GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] Oxide Room 104 "เกมสยองขวัญไอเดียบรรเจิด แต่ดันมาตกม้าตายด้านระบบการเล่น"
ลงวันที่ 12/07/2022

ชื่อของ Oxide Room 104 อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากนัก เพราะตัวเกมไม่ได้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Capcom, Ubisoft หรือ Konami แต่ด้วยการออกแบบงานศิลป์ของสัตว์ประหลาดที่ทำได้น่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น เชื่อว่าคอเกมแนวสยองขวัญหลาย ๆ คนน่าจะให้ความสนใจเกมนี้ในระดับหนึ่งกันเลยทีเดียว


ซึ่งหลังจากที่ตัวเกมออกมานั้น เสียงวิจารณ์ของบรรดาคนที่ได้ลองเล่นเองก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยมีทั้งฝ่ายที่ชื่นชอบ และฝ่ายที่ไม่ชอบปะปนกันไป และในบทความนี้ เราจะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ของการเล่น Oxide Room 104 ผ่านเครื่องพกพาอย่าง Nintendo Switch ให้ทุกคนที่กำลังชั่งใจว่าควรจะกดซื้อเกมนี้ดีไหม ไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจกันนะครับ


เนื้อเรื่องที่ทำตามสูตรสำเร็จ


Oxide Room 104 เลือกใช้การเล่าเรื่องยอดนิยมของสื่อแนวสยองขวัญ ด้วยการโยนตัวผู้เล่นเข้าไปในสถานการณ์ที่ไม่รู้จัก สับสน และชวนให้งุนงง จนอดที่จะหาคำตอบต่อไม่ได้


คุณจะได้รับบทเป็น Matt ชายหนุ่มที่กำลังขับรถเข้าสู่ ห้องพักข้างทาง ก่อนที่จะโดนชายลึกลับทุบเข้าที่ท้ายทอยจนสลบ และเมื่อรู้สึกตัวอีกที Matt จะพบตัวเองอยู่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า ซึ่งแน่นอนว่า เขาไม่มีความทรงจำหลังจากที่ถูกทำให้สลบไปได้อยู่เลย




สิ่งเดียวที่ Matt และผู้เล่นรู้ก็คือ ด้านนอก Motel แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยอง พร้อมกับปริศนา ไปจนถึงเรื่องราวอันแสนลึกลับกำลังรอเขาอยู่ Matt จำเป็นจะต้องหาทางออกจากโรงแรมแห่งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการใช้วิธีอะไรก็ตาม


ทั้งหมดที่กล่าวไปคือเรื่องราวคร่าว ๆ ของเกม Oxide Room 104 และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ทีมผู้พัฒนาอย่าง Wild Sphere ได้เลือกใช้การเล่าเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จของสื่อแนวสยองขวัญ ซึ่งพวกเขาได้ทำให้มันยิ่งทวีความลึกลับเข้าไปอีก ด้วยการที่ไม่ได้เล่าเนื้อเรื่องออกมาตรง ๆ แต่ได้นำบางส่วนแบ่งลงใส่เอกสาร และทิ้งมันเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ของเกม


ทว่าถึงเอกสารพวกนี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปะติดปะต่อเนื้อเรื่องได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แต่มันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี ผู้เล่นยังจำเป็นที่จะต้องตีความเนื้อเรื่องกันต่อ แม้ว่าคุณจะสามารถเก็บเอกสารได้ครบถ้วนแล้วก็ตาม


ระบบของเกมที่ทำมาดูขาด ๆ เกิน ๆ 


หากดูจากตัวอย่างแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะคิดว่า Oxide Room 104 ต้องเป็นเกมแนว Survival Horror คล้ายกับ Resident Evil, Dead Space หรือ Silent Hill อย่างแน่นอน ซึ่งอันที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้ผิดไปทั้งหมด แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องจนเกือบ 100% เหมือนกัน

 

