ลองมาแล้ว! ประสบการณ์ลองใช้ Google Stadia ตรงจากงาน GDC 2019

PS4 Xbox One Assassin's Creed: Odyssey Google Stadia

บทความ

ลองมาแล้ว! ประสบการณ์ลองใช้ Google Stadia ตรงจากงาน GDC 2019

ลงวันที่ 25/03/2019

ภายในงานสัมมนานักพัฒนาเกมประจำปี GDC 2019 (Game Developer’s Conference) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 มีนาคมที่ผ่านมา ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศอเมรีกา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google ได้สร้างกระแสที่อาจจะเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดในวงการเกมในขณะนี้เลยก็ว่าได้ กับการเปิดตัว Google Stadia แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเกมใหม่ล่าสุด ที่จะเปิดให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ผ่านอินเตอร์เน็ต 100% โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ราคาแพงอีกต่อไป

ทางทีมงาน GameFever เองก็ได้มีโอกาสส่งตัวแทนไปร่วมงาน GDC 2019 มาด้วย และก็ได้ลองเล่นเกมผ่านบริการ Google Stadia มากับตัวเองเลย จึงอยากจะมาพูดถึงเทคโนโลยีใหม่จาก Google ที่อาจจะเข้ามาพลิกโฉมวงการเกมที่เรารู้จักไปตลอดกาลเลยทีเดียว

[caption id="attachment_20707" align="aligncenter" width="1108"] ภาพถ่ายจอย Stadia ตรงจากบูธอากู๋ที่ซานฟราน![/caption]

ถามกู๋: Stadia คืออะไรกันแน่?

จากคำกล่าวอ้างของ Google นั้น บริการ Stadia นี้จะใช้เทคโนโลยีการสตรีมมิ่งข้อมูลผ่าน Cloud เพื่อให้เกมเมอร์สามารถเล่นเกมโดยใช้เทคโนโลยี Cloud Computing ของ Google ในการประมวลผลเกม ซึ่งจะทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ต่างกับการเล่นบนเครื่อง PC ระดับสูง โดย Google กล่าวว่า Stadia จะสามารถให้บริการเกมที่ระดับความละเอียด 4K, 60FPS ได้เลยทีเดียว แถมยังสามารถใช้กับเครื่องคอมพิเตอร์หรือมือถือรุ่นไหนก็ได้อีกด้วย โดยแม้ว่าจะยังไม่มีรายชื่ออุปกรณ์ที่สามารถใช้ Stadia ได้แน่นอนนั้น ตัวแทนจาก Google ได้เผยว่าอุปกรณ์ชิ้นใดก็ตามที่ใช้ Youtube ได้จะสามารถใช้ Stadia ได้เช่นกัน

ทางทีมงาน GameFever ได้สอบถามตัวแทนจาก Google ในงานเพิ่มเติมถึงการทำงานของเทคโนโลยีนี้ โดยได้ใจความคร่าวๆ ว่า Stadia นั้นทำงานโดยการยิงภาพระดับ 1080p, 60FPS (ระดับที่ผู้เขียนได้ลองใช้) จากเซิฟเวอร์ของ Google ไปยังเครื่องอุปกรณ์ของผู้ใช้ ในขณะที่จอย Stadia จะคอยจับคำสั่งที่ผู้เล่นป้อนเข้าไปและส่งเป็นข้อมูลไปยังเซิฟเวอร์ Cloud Game Instance ของ Google ซึ่งจะประมวลผลและยิงภาพในเกมที่เปลี่ยนไปกลับมายังอึปกรณ์ที่ใช้นั่นเอง

