เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาสำหรับ iPhone 13 มือถือรุ่นใหม่จากทาง Apple โดยจะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้ากันในวันที่ 1 ตุลาคม 2021 และวางขายหน้าร้านอย่างเป็นทางในวันที่ 8 ตุลาคม 2021 สำหรับราคาของเครื่องแต่ละรุ่น ก็มีเป็นราคาไทยเรียบร้อยแล้ว สามารถดูได้ข้างล่างนี้เลย
128GB | 256GB | 512GB | 1TB | |
iPhone 13 Mini | 25,900 | 29,900 | 37,900 | - |
iPhone 13 | 29,900 | 33,900 | 41,900 | - |
iPhone 13 Pro | 38,900 | 42,900 | 50,900 | 58,900 |
iPhone 13 Pro Max | 42,900 | 46,900 | 54,900 | 62,900 |
Pro กับ Pro Max กล้องเหมือนกัน
ในส่วนของกล้อง สำหรับ iPhone 13 จะให้กล้องมา 3 ตัวเช่นกันสำหรับ iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max รวมถึงเลนส์กล้อง ความสามารถ และฟีเจอร์จะมีเหมือนกันทั้งหมด ในส่วนของความแตกต่างจริงๆ ที่ทราบในตอนนี้คือขนาดของหน้าจอระหว่าง 6.1 นิ้ว กับ 6.7 นิ้ว กับแบตเตอรี่ที่อาจแตกต่างกันประมาณ 1-3 ชั่วโมงการใช้งาน
รอยบากบนหน้าจอเล็กลง 20% แต่สูงขึ้นเล็กน้อย
ในขณะที่กล้องหลังมีการปรับคุณภาพให้ดีขึ้น ในส่วนของหน้าจอเองก็มีการลดขนาดของรอยบากลง 20% เพิ่มพื้นที่หน้าจอให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ในขณะที่ขนาดของตัวเครื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่กล้องหลังดูจะกินพื้นที่มากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
มาพร้อมกับชิป A15 Bionic มีการอัปเกรด GPU ให้เป็น 5-Core
ในเรื่องของชิปประมวลผลเอง CPU ของเครื่องจะเป็นแบบ 6-Core และมีการเพิ่มหัวประมวลผลให้กับ GPU ของเครื่องอีก 1 Core จากที่มีเพียง 4-Core ตอน iPhone 12 ในส่วนของประสิทธิภาพยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะแรงกว่ารุ่นก่อนหน้ากี่ % แต่เชื่อว่าคงแรงติดอันดับ 1 - 3 ของโลกเช่นเดิม อันนี้ต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
เครื่องจะหนากว่า และหนักหว่า iPhone 12 เล็กน้อย
ด้วยฟีเจอร์ที่มากขึ้น กล้องที่ดีขึ้น แบตเตอรี่ที่อึดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกหาก iPhone 13 จะมีนำหนัก กับความหนาที่มากกว่า iPhone 12 ความหนาจะต่างกันเล็กน้อยแค่ 7.65mm กับ 7.4mm และในส่วนของน้ำหนักจะต่างกันเพียงไม่กี่กรัมเท่านั้นดูความแตกต่างได้ข้างล่างนี้
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 13 ที่เรารู้ในตอนนี้ ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็สามารถรอสั่งจองได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2021 นี้ และคาสดว่าเครื่องน่าจะไปถึงมือภายในวันที่ 8 ตุลาคม 20218 ตุลาคม 2021
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาสำหรับ iPhone 13 มือถือรุ่นใหม่จากทาง Apple โดยจะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้ากันในวันที่ 1 ตุลาคม 2021 และวางขายหน้าร้านอย่างเป็นทางในวันที่ 8 ตุลาคม 2021 สำหรับราคาของเครื่องแต่ละรุ่น ก็มีเป็นราคาไทยเรียบร้อยแล้ว สามารถดูได้ข้างล่างนี้เลย
128GB | 256GB | 512GB | 1TB | |
iPhone 13 Mini | 25,900 | 29,900 | 37,900 | - |
iPhone 13 | 29,900 | 33,900 | 41,900 | - |
iPhone 13 Pro | 38,900 | 42,900 | 50,900 | 58,900 |
iPhone 13 Pro Max | 42,900 | 46,900 | 54,900 | 62,900 |
Pro กับ Pro Max กล้องเหมือนกัน
ในส่วนของกล้อง สำหรับ iPhone 13 จะให้กล้องมา 3 ตัวเช่นกันสำหรับ iPhone 13 Pro กับ iPhone 13 Pro Max รวมถึงเลนส์กล้อง ความสามารถ และฟีเจอร์จะมีเหมือนกันทั้งหมด ในส่วนของความแตกต่างจริงๆ ที่ทราบในตอนนี้คือขนาดของหน้าจอระหว่าง 6.1 นิ้ว กับ 6.7 นิ้ว กับแบตเตอรี่ที่อาจแตกต่างกันประมาณ 1-3 ชั่วโมงการใช้งาน
รอยบากบนหน้าจอเล็กลง 20% แต่สูงขึ้นเล็กน้อย
ในขณะที่กล้องหลังมีการปรับคุณภาพให้ดีขึ้น ในส่วนของหน้าจอเองก็มีการลดขนาดของรอยบากลง 20% เพิ่มพื้นที่หน้าจอให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ในขณะที่ขนาดของตัวเครื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่กล้องหลังดูจะกินพื้นที่มากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
มาพร้อมกับชิป A15 Bionic มีการอัปเกรด GPU ให้เป็น 5-Core
ในเรื่องของชิปประมวลผลเอง CPU ของเครื่องจะเป็นแบบ 6-Core และมีการเพิ่มหัวประมวลผลให้กับ GPU ของเครื่องอีก 1 Core จากที่มีเพียง 4-Core ตอน iPhone 12 ในส่วนของประสิทธิภาพยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะแรงกว่ารุ่นก่อนหน้ากี่ % แต่เชื่อว่าคงแรงติดอันดับ 1 - 3 ของโลกเช่นเดิม อันนี้ต้องรอดูข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป
เครื่องจะหนากว่า และหนักหว่า iPhone 12 เล็กน้อย
ด้วยฟีเจอร์ที่มากขึ้น กล้องที่ดีขึ้น แบตเตอรี่ที่อึดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกหาก iPhone 13 จะมีนำหนัก กับความหนาที่มากกว่า iPhone 12 ความหนาจะต่างกันเล็กน้อยแค่ 7.65mm กับ 7.4mm และในส่วนของน้ำหนักจะต่างกันเพียงไม่กี่กรัมเท่านั้นดูความแตกต่างได้ข้างล่างนี้
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 13 ที่เรารู้ในตอนนี้ ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็สามารถรอสั่งจองได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2021 นี้ และคาสดว่าเครื่องน่าจะไปถึงมือภายในวันที่ 8 ตุลาคม 20218 ตุลาคม 2021