๆ เพราะเป็นเกม RPG / Open-World ที่มีระบบน่าสนใจอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ระบบความรัก" ความหมายก็คือผู้เล่นสามารถที่จะจีบ NPC ในเกมได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การทำเควสเสริม การเลือกตัวเลือกที่ถูกใจ NPC คนนั้น ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำเส้นทางรักโรแมนติดในเกม Cyberpunk 2077 ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.Judy Alvarez เงื่อนไข - จูดี้นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียง และรูปร่างที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับจูดี้ได้หลังจากที่ทำเควสหลักที่เกี่ยวข้องกับ Evelyn Parker และ Judy ได้แก่ The Information / Automatic Love และพอหลังจากนี้ Judy จะโทรศัพท์มาหาเรา และมอบงานเสริมให้นั่นคือ The Space in Between  / Disasterpiece จากนั้นผู้เล่นจะได้รับเควสเสริมทำให้สามารถติดต่อกับเธอได้มากขึ้น และหลังจากนี้ผู้เล่นต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีในสายตาของจูดี้ และอย่าลืมที่จะตัดสินใจในตัวเลือกที่สำคัญบางอย่างในระหว่างทำเควสเสริมเพื่อให้เพิ่มความรักให้เธอจะมีให้กับ V มากขึ้นด้วย ดังนี้ Both Sides Now : เลือกเป็นคนดีและช่วยเหลือจูดี้ด้วยการเยียวยาเธอจากการสูญเสียคนที่รัก Ex-Factor : เลือกฆ่า Woodman Talking About a Revolution : เลือกปฏิเสธการชำระเงิน Maikos plan : ผู้เล่นจะต้องให้ V ปฏิเสธแผนของ Maiko และช่วยให้ Clouds เป็นอิสระ เลือกที่จะไม่ฆ่า Maiko Pyramid Song : ไปดำน้ำกับจูดี้และเลือกตัวเลือกที่จะทำให้เธอรัก หลังจากที่ผู้เล่นตั้งใจจะทำให้เธอรักแบบหมดใจ การกระทำนี้จะส่งผลในช่วงท้ายเกมและตอนจบ 2. Panam Palmer เงื่อนไข - Panam นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับ Panam ได้หลังจากที่ทำเควสหลักเหล่านี้เสร็จแล้ว ได้แก่ Ghost Town / Lightning Breaks / Life During Wartime  จากนั้นผู้เล่นสามารถที่จะทำเควสเสริมเพื่อทำให้เธอเริ่มรู้สึกกับเรามากขึ้นด้วยการเลือกตัวเลือกบางอย่างในระหว่างภารกิจหลักจะช่วยผนึกข้อตกลงได้เช่นกัน ดังนี้ : เนื้อเรื่องหลัก Mission Ghost Town: รับเครื่องดื่ม เนื้อเรื่องหลัก Mission Life During Wartime : ปกป้องเธอต่อหน้าซาอูล เควสเสริม Riders on the Storm : เลือกที่จะไปกับ Panam With a Little Help From My Friends : เก็บแผนของ Panam ไว้เป็นความลับบอก พร้อมกับเธอว่าเธอพลาด และจับมือพาเธอไปใกล้ๆ กองไฟ 3.Kerry Eurodyne เงื่อนไข -  เคอรี่นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ถึงแม้ว่าผู้เล่นไม่พบกับ Kerry มากเท่ากับอีกสองตัวละครด้านบน แต่ก็ยังสามารถที่จะพบกับเคอรรี่ได้จากหลายๆ เควส ทั้งเควสหลัก และเควสเสริมอื่นๆ จากนั้นให้ผู้เล่นทำสิ่งต่อไปนี้ Off the Leash:  จีบ Kerry Boat Drinks: จูบ Kerry หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างความสัมพันธ์แบบความรักหรือแค่เพียงพบกันแบบ One Night Stand แต่ขอบอกใบ้ให้ว่าถ้าคุณเส้นทางนี้เขาจะพาผู้เล่นไปเจอหนึ่งในอาวุธที่ดีทีสุดในเกมและยานพาหนะ อันดับต้นๆ ของเกมเลย. 4.River Ward เงื่อนไข -  ริเวอร์วอร์ดนั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้หญิง (รวมถึงอวัยวะลับ) River Ward นั้นเป็นตัวละครที่เราสามารถพบได้จากเควสเสริมที่ชื่อว่า I Fought the Law โดยผู้เล่นจะพบว่าเขาเป็นนักสือของ NCPD และหลังจากนั้นก็จะสามารถพบกับเขาได้มากขึ้นจากการทำเควสเสริมต่างๆ โดยแนะนำให้เลือกตัวเลือกคัวสำคัญดังต่อไปนี้ : The Hunt : ช่วย Randy และแสดงความสนใจตัวเขา Following the River : จูบเขาสองครั้ง และเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนในเกมนี้ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสานต่อความรักครั้งนี้หรือเลือกที่จะพบกันแบบ One Night Stand ซึ่งการตัดสินใจสำหรับหัวข้อนี้จะมีผลกับตอนจบด้วย!   5.ความรักในแบบอื่นๆ สำหรับในเรื่องของความรักและการจีบอีก 4 คนด้านบนนั้น ผู้เล่นยังสามารถที่จะพบรักและสานความสัมพันธ์กับ NPC คนอื่นๆ ได้ดังนี้ : Meredith Stout : ผู้เล่นสามารถพบได้ในช่วงเริ่มต้นภารกิจ The Pickup ซึ่งแนะนำว่าควรจ่ายเงินให้ Royce ด้วยชิป Militech โดยไม่ต้องลบมัลแวร์ออก จากนั้นให้บอก Meredith ว่าเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันอีกครั้งและจะทำให้สามารถใช้เวลาร่วมด้วยกันได้มากขึ้น Joytoys : สามารถพบได้ใน Night City เฉพาะบนถนน Jig Jig และสามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้ด้วยการจ่ายค่าบริการ Rogue Amendiares : อนุญาตให้ Johnny เจ้าครอบครองร่างของ V เป็นครั้งเป็นคราวจะทำให้สามารถเดทกับ Rogue ผ่านภารกิจ Tapeworm ได้ Credit : vg247  Gamerant
14 Dec 2020
Final Review: Cyberpunk 2077
หลังจากที่ปล่อยให้ผู้เล่นเฝ้ารอกันมาเกือบสิบปี นับตั้งแต่ที่เกมประกาศเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2012 บวกกับความคาดหวังในฝีมือและคำสัญญามากมายของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED เกี่ยวกับความลึกล้ำของเกมที่พวกเขาต้องการจะสร้าง คงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกม Cyberpunk 2077 จะต้องแบกรับความคาดหวังมโหฬารจากเกมเมอร์ทั่วโลกในฐานะเกม RPG โลกเปิดที่จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หลังจากที่เล่นเกมมาเป็นเวลาเกือบ 40 ชั่วโมงจนจบเนื้อเรื่อง ถ้าถามว่าเกม Cyberpunk 2077 นับเป็นเกมที่จะพลิกความคาดหวังของผู้เล่นอย่างที่หลายคนอยากเห็นหรือไม่ คำตอบที่มอบได้คงเป็น “ไม่” ด้วยระบบเกมเพลย์ที่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ใหม่หรือน่าตื่นตาไปกว่าที่เคยเห็นมาในเกมอื่นนัก ถ้ามองโครงสร้างของเกมในภาพใหญ่ Cyberpunk 2077 ก็คงไม่ได้ต่างจากเกม RPG โลกเปิดอย่าง Fallout หรือ Mass Effect มากขนาดนั้น ด้วยความเป็นเกม RPG ที่ให้ความสำคัญกับระบบบทสนทนา แต่ในขณะเดียวกับ เกม Cyberpunk 2077 ก็เปรียบเสมือนจุดสูงสุดของการออกแบบเกม Open World ทั้งหมดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยโลกที่ละเอียดและน่าค้นหาที่พร้อมจะเซอร์ไพรส์เราด้วยเรื่องราวอันหลากหลายทั้งอารมณ์และรสชาติเกี่ยวกับชีวิตในมหานคร Night City เมืองแห่งอนาคตและอิสระที่สวยงามและโสมมในเวลาเดียวกัน ทั้งยังมีระบบเกมเพลย์ที่สนับสนุนให้ผู้เล่นแต่ละคนได้มีโอกาสแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง และให้รางวัลกับคนที่ยินดีจะเรียนรู้ระบบ RPG อันซับซ้อนนี้จริงๆ      แม้จะไม่ใช่เกมที่จะกลายเป็นตำนานชั่วข้ามคืน แต่ Cyberpunk 2077 ก็เป็นผลลัพธ์ของการขัดเกลาระบบเกมเพลย์หลายๆ อย่างที่เห็นในวงการเกมในยุคที่ผ่านมาจนเปล่งประกาย และถือเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ดีและลึกเป็นอันดับต้นๆ ในรอบหลายปีมานี้อย่างแน่นอน *อ่านรีวิวช่วงต้นเกม (คลิ๊ก) และรีวิวอัปเดท 1 (คลิ๊ก) เพื่ออ่านความเห็นและรับชมภาพบทบรรยายไทย ตำนานที่มีชีวิต สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เกม Cyberpunk 2077 จะติดตามตัวละครเอกที่ชื่อ ‘V’ ทหารรับจ้างหน้าใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำนานในมหานคร Night City บ้านเกิดของเขา แต่หลังจากที่ภารกิจหนึ่งของเขาเกิดผิดพลาดขึ้นมาอย่างร้ายแรง ทำให้ V ถูกปลูกถ่ายจิดสำนึกของนักร๊อคและ “ผู้ก่อการร้าย” ในตำนานอย่าง Johnny Silverhand เอาไว้ในหัว และทำให้จิตสำนึกแปลกปลอมนั้นค่อยๆ กัดกินสมองของเขาไปเรื่อยๆ โดย V จะต้องแข่งกับเวลาเพื่อหาวิธีรักษาชีวิตตัวเอง พร้อมกับไขปริศนาเบื้องหลังภารกิจอันผิดพลาดนั้น อย่างที่น่าจะพอทราบกันดีจากรายงานของสื่อต่างชาติที่มีเวลารีวิวเกมมากกว่าผู้เขียน เนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 จะค่อนข้างสั้น และสามารถเล่นให้จบได้ในระยะเวลาไม่เกิน 20-25 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจากที่เล่นมาก็ดูจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะพอผู้เขียนตัดสินใจนั่งเล่นเนื้อเรื่องอย่างเดียวเพื่อให้จบเกมเร็วที่สุด ก็พบว่าที่รู้สึกเหมือนอยู่กลางๆ เรื่องมันใกล้จะจบแล้ว และเล่นต่อไปอีกไม่เยอะก็พบฉากจบแล้ว โดยถ้าให้วิจารณ์ในแง่ของภารกิจเนื้อเรื่องเพียวๆ ก็คงต้องบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 เขียนบทมาได้อย่างเข้มข้นและน่าติดตาม พร้อมกับมีตัวละครที่ล้วนมีแง่มุมที่น่าสนใจของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นหรือแตกต่างจากเกม RPG ที่มีตอนจบหลายแบบที่เคยเล่นมา แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือการที่เนื้อเรื่องของเกมสามารถเปลี่ยนแปลงและขยายขอบเขตของตัวเองไปได้ตามเนื้อหาเสริมที่เราเล่น ถ้าให้อธิบายโดยไม่สปอย ผู้เขียนได้มีโอกาสเล่นภารกิจเสริมอันหนึ่งจาก NPC ในเนื้อเรื่อง โดยภายในภารกิจผู้เขียนในฐานะ V ก็ได้มีโอกาสคุยเปิดใจกับตัวละครตัวนั้นอย่างลึกซึ้งถึงความเชื่อและความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ จนเหมือนจะช่วยคลายปมในใจบางอย่างให้กับ NPC ตัวนั้นได้ เป็นบทสนทนาที่น่าสนใจแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะสำคัญอะไรต่อเนื้อเรื่องขนาดนั้น แต่เมื่อไปถึงช่วงใกล้ๆ จบเนื้อเรื่อง ผู้เขียนก็ได้พบกับทางเลือกหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าต่อยอดมาจากทางเลือกที่ว่านี้ โดยตัวละครดังกล่าวเป็นคนพูดออกมาเองว่าถ้าไม่ได้มีบทสนทนานั้น ก็คงไม่ได้นำมาสู่เรื่องราวเช่นนี้ หมายความว่าถ้าไม่ได้เล่นภารกิจเสริมที่ว่านั้น ตอนจบของผู้เขียนก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ ซึ่งไม่แน่ใจว่ายังมีอีกกี่ภารกิจเสริมที่จะส่งผลต่อตอนจบได้แบบนี้อีก แต่ก็หมายความว่ายิ่งเราทำภารกิจเสริมมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะภารกิจเสริมที่เกี่ยวข้องกับตัวละครเหล่านี้ ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสได้พบกับตอนจบหลากหลายขึ้นเท่านั้น มาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่าแล้วมันต่างกับที่พบในเกมอย่าง Fallout 4 อย่างไร? ก็ต้องบอกว่าแม้ในภาพใหญ่อาจไม่ต่างมาก แต่วิธีที่ Cyberpunk 2077 ผูกโยงเรื่องราวเหล่านี้เข้าด้วยกันต่างหากที่ทำให้เกมรู้สึกน่าทึ่ง เหตุการณ์ที่จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องอย่างเป็นนัยยะสำคัญไม่จำเป็นต้องเป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆ เท่านั้น แต่บางครั้งแค่บทสนทนาธรรมดาๆ เกี่ยวกับชีวิตก็อาจย้อนกลับมามีความสำคัญในแบบที่ไม่ได้จินตนาการเอาไว้ในตอนแรก ทำให้ Cyberpunk 2077 รู้สึกมีความเป็น “มนุษย์” หรืออาจะเรียกว่าความ “เป็นธรรมชาติ” (ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคงใช้คำว่า ‘organic’) ในแบบที่เกมปลายเปิดลักษณะเดียวกันเทียบไม่ติดเลย เมื่อมนุษย์คืออาวุธที่น่ากลัวที่สุด แม้ว่าการต่อสู้ของ Cyberpunk 2077 จะค่อนข้างจำกัดในชั่วโมงแรกๆ ของเกม (เอาจริงๆ ก็เป็นสิบชั่วโมงอยู่เหมือนกัน) ที่ผู้เล่นยังเข้าไม่ถึงอาวุธและ Cyberware ที่น่าสนใจ และรู้สึกไม่ค่อยต่างจากเกมแอคชั่น FPS ทั่วไปเท่าไหร่ แต่เกมก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่เล่นเช่นกัน ยิ่งผู้เล่นสามารถปลดล๊อค Perk และ Cyberware ได้เยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดทางเลือกให้กับผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ความน่าสนใจอีกอย่างของเกมอยู่ที่ระบบการพัฒนาตัวละคร ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถพัฒนาตัวละครได้ตามใจอยากแค่จากการเล่นเกมตามที่อยากเล่น เพราะนอกจากระบบ Perk และ Attribute ที่จะพัฒนาขึ้นตามการอัปเลเวลแล้ว ยังมีระบบความชำนาญที่จะมอบโบนัสต่างๆ ให้ผู้เล่นตามการกระทำของเราอีกด้วย อย่างผู้เขียนค่อนข้างจะเน้นการอัปเกรด Attribute Reflex (การตอบสนอง) ที่ทำให้ผู้เขียนได้รับโบนัสจากการใช้อาวุธดาบ แต่เมื่อเล่นเกมไปเรื่อยๆ ก็พบว่าต้องใช้การแฮ๊คเยอะ ทำให้ผู้เขียนได้รับความชำนาญในด้านนั้นเพิ่มขึ้นตลอดที่เล่น และทำให้ได้รับโบนัสสำหรับทักษะการแฮ๊คไปด้วย แน่นอนว่าสุดท้ายทุกอย่างก็ยังขึ้นกับค่า Attribute ที่จะกำหนดว่าเราจะอัปเกรด Perk อะไรได้บ้าง จากการทดลองเล่นในระดับความยากปานกลาง พบว่าระดับความท้าทายของเกมโดยรวมจะค่อนไปทางง่ายซะมากกว่าโดยเฉพาะเมื่อเราอัปเกรดตัวละครไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของผู้เขียน ได้เลือกที่จะเน้นไปที่ความสามารถด้านการใช้ดาบควบคู่กับ Perk สายร่างกายที่ทำให้ถึกทนและฟื้นฟูพลังชีวิตเร็วขึ้น ซึ่งพออัปเกรดทั้งของสวมใส่และ Perk ถึงจุดหนึ่งก็พบว่าแทบจะสามารถวิ่งฝ่ากระสุนเข้าไปฟันหัวศัตรูทีละตัวโดยแทบไม่ต้องกลัวตายเลย แม้จะยอมรับว่าสะใจยิ่งนัก แต่ก็ทำให้เกมช่วงท้ายๆ รู้สึกง่ายไปเลยเช่นกัน จุดอ่อนอย่างหนึ่งของเกมมาจากการที่อาวุธและ Cyberware ที่ส่งผลต่อเกมเพลย์มากๆ มักจะถูกกันออกไปไว้ช่วงท้ายหมดเลย ไม่ว่าจะเพราะต้องการระดับ Street Cred สูง หรือไม่ก็ต้องใช้ Attribute สูงระดับหนึ่ง ส่งผลให้เกมเพลย์ช่วงต้นๆ รู้สึกธรรมดาๆ ไปซะหน่อย และกว่าจะเริ่มรู้สึกว่ามันเปิดกว้างให้เรามากขึ้นก็ปาไป 20 ชั่วโมงแล้วสำหรับผู้เขียน ซึ่งถ้าใครไม่ทำภารกิจเสริมเลย หรือทำน้อย เผลอๆ จะเล่นเนื้อเรื่องจบก่อนจะได้ลองใช้ Cyberware เท่ๆ เลยด้วยซ้ำ มหานครแห่งแสง สี และ RTX อีกหนึ่งแรงขับสำคัญเบื้องหลังความน่าทึ่งของเกมคงหนีไม่พ้นกราฟิกและการนำเสนอ ที่ทำให้เมือง Night City รู้สึกเป็น “โลกที่มีชีวิต” อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในเกมไหนๆ ซึ่งในจุดนี้ต้องกล่าวชมทีมออกแบบของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED มากๆ ที่สามารถทำให้โลกของเกม Open World นี้รู้สึกละเอียดไม่ต่างจากเกมแนวเส้นตรงหลายเกมที่ผ่านมา จนไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้สึกเหมือนทุกกระเบียดนิ้วของเมือง Night City ถูกออกแบบและจัดวางมาอย่างตั้งใจ ทำให้เมืองรู้สึกมีเรื่องราวหรือประวัติศาสตร์ในแบบที่คล้ายกับสถานที่จริงอย่างไรอย่างนั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆ คือการที่แต่ละเขตจะมีบุคลิกที่ชัดเจนมากๆ ของตัวเอง ที่สะท้อนออกมาทั้งทางการออกแบบถนนหนทางและอาคาร ไปจนถึงการแต่งตัวของประชากรและอาชญากรในเขตนั้นๆ เปรียบเสมือนกับว่าแต่ละเขตเป็น “เมือง” ย่อมๆ ในเกม RPG แฟนตาซีที่มักจะมีธีมและเนื้อเรื่องของตัวเอง โดยแต่ละเขตในเมือง Night City ที่เราเยี่ยมเยียมจะมี NPC ที่เรียกว่า Fixer คอยมอบงานให้เรา ซึ่งงานเหล่านี้ก็มักจะแสดงออกถึงวิถีชีวิตของแต่ละเขตอีกด้วย ทำให้รู้สึกราวกับว่าเกมมีเรื่องราวใหม่ๆ มานำเสนอให้เราตลอดเวลา แม้กระทั่งเมื่อจบเนื้อเรื่องไปแล้วกลับมาเล่นก็ตาม  สำหรับการรีวิว ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกมบนเครื่อง PC ที่มีการ์ดจอ RTX 2060 และ 16GB RAM โดยเล่นเกมส่วนใหญ่ที่การตั้งค่ากราฟิก Preset Ray Tracing - Medium ซึ่งพบว่าเกมสามารถแสดงผลได้ที่ประมาณ 40-45 FPS (ตกไปถึง 35 เวลาบู๊ๆ) และสามารถดันได้ถึง RTX Ultra แลกกับเฟรมเรต 30 FPS ซึ่งถือว่าดีกว่าที่คาดเอาไว้ประมาณหนึ่ง คนที่กลัวว่าคอมพิวเตอร์ของตัวเองจะเล่นเกมไม่ไหวไม่น่าจะมีอะไรต้องห่วง ตราบใดที่มีคอม Spec ขั้นต่ำคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหากับการเล่นเกม (ตั้งค่าได้เท่าไหร่อีกเรื่องหนึ่ง) อีกอย่างที่ต้องไม่ลืมคือเกมเวอร์ชั่นทีเล่นเพื่อรีวิวนี้ยังไม่ได้อัปเดทแพทช์ Day One ที่ว่ากันว่าจะปรับปรุงการทำงานของเกม แถมยังไม่ได้อัปเดท Driver ของการ์ดจอ และมีซอฟต์แวร์ Denuvo Anti-Tampering มาฉุดเฟรมเรตของเกมลงอีก โดยเชื่อได้ว่าเกมเวอร์ชั่นที่ผู้เล่นทุกคนได้รับการน่าจะมีปัญหาน้อยกว่าเวอร์ชั่นที่ผู้เขียนเจอ  สรุป แม้จะไม่ใช่เกมที่เปรียบเสมือนตัวแทนแห่ง Next-Gen ที่หลายคนหวังจะเห็น แต่นั่นก็ไม่ใช่คำตำหนิเลยสำหรับ Cyberpunk 2077 เกมที่เปรียบเสมือนร่างสุดยอดของแนวคิดการออกแบบเกม Open World โดยรวมตลอดทศวรรตที่ผ่านมา ที่ทั้งสนุกและน่าหลงใหลได้ไม่รู้จบ ราวกับการนั่งดูซีรี่ส์ไซไฟดราม่าเข้มข้นหลายซีซั่นในเกมเดียว ที่สำคัญคือเกมเป็นเกมที่ยิ่งให้เวลาสำรวจโลกของเกมได้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดกว้างและหลากหลายขึ้นเท่านั้น หากคุณเคยเล่นเกม Open World อะไรก็แล้วแต่ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแล้วชอบ เชื่อได้เลยว่า Cyberpunk 2077 จะมีอะไรให้คุณแน่นอน
09 Dec 2020
Review-In-Progress: Cyberpunk 2077 อัปเดท 1 (8/12/20) [NO SPOILER]
เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทำให้ไม่สามารถเพิ่มส่วนอัปเดทลงไปในบทความเดิมได้ ใครที่สนใจอยากอ่านความเห็นจากช่วงต้นเกม สามารถอ่านได้ ที่นี่ Update 1: 8/12/20 ยุคนี้ใครเค้าเล็งปืนกัน! จากที่คราวที่แล้วผู้เขียนไม่ค่อยประทับใจกับการต่อสู้ จากการที่เกมช่วงที่เล่นยังมักจะมีแต่ปืนและอาวุธแบบมนุษย์ธรรมดาๆ แม้ว่าศัตรูจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปนักในเวลาเกือบสิบชั่วโมงที่ผู้เขียนเล่นเพิ่มเติม แต่ปืนที่ได้รับมาเริ่มจะพิศดารมากขึ้นแล้ว เช่นปืน Smart Gun ที่เราเห็นในตัวอย่างเกมที่ผ่านมาที่จะปล่อยกระสุนนำวิถีไปโจมตีศัตรู หรือปืนสไนเปอร์ Nekomata ที่สามารถยิงทะลุกำแพงจากระยะไกลได้ และอาจจะด้วยการพัฒนาความสามารถสายแฮ๊คกิ้งมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าการต่อสู้และลอบเร้นในเกมมีความหลากหลายกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรกอีกด้วย ผลเสียอย่างหนึ่งของการที่ตัวละครของผู้เขียนพัฒนาขึ้นแต่ศัตรูส่วนใหญ่ไม่ได้พัฒนาตามเท่าไหร่ ทำให้การต่อสู้ในช่วงนี้เริ่มรู้สึกง่ายขึ้นไปเยอะ เรียกว่าผู้เขียนแทบจะวิ่งฝ่ากระสุนเข้าไปเอาดาบเสียบศัตรูได้เรียงตัวแล้ว แต่ก็เริ่มจะได้เห็นศัตรูแปลกๆ บ้างในฐานะมินิบอส เช่นศัตรูตัวหนึ่งที่ใส่ Cyberware เพิ่มความเร็วจนวิ่งหลบกระสุนได้ หรือศัตรูที่จะพยายามแฮ๊คเราซะเองพร้อมกับวิ่งเข้ามาโจมตีระยะประชิด ผู้เขียนมักต้องเปลี่ยนวิธีเล่นกลางคันเพื่อรับมือกับศัตรูเหล่านี้เสมอ ซึ่งก็ทำให้การต่อสู้ท้าทายขึ้นมาบ้าง แม่ในภาพรวมจะยังถือว่า Cyberpunk 2077 (อย่างน้อยในระดับความยากปานกลางที่ผู้เขียนเล่น) น่าจะเป็นเกมที่ค่อนไปทางง่ายสำหรับผู้เล่นหลายๆ คน  โดยรวมก็ต้องบอกว่าการต่อสู้เริ่มมีความสร้างสรรค์และปลายเปิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ทำให้เกมง่ายขึ้นไปด้วย นี่ถ้าซื้อ Cyberware โหดๆ มาใส่ได้เมื่อไหร่น่าจะล้างบางศัตรูได้สบายๆ ผลบุญผลกรรมมันหนีกันไม่พ้น ในส่วนของทางเลือก ผู้เขียนเริ่มจะได้เห็นผลของทางเลือกและการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้บ้างแล้ว และได้รับเควสที่ดูเหมือนจะผูกกับเนื้อเรื่องของ Lifepath โดยเฉพาะอีกด้วย หลังจากที่เริ่มเล่นเกมต่อจากที่เล่นค้างไว้ได้ไม่กี่ชั่วโมง ผู้เขียนได้รับการติดต่อจาก NPC คนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะรู้จักกับ V อยู่แล้ว เมื่อไปเจอตัวเธอเข้าจริงๆ จึงจำได้ว่าเธอคือ NPC หญิงสาวที่ผู้เขียนช่วยชีวิตเอาไว้ในอีกภารกิจหนึ่งที่ทำตั้งแต่ตอนเริ่มเกมเลย! แถมตอนสนทนากัน เธอยังเอ่ยถึงทางเลือกของผู้เขียนในภารกิจนั้นๆ ด้วย โดยในจุดนี้ไม่ค่อยมั่นใจว่าถ้าตอนที่เล่นภารกิจเลือกทางเลือกอีกแบบจะได้เจอเธออยู่ไหม แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดสนุกๆ ที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าควรจะใส่ใจกับทางเลือกในแต่ละสถานการณ์ยิ่งกว่านี้อีก ในส่วนของ Lifepath ผู้เขียนได้รับการติดต่อมาจาก NPC ตัวหนึ่งที่เคยเจอกันครั้งแรกในช่วงเนื้อเรื่องของ Lifepath Corpo ตั้งแต่ต้นเกมเลย โดยเขาบอกตัวละคร V ว่าเขากำลังโดนเจ้านายหมายหัวอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูมาตั้งแต่ตอนที่คุยกับเขาครั้งแรกในเนื้อเรื่องตอนต้นเลย แถมเช่นเดียวกับตัวอย่างด้านบน เขายังเอ่ยถึงรายละเอียดที่คุยกันก่อนหน้านี้อีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนั้น แม้ว่าตัวอย่างที่ยกมาจะเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ (จริงๆ มีเหตุการณ์ใหญ่กว่านี้แต่ไม่อยากสปอย) แต่แค่รายละเอียดเหล่านี้ก็ช่วยเสริมความรู้สึกว่าเรื่องราวของ V มันเป็นของผู้เล่นแต่ละคนโดยเฉพาะจริงๆ และการกระทำทุกอย่างของเรา แม้จะดูเหมือนเล็กน้อยหรือไม่มีความหมาย แต่เราไม่รู้เลยว่าจะย้อนกลับมาหาเราในรูปแบบใดได้บ้าง ภารกิจเยอะ ข้อมูลน้อย อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้เขียนเริ่มสังเกติชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คือการที่เกมค่อนข้างมีปัญหาในการสื่อสารข้อมูลให้ผู้เล่น แม้ว่าเกมจะมีระบบมากมายที่ลึกซึ้งและสัมพันธ์กันในระดับที่น่าทึ่ง แต่เกมกลับไม่ค่อยสอนหรือแนะนำอะไรกับผู้เล่นเท่าไหร่เลย และกระทั่งเรื่องที่ควรจะง่ายอย่างการหาคำตอบว่า “เราสามารถรีเซ็ตค่า Stat และ Perk ทำอย่างไร” กลับเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าผู้เล่นต้องหาเอาเอง (ผู้เขียนยังหาไม่เจอ) อีกจุดที่น่าจะพัฒนาได้มากกว่านี้ในแง่ของข้อมูลคือหน้าต่างภารกิจของเกม ด้วยความที่เกมตั้งอยู่ในโลกอนาคตที่ทุกคนมีมือถือ (หรือสื่อสารกันผ่าน Cyberware) ผู้เล่นจะไม่ต้องเดินไปคุยกับ NPC หรือกระดานข่าวเพื่อรับภารกิจอีกต่อไป แต่ NPC เหล่านั้นจะ้วิธีส่งข้อความหรือโทรมาหา V โดยตรง ทำให้เรามักจะมีภารกิจเสริมน้อยใหญ่อยู่เต็มหน้าตลอดเวลา ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเรามักไม่มีทางรู้ได้เลยว่าของรางวัลจากการทำภารกิจแต่ละอันจะมีอะไรบ้าง หรือว่าภารกิจนี้จะพัฒนาเนื้อเรื่องของใครบ้าง ซึ่งก็ทำให้ตัดสินใจค่อนข้างยากว่าจะทำภารกิจไหนก่อนดี ในบางช่วงเราอาจจะกำลังอยากเก็บเงิน แต่ก็ไม่รู้ว่าภารกิจไหนบ้างที่ทำแล้วจะได้เงิน บางทีเราอยากอัปเลเวลตัวละคร แต่ไม่รู้ว่าภารกิจไหนให้ค่าประสบการณ์ หรืออันไหนให้ค่า Street Cred แทน ทำให้การเล่นภารกิจเพื่อเป้าหมายเฉพาะบางอย่างทำได้ยาก และส่วนใหญ่ผู้เขียนก็มักจะแค่เลือกภารกิจที่ใกล้ที่สุดแล้วตรงไปที่นั่น แต่ก็ทำให้รู้สึกขาดตอนได้เหมือนกันเวลาที่เพิ่งเล่นภารกิจบู๊ๆ มาแล้วมาเจอภารกิจเน้นคุยอย่างเดียว ชีวิตมัวๆ ที่ไม่มีวีรบุรุษ อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากพูดถึงคือตัวละครที่เราสามารถพบได้ในเกม โดยเฉพาะเหล่าตัวละครที่มีบทบาทในเนื้อเรื่อง ที่ล้วนมีมิติที่น่าค้นหาของตัวเอง แม้ในช่วงต้นเกมจะรู้สึกเหมือนยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับ NPC เหล่านี้นักนอกเหนือไปจากในภารกิจเนื้อเรื่อง แต่พอเริ่มได้ใช้เวลาและเรียนรู้ภูมิหลังของพวกเขามากขึ้น ก็พบว่าตัวละครหลายตัวมักมีอะไรน่าสนใจจะพูดหรือเล่าให้ฟังเสมอ และบ่อยครั้งมักเป็นเรื่องที่ช่วยเสริมเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหรือช่วยพัฒนาตัวละครให้ลึกขึ้น แม้ในเกม RPG ส่วนใหญ่ผู้เขียนอาจจะชอบข้ามตัวเลือกบทสนทนาที่ไม่ได้ดำเนินเนื้อเรื่องต่อ (ในเกมนี้จะเป็นสีฟ้า ส่วนที่ดำเนินเนื้อเรื่องจะเป็นสีเหลือง) แต่ในเกมนี้ มักจะต้องเลือกฟังตัวเลือกบทสนทนาทั้งหมดก่อนจะดำเนินเรื่องต่อไปเสมอ แถม: สำหรับคนที่อยากเห็นภาพซับไทยมากกว่านี้ อังกฤษ: ไทย: เอาจริงๆ ถามว่าซับไทยรู้เรื่องแค่ไหน ก็คงบอกว่ารู้เรื่องซัก 85-90% นั่นแหละ อีก 10-15% ก็น่าจะพอตีความจากบริบทได้ แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนจริงๆ คือการคงอารมณ์ความรู้สึกของบทเดิมเอาไว้ ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะไม่ติดขัด แต่เผอิญว่าผู้เขียนเป็นคนติดอ่านซับด้วย เวลาเปิดซับไทยก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะอ่านตาม พอไม่ตรงกับเสียงอังกฤษขึ้นมาก็ทำให้เสียอารมณ์เวลาเล่นได้ แต่เชื่อว่าสำหรับผู้เล่นอีกส่วนใหญ่ๆ น่าจะไม่มีปัญหากับซับไทย แต่ให้ระวังคำแปลหน้าเมนูเช่นในตัวอย่างบนก็พอ สรุปอัปเดท 1: ตอนนี้ยังไม่ได้ Cyberware มาใช้ (เงินไม่พอซื้อ) แต่เริ่มได้อาวุธใหม่ๆ มากขึ้น เริ่มสนุกขึ้นกว่าช่วงต้นๆ เกม / เนื้อเรื่องเริ่มผูกโยงกับการกระทำของผู้เล่นมากขึ้น เริ่มเห็นผลของทางเลือกก่อนหน้านี้ / เกมไม่ค่อยให้ข้อมูลเท่าไหร่ทำให้วางแผนการเล่นยาก อยากฟาร์มเงินก็ไม่รู้ภารกิจไหนให้เงิน อยากฟาร์มของก็ไม่รู้ภารกิจไหนให้ของ
08 Dec 2020
Review-In-Progress: Cyberpunk 2077 [NO SPOILER]
ตั้งแต่ที่ประกาศเปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เกม Cyberpunk 2077 ก็กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับการรอคอยมากที่สุดของเกมเมอร์หลายๆ คนแทบจะชั่วข้ามคืน ทั้งจากชื่อเสียงอันเลื่องลือของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED และผลงาน The Witcher 3 ที่ได้รับความนิยมถล่มทลาย ไปจนถึงจักรวาลต้นฉบับ Cyberpunk 2020 ที่เกมใช้อ้างอิง ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่เกมเมอร์รุ่นเก๋าที่เติมโตมาในยุคของเกม RPG ตั้งโต๊ะทั้งหลาย ตั้งแต่ที่ได้โค้ดเกมเวอร์ชั่น PC มาจากผู้พัฒนา CD PROJEKT RED เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนได้ลองเล่นเกมไปแล้วราว 20 ชั่วโมง และทำให้ได้เห็นภาพของสุดยอดเกมแห่งปี 2020 มากกว่าเดิมพอสมควร แต่ด้วยขนาดของเกมและเนื้อหาเสริมที่มีอยู่เยอะจนตาลาย ทำให้ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งสัมผัสเกมได้เพียงผิวเผินเท่านั้น และยังมีองค์ประกอบสำคัญหลายๆ อย่างที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส เช่นอาวุธหรือ Cyberware ระดับสูงทั้งหลาย รวมไปถึงผลของทางเลือกในระยะยาว ด้วยประการฉะนี้ เราจึงเลือกที่จะยังไม่ให้คะแนนเกมในรีวิวนี้ทันที แต่จะทำการอัปเดทความเห็นความรู้สึกของผู้เขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าที่เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถวิจารณ์แง่มุมต่างๆ ของเกมได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด หากใครมีคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับเกม ที่ไม่ได้รับการตอบในบทความนี้ สามารถคอมเมนต์เข้ามาถามเอาไว้ได้ แล้วเราจะพยายามตอบคำถามของคุณในอัปเดทบทความครั้งถัดไป หมายเหตุ: เกมเวอร์ชั่นรีวิวนี้จะยังไม่ได้รับการปรับปรุงจาก Day One Patch และจะมีโปรแกรม Denuvo Anti-Tampering เข้ามาด้วยเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเกมช่วงก่อนวางจำหน่าย ทำให้อาจจะมีข้อบกพร่องบางประการที่ผู้เขียนพบ แต่ผู้เล่นจะไม่พบ ต้องรอดูกันอีกทีว่าแพทช์ดังกล่าวจะปรับแก้อะไรบ้าง (อ่านช่วงอัปเดทด้านล่าง) *ขอขอบคุณบริษัท CD PROJEKT RED สำหรับโค้ดรีวิว และบริษัท Sicom, Nvidia สำหรับอุปกรณ์รีวิว* ชะตากรรมของนักเลงแห่งโลกอนาคตที่คุณเป็นคนลิขิต เนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 จะเล่าเรื่องราวของตัวเอกที่ชื่อว่า V ทหารรับจ้างหน้าใหม่ไฟแรงของเมือง Night City ผู้ซึ่งถูกดึงเข้าไปพัวพันกับแผนการแย่งชิงอำนาจของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ (ที่เกมเรียกว่าเหล่า Megacorp) ที่ปกครองเมือง และต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ของเขาในการไขปริศนาเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด โดยสิ่งที่ผู้พัฒนายกเป็นจุดขายสำคัญมาโดยตลอดคือเรื่องของทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเสื้อผ้า หน้าตา หรือคำพูดของตัวละคร ที่ล้วนแล้วแต่จะส่งผลต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าด้วยระยะเวลาเล่นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้เรายังไม่อยากวิจารณ์เนื้อเรื่องในภาพใหญ่ แต่จากระยะเวลาที่ทดลองเล่น พบว่าเนื้อเรื่องของเกมมีความเข้มข้นและ "เป็นผู้ใหญ่" ในแบบที่น้อยเกมจะกล้าทำ เกมให้เวลากับการพัฒนาตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ เยอะมากจนในบางครั้งเราอาจจะเล่นเกมเป็นชั่วโมงโดยที่คุยกับ NPC อย่างเดียวเลยก็ได้ ซึ่งในแง่นี้ก็อาจจะถูกใจคนที่ชื่นชอบการเล่น RPG อินๆ เหมือนดูซีรี่ส์ยาวๆ มากกว่าคนที่โหยหาประสบการณ์บู๊กระหน่ำดุเดือดเลือดพล่านแบบหนังฮอลลีวู้ด เมื่อเริ่มต้นเกมครั้งแรก สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะได้พบก็คือหน้าจอการเลือก Lifepath หรือภูมิหลังของตัวละคร และเมนูการสร้างตัวละคร โดยเราสามารถกำหนดรูปร่างหน้าตาของตัวละครได้ตั้งแต่เล็บมือยันอวัยวะเพศ แถมยังสามารถผสมคอมโบเพศตัวละครได้ตามใจอีกด้วย ซึ่งแม้จะเรียกเสียงฮือฮาจากหมู่ผู้เล่นที่ติดตามเกมได้พอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆ ระบบสร้างตัวละครของเกมก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร และยังจำกัดกว่าการสร้างตัวละครในเกม RPG อีกหลายๆ เกมด้วยซ้ำ ที่สำคัญ ทางเลือกเหล่านี้กลับไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเกมมากเท่าที่ผู้พัฒนาเคยบอกไว้ และเราแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตาของตัวละครเลยในการเล่นทั่วไป (ยกเว้นเวลาเข้าหน้าต่างของสวมใส่) จึงอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เวลากับการสร้างตัวละครมากนัก โดยทางเลือกที่เห็นว่าน่าจะส่งผลต่อผู้เล่นจริงๆ มีเพียงเสียงพูด (ที่จะสรรพนามทางเพศที่ตัวละครในเกมใช้เรียกเรา) และเล็บมือ (อวัยวะที่เราเห็นได้บ่อยที่สุด) นอกนั้นเอาเข้าจริงอยากเลือกอะไรก็ได้ไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับหน้าตา เมื่ออ้างอิงจากระยะเวลาที่ใช้เล่นเกมมา Lifepath ของตัวละครเองก็ไม่ได้ส่งผลต่อเกมอย่างใหญ่หลวงนัก หลักๆ แล้วก็จะมอบตัวเลือกบทสนทนาประจำสายให้ประปราย แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้เล่นอย่างมีนัยยะสำคัญแต่อย่างใด ไม่ได้มีภารกิจเฉพาะสาย Lifepath หรือมีความสามารถหรือเหตุการณ์ใดๆ เพิ่มขึ้นมานอกจากช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกของเกม เสมือนเป็นเพียง "สีสัน" อีกระดับหนึ่งมากกว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเนื้อเรื่อง เช่นผู้เขียนที่เลือกเล่นเป็นตัวละคร Corpo มักจะทำให้สามารถเลือกตัวเลือกบทสนทนาที่เป็นลักษณะ "รู้ทัน" กลโกงของเหล่าตัวละคร NPC ที่เป็นสาย Corpo เช่นเดียวกับเรา หรือช่วยให้เราตีสนิท NPC สายนี้ได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าถ้าไม่มีทางเลือกเหล่านี้ก็อาจจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปอีกแบบ แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราก็ยังสามารถพบกับผลลัพธ์แบบเดียวกันได้แม้ไม่ได้เลือก Lifepath นั้นมาก็ตาม คนที่คาดหวังว่าการเล่นเกม 3 รอบ 3 Lifepath จะได้ประสบการณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงอาจต้องปรับความคาดหวังกันซักนิด ทางเลือกที่ส่งผลสำคัญจริงๆ มักจะเกิดขึ้นในบทสนทนาระหว่างภารกิจ ที่อาจจะส่งผลสำคัญต่อเกมจริงๆ เช่นบางตัวเลือกอาจจะทำให้เราเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศัตรูกลุ่มใหญ่ได้ หรืออาจจะถึงขนาดเปลี่ยนเป้าหมายของภารกิจไปเลยก็ยังได้ แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนจากระยะเวลาที่ได้เล่นคือทางเลือกเหล่านี้จะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเกมแค่ไหน เช่นถ้าในภารกิจหนึ่งผู้เขียนเลือกเข้าข้างฝ่าย A เพื่อสู้กับฝ่าย B มันจะส่งผลเป็นวงกว้างต่อไปอย่างไร จะมีคนของฝ่าย B มาตามล้างแค้นไหม หรือเนื้อเรื่องหลักจะเปลี่ยนไปไหม ยังเป็นสิ่งที่ยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ กล่าวโดยสรุป แม้ว่าเราจะพอฝันธงได้ระดับหนึ่งแล้วว่าทางเลือกทั้งหลายที่เราได้เลือกในช่วงต้นเกมจะไม่ได้ส่งผลต่อเกมที่เหลือขนาดนั้น แต่สิ่งที่ยังตอบลำบากคือเรื่องผลกระทบของทางเลือกบทสนทนาต่อเนื้อเรื่อง ซึ่งน่าจะต้องดูกันต่อไปอีกว่าจะส่งผลมากเท่าที่ผู้พัฒนาเคยคุยไว้แค่ไหน แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพของเนื้อเรื่องและบทเท่าที่เล่นมา ก็ต้องบอกว่าเกมให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนเข้มข้นๆ เรื่องหนึ่งอยู่ และเพิ่งจะเข้าสู่ช่วงน่าตื่นเต้นจริงๆ เท่านั้นเอง แถม: สำหรับคนที่อ่านรีวิวนี้ก่อนเกมวางจำหน่าย อยากแนะนำให้ได้ไปศึกษาเนื้อเรื่องและตัวละครจากเกมตั้งโต๊ะ Cyberpunk 2020 ให้ดีๆ เพราะเนื้อเรื่องของเกมจะอ้างอิงถึงตัวละครและเหตุการณ์เหล่านี้อย่างมีนัยยะสำคัญ จึงควรลองหาอ่านซะหน่อยเพื่อกันงง และเพื่อให้เข้าใจถึง "น้ำหนัก" หรือ "ความสำคัญ" ของเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องต่อโลกของเกม ก็บอกแล้วว่าเป็น RPG ไงเล่า! ในแง่ของความเป็น RPG เกม CP2077 จะแบ่งการพัฒนาตัวละครออกเป็นสองด้านหลักๆ คือเลเวลของตัวละคร ซึ่งจะกำหนดค่า Stat และความสามารถ Perk ที่เราสามารถเลือกอัปเกรดได้ และระดับ Street Cred ซึ่งจะปลดล๊อคไอเทมและ Cyberware ที่เราสามารถซื้อได้นั่นเอง โดยทั้งสองมักจะพัฒนาไปพร้อมๆ กันขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้เล่น (ไม่ค่อยชัดเจนนักว่าอะไรเพิ่ม Level เป็นหลัก และอะไรเพิ่ม Street Cred เป็นหลัก) สำหรับค่า Level ทุกครั้งที่เพิ่มขึ้น เราจะได้รับแต้ม Stat และ Perk มาอย่างละหนึ่งแต้ม โดยค่า Stat จะมีทั้งหมด 5 ค่า (Body, Reflexes, Intelligence, Tech, Cool) ซึ่งจะให้ผลไม่เหมือนกัน Stat หนึ่งอาจเพิ่มพลังชีวิตและการโจมตีระยะประชิด ในขณะที่อีก Stat ลดเวลาในการเติมกระสุนปืนเป็นต้น นอกจากนี้ ในแต่ละ Stat ยังจะมีสาย Perk อีกถึง Stat ละ 2-3 สาย เปรียบเสมือนความสามารถติดตัวที่ช่วยเสริมสายการเล่นของเรา เช่นทำให้ปืนไรเฟิลส่ายน้อยลง หรือทำให้ชักปืนลูกซองออกมาได้เร็วขึ้น ยิ่งเราอัปค่า Stat ที่เกี่ยวข้องกับสาย Perk นั้นๆ ก็จะยิ่งปลดล๊อค Perk ในสายนั้นๆ ให้อัปได้เยอะขึ้น อีกมิติหนึ่งที่น่าสนใจคือการที่เราสามารถพัฒนาสาย Perk แยกกับการอัป Stat ได้ด้วย ตราบใดที่เราใช้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับสายนั้นบ่อยๆ เช่นเราอาจจะไม่ได้อัป Stat Intelligence ที่ช่วยพัฒนาความสามารถในการแฮ๊ค แต่ตราบใดที่เราแฮ๊คสิ่งของบ่อยๆ เราก็จะได้ค่าความชำนาญในการแฮ๊คเพิ่มขึ้นจนปลดแต้ม Perk หรือโบนัสความสามารถติดตัวที่เกี่ยวข้องกับการแฮ๊คได้อีกด้วย ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการพัฒนาตัวละครตามสายที่เล่นจริงๆ มากกว่าแค่การเลือกอัป Perk เพียงอย่างเดียว ถือเป็นระบบที่น่าสนใจ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเองกำลัง "ก้าวหน้า" อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังคงขึ้นอยู่กับการเลือกอัปค่า Stat เป็นสำคัญ เพราะต่อให้มีแต้ม Perk มากมาย แต่ถ้าไม่ได้ปลดล๊อคตัว Perk ด้วยการอัปเกรด Stat ก็ใช้ไม่ได้ แถมค่า Stat ทั้งหลายยังสามารถเปิดทางเลือกบทสนทนา ตัวเลือก Cyberware ที่สวมใส่ได้ หรือการกระทำเพิ่มเติมให้เรามากขึ้นอีกด้วย (เช่นถ้าอัปค่า Body สูงๆ จะทำให้พังประตูบางบานเพื่อเปิดเส้นทางผ่านด่านใหม่ๆ ได้) เราจึงควรให้ความสำคัญกับการวางแผนเส้นทางการอัป Stat ให้ดีๆ ไม่งั้นอาจทำให้ตัวละครเกิดช้าได้ในกรณีที่เกลี่ยอัปหลาย Stat พร้อมกัน และที่สำคัญคือผู้เขียนยังไม่พบวิธีการรีเซ็ตค่า Stat หรือ Perk เลยด้วย ซึ่งถ้ามันเลือกแล้วเลือกเลยจริงๆ ก็ยิ่งต้องวางแผนกันให้ดีขึ้นไปอีก การพัฒนาตัวละครเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อาจจะสำคัญยิ่งกว่าฝีมือในการเล่น FPS ของแต่ละคนซะอีก เพราะทุกอย่างในเกมนี้จะอ้างอิงการคำนวนตัวเลขแบบ RPG แทบทั้งหมดโดยไม่สนใจตรรกะของเกมแนวอื่นเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่นตรรกะของเกม FPS ส่วนใหญ่ที่บอกว่าปืนลูกซองต้องแรงกว่าปืนพกแน่ๆ แต่ในเกมนี้ ยิงปืนพกเข้าอกศัตรูก็ยังอาจจะแรงกว่ายัดลูกซองใส่หน้าตราบใดที่เราอัปเกรดความสามารถสายปืนพกมา การทำความเข้าใจระบบพัฒนาตัวละครและความสามารถต่างๆ ของ Perk จึงมีความสำคัญมาก ในขณะที่ค่า Level จะเป็นการพัฒนาความสามารถแบบติดตัวซะเยอะกว่า (มีความสามารถกดใช้ประปราย) Street Cred จะเป็นตัวที่ปลดล๊อคไอเทมที่ช่วยมอบวิธีการเล่นใหม่ๆ ได้จริงๆ เช่นดาบ Mantis Blade ยอดนิยม หรือขากลที่มีไอพ่นทำให้เราสามารถลอยตัวกลางอากาศได้ โดยในช่วง 20 ชั่วโมงแรกของผู้เขียนยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับแง่มุมนี้นักเพราะยังปลดล๊อคไม่ได้ ส่วน Cyberware ช่วงต้นเกมก็ยังไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่ก็เพิ่มความสามารถติดตัวไม่ต่างจาก Perk เท่าไหร่ ถ้าได้ปลดล๊อคหรือทดลองเล่น Cyberware เจ๋งๆ จะลองมาเล่าให้ฟังในอัปเดทต่อๆ ไป ...