GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ไกด์เกม
[MapleStory M] คู่มือการเล่นอาชีพ Bishop
ลงวันที่ 24/07/2018

Bishop (Magician) คือนักเวทย์ประจำเกม MapleStory M มีจุดเด่นอยู่ที่การซัพพอร์ทเพื่อนร่วมทีม ทั้งการฮีล การบัฟ และการชุบชีวิต ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวละครสายถึก และไม่เหมาะกับการสู้กับบอสโดยตรง แต่สกิลการโจมตีก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร สามารถโจมตีมอนสเตอร์แบบเป็นกลุ่มได้แบบสบายๆ นอกจากนี้ก็ยังเก็บเลเวลไม่ยากและสามารถเก็บเลเวลแบบ Solo ได้เหมือนกัน เราไปดูกันดีกว่า ว่าวิธีการเล่น Bishop มีอะไรบ้าง

 

ทำไมถึงควรเล่น Bishop

1. สกิลซัพพอร์ทดีงาม
2. เป็นตัวละครที่จำเป็นต่อปาร์ตี้
3. ฮีลได้ ช่วยเพื่อนประหยัดยา
4. มีสกิล Teleport เคลื่อนไหวได้สะดวก
5. มีบัฟเพิ่ม Exp ให้กับทั้งปาร์ตี้
6. สามารถชุบชีวิตผู้เล่นคนอื่นได้



แนวทางการอัพสกิล

สกิลที่อยู่ในลิสต์ต่อไปนี้ เป็นสกิลที่เราแนะนำให้เพื่อนๆ อัพ โดยเรียงตามลำดับความสำคัญของสกิลเป็นหลัก

Lv.1-29

  • Energy Bolt (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    เป็นสกิลโจมตีเดียวที่เรามีอยู่ในตอนนี้ โดยจะระเบิดพลังไปใส่มอนสเตอร์และสามารถเด้งไปกระทบกับมอนสเตอร์ตัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียงได้อีก 5 ตัว



  • MP Increase (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าหลอด MP รวมถึงยังทำให้ฟื้นฟูค่า MP เร็วขึ้นด้วย



  • Magic Armor (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าการป้องกัน ทั้งแบบ PHY DEF และ MAG DEF



  • Teleport (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 5
    กดใช้สกิลเพื่อวาร์ปในระยะใกล้ มีประโยชน์มากเพราะสามารถวาร์ปได้ทุกทิศทาง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาปีนบันได หรือเชือก



  • Magic Guard (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    ลดดาเมจที่เราได้รับส่วนหนึ่งไปลงที่ค่า MP แทนค่า HP


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Energy Bolt, Teleport และ Magic Guard

ในช่วงต้นเกม Bishop มีดาเมจอยู่พอตัวและสามารถเล่นแบบโซโล่ได้อย่างสบายๆ เพราะสกิลเป็นแบบโจมตีมอนสเตอร์ได้หลายตัวในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงควรรีบอัพสกิลโจมตีให้เต็มก่อน จากนั้นเน้นไปโฟกัสที่สกิลติดตัวที่จะช่วยเพิ่มค่าความสามารถของตัวละคร อย่างการเพิ่มค่า MP ที่ต้องใช้ในการใช้สกิลเป็นต้น ส่วนสกิลบัฟ Magic Guard ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะช่วงแรกค่า MP เรายังน้อยอยู่ ยิ่งถ้ากดใช้ก็จะทำให้เสีย MP โดยไม่จำเป็น อีกทั้งผลของสกิลคือการลดค่า MP แทน HP อีกด้วย ส่วนสกิล Teleport ก็ควรมีติดตัวไว้เผื่อช่วงที่ต้องการเล่นเอง

 




Lv.30-59


  • Holy Arrow (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 10
    ยิงลูกศรศักดิ์สิทธิ์ใส่ศัตรูจำนวนสูงสุด 5 ตัว ควรรีบอัพเพราะเป็นสกิลโจมตีเดียวในช่วงเลเวลนี้