ส่วนที่ถูกต้องก็คือ เกมนี้มันเป็นแนว Survival Horror นั่นแหละ แต่ส่วนที่ผิดไปก็คือ ตัวเกมมันไม่ได้ให้อิสระในการบู๊ หรือสู้กลับเทียบเท่ากับเกมที่ว่ามานั่นเอง ถึงแม้ตัวเกมอาจจะให้กระสุนไปจนถึงยาเติมพลังมาในจำนวนที่มากเพียงพอ แต่ด้วยระบบการต่อสู้ที่ดูเก้ ๆ กัง ๆ แถมฉากเจอบอสที่บังคับให้วิ่งหนีอย่างเดียว จึงทำให้ Oxide Room 104 ดูเอนเอียงไปทางฝั่งของ Horror เพียว ๆ เสียมากกว่า (อันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่า มันควรจะเรียกบอสได้ไหม แต่ด้วยการออกแบบที่แตกต่างจากศัตรูตัวอื่น อย่างน้อยมันก็คงเป็นบอสในหมู่ศัตรูนั่นแหละนะ)




และสิ่งที่ทำให้ Oxide Room 104 ยิ่งดูพิกลพิการมากเข้าไปอีก ก็คือการพยายามยัดเยียดระบบแปลก ๆ ที่ดูเหมือนจะดี แต่มันกลับไม่เวิร์คในเชิงของคนเล่นมาให้ โดยมีไปตั้งแต่ ระบบจัดการช่องเก็บของ ที่ควรจะช่วยให้ผู้เล่นต้องคิด และไตร่ตรองในการเลือกไอเทมสำคัญติดตัวไปให้ดี แต่ระบบนี้มันดันเลวร้ายตรงที่ไม่มีหัวข้อในการทิ้งไอเทมให้กับผู้เล่นเสียนี่สิ ตรงจุดนี้ความท้าทายที่ควรจะเป็น จึงได้กลับกลายเป็นความน่ารำคาญโดยอัตโนมัติ เพราะการที่คนเล่นต้องวิ่งไปวิ่งกลับ ระหว่างห้องที่มีหีบฝากของ กับเส้นทางที่ใช้เดินเนื้อเรื่องหลักเนี่ย มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์เท่าไรอยู่แล้ว




ซ้ำร้ายอีกหนึ่งระบบที่ชวนให้หงุดหงิดใจขึ้นไปอีกก็คือ ระบบ Quick Time Event ที่ขึ้นมาทุกครั้งจนเรียกได้ว่าพร่ำเพรื่อ แน่นอนว่า หาก Quick Time Event ขึ้นมาในจังหวะสำคัญอย่างการดิ้นให้หลุดรอดจากศัตรู หรือการใช้ระบบนี้เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องบางอย่าง มันก็คงจะอยู่ในระดับที่รับได้ แต่ปัญหาก็คือ ในจังหวะการเปิดประตูของแต่ละห้องนั้น มันดันขึ้นมาให้กดทุกครั้งเลย จุดนี้ทางผู้เขียนเชื่อว่า ทีมพัฒนาน่าจะอยากให้คนเล่นได้สัมผัสถึงความสมจริง และพาตัวเองดื่มด่ำไปกับโลกของเกมให้ได้มากที่สุด แต่ผลลัพธ์มันกลับกลายออกมาเป็นน่ารำคาญเสียฉิบ


ลองคิดดูว่า เกมประเภทพื้นที่แคบ ๆ ต้องเดินสำรวจไปมาในบริเวณเดิมซ้ำ ๆ มันจะน่าหงุดหงิดแค่ไหน ที่คุณต้องคอยมากด Quick Time Event ในการเปิดประตูทุกรอบ เรียกได้ว่ามี 10 ห้อง ก็ต้องหมุนก้านอนาล็อก10 ครั้งกันไปเลย


เล่นกับความตายอย่างแยบยล


สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับ Oxide Room 104 ก็คือ ทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย ผู้เล่นจะถูกพากลับมาที่ห้อง 104 ห้องตั้งต้นของเกมโดยอัตโนมัติ แถมผู้พัฒนายังป้องกันการโกงความตายด้วยการให้ตัวเกม Auto save ในแทบทุก ๆ การกระทำของคุณอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเล่นพลาด เลินเล่อ ประมาท หรือไม่ระวังตัวขึ้นมา ก็เตรียมบอกลาเวลาที่ใช้เล่นไปได้เลย


ถึงอาจจะฟังดูโหดร้ายไปบ้าง แต่ตัวเกม Oxide Room 104 ก็ไม่ได้มีความยาวในการเล่นที่มากเท่าไรนัก ต่อให้คุณเดินแบบงู ๆ ปลา ๆ ไม่รู้ทาง คุณก็น่าจะสามารถจบเกมได้ในเวลาเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ช่วยให้บทลงโทษที่ว่ามานี้ไม่ได้ตัดกำลังใจคนเล่นจนเกินไป