แต่ก็ใช่ว่าอย่างอื่นจะไม่ดี? เสน่ห์อย่างหนึ่งในการเล่นเกม Cyberpunk 2077 คือแม้ว่าเกมจะยึดมั่นในความเป็น RPG ก่อนเหนืออื่นใด แต่ก็ไม่ได้ละเลยองค์ประกอบเกมเพลย์อื่นๆ ไปเลยแต่อย่างใด และสามารถรักษามาตรฐานของเกม Open World แง่มุมต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน แม้จะไม่ได้เทียบเทียมกับเกมแนวนั้นๆ โดยตรง (กล่าวคือยังไง Call of Duty ก็ทำการยิงปืนได้ดีกว่า หรือ Dishonored ก็ทำการลอบเร้นได้ดีกว่า) แต่ทุกอย่างกลับดีพอในระดับที่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ "แย่" เลยซักอย่าง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่น่าชมสำหรับเกมที่ใหญ่และลึกมากขนาดนี้ การที่ Cyberware และอาวุธเจ๋งๆ ส่วนใหญ่ดูจะถูกกีดกันจากผู้เล่นในช่วงต้นเกม ทำให้การต่อสู้ในเกมช่วงแรกๆ ค่อนข้างรู้สึกธรรมดาไปซะหน่อย เพราะปืนแทบทั้งหมดที่ได้ก็ยังเป็นเพียงปืนกระสุนโลหะทั่วๆ ไป อาวุธระยะประชิดอย่างมีดหรือดาบคาตะนะก็ยังไม่มีความสามารถหรือหน้าตาพิเศษอะไรนัก โดยผู้เขียนเพิ่งจะเริ่มพบปืนชนิด Tech Weapon ที่สามารถชาร์จยิงทะลุกำแพงได้ก็ตอนเล่นเกมมาเกิน 15 ชั่วโมงแล้ว และได้ปืนพก Smart Gun กระบอกแรกมาตอนเกือบ 20 ชั่วโมงพอดี ไม่แน่ใจว่าชนิดของอาวุธที่เก็บได้จากศัตรูจะขึ้นอยู่กับเลเวลของผู้เล่น หรือดูจากว่าเล่นเนื้อเรื่องไปไกลแค่ไหนแล้วหรืออย่างไร แต่ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบกับอาวุธที่มีลูกเล่นแปลกตามากขึ้น ซึ่งก็ทำให้การต่อสู้มีความแปลกใหม่มากขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย ด้วยความที่อาวุธและอุปกรณ์ในช่วงที่ผู้เขียนเล่นมายังค่อนข้างธรรมดาอย่างที่ว่า ทำให้การต่อสู้พลอยรู้สึก "ธรรมดา" ไปด้วยซะอย่างนั้น แม้ว่าความรู้สึกของการยิงปืนในเกมจะดีกว่าเกม RPG แนวเดียวกันที่ผ่านมา แต่กลับรู้สึก "เฉยๆ" คือไม่ได้แย่หรือมีปัญหาอะไรนัก แต่โดยรวมก็ไม่ได้รู้สึกสนุกหรือพิเศษไปกว่าเกม FPS กึ่ง RPG นับสิบๆ เกมที่เคยเล่นมาก่อนแล้ว อีกส่วนอาจจะมาจากเหล่าศัตรูที่พบในเกมตอนนี้ด้วย ที่ส่วนมากยังคงเป็น "คนธรรมดา" อยู่ (คือยังไม่ได้ใส่ Cyberware จนเหนือมนุษย์อะไร) และ A.I. ของศัตรูก็มักมีความไม่สม่ำเสมอ เพราะส่วนใหญ่มักจะค่อนข้างโง่ในการต่อสู้ (เช่นรัวกระสุนใส่พื้น วิ่งวนไปมาอย่างไร้จุดหมาย หรือกระทั่งวิ่งสะดุดศพเพื่อนจนล้ม ซึ่งผู้เขียนเคยเห็นมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง) แต่ครั้นจะพยายามท้าทายตัวเองด้วยการลอบเร้นผ่าน ศัตรูกลับหูตาไวขึ้นมาซะงั้น ทำให้สุดท้ายเรามักจะโดนบังคับให้ต้องต่อสู้จนได้แม้จะไม่อยากทำ ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้เขียนอยากเห็นคืออาวุธระดับสูงที่สามารถมอบความสามารถที่อาวุธอื่นๆ ไม่มีได้ ยกตัวอย่างในช่วงหนึ่งของเกม ผู้เล่นจะเปลี่ยนจากควบคุม V มาควบคุมตัวละครอีกตัวหนึ่งเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งตัวละครนี้จะมาพร้อมกับปืนพกประจำตัวที่นอกจากจะยิงแรงเท่าปืนสไนเปอร์แล้ว ยังยิงทะลุกำแพงได้ (เพราะเป็นอาวุธ Tech Weapon) และเมื่อกดโจมตีระยะประชิด แทนที่จะใช้ด้ามปืนฟาดศัตรูเหมือนปืนพกทั่วไป ปืนกระบอกนี้จะปล่อยไฟออกมารอบตัวผู้ใช้เพื่อโจมตีศัตรู เป็นความสามารถที่ผู้เขียนยังไม่พบในปืนกระบอกใดๆ อีกเลยตลอดระยะเวลาที่เล่น และหวังว่าอาวุธระดับสูงๆ ชิ้นอื่นจะสามารถมอบลูกเล่นที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้เช่นกัน ในส่วนของการขับรถ ผู้เขียนต้องออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการขับรถในเกมเป็นการส่วนตัว จึงไม่ได้รู้สึกประทับใจหรือให้ความสนใจกับการขับรถในเกมเป็นพิเศษ แต่ถ้าจะให้เปรียบความรู้สึกในการขับรถ อาจจะควบคุมยากกว่าในเกมอย่าง GTA V นิดหน่อย โดยเฉพาะในจังหวะเข้าโค้งที่รถหมุนแทบจะทุกครั้ง แต่ก็ยังดีกว่าที่พบได้ในเกมอย่าง Watch Dogs: Legion มากมายนัก อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญเวลาต้องขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ซึ่งสำหรับผู้เขียนถือเป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของการขับรถในเกมได้ประมาณหนึ่ง ถ้าจะมีระบบหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึก "ไม่ชอบ" ไปแล้วคงเป็นระบบการแฮ๊คกิ้ง ที่ในขณะนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยมีผลอะไร แถมยังมีตัวเลือกจำกัดมาก โดยระบบแฮ๊คในเกมนี้จะมีความคล้ายคลึงกับระบบเวทย์มนตร์ในเกม RPG ทั่วไป เราจะต้องสวมใส่โปรแกรมแฮ๊คที่ต้องการในหน้าของสวมใส่ซะก่อนจึงจะใช้ได้ แต่ละโปรแกรมจะใช้หน่วย RAM (เปรียบกับ MP) ไม่เท่ากัน บางโปรแกรมสามารถสร้างความเสียหายได้โดยตรง ในขณะที่บางโปรแกรมอาจก่อกวนศัตรูในรุปแบบต่างๆ เช่นทำให้ตาบอดชั่วขณะ หรือลบความทรงจำระยะสั้น (ให้ศัตรูที่ตามหาเราอยู่เลิกตาม) โดยผู้เขียนพบว่าใช้ยาก และบางครั้งก็เหมือนจะติดบ้างไม่ติดบ้าง จึงอาจยังไม่สามารถให้คำวิจารณ์ที่ชัดเจนนักเพราะไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้อัปสายนี้มาหรือเป็นบั๊ค แต่โดยรวมรู้สึกว่ามันทำอะไรได้น้อยกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ทั้งหมดทั้งมวลนั้น คงต้องบอกว่าใน 20 ชั่วโมงที่ใช้ไปกับเกม เกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ยังไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกประทับใจหรือน่าจดจำเป็นพิเศษ จากอาวุธที่ยังค่อนข้างธรรมดา และศัตรูที่ไม่ได้มีความพิเศษไปกว่าที่พบในเกมทั่วไป แต่ในช่วงที่เล่นอยู่นี้ก็เริ่มเห็นอาวุธแปลกๆ โผล่มาให้เก็บบ้างแล้ว หวังว่าจะยิ่งพัฒนาไปเรื่อยๆ เมื่อเล่นเกมต่อไป นิยามใหม่ของความเป็น "Open World" เมื่อพูดถึงเกม Open World สิ่งหนึ่งที่ผู้พัฒนามักจะกล่าวถึงคือเรื่องของ "Immersion" หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยบ้านๆ ก็คือความอินนั่นแหละ โดยเกม Open World ระดับแนวหน้าแทบทุกเกมล้วนสามารถสร้างความรู้สึกอินไปกับโลกและเรื่องราวของเกมได้ผ่านการสร้างบรรยากาศและการออกแบบฉากที่สื่อถึง "ประวัติศาสตร์" หรือ "วิถีชีวิต" ของผู้ที่อาศัยในโลกนั้นๆ ซึ่งในแง่นี้อาจบอกได้ว่า Cyberpunk 2077 ได้วางมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบโลก Open World ไปแล้วเรียบร้อย แม้ผู้เขียนจะยังไม่มีโอกาสได้สำรวจทุกเขตในเมือง แต่แค่ในเขตที่ได้ลองสำรวจดูก็บอกได้แล้วว่าเมือง Night City ของเกมอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่ช่วยเล่าความเป็นไปของชีวิตในเมืองเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆณษาสีสันฉูดฉาดตามที่เชิญชวนให้คนตัดอวัยวะตัวเองทิ้งเพื่อเปลี่ยนถ่ายอวัยวะจักรกลที่สื่อถึงความธรรมดาของการปรับแต่งร่างกาย ไปจนถึงรายการทีวีและวิทยุที่พูดถึงโศกฆนาตกรรมในเมืองพร้อมประกาศยอดผู้เสียชีวิตประจำวันอย่างอารมณ์ดีราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวัน ทุกสิ่งทุกอย่างในเกม Cyberpunk 2077 ให้ความรู้สึกว่าถูกออกแบบและจัดวางมาอย่างตั้งใจ เพื่อให้ Night City สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองไปสู่ผู้เล่นได้ตลอดเวลาผ่านการเล่นเกมไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับเกมในขณะนี้ สำหรับการรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกมบนเครื่อง PC ที่มาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 2060 / 16GB RAM และสามารถเล่นเกมที่การตั้งค่า Preset Ray Tracing - Medium (1080p) ได้ด้วยเฟรมเรตราวๆ 40-45 FPS และสามารถดันถึง Ray Tracing - Ultra ได้โดยที่เฟรมเรตเหลือราวๆ 30 FPS ซึ่งถือว่าไม่แย่เลยเมื่อเทียบกับระดับรายละเอียดที่ได้ โดยเฉพาะในแง่ของ Texture หรือพื้นผิวต่างๆ ที่ดูสมจริงมาก และช่วยทำให้เกมรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น แถมต้องไม่ลืมว่าเกมฉบับรีวิวนี้เป็นเกมตัวเต็มที่พ่วงซอฟต์แวร์ Denuvo Anti-Tampering มาด้วย ซึ่งทางผู้พัฒนาเองแจ้งว่าจะทำให้เฟรมเรตลดลงราว 10-15 FPS อยู่แล้ว จึงยิ่งเชื่อได้ว่าเกมน่าจะทำงานบนการ์ดจอรุ่นเก่ากว่านี้ได้ไม่มีปัญหานัก (ปรับ Medium-High) เผลอๆ อาจจะดีกว่าที่แจ้งเอาไว้ใน Spec Sheet ที่ CDPR เคยปล่อยออกมาเองด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าได้ Day One Patch ช่วยอีก คงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเล่นเกมไม่ได้ตราบใดที่เครื่องถึง Spec ขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้จะบอกว่าเกมไร้ที่ติไปซะหมด เพราะด้วยขนาดและความละเอียดระดับนี้ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีบั๊คติดมาบ้างไม่มากก็น้อย ข้อดีคือบั๊คในเกม CP2077 ที่พบส่วนใหญ่มักจะเป็นบั๊คตลกๆ เช่นบั๊คที่ทำให้อาวุธของศัตรูที่ตายแล้วค้างอยู่กลางอากาศเหนือศพพวกเขา (ซึ่งเอาจริงๆ เป็นบั๊คที่แอบมีประโยชน์) หรือบั๊คด้านกราฟิกเล็กน้อย เช่นครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนขับมอเตอร์ไซค์ชนถังขยะจนมอเตอร์ไซค์ทะลุลงไปในพื้นและติดอยู่อย่างนั้น หรือบางครั้งเดินๆ อยู่ก็จะเห็น NPC ยืนท่าตัว T กลางถนน ซึ่งทั้งหมดเป็นบั๊คเล็กๆ ที่ชวนให้ขำกับตัวเองมากกว่าจะทำให้เสียประสบการณ์เล่นเกม ผู้เขียนเจอบั๊คที่รุนแรงเพียงครั้งเดียวเมื่อประตูที่ควรเปิดตามเนื้อเรื่องดันไม่ยอมเปิด จนทำให้ดำเนินเรื่องต่อไม่ได้ แต่พอโหลดเกมกลับมาลองใหม่ก็ผ่านได้ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ เกมยังมักจะมีปัญหาในด้านการนำทาง ที่มักไม่สามารถรับมือกับความต่างระดับของเมือง Night City เอง และมักมีปัญหาในการคำนวนเส้นทางไปสู่พื้นที่ต่างระดับจนผู้เขียนถึงกับ "หลงทาง" มาแล้ว แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเราจะสามารถจดจำถนนหนทางของเมืองได้โดยธรรมชาติจากจุดสังเกติในฉาก เหมือนกับการเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในชีวิตจริงทุกวัน ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อดีของฉากในเกม แม้ระบบนำทางจะตามไม่ค่อยทันก็ตาม ซับไทยร่วงหรือรอด?! ถ้าให้พูดตามตรง แม้จะเห็นใจทีมงานแปลซับและเมนูภาษาไทยที่ต้องแปลข้อความเยอะมากขนาดในเกม Cyberpunk 2077 แต่ต้องเรียนตามตรงว่าคุณภาพของซับและเมนูยังปรับปรุงได้อีกเยอะมากๆ ผู้เขียนพบว่าซับโดยรวมแม้จะสื่อความหมายได้ถูกต้องในระดับหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถสื่ออามรมณ์ของเกมได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือหน้าเมนูหลายส่วนที่มีความไม่สม่ำเสมอ แปลคำเดียวกันออกมาหลายแบบ หรือกระทั่งแปลตกความหมายของคำบรรยาย Perk ไปเลยก็มี ตัวอย่างหนึ่งที่พอนึกออก (เพราะเปิดเมนูเล่นได้แปบเดียวต้องเปลี่ยนกลับเป็นภาษาอังกฤษเพราะอ่านไม่เข้าใจ) คือการที่หน้าเมนูเดี๋ยวก็แปลคำว่า Light Machine Gun เป็นคำว่าปืนกลเบาบ้าง ปืนกลมือบ้าง หรือคำว่า Recoil บางครั้งก็แปลว่าการส่าย บางครั้งก็แปลว่าการถีบ ซึ่งทั้งหมดมันทำให้สับสนเวลาพยายามทำความเข้าใจระบบ Perk และมั่นใจได้ว่าน่าจะรวมไปถึงคำบรรยายไอเทมหลายๆ ชิ้นด้วย จริงๆ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ซับจะไม่สามารถคงอารมณ์ของเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด ด้วยเนื้อหาที่ไม่น่าจะถูกใจกองเซ็นเซอร์ของบ้านเรา แต่อย่างน้อยๆ ทีมงานซับและเมนูน่าจะตรวจทานให้การแปลคำมันมีความสม่ำเสมอมากกว่านี้หน่อย เพื่อไม่ให้ดูเหมือนเป็นงานเผามากขนาดนี้ หวังว่าใน Day One Patch จะมีการปรับแก้ไขบ้างไม่มากก็น้อย เพราะในสภาพปัจจุบันอยากจะแนะนำให้เปิดเฉพาะจำเป็น ส่วนใครที่พออ่าน/ฟังอังกฤษได้บ้างก็อยู่กับภาษาอังกฤษน่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า สรุป: ยังไม่ประทับใจมากเป็นพิเศษ เนื้อเรื่องเพิ่งเริ่มเข้มข้นหลังจากเล่นไปแล้ว 20 ชั่วโมง / ต้องลองดูต่อไปก่อนว่าเกมเพลย์ระดับสูงๆ จะน่าสนใจขึ้นกว่าช่วงแรกหรือไม่ / กราฟิกไม่ได้สวยที่สุด แต่มีรายละเอียดหนาตาที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แล้วพบกับความเห็นฉบับอัปเดทได้ในเวลา 22.00 ของทุกวัน จนถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ *เนื่องจากความขัดข้องทางเทคนิค ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเนื้อหาเข้าไปท้ายบทความเดิมได้ สามารถหาอ่านบทความอัปเดทความเห็นได้ ที่นี่
07 Dec 2020
Cyberpunk 2077 โชว์โหมดถ่ายรูปแบบ Full Option ในวิดีโอใหม่!
มันคงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าหากว่าเกมฟอร์มยักษ์จะมาพร้อมกับโหมดถ่ายรูปให้ผู้เล่นได้แคปภาพกันอย่างสนุกสนาน พร้อมเอาไปอวดในโลก Social Media ซึ่ง Cyberpunk 2077 ที่พัฒนามานานกว่า 8 ปี เองก็เช่นกัน โดยโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ต้องบอกเลยว่า เปิดให้เราสามารถปรับแต่งพร้อมใส่ Filter ได้มากมายหลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ! CD Projekt Red ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์โหมดถ่ายรูปของเกมนี้ออกมา จุดที่น่าสนใจก็คือโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ จะมี Option ให้เราปรับเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast, Filtter, ท่าโพสต์ของ V, องศาที่ยืน ฯลฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากวิดีโอแล้ว คิดว่าการถ่ายรูปมาอวดกันในเกมนี้จะต้องสนุกมากๆ อย่างแน่นอนครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
03 Dec 2020
Cyberpunk 2077 จะโอนเซฟไปเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ได้!
พฤศจิกายน กำลังจะจบลงแล้ว ซึ่งมันหมายความว่า Cyberpunk 2077 ก็ใกล้จะวางจำหน่ายแล้วเช่นกัน โดยเชื่อว่าตอนนี้หลายคนกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อเกมนี้บนเครื่องไหนดี ซึ่งสำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ PS4 หรือ PS5 ดี ขอให้รู้ไว้ว่าคุณซื้อเครื่องไหนก็สามารถนำไปเล่นต่อบนอีกเครื่องได้อย่างไม่มีปัญหาครับ! CD Projekt Red ได้อธิบายว่าเกมเมอร์สามารถโอนไฟล์เซฟจาก PS4 ไป PS5 ได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านระบบ Cloud ของ PS Plus, ต่อสายแลนระหว่างเครื่องด้วยกัน, ผ่าน Wifi หรือ External Harddisk ส่วนสำหรับ Xbox One ไปXbox Series X ผู้เล่นเพียงแค่ต้องออนไลน์อยู่เพื่ออัปโหลดไฟล์เกมขึ้น Cloud เท่านั้น หรือจะโอนผ่านสัญญาณ Network เดียวกันก็ได้ครับ! ก่อนหน้านี้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro ออกมาแล้ว ซึ่งคิดว่าภาพที่ได้ก็ไม่แย่ครับ ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่าต่อให้หาเครื่อง PS5 ไม่ได้ การจะซื้อบนเครื่อง PS4 มาเล่นกันมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายครับ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
30 Nov 2020
Cyberpunk 2077: ความเห็นเพิ่มเติมจากสื่อที่ลองเล่น ตอบคำถามสุดร้อนแรงจากผู้เล่น 11 ข้อ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ได้ออกอากาศรายการ Night City Wire #5 จนจบ ก็มีสื่อมวลชนจากต่างประเทศหลายๆ สำนักที่เริ่มตีพิมพ์บทความพรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ที่บอกเล่าประสบการณ์และความรู้สึกของสื่อมวลชนเหล่านี้ หลังจากที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมกันไปถึงคนละ 16 ชั่วโมงเต็ม หนึ่งในสื่อที่ออกมาบรรยายความรู้สึกดังกล่าวก็คือเว็บข่าวเกมชื่อดัง IGN โดยแม้ว่าในบทความดังกล่าวจะกล่าวถึงเกมไปแล้วในหลายแง่มุม (อ่านสรุปความเห็นสื่อมวลชนได้ที่ > ลิงค์) แต่ก็ยังมีประเด็นร้อนแรงมากมายที่ผู้เล่นอยากจะได้คำตอบ แต่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความของเว็บ เพื่อตอบคำถามคาใจของเกมเมอร์ ผู้สื่อข่าวที่ได้ทดลองเล่นเกมคุณ Tom Marks จึงได้ปล่อยคลิปวิดีโอตอบคำถามสุดฮ๊อตจากฝั่งผู้เล่นมากถึง 11 ข้อด้วยกัน จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้าง ไปอ่านบทสรุปของ GameFever ได้เลย! การขับรถรู้สึกอย่างไร? สำหรับประเด็นแรกที่พูดถึงคือเรื่องของการขับรถ โดยผู้เล่นหลายคนตั้งคำถามถึงความรู้สึกของการขับรถในเกมว่าทำออกมาได้ดีแค่ไหน คุณ Tom กล่าวว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าการขับรถในเกมมีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ คือไม่ได้จะบอกว่าไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเกมขับรถตรงๆ คุณ Tom กล่าวว่าเขาชอบรายละเอียดภายในของรถแต่ละคันมาก เพราะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างรถแต่ละรุ่น ในแง่ของความเร็ว คุณ Tom กล่าวว่ารถที่เขาได้ขับในช่วงต้นๆ ของเกมนั้นค่อนข้างอืดอาดมาก แต่พอเล่นไปซักพัก เขาก็มีโอกาสขโมยรุสปอร์ตราคาแพงมาใช้ และทำให้การขับรถรู้สึกเร็วขึ้นเยอะ คุณ Tom บอกว่าเขาชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนตร์ เพราะมันมีความคล่องตัวสูงกว่า ทำให้สามารถขับรถซอกแซกตามถนนหนทางของเมือง Night City ได้ดีกว่า  ถนนในเกมจะโล่งๆ ร้างๆ เหมือนที่เห็นในตัวอย่างไหม? จากตัวอย่างเกมเพลย์หลายๆ คลิปที่ปล่อยออกมา มีฉากหลายฉากที่แสดงให้เห็นถนนของเมือง Night City ที่แลดูโล่งๆ ไม่ค่อยมี NPC หนาตาเหมือนในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแรกๆ ทำให้ผู้เล่นหลายคนเป็นห่วงว่าเมืองของเกมตัวเต็มจะร้างแบบเดียวกันไหม? คุณ Tom กล่าวว่าเขารู้สึกว่าความรู้สึก "ร้างๆ โล่งๆ" ที่ว่านี่น่าจะเป็นเหตุมาจากคลิปตัวอย่างซะเองมากกว่าตัวเกม เพราะจากที่เขาเล่นมา เขาบอกว่าแม้จะมีบางพื้นที่ในเมือง (เช่นบริเวณชานเมืองหรือเขต Badlands) อาจจะไม่ค่อยมีคนมาก แต่ในเขตกลางเมือง หรือตามสถานที่อย่างตลาดหรือย่านการค้า ก็ยังมี NPC เดินกันขวักไขว่ไปหมดแน่นอน คุณ Tom ก็กล่าวด้วยว่าแต่ละเขตในเกมจะมีตัวตนที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้คุณ Tom ไม่ได้รู้สึกขัดที่เกมบางเขตไม่ได้มีผู้คน ทั้งนี้ คุณ Tom ก็มีข้อตำหนิเล็กน้อย โดยเขาบอกว่าแม้ในบางฉากจะมีผู้คนและร้านค้ามากมาย แต่มักจะมีเพียงส่วนน้อยที่ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปปฏิสัมพันธ์ด้วยได้จริงๆ และส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนเพียงของประกอบฉากเท่านั้น ซึ่งคุณ Tom บอกว่าแอบรู้สึกผิดหวังกับจุดนี้ แต่ก็คงไม่ถึงกับใช้คำว่าโลกของเกมมัน "ร้าง" ไปเลยเช่นกัน มีอาคารที่เราสามารถเข้าไปสำรวจได้มากน้อยแค่ไหน? สำหรับคำถามนี้ คุณ Tom ตอบตรงๆ เลยว่ามีอยู่ "ไม่มาก" กระทั่งอาคารที่เราสามารถเข้าไปได้ (เช่นตึกอพาร์ตเมนต์ของ V) ก็ใช่ว่าเราจะสามารถสำรวจอาคารทั้งอาคารได้อย่างอิสระ โดยในตัวอย่างของตึกอพาร์ตเมนต์ เขาบอกว่าเราจะสามารถเลือกสำรวจได้จริงๆ เพียง 2-3 ห้องเท่านั้น แต่คุณ Tom กล่าวว่าเมื่อได้เล่นจริงๆ เขาก็ค้นพบว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับจุดนี้เท่าไหร่ เพราะ 1. เขารู้สึกว่าผู้เล่นไม่น่าจะมีเหตุผลให้ต้องเข้าไปในอาคารส่วนใหญ่ๆ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Night City และ 2. เขาพบว่าอาคารหลายอาคารที่เขาเข้าไปไม่ได้ มักจะมีประตูที่ถูกล๊อคเอาไว้ ทำให้เขาเชื่อว่าเราจะสามารถเข้าไปในตึกเหล่านี้จนได้ในภายหลัง โดยอาจจะต้องเข้าไปเพื่อทำภารกิจเฉพาะ กล่าวโดยสรุป คุณ Tom บอกว่าแม้ว่าผู้เล่นจะ "ไม่สามารถเดินเข้าตึกไหนก็ได้" อย่างอิสระ แต่ภารกิจทั้งหลายในเกมก็อาจจะ "ส่งผู้เล่นเข้าไปในตึกไหนก็ได้" ทุกเมื่อเหมือนกัน ซึ่งแม้จะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แต่ในทางปฏิบัติเขาพบว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับการเล่น และทำให้เกมมีโอกาสพาผู้เล่นเข้าไปสำรวจมุมใหม่ๆ ในเขตเดิมๆ ได้ตลอด การต่อสู้ระยะประชิดเป็นอย่างไร? คุณ Tom กล่าวว่าสำหรับเขา การต่อสู้ระยะประชิดในเกมอยู่ในระดับที่ "พอใช้" เท่านั้น แต่เขาก็รีบเสริมว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาก็ค่อนข้าง "เฉยๆ" กับระบบต่อสู้โดยรวมอยู่แล้วเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ ซึ่งการต่อสู้ระยะประชิดก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้จะบอกว่าการต่อสู้ระยะประชิด (หรือการต่อสู้โดยรวม) จะไม่สนุก แต่อาจจะเป็นจุดที่โดดเด่นน้อยกว่าจุดอื่นๆ เขาได้ค้นพบดาบคาตะนะเล่มหนึ่งระหว่างที่เล่น และเขาสนุกกับการใช้มันมากๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาสามารถผนวกระบบสกิลและระบบการปรับแต่งร่างกาขเข้าไปเพื่อเอื้อต่อการเล่นดาบโดยตรงมากขึ้น ระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมค่อนข้างเรียบง่าย มีการโจมตีหนัก-เบา / มีการปัดป้องการโจมตีศัตรูด้วยการกดป้องกันให้ถูกจังหวะ / ฯลฯ เกมจะมีกิจกรรมการต่อสู้มือเปล่าให้ทำเต็มไปหมด แม้เขาจะไม่ได้มีโอกาสลองเล่นกับระบบการต่อสู้ประชิดมากนัก และคุณ Tom ก็ไม่ได้รู้สึกว่าระบบการต่อสู้ระยะประชิดของเกมในขณะนี้ "ลึก" พอจะทำให้เขาเลือกเล่นตัวละครสายประชิดไปเลย แต่เขาก็คิดว่าระบบต่อสู้ของเกมถือเป็นรากฐานที่ดี ที่สามารถต่อยอดไปได้อีกมากเมื่อเล่นเกมไปเรื่อยๆ ทางเลือก Lifepath ของผู้เล่นส่งผลต่อเกมมากไหม? คุณ Tom บอกว่าการเลือก Lifepath เป็นตัวเลือกที่ส่งผลใหญ่หลวงต่อเกมแน่นอน โดยเขายกตัวอย่างว่าเขาเองเลือกเล่นเป็น Corpo ทำให้ได้รับตัวเลือกบทสนทนามากขึ้นเมื่อคุยกับ NPC ชนิดนักธุรกิจ ทำให้สามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่คิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ต้องคิดอะไรมาก อย่างน้อยก็จากระยะเวลา 16 ชั่วโมงที่เขาได้เล่นเกม แต่ไม่รู้ว่าถ้าเล่นไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีผลมาขึ้นไหม ในขณะเดียวกัน คุณ Tom ยอมรับว่าถ้าเขาเลือกเล่น Lifepath อื่นๆ อาจจะทำให้เหตุการณ์หลายอย่างที่เขาพบดำเนินไปอีกแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่ใหญ่หลวงมากจนทำให้แต่ละ Lifepath แตกต่างกันราวกับเป็นคนละเกมไปเลยเช่นกัน การปรับแต่งหน้าตาหรือเสื้อผ้าของตัวละครจะส่งผลต่อเกมหรือไม่/แค่ไหน? คำตอบคือไม่มาก (หรือไม่เลย) โดยคุณ Tom กล่าวว่าเขามักจะบอกกับเพื่อนๆ สื่อมวลชนเสมอว่าให้ใส่ใจเลือกเล็บของตัวละครให้ดีๆ เพราะมันคืออวัยวะที่คุณจะได้เห็นบ่อยที่สุดแล้วในเกม แม้จะได้เห็นหน้าตาตัวละครทุกครั้งที่เข้าเมนูเพื่อสวมใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ แต่เกมก็ไม่มีคัตซีนมุมมองบุคคลที่ 3 ให้เราเห็นตัวละครของเราเดินไปมาแต่อย่างใด จึงอาจจะบอกได้ว่ารูปลักษณ์ของตัวละครจะไม่ได้มีผลต่อเกมมากขนาดนั้น ระบบคลาสในเกมเป็นอย่างไร? สามารถเลือกผสมความสามารถข้ามสายได้มากน้อยแค่ไหน? ระบบ Perk และ Skill จะเป็นการเพิ่มตัวเลขเป็น % เฉยๆ หรือจะสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่นไปเลย? คุณ Tom ยอมรับว่าด้วยระยะเวลาอันจำกัดที่เขาได้ทดสอบเกม ทำให้เขาไม่ได้ใช้เวลาไปกับการสำรวจระบบสกิลอย่างลึกซึ้งนัก เขาอธิบายว่าเกมนี้จะไม่ได้มีระบบคลาสตายตัวเหมือน RPG ทั่วไป แต่จะเน้นการเลือกอัปทักษะหรือสกิลที่ต้องการไปเลย ทำให้เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นมาก นอกจากนี้ เกมยังมีระบบที่จะมอบค่าประสบการณ์ให้กับสกิลหรือความสามารถที่เราใช้บ่อยๆ โดยอัตโนมัติด้วย ในกรณีของคุณ Tom เขาเริ่มเล่นเกมด้วยการเน้นค่าสถานะ Body ที่เน้นความแข็งแรงทนทานของร่างกายโดยตรง แต่เมื่อเขาเล่นไปเรื่อยๆ เขากลับพบเขาใช้สกิล Hacking บ่อยมาก และเห็นว่า Perk สาย0 Hacking ของเขาก็ได้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นไปด้วยแม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจอัปเองก็ตาม ในส่วนของ Perk คุณ Tom ยอมรับว่ามีบางส่วนที่เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลขเป็น % เท่านั้น (เช่นรับความเสียหายน้อยลง 10% เป็นต้น) แต่ก็มี Perk ที่ส่งผลต่อเกมเพลย์โดยตรงเช่นกัน คุณ Tom ยกตัวอย่าง Perk หนึ่งที่อยู่ในหมวดของค่าสถานะ Cool ที่ชื่อว่า Cold Blooded ที่จะมอบบัฟให้ผู้เล่นทุกครั้งที่ฆ่าศัตรูได้ โดยเราสามารถเลือกอัป Perk อื่นๆ ผสมกันเพื่อทำให้บัฟ Cold Blooded แสดงผลเปลี่ยนไปได้ เช่น Perk หนึ่งอาจจะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ อีก Perk อาจเพิ่มความเร็วในการเติมกระสุน โดยแม้จะฟังดูเหมือนเป็นความสามารถติดตัวมากกว่า แต่ก็เป็นการเพิ่ม "วิธีเล่น" หรือ "ระบบใหม่" ที่ไม่มีมาก่อนถ้าคุณไม่ได้อัปมันเช่นกัน ทำไมคุณถึงดูจะไม่ค่อยถูกใจระบบการยิงปืนในเกมเลย? ประเด็นหนึ่งที่คุณ Tom กล่าวถึงในบทความของเขา คือเขาไม่ได้รู้สึกประทับใจกับระบบต่อสู้หรือยิงปืนเป็นพิเศษ คุณ Tom ขยายความว่าในขณะที่เขายังไม่ได้เข้าถึงระบบการพัฒนาตัวละครหรืออาวุธขั้นสูง เขารู้สึกว่าระบบยิงปืนค่อนข้าง "เฉยๆ" เมื่อวัดด้วยมาตรฐานของเกม FPS ทั่วไป ไม่ได้ดีหรือแย่เป็นพิเศษอะไรเลย เขาพบว่าศัตรูในเกมตายค่อนข้างยาก แถมปืนช่วงต้นๆ ยังถีบแรงเป็นม้าจนยิงลำบาก แต่เขาบอกว่าข้อตำหนิในใจเขาค่อยๆ มลายหายไปเมื่อเขาเริ่มเข้าถึงระบบพัฒนาตัวละครทั้งหลายที่กล่าวถึงไป ที่มอบทางเลือกในการเล่นมากขึ้น จนไม่รู้สึกว่าเกมสามารถจำกัดความด้วยมาตรฐานของ FPS ได้อีกต่อไป เขาสรุปว่าเขาคงยังไม่สามารถวิจารณ์ระบบอย่างจริงจังได้ในขณะนี้ และคิดว่าเป็นเรื่องที่แต่ละคนน่าจะต้องลองเล่นเองมากกว่าจึงจะเข้าใจ ระดับความยากของเกมเป็นอย่างไร? เกมจะแบ่งระดับความยากให้เลือกทั้งหมด 4 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Story ที่ปรับเกมให้ง่ายสำหรับคนที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไปจนถึงระดับ Hard และ Very Hard คุณ Tom กล่าวว่าเขาเล่นเกมในระดับปกติหรือ Normal ซึ่งเขาบอกว่ามีจังหวะที่รู้สึกว่าเกมท้าทายเรา และบังคับให้เราต้องใช้สมองในการแก้ปัญหาจริงๆ เกมเปิดช่องให้เราทำผิดพลาดไม่มาก และคุณ Tom บอกว่าเขามักจะกด Quick Save ทุกครั้งก่อนการต่อสู้เพราะรู้ว่าสามารถพลาดพลั้งได้เสมอ ไม่ว่าจะในแง่ของการต่อสู้หรือตัวเลือกบทสนทนาหลังการต่อสู้ แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับภารกิจด้วย เพราะบางภารกิจก็อาจจะพาเราไปยังเขตที่มีศัตรูระดับสูงๆ ในขณะที่บางภารกิจก็อาจจะวนเวียนอยู่แต่ในเขตระดับต่ำ ทำให้มีความหลากหลายในระดับความยากของเกม Pacing ของเกมเป็นอย่างไรถ้าเปรียบเทียบกับ Red Dead Redemption 2? *Pacing หมายถึงจังหวะหรือ "ความเร็ว" ในการดำเนินเรื่อง คุณ Tom ออกตัวก่อนว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบเกม Red Dead Redemption 2 ขนาดนั้น แม้เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเกมที่สุดยอดในแง่ของกราฟิก แต่คุณ Tom ก็รู้สึกว่าเกมมี Pacing ที่ช้ามากเกินไปจนเขาเล่นเกมไม่ค่อยสนุกเลย เขาบอกว่า CP2077 ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเขาแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะบอกว่าเกมมี Pacing ค่อนข้างยืดยาด แต่มันเป็นความยืดยาดแบบ RPG คลาสสิคมากกว่า โดยเขาเปรียบเทียบกับเกมอย่าง Divinity: Original Sin ที่ให้ผู้เล่นใช้เวลาอยู่ในเมืองเริ่มต้นหลายชั่วโมงกว่าจะได้ออกสู่โลกกว้าง ทั้งนี้ เขาไม่ได้จะบอกว่า CP2077 จะช้าขนาดนั้น (เพราะไม่งั้นก็คงช้าไปเหมือนกัน) แต่มันเป็น "ความรู้สึก" แบบเดียวกันมากกว่า กล่าวคือเกมไม่ได้เพ่งไปสนใจฉากแอ๊คชั่นเลือดพล่านสาดกระสุนเพียงอย่างเดียว แต่มักจะให้เวลากับการสร้างโลกหรือตัวละครในมุมเงียบๆ มากกว่า ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะสื่อในบทความ เกมจะมีเนื้อหาที่เปิดให้เล่นซ้ำได้เรื่อยๆ บ้างไหม? หรือว่าเป็นเกมที่มีเนื้อหาจำกัดและเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ก็สามารถทำทุกอย่างจนครบได้? คุณ Tom กล่าวว่าเขาเพิ่งเล่นเกมไปเพียง 16 ชั่วโมง จึงยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้จริงๆ เขาบอกว่าจากที่เขาเล่นมาเอง ยังไม่พบอะไรในลักษณะนั้น แต่ก็ไม่แน่ว่าพอเล่นไปเรื่อยๆ อาจจะมีอยู่ได้เช่นกัน ขอบคุณเนื้อหาดั้งเดิมจาก: IGN
25 Nov 2020
Cyberpunk 2077 เผยสเปคเครื่อง PC ที่ต้องการแบบละเอียดแล้ว!
หนึ่งในข่าวเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ที่ผู้เล่นอยากรู้มากที่สุดคือ ในเรื่องของสเปค PC ที่ต้องใช้สำหรับเล่นเกมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากต้องการเล่นเกมนี้แบบ 4K / 60 FPS ด้วย Ultra Setting ยังไงก็คงต้องมี PC ที่สเปคแรงพอสมควรเลย และก็ได้มีการเผยสเปค PC ที่ต้องการสำหรับการเล่นในความละเอียดต่างๆ รวมถึงคุณภาพกราฟิกในระดับต่างๆ แล้วครับ! ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมาในรูปแบบตาราง โดยดูเหมือนว่าสเปคขั้นต่ำสุดของเกมนี้จะไม่ได้ต้องการ PC ที่แรงอะไรมากมาย แต่ถ้าหากอยากเล่นแบบ 4K / 60 FPS บวกกับเปิด Ray-Tracing ด้วยแล้วละก็ จำเป็นต้องมีการ์ดจอที่แรงพอสมควรเลย สามารถดูสเปคที่ต้องการได้ข้างล่างนี้เลยครับ! Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: VG247
23 Nov 2020
Cyberpunk 2077 จะอัปเดตให้ผู้ใช้งาน AMD เปิด Ray-Tracing ได้ในภายหลัง!
ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวยืนยันว่า Cyberpunk 2077 จะสามารถเปิด Ray-Tracing ได้บนเครื่องที่ใช้การ์ดจอของ Nvidia เท่านั้นในตอนที่วางจำหน่าย มันจึงหมายความว่าผู้เล่นบนเครื่องคอนโซล จะยังไม่สามารถเปิดเทคโนโลยีแสง-เงา ตัวนี้ได้ในวันแรกที่เกมวางขาย ต้องรอหลังจากนั้นสักพักถึงจะสามารถเปิดใช้งาน Ray-Tracing ได้ครับ! มีการยืนยันจากทาง CD Projekt Red อีกครั้งว่าผู้ใช้งานการ์ดจอของ AMD เอง ก็จะสามารถเปิดใช้งาน Ray-Tracing ได้ในภายหลังเช่นกัน โดยตอนนี้ผู้พัฒนากำลังทำงานร่วมกับ AMD และพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้งานได้บนการ์ดจอของทางค่ายแดงเช่นกัน Ray-Tracing เป็นเทคโนโลยีของ Nvidia ซึ่งมันทำให้การ์ดจอของ Nvidia มีการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานระบบดังกล่าวโดยเฉพาะด้วย ไม่ใช่เรื่องถ้าหากจะบอกว่าการ์ดของทางฝั่ง AMD จะยังไม่สามารถใช้งานเทคโนโลยีตัวนี้ได้อย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อมีการยืนยันจากผู้พัฒนาแล้ว คิดว่าหลังจากเกมวางจำหน่ายไม่นานทางการ์ดจอของทางฝั่ง AMD เองก็จะสามารถใช้งาน Ray-Tracing ได้เช่นกันครับ! Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Not for the release but we are working together with AMD to introduce this feature as soon as we can. — Marcin Momot (@Marcin360) November 20, 2020 Credit: GamingBolt
23 Nov 2020
ตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 จะขยับหน้า และปากตามเสียงพากย์ที่ผู้เล่นใช้!
ผู้พัฒนาได้เคยบอกแล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 นั้นจะมีเสียงพากย์ของตัวละครภายในเกมให้ผู้เลือกใช้กว่า 10 ภาษา แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า นอกจากเสียงพากย์แล้ว การขยับของใบหน้ารวมไปจนถึง ลักษณะของการขยับปากตัวละคร ก็มีการทำให้ตรงกับจังหวะการพูดของแต่ละภาษาด้วย! มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากๆ เพราะหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นเวลา เกมหนึ่งเกมมีเสียงพากย์หลายภาษา คือการที่ปากหรือท่าทางของตัวไม่ตรงกับประโยคที่กำลังพูดอยู่ ทาง CD Projekt Red ก็ดูเหมือนจะเข้าใจในส่วนนี้ดี จึงได้มีการใช้เทคโนโลยีของ JALI Research. จนสามารถทำให้การขยับของปากกับหน้าตัวละคร ตรงกำประโยคที่กำลังพูดอยู่ได้ ถ้าเกิดใครไม่เห็นภาพว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน สามารถดูได้ผ่านวิดีโอข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
21 Oct 2020
ผู้พัฒนาเผย "การขโมยรถใน Cyberpunk 2077 ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะทำได้เลย"
ในวิดีโอเกมเพลย์ล่าสุดของ Cyberpunk 2077 ที่ถูกปล่อยออกมาช่วยให้เราเข้าใจเกี่ยวกับระบบรถ ภายในเกมมากขึ้นเป็นอย่างมาก แต่หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจซึ่งเปิดเผยออกมาในวิดีโอเดียวกัน คือการที่ V สามารถขโมยรถที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนของ NPC ได้ (เหมือนกับเล่นเกม GTA) ทำให้หลายคนอาจคิดว่าการมีรถขับในเกมนี้ อาจไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรมากมายนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นครับ! คุณ Miles Tost หนึ่งในผู้พัฒนาส่วนนี้ได้กล่าวว่า "Cyberpunk 2077 เป็นเกม RPG ดังนั้นการจะทำอะไรบางอย่างได้ จะขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวละครด้วย" กล่าวคือการจะขโมยรถแบบเดียวกับที่เราเห็นในวิดีโอได้ ผู้เล่นจำเป็นต้องอัพสกิลที่เกี่ยวข้องเสียก่อน ดังนั้นการขโมยรถแบบเปิดประตูกระชากคนขับลงจากรถ จึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ ก็ทำได้เลย นอกจากนี้รถที่ขโมยมา จะไม่ถือว่าเป็นรถของ V เช่นกัน ซึ่งในเกมนี้เหมือนว่าจะมีระบบที่ให้ผู้เล่นสามารถเรียกรถของตัวเองมาได้ตลอดเวลาด้วย (เหมือนเวลาเรียก Roach ใน The Witcher 3) โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่านี้เป็นข่าวดีครับ เพราะยังไงตัวผมเองไม่อยากให้เกมนี้สามารถเล่นได้ง่ายเกินไป การได้รู้ว่าจะทำอะไรก็ตามในเกมนี้จะเป็นต้องมี ค่าความสามารถถึงจุดเสียก่อนจึงทำให้เกมดูท้าทายขึ้นในหลายๆ ด้านเลยครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC
20 Oct 2020
Cyberpunk 2077 จะเปิดให้ผู้เล่นสับเปลี่ยนอวัยวะเพศด้วย "Cyberware สำหรับเซ๊กส์"
เว็บข่าว The Gamer ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับระบบเควส (Quest Director) ของ CD PROJEKT RED คุณ Mateusz Tomaszkiewicz ที่มีการพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการ "ปรับแต่ง" อวัยวะเพศในเกม Cyberpunk 2077 โดยแม้ว่าข้อมูลที่ว่าเกมจะเปิดให้ผู้เล่นทำแบบนี้ได้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผู้พัฒนาเกมได้พูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบนี้ตรงๆ และทำให้เรา "เห็นภาพ" ตัวเลือกในการปรับแต่งอวัยวะเพศมากขึ้นด้วย ในระหว่างที่ตอบคำถามเกี่ยวกับแก๊ง The Moxes ซึ่งก่อตัวขึ้นจากเหล่าผู้ให้บริการทางเพศในเมือง Night City ที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ คุณ Mateusz ก็ได้อธิบายถึงเหล่าเครื่องปรับแต่งร่างกายที่พวกเขามี รวมไปถึงอวัยวะเพศจักรกลที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะของทั้งชายและหญิงขายบริการเหล่านี้ "แน่นอนว่าเราจะมีอวัยวะเพศจักรกลในเกม ซึ่งจริงๆ แล้วบางอย่างก็มีมาตั้งแต่สมัยบอร์ดเกมต้นตำหรับแล้ว เช่น Cyberware ของผู้หญิง Mrs. Midnight ที่ใช้ใส่แทน "น้องสาว" ของพวกเธอ รวมไปถึงเครื่องจักรที่ช่วยเสริมหน้าอกหน้าใจ หรือของฝั่งเพศชายก็มี Cyberware ชื่อ Mr. Stud ที่เอาไว้ใส่แทนไอ้จ้อนให้ปึ๋งปั๋งทั้งคืน" นอกจากนี้ คุณ Mateusz ยังพูดถึงสถานบริการทางเพศในเมือง Night City ที่ถูกบริหารโดยเหล่าแก๊งที่เรียกว่า "Doll House" (บ้านตุ๊กตา) ซึ่งมีหนุ่มๆ สาวๆ กลางคืนที่ถูกปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำตามความต้องการทุกอย่างของลูกค้าเหล่านั้นได้ แถมยังช่วยลบความทรงจำของเหล่าผู้ให้บริการหลังเสร็จงานด้วย ซึ่งคุณ Mateusz กล่าวว่าเหล่า "Doll House" เหล่านี้ถือเป็นสัญลักษณ์ที่น่าสนใจของความ "บิดเบี้ยว" ที่มาคู่กับธีม Cyberpunk ของเกมด้วย Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้ที่ซื้อเกมผ่านทางคอนโซลจะได้รับเวอร์ชั่นปรับปรุงสำหรับคอนโซล Next-gen (PS5, Xbox Series X) ด้วยในภายหลัง Credit: VG24/7 
21 Sep 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ความสวยงามของ Night City ในโหมด RTX On!
เพิ่งจะมีการเปิดตัวราคาการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia ไปไม่นาน เหมือนเป็นการช่วยกันโฆษณา เมื่อทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอ Footage ตัวใหม่ของเกม Cyberpunk 2077 ในโหมด RTX On โชว์ความสวยงามของเมือง Night City ที่ไม่เคยหลับไหลด้วยแสงสีตระการตา! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวเพียงแค่ 47 วินาที แต่ใน ช่วงเวลาดังกล่าว เรียกได้ว่าโชว์ความสวยงามของเมือง Night City ให้เราเห็นแบบเต็มอิ่มจริงๆ ครับ นอกจากการสะท้อนของแสงที่สมจริง ซึ่งเป็ดจุดขายของ RTX แล้ว ยังมีการโชว์ความสวยงามของ Diffuse Illumination ด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนการ์ดจอ RTX รุ่นใหม่จะเริ่มวางขายปลายเดือนนี้ครับ Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
ผู้เล่นสามารถปรับขนาด กับสีของ Subtitles ได้ในเกม Cyberpunk 2077
เพิ่งจะมีข่าวดีว่าเกมจะมี DLC ฟรีมากมายไปกับเกม Cyberpunk 2077 ล่าจากข้อความใน Twitter ดูเหมือนว่าเราจะสามารุปรับแต่งขนาด กับสีของตัวอีกษร Subtitles ได้อย่างอิสระในเกมด้วย! สำหรับใครที่ปกติจะมีปัญหากับการอ่าน Subtitles ที่เล็กเกินไปหรือสีจางเกินไปไม่ได้ หมดห่วงปัญหานั้นในเกมนี้ได้เลยครับ! ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มี Subtitles เป็นภาษาไทยด้วย ดังนั้นหมดห่วงเรื่องเล่นเกมแล้วไม่เข้าใจเนื้อเรื่องได้เลย อย่างไรก็ตาม สำหรัยบคนที่อยากจะเข้าใจเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเกมมากขึ้นทางทีมงาน GameFever TH ได้ทำบทความสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัท, สงคราม, และแก๊งต่างๆ มาให้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC You’ll be able to adjust those (color / size) — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) August 23, 2020 Credit: VG247
24 Aug 2020
Cyberpunk 2077 เผยระบบที่ช่วยแก้ปัญหา ศัตรูฟองน้ำดูดกระสุนในเกมแนวนี้
ทุกวันนี้มีเกม RPG แนว Shooting มากมายในตลาด โดยเกมแนวนี้ มักจะมีหนึ่งปัญหาที่เหล่าผู้เล่นพูดถึง และคอมเพลนมาตลอด นั้นคือศัตรูที่เราพบในเกมจะมีบางตัวที่อึดถึกทน จนต้องยิงเป็นร้อยๆ นัดถึงจะสามารถฆ่าได้ บางตัววิ้งเข้ามาไล่กระทีบผู้เล่นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ยิ่งเท่าไหร่ก็ไม่ชะงัก, ล้ม หรือบาดเจ็บเลย โดยเฉพาะศัตรูที่เป็นบอส หรือตัวแรร์หายาก มันเหมือนกันว่าเรากำลังยิ่งปืนใส่ฟองน้ำอยู่เลยก็ว่าได้ ซึ่งมันมักจะทำให้ผู้เล่นหัวร้อนไปตามๆ กัน Cyberpunk 2077 เองก็เป็นหนึ่งในเกม RPG แนว Shooting เช่นกัน ซึ่งมันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ประสบการ์ณที่เราจะได้ในเกมนี้จะเหมือนกับเกมอื่นๆ หรือเปล่า และต้องขอบคุณบทสัมภาษณ์ทาง VG247 กับคุณ Pawel Kapala ซึ่งทำให้เรารู้ว่า ผู้พัฒนาได้มีการออกแบบศัตรู รวมถึงระบบ เพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้วครับ Pawel Kapala ได้กล่าวว่า "ภายในเกมนี้ เราได้ทำให้ศัตรูตัวธรรมดาในเกม ไม่ถึกจนมากเกินไป คือกล่าวได้ว่า สามารถฆ่าได้โดยใช้กระสุนเพียงแค่ 4-5 นัดเท่านั้น และได้มีการทำให้ศัตรูทักตัวในเกมนี้ ได้รับผลจากกระสุนไม่รับดาเมจมากถึงจุดหนึ่งด้วย" กล่าวคือพวกบอส หรือศัตรูแรร์ๆ จะติดสตั๊น หรือไม่ก็ชะงัก เมื่อโดนดาเมจจากกระสุนเข้าไปมากๆ นั่นเอง การสู้กับศัตรูในเกมนี้ จึงน่าจะแตกต่างจากเกมแนวนี้อื่นๆ ที่มักทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังยิงฟองน้ำอยู่นั้นเอง อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการทำให้เกมสมดุล ไม่ให้การฆ่าศัตรูนั้นง่ายเกินไปจนเกมไม่มีความท้าทาย ตัวละครของเราเอง ก็จะรับดาเมจมากๆ ไม่ได้เช่นกัน กล่าวคือผู้เล่นเอง ก็จำเป็นต้องหลบเวลาโดนกระสุนสาดมาใส่เช่นกัน ไม่งั้นก็อาจจะตายได้ง่ายๆ ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: VG247
11 Aug 2020
ผู้พัฒนาเผย ระบบต่อสู้ระยะประชิดของ Cyberpunk 2077 ยังไม่สมบูรณ์!