  • MP Eater (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    คืนค่า MP บางส่วนเมื่อเรากดใช้สกิล ช่วยให้ประหยัด MP ได้เหมือนกัน



  • Blessed Ensemble (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความแรงในการโจมตีด้วยเวทย์



  • High Wisdom (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความแรงในการโจมตีและเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่



  • Invincible (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ทำให้ตัวละครของเราถึกมากขึ้น โดยลดค่าความเสียหายที่เราได้รับ ทั้งจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์และการโจมตีแบบปกติ



  • Spell Mastery (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าป้องกัน (DEF) และฟื้นฟู HP



  • Heal (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ฟื้นฟู HP ให้กับตัวเองและเพื่อนในปาร์ตี้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง



  • Bless (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าสเตตัสให้กับเราและเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง



  • Magic Booster (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความเร็วในการโจมตี


 

สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow (แทนที่สกิล Energy Bolt), Teleport และ Heal

ในช่วงเลเวลนี้เราจะได้สกิลโจมตีเพิ่มขึ้นมา สามารถใช้แทนที่ Energy Bolt ได้เลย และควรรีบอัพให้เต็มก่อนเพื่อเพิ่มดาเมจ หรืออาจอัพสลับกับสกิลติดตัวก็ได้อย่าง MP Eater ก็ได้ จากนั้นอัพสกิลติดตัวให้ Max ให้หมดเพื่อเพิ่มค่าสถานะให้กับตัวละครของเรา แน่นอนว่าสกิล Heal ถือว่ามีประโยชน์มาก แต่ ณ จุดนี้อาจจะยังไม่ค่อยจำเป็นเพราะเพียงแค่ค่า HP ที่ได้มาจากยาก็เพียงพอแล้ว ส่วนสกิลบัฟอัพทีหลังสุดก็ไม่เสียหาย เพราะเราตีแรงและสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถกดใช้สกิลบัฟได้เลยโดยกดที่ตัวละครแล้วเกมจะโชว์สกิลบัฟทั้งหมดขึ้นมาให้กด ไม่จำเป็นต้องลากสกิลบัฟมาใส่ช่อง Slot ให้เปลืองพื้นที่ นอกจากนี้การกดใช้สกิลบัฟก็เป็นสิ่งที่ควรทำเหมือนกัน เพราะเราจะคอยดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่แล้ว เป็นการช่วยทำให้การทำเควสต์เร็วขึ้นด้วย

 




Lv.60-99


  • Shining Ray (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 10
    ทำดาเมจและสตันศัตรู 5 ตัวจำนวน 5 ครั้ง ด้วยการปล่อยลำแสงศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ตัวเรา



  • Holy Symbol  (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่า Exp ให้กับเพื่อนในปาร์ตี้จากการโจมตีมอนสเตอร์



  • Holy Focus (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ลดค่าความเสียหายที่เกิดจากการโดนคริติคอล



  • Arcane Overdrive (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มโอกาสการทำดาเมจแบบคริติคอล สำหรับการโจมตีแบบเวทย์



  • Holy Fountain (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 5
    อัญเชิญน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถฮีล และเพิ่มค่า HP ให้กับเราและพันธมิตรที่อยู่ใกล้ๆ



  • Teleport Mastery (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    ทำความเสียหายให้กับศัตรู 5 ตัว รอบๆ พื้นที่ปลายทางเมื่อเรากดใช้สกิล Teleport



  • Holy Magic Shell (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    สร้างเกราะป้องกันการติดสถานะผิดปกติระหว่างการใช้สกิลให้กับตัวเราและสมาชิกในปาร์ตี้



  • Dispel (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ลบล้างสถานะผิดปกติของเราและเพื่อนร่วมปาร์ตี้



  • Divine Protection (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    สร้างโล่ป้องกันการติดสถานะผิดปกติให้กับตัวเอง


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow, Shining Ray, Teleport, Holy Fountain และ Dispell