สิ่งหนึ่งที่ต้องเอ่ยปากชมเลยก็คือ ผู้พัฒนาได้แอบใส่ระบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้ความตายของผู้เล่นมีสีสันขึ้นมาอีกด้วย โดยทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย สภาพแวดล้อมของโรงแรมจิ้งหรีดแห่งนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละนิด เช่น จากเดิมคุณควรจะเจอปืนพกอยู่ในห้องเก็บของ แต่มาคราวนี้คุณกลับเจอมันวางอยู่ในห้องตั้งต้นซะอย่างนั้น ช่วยให้การเล่นในแต่ละรอบมีความสดใหม่อยู่บ้าง แม้จะต้องวนอยู่ในพื้นที่เดิม ๆ 


ซึ่งจะขอสปอยล์เอาไว้ตรงนี้เลยว่า จำนวนครั้งที่ตายของคนเล่น จะส่งผลถึงฉากจบได้ 4 แบบ ไล่ไปตั้งแต่ Best Ending ไปจนถึง Bad Ending กันเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครอยากจะได้ฉากจบที่ดีที่สุด ก็ต้องห้ามตายกันเลยนะครับ


ศัตรูที่ออกแบบได้ดี แต่ดันมีให้เห็นนิดเดียว


อีกหนึ่งสิ่งที่ Oxide Room 104 สามารถทำได้ดี นั่นก็คือ การออกแบบศัตรูที่ดูน่าสยอง ขนพอง ขนลุก โดยเราจะได้เจอพวกมันแทบตลอดทั้งเกม แต่สิ่งที่เรียกว่า ‘ความเคยชิน’ ของมนุษย์นั้น มันช่างน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ซะอีก เพราะต่อให้รูปร่างของมันจะดูน่ากลัวขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าหากเราเจอพวกมันจนคุ้นเคยแล้ว บางทีต่อให้พวกมันเดินผ่านหน้าในระยะเผาขน คุณก็แทบจะไม่รู้สึกว่าพวกมันน่ากลัวเลยด้วยซ้ำ




ซ้ำร้าย ตัวศัตรูที่ออกมาแบบให้ผู้เล่นได้มีปฏิสัมพันธ์กับมันแบบจริง ๆ จัง ๆ ยังมีเพียงแค่ 2 ตัวเพียงเท่านั้น ส่วนศัตรูตัวอื่น ๆ เราจะเห็นพวกมันแค่ผ่านฉากคัตซีน นี่จึงยิ่งทำให้ความกลัวหลักของผู้เล่นที่ควรจะมีต่อศัตรูยิ่งลดน้อย ถอยลงไปอีก ส่งผลให้ศัตรูภายในเกมนี้ ตกม้าตายในเรื่องของความน่ากลัวไปเสียฉิบ ช่างน่าเสียดายจริง ๆ เลยเชียว ทั้ง ๆ ที่ออกแบบมาได้ดูให้ขวัญกระเจิงขนาดนั้นแท้ ๆ


รวมปัญหายิบย่อย สไตล์เกมอินดี้


อันที่จริงในหัวข้อนี้ จะไม่ส่งผลต่อคะแนนรีวิวเท่าไรนัก เพราะเนื่องด้วย Oxide Room 104 เป็นเกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เงินทุนของพวกเขาจึงอาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับเกมฟอร์มยักษ์ ปัญหาเล็กน้อยต่าง ๆ จึงมีให้เห็นกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว


ไล่ไปตั้งแต่เสียงพากย์ที่แข็งแทบจะเป็นหิน จนถึงขนาดที่มีผู้เล่นจำนวนมากพร้อมใจกับบอกว่า ถ้าพากย์แข็งขนาดนี้ ไม่ต้องใส่เสียงพากย์มาตั้งแต่แรกเลยก็ได้มั้ง ไปจนถึงเรื่องการของโหลดฉากนาน ที่น่าจะเป็นปัญหามาจากการ Optimize ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ซึ่งปัญหานี้มันถูกพบทั้งบนเครื่อง Switch ไปจน PC กันเลย


แต่อย่างน้อย สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างน่าประทับใจเลยก็คือ ตัวเกมพอร์ตมาเล่นบนเครื่อง Switch ได้ค่อนข้างลื่นไหล และยังคงภาพที่สวยงามไว้ได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว แม้จะเป็นเกมของทีมพัฒนาอินดี้แบบ Third party ก็ตาม


ควรค่าแก่การสละเวลาเล่นไหม ?