ในที่สุดหลังจากเงียบหายไปหลายอาทิตย์ เราก็ได้เห็นข่าวสารเกี่ยวกับ Cyberpunk 2077 เพิ่มเติมแล้ว เมื่อคืนนี้มีทั้งเกมเพลย์ของอาวุธต่าง, ความแตกต่างของภูมิหลังทั้ง 3 แบบ รวมไปจนถึงเบื้องหลังการทำเพลงของวง Samurai ถูกปล่อยออกมา แต่ถึงแม้ว่าเราจะได้เห็นรายละเอียด รวมไปจนรถึงเกมเพลย์มากมายแล้ว แต่เหมือนว่าระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้จะยังไม่เสร็จดีครับ ในวิดี Tools of Destruction จะสังเกตุได้ว่า เราได้เห็น Footage เกมเพลย์ของการยิงปืนหลายประเภท แต่ในส่วนของเกมเพลย์ อาวุธระยะประชิด เราได้เห็นเพียงแค่ดาบคาตานะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งมันเหมือนกับว่า ผู้พัฒนายังพัฒนาในส่วนนี้ไม่เสร็จจึงไม่สามารถนำมาโชว์ได้ และจากรายงานบทบทสัมภาษณ์กับคุณ Pawel Kapala ซึ่งรับหน้าที่ในการออกแบบเกมเพลย์ จากทาง VG247 เหมือนว่าระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้ยังไม่เสร็จดีจริงๆ ครับ Pawel Kapala ได้กล่าวว่า "มันยังอีกหลายเดือนก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย และตอนนี้ผมก็กำลังทำการพัฒนาระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้อย่างเต็มที่อยู่ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะพัฒนาระบบต่อสู้ระยะประชิดในเกม FPS แต่การพัฒนาก็ยังคงคืบหน้าเรื่อยๆ" ถึงแม้ว่าเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 แต่มันไม่ได้แปลว่าผู้พัฒนาจะมีเวลาพัฒนาเกมจนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2020 เพราะยังไง ตัวเกมจำเป็นต้องถูกเอาลงแผ่น และส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นเส้นตายของการพัฒนาจริงๆ น่าจะเป็นภายในสิ้น เดือนตุลาคม ต้องรอดูต่อไปครับว่าผู้พัฒนาจะสามารถทำเกมออกมาให้เสร็จได้จริงๆ หรือไม่ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
11 Aug 2020
Cyberpunk 2077: เผาเมือง Night City ให้ราบ กับอาวุธใหม่จากวิดีโอ Tools of Destruction
กลับมาอีกครั้งกับรายการไลฟ์สตรีม Night City Wire ตอนที่สองของเกม Cyberpunk 2077 โดยหนึ่งในประเด็นหลักที่ถูกนำมาแสดงในงานครั้งนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอกันอยู่แล้ว นั่นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราจะได้ใช้ในเกมนั่นเอง! จากข้อมูลที่เห็นในเทรลเลอร์ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถแยกประเภทอาวุธในเกมได้ดังนี้: Melee Weapon: อาวุธระยะประชิด เช่นดาบซามูไร Smart Weapon: อาวุธปืนชนิดพิเศษที่มีกระสุนนำวิถี สามารถติดตามศัตรูได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเล็ง Tech Weapon: อาวุธปืนชนิดกระสุนพลังงาน สามารถยิงทะลุกำแพงหรือสิ่งกำบังได้ Power Weapon: อาวุธประเภทกระสุนโลหะธรรมดา แต่คงไว้ซึ่งพลังทำลายล้าง Cyberware: อาวุธประเภทอวัยวะจักรกล เช่นปืนจรวดหรือดาบ Mantis Blade ที่พับเก็บไว้ในแขน Throwables: อาวุธประเภทขว้างปา (ไม่ได้แสดงในตัวอย่าง แต่น่าจะเป็นทำนองมีดบินหรือดาวกระจาย) นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถตกแต่งอาวุธด้วย Mod ชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย โดยผู้พัฒนาได้อธิบายในรายการไลฟ์สตรีมว่าจะสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ Attachment หรือชิ้นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ (เช่นกล้องสไนเปอร์) หรือ Software Mod ที่ทำให้คุณสมบัติของปืนเปลี่ยนไป เช่นทำให้ยิงกระสุนไฟฟ้า หรือทำให้ยิงกระสุนยาสลบเป็นต้น ด้วยความเป็น RPG ของเกม ใน Cyberpunk 2077 จะมีการแบ่งระดับความหายากของอาวุธด้วย ตั้งแต่ Common ไปจนถึง Legendary โดยแน่นอนว่าปืนระดับ Legendary จะเป็นปืนหายากที่มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ผู้พัฒนาก็เตือนว่าใครอยากได้มาครองอาจต้องคิดหนัก เพราะเราอาจจะต้องฆ่า NPC ที่เราชอบก่อนถึงจะเอาอาวุธของพวกเขามาได้ สุดท้ายนี้ ผู้พัฒนาบอกด้วยว่าเกมจะมีระบบความชำนาญอาวุธ ที่จะทำให้ยิ่งใช้อาวุธประเภทไหน ตัวละครก็จะยิ่งใช้อาวุธประเภทนั้นคล่องมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในด้านเกมเพลย์ แต่จะทำให้อนิเมชั่นของตัวละครในระหว่างการใช้อาวุธเปลี่ยนไปอีกด้วย เช่นวิธีการเติมกระสุน หรือวิธีการชักปืนออกมาเป็นต้น นับว่าให้ความสำคัญกับระบบ RPG ในเกมมากๆ ภายในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงระบบ Life Path ของเกม ที่จะกำหนดภูมิหลังของตัวละคร V ของผู้เล่นแต่ละคน และทำให้ประสบการณ์ต่างๆ ในเมือง Night City ของทุกคนแตกต่างกันไปอีกด้วย Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยเกมจะสามารถเล่นบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5, Xbox Series X ได้ทันทีเมื่อวางจำหน่าย และจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่โดยเฉพาะให้ผู้เล่นที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีๆ อีกด้วย สั่งซื้อเกมล่วงหน้าจากตัวแทนจำหน่าย คลิ๊ก
10 Aug 2020
ผู้เล่นสามารถ มองไปมาได้อย่างอิสระระหว่างคุยกับ NPC ใน Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 จะยังคงสามารถวางจำหน่ายในปีนี้ได้ หรือไม่ คงเป็นเรื่องที่เหล่าผู้เล่นกำลังสนใจมากที่สุดอยู่ในตอนนี้ อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องวันวางจำหน่ายแล้ว เกี่ยวกับระบบต่างๆ ในเกม เหล่าผู้เล่นก็ดูจะให้ความสนใจไม่แพ้กัน อย่างล่าสุดก็เพิ่งจะมีการประกาศว่า ผู้เล่นจะสามารถมองไปมาได้อย่างอิสระในระหว่างคุยกับ NPC ด้วย!     ผู้พัฒนาเกมได้เปิดเผยผ่านนิตยสารของ PlayStation ว่า ผู้เล่นจะสามารถมองไปมาได้อย่างอิสระ ในระหว่างที่พูดคุยกับ NPC โดยเหตุผลที่ใส่ระบบนี้เข้ามา ก็เพราะว่า "มันจะดูสมจริงมากกว่า ถ้าหาก V จะสามารถสังเกตุไปรอบ และคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ แม้ในเวลาที่ต้องพูดคุยกับใครบางคน" แบบนี้เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆ เลยว่า "จงระวังรอบตัวให้ดี แม้ในเวลาที่พูดคุยกับ NPC อยู่ก็ตาม" เลยครับ     ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้ระบบที่ใหม่อะไร แต่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า ตัวเกมจะมีฉากจบที่หลากหลาย รวมถึงมีผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้มากมายจากการกระทำของเราเอง จึงเป็นไปได้ว่าในบางเหตุการ เราอาจถูกลอบทําร้าย ระหว่างพูดคุยกับ NPC อยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นระบบนี้ในเกม Cyberpunk 2077 อาจทำให้เราตื่นเต้นได้มากกว่าเกมอื่นๆ ที่ผ่านมาครับ     Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC     Credit: GamingBolt
03 Aug 2020
Cyberpunk 2077 รายละเอียดทั้งหมดของเกม [PC, PS4 และ Xbox One]
Title: Cyberpunk 2077 Genre: Action RPG Openworld Platform: PC, PS4 และ Xbox One Engine: REDengine 4 Release Date: 16 เมษายน 2020 Developer: CD Projekt Red Director: Adam Badowski Designer: Konrad Tomaszkiewicz Artist: Katarzyna Redesiuk Writer: Stanisław Święcicki Composer: Marcin Przybyłowicz https://www.youtube.com/watch?v=YApuEWtG30w https://www.youtube.com/watch?v=euqbMkM-QQk ประวัติการพัฒนา Cyberpunk 2077 เป็นเกมจากทีม CD Projekt Red ที่เคยพัฒนาเกมชื่อดัง The Witcher จนได้รับรางวัล Game of the Years ภายในงาน The Game Awards 2015 โดยเกมนี้ดัดแปลงมาจากเกมกระดาน Cyberpunk 2020 ที่วางจำหน่ายมาในปี 1990 โดย Concept เกมนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ 2012 แต่เริ่มพัฒนาจริงๆ หลังจากที่เสร็จสิ้นโปรเจกต์เกม The Witcher 3: Wild Hunt เสร็จสิ้นในปี 2016 รวมถึงเกมนี้ยังมีผู้พัฒนาถึง 450 คน มากกว่าจำนวนที่ใช้พัฒนาเกมก่อนหน้าอีกด้วย เนื้อเรื่อง โดยตัวเกมจะดำเนินอยู่ในเมือง Night City ช่วง 57 ปีหลังจากยุค Dystopian อันเสื่อมทรามของอเมริกา ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทต่างๆ ที่ไม่มีกฏหมายใดๆ มีความขัดแย้งและสงครามของเหล่าแก๊งต่างๆ และหน่วยงานที่ปกครอง ที่หันหน้าเข้าสู่กับเพื่อการปกครองในเมือง โดยในเมืองนี้หุ่นยนต์ต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเช่นการเก็บขยะการบำรุงรักษาและการขนส่งสาธารณะ อินเทอร์เน็ตได้ดูแลโดย บริษัท และกองทัพ ถึงแม้ภายในเมืองจะมีผู้ยากจน ผู้ไร้บ้านมากมาย แต่การดัดแปลงร่างกายเองก็สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ก่อให้เกิดการเสพติดการดัดแปลงและความรุนแรงที่ตามมา โดยภายในเมืองมีการคุกคามจากกองกำลังติดอาวุธที่เรียกว่า Psycho Squad จึงทำให้ประชาชนทุกคนสามารถพกอาวุธได้ เกมเพลย์ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครสมมติ V ทหารรับจ้างที่เราสามารถปรับแต่งตัวละครต่างๆ ได้ทั้ง เพศ, ทรงผม, ใบหน้า, ร่างกาย, การดัดแปลง และพื้นภูมิหลังของตัวละคร(เป็นเด็กเรร่อน, คนจากองค์กร) เสื้อผ้าสามารถปรับแต่งได้ รวมถึงเสื้อผ้าของ V จะเปลี่ยนแปลงวิธีการโต้ตอบของ NPC ต่างได้ ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและเพศสัมพันธ์ได้ หมวดหมู่สเตตัสของตัวละครจะแบ่งออกเป็น Strength(พละกำลัง), Constitution(ความแข็งแกร่ง), Intelligence(ความฉลาด), Reflex(การโต้ตอบ), Tech(เทคโนโลยี) และ Cool(ความเยือกเย็น) มี Perk Tree ที่จะแตกออกเป็นกิ่งก้านซึ่งจะแยกออกเป็นสายต่างๆ ให้เลือกเล่นคือ Melee, Blades, Handguns, Shotguns, Rifles, Sniper Rifles, Hacking, Wwo-handed Combat, Assassination, Cold blood, Engineering และ Athletics ผู้เล่นจะต้องไปคุยกับ Ripperdoc เพื่ออัพเกรดและซื้อการปลูกถ่ายไซเบอร์ในราคาเป็น Eurodollars ในตลาดมืด อาวุธต่างๆ จะมีระบบความแรร์ตั้งแต่ระดับ Uncommon (สีเขียว) ถึง Epic (สีม่วง) V สามารถ Cover เข้าที่กำบังได้, เล็ง, วิ่งบนพื้นดิน, กระโดด, กระโดดสองครั้ง, สไลด์ รวมถึงมีดบนแขนของ V ที่จะทำให้เขาสามารถวิ่งไต่กำแพงได้เช่นเดียวกับอาวุธระยะประชิดอื่นๆ ส่วนอาวุธระยะไกลจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ อาวุธ Power (มาตรฐาน), อาวุธ Tech (ใช้เจาะเกราะ, กำแพง) และ Smart (ปืนที่ใช้กระสุน Homing Bullets) โดยอาวุธพวกนี้สามารถปรับแต่งได้ มีการตกแต่งต่อการกระเด็นของกระสุน หรือสะท้อน มี Bullet Time เพื่อสโลว์ศัตรู รวมถึงมีการสร้างความเสียหายอยู่ ประเภทคือ Physical(กายภาพ), Thermal(ความร้อน), EMP และ Chemical(เคมี) โดยสามารถซ่อมและอัพเกรดอาวุธได้ที่ Gunsmiths และถึงแม้ว่าเกมจะมีอาวุธให้ใช้มากมาย แต่เราสามารถจบเกมโดยไม่ต้องฆ่าใครก็ได้ โดยการจะเลือกอาวุธที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภายในโลกของเกมจะมีทั้งหมด 6 ภูมิภาค ศูนย์กลาง Corporate City , Watson ย่านของเหล่าผู้อพยพ, Westbrook ย่านคนสวย,ชานเมือง Heywood, แหล่งชาวแก๊ง Pacifica และ แหล่งอุตสาหกรรม Santo Domingo โดยภายในเมืองตัวละคร V สามารถเดินทางสำรวจได้อย่างอิสระ การเดินทางสามารถไปได้โดยการเดินเท้า, ยานพาหนะที่สามารถปรับแต่งได้พร้อมทั้งยังใช้โหมด 3rd Person หรือ 1st Person ในการขับรถได้ด้วย พร้อมทั้งเรายังสามารถเลือกโหมดรถออโต้ที่จะสามารถให้เราจดจ่อให้การต่อสู้อย่างเดียวได้ รวมถึงในรถก็จะมีวิทยุให้ฟัง วัฏจักรวันเวลาของเกมจะมีทั้งกลางวัน-กลางคืน มีสภาพอากาศต่างๆ ทั้งดีและแปรปรวน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของ NPC ด้วย ตัวอพาร์ทเมนต์สามารถซื้อและใช้เป็นฐานบ้านได้ ซึ่ง V จะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำอาวุธและเครื่องแต่งกายมาใช้ หรือจะนำ NPC กลับมาเพื่อทำกิจกรรมทางเพศได้ และตัวเกมมีตัวละครที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษด้วย โดยผู้เล่นที่ไม่เข้าใจภาษาสามารถซื้อล่ามเพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้น Braindance" อุปกรณ์บันทึกข้อมูลดิจิตอลจะพุ่งตรงเข้าสู่สมองช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอารมณ์กระบวนการทางสมองและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของบุคคลอื่นราวกับว่าเป็นคนๆ นั้น รวมถึงการโต้ตอบกับ NPC จะมีคำตอบให้เลือกเป็นกิ่งก้านในการทำเควส และผลลัพธิ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปในการเลือกตอบของแต่ละคน คะแนนประสบการณ์จะได้รับจากเควสหลักและเพิ่มสเตตัสของตัวเราด้วย ส่วนเควสเสริมจะปลดล็อค Skill, คนขายของ, สถานที่และเควสเพิ่มเติม โดยการรับเควสจะรับจากตัวละครที่ชื่อว่า Fixers และตลอดทั้งเกม V จะได้รับความช่วยเหลือจากสหายต่างๆ อีกด้วย จะมีพวกไอเท็มต่างๆ อย่างเช่นพวกน้ำอัดลมที่จะสามารถเพิ่มเลือดได้ โดยสามารถตรวจสอบได้จาก Inventory ของ V รวมถึงมีมินิเกมต่างๆ ให้เล่นอย่างเช่น Hacking, Boxing, Auto Racing, Martial Arts และ Shooting Ranges และข้อความ Game Over จะปรากฏขึ้นที่จุดตายเท่านั้น หากภารกิจล้มเหลวเกมก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม โดยผู้เล่นจะดำเนินและนำไปสู่ตอนจบที่แตกต่างกันไป สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่ Facebook : GameFever TH YouTube : GameFever TH
30 Jul 2020
ผู้พัฒนายืนยัน ไม่สามารถถืออาวุธคู่ได้ใน Cyberpunk 2077
ข่าวเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พูดตรงๆ ผู้เขียนเองก็อดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้เข้าไปสัมผัสเกมนี้ อยากเข้าไปใช้ Mantis Blades จากแขนทั้ง 2 ฉีกศัตรูเป็นชิ้นๆ ถึงแม้ว่าเราจะสามรถใช้ Mantis Blade ได้จากแขนทั้ง 2 ข้าง แต่เหมือนว่าเกมนี้จะไม่อนุญาตให้เราถืออาวุธคู่ครับ     "เราจะสามารถถืออาวุธคู่ได้หรือไม่" ดูจะเป็นสิ่งที่แฟนสงสัยกันเป็นอย่างมาก แต่วันนี้ทางผู้พัฒนาได้ออกมายืนยันแล้วว่า เราจะไม่สามารถถืออาวุธคู่ได้ในเกมนี้ สำหรับใครที่กำลังคิดว่า จะถือปืนสั้นคู้วิ่งเข้าไปบู๊แหลก ก็คงต้องผิดหวังกันไปครับ     Cyberpunk2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC     Credit: Gamingbolt
29 Jul 2020
ผู้พัฒนาเผยระบบ "วิ่งบนกำแพง" ถูกเอาออกไปจากเกม Cyberpunk 2077
ในงาน E3 ปี 2018 เกม Cyberpunk 2077 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก และโชว์ให้เราเห็นถึงเกมเพลย์ในแบบมุมมอง FPS พร้อมทั้งอวดระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, กระโดด, วิ่งไต่กำแพง หรืออาวุธที่เราจะได้เจอในเกม ทั้งปืน, มีดตินแขน สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก การเวลาผ่านไปมีเกมเพลย์ตัวใหม่ถูกโชว์ออกมาเรื่อยๆ ระบบทั้งหมดที่เคยโชว์ก่อนหน้านี้ก็ยังมีอยู่ครบยกเว้นระบบ วิ่งไต่กำแพง ที่หายไป! หนึ่งในผู้พัฒนา Max Pears ได้บอกกับทาง Gamereactor ว่าระบบวิ่งไต่กำแพง ถูกเอาออกไประหว่างการพัฒนา ซึ่งเขาไม่ได้อธิบายว่า ทำไมระบบดังกล่าวถึงถูกเอาออกไป แต่พูดเพียงแค่ว่า "แต่การเคลื่อนในเกมนี้ ยังคงมีความหลากหลายมากๆ เหมือนเดิม" Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
01 Jul 2020
สรุปข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างตัวละครใน Cyberpunk 2077 จากสื่อที่ได้ลองเล่น!
Cyberpunk 2077 เป็นเกมฟอร์มยักษ์ใหม่ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจตอนนี้อยู่อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งทางผู้พัฒนาก็เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า ผู้เล่นจะได้อิสระในการเล่นสูงมาก ตั้งแต่การเลือกเพศของตัวละครหลักได้, ปรับสัดส่วนอวัยวะได้ทุกจุด, รวมไปจนถึงสามารถเลือกภูมิหลังของตัวละครได้ ซึ่งจากข้อมูลที่เรามีตอนนี้ บอกเลยว่าเราสามารถปรับแต่งตัวละครได้เยอะมากจริงๆ วันนี้พวกเรา GameFever TH ก็เลยรวบรวมข้อมูลการสร้างตัวละครในเกมมาให้ ส่วนว่าเราจะมีอิสระในการสร้างตัวละครในเกมนี้ขนาดไหน ไปดูกันเลยครับ 1. การเลือกภูมิหลังของตัวละคร ใน Cyberpunk 2077 ผู้เล่นจะสามารถเลือกภูมิหลังของ "V" ได้ 3 แบบคือ Nomad: เป็นผู้ที่พเนจรมาที่เมือง Night City Street Kid: เป็นเด็กที่โตมาจากข้างถนน Corpo: เคยเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน ซึ่งแตกต่างจากตัวเกมเวอร์ชั่น Demo ของปี 2018 ที่เปิดให้เราสามารถเลือกเหตุการสำคัญต่างๆ ในชีวิตที่ผ่านมาได้ด้วยตัวเองเลยโดยเหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบนี้แทน เป็น เพราะทางผู้พัฒนาคิดว่ามันยุ่งยากเกินไปสำหรับผู้เล่น ส่วนนี้จัดว่าเป็นจุดที่สำคัญมาก เพราะการเลือกภูมิหลังของตัวละคร จะส่งผลกับเนื้อเรื่องของเกมในช่วงแรกโดยตรง ซึ่งแตกต่างกันดังนี้ครับ (อ่างอิงจากรายงานของ PCGameN) ****ข้อมูลจุดเริ่มต้นของแต่ละภูมิหลัง จะเป็นการสปอยเนื้อเรื่องในช่วงแรกของเกม ใครไม่อยากโดยสปอย แนะนำให้ข้ามไปเลยครับ**** เลือกเป็นผู้พเนจร (Nomad) ถ้าเลือกเป็นผู้พเนจร ตัวละครของ "V" จะเริ่มเนื้อเรื่องในเขตทะเลทราย Badlands นอกเมือง จริงอยู่ที่เหล่าผู้คนในเขตนี้ จะอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม แต่ตัวละครของเราจะเริ่มต้นแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ เนื้อเรื่องจะเริ่มขึ้นเมื่อตัวผู้เล่นได้รับว่าจ้างให้แอบขนของผิดกฏหมายบางอย่างเข้าไปในเมือง Night City โดยผู้เล่นจะได้พบกับ Jackie ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เลือกเป็นเด็กที่โตมาจากข้างถนน (Street Kid) การเลือกเส้นทางนี้หมายความว่า "V" จะรู้เส้นทางในเมืองเป็นอย่างดี แน่นอนว่าตัวละครของเราจะเป็นที่รู้จักของผู้คนในเมือง โดยเรื้องราวของเราจะเริ่มต้นที่บาร์ El Coyote Cojo ในเขต Heywood ผู้เล่นจะได้พบกับ Kirk ซึ่งจะเป็นพันธมิตรที่สำคัญในเมือง Night City และเขาจะเป็นคนแรกที่มอบภารกิจให้กับเราด้วย ในช่วงเริ่มต้น เราจะได้รับภารกิจให้ไปขโมยรถสปอร์ตสุดแพงคันหนึ่ง เพื่อช่วยใช้หนี้ให้เพื่อน แต่ระหว่างปฏิบัติงาน เราก็ถูกขัดขวางโดย Jackie ผู้ซึ่งเล็งจะขโมยรถคันเดียวกัน ก่อนที่ทั้งสองจะถูกจับได้ เลือกเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน (Corpo) ในเส้นทางนี้ผู้เล่นจะเริ่มต้นด้วยการเป็นคนภายในของบริษัท Arasaka โดยภายในร่างกายของ "V" จะถูกดัดแปลงอาวุธต่างๆ เข้ามาแล้วมากมาย จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องจะเป็นภายในตึกของ Arasaka โดยผู้เล่นจะได้พบกับเจ้าหน้าที่ Jenkins และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในเมือง Night City ของเรา บาร์ของ Lizzie จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งผู้เล่นจะนัดพบกับเหล่าพวกพ้อง ผู้เล่นจะได้พบกับ Jackie ครั้งแรกที่นี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในเส้นทางนี้ "V" จะสามารถเข้าถึงข้อมูลลับต่างๆ ของเหล่าบริษัทได้ง่ายกว่าเส้นทางอื่น เว็บไซต์ Polygon ได้กล่าวว่า การเลือกดังกล่าวจะส่งผลเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องเท่านั้น ส่วนเนื้อหารวมถึงการผจญภัยที่ผู้เล่นจะได้พบ จะเหมือนกันในช่วงหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามจากที่เราทราบมา ทุกคนได้ที่เข้าไปทดลองเล่น มีโอกาสสัมผัสเกมเพียงแค่ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ยังมีความเป็นไปได้อยู่ว่าเนื้อเรื่องในช่วงท้ายของเกม อาจจะแตกต่างกันไปตามภูมิหลังของ "V" ที่ผู้เล่นเลือกก็เป็นได้ เช่นถ้าหากโตมากับการเป็นเด็กข้าง จะสามารถเลือกช้อยได้มากกว่าถ้าหากต้องคุยกับแก๊งค์ต่างๆ แต่ถ้าหากเคยเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน อาจจะทำเล่นช่วงที่ต้องเจอกับบริษัทได้ง่ายกว่าเป็นต้นครับ 2. การปรับแต่งหน้าตาตัวละคร ในเรื่องของการปรับแต่งลักษณะทางกายภาพ ทางทีมพัฒนาเคยออกมาบอกแล้วว่า เราจะสามารถปรับแต่งได้ตามใจตัวเองได้พอสมควร แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้ปรับได้ลึกเท่ากับที่เห็นในเกม MMO อย่าง Black Desert Online หรือ Blade & Soul ที่สามารถปรับแต่งทุกส่วนของหน้าตาแยกกันได้อย่างละเอียด โดยเว็บไซต์ Kotaku Australia ได้ออกมาบอกหมดแล้วว่าเราจะสามารถปรับแต่งส่วนใหนได้บ้าง และในแต่ละส่วนจะมีแบบให้เราเลือกเท่าไหร่ ดังนี้: บนใบหน้า ทรงผม 35 ทรง ดวงตา 17 แบบ สีตา 17 สี คิ้ว 8 แบบ ปาก 17 แบบ กราม 17 ทรง หู 18 แบบ ฟัน 5 แบบ เครื่องสำอางตา 8 แบบ การเจาะร่างกาย (หู, จมูก,ลิ้น เป็นต้น) 11 แบบ (บวกกับตัวเลือก "ไม่มีการเจาะร่างกาย" รวมเป็น 12 แบบ) สีริมลิปสติก 5 แบบ + ไม่ใช้ลิปสติก รอยสัก 6 แบบ + ไม่มีรอยสัก แผลเป็น 9 แบบ + ไม่มีแผลเป็น ร่องรอยเครื่องจักบนใบหน้า 8 แบบ + ไม่มีร่องรอย บนร่างกาย สีผิว 6 แบบ รอยสัก 5 แบบ + ไม่มีรอยสัก แผลเป็น 2 แบบ + ไม่มีแผลเป็น เพศของตัวละคร 2 แบบ (หญิง - ชาย) หัวนม 3 แบบ อวัยวะเพศ (ชาย 2 แบบ, หญิง 1 แบบ) ขนาดของอวัยวะเพศ (ชายเท่านั้น) ขนอวัยวะเพศ 5 แบบ 3. การปรับแต่งค่าความสามารถ ในเกม Cyberpunk 2077 ตอนสร้างตัวละคร เราจะได้แต้มสำหรับอัพสเตตัสของเรา 22 แต้ม ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ Polygon ผู้เล่นจะต้องนำแต้มทั้งหมดกระจายลงให้กับสเตตัส 5 อย่างคือ Body, Reflexes, Intelligence, Technical Ability, Cool แน่นอนว่า 3 สเตตัสแรกหมายถึง พระกำลัง, ความรวดเร็ว และความฉลาดอย่างไม่ต้องส่งสัย ส่วน Technical Ability หมายถึงความสามารถในการแฮกกิ้ง ในขณะที่ Cool จะเป็นสเตตัสที่ส่งผลถึงการโจมตี Critical และ ความสามารถในการ Stealth. สเตตัสทั้งหมดที่ผู้เล่นได้อัพตอนเริ่มเกมนอกจากจะส่งผลถึงความสามารถแล้ว ยังส่งผลถึง Perk ที่ผู้เล่นสามารถอัพได้ในช่วงแรกของเกมด้วย เช่น Reflexes จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับอาวุธที่จำเป็นต้องใช้ความเร็วอย่างปืนสั้น, ปืน Rifiles หรือมีดติดแขน ส่วนค่า Body จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับความสามารถทางกายภาพ และอาวุธที่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีร่างกายแข็งแรงอย่าง Shotguns แต่ Cool จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับการลอบเร้น กับลอบสังหาร ดังนั้นจะอัพสเตตัสอะไรเท่าไหร่ต้องคิดให้ดีหน่อยครับ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเครียดเกินไป เพราะทุกครั้งที้ "V" เลเวลอัพ เราจะได้แต้มสำหรับสเตตัสด้วยเช่นกันครับ อย่างไรก็ตามจาก Demo ปี 2018 มันควรจะมีสเตตัส 6 แบบให้เราเลือกอัพ ซึ่งยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมสเตตัสทั้งหมดที่อัพได้โดย Polygon ถึงมีเพียงแค่ 5 ตัวเท่านั้น เป็นไปได้ว่าที่ค่า Constitution หายไปเป็นเพราะว่าทางผู้พัฒนารู้สึกว่ามันไม่จำต้องมีก็เป็นได้ครับ Credit: Polygon, PCgameN, Kotaku
29 Jun 2020
รวมความเห็นจากสื่อที่ทดลองเล่น Cyberpunk 2077 ก่อนใคร จะสมราคาคุยไหม?!
Cyberpunk 2077 ได้จัดงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ที่ทำการโชว์เกมเพลย์และรายละเอียดของเกมเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบใหม่ Braindance อีกด้วย นอกจากนี้ หลังจากที่งานไลฟ์สตรีมได้จบลงไป เหล่าสื่อหลายสำนักที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมนี้ก่อนใคร ก็ได้มาบอกเล่าถึงความเห็นของพวกเขาหลังจากได้สัมผัสกับโลกแห่ง Cyberpunk 2077  แน่นอนว่านอกจากคำบอกเล่าถึงคุณภาพและความรู้สึกจากการเล่น ภายในบทความเหล่านี้ยังได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเกมอีกมากมายเลยด้วย! เพื่อให้ทุกคนไม่พลาดความรู้สึกนึกคิดของเหล่าสื่อที่ได้เล่นเกมไปแล้ว เราจึงรวบรวมความเห็นของสื่อสำนักต่างๆ แบบพอสังเขปมาให้ทุกคนได้อ่านกันจ้า! Ian Walker จาก Kotaku "Cyberpunk 2077 มันทั้งซับซ้อนและสุดโต่ง แต่มันยอดเยี่ยม" ตอนแรกนั้นเขา ไม่ได้รู้สึกว่า Cyberpunk 2077 นั้นมีความเป็น "Cyberpunk" จนกระทั่งเขาโต้ตอบสั้นๆ กับ Certo ที่เป็นนักสู้ในเขต Kabuki เขาก็ได้เห็นถึงสิ่งที่ผู้พัฒนาได้พยายามสร้างขึ้นมา Walker ได้เห็นหัวใจของมนุษย์ภายใต้ตัวละครในเกม และตัวละครของผู้เล่นที่เรารู้กันว่าสามารถเลือกภูมิหลังเองได้นั้น จะมีผลต่อวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อ NPC บางตัว กับตัวเลือกบทสนทนาบางอย่าง นอกจากนี้เขายังเล่าถึงเหตุการณ์ที่พบระหว่างเดินสำรวจเมือง เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงอาการ Cyberpsychosis ที่บ้าคลั่งจากการปรับแต่งร่างกายตัวเองมากเกินไป ไล่ทำร้ายคนในเมือง (นึกถึงตัวอย่างแรกสุดของเกม) ทำให้เขาตัดสินใจพยายามหยุดผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทำง่ายๆ เพราะเธอมีความสามารถในการวาร์ปไปวาร์ปมา และ Walker ก็ถูกเธอพุ่งเข้ามาทำร้าย เขาสงสัยว่าตัวเองสามารถช่วยเธอที่เป็นโรคจิตที่น่าสงสารคนนี้ได้ไหม และเขาก็ได้คำตอบว่าเขาสามารถช่วยเธอได้ด้วยการปราบเธอแบบไม่ให้ถึงตายหรือใช้วิธี Stealth Alex Donaldson จาก VG247  "วิดีโอเกมทุกเกมที่คุณเคยเล่น ถูกมัดรวมกันอยู่ในเกมเดียว" Night City คือเมืองน่าขยะแขยงแต่มันเป็นเมืองน่าขยะแขยงที่สวยงาม แสงสีนีออนส่องจากอาคารและป้ายโฆษณาทุกแห่ง ที่มาพร้อมกับร้านขายของผิดลิขสิทธิ์ หรือแพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาติ ตามท้องถนนคุณจะเห็นอาชญากรและตำรวจปะทะกันได้เสมอ แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกยืนชมหรือช่วยเหลือก็ได้ นี่แหละคือธรรมชาติของ Cyberpunk   Russ Frushtick จาก Polygon "นี่แหล่ะคืออนาคต" Cyberpunk 2077 นั้นมีรายละเอียดการปรับแต่งตัวละครที่ตลกที่สุดที่ผมเคยเห็นในวิดีโอเกม คุณสามารถเลือกได้ว่าจะมีอวัยวะเพศแบบไหน หรือไม่มีก็ได้ และถ้ามีของเพศชายคุณก็เลือกได้ว่าจะ ขริบ หนังหุ้มปลายหรือ ไม่ขริบ อนาคตได้อยู่ที่นี่แล้ว และเราสามารถพัฒนาทักษะของตัวละครเราได้ด้วยการทำเรื่องนั้นบ่อยๆ อย่างการ Stealth ถ้าผมไปแอบอยู่ข้างหลังใครซักคนและจัดการเขาได้ ทักษะ Stealth ของผมก็จะดีขึ้น   Ryan McCaffrey จาก IGN "Night City ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง" ในตัวเกม Cyberpunk 2077 ผมได้เห็นรายละเอียดของแก๊งที่เราสามารถเปลี่ยนแก๊งพันธมิตรได้ตลอดเวลาในระหว่างภารกิจที่กำลังทำเช่น เราสามารถเข้าร่วมการสอบสวนในฝั่งของตำรวจได้ทั้งที่เราอาจจะเป็นแก๊งที่ถูกสืบสวนอยู่ แถมยังเดินเตร่ตามท้องถนนทั้งๆ ที่ยังทำภารกิจอยู่ก็ได้ ผมได้ใช้เวลาส่วนนึงดื่มด่ำกับความเป็น Night City และอัพเกรดเครื่องจักรต่างๆ เข้าร่างกาย และถ้าคุณทำเควสนึงไปยังอีกเควสนึงก็จะเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า Night City มันใหญ่มาก Robert Purchese จาก EUROGAMER "Cyberpunk 2077 มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากกว่า The Witcher 3 เมือง Night City เป็นสถานที่ที่มีผู้คนมากมายไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆ" ผมได้ยินเด็กผู้ชายพูดว่า คุณมีหน้าที่ดูโง่มาก ฮ่าฮ่า นั่นทำให้ผมรู้ว่าด้านที่ผมรักใน The Witcher 3 มีอยู่ในเกมนี้ กำแพงเมืองไม่เคยว่างเปล่า มันมีกราฟิตี้อยู่แทบทุกที่ ผู้คนมีทั้งรอยสัก การปรับเปลี่ยนร่างกายและความพังก์ นี่คือเมืองที่สัมผัสได้ถึงมหานครแห่งวัตถุและความลึกลับ มันให้ความรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาจริงๆ   เมื่อดูจากความเห็นของสื่อแต่ละสำนักแล้วเรียกได้ว่าตัวเกมในตอนนี้ก็มีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่งแล้ว และมันมีความลึกลับน่าค้นหามากจริงๆ Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายน นี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้พัฒนายืนยันว่าเกมจะสามารถเล่นบนเครื่อง PlayStation 5 และ Xbox Series X ได้อีกด้วย แถมคนที่ซื้อเกมในคอนโซลรุ่นเก่า จะได้รับเกม Cyberpunk 2077 รุ่นอัปเกรดสำหรับคอนโซล Next-Gen โดยเฉพาะแบบฟรีๆ ด้วยนะ! Credit : Kotaku , VG247 , Polygon , IGN , EUROGAMER
26 Jun 2020
Cyberpunk 2077 เผยระบบ Braindance เราจะสามารถเข้าไปสำรวจในความทรงจำได้
มีระบบที่น่าสนใจให้เราเล่นมากมายสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ล่าสุดภายในงาน Night City Wire ผู้พัฒนาได้เผยระบบที่ชื่อว่า Braindance ที่จะเป็นการบันทึกการกระทำต่างๆ ของคนๆ หนึ่ง โดยตัวละครที่ใช้ Braindance จะรับรู้ถึงสถานที่นั้นๆ เสียง และทุกๆ อย่างเหมือนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งภายในตัวอย่างที่ผู้พัฒนาเผยออกมา เราจะได้เห็นโจรคนหนึ่งทำการปล้นร้านขายของเพื่อเอาเงินก่อนที่จะถูกยิงตอนท้าย โดยถัดมาอีกฉากเราจะได้เห็นตัวละครเอก V ได้ใช้ Braindance เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ในฐานะผู้สังเกตุการณ์ รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์หลายๆ อย่างด้วยมุมมองใหม่ๆ เช่นดูหน้าของโจรจากกล้องวงจรปิดเป็นต้น (ดูเกมเพลย์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง) ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นอะไรมากนักในระบบนี้ มันอาจจะดูคล้ายๆ ระบบนักสืบในหลายๆ เกมที่เคยออกมา แต่ผู้พัฒนาได้บอกว่า Braindance จะเป็นอุปกรณ์การเล่าเรื่องที่สำคัญๆ มากภายในเกม ที่เราจะสามารถสำรวจประวัติศาสตร์, ปรัชญา และสำรวจกลุ่มคนที่แตกต่างกันได้ ซึ่งภายในโลกของเกม Cyberpunk 2077 เทคโนโลยี Braindance ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงยุคปี 2000 เดิมเป็นเทคโนโลยีสำหรับบำบัดและกู้ชื่อเสียงของเหล่านักโทษ มันจะช่วยสำรวจจิตใจที่อำมหิตของคนใน Night City นั่นเอง ที่มา IGN Gamespot
25 Jun 2020
Cyberpunk 2077 จะมี Street Story Sidequests มากกว่า 75 เควส!
Cyberpunk 2077 เกมใหม่จากทาง CD Peojekt Red ซึ่งถ้าเป็นเกมที่มาจากทางผู้พัฒนาคนนี้แล้วละก็ แทบจะสามารถการันตีคุณภาพของเกม และความสนุกของเนื้อเรื่องได้เลย และก็ไม่ใช้แค่เนื้อเรื่องหลักที่เท่านั้นที่จะมีเนื้อเรื่องคุณภาพดี เพราะผู้พัฒนาเคยบอกว่าตัว Side Quest ของเกมเอง ก็จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างปราณีตด้วยเช่นกัน ซึ่ง Street Story Sidequests ที่ผู้เล่นสามารถทำได้ในเกมนี้ ก็มีถึง 75 เควสเลยทีเดียว! จากบทสัมภาษณ์ของทาง OnMsft คุณ John Mamais ที่เป็น Studio Head บริษัท CD Projekt Red ของสาขา Krakow ได้กล่าวว่า "เกมนี้จะมี Street Sidequest ที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเองถึง 75 เควส ซึ่งเควสเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นได้รู้จัก และเข้าใจโลกของ Cyberpunk 2077 มากขึ้น รวมถึงยังเป็นวิธีเก็บเลเวลตัวละครเราที่ดีด้วย" นี้จึงหมายความว่า ถ้าเราอยากจะรู้เนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมนี้จริง ๆ น่าจะต้องเล่นมากกว่า 100 ชั่วโมงอย่างแน่นอนครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC Credit : PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
04 Feb 2020
ผู้พัฒนาเผย Cyberpunk 2077 Multiplayer ก็อาจมาไม่ทันปี 2021 เช่นกัน!
Cyberpunk 2077 คือเกมฟอร์มยักษ์หน้าใหม่ ที่เหล่าเกมเมอร์จากทั่วทุกมุมโลกกำลังรอการมาอย่างใจจดใจจ่อ โดยนอกจากตัวเกมหลักที่จะเป็นแบบ Single Player แล้ว ผู้พัฒนายังเคยเปิดตัว Cyberpunk 2077 Multiplayer ซึ่งจะเป็นอีกเกมหนึ่งเอาไว้เล่นกับเพื่อนได้ด้วย ซึ่งตอนแรกตัวเกม ก็มีกำหนดว่าจะเปิดให้เล่นภายในปี 2021 นี้ แต่ดูเหมือนว่านั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมากในตอนนี้แล้วครับ! จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ตัวเกมหลักนั้นถูกเลือนวันวางจำหน่ายออกไปจาก 16 เมษายน เป็นวันที่ 17 กันยายนแทน ทำให้ดูเหมือนว่าการเลื่อนวันวางจำหน่ายครั้งนี้ จะไปส่งผลกระทบกับการพัฒนาตัวเกม Multiplayer ด้วย ทำให้จากเดิม ที่มีแผนจะปล่อยเกมนี้ในปี 2021 นั้น ดูเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตามทาง CD Projekt Red ก็สัญญาว่าจะรีบพัฒนาเกมให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ทันกำหนดการเดิม ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่เกมจะปล่อยในปี 2021 เหมือนกันครับ Cyberpunk 2077 Multiplayer ยังไม่มีวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการครับ Credit : PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    
17 Jan 2020
Cyberpunk 2077 จะมีเกม Multiplayer ที่เป็น Spin-off ด้วย
เรียกได้ว่าช่วงนี้มีข่าวเข้ามาไม่หยุดจริงๆ กับเกม Cyberpunk 2077 ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาว่า ตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ Xbox Scarlett ด้วย ล่าสุดก็มีการประกาศเกี่ยวกับโปรเจคใหม่ ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเกม Cyberpunk 2077 แบบ Multiplayer (หมายถึงว่าเป็นเกมใหม่อีกเกม) และเป็นเกมที่คาดว่าจะเป็นแบบ Free-to-play ที่ใช้บิสซิเนสโมเดลแบบ Microtransactions ให้ผู้เล่นสามารถใช้เงินจริงซื้อของภายในเกมได้! แต่โปรเจคใหม่ตัวนี้ก็เพิ่งจะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น และนี้จะเป็นเกมแบบ Multiplayer เกมแรกของทาง CD Projekt Red อีกด้วย ทางด้านทีมพัฒนาที่รับผิดชอบโปรเจคนี้อยู่ ตอนนี้ก็มีขนาดที่เล็กมากๆ ทำให้ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเกมนี้มากนัก แต่ผู้พัฒนาก็ได้สัญญาว่า "เราจะไม่ทำอะไรที่ไม่คุ้มกับเงินของผู้เล่นอย่างแน่นอน" ต้องรอดูกันต่อไปครับว่า เกมใหม่ที่เป็น Spin-off ของ Cyberpunk 2077 นี้จะเป็นยังไงกันแน่ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit : Gamespot ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
25 Nov 2019
Cyberpunk 2077 จะเปิดให้ผู้เล่นควบคุมตัวละครในฉากคัตซีนได้
ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของเกม Cyberpunk 2077 คำหนึ่งที่ผู้พัฒนา CD Projekt Red พูดถึงอยู่เสมอๆ ก็คือความอิสระและสมจริงของเกม ที่ผู้พัฒนาตั้งใจทำขึ้นมาให้สามารถดึงดูดผู้เล่นเข้าไปอยู่ในโลกของเกมได้จริงๆ เลยทีเดียว ซึ่งความอิสระนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะเกมเพลย์เท่านั้น แต่อาจจะรวมไปถึงการควบคุมตัวละครในฉากคัตซีนด้วย! ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยหัวหน้าทีมพัฒนา CD Projekt Red Krakow คุณ John Mamais ในงาน PAX Australia 2019 ที่ผ่านมา โดยคุณ John เปิดเผยว่าค่าย CDPR สาขา Krakow ของเขานั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบคัตซีนแบบใหม่ที่เรียกว่า Scene System ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครได้อย่างอิสระในฉากคัตซีน ตั้งแต่การควบคุมมุมกล้องไปจนถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครเลยทีเดียว "ในส่วนของเนื้อหาเกม Cyberpunk 2077 นั้น ทีม Krakow ของเรามีส่วนพัฒนาประมาณ 1/3 ของทั้งเกม สำหรับ Cyberpunk 2077 นั้นเราได้สร้างระบบ Cinematic แบบใหม่ที่เรียกว่า Scene System ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเหมือนเข้าไปอยู่ในคัตซีนจริงๆ แทนที่จะเป็นการตัดเข้าฉากที่อัดไว้ก่อนแล้ว แน่นอนว่าระดับความอิสระของผู้เล่นจะต้องผกผันไปตามเนื้อหาของคัตซีน แต่ระบบนี้ก็ช่วยเสริมความสมจริงให้กับเกมได้มากเพราะคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา" แม้ว่าจนถึงบัดนี้ผู้พัฒนาจะยังไม่ได้แสดงระบบ Scene System ให้ผู้เล่นได้เห็นกัน แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของคุณ John ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย คงต้องรอดูกันต่อไปว่าความอิสระที่ผู้พัฒนาพูดถึงนั้นจะอิสระจริงแค่ไหน และผู้เล่นจะสามารถทำอะไรได้บ้างระหว่างคัตซีน เพราะจะปล่อยให้อิสระเต็มที่ก็แลดูจะวุ่นวายเอาง่ายๆ เช่นกัน Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 สำหรับ PS4, Xbox One, PC ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
16 Oct 2019
ผู้พัฒนายืนยัน !! Cyberpunk 2077 จะมีโหมด Multiplayer หลังจากเกมปล่อย
ใครรอเล่นเกมนี้ก็ไม่ต้องกลัวเหงาแล้วสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ล่าสุดผู้พัฒนาประกาศใน Twitter แล้วว่า หลังจากเกมปล่อยออกมาให้เล่นแล้วนั้น จะมีระบบ Multiplayer ออกมาภายหลังอีกด้วย "ในตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถบอกได้เกี่ยวกับระบบ Multiplayer คือมันกำลังอยู่ในขั้นตอนวิจัยและพัฒนาอยู่ เราใกล้จะปล่อยเกมในโหมด Single Player แล้ว ในเดือน เมษายน 2020 แต่เราคอนเฟิร์มเลยว่าโหมด Multiplayer อยู่ในขั้นตอนการทำงานอยู่ ถ้าหากให้เรายืมความสามารถของคุณ สมัครงานมาได้ LINK " 1/2 Until now, the only thing we said about multi was that it was in R&D. As we’re getting closer to launching ‘single player’ Cyberpunk 2077 in Apr. 2020, we’d like to confirm that multiplayers in the works! If you feel like lending us your skills apply: https://t.co/QQV6qsuvhk pic.twitter.com/GHbiS5N3DT — CD PROJEKT RED (@CDPROJEKTRED) 4 กันยายน 2562 โดย Cyberpunk 2077 เป็นทีมจากผู้พัฒนา CD Projekt Red ที่เคยฝากฝังเกมดังมาแล้วอย่าง The Witcher 3 ตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ที่มา ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
04 Sep 2019
Cyberpunk 2077 ฉาก Cutscene จะเป็น FPS ทั้งหมดรวมถึงฉากอีโรติกด้วย
อย่างที่ทราบว่า Cyberpunk 2077 ผู้พัฒนาอยากทำเกมให้เป็นแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First Person Shooter) ด้วยเหตุผลที่ว่าเราจะได้ดื่มด่ำกับตัวเกมได้มากที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามุมมองนี้จะมีบทบาทกับทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นฉากคัทซีนหรือฉากอีโรติกด้วย เริ่มจากมีผู้ใช้รายหนึ่งนามว่า Shavod ได้ทำการส่งข้อความไปถามทีมพัฒนา CD Projekt Red ว่า "มีบางคนบอกตัวเกมจะไม่มีมุมมองบุคคลที่สาม รวมถึงฉากคัทซีนด้วยไหม ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ตอบว่า "การจดจ่อเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา ใช่คัทซีนจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง" แล้วทางผู้ใช้คนนั้นก็ยิงไปอีกหนึ่งคำถามว่า "แล้วฉากอีโรติกล่ะ" ผู้พัฒนาก็ตอบสั้นๆ ว่า "ใช่ด้วย" ซึ่งเราเองก็ต้องดูกันว่าตัวเกมออกมาจะเป็นยังไง แต่คาดว่าคงไม่น่ามีปัญหามาก เพราะว่า Cyberpunk 2077 จะทำการรองรับภาษาไทยด้วย หมดปัญหาคนที่มีข้อจำกัดด้านภาษาได้เลย โดยเกมนี้ผู้พัฒนาได้ใส่ระบบที่น่าทึ่งเอาไว้มากมาย เช่นระบบตัวละครที่จะไม่มีการเลือกเพศ เราสามารถปรับแต่งตัวละครให้เป็นเพศนั้นๆ ด้วยตัวเองได้ ซึ่งเกมนี้มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One
02 Sep 2019
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ Gameplay Deepdive ยาว 15 นาที
ปล่อยตัวอย่างออกมาแบบจัดเต็ม สำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ภายในงาน PAX West 2019 ได้เผยรายละเอียดเกมเพลย์ต่างๆ ของเกมที่เคยโม้ไว้ก่อนหน้าให้เห็นภาพจริงๆ โดยตัวอย่างนี้ได้นำเสนอ Pacifica เขตหนึ่งของเมือง Night City มีการนำเสนอกลุ่มคนหรือแก็งค์ต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเมือง รวมถึงระบบตัวละครที่เราจะสามารถเลือก Playstyle ได้สองแบบคือ Netrunner ที่จะเน้นการ Hack และใช้กลยุทธต่างๆ ที่จะไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง หรือจะเป็นสาย Strong Solo ที่จะเน้นการต่อสู้แบบประจันหน้ามีพละกำลังมากมายเป็นต้น รวมถึงเรายังได้เห็นอะไรใหมๆ อย่างเช่นการขับขี่มอเตอร์ไซต์ หรือระบบการเลือกต้นกำเนิดของตัวละครที่จะกำหนดได้ว่าเรามาจากชนพวกไหนเป็นต้น https://www.youtube.com/watch?v=QgoYwP4RHoQ โดยเกม Cyberpunk 2077 เป็นเกมแนว Action RPG Openworld จากผู้สร้าง The Witcher 3 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงเกมนี้ยังมีซับไตเติลภาษาไทยให้พวกเราเล่นอีกด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
30 Aug 2019
CD Projekt RED มอบอิสระให้กับเพลเยอร์เต็มที่ในเกม Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 เกม RPG Open World ที่กำลังเป็นที่พูดถถึงในขณะนี้และจะว่างจำหน่ายในปีหน้า ล่าสุดทางผู้พัฒนาอย่าง CD Projekt RED ก็ได้ออกมาบอกว่เพลเยอร์จะมีอิสระเป็นอย่างมากในเกมนี้ ตั่งแต่วิธีเล่นเกมหรือการสร้างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นเพศของตัวละคร รอยสัก ทรงผม กระทั้งการเลือกเสียงของตัวละคร เรามีอิสระเต็มที่ทีจะแต่งตัวละครของเราเองในเกมนี้ Marthe Jonkers ผู้ดูแลเรื่อง Concenpt ของเกม Cyberpunk 2077 ได้กล่าวว่า "พวกเราอยากสร้างเกมที่ มอบอิสระและเพลเยอณ์สามารถสนุกไปกับมันได้" และ "เรารอที่จะอ่าน Feedback ของเพลเยอร์เพื่อพัฒนาตัวเกมให้ดีมากขึ้นต่อไป" พออ่านก็เริ่มสงสัยว่าเราจะมีอิสระขนาดไหนในเกมกันแน่และมันจะดีจริงๆอย่างที่เขาว่ามารึเปล่า ต้องรอติดตามชมครับ Credit : Gamingbolt ( https://gamingbolt.com/cyberpunk-2077-cd-projekt-red-hopes-to-create-an-inclusive-as-possible-experience ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/  
27 Aug 2019
Cyberpunk 2077 จะมี World Map ที่เล็กกว่า Witcher 3
Cyberpunk 2077 เกมฟอร์มยักษ์จากทาง  CD Projekt RED เป็นเกมที่หลายๆคนรอคอย ถึงแม้ว่าจะอีกหลายเดือนกว่าที่ตัวเกมจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแต่ทาง CD Projekt RED ก็ได้มีการปล่อยข่าวเกี่ยวกับตัวเกมนี้ออกมาเรื่อยๆและล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาว่าเกมนี้จะมีขนาดของ World Map ที่เล็กกว่า Witcher 3 Richard Borzymowski  "Cyberpunk นั้นจะอยู่ในเมืองๆเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบเป็นตารางกิโลเมตรแล้ว World Map ของ Cyberpunk 2077 จะมีขนาดเล็กกว่า The Witcher 3 แน่นอน แต่เพลเยอร์จะไม่ค้อยรู้สึกถึงความแตกต่างนี้เท่าไหร่ในขณะเล่น" ไม่รู้เหมือนกันว่านี้คือข่าวดีหรือข่าวร้ายกัแน่แต่คิดว่าเราจะได้เกมเพลย์ที่สนุกมแทนที่แน่นอน Credit : GameRant ( https://gamerant.com/cyberpunk-2077-map-size-witcher-3/ ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
26 Aug 2019
CD Projekt Red เผย Cyberpunk 2077 มาพร้อมโหมด New Game Plus !
