กลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการเกมในวันนี้ เมื่อค่ายพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมยักษ์ใหญ่ Activision Blizzard ได้สั่งปลดพนักงานในบริษัทไปถึง 8% นับเป็นจำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานกว่า 800 ชีวิต!
ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมาในระหว่างการประชุมรายงานผลกำไรต่อนักลงทุนของค่าย โดย CEO ของค่ายคุณ Bobby Kotick ได้รายงานว่าแม้ว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ค่ายทำกำไรได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่าย ด้วยตัวเลขกำไรกว่า $7.26 พันล้านเหรียญ (สูงขึ้นกว่าปี 2017 ถึง $100 ล้านเหรียญ) แต่ก็ยังต่ำกว่าความคาดหวังของบริษัท คณะผู้บริหารจึงมีมติที่จะปลดพนักงานที่ไม่ได้มีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกม เพื่อให้บริษัทสามารถทุ่มงบประมาณและเวลาไปกับการพัฒนาเกมใหญ่ๆ ของค่ายได้อย่างเต็มที่
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ค่ายตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้มีอยู่หลายประการ อย่างแรกมาจากยอดขายของในเกมใหญ่ๆ ของค่ายอย่าง Overwatch และ Hearthstone ที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีการที่ค่ายพัฒนา Bungie ตัดสินใจแยกทางกับ Activision และนำเกมซีรี่ย์ Destiny ไปพัฒนาต่อเอง โดยซีรี่ย์นี้ก็ยังถือเป็นหนึ่งในตัวทำเงินใหญ่ของค่าย จึงทำให้ตัวเลขผลกำไรของค่ายที่สามารถคาดหวังได้ในปี 2019 ต่ำลงไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริหารตำแหน่ง CFO คุณ Dennis Durkin ก็ยังยืนยันด้วยว่า Blizzard ไม่มีแผนจะวางจำหน่ายเกมสายหลักใดๆ ในปีนี้ รวมไปถึงเกม Diablo ภาคใหม่ด้วย (ไม่รวมเกม Diablo: Immortal ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้) ซึ่งก็ส่งผลต่อความคาดหวังผลกำไรของค่ายเช่นกัน
สำหรับแผนการของค่ายในปี 2019 นั้น จะเน้นไปที่การขยายทีมพัฒนาสำหรับเกมเรือธงต่างๆ ของค่าย (อย่างเช่น Call of Duty และ Overwatch) ขึ้นอีก 20% และยืนยันว่า Call of Duty ภาคล่าสุดนี้จะมีระบบเนื้อเรื่องหรือ Campaign ที่หายไปในภาค Black Ops 4 อีกครั้ง โดยจะนำงบประมาณสำหรับการขยายทีมนี้มาจากการยกเลิกโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จตามความคาดหวัง และการลดรายจ่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมโดยตรงอีกด้วย เช่นการยกเลิกการสนับสนุนงานแข่ง Esports ของเกม Heroes of the Storm ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ค่ายจะยังคงสนับสนุนพนักงานทุกคนที่ถูกปลดออกด้วยการให้เงินค่าเลิกจ้าง รวมไปถึงการช่วยเหลือในเรื่องของสิธิประโยชน์สำหรับลูกจ้างและการจัดหางานในอนาคตอีกด้วย ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้จะส่งผลให้เราเห็นเกมดีๆ จากค่ายเพิ่มขึ้นนะ!
(ขอบคุณข้อมูลจาก Polygon)
กลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการเกมในวันนี้ เมื่อค่ายพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมยักษ์ใหญ่ Activision Blizzard ได้สั่งปลดพนักงานในบริษัทไปถึง 8% นับเป็นจำนวนพนักงานที่ถูกปลดออกจากงานกว่า 800 ชีวิต!
ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมาในระหว่างการประชุมรายงานผลกำไรต่อนักลงทุนของค่าย โดย CEO ของค่ายคุณ Bobby Kotick ได้รายงานว่าแม้ว่าปี 2018 จะเป็นปีที่ค่ายทำกำไรได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่าย ด้วยตัวเลขกำไรกว่า $7.26 พันล้านเหรียญ (สูงขึ้นกว่าปี 2017 ถึง $100 ล้านเหรียญ) แต่ก็ยังต่ำกว่าความคาดหวังของบริษัท คณะผู้บริหารจึงมีมติที่จะปลดพนักงานที่ไม่ได้มีตำแหน่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกม เพื่อให้บริษัทสามารถทุ่มงบประมาณและเวลาไปกับการพัฒนาเกมใหญ่ๆ ของค่ายได้อย่างเต็มที่
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ค่ายตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้มีอยู่หลายประการ อย่างแรกมาจากยอดขายของในเกมใหญ่ๆ ของค่ายอย่าง Overwatch และ Hearthstone ที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีการที่ค่ายพัฒนา Bungie ตัดสินใจแยกทางกับ Activision และนำเกมซีรี่ย์ Destiny ไปพัฒนาต่อเอง โดยซีรี่ย์นี้ก็ยังถือเป็นหนึ่งในตัวทำเงินใหญ่ของค่าย จึงทำให้ตัวเลขผลกำไรของค่ายที่สามารถคาดหวังได้ในปี 2019 ต่ำลงไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริหารตำแหน่ง CFO คุณ Dennis Durkin ก็ยังยืนยันด้วยว่า Blizzard ไม่มีแผนจะวางจำหน่ายเกมสายหลักใดๆ ในปีนี้ รวมไปถึงเกม Diablo ภาคใหม่ด้วย (ไม่รวมเกม Diablo: Immortal ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้) ซึ่งก็ส่งผลต่อความคาดหวังผลกำไรของค่ายเช่นกัน
สำหรับแผนการของค่ายในปี 2019 นั้น จะเน้นไปที่การขยายทีมพัฒนาสำหรับเกมเรือธงต่างๆ ของค่าย (อย่างเช่น Call of Duty และ Overwatch) ขึ้นอีก 20% และยืนยันว่า Call of Duty ภาคล่าสุดนี้จะมีระบบเนื้อเรื่องหรือ Campaign ที่หายไปในภาค Black Ops 4 อีกครั้ง โดยจะนำงบประมาณสำหรับการขยายทีมนี้มาจากการยกเลิกโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จตามความคาดหวัง และการลดรายจ่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกมโดยตรงอีกด้วย เช่นการยกเลิกการสนับสนุนงานแข่ง Esports ของเกม Heroes of the Storm ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ค่ายจะยังคงสนับสนุนพนักงานทุกคนที่ถูกปลดออกด้วยการให้เงินค่าเลิกจ้าง รวมไปถึงการช่วยเหลือในเรื่องของสิธิประโยชน์สำหรับลูกจ้างและการจัดหางานในอนาคตอีกด้วย ได้แต่หวังว่าการตัดสินใจปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้จะส่งผลให้เราเห็นเกมดีๆ จากค่ายเพิ่มขึ้นนะ!
(ขอบคุณข้อมูลจาก Polygon)