ระหว่างช่วงเลเวลนี้ ค่า Exp ที่ได้จากการทำเควสท์จะเริ่มลดลง และเกมจะพยายามทำให้เราเข้าไปฟาร์มใน ดันเจี้ยน อย่าง Mini Dungeon และ Star Force Field มากขึ้น หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเราต้องเก็บค่า Exp จากการตีมอนสเตอร์มากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นจึงควรอัพสกิลบัฟ Holy Symbol ที่ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็น Exp ให้กับเราและเพื่อนร่วมปาร์ตี้ สลับกับการอัพสกิลโจมตีที่ต้องกดใช้อย่าง Shining Ray ที่ทำดาเมจและสตั้นมอนสเตอร์ที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งนี้การเก็บเลเวลเป็นปาร์ตี้จะได้ผลมากกว่าการเก็บเลเวลแบบคนเดียว ดังนั้นสกิลฮีลหมู่อย่าง Holy Fountain ก็ถือว่าจำเป็น และเพื่อนๆ ควรจะหมั่นกดใช้สกิลบัฟด้วยเพราะจะทำให้เก็บเลเวลได้เร็วขึ้น

 




Lv.100+


  • Angel Ray (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ยิงลูกศรศักดิ์สิทธิ์ออกไปหาเป้าหมายสูงสุด 7 ตัว จำนวน 8 ครั้ง พร้อมกับฮีลเพื่อนที่อยู่รอบๆ ด้วย



  • Bigbang (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    โจมตีศัตรูจำนวน 8 ตัวใน 1 ครั้ง โดยสามารถกดสกิลค้างไว้เพื่อชาร์จให้พลังเพิ่มขึ้นได้ด้วย



  • Arcane Aim (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มพลังการโจมตีแบบเวทย์ (MAG ATK)



  • Blessed Harmony (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าพลังการโจมตีแบบเวทย์ (MAG ATK)



  • Advanced Blessing (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เป็นบัฟที่เพิ่มพลังการโจมตีทั้งแบบปกติและแบบเวทย์ เพิ่มโอกาสหลบหลีกการโจมตีของศัตรู และเพิ่มค่าความแม่นยำในการโจมตี



  • Infinity (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มพลังโจมตีเมื่อโจมตีผู้เล่นคนอื่นหรือบอส



  • Buff Mastery (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ลดดาเมจที่ได้รับจากการโจมตีแบบปกติและเวทย์ นอกจากนี้ยังเพิ่มค่าการป้องกัน (DEF) จากผู้เล่นและบอสด้วย



  • Genesis (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    เรียกลำแสงที่สามารถโจมตีมอนสเตอร์แทบทั้งแมพ โดยโจมตี 15 ตัวพร้อมกันในหนึ่งครั้ง ทว่ามีคูลดาวน์ 30 วินาที (คูลดาวน์ 30 วินาที)



  • Bahamut (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 5
    อัญเชิญมังกร Bahamut ออกมาเพื่อช่วยโจมตีศัตรู



  • Resurrection (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ชุบชีวิตเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ (คูลดาวน์ 60 วินาที)


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow, Bigbang, Teleport, Resurrection, Heal และ Dispel (หากเล่นหลายคนควรเพิ่ม Angle Ray และ Holy Fountain)

ในช่วงท้ายของเกม Bishop จะมีสกิลโจมตีเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก โดยสกิลโจมตีที่มีประโยชน์และใช้ได้บ่อยที่สุดคือ Bigbang เพราะสามารถกำจัดมอนสเตอร์หลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคือไม่มี Cool down เพื่อนๆ สามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Angle Ray ที่มีประโยชน์สุดๆ สำหรับการลงดันเจี้ยน หรือตีบอสกับปาร์ตี้ เพราะนอกจากจะช่วยโจมตีแล้วยังฮีลเพื่อนไปได้ด้วยพร้อมกัน รวมถึงยังใช้ได้เรื่อยๆ โดยไม่มีคูลดาวน์