สำหรับคำถามที่หลายคนๆ อยากรู้เกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ว่าจะมีโหมด New Game Plus ให้เล่นรึเปล่า? เพราะเพลเยอร์ไม่น้อยเลยที่อยากจะเห็นฉากจบอื่นๆ ที่เป็นไปได้แต่จะให้มานั่งเก็บเวลใหม่อัพสกิลใหม่ก็ขี้เกียจเล่นกันไปอีกแต่ข่าวล่าสุดจาก Polish magazine PSX XTREME (จาก Reddit) ได้ให้ข้อมูลว่า Cyberpunk 2077 จะมีโหมด New Game Plus แน่นอน อย่างไรก็ตามโหมด New Game Plus นั้นอาจจะไม่ได้มากับตัวเกมด้วยในตอนแรก แต่อาจถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง (เหมือนกับ The witcher 3) ทั้งนี้ตัวเกมก็ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนวันวางจำหน่าย ก็หวังว่าเราจะสามารภเล่นโหมด New Game Plus กันได้เลยในวันที่เกมวางจำหน่าย แะลดูเหมือนว่างาน Gamescom 2019 ที่กำลังจะมาถึงนี้เราจะได้ดู Gameplay Demo ของ Cyberpunk 2077 อีกด้วย Credit : Gamingbolt ( https://gamingbolt.com/cyberpunk-2077-will-have-new-game-plus-mode ) ติดตามข่าวสารเกมต่างได้ที่ Website : https://gamefever.co Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH  
05 Aug 2019
การปรับเสริมเติมแต่งตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 สามารถทำได้หลากหลายมากๆ
จากการสัมภาษณ์กับ Mateusz Tomaszkiewicz ผู้เป็น Quest Director ของเกม Cyberpunk 2077 เกี่ยวกับการปรับแต่งตัวละครด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เขาได้พูดไว้ได้น่าสนใจเลยทีเดียว “การทำงานของระบบปรับเสริมเติมแต่งคือ คุณสามารถแทนที่ร่างกายตัวเองได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตรงแขน ขา ตัว หรือว่าระบบประสาท และมันสามารถทำได้หลากหลายมากๆ” เขากล่าว “ยกตัวอย่างเช่น การแทนที่ขาตัวเองด้วยขาไซเบอร์จะทำให้คุณสามารถกระโดดสองจังหวะได้ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงสถานที่ที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีปกติ” “นอกเหนือจากการแทนที่แล้ว ก็สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างขาไซเบอร์ที่สามารถกระโดดสองจังหวะ คุณสามารถอัพเกรดต่อเพื่อให้การวิ่งส่งเสียงเงียบลง เพื่อใช้ในการลอบเร้นได้ เป็นต้น พวกเราออกแบบของอวัยวะไซเบอร์ไว้เป็นเวลาพอสมควร และพวกมันออกมาเท่มาก” ยิ่งได้ยินแบบนี้ยิ่งรอไม่ไหวแล้ว! เชื่อว่าต้องมีชาวเกมเมอร์อัพเกรดให้กลายเป็นคนเหล็กแน่ๆ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บน Xbox One, PS4 และ PC อ้างอิง: gamingbolt
29 Jul 2019
เผยรายละเอียดระบบพัฒนาตัวละครในเกม Cyberpunk 2077
จนถึงตอนนี้ เชื่อว่าเกมเมอร์ที่ติดตามข่าวสารวงการเกมอย่างใกล้ชิดน่าจะพอรู้กันอยู่แล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 จากผู้พัฒนา CD Projekt Red จะเปิดให้ผู้เล่นทุกคนสามารถพัฒนาตัวละครหลักหรือ "V" ได้หลากหลายทิศทางมากๆ ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่องและความสามารถ ล่าสุด นิตยสารเกมจากประเทศเยอรมัน Komputer Swiat ได้ออกมาพูดถึงระบบการพัฒนาตัวละครของเกมมากขึ้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ที่ได้ลองเล่นเดโมเกมตัวใหม่จากงาน E3 2019 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับเดโมตัวดังกล่าวนั้นจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการแนะนำตัวละครของนักแสดง Keanu Reaves หรือ Johnny Silverhand ผู้ซึ่งมอบหมายให้ผู้เล่นต้องตามหาผู้นำของแก๊งอาชญากร Voodoo Boys ที่ชื่อว่า Brigitte เพื่อไถ่ถามถึงความเป็นไปของคนรักของ Johnny อีกที โดยสื่อมวลชนจาก Komputer Swiat บอกว่าเขาได้ลองเล่นเดโมตัวนี้หลายครั้งด้วยตัวละครที่พัฒนามาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ตัวที่พัฒนามาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะไปจนถึงตัวละครที่เน้นสาย Netrunner หรือแฮ๊กเกอร์ที่มีความสามารถในการควบคุมเครื่องจักรด้วย โดยคลาสตัวละครของเกมจะมีความลื่นไหลมาก สามารถปรับแต่งความสามารถจากหลายๆ คลาสมารวมกันได้อีกด้วย การเก็บเลเวลในเกมจะไม่ได้แตกต่างจากเกม RPG ทั่วไปมากนัก โดยผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์จากการทำภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ ในเกม ซึ่งเมื่อเก็บได้ถึงจุดหนึ่งก็จะเลเวลอัพนั่นเอง ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าเลเวลในเกมจะเต็มที่เท่าไหร่ แต่ผู้สื่อข่าวจาก Komputer Swiat เผยว่าตนได้เล่นเป็นตัวละครเลเวล 18 ซึ่งผู้พัฒนาบอกว่าเป็นตัวละครระดับกลางๆ เกม ในขณะที่ศัตรูที่ได้พบในเดโมมีเลเวลสูงที่สุดถึง 45 นอกจากนี้ ผู้เล่นจะสามารถพัฒนาค่าสถานะต่างๆ อย่างเช่นความแข็งแกร่ง (Strength) ความว่องไว (Reflexes) ความฉลาด (Intelligence) เป็นต้น โดยค่าสถานะในเกมจะมีถึง 12 ชนิด และจะพัฒนาโดยการติดตั้ง cyberware และอวัยวะจักรกลต่างๆ ผู้เล่นบางคนอาจจะสามารถเล่นเกมตั้งแต่ต้นจนจบได้โดยไม่ฆ่าใครเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการพัฒนาค่าสถานะต่างๆ เหล่านี้ สุดท้ายคือเรื่องความถนัดของ V ในการใช้อาวุธต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราใช้อาวุธชนิดนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง (เช่นใช้ปืนพกบ่อยๆ ก็จะมีความถนัดปืนพกสูงขึ้น) โดยความถนัดจะเพิ่มความสามารถในการใช้อาวุธเช่นทำให้เล็งแม่นขึ้นหรือเติมกระสุนเร็วขึ้น แถมอนิเมชั่นการใช้อาวุธต่างๆ ยังจะเปลี่ยนไปตามความถนัดด้วย ผู้เขียนจาก Komputer Swiat ยกตัวอย่างอนิเมชั่นเติมกระสุนของ V ที่นอกจากจะเร็วขึ้นแล้วยังมีท่าทางที่ดูชำนาญมากขึ้นตามระดับด้วย เห็นได้ชัดว่าการเปิดทางเลือกอันหลากหลายให้ผู้เล่นเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาให้ความสำคัญมากๆ แต่จะอิสระตามที่คุยเอาไว้แค่ไหน รอติดตามได้เมื่อเกมวางจำหน่ายสำหรับ PS4, Xbox One, PCในวันที่ 16 เมษายน 2020 จ้า! อ้างอิง: https://gamerant.com/cyberpunk-2077-progression-leveling/
26 Jul 2019
เปิดโลก Cyberpunk 2077 (ฝ่าย อาชีพ โลก ตำนาน)
แม้เกมที่แค่เปิดตัวมาก็เรียกเสียงตอบรับได้ดีมากๆ อย่าง Cyberpunk 2077 จะยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายออกมา แต่เนื่องจากเกมดัดแปลงมาจากเกมกระดาน RPG ในชื่อ Cyberpunk 2020 เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมค่อนข้างมาก ทางเว็บไซต์ VG247 ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเกม Cyberpunk 2020 มาเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมอย่างละเอียดยิบให้เราๆ เกมเมอร์ที่รอคอยเกมนี้ได้ทราบกัน ซึ่งพวกเรา GameFever ได้ทำการสรุปออกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โลกของเกม โลกของ Cyberpunk  เกิดขึ้นในยุคอนาคตแบบ Dystopia ที่มนุษย์กับเทคโนโลยีหลอมรวมกันจนเส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนั้นมีอยู่น้อยเต็มที วิทยาการพัฒนาไปถึงขั้นที่มนุษย์สามารถหาชิ้นส่วนมาอัพเกรดร่างกายตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อยากฉลาดขึ้น นั่นไม่ใช่ปัญหา ขาขาด เบื่อขาเก่า ก็หามาเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ ผู้คนถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คนที่มีทุกสิ่ง กับคนที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศอเมริกาหายไปจากแผนที่โลก ล่มสลายลงจากปัญหาล้มละลาย ความอดอยาก สงคราม การประท้วง สิ่งที่ขึ้นมาแทนคือบริษัทมหาอำนาจที่สร้างกำแพงเหล็กและคอนกรีตหนา เฝ้าเวรยามด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยชั้นแนวหน้า ด้านในกำแพงคือผู้ที่โชคดีพอได้ทำงานในบริษัทใหญ่ยักษ์เหล่านั้น ส่วนนอกกำแพงนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล Old Cities (เมืองเก่า) ใน Old Cities หรือเมืองเก่าเป็นที่ที่รัฐบาลที่เหลืออยู่ต่อสู้กับแก๊งและกลุ่มไร้กฎหมายต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงพื้นที่ The Dust ศูนย์กลางของประเทศอเมริกากลายเป็นดินแดนแห้งแล้งที่บรรดากลุ่ม "ครอบครัว" เร่ร่อน เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ตลอดเวลา ด้วยรถบ้าน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถตู้ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด Space (อวกาศ) ในอวกาศเป็นที่ที่บริษัท Orbitals ซึ่งควบคุมโดยประเทศในกลุ่มยูโรโซน เล็งอุปกรณ์ใหญ่ยักษ์มาที่โลก เตรียมยิงถล่มใครหน้าไหนก็ตามที่ขัดขวางการครอบงำทางเศรษฐกิจของตน และท่ามกลางเรื่องราวทั้งหมดนี้ยังมีกลุ่มคนผู้กล้าหาญกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกว่า Edgerunner เคลื่อนไหวในความมืด ต่อรอง ทำภารกิจ ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระ ซึ่งผู้เล่นก็คือหนึ่งในนั้น ฝ่าย Corporations (บริษัท) บริษัทคือฝ่ายที่เข้ามามีอำนาจในโลกของเกมเมื่อรัฐบาลเสื่อมอำนาจลง เข้ามาจัดการเรื่องการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน จ้างทหารรักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ ทำให้เกิดอาชญากรรมขึ้นน้อยมาก และวางบทลงโทษของผู้กระทำผิดอย่างสาหัส ผู้คนของบริษัทเชื่อว่าตัวเองมีอิสระเสรี แต่นั่นหมายถึงการแลกเสรีภาพกับความปลอดภัย Nomads (กลุ่มคนเร่รอน) กลุ่มคนเร่ร่อนคือกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หลายกลุ่ม บางกลุ่มก็คือชาวเมืองทั้งเมือง ซึ่งถูกทิ้งไว้ท่ามกลางความแห้งแล้งจากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความโลภและการเมินเฉยของกลุ่มบริษัท กลุ่มคนพวกนี้เดินทางเร่ร่อนเพื่อหาสถานที่แห่งใหม่ที่เรียกว่าบ้าน ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎของตัวเอง Gangs (แก๊ง) แก๊งคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในด้านมืดของเมือง แก๊งที่ทำสิ่งผิดกฎหมายอย่างค้ายาหรืออาวุธก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในโลกของเกมนี้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแก๊งใหม่ที่น่าเกรงกลัวอย่าง Boostergangs  ซึ่งสมาชิกแก๊งเป็นพวกที่เสพติดการอัพเกรดร่างกายตนเอง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนอัพเกรดใหม่มา Cops (ตำรวจ) ถึงแม้รัฐบาลกลางจะล่มสลายลง แต่บางเมืองก็ยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิมๆ ไว้อยู่ และนั่นยังหมายถึงการมีอยู่ของกฎและผู้คุมกฎอย่างตำรวจ Edgerunners Edgerunners คือซามูไรข้างถนน ทหารรับจ้าง หมาป่าเดียวดาย แล้วแต่ชื่อที่ผู้คนจะเรียก ทำงานที่คนธรรมดาไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาคือเจ้าหน้าที่นิรนามทำงานให้กับผู้ที่ไม่อยากเปิดเผยตัว มีชีวิตอยู่เพื่อเงิน ไม่ภักดีกับใคร และฝากความเป็นความตายของตนไว้ที่ทักษะและไหวพริบของตนเอง นี่คือฝ่ายของผู้เล่น บทบาทและอาชีพ Solos เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ ไม่ว่าจะไรเฟิล ปืนพก หรือเครื่องยิงระเบิด ทำงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือการต่อสู้ Techies (ผู้เชี่ยวชาญ) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการซ่อมแซม ล็อก ปลดล็อก จัดการอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เครื่องมือ อะไรก็ตามที่มีความซับซ้อน สร้างและรื้อของทุกอย่างที่มีคนสร้างขึ้นมา Fixers เป็นคนที่สามารถหาทุกอย่างที่มีคนต้องการมาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอาไว้แบล็คเมล์ ที่อยู่หัวหน้าแก๊ง ปืนไรเฟิลรุ่นหายาก ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ Cops (ตำรวจ) ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และบางครั้งก็เป็นกฎหมายเสียเอง Medias (สื่อ) ในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร คนที่เป็นคนรายงานเรื่องราวก็คือคนที่ควบคุมความจริง คุณอาจเป็นคนที่ถือความจริงเป็นสิ่งสูงสุด หรือจะยอมขายวิญญาณพูดในสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่อยากให้เป็นความจริง Rockers (ชาวร็อค) คุณคือกวีที่ถ่ายทอดผลงานผ่านเสียงเพลง ต่อสู้เพื่อดนตรีและส่งต่อข้อความที่เชื่อ เป็นไอดอลของกลุ่มคนจำนวนมาก Corps (บุคคลของบริษัท) คุณคือคนที่ขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดก่อนใคร ใช้อุปกรณ์อัพเกรดร่างกายที่หรูหราที่สุด ใส่สูทราคาแพงกว่าบ้านของใครหลายคน คุณมองหาข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอยู่เสมอ โดยไม่ลังเลที่จะจ้างใครมาทำงานแทนหรือทำให้มือตัวเองสกปรก Netrunners (นักท่องไซเบอร์) เน็ตรันเนอร์คือแฮ็กเกอร์ที่ติดตั้งระบบอินเตอร์เฟซคอมพิวเตอร์ลงในร่างกาย ทำให้ไม่ว่าอะไรที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เน็ตรันเนอร์ก็สามารถเจาะเข้าไปเอามาได้หมด สำหรับใครที่พลาดเทรลเลอร์ของเกมไปสามารถดูได้ที่นี่
04 Jul 2018
รายละเอียดเดโม Cyberpunk 2077: มากกว่าแค่ Witcher เวอร์ชั่นอนาคต
เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดกับเกม Cyberpunk 2077 จากค่าย CD Projekt Red (ผู้ให้กำเนิดเกม The Witcher) ที่หลายคนต่างคาดหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเกมไม่แพ้ผลงานอื่นๆ ของค่าย แม้ว่าผู้พัฒนาจะยังไม่เคยเปิดเผยเกมเพลย์จริงๆ ของเกมออกมาให้ได้เห็นกันเลยซักนิด ล่าสุด สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้ออกมาเปิดเผยว่านอกจากเทรลเลอร์ที่ค่ายนำไปเปิดตัวที่งานแถลงข่าวของ Microsoft แล้ว ทางผู้พัฒนายังได้เชิญสื่อหผลายๆ สำนักเข้าไปรับชมเดโมของเกมความยาวกว่า 45 นาที ที่แสดงให้เห็นถึงระบบการเล่นต่างๆ ของเกมอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว โดยสามารถสรุปรายละเอียดต่างๆ ได้ดังนี้: เกมจะใช้ระบบต่อสู้แบบ FPS แต่จะมีความสามารถต่างๆ ให้ใช้ไปด้วยคล้ายๆ เกมอย่าง Bioshock หรือ Borderlands เกมให้ความสำคัญกับความเป็น RPG ก่อนเป็นอันดับแรก หมายความว่าผู้เล่นจะยังจำเป็นต้องพัฒนาความสามารถและเลเวลของตัวละครในการผ่านเควสต่างๆ ด้วย พูดง่ายๆ ก็คือแค่ยิงเก่งอย่างเดียวไม่สามารถผ่านเควสในเกมนี้ได้ (ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกมจะมีตัวเลขความเสียหายเด้งออกมาจากศัตรูเวลาโดนยิงด้วย คล้ายๆ เกมอย่าง Borderlands) ผู้เล่นจะต้องคุยกับ NPC ในเมืองเพื่อรับเควส และจะมีระบบสนทนาที่ลึกซึ้งแบบเดียวกับใน The Witcher ด้วย ระบบสนทนาในเกมจะส่งผลต่อเกมได้อย่างลึกซึ้ง ผู้เล่นอาจจะสามารถใช้การเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์บางชนิดได้แทนการต่อสู้อย่างเดียว ผู้เล่นจะสามารถสร้างตัวละครของตัวเองได้ โดยสามารถปรับแต่งได้ทั้งหน้าตา เพศ และประวัติตัวละครแบบคร่าวๆ ไม่ว่าผู้เล่นจะสร้างตัวละครออกมาอย่างไร ตัวละครผู้เล่นจะยังคงเป็นทหารรับจ้างชื่อว่า V เหมือนกัน ผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งค่าความสามารถของตัวละครได้ 6 อย่าง ประกอบไปด้วย Strength (ความแข็งแกร่ง), Constitution (ความทนทาน), Intelligence (ความฉลาด), Reflexes (ปฏิกิริยาตอบโต้), Tech (เทคโนโลยี), และ Cool (ความเท่) ค่าความสามารถ Cool หรือความเท่จะมีผลต่อค่า Street Cred (ชื่อเสียง) ของเรา ซึ่งมีผลต่อการปลดล๊อคพื้นที่ใหม่ๆ ในเมือง โดยค่า Cool และ Street Cred จะสามารถเพิ่มได้ด้วยการทำภารกิจหลักและย่อย หรือกระทั่งการแต่งตัวแนวๆ (ผู้สื่อข่าวยกตัวอย่างจากเดโมเป็นเสื้อคลุมหนังตัวหนึ่ง ที่นอกจากจะเพิ่มพลังป้องกันแล้วยังมีโบนัส Street Cred +5% อีกด้วย) ผู้เล่นสามารถเพิ่มความสามารถต่างๆ ให้ตัวละครได้โดยการเปลี่ยนอวัยวะจักรกล โดยในเดโมมีการแสดงอวัยวะสองชิ้น ชิ้นแรกเป็นมือจักรกลที่เพิ่มความรุนแรงของปืน ในขณะที่อีกอันเป็นลูกตาเครื่องจักรที่ทำให้ผู้เล่นสามารถแสกนดูจุดอ่อนของศัตรูและยานพาหนะต่างๆ ได้ ในการต่อสู้สามารถทำความเสียหายได้ 4 ชนิด คือ Physical (กายภาพ), Thermal (ความร้อน), EMP (พลังแม่เหล็กไฟฟ้า) และ Chemical (เคมี) โดยศัตรูแต่ละชนิดอาจจะมีประเภทความเสียหายที่เป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็งแตกต่างกันไป (สามารถใช้ลูกตาจักรกลแสกนดูก่อนได้) นอกจากนี้ยังมีระบบ Chip ที่จะเพิ่มความสามารถให้ตัวละครผู้เล่นอีกทาง โดยในเดโมได้แสดง Chip ที่จะทำให้ผู้เล่นมีหุ่นยนต์แมงมุมคอยเดินตามและช่วยสู้ตลอดเวลา จะมีระบบการขับรถไปมาในเมือง และมีระบบการขับรถไล่ยิงกันเหมือนในหนังแอคชั่นด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจาก IGN กล่าวเพิ่มเติมว่ายังไม่สามารถบอกได้จากเดโมว่าเกมจะให้เราขับรถได้อย่างอิสระแค่ไหน หรือเมืองจะกว้างขนาดไหน โดยในระหว่างขับรถจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นมุมมองบุคคลที่สามได้ จะได้มองเห็นหน้าตัวละครตัวเอง (หรือจะใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งเหมือนเดิมก็ได้) ผู้เล่นสามารถซื้อรถเป็นของตัวเอง หรือขโมยเอาก็ได้ เกมจะตั้งอยู่ในเมืองชื่อว่า Night City ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสูงหลายชั้น ผู้เล่นสามารถเดินทางขึ้นลงตามชั้นต่างๆ ของเมืองได้อย่างอิสระ โดยผู้พัฒนาเปิดเผยว่าจะมีตึกที่สามารถเข้าไปเดินได้นับร้อยตึก และมีห้องให้เข้าไปสำรวจได้นับพันๆ ห้อง เกมยังคงคอนเซป เกมสำหรับผู้ใหญ่ ของค่าย CD Projekt Red หมายความว่าใครที่หวังจะได้เห็นฉากกินตับหรือคอนเทนต์เรต ฉ20+ ไม่ผิดหวังแน่นอน สื่อ IGN ยกตัวอย่างฉากที่ตัวละคร V อุ้มร่างของหญิงสาวเปลือยเปล่าเดินลงบันใดมาฉากหนึ่ง ในขณะที่อีกฉากหนึ่งตัวละคร V ในเดโม (ที่เป็นผู้หญิง) ยืนเปลือยอกในห้องนอนตัวเอง ในตอนนี้ผู้พัฒนายังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับวันวางจำหน่ายเกม แต่ถ้ามีวีดีโอเดโมเมื่อใหร่ ทีมงาน GameFever จะนำมาให้ชมกันก่อนใครแน่นอน! ชมเทรลเลอร์เกม ที่นี่ Credit : IGN
13 Jun 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "ระบบเกม"
มือดีทำ Mod ขนาด 11 GB แก้ปัญหาเรื่องเสียงทั้งหมดภายใน Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายมาได้เกือบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะมีโอกาสได้เล่นกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดยในขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีเพื่อนๆ หลายคนที่เจอกับปัญหาเรื่องเสียงภายในเกม ที่บางครั้งก็ดังจนเกินไป และบางครั้งก็เบาจนเกินไป จนบางที่ก็ไม่ได้เสียงการสนทนาที่สำคัญๆ แต่ดีใจได้เลย เพราะวันนี้ผมมี Mod ขนาด 11 GB ที่แก้ปัญหาเรื่องนี้มาให้ทุกคนได้รู้จักกัน Modder ที่ชื่อว่า Floyd2099 ได้ปล่อย Mod ตัวใหม่ที่มีขนาด 11 GB ซึ่งช่วยปรับระดับความสมดุลของไฟล์เสียงกว่า 800 ตัวในเกมออกมา โดยมันจะปรับระดับความเหมาะสมของเสียงเพลงในฉากต่างๆ ของเกมรวมไปถึงฉากต่อสู้ให้ไม่ดัง หรือเบาจนเกินไปครับ ขอออกตัวก่อนเลยว่า Mod ตัวนี้ไม่ได้เอาไฟล์เสียงอะไรออกไป เพียงแค่ปรับระดับความดังของมันเท่านั้น ดังนั้นไม่มีความเสียหายต่อไฟล์เกมแน่นอน Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
08 Feb 2021
Cyberpunk 2077 ปล่อยอัปเดต Hotfix 1.12 ให้เรากลับมาลง Mod ได้แล้ว!
หลังจากมีข่าวเรื่องไฟล์ DLSS ตัวหนึ่งในไฟล์เกม Cyberpunk 2077 ที่อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นถูกโจมตีจากเหล่าแฮกเกอร์ได้ ทางเราก็แนะนำให้ทุกคน Uninstall Mod ทั้งหมดที่ลงไว้ก่อน หรือถ้าจะให้ดีลบลงใหม่ไปเลยหนึ่งรอบ วันนี้ทาง CD Projekt Red ก็ได้ปล่อยอัปเดต Hotfix 1.12 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ออกมาแล้ว! ประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของเกมวันนี้ว่าอัปเดต Hotfix 1.12 ได้ถูกปล่อยออกมาแล้วตอนนี้ ซึ่งมีการแก้ไข 2 ปัญหาในอัปเดตครั้งนี้คือหนึ่งเรื่องไฟล์ DLSS ที่อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นโดนแฮกจากผู้ไม่ประสงค์ดี และการทำงานของ Buffer มากเกินความจำเป็น ดังนั้นหมายความว่าใครอยากลง Mod ในเกม Cyberpunk 2077 สามารถทำได้อย่างอิสละเลยครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Hotfix 1.12 is now available on PC! This update addresses the vulnerability that could be used as part of remote code execution (including save files): - Fixed a buffer overrun issue. - Removed/replaced non-ASLR DLLs. pic.twitter.com/LAkBfVpnXf — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) February 5, 2021 Credit: GamingBolt
08 Feb 2021
การโหลด Mod มาใช้ใน Cyberpunk 2077 อาจทำให้เครื่องของผู้เล่นถูกแฮ็กได้!
CD Projekt Red ออกมาเตือนผู้เล่นผ่านทาง Twitter เมื่อคืนนี้ว่า "แนะนำให้ผู้เล่นทุกคนที่โหลด Mod หรือไฟล์เซฟเกม Cyberpunk 2077 ของคนอื่นมาให้ดี เนื่องจากมันอาจทำให้เครื่อง PC หรือ PS4 ของผู้เล่น อาจถูกแฮ็กโดยมิจฉาชีพได้" ซึ่งสาเหตุของความเสี่ยงดังกล่าวเหมือนจะมาจากไฟล์นามสกุล DLL ตัวหนึ่งของเกม ที่สามารถใช้ในการรันโค้ดบนเครื่อง PC หรือ PS4 และควบคุมจากระยะไกลได้ เรื่องนี้เหมือนจะถูกค้นพบโดยผู้ใช้งาน Reddit ที่ชื่อว่า Romulus_Is_Here โดยเขายืนยันว่าไฟล์ DLL ดังกล่าวสามารถใช้ควบคุมเครื่อง PS4 และ PC ได้จริงๆ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้เล่นอย่างมาก จากรายงานของ Eurogamer ทาง CDPR เหมือนจะทราบถึงปัญหานี้ และกำลังดำเนินการแก้ไขอย่างเร็วที่สุดอยู่ โดยก่อนที่จะมีการปล่อยอัปเดตแก้ไขออกมา ผู้พัฒนาอยากให้ผู้เล่นระวังการโหลด Mod จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ก่อนครับ If you plan to use @CyberpunkGame mods/custom saves on PC, use caution. Weve been made aware of a vulnerability in external DLL files the game uses which can be used to execute code on PCs. Issue will be fixed ASAP. For now, please refrain from using files from unknown sources. — CD PROJEKT RED CS (@CDPRED_Support) February 2, 2021 แรกเริ่มเดิมที CDPR สนับสนุนให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวเกมได้อย่างอิสระอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ไฟล์ DLL ของพวกเขามีโอกาสสร้างความเสี่ยงให้กับผู้เล่น จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ครับ และหวังว่าเราจะได้เห็นอัปเดตที่แก้ไขเรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาโดยเร็ว ส่วนสำหรับใครที่มีการลง Mod หรือโหลดไฟล์เซฟเกมของคนอื่นมา ผมแนะนำให้เอาออก หรือลบเกมลงใหม่ก่อนเลยดีกว่าครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
03 Feb 2021
Cyberpunk 2077 อัปเดต 1.1 แก้ไขบัคเควส Down On The Street แล้ว!
วันที่ทุกคนจะได้เล่น Cyberpunk 2077 อย่างสบายใจบนทุกแพลท์ฟอร์มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ด้วยการออกแพตช์ 1.1 มาก่อนหน้านี้ก็ทำให้ตัวเกมเล่นได้ราบรื่นขึ้นบน PS4 กับ Xbox One ที่มีปัญหา อย่างไรก็ตามแพตช์ดังกล่าวได้ทำให้เกิดบัค ซึ่งทำให้ไม่สามารถเล่นเนื้อเรื่องของเกมเควส "Down On The Street" ในช่วงท้ายได้ สร้างความรู้สึกสับสนให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก โดนวันนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วครับ มีการประกาศอัปเดตแพตช์ Hotfix 1.11 ออกมาผ่านหน้าเว็บไซต์ของเกมวันนี้ ซึ่งอัปเดตด่วนนี้ได้แก้ปัญหาบัคช่วงท้ายของเควส Down On The Street และปัญหาไอเทมย้ายช่องเองภายในห้องเก็บของ ก่อนหน้านี้ทาง CDPR เคยประกาศออกมาว่าอัปเดต 1.2 จะมาภายในเดือน กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ โดยหลังจากแพตช์นี้ถูกปล่อยออกมา ตัวเกมจะสามารถเล่นได้บนทุกเครื่องอย่างลื่นไหล่แล้ว อดใจรอกันอีกไม่นานครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
29 Jan 2021
Cyberpunk 2077 ปล่อย Official Modding Tools สำหรับปรับแต่งเกมแล้ว
หลังจากวางจำหน่ายออกมาไม่กี่วัน Cyberpunk 2077 ก็มี Mod มากมายที่ทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรันเกมจากผู้เล่น และ Mod ที่ปรับแต่งโครงสร้างของเกม (เช่นไม่จำกัดเพศในการจีบตัวละคร) ออกมามากมาย และหลังจากนี้เราอาจจะได้เห็น Mod ที่ปรับแต่งเกมจัดเต็มกว่านี้มากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจาก Official Modding Tools จากทาง CDPR เพิ่งถูกปล่อยออกมาวันนี้ครับ! การที่ผู้พัฒนาปล่อย Tools ออกมาเองแบบนี้ จะทำให้เหล่า Modder สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก และคงส่งผลให้เราเห็น Mod ที่มีความหลากหลายมากกว่านี้ในอนาคต ไม่แน่ว่าอาจถึงขนาดมีซีรีส์เควสรองชุดใหม่ หรือสกิลสายใหม่ขึ้นมาให้เราอัพเลยก็เป็นได้ (เช่นเดียวกับเกม Skyrim) ซึ่งมันจะทำให้การเล่น Cyberpunk 2077 อาจมีความหลากหลายมากขึ้นหลังจากนี้ครับ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่สนใจจะเริ่มลง Mod ในเกม ด้วยความที่หากลงแบบยุ่งกับไฟล์เกมโดยตรง จะเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ หากวันหนึ่งต้องการจะเอาออก ผมจึงแนะนำให้เข้าไปศึกษาวิธีการใช้ Nexus Mods Manager ไว้ครับ เพราะมันจะทำให้ชีวิตของเพื่อนๆ ง่ายขึ้นเยอะเลยเวลาต้องการจะลง Mod ในเกม Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
27 Jan 2021
Cyberpunk 2077: Mod ใหม่เอาใจสายขี้เหงา ทำให้ V มีเพื่อน NPC ติดตามตลอดเวลา
ในเกม Cyberpunk 2077 แม้ว่าจะมี NPC บางตัวมาร่วมทำภารกิจด้วยแบบประปราย แต่ตัวเอก V ของเราก็มักจะต้องฉายเดี่ยวซะส่วนใหญ่ อาจทำให้เกมเมอร์สายขี้เหงาหลายคนรู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจขึ้นมาได้ไม่น้อย แต่ความเหงาของคุณจะหมดไปเมื่อใช้ Mod เกมตัวใหม่ที่พัฒนาโดยคุณ SiJiaoCunDeDaZhuangJi จากเว็บ NexusMod เพราะจะทำให้เหล่า NPC เพื่อนร่วมทางทั้งหมด (River, Saul, Judy, Takemura) ร่วมเดินทางและทำภารกิจไปกับคุณพร้อมๆ กันตลอดเวลา! สำหรับ Mod ตัวนี้จะมาในรูปแบบของไฟล์เซฟเกม ซึ่งจะทำให้ Cyberpunk 2077 รู้สึกเหมือนเกม Mass Effect ที่มีเพื่อนๆ เดินตามหลังคุณตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Mod ตัวนี้ก็ยังมีข้อจำกัดแปลกๆ อยู่หลายข้อ เช่นในกรณีที่ทำการ Fast Travel จะมีเพียง Saul เท่านั้นที่จะวาร์ปตามผู้เล่นไป ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ จะยืนรอผู้เล่นอยู่เฉยๆ ตรงจุดที่กด Fast Travel (สามารถเดินทางกลับไปรับมาร่วมทีมอีกครั้งได้) นอกจากนี้ หากผู้เล่นทำภารกิจเนื้อเรื่องประจำตัวละครนั้นๆ จบ (ทั้งภารกิจหลักและภารกิจเสริม) จะทำให้ตัวละครตัวหยุดติดตามผู้เล่นไปเลย โดยภารกิจของตัวละครแต่ละตัวประกอบไปด้วย: Judy: ภารกิจเสริม Ex-factor River: ภารกิจเสริม I Fought the Law Takemura: ภารกิจเนื้อเรื่อง Room 303 Saul: ภารกิจเสริม Riders on the Storm ที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นจะไม่สามารถสร้างตัวละครใหม่จองตัวเองได้ และ Mod จะบังคับให้ต้องเล่นเป็นตัวละคร V ชายเลเวล 50 ที่ปลดล๊อค Perk ทั้งหมดมาแล้วเท่านั้น นับว่าเป็น Mod ที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งที่น่าจะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกม Cyberpunk 2077 ของผู้เล่นหลายๆ คนมีความหลากหลายมากขึ้น ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีเกมเมอร์มือดีทำ Mod แปลกๆ อะไรออกมาให้เราได้ลองเล่นกันอีกในอนาคต Credit: Polygon
15 Jan 2021
Cyberpunk 2077 บน PS5 กับ Xbox Series X จะมีอัปเดตให้สามารถใช้งานฟังก์ชันของเครื่องได้
Cyberpunk 2077 ได้วางจำหน่ายแล้ว แน่นอนว่าในเมื่อมาหลังการวางขายของเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S ตัวเกมเลยได้ลงให้กับเครื่องทั้ง 2 เครื่องด้วย ซึ่งแม้จะลงให้กับเครื่องเจนใหม่แล้ว แต่ตัวเกมก็ยังไม่ได้นำระบบใหม่ๆ ที่มากับเครื่องดังกล่าวมาใช้งานเลย (Haptic Feedback, Adaptive Triggers, Tempest 3D Audio, ฯลฯ) โดยดูเหมือนหลังจากนี้ทางผู้พัฒนาจะอัปเดตให้ตัวเกมใช้งานระบบดังกล่าวได้ทีหลังครับ จากบทสัมภาษณ์กับคุณ Marcin Iwiński หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท CD Projekt Red จาก PushSquare เขาได้กล่าวว่า "อัปเดตของตัวเกมบนเครื่องเจนใหม่หลังจากนี้ จะมีการนำระบบ และฟังก์ชั่นพิเศษของตัวเครื่องใส่เข้าไปในเกมด้วย" ดังนั้นคิดว่า Ray Tracing เองก็น่าจะถูกทำให้เปิดได้บนเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S เช่นกัน ในอัปเดตหลังจากนี้ ซึ่งคิดว่าน่าจะมาพร้อมๆ กับอัปเดตใหญ่ช่วงต้นปีหน้าครับ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
17 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีช่วยชีวิต Takemura
Cyberpunk 2077 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีภารกิจหลัก ภารกิจเสริมที่เยอะมากๆ และแต่ละภารกิจนั้นก็น่าสนใจมากเช่นกันเพราะแต่ละภารกิจนั้นผู้เล่นสามารถเลือกตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปได้ โดยการตัดสินใจในแต่ละครั้งนั้นจะมีผลกระทบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ภารกิจ Search And Destroy ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะช่วยหรือจะหนี ในวันนี้พวกเรา GameFever จะพาทุกคนมาดูทางเลือกของภารกิจนี้กันว่าทำอย่างไหนคือการช่วยชีวิต Takemura และแบบไหนคือการปล่อยให้เขาตาย. 1.ช่วงเริ่มก่อนภารกิจ ในภารกิจหลัก Search And Destroy นั้นผู้เล่นจะมีโอกาสในการช่วยชีวิตทาเคมูระ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าการโฟกัสหาตัวเขานั้นทำได้ยาก และไม่มีตัวเลือกให้เราตัดสินใจต้องใช้ผลของการกระทำเท่านั้น โดยในช่วงก่อนเริ่มภารกิจนั้น ช่วงที่ผู้เล่นอยู่กับทาเคมูระที่เซฟเฮาส์ จะมีการบุกโจมตีโดยกลุ่มลูกน้องของอาราซากะ และผลของการบุกถล่มในครั้งนี้ทำให้พื้นถล่มจนผู้เล่นตกลงไปที่โถงทางเดินด้านล่างของอพาร์ทเมนท์ จากนั้นถูกผู้เล่นจะฟื้นขึ้นมาจากการปลุกของ Johny Silverhand และเราต้องกลับไปหาทาเคมูระโดยเร็วที่สุด 2.ตัดสินใจว่าจะช่วยหรือจะหนี! การที่เราจะกลับไปหาทาเคมูระได้นั้นตัวเกมจะไม่ได้บอกตำแหน่งที่ชัดเจน ซึ่งในขณะที่ผู้เล่นเดินมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายไฟนีออนสีฟ้า ( ตรงนี้แล้วแต่คนจะมองนะครับเพราะบางคนบอกว่ามันคือป้ายสัญลักษณ์บวก บางคนก็ว่ามันคือสัญลักษณ์ไม้กางเขน ) ตรงจุดนี่แหละผู้เล่นจะพบกับทางแยก 2 แขนง ซึ่งการตัดสินใจด้วยการกระทำต่อไปนี้จะมีผลอันใหญ่หลวงต่อผู้เล่นในอนาคต ดังนี้ : เลือกทางขวา - เพียงเดินไปเรื่อยๆ และผ่านเส้นทางนี้ออกไปจะเป็นการทิ้งทาเคมูระและปล่อยให้เขาตาย เลือกทางซ้าย - การเข้าไปในรอยแตกเล็กๆ ถือเป็นการกลับเข้าไปในอพาร์ทเมนท์และนี่คือ วิธีช่วยชีวิตทาเคมูระ! 3.ห้อง 303 คือคำตอบ! ถ้าเลือกทางซ้ายเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้เล่นจะต้องจัดการกับบรรดาลูกน้องของอาราซาระ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปสองชั้น เดินไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวขวาจะพบห้องหมายเลข 303 เมื่อเข้าไปให้จัดการกับทหารภายในนั้นและช่วยทาเคมูระออกจาก ตรงนี้ผู้เล่นห้ามกลับทางเดิมเพราะจะเป็นการทำให้ทาเคมูระตาย ให้เราไปยังทางเดินยาวๆ อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าทาเคมูระตายเขาจะไม่มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ตลอดไปจนจบเกม แต่ถ้าผู้เล่นช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ เขาจะมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของเส้นทางฮานาโกะ. Credit : Thegamer  
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีซื้อรถในเกม
ในตอนนี้เกม Cyberpunk 2077 ถือเป็นเกม RPG โลกเปิดที่มอบประสบการณ์มากมายให้กับเกมเมอร์ทุกท่านด้วยระบบมากมายที่ทำให้เราหลงใหล และหนึ่งในนั้นก็คือระบบการขับรถที่จะช่วยให้เราสามารถขับขี่ไปทำเคสวต่างๆ และใช้ชมบรรยากาศต่างๆ ของเกมได้อีกดี แต่ว่าที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้นั่นคือ รถทุกคันที่ผู้เล่นทำการขโมยมานั้นจะไม่สามารถเก็บไว้ใช้ตลอดได้ มันจะหายไป! ดังนั้นในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะขอพาทุกคนมาดูกับวิธีซื้อรถในเกมนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.จะหารถได้ที่ไหน? เมื่อผู้เล่นดำเนินเรื่องไปจนถึง Act 2 ของเกมแล้วจะสามารถเริ่มหายานพาหนะมาใช้ขับเพื่อท่องเที่ยวไปตามพื้นที่ต่างๆ ของเมือง Night City โดยผู้ให้บริการจะส่งข้อความเกี่ยวกับรถที่อยู๋ใกล้ๆ มาให้กับ V ข้อความเหล่านี้จะเป็นข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถ โดยสามารถเข้าไปดูข้อความเหล่านี้ได้ที่แท็บ Rides บริเวณข้อความของเมนูบันทึกประจำวันและจะมีข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นของรถต่างๆ ช่วยให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น. 2.วิธีการซื้อรถยนต์ หลังจากที่ผู้เล่นได้อ่านรายละเอียดข้อมูลของรถที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเจอรถที่สนใจก็สามารถปักหมุดเส้นทางเพื่อไปยังตำแหน่งที่ตั้งของรถคันนั้น เมื่อไปถึงเราสามารถทำการสั่งซื้อรถคันนั้นได้เลยและจะถูกเพิ่มไปในรายการเรียกรถ โดยผู้ให้บริการขายรถจะทำการส่งข้อความมาที่ตัวผู้เล่นเพื่อให้ทำการยืนยันคำสั่งซื้อและเมื่อกดยืนยันรถก็จะเป็นของเราทันที โดยหลังจากซื้อรถแล้วมันจะสามารถเรียกใช้งานได้และไม่หายไปหากเราลืมไว้หรือเข้าฉากคัตซีนแล้วไปโผล่ที่จุดอื่น เรียกได้ว่าดีกว่าการขโมยรถมากๆ   3.วิธีเลือกและวิธีเรียกรถ หลังจากที่ผู้เล่นทำการซื้อรถเรียบร้อยแล้วจะสามารถทำการเรียกรถให้มาหาเราได้ด้วยการกดปุ่มที่แต่ละแพลตฟอร์มกำหนดมาให้ ( สำหรับ PC นั้นให้กด V ) ซึ่งถ้าเป็นเจ้าของรถหลายคันการกดปุ่มดังกล่าวจะเป็นการเรียกลิสต์รถทั้งหมดขึ้นมาให้เราเลือก สิ่งนี้จะมีประโยชน์มากๆ เพราะว่าจะช่วยให้เราสามารถเลือกได้ว่าในภารกิจแบบนี้ควรใช้รถประเภทไหนในการนำมาใช้งานและไม่ต้องเสียเวลาไปหาขโมยจากที่ไหนเลย   4.รถบางคันสามารถปลดล็อคได้จากเควสเสริม ขอเสริมอีกนิดหน่อยว่ารถบางคันนั้นผู้เล่นจะสามารถปลดล็อคและทำการซื้อได้ผ่านการทำเควสเสริมเท่านั้น ซึ่งการทำเช่นนี้ถือเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้ผู้เล่นอยากเล่นเควสเสริมมากขึ้น เพราะนอกจากจะได้สนุกกับเรื่องราวของเควสเสริม ได้เงิน ได้แต้มแล้ว ยังสามารถปลดล็อครถเท่ๆ ให้เราได้อีกด้วย. Credit : Gamerant Gamepressure
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 วิธีรับอาวุธ Mantis Blade ฟรี !! ไม่ต้องเสียเงินซื้อ
หนึ่งในอาวุธที่หลายๆ คนสนใจเป็นอย่างมากในเกม Cyberpunk 2077 นั่นก็คืออาวุธอย่าง Mantis Blade แต่การที่จะซื้ออาวุธชิ้นนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันค่อนข้างมีราคาที่สูงอยู่พอสมควร ซึ่งราคาอยู่ที่ 15000 ยูโรดอลลาร์ (ขั้นต่ำสุด) แต่ว่าทางเรา GameFever TH เองมีจุดที่คุณจะสามารถไปหาอาวุธ Mantis Blade ได้ฟรีๆ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อซักบาท วิธีรับ เริ่มแรกให้เรานั้นไปที่ย่าน "ซิตี้ เซ็นเตอร์" ก่อนครับ ให้เดินมาตรงจุดตรงกลางของย่านนี้ โดยท่านสามารถดูได้จากจุดตำแหน่งเขียวจากรูปด้านล่างได้เลย ซึ่งถ้าท่านมาถึงตามจุดที่พิกัดแล้ว มันจะอยู่ตรงหน้าห้องโถงตรงนี้พอดีครับ ** และแนะนำให้ทุกท่าน Save Game เอาไว้ก่อนนะครับ สำคัญมากๆ ** พอเสร็จให้เรา "ค่อยๆ ย่องเข้าไปข้างในเลยครับ" ข้อควรระวังคืออย่าพยายามให้ศัตรูเห็นคุณเด็ดขาด เพราะศัตรูในจุดนี้ค่อนข้างที่จะโหดมากครับ สามารถจัดการคุณได้ในการโจมตีเพียงไม่กี่ที และพอเดินเข้ามา ผ่านถังขยะทางขวาท่านจะพบกับกล่องๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ สามารถดูจุดได้จากภาพด้านล่างครับ ซึ่งมาเดินเข้าไปดูท่านจะพบกับ Mantis Blade อยู่ในกล่องนี้ครับ แต่ถ้าหากไม่พบให้ท่านทำการ Load Save ใหม่ในจุดที่ท่านพึ่งเซฟไป และเข้าไปที่กล่องเดิมทำจนกว่าจะมี Mantis Blade อยู่ในนั้นครับ และพอได้ของมาแล้ว ให้ท่านไปที่ร้านติดตั้ง Cyberware ที่อยู่ทางซ้ายของ ซิตี้เซ็นเตอร์ที่ชื่อว่า "ริปเปอร์ด็อค" ซึ่งให้ท่านทำการติดตั้งได้เลยครับ เห็นว่าเราจะไม่ต้องเสียเงินเพื่อติดตั้งแต่อย่างใด แค่นี้เราก็มีอาวุธ Mantis Blade เจ๋งๆ ใช้แล้วครับ v v
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 แนะนำวิธีการหาเงินแบบง่าย (รีบทำก่อนโดนลบ)
Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ค่อนข้างหาเงินยากอยู่พอสมควรเลยนะครับ เราจะต้องไล่ทำภารกิจต่างๆ จากงานเสริมต่างๆ เพื่อเก็บหอมรอบริบทีละเล็กทีละน้อยมาซื้อของซักชิ้น แต่ในบทความนี้ทางเรา GameFever TH มีวิธีการหาเงินแบบง่าย ใช้เวลาแปปเดียวก็มีเงินหลักหมื่นมาใช้แล้ว ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย เงื่อนไข เราต้องมี Perk ที่ชื่อว่า "นายช่าง" เสียก่อน โดยจะอยู่ในหมวดหมู่ ความสามารถทางเทคนิค -----> การคราฟต์ ให้เรานั้นขับรถมาตามจุดในแผนที่ด้านล่าง ซึ่งจะเป็นสถานที่ๆ อยู่ในเขตวัตสัน(ตรงสี่เหลี่ยมสีฟ้า) ซูมมาใกล้หน่อยก็จะมีประมาณนี้ ซึ่งเราจะมาอยู่ในสถานที่นี้พอดีครับ จะเป็นแหล่งที่มีตู้กดน้ำเยอะๆ ต่อมาให้เรานั้นหาตู้กดน้ำที่จำหน่ายเครื่องดื่ม นิโคลา (Nicola) หรือตู้กดน้ำที่จำหน่ายเครื่องดื่ม "เถียนฉา" (ตามรูปด้านล่าง) นิโคลา เถียนฉา (สำคัญ) ให้เราเอาเมาส์ของเราชี้ไปที่เครื่องดื่มในตู้อันซ้ายสุดครับ ถ้าเป็นนิโคลาคือเป็นรุ่นธรรมดา ถ้าเป็นเถียนฉาคือกระป๋องเขียว และให้ทำการกดเครื่องดื่มออกมาให้เยอะที่สุดเลยครับ ถ้าหมดก็เปลี่ยนตู้ไล่ทำไปเรื่อยๆ กดมาให้ได้มากที่สุด (ในวิธีนี้จะเสียเงินนิดหน่อยนะครับ กดน้ำกระป๋องละ 10 ยูโรดอลลาร์ แนะนำให้เตรียมเงินไปซัก 5000 ยูโรดอลลาร์ ครับเผื่อไว้) อย่าลืมเก็บกระป๋องที่ตกลงมาบนพื้นด้วยนะ XD อย่างที่บอกว่าตู้มีเยอะมาก ไล่เก็บให้หมดนะ พอเสร็จแล้วให้ท่านกดไปที่ "กระเป๋าเป้" เลือกหาน้ำที่ท่านกดมา และทำการกด "(จับ) แยกชิ้นส่วนไอเท็ม" ซึ่งแยกให้หมดเลยครับ (กระป๋อง "เถียนฉา"ก็ต้องแยกชิ้นส่วนเช่นเดียวกันนะ) พอแยกชิ้นส่วนแล้วท่านจะได้ไอเท็มสองอย่างนี้ครับนั่นคือ "ส่วนประกอบไอเท็มทั่วไป" กับ "ส่วนประกอบไอเท็มระดับไม่ธรรมดา" ต่อมาให้ท่านทำการนำวัสดุสองชิ้นนี้ไปขายที่ตามร้านคาได้เลย โดยรอบนี้ผมนำ "ส่วนประกอบไอเท็มทั่วไป" ไปขายประมาณ 2400 ชิ้น ได้เงินประมาณ 12000 ยูโรดอลลาร์ และนำ "ส่วนประกอบไอเท็มระดับไม่ธรรมดา" ไปขายประมาณ 1100 ชิ้นได้เงินประมาณ 8900 ยูโรดอลลาร์ ซึ่งรวมกันแล้วตัวผมนั้นได้เงินไปประมาณ 21000 ยูโรดอลลาร์ แต่ใช้ทุนในการกดน้ำไปประมาณ 5000 ซึ่งมันได้กำไรประมาณ 16000 เลยทีเดียว
15 Dec 2020
Cyberpunk 2077 แนะนำ Cyberware สำหรับสายการเล่นต่างๆ
Cyberware ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญในเกม Cyberpunk 2077 เพราะมันเป็นเหมือนอุปกรณ์ปรับแต่เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวละครของเรา ซึ่งในเกมนี้มีไซเบอร์แวร์เยอะมากมายให้เราเลือกใช้ ดังนั้นผู้เล่นจึงสามารถนำมาเลือกใช้ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเองได้ โดยสายของผู้เล่นนั้นสามารถสรุปออกมาได้ทั้งหมด 8 สาย ในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะพาทุกคนมาดูว่าไซเบอร์แวร์อะไรบ้างที่เหมาะกับสายและสไตล์ไหนของเกมเมอร์ทุกท่าน ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.สายยิงระยะไกล (สไนเปอร์) Sharpshooters คือ นักแม่นปืนนักซุ่มยิงที่เน้นการต่อสู้จากระยะไกล เพราะฉะนั้นจึงแนะนำให้ใช้ไซเบอร์แวร์ที่จะเสริมประสิทธิภาพและลำกล้องของปืนผู้เล่นเป็นหลัก รวมถึงไซเบอร์แวร์ที่จะช่วยเราจากการอยู่ในระยะไกล ดังนี้ อาวุธ - ปืนสไนเปอร์ Bioplastic Blood Vessels - ช่วยเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดได้ 50% / วินาทีเมื่ออยู่นอกการระยะต่อสู้ เพราะว่าโดยปกติแล้วนักแม่นปืนนั้นจะเว้นระยะห่างของตัวเองกับศัตรู เน้นการอยู่ไกลๆ จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ในระยะใกล้ดังนั้น การมีไซเบอร์แวร์นี้จึงจะช่วยให้เราสามารถหลบหนีออกจาการต่อสู้ชั่วครู่เพื่อให้ HP ได้รับการฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งได้. Kiroshi Optics - สามารถเปิดใช้งานการซูมเลนกล้องแบบพิเศษ และเพิ่มช่อง Mod ไว้ปรับแต่งปืนได้สูงสุด 3 ช่อง Bionic Joints - ช่วยลดแรงถีบของอาวุธระยะไกลได้ 25% นอกจากนี้ยังมีไซเบอร์แวร์อื่นๆ ที่มีความสามารถคล้ายคลึงกันที่เหมาะสำหรับนักแม่นปืน ซึ่งจะมาช่วยในเรื่องของการลดแรงถีบและการส่ายของกระสุน ดังนี้ : Moore Tech Berserk Zetatech Berserk Biodyne Berserk Militech Berserk 2.Gunslingers Gunslingers นั้นก็คือ นักแม่นปืนเช่นกันแต่จะเป็นมือปืนที่เน้นระยะใกล้และระยะกลางมากกว่า ซึ่งสายนี้จะเน้นการใช้อาวุธเป็นหลัก ดังนั้นการใช้ไซเบอร์แวร์เหล่านี้สามารถช่วยผู้เล่นให้เล่นสายนี้ได้ ดังนี้ อาวุธ - ปืนพก ปืนลูกซอง Feedback Circuit - ช่วยให้ผู้เล่นได้รับ 10% ของพลังชีวิตสูงสุดหลังจากการยิงกระสุนปืนที่ชาร์จเต็มแล้ว นั่นหมายความว่าสามารถใช้ได้กับพวกอาวุธเทคโนโลยีที่ต้องชาร์จในการยิงเท่านั้น. Kerenzikov - สามารถเข้าสู่โหมดสโลโมชั่นด้วยการลดเวลาลง 90% เป็นเวลา 3.5 วินาที ในขณะที่เคลื่อนตัว Fortified Ankles - ช่วยให้สามารถกระโดดได้แบบ Hover Jump ได้และยังช่วยลดความเสียหายจากการตกจากที่สูงได้ 15% Zetatech Sandevistan - สามารถสโลโมชั่นด้วยการชะลอเวลาลง 50% เป็นเวลา 15 วินาที คูลดาวน์ 30 วินาที และเมื่ออยู่ในสถานะนี้มีโอกาสที่จะโจมตีติดคริติคอล 20% Dynalar Sandevistan - สามารถสโลโมชั่นด้วยการชะลอเวลาลง 70% เป็นเวลา 16 วินาที คูลดาวน์ 30 วินาที และเมื่ออยู่ในสถานะนี้มีโอกาสที่จะเพิ่มดาเมจและโจมตีติดคริติคอล 15% Maneuvering System - สามารถพุ่งหลบขณะที่อยู่กลางอากาศได้และสามารถใช้คอมโบกับ Fortified Ankles ได้อีกด้วย 3. Samurai Samurai คือสายที่เน้นต่อสู้ด้วยความรวดเร็วและเน้นระยะประชิด โดยใช้แนวคิดว่าต้องสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่ง จะขอแนะนำไซเบอร์แวร์ที่เน้นการเอาตัวรอดในดงศัตรู ดังนี้ อาวุธ -Mantis Blades - อาวุธระยะประชิดที่หายากเพราะสามารถใช้  Mod ตกแต่งอาวุธได้มากถึง 3 ช่อง Self-ICE - ป้องกันไม่ให้ Netrunners ของศัตรูแฮ็คเราได้เมื่อเข้าต่อสู้ในระยะประชิด โดยหลังจากใช้จะมีคูลดาวน์ 45 วินาที และจะต้องมีค่าสถานะ Intelligence เท่ากับ 10 เพื่อใช้งาน Limbic System Enhancement - เพิ่มโอกาสในการโจมตีคริติคอลของผู้เล่น 25% Visual Cortex Support- เพิ่มความเสียหายคริติคอลได้สูงสุด  45% Heal-On-Kill - สามารถฟื้นฟู HP 10% หลักจากทำการสังหารสำเร็จทุกครั้ง Monowire -  อาวุธที่มีระยะไกลกว่า Mantis Blades และสามารถชาร์จเพื่อโจมตีได้ โดยความเสียหายจะรุนแรงน้อย-มากตามระยะเวลาการชาร์จ Reflex Tuner - ทำให้เวลาช้าลง 80% เป็นเวลา 4 วินาทีเมื่อ HP ลดลงต่ำกว่า 25% Microrotors - เพิ่มความเร็วในการโจมตีระยะประชิด 25% Microvibration Generator - เพิ่มความเสียหายระยะประชิด 15% Giant Sandevistan - ทำให้เวลาช้าลง 90% เป็นเวลา 8 วินาทีในระหว่างนี้จะเพิ่มความเสียหายเพิ่มขึ้น 15%  โอกาสในการโจมตีคริติคอลเพิ่มขึ้น 10% และความเสียหายจากการโจมตีคริติคอลจะเพิ่มขึ้น 50% Neofiber - เพิ่มการหลบหลีกโดยรวม 15% 4.Bruisers (หมัดเดียวจอด) Bruisers คือนักสู้ที้เน้นต่อสู่ด้วยความเสียหายหนักๆ เน้นประจัญหน้ากับศัตรูในระยะประชิด ซึ่งจะเชื่องช้ากว่าสายซามูไร ดังนั้นไซเบอร์แวร์ที่แนะนำนั้นจะมุ่งไปที่การเสริมความแข็งแกร่งและการฟื้นฟู HP ที่จะช่วยให้สามารถอยู่รอดในดงศัตรูในนานยื่งขึ้น ดังนี้ : อาวุธ Gorilla Arms - เปลี่ยนมือเปล่าของผู้เล่นให้กลายเป็นหมัดเหล็กยักษ์ ซึ่งสามารถใส่ Mod ปรับแต่งได้ 3 ช่อง Syn-Lungs -  เพิ่มอัตราการฟื้นฟู Stamina +25% Blood Pump - ฟื้นฟูพลังชีวิจสูงสุด 90% ในการต่อสู้ คูลดาวน์ 30 วินาที Biomonitor - ฟื้นฟูค่า HP 100% ให้แก่ผู้เล่นเมื่องมี HP ที่ลดลงต่ำกว่า 15% คูลดาวน์ 2 นาที Adrenaline Booster - คืนค่า Stamina 50% ขอผู้เล่นทุกครั้งที่สามารถจัดการศัตรูได้. Inductor - ถ้าหากโดน EMP ของศัตรูจะทำให้ได้รับเกราะ 50% Pain Editor - ลดความเสียหายที่ได้รับทั้งหมด 10% Shock-n-Awe - มีโอกาส 10% ที่จะปล่อยระเบิดไฟฟ้าที่สร้างความเสียหายเท่ากับ 20% ของ HP ของศัตรูทุกครั้งที่เราโจมตี Endoskeleton - เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 60% Bionic Lungs - เพิ่มความแข็งแกร่งสูงสุด 60% Dense Marrow - เพิ่มความเสียหายระยะประชิด 25% แต่การโจมตีจะใช้ Stamina เพิ่มขึ้น 10% Subdermal Armor - เพิ่มระดับเกราะขึ้น 200 points 5.Assault Assault คือสายจู่โจมไฮบริดที่เน้นอาวุธหนักในการเข้าปะทะ โดยสามารถนำไซเบอร์แวร์ของมือปืนทั้งสองสายด้านบนมาเสริมได้ และต่อไปนี้คือไซเบอร์แวร์ที่แนะนำ : อาวุธ - ปืนกล Microgenerator -  เมื่อพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 15% ผู้เล่นจะปล่อย EMP ที่สร้างความเสียหายให้กับศัตรูทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียง 50% ของ HP สูงสุด Ballistic Coprocessor - ทำให้กระสุนสามารถที่จะแฉลบเด้งออกจากพื้นผิวที่แข็งได้ 2 ครั้ง Smart Link - เพิ่มโอกาสในการได้รับกระสุนคืนเมื่อใช้ Smart Weapons 15% และเพิ่มความเสียหายจากการโจมตีคริติคอล 25% Projectile Launch System - ติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธที่ทรงพลังซึ่งมีช่อง Mod ปรับแต่ง สิ่งนี้จะติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธที่ทรงพลังซึ่งมีช่อง mod สามช่องหากไซเบอร์แวร์เป็นตำนาน 3 ช่อง   6.Hackers Hacker คือสายที่ต้องเน้นการเจาะการเล่นเลห์เล่นเหลี่ยมเน้นความรวดเร็ว ซึ่งไซเบอร์แวร์จึงเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของสายนี้มากๆ ดังนี้ : Bioconductor - ลดคูลดาวน์ไซเบอร์แวร์อื่น ๆ ทั้งหมดลง 30% Tyrosine Injector - ลดระยะเวลาของมินิเกม Breach Protocol ลง 100% ซึ่งทำให้ Quickhacking ง่ายขึ้น. Ex-Disk - เพิ่ม RAM สูงสุด 5 หน่วยช่วยเพิ่มศักยภาพในการ Quickhack ของคุณได้อย่างมาก ( RAM ในเกมนี้คล้ายๆ กับ MP ในเกมอื่นๆ ) RAM Upgrade - เพิ่มอัตราการกู้คืน RAM 0.3 / วินาที Memory Boost - ช่วยให้สามารถเพิ่ม RAM 4 หน่วยจากศัตรูทุกตัวที่ผู้เล่นจัดการได้ ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อ Quickhack มีประสิทธิภาพมากขึ้น Camillo RAM Management - ทุก ๆ สี่นาทีจะช่วยให้ได้รับ 30% ของความจุ RAM สูงสุดของคุณทันทีเมื่อจำนวนของคุณลดลงเหลือสองหน่วย   7.Stealth Stealth คือสายลอบเร้นที่ไม่ค่อยจะใช้ไซเบอร์แวร์มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีไซเบอร์แวร์บางตัวที่สามารถช่วยให้ผู้เล่นถูกศัตรพบตัวได้ยาก และยังสามารถที่จะนำไซเบอร์แวร์ของ Hacker มาปรับใช้ได้ ดังนี้ : Synaptic Accelerator - ทำให้เวลาช้าลง 50% เป็นเวลา 4 วินาที Lynx Paws - ลดเสียงขณะเคลื่อนที่ลง 50% Optical Camo - เปิดใช้งานทำให้ผู้เล่นสามารถพรางตัวได้เป็นเวลา 15 วินาที 8.Cyberware อื่นๆ ที่ควรมี มีไซเบอร์แวร์บางตัวใน Cyberpunk 2077 ที่ดีมากจนสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับสายอื่นๆ  และนี่คือตัวอย่างที่ดีที่สุดบางส่วน : Second Heart - ฟื้นฟู HP จนเต็ม เมื่อมี HP เหลือน้อย มีคูลดาวน์ 2 นาที Mechatronic Core - เพิ่มความเสียหายหุ่นยนต์โดรนและหุ่นยนต์สูงสุด 50% Detoxifier - มีภูมิคุ้มกันต่อพิษทั้งหมด Metabolic Editor - ความเสียหายจากพิษจะถูกเปลี่ยนเป็น HP และค่อยๆ ฟื้นฟู 12% ต่อวินาที Heat Converter  - การโจมตีที่ปกติจะทำให้เผาไหม้ศัตรูเพิ่มความเสียหายขึ้น 10% Cataresist  - เพิ่มความต้านทานทั้งหมดขึ้น 35% Titanium Bones - เพิ่มขีดความสามารถของคุณ 60% Reinforced Tendons - สามารถกระโดดได้สองครั้ง Fireproof Coating - มีภูมิคุ้มกันจากการเผาไหม้ Grounding Plating - มีภูมิคุ้มกันต่อความเสียหายไฟฟ้า Supra-Dermal Weave - มีภูมิคุ้มกันจากสถานะเลือกไหล Militech Falcon Sandevistan - ทำให้เวลาช้าลง 70% เป็นเวลา 20 วินาที ในระหว่างนี้จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 15% โอกาสในการโจมตีคริติคอล 20% และความเสียหายจากการโจมตีคริติคอล 35% Synaptic Signal Optimizer - เพิ่มระยะเวลาของเอฟเฟกต์ไซเบอร์แวร์ Sandevistan และ Kerenzikov ทั้งหมด 2 วินาที Credit : Thegamer
14 Dec 2020
Cyberpunk 2077 เงื่อนไขการมีความรักกับ NPC ภายในเกม
เรียกได้ว่ากระแสของเกม Cyberpunk 2077 นั้นกำลังมาแรงมากๆ เพราะเป็นเกม RPG / Open-World ที่มีระบบน่าสนใจอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ระบบความรัก" ความหมายก็คือผู้เล่นสามารถที่จะจีบ NPC ในเกมได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การทำเควสเสริม การเลือกตัวเลือกที่ถูกใจ NPC คนนั้น ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำเส้นทางรักโรแมนติดในเกม Cyberpunk 2077 ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.Judy Alvarez เงื่อนไข - จูดี้นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียง และรูปร่างที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับจูดี้ได้หลังจากที่ทำเควสหลักที่เกี่ยวข้องกับ Evelyn Parker และ Judy ได้แก่ The Information / Automatic Love และพอหลังจากนี้ Judy จะโทรศัพท์มาหาเรา และมอบงานเสริมให้นั่นคือ The Space in Between  / Disasterpiece จากนั้นผู้เล่นจะได้รับเควสเสริมทำให้สามารถติดต่อกับเธอได้มากขึ้น และหลังจากนี้ผู้เล่นต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีในสายตาของจูดี้ และอย่าลืมที่จะตัดสินใจในตัวเลือกที่สำคัญบางอย่างในระหว่างทำเควสเสริมเพื่อให้เพิ่มความรักให้เธอจะมีให้กับ V มากขึ้นด้วย ดังนี้ Both Sides Now : เลือกเป็นคนดีและช่วยเหลือจูดี้ด้วยการเยียวยาเธอจากการสูญเสียคนที่รัก Ex-Factor : เลือกฆ่า Woodman Talking About a Revolution : เลือกปฏิเสธการชำระเงิน Maikos plan : ผู้เล่นจะต้องให้ V ปฏิเสธแผนของ Maiko และช่วยให้ Clouds เป็นอิสระ เลือกที่จะไม่ฆ่า Maiko Pyramid Song : ไปดำน้ำกับจูดี้และเลือกตัวเลือกที่จะทำให้เธอรัก หลังจากที่ผู้เล่นตั้งใจจะทำให้เธอรักแบบหมดใจ การกระทำนี้จะส่งผลในช่วงท้ายเกมและตอนจบ 2. Panam Palmer เงื่อนไข - Panam นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับ Panam ได้หลังจากที่ทำเควสหลักเหล่านี้เสร็จแล้ว ได้แก่ Ghost Town / Lightning Breaks / Life During Wartime  จากนั้นผู้เล่นสามารถที่จะทำเควสเสริมเพื่อทำให้เธอเริ่มรู้สึกกับเรามากขึ้นด้วยการเลือกตัวเลือกบางอย่างในระหว่างภารกิจหลักจะช่วยผนึกข้อตกลงได้เช่นกัน ดังนี้ : เนื้อเรื่องหลัก Mission Ghost Town: รับเครื่องดื่ม เนื้อเรื่องหลัก Mission Life During Wartime : ปกป้องเธอต่อหน้าซาอูล เควสเสริม Riders on the Storm : เลือกที่จะไปกับ Panam With a Little Help From My Friends : เก็บแผนของ Panam ไว้เป็นความลับบอก พร้อมกับเธอว่าเธอพลาด และจับมือพาเธอไปใกล้ๆ กองไฟ 3.Kerry Eurodyne เงื่อนไข -  เคอรี่นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ถึงแม้ว่าผู้เล่นไม่พบกับ Kerry มากเท่ากับอีกสองตัวละครด้านบน แต่ก็ยังสามารถที่จะพบกับเคอรรี่ได้จากหลายๆ เควส ทั้งเควสหลัก และเควสเสริมอื่นๆ จากนั้นให้ผู้เล่นทำสิ่งต่อไปนี้ Off the Leash:  จีบ Kerry Boat Drinks: จูบ Kerry หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างความสัมพันธ์แบบความรักหรือแค่เพียงพบกันแบบ One Night Stand แต่ขอบอกใบ้ให้ว่าถ้าคุณเส้นทางนี้เขาจะพาผู้เล่นไปเจอหนึ่งในอาวุธที่ดีทีสุดในเกมและยานพาหนะ อันดับต้นๆ ของเกมเลย. 4.River Ward เงื่อนไข -  ริเวอร์วอร์ดนั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้หญิง (รวมถึงอวัยวะลับ) River Ward นั้นเป็นตัวละครที่เราสามารถพบได้จากเควสเสริมที่ชื่อว่า I Fought the Law โดยผู้เล่นจะพบว่าเขาเป็นนักสือของ NCPD และหลังจากนั้นก็จะสามารถพบกับเขาได้มากขึ้นจากการทำเควสเสริมต่างๆ โดยแนะนำให้เลือกตัวเลือกคัวสำคัญดังต่อไปนี้ : The Hunt : ช่วย Randy และแสดงความสนใจตัวเขา Following the River : จูบเขาสองครั้ง และเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนในเกมนี้ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสานต่อความรักครั้งนี้หรือเลือกที่จะพบกันแบบ One Night Stand ซึ่งการตัดสินใจสำหรับหัวข้อนี้จะมีผลกับตอนจบด้วย!   5.ความรักในแบบอื่นๆ สำหรับในเรื่องของความรักและการจีบอีก 4 คนด้านบนนั้น ผู้เล่นยังสามารถที่จะพบรักและสานความสัมพันธ์กับ NPC คนอื่นๆ ได้ดังนี้ : Meredith Stout : ผู้เล่นสามารถพบได้ในช่วงเริ่มต้นภารกิจ The Pickup ซึ่งแนะนำว่าควรจ่ายเงินให้ Royce ด้วยชิป Militech โดยไม่ต้องลบมัลแวร์ออก จากนั้นให้บอก Meredith ว่าเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันอีกครั้งและจะทำให้สามารถใช้เวลาร่วมด้วยกันได้มากขึ้น Joytoys : สามารถพบได้ใน Night City เฉพาะบนถนน Jig Jig และสามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้ด้วยการจ่ายค่าบริการ Rogue Amendiares : อนุญาตให้ Johnny เจ้าครอบครองร่างของ V เป็นครั้งเป็นคราวจะทำให้สามารถเดทกับ Rogue ผ่านภารกิจ Tapeworm ได้ Credit : vg247  Gamerant
14 Dec 2020
Final Review: Cyberpunk 2077
หลังจากที่ปล่อยให้ผู้เล่นเฝ้ารอกันมาเกือบสิบปี นับตั้งแต่ที่เกมประกาศเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในปี 2012 บวกกับความคาดหวังในฝีมือและคำสัญญามากมายของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED เกี่ยวกับความลึกล้ำของเกมที่พวกเขาต้องการจะสร้าง คงเป็นเรื่องธรรมดาที่เกม Cyberpunk 2077 จะต้องแบกรับความคาดหวังมโหฬารจากเกมเมอร์ทั่วโลกในฐานะเกม RPG โลกเปิดที่จะยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของผู้เล่นในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน หลังจากที่เล่นเกมมาเป็นเวลาเกือบ 40 ชั่วโมงจนจบเนื้อเรื่อง ถ้าถามว่าเกม Cyberpunk 2077 นับเป็นเกมที่จะพลิกความคาดหวังของผู้เล่นอย่างที่หลายคนอยากเห็นหรือไม่ คำตอบที่มอบได้คงเป็น “ไม่” ด้วยระบบเกมเพลย์ที่เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ใหม่หรือน่าตื่นตาไปกว่าที่เคยเห็นมาในเกมอื่นนัก ถ้ามองโครงสร้างของเกมในภาพใหญ่ Cyberpunk 2077 ก็คงไม่ได้ต่างจากเกม RPG โลกเปิดอย่าง Fallout หรือ Mass Effect มากขนาดนั้น ด้วยความเป็นเกม RPG ที่ให้ความสำคัญกับระบบบทสนทนา แต่ในขณะเดียวกับ เกม Cyberpunk 2077 ก็เปรียบเสมือนจุดสูงสุดของการออกแบบเกม Open World ทั้งหมดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยโลกที่ละเอียดและน่าค้นหาที่พร้อมจะเซอร์ไพรส์เราด้วยเรื่องราวอันหลากหลายทั้งอารมณ์และรสชาติเกี่ยวกับชีวิตในมหานคร Night City เมืองแห่งอนาคตและอิสระที่สวยงามและโสมมในเวลาเดียวกัน ทั้งยังมีระบบเกมเพลย์ที่สนับสนุนให้ผู้เล่นแต่ละคนได้มีโอกาสแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง และให้รางวัลกับคนที่ยินดีจะเรียนรู้ระบบ RPG อันซับซ้อนนี้จริงๆ      แม้จะไม่ใช่เกมที่จะกลายเป็นตำนานชั่วข้ามคืน แต่ Cyberpunk 2077 ก็เป็นผลลัพธ์ของการขัดเกลาระบบเกมเพลย์หลายๆ อย่างที่เห็นในวงการเกมในยุคที่ผ่านมาจนเปล่งประกาย และถือเป็นหนึ่งในเกม RPG ที่ดีและลึกเป็นอันดับต้นๆ ในรอบหลายปีมานี้อย่างแน่นอน *อ่านรีวิวช่วงต้นเกม (คลิ๊ก) และรีวิวอัปเดท 1 (คลิ๊ก) เพื่ออ่านความเห็นและรับชมภาพบทบรรยายไทย ตำนานที่มีชีวิต สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เกม Cyberpunk 2077 จะติดตามตัวละครเอกที่ชื่อ ‘V’ ทหารรับจ้างหน้าใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำนานในมหานคร Night City บ้านเกิดของเขา แต่หลังจากที่ภารกิจหนึ่งของเขาเกิดผิดพลาดขึ้นมาอย่างร้ายแรง ทำให้ V ถูกปลูกถ่ายจิดสำนึกของนักร๊อคและ “ผู้ก่อการร้าย” ในตำนานอย่าง Johnny Silverhand เอาไว้ในหัว และทำให้จิตสำนึกแปลกปลอมนั้นค่อยๆ กัดกินสมองของเขาไปเรื่อยๆ โดย V จะต้องแข่งกับเวลาเพื่อหาวิธีรักษาชีวิตตัวเอง พร้อมกับไขปริศนาเบื้องหลังภารกิจอันผิดพลาดนั้น อย่างที่น่าจะพอทราบกันดีจากรายงานของสื่อต่างชาติที่มีเวลารีวิวเกมมากกว่าผู้เขียน เนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 จะค่อนข้างสั้น และสามารถเล่นให้จบได้ในระยะเวลาไม่เกิน 20-25 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งจากที่เล่นมาก็ดูจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะพอผู้เขียนตัดสินใจนั่งเล่นเนื้อเรื่องอย่างเดียวเพื่อให้จบเกมเร็วที่สุด ก็พบว่าที่รู้สึกเหมือนอยู่กลางๆ เรื่องมันใกล้จะจบแล้ว และเล่นต่อไปอีกไม่เยอะก็พบฉากจบแล้ว โดยถ้าให้วิจารณ์ในแง่ของภารกิจเนื้อเรื่องเพียวๆ ก็คงต้องบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 เขียนบทมาได้อย่างเข้มข้นและน่าติดตาม พร้อมกับมีตัวละครที่ล้วนมีแง่มุมที่น่าสนใจของตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นหรือแตกต่างจากเกม RPG ที่มีตอนจบหลายแบบที่เคยเล่นมา แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือการที่เนื้อเรื่องของเกมสามารถเปลี่ยนแปลงและขยายขอบเขตของตัวเองไปได้ตามเนื้อหาเสริมที่เราเล่น ถ้าให้อธิบายโดยไม่สปอย ผู้เขียนได้มีโอกาสเล่นภารกิจเสริมอันหนึ่งจาก NPC ในเนื้อเรื่อง โดยภายในภารกิจผู้เขียนในฐานะ V ก็ได้มีโอกาสคุยเปิดใจกับตัวละครตัวนั้นอย่างลึกซึ้งถึงความเชื่อและความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ จนเหมือนจะช่วยคลายปมในใจบางอย่างให้กับ NPC ตัวนั้นได้ เป็นบทสนทนาที่น่าสนใจแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะสำคัญอะไรต่อเนื้อเรื่องขนาดนั้น แต่เมื่อไปถึงช่วงใกล้ๆ จบเนื้อเรื่อง ผู้เขียนก็ได้พบกับทางเลือกหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าต่อยอดมาจากทางเลือกที่ว่านี้ โดยตัวละครดังกล่าวเป็นคนพูดออกมาเองว่าถ้าไม่ได้มีบทสนทนานั้น ก็คงไม่ได้นำมาสู่เรื่องราวเช่นนี้ หมายความว่าถ้าไม่ได้เล่นภารกิจเสริมที่ว่านั้น ตอนจบของผู้เขียนก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ ซึ่งไม่แน่ใจว่ายังมีอีกกี่ภารกิจเสริมที่จะส่งผลต่อตอนจบได้แบบนี้อีก แต่ก็หมายความว่ายิ่งเราทำภารกิจเสริมมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะภารกิจเสริมที่เกี่ยวข้องกับตัวละครเหล่านี้ ก็ยิ่งทำให้มีโอกาสได้พบกับตอนจบหลากหลายขึ้นเท่านั้น มาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่าแล้วมันต่างกับที่พบในเกมอย่าง Fallout 4 อย่างไร? ก็ต้องบอกว่าแม้ในภาพใหญ่อาจไม่ต่างมาก แต่วิธีที่ Cyberpunk 2077 ผูกโยงเรื่องราวเหล่านี้เข้าด้วยกันต่างหากที่ทำให้เกมรู้สึกน่าทึ่ง เหตุการณ์ที่จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องอย่างเป็นนัยยะสำคัญไม่จำเป็นต้องเป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆ เท่านั้น แต่บางครั้งแค่บทสนทนาธรรมดาๆ เกี่ยวกับชีวิตก็อาจย้อนกลับมามีความสำคัญในแบบที่ไม่ได้จินตนาการเอาไว้ในตอนแรก ทำให้ Cyberpunk 2077 รู้สึกมีความเป็น “มนุษย์” หรืออาจะเรียกว่าความ “เป็นธรรมชาติ” (ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคงใช้คำว่า ‘organic’) ในแบบที่เกมปลายเปิดลักษณะเดียวกันเทียบไม่ติดเลย เมื่อมนุษย์คืออาวุธที่น่ากลัวที่สุด แม้ว่าการต่อสู้ของ Cyberpunk 2077 จะค่อนข้างจำกัดในชั่วโมงแรกๆ ของเกม (เอาจริงๆ ก็เป็นสิบชั่วโมงอยู่เหมือนกัน) ที่ผู้เล่นยังเข้าไม่ถึงอาวุธและ Cyberware ที่น่าสนใจ และรู้สึกไม่ค่อยต่างจากเกมแอคชั่น FPS ทั่วไปเท่าไหร่ แต่เกมก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาที่เล่นเช่นกัน ยิ่งผู้เล่นสามารถปลดล๊อค Perk และ Cyberware ได้เยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดทางเลือกให้กับผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ความน่าสนใจอีกอย่างของเกมอยู่ที่ระบบการพัฒนาตัวละคร ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถพัฒนาตัวละครได้ตามใจอยากแค่จากการเล่นเกมตามที่อยากเล่น เพราะนอกจากระบบ Perk และ Attribute ที่จะพัฒนาขึ้นตามการอัปเลเวลแล้ว ยังมีระบบความชำนาญที่จะมอบโบนัสต่างๆ ให้ผู้เล่นตามการกระทำของเราอีกด้วย อย่างผู้เขียนค่อนข้างจะเน้นการอัปเกรด Attribute Reflex (การตอบสนอง) ที่ทำให้ผู้เขียนได้รับโบนัสจากการใช้อาวุธดาบ แต่เมื่อเล่นเกมไปเรื่อยๆ ก็พบว่าต้องใช้การแฮ๊คเยอะ ทำให้ผู้เขียนได้รับความชำนาญในด้านนั้นเพิ่มขึ้นตลอดที่เล่น และทำให้ได้รับโบนัสสำหรับทักษะการแฮ๊คไปด้วย แน่นอนว่าสุดท้ายทุกอย่างก็ยังขึ้นกับค่า Attribute ที่จะกำหนดว่าเราจะอัปเกรด Perk อะไรได้บ้าง จากการทดลองเล่นในระดับความยากปานกลาง พบว่าระดับความท้าทายของเกมโดยรวมจะค่อนไปทางง่ายซะมากกว่าโดยเฉพาะเมื่อเราอัปเกรดตัวละครไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของผู้เขียน ได้เลือกที่จะเน้นไปที่ความสามารถด้านการใช้ดาบควบคู่กับ Perk สายร่างกายที่ทำให้ถึกทนและฟื้นฟูพลังชีวิตเร็วขึ้น ซึ่งพออัปเกรดทั้งของสวมใส่และ Perk ถึงจุดหนึ่งก็พบว่าแทบจะสามารถวิ่งฝ่ากระสุนเข้าไปฟันหัวศัตรูทีละตัวโดยแทบไม่ต้องกลัวตายเลย แม้จะยอมรับว่าสะใจยิ่งนัก แต่ก็ทำให้เกมช่วงท้ายๆ รู้สึกง่ายไปเลยเช่นกัน จุดอ่อนอย่างหนึ่งของเกมมาจากการที่อาวุธและ Cyberware ที่ส่งผลต่อเกมเพลย์มากๆ มักจะถูกกันออกไปไว้ช่วงท้ายหมดเลย ไม่ว่าจะเพราะต้องการระดับ Street Cred สูง หรือไม่ก็ต้องใช้ Attribute สูงระดับหนึ่ง ส่งผลให้เกมเพลย์ช่วงต้นๆ รู้สึกธรรมดาๆ ไปซะหน่อย และกว่าจะเริ่มรู้สึกว่ามันเปิดกว้างให้เรามากขึ้นก็ปาไป 20 ชั่วโมงแล้วสำหรับผู้เขียน ซึ่งถ้าใครไม่ทำภารกิจเสริมเลย หรือทำน้อย เผลอๆ จะเล่นเนื้อเรื่องจบก่อนจะได้ลองใช้ Cyberware เท่ๆ เลยด้วยซ้ำ มหานครแห่งแสง สี และ RTX อีกหนึ่งแรงขับสำคัญเบื้องหลังความน่าทึ่งของเกมคงหนีไม่พ้นกราฟิกและการนำเสนอ ที่ทำให้เมือง Night City รู้สึกเป็น “โลกที่มีชีวิต” อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในเกมไหนๆ ซึ่งในจุดนี้ต้องกล่าวชมทีมออกแบบของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED มากๆ ที่สามารถทำให้โลกของเกม Open World นี้รู้สึกละเอียดไม่ต่างจากเกมแนวเส้นตรงหลายเกมที่ผ่านมา จนไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้สึกเหมือนทุกกระเบียดนิ้วของเมือง Night City ถูกออกแบบและจัดวางมาอย่างตั้งใจ ทำให้เมืองรู้สึกมีเรื่องราวหรือประวัติศาสตร์ในแบบที่คล้ายกับสถานที่จริงอย่างไรอย่างนั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆ คือการที่แต่ละเขตจะมีบุคลิกที่ชัดเจนมากๆ ของตัวเอง ที่สะท้อนออกมาทั้งทางการออกแบบถนนหนทางและอาคาร ไปจนถึงการแต่งตัวของประชากรและอาชญากรในเขตนั้นๆ เปรียบเสมือนกับว่าแต่ละเขตเป็น “เมือง” ย่อมๆ ในเกม RPG แฟนตาซีที่มักจะมีธีมและเนื้อเรื่องของตัวเอง โดยแต่ละเขตในเมือง Night City ที่เราเยี่ยมเยียมจะมี NPC ที่เรียกว่า Fixer คอยมอบงานให้เรา ซึ่งงานเหล่านี้ก็มักจะแสดงออกถึงวิถีชีวิตของแต่ละเขตอีกด้วย ทำให้รู้สึกราวกับว่าเกมมีเรื่องราวใหม่ๆ มานำเสนอให้เราตลอดเวลา แม้กระทั่งเมื่อจบเนื้อเรื่องไปแล้วกลับมาเล่นก็ตาม  สำหรับการรีวิว ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกมบนเครื่อง PC ที่มีการ์ดจอ RTX 2060 และ 16GB RAM โดยเล่นเกมส่วนใหญ่ที่การตั้งค่ากราฟิก Preset Ray Tracing - Medium ซึ่งพบว่าเกมสามารถแสดงผลได้ที่ประมาณ 40-45 FPS (ตกไปถึง 35 เวลาบู๊ๆ) และสามารถดันได้ถึง RTX Ultra แลกกับเฟรมเรต 30 FPS ซึ่งถือว่าดีกว่าที่คาดเอาไว้ประมาณหนึ่ง คนที่กลัวว่าคอมพิวเตอร์ของตัวเองจะเล่นเกมไม่ไหวไม่น่าจะมีอะไรต้องห่วง ตราบใดที่มีคอม Spec ขั้นต่ำคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหากับการเล่นเกม (ตั้งค่าได้เท่าไหร่อีกเรื่องหนึ่ง) อีกอย่างที่ต้องไม่ลืมคือเกมเวอร์ชั่นทีเล่นเพื่อรีวิวนี้ยังไม่ได้อัปเดทแพทช์ Day One ที่ว่ากันว่าจะปรับปรุงการทำงานของเกม แถมยังไม่ได้อัปเดท Driver ของการ์ดจอ และมีซอฟต์แวร์ Denuvo Anti-Tampering มาฉุดเฟรมเรตของเกมลงอีก โดยเชื่อได้ว่าเกมเวอร์ชั่นที่ผู้เล่นทุกคนได้รับการน่าจะมีปัญหาน้อยกว่าเวอร์ชั่นที่ผู้เขียนเจอ  สรุป แม้จะไม่ใช่เกมที่เปรียบเสมือนตัวแทนแห่ง Next-Gen ที่หลายคนหวังจะเห็น แต่นั่นก็ไม่ใช่คำตำหนิเลยสำหรับ Cyberpunk 2077 เกมที่เปรียบเสมือนร่างสุดยอดของแนวคิดการออกแบบเกม Open World โดยรวมตลอดทศวรรตที่ผ่านมา ที่ทั้งสนุกและน่าหลงใหลได้ไม่รู้จบ ราวกับการนั่งดูซีรี่ส์ไซไฟดราม่าเข้มข้นหลายซีซั่นในเกมเดียว ที่สำคัญคือเกมเป็นเกมที่ยิ่งให้เวลาสำรวจโลกของเกมได้เท่าไหร่ ก็จะยิ่งเปิดกว้างและหลากหลายขึ้นเท่านั้น หากคุณเคยเล่นเกม Open World อะไรก็แล้วแต่ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาแล้วชอบ เชื่อได้เลยว่า Cyberpunk 2077 จะมีอะไรให้คุณแน่นอน
09 Dec 2020
Review-In-Progress: Cyberpunk 2077 อัปเดท 1 (8/12/20) [NO SPOILER]
เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ทำให้ไม่สามารถเพิ่มส่วนอัปเดทลงไปในบทความเดิมได้ ใครที่สนใจอยากอ่านความเห็นจากช่วงต้นเกม สามารถอ่านได้ ที่นี่ Update 1: 8/12/20 ยุคนี้ใครเค้าเล็งปืนกัน! จากที่คราวที่แล้วผู้เขียนไม่ค่อยประทับใจกับการต่อสู้ จากการที่เกมช่วงที่เล่นยังมักจะมีแต่ปืนและอาวุธแบบมนุษย์ธรรมดาๆ แม้ว่าศัตรูจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปนักในเวลาเกือบสิบชั่วโมงที่ผู้เขียนเล่นเพิ่มเติม แต่ปืนที่ได้รับมาเริ่มจะพิศดารมากขึ้นแล้ว เช่นปืน Smart Gun ที่เราเห็นในตัวอย่างเกมที่ผ่านมาที่จะปล่อยกระสุนนำวิถีไปโจมตีศัตรู หรือปืนสไนเปอร์ Nekomata ที่สามารถยิงทะลุกำแพงจากระยะไกลได้ และอาจจะด้วยการพัฒนาความสามารถสายแฮ๊คกิ้งมากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าการต่อสู้และลอบเร้นในเกมมีความหลากหลายกว่าที่คิดเอาไว้ในตอนแรกอีกด้วย ผลเสียอย่างหนึ่งของการที่ตัวละครของผู้เขียนพัฒนาขึ้นแต่ศัตรูส่วนใหญ่ไม่ได้พัฒนาตามเท่าไหร่ ทำให้การต่อสู้ในช่วงนี้เริ่มรู้สึกง่ายขึ้นไปเยอะ เรียกว่าผู้เขียนแทบจะวิ่งฝ่ากระสุนเข้าไปเอาดาบเสียบศัตรูได้เรียงตัวแล้ว แต่ก็เริ่มจะได้เห็นศัตรูแปลกๆ บ้างในฐานะมินิบอส เช่นศัตรูตัวหนึ่งที่ใส่ Cyberware เพิ่มความเร็วจนวิ่งหลบกระสุนได้ หรือศัตรูที่จะพยายามแฮ๊คเราซะเองพร้อมกับวิ่งเข้ามาโจมตีระยะประชิด ผู้เขียนมักต้องเปลี่ยนวิธีเล่นกลางคันเพื่อรับมือกับศัตรูเหล่านี้เสมอ ซึ่งก็ทำให้การต่อสู้ท้าทายขึ้นมาบ้าง แม่ในภาพรวมจะยังถือว่า Cyberpunk 2077 (อย่างน้อยในระดับความยากปานกลางที่ผู้เขียนเล่น) น่าจะเป็นเกมที่ค่อนไปทางง่ายสำหรับผู้เล่นหลายๆ คน  โดยรวมก็ต้องบอกว่าการต่อสู้เริ่มมีความสร้างสรรค์และปลายเปิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ทำให้เกมง่ายขึ้นไปด้วย นี่ถ้าซื้อ Cyberware โหดๆ มาใส่ได้เมื่อไหร่น่าจะล้างบางศัตรูได้สบายๆ ผลบุญผลกรรมมันหนีกันไม่พ้น ในส่วนของทางเลือก ผู้เขียนเริ่มจะได้เห็นผลของทางเลือกและการกระทำของตัวเองก่อนหน้านี้บ้างแล้ว และได้รับเควสที่ดูเหมือนจะผูกกับเนื้อเรื่องของ Lifepath โดยเฉพาะอีกด้วย หลังจากที่เริ่มเล่นเกมต่อจากที่เล่นค้างไว้ได้ไม่กี่ชั่วโมง ผู้เขียนได้รับการติดต่อจาก NPC คนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะรู้จักกับ V อยู่แล้ว เมื่อไปเจอตัวเธอเข้าจริงๆ จึงจำได้ว่าเธอคือ NPC หญิงสาวที่ผู้เขียนช่วยชีวิตเอาไว้ในอีกภารกิจหนึ่งที่ทำตั้งแต่ตอนเริ่มเกมเลย! แถมตอนสนทนากัน เธอยังเอ่ยถึงทางเลือกของผู้เขียนในภารกิจนั้นๆ ด้วย โดยในจุดนี้ไม่ค่อยมั่นใจว่าถ้าตอนที่เล่นภารกิจเลือกทางเลือกอีกแบบจะได้เจอเธออยู่ไหม แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดสนุกๆ ที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าควรจะใส่ใจกับทางเลือกในแต่ละสถานการณ์ยิ่งกว่านี้อีก ในส่วนของ Lifepath ผู้เขียนได้รับการติดต่อมาจาก NPC ตัวหนึ่งที่เคยเจอกันครั้งแรกในช่วงเนื้อเรื่องของ Lifepath Corpo ตั้งแต่ต้นเกมเลย โดยเขาบอกตัวละคร V ว่าเขากำลังโดนเจ้านายหมายหัวอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปูมาตั้งแต่ตอนที่คุยกับเขาครั้งแรกในเนื้อเรื่องตอนต้นเลย แถมเช่นเดียวกับตัวอย่างด้านบน เขายังเอ่ยถึงรายละเอียดที่คุยกันก่อนหน้านี้อีกด้วย ทั้งหมดทั้งมวลนั้น แม้ว่าตัวอย่างที่ยกมาจะเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ (จริงๆ มีเหตุการณ์ใหญ่กว่านี้แต่ไม่อยากสปอย) แต่แค่รายละเอียดเหล่านี้ก็ช่วยเสริมความรู้สึกว่าเรื่องราวของ V มันเป็นของผู้เล่นแต่ละคนโดยเฉพาะจริงๆ และการกระทำทุกอย่างของเรา แม้จะดูเหมือนเล็กน้อยหรือไม่มีความหมาย แต่เราไม่รู้เลยว่าจะย้อนกลับมาหาเราในรูปแบบใดได้บ้าง ภารกิจเยอะ ข้อมูลน้อย อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้เขียนเริ่มสังเกติชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คือการที่เกมค่อนข้างมีปัญหาในการสื่อสารข้อมูลให้ผู้เล่น แม้ว่าเกมจะมีระบบมากมายที่ลึกซึ้งและสัมพันธ์กันในระดับที่น่าทึ่ง แต่เกมกลับไม่ค่อยสอนหรือแนะนำอะไรกับผู้เล่นเท่าไหร่เลย และกระทั่งเรื่องที่ควรจะง่ายอย่างการหาคำตอบว่า “เราสามารถรีเซ็ตค่า Stat และ Perk ทำอย่างไร” กลับเป็นสิ่งที่ดูเหมือนว่าผู้เล่นต้องหาเอาเอง (ผู้เขียนยังหาไม่เจอ) อีกจุดที่น่าจะพัฒนาได้มากกว่านี้ในแง่ของข้อมูลคือหน้าต่างภารกิจของเกม ด้วยความที่เกมตั้งอยู่ในโลกอนาคตที่ทุกคนมีมือถือ (หรือสื่อสารกันผ่าน Cyberware) ผู้เล่นจะไม่ต้องเดินไปคุยกับ NPC หรือกระดานข่าวเพื่อรับภารกิจอีกต่อไป แต่ NPC เหล่านั้นจะ้วิธีส่งข้อความหรือโทรมาหา V โดยตรง ทำให้เรามักจะมีภารกิจเสริมน้อยใหญ่อยู่เต็มหน้าตลอดเวลา ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเรามักไม่มีทางรู้ได้เลยว่าของรางวัลจากการทำภารกิจแต่ละอันจะมีอะไรบ้าง หรือว่าภารกิจนี้จะพัฒนาเนื้อเรื่องของใครบ้าง ซึ่งก็ทำให้ตัดสินใจค่อนข้างยากว่าจะทำภารกิจไหนก่อนดี ในบางช่วงเราอาจจะกำลังอยากเก็บเงิน แต่ก็ไม่รู้ว่าภารกิจไหนบ้างที่ทำแล้วจะได้เงิน บางทีเราอยากอัปเลเวลตัวละคร แต่ไม่รู้ว่าภารกิจไหนให้ค่าประสบการณ์ หรืออันไหนให้ค่า Street Cred แทน ทำให้การเล่นภารกิจเพื่อเป้าหมายเฉพาะบางอย่างทำได้ยาก และส่วนใหญ่ผู้เขียนก็มักจะแค่เลือกภารกิจที่ใกล้ที่สุดแล้วตรงไปที่นั่น แต่ก็ทำให้รู้สึกขาดตอนได้เหมือนกันเวลาที่เพิ่งเล่นภารกิจบู๊ๆ มาแล้วมาเจอภารกิจเน้นคุยอย่างเดียว ชีวิตมัวๆ ที่ไม่มีวีรบุรุษ อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนอยากพูดถึงคือตัวละครที่เราสามารถพบได้ในเกม โดยเฉพาะเหล่าตัวละครที่มีบทบาทในเนื้อเรื่อง ที่ล้วนมีมิติที่น่าค้นหาของตัวเอง แม้ในช่วงต้นเกมจะรู้สึกเหมือนยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์กับ NPC เหล่านี้นักนอกเหนือไปจากในภารกิจเนื้อเรื่อง แต่พอเริ่มได้ใช้เวลาและเรียนรู้ภูมิหลังของพวกเขามากขึ้น ก็พบว่าตัวละครหลายตัวมักมีอะไรน่าสนใจจะพูดหรือเล่าให้ฟังเสมอ และบ่อยครั้งมักเป็นเรื่องที่ช่วยเสริมเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหรือช่วยพัฒนาตัวละครให้ลึกขึ้น แม้ในเกม RPG ส่วนใหญ่ผู้เขียนอาจจะชอบข้ามตัวเลือกบทสนทนาที่ไม่ได้ดำเนินเนื้อเรื่องต่อ (ในเกมนี้จะเป็นสีฟ้า ส่วนที่ดำเนินเนื้อเรื่องจะเป็นสีเหลือง) แต่ในเกมนี้ มักจะต้องเลือกฟังตัวเลือกบทสนทนาทั้งหมดก่อนจะดำเนินเรื่องต่อไปเสมอ แถม: สำหรับคนที่อยากเห็นภาพซับไทยมากกว่านี้ อังกฤษ: ไทย: เอาจริงๆ ถามว่าซับไทยรู้เรื่องแค่ไหน ก็คงบอกว่ารู้เรื่องซัก 85-90% นั่นแหละ อีก 10-15% ก็น่าจะพอตีความจากบริบทได้ แต่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนจริงๆ คือการคงอารมณ์ความรู้สึกของบทเดิมเอาไว้ ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะไม่ติดขัด แต่เผอิญว่าผู้เขียนเป็นคนติดอ่านซับด้วย เวลาเปิดซับไทยก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะอ่านตาม พอไม่ตรงกับเสียงอังกฤษขึ้นมาก็ทำให้เสียอารมณ์เวลาเล่นได้ แต่เชื่อว่าสำหรับผู้เล่นอีกส่วนใหญ่ๆ น่าจะไม่มีปัญหากับซับไทย แต่ให้ระวังคำแปลหน้าเมนูเช่นในตัวอย่างบนก็พอ สรุปอัปเดท 1: ตอนนี้ยังไม่ได้ Cyberware มาใช้ (เงินไม่พอซื้อ) แต่เริ่มได้อาวุธใหม่ๆ มากขึ้น เริ่มสนุกขึ้นกว่าช่วงต้นๆ เกม / เนื้อเรื่องเริ่มผูกโยงกับการกระทำของผู้เล่นมากขึ้น เริ่มเห็นผลของทางเลือกก่อนหน้านี้ / เกมไม่ค่อยให้ข้อมูลเท่าไหร่ทำให้วางแผนการเล่นยาก อยากฟาร์มเงินก็ไม่รู้ภารกิจไหนให้เงิน อยากฟาร์มของก็ไม่รู้ภารกิจไหนให้ของ
08 Dec 2020
Review-In-Progress: Cyberpunk 2077 [NO SPOILER]
