เมื่อไม่นานมานี้ จากการที่ Microsoft เสนอตัวเองเข้าซื้อธุรกิจจากค่ายเกมกระแสตกฮวบอย่าง Blizzard หน่วยงานกำกับดูแลด้านการค้าของสหรัฐซึ่งมีสมาชิกในเครือกว่า 20 ประเทศ และหนึ่งในนั้นเองก็คือประเทศบราซิลจึงเข้าสัมภาษณ์บริษัทเกมบุคคลที่สามต่าง ๆ อย่าง Sony, Ubisoft, Warner Bros. และอื่น ๆ ว่ามีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของ Microsoft
จากการสัมภาษณ์ ข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดก็น่าจะเป็นของฝั่ง Sony เอง เพราะพวกเขากล่าวถึงการนำเกมระดับ AAA หลาย ๆ เกมมาลงในระบบ Game Pass ราคา 99 บาทต่อเดือนของทาง Xbox นั้น อาจจะสร้าง 60% - 70% ของรายได้สูงสุดในระบบสมัครสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกก็จริง แต่กลับกันมันอาจส่งผลให้มีโอกาสน้อยและนานมากที่จะมีคู่แข่งระบบนี้ รวมถึงมันยังเป็นเหมือนการไม่เคารพผู้จัดจำหน่ายเกมที่เป็นพันธมิตรกันมานานและสร้างการผูกขาดทางตลาดอีกด้วย
ถึงกระนั้นทาง Sony เองก็มีระบบคล้ายกันในชื่อ PlayStation Plus ซึ่งเป็นระบบสมัครสมาชิกราคาตกปีละ 1200 บาท ที่ผู้สมัครสามารถเล่นเกมรายเดือนตามที่กำหนดบนเครื่อง PlayStation ได้อย่างเต็มที่, เชื่อมต่อระบบหลายผู้เล่น, บันทึกเซฟเกมผ่านระบบคลาวด์, ทดลองเล่นเกมใหม่ก่อนใคร และอื่น ๆ แยกตามแต่ละแพ็กเกจไป แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่อยากทำรวมถึงมีแนวคิดแตกต่างจาก Game Pass ที่จะนำเกมใหม่มาลงระบบสมัครสมาชิกให้ได้เล่นตั้งแต่วันแรกทันที เพราะเกรงว่ามันจะส่งผลให้กำไรที่พวกเขาได้รับต่ำลงจนต้องลดคุณภาพของเกม อิงตามคำจากปากประธานด้านการเงินของ Sony คุณ Hiroki Totoki ที่กล่าวว่า
" หากพวกเราต้องเอาเกมระดับ AAA มาลงระบบบริการสมาชิกจนรายได้ลดแล้วละก็ พวกเขาก็จำเป็นต้องลดต้นทุนบางส่วนจนส่งผลให้เกมคุณภาพต่ำลงเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่พวกเขากังวลเสมอมา "
ก็พูดได้ว่าขนาด ณ ตอนนี้เองทาง Sony ก็ยังไม่กล้าที่จะพัฒนาระบบสมัครสมาชิก PlayStation Plus ของตนเองให้ไปชนกับ Game Pass ของ Microsoft ที่นับวันจะดูยิ่งใหญ่และน่ากลัวในวงการธุรกิจขึ้นเรื่อย ๆ จากการกว้านซื้อสตูดิโอใหญ่ ๆ เพื่อมาเป็นคู่ค้าธุริจวงการเกมในปัจจุบัน
Credit - gamingbolt
เมื่อไม่นานมานี้ จากการที่ Microsoft เสนอตัวเองเข้าซื้อธุรกิจจากค่ายเกมกระแสตกฮวบอย่าง Blizzard หน่วยงานกำกับดูแลด้านการค้าของสหรัฐซึ่งมีสมาชิกในเครือกว่า 20 ประเทศ และหนึ่งในนั้นเองก็คือประเทศบราซิลจึงเข้าสัมภาษณ์บริษัทเกมบุคคลที่สามต่าง ๆ อย่าง Sony, Ubisoft, Warner Bros. และอื่น ๆ ว่ามีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของ Microsoft
จากการสัมภาษณ์ ข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดก็น่าจะเป็นของฝั่ง Sony เอง เพราะพวกเขากล่าวถึงการนำเกมระดับ AAA หลาย ๆ เกมมาลงในระบบ Game Pass ราคา 99 บาทต่อเดือนของทาง Xbox นั้น อาจจะสร้าง 60% - 70% ของรายได้สูงสุดในระบบสมัครสมาชิกของสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกก็จริง แต่กลับกันมันอาจส่งผลให้มีโอกาสน้อยและนานมากที่จะมีคู่แข่งระบบนี้ รวมถึงมันยังเป็นเหมือนการไม่เคารพผู้จัดจำหน่ายเกมที่เป็นพันธมิตรกันมานานและสร้างการผูกขาดทางตลาดอีกด้วย
ถึงกระนั้นทาง Sony เองก็มีระบบคล้ายกันในชื่อ PlayStation Plus ซึ่งเป็นระบบสมัครสมาชิกราคาตกปีละ 1200 บาท ที่ผู้สมัครสามารถเล่นเกมรายเดือนตามที่กำหนดบนเครื่อง PlayStation ได้อย่างเต็มที่, เชื่อมต่อระบบหลายผู้เล่น, บันทึกเซฟเกมผ่านระบบคลาวด์, ทดลองเล่นเกมใหม่ก่อนใคร และอื่น ๆ แยกตามแต่ละแพ็กเกจไป แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่อยากทำรวมถึงมีแนวคิดแตกต่างจาก Game Pass ที่จะนำเกมใหม่มาลงระบบสมัครสมาชิกให้ได้เล่นตั้งแต่วันแรกทันที เพราะเกรงว่ามันจะส่งผลให้กำไรที่พวกเขาได้รับต่ำลงจนต้องลดคุณภาพของเกม อิงตามคำจากปากประธานด้านการเงินของ Sony คุณ Hiroki Totoki ที่กล่าวว่า
" หากพวกเราต้องเอาเกมระดับ AAA มาลงระบบบริการสมาชิกจนรายได้ลดแล้วละก็ พวกเขาก็จำเป็นต้องลดต้นทุนบางส่วนจนส่งผลให้เกมคุณภาพต่ำลงเช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่พวกเขากังวลเสมอมา "
ก็พูดได้ว่าขนาด ณ ตอนนี้เองทาง Sony ก็ยังไม่กล้าที่จะพัฒนาระบบสมัครสมาชิก PlayStation Plus ของตนเองให้ไปชนกับ Game Pass ของ Microsoft ที่นับวันจะดูยิ่งใหญ่และน่ากลัวในวงการธุรกิจขึ้นเรื่อย ๆ จากการกว้านซื้อสตูดิโอใหญ่ ๆ เพื่อมาเป็นคู่ค้าธุริจวงการเกมในปัจจุบัน
Credit - gamingbolt