ถึง Oxide Room 104 อาจจะดูเต็มไปด้วยปัญหาจำนวนมาก ทั้งการออกแบบเกมที่ดูไม่สมประกอบ เนื้อเรื่องที่เล่าออกแบบมาซับซ้อน ไปจนถึงปัญหายิบย่อยคอยกวนใจตลอดการเล่น แต่ในส่วนที่ทำออกมาได้ดีนั้น มันก็ทำออกได้ดีจนน่าชื่นชมเสียจริง ๆ 


เพราะฉะนั้น หากลองชั่งน้ำหนักระหว่างอัตราส่วนที่ดีกับไม่ดีเปรียบเทียบกันแล้ว ก็น่าจะพอพูดได้ว่าถึง Oxide Room 104 จะไม่เป็นเกมขึ้นหิ้งระดับผลงานชิ้นโบว์แดงที่ต้องลองเล่นสักครั้งในชีวิต แต่มันก็เป็นเกมที่พอจะมอบความสยองให้กับผู้เล่น ไปจนถึงมีคุณค่าในการเล่นซ้ำเพื่อเก็บเนื้อเรื่องให้ครบถ้วนได้อยู่บ้าง


หากใครที่กำลังมองหาเกมที่มีการออกแบบตัวละคร ไปจนถึงมีความสยองแบบ Psychological horror เกมนี้น่าจะตอบโจทย์คุณได้ ไม่มากก็น้อยเลยล่ะครับ


Oxide Room 104 Free Download (Build 8944753) » SteamRIP


7
ข้อดี

เล่นซ้ำได้ในระดับหนึ่ง

การออกแบบสัตว์ประหลาดมีเอกลักษณ์ และน่าจดจำ

ข้อเสีย

ราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับเกมอินดี้อื่น ๆ

ระบบการต่อสู้ที่ทำออกมาแบบลวก ๆ

เสียงพากย์ที่แข็งเป็นหิน

6
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] Oxide Room 104 "เกมสยองขวัญไอเดียบรรเจิด แต่ดันมาตกม้าตายด้านระบบการเล่น"
12/07/2022

ชื่อของ Oxide Room 104 อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกว้างขวางมากนัก เพราะตัวเกมไม่ได้มาจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Capcom, Ubisoft หรือ Konami แต่ด้วยการออกแบบงานศิลป์ของสัตว์ประหลาดที่ทำได้น่าประทับใจตั้งแต่แรกเห็น เชื่อว่าคอเกมแนวสยองขวัญหลาย ๆ คนน่าจะให้ความสนใจเกมนี้ในระดับหนึ่งกันเลยทีเดียว


ซึ่งหลังจากที่ตัวเกมออกมานั้น เสียงวิจารณ์ของบรรดาคนที่ได้ลองเล่นเองก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยมีทั้งฝ่ายที่ชื่นชอบ และฝ่ายที่ไม่ชอบปะปนกันไป และในบทความนี้ เราจะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ของการเล่น Oxide Room 104 ผ่านเครื่องพกพาอย่าง Nintendo Switch ให้ทุกคนที่กำลังชั่งใจว่าควรจะกดซื้อเกมนี้ดีไหม ไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจกันนะครับ


เนื้อเรื่องที่ทำตามสูตรสำเร็จ


Oxide Room 104 เลือกใช้การเล่าเรื่องยอดนิยมของสื่อแนวสยองขวัญ ด้วยการโยนตัวผู้เล่นเข้าไปในสถานการณ์ที่ไม่รู้จัก สับสน และชวนให้งุนงง จนอดที่จะหาคำตอบต่อไม่ได้


คุณจะได้รับบทเป็น Matt ชายหนุ่มที่กำลังขับรถเข้าสู่ ห้องพักข้างทาง ก่อนที่จะโดนชายลึกลับทุบเข้าที่ท้ายทอยจนสลบ และเมื่อรู้สึกตัวอีกที Matt จะพบตัวเองอยู่ในอ่างอาบน้ำ พร้อมกับเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า ซึ่งแน่นอนว่า เขาไม่มีความทรงจำหลังจากที่ถูกทำให้สลบไปได้อยู่เลย