ตั้งแต่ที่ประกาศเปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 เกม Cyberpunk 2077 ก็กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับการรอคอยมากที่สุดของเกมเมอร์หลายๆ คนแทบจะชั่วข้ามคืน ทั้งจากชื่อเสียงอันเลื่องลือของผู้พัฒนา CD PROJEKT RED และผลงาน The Witcher 3 ที่ได้รับความนิยมถล่มทลาย ไปจนถึงจักรวาลต้นฉบับ Cyberpunk 2020 ที่เกมใช้อ้างอิง ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่เกมเมอร์รุ่นเก๋าที่เติมโตมาในยุคของเกม RPG ตั้งโต๊ะทั้งหลาย ตั้งแต่ที่ได้โค้ดเกมเวอร์ชั่น PC มาจากผู้พัฒนา CD PROJEKT RED เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนได้ลองเล่นเกมไปแล้วราว 20 ชั่วโมง และทำให้ได้เห็นภาพของสุดยอดเกมแห่งปี 2020 มากกว่าเดิมพอสมควร แต่ด้วยขนาดของเกมและเนื้อหาเสริมที่มีอยู่เยอะจนตาลาย ทำให้ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งสัมผัสเกมได้เพียงผิวเผินเท่านั้น และยังมีองค์ประกอบสำคัญหลายๆ อย่างที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส เช่นอาวุธหรือ Cyberware ระดับสูงทั้งหลาย รวมไปถึงผลของทางเลือกในระยะยาว ด้วยประการฉะนี้ เราจึงเลือกที่จะยังไม่ให้คะแนนเกมในรีวิวนี้ทันที แต่จะทำการอัปเดทความเห็นความรู้สึกของผู้เขียนไปเรื่อยๆ จนกว่าที่เกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถวิจารณ์แง่มุมต่างๆ ของเกมได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด หากใครมีคำถามที่อยากรู้เกี่ยวกับเกม ที่ไม่ได้รับการตอบในบทความนี้ สามารถคอมเมนต์เข้ามาถามเอาไว้ได้ แล้วเราจะพยายามตอบคำถามของคุณในอัปเดทบทความครั้งถัดไป หมายเหตุ: เกมเวอร์ชั่นรีวิวนี้จะยังไม่ได้รับการปรับปรุงจาก Day One Patch และจะมีโปรแกรม Denuvo Anti-Tampering เข้ามาด้วยเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเกมช่วงก่อนวางจำหน่าย ทำให้อาจจะมีข้อบกพร่องบางประการที่ผู้เขียนพบ แต่ผู้เล่นจะไม่พบ ต้องรอดูกันอีกทีว่าแพทช์ดังกล่าวจะปรับแก้อะไรบ้าง (อ่านช่วงอัปเดทด้านล่าง) *ขอขอบคุณบริษัท CD PROJEKT RED สำหรับโค้ดรีวิว และบริษัท Sicom, Nvidia สำหรับอุปกรณ์รีวิว* ชะตากรรมของนักเลงแห่งโลกอนาคตที่คุณเป็นคนลิขิต เนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 จะเล่าเรื่องราวของตัวเอกที่ชื่อว่า V ทหารรับจ้างหน้าใหม่ไฟแรงของเมือง Night City ผู้ซึ่งถูกดึงเข้าไปพัวพันกับแผนการแย่งชิงอำนาจของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ (ที่เกมเรียกว่าเหล่า Megacorp) ที่ปกครองเมือง และต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ของเขาในการไขปริศนาเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด โดยสิ่งที่ผู้พัฒนายกเป็นจุดขายสำคัญมาโดยตลอดคือเรื่องของทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเสื้อผ้า หน้าตา หรือคำพูดของตัวละคร ที่ล้วนแล้วแต่จะส่งผลต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าด้วยระยะเวลาเล่นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้เรายังไม่อยากวิจารณ์เนื้อเรื่องในภาพใหญ่ แต่จากระยะเวลาที่ทดลองเล่น พบว่าเนื้อเรื่องของเกมมีความเข้มข้นและ "เป็นผู้ใหญ่" ในแบบที่น้อยเกมจะกล้าทำ เกมให้เวลากับการพัฒนาตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ เยอะมากจนในบางครั้งเราอาจจะเล่นเกมเป็นชั่วโมงโดยที่คุยกับ NPC อย่างเดียวเลยก็ได้ ซึ่งในแง่นี้ก็อาจจะถูกใจคนที่ชื่นชอบการเล่น RPG อินๆ เหมือนดูซีรี่ส์ยาวๆ มากกว่าคนที่โหยหาประสบการณ์บู๊กระหน่ำดุเดือดเลือดพล่านแบบหนังฮอลลีวู้ด เมื่อเริ่มต้นเกมครั้งแรก สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะได้พบก็คือหน้าจอการเลือก Lifepath หรือภูมิหลังของตัวละคร และเมนูการสร้างตัวละคร โดยเราสามารถกำหนดรูปร่างหน้าตาของตัวละครได้ตั้งแต่เล็บมือยันอวัยวะเพศ แถมยังสามารถผสมคอมโบเพศตัวละครได้ตามใจอีกด้วย ซึ่งแม้จะเรียกเสียงฮือฮาจากหมู่ผู้เล่นที่ติดตามเกมได้พอสมควร แต่เอาเข้าจริงๆ ระบบสร้างตัวละครของเกมก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร และยังจำกัดกว่าการสร้างตัวละครในเกม RPG อีกหลายๆ เกมด้วยซ้ำ ที่สำคัญ ทางเลือกเหล่านี้กลับไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเกมมากเท่าที่ผู้พัฒนาเคยบอกไว้ และเราแทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตาของตัวละครเลยในการเล่นทั่วไป (ยกเว้นเวลาเข้าหน้าต่างของสวมใส่) จึงอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เวลากับการสร้างตัวละครมากนัก โดยทางเลือกที่เห็นว่าน่าจะส่งผลต่อผู้เล่นจริงๆ มีเพียงเสียงพูด (ที่จะสรรพนามทางเพศที่ตัวละครในเกมใช้เรียกเรา) และเล็บมือ (อวัยวะที่เราเห็นได้บ่อยที่สุด) นอกนั้นเอาเข้าจริงอยากเลือกอะไรก็ได้ไม่ต่างกัน เช่นเดียวกับหน้าตา เมื่ออ้างอิงจากระยะเวลาที่ใช้เล่นเกมมา Lifepath ของตัวละครเองก็ไม่ได้ส่งผลต่อเกมอย่างใหญ่หลวงนัก หลักๆ แล้วก็จะมอบตัวเลือกบทสนทนาประจำสายให้ประปราย แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้เล่นอย่างมีนัยยะสำคัญแต่อย่างใด ไม่ได้มีภารกิจเฉพาะสาย Lifepath หรือมีความสามารถหรือเหตุการณ์ใดๆ เพิ่มขึ้นมานอกจากช่วง 1-2 ชั่วโมงแรกของเกม เสมือนเป็นเพียง "สีสัน" อีกระดับหนึ่งมากกว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของเนื้อเรื่อง เช่นผู้เขียนที่เลือกเล่นเป็นตัวละคร Corpo มักจะทำให้สามารถเลือกตัวเลือกบทสนทนาที่เป็นลักษณะ "รู้ทัน" กลโกงของเหล่าตัวละคร NPC ที่เป็นสาย Corpo เช่นเดียวกับเรา หรือช่วยให้เราตีสนิท NPC สายนี้ได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าถ้าไม่มีทางเลือกเหล่านี้ก็อาจจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปอีกแบบ แต่ผู้เขียนก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเราก็ยังสามารถพบกับผลลัพธ์แบบเดียวกันได้แม้ไม่ได้เลือก Lifepath นั้นมาก็ตาม คนที่คาดหวังว่าการเล่นเกม 3 รอบ 3 Lifepath จะได้ประสบการณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงอาจต้องปรับความคาดหวังกันซักนิด ทางเลือกที่ส่งผลสำคัญจริงๆ มักจะเกิดขึ้นในบทสนทนาระหว่างภารกิจ ที่อาจจะส่งผลสำคัญต่อเกมจริงๆ เช่นบางตัวเลือกอาจจะทำให้เราเลี่ยงการเผชิญหน้ากับศัตรูกลุ่มใหญ่ได้ หรืออาจจะถึงขนาดเปลี่ยนเป้าหมายของภารกิจไปเลยก็ยังได้ แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนจากระยะเวลาที่ได้เล่นคือทางเลือกเหล่านี้จะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเกมแค่ไหน เช่นถ้าในภารกิจหนึ่งผู้เขียนเลือกเข้าข้างฝ่าย A เพื่อสู้กับฝ่าย B มันจะส่งผลเป็นวงกว้างต่อไปอย่างไร จะมีคนของฝ่าย B มาตามล้างแค้นไหม หรือเนื้อเรื่องหลักจะเปลี่ยนไปไหม ยังเป็นสิ่งที่ยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ กล่าวโดยสรุป แม้ว่าเราจะพอฝันธงได้ระดับหนึ่งแล้วว่าทางเลือกทั้งหลายที่เราได้เลือกในช่วงต้นเกมจะไม่ได้ส่งผลต่อเกมที่เหลือขนาดนั้น แต่สิ่งที่ยังตอบลำบากคือเรื่องผลกระทบของทางเลือกบทสนทนาต่อเนื้อเรื่อง ซึ่งน่าจะต้องดูกันต่อไปอีกว่าจะส่งผลมากเท่าที่ผู้พัฒนาเคยคุยไว้แค่ไหน แต่ถ้าพูดถึงคุณภาพของเนื้อเรื่องและบทเท่าที่เล่นมา ก็ต้องบอกว่าเกมให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูซีรี่ส์สืบสวนสอบสวนเข้มข้นๆ เรื่องหนึ่งอยู่ และเพิ่งจะเข้าสู่ช่วงน่าตื่นเต้นจริงๆ เท่านั้นเอง แถม: สำหรับคนที่อ่านรีวิวนี้ก่อนเกมวางจำหน่าย อยากแนะนำให้ได้ไปศึกษาเนื้อเรื่องและตัวละครจากเกมตั้งโต๊ะ Cyberpunk 2020 ให้ดีๆ เพราะเนื้อเรื่องของเกมจะอ้างอิงถึงตัวละครและเหตุการณ์เหล่านี้อย่างมีนัยยะสำคัญ จึงควรลองหาอ่านซะหน่อยเพื่อกันงง และเพื่อให้เข้าใจถึง "น้ำหนัก" หรือ "ความสำคัญ" ของเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องต่อโลกของเกม ก็บอกแล้วว่าเป็น RPG ไงเล่า! ในแง่ของความเป็น RPG เกม CP2077 จะแบ่งการพัฒนาตัวละครออกเป็นสองด้านหลักๆ คือเลเวลของตัวละคร ซึ่งจะกำหนดค่า Stat และความสามารถ Perk ที่เราสามารถเลือกอัปเกรดได้ และระดับ Street Cred ซึ่งจะปลดล๊อคไอเทมและ Cyberware ที่เราสามารถซื้อได้นั่นเอง โดยทั้งสองมักจะพัฒนาไปพร้อมๆ กันขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้เล่น (ไม่ค่อยชัดเจนนักว่าอะไรเพิ่ม Level เป็นหลัก และอะไรเพิ่ม Street Cred เป็นหลัก) สำหรับค่า Level ทุกครั้งที่เพิ่มขึ้น เราจะได้รับแต้ม Stat และ Perk มาอย่างละหนึ่งแต้ม โดยค่า Stat จะมีทั้งหมด 5 ค่า (Body, Reflexes, Intelligence, Tech, Cool) ซึ่งจะให้ผลไม่เหมือนกัน Stat หนึ่งอาจเพิ่มพลังชีวิตและการโจมตีระยะประชิด ในขณะที่อีก Stat ลดเวลาในการเติมกระสุนปืนเป็นต้น นอกจากนี้ ในแต่ละ Stat ยังจะมีสาย Perk อีกถึง Stat ละ 2-3 สาย เปรียบเสมือนความสามารถติดตัวที่ช่วยเสริมสายการเล่นของเรา เช่นทำให้ปืนไรเฟิลส่ายน้อยลง หรือทำให้ชักปืนลูกซองออกมาได้เร็วขึ้น ยิ่งเราอัปค่า Stat ที่เกี่ยวข้องกับสาย Perk นั้นๆ ก็จะยิ่งปลดล๊อค Perk ในสายนั้นๆ ให้อัปได้เยอะขึ้น อีกมิติหนึ่งที่น่าสนใจคือการที่เราสามารถพัฒนาสาย Perk แยกกับการอัป Stat ได้ด้วย ตราบใดที่เราใช้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับสายนั้นบ่อยๆ เช่นเราอาจจะไม่ได้อัป Stat Intelligence ที่ช่วยพัฒนาความสามารถในการแฮ๊ค แต่ตราบใดที่เราแฮ๊คสิ่งของบ่อยๆ เราก็จะได้ค่าความชำนาญในการแฮ๊คเพิ่มขึ้นจนปลดแต้ม Perk หรือโบนัสความสามารถติดตัวที่เกี่ยวข้องกับการแฮ๊คได้อีกด้วย ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการพัฒนาตัวละครตามสายที่เล่นจริงๆ มากกว่าแค่การเลือกอัป Perk เพียงอย่างเดียว ถือเป็นระบบที่น่าสนใจ ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเองกำลัง "ก้าวหน้า" อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังคงขึ้นอยู่กับการเลือกอัปค่า Stat เป็นสำคัญ เพราะต่อให้มีแต้ม Perk มากมาย แต่ถ้าไม่ได้ปลดล๊อคตัว Perk ด้วยการอัปเกรด Stat ก็ใช้ไม่ได้ แถมค่า Stat ทั้งหลายยังสามารถเปิดทางเลือกบทสนทนา ตัวเลือก Cyberware ที่สวมใส่ได้ หรือการกระทำเพิ่มเติมให้เรามากขึ้นอีกด้วย (เช่นถ้าอัปค่า Body สูงๆ จะทำให้พังประตูบางบานเพื่อเปิดเส้นทางผ่านด่านใหม่ๆ ได้) เราจึงควรให้ความสำคัญกับการวางแผนเส้นทางการอัป Stat ให้ดีๆ ไม่งั้นอาจทำให้ตัวละครเกิดช้าได้ในกรณีที่เกลี่ยอัปหลาย Stat พร้อมกัน และที่สำคัญคือผู้เขียนยังไม่พบวิธีการรีเซ็ตค่า Stat หรือ Perk เลยด้วย ซึ่งถ้ามันเลือกแล้วเลือกเลยจริงๆ ก็ยิ่งต้องวางแผนกันให้ดีขึ้นไปอีก การพัฒนาตัวละครเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก อาจจะสำคัญยิ่งกว่าฝีมือในการเล่น FPS ของแต่ละคนซะอีก เพราะทุกอย่างในเกมนี้จะอ้างอิงการคำนวนตัวเลขแบบ RPG แทบทั้งหมดโดยไม่สนใจตรรกะของเกมแนวอื่นเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่นตรรกะของเกม FPS ส่วนใหญ่ที่บอกว่าปืนลูกซองต้องแรงกว่าปืนพกแน่ๆ แต่ในเกมนี้ ยิงปืนพกเข้าอกศัตรูก็ยังอาจจะแรงกว่ายัดลูกซองใส่หน้าตราบใดที่เราอัปเกรดความสามารถสายปืนพกมา การทำความเข้าใจระบบพัฒนาตัวละครและความสามารถต่างๆ ของ Perk จึงมีความสำคัญมาก ในขณะที่ค่า Level จะเป็นการพัฒนาความสามารถแบบติดตัวซะเยอะกว่า (มีความสามารถกดใช้ประปราย) Street Cred จะเป็นตัวที่ปลดล๊อคไอเทมที่ช่วยมอบวิธีการเล่นใหม่ๆ ได้จริงๆ เช่นดาบ Mantis Blade ยอดนิยม หรือขากลที่มีไอพ่นทำให้เราสามารถลอยตัวกลางอากาศได้ โดยในช่วง 20 ชั่วโมงแรกของผู้เขียนยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับแง่มุมนี้นักเพราะยังปลดล๊อคไม่ได้ ส่วน Cyberware ช่วงต้นเกมก็ยังไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่ก็เพิ่มความสามารถติดตัวไม่ต่างจาก Perk เท่าไหร่ ถ้าได้ปลดล๊อคหรือทดลองเล่น Cyberware เจ๋งๆ จะลองมาเล่าให้ฟังในอัปเดทต่อๆ ไป ...แต่ก็ใช่ว่าอย่างอื่นจะไม่ดี? เสน่ห์อย่างหนึ่งในการเล่นเกม Cyberpunk 2077 คือแม้ว่าเกมจะยึดมั่นในความเป็น RPG ก่อนเหนืออื่นใด แต่ก็ไม่ได้ละเลยองค์ประกอบเกมเพลย์อื่นๆ ไปเลยแต่อย่างใด และสามารถรักษามาตรฐานของเกม Open World แง่มุมต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน แม้จะไม่ได้เทียบเทียมกับเกมแนวนั้นๆ โดยตรง (กล่าวคือยังไง Call of Duty ก็ทำการยิงปืนได้ดีกว่า หรือ Dishonored ก็ทำการลอบเร้นได้ดีกว่า) แต่ทุกอย่างกลับดีพอในระดับที่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ "แย่" เลยซักอย่าง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่น่าชมสำหรับเกมที่ใหญ่และลึกมากขนาดนี้ การที่ Cyberware และอาวุธเจ๋งๆ ส่วนใหญ่ดูจะถูกกีดกันจากผู้เล่นในช่วงต้นเกม ทำให้การต่อสู้ในเกมช่วงแรกๆ ค่อนข้างรู้สึกธรรมดาไปซะหน่อย เพราะปืนแทบทั้งหมดที่ได้ก็ยังเป็นเพียงปืนกระสุนโลหะทั่วๆ ไป อาวุธระยะประชิดอย่างมีดหรือดาบคาตะนะก็ยังไม่มีความสามารถหรือหน้าตาพิเศษอะไรนัก โดยผู้เขียนเพิ่งจะเริ่มพบปืนชนิด Tech Weapon ที่สามารถชาร์จยิงทะลุกำแพงได้ก็ตอนเล่นเกมมาเกิน 15 ชั่วโมงแล้ว และได้ปืนพก Smart Gun กระบอกแรกมาตอนเกือบ 20 ชั่วโมงพอดี ไม่แน่ใจว่าชนิดของอาวุธที่เก็บได้จากศัตรูจะขึ้นอยู่กับเลเวลของผู้เล่น หรือดูจากว่าเล่นเนื้อเรื่องไปไกลแค่ไหนแล้วหรืออย่างไร แต่ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบกับอาวุธที่มีลูกเล่นแปลกตามากขึ้น ซึ่งก็ทำให้การต่อสู้มีความแปลกใหม่มากขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย ด้วยความที่อาวุธและอุปกรณ์ในช่วงที่ผู้เขียนเล่นมายังค่อนข้างธรรมดาอย่างที่ว่า ทำให้การต่อสู้พลอยรู้สึก "ธรรมดา" ไปด้วยซะอย่างนั้น แม้ว่าความรู้สึกของการยิงปืนในเกมจะดีกว่าเกม RPG แนวเดียวกันที่ผ่านมา แต่กลับรู้สึก "เฉยๆ" คือไม่ได้แย่หรือมีปัญหาอะไรนัก แต่โดยรวมก็ไม่ได้รู้สึกสนุกหรือพิเศษไปกว่าเกม FPS กึ่ง RPG นับสิบๆ เกมที่เคยเล่นมาก่อนแล้ว อีกส่วนอาจจะมาจากเหล่าศัตรูที่พบในเกมตอนนี้ด้วย ที่ส่วนมากยังคงเป็น "คนธรรมดา" อยู่ (คือยังไม่ได้ใส่ Cyberware จนเหนือมนุษย์อะไร) และ A.I. ของศัตรูก็มักมีความไม่สม่ำเสมอ เพราะส่วนใหญ่มักจะค่อนข้างโง่ในการต่อสู้ (เช่นรัวกระสุนใส่พื้น วิ่งวนไปมาอย่างไร้จุดหมาย หรือกระทั่งวิ่งสะดุดศพเพื่อนจนล้ม ซึ่งผู้เขียนเคยเห็นมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง) แต่ครั้นจะพยายามท้าทายตัวเองด้วยการลอบเร้นผ่าน ศัตรูกลับหูตาไวขึ้นมาซะงั้น ทำให้สุดท้ายเรามักจะโดนบังคับให้ต้องต่อสู้จนได้แม้จะไม่อยากทำ ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้เขียนอยากเห็นคืออาวุธระดับสูงที่สามารถมอบความสามารถที่อาวุธอื่นๆ ไม่มีได้ ยกตัวอย่างในช่วงหนึ่งของเกม ผู้เล่นจะเปลี่ยนจากควบคุม V มาควบคุมตัวละครอีกตัวหนึ่งเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งตัวละครนี้จะมาพร้อมกับปืนพกประจำตัวที่นอกจากจะยิงแรงเท่าปืนสไนเปอร์แล้ว ยังยิงทะลุกำแพงได้ (เพราะเป็นอาวุธ Tech Weapon) และเมื่อกดโจมตีระยะประชิด แทนที่จะใช้ด้ามปืนฟาดศัตรูเหมือนปืนพกทั่วไป ปืนกระบอกนี้จะปล่อยไฟออกมารอบตัวผู้ใช้เพื่อโจมตีศัตรู เป็นความสามารถที่ผู้เขียนยังไม่พบในปืนกระบอกใดๆ อีกเลยตลอดระยะเวลาที่เล่น และหวังว่าอาวุธระดับสูงๆ ชิ้นอื่นจะสามารถมอบลูกเล่นที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้เช่นกัน ในส่วนของการขับรถ ผู้เขียนต้องออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการขับรถในเกมเป็นการส่วนตัว จึงไม่ได้รู้สึกประทับใจหรือให้ความสนใจกับการขับรถในเกมเป็นพิเศษ แต่ถ้าจะให้เปรียบความรู้สึกในการขับรถ อาจจะควบคุมยากกว่าในเกมอย่าง GTA V นิดหน่อย โดยเฉพาะในจังหวะเข้าโค้งที่รถหมุนแทบจะทุกครั้ง แต่ก็ยังดีกว่าที่พบได้ในเกมอย่าง Watch Dogs: Legion มากมายนัก อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญเวลาต้องขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ซึ่งสำหรับผู้เขียนถือเป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของการขับรถในเกมได้ประมาณหนึ่ง ถ้าจะมีระบบหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึก "ไม่ชอบ" ไปแล้วคงเป็นระบบการแฮ๊คกิ้ง ที่ในขณะนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยมีผลอะไร แถมยังมีตัวเลือกจำกัดมาก โดยระบบแฮ๊คในเกมนี้จะมีความคล้ายคลึงกับระบบเวทย์มนตร์ในเกม RPG ทั่วไป เราจะต้องสวมใส่โปรแกรมแฮ๊คที่ต้องการในหน้าของสวมใส่ซะก่อนจึงจะใช้ได้ แต่ละโปรแกรมจะใช้หน่วย RAM (เปรียบกับ MP) ไม่เท่ากัน บางโปรแกรมสามารถสร้างความเสียหายได้โดยตรง ในขณะที่บางโปรแกรมอาจก่อกวนศัตรูในรุปแบบต่างๆ เช่นทำให้ตาบอดชั่วขณะ หรือลบความทรงจำระยะสั้น (ให้ศัตรูที่ตามหาเราอยู่เลิกตาม) โดยผู้เขียนพบว่าใช้ยาก และบางครั้งก็เหมือนจะติดบ้างไม่ติดบ้าง จึงอาจยังไม่สามารถให้คำวิจารณ์ที่ชัดเจนนักเพราะไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้อัปสายนี้มาหรือเป็นบั๊ค แต่โดยรวมรู้สึกว่ามันทำอะไรได้น้อยกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ทั้งหมดทั้งมวลนั้น คงต้องบอกว่าใน 20 ชั่วโมงที่ใช้ไปกับเกม เกมเพลย์ของ Cyberpunk 2077 ยังไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกประทับใจหรือน่าจดจำเป็นพิเศษ จากอาวุธที่ยังค่อนข้างธรรมดา และศัตรูที่ไม่ได้มีความพิเศษไปกว่าที่พบในเกมทั่วไป แต่ในช่วงที่เล่นอยู่นี้ก็เริ่มเห็นอาวุธแปลกๆ โผล่มาให้เก็บบ้างแล้ว หวังว่าจะยิ่งพัฒนาไปเรื่อยๆ เมื่อเล่นเกมต่อไป นิยามใหม่ของความเป็น "Open World" เมื่อพูดถึงเกม Open World สิ่งหนึ่งที่ผู้พัฒนามักจะกล่าวถึงคือเรื่องของ "Immersion" หรือถ้าแปลเป็นภาษาไทยบ้านๆ ก็คือความอินนั่นแหละ โดยเกม Open World ระดับแนวหน้าแทบทุกเกมล้วนสามารถสร้างความรู้สึกอินไปกับโลกและเรื่องราวของเกมได้ผ่านการสร้างบรรยากาศและการออกแบบฉากที่สื่อถึง "ประวัติศาสตร์" หรือ "วิถีชีวิต" ของผู้ที่อาศัยในโลกนั้นๆ ซึ่งในแง่นี้อาจบอกได้ว่า Cyberpunk 2077 ได้วางมาตรฐานใหม่สำหรับการออกแบบโลก Open World ไปแล้วเรียบร้อย แม้ผู้เขียนจะยังไม่มีโอกาสได้สำรวจทุกเขตในเมือง แต่แค่ในเขตที่ได้ลองสำรวจดูก็บอกได้แล้วว่าเมือง Night City ของเกมอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่ช่วยเล่าความเป็นไปของชีวิตในเมืองเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆณษาสีสันฉูดฉาดตามที่เชิญชวนให้คนตัดอวัยวะตัวเองทิ้งเพื่อเปลี่ยนถ่ายอวัยวะจักรกลที่สื่อถึงความธรรมดาของการปรับแต่งร่างกาย ไปจนถึงรายการทีวีและวิทยุที่พูดถึงโศกฆนาตกรรมในเมืองพร้อมประกาศยอดผู้เสียชีวิตประจำวันอย่างอารมณ์ดีราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวัน ทุกสิ่งทุกอย่างในเกม Cyberpunk 2077 ให้ความรู้สึกว่าถูกออกแบบและจัดวางมาอย่างตั้งใจ เพื่อให้ Night City สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองไปสู่ผู้เล่นได้ตลอดเวลาผ่านการเล่นเกมไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับเกมในขณะนี้ สำหรับการรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ผู้เขียนได้ทดลองเล่นเกมบนเครื่อง PC ที่มาพร้อมกับการ์ดจอ RTX 2060 / 16GB RAM และสามารถเล่นเกมที่การตั้งค่า Preset Ray Tracing - Medium (1080p) ได้ด้วยเฟรมเรตราวๆ 40-45 FPS และสามารถดันถึง Ray Tracing - Ultra ได้โดยที่เฟรมเรตเหลือราวๆ 30 FPS ซึ่งถือว่าไม่แย่เลยเมื่อเทียบกับระดับรายละเอียดที่ได้ โดยเฉพาะในแง่ของ Texture หรือพื้นผิวต่างๆ ที่ดูสมจริงมาก และช่วยทำให้เกมรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น แถมต้องไม่ลืมว่าเกมฉบับรีวิวนี้เป็นเกมตัวเต็มที่พ่วงซอฟต์แวร์ Denuvo Anti-Tampering มาด้วย ซึ่งทางผู้พัฒนาเองแจ้งว่าจะทำให้เฟรมเรตลดลงราว 10-15 FPS อยู่แล้ว จึงยิ่งเชื่อได้ว่าเกมน่าจะทำงานบนการ์ดจอรุ่นเก่ากว่านี้ได้ไม่มีปัญหานัก (ปรับ Medium-High) เผลอๆ อาจจะดีกว่าที่แจ้งเอาไว้ใน Spec Sheet ที่ CDPR เคยปล่อยออกมาเองด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าได้ Day One Patch ช่วยอีก คงไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเล่นเกมไม่ได้ตราบใดที่เครื่องถึง Spec ขั้นต่ำเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้จะบอกว่าเกมไร้ที่ติไปซะหมด เพราะด้วยขนาดและความละเอียดระดับนี้ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีบั๊คติดมาบ้างไม่มากก็น้อย ข้อดีคือบั๊คในเกม CP2077 ที่พบส่วนใหญ่มักจะเป็นบั๊คตลกๆ เช่นบั๊คที่ทำให้อาวุธของศัตรูที่ตายแล้วค้างอยู่กลางอากาศเหนือศพพวกเขา (ซึ่งเอาจริงๆ เป็นบั๊คที่แอบมีประโยชน์) หรือบั๊คด้านกราฟิกเล็กน้อย เช่นครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนขับมอเตอร์ไซค์ชนถังขยะจนมอเตอร์ไซค์ทะลุลงไปในพื้นและติดอยู่อย่างนั้น หรือบางครั้งเดินๆ อยู่ก็จะเห็น NPC ยืนท่าตัว T กลางถนน ซึ่งทั้งหมดเป็นบั๊คเล็กๆ ที่ชวนให้ขำกับตัวเองมากกว่าจะทำให้เสียประสบการณ์เล่นเกม ผู้เขียนเจอบั๊คที่รุนแรงเพียงครั้งเดียวเมื่อประตูที่ควรเปิดตามเนื้อเรื่องดันไม่ยอมเปิด จนทำให้ดำเนินเรื่องต่อไม่ได้ แต่พอโหลดเกมกลับมาลองใหม่ก็ผ่านได้ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ เกมยังมักจะมีปัญหาในด้านการนำทาง ที่มักไม่สามารถรับมือกับความต่างระดับของเมือง Night City เอง และมักมีปัญหาในการคำนวนเส้นทางไปสู่พื้นที่ต่างระดับจนผู้เขียนถึงกับ "หลงทาง" มาแล้ว แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเราจะสามารถจดจำถนนหนทางของเมืองได้โดยธรรมชาติจากจุดสังเกติในฉาก เหมือนกับการเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในชีวิตจริงทุกวัน ซึ่งก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อดีของฉากในเกม แม้ระบบนำทางจะตามไม่ค่อยทันก็ตาม ซับไทยร่วงหรือรอด?! ถ้าให้พูดตามตรง แม้จะเห็นใจทีมงานแปลซับและเมนูภาษาไทยที่ต้องแปลข้อความเยอะมากขนาดในเกม Cyberpunk 2077 แต่ต้องเรียนตามตรงว่าคุณภาพของซับและเมนูยังปรับปรุงได้อีกเยอะมากๆ ผู้เขียนพบว่าซับโดยรวมแม้จะสื่อความหมายได้ถูกต้องในระดับหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถสื่ออามรมณ์ของเกมได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือหน้าเมนูหลายส่วนที่มีความไม่สม่ำเสมอ แปลคำเดียวกันออกมาหลายแบบ หรือกระทั่งแปลตกความหมายของคำบรรยาย Perk ไปเลยก็มี ตัวอย่างหนึ่งที่พอนึกออก (เพราะเปิดเมนูเล่นได้แปบเดียวต้องเปลี่ยนกลับเป็นภาษาอังกฤษเพราะอ่านไม่เข้าใจ) คือการที่หน้าเมนูเดี๋ยวก็แปลคำว่า Light Machine Gun เป็นคำว่าปืนกลเบาบ้าง ปืนกลมือบ้าง หรือคำว่า Recoil บางครั้งก็แปลว่าการส่าย บางครั้งก็แปลว่าการถีบ ซึ่งทั้งหมดมันทำให้สับสนเวลาพยายามทำความเข้าใจระบบ Perk และมั่นใจได้ว่าน่าจะรวมไปถึงคำบรรยายไอเทมหลายๆ ชิ้นด้วย จริงๆ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ซับจะไม่สามารถคงอารมณ์ของเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด ด้วยเนื้อหาที่ไม่น่าจะถูกใจกองเซ็นเซอร์ของบ้านเรา แต่อย่างน้อยๆ ทีมงานซับและเมนูน่าจะตรวจทานให้การแปลคำมันมีความสม่ำเสมอมากกว่านี้หน่อย เพื่อไม่ให้ดูเหมือนเป็นงานเผามากขนาดนี้ หวังว่าใน Day One Patch จะมีการปรับแก้ไขบ้างไม่มากก็น้อย เพราะในสภาพปัจจุบันอยากจะแนะนำให้เปิดเฉพาะจำเป็น ส่วนใครที่พออ่าน/ฟังอังกฤษได้บ้างก็อยู่กับภาษาอังกฤษน่าจะได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า สรุป: ยังไม่ประทับใจมากเป็นพิเศษ เนื้อเรื่องเพิ่งเริ่มเข้มข้นหลังจากเล่นไปแล้ว 20 ชั่วโมง / ต้องลองดูต่อไปก่อนว่าเกมเพลย์ระดับสูงๆ จะน่าสนใจขึ้นกว่าช่วงแรกหรือไม่ / กราฟิกไม่ได้สวยที่สุด แต่มีรายละเอียดหนาตาที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา แล้วพบกับความเห็นฉบับอัปเดทได้ในเวลา 22.00 ของทุกวัน จนถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ *เนื่องจากความขัดข้องทางเทคนิค ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเนื้อหาเข้าไปท้ายบทความเดิมได้ สามารถหาอ่านบทความอัปเดทความเห็นได้ ที่นี่
07 Dec 2020
Cyberpunk 2077 โชว์โหมดถ่ายรูปแบบ Full Option ในวิดีโอใหม่!
มันคงเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าหากว่าเกมฟอร์มยักษ์จะมาพร้อมกับโหมดถ่ายรูปให้ผู้เล่นได้แคปภาพกันอย่างสนุกสนาน พร้อมเอาไปอวดในโลก Social Media ซึ่ง Cyberpunk 2077 ที่พัฒนามานานกว่า 8 ปี เองก็เช่นกัน โดยโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ต้องบอกเลยว่า เปิดให้เราสามารถปรับแต่งพร้อมใส่ Filter ได้มากมายหลากหลายรูปแบบมากๆ ครับ! CD Projekt Red ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์โหมดถ่ายรูปของเกมนี้ออกมา จุดที่น่าสนใจก็คือโหมดถ่ายรูปของเกมนี้ จะมี Option ให้เราปรับเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Brightness, Contrast, Filtter, ท่าโพสต์ของ V, องศาที่ยืน ฯลฯ ซึ่งเท่าที่ดูจากวิดีโอแล้ว คิดว่าการถ่ายรูปมาอวดกันในเกมนี้จะต้องสนุกมากๆ อย่างแน่นอนครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
03 Dec 2020
Cyberpunk 2077 จะโอนเซฟไปเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X ได้!
พฤศจิกายน กำลังจะจบลงแล้ว ซึ่งมันหมายความว่า Cyberpunk 2077 ก็ใกล้จะวางจำหน่ายแล้วเช่นกัน โดยเชื่อว่าตอนนี้หลายคนกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อเกมนี้บนเครื่องไหนดี ซึ่งสำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ PS4 หรือ PS5 ดี ขอให้รู้ไว้ว่าคุณซื้อเครื่องไหนก็สามารถนำไปเล่นต่อบนอีกเครื่องได้อย่างไม่มีปัญหาครับ! CD Projekt Red ได้อธิบายว่าเกมเมอร์สามารถโอนไฟล์เซฟจาก PS4 ไป PS5 ได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านระบบ Cloud ของ PS Plus, ต่อสายแลนระหว่างเครื่องด้วยกัน, ผ่าน Wifi หรือ External Harddisk ส่วนสำหรับ Xbox One ไปXbox Series X ผู้เล่นเพียงแค่ต้องออนไลน์อยู่เพื่ออัปโหลดไฟล์เกมขึ้น Cloud เท่านั้น หรือจะโอนผ่านสัญญาณ Network เดียวกันก็ได้ครับ! ก่อนหน้านี้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์บนเครื่อง PS4 Pro ออกมาแล้ว ซึ่งคิดว่าภาพที่ได้ก็ไม่แย่ครับ ดังนั้นส่วนตัวผมคิดว่าต่อให้หาเครื่อง PS5 ไม่ได้ การจะซื้อบนเครื่อง PS4 มาเล่นกันมันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายครับ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
30 Nov 2020
Cyberpunk 2077: ความเห็นเพิ่มเติมจากสื่อที่ลองเล่น ตอบคำถามสุดร้อนแรงจากผู้เล่น 11 ข้อ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางผู้พัฒนา CD PROJEKT RED ได้ออกอากาศรายการ Night City Wire #5 จนจบ ก็มีสื่อมวลชนจากต่างประเทศหลายๆ สำนักที่เริ่มตีพิมพ์บทความพรีวิวเกม Cyberpunk 2077 ที่บอกเล่าประสบการณ์และความรู้สึกของสื่อมวลชนเหล่านี้ หลังจากที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมกันไปถึงคนละ 16 ชั่วโมงเต็ม หนึ่งในสื่อที่ออกมาบรรยายความรู้สึกดังกล่าวก็คือเว็บข่าวเกมชื่อดัง IGN โดยแม้ว่าในบทความดังกล่าวจะกล่าวถึงเกมไปแล้วในหลายแง่มุม (อ่านสรุปความเห็นสื่อมวลชนได้ที่ > ลิงค์) แต่ก็ยังมีประเด็นร้อนแรงมากมายที่ผู้เล่นอยากจะได้คำตอบ แต่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความของเว็บ เพื่อตอบคำถามคาใจของเกมเมอร์ ผู้สื่อข่าวที่ได้ทดลองเล่นเกมคุณ Tom Marks จึงได้ปล่อยคลิปวิดีโอตอบคำถามสุดฮ๊อตจากฝั่งผู้เล่นมากถึง 11 ข้อด้วยกัน จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้าง ไปอ่านบทสรุปของ GameFever ได้เลย! การขับรถรู้สึกอย่างไร? สำหรับประเด็นแรกที่พูดถึงคือเรื่องของการขับรถ โดยผู้เล่นหลายคนตั้งคำถามถึงความรู้สึกของการขับรถในเกมว่าทำออกมาได้ดีแค่ไหน คุณ Tom กล่าวว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าการขับรถในเกมมีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ คือไม่ได้จะบอกว่าไม่ดี แต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเกมขับรถตรงๆ คุณ Tom กล่าวว่าเขาชอบรายละเอียดภายในของรถแต่ละคันมาก เพราะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างรถแต่ละรุ่น ในแง่ของความเร็ว คุณ Tom กล่าวว่ารถที่เขาได้ขับในช่วงต้นๆ ของเกมนั้นค่อนข้างอืดอาดมาก แต่พอเล่นไปซักพัก เขาก็มีโอกาสขโมยรุสปอร์ตราคาแพงมาใช้ และทำให้การขับรถรู้สึกเร็วขึ้นเยอะ คุณ Tom บอกว่าเขาชอบการขับรถมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนตร์ เพราะมันมีความคล่องตัวสูงกว่า ทำให้สามารถขับรถซอกแซกตามถนนหนทางของเมือง Night City ได้ดีกว่า  ถนนในเกมจะโล่งๆ ร้างๆ เหมือนที่เห็นในตัวอย่างไหม? จากตัวอย่างเกมเพลย์หลายๆ คลิปที่ปล่อยออกมา มีฉากหลายฉากที่แสดงให้เห็นถนนของเมือง Night City ที่แลดูโล่งๆ ไม่ค่อยมี NPC หนาตาเหมือนในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแรกๆ ทำให้ผู้เล่นหลายคนเป็นห่วงว่าเมืองของเกมตัวเต็มจะร้างแบบเดียวกันไหม? คุณ Tom กล่าวว่าเขารู้สึกว่าความรู้สึก "ร้างๆ โล่งๆ" ที่ว่านี่น่าจะเป็นเหตุมาจากคลิปตัวอย่างซะเองมากกว่าตัวเกม เพราะจากที่เขาเล่นมา เขาบอกว่าแม้จะมีบางพื้นที่ในเมือง (เช่นบริเวณชานเมืองหรือเขต Badlands) อาจจะไม่ค่อยมีคนมาก แต่ในเขตกลางเมือง หรือตามสถานที่อย่างตลาดหรือย่านการค้า ก็ยังมี NPC เดินกันขวักไขว่ไปหมดแน่นอน คุณ Tom ก็กล่าวด้วยว่าแต่ละเขตในเกมจะมีตัวตนที่แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้คุณ Tom ไม่ได้รู้สึกขัดที่เกมบางเขตไม่ได้มีผู้คน ทั้งนี้ คุณ Tom ก็มีข้อตำหนิเล็กน้อย โดยเขาบอกว่าแม้ในบางฉากจะมีผู้คนและร้านค้ามากมาย แต่มักจะมีเพียงส่วนน้อยที่ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปปฏิสัมพันธ์ด้วยได้จริงๆ และส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนเพียงของประกอบฉากเท่านั้น ซึ่งคุณ Tom บอกว่าแอบรู้สึกผิดหวังกับจุดนี้ แต่ก็คงไม่ถึงกับใช้คำว่าโลกของเกมมัน "ร้าง" ไปเลยเช่นกัน มีอาคารที่เราสามารถเข้าไปสำรวจได้มากน้อยแค่ไหน? สำหรับคำถามนี้ คุณ Tom ตอบตรงๆ เลยว่ามีอยู่ "ไม่มาก" กระทั่งอาคารที่เราสามารถเข้าไปได้ (เช่นตึกอพาร์ตเมนต์ของ V) ก็ใช่ว่าเราจะสามารถสำรวจอาคารทั้งอาคารได้อย่างอิสระ โดยในตัวอย่างของตึกอพาร์ตเมนต์ เขาบอกว่าเราจะสามารถเลือกสำรวจได้จริงๆ เพียง 2-3 ห้องเท่านั้น แต่คุณ Tom กล่าวว่าเมื่อได้เล่นจริงๆ เขาก็ค้นพบว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับจุดนี้เท่าไหร่ เพราะ 1. เขารู้สึกว่าผู้เล่นไม่น่าจะมีเหตุผลให้ต้องเข้าไปในอาคารส่วนใหญ่ๆ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Night City และ 2. เขาพบว่าอาคารหลายอาคารที่เขาเข้าไปไม่ได้ มักจะมีประตูที่ถูกล๊อคเอาไว้ ทำให้เขาเชื่อว่าเราจะสามารถเข้าไปในตึกเหล่านี้จนได้ในภายหลัง โดยอาจจะต้องเข้าไปเพื่อทำภารกิจเฉพาะ กล่าวโดยสรุป คุณ Tom บอกว่าแม้ว่าผู้เล่นจะ "ไม่สามารถเดินเข้าตึกไหนก็ได้" อย่างอิสระ แต่ภารกิจทั้งหลายในเกมก็อาจจะ "ส่งผู้เล่นเข้าไปในตึกไหนก็ได้" ทุกเมื่อเหมือนกัน ซึ่งแม้จะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แต่ในทางปฏิบัติเขาพบว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับการเล่น และทำให้เกมมีโอกาสพาผู้เล่นเข้าไปสำรวจมุมใหม่ๆ ในเขตเดิมๆ ได้ตลอด การต่อสู้ระยะประชิดเป็นอย่างไร? คุณ Tom กล่าวว่าสำหรับเขา การต่อสู้ระยะประชิดในเกมอยู่ในระดับที่ "พอใช้" เท่านั้น แต่เขาก็รีบเสริมว่าโดยส่วนตัวแล้วเขาก็ค่อนข้าง "เฉยๆ" กับระบบต่อสู้โดยรวมอยู่แล้วเมื่อเทียบกับระบบอื่นๆ ซึ่งการต่อสู้ระยะประชิดก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้จะบอกว่าการต่อสู้ระยะประชิด (หรือการต่อสู้โดยรวม) จะไม่สนุก แต่อาจจะเป็นจุดที่โดดเด่นน้อยกว่าจุดอื่นๆ เขาได้ค้นพบดาบคาตะนะเล่มหนึ่งระหว่างที่เล่น และเขาสนุกกับการใช้มันมากๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาสามารถผนวกระบบสกิลและระบบการปรับแต่งร่างกาขเข้าไปเพื่อเอื้อต่อการเล่นดาบโดยตรงมากขึ้น ระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมค่อนข้างเรียบง่าย มีการโจมตีหนัก-เบา / มีการปัดป้องการโจมตีศัตรูด้วยการกดป้องกันให้ถูกจังหวะ / ฯลฯ เกมจะมีกิจกรรมการต่อสู้มือเปล่าให้ทำเต็มไปหมด แม้เขาจะไม่ได้มีโอกาสลองเล่นกับระบบการต่อสู้ประชิดมากนัก และคุณ Tom ก็ไม่ได้รู้สึกว่าระบบการต่อสู้ระยะประชิดของเกมในขณะนี้ "ลึก" พอจะทำให้เขาเลือกเล่นตัวละครสายประชิดไปเลย แต่เขาก็คิดว่าระบบต่อสู้ของเกมถือเป็นรากฐานที่ดี ที่สามารถต่อยอดไปได้อีกมากเมื่อเล่นเกมไปเรื่อยๆ ทางเลือก Lifepath ของผู้เล่นส่งผลต่อเกมมากไหม? คุณ Tom บอกว่าการเลือก Lifepath เป็นตัวเลือกที่ส่งผลใหญ่หลวงต่อเกมแน่นอน โดยเขายกตัวอย่างว่าเขาเองเลือกเล่นเป็น Corpo ทำให้ได้รับตัวเลือกบทสนทนามากขึ้นเมื่อคุยกับ NPC ชนิดนักธุรกิจ ทำให้สามารถคลี่คลายปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่คิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ต้องคิดอะไรมาก อย่างน้อยก็จากระยะเวลา 16 ชั่วโมงที่เขาได้เล่นเกม แต่ไม่รู้ว่าถ้าเล่นไปเรื่อยๆ จะเริ่มมีผลมาขึ้นไหม ในขณะเดียวกัน คุณ Tom ยอมรับว่าถ้าเขาเลือกเล่น Lifepath อื่นๆ อาจจะทำให้เหตุการณ์หลายอย่างที่เขาพบดำเนินไปอีกแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิงเลยก็ได้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่ใหญ่หลวงมากจนทำให้แต่ละ Lifepath แตกต่างกันราวกับเป็นคนละเกมไปเลยเช่นกัน การปรับแต่งหน้าตาหรือเสื้อผ้าของตัวละครจะส่งผลต่อเกมหรือไม่/แค่ไหน? คำตอบคือไม่มาก (หรือไม่เลย) โดยคุณ Tom กล่าวว่าเขามักจะบอกกับเพื่อนๆ สื่อมวลชนเสมอว่าให้ใส่ใจเลือกเล็บของตัวละครให้ดีๆ เพราะมันคืออวัยวะที่คุณจะได้เห็นบ่อยที่สุดแล้วในเกม แม้จะได้เห็นหน้าตาตัวละครทุกครั้งที่เข้าเมนูเพื่อสวมใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ แต่เกมก็ไม่มีคัตซีนมุมมองบุคคลที่ 3 ให้เราเห็นตัวละครของเราเดินไปมาแต่อย่างใด จึงอาจจะบอกได้ว่ารูปลักษณ์ของตัวละครจะไม่ได้มีผลต่อเกมมากขนาดนั้น ระบบคลาสในเกมเป็นอย่างไร? สามารถเลือกผสมความสามารถข้ามสายได้มากน้อยแค่ไหน? ระบบ Perk และ Skill จะเป็นการเพิ่มตัวเลขเป็น % เฉยๆ หรือจะสามารถเปลี่ยนวิธีการเล่นไปเลย? คุณ Tom ยอมรับว่าด้วยระยะเวลาอันจำกัดที่เขาได้ทดสอบเกม ทำให้เขาไม่ได้ใช้เวลาไปกับการสำรวจระบบสกิลอย่างลึกซึ้งนัก เขาอธิบายว่าเกมนี้จะไม่ได้มีระบบคลาสตายตัวเหมือน RPG ทั่วไป แต่จะเน้นการเลือกอัปทักษะหรือสกิลที่ต้องการไปเลย ทำให้เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นมาก นอกจากนี้ เกมยังมีระบบที่จะมอบค่าประสบการณ์ให้กับสกิลหรือความสามารถที่เราใช้บ่อยๆ โดยอัตโนมัติด้วย ในกรณีของคุณ Tom เขาเริ่มเล่นเกมด้วยการเน้นค่าสถานะ Body ที่เน้นความแข็งแรงทนทานของร่างกายโดยตรง แต่เมื่อเขาเล่นไปเรื่อยๆ เขากลับพบเขาใช้สกิล Hacking บ่อยมาก และเห็นว่า Perk สาย0 Hacking ของเขาก็ได้ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นไปด้วยแม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจอัปเองก็ตาม ในส่วนของ Perk คุณ Tom ยอมรับว่ามีบางส่วนที่เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลขเป็น % เท่านั้น (เช่นรับความเสียหายน้อยลง 10% เป็นต้น) แต่ก็มี Perk ที่ส่งผลต่อเกมเพลย์โดยตรงเช่นกัน คุณ Tom ยกตัวอย่าง Perk หนึ่งที่อยู่ในหมวดของค่าสถานะ Cool ที่ชื่อว่า Cold Blooded ที่จะมอบบัฟให้ผู้เล่นทุกครั้งที่ฆ่าศัตรูได้ โดยเราสามารถเลือกอัป Perk อื่นๆ ผสมกันเพื่อทำให้บัฟ Cold Blooded แสดงผลเปลี่ยนไปได้ เช่น Perk หนึ่งอาจจะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ อีก Perk อาจเพิ่มความเร็วในการเติมกระสุน โดยแม้จะฟังดูเหมือนเป็นความสามารถติดตัวมากกว่า แต่ก็เป็นการเพิ่ม "วิธีเล่น" หรือ "ระบบใหม่" ที่ไม่มีมาก่อนถ้าคุณไม่ได้อัปมันเช่นกัน ทำไมคุณถึงดูจะไม่ค่อยถูกใจระบบการยิงปืนในเกมเลย? ประเด็นหนึ่งที่คุณ Tom กล่าวถึงในบทความของเขา คือเขาไม่ได้รู้สึกประทับใจกับระบบต่อสู้หรือยิงปืนเป็นพิเศษ คุณ Tom ขยายความว่าในขณะที่เขายังไม่ได้เข้าถึงระบบการพัฒนาตัวละครหรืออาวุธขั้นสูง เขารู้สึกว่าระบบยิงปืนค่อนข้าง "เฉยๆ" เมื่อวัดด้วยมาตรฐานของเกม FPS ทั่วไป ไม่ได้ดีหรือแย่เป็นพิเศษอะไรเลย เขาพบว่าศัตรูในเกมตายค่อนข้างยาก แถมปืนช่วงต้นๆ ยังถีบแรงเป็นม้าจนยิงลำบาก แต่เขาบอกว่าข้อตำหนิในใจเขาค่อยๆ มลายหายไปเมื่อเขาเริ่มเข้าถึงระบบพัฒนาตัวละครทั้งหลายที่กล่าวถึงไป ที่มอบทางเลือกในการเล่นมากขึ้น จนไม่รู้สึกว่าเกมสามารถจำกัดความด้วยมาตรฐานของ FPS ได้อีกต่อไป เขาสรุปว่าเขาคงยังไม่สามารถวิจารณ์ระบบอย่างจริงจังได้ในขณะนี้ และคิดว่าเป็นเรื่องที่แต่ละคนน่าจะต้องลองเล่นเองมากกว่าจึงจะเข้าใจ ระดับความยากของเกมเป็นอย่างไร? เกมจะแบ่งระดับความยากให้เลือกทั้งหมด 4 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Story ที่ปรับเกมให้ง่ายสำหรับคนที่ต้องการเสพเนื้อเรื่องอย่างเดียว ไปจนถึงระดับ Hard และ Very Hard คุณ Tom กล่าวว่าเขาเล่นเกมในระดับปกติหรือ Normal ซึ่งเขาบอกว่ามีจังหวะที่รู้สึกว่าเกมท้าทายเรา และบังคับให้เราต้องใช้สมองในการแก้ปัญหาจริงๆ เกมเปิดช่องให้เราทำผิดพลาดไม่มาก และคุณ Tom บอกว่าเขามักจะกด Quick Save ทุกครั้งก่อนการต่อสู้เพราะรู้ว่าสามารถพลาดพลั้งได้เสมอ ไม่ว่าจะในแง่ของการต่อสู้หรือตัวเลือกบทสนทนาหลังการต่อสู้ แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับภารกิจด้วย เพราะบางภารกิจก็อาจจะพาเราไปยังเขตที่มีศัตรูระดับสูงๆ ในขณะที่บางภารกิจก็อาจจะวนเวียนอยู่แต่ในเขตระดับต่ำ ทำให้มีความหลากหลายในระดับความยากของเกม Pacing ของเกมเป็นอย่างไรถ้าเปรียบเทียบกับ Red Dead Redemption 2? *Pacing หมายถึงจังหวะหรือ "ความเร็ว" ในการดำเนินเรื่อง คุณ Tom ออกตัวก่อนว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ชอบเกม Red Dead Redemption 2 ขนาดนั้น แม้เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเกมที่สุดยอดในแง่ของกราฟิก แต่คุณ Tom ก็รู้สึกว่าเกมมี Pacing ที่ช้ามากเกินไปจนเขาเล่นเกมไม่ค่อยสนุกเลย เขาบอกว่า CP2077 ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นกับเขาแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะบอกว่าเกมมี Pacing ค่อนข้างยืดยาด แต่มันเป็นความยืดยาดแบบ RPG คลาสสิคมากกว่า โดยเขาเปรียบเทียบกับเกมอย่าง Divinity: Original Sin ที่ให้ผู้เล่นใช้เวลาอยู่ในเมืองเริ่มต้นหลายชั่วโมงกว่าจะได้ออกสู่โลกกว้าง ทั้งนี้ เขาไม่ได้จะบอกว่า CP2077 จะช้าขนาดนั้น (เพราะไม่งั้นก็คงช้าไปเหมือนกัน) แต่มันเป็น "ความรู้สึก" แบบเดียวกันมากกว่า กล่าวคือเกมไม่ได้เพ่งไปสนใจฉากแอ๊คชั่นเลือดพล่านสาดกระสุนเพียงอย่างเดียว แต่มักจะให้เวลากับการสร้างโลกหรือตัวละครในมุมเงียบๆ มากกว่า ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะสื่อในบทความ เกมจะมีเนื้อหาที่เปิดให้เล่นซ้ำได้เรื่อยๆ บ้างไหม? หรือว่าเป็นเกมที่มีเนื้อหาจำกัดและเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ก็สามารถทำทุกอย่างจนครบได้? คุณ Tom กล่าวว่าเขาเพิ่งเล่นเกมไปเพียง 16 ชั่วโมง จึงยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้จริงๆ เขาบอกว่าจากที่เขาเล่นมาเอง ยังไม่พบอะไรในลักษณะนั้น แต่ก็ไม่แน่ว่าพอเล่นไปเรื่อยๆ อาจจะมีอยู่ได้เช่นกัน ขอบคุณเนื้อหาดั้งเดิมจาก: IGN
25 Nov 2020
Cyberpunk 2077 เผยสเปคเครื่อง PC ที่ต้องการแบบละเอียดแล้ว!
