สำหรับใครที่อยากเล่นเป็นสายเวทย์ที่เน้นพลิกแพลงกับพลังงานธาตุในเกม Ragnarok M: Eternal Love 2.0 ขอมากระซิบให้รู้ว่าในเวอร์ชั่นนี้ก็มีเช่นกัน โดยจะมีชื่อคลาสว่า " Sorcerer " ซึ่งสายนี้จะมีให้เลือกเล่นทั้งแบบลุยเดี่ยว เน้นฟาร์ม หรือเป็นผู้คอยซัพพอร์ตทีมอยู่ข้างหลัง ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอพาทุกคนมาพบกับไกด์ แนวทางการเล่น Sorcerer สายต่างๆ พร้อมข้อดี ข้อเสีย ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย!
สาย Solo MVP ( สาย PVP สายล่าบอส )
แนวทางการอัพสเตตัส
สายเวทย์เน้นสกิลธาตุ มีความหลากหลายพลิกแพลงได้ดี และเก่งในเรื่องของดาเมจต่อหนึ่งเป้าหมาย / PVP และยังมีสกิลดาเมจหมู่มาให้นิดๆ หน่อยๆ ด้วย
การอัพค่าสเตตัสตลอดการต้องเน้นดังนี้ :
- เน้นอัพ INT
- รองลงมาเป็น Agi และ DEX
คลิปประกอบ
Credit : Miss Maven
แนวทางการอัพสกิล
สายนี้จะเน้นหลักๆ ไปที่สกิล Earth Field / Wind Field / Warm berrze และ Water Field ซึ่งจะเน้นไปที่การกับสายธาตุ
สายการอัพสกิลของ mage
สายการอัพสกิลของ Sage
สายการอัพสกิลของ Professor
สายการอัพสกิลของ Sorcerer
ข้อดี
- HP น้อย
- ดาเมจต่อเป้าหมายรุนแรง
- เหมาะกับการ PVP และล่าบอส
ข้อเสีย
- ไม่เก่งเรื่องฟาร์มมอนสเตอร์เป็นกอง
- สกิลหลากหลายต้องต่อคอมโบให้เป็น
- เล้นยาก
สาย Psychic Wave ( สายฟาร์ม / ล่าลงดันเจี้ยน )
สายสำหรับผู้เล่นที่ชอบสกิลหมู่ ลงดันเจี้ยนกับเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ และบอกได้เลยว่าสายนี้หลังจากเลื่อนคลาสมาแล้ว ในส่วนของเรื่องฟาร์มนั้นทำได้ไวแบบก้าวกระโดดมากๆ
แนวทางการอัพสเตตัส
การอัพค่าสเตตัสตลอดการต้องเน้นดังนี้ :
- เน้นอัพ INT และ และ AGI ให้สุด
คลิปประกอบ
Credit : Miss Maven
แนวทางการอัพสกิล
สา่ยนี้จะเน้นไปที่บรรดาสกิลหมู่ เช่น Magic Fist / Sharpen Weapon / Fire Bolt จะช่วยให้ผู้เล่นทำดาเมจกับมอนสเตอร์ได้หลายตัวพร้อมๆ กันฟาร์มสบายๆ
สายการอัพสกิลของ Mage
สายการอัพสกิลของ Sage
สายการอัพสกิลของ Professor
สายการอัพสกิลของ Sorcerer
ข้อดี
- ฟาร์มไว
- สกิลหมู่เยอะมาก
- เก่งในเรื่องลงดันเจี้ยน และ PVE มากๆ
ข้อเสีย
- HP น้อยเช่นกัน
- สกิลค่อนข้างมีคูลดาวน์นาน
- ไม่เก่ง PVP เท่าไหร่นัก แต่อาจจะดีในเรื่องป้องกันเวลาลงกิลด์วอร์
StarDusT
นักเขียน
ฝากเข้ามาอ่านกันเรื่อยๆนะครับ ติดตามผลงานไว้นานๆ นะ