สิ่งเดียวที่ Matt และผู้เล่นรู้ก็คือ ด้านนอก Motel แห่งนี้ มันเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่น่าสยดสยอง พร้อมกับปริศนา ไปจนถึงเรื่องราวอันแสนลึกลับกำลังรอเขาอยู่ Matt จำเป็นจะต้องหาทางออกจากโรงแรมแห่งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยการใช้วิธีอะไรก็ตาม


ทั้งหมดที่กล่าวไปคือเรื่องราวคร่าว ๆ ของเกม Oxide Room 104 และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ทีมผู้พัฒนาอย่าง Wild Sphere ได้เลือกใช้การเล่าเรื่องที่เป็นสูตรสำเร็จของสื่อแนวสยองขวัญ ซึ่งพวกเขาได้ทำให้มันยิ่งทวีความลึกลับเข้าไปอีก ด้วยการที่ไม่ได้เล่าเนื้อเรื่องออกมาตรง ๆ แต่ได้นำบางส่วนแบ่งลงใส่เอกสาร และทิ้งมันเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ของเกม


ทว่าถึงเอกสารพวกนี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปะติดปะต่อเนื้อเรื่องได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แต่มันก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดอยู่ดี ผู้เล่นยังจำเป็นที่จะต้องตีความเนื้อเรื่องกันต่อ แม้ว่าคุณจะสามารถเก็บเอกสารได้ครบถ้วนแล้วก็ตาม


ระบบของเกมที่ทำมาดูขาด ๆ เกิน ๆ 


หากดูจากตัวอย่างแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะคิดว่า Oxide Room 104 ต้องเป็นเกมแนว Survival Horror คล้ายกับ Resident Evil, Dead Space หรือ Silent Hill อย่างแน่นอน ซึ่งอันที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้ผิดไปทั้งหมด แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องจนเกือบ 100% เหมือนกัน

 

ส่วนที่ถูกต้องก็คือ เกมนี้มันเป็นแนว Survival Horror นั่นแหละ แต่ส่วนที่ผิดไปก็คือ ตัวเกมมันไม่ได้ให้อิสระในการบู๊ หรือสู้กลับเทียบเท่ากับเกมที่ว่ามานั่นเอง ถึงแม้ตัวเกมอาจจะให้กระสุนไปจนถึงยาเติมพลังมาในจำนวนที่มากเพียงพอ แต่ด้วยระบบการต่อสู้ที่ดูเก้ ๆ กัง ๆ แถมฉากเจอบอสที่บังคับให้วิ่งหนีอย่างเดียว จึงทำให้ Oxide Room 104 ดูเอนเอียงไปทางฝั่งของ Horror เพียว ๆ เสียมากกว่า (อันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่า มันควรจะเรียกบอสได้ไหม แต่ด้วยการออกแบบที่แตกต่างจากศัตรูตัวอื่น อย่างน้อยมันก็คงเป็นบอสในหมู่ศัตรูนั่นแหละนะ)




และสิ่งที่ทำให้ Oxide Room 104 ยิ่งดูพิกลพิการมากเข้าไปอีก ก็คือการพยายามยัดเยียดระบบแปลก ๆ ที่ดูเหมือนจะดี แต่มันกลับไม่เวิร์คในเชิงของคนเล่นมาให้ โดยมีไปตั้งแต่ ระบบจัดการช่องเก็บของ ที่ควรจะช่วยให้ผู้เล่นต้องคิด และไตร่ตรองในการเลือกไอเทมสำคัญติดตัวไปให้ดี แต่ระบบนี้มันดันเลวร้ายตรงที่ไม่มีหัวข้อในการทิ้งไอเทมให้กับผู้เล่นเสียนี่สิ ตรงจุดนี้ความท้าทายที่ควรจะเป็น จึงได้กลับกลายเป็นความน่ารำคาญโดยอัตโนมัติ เพราะการที่คนเล่นต้องวิ่งไปวิ่งกลับ ระหว่างห้องที่มีหีบฝากของ กับเส้นทางที่ใช้เดินเนื้อเรื่องหลักเนี่ย มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์เท่าไรอยู่แล้ว




ซ้ำร้ายอีกหนึ่งระบบที่ชวนให้หงุดหงิดใจขึ้นไปอีกก็คือ ระบบ Quick Time Event ที่ขึ้นมาทุกครั้งจนเรียกได้ว่าพร่ำเพรื่อ แน่นอนว่า หาก Quick Time Event ขึ้นมาในจังหวะสำคัญอย่างการดิ้นให้หลุดรอดจากศัตรู หรือการใช้ระบบนี้เพื่อดำเนินเนื้อเรื่องบางอย่าง มันก็คงจะอยู่ในระดับที่รับได้ แต่ปัญหาก็คือ ในจังหวะการเปิดประตูของแต่ละห้องนั้น มันดันขึ้นมาให้กดทุกครั้งเลย จุดนี้ทางผู้เขียนเชื่อว่า ทีมพัฒนาน่าจะอยากให้คนเล่นได้สัมผัสถึงความสมจริง และพาตัวเองดื่มด่ำไปกับโลกของเกมให้ได้มากที่สุด แต่ผลลัพธ์มันกลับกลายออกมาเป็นน่ารำคาญเสียฉิบ


ลองคิดดูว่า เกมประเภทพื้นที่แคบ ๆ ต้องเดินสำรวจไปมาในบริเวณเดิมซ้ำ ๆ มันจะน่าหงุดหงิดแค่ไหน ที่คุณต้องคอยมากด Quick Time Event ในการเปิดประตูทุกรอบ เรียกได้ว่ามี 10 ห้อง ก็ต้องหมุนก้านอนาล็อก10 ครั้งกันไปเลย


เล่นกับความตายอย่างแยบยล


สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับ Oxide Room 104 ก็คือ ทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย ผู้เล่นจะถูกพากลับมาที่ห้อง 104 ห้องตั้งต้นของเกมโดยอัตโนมัติ แถมผู้พัฒนายังป้องกันการโกงความตายด้วยการให้ตัวเกม Auto save ในแทบทุก ๆ การกระทำของคุณอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเล่นพลาด เลินเล่อ ประมาท หรือไม่ระวังตัวขึ้นมา ก็เตรียมบอกลาเวลาที่ใช้เล่นไปได้เลย


ถึงอาจจะฟังดูโหดร้ายไปบ้าง แต่ตัวเกม Oxide Room 104 ก็ไม่ได้มีความยาวในการเล่นที่มากเท่าไรนัก ต่อให้คุณเดินแบบงู ๆ ปลา ๆ ไม่รู้ทาง คุณก็น่าจะสามารถจบเกมได้ในเวลาเพียงประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ช่วยให้บทลงโทษที่ว่ามานี้ไม่ได้ตัดกำลังใจคนเล่นจนเกินไป




สิ่งหนึ่งที่ต้องเอ่ยปากชมเลยก็คือ ผู้พัฒนาได้แอบใส่ระบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้ความตายของผู้เล่นมีสีสันขึ้นมาอีกด้วย โดยทุกครั้งที่ผู้เล่นตาย สภาพแวดล้อมของโรงแรมจิ้งหรีดแห่งนี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละนิด เช่น จากเดิมคุณควรจะเจอปืนพกอยู่ในห้องเก็บของ แต่มาคราวนี้คุณกลับเจอมันวางอยู่ในห้องตั้งต้นซะอย่างนั้น ช่วยให้การเล่นในแต่ละรอบมีความสดใหม่อยู่บ้าง แม้จะต้องวนอยู่ในพื้นที่เดิม ๆ 


ซึ่งจะขอสปอยล์เอาไว้ตรงนี้เลยว่า จำนวนครั้งที่ตายของคนเล่น จะส่งผลถึงฉากจบได้ 4 แบบ ไล่ไปตั้งแต่ Best Ending ไปจนถึง Bad Ending กันเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครอยากจะได้ฉากจบที่ดีที่สุด ก็ต้องห้ามตายกันเลยนะครับ


ศัตรูที่ออกแบบได้ดี แต่ดันมีให้เห็นนิดเดียว


อีกหนึ่งสิ่งที่ Oxide Room 104 สามารถทำได้ดี นั่นก็คือ การออกแบบศัตรูที่ดูน่าสยอง ขนพอง ขนลุก โดยเราจะได้เจอพวกมันแทบตลอดทั้งเกม แต่สิ่งที่เรียกว่า ‘ความเคยชิน’ ของมนุษย์นั้น มันช่างน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ซะอีก เพราะต่อให้รูปร่างของมันจะดูน่ากลัวขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าหากเราเจอพวกมันจนคุ้นเคยแล้ว บางทีต่อให้พวกมันเดินผ่านหน้าในระยะเผาขน คุณก็แทบจะไม่รู้สึกว่าพวกมันน่ากลัวเลยด้วยซ้ำ




ซ้ำร้าย ตัวศัตรูที่ออกมาแบบให้ผู้เล่นได้มีปฏิสัมพันธ์กับมันแบบจริง ๆ จัง ๆ ยังมีเพียงแค่ 2 ตัวเพียงเท่านั้น ส่วนศัตรูตัวอื่น ๆ เราจะเห็นพวกมันแค่ผ่านฉากคัตซีน นี่จึงยิ่งทำให้ความกลัวหลักของผู้เล่นที่ควรจะมีต่อศัตรูยิ่งลดน้อย ถอยลงไปอีก ส่งผลให้ศัตรูภายในเกมนี้ ตกม้าตายในเรื่องของความน่ากลัวไปเสียฉิบ ช่างน่าเสียดายจริง ๆ เลยเชียว ทั้ง ๆ ที่ออกแบบมาได้ดูให้ขวัญกระเจิงขนาดนั้นแท้ ๆ


รวมปัญหายิบย่อย สไตล์เกมอินดี้


อันที่จริงในหัวข้อนี้ จะไม่ส่งผลต่อคะแนนรีวิวเท่าไรนัก เพราะเนื่องด้วย Oxide Room 104 เป็นเกมจากทีมพัฒนาเล็ก ๆ เงินทุนของพวกเขาจึงอาจจะไม่มากเมื่อเทียบกับเกมฟอร์มยักษ์ ปัญหาเล็กน้อยต่าง ๆ จึงมีให้เห็นกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว


ไล่ไปตั้งแต่เสียงพากย์ที่แข็งแทบจะเป็นหิน จนถึงขนาดที่มีผู้เล่นจำนวนมากพร้อมใจกับบอกว่า ถ้าพากย์แข็งขนาดนี้ ไม่ต้องใส่เสียงพากย์มาตั้งแต่แรกเลยก็ได้มั้ง ไปจนถึงเรื่องการของโหลดฉากนาน ที่น่าจะเป็นปัญหามาจากการ Optimize ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก ซึ่งปัญหานี้มันถูกพบทั้งบนเครื่อง Switch ไปจน PC กันเลย


แต่อย่างน้อย สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างน่าประทับใจเลยก็คือ ตัวเกมพอร์ตมาเล่นบนเครื่อง Switch ได้ค่อนข้างลื่นไหล และยังคงภาพที่สวยงามไว้ได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว แม้จะเป็นเกมของทีมพัฒนาอินดี้แบบ Third party ก็ตาม


ควรค่าแก่การสละเวลาเล่นไหม ?


ถึง Oxide Room 104 อาจจะดูเต็มไปด้วยปัญหาจำนวนมาก ทั้งการออกแบบเกมที่ดูไม่สมประกอบ เนื้อเรื่องที่เล่าออกแบบมาซับซ้อน ไปจนถึงปัญหายิบย่อยคอยกวนใจตลอดการเล่น แต่ในส่วนที่ทำออกมาได้ดีนั้น มันก็ทำออกได้ดีจนน่าชื่นชมเสียจริง ๆ 


เพราะฉะนั้น หากลองชั่งน้ำหนักระหว่างอัตราส่วนที่ดีกับไม่ดีเปรียบเทียบกันแล้ว ก็น่าจะพอพูดได้ว่าถึง Oxide Room 104 จะไม่เป็นเกมขึ้นหิ้งระดับผลงานชิ้นโบว์แดงที่ต้องลองเล่นสักครั้งในชีวิต แต่มันก็เป็นเกมที่พอจะมอบความสยองให้กับผู้เล่น ไปจนถึงมีคุณค่าในการเล่นซ้ำเพื่อเก็บเนื้อเรื่องให้ครบถ้วนได้อยู่บ้าง


หากใครที่กำลังมองหาเกมที่มีการออกแบบตัวละคร ไปจนถึงมีความสยองแบบ Psychological horror เกมนี้น่าจะตอบโจทย์คุณได้ ไม่มากก็น้อยเลยล่ะครับ


Oxide Room 104 Free Download (Build 8944753) » SteamRIP



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header