หนึ่งในข่าวเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ที่ผู้เล่นอยากรู้มากที่สุดคือ ในเรื่องของสเปค PC ที่ต้องใช้สำหรับเล่นเกมนี้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากต้องการเล่นเกมนี้แบบ 4K / 60 FPS ด้วย Ultra Setting ยังไงก็คงต้องมี PC ที่สเปคแรงพอสมควรเลย และก็ได้มีการเผยสเปค PC ที่ต้องการสำหรับการเล่นในความละเอียดต่างๆ รวมถึงคุณภาพกราฟิกในระดับต่างๆ แล้วครับ! ข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมาในรูปแบบตาราง โดยดูเหมือนว่าสเปคขั้นต่ำสุดของเกมนี้จะไม่ได้ต้องการ PC ที่แรงอะไรมากมาย แต่ถ้าหากอยากเล่นแบบ 4K / 60 FPS บวกกับเปิด Ray-Tracing ด้วยแล้วละก็ จำเป็นต้องมีการ์ดจอที่แรงพอสมควรเลย สามารถดูสเปคที่ต้องการได้ข้างล่างนี้เลยครับ! Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: VG247
23 Nov 2020
Cyberpunk 2077 จะอัปเดตให้ผู้ใช้งาน AMD เปิด Ray-Tracing ได้ในภายหลัง!
ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวยืนยันว่า Cyberpunk 2077 จะสามารถเปิด Ray-Tracing ได้บนเครื่องที่ใช้การ์ดจอของ Nvidia เท่านั้นในตอนที่วางจำหน่าย มันจึงหมายความว่าผู้เล่นบนเครื่องคอนโซล จะยังไม่สามารถเปิดเทคโนโลยีแสง-เงา ตัวนี้ได้ในวันแรกที่เกมวางขาย ต้องรอหลังจากนั้นสักพักถึงจะสามารถเปิดใช้งาน Ray-Tracing ได้ครับ! มีการยืนยันจากทาง CD Projekt Red อีกครั้งว่าผู้ใช้งานการ์ดจอของ AMD เอง ก็จะสามารถเปิดใช้งาน Ray-Tracing ได้ในภายหลังเช่นกัน โดยตอนนี้ผู้พัฒนากำลังทำงานร่วมกับ AMD และพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้งานได้บนการ์ดจอของทางค่ายแดงเช่นกัน Ray-Tracing เป็นเทคโนโลยีของ Nvidia ซึ่งมันทำให้การ์ดจอของ Nvidia มีการออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานระบบดังกล่าวโดยเฉพาะด้วย ไม่ใช่เรื่องถ้าหากจะบอกว่าการ์ดของทางฝั่ง AMD จะยังไม่สามารถใช้งานเทคโนโลยีตัวนี้ได้อย่างเต็มที่ แต่ในเมื่อมีการยืนยันจากผู้พัฒนาแล้ว คิดว่าหลังจากเกมวางจำหน่ายไม่นานทางการ์ดจอของทางฝั่ง AMD เองก็จะสามารถใช้งาน Ray-Tracing ได้เช่นกันครับ! Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Not for the release but we are working together with AMD to introduce this feature as soon as we can. — Marcin Momot (@Marcin360) November 20, 2020 Credit: GamingBolt
23 Nov 2020
ตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 จะขยับหน้า และปากตามเสียงพากย์ที่ผู้เล่นใช้!
ผู้พัฒนาได้เคยบอกแล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 นั้นจะมีเสียงพากย์ของตัวละครภายในเกมให้ผู้เลือกใช้กว่า 10 ภาษา แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า นอกจากเสียงพากย์แล้ว การขยับของใบหน้ารวมไปจนถึง ลักษณะของการขยับปากตัวละคร ก็มีการทำให้ตรงกับจังหวะการพูดของแต่ละภาษาด้วย! มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากๆ เพราะหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นเวลา เกมหนึ่งเกมมีเสียงพากย์หลายภาษา คือการที่ปากหรือท่าทางของตัวไม่ตรงกับประโยคที่กำลังพูดอยู่ ทาง CD Projekt Red ก็ดูเหมือนจะเข้าใจในส่วนนี้ดี จึงได้มีการใช้เทคโนโลยีของ JALI Research. จนสามารถทำให้การขยับของปากกับหน้าตัวละคร ตรงกำประโยคที่กำลังพูดอยู่ได้ ถ้าเกิดใครไม่เห็นภาพว่ามันยอดเยี่ยมขนาดไหน สามารถดูได้ผ่านวิดีโอข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
21 Oct 2020
ผู้พัฒนาเผย "การขโมยรถใน Cyberpunk 2077 ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จะทำได้เลย"
ในวิดีโอเกมเพลย์ล่าสุดของ Cyberpunk 2077 ที่ถูกปล่อยออกมาช่วยให้เราเข้าใจเกี่ยวกับระบบรถ ภายในเกมมากขึ้นเป็นอย่างมาก แต่หนึ่งสิ่งที่น่าสนใจซึ่งเปิดเผยออกมาในวิดีโอเดียวกัน คือการที่ V สามารถขโมยรถที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนของ NPC ได้ (เหมือนกับเล่นเกม GTA) ทำให้หลายคนอาจคิดว่าการมีรถขับในเกมนี้ อาจไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไรมากมายนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นครับ! คุณ Miles Tost หนึ่งในผู้พัฒนาส่วนนี้ได้กล่าวว่า "Cyberpunk 2077 เป็นเกม RPG ดังนั้นการจะทำอะไรบางอย่างได้ จะขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวละครด้วย" กล่าวคือการจะขโมยรถแบบเดียวกับที่เราเห็นในวิดีโอได้ ผู้เล่นจำเป็นต้องอัพสกิลที่เกี่ยวข้องเสียก่อน ดังนั้นการขโมยรถแบบเปิดประตูกระชากคนขับลงจากรถ จึงไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ ก็ทำได้เลย นอกจากนี้รถที่ขโมยมา จะไม่ถือว่าเป็นรถของ V เช่นกัน ซึ่งในเกมนี้เหมือนว่าจะมีระบบที่ให้ผู้เล่นสามารถเรียกรถของตัวเองมาได้ตลอดเวลาด้วย (เหมือนเวลาเรียก Roach ใน The Witcher 3) โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่านี้เป็นข่าวดีครับ เพราะยังไงตัวผมเองไม่อยากให้เกมนี้สามารถเล่นได้ง่ายเกินไป การได้รู้ว่าจะทำอะไรก็ตามในเกมนี้จะเป็นต้องมี ค่าความสามารถถึงจุดเสียก่อนจึงทำให้เกมดูท้าทายขึ้นในหลายๆ ด้านเลยครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC
20 Oct 2020
Cyberpunk 2077 จะเปิดให้ผู้เล่นสับเปลี่ยนอวัยวะเพศด้วย "Cyberware สำหรับเซ๊กส์"
เว็บข่าว The Gamer ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับระบบเควส (Quest Director) ของ CD PROJEKT RED คุณ Mateusz Tomaszkiewicz ที่มีการพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการ "ปรับแต่ง" อวัยวะเพศในเกม Cyberpunk 2077 โดยแม้ว่าข้อมูลที่ว่าเกมจะเปิดให้ผู้เล่นทำแบบนี้ได้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผู้พัฒนาเกมได้พูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบนี้ตรงๆ และทำให้เรา "เห็นภาพ" ตัวเลือกในการปรับแต่งอวัยวะเพศมากขึ้นด้วย ในระหว่างที่ตอบคำถามเกี่ยวกับแก๊ง The Moxes ซึ่งก่อตัวขึ้นจากเหล่าผู้ให้บริการทางเพศในเมือง Night City ที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ คุณ Mateusz ก็ได้อธิบายถึงเหล่าเครื่องปรับแต่งร่างกายที่พวกเขามี รวมไปถึงอวัยวะเพศจักรกลที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะของทั้งชายและหญิงขายบริการเหล่านี้ "แน่นอนว่าเราจะมีอวัยวะเพศจักรกลในเกม ซึ่งจริงๆ แล้วบางอย่างก็มีมาตั้งแต่สมัยบอร์ดเกมต้นตำหรับแล้ว เช่น Cyberware ของผู้หญิง Mrs. Midnight ที่ใช้ใส่แทน "น้องสาว" ของพวกเธอ รวมไปถึงเครื่องจักรที่ช่วยเสริมหน้าอกหน้าใจ หรือของฝั่งเพศชายก็มี Cyberware ชื่อ Mr. Stud ที่เอาไว้ใส่แทนไอ้จ้อนให้ปึ๋งปั๋งทั้งคืน" นอกจากนี้ คุณ Mateusz ยังพูดถึงสถานบริการทางเพศในเมือง Night City ที่ถูกบริหารโดยเหล่าแก๊งที่เรียกว่า "Doll House" (บ้านตุ๊กตา) ซึ่งมีหนุ่มๆ สาวๆ กลางคืนที่ถูกปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำตามความต้องการทุกอย่างของลูกค้าเหล่านั้นได้ แถมยังช่วยลบความทรงจำของเหล่าผู้ให้บริการหลังเสร็จงานด้วย ซึ่งคุณ Mateusz กล่าวว่าเหล่า "Doll House" เหล่านี้ถือเป็นสัญลักษณ์ที่น่าสนใจของความ "บิดเบี้ยว" ที่มาคู่กับธีม Cyberpunk ของเกมด้วย Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้ที่ซื้อเกมผ่านทางคอนโซลจะได้รับเวอร์ชั่นปรับปรุงสำหรับคอนโซล Next-gen (PS5, Xbox Series X) ด้วยในภายหลัง Credit: VG24/7 
21 Sep 2020
Cyberpunk 2077 โชว์ความสวยงามของ Night City ในโหมด RTX On!
เพิ่งจะมีการเปิดตัวราคาการ์ดจอซีรีส์ 30 จากทาง Nvidia ไปไม่นาน เหมือนเป็นการช่วยกันโฆษณา เมื่อทาง CD Projekt Red ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอ Footage ตัวใหม่ของเกม Cyberpunk 2077 ในโหมด RTX On โชว์ความสวยงามของเมือง Night City ที่ไม่เคยหลับไหลด้วยแสงสีตระการตา! วิดีโอดังกล่าวมีความยาวเพียงแค่ 47 วินาที แต่ใน ช่วงเวลาดังกล่าว เรียกได้ว่าโชว์ความสวยงามของเมือง Night City ให้เราเห็นแบบเต็มอิ่มจริงๆ ครับ นอกจากการสะท้อนของแสงที่สมจริง ซึ่งเป็ดจุดขายของ RTX แล้ว ยังมีการโชว์ความสวยงามของ Diffuse Illumination ด้วย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนการ์ดจอ RTX รุ่นใหม่จะเริ่มวางขายปลายเดือนนี้ครับ Credit: Gamingbolt
02 Sep 2020
ผู้เล่นสามารถปรับขนาด กับสีของ Subtitles ได้ในเกม Cyberpunk 2077
เพิ่งจะมีข่าวดีว่าเกมจะมี DLC ฟรีมากมายไปกับเกม Cyberpunk 2077 ล่าจากข้อความใน Twitter ดูเหมือนว่าเราจะสามารุปรับแต่งขนาด กับสีของตัวอีกษร Subtitles ได้อย่างอิสระในเกมด้วย! สำหรับใครที่ปกติจะมีปัญหากับการอ่าน Subtitles ที่เล็กเกินไปหรือสีจางเกินไปไม่ได้ หมดห่วงปัญหานั้นในเกมนี้ได้เลยครับ! ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Cyberpunk 2077 จะเป็นเกมที่มี Subtitles เป็นภาษาไทยด้วย ดังนั้นหมดห่วงเรื่องเล่นเกมแล้วไม่เข้าใจเนื้อเรื่องได้เลย อย่างไรก็ตาม สำหรัยบคนที่อยากจะเข้าใจเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเกมมากขึ้นทางทีมงาน GameFever TH ได้ทำบทความสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัท, สงคราม, และแก๊งต่างๆ มาให้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC You’ll be able to adjust those (color / size) — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) August 23, 2020 Credit: VG247
24 Aug 2020
Cyberpunk 2077 เผยระบบที่ช่วยแก้ปัญหา ศัตรูฟองน้ำดูดกระสุนในเกมแนวนี้
ทุกวันนี้มีเกม RPG แนว Shooting มากมายในตลาด โดยเกมแนวนี้ มักจะมีหนึ่งปัญหาที่เหล่าผู้เล่นพูดถึง และคอมเพลนมาตลอด นั้นคือศัตรูที่เราพบในเกมจะมีบางตัวที่อึดถึกทน จนต้องยิงเป็นร้อยๆ นัดถึงจะสามารถฆ่าได้ บางตัววิ้งเข้ามาไล่กระทีบผู้เล่นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ยิ่งเท่าไหร่ก็ไม่ชะงัก, ล้ม หรือบาดเจ็บเลย โดยเฉพาะศัตรูที่เป็นบอส หรือตัวแรร์หายาก มันเหมือนกันว่าเรากำลังยิ่งปืนใส่ฟองน้ำอยู่เลยก็ว่าได้ ซึ่งมันมักจะทำให้ผู้เล่นหัวร้อนไปตามๆ กัน Cyberpunk 2077 เองก็เป็นหนึ่งในเกม RPG แนว Shooting เช่นกัน ซึ่งมันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ประสบการ์ณที่เราจะได้ในเกมนี้จะเหมือนกับเกมอื่นๆ หรือเปล่า และต้องขอบคุณบทสัมภาษณ์ทาง VG247 กับคุณ Pawel Kapala ซึ่งทำให้เรารู้ว่า ผู้พัฒนาได้มีการออกแบบศัตรู รวมถึงระบบ เพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้วครับ Pawel Kapala ได้กล่าวว่า "ภายในเกมนี้ เราได้ทำให้ศัตรูตัวธรรมดาในเกม ไม่ถึกจนมากเกินไป คือกล่าวได้ว่า สามารถฆ่าได้โดยใช้กระสุนเพียงแค่ 4-5 นัดเท่านั้น และได้มีการทำให้ศัตรูทักตัวในเกมนี้ ได้รับผลจากกระสุนไม่รับดาเมจมากถึงจุดหนึ่งด้วย" กล่าวคือพวกบอส หรือศัตรูแรร์ๆ จะติดสตั๊น หรือไม่ก็ชะงัก เมื่อโดนดาเมจจากกระสุนเข้าไปมากๆ นั่นเอง การสู้กับศัตรูในเกมนี้ จึงน่าจะแตกต่างจากเกมแนวนี้อื่นๆ ที่มักทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังยิงฟองน้ำอยู่นั้นเอง อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการทำให้เกมสมดุล ไม่ให้การฆ่าศัตรูนั้นง่ายเกินไปจนเกมไม่มีความท้าทาย ตัวละครของเราเอง ก็จะรับดาเมจมากๆ ไม่ได้เช่นกัน กล่าวคือผู้เล่นเอง ก็จำเป็นต้องหลบเวลาโดนกระสุนสาดมาใส่เช่นกัน ไม่งั้นก็อาจจะตายได้ง่ายๆ ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: VG247
11 Aug 2020
ผู้พัฒนาเผย ระบบต่อสู้ระยะประชิดของ Cyberpunk 2077 ยังไม่สมบูรณ์!
ในที่สุดหลังจากเงียบหายไปหลายอาทิตย์ เราก็ได้เห็นข่าวสารเกี่ยวกับ Cyberpunk 2077 เพิ่มเติมแล้ว เมื่อคืนนี้มีทั้งเกมเพลย์ของอาวุธต่าง, ความแตกต่างของภูมิหลังทั้ง 3 แบบ รวมไปจนถึงเบื้องหลังการทำเพลงของวง Samurai ถูกปล่อยออกมา แต่ถึงแม้ว่าเราจะได้เห็นรายละเอียด รวมไปจนรถึงเกมเพลย์มากมายแล้ว แต่เหมือนว่าระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้จะยังไม่เสร็จดีครับ ในวิดี Tools of Destruction จะสังเกตุได้ว่า เราได้เห็น Footage เกมเพลย์ของการยิงปืนหลายประเภท แต่ในส่วนของเกมเพลย์ อาวุธระยะประชิด เราได้เห็นเพียงแค่ดาบคาตานะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งมันเหมือนกับว่า ผู้พัฒนายังพัฒนาในส่วนนี้ไม่เสร็จจึงไม่สามารถนำมาโชว์ได้ และจากรายงานบทบทสัมภาษณ์กับคุณ Pawel Kapala ซึ่งรับหน้าที่ในการออกแบบเกมเพลย์ จากทาง VG247 เหมือนว่าระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้ยังไม่เสร็จดีจริงๆ ครับ Pawel Kapala ได้กล่าวว่า "มันยังอีกหลายเดือนก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย และตอนนี้ผมก็กำลังทำการพัฒนาระบบต่อสู้ระยะประชิดของเกมนี้อย่างเต็มที่อยู่ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะพัฒนาระบบต่อสู้ระยะประชิดในเกม FPS แต่การพัฒนาก็ยังคงคืบหน้าเรื่อยๆ" ถึงแม้ว่าเกมจะมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 แต่มันไม่ได้แปลว่าผู้พัฒนาจะมีเวลาพัฒนาเกมจนถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2020 เพราะยังไง ตัวเกมจำเป็นต้องถูกเอาลงแผ่น และส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้นเส้นตายของการพัฒนาจริงๆ น่าจะเป็นภายในสิ้น เดือนตุลาคม ต้องรอดูต่อไปครับว่าผู้พัฒนาจะสามารถทำเกมออกมาให้เสร็จได้จริงๆ หรือไม่ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt
11 Aug 2020
Cyberpunk 2077: เผาเมือง Night City ให้ราบ กับอาวุธใหม่จากวิดีโอ Tools of Destruction
กลับมาอีกครั้งกับรายการไลฟ์สตรีม Night City Wire ตอนที่สองของเกม Cyberpunk 2077 โดยหนึ่งในประเด็นหลักที่ถูกนำมาแสดงในงานครั้งนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอกันอยู่แล้ว นั่นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ที่เราจะได้ใช้ในเกมนั่นเอง! จากข้อมูลที่เห็นในเทรลเลอร์ ดูเหมือนว่าเราจะสามารถแยกประเภทอาวุธในเกมได้ดังนี้: Melee Weapon: อาวุธระยะประชิด เช่นดาบซามูไร Smart Weapon: อาวุธปืนชนิดพิเศษที่มีกระสุนนำวิถี สามารถติดตามศัตรูได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเล็ง Tech Weapon: อาวุธปืนชนิดกระสุนพลังงาน สามารถยิงทะลุกำแพงหรือสิ่งกำบังได้ Power Weapon: อาวุธประเภทกระสุนโลหะธรรมดา แต่คงไว้ซึ่งพลังทำลายล้าง Cyberware: อาวุธประเภทอวัยวะจักรกล เช่นปืนจรวดหรือดาบ Mantis Blade ที่พับเก็บไว้ในแขน Throwables: อาวุธประเภทขว้างปา (ไม่ได้แสดงในตัวอย่าง แต่น่าจะเป็นทำนองมีดบินหรือดาวกระจาย) นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถตกแต่งอาวุธด้วย Mod ชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย โดยผู้พัฒนาได้อธิบายในรายการไลฟ์สตรีมว่าจะสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ Attachment หรือชิ้นส่วนที่สามารถมองเห็นได้ (เช่นกล้องสไนเปอร์) หรือ Software Mod ที่ทำให้คุณสมบัติของปืนเปลี่ยนไป เช่นทำให้ยิงกระสุนไฟฟ้า หรือทำให้ยิงกระสุนยาสลบเป็นต้น ด้วยความเป็น RPG ของเกม ใน Cyberpunk 2077 จะมีการแบ่งระดับความหายากของอาวุธด้วย ตั้งแต่ Common ไปจนถึง Legendary โดยแน่นอนว่าปืนระดับ Legendary จะเป็นปืนหายากที่มีความสามารถเฉพาะตัว แต่ผู้พัฒนาก็เตือนว่าใครอยากได้มาครองอาจต้องคิดหนัก เพราะเราอาจจะต้องฆ่า NPC ที่เราชอบก่อนถึงจะเอาอาวุธของพวกเขามาได้ สุดท้ายนี้ ผู้พัฒนาบอกด้วยว่าเกมจะมีระบบความชำนาญอาวุธ ที่จะทำให้ยิ่งใช้อาวุธประเภทไหน ตัวละครก็จะยิ่งใช้อาวุธประเภทนั้นคล่องมากขึ้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลแค่ในด้านเกมเพลย์ แต่จะทำให้อนิเมชั่นของตัวละครในระหว่างการใช้อาวุธเปลี่ยนไปอีกด้วย เช่นวิธีการเติมกระสุน หรือวิธีการชักปืนออกมาเป็นต้น นับว่าให้ความสำคัญกับระบบ RPG ในเกมมากๆ ภายในงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงระบบ Life Path ของเกม ที่จะกำหนดภูมิหลังของตัวละคร V ของผู้เล่นแต่ละคน และทำให้ประสบการณ์ต่างๆ ในเมือง Night City ของทุกคนแตกต่างกันไปอีกด้วย Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยเกมจะสามารถเล่นบนเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS5, Xbox Series X ได้ทันทีเมื่อวางจำหน่าย และจะมีเวอร์ชั่นพัฒนาใหม่สำหรับเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่โดยเฉพาะให้ผู้เล่นที่ซื้อในคอนโซลเก่าฟรีๆ อีกด้วย สั่งซื้อเกมล่วงหน้าจากตัวแทนจำหน่าย คลิ๊ก
10 Aug 2020
ผู้เล่นสามารถ มองไปมาได้อย่างอิสระระหว่างคุยกับ NPC ใน Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 จะยังคงสามารถวางจำหน่ายในปีนี้ได้ หรือไม่ คงเป็นเรื่องที่เหล่าผู้เล่นกำลังสนใจมากที่สุดอยู่ในตอนนี้ อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องวันวางจำหน่ายแล้ว เกี่ยวกับระบบต่างๆ ในเกม เหล่าผู้เล่นก็ดูจะให้ความสนใจไม่แพ้กัน อย่างล่าสุดก็เพิ่งจะมีการประกาศว่า ผู้เล่นจะสามารถมองไปมาได้อย่างอิสระในระหว่างคุยกับ NPC ด้วย!     ผู้พัฒนาเกมได้เปิดเผยผ่านนิตยสารของ PlayStation ว่า ผู้เล่นจะสามารถมองไปมาได้อย่างอิสระ ในระหว่างที่พูดคุยกับ NPC โดยเหตุผลที่ใส่ระบบนี้เข้ามา ก็เพราะว่า "มันจะดูสมจริงมากกว่า ถ้าหาก V จะสามารถสังเกตุไปรอบ และคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ แม้ในเวลาที่ต้องพูดคุยกับใครบางคน" แบบนี้เหมือนเป็นการบอกเป็นนัยๆ เลยว่า "จงระวังรอบตัวให้ดี แม้ในเวลาที่พูดคุยกับ NPC อยู่ก็ตาม" เลยครับ     ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้ระบบที่ใหม่อะไร แต่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า ตัวเกมจะมีฉากจบที่หลากหลาย รวมถึงมีผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้มากมายจากการกระทำของเราเอง จึงเป็นไปได้ว่าในบางเหตุการ เราอาจถูกลอบทําร้าย ระหว่างพูดคุยกับ NPC อยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นระบบนี้ในเกม Cyberpunk 2077 อาจทำให้เราตื่นเต้นได้มากกว่าเกมอื่นๆ ที่ผ่านมาครับ     Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC     Credit: GamingBolt
03 Aug 2020
Cyberpunk 2077 รายละเอียดทั้งหมดของเกม [PC, PS4 และ Xbox One]
Title: Cyberpunk 2077 Genre: Action RPG Openworld Platform: PC, PS4 และ Xbox One Engine: REDengine 4 Release Date: 16 เมษายน 2020 Developer: CD Projekt Red Director: Adam Badowski Designer: Konrad Tomaszkiewicz Artist: Katarzyna Redesiuk Writer: Stanisław Święcicki Composer: Marcin Przybyłowicz https://www.youtube.com/watch?v=YApuEWtG30w https://www.youtube.com/watch?v=euqbMkM-QQk ประวัติการพัฒนา Cyberpunk 2077 เป็นเกมจากทีม CD Projekt Red ที่เคยพัฒนาเกมชื่อดัง The Witcher จนได้รับรางวัล Game of the Years ภายในงาน The Game Awards 2015 โดยเกมนี้ดัดแปลงมาจากเกมกระดาน Cyberpunk 2020 ที่วางจำหน่ายมาในปี 1990 โดย Concept เกมนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ 2012 แต่เริ่มพัฒนาจริงๆ หลังจากที่เสร็จสิ้นโปรเจกต์เกม The Witcher 3: Wild Hunt เสร็จสิ้นในปี 2016 รวมถึงเกมนี้ยังมีผู้พัฒนาถึง 450 คน มากกว่าจำนวนที่ใช้พัฒนาเกมก่อนหน้าอีกด้วย เนื้อเรื่อง โดยตัวเกมจะดำเนินอยู่ในเมือง Night City ช่วง 57 ปีหลังจากยุค Dystopian อันเสื่อมทรามของอเมริกา ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทต่างๆ ที่ไม่มีกฏหมายใดๆ มีความขัดแย้งและสงครามของเหล่าแก๊งต่างๆ และหน่วยงานที่ปกครอง ที่หันหน้าเข้าสู่กับเพื่อการปกครองในเมือง โดยในเมืองนี้หุ่นยนต์ต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเช่นการเก็บขยะการบำรุงรักษาและการขนส่งสาธารณะ อินเทอร์เน็ตได้ดูแลโดย บริษัท และกองทัพ ถึงแม้ภายในเมืองจะมีผู้ยากจน ผู้ไร้บ้านมากมาย แต่การดัดแปลงร่างกายเองก็สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ก่อให้เกิดการเสพติดการดัดแปลงและความรุนแรงที่ตามมา โดยภายในเมืองมีการคุกคามจากกองกำลังติดอาวุธที่เรียกว่า Psycho Squad จึงทำให้ประชาชนทุกคนสามารถพกอาวุธได้ เกมเพลย์ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครสมมติ V ทหารรับจ้างที่เราสามารถปรับแต่งตัวละครต่างๆ ได้ทั้ง เพศ, ทรงผม, ใบหน้า, ร่างกาย, การดัดแปลง และพื้นภูมิหลังของตัวละคร(เป็นเด็กเรร่อน, คนจากองค์กร) เสื้อผ้าสามารถปรับแต่งได้ รวมถึงเสื้อผ้าของ V จะเปลี่ยนแปลงวิธีการโต้ตอบของ NPC ต่างได้ ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและเพศสัมพันธ์ได้ หมวดหมู่สเตตัสของตัวละครจะแบ่งออกเป็น Strength(พละกำลัง), Constitution(ความแข็งแกร่ง), Intelligence(ความฉลาด), Reflex(การโต้ตอบ), Tech(เทคโนโลยี) และ Cool(ความเยือกเย็น) มี Perk Tree ที่จะแตกออกเป็นกิ่งก้านซึ่งจะแยกออกเป็นสายต่างๆ ให้เลือกเล่นคือ Melee, Blades, Handguns, Shotguns, Rifles, Sniper Rifles, Hacking, Wwo-handed Combat, Assassination, Cold blood, Engineering และ Athletics ผู้เล่นจะต้องไปคุยกับ Ripperdoc เพื่ออัพเกรดและซื้อการปลูกถ่ายไซเบอร์ในราคาเป็น Eurodollars ในตลาดมืด อาวุธต่างๆ จะมีระบบความแรร์ตั้งแต่ระดับ Uncommon (สีเขียว) ถึง Epic (สีม่วง) V สามารถ Cover เข้าที่กำบังได้, เล็ง, วิ่งบนพื้นดิน, กระโดด, กระโดดสองครั้ง, สไลด์ รวมถึงมีดบนแขนของ V ที่จะทำให้เขาสามารถวิ่งไต่กำแพงได้เช่นเดียวกับอาวุธระยะประชิดอื่นๆ ส่วนอาวุธระยะไกลจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ อาวุธ Power (มาตรฐาน), อาวุธ Tech (ใช้เจาะเกราะ, กำแพง) และ Smart (ปืนที่ใช้กระสุน Homing Bullets) โดยอาวุธพวกนี้สามารถปรับแต่งได้ มีการตกแต่งต่อการกระเด็นของกระสุน หรือสะท้อน มี Bullet Time เพื่อสโลว์ศัตรู รวมถึงมีการสร้างความเสียหายอยู่ ประเภทคือ Physical(กายภาพ), Thermal(ความร้อน), EMP และ Chemical(เคมี) โดยสามารถซ่อมและอัพเกรดอาวุธได้ที่ Gunsmiths และถึงแม้ว่าเกมจะมีอาวุธให้ใช้มากมาย แต่เราสามารถจบเกมโดยไม่ต้องฆ่าใครก็ได้ โดยการจะเลือกอาวุธที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภายในโลกของเกมจะมีทั้งหมด 6 ภูมิภาค ศูนย์กลาง Corporate City , Watson ย่านของเหล่าผู้อพยพ, Westbrook ย่านคนสวย,ชานเมือง Heywood, แหล่งชาวแก๊ง Pacifica และ แหล่งอุตสาหกรรม Santo Domingo โดยภายในเมืองตัวละคร V สามารถเดินทางสำรวจได้อย่างอิสระ การเดินทางสามารถไปได้โดยการเดินเท้า, ยานพาหนะที่สามารถปรับแต่งได้พร้อมทั้งยังใช้โหมด 3rd Person หรือ 1st Person ในการขับรถได้ด้วย พร้อมทั้งเรายังสามารถเลือกโหมดรถออโต้ที่จะสามารถให้เราจดจ่อให้การต่อสู้อย่างเดียวได้ รวมถึงในรถก็จะมีวิทยุให้ฟัง วัฏจักรวันเวลาของเกมจะมีทั้งกลางวัน-กลางคืน มีสภาพอากาศต่างๆ ทั้งดีและแปรปรวน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของ NPC ด้วย ตัวอพาร์ทเมนต์สามารถซื้อและใช้เป็นฐานบ้านได้ ซึ่ง V จะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำอาวุธและเครื่องแต่งกายมาใช้ หรือจะนำ NPC กลับมาเพื่อทำกิจกรรมทางเพศได้ และตัวเกมมีตัวละครที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษด้วย โดยผู้เล่นที่ไม่เข้าใจภาษาสามารถซื้อล่ามเพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้น Braindance" อุปกรณ์บันทึกข้อมูลดิจิตอลจะพุ่งตรงเข้าสู่สมองช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอารมณ์กระบวนการทางสมองและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของบุคคลอื่นราวกับว่าเป็นคนๆ นั้น รวมถึงการโต้ตอบกับ NPC จะมีคำตอบให้เลือกเป็นกิ่งก้านในการทำเควส และผลลัพธิ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปในการเลือกตอบของแต่ละคน คะแนนประสบการณ์จะได้รับจากเควสหลักและเพิ่มสเตตัสของตัวเราด้วย ส่วนเควสเสริมจะปลดล็อค Skill, คนขายของ, สถานที่และเควสเพิ่มเติม โดยการรับเควสจะรับจากตัวละครที่ชื่อว่า Fixers และตลอดทั้งเกม V จะได้รับความช่วยเหลือจากสหายต่างๆ อีกด้วย จะมีพวกไอเท็มต่างๆ อย่างเช่นพวกน้ำอัดลมที่จะสามารถเพิ่มเลือดได้ โดยสามารถตรวจสอบได้จาก Inventory ของ V รวมถึงมีมินิเกมต่างๆ ให้เล่นอย่างเช่น Hacking, Boxing, Auto Racing, Martial Arts และ Shooting Ranges และข้อความ Game Over จะปรากฏขึ้นที่จุดตายเท่านั้น หากภารกิจล้มเหลวเกมก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม โดยผู้เล่นจะดำเนินและนำไปสู่ตอนจบที่แตกต่างกันไป สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่ Facebook : GameFever TH YouTube : GameFever TH
30 Jul 2020
ผู้พัฒนายืนยัน ไม่สามารถถืออาวุธคู่ได้ใน Cyberpunk 2077
ข่าวเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พูดตรงๆ ผู้เขียนเองก็อดใจไม่ไหวแล้วที่จะได้เข้าไปสัมผัสเกมนี้ อยากเข้าไปใช้ Mantis Blades จากแขนทั้ง 2 ฉีกศัตรูเป็นชิ้นๆ ถึงแม้ว่าเราจะสามรถใช้ Mantis Blade ได้จากแขนทั้ง 2 ข้าง แต่เหมือนว่าเกมนี้จะไม่อนุญาตให้เราถืออาวุธคู่ครับ     "เราจะสามารถถืออาวุธคู่ได้หรือไม่" ดูจะเป็นสิ่งที่แฟนสงสัยกันเป็นอย่างมาก แต่วันนี้ทางผู้พัฒนาได้ออกมายืนยันแล้วว่า เราจะไม่สามารถถืออาวุธคู่ได้ในเกมนี้ สำหรับใครที่กำลังคิดว่า จะถือปืนสั้นคู้วิ่งเข้าไปบู๊แหลก ก็คงต้องผิดหวังกันไปครับ     Cyberpunk2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC     Credit: Gamingbolt
29 Jul 2020
ผู้พัฒนาเผยระบบ "วิ่งบนกำแพง" ถูกเอาออกไปจากเกม Cyberpunk 2077
ในงาน E3 ปี 2018 เกม Cyberpunk 2077 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก และโชว์ให้เราเห็นถึงเกมเพลย์ในแบบมุมมอง FPS พร้อมทั้งอวดระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, กระโดด, วิ่งไต่กำแพง หรืออาวุธที่เราจะได้เจอในเกม ทั้งปืน, มีดตินแขน สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก การเวลาผ่านไปมีเกมเพลย์ตัวใหม่ถูกโชว์ออกมาเรื่อยๆ ระบบทั้งหมดที่เคยโชว์ก่อนหน้านี้ก็ยังมีอยู่ครบยกเว้นระบบ วิ่งไต่กำแพง ที่หายไป! หนึ่งในผู้พัฒนา Max Pears ได้บอกกับทาง Gamereactor ว่าระบบวิ่งไต่กำแพง ถูกเอาออกไประหว่างการพัฒนา ซึ่งเขาไม่ได้อธิบายว่า ทำไมระบบดังกล่าวถึงถูกเอาออกไป แต่พูดเพียงแค่ว่า "แต่การเคลื่อนในเกมนี้ ยังคงมีความหลากหลายมากๆ เหมือนเดิม" Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer
01 Jul 2020
สรุปข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างตัวละครใน Cyberpunk 2077 จากสื่อที่ได้ลองเล่น!
Cyberpunk 2077 เป็นเกมฟอร์มยักษ์ใหม่ที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจตอนนี้อยู่อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งทางผู้พัฒนาก็เคยออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า ผู้เล่นจะได้อิสระในการเล่นสูงมาก ตั้งแต่การเลือกเพศของตัวละครหลักได้, ปรับสัดส่วนอวัยวะได้ทุกจุด, รวมไปจนถึงสามารถเลือกภูมิหลังของตัวละครได้ ซึ่งจากข้อมูลที่เรามีตอนนี้ บอกเลยว่าเราสามารถปรับแต่งตัวละครได้เยอะมากจริงๆ วันนี้พวกเรา GameFever TH ก็เลยรวบรวมข้อมูลการสร้างตัวละครในเกมมาให้ ส่วนว่าเราจะมีอิสระในการสร้างตัวละครในเกมนี้ขนาดไหน ไปดูกันเลยครับ 1. การเลือกภูมิหลังของตัวละคร ใน Cyberpunk 2077 ผู้เล่นจะสามารถเลือกภูมิหลังของ "V" ได้ 3 แบบคือ Nomad: เป็นผู้ที่พเนจรมาที่เมือง Night City Street Kid: เป็นเด็กที่โตมาจากข้างถนน Corpo: เคยเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน ซึ่งแตกต่างจากตัวเกมเวอร์ชั่น Demo ของปี 2018 ที่เปิดให้เราสามารถเลือกเหตุการสำคัญต่างๆ ในชีวิตที่ผ่านมาได้ด้วยตัวเองเลยโดยเหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ระบบแบบนี้แทน เป็น เพราะทางผู้พัฒนาคิดว่ามันยุ่งยากเกินไปสำหรับผู้เล่น ส่วนนี้จัดว่าเป็นจุดที่สำคัญมาก เพราะการเลือกภูมิหลังของตัวละคร จะส่งผลกับเนื้อเรื่องของเกมในช่วงแรกโดยตรง ซึ่งแตกต่างกันดังนี้ครับ (อ่างอิงจากรายงานของ PCGameN) ****ข้อมูลจุดเริ่มต้นของแต่ละภูมิหลัง จะเป็นการสปอยเนื้อเรื่องในช่วงแรกของเกม ใครไม่อยากโดยสปอย แนะนำให้ข้ามไปเลยครับ**** เลือกเป็นผู้พเนจร (Nomad) ถ้าเลือกเป็นผู้พเนจร ตัวละครของ "V" จะเริ่มเนื้อเรื่องในเขตทะเลทราย Badlands นอกเมือง จริงอยู่ที่เหล่าผู้คนในเขตนี้ จะอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม แต่ตัวละครของเราจะเริ่มต้นแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ เนื้อเรื่องจะเริ่มขึ้นเมื่อตัวผู้เล่นได้รับว่าจ้างให้แอบขนของผิดกฏหมายบางอย่างเข้าไปในเมือง Night City โดยผู้เล่นจะได้พบกับ Jackie ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เลือกเป็นเด็กที่โตมาจากข้างถนน (Street Kid) การเลือกเส้นทางนี้หมายความว่า "V" จะรู้เส้นทางในเมืองเป็นอย่างดี แน่นอนว่าตัวละครของเราจะเป็นที่รู้จักของผู้คนในเมือง โดยเรื้องราวของเราจะเริ่มต้นที่บาร์ El Coyote Cojo ในเขต Heywood ผู้เล่นจะได้พบกับ Kirk ซึ่งจะเป็นพันธมิตรที่สำคัญในเมือง Night City และเขาจะเป็นคนแรกที่มอบภารกิจให้กับเราด้วย ในช่วงเริ่มต้น เราจะได้รับภารกิจให้ไปขโมยรถสปอร์ตสุดแพงคันหนึ่ง เพื่อช่วยใช้หนี้ให้เพื่อน แต่ระหว่างปฏิบัติงาน เราก็ถูกขัดขวางโดย Jackie ผู้ซึ่งเล็งจะขโมยรถคันเดียวกัน ก่อนที่ทั้งสองจะถูกจับได้ เลือกเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน (Corpo) ในเส้นทางนี้ผู้เล่นจะเริ่มต้นด้วยการเป็นคนภายในของบริษัท Arasaka โดยภายในร่างกายของ "V" จะถูกดัดแปลงอาวุธต่างๆ เข้ามาแล้วมากมาย จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องจะเป็นภายในตึกของ Arasaka โดยผู้เล่นจะได้พบกับเจ้าหน้าที่ Jenkins และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในเมือง Night City ของเรา บาร์ของ Lizzie จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งผู้เล่นจะนัดพบกับเหล่าพวกพ้อง ผู้เล่นจะได้พบกับ Jackie ครั้งแรกที่นี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในเส้นทางนี้ "V" จะสามารถเข้าถึงข้อมูลลับต่างๆ ของเหล่าบริษัทได้ง่ายกว่าเส้นทางอื่น เว็บไซต์ Polygon ได้กล่าวว่า การเลือกดังกล่าวจะส่งผลเพียงแค่จุดเริ่มต้นของเนื้อเรื่องเท่านั้น ส่วนเนื้อหารวมถึงการผจญภัยที่ผู้เล่นจะได้พบ จะเหมือนกันในช่วงหลังจากนั้น อย่างไรก็ตามจากที่เราทราบมา ทุกคนได้ที่เข้าไปทดลองเล่น มีโอกาสสัมผัสเกมเพียงแค่ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ยังมีความเป็นไปได้อยู่ว่าเนื้อเรื่องในช่วงท้ายของเกม อาจจะแตกต่างกันไปตามภูมิหลังของ "V" ที่ผู้เล่นเลือกก็เป็นได้ เช่นถ้าหากโตมากับการเป็นเด็กข้าง จะสามารถเลือกช้อยได้มากกว่าถ้าหากต้องคุยกับแก๊งค์ต่างๆ แต่ถ้าหากเคยเป็นคนในบริษัทยักษ์ใหญ่มาก่อน อาจจะทำเล่นช่วงที่ต้องเจอกับบริษัทได้ง่ายกว่าเป็นต้นครับ 2. การปรับแต่งหน้าตาตัวละคร ในเรื่องของการปรับแต่งลักษณะทางกายภาพ ทางทีมพัฒนาเคยออกมาบอกแล้วว่า เราจะสามารถปรับแต่งได้ตามใจตัวเองได้พอสมควร แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่ได้ปรับได้ลึกเท่ากับที่เห็นในเกม MMO อย่าง Black Desert Online หรือ Blade & Soul ที่สามารถปรับแต่งทุกส่วนของหน้าตาแยกกันได้อย่างละเอียด โดยเว็บไซต์ Kotaku Australia ได้ออกมาบอกหมดแล้วว่าเราจะสามารถปรับแต่งส่วนใหนได้บ้าง และในแต่ละส่วนจะมีแบบให้เราเลือกเท่าไหร่ ดังนี้: บนใบหน้า ทรงผม 35 ทรง ดวงตา 17 แบบ สีตา 17 สี คิ้ว 8 แบบ ปาก 17 แบบ กราม 17 ทรง หู 18 แบบ ฟัน 5 แบบ เครื่องสำอางตา 8 แบบ การเจาะร่างกาย (หู, จมูก,ลิ้น เป็นต้น) 11 แบบ (บวกกับตัวเลือก "ไม่มีการเจาะร่างกาย" รวมเป็น 12 แบบ) สีริมลิปสติก 5 แบบ + ไม่ใช้ลิปสติก รอยสัก 6 แบบ + ไม่มีรอยสัก แผลเป็น 9 แบบ + ไม่มีแผลเป็น ร่องรอยเครื่องจักบนใบหน้า 8 แบบ + ไม่มีร่องรอย บนร่างกาย สีผิว 6 แบบ รอยสัก 5 แบบ + ไม่มีรอยสัก แผลเป็น 2 แบบ + ไม่มีแผลเป็น เพศของตัวละคร 2 แบบ (หญิง - ชาย) หัวนม 3 แบบ อวัยวะเพศ (ชาย 2 แบบ, หญิง 1 แบบ) ขนาดของอวัยวะเพศ (ชายเท่านั้น) ขนอวัยวะเพศ 5 แบบ 3. การปรับแต่งค่าความสามารถ ในเกม Cyberpunk 2077 ตอนสร้างตัวละคร เราจะได้แต้มสำหรับอัพสเตตัสของเรา 22 แต้ม ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ Polygon ผู้เล่นจะต้องนำแต้มทั้งหมดกระจายลงให้กับสเตตัส 5 อย่างคือ Body, Reflexes, Intelligence, Technical Ability, Cool แน่นอนว่า 3 สเตตัสแรกหมายถึง พระกำลัง, ความรวดเร็ว และความฉลาดอย่างไม่ต้องส่งสัย ส่วน Technical Ability หมายถึงความสามารถในการแฮกกิ้ง ในขณะที่ Cool จะเป็นสเตตัสที่ส่งผลถึงการโจมตี Critical และ ความสามารถในการ Stealth. สเตตัสทั้งหมดที่ผู้เล่นได้อัพตอนเริ่มเกมนอกจากจะส่งผลถึงความสามารถแล้ว ยังส่งผลถึง Perk ที่ผู้เล่นสามารถอัพได้ในช่วงแรกของเกมด้วย เช่น Reflexes จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับอาวุธที่จำเป็นต้องใช้ความเร็วอย่างปืนสั้น, ปืน Rifiles หรือมีดติดแขน ส่วนค่า Body จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับความสามารถทางกายภาพ และอาวุธที่ผู้ใช้จำเป็นต้องมีร่างกายแข็งแรงอย่าง Shotguns แต่ Cool จะปลดล็อค Perk ที่เกี่ยวกับการลอบเร้น กับลอบสังหาร ดังนั้นจะอัพสเตตัสอะไรเท่าไหร่ต้องคิดให้ดีหน่อยครับ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเครียดเกินไป เพราะทุกครั้งที้ "V" เลเวลอัพ เราจะได้แต้มสำหรับสเตตัสด้วยเช่นกันครับ อย่างไรก็ตามจาก Demo ปี 2018 มันควรจะมีสเตตัส 6 แบบให้เราเลือกอัพ ซึ่งยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมสเตตัสทั้งหมดที่อัพได้โดย Polygon ถึงมีเพียงแค่ 5 ตัวเท่านั้น เป็นไปได้ว่าที่ค่า Constitution หายไปเป็นเพราะว่าทางผู้พัฒนารู้สึกว่ามันไม่จำต้องมีก็เป็นได้ครับ Credit: Polygon, PCgameN, Kotaku
29 Jun 2020
รวมความเห็นจากสื่อที่ทดลองเล่น Cyberpunk 2077 ก่อนใคร จะสมราคาคุยไหม?!
Cyberpunk 2077 ได้จัดงานไลฟ์สตรีม Night City Wire ที่ทำการโชว์เกมเพลย์และรายละเอียดของเกมเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบใหม่ Braindance อีกด้วย นอกจากนี้ หลังจากที่งานไลฟ์สตรีมได้จบลงไป เหล่าสื่อหลายสำนักที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมนี้ก่อนใคร ก็ได้มาบอกเล่าถึงความเห็นของพวกเขาหลังจากได้สัมผัสกับโลกแห่ง Cyberpunk 2077  แน่นอนว่านอกจากคำบอกเล่าถึงคุณภาพและความรู้สึกจากการเล่น ภายในบทความเหล่านี้ยังได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเกมอีกมากมายเลยด้วย! เพื่อให้ทุกคนไม่พลาดความรู้สึกนึกคิดของเหล่าสื่อที่ได้เล่นเกมไปแล้ว เราจึงรวบรวมความเห็นของสื่อสำนักต่างๆ แบบพอสังเขปมาให้ทุกคนได้อ่านกันจ้า! Ian Walker จาก Kotaku "Cyberpunk 2077 มันทั้งซับซ้อนและสุดโต่ง แต่มันยอดเยี่ยม" ตอนแรกนั้นเขา ไม่ได้รู้สึกว่า Cyberpunk 2077 นั้นมีความเป็น "Cyberpunk" จนกระทั่งเขาโต้ตอบสั้นๆ กับ Certo ที่เป็นนักสู้ในเขต Kabuki เขาก็ได้เห็นถึงสิ่งที่ผู้พัฒนาได้พยายามสร้างขึ้นมา Walker ได้เห็นหัวใจของมนุษย์ภายใต้ตัวละครในเกม และตัวละครของผู้เล่นที่เรารู้กันว่าสามารถเลือกภูมิหลังเองได้นั้น จะมีผลต่อวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อ NPC บางตัว กับตัวเลือกบทสนทนาบางอย่าง นอกจากนี้เขายังเล่าถึงเหตุการณ์ที่พบระหว่างเดินสำรวจเมือง เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แสดงอาการ Cyberpsychosis ที่บ้าคลั่งจากการปรับแต่งร่างกายตัวเองมากเกินไป ไล่ทำร้ายคนในเมือง (นึกถึงตัวอย่างแรกสุดของเกม) ทำให้เขาตัดสินใจพยายามหยุดผู้หญิงคนดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้ทำง่ายๆ เพราะเธอมีความสามารถในการวาร์ปไปวาร์ปมา และ Walker ก็ถูกเธอพุ่งเข้ามาทำร้าย เขาสงสัยว่าตัวเองสามารถช่วยเธอที่เป็นโรคจิตที่น่าสงสารคนนี้ได้ไหม และเขาก็ได้คำตอบว่าเขาสามารถช่วยเธอได้ด้วยการปราบเธอแบบไม่ให้ถึงตายหรือใช้วิธี Stealth Alex Donaldson จาก VG247  "วิดีโอเกมทุกเกมที่คุณเคยเล่น ถูกมัดรวมกันอยู่ในเกมเดียว" Night City คือเมืองน่าขยะแขยงแต่มันเป็นเมืองน่าขยะแขยงที่สวยงาม แสงสีนีออนส่องจากอาคารและป้ายโฆษณาทุกแห่ง ที่มาพร้อมกับร้านขายของผิดลิขสิทธิ์ หรือแพทย์ที่ไม่มีใบอนุญาติ ตามท้องถนนคุณจะเห็นอาชญากรและตำรวจปะทะกันได้เสมอ แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกยืนชมหรือช่วยเหลือก็ได้ นี่แหละคือธรรมชาติของ Cyberpunk   Russ Frushtick จาก Polygon "นี่แหล่ะคืออนาคต" Cyberpunk 2077 นั้นมีรายละเอียดการปรับแต่งตัวละครที่ตลกที่สุดที่ผมเคยเห็นในวิดีโอเกม คุณสามารถเลือกได้ว่าจะมีอวัยวะเพศแบบไหน หรือไม่มีก็ได้ และถ้ามีของเพศชายคุณก็เลือกได้ว่าจะ ขริบ หนังหุ้มปลายหรือ ไม่ขริบ อนาคตได้อยู่ที่นี่แล้ว และเราสามารถพัฒนาทักษะของตัวละครเราได้ด้วยการทำเรื่องนั้นบ่อยๆ อย่างการ Stealth ถ้าผมไปแอบอยู่ข้างหลังใครซักคนและจัดการเขาได้ ทักษะ Stealth ของผมก็จะดีขึ้น   Ryan McCaffrey จาก IGN "Night City ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง" ในตัวเกม Cyberpunk 2077 ผมได้เห็นรายละเอียดของแก๊งที่เราสามารถเปลี่ยนแก๊งพันธมิตรได้ตลอดเวลาในระหว่างภารกิจที่กำลังทำเช่น เราสามารถเข้าร่วมการสอบสวนในฝั่งของตำรวจได้ทั้งที่เราอาจจะเป็นแก๊งที่ถูกสืบสวนอยู่ แถมยังเดินเตร่ตามท้องถนนทั้งๆ ที่ยังทำภารกิจอยู่ก็ได้ ผมได้ใช้เวลาส่วนนึงดื่มด่ำกับความเป็น Night City และอัพเกรดเครื่องจักรต่างๆ เข้าร่างกาย และถ้าคุณทำเควสนึงไปยังอีกเควสนึงก็จะเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า Night City มันใหญ่มาก Robert Purchese จาก EUROGAMER "Cyberpunk 2077 มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากกว่า The Witcher 3 เมือง Night City เป็นสถานที่ที่มีผู้คนมากมายไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆ" ผมได้ยินเด็กผู้ชายพูดว่า คุณมีหน้าที่ดูโง่มาก ฮ่าฮ่า นั่นทำให้ผมรู้ว่าด้านที่ผมรักใน The Witcher 3 มีอยู่ในเกมนี้ กำแพงเมืองไม่เคยว่างเปล่า มันมีกราฟิตี้อยู่แทบทุกที่ ผู้คนมีทั้งรอยสัก การปรับเปลี่ยนร่างกายและความพังก์ นี่คือเมืองที่สัมผัสได้ถึงมหานครแห่งวัตถุและความลึกลับ มันให้ความรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาจริงๆ   เมื่อดูจากความเห็นของสื่อแต่ละสำนักแล้วเรียกได้ว่าตัวเกมในตอนนี้ก็มีความสมบูรณ์ในระดับหนึ่งแล้ว และมันมีความลึกลับน่าค้นหามากจริงๆ Cyberpunk 2077 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษจิกายน นี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้พัฒนายืนยันว่าเกมจะสามารถเล่นบนเครื่อง PlayStation 5 และ Xbox Series X ได้อีกด้วย แถมคนที่ซื้อเกมในคอนโซลรุ่นเก่า จะได้รับเกม Cyberpunk 2077 รุ่นอัปเกรดสำหรับคอนโซล Next-Gen โดยเฉพาะแบบฟรีๆ ด้วยนะ! Credit : Kotaku , VG247 , Polygon , IGN , EUROGAMER
26 Jun 2020
Cyberpunk 2077 เผยระบบ Braindance เราจะสามารถเข้าไปสำรวจในความทรงจำได้
มีระบบที่น่าสนใจให้เราเล่นมากมายสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ล่าสุดภายในงาน Night City Wire ผู้พัฒนาได้เผยระบบที่ชื่อว่า Braindance ที่จะเป็นการบันทึกการกระทำต่างๆ ของคนๆ หนึ่ง โดยตัวละครที่ใช้ Braindance จะรับรู้ถึงสถานที่นั้นๆ เสียง และทุกๆ อย่างเหมือนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งภายในตัวอย่างที่ผู้พัฒนาเผยออกมา เราจะได้เห็นโจรคนหนึ่งทำการปล้นร้านขายของเพื่อเอาเงินก่อนที่จะถูกยิงตอนท้าย โดยถัดมาอีกฉากเราจะได้เห็นตัวละครเอก V ได้ใช้ Braindance เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ในฐานะผู้สังเกตุการณ์ รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์หลายๆ อย่างด้วยมุมมองใหม่ๆ เช่นดูหน้าของโจรจากกล้องวงจรปิดเป็นต้น (ดูเกมเพลย์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง) ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นอะไรมากนักในระบบนี้ มันอาจจะดูคล้ายๆ ระบบนักสืบในหลายๆ เกมที่เคยออกมา แต่ผู้พัฒนาได้บอกว่า Braindance จะเป็นอุปกรณ์การเล่าเรื่องที่สำคัญๆ มากภายในเกม ที่เราจะสามารถสำรวจประวัติศาสตร์, ปรัชญา และสำรวจกลุ่มคนที่แตกต่างกันได้ ซึ่งภายในโลกของเกม Cyberpunk 2077 เทคโนโลยี Braindance ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงยุคปี 2000 เดิมเป็นเทคโนโลยีสำหรับบำบัดและกู้ชื่อเสียงของเหล่านักโทษ มันจะช่วยสำรวจจิตใจที่อำมหิตของคนใน Night City นั่นเอง ที่มา IGN Gamespot
25 Jun 2020
Cyberpunk 2077 จะมี Street Story Sidequests มากกว่า 75 เควส!
Cyberpunk 2077 เกมใหม่จากทาง CD Peojekt Red ซึ่งถ้าเป็นเกมที่มาจากทางผู้พัฒนาคนนี้แล้วละก็ แทบจะสามารถการันตีคุณภาพของเกม และความสนุกของเนื้อเรื่องได้เลย และก็ไม่ใช้แค่เนื้อเรื่องหลักที่เท่านั้นที่จะมีเนื้อเรื่องคุณภาพดี เพราะผู้พัฒนาเคยบอกว่าตัว Side Quest ของเกมเอง ก็จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างปราณีตด้วยเช่นกัน ซึ่ง Street Story Sidequests ที่ผู้เล่นสามารถทำได้ในเกมนี้ ก็มีถึง 75 เควสเลยทีเดียว! จากบทสัมภาษณ์ของทาง OnMsft คุณ John Mamais ที่เป็น Studio Head บริษัท CD Projekt Red ของสาขา Krakow ได้กล่าวว่า "เกมนี้จะมี Street Sidequest ที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเองถึง 75 เควส ซึ่งเควสเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นได้รู้จัก และเข้าใจโลกของ Cyberpunk 2077 มากขึ้น รวมถึงยังเป็นวิธีเก็บเลเวลตัวละครเราที่ดีด้วย" นี้จึงหมายความว่า ถ้าเราอยากจะรู้เนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมนี้จริง ๆ น่าจะต้องเล่นมากกว่า 100 ชั่วโมงอย่างแน่นอนครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC Credit : PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
04 Feb 2020
ผู้พัฒนาเผย Cyberpunk 2077 Multiplayer ก็อาจมาไม่ทันปี 2021 เช่นกัน!
Cyberpunk 2077 คือเกมฟอร์มยักษ์หน้าใหม่ ที่เหล่าเกมเมอร์จากทั่วทุกมุมโลกกำลังรอการมาอย่างใจจดใจจ่อ โดยนอกจากตัวเกมหลักที่จะเป็นแบบ Single Player แล้ว ผู้พัฒนายังเคยเปิดตัว Cyberpunk 2077 Multiplayer ซึ่งจะเป็นอีกเกมหนึ่งเอาไว้เล่นกับเพื่อนได้ด้วย ซึ่งตอนแรกตัวเกม ก็มีกำหนดว่าจะเปิดให้เล่นภายในปี 2021 นี้ แต่ดูเหมือนว่านั้นจะเป็นเรื่องที่ยากมากในตอนนี้แล้วครับ! จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ตัวเกมหลักนั้นถูกเลือนวันวางจำหน่ายออกไปจาก 16 เมษายน เป็นวันที่ 17 กันยายนแทน ทำให้ดูเหมือนว่าการเลื่อนวันวางจำหน่ายครั้งนี้ จะไปส่งผลกระทบกับการพัฒนาตัวเกม Multiplayer ด้วย ทำให้จากเดิม ที่มีแผนจะปล่อยเกมนี้ในปี 2021 นั้น ดูเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ตามทาง CD Projekt Red ก็สัญญาว่าจะรีบพัฒนาเกมให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ทันกำหนดการเดิม ดังนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่เกมจะปล่อยในปี 2021 เหมือนกันครับ Cyberpunk 2077 Multiplayer ยังไม่มีวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการครับ Credit : PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    
17 Jan 2020
Cyberpunk 2077 จะมีเกม Multiplayer ที่เป็น Spin-off ด้วย
เรียกได้ว่าช่วงนี้มีข่าวเข้ามาไม่หยุดจริงๆ กับเกม Cyberpunk 2077 ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาว่า ตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS5 กับ Xbox Scarlett ด้วย ล่าสุดก็มีการประกาศเกี่ยวกับโปรเจคใหม่ ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวเกม Cyberpunk 2077 แบบ Multiplayer (หมายถึงว่าเป็นเกมใหม่อีกเกม) และเป็นเกมที่คาดว่าจะเป็นแบบ Free-to-play ที่ใช้บิสซิเนสโมเดลแบบ Microtransactions ให้ผู้เล่นสามารถใช้เงินจริงซื้อของภายในเกมได้! แต่โปรเจคใหม่ตัวนี้ก็เพิ่งจะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นเท่านั้น และนี้จะเป็นเกมแบบ Multiplayer เกมแรกของทาง CD Projekt Red อีกด้วย ทางด้านทีมพัฒนาที่รับผิดชอบโปรเจคนี้อยู่ ตอนนี้ก็มีขนาดที่เล็กมากๆ ทำให้ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเกมนี้มากนัก แต่ผู้พัฒนาก็ได้สัญญาว่า "เราจะไม่ทำอะไรที่ไม่คุ้มกับเงินของผู้เล่นอย่างแน่นอน" ต้องรอดูกันต่อไปครับว่า เกมใหม่ที่เป็น Spin-off ของ Cyberpunk 2077 นี้จะเป็นยังไงกันแน่ Cyberpunk 2077 จะวางขายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit : Gamespot ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
25 Nov 2019
Cyberpunk 2077 จะเปิดให้ผู้เล่นควบคุมตัวละครในฉากคัตซีนได้
ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของเกม Cyberpunk 2077 คำหนึ่งที่ผู้พัฒนา CD Projekt Red พูดถึงอยู่เสมอๆ ก็คือความอิสระและสมจริงของเกม ที่ผู้พัฒนาตั้งใจทำขึ้นมาให้สามารถดึงดูดผู้เล่นเข้าไปอยู่ในโลกของเกมได้จริงๆ เลยทีเดียว ซึ่งความอิสระนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ครอบคลุมเฉพาะเกมเพลย์เท่านั้น แต่อาจจะรวมไปถึงการควบคุมตัวละครในฉากคัตซีนด้วย! ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยหัวหน้าทีมพัฒนา CD Projekt Red Krakow คุณ John Mamais ในงาน PAX Australia 2019 ที่ผ่านมา โดยคุณ John เปิดเผยว่าค่าย CDPR สาขา Krakow ของเขานั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบคัตซีนแบบใหม่ที่เรียกว่า Scene System ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครได้อย่างอิสระในฉากคัตซีน ตั้งแต่การควบคุมมุมกล้องไปจนถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครเลยทีเดียว "ในส่วนของเนื้อหาเกม Cyberpunk 2077 นั้น ทีม Krakow ของเรามีส่วนพัฒนาประมาณ 1/3 ของทั้งเกม สำหรับ Cyberpunk 2077 นั้นเราได้สร้างระบบ Cinematic แบบใหม่ที่เรียกว่า Scene System ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเหมือนเข้าไปอยู่ในคัตซีนจริงๆ แทนที่จะเป็นการตัดเข้าฉากที่อัดไว้ก่อนแล้ว แน่นอนว่าระดับความอิสระของผู้เล่นจะต้องผกผันไปตามเนื้อหาของคัตซีน แต่ระบบนี้ก็ช่วยเสริมความสมจริงให้กับเกมได้มากเพราะคุณจะอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา" แม้ว่าจนถึงบัดนี้ผู้พัฒนาจะยังไม่ได้แสดงระบบ Scene System ให้ผู้เล่นได้เห็นกัน แต่จากคำให้สัมภาษณ์ของคุณ John ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย คงต้องรอดูกันต่อไปว่าความอิสระที่ผู้พัฒนาพูดถึงนั้นจะอิสระจริงแค่ไหน และผู้เล่นจะสามารถทำอะไรได้บ้างระหว่างคัตซีน เพราะจะปล่อยให้อิสระเต็มที่ก็แลดูจะวุ่นวายเอาง่ายๆ เช่นกัน Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 สำหรับ PS4, Xbox One, PC ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่
16 Oct 2019
ผู้พัฒนายืนยัน !! Cyberpunk 2077 จะมีโหมด Multiplayer หลังจากเกมปล่อย
ใครรอเล่นเกมนี้ก็ไม่ต้องกลัวเหงาแล้วสำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ล่าสุดผู้พัฒนาประกาศใน Twitter แล้วว่า หลังจากเกมปล่อยออกมาให้เล่นแล้วนั้น จะมีระบบ Multiplayer ออกมาภายหลังอีกด้วย "ในตอนนี้สิ่งเดียวที่สามารถบอกได้เกี่ยวกับระบบ Multiplayer คือมันกำลังอยู่ในขั้นตอนวิจัยและพัฒนาอยู่ เราใกล้จะปล่อยเกมในโหมด Single Player แล้ว ในเดือน เมษายน 2020 แต่เราคอนเฟิร์มเลยว่าโหมด Multiplayer อยู่ในขั้นตอนการทำงานอยู่ ถ้าหากให้เรายืมความสามารถของคุณ สมัครงานมาได้ LINK " 1/2 Until now, the only thing we said about multi was that it was in R&D. As we’re getting closer to launching ‘single player’ Cyberpunk 2077 in Apr. 2020, we’d like to confirm that multiplayers in the works! If you feel like lending us your skills apply: https://t.co/QQV6qsuvhk pic.twitter.com/GHbiS5N3DT — CD PROJEKT RED (@CDPROJEKTRED) 4 กันยายน 2562 โดย Cyberpunk 2077 เป็นทีมจากผู้พัฒนา CD Projekt Red ที่เคยฝากฝังเกมดังมาแล้วอย่าง The Witcher 3 ตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ที่มา ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
04 Sep 2019
Cyberpunk 2077 ฉาก Cutscene จะเป็น FPS ทั้งหมดรวมถึงฉากอีโรติกด้วย
อย่างที่ทราบว่า Cyberpunk 2077 ผู้พัฒนาอยากทำเกมให้เป็นแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First Person Shooter) ด้วยเหตุผลที่ว่าเราจะได้ดื่มด่ำกับตัวเกมได้มากที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามุมมองนี้จะมีบทบาทกับทุกสิ่งทุกอย่าง เช่นฉากคัทซีนหรือฉากอีโรติกด้วย เริ่มจากมีผู้ใช้รายหนึ่งนามว่า Shavod ได้ทำการส่งข้อความไปถามทีมพัฒนา CD Projekt Red ว่า "มีบางคนบอกตัวเกมจะไม่มีมุมมองบุคคลที่สาม รวมถึงฉากคัทซีนด้วยไหม ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ตอบว่า "การจดจ่อเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับเรา ใช่คัทซีนจะเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง" แล้วทางผู้ใช้คนนั้นก็ยิงไปอีกหนึ่งคำถามว่า "แล้วฉากอีโรติกล่ะ" ผู้พัฒนาก็ตอบสั้นๆ ว่า "ใช่ด้วย" ซึ่งเราเองก็ต้องดูกันว่าตัวเกมออกมาจะเป็นยังไง แต่คาดว่าคงไม่น่ามีปัญหามาก เพราะว่า Cyberpunk 2077 จะทำการรองรับภาษาไทยด้วย หมดปัญหาคนที่มีข้อจำกัดด้านภาษาได้เลย โดยเกมนี้ผู้พัฒนาได้ใส่ระบบที่น่าทึ่งเอาไว้มากมาย เช่นระบบตัวละครที่จะไม่มีการเลือกเพศ เราสามารถปรับแต่งตัวละครให้เป็นเพศนั้นๆ ด้วยตัวเองได้ ซึ่งเกมนี้มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One
02 Sep 2019
Cyberpunk 2077 ปล่อยตัวอย่างใหม่ Gameplay Deepdive ยาว 15 นาที
ปล่อยตัวอย่างออกมาแบบจัดเต็ม สำหรับ Cyberpunk 2077 ที่ภายในงาน PAX West 2019 ได้เผยรายละเอียดเกมเพลย์ต่างๆ ของเกมที่เคยโม้ไว้ก่อนหน้าให้เห็นภาพจริงๆ โดยตัวอย่างนี้ได้นำเสนอ Pacifica เขตหนึ่งของเมือง Night City มีการนำเสนอกลุ่มคนหรือแก็งค์ต่างๆ ที่มีอยู่ภายในเมือง รวมถึงระบบตัวละครที่เราจะสามารถเลือก Playstyle ได้สองแบบคือ Netrunner ที่จะเน้นการ Hack และใช้กลยุทธต่างๆ ที่จะไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง หรือจะเป็นสาย Strong Solo ที่จะเน้นการต่อสู้แบบประจันหน้ามีพละกำลังมากมายเป็นต้น รวมถึงเรายังได้เห็นอะไรใหมๆ อย่างเช่นการขับขี่มอเตอร์ไซต์ หรือระบบการเลือกต้นกำเนิดของตัวละครที่จะกำหนดได้ว่าเรามาจากชนพวกไหนเป็นต้น https://www.youtube.com/watch?v=QgoYwP4RHoQ โดยเกม Cyberpunk 2077 เป็นเกมแนว Action RPG Openworld จากผู้สร้าง The Witcher 3 มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงเกมนี้ยังมีซับไตเติลภาษาไทยให้พวกเราเล่นอีกด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
30 Aug 2019
CD Projekt RED มอบอิสระให้กับเพลเยอร์เต็มที่ในเกม Cyberpunk 2077
Cyberpunk 2077 เกม RPG Open World ที่กำลังเป็นที่พูดถถึงในขณะนี้และจะว่างจำหน่ายในปีหน้า ล่าสุดทางผู้พัฒนาอย่าง CD Projekt RED ก็ได้ออกมาบอกว่เพลเยอร์จะมีอิสระเป็นอย่างมากในเกมนี้ ตั่งแต่วิธีเล่นเกมหรือการสร้างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นเพศของตัวละคร รอยสัก ทรงผม กระทั้งการเลือกเสียงของตัวละคร เรามีอิสระเต็มที่ทีจะแต่งตัวละครของเราเองในเกมนี้ Marthe Jonkers ผู้ดูแลเรื่อง Concenpt ของเกม Cyberpunk 2077 ได้กล่าวว่า "พวกเราอยากสร้างเกมที่ มอบอิสระและเพลเยอณ์สามารถสนุกไปกับมันได้" และ "เรารอที่จะอ่าน Feedback ของเพลเยอร์เพื่อพัฒนาตัวเกมให้ดีมากขึ้นต่อไป" พออ่านก็เริ่มสงสัยว่าเราจะมีอิสระขนาดไหนในเกมกันแน่และมันจะดีจริงๆอย่างที่เขาว่ามารึเปล่า ต้องรอติดตามชมครับ Credit : Gamingbolt ( https://gamingbolt.com/cyberpunk-2077-cd-projekt-red-hopes-to-create-an-inclusive-as-possible-experience ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/  
27 Aug 2019
Cyberpunk 2077 จะมี World Map ที่เล็กกว่า Witcher 3
Cyberpunk 2077 เกมฟอร์มยักษ์จากทาง  CD Projekt RED เป็นเกมที่หลายๆคนรอคอย ถึงแม้ว่าจะอีกหลายเดือนกว่าที่ตัวเกมจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแต่ทาง CD Projekt RED ก็ได้มีการปล่อยข่าวเกี่ยวกับตัวเกมนี้ออกมาเรื่อยๆและล่าสุดก็ได้มีข่าวออกมาว่าเกมนี้จะมีขนาดของ World Map ที่เล็กกว่า Witcher 3 Richard Borzymowski  "Cyberpunk นั้นจะอยู่ในเมืองๆเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบเป็นตารางกิโลเมตรแล้ว World Map ของ Cyberpunk 2077 จะมีขนาดเล็กกว่า The Witcher 3 แน่นอน แต่เพลเยอร์จะไม่ค้อยรู้สึกถึงความแตกต่างนี้เท่าไหร่ในขณะเล่น" ไม่รู้เหมือนกันว่านี้คือข่าวดีหรือข่าวร้ายกัแน่แต่คิดว่าเราจะได้เกมเพลย์ที่สนุกมแทนที่แน่นอน Credit : GameRant ( https://gamerant.com/cyberpunk-2077-map-size-witcher-3/ ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/
26 Aug 2019
CD Projekt Red เผย Cyberpunk 2077 มาพร้อมโหมด New Game Plus !
สำหรับคำถามที่หลายคนๆ อยากรู้เกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 ว่าจะมีโหมด New Game Plus ให้เล่นรึเปล่า? เพราะเพลเยอร์ไม่น้อยเลยที่อยากจะเห็นฉากจบอื่นๆ ที่เป็นไปได้แต่จะให้มานั่งเก็บเวลใหม่อัพสกิลใหม่ก็ขี้เกียจเล่นกันไปอีกแต่ข่าวล่าสุดจาก Polish magazine PSX XTREME (จาก Reddit) ได้ให้ข้อมูลว่า Cyberpunk 2077 จะมีโหมด New Game Plus แน่นอน อย่างไรก็ตามโหมด New Game Plus นั้นอาจจะไม่ได้มากับตัวเกมด้วยในตอนแรก แต่อาจถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง (เหมือนกับ The witcher 3) ทั้งนี้ตัวเกมก็ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนวันวางจำหน่าย ก็หวังว่าเราจะสามารภเล่นโหมด New Game Plus กันได้เลยในวันที่เกมวางจำหน่าย แะลดูเหมือนว่างาน Gamescom 2019 ที่กำลังจะมาถึงนี้เราจะได้ดู Gameplay Demo ของ Cyberpunk 2077 อีกด้วย Credit : Gamingbolt ( https://gamingbolt.com/cyberpunk-2077-will-have-new-game-plus-mode ) ติดตามข่าวสารเกมต่างได้ที่ Website : https://gamefever.co Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH  
05 Aug 2019
การปรับเสริมเติมแต่งตัวละครในเกม Cyberpunk 2077 สามารถทำได้หลากหลายมากๆ
จากการสัมภาษณ์กับ Mateusz Tomaszkiewicz ผู้เป็น Quest Director ของเกม Cyberpunk 2077 เกี่ยวกับการปรับแต่งตัวละครด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เขาได้พูดไว้ได้น่าสนใจเลยทีเดียว “การทำงานของระบบปรับเสริมเติมแต่งคือ คุณสามารถแทนที่ร่างกายตัวเองได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตรงแขน ขา ตัว หรือว่าระบบประสาท และมันสามารถทำได้หลากหลายมากๆ” เขากล่าว “ยกตัวอย่างเช่น การแทนที่ขาตัวเองด้วยขาไซเบอร์จะทำให้คุณสามารถกระโดดสองจังหวะได้ ทำให้คุณสามารถเข้าถึงสถานที่ที่คุณไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีปกติ” “นอกเหนือจากการแทนที่แล้ว ก็สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างขาไซเบอร์ที่สามารถกระโดดสองจังหวะ คุณสามารถอัพเกรดต่อเพื่อให้การวิ่งส่งเสียงเงียบลง เพื่อใช้ในการลอบเร้นได้ เป็นต้น พวกเราออกแบบของอวัยวะไซเบอร์ไว้เป็นเวลาพอสมควร และพวกมันออกมาเท่มาก” ยิ่งได้ยินแบบนี้ยิ่งรอไม่ไหวแล้ว! เชื่อว่าต้องมีชาวเกมเมอร์อัพเกรดให้กลายเป็นคนเหล็กแน่ๆ Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บน Xbox One, PS4 และ PC อ้างอิง: gamingbolt
29 Jul 2019
เผยรายละเอียดระบบพัฒนาตัวละครในเกม Cyberpunk 2077
จนถึงตอนนี้ เชื่อว่าเกมเมอร์ที่ติดตามข่าวสารวงการเกมอย่างใกล้ชิดน่าจะพอรู้กันอยู่แล้วว่าเกม Cyberpunk 2077 จากผู้พัฒนา CD Projekt Red จะเปิดให้ผู้เล่นทุกคนสามารถพัฒนาตัวละครหลักหรือ "V" ได้หลากหลายทิศทางมากๆ ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่องและความสามารถ ล่าสุด นิตยสารเกมจากประเทศเยอรมัน Komputer Swiat ได้ออกมาพูดถึงระบบการพัฒนาตัวละครของเกมมากขึ้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ที่ได้ลองเล่นเดโมเกมตัวใหม่จากงาน E3 2019 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับเดโมตัวดังกล่าวนั้นจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการแนะนำตัวละครของนักแสดง Keanu Reaves หรือ Johnny Silverhand ผู้ซึ่งมอบหมายให้ผู้เล่นต้องตามหาผู้นำของแก๊งอาชญากร Voodoo Boys ที่ชื่อว่า Brigitte เพื่อไถ่ถามถึงความเป็นไปของคนรักของ Johnny อีกที โดยสื่อมวลชนจาก Komputer Swiat บอกว่าเขาได้ลองเล่นเดโมตัวนี้หลายครั้งด้วยตัวละครที่พัฒนามาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ตัวที่พัฒนามาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะไปจนถึงตัวละครที่เน้นสาย Netrunner หรือแฮ๊กเกอร์ที่มีความสามารถในการควบคุมเครื่องจักรด้วย โดยคลาสตัวละครของเกมจะมีความลื่นไหลมาก สามารถปรับแต่งความสามารถจากหลายๆ คลาสมารวมกันได้อีกด้วย การเก็บเลเวลในเกมจะไม่ได้แตกต่างจากเกม RPG ทั่วไปมากนัก โดยผู้เล่นจะได้รับค่าประสบการณ์จากการทำภารกิจหรือกิจกรรมต่างๆ ในเกม ซึ่งเมื่อเก็บได้ถึงจุดหนึ่งก็จะเลเวลอัพนั่นเอง ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าเลเวลในเกมจะเต็มที่เท่าไหร่ แต่ผู้สื่อข่าวจาก Komputer Swiat เผยว่าตนได้เล่นเป็นตัวละครเลเวล 18 ซึ่งผู้พัฒนาบอกว่าเป็นตัวละครระดับกลางๆ เกม ในขณะที่ศัตรูที่ได้พบในเดโมมีเลเวลสูงที่สุดถึง 45 นอกจากนี้ ผู้เล่นจะสามารถพัฒนาค่าสถานะต่างๆ อย่างเช่นความแข็งแกร่ง (Strength) ความว่องไว (Reflexes) ความฉลาด (Intelligence) เป็นต้น โดยค่าสถานะในเกมจะมีถึง 12 ชนิด และจะพัฒนาโดยการติดตั้ง cyberware และอวัยวะจักรกลต่างๆ ผู้เล่นบางคนอาจจะสามารถเล่นเกมตั้งแต่ต้นจนจบได้โดยไม่ฆ่าใครเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการพัฒนาค่าสถานะต่างๆ เหล่านี้ สุดท้ายคือเรื่องความถนัดของ V ในการใช้อาวุธต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเราใช้อาวุธชนิดนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง (เช่นใช้ปืนพกบ่อยๆ ก็จะมีความถนัดปืนพกสูงขึ้น) โดยความถนัดจะเพิ่มความสามารถในการใช้อาวุธเช่นทำให้เล็งแม่นขึ้นหรือเติมกระสุนเร็วขึ้น แถมอนิเมชั่นการใช้อาวุธต่างๆ ยังจะเปลี่ยนไปตามความถนัดด้วย ผู้เขียนจาก Komputer Swiat ยกตัวอย่างอนิเมชั่นเติมกระสุนของ V ที่นอกจากจะเร็วขึ้นแล้วยังมีท่าทางที่ดูชำนาญมากขึ้นตามระดับด้วย เห็นได้ชัดว่าการเปิดทางเลือกอันหลากหลายให้ผู้เล่นเป็นสิ่งที่ผู้พัฒนาให้ความสำคัญมากๆ แต่จะอิสระตามที่คุยเอาไว้แค่ไหน รอติดตามได้เมื่อเกมวางจำหน่ายสำหรับ PS4, Xbox One, PCในวันที่ 16 เมษายน 2020 จ้า! อ้างอิง: https://gamerant.com/cyberpunk-2077-progression-leveling/
26 Jul 2019
เปิดโลก Cyberpunk 2077 (ฝ่าย อาชีพ โลก ตำนาน)
แม้เกมที่แค่เปิดตัวมาก็เรียกเสียงตอบรับได้ดีมากๆ อย่าง Cyberpunk 2077 จะยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายออกมา แต่เนื่องจากเกมดัดแปลงมาจากเกมกระดาน RPG ในชื่อ Cyberpunk 2020 เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมค่อนข้างมาก ทางเว็บไซต์ VG247 ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเกม Cyberpunk 2020 มาเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมอย่างละเอียดยิบให้เราๆ เกมเมอร์ที่รอคอยเกมนี้ได้ทราบกัน ซึ่งพวกเรา GameFever ได้ทำการสรุปออกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โลกของเกม โลกของ Cyberpunk  เกิดขึ้นในยุคอนาคตแบบ Dystopia ที่มนุษย์กับเทคโนโลยีหลอมรวมกันจนเส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนั้นมีอยู่น้อยเต็มที วิทยาการพัฒนาไปถึงขั้นที่มนุษย์สามารถหาชิ้นส่วนมาอัพเกรดร่างกายตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อยากฉลาดขึ้น นั่นไม่ใช่ปัญหา ขาขาด เบื่อขาเก่า ก็หามาเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ ผู้คนถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คนที่มีทุกสิ่ง กับคนที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศอเมริกาหายไปจากแผนที่โลก ล่มสลายลงจากปัญหาล้มละลาย ความอดอยาก สงคราม การประท้วง สิ่งที่ขึ้นมาแทนคือบริษัทมหาอำนาจที่สร้างกำแพงเหล็กและคอนกรีตหนา เฝ้าเวรยามด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยชั้นแนวหน้า ด้านในกำแพงคือผู้ที่โชคดีพอได้ทำงานในบริษัทใหญ่ยักษ์เหล่านั้น ส่วนนอกกำแพงนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล Old Cities (เมืองเก่า) ใน Old Cities หรือเมืองเก่าเป็นที่ที่รัฐบาลที่เหลืออยู่ต่อสู้กับแก๊งและกลุ่มไร้กฎหมายต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงพื้นที่ The Dust ศูนย์กลางของประเทศอเมริกากลายเป็นดินแดนแห้งแล้งที่บรรดากลุ่ม "ครอบครัว" เร่ร่อน เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ตลอดเวลา ด้วยรถบ้าน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถตู้ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด Space (อวกาศ) ในอวกาศเป็นที่ที่บริษัท Orbitals ซึ่งควบคุมโดยประเทศในกลุ่มยูโรโซน เล็งอุปกรณ์ใหญ่ยักษ์มาที่โลก เตรียมยิงถล่มใครหน้าไหนก็ตามที่ขัดขวางการครอบงำทางเศรษฐกิจของตน และท่ามกลางเรื่องราวทั้งหมดนี้ยังมีกลุ่มคนผู้กล้าหาญกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกว่า Edgerunner เคลื่อนไหวในความมืด ต่อรอง ทำภารกิจ ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระ ซึ่งผู้เล่นก็คือหนึ่งในนั้น ฝ่าย Corporations (บริษัท) บริษัทคือฝ่ายที่เข้ามามีอำนาจในโลกของเกมเมื่อรัฐบาลเสื่อมอำนาจลง เข้ามาจัดการเรื่องการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน จ้างทหารรักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ ทำให้เกิดอาชญากรรมขึ้นน้อยมาก และวางบทลงโทษของผู้กระทำผิดอย่างสาหัส ผู้คนของบริษัทเชื่อว่าตัวเองมีอิสระเสรี แต่นั่นหมายถึงการแลกเสรีภาพกับความปลอดภัย Nomads (กลุ่มคนเร่รอน) กลุ่มคนเร่ร่อนคือกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หลายกลุ่ม บางกลุ่มก็คือชาวเมืองทั้งเมือง ซึ่งถูกทิ้งไว้ท่ามกลางความแห้งแล้งจากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความโลภและการเมินเฉยของกลุ่มบริษัท กลุ่มคนพวกนี้เดินทางเร่ร่อนเพื่อหาสถานที่แห่งใหม่ที่เรียกว่าบ้าน ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎของตัวเอง Gangs (แก๊ง) แก๊งคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในด้านมืดของเมือง แก๊งที่ทำสิ่งผิดกฎหมายอย่างค้ายาหรืออาวุธก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในโลกของเกมนี้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแก๊งใหม่ที่น่าเกรงกลัวอย่าง Boostergangs  ซึ่งสมาชิกแก๊งเป็นพวกที่เสพติดการอัพเกรดร่างกายตนเอง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนอัพเกรดใหม่มา Cops (ตำรวจ) ถึงแม้รัฐบาลกลางจะล่มสลายลง แต่บางเมืองก็ยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิมๆ ไว้อยู่ และนั่นยังหมายถึงการมีอยู่ของกฎและผู้คุมกฎอย่างตำรวจ Edgerunners Edgerunners คือซามูไรข้างถนน ทหารรับจ้าง หมาป่าเดียวดาย แล้วแต่ชื่อที่ผู้คนจะเรียก ทำงานที่คนธรรมดาไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาคือเจ้าหน้าที่นิรนามทำงานให้กับผู้ที่ไม่อยากเปิดเผยตัว มีชีวิตอยู่เพื่อเงิน ไม่ภักดีกับใคร และฝากความเป็นความตายของตนไว้ที่ทักษะและไหวพริบของตนเอง นี่คือฝ่ายของผู้เล่น บทบาทและอาชีพ Solos เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ ไม่ว่าจะไรเฟิล ปืนพก หรือเครื่องยิงระเบิด ทำงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือการต่อสู้ Techies (ผู้เชี่ยวชาญ) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการซ่อมแซม ล็อก ปลดล็อก จัดการอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เครื่องมือ อะไรก็ตามที่มีความซับซ้อน สร้างและรื้อของทุกอย่างที่มีคนสร้างขึ้นมา Fixers เป็นคนที่สามารถหาทุกอย่างที่มีคนต้องการมาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอาไว้แบล็คเมล์ ที่อยู่หัวหน้าแก๊ง ปืนไรเฟิลรุ่นหายาก ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ Cops (ตำรวจ) ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และบางครั้งก็เป็นกฎหมายเสียเอง Medias (สื่อ) ในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร คนที่เป็นคนรายงานเรื่องราวก็คือคนที่ควบคุมความจริง คุณอาจเป็นคนที่ถือความจริงเป็นสิ่งสูงสุด หรือจะยอมขายวิญญาณพูดในสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่อยากให้เป็นความจริง Rockers (ชาวร็อค) คุณคือกวีที่ถ่ายทอดผลงานผ่านเสียงเพลง ต่อสู้เพื่อดนตรีและส่งต่อข้อความที่เชื่อ เป็นไอดอลของกลุ่มคนจำนวนมาก Corps (บุคคลของบริษัท) คุณคือคนที่ขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดก่อนใคร ใช้อุปกรณ์อัพเกรดร่างกายที่หรูหราที่สุด ใส่สูทราคาแพงกว่าบ้านของใครหลายคน คุณมองหาข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอยู่เสมอ โดยไม่ลังเลที่จะจ้างใครมาทำงานแทนหรือทำให้มือตัวเองสกปรก Netrunners (นักท่องไซเบอร์) เน็ตรันเนอร์คือแฮ็กเกอร์ที่ติดตั้งระบบอินเตอร์เฟซคอมพิวเตอร์ลงในร่างกาย ทำให้ไม่ว่าอะไรที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เน็ตรันเนอร์ก็สามารถเจาะเข้าไปเอามาได้หมด สำหรับใครที่พลาดเทรลเลอร์ของเกมไปสามารถดูได้ที่นี่
04 Jul 2018
รายละเอียดเดโม Cyberpunk 2077: มากกว่าแค่ Witcher เวอร์ชั่นอนาคต
เป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิดกับเกม Cyberpunk 2077 จากค่าย CD Projekt Red (ผู้ให้กำเนิดเกม The Witcher) ที่หลายคนต่างคาดหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเกมไม่แพ้ผลงานอื่นๆ ของค่าย แม้ว่าผู้พัฒนาจะยังไม่เคยเปิดเผยเกมเพลย์จริงๆ ของเกมออกมาให้ได้เห็นกันเลยซักนิด ล่าสุด สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้ออกมาเปิดเผยว่านอกจากเทรลเลอร์ที่ค่ายนำไปเปิดตัวที่งานแถลงข่าวของ Microsoft แล้ว ทางผู้พัฒนายังได้เชิญสื่อหผลายๆ สำนักเข้าไปรับชมเดโมของเกมความยาวกว่า 45 นาที ที่แสดงให้เห็นถึงระบบการเล่นต่างๆ ของเกมอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว โดยสามารถสรุปรายละเอียดต่างๆ ได้ดังนี้: เกมจะใช้ระบบต่อสู้แบบ FPS แต่จะมีความสามารถต่างๆ ให้ใช้ไปด้วยคล้ายๆ เกมอย่าง Bioshock หรือ Borderlands เกมให้ความสำคัญกับความเป็น RPG ก่อนเป็นอันดับแรก หมายความว่าผู้เล่นจะยังจำเป็นต้องพัฒนาความสามารถและเลเวลของตัวละครในการผ่านเควสต่างๆ ด้วย พูดง่ายๆ ก็คือแค่ยิงเก่งอย่างเดียวไม่สามารถผ่านเควสในเกมนี้ได้ (ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกมจะมีตัวเลขความเสียหายเด้งออกมาจากศัตรูเวลาโดนยิงด้วย คล้ายๆ เกมอย่าง Borderlands) ผู้เล่นจะต้องคุยกับ NPC ในเมืองเพื่อรับเควส และจะมีระบบสนทนาที่ลึกซึ้งแบบเดียวกับใน The Witcher ด้วย ระบบสนทนาในเกมจะส่งผลต่อเกมได้อย่างลึกซึ้ง ผู้เล่นอาจจะสามารถใช้การเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์บางชนิดได้แทนการต่อสู้อย่างเดียว ผู้เล่นจะสามารถสร้างตัวละครของตัวเองได้ โดยสามารถปรับแต่งได้ทั้งหน้าตา เพศ และประวัติตัวละครแบบคร่าวๆ ไม่ว่าผู้เล่นจะสร้างตัวละครออกมาอย่างไร ตัวละครผู้เล่นจะยังคงเป็นทหารรับจ้างชื่อว่า V เหมือนกัน ผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งค่าความสามารถของตัวละครได้ 6 อย่าง ประกอบไปด้วย Strength (ความแข็งแกร่ง), Constitution (ความทนทาน), Intelligence (ความฉลาด), Reflexes (ปฏิกิริยาตอบโต้), Tech (เทคโนโลยี), และ Cool (ความเท่) ค่าความสามารถ Cool หรือความเท่จะมีผลต่อค่า Street Cred (ชื่อเสียง) ของเรา ซึ่งมีผลต่อการปลดล๊อคพื้นที่ใหม่ๆ ในเมือง โดยค่า Cool และ Street Cred จะสามารถเพิ่มได้ด้วยการทำภารกิจหลักและย่อย หรือกระทั่งการแต่งตัวแนวๆ (ผู้สื่อข่าวยกตัวอย่างจากเดโมเป็นเสื้อคลุมหนังตัวหนึ่ง ที่นอกจากจะเพิ่มพลังป้องกันแล้วยังมีโบนัส Street Cred +5% อีกด้วย) ผู้เล่นสามารถเพิ่มความสามารถต่างๆ ให้ตัวละครได้โดยการเปลี่ยนอวัยวะจักรกล โดยในเดโมมีการแสดงอวัยวะสองชิ้น ชิ้นแรกเป็นมือจักรกลที่เพิ่มความรุนแรงของปืน ในขณะที่อีกอันเป็นลูกตาเครื่องจักรที่ทำให้ผู้เล่นสามารถแสกนดูจุดอ่อนของศัตรูและยานพาหนะต่างๆ ได้ ในการต่อสู้สามารถทำความเสียหายได้ 4 ชนิด คือ Physical (กายภาพ), Thermal (ความร้อน), EMP (พลังแม่เหล็กไฟฟ้า) และ Chemical (เคมี) โดยศัตรูแต่ละชนิดอาจจะมีประเภทความเสียหายที่เป็นจุดอ่อนหรือจุดแข็งแตกต่างกันไป (สามารถใช้ลูกตาจักรกลแสกนดูก่อนได้) นอกจากนี้ยังมีระบบ Chip ที่จะเพิ่มความสามารถให้ตัวละครผู้เล่นอีกทาง โดยในเดโมได้แสดง Chip ที่จะทำให้ผู้เล่นมีหุ่นยนต์แมงมุมคอยเดินตามและช่วยสู้ตลอดเวลา จะมีระบบการขับรถไปมาในเมือง และมีระบบการขับรถไล่ยิงกันเหมือนในหนังแอคชั่นด้วย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจาก IGN กล่าวเพิ่มเติมว่ายังไม่สามารถบอกได้จากเดโมว่าเกมจะให้เราขับรถได้อย่างอิสระแค่ไหน หรือเมืองจะกว้างขนาดไหน โดยในระหว่างขับรถจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นมุมมองบุคคลที่สามได้ จะได้มองเห็นหน้าตัวละครตัวเอง (หรือจะใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งเหมือนเดิมก็ได้) ผู้เล่นสามารถซื้อรถเป็นของตัวเอง หรือขโมยเอาก็ได้ เกมจะตั้งอยู่ในเมืองชื่อว่า Night City ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสูงหลายชั้น ผู้เล่นสามารถเดินทางขึ้นลงตามชั้นต่างๆ ของเมืองได้อย่างอิสระ โดยผู้พัฒนาเปิดเผยว่าจะมีตึกที่สามารถเข้าไปเดินได้นับร้อยตึก และมีห้องให้เข้าไปสำรวจได้นับพันๆ ห้อง เกมยังคงคอนเซป เกมสำหรับผู้ใหญ่ ของค่าย CD Projekt Red หมายความว่าใครที่หวังจะได้เห็นฉากกินตับหรือคอนเทนต์เรต ฉ20+ ไม่ผิดหวังแน่นอน สื่อ IGN ยกตัวอย่างฉากที่ตัวละคร V อุ้มร่างของหญิงสาวเปลือยเปล่าเดินลงบันใดมาฉากหนึ่ง ในขณะที่อีกฉากหนึ่งตัวละคร V ในเดโม (ที่เป็นผู้หญิง) ยืนเปลือยอกในห้องนอนตัวเอง ในตอนนี้ผู้พัฒนายังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับวันวางจำหน่ายเกม แต่ถ้ามีวีดีโอเดโมเมื่อใหร่ ทีมงาน GameFever จะนำมาให้ชมกันก่อนใครแน่นอน! ชมเทรลเลอร์เกม ที่นี่ Credit : IGN
13 Jun 2018