แน่นอนว่าสกิลที่เจ้าแห่งการซัพพอร์ทอย่าง Bishop จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือสกิลชุบชีวิตเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ และสกิลบัฟ Advanced Blessing ที่ช่วยเพิ่มดาเมจให้กับผองเพื่อนได้แรงถึงอีก 18 เปอร์เซ็นด้วยกัน ถือว่าเป็นตัวละครที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยในช่วง End Game

 




ภาพรวม

Bishop ถือเป็นอาชีพที่บอบบางกว่าอาชีพอื่นๆ เพราะมีเลือดน้อยที่สุด ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการยืนบวกในระยะประชิด ทว่าในทางกลับกันก็เป็นอาชีพที่โจมตีค่อนข้างแรง นอกจากนี้สกิลโจมตีทั้งหมดยังเป็นสกิลโจมตีระยะไกล และสามารถโจมตีมอนสเตอร์หลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการที่มีเลือดน้อยจึงไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่นัก

และอันที่จริงจุดเด่นอีกจุดของ Bishop ก็คือการฟาร์มมอนสเตอร์ เพราะสามารถเก็บมอนสเตอร์ได้รวดเร็ว ทำให้เลเวลขึ้นไม่ยากมาก แต่ก็ต้องแลกมากับการล่าบอสที่ยากลำบาก เพราะไม่สามารถยืนตีบอสคนเดียวได้ดีเท่ากับอาชีพอื่นนั่นเอง พูดง่ายๆ ว่าหากจะต้องสู้กับบอส Bishop เหมาะกับการเป็นทัพหลัง ทั้งช่วยตีจากระยะไกล ช่วยซัพพอร์ท คอยฮีลและบัฟเพื่อนมากกว่าจะออกไปเป็นนักรบแนวหน้า


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[MapleStory M] คู่มือการเล่นอาชีพ Bishop
24/07/2018

Bishop (Magician) คือนักเวทย์ประจำเกม MapleStory M มีจุดเด่นอยู่ที่การซัพพอร์ทเพื่อนร่วมทีม ทั้งการฮีล การบัฟ และการชุบชีวิต ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวละครสายถึก และไม่เหมาะกับการสู้กับบอสโดยตรง แต่สกิลการโจมตีก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร สามารถโจมตีมอนสเตอร์แบบเป็นกลุ่มได้แบบสบายๆ นอกจากนี้ก็ยังเก็บเลเวลไม่ยากและสามารถเก็บเลเวลแบบ Solo ได้เหมือนกัน เราไปดูกันดีกว่า ว่าวิธีการเล่น Bishop มีอะไรบ้าง

 

ทำไมถึงควรเล่น Bishop

1. สกิลซัพพอร์ทดีงาม
2. เป็นตัวละครที่จำเป็นต่อปาร์ตี้
3. ฮีลได้ ช่วยเพื่อนประหยัดยา
4. มีสกิล Teleport เคลื่อนไหวได้สะดวก
5. มีบัฟเพิ่ม Exp ให้กับทั้งปาร์ตี้
6. สามารถชุบชีวิตผู้เล่นคนอื่นได้



แนวทางการอัพสกิล

สกิลที่อยู่ในลิสต์ต่อไปนี้ เป็นสกิลที่เราแนะนำให้เพื่อนๆ อัพ โดยเรียงตามลำดับความสำคัญของสกิลเป็นหลัก

Lv.1-29

  • Energy Bolt (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    เป็นสกิลโจมตีเดียวที่เรามีอยู่ในตอนนี้ โดยจะระเบิดพลังไปใส่มอนสเตอร์และสามารถเด้งไปกระทบกับมอนสเตอร์ตัวอื่นที่อยู่ใกล้เคียงได้อีก 5 ตัว



  • MP Increase (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าหลอด MP รวมถึงยังทำให้ฟื้นฟูค่า MP เร็วขึ้นด้วย



  • Magic Armor (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าการป้องกัน ทั้งแบบ PHY DEF และ MAG DEF



  • Teleport (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 5
    กดใช้สกิลเพื่อวาร์ปในระยะใกล้ มีประโยชน์มากเพราะสามารถวาร์ปได้ทุกทิศทาง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาปีนบันได หรือเชือก



  • Magic Guard (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    ลดดาเมจที่เราได้รับส่วนหนึ่งไปลงที่ค่า MP แทนค่า HP


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Energy Bolt, Teleport และ Magic Guard

ในช่วงต้นเกม Bishop มีดาเมจอยู่พอตัวและสามารถเล่นแบบโซโล่ได้อย่างสบายๆ เพราะสกิลเป็นแบบโจมตีมอนสเตอร์ได้หลายตัวในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงควรรีบอัพสกิลโจมตีให้เต็มก่อน จากนั้นเน้นไปโฟกัสที่สกิลติดตัวที่จะช่วยเพิ่มค่าความสามารถของตัวละคร อย่างการเพิ่มค่า MP ที่ต้องใช้ในการใช้สกิลเป็นต้น ส่วนสกิลบัฟ Magic Guard ยังไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะช่วงแรกค่า MP เรายังน้อยอยู่ ยิ่งถ้ากดใช้ก็จะทำให้เสีย MP โดยไม่จำเป็น อีกทั้งผลของสกิลคือการลดค่า MP แทน HP อีกด้วย ส่วนสกิล Teleport ก็ควรมีติดตัวไว้เผื่อช่วงที่ต้องการเล่นเอง

 




Lv.30-59


  • Holy Arrow (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 10
    ยิงลูกศรศักดิ์สิทธิ์ใส่ศัตรูจำนวนสูงสุด 5 ตัว ควรรีบอัพเพราะเป็นสกิลโจมตีเดียวในช่วงเลเวลนี้



  • MP Eater (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    คืนค่า MP บางส่วนเมื่อเรากดใช้สกิล ช่วยให้ประหยัด MP ได้เหมือนกัน



  • Blessed Ensemble (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความแรงในการโจมตีด้วยเวทย์



  • High Wisdom (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความแรงในการโจมตีและเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่



  • Invincible (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ทำให้ตัวละครของเราถึกมากขึ้น โดยลดค่าความเสียหายที่เราได้รับ ทั้งจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์และการโจมตีแบบปกติ



  • Spell Mastery (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าป้องกัน (DEF) และฟื้นฟู HP



  • Heal (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ฟื้นฟู HP ให้กับตัวเองและเพื่อนในปาร์ตี้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง



  • Bless (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าสเตตัสให้กับเราและเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง



  • Magic Booster (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มความเร็วในการโจมตี


 

สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow (แทนที่สกิล Energy Bolt), Teleport และ Heal

ในช่วงเลเวลนี้เราจะได้สกิลโจมตีเพิ่มขึ้นมา สามารถใช้แทนที่ Energy Bolt ได้เลย และควรรีบอัพให้เต็มก่อนเพื่อเพิ่มดาเมจ หรืออาจอัพสลับกับสกิลติดตัวก็ได้อย่าง MP Eater ก็ได้ จากนั้นอัพสกิลติดตัวให้ Max ให้หมดเพื่อเพิ่มค่าสถานะให้กับตัวละครของเรา แน่นอนว่าสกิล Heal ถือว่ามีประโยชน์มาก แต่ ณ จุดนี้อาจจะยังไม่ค่อยจำเป็นเพราะเพียงแค่ค่า HP ที่ได้มาจากยาก็เพียงพอแล้ว ส่วนสกิลบัฟอัพทีหลังสุดก็ไม่เสียหาย เพราะเราตีแรงและสามารถฆ่ามอนสเตอร์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้เพื่อนๆ สามารถกดใช้สกิลบัฟได้เลยโดยกดที่ตัวละครแล้วเกมจะโชว์สกิลบัฟทั้งหมดขึ้นมาให้กด ไม่จำเป็นต้องลากสกิลบัฟมาใส่ช่อง Slot ให้เปลืองพื้นที่ นอกจากนี้การกดใช้สกิลบัฟก็เป็นสิ่งที่ควรทำเหมือนกัน เพราะเราจะคอยดูหน้าจอโทรศัพท์อยู่แล้ว เป็นการช่วยทำให้การทำเควสต์เร็วขึ้นด้วย

 




Lv.60-99


  • Shining Ray (สกิลใช้งาน)  อัพเต็ม 10
    ทำดาเมจและสตันศัตรู 5 ตัวจำนวน 5 ครั้ง ด้วยการปล่อยลำแสงศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ตัวเรา



  • Holy Symbol  (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่า Exp ให้กับเพื่อนในปาร์ตี้จากการโจมตีมอนสเตอร์



  • Holy Focus (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ลดค่าความเสียหายที่เกิดจากการโดนคริติคอล



  • Arcane Overdrive (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มโอกาสการทำดาเมจแบบคริติคอล สำหรับการโจมตีแบบเวทย์



  • Holy Fountain (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 5
    อัญเชิญน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถฮีล และเพิ่มค่า HP ให้กับเราและพันธมิตรที่อยู่ใกล้ๆ



  • Teleport Mastery (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    ทำความเสียหายให้กับศัตรู 5 ตัว รอบๆ พื้นที่ปลายทางเมื่อเรากดใช้สกิล Teleport



  • Holy Magic Shell (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    สร้างเกราะป้องกันการติดสถานะผิดปกติระหว่างการใช้สกิลให้กับตัวเราและสมาชิกในปาร์ตี้



  • Dispel (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ลบล้างสถานะผิดปกติของเราและเพื่อนร่วมปาร์ตี้



  • Divine Protection (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    สร้างโล่ป้องกันการติดสถานะผิดปกติให้กับตัวเอง


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow, Shining Ray, Teleport, Holy Fountain และ Dispell

ระหว่างช่วงเลเวลนี้ ค่า Exp ที่ได้จากการทำเควสท์จะเริ่มลดลง และเกมจะพยายามทำให้เราเข้าไปฟาร์มใน ดันเจี้ยน อย่าง Mini Dungeon และ Star Force Field มากขึ้น หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือเราต้องเก็บค่า Exp จากการตีมอนสเตอร์มากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นจึงควรอัพสกิลบัฟ Holy Symbol ที่ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็น Exp ให้กับเราและเพื่อนร่วมปาร์ตี้ สลับกับการอัพสกิลโจมตีที่ต้องกดใช้อย่าง Shining Ray ที่ทำดาเมจและสตั้นมอนสเตอร์ที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งนี้การเก็บเลเวลเป็นปาร์ตี้จะได้ผลมากกว่าการเก็บเลเวลแบบคนเดียว ดังนั้นสกิลฮีลหมู่อย่าง Holy Fountain ก็ถือว่าจำเป็น และเพื่อนๆ ควรจะหมั่นกดใช้สกิลบัฟด้วยเพราะจะทำให้เก็บเลเวลได้เร็วขึ้น

 




Lv.100+


  • Angel Ray (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ยิงลูกศรศักดิ์สิทธิ์ออกไปหาเป้าหมายสูงสุด 7 ตัว จำนวน 8 ครั้ง พร้อมกับฮีลเพื่อนที่อยู่รอบๆ ด้วย



  • Bigbang (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    โจมตีศัตรูจำนวน 8 ตัวใน 1 ครั้ง โดยสามารถกดสกิลค้างไว้เพื่อชาร์จให้พลังเพิ่มขึ้นได้ด้วย



  • Arcane Aim (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มพลังการโจมตีแบบเวทย์ (MAG ATK)



  • Blessed Harmony (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    เพิ่มค่าพลังการโจมตีแบบเวทย์ (MAG ATK)



  • Advanced Blessing (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เป็นบัฟที่เพิ่มพลังการโจมตีทั้งแบบปกติและแบบเวทย์ เพิ่มโอกาสหลบหลีกการโจมตีของศัตรู และเพิ่มค่าความแม่นยำในการโจมตี



  • Infinity (สกิลบัฟ) อัพเต็ม 5
    เพิ่มพลังโจมตีเมื่อโจมตีผู้เล่นคนอื่นหรือบอส



  • Buff Mastery (สกิลติดตัว) อัพเต็ม 5
    ลดดาเมจที่ได้รับจากการโจมตีแบบปกติและเวทย์ นอกจากนี้ยังเพิ่มค่าการป้องกัน (DEF) จากผู้เล่นและบอสด้วย



  • Genesis (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    เรียกลำแสงที่สามารถโจมตีมอนสเตอร์แทบทั้งแมพ โดยโจมตี 15 ตัวพร้อมกันในหนึ่งครั้ง ทว่ามีคูลดาวน์ 30 วินาที (คูลดาวน์ 30 วินาที)



  • Bahamut (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 5
    อัญเชิญมังกร Bahamut ออกมาเพื่อช่วยโจมตีศัตรู



  • Resurrection (สกิลใช้งาน) อัพเต็ม 10
    ชุบชีวิตเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ (คูลดาวน์ 60 วินาที)


สกิลที่ควรใส่ไว้ใน Slot: Holy Arrow, Bigbang, Teleport, Resurrection, Heal และ Dispel (หากเล่นหลายคนควรเพิ่ม Angle Ray และ Holy Fountain)

ในช่วงท้ายของเกม Bishop จะมีสกิลโจมตีเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก โดยสกิลโจมตีที่มีประโยชน์และใช้ได้บ่อยที่สุดคือ Bigbang เพราะสามารถกำจัดมอนสเตอร์หลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคือไม่มี Cool down เพื่อนๆ สามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Angle Ray ที่มีประโยชน์สุดๆ สำหรับการลงดันเจี้ยน หรือตีบอสกับปาร์ตี้ เพราะนอกจากจะช่วยโจมตีแล้วยังฮีลเพื่อนไปได้ด้วยพร้อมกัน รวมถึงยังใช้ได้เรื่อยๆ โดยไม่มีคูลดาวน์

แน่นอนว่าสกิลที่เจ้าแห่งการซัพพอร์ทอย่าง Bishop จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือสกิลชุบชีวิตเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้ และสกิลบัฟ Advanced Blessing ที่ช่วยเพิ่มดาเมจให้กับผองเพื่อนได้แรงถึงอีก 18 เปอร์เซ็นด้วยกัน ถือว่าเป็นตัวละครที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยในช่วง End Game

 




ภาพรวม

Bishop ถือเป็นอาชีพที่บอบบางกว่าอาชีพอื่นๆ เพราะมีเลือดน้อยที่สุด ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการยืนบวกในระยะประชิด ทว่าในทางกลับกันก็เป็นอาชีพที่โจมตีค่อนข้างแรง นอกจากนี้สกิลโจมตีทั้งหมดยังเป็นสกิลโจมตีระยะไกล และสามารถโจมตีมอนสเตอร์หลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นการที่มีเลือดน้อยจึงไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่นัก

และอันที่จริงจุดเด่นอีกจุดของ Bishop ก็คือการฟาร์มมอนสเตอร์ เพราะสามารถเก็บมอนสเตอร์ได้รวดเร็ว ทำให้เลเวลขึ้นไม่ยากมาก แต่ก็ต้องแลกมากับการล่าบอสที่ยากลำบาก เพราะไม่สามารถยืนตีบอสคนเดียวได้ดีเท่ากับอาชีพอื่นนั่นเอง พูดง่ายๆ ว่าหากจะต้องสู้กับบอส Bishop เหมาะกับการเป็นทัพหลัง ทั้งช่วยตีจากระยะไกล ช่วยซัพพอร์ท คอยฮีลและบัฟเพื่อนมากกว่าจะออกไปเป็นนักรบแนวหน้า


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header