ตัวแทนของ Google ภายในงานได้เผยว่า Stadia จะวางจำหน่ายพร้อมกับการสนับสนุนเกมระดับ 4K, 60FPS และการประมวลผลภาพแบบ HDR ภายในช่วงปลายปี 2019 นี้ โดยจะเริ่มให้บริการในประเทศสหรัฐอเมรีกา แคนาดา และประเทศอื่นๆ อีกเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น โดยยังไม่มีวันเปิดให้บริการที่แน่นอน และยังไม่ชัดเจนว่าจะเปิดให้บริการในเขตประเทศฝั่งเอเซียด้วยหรือไม่ แต่ก็อาจจะยังยากถ้าจะเปิดให้บริการในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรา ที่ความเร็วและความเสถียรของอินเตอร์เน็ตยังพัฒนาได้อีกเยอะ ซึ่งถ้าแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ไม่ได้ ก็อาจจะทำให้คนในภูมิภาคทั้งหมดไม่สามารถใช้บริการ Stadia ได้เท่าที่ควร

ความเห็นหลังลองเล่น

สำหรับประสบการณ์ของทีมงาน GameFever เองนั้น ได้ทดลองใช้บริการ Google Stadia บนเครื่องคอมพิวเตอร์แล๊ปท๊อประดับกลางๆ เครื่องหนึ่ง โดยได้ทดลองเล่นเกม Assassin’s Creed Odyssey ของค่าย Ubisoft (Google ให้ทดลองโดยใช้จอย PC ราคาถูก ไม่ได้ลองกับจอย Stadia)

สำหรับเกม Assassin’s Creed Odyssey นั้นก็เคยเปิดให้เล่นฟรีเพื่อทดสอบระบบการสตรีมมิ่งเกมผ่านโปรแกรมอินเตอร์เน็ต Google Chrome มาแล้วก่อนหน้านี้ โดยจากการทดลองเล่นกับระบบ Stadia นั้น พบว่าเกมสามารถรันที่ความคมชัด 1080p, 60FPS ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีการกระตุกหรือสะดุดแต่อย่างใดทั้งในฉากการต่อสู้ที่รวดเร็วและในฉากคัตซีน เรียกได้ว่าแทบจะลืมไปเลยว่ากำลังเล่นเกมผ่านระบบสตรีมมิ่งอยู่ ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากการเล่นเกมในคอนโซลหรือ PC ทั่วไปเลย

ทั้งนี้ ทางทีมงานของ Google ได้เปิดเผยว่าเกมที่ผู้เขียนกำลังทดลองอยู่นั้นกำลังถูกสตรีมโดยตรงจากเซิฟเวอร์ของบริษัทในเมือง San Jose ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง San Fancisco ที่จัดงานนัก จึงยังบอกไม่ได้ว่าถ้าเซิฟเวอร์อยู่ไกลจากจุดเชื่อมต่อ (เช่นถ้าเชื่อมต่อมาจากประเทศไทย) หรือเมื่อเซิฟเวอร์ต้องรับการเชื่อมต่อจำนวนมากๆ พร้อมๆ กันจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่

เมื่อถามว่าบริการ Google Stadia จะใช้เล่นเกมมือถือได้ด้วยหรือไม่ (เช่นเล่นเกมมือถือผ่าน PC เป็นต้น) ทางทีมงานของ Google ยังคงอุปเงียบในประเด็นนี้ โดยกล่าวว่าบริษัทไม่มีแผนการจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือการเปิดให้บริการในขณะนี้

ถ้าจะให้กล่าวโดยสรุป คงต้องยอมรับว่าทางผู้เขียนเองก็อดทั้งตื่นเต้นและกังวลกับเทคโนโลยี Google Stadia นี้ ในแง่หนึ่งก็เถียงไมไ่ด้ว่าถ้า Stadia มีผู้ใช้แพร่หลาย ก็อาจจะสามารถพลิกโฉมวงการเกมในปัจจุบันไปได้เลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน ก็น่ากัลวลว่าแล้วตลาดเอเซียบ้านเรา ที่การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตยังกระท่อนกระแท่น จะมีความพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่นี้แค่ไหน และถ้า Stadia เป็นอนาคตของวงการเกม เราจะมีที่ยืนในอนาคตนั้นแค่ไหน