เรื่องของการฟ้องครั้งนี้เริ่มต้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทาง Wolfire Games ได้ยื่นฟ้อง Valve ในเรื่องที่ Steam ผูกขาดตลาดบน PC ว่ากำลังผูกขาดและกดไม่ให้ร้านค้าเจ้าอื่นขายเกมได้มากกว่าร้านของตนเอง แต่แล้วทาง Valve ก็ได้ตอบโต้ออกมาในสัปดาห์นี้พร้อมกับบอกว่าให้ยกฟ้องคดีนี้ในทันทีเพราะ "พลาดในการพูดถึงองค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงการผูกขาด"

หนึ่งในข้อกล่าวหาที่ทาง Wolfire ฟ้องไปก็คือการที่ Valve กีดกันผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายจากการขายเกมด้วยราคาที่ต่ำกว่าบน Steam หากวางขายในร้านค้าอื่น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยสำหรับนักพัฒนาเกมและเกมเมอร์ จากคำให้การของทาง Wolfire กล่าวว่าผู้ขายจะต้องขายเกมในราคาที่สูงเพื่อให้ได้กำไรหลังจากหักค่าส่วนแบ่งของ Valve ที่คิดเป็น 30% จากกำไรทั้งหมดในการขายเกม

ซึ่งทาง Valve ก็ได้ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหานั้นพร้อมกับชี้ให้เห็นถึงหลายๆ จุดที่ไม่สอดคล้อง อย่างแรกคือ 'ไม่มีหน้าที่อะไรในการผูกขาดที่จะให้ผู้พัฒนาเกมนำสตีมคีย์ฟรีไปขายในราคาที่ถูกกว่าหรือแจกจ่าย' และข้ออ้างอีกอย่างที่กล่าวว่าเป็นหลักฐานเพียงหนึ่งเดียวคือการ "ห้ามไม่ให้ผู้พัฒนาเกมคนนึงนำเกมของตนไปเปิดให้เล่นฟรีในแพลตฟอร์มคู่แข่งอย่าง Discord หากคิดจะเก็บเงินจากเกมของตัวเองบนแพลตฟอร์ม Steam"

Valve ยังได้ออกมาปกป้องเรื่องส่วนแบ่ง 30% อีกด้วยว่าไม่มีหลักฐานที่แน่นอนมากพอ "ผู้ร้องทุกข์ได้รวบรวมแค่ข้อมูลทั่วไปที่คาดเดาว่าการเก็บส่วนแบ่ง 30% ของ Valve จะต้องลดลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่จริงๆ แล้ว 30% ที่เก็บเป็น 'มาตรฐานในอุตสาหกรรม' ในขณะที่ทาง Valve นั้นต้องกำลังเผชิญหน้ากับการแข่งขันต่างๆ จากบริษัทมากมายไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Epic Games หรือ Amazon ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน"

จุดที่น่าสนใจในเรื่องนี้ก็คือ 30% นั้นเป็นค่ามาตรฐานจริงๆ แต่ความไม่พอใจในเรื่องนี้ก็มีมาได้หลายปีแล้ว ซึ่งหลายๆ เจ้าก็เลือกที่จะจัดการกับเรื่องนี้กัน ยกตัวอย่าง Epic Games Store ที่ได้ทำการปรับเรทของตัวเองลงไปเป็น 12% ต่อจากนั้นในเดือนเมษายนทาง Microsoft ก็ได้ออกมาปรับเรทจาก 30% ไปเป็น 12% เช่นเดียวกัน ซึ่งในการรวบรวมแบบสอบถามของทาง GDC นั้นก็เห็นว่ามีผู้พัฒนาจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับการเก็บค่าส่วนแบ่งของ Valve ซึ่งมีทั้งหมด 6% เท่านั้นที่กล่าวว่าเรท 30% นั้นเหมาะสมแล้ว ส่วนจำนวนสองในสามจากทั้งหมดบอกว่า 15% หรือน้อยกว่าคือเรทที่เหมาะสม

นอกจากนี้ก็มีการตอบกลับเรื่องที่ Wolfire อ้างว่าทาง Valve ได้ครอบครอง 75% ของตลาดผ่านทาง Steam ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ "ไม่มีหลักฐานอ้างอิง" ถึงจะไม่ได้เป็นการปฎิเสธข้อกล่าวหาก็ตามแต่การที่ทาง Wolfire's ไม่สามารถแสดงหลักฐานออกมาได้ทำให้ทาง Valve ขอยกฟ้องคดีนี้

"ผู้ร้องทุกข์ไม่สามารถอธิบายการกระทำที่ผิดกฎ แสดงหลักฐานที่บอกถึงการผูกขาด หรือเหตุผลในการผูกขาดผลิตภัณฑ์ที่ขายในหลายแพลตฟอร์มได้" Valve กล่าว "ถึงแบบนั้นพวกเขากลับเลือกที่จะโจมตีบริการที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากของลูกค้าในตลาดการแข่งขันแทน"

ตอนนี้ทาง Valve กำลังมองหาคำตอบของปัญหา ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ทางออกคือ ยกฟ้องคดีเพราะไม่มีหลักฐานที่มากพอ หรือ ให้ทาง Wolfire ถูกระงับคดีชั่วคราวจนกว่าข้อเรียกร้องของจำเลยแต่ละรายในคดีจะได้รับการจัดการผ่านการอนุญาโตตุลาการภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงการเป็นสมาชิกของ Steam

Credit: